รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 581294 ครั้ง)

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: รักคือ... รัก >>> นะ ครับ p. 66 29/5/12
«ตอบ #1980 เมื่อ14-06-2012 00:01:24 »

ตามอ่านนน ทันแล้ววว คิดถึงงงง
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: รักคือ... รัก >>> นะ ครับ p. 66 29/5/12
«ตอบ #1981 เมื่อ14-06-2012 13:30:17 »

คู่นี้ทำน้ำทะเลจืดหมด 55555555555  :pighaun:  :m25:

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: รักคือ... รัก >>> นะ ครับ p. 66 29/5/12
«ตอบ #1982 เมื่อ14-06-2012 22:56:32 »

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ น่ารักม๊ากมาก
 :call:  มาเถอะนะ

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: รักคือ... รัก >>> นะ ครับ p. 66 29/5/12
«ตอบ #1983 เมื่อ16-06-2012 15:10:40 »

ตอนที่ 63

“ลืมอะไรหรือเปล่า” ผมถามรักที่กำลังยกกระเป๋าใส่ท้ายรถ มาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วันก็ถึงกำหนดต้องส่งมันกลับบ้านอีกแล้ว

“น่าจะครบนะพี่กันต์ กระเป๋าเสื้อผ้า ถุงขนม ชองฝาก ครบแล้วแหละ”  รักพูดร่ายให้ผมฟังว่ามีของอะไรที่ต้องเอากลับไปบ้าง

“แน่ใจ ถ้าไม่ครบก็ไม่ส่งไปให้หรอกนะ” อันนี้เสียงกรพูด ก่อนจะปิดท้ายรถ

“มาเอาเองก็ได้” รักตอบ

“ใครเขาให้มา แต่ไม่เป็นไรถ้าลืมเดี๋ยวพี่ใช้คนอื่นส่งไปให้แทนก็ได้ คงมีคนเขาเต็มใจอาสา ดีไม่ดีจะไปส่งให้ถึงมือ” กรพูดส่วนรักเงียบแล้วเดินหนีไปขึ้นรถ

“เอ้า เงียบไม ไม่เถียงด้วยแล้วหรอ” กรยังแหย่น้องไม่เลิก

“พอมันไปแล้วอย่ามาทำหงอยนะ” ผมพูดกับกรแล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างคนขับ

คู่นี้ก็ช่างขยันต่อปากต่อคำกันเหมือนเดิม จนบางทีผมถึงกับปวดหัวไม่รู้จะฟังใคร แต่พอถึงเวลาจะแยกกันจริง ๆ ขึ้นมาทีไร ก็เป็นอันซึมกันทั้งคู่ อีกคนก็หงอย อีกคนก็เหงา สุดท้ายก็โทรหากัน คุยกันงุ้งงิ้ง ทีอยู่ด้วยกันไม่รู้จักคุยกันดี ๆ ถ้าลองเป็นคนอื่นที่ไม่ใช้เจ้ารักนี่ผมคิดมากแล้วนะ โทรหากันที กรก็จะคุยว่า พี่อย่างนั้น พี่อย่างนี้ วันนี้พี่ไปดูหนังเรื่องนี้มาสนุกมากไปดูมาหรือยัง วันนี้พี่ไปซื้อไอ้นั่นไอ้นี่มาแล้วเจ๋งมาก ๆ ซื้อมาเผื่อด้วย เดี๋ยวส่งไปให้ และอีกร้อยแปดพันเก้าที่สองคนนั้นเขาหาเรื่องมาคุยกัน

จนผมเคยค่อนคอดใส่กรไปไม่ได้ว่า “เด็ก ๆ มันน่าสนใจกว่าผู้ใหญ่นี่นะ ไอ้เราได้กันแล้วก็คงจะเบื่อ ถึงไม่ค่อยสนใจ ไม่เป็นไรเข้าใจ ๆ” พอกรได้ยินก็รีบมาสนใจผมทันที จนผมต้องหลุดหัวเราะเสียงดัง คือหัวเราะทั้งตัวผมเองที่พูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ ทั้งหัวเราะกรที่พยายามจะอธิบายด้วยสีหน้าจริงจังว่ามันไม่มีอะไรเลยนะ เพราะเขาคิดว่าที่ผมพูดนะผมคิดจริงจัง สุดท้ายผมนี่แหละต้องรีบบอกว่าล้อเล่น ผมไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะผมกับป่านก็เคยเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากคู่นี้นักหรอก เพียงแต่ตอนนี้ที่ผมไม่ได้ติดกับป่านมากเหมือนก่อน เพราะมีคนมาแย่งน้องผมไปเก็บไว้คนเดียวต่างหาก นาน ๆ ถึงจะยอมปล่อยให้ห่างอกมาหาพี่ชายอีกคนอย่างผมสักที ว่าแล้วเย็นนี้ชวนมาทำอะไรกินที่บ้านน่าจะดีเพราะไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่สงกรานต์   
 
คิดแล้วก็โทรไปชวนมาเลย เดี๋ยวส่งรักแล้วแวะซื้อของเข้ามาเลยทีเดียว แต่เย็นนี้ผมคงไม่ลงมือทำอาหารเอง รอให้ตัวแถมที่ติดสอยห้อยตามมากับไอ้ป่านเป็นคนทำ

--------------------------------------



“ถ้าไม่โทรไปตามพี่คงไม่เจอหน้า” ผมพูดตอนป่านเดินยิ้มเผล่เข้ามาหา โดยมีพี่กาวน์เดินตามมา

“เอาน่าก็มาให้เห็นหน้าแล้วนี่ไง แล้วไอ้กรล่ะพี่กันต์” 

“เก็บของเข้าตู้เย็นอยู่ในครัว”

“แล้ววันนี้พี่จะทำอะไรกิน”

“ถามพี่กาวน์ดูแล้วกัน วันนี้พี่ไม่ทำ” ผมบอกปัด แล้วโยนไปให้คนที่ยืนอยู่ข้างป่านมันแทน

“อ้าวเฮ้ย อะไรวะ เป็นแขกนะเว้ย จะมาใช้ได้ไง” พี่กาวน์รีบโวย

“แขกที่ไหน พี่เป็นพี่ชายเจ้าของบ้าน ก็ถือเป็นคนในบ้านด้วย” ผมพูดแล้วเดินไปกอดไหล่พี่กาวน์

“เมื่อกี้ไปซื้อเนื้อมาด้วย ว่าจะให้พี่กาวน์ทำอะไรให้กินหน่อย ทำเองมันสู้ฝีมือพี่ไม่ได้จริง ๆ” ผมเริ่มใช้มุขหยอดหวังให้พี่กาวน์ยอมตกลง

“นาน ๆ เจอกันที ทำให้น้องหน่อยน่า” ผมพูดต่อ

“ทั้งปี” พี่กาวน์บ่น แต่ก็ยอมเดินเข้าไปในครัว

“พี่กาวน์อยากกินหอมทอด” เสียงป่านเดินเข้าไปบอกพี่กาวน์

“กันต์มีหอมใหญ่หรือเปล่า”

“มี เอากี่หัว แล้วพี่กาวน์จะทำอะไรบ้าง”

“ยังไม่รู้ ดูของก่อนมีอะไรบ้าง” พี่กาวน์พูดแล้วเดินมาดูของที่ผมซื้อมาแล้วยังวางอยู่บนโต๊ะ มีแค่บางส่วนที่กรเอาเข้าตู้เย็นไปแล้ว

“ไอ้ป่านมึงมาช่วยกูจัดโต๊ะ อยู่ในนี้เกะกะทำอะไรก็ไม่เป็น” เสียงกรแขวะป่าน ที่เดินวนสำรวจรอบครัว ผมรู้ว่าป่านกำลังมองหาของที่หยิบกินได้อยู่

“มีคุ้กกี้อยู่ในตู้เย็น ลูกค้าพี่เอามาฝาก อร่อยดี เอามากินสิ” ผมบอก พอผมพูดจบปุ๊บป่านมันก็เดินไปเปิดตู้เย็นมองหาคุ้กกี้ที่ผมพูดถึงทันที

“ไม่ช่วยแล้วยังมากินขนมกูอีก” เสียงกรพูดหลังจากเจอป่านผลักไปติดข้างฝาเพราะไปยืนขวางทางป่านที่จะเปิดตู้เย็นหาขนม

“เออ ใครจะไปเก่งเหมือนมึง แต่เท่าที่กูรู้ที่มึงอยู่รอดทุกวันนี้ก็กับข้าวฝีมือพี่กูทั้งนั้น มึงได้ทำกับเขาด้วยหรอ” ป่านหันมาพูดหลังจากเจอโหลคุ้กกี้ที่ผมบอกแล้ว

“กูก็ทำได้หลายอย่างแล้วเหอะ ไม่เชื่อถามพี่มึงดู มึงนั่นแหละทำอะไรไม่เป็นเหมือนเดิม” กรพูดระหว่างหยิบจานออกจากตู้ แต่พอหันมาก็เจอป่านจับคุ้กกี้ยัดเข้าปากไปเต็ม ๆ

“ไอ้...” กรจะด่าก็ด่าไม่ออก เพราะคุ้กกี้เต็มปากจะใช้มือหยิบออกก็ทำไม่ได้เพราะถือจานอยู่

“จะบอกให้รู้กูก็พัฒนาแล้วเว้ย ทำเป็นบ้างนิดหน่อย” ป่านพูดแล้วถือขนมไปนั่งกินอยู่ที่เคานท์เตอร์บาร์

ส่วนผมต้องมารับหน้าที่เป็นลูกมือของพ่อครัวใหญ่ ยืนปอกและหั่นหัวหอมใหญ่ตามคำสั่ง เพื่อเตรียมทำหอมทอดหรือออเนียนริงให้ไอ้น้องชายที่ผมอัญเชิญมันมาบ้าน พี่กาวน์ก็ดีเหลือเกิน ไอ้ป่านพูดออกมาคำเดียวตอบตกลงทำตามใจมันทันที แต่ไอ้ความลำบากมันดันมาตกอยู่ที่ผม หั่นไปน้ำตาก็ร่วงไป หั่นไม่พอยังต้องมานั่งแกะออกให้เป็นวง ๆ อีก 

“อะไรพี่กันต์ ทำกับข้าวเลี้ยงน้องแค่นี้ถึงกับต้องร้องไห้” ไอ้ป่านเห็นน้ำตาผมร่วงมันก็ล้อทันที

“แล้วเพราะใครวะ จะกินแต่ละอย่าง ไอ้ที่มันง่ายกว่านี้ไม่มีหรือไง” ผมบ่น ก่อนอยู่นิ่ง ๆ ให้กรใช้กระดาษทิชชูซับน้ำตาให้     

“หมันไส้” เสียงไอ้ป่าน

“มึงเลิกกินแล้วมานี่เลยมา เอาจานตามกูมาด้วย” กรพูด แล้วยัดจานสี่ห้าใบที่เอาลงมาจากชั้นใส่มือป่าน ก่อนลากคอป่านที่ถือจานเป็นสี่ห้าใบอยู่ในมือให้เดินตามออกไปด้านนอก เย็นนี้จะออกไปตั้งวงกินกันที่ศาลาข้างสระน้ำเลยขนของออกไปเตรียมไว้ก่อน

“พี่กาวน์ทำอะไรบ้าง” ผมหันไปถามพี่กาวน์ที่กำลังเอาเนื้อที่ผมซื้อมาหมักกับเกลือ พริกไทย

“เนื้อย่าง หอมทอด แกงเขียวหวาน พริกหวานผัดตับ ไข่ยัดไส้” พี่กาวน์ตอบ ตอนไปซื้อกับข้าวกับกรผมก็ไม่ได้คิดว่าเย็นนี้จะกินอะไร ก็ซื้อกับข้าวเข้าบ้านมาเหมือนปกติ กะว่าพี่กาวน์เห็นของที่ซื้อมาแล้วอยากทำอะไรก็ทำ ดูรายการอาหารแล้วหอมทอดของไอ้ป่านนี่ไม่ได้เข้าพวกเลยสักนิด

“หั่นหอมกับมะเขือเทศทำไข่ยัดไส้ต่อด้วย” พี่กาวน์สั่งต่อ

“น้านาถว่ายังไงบ้างเรื่องป่าน” ผมถามเพราะเป็นห่วงป่าน

“ยังไม่ได้คุยเรื่องนั้นกันอีก แต่ป่านก็มาบอกว่าได้คุยกับน้านาถมากขึ้น แต่พี่คงไม่ไปพูดอะไรอีก ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อน”

“อื้ม” ผมตอบรับ

“พี่กาวน์ พี่เคยคิดเรื่องมีลูกบ้างไหม” ผมถาม

“ทำไมถึงถาม” พี่กาวน์หันมามองหน้าผม ก่อนย้อนถามกลับมา

“บางทีนั่งทำงานไปมันก็มีคิดขึ้นมาเหมือนกันว่า จะทำไปเพื่อใคร” ผมพูด ความคิดนี้มันอาจจะมาจากเมื่อวันหนึ่งผมนั่งคิดไปถึงตอนเด็กที่ผมเคยถามพ่อว่าทำไมต้องทำงานหนัก ทั้งที่เราเองก็มีเงินเยอะแล้ว แล้วพ่อตอบมาว่า “ทำเพื่อผม” มันก็เลยทำให้ผมคิดถามตัวเองว่าแล้วผม “ทำไปเพื่อใคร” จริงอยู่ที่ว่า สิ่งที่ผมเริ่มต้นทำมาด้วยตัวเองมันมาจากความชอบ ความรัก และความสนใจของผมเองล้วน ๆ  แต่ในส่วนที่รับมาจากพ่อแม่มันก็ถือเป็นความรับผิดชอบที่ทำให้ผมต้องเข้าไปดูแลอย่างเต็มกำลังโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งไม่มีผม มันจะเป็นยังไง และไม่ใช่แค่เรื่องของผม เพราะถ้าดูในส่วนของกรเองเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผม

“เราเป็นลูกชายคนเดียวกันทั้งคู่ พี่กาวน์ไม่เคยคิดหรอว่าสิ่งที่เรามีอยู่สุดท้ายมันจะไปตกอยู่ที่ใคร” พี่กาวน์ฟังเงียบ ๆ ก่อนส่งเสียงถอนหายใจมาเป็นคำตอบ 

“ยังสับสนอยู่อีกหรือไง” พี่กาวน์ย้อนถามกลับมา

“เปล่า แค่กำลังคิดถึงอนาคตว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง ที่จริงกันต์ก็เคยคุยกับพ่อแม่แต่พ่อแม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร ถึงเวลาแล้วค่อยคิด ไม่มีแรงจะทำแล้วนั่นแหละค่อยคิด ตอนนี้ทำไหวก็ทำไป เรื่องใครจะมารับช่วงต่อยังไม่ต้องไปคิด แต่กันต์ว่าพ่อแม่ต้องคิดบ้างเพียงแต่ไม่พูดออกมาแค่นั้น”

“แบบนั่นเขาก็เรียกว่าสับสน”

“ไม่ใช่ แค่คิดเผื่อ หรือให้คิดง่าย ๆ บริษัทก็ยกให้คนอื่นไป เงินก็บริจาคให้หมด” ผมพูด

“เคยคุยเรื่องนี้กับกรบ้างหรือเปล่า”

“เปล่า” ผมตอบก่อนเดินไปหยิบมะเขือที่แช่น้ำอยู่ในกะละมังมาหั่น

“เลือกแล้วจะไปคิดอะไรมาก ก็ทำเหมือนที่ผ่าน ๆ ถึงวันนั้นมันก็คิดออกเอง ยังไงก็เลือกมาทางนี้แล้ว จะให้ถอยกลับมาก็คงไม่ใช่ทางออก” พี่กาวน์ตอบ เท่าที่ฟังดูเหมือนพี่กาวน์จะยอมรับในสิ่งที่ผมเลือกได้แบบเต็มร้อยแล้ว แต่จะไม่ให้เต็มร้อยก็คงไม่ได้ เมื่อพี่กาวน์เองก็เลือกอะไรที่ไม่ต่างจากผม เกิดจะเข้าใจกันจริง ๆ ขึ้นมาก็ตอนนี้

“ไม่วันถอยอยู่แล้ว” ผมพูด

“ส่วนเรื่องเด็กถ้าคิดจะมีจริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก” พี่กาวน์พูดต่อ

“แบบพี่เอ” พี่กาวน์เงียบไปไม่นาน ก่อนจะพูดต่อ

“ที่แฟนพี่เอมีลูกไม่ได้แล้วไปให้ญาติอุ้มท้องแทนนะหรอ” ผมพูดถึงญาติห่าง ๆ

“ใช่” พี่กาวน์ตอบรับ ก่อนจะรับเอามะเขือเทศกับหอมใหญ่ที่ผมหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้สำหรับผัดเป็นไส้ไช่ยัดไส่ไป ส่วนผมก็หั่นมะเขือและเด็ดใบโหระพาเตรียมไว้ใส่แกงเขียวหวานต่อ แกงเขียวหวานพี่กาวน์ผัดพริกแกงกับหัวกะทิ แล้วใส่ไก่ตามลงไปผัด เติมหางกะทิ ปรุงรส และตั้งไฟเคี้ยวไว้ รอได้ที่อีกนิดใส่มะเขือกับโหระพาก็เสร็จ ตอนนี้เลยจะทำไข่ยัดไส้ต่อ

“ถ้าคิดจะมีจริง ๆ วิธีนั้นมันก็น่าจะเป็นทางที่ดี”

“ก็ต้องหาคน”

“คิดเรื่องนั้นจริงจังเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ยังมีเวลาให้คิดอีกนาน บางทีวันนึงอาจจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว”

“มันก็จริง” ผมตอบรับ

“คุยอะไรกัน กับข้าวจะเสร็จยัง” ป่านเดินเข้ามาถามหลังจากหายเงียบไปกับกรได้สักพัก

“เหลืออีกสามอย่าง” ผมตอบ

“เฮ้ย อย่าอู้ ไปเอาแก้วน้ำมา” กรเดินเข้ามาตามหลัง แล้วพูดสั่งป่าน ที่กำลังจะมองหาอะไรกินอีก

“จะรีบไปไหนวะ กับข้าวยังไม่เสร็จเลย มานั่งกินขนมกับกูนี่มา ท่ามึงจะน้ำตาลตก หงุดหงิดชิบ” ป่านลากแขนกรมานั่งข้าง ๆ ดูผมกับพี่กาวน์ทำกับข้าว

“พี่กาวน์ไม่สอนป่านมันทำกับข้าวบ้าง” กรพูด

“ก็สอนบ้าง แต่ไม่ค่อยได้เรื่อง ให้ทำแล้วเหนื่อยเก็บ พี่ทำเองดีกว่า ให้รอกินเฉย ๆ ไปนะดีแล้ว” พอพี่กาวน์พูดจบ ผมกับกรถึงกับหัวเราะ ส่วนป่านนั่งทำหน้ามุ้ย

“ป่านคิดเรื่องเรียนต่อบ้างหรือยัง” ผมถามป่าน เพราะผมกับกรเคยคุยกันเรื่องที่ว่ากรจะเรียนต่อ เลยถามป่านบ้าง

“ป่านยังไม่คิด แต่พี่กาวน์คิด” ป่านตอบทั้งที่ยังไม่หายหน้าตึงจากเรื่องที่พี่กาวน์แฉเมื่อกี้

“พี่ว่าจะให้เรียนสักปีหน้า”

“ตั้งใจจะให้เรียนที่ไหน” ผมถาม แต่ก็ถามไปอย่างนั้นเพราะเดาคำตอบได้อยู่แล้ว ก็มีหรอที่พี่กาวน์จะยอมปล่อยให้ป่านไปเรียนต่อเมืองนอก ถ้าป่านจะได้ไปพี่กาวน์คงต้องตามไปด้วยนั่นแหละ

“คงให้เรียนที่นี่ นี่แหละ” พี่กาวน์พูด มาดดูเป็นผู้ปกครองไอ้ป่านเลยทีเดียว

“ไม่เอาป่านจะไปเรียนต่อเมืองนอก ว่าจะชวนกรไปด้วย กรไปเรียนต่อกับกูไหม” ป่านพูดแล้วหันไปลากเพื่อนมาเอี่ยวด้วย

“เดี๋ยวค่อยคุยกัน” พี่กาวน์พูดเสียงเรียบ

“พี่กันต์” ป่านเริ่มหาตัวช่วยใหม่ หลังจากเจอพี่กาวน์พูดเสียงเย็นใส่ แต่แทนที่ผมจะเดินไปหาป่าน ผมเลือกเดินไปตบไหล่พี่กาวน์แทนให้เขาใจเย็น ๆ

“จะเรียนอะไรต่อ” ผมถาม

“คงต้องเป็นพวกบริหารหรือการตลาด เพราะป่านไม่รู้อะไรเรื่องธุรกิจสักอย่าง”

“ก็เรียนที่นี่พร้อมกรสิ จะได้มีเพื่อนเรียน” ผมเสนอ

“กรมึงจะเรียนที่ไหน”

“ที่เดิม”   

“ก็น่าสน แล้วมึงจะเรียนเมื่อไหร่”

“ปีหน้า ถ้ามึงจะเรียนก็มาเรียนพร้อมกู เอาคณะที่มึงพูดมานั่นแหละ” กรพูด แล้วยื่นมือมาหยิบหอมทอดในจานที่ผมเอามาวางให้ขึ้นมากิน

“เออ ๆ ก็ได้วะ กูจะได้มีเพื่อน” ป่านตอบแล้วหยิบหอมทอดขึ้นมากินบ้าง

ส่วนผมพอได้ยินป่านพูดตอบกรไปแบบนั้นก็หันไปมองหน้าพี่กาวน์ที่ยังยืนทอดหอมอยู่หน้าเตาบ้าง แล้วก็เห็นว่าหน้าที่ทำตึง ๆ อยู่เมื่อกี้คลายออกแล้ว

“ป่านกับกร ยกกับข้าวไปแล้วรออยู่นั่นเลยก็ได้ ที่เหลือเดี๋ยวพวกพี่ยกไปเอง” ผมพูด แล้วหันไปคดข้าวจากหม้อมาใส่โถข้าวที่เตรียมไว้ ตอนนี้เหลือแค่ผัดพริกหวานกับตับอีกอย่างเดียวก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“อยากให้น้องมันอยู่ด้วย ไม่อยากให้มันไปก็บอกไปตรง ๆ สิ ไม่พูดแล้วมันจะรู้ไหม” ผมพูดหลังจากป่านกับกรออกไปจากครัวแล้ว

“อย่างกับพูดแล้วมันจะฟัง”

“พูดหรือยัง ถึงมาบอกว่ามันไม่ฟัง” ผมตอบกลับ ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพี่ชายตัวเองเป็นคนยังไง แล้วทำไมผมต้องทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้คนนั้นคนนี้ไปเรื่อย เดี๋ยวไอ้รัก เดี๋ยวพี่กาวน์ ก็อย่างว่าล่ะนะ ชีวิตผมมันลงตัวแล้ว ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรแบบนี้มาให้แก้ปัญหาเท่าไหร่ นอกจากผมจะคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มากไป จนเก็บเอามาคิดเป็นปัญหา ซึ่งเมื่อมาดูจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
----------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2012 15:18:31 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1984 เมื่อ16-06-2012 17:49:26 »

ทุกคนยังน่ารัก
กันเหมือนเดิม :L1:


ออฟไลน์ frenzy19

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1985 เมื่อ16-06-2012 20:16:59 »

 :o8: :o8:  น่ารักทุกคู่เลยยย

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1986 เมื่อ16-06-2012 20:47:39 »

กันต์ใจเย็นดีนะ ชอบอ่ะ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1987 เมื่อ16-06-2012 20:57:20 »

 :กอด1: น่ารักที่สุดเลย

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1988 เมื่อ16-06-2012 21:33:02 »

ไปๆมาๆ เพิ่งรู้ว่าพี่กาวน์ทำอาหารเก่ง
ป่านสบายไปเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1989 เมื่อ16-06-2012 22:04:26 »

คู่รักอบอุ่นตลอด  :-[
นายกาวน์มีแฟนเด็ก ต้องทำใจ :laugh:
ชอบผู้ชายทำกับข้าวเป็น
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2012 22:19:48 โดย Horizon »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
« ตอบ #1989 เมื่อ: 16-06-2012 22:04:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ makimaki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1990 เมื่อ16-06-2012 22:06:14 »

พี่กาวน์ไม่ยอมให้ป่านห่างตัวเลยนะ   :impress2:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1991 เมื่อ17-06-2012 02:47:44 »

ไม่ซึนไม่ใช่พี่กาวน์เนาะ   :laugh:
ว่าแต่ตอนนี้เหมือนรวมมิตรนะคะ ออกโรงกันครึ่งๆเลย

ปล. หิวข้าวตอนตีสามเลย กรรมแท้ๆ

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1992 เมื่อ17-06-2012 07:56:50 »

ดีใจที่มาต่อแล้ว
อยากจะบอกว่าในความคิดของเรา การไม่มีลูกมันก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียดขนาดนั้นนะ
พี่สาวเราแต่งงานมา11ปีก็มีลูกไม่ได้ หรือเพื่อนเราบางคนเลือกที่จะไม่มีลูกเลย
ทุกอย่างอยู่ที่คนสอนเขา ไม่อย่างนั้น คู่ที่มีลูกกันไม่ได้ก็ต้องเลิกกันหมดแล้วดิ
เอาใจช่วยพี่กันย์กรนะจ๊ะ :L1:

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1993 เมื่อ17-06-2012 08:50:15 »

พี่กันต์คิดอะไรไม่บอกกร
มารู้ทีหลัง เดี๋ยวได้งานเข้าอีก

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1994 เมื่อ17-06-2012 14:51:05 »

พี่กันต์อย่าคิดมากเลยเดี๋ยวแก่เร็วนะ

ชอบตอนอยู่ด้วยกันครบแบบนี้จังน่ารักทุกคู่เลย
แล้วทั้งสี่คนนี้ก็มีบุคลิกต่างกันชัดเจนมาก
พอมารวมกันแล้วก็พอเหมาะพอดีเลย
 

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1995 เมื่อ17-06-2012 17:04:46 »

กันต์ คิดเยอะแบบนี้ ควรให้ กร ช่วยคิดด้วยนะเนี่ย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1996 เมื่อ17-06-2012 17:28:29 »

รอจ้ารอ :)

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1997 เมื่อ17-06-2012 18:29:34 »

ชอบบ ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นดี น่ารักๆๆ
 :กอด1: :กอด1:

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1998 เมื่อ17-06-2012 23:26:17 »

กรกับกันต์นี่ก็แอบหวานกันตลอด
ส่วนพี่กาวน์ก็นะ เก็กขรึมตลอด
แต่มาดพ่อบ้าน ทำกับข้าวเก่งนี่เอาใจไปเต็มๆ เลย  :impress2:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #1999 เมื่อ20-06-2012 23:06:43 »

   อิจฉาพี่น้องคู่นี้แล้วสิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
« ตอบ #1999 เมื่อ: 20-06-2012 23:06:43 »





ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: รักคือ... รัก >;>;>; คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #2000 เมื่อ23-06-2012 22:41:14 »

เย้ๆๆ ในที่สุดก็ตามทัน กันต์ กร น่ารักทุกตอนเลย ชอบอะ อ่านไปก็ยิ้มแก้มแตกไป หนักๆเข้าก็เขินหน้าแดงเวลาอ่านจบเลยอะ นี่ไม่ได้เวอร์นะ

ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #2001 เมื่อ06-07-2012 16:37:18 »

 :L2:แค่มาบอกว่าคิดถึงจ้ะ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: รักคือ... รัก >>> คิดเยอะ p. 67 16/6/12
«ตอบ #2002 เมื่อ20-07-2012 21:43:17 »



ตอนที่ 64 มื้อค่ำ

“พี่กันต์”

“ว่าไง” ผมตอบรับแล้วหันหน้าไปหาป่านที่มายืนเกาะประตูตู้เย็นระหว่างผมกำลังมองหาครื่องดื่มในตู้เย็นสำหรับแต่ละคน

“พี่กันต์กับไอ้กรคุยกันทุกเรื่องไหม” ป่านถามพลางส่งสายตาแสดงความสงสัยมาให้ ก่อนจะหันไปมองทางประตูว่ามีใครเข้ามาหรือเปล่า พอเห็นว่าไม่มีใครก็ชะโงกหน้าเข้ามาดูในตู้เย็นที่ผมเปิดไว้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง

“ไม่หรอก แต่เรื่องไหนที่ต้องตัดสินใจร่วมกันหรือควรรู้ด้วยกันก็ต้องบอกให้รู้” ผมตอบ แล้วหยิบโค้กออกมาสองกระป๋องส่งให้ป่านรับไปก่อน

“เหมือนเดิมไหม” ผมถามป่าน พอมันพยักหน้าผมก็ส่งรูทเบียร์หนึ่งกระป๋อง สไปร์ทอีกหนึ่งกระป๋องตามไป  และหยิบน้ำเปล่าตามมาเป็นอย่างสุดท้ายแล้วปิดตู้เย็น

“มีอะไรหรือเปล่า” ผมถาม วันนี้เหมือนจะมีแต่คนมีเรื่องคาใจ พออีกคนออกไปอีกคนก็เข้ามาแทน

“พี่กาวน์มีอะไรก็ไม่ค่อยพูด ถ้าพูดได้สักครึ่งของไอ้กรก็คงดีหรอก” ป่านถือกระป๋องน้ำอัดลมในมือข้างละสองกระป๋อง แล้วเดินตามผมออกไปทางประตูหลังบ้านเพื่อไปยังศาลาริมสระน้ำที่จะนั่งกินข้าวกัน

“อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน ถ้าจะให้พี่กาวน์พูดได้สักครึ่งของกรพี่ว่าป่านลุกขึ้นมาปล้ำพี่ชายพี่ยังจะง่ายกว่า” ผมพูดแล้วหัวเราะ ส่วนไอ้น้องชายที่เดินมาข้าง ๆ กันอ้าปากค้างไปแล้ว

“โห่ พี่กันต์ให้กำลังใจกันดีมาก แล้วพี่กันต์ว่าป่านควรทำไงดี เป็นแบบนี้มันอึดอัดนะ ถ้าพูดกันให้รู้เรื่องได้ก็จบแล้ว แต่นี่กว่าจะเปิดปากพูดได้แต่ละคำ” ป่านพูดแล้วยกกระป๋องน้ำอัดลมเย็น ๆ ขึ้นมาแตะที่ขมับ

“แล้วทำไมไม่เริ่มก่อน ลองเริ่มก่อนดู ไม่ก็หาทางบังคับไปเลย กดดันมาก ๆ หน่อย เอาเรื่องเรียนต่อนี่แหละขึ้นมาพูด” ผมเสนอ ด้วยความมั่นใจประมาณหนึ่งว่ามันจะได้ผลและไม่มีทางที่ผลจะออกมาในทางลบ

“จะลองดู” ป่านถอนหายใจก่อนตกปากรับคำเมื่อเดินเข้าใกล้ศาลา

“เมื่อก่อนพูดมากจนต้องบอกให้หยุด พอจะไม่พูดก็ไม่พูดขึ้นมาเสียอย่างนั้น” ผมพูด

“ก็ตั้งแต่”

“ไปกินข้าวกันดีกว่า” ผมพูดสวนขึ้นตัดบทพูดของป่านเมื่อรู้ตัวว่าพลั้งปากพูดอะไรออกไป
.
.
.

“คุยอะไรกัน นินทากรอยู่หรือเปล่า มาช้า” กรส่งเสียงมาจากในศาลา พอผมเดินเข้าไปกรก็กำลังตักข้าวใส่จานเป็นจานสุดท้ายพอดี

“สำคัญตัวผิดไปแล้วมึง” เสียงป่านตอบกร ก่อนจะวางน้ำอัดลมลงประจำที่ของแต่ละคน ผมสไปร์ท กรกับป่านโค้ก พี่กาวน์รูทเบียร์

“พูดแบบนี้แสดงว่ามึงนินทากูชัวร์” กรพูดตอบ

“แสนรู้วะ พี่กันต์ให้มันกินอะไร เพดดีกรี อัลโป้ หรือสมาร์ทฮาร์ท ป่านได้ซื้อมาฝากมันถูก” ป่านพูดแล้วทำหน้าทะเล้นใส่ผม แต่ทำหน้าแบบที่เรียกได้ว่ากวนอวัยวะเบื้องล่างใส่กร ส่วนพี่กาวน์ก็ได้แต่มองไปทางป่านอย่างปลง ๆ ริคบเด็กแสบอย่างไอ้ป่านคงมีเรื่องให้ทำใจกันอีกเยอะ

“เงียบเสียงมึงซะแล้วกิน ๆ เข้าไป หอมทอดมึงเนี่ยกินให้หมด ถ้าไม่หมดกูจับยัด เรียกร้องจะกินนัก”  กรพูด ก่อนจะเริ่มตักกับข้าวใส่จานของตัวเอง

“พี่กาวน์กินข้าวกัน” ผมเรียกพี่ชายตัวเองที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันให้ลงมือกินข้าวกันได้แล้ว

“พี่กาวน์คอนโดฯ ที่หัวหินปิดโครงการไปหรือยัง พอดีพี่สาวไอ้ยุสนใจ” ผมเอ่ยถาม วันก่อนเพื่อนสนิทผมโทรเข้ามาถามว่าจะถามพี่กาวน์ตั้งหลายวันแล้วก็ลืมเพิ่งมานึกขึ้นได้ตอนเจอหน้า คงเพราะเป็นช่วงที่รักมาอยู่ด้วยเลยออกไปข้างนอกกันตลอดไหนจะเพิ่งกลับมาจากไปเที่ยว เลยลืมทำอะไรไปหลายอย่าง

“เหลืออีกห้าหรือหกยูนิตได้มั้ง ถ้าห้องมุมก็มีอยู่อีกห้อง”

“พรุ่งนี้จะได้โทรไปบอกไอ้ยุ” ผมตอบกลับคู่สนทนาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“แล้วของป่านล่ะ” ป่านที่นั่งกินกับข้าวกับหอมทอดที่มันบอกว่าอยากกินเงียบ ๆ มาพักหนึ่ง จนหอมทอดพร่องไปเกือบครึ่งจานทวงถามขึ้นมาบ้าง ไอ้ผมเองก็พอจะรู้อยู่ว่าพี่ชายผมไปตกลงสัญญาอะไรกับป่านเอาไว้ เลยรอฟังคำตอบไปด้วย คำตอบน่ะรู้อยู่แล้ว แต่อยากรู้มากว่าว่าพี่ผมมันจะตอบแบบเล่นแง่อะไรอีกหรือเปล่า ส่วนกรก็เหมือนจะรอฟังด้วยเหมือนกัน

“ขายไปแล้ว” พี่กาวน์ตอบ นี่ถ้าผมซื้อลอตเตอรี่คงถูกรางวัลใหญ่ไปแล้ว กะไว้ไม่ผิดว่าพี่กาวน์ต้องตอบแบบนี้ พี่กาวน์ตอบแล้วมองหน้าผม ไม่ต้องพูดก็รู้แล้วว่าพี่ท่านจะสื่ออะไรถึงได้มองหน้าผม

“จริงอ่ะ” ป่านถามแล้วหันไปจ้องหน้าพี่กาวน์นิ่ง

เหมือนผมจะได้ยินป่านถามพี่กาวน์เรื่องนี้หลายครั้งแล้ว แต่ก็ได้คำตอบแบบนี้กลับไปทุกครั้ง ไม่รู้อารมณ์พี่กาวน์อยากเซอร์ไพรส์น้องมันหรือยังไงถึงปิดเงียบ เพราะที่จริงผมกำลังดูเรื่องตกแต่งให้อยู่อีกไม่เกินสามสี่อาทิตย์ก็เรียบร้อยแล้ว พอเจ้าของเขาไม่พูดผมจะมีสิทธิ์อะไรไปพูด ทำงานเป็นลูกจ้างเขาแลกค่าห้องที่ได้มา ก็มีหน้าที่ก้มหน้าก้มตารับใช้งานของคุณชายท่านให้เสร็จสมบูรณ์ไร้ที่ติแต่โดยดี ไอ้ที่มองหน้ากันแล้วส่งสายตาคมกริบมาให้เมื่อกี้ก็ไม่ใช่อะไรเหมือนจะบอกว่าเร่งให้มันเสร็จไว ๆ อย่าชักช้าเห็นไหมน้องมันถามอีกแล้ว

“กูให้มาอยู่ห้องพี่กันต์เอาไหม กูคิดไม่แพงคืนละสามพันพร้อมอาหารเช้า เดี๋ยวกูตามไปทำอเมริกันเบรคฟาสเสริฟให้มึงถึงเตียงนอน แถมเป็นบัตเลอร์รับใช้ตั้งแต่มึงตื่นยันหลับสนไหมวะแค่สามพันเอง เป็นโรงแรมแล้วห้องระดับนั้นนี่หลายหมื่นมึง” กรพูดถึงคอนโดฯ ที่หัวหินที่พี่กาวน์ยกให้ผม ซึ่งวันที่ผมรับโอนมาถึงได้เห็นว่าพี่กาวน์ยกให้เป็นชื่อผมกับกรร่วมกัน พอกรเห็นก็มีอึ้ง ๆ ไปเหมือนกัน

“กูก็มีของกูเหอะ” ป่านตอบ แต่เสียงเหมือนจะเบา ๆ ไปหน่อย คล้ายไม่มั่นใจ แต่ในใจลึก ๆ ก็คงแอบมั่นใจคำพูดพี่กาวน์อยู่

ความจริงป่านคงไม่ได้สนใจไอ้เรื่องคอนโดฯ อะไรนั่นเท่าไหร่ แต่มันคงอยากรู้มากกว่าว่าพี่กาวน์จะทำตามคำพูดที่ให้ไว้หรือเปล่า ซึ่งผมเองก็เข้าใจในเรื่องนี้คือ คนเราถ้าพูดอะไรออกไปแล้วก็ควรจะรักษาคำพูด ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ตามที่พูด ก็อย่าพูดมันออกมา หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรจะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น

“ว่าแต่มึงจะเรียนอะไร” ป่านพาเปลี่ยนเรื่อง 

“อาจจะเป็นการตลาดว่ะ มึงอ่ะ” กรตอบตามที่เคยปรึกษากันกับผมเรื่องคณะที่เขาจะเรียน ถึงพื้นฐานด้านนี้กรจะไม่มีเลยเพราะตอนเรียนตรีเรียนอีกสาขาวิชา แต่พอไปทำงานแล้วก็เหมือนจะเจอสิ่งที่สนใจเพิ่มเข้ามาอีกอย่างจนอยากจะมีความรู้ด้านนั้นมากขึ้น ผมเองก็สนับสนุนความคิดกรอยู่แล้ว ดีไม่ดีอาจจะไปนั่งเรียนกับเขาด้วยก็ได้ ผมเองก็เคยพูดเกริ่น ไปว่าสนใจ พอกรได้ยินผมพูดแบบนั้นก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที 

“ดู ๆ อยู่ อาจจะเรียนบริหาร เพราะตอนนี้ไม่มีความรู้พวกนี้ในหัวเลยว่ะ ไม่อยากเรียนก็คงต้องเรียน ไม่อย่างนั้นกูจะพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง”

“นั่นมันคอนเซ็ปรายการช่องสามแล้วมึง”

“อ้าวหรอ กูได้ยินผ่านหูมามั้งเลยจำมา”

“พี่กาวน์เอาข้าวอีกไหม” ผมถามเมื่อเห็นข้าวในจานพี่กาวน์เหลืออีกแค่สองสามคำก็หมด

“ไม่ต้องเยอะมาก” พอพี่กาวน์ตอบรับผมก็ตักข้าวใส่จานให้อีกทัพพีครึ่ง ก่อนจะตักให้กรด้วย ส่วนป่านข้าวยังอยู่อีกเกือบครึ่งจานเพราะมื้อนี้ดูมันจะเน้นกินกับเป็นพิเศษ

“ไปบริจาคของบ้านเด็กอ่อนกันไหม” กรพูดขึ้นมา แต่ถ้าพูดขึ้นมาตอนนี้ก็คงจะตั้งใจชวนผู้ร่วมโต๊ะทุกคนไปด้วยเพียงแต่ไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาตรง ๆ

“ไปสิ” ผมตอบรับ

“ที่ไหน เมื่อไหร่ว่ามา” ป่านก็เป็นอีกคนที่กระตือรือร้นถามขึ้นมา

“อยากไปบ้านเด็กอ่อน แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน” กรตอบ

“เดี๋ยวลองหาในอินเตอร์เน็ตดูก็ได้” ผมพูด กรก็พยักหน้าตอบรับ ถ้าให้ผมเดาว่าที่กรมาชวนแบบนี้คงเพราะเปิดโทรทัศน์แล้วไปเจอรายการอะไรเข้าอีกแน่ ๆ แต่ทุกทีก็มีแค่โอนเงินไปบ้าง ยังไม่เคยพูดว่าจะลงไปถึงที่แบบคราวนี้

“เกิดจะรักเด็กขึ้นมาหรือไงวะ มาชวนไปบ้านเด็กอ่อน” ป่านพูด พอพูดจบก็เรอตามออกมาเอิ้กใหญ่ เพราะกินโค้กเข้าไปจนเกลี้ยงกระป๋อง ตั้งแต่ข้าวพร่องไปได้แค่ค่อนจาน

“มึงจะขยันทำอะไรทุเรศ ๆ ขัดกับหน้าตาไปไหนวะ” กรได้โอกาสแขวะป่านเข้าให้อีกหน รายนี้อย่าให้ได้โอกาสเชียวปากไวพอตัว ยิ่งกับคนสนิท ๆ กันด้วยแล้ว ยิ่งไม่เคยปล่อยให้โอกาสหลุดลอย อย่างกรนี่จะเรียกว่าพ่อนักบุญปากร้ายก็คงไม่ผิด

“ขอบคุณที่ชม ถึงมึงไม่บอกูก็รู้ตัวว่าตัวเองหน้าตาดี แล้วมึงเคยได้ยินไหม คนหน้าตาดีทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด” นี่ก็ช่างเป็นคู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อกันดีจริง ๆ

กรเวลาอยู่กับผม กับอยู่ป่าน กับรัก หรือกับเพื่อนคนอื่นนี่เหมือนกับคนละคน จนบางทีแทบไม่น่าเชื่อว่าบุคลิกทั้งหมดนี้จะอยู่ในตัวคน ๆ เดียว เวลาอยู่กับผมเขาจะดูเป็นคนใจเย็น ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ มีขี้อ้อนบ้างเล็ก ๆ แต่พออยู่กับป่านหรือกับเพื่อนรุ่นเดียวกันก็จะกวน ๆ พูดมาก เวลาอยู่กับรักก็ดูเป็นพี่ชายใจดีบ้างโหดบ้างปน ๆ กัน ผมเคยลองคิดเล่น ๆ เหมือนกันว่าผมชอบกรในลุคไหน ผมก็ได้คำตอบว่าผมคงชอบทั้งหมดนั้นแหละ เวลาเขาอยู่กับผมแน่นอนว่าผมก็ต้องชอบเขาอยู่แล้ว ไม่งั้นอย่างนั้นคงไม่ตกล่องปล่องชิ้นมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ แต่เวลาเขาอยู่กับคนอื่นมันก็ทำให้ผมเห็นเขาในมุมอื่นที่ต่างออกไป แต่ก็มักเป็นอะไรที่ผมเห็นแล้วยิ้มได้เสมอ ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอเขา ไอ้เด็กนักศึกษาที่วิ่งทะเล่อทะล่าลงมาตัดหน้ารถผมในวันที่ฝนตกเพื่อช่วยลูกหมาตัวนึงไม่ให้โดนรถทับ ใครจะไปเชื่อว่าด้วยเรื่องแบบนั้นจะทำให้เขามานั่งอยู่ข้างผมได้ในตอนนี้

สงสัยว่าผมจะอิ่มมากเกินไปจนพูดอะไรไม่ออก ถึงได้มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้แบบนี้ ทั้งที่เสียงคุยของคนข้าง ๆ กับป่านที่นั่งอยู่อีกฝั่งยังไม่ได้เงียบเสียงหรือขาดตอนไปเลย แต่ดูท่าแล้วผมคงไม่ใช่เพียงคนเดียวในโต๊ะที่นั่งเงียบเพราะคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมก็ได้แต่นั่งเงียบ ๆ เอนกายรับลมที่พัดโชยเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ จากปีบที่ออกดอกเป็นช่อใหญ่สีขาวโพลนเต็มต้นปนกับกลิ่นหอมของดอกแก้วที่อยู่ข้างกำแพงด้วยเหมือนกัน จนตอนนี้เหมือนบทสนทนาจะผูกขาดอยู่กับคนแค่สองคนในโต๊ะ โดยมีผมกับพี่กาวน์ที่ต่างกินข้าวมื้อเย็นอิ่มจนเกือบจะเกินพิกัดแล้ว เอนหลังพิงหมอนสามเหลี่ยมฟังคู่นี้เขากินไปคุยไปไม่ยอมวางมือกันง่าย ๆ

“กูเห็นในโทรทัศน์” กรตอบสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่อยากไปบ้านเด็กอ่อน แต่ผมเข้าใจขึ้นมาทันทีเพราะถ้าเป็นเรื่องของความใจอ่อนต้องยกให้เขา โดยเฉพาะกับเด็ก คนชราและสัตว์เลี้ยง ถ้าเปิดไปเจอรายการอะไรที่นำเสนอเรื่องพวกนี้ล่ะก็เป็นต้องได้รับการตอบรับจากกรตลอด

“จะไปเมื่อไหร่” คราวนี้เป็นพี่กาวน์ที่สนใจถามขึ้นมาบ้าง

“กรว่าจะลองหาสถานที่แล้วก็ติดต่อดูก่อน อยากไปเลี้ยงอาหารกลางวันด้วย ยังไม่รู้ว่าจะจองได้วันไหน”

“ถ้าได้เรื่องยังไงก็บอกด้วยแล้วกัน” พี่กาวน์บอกกร

“กูได้ไปซื้อของไปบริจาคด้วย แล้วมึงจะชวนใครอีกหรือเปล่าวะ หรือจะไปกันแค่นี้”

“กูตั้งใจว่าจะชวนพวกในกลุ่มไปด้วย ส่วนมึงอยากชวนใครมาอีกก็เอาดิ พี่กาวน์จะชวนใครมาก็ชวนมาเลยนะพี่ ถ้าได้สถานที่กับวันแน่นอนแล้วจะรีบบอก ไม่น่าเกินเย็นพรุ่งนี้”

“ชวนไอ้เอิงด้วยดิ ไม่ได้เจอมันตั้งนานแล้ว แล้วตอนเย็นได้นัดไปกินข้าวกันต่อ”

“เออ เดี๋ยวกูบอกไอ้นายให้”

“ทำไมต้องบอกไอ้นายวะ”

“หึหึ” กรหัวเราะแบบคนมีลับลมคมในแบบสุด ๆ ชนิดที่เรียกได้ว่ากระตุ้นต่อมอยากรู้เรื่องของคนอื่นจากคนที่อยากรู้เรื่องของคนอื่นให้อยากรู้มากขึ้นไปอีกได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าให้ผมเดาเรื่องต่อจากนี้คือ กรจะเงียบไม่เล่าอะไรต่อแล้วเปลี่ยนเรื่องไปเฉย ๆ ให้คนอยากรู้เรื่องค้างคาใจต่อไป แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อกรยกเรื่องว่าจะเอาของอะไรไปให้เด็กที่บ้านเด็กอ่อนกันบ้างแทน

“พี่กาวน์ เอาอะไรอีกไหม มีสับปะรดกับส้มโออยู่ในตู้เย็นถ้าจะกินเลยเดี๋ยวไปหยิบมาให้” ผมถามแล้วผลักหมอนให้ถอยไปข้างหลังอีกหน่อยก่อนขยับตัวตามออกไปเพื่อจะได้ยืดขาได้เต็มที่

“อีกสักพักก็ได้” พี่กาวน์ตอบแล้วทำบบเดียวกันกับผมคือดันหมอนสามเหลี่ยมออกไปข้างหลังก่อนถอยตัวตามออกไปเพ่อจะนั่งเหยียดขาได้เต็มที่

“งานเป็นยังไงบ้าง” พี่กาวน์ถามขึ้นมา

“ก็โอเคมีชะลอไปหน่อยช่วงน้ำท่วมปีที่แล้ว แต่ปีนี้โดยรวมก็ดีเลย โตขึ้นมาเกือบยี่สิบเปอร์เซ็นต์ได้” ผมตอบแบบสรุปโดยภาพรวมของงานทั้งหมดที่ดูแลอยู่

“ปิดโครงการที่หัวหินแล้ว มีแผนจะทำโครงการที่ไหนต่อหรือเปล่า” ผมถามกลับไปบ้าง

“อืม ดูทำเลในกรุงเทพไว้สองสามที่ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ”

“กะทำด้านนี้อย่างเดียวแล้วสิ”

“ก็คงงั้น สนใจจะมาทำด้วยกันไหมล่ะ มาออกแบบให้เลยก็ดี” 

“ก็อยากทำอยู่ แต่ขอคิดดูก่อน ยังไม่อยากรับปาก ทำตรงนั้นมันต้องมีเวลา” ผมตอบ

“คิดจะกลับไปทำงานให้ตรงที่เรียนมาแล้วหรอ” เสียงของคนข้าง ๆ ผมหันกลับมาสนใจเรื่องที่ผมคุยอยู่กับพี่กาวน์ขึ้นมาบ้าง หลังจากคุยอยู่กับป่านมาได้พักใหญ่ จนตอนนี้ก็อิ่มกันหมดแล้ว

“น่าสนุกดี” ผมตอบ ก็แค่คิดว่าถ้ามีโอกาสได้เห็นตึกสูง ๆ ที่เป็นผลงานที่ตัวผมเองเป็นคนออกแบบก็น่าจะดีไม่น้อย

“ทำเลยพี่กันต์ งานที่บริษัทฯ ให้กรมันช่วยดูดิ พี่จะได้มีเวลาไปทำงานกับพี่กาวน์” ป่านออกเสียงสนับสนุน นี่มันมาพูดกันเสียอย่างกับว่าคิดอะไรปุ๊บก็จะลงมือทำกันได้ง่าย ๆ เลยหรือไง

“ป่านไปช่วยด้วยก็ได้” ป่านเสนอตัวด้วยแววตาเป็นประกาย ดูท่าแล้วคนที่อยากจะทำงานอื่นที่นอกเหนือจากงานที่รับผิดชอบอยู่ประจำคงไม่ได้มีแต่ผมคนเดียวเสียละมั้ง

“รีบเลยนะมึง ทำอย่างกับมีเวลาว่างนักนิ”

“กูทำได้แล้วกันน่า” ป่านยังคงยืนยังสิ่งที่ตัวเองพูด

“ตัดสินใจยังไงก็บอกแล้วกัน เดือนหน้าคงสรุปเรื่องที่ได้” พอพี่กาวน์พูดแบบนั้น ผมก็รีบพยักกน้ารับคำ ก่อนลุกขึ้นไปหยิบผลไม้ที่อยู่ในตู้เย็นออกมา

…………………………………………….


“ถ้ากันต์อยากไปทำงานกับพี่กาวน์ กรไปช่วยดูงานที่บริษัทฯ ให้ได้นะ” กรที่อาบน้ำเสร็จมาใหม่ ๆ เดินมาเอนหลังพิงหัวเตียงคุยกับผมที่กำลังนั่งดูหนังอยู่

“ถ้าจะไปทำจริง ๆ อาจจะรับคนมาเพิ่มอีกสักคน แต่ถ้ากรมีเวลาแล้วอยากเข้าไปช่วยดูก็ดี แต่จะไหวหรือเปล่าทำสองอย่าง” กรพูด แล้วแย่งรีโมทในมือผมไปเลื่อนเปลี่ยนช่องหน้าตาเฉย

“พอได้อยู่ ถ้ากันต์ไปทำกับพี่กาวน์ก็ใช่ว่าจะนานเป็นปีซะเมื่อไหร่” กรพูด แต่มือก็ยังกดรีโมทเปลี่ยนช่องไม่หยุด

“เดี๋ยวค่อยดูกันอีกที ถ้าไหวก็ทำ” ผมตอบ แล้วแย่งรีโมทมาถือไว้เอง

“แล้วตอนนี้ทำไหวไหม”

“แล้วแต่จะคิด” ผมตอบก่อนใช้รีโมทปิดโทรทัศน์ ส่วนกรเดินไปปิดไฟแล้วเหลือทิ้งไว้แต่ไฟที่โคมไฟข้างเตียงอย่างเดียว

“พรุ่งนี้วันหยุด ขอสักสามแล้วกัน”

“เฮ้ย!!”
--------------------------------------------------------- 

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: รักคือ... รัก >>> มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2003 เมื่อ20-07-2012 22:14:27 »

เฮ้ย ขอ 3 อะไรกันอะ อยากรู้ๆๆๆ  :z1:  :z1:

อยากรู้ว่า พี่กาวน์จะเซอร์ไพส์ป่านแบบไหนกันนะ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: รักคือ... รัก >>> มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2004 เมื่อ20-07-2012 22:25:24 »

พรุ่งนี้หยุด ขอสามแล้วกัน

กรเนียนอะ  :m20: :laugh:

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
Re: รักคือ... รัก >>> มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2005 เมื่อ20-07-2012 22:48:37 »

ขออะไรสามอ่ะ   :-[

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: รักคือ... รัก >;>;>; มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2006 เมื่อ20-07-2012 22:55:18 »

อ่านตั้งแต่ต้นก็เรื่อยๆนะ แต่เจอประโยคสุดท้ายของกรนี่มีฮาอะ หึ!!

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
Re: รักคือ... รัก >>> มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2007 เมื่อ20-07-2012 22:56:41 »

เค้าพูดโต้ตอบกันเป็นโค้ดนะ 555
ขอสามเลยเหรอ  :-[

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: รักคือ... รัก >>> มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2008 เมื่อ21-07-2012 01:56:13 »

ใบ้หวยกันเหรอจ้ะ
ตอนนี้ชิลๆ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: รักคือ... รัก >>> มื้อค่ำ p. 67 20/7/12
«ตอบ #2009 เมื่อ21-07-2012 03:10:54 »

เสียรู้เด็กจนได้
+1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด