บทที่หนึ่งในความทรงจำ:Primeira Neve de Nós (26/12/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่หนึ่งในความทรงจำ:Primeira Neve de Nós (26/12/2010)  (อ่าน 170233 ครั้ง)

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5
ช่วยดัน
พี่นุ่น.....เอดูโอ๋น้องอิสนานแล้วนะคะ
อยากอ่านต่อแล้ว
+รอเลย  แอบติดสินบนพี่นุ่น
 :กอด1:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กระโดดกอดน้อง234 พร้อมรายงานว่าไม่เกินมื้อเย็นมาแน่ๆค่ะ

คิดถึงเอ๊ดูมันล่ะเซ่ โห่ววววววววว

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
มาส่งตอนต่อไปแล้วนะคะ
ด้วยความที่เขียนแล้วกลัวคนอ่านจะไม่เข้าใจตัวละครว่ามันคิดยังไงรู้สึกยังไง
เลยเขียนนาน หุหุ ยังไงก็มาตามที่บอกไว้แล้ว ก่อนมื้อเย็นจริงๆนะเออ

ท่านไหนรออยู่ก็มาอ่านกันเลยนะคะ  :กอด1:
......................

บทที่หนึ่งในความทรงจำ
: O Presente

…………………………..

“อย่าร้องไห้นะ ไหนเมื่อกี้ยังยิ้มได้อยู่เลย ขี้แยเอ๊ย..... หึๆๆ”

“ไอ้บ้า หัวเราะได้ไง”


ตอนนี้ผมเลิกปล่อยโฮแล้วครับ ยังเหลือก็แค่อาการสะอึกสะอื้นเล็กๆ พอสติมาปัญญาเกิดก็ชักจะอายไอ้บ้าที่พอเห็นว่าผมเลิกปล่อยโฮก็เริ่มกวนอารมณ์ด้วยการปล่อยเสียงหัวเราะหึๆออกมา ทั้งๆที่มือทั้งสองข้างของมันยังทำหน้าที่ลูบขึ้นลงอยู่กับแผ่นหลังของผมอย่างปลอบประโลมนั่นแหละ

“ห้ามขำ!!”

“พระเจ้า......เพิ่งรู้ว่าหลวมตัวชอบคนชอบออกคำสั่ง”
ดูมันนะครับผมก็แค่เงยหน้าขึ้นจากอกอุ่นๆมาห้ามไม่ให้มันหัวเราะ ไอ้บ้านี่ก็ทำเป็นเงยหน้ามองทะลุเพดานครวญครางหาพระผู้เป็นเจ้า แถมฟ้องท่านอีกต่างหาก น่าหมั่นไส้จริงๆ

ผมยันตัวออกห่างจากมันทันที รู้ตัวเลยล่ะว่าคงแจกค้อนให้มันไปวงใหญ่ เอ่อ....ผู้ชายค้อน.....มันไม่ผิดใช่มั้ยครับ

และเพราะมัวแต่ค้อนจนไม่ทันมองไอ้สิ่งมีชีวิตหน้าด้านแถมปากเสียนั่น รู้ตัวอีกทีเอดูมันก็แหมะมือยักษ์ลงกับแก้มผมทั้งสองข้าง แถมบริการเช็ดคราบน้ำตาด้วยสองนิ้วโป้งให้เรียบร้อย แถมด้วยจูบหนักๆที่หน้าผากอีกที

“อ๊ะ!!”

“อะไร ตกใจอะไร ทีตัวเองจู่ๆก็เข้ามากอดกันเฉยๆ เรายังไม่ตกใจสักนิด”

“Louco!!”

ใช่ครับ.....พอสมองมันรวนคิดอะไรไม่ออก การตอบโต้ที่ทำได้ของผมดีกว่าอาการเป็นใบ้นิดเดียว ด่ามันได้แค่นี้แหละ....ไอ้บ้า!!

ไอ้บ้าเอดูมันไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดครับ แต่มันออกแรงบีบทั้งสองมือจนผมรู้สึกว่าแก้มตัวเองยู่ แถมปากคงจะไม่ต่างจากสภาพลูกนกตอนอ้าปากส่งเสียงร้องขออาหารจากแม่แน่ๆ
และตอนนั้นเองทั้งๆที่สติยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ผมก็ตอบโต้ด้วยการทุบหนักๆลงไปบนหน้าขาของมันหนึ่งที

“โอ๊ย!! รุนแรงตลอด มานี่เลย”
ไอ้หน้าด้านมันเปลี่ยนเป้าหมายจากใบหน้าเป็นลำตัวแล้วครับ มันเปลี่ยนจากบีบแก้มเป็นรัดทั้งตัวผมไว้ซะแน่นเลย
ผมก็ดิ้นๆ แต่สู้มันไม่ไหวครับ เพราะแขนทั้งสองข้างถูกมันรัดอยู่ระหว่างแผงอกหนาๆของมันกับแผ่นอกไม่หนาของผม ขาขวาก็เดี้ยง

ผมเลยเหลือขาซ้ายที่เป็นอิสระข้างเดียวซึ่งผมใช้รักษาสมดุลให้ตัวเองอยู่ ไม่งั้นจากที่ดิ้นๆหนีมันอยู่อาจจะเกิดฉากอุบัติเหตุรัก ประเภทตัวเอกล้มลงไปทับกันโดยไม่ตั้งใจตามขนบละครหลังข่าวได้


“ไม่ดิ้นแล้วเหรอ?”

“เหนื่อย......”

“หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อิส.....อิส”


ไอ้บ้านี่มันบ้าขนานแท้ พอผมตอบไปว่างั้นมันก็หัวเราะออกมาลั่นบ้าน แล้วก็เรียกชื่อผมอยู่นั่นแหละ ทำอย่างกับอ่อนอกอ่อนใจกับผมเหลือเกินแล้ว ชริๆทำตัวเป็นแม่แก่ไปได้

 ดีนะคุณแม่บ้านแกมักจะอยู่ทางห้องซักผ้าด้านหลังโน่น ไม่งั้นอาจจะวิ่งหน้าตื่นมาดูหนังสดที่ผมไม่ตั้งใจจะเป็นพระเอกได้
แล้วพอเห็นผมหยุดดิ้นมันก็ถือโอกาสจูบลงตรงหน้าผากอีกครั้งแต่คราวนี้ผมเริ่มมีสติแล้วเลยเอียงหลบ แต่ก็ได้รับรู้ถึงริมฝีปากหยุ่นๆร้อนๆแหมะลงมาที่ขมับแทน


เอดูมันปล่อยตัวผม แล้วก็หัวเราะลงลูกคอกับเสียงถอนหายใจดังเฮือกของผม ที่ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ากลั้นหายใจไว้ซะนาน
แล้วมันก็ทำให้ผมแปลกใจด้วยการลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นตรงหน้า พร้อมทั้งดึงให้ตัวผมที่เมื่อกี้เกือบจะเกยๆอยู่บนตัวมันพลิกหันออกไปหามันดีดีด้วย

ขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากถามว่าลงไปทำอะไรตรงนั้น ก็ต้องหลุดเสียงอุทานออกมาอีกครั้ง
เพราะมันก้มลงประคองท่อนขาที่อยู่ในเฝือกขึ้นมาวางไว้บนเข่าข้างหนึ่งของมันที่ชันรอรับ แล้วก็เริ่มลงมือจับนิ้วเท้าที่ยังบวมอยู่หน่อยๆนั่นขยับขึ้นลงเบาๆ

“เจ็บมั้ย?”

“หึ”

“เอ๊...ก็บอกว่าให้ตอบดีๆไง ตอบใหม่ซิ”

“ไม่เจ็บ ขอบใจนะ”

“ต้องขยับอย่างนี้จะได้หายบวมไวๆ รู้มั้ย?”

“ไม่รู้.....”

“เคยต้องใส่เฝือกมาก่อน หมอเขาสอนมา....”
มันพูดไปมือมันก็จับนิ้วเท้าผมขยับไปเรื่อยๆทีละนิ้วๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ แต่เห็นตัวใหญ่ๆอย่างนั้น แต่มือมันกลับเบ๊าเบา

“พอเหอะ เราทำเองได้”
เกรงใจมันครับ อีกอย่าง......ผมรู้สึกหน้าร้อนๆยังไงไม่รู้สิ เท้านี่จุดอ่อนผมเลยนะ ปกติใครมาแตะไม่ได้มีถีบกลับทันที ก็มันจั๊กกะจี๋นี่ แต่เอดูมันจับไม่จั๊กกะจี๋ครับ คงเพราะมือของมันจับมาแบบเต็มๆ แล้วเจตนาก็คือช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ตั้งใจแกล้ง

แต่ก็นั่นแหละ......ถึงยังไง ผมก็รู้สึกว่าพื้นที่บริเวณเท้านั่นเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลอยู่ดี จะให้คนอื่นเข้ามาเดินเล่นชมนกชมไม้ง่ายๆได้ไงกัน

“ตอนนี้เราทำให้อิส แล้วเดี๋ยวพอเรากลับไปแล้วอิสค่อยทำเองไง”

“จะกลับแล้วเหรอ?”
หงะ....ผมห้ามปากตัวเองไม่ทันครับ อายเลย.....
แล้วยิ่งพอผมหลุดปากไปแบบนั้นแล้วเอดูมันเงยหน้ามามองตาแทนมองเท้ายิ่งแล้วใหญ่ หน้าร้อนจนจะระเบิดจนต้องเสมองไปทางอื่นให้ไกลๆจากหน้ามันเข้าว่าเสียทันที

“อยากให้อยู่ต่อรึเปล่าล่ะ หืม?”
ผมไม่เห็นหรอกครับว่าตอนนี้สีหน้าของมันเป็นยังไง ยังส่งสายตาวิบวับมาอยู่รึเปล่า แต่ถ้าจะให้ผมเล่นตัวตอบปฏิเสธน่ะเหรอครับ.......ไม่มีทาง ฮ่าๆๆๆ

“อืม....อยากสิ” ผมพยักหน้าตอบมัน โดยที่ยังไม่ยอมหันกลับไปเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี

“อยู่ได้ถึงแค่ก่อนมื้อกลางวันนะ อิสเป็นอย่างนี้ ต้องไปเตรียมอะไรเพิ่มอีกเยอะเลย”

“เอ๊ะ??” ผมหันขวับกลับมามองมันทันทีครับ ก็ผมเจ็บตัว แล้วเกี่ยวอะไรกับมันล่ะ

“Teu presente….não quer, não?”  หืม......มันว่าไงนะ ของขวัญของผมงั้นเหรอ ถามว่าไม่อยากได้งั้นเหรอ

“ของขวัญ ของขวัญวันเกิดเราน่ะเหรอ?”

“Claro!! Então, sé você não qu…..”

“อ๊า.........อยากได้สิ ทำไมจะไม่อยากได้เล่า ก็แค่สงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่ขาเจ็บ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้บอกว่าไม่อยากได้ซะหน่อย”
ไม่ปล่อยให้มันพูดจนจบประโยคหรอกครับ ผมก็รัวคำพูดภาษาบ้านมันสวนขึ้นมาอย่างเร็วเลย ลืมคิดไปว่าสำเนียงต่างด้าวแบบผมไอ้คนฟังมันจะแย่เอาได้

“ฮ่าๆๆๆๆๆ ว่าไงนะ? ช้าๆซิ”

“ก็....นั่นแหละ ก็บอกว่าอยากได้สิ แค่สงสัยว่าขาเราเจ็บ แล้วเกี่ยวอะไรด้วยก็แค่นั้นอ้ะ”

“ก็ของขวัญที่เตรียมไว้ให้ อิสต้องไปรับด้วยตัวเอง จะให้เราเอามาให้ที่บ้านมันไม่ได้น่ะสิ”

มันว่าอย่างนั้น แล้วก็อมยิ้มเหมือนเก็บความลับอะไรไว้อยู่ตลอด ผมพยายามเซ้าซี้ถามจนเหนื่อยที่จะถามไปเองแล้ว
มันก็ยังไม่ยอมคายความลับออกมา บอกแต่ว่า รอให้ถึงวันเกิดผมก่อน มันรับรองว่าผมต้องชอบของขวัญที่มันเตรียมให้แน่ๆ

ตลอดเวลาที่คุยกันมันก็ยังจับนิ้วเท้าผมขยับขึ้นลงบ้าง หมุนซ้ายหมุนขวาเบาๆบ้างไปตามเรื่อง รู้ตัวอีกทีมันก็เลิกทำแล้วลุกขึ้นมานั่งด้วยแล้ว


ผมไล่เอดูมันไปล้างมือให้เรียบร้อย แล้วเราสองคนก็นั่งฟังเพลงกันไปตามเรื่อง เวลาอาหารกลางวันมาถึงแบบไม่ทันรู้ตัวก็ตอนที่ปะไป๊ที่จะกลับมากินมื้อกลางวันที่บ้านทุกวันก่อนกลับไปทำงานรอบบ่ายอีกรอบไขกุญแจเปิดประตูเข้ามา

เอดูมันเข้าไปคุยอะไรไม่รู้กับปะไป๊สองสามประโยค ผมเห็นปะไป๊พยักหน้าแล้วก็ยิ้มๆ มองมาทางผมแล้วยิ่งยิ้มกว้างใหญ่
สองคนจับมือเหมือนตกลงสัญญาอะไรกันสักอย่าง แล้วปะไป๊ก็เดินเข้าไปในส่วนครัวหลังบ้าน ส่วนเอ๊ดูก็พาใบหน้ายิ้มกริ่มกับลูกกะตาวิบวับมาบอกลาผม

“จะให้พยุงเข้าไปห้องกินข้าวก่อนมั้ยอิส?”

“ไม่ต้องหรอก เราอยากรู้มากกว่าว่าเมื่อกี้ตกลงอะไรกัน”

“อืม.......เรื่องเกี่ยวกับของขวัญน่ะ แล้วอย่าพยายามถามไป๊ของอิสล่ะ เขาไม่บอกหรอก หึๆๆ”
ผมคงไปเผลอย่นจมูกใส่มันเข้าแน่ๆ ก่อนจะเอาแก้มมาแตะลากันตามปกติเหมือนทุกครั้ง เอดูมันถึงเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งมาคีบจมูกแบนๆของผมแล้วโยกเล่นเสียมันมือ




“Parabens!!”

ครับ เช้าวันเกิดของผมในอีกสองวันถัดมา ผมถูกปลุกแต่เช้าด้วยคำอวยพร และใบหน้าของมะเม้ย ปะไป๊ และเจ้าวิเวียนที่มายืนออกันอยู่หน้าประตูห้อง พอเห็นว่าผมโงหัวขึ้นมาจากกองผ้าห่มได้แล้วทั้งสามคนก็เรียงหน้ากันเข้ามาหอมแก้มผมคนละที แล้วแถมด้วยของขวัญอีกคนละกล่อง

ส่วนพ่อกับแม่ที่บ้านที่กรุงเทพน่ะ โทรมาอวยพรผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ แปลกดี เหมือนมีวันเกิดสองวันในปีเดียวเลย ฮ่าๆๆๆๆ


ยังไม่ทันที่ปะไป๊จะออกจากบ้านไปทำงาน เอดูมันก็มากดกริ่งส่งเสียงรบกวนแล้วครับ ผมที่กำลังซุกตัวเข้าไปนอนในโปงผ้าห่มต่อ กะจะนอนฉลองวันเกิดก็มีอันต้องตื่นเพราะหลังเสียงกริ่งดังหน้าบ้านไม่นานไอ้หน้าด้านบุกรุกห้องผู้ชายอื่นอย่างมันก็แหลมหน้าเข้ามาในห้องแล้ว

มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลงมันก็ทำเสียงอะไรไม่รุ้กุกกักจนผมต้องยอมแพ้โผล่หน้าออกมาจากโปงผ้าห่มจนได้ เห็นมันรื้อๆค้นๆแถวตู้เสื้อผ้าตามเคย

“หาอะไร?”

“เสื้อผ้าไง......” เออเนอะ รื้อตู้เสื้อผ้าก็ต้องหาเสื้อผ้าสิ ว่าแต่........จะหาทำไม

“จะเอาไปทำไม?”

“ของขวัญไง ตื่นแล้วก็ลุกสิอิส ไปอาบน้ำเลย หรือว่าอาบเองไม่ได้?” เอาแล้วไง คำถามมาพร้อมกับไอ้ลูกกะตาวิบวับนั่นอีกแล้ว

“อาบเองได้ แต่......จะพาไปเอาของขวัญ ต้องเตรียมเสื้อผ้าพิเศษๆด้วยหรือไง เสื้อกะกางเกงธรรมดาไม่ได้เหรอ?”

“เชื่อเหอะน่า เร็วด้วย เดี๋ยวไปถึงช้าอดไม่รู้นะ”

ในที่สุดมันก็ตัดสินใจวางกระเป๋าที่กำลังจับเสื้อผ้าผมยัดใส่ลงไปไว้กับพื้นนั่นแหละครับ แล้วตรงเข้ามาลากผมขึ้นจากเตียงแล้วดันจะให้ออกไปอาบน้ำ
ผมก็คิดว่าเอาก็เอา มันคงไม่พาไปฆ่าหมกป่าแน่ เลยปฏิบัติตามคำสั่งมันไป

ผมใช้เวลาไม่นานก็ทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อย เช็ดตัวแรงๆจนตื่นเต็มตา แล้วห่อตัวด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่นแหละเข้ามาแต่งตัวในห้องที่เมื่อกี้คงมัวแต่มึนๆเพราะเพิ่งตื่นอยู่ เลยลืมไปว่าตอนนี้มีไอ้บ้าอีกหนึ่งชีวิตแถมยังชอบส่งลูกกะตาวิบวับมาให้เป็นกิจวัตรเข้ามายึดครองทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของห้องอยู่อีกคน

“ไม่ต้องเข้ามาใกล้เลย หยิบของเสร็จแล้วก็ออกไปรอข้างนอกด้วย”

“รอในนี้ไม่ได้เหรอ?”

“Me da licença, por favor!”
นี่ครับ ต้องทำเข้มเข้าใส่บ้าง มันจะได้เกรงใจ มี ดา ลิเซนซ่า ปอร์ ฟาวอห์ ก็ประมาณว่า ‘ขอร้องล่ะ ขอความเป็นส่วนตัวบ้างเหอะ’
พอประโยคนี้มาพร้อมน้ำเสียงเอาเรื่องแถมด้วยสายตาหมาบ้าของผมเข้าไป ไอ้ตัวดีมันก็ยกมือยอมแพ้แล้วถอยออกจากห้องไปโดยดี


พอเตรียมทั้งของทั้งตัวเรียบร้อย ผมก็ออกมาขึ้นรถพี่ชายมันที่หน้าบ้านครับ ตอนแรกก็นั่งไปกินขนมที่มันเอาใส่ตะกร้ามาด้วย(แม่มันจัดให้)ไปเรื่อย เพราะเอดูมันก็เคยยืมรถพี่ชายมันหนีบผมไปโน่นมานี่ใกล้ๆบ่อยไป

ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆก็ตอนที่มันพาออกถนนที่จะมุ่งไปนอกเมืองนี่แหละ

“จะพาไปไหนอ้ะ?”

“นึกว่าจะไม่ถาม หึๆๆ”

“อ้าว.....ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก ไม่รู้ก็ได้ ว่าแต่ไป๊รู้แล้วใช่มั้ย?”

“อืม.....เราบอกปะไป๊ของอิสว่าจะพาไปคัมปินัส” เอ....ผมว่าประโยคนี้มันแปลกๆนะ เหมือนมันบอกว่าจะพาไปคัมปินัส แต่ไม่ได้หมายความตามที่พูด

“แล้ว.....ที่จริงแล้วจะพาไปไหน?”

“รู้ทันอีก เราจะพาไปคัมปินัสนั่นแหละ”
ครับ มันว่าอย่างนั้น แล้วในเมื่อไอ้คนขับมันบอกแบบนั้น แถมทางมันก็คุ้นๆอยู่ว่าถนนเส้นนี้ตรงไปเมืองคัมปินัสที่ห่างออกไปแค่สองชั่วโมงนิดๆ ผมก็เลยนั่งดูวิวชมนกชมเนินไปตามเรื่อง

นานๆทีไอ้คนขับมันก็เรียกร้องจะเอาน้ำบ้าง เอาขนมบ้าง ผมก็หยิบส่งให้ไปตามเรื่อง นั่งยังไม่ทันเบื่อแต่เริ่มหิว เอดูมันก็พาผมมาถึงคัมปินัส แต่แทนที่มันจะขับเข้าไปกลางเมืองเข้าห้างสรรพสินค้าแบบที่ผมเคยมากับปะไป๊มะเม้ย เวลาที่มาซื้อของไปกักตุนที่บ้าน ก็ปรากฏว่ามันเลี้ยวเข้าร้านอาหารริมทางแทน


“Churrascaria? จะพามาเลี้ยงบาร์บีคิวร้านนี้เป็นของขวัญเนี่ยนะ?”
ผมหันหน้าไปเลิกคิ้วถามมันแบบกวนตีนสุดฤทธิ์ครับ คือผมก็ลุ้นมาตลอดสองวันตั้งแต่มันทำท่าทางอมพะนำแหละว่าของขวัญที่มันบอกว่าต้องไปเอาเองนี่มันอะไรกันแน่ แล้วยิ่งมันไม่เผลอหลุดออกมาซะที ผมเลยยิ่งหมั่นไส้

“จุ๊ๆๆ ไม่ใช่ ถึงร้านนี้จะเคยมากินแล้วอร่อยจริงๆก็ไม่ใช่”

ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ ไอ้คนพามามันจัดการจ่ายทั้งส่วนของผมและของมันไปคนละเจ็ดเฮอัยส์ตามราคาที่ป้ายหน้าร้านเรียบร้อย เราสองคนก็เข้าไปหาที่ที่ยังว่างนั่ง สักพักบริกรที่เดินถือเหล็กแหลมเสียบเนื้อย่างก้อนเบ้อเริ่มก็เดินเข้ามาถามว่าต้องการมั้ย พอบอกว่าเอาแกก็จัดการเอาส่วนปลายของเหล็กนั่นแหมะลงกับจานของเรา แล้วก็ใช้มีดในมือขวาเฉือนเนื้อที่ยังพอจะเห็นควันกรุ่นๆนั่นใส่จานให้ เสร็จแล้วก็เดินไปรอบร้านบริการลูกค้าคนอื่นต่อ

ผมว่าผมบอกว่ารับครับไปไม่ต้ำกว่าห้าครั้ง ผลคืออิ่มพุงกาง........
ในขณะที่ไอ้คนที่มาด้วยกันมันกินเก่งเอาถ้วยเอาโล่มาก คาดว่าถ้ามันไม่รีบจะเดินทางต่อ มันคงกินจนร้านเค้าขาดทุนจากเจ็ดเฮอัยส์แน่ๆ

เอดูมันให้ผมกินน้ำกินยาเรียบร้อยก็พยุงผมมาขึ้นรถต่อ ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าหลับไปตอนไหน แต่ผมตื่นขึ้นอีกทีจากแรงเขย่าที่ต้นแขน


“อิส อิส.......”

“ถึงแล้วเหรอ? เฮ้ย!!”

ครับ ไม่ให้ตกใจคงไม่ได้ เพราะห่างออกไปไม่ไกลคิดว่าไม่เกินสองร้อยเมตรจากที่ที่รถจอดอยู่.......ผมมองเห็นทะเลครับ

ผมรู้ตัวเลยแหละว่าคงหันกลับมามองหน้ามันแล้วอ้าปากค้างแน่ๆ เอดูมันถือโอกาสที่ผมยังเรียกสติมาได้ไม่เต็มที่จัดการปลดเข็มขัดนิรภัยให้ผม เสร็จแล้วก็ลงรถอ้อมมาที่ฝั่งคนนั่งด้านขวาทำท่าทางสุภาพบุรุษเปิดประตูให้คู่เดทลงจากรถ

ก็คงจะเหมือนสุภาพบุรุษอยู่หรอกนะครับ ถ้าไม่นับการสูดกลิ่นแก้มที่ผมก็ไม่แน่ใจว่ายังมีกลิ่นเนื้อย่างติดอยู่รึเปล่าเข้าไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ

“ลงมาสิอิส......ก็เพราะอย่างนี้แหละ เลยบอกไงว่าต้องเตรียมอะไรอีกหลายอย่าง ตอนแรกเราจะพาอิสขึ้นรถประจำทางสองต่อมาที่นี่ แต่เพราะขาเจ็บเลยเปลี่ยนแผนไปง้อเอารถจากหัยมาขับพาอิสมานี่แหละ”
เอดูมันช่วยให้ผมลงมายืนข้างรถเรียบร้อย แล้วตัวมันก็เปิดประตูด้านหลังหยิบเอาไม้เท้าแบบที่มีส่วนที่ประคองข้อศอกกับมือจับออกมายื่นส่งให้ผม

“แล้วนี่?”

“ก็คิดว่าถ้าต้องเดินเยอะหน่อย ก็กลัวว่าจะเดินไม่ไหว เลยไปรื้อๆเอาไม้เท้าเก่าของเราเองมาให้ใช้ด้วยไง ดีนะ เราเจ็บตอนยังเตี้ย อิสเลยใช้ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

“ไอ้บ้า..............ขอบคุณมากนะ....”
ผมงุบงิบบอกขอบคุณมัน ขณะที่เดินไปข้างๆไอ้เอดูที่สะพายเป้ที่บรรจุทั้งเสื้อผ้ามันเสื้อผ้าผมอยู่บนไหล่ แถมหิ้วตะกร้าพลาสติกใส่ขนมอีก เท่ห์สุดๆอะมันอ้ะ

มันบอกผมว่าที่ที่เราอยู่ตอนนี้เรียกว่าคารากัวตาตูบ้า (Caraguatatuba) เป็นชายหาดที่สวยที่สุดแถบนี้ หน้าร้อนจะมีนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดดเต็มหาด

“หึๆๆ ก็คิดได้เนอะ พามาเที่ยวทะเลหน้าหนาว”

“ไม่ชอบเหรออิส? ของขวัญชิ้นนี้ไม่ถูกใจเหรอ?”
อ่า.....เสียงอ่อยมาเชียวครับ ใครว่าไม่ถูกใจเล่า ตั้งใจเตรียมพร้อมพามาเที่ยวขนาดนี้ ขับรถมาถึงนี่ไม่ต่ำกว่าหกชั่วโมงเชียวนะ แล้วยังจะขากลับอีกล่ะ


“ชอบสิ ชอบมาก.......ขอบคุณมากนะ เอดู”
ผมยื่นมือข้างซ้ายไปจับมือขวาของเอดูเอาไว้แล้วบีบเบาๆ แล้วเลยได้รับรางวัลเป็นรอยยิ้มสว่างสดใสกลับมาแทน
เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนเดินมาถึงหาดทรายเนียนละเอียดของคารากัวตาตูบ้า

เอดูมันยื่นตะกร้ามาให้ผมถือ ส่วนตัวมันก็เปิดเป้หยิบผ้าหนาๆผืนหนึ่งออกมาปูลงบนพื้นทราย
รับตะกร้าจากผมลงวาง แล้วค่อยๆประคองให้ผมนั่งเหยียดขาบนผ้าผืนนั้น

ผมหลับตาสูดลมหายใจเข้ายาวเหยียด รับเอาละไอทะเลหน้าหนาวที่แทบจะร้างผู้คนเข้าปอด
ตั้งใจเก็บทั้งภาพทะเลสีหม่น เสียงคลื่นที่เล่นจังหวะสโลว์ซ้ำซาก และกลิ่นเค็มขื่นแต่กลับอ่อนหวานในความรู้สึกของทะเลหน้าหนาวที่นี่ให้ประทับแน่นกับความทรงจำ

ที่ริมหู.......เสียงของผู้ชายอีกคนที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดในยามไกลบ้านกระซิบผะแผ่ว
“ปาราเบงส์ อิส.....เราดีใจที่เห็นอิสมีความสุข”

…………………………
…………………………

..โปรดติดตามตอนต่อไป..



ปล.คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2010 17:36:47 โดย anajulia »

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
มาต่อแล้ว >.< ขออ่านก่อนนะ

Edit : ไปทะเลหน้าหนาวแล้วจะได้เล่นน้ำไหมเนี่ย  o21 55+
แล้วคู่นี้จะเป็นไงต่ออ่ะ ไม่อยากให้อิสกลับไทยเลย คิดแล้วเศร้า แงๆ  :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2010 17:46:28 โดย panari »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
ฮึบๆๆ มาเร็วต้องโดนจิ้มจึกๆ นี่แน่ะๆ

ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ง่า น่ารัก  :กอด1:

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :impress2:
น่ารักจังน้องอิส

เอดูก็ช่างพยายาม

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
น่ารักมากมายยยย  :กอด1:
ได้แฟนแบบเอ๊ดูนี่รักตายเลยอ้ะ >//////<

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
หวานสุดๆครับ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:วู้ยยยยยยยยย..อยากมีใครสักคนมากระซิบข้างหูแบบน้องอิสจัง
ขอหล่อๆแบบเอดูด้วย
ป.ล. ได้ข่าวว่าน้ำทะเลแถบนั้น ในวันนั้นหวานสนิทเชียว ใช่ไหมคะน้องนุ่น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

เอดูน่ารักที่สุด อยากได้ อยากได้   :กอด1:

เอดูไม่มีของขวัญผู้ใหญ่ให้อิสเหรอพี่นุ่น

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
น่ารัก  :man1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
โปรดติตามกันต่อไป แงๆๆๆ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ไปแล้วหนาวก็กระโดดเกาะเอดูเลย >___<

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
หวานกันจังเลย ไม่อยากนึกถึงวันที่อีสตัองกลับไทยเลย
เอดูจะเศร้าขนาดไหนกันนี่.... :เฮ้อ:

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป
เอดู อ่อนโยน เอาใจ และน่าร๊ากกกกก  :-[

แอบอิจฉาอิสเล็ก ๆ คึคึ

ปล. ไปทะเลไม่บอกกันมั่ง จะได้โดดเกาะล้อไปด้วย หงิง ๆ

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
เค้ามาค้างด้วยกันชิมิคะ  :-[
แต่น้องอิสเจ็บขานี่นา...

คิดไปไกลแล้วฉัน...

ทะเลหน้าหนาวก็ยังอบอุ่นด้วยไอรัก นะคะ o13

V_we

  • บุคคลทั่วไป
^
^
 :z13:
จิ้มMercy

เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะคุณนุ่น ตอนนี้เพิ่งเริ่มอ่านได้ 2 ตอนแรกเองค่ะ
แต่อยากคอมเม้นท์^^
อยากจะกรี๊ดดดดด หนุ่มบราซิล โอ้ยใจจะละลาย
เรื่องราวในวันวานหวนเข้ามาความทรงจำ อร๊ายยยยย
เคยรู้จักหนุ่มบราซิลสองคน
เป็นประธานและกรรมการสภานักศึกษานักเรียนต่างชาติในมหาวิทยลัยที่วีเคยเรียน
โอ้ย ใจจะละลาย หล่อมาก ยังจำหน้าเค้าได้อยู่เลยนะคะเนี่ย ฮ่าฮ่า

ตามอยู่ห่างๆ นะคะ ไว้ทันคนอื่นๆ แล้วจะคอมเม้นท์อีกทีนะคะ
+ 1 และเป็นกำลังใจให้จ้า
 :กอด1:

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
น้ำทะเลยังหวานไม่เท่าคู่นี้เลยนะเนี่ย

ขาก็เจ็บ แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปสู้เค้าล่ะอิสเอ๊ย
ยอมๆ เค้าไปเต๊อะ คนอ่านอยากอ่าน อิอิ

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
 :-[ :-[ :-[
นู๋ก็พึ่งได้มาอ่าน
อยากจะกรี๊ดให้ดังไปสามบ้านแปดบ้าน
น่ารักจริงอะไรจริง หนุ่มบราซิลนี่นะ

แล้วจะมาร๊อมารอทู๊กวันเลย

ขอบคุณคุณนุ่นค่ะ น่ารักจริงๆ กอดหน่อยๆ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
เอดูเนี่ยหวานตาหลอด อะ
น่าร้ากกกก  :o8:

กดบวกได้แหละให้คุณนุ่นไปเล้ย
 :pig4:

ต้มยำทะเล

  • บุคคลทั่วไป
แว้กกกก จะผิดอะไรมั้ยคะถ้าจะบอกว่า ค้าง !!!!!!!!!!!!!  :a5:

น่าจะหวานบ้างอะไรบ้างน้อ ฮ่าๆ อยากเห็นฉากสวีทวี้ดดวิ้ววววของสองคนนี้เร็วๆ

แบบว่าเอดูพยายามมากเลยนะเนี่ย แต่อิสไม่ค่อยตอบสนอง เง้อออออออ โหดร้าย~

ตอนนี้เอาไป +1 เลยค่ะ ให้กับความพยายามในการพาอสไปเที่ยวทะเล เย้!!!!

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ตอนวันเกิดพี่นุ่นมีคนพาไปทะเลแบบนี้เหรอคะ ฮุๆ

แล้วของขวัญแบบเป็นชิ้นเลยไม่มีเหรอจ๊ะเอดู แบบแหวนแทนใจเงี้ย 555+

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
งืม เอ๊ดูมันพาอิสไป

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกส์
กระต่ายน้อยมามั่วไรเนี่ย พี่นุ่นจะมีใครที่ไหนพาป๊ายยยยยยยยยยยยยย

แหวนแทนใจไม่มีหรอก เป็นเพื่อนกันนิ ไม่ไจ้แควน >///////<

(ว่าแล้วก็แจกบวกคนเมนท์บ้างดีกว่า คนอ่านแจกหมดมิได้นิ มิรู้จะไปตามแจกข้างไหน กร้ากกกกกกกกกกกส์)

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคะไรเตอร์ เเละเเล้วก็เอาชีวิตมาฝากไว้ที่เรื่องนี้อีกเรื่อง คุคุคุ อ่านมาถึงตอนที่ 4 เเล้วเเต่ไม่สามารถอ่านต่อได้ คุคุคุ ไปทำงานก่อน งานไม่เสร็จ จะตายเเล้ว ถึงจะไม่หวานเเบบตัวป่วน + พี่ฟ้าเเต่ ก็น่ารักนะ อ่านได้ เริ่มจะอุ่นเเล้วจริงๆ อิส +เอดู น่ารักดี ไม่น่าเบื่อนะ อ่านได้เรื่อยๆไม่หวือหวาเเต่ก็ไม่ช้าจนเกินไป นึกถึง กาเเฟลาเต้เลย  ได้เรียน ภาษาต่างประเทศในตัวด้วย ทำให้คิดถึง ภาษาฝรั่งเศส อันน้อยนิดของตัวเอง คุคุคุ  :กอด1: ไรเตอร์ 

Rockstar

  • บุคคลทั่วไป
มากรี๊ดดังๆให้เรื่องนี้ด้วยคนค่ะ
เพิ่งเคยได้มาอ่านนี่แหละ อ่านรวดเดียวเลย
พอดีเห็นชื่อคนแต่งคุ้นๆ ก็อ้าวคนแต่งคนเดียวกับพี่อากาศกับตัวป่วนนี่นา
อู้ยย ชอบมากเลยอ่ะ ชอบเอดู ผู้ชายอะไรน่ารักได้อีก

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
 :z13: นุ่นแรงๆๆ
ไปทะเลกันดีกว่า....เผื่อเจอเอดู กะ อิสบ้าง
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอิจฉาอิส จะหาเอดูได้ที่ไหนบ้างเนี่ย :เฮ้อ:
+ไปนะ อิอิ

ออฟไลน์ loveooo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบมาก
อิสน่ารักมากอ่ะ เอดูก็แบบ ดูแลสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ  น่ารักๆทั้งคู่เลย

butajang

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคะไรเตอร์ อ่านจบเเล้วถึงตอนปัจจุบันเลย เเล้วไปเจอคำที่ไม่เห็นมานาน ตอนที่9 คำว่า"บั้นเอว " ไม่ได้เห็นมานานเเล้วรูสึกเเปลกดี ชอบตอนที่ 10 ตรงที่บอกว่า " อย่าร้องไห้เลยนะ เด็กดีของผม" รูสึกดีมากอย่างเเรงเลย เเล้วก็อ่านทันจนถึงตอนที่ 11 อ่านมาถึงตอนนี้ไม่เสีย เวลาที่มาอ่านเลย  คุคุคุ อ่านเรื่องนี้เเล้ว น้ำตาคลอ อะ  เเล้วก็เเอบยิ้มในใจอะ ไม่ได้เศร้านะ เเต่เเบบ มันอบอุ่นอะ เป็นความรู้สึกของคนเหงา วะ ฮ่า ฮ๋า ชอบ อิส นะเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ไม่ต้องเก็บงำ ชอบเอดูด้วย ที่ตรงไปตรงมาเเละ สุดท้าย +1 ให้ไรเตอร์ รอตอนต่อไปอยู่น้า คุคุคุ

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
คารากัวตาตูบ้า
เหอๆ   น่ารักจังเลย~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด