รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 581441 ครั้ง)

ออฟไลน์ mayuree

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-4
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [1/2] p. 64 22/2/12
«ตอบ #1920 เมื่อ25-02-2012 13:31:24 »

 อืม..เป็นรักที่เริ่มต้นเรื่อยไแต่ดูท่ามั่นคง   o13 :L2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [1/2] p. 64 22/2/12
«ตอบ #1921 เมื่อ28-02-2012 21:42:23 »

ร่วมด้วยช่วยเชียร์ :z2:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [1/2] p. 64 22/2/12
«ตอบ #1922 เมื่อ09-03-2012 19:08:32 »

รออยู่นะจ๊ะ มาต่อเถอะนะ  :pig2: อยากรู้ว่าเค้าโกรธอะไรกันนะ

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [1/2] p. 64 22/2/12
«ตอบ #1923 เมื่อ26-03-2012 23:04:36 »

ตอนที่ 60 ช่วยใคร [2/2]

“พี่กันต์ พี่กร แวะกินติมกัน” อยู่ ๆ ไอ้เปี๊ยกที่นอนหลับมาตลอดทางก็ยื่นหน้าโผล่มาทางช่องระหว่างเบาะด้านหน้า ผมกับกันต์เลยหันไปตามคำชวนที่ยังติดน้ำเสียงงัวเงียอยู่

“ตื่นมาก็ชวนกินเลยนะ”

“ร้านไหน ใช่ร้านนั้นหรือเปล่า” กันต์หันไปถามไอ้เปี๊ยกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ร้านตรงหัวมุมถนนที่มีป้ายบอกชื่อร้านตัวอักษรสีขาวบนพื้นแดงที่อยู่เลยแยกไฟแดงที่รถจอดติดอยู่ไปไม่ไกล

“ฮะ” ไอ้เปี๊ยกตอบรับ

“หลับมาได้ตลอดทาง พอเข้าเมืองละตื่น ยังกับนกรู้” ผมอดแขวะมันไม่ได้ ตอนจะเข้าตัวเมืองหัวหิน ผมยังเห็นมันหลับอยู่เลย พอใกล้ถึงร้านไอติมดันตื่นขึ้นมาได้

R R R …..

“อืมว่าไง”

“พี่อยู่หัวหินแล้ว เจอกันที่ร้านสักสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้วกัน”

“อืม”

“อืม”

“เจอกัน”

“นัดกันแล้วใช่ไหม” ผมหันไปถามกันต์

“พี่กันต์นัดเพื่อนไว้หรอ” ไอ้เปี๊ยกถามขึ้นมาบ้าง กันต์ก็พยักหน้าตอบ ตอนนี้ไอ้เปี๊ยกกลับมาโผล่หน้าอยู่ระหว่างเบาะหน้าตามเดิม หลังจากถอยตัวกลับไปนั่งพิงเบาะตอนที่กันต์คุยโทรศัพท์

“น้องที่สนิทน่ะ รักก็รู้จัก”

“พี่ป่านหรอ” ไอ้เปี๊ยกถามต่อ

“ไม่ใช่หรอก เดี๋ยวเจอแล้วก็รู้เองแหละ ถ้าจะกินไอติมก็ลงได้แล้ว ไม่ต้องถามมาก” อันนี้ผมตอบแทน ตอนนี้ผมหาที่จอดรถแถว ๆ หน้าร้านไอติมที่มันจะกินได้แล้ว

“ใครอ่ะ รักรู้จักด้วยหรอ” มันยังพึมพำอยู่

“อย่างพี่กรบอกนั่นแหละ เจอแล้วก็รู้เอง” กันต์ตอบก่อนจะเปิดประตูออกจากรถ แล้วไอ้เปี๊ยกมันก็เปิดประตูลงตามมาเป็นคนสุดท้าย

“จะกินที่นี่หรือจะซื้อไปกินบนรถ” ผมถามอีกสองคนที่เดินนำหน้าเข้าไปในร้าน

“กินที่นี่ก็ได้มั้ง กินไอติมเสร็จออกจากนี่แล้วไปกินข้าวที่ร้านนั้นก็พอดีเวลา” กันต์ตอบ พร้อมกับถอดแว่นกันแดดที่สวมอยู่มาเหน็บไว้กับคอเสื้อแทน ผมเองก็ทำตาม ตอนแรกก็ว่าจะถอดก่อนลงจากรถ แต่พอเห็นแดดเลยใส่ลงมาด้วย
 
“พี่กรเอาไร เดี๋ยวรักไปสั่งให้” ไอ้เปี๊ยกยืนถามผมที่หาที่นั่งมุมดี ๆ ได้แล้ว

“ลำไยกับเงาะ” ผมตอบ

“แค่สองอย่าง”

“อืม แค่นั้นก็พอแล้ว”

“กินแต่หวาน ๆ” มันบ่นแล้วก็เดินไปที่เคานท์เตอร์หน้าร้านพร้อมกับกันต์ แล้วมันผิดตรงไหนเนี่ยที่ผมชอบผลไม้หวาน ๆ กินผลไม้เปรี้ยว ๆ แล้วขนลุกพิลึก มันบอกไม่ถูก ถ้าเปรี้ยวแล้วเย็นด้วยด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คนที่ชอบเปรี้ยวคงบอกกินแล้วสดชื่นดี เหมือนกินแล้วตาสว่างประมาณนั้น แต่สำหรับผม ผมว่าผลไม้หวาน ๆ มันชื่นใจกว่า

“กินเข้าไปได้ไงวะ” ผมมองถ้วยไอติมของไอ้เปี๊ยกที่เต็มไปด้วยสีแดงของสตรอเบอรี่และสีม่วงของบลูเบอรี่ แถมเป็นแบบแช่แข็งมาอีก ถ้าให้กินแบบมันช้อนเดียวผมก็วางแล้ว มองถ้วยไอ้เปี๊ยกมันแล้วก็มองไปที่ถ้วยของกันต์บ้าง ของกันต์มีมะม่วงกับลูกพีชในน้ำเชื่อม ผลไม้สีส้มทั้งสองอย่าง สามคน สามถ้วย สามสี ไม่ได้เหมือนกันเลย ความชอบไปกันคนละทิศละทาง

“เอาไหม” กันต์ถาม พร้อมยกช้อนที่มีลูกพีชกับมะม่วงขึ้นมาให้ดู ผมก็พยักหน้ารับ แล้วเลื่อนถ้วยไปให้กันต์ตักใส่มาให้

“ลองมะ” ไอ้เปี๊ยกชวนผมบาง แต่ผมส่ายหน้าลูกเดียว

“อร่อยดีออก” มีโฆษณาชวนเชื่ออีกแนะ

“อร่อยก็กินไปคนเดียวเหอะ” พอผมไม่ตอบรับ มันก็หันไปถามกันต์ต่อ แต่รายนั้นตอบรับคำ พอรับไปแล้วก็

“อึ้ย เปรี้ยวว่ะ เปรี้ยวไม่ว่าแช่แข็งมาอีก” เสียงกันต์ครับ เจอผลไม้สีม่วงสีแดงของไอ้เปี๊ยกเข้าไปถึงกับทำหน้าเหยเกกันเลยทีเดียว

“กินได้ไงเนี่ย” กันต์ถามหลังจากดื่มน้ำกลั้วปากไปอีกใหญ่ กันต์ก็เหมือนผมคือ ไม่ค่อยชอบผลไม้เปรี้ยว ๆ ถ้าเป็นกับข้าว อย่างต้มยำหรืออะไรที่มันควรจะต้องออกรสเปรี้ยวแบบนั้นจะกินได้ แต่ถ้าเป็นผลไม้เปรี้ยว ๆ นี่ไม่เอาเลย ขอผลไม้ที่ออกหวานดีกว่า ถึงจะชอบผลไม้หวาน ๆ แต่ถ้าเป็นกับข้าวห้ามใส่น้ำตาล เจอกับข้าวที่ออกรสหวานนี่กินกันไม่ได้ทั้งคู่ แม้แต่นมหวานก็กินกันไม่ได้

“ก็อร่อยดีนิ” ไอ้เปี๊ยกตอบ ก็คงอร่อยของมันจริง ๆ แหละ ทำหน้าทำตามีความสุขซะขนาดนั้น ผมก็ได้แต่หวังว่าถึงเวลาไปกินข้าวแล้วหน้ามันยังเป็นแบบนี้ได้อยู่ ถ้าเป็นแบบนั้นได้มันก็คงจะดีไม่น้อย ใครมันจะอยากเห็นน้องเศร้ากันล่ะ ถึงมันจะชอบกวนตีนผมบ้าง เออ ก็ไม่บ้างล่ะ กวนบ่อย ๆ มากกว่า แต่ถึงยังไงมันก็ถือเป็นน้องรักผมเลยนะ ใครอยู่ใกล้มันก็คงรักมันสมกับชื่อมันนั่นแหละ หน้าตาจิ้มลิ้มขนาดนี้แค่เห็นแว้บแรกก็หลงมันได้ง่ายแล้ว อย่างมันไม่ต้องทำอะไรมาก ไม่ต้องเข้าไปประจบ ไม่ต้องออกแรงอ้อน แค่มันยิ้มให้แค่นั้นแหละ คนมองก็แทบละลายลงไปกองกับพื้นแล้ว ไม่ต้องดูจากไหนเอาแค่มันดินเข้าร้านมาใครเห็นหน้ามันก็ยิ้มแล้ว พนักงานสาว ๆ ที่ตักไอติมให้มัน ฟังมันสั่งไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตักไอติมไป แต่ยิ้มของมันใช้กับผมไม่ได้ผลเท่าไหร่แล้ว เห็นหน้ามันบ่อยจนมีภูมิต้านทาน นี่ถ้ามันโตขึ้นแล้วมีเนื้อมีหนังขึ้นอีกหน่อยนะ ถ้าเทียบเป็นสาวสวย ๆ คงใช้คำว่าสวยจนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง พูดเหมือนคนแก่เลยไหมล่ะผม แต่นี่มันเป็นผู้ชาย ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรแบบไหนบ้าง เพราะจะว่ามันน่ารักก็ไม่เชิง เพราะมันไม่ได้น่ารักอย่างเดียว ดูไปดูมามันก็หล่อด้วย ดูท่าไอ้น้องชายตัวเปี๊ยกของผมโตไปคงเนื้อหอมไม่เบา

.
.
.


“เฮ้อ อิ่ม” ไอ้เปี๊ยกมันพูดพร้อมกับลูบท้องแห้ง ๆ ของมันไปด้วย หลังจากกลับขึ้นมานั่งในรถแล้ว

“แล้วจะกินข้าวได้หรอ” กันต์หันไปถามครับ น้ำเสียงแบบนี้เหมือนแม่หรือพ่อคุยกับลูกยังไงก็ไม่รู้สิ แต่ผมชอบนะ พูดอีก ๆ อยากฟัง เฮอ ๆ เป็นเอามากนะผม

“กินได้ อิ่มไอติม แต่ยังไม่หิวข้าว” อย่าลืมว่าไอ้นี่มันกินเก่ง ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันกินได้อยู่ชัวร์

“ไอติมถ้วยเดียวไม่ได้เศษเสี้ยวของกระเพาะมันหรอก” ผมบอก

“ถูกต้องคร้าบผม ว่าแต่ร้านที่เราจะไปอยู่อีกไกลไหม” ไอ้เปี๊ยกโผล่หน้ามาคุยอยู่ระหว่างเบาะผมกับกัน

“สักสิบนาทีก็ถึงแล้ว อย่าบอกนะว่าหิวข้าว” กันต์หันไปคุยกับไอ้เปี๊ยก

“ก็นิดหน่อยเอง เมื่อเช้าพี่กันต์ไม่ได้ทำกับข้าวให้นิ มันก็เลยหิวนิด ๆ แล้ว” ไอ้เปี๊ยกพูด

“จะมาหิวอะไร เพิ่งกินไอติมไปเมื่อกี้” ผมพูด กินเก่งเกินไปแล้วมัน

“ก็บอกแล้วไงว่าไอติมก็ส่วนไอติม รักบอกว่าหิวข้าว ไม่ได้บอกว่าหิวไอติมสักหน่อย” ไอ้เปี๊ยกมันต่อปากต่อคำผม

“เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” เสียงกันต์ครับ เสียงฟังดูใจดีจังน้าที่รักของผมเนี่ย


…………………………………………………




พอมาถึงร้านอาหารก็เดินไปตามที่ชินบอกว่ามันนั่งอยู่ตรงไหน ร้านนี้โต๊ะอาหารจะตั้งอยู่บนหาดต้องเดินลุยทรายกันลงไป ตอนนี้ผมเห็นมันแล้วครับ นั่งอยู่ที่โต๊ะใต้ร่มของต้นหูกวางต้นใหญ่ กันต์ที่เดินนำผมอยู่ก็เดินนำไปหาชินที่โต๊ะก่อน

“โอ๊ย” เสียงไอ้เปี๊ยกครับ อยู่ดี ๆ ก็เดินมาชนหลังผมเสียอย่างนั้น ชนเอง ร้องเอง

“เจ็บไหมล่ะนั่น” ผมถามไอ้เปี๊ยกที่เอามือลูบจมูกปอย ๆ

“เสล่อว่ะ มัวแต่วอทแอพอยู่นั่น เป็นไงล่ะ” เห็นมันไม่เป็นอะไรเลยขอกัดมันสักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ผมแล้วล่ะ   
 
“ไปเร็ว พี่กันต์ไปถึงโต๊ะแล้ว” ผมบอกให้ไอ้เปี๊ยกมันเดินต่อ แต่แล้วก็มีมือมาดึงชายเสื้อผมไว้ จนผมต้องหยุดเดิน

“เป็นไร” ผมหันไปถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอะไร มันคงเห็นคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเข้าแล้วนั่นแหละ สงสัยตอนเดินเข้ามาที่ร้านไอ้เปี๊ยกมัวแต่สนใจโทรศัพท์เลยไม่ได้สนใจมองอะไรรอบตัวเลยจริง ๆ ก้มหน้าแล้วก้าวตามขาผมมาอย่างเดียว

“รักไปรอที่รถแล้วกัน”

“ไปด้วยกันนี่แหละ มีพี่อยู่จะกลัวอะไร”
 
“รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่”

“พี่กันต์เขาเจอ เราก็รู้จักกับเขาตั้งแต่เด็กไม่ใช่หรอ”

“นั่นมันเรื่องสมัยเด็ก ลืมไปหมดแล้ว”

“เอาเหอะ ลืมก็ลืม เมื่อกี้บ่นหิวไม่ใช่หรือไง ไป ไปกินข้าวกันดีกว่า” ผมพูด ก่อนดึงมือไอ้เปี๊ยกออกจากชายเสื้อผมมาจับไว้ แล้วจูงมือมันพาไปที่โต๊ะ ผมไม่อยากจะพูดอะไรมาก ก็เข้าใจแหละครับว่ามันกำลังรู้สึกไม่ค่อยสู้ดี ปากมันบอกว่าลืม แต่ไอ้อาการที่มันแสดงอยู่นี่ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่ามันลืม หรือไม่รู้จักกับอีกคน

ที่จริงไอ้เปี๊ยกกับชินมันก็เจอกันมาหลายรอบแล้ว ถ้ามีผมอยู่ด้วยก็คือ ช่วงที่ไอ้เปี๊ยกลงมาเรียนพิเศษแล้วอยู่บ้านผม ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักชิน พอไอ้เปี๊ยกมันกลับไปแล้วแต่ชินมันยังปิดเทอมอยู่ ชินมันก็แสร้งทำไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน แล้วก็ตามไปเสนอหน้าให้ไอ้เปี๊ยกเห็นหน้าอยู่หน้าโรงเรียนทุกวันเป็นอาทิตย์ อันนี้กันต์มาเล่าให้ผมฟัง แล้วก็มาเจอกันอีกครั้งวันนี้ มันจะมีเรื่องอะไรกันนักกันหนาถึงกับเข้าหน้ากันไม่ติดขนาดนี้ ตอนแรกผมว่าผมก็เฉย ๆ ไม่ได้อยากยุ่งอะไรเรื่องของมันสองคนมาก แต่เห็นอีกคนทำท่าไม่อยากเข้าใกล้ ส่วนอีกคนก็ไล่ตามอยู่นั่น จากเฉย ๆ มาตอนนี้อยากรู้ขึ้นมามาก ๆ แล้ว

“พี่กร หวัด” พอผมเดินมาที่โต๊ะชินก็ยกมือไหว้ ผมพยักหน้ารับแล้วพาไอ้เปี๊ยกมานั่งตรงข้ามกันกันต์ ส่วนผมนั่งตรงข้ามกับชิน

“เอ้า จะกินอะไรสั่งเลย” กันต์ยืนรายการอาหารหนึ่งในสองเล่มที่ได้มาจากพนักงานให้ไอ้เปี๊ยกรับ ส่วนอีกเล่มถูกส่งไปให้ชิน

“พี่กรสั่งให้หน่อย” ไอ้เปี๊ยกยื่นรายการอาหารมาให้ผมแทน ผมเห็นนะว่าชินส่งสายตามองมาทางไอ้เปี๊ยกข้างผมบ่อย ๆ ไอ้เปี๊ยกก็เหมือนจะรู้ตัวถึงได้ก้มหน้าก้มตาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“อยากกินอะไรก็สั่งไปเหอะ”

“เออ มา ๆ เดี๋ยวช่วยสั่ง” สุดท้ายผมก็ต้องเอารายการอาหารมาเปิดดูด้วยกันกับมัน

“ปลากะพงนึ่งมานาว กรรเชียงปูนึ่ง กันต์เอากุ้งเผาไหม” พอกันต์พยักหน้าตอบ ผมก็หันไปสั่งให้

“ชินล่ะ เอาอะไรบ้าง” กันต์เป็นคนถาม

“โป๊ะแตกครับ เอาไม่เผ็ดมากนะพี่ แล้วพี่กันต์ล่ะ” ชินหันไปสั่ง ก่อนจะหันไปถามกันต์

“เอาหอยนางรมสด” กันต์หันไปสั่งบ้าง เอามาโด๊ปใครกันหนอ เขาหรือผม เฮอ ๆ 

“เอาผัดผักอะไรสักอย่างไหม” ผมถาม เพราะดูจากรายการที่สั่งแล้วมีแต่เนื้อ ๆ ทั้งนั้น

“เอาผัดหน่อไม้ฝรั่งกุ้งแล้วกัน” กันต์หันไปสั่ง

“รักเอาอะไรอีกไหม” ผมหันไปถามคนข้าง

“เอาปลาทอด”

“เอาปลาสำสีทอดน้ำปลาอีกที่ ข้าวหนึ่งโถ ชินเอาน้ำอะไร” ผมสั่งปลาทอดให้ไอ้เปี๊ยกมัน ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มให้ครบทุกคน

“รัก สบายดีไหม” ชินเอ่ยถามคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างผม ที่เวลานี่ยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปอีก อย่าทำตัวลีบแบบนี้ดิวะ ผมเอามือไปวางที่ต้นข้าไอ้เปี๊ยกแล้วตบเบา ๆ เหมือนเรียกกำลังใจให้มัน มันก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ผมก็พยักหน้าให้เหมือนเป็นการสั่งสัญญาณบางอย่างให้ ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะเข้าใจ ส่วนชินพอเห็นไอ้เปี๊ยกเงียบไม่ตอบ มันก็หน้าเจื่อนไปเหมือนกัน

“ก็สบายดี”

“นึกว่าจะไม่ได้คุยกันแล้ว” ชินพูดต่อ ไอ้สองคนนี่มันจะคุยกันนุ่มนิ่มอะไรขนาดนี้วะ งุบงิบงึมงำอยู่นั่น ผมล่ะอึดอัดแทน แต่ถ้าไม่อยู่ด้วยผมว่ามันสองคนไม่คุยกันชัวร์ ส่วนกันต์นั่งถ่ายรูปเล่นเฉย แถมทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะอีก

“พี่ว่ามีอะไรก็คุย ๆ กันเหอะ เคยสนิทกันขนาดนั้น ไม่เสียดายหรือไง พี่จะไปเดินถ่ายรูปกับข้าวมาแล้วยิงมาตามด้วย” กันต์พูดสลับกับมองหน้าน้องทั้งสองคนแล้วลุกขึ้นยืน พร้อมหันมาพยักหน้าชวนผมให้ออกไปด้วยกัน ผมก็ลุกตาม ไอ้เปี๊ยกมีหันมามองตามตาละห้อย พี่ไม่ได้ส่งไปให้เขาเชือดนะ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น มองมาทีทำเอาทิ้งมันแทบไม่ลง สายตาไอ้เปี๊ยกนี่น่ากลัวจริง ๆ ขออย่างเดียวโตมาอย่าเป็นแบบไอ้ป่านแล้วกัน รายนั้นแม่งโคตรร้าย อ้อนเก่งชิบ

.
.
.


“ปล่อยมันไว้แบบนั้นจะดีหรอ” ผมถามคนที่กำลังยกกล้องขึ้นถ่ายรูปท้องฟ้า วันนี้ฟ้าโปร่งกันต์คงจะได้รูปสวย ๆ มาเก็บไว้อีกหลายรูป

“ไม่รู้สิ”

“อ้าว”

“กรว่าเรื่องกันต์กับพี่กาวน์ มันเลวร้ายแค่ไหน ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องจริงก็เถอะ ไหนจะพี่กาวน์กับป่านอีก ขนาดเคยทำเรื่องแย่ ๆ กันมาขนาดนั้น ยังอภัยให้กันได้ เพราะจะให้เกลียดมันก็เกลียดกันไม่ลง มันก็เหลือทางเดียวคือ กลับมามองหน้ากัน กันต์ว่า รักมันไม่ได้เกลียดชินหรอก แค่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้มันรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ มากกว่า แล้วกันต์ว่าเรื่องมันไม่ได้หนักหนาสาหัสนักหรอก แล้วอีกอย่างคนเราถ้าทำอะไรไม่ดีลงไป มันต้องแสดงอะไรออกมาให้จับได้บ้างแล้ว ถ้ามันไม่ใช่พวกที่เลวเป็นนิสัยน่ะ มันคงจะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด” กันต์พูดให้ผมฟัง ระหว่างที่ฟังผมก็คิดตามไปด้วย มันก็อาจจะจริงอย่างที่กันต์ว่าก็ได้

“คงอย่างนั้นมั้ง ไม่รู้สิ” เหมือนว่าเราสองคนจะพูดคำว่า ไม่รู้ กันหลายหนเหลือเกินกับเรื่องของไอ้เปี๊ยก แต่มันก็ไม่รู้จริง ๆ นั่นแหละ เราไม่ใช่เจ้าตัวใครจะไปรู้ แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้เชี่ยวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลพอที่จะมานั่งคิดแทนคนนั้นคนนี้เป็นฉาก ๆ ผมเรียนจบกราฟฟิคมานะ ไม่ได้เรียนจิตวิทยา ทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว มีแฟนเป็นตัวเป็นตนมาได้ขนาดนี้ได้ก็สุด ๆ แล้ว

ว่าแต่ว่าผมกับกันต์นี่ใครจีบใครก่อนกันแน่ นึกย้อนไปแล้วชักงง ๆ เออวะ เออ เพิ่งจะเคยคิดจริง ๆ จัง ๆ นี่แหละ ใครจีบใครก่อนวะ ผมว่าเป็นผมนะหรือไม่ใช่

“กันต์ เราสองคนนี่ใครจีบใครก่อน” ในเมื่อผมไม่แน่ใจก็ถามอีกคนซะเลย กันต์ก็ลดกล้องลง แล้วมองหน้าผมแบบงง ๆ

“เมาแดดหรือไง” กันต์เดินมาใกล้ ๆ แล้วมองหน้าผม ทำหน้าเหมือนจะถามประมาณว่า ผมเป็นอะไรมากหรือเปล่า ก็อยู่ดี ๆ ก็พาเปลี่ยนเรื่อง แบบไม่มีอะไรปะติดปะต่อกับเรื่องที่เพิ่งคุยกันก่อนหน้านี้เลย

“เปล่า ก็มันมึน ๆ เหมือนทำไปทำมาก็มาอยู่ด้วยกันแล้ว” ผมพูด ผมว่าผมจีบเขาก่อนนะ แต่บางทีก็รู้สึกว่าเขารุกเข้าหาผมเร็วกว่า ที่ผมเข้าหาเขาอีก ช่วงนั้นโลกมันหวานเย็นไปหน่อย กำลังอยู่ในภวังค์จำอะไรไม่ค่อยจะได้ แล้วยิ่งประสบพบเจอเหตุการณ์หนัก ๆ ไปหลายหน ยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว เรื่องบางเรื่องมันเลยตก ๆ หล่น ๆ ไปจากความจำบ้าง แต่ถึงยังไงผมก็ยังไม่ลืมนะว่า ผมกับกันต์เราเจอกันได้ยังไง 

“เออนั่นสิ ไม่รู้เหมือนกัน”

“ซะงั้น”

“ฮา ไปนะเราน่ะ”

“ก็คงงั้น ไปกินข้าวเหอะ ชินยิงมาตามแล้ว”

“อืมป่ะ ไม่รู้ป่านนี้คู่นั้นเป็นยังไงบ้าง”

“นั่นสิ ไปเหอะ” กันต์ตอบรับ แล้วปิดฝาเลนส์ ก่อนจะเดินย้อนกลับกันไปทางเก่าที่เดินมา   


--------------------------------------------------


สองสามตอนที่ผ่านมาบรรยากาศดูอึนๆ ไปหน่อยเนอะ แถมกว่าจะมาต่อก็น้านนาน  :angry2:
ตอนหน้าจะพาคู่หวานกลับคืนมานะ แหม มาทะเลกันทั้งที ก็ขอหวานบ้างอะไรบ้าง

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1924 เมื่อ26-03-2012 23:26:23 »

ลุ้นตอนหน้า จะเข้าใจกันแล้ว
+1

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1925 เมื่อ26-03-2012 23:35:29 »

ยิ่งอยากรู้เรื่องของชินกับไอ้เปี๊ยก มากขึ้นไปอีก

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1926 เมื่อ27-03-2012 00:23:47 »

รอตอนต่อจ้า อยากรู้เรื่องชินกะรักละ...

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1927 เมื่อ27-03-2012 07:44:12 »

งั้นตอนหน้าก็ต้องเข้าใจกันแล้วซินะ มันถึงจะหวานนนนนนนน  :impress3:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1928 เมื่อ27-03-2012 12:45:03 »

ตอนหน้าเคลียร์
จะได้หวานกันสักที :z2:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1929 เมื่อ27-03-2012 13:18:26 »

งืดดดดดด คนเขียนหายไปนาน ลืมเรื่องตอนที่แล้วอ่ะ เดี๋ยวว่างแล้วจะย้อนไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นเลย >_<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
« ตอบ #1929 เมื่อ: 27-03-2012 13:18:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1930 เมื่อ27-03-2012 16:49:25 »

                                      เด็กสองคนนี่เขามีปัญหารัยกันนะ เห้อวัยสดใสต้องมาขุ่นใจกันทำมัยนะ

Na na

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1931 เมื่อ27-03-2012 17:03:13 »

ต่อมอยากรู้อยากเห้นกำเริบมาก เด็กสองคนนั้นเขามีเรื่องอะไรกันนะอยากรู้ ๆ
มาต่อไวไวนะ pleaseeeeeeee หายไปนาน คนอ่านลืมตอนที่แล้วหมด 

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1932 เมื่อ27-03-2012 20:19:20 »

เป็นตอนที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นมากกกกกกกกกกกก  o8

ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1933 เมื่อ27-03-2012 20:22:23 »

แม้บรรยากาศจะอึมครึมไปบ้าง แต่ก็เนี่ยแหละชีวิตที่ต้องมีหลายรสชาติ

ช่วยให้น้องๆ เข้าใจกันได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

รอติดตามความหวานในตอนหน้านะคะ มาทะเลทั้งทีก็ต้องสวีตให้กุ้ง หอย ปูปลา ได้อิจฉากันบ้าง

 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1934 เมื่อ27-03-2012 22:30:41 »

ลุ้นให้น้องดีกันนะคะ  :กอด1:

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1935 เมื่อ29-03-2012 12:49:57 »

เอ... ตกลงคู่กันต์ กร ใครจีบใครก่อนล่ะเนี่ย คนอ่านเริ่มไม่แน่ใจตาม
สงสัยต้องกลับไปอ่านใหม่กันบ้างล่ะ  :m28:
 
ส่วนคู่น้องสองคน ก็ลุ้นให้ดีกันเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1936 เมื่อ29-03-2012 16:41:42 »

ชิน สู้ๆๆ เน้อ รัก คงไม่ใจร้ายหรอกนะ

ออฟไลน์ makimaki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1937 เมื่อ29-03-2012 17:09:49 »

ชินก็น่าสงสารอยู่นะ โดนโกรธแบบไม่รู้ตัว ยังไงน้องรักก็ยกโทษให้เถอะนะ ๆ


rosy

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1938 เมื่อ29-03-2012 19:25:17 »

 o13 o13

ชอบมากรีบอัพน้าคร้า

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1939 เมื่อ29-03-2012 20:32:48 »

ดูจากบรรยากาศ เหมือนรักจะแอบชอบชิน แต่ชินดันไม่รู้

และอาจแสดงท่าทางอะไรให้รักเข้าใจไปว่าชินไม่มีทางชอบตอบหรือเปล่า

รักเลยหนีหน้าดื้อๆเพราะยังทำใจไม่ได้???

อร๊ายยยยยยยย เดามั่ว รอลุ้นต่อต่อไปดีกว่าค่า อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
« ตอบ #1939 เมื่อ: 29-03-2012 20:32:48 »





ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: รักคือ... รัก >>> ช่วยใคร [2/2] p. 65 26/3/12
«ตอบ #1940 เมื่อ13-04-2012 22:56:21 »

ตอนที่ 61 Shy

“กินข้าวเสร็จแล้วชินจะไปบ้านกับพี่ไหมหรือจะไปกับเพื่อนต่อ” ผมถามน้องข้างบ้านที่นั่งอยู่ข้างกัน ที่ตอนนี้ดูจะนิ่งผิดปกติ

ไม่รู้ว่าผมคิดผิดหรือคิดถูกที่ปล่อยสองคนนี้ไว้ด้วยกัน แล้วเท่าที่เห็นเหมือนอะไร ๆ มันจะกลับตาลปัตรไปหมด จากตอนแรกคนที่ไม่อยากจะพูดเป็นรัก ตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายชินที่เงียบไปเอง แล้วท่าทางที่เหมือนจะโกรธอีกฝ่ายนั่นอีก ส่วนรักกลายเป็นฝ่ายที่นั่งมองเหมือนอยากจะพูดด้วยแต่ก็ไม่กล้า ที่ตอนเขาให้พูดด้วย ก็ไม่อยากพูดกับเขา พอตอนนี้อยากพูด ก็ไม่กล้าพูดเพราะอีกฝ่ายดันทำท่าไม่อยากสนใจขึ้นมาบ้าง  เอากับพวกมันสิ ผมออกไปไม่ถึงยี่สิบนาทีไหงกลับมาอีกทีถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

“คงกลับไปหาเพื่อนอ่ะพี่กันต์ มากับพวกมันแล้วหายเดี๋ยวพวกมันได้ด่าเอา แล้วพี่กันต์จะไปเที่ยวไหนกันต่อหรือเปล่า” คนที่ผมถามตอบบกลับมา ผมก็สังเกตเห็นว่าชินมันพยายามเลี่ยงไม่มองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามผมที่นั่งคอตก กรเองก็คงจะรู้สึกได้เหมือนผม เพราะส่งสายตามาที่ผมเหมือนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเองก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบกลับไป แล้วบุ้ยหน้าไปทางรัก เป็นการบอกให้กรช่วยดูน้องหน่อย

“รักกินข้าวเสร็จแล้วอยากแวะที่ไหนอีกไหมหรือจะเข้าบ้านก่อนแล้วบ่ายๆ ค่อยออกมา” กรหันไปคุยกับรัก

“ไม่อ่ะพี่กรไว้ดึกๆ ค่อยออกมาเดินเล่น หาอะไรกินที่ตลาดหัวหินดีกว่า”

“เอาอย่างนั้นก็ได้” กรตอบน้อง

“แล้วชินกับเพื่อนล่ะ จะไปที่ไหนต่อ”

“ตอนบ่ายพวกมันคงเล่นน้ำกัน ส่วนดึก ๆ เห็นพวกมันว่าจะไปเดินเล่นที่เขาตะเกียบ ที่มันเหมือนตลาดนัดขายของอ่ะพี่กันต์ เขาเรียกว่าอะไรไม่แน่ใจเหมือนกัน ชิเคด้าหรืออะไรนี่แหละมั้ง น่าจะใช่” ชินตอบผม โดยที่ยังคอยระวังตัวไม่ให้หันไปมองทางรัก เหมือนมันสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากมอง อีกใจก็ไม่อยากมอง

“อ๋อ เออใช่ พี่นึกออกแล้ว ที่อยู่ใกล้ ๆ คอนโดฯ ของพี่กาวน์”

“คอนโดฯ พี่กาวน์ พี่กาวน์มาซื้อคอนโดฯ ไว้หรอ”

“โครงการของพี่กาวน์เขาน่ะ ใกล้เสร็จแล้วล่ะ เห็นว่าเหลือแค่ตกแต่งภายในอีกนิดหน่อย อีกสองเดือนก็เข้าอยู่ได้ คนจองเกือบหมดแล้ว เหลืออีกไม่กี่ยูนิตเอง” ผมตอบ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ช่วงสายจะแวะเข้าไปดู

“แล้วพี่กันต์ซื้อไว้หรือเปล่า ชินว่าน่าอยู่ดี”

“พี่น้องกันใครจะไปเสียเงินซื้อ ของแบบนี้มันต้องฟรี” ผมตอบ

“แล้วพี่กาวน์เขาให้หรอ ท่าทางจะหลายล้านนะนั่น”

“ให้ไม่ให้ก็ได้มาแล้ว พรุ่งนี้ว่าจะแวะเข้าไปดู” ผมบอก ก็ลองไม่ให้ดูสิ มีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง ขอแค่นี้ไม่ให้ก็ให้มันรู้ไป ถึงจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาแล้ว หรือเปล่า แต่ยังไงผมก็เป็นน้อง ผมอยากได้มันก็ต้องให้

“อิ่มแล้วหรอ หรือจะเอาอะไรเพิ่มอีก เดี๋ยวพี่เรียกพนักงานให้” ผมหันไปคุยกับรัก เมื่อเห็นว่ารักรวบช้อนส้อมในจานเข้าด้วยกัน
   
“ไหนว่าหิว เพิ่งกินไปได้นิดเดียวเองแล้วปลาทอดนั่นอ่ะเหลือตั้งเยอะ กินแต่ปลาไปก็ได้ไม่ต้องกินข้าว” กรว่า แล้วตักปลาทอดวางลงในจานของรัก รักก็หันหน้ามองหน้าผมกับกร พอกรพยักหน้าให้ รักก็ยกช้อนขึ้นตักปลาในจานกินต่อ

.
.
.



“พี่กันต์ พี่กร ขอบคุณนะครับ ไว้เจอกันที่กรุงเทพ” ชินยกมือไหว้ผมกับกร

“ขับรถดี ๆ ล่ะ” ผมบอกก่อนจะขึ้นรถ แล้วกรก็ตามขึ้นมาประจำที่คนขับ แต่ก่อนที่ผมจะปิดประตูก็มีเสียงของอีกคนที่ยังไม่ขึ้นรถแว่วมาให้ได้ยิน

“พี่ชิน” เสียงรักเรียกชินที่กำลังขึ้นรถของตัวเอง โดยที่รถของชินจอดห่างจากรถผมโดยมีรถอื่นขั้นกลางไว้คันหนึ่ง ส่วนผมพอได้ยินก็ดึงประตูรถปิดเข้ามาแต่ยังไม่ปิดสนิทแง้ม ๆ ไว้หน่อย ก็อยากรู้ว่าน้องผมสองคนมันจะคุยอะไรกัน คนข้างผมเองก็เหมือนจะสนใจอยู่เหมือนกันยื่นหน้ามาจนจะเกยบนไหล่ผมอยู่แล้ว ผมเลยหันไปถลึงตาใส่ แต่เขาไม่สนใจหรอก แถมยังมาหอมแก้มผมอีก มันใช่เวลาไหม ตอดนิดตอดหน่อยไม่เลือกเวลาจริง ๆ จนผมต้องส่งมือไปข้างหลังแล้วฟาดลงบนตักเขาไปที ก่อนจะสนใจเรื่องของสองคนนอกรถต่อ

“รัก”

“ไอ้เปี๊ยกจะพูดอะไรก็พูดสักทีสิวะ อ้ำ ๆ อึ่ง ๆ อยู่ได้ โอ๊ย กันต์อ่ะ เจ็บนะ” เสียงกรครับ แล้วก็โดนผมฟาดเข้าให้อีกที พูดอยู่ได้ น้องรู้กันพอดีว่าแอบฟังอยู่
 
“อย่าเสียงดังสิ” ผมดุเสียงไม่ดังนัก

“ก็” กรจะพูดต่อ แต่ถูกผมส่งเสียงห้ามไว้ก่อน

“ชู่ว์ เงียบก่อน” ผมบอกกร อีกฝ่ายเลยไม่พูดอะไรต่อ แล้วก็ตั้งใจเงี่ยหูฟังเสียงจากนอกรถแทน ห้ามได้แต่ปากไม่ให้พูด แต่มือนะจะอะไรนักหนาลูบอยู่นั่น ลูบเข้าไปสิ เดี๋ยวแขน เดี๋ยวท้อง ชอบตอด ชอบนัวเนีย ชาติที่แล้วเป็นลูกครึ่งปลากับปลาหมึกหรือไงกัน นึกภาพตามแล้วอุบาทว์ชะมัด แต่ผมจะทำอะไรมากก็ไม่ได้ ทำได้แค่ตะปบมือเขาไว้ให้อยู่นิ่ง ๆ แต่อีกคนก็ไม่วายพยายามขยับนิ้วเขี่ยไปมาอยู่นั่น ฮึ่ย

“รักขอโทษ” ผมกับกรกันมาสบตากันนิดนึง ก่อนจะหันไปมองนอกรถต่อ ไหนชินว่ารักโกรธมัน แล้วทำไปทำมาไหงกลายเป็นรักที่เอ่ยขอโทษชิน แต่ผมไม่ได้ยินว่าชินพูดอะไรตอบกลับมา น่าตลกดีไหมล่ะ ผู้ชายโต ๆ สองคนมานั่งเบียดกันเพื่อแอบฟังเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบสองคนคุยกันหูผึ่ง

“รักโทรหานะ” ไอ้เปี๊ยกของกรกลายเป็นฝ่ายตามง้อเขาไปแล้ว ยังไงกันวะ แล้วก็ไม่รู้ว่าชินตอบกลับมายังไงอีกเหมือนเดิม แต่เห็นรักมันมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า แสดงว่าอีกฝ่ายคงตอบตกลง พอเห็นว่ารักกำลังจะหันกลับมาขึ้นรถ เราสองคนที่แอบฟังน้องอยู่ก็ดีดตัวกลับที่แล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ในทันที ถ้าน้องเห็นล่ะก็นะ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน 

“คุยกันยัง” กรถามหลังจากออกรถมาได้ไม่ไกล ทำเหมือนคนไม่รู้ไม่เห็นอะไรมาก่อนหน้านี้ทั้งนั้น น่ากลัวไปแล้วนะแฟนผม หรือว่าผมเองก็พอกัน

“ก็คุยนิดหน่อย” รักตอบกลับมาไม่เต็มเสียง

“หรอ ดีแล้วล่ะ” ผมบอกน้อง ส่วนเรื่องที่ว่าระหว่างคู่นี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเดี๋ยวค่อยหาจังหวะตะล่อมถามกันอีกที ให้มันดีกันแน่ ๆ ก่อน
   
..............................................................
........................................


“กร กร” ผมเรียกกรที่ยังนอนอยู่ ส่วนผมแปรงฟัน ล้างหน้าแล้ว แต่ยังไม่อาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาอยู่ในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น เตรียมออกไปวิ่งตอนเช้า วิ่งกลับมาค่อยอาบน้ำทีเดียว ไม่ได้ตั้งใจว่าจะออกไปวิ่งตั้งแต่แรก แต่พอดีตื่นเช้าขึ้นมาเอง เลยมาปลุกกรไปวิ่งด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่ากรจะยอมไปหรือเปล่า ดูนอนสบายขนาดนี้ ส่วนช่วงสายวันนี้ผมตั้งใจว่าจะเข้าไปดูคอนโดฯ ยังไม่ได้คิดไว้ว่าจะตกแต่งยังไง เข้าไปดูที่จริงก่อนค่อยว่ากัน 

ตอนแรกพี่กาวน์ก็มาถามผมว่าจะให้ตกแต่งห้องให้เลยไหม แต่ผมปฏิเสธเพราะอยากทำเองมากกว่า พอตอบไปแบบนี้แทนที่จบเรื่อง พี่แกกลับทำท่าเหมือนนึกอะไรอยู่สักพักแล้วก็ยิ้มแปลก ๆ ให้ผมเสียวสันหลังเล่น และแล้วงานก็วิ่งเข้ามาหาผมจนได้ เมื่อสิ่งที่พี่ชายผมเขานึกขึ้นได้นั่นคือ พี่แกเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ามีน้องเป็นสถาปนิก ที่ต้องบอกว่านึกขึ้นได้เพราะพี่แกบอกว่าลืมไปแล้วว่าผมเป็นสถาปนิกเพราะเห็นผมยุ่งอยู่แต่กับการทำหนังสือ 

พอนึกขึ้นได้อย่างนั้นก็เลยบอกให้ผมออกแบบตกแต่งห้องของพี่แกให้ด้วย แต่ผมยังไม่รับทำให้ มัณฑนากรที่จ้างมาตกแต่งคอนโดฯ ก็มีอยู่แล้วจะมายุ่งกับผมทำไม แล้วผมก็บอกไปอีกว่าผมจบสถาปัตย์ไม่ได้จบมัณฑณศิลป์ใช้งานผิดแล้ว แต่มีหรอที่พี่ผมมันจะฟัง มันบอกก็คล้าย ๆ กันแหละ แล้วยังบอกอีกว่าทีบ้านผม ผมยังออกแบบตกแต่งเองได้ คอนโดฯ มันก็ต้องทำได้ มันบอกให้คิดว่าทำงานแลกกับที่มันยกคอนโดฯ ให้ผมห้องนึง ผมว่าพี่ผมมันอยากหาเรื่องใช้ผมมากกว่าดูหน้าก็รู้

สุดท้ายก็กลายเป็นว่าผมหางานให้ตัวเองเสียอย่างนั้น ถ้าให้เขาตกแต่งให้เสร็จก็หมดเรื่องแล้ว งานก็ไม่ต้องทำ เงินก็ไม่ต้องเสีย พอตอบปฏิเสธ งานดันเข้าเสียอย่างงั้น เงินค่าตกแต่งห้องก็ต้องเสียเอง แถมต้องคิดงานเพิ่มเป็นสองเท่า เอาวะคิดซะว่าคอนโดฯ มันแพง คุ้มเกินค่างานหรอกถึงยอมทำให้ ที่สำคัญผมอยากรู้ว่าไอ้ห้องที่ผมจะทำให้เนี่ย ผมจะได้ทำตามความชอบหรือรสนิยมของใคร ของพี่ชายผมหรือของน้องชายผมอีกคน มันน่าสนุกตรงนี้นี่แหละ

“ยังเช้าอยู่เลย จะไปไหน” เสียงกรตอบกลับมา เมื่อหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นว่าพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น

“ไปวิ่งกัน” ผมชวน แล้วเดินไปหยิบเสื้อยืด กางเกงขาสั้นและชั้นในมาเตรียมให้กร ก่อนเอามาวางไว้ที่ปลายเตียง

“อืม” ปากตอบรับมาแล้ว แต่ตัวยังไม่ยอมขยับ

“อืมแล้ว ก็ลุก” ผมพูด แล้วดึงแขนกรลากตัวมาให้อยู่ใกล้ขอบเตียง ก่อนจับข้อมือทั้งสองข้างดึงตัวกรให้ลุกขึ้นมา

“เสื้อผ้าอยู่นี่แล้ว กันต์ลงไปรอข้างล่างนะ” ผมบอก พอกรพยักหน้ารับ ผมก็เดินลงมาหาป้านิ่มที่ตอนนี้คงจะอยู่ในครัว แล้วก็กะไว้ไม่ผิด เพราะกลิ่นหอม ๆ ที่ลอยออกมาจากในครัวมันฟ้อง เพิ่งจะหกโมงครึ่งเอง แต่ป้านิ่มลงครัวมาเตรียมมื้อเช้าให้พวกผมเรียบร้อยแล้ว

“เช้านี้มีอะไรกินครับป้านิ่ม” ผมถาม แล้วชะเง้อมองของที่อยู่ในหม้อ แล้วก็เห็นน้ำซุปกระดูกหมู

“ต้มเกี๊ยมอี๋ค่ะ” ป้านิ้มตอบกลับมาระหว่างที่กำลังซอยผักชีต้นหอมสำหรับโรยหน้า มาบ้านที่หัวหินทีไรไม่มีสักครั้งที่จะไม่ได้กินของโปรด

“มีอะไรให้กันต์ช่วยไหมครับ” ผมถาม แล้วเปิดถ้วยนั้นถ้วยนี้ดู ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดนมจืดที่ซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้เมื่อคืนออกมา

“ไม่มีแล้วค่ะ ป้าซอยต้นหอมผักชีนี่เสร็จ ก็เสร็จหมดแล้ว”

“ครับ ตอนกลางวันป้านิ่มไม่ต้องทำกับข้าวไว้นะ กันต์จะออกไปข้างนอกกัน แต่ตอนเย็นจะเข้ามานะครับ”

“ค่ะ แล้วพรุ่งนี้จะกลับกันกี่โมงคะ ทานข้าวเช้าก่อนแล้วค่อยออกไปเหมือนเดิมหรือเปล่า”

“ครับ” ผมตอบ

“แล้วนี่จะทานมื้อเช้าเลยไหมคะ เสร็จแล้ว เดี๋ยวป้าตักให้”

 “ยังครับป้า กันต์กับกรจะออกไปวิ่ง เดี๋ยวกลับมากินนะครับ” คนตอบไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นกรที่ลงมาทันได้ยินป้านิ่มถามผมพอดี พอกรเข้ามาใกล้ ๆ ผมก็ยื่นแก้วนมไปให้

“ค่ะ ไปกันเถอะคะ สายกว่านี้แดดจะร้อน เจ็ดโมงแดดก็เริ่มออกแล้ว” ป้านิ่มบอก ส่วนผมรอกรดื่มนมจนหมดก็เอาแก้วไปเก็บให้ 

“ไปแล้วครับป้า” กรพูด ก่อนจะดันหลังผมให้เดินออกมาพร้อมกัน แต่ก่อนจะออกจากบ้านก็ต้องแวะไปรับสมาชิกอีกหนึ่งที่จะไปวิ่งด้วยกันก่อน แค่เปิดประตูก้าวออกมาก็เสียงเรียกมาก่อนที่ตัวจะวิ่งกระโจนมาถึงเสียอีก

“ซูชิ เบา ๆ” กรรีบตะโกนห้ามไว้ก่อน เพราะถ้าให้มันกระโจนใส่เต็มแรงมีหวังได้ล้มกันทั้งยืน

พอสมาชิกครบ ผมกับกรก็ยืดเส้นยืดสายกันสองสามนาทีก่อนออกวิ่งกัน เราสองคนกับอีกหนึ่งตัวก็พากันวิ่งไปเรื่อย ๆ ตามถนนเลียบหาด จนกะว่าน่าจะได้สักครึ่งกิโลก็พากันวิ่งกลับ ไปกลับก็กิโลนึงพอดี จะวิ่งไปไกลกว่านั้นก็กลัวซูชิมันจะวิ่งไม่ไว้ แค่ครึ่งโลฯ ก็ลิ้นห้อยแล้ว พอขากลับเลยต้องพากันวิ่งสลับเดิน

พอกลับมาถึงบ้านก็ยังไม่ได้อาบน้ำกินข้าวกัน เพราะไอ้ลูกชายผมมันวิ่งไปคาบลูกบอลพลาสติกมาชวนผมเล่น สงสัยลุงนานไปซื้อมาให้มันเล่น เป็นลูกบอลพลาสติกแบบที่เด็กเขาเตะเล่นกัน พอมันคาบมาทีก็เต็มปาก ผมกับกรก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ ก่อนพากันวิ่งนำซูชิลงไปที่หาดหลังบ้าน ลูกชายผมมันฉลาดเตะบอลเป็นด้วย เห็นแล้วก็อยากพากลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วย เอาไปเป็นเพื่อนเจ้าเรนที่ตอนนี้กรไปเอามาเลี้ยงที่บ้าน เวลาไม่อยู่ถึงจะเอากลับไปไว้ที่บ้านพ่อแม่ แต่ถ้าเอาซูชิไปผมก็สงสารลุงนานอีก แกคงเหงา เพราะฉะนั้นก็ให้มันอยู่ที่นี่ดีกว่า คิดถึงก็มาหา

ผมว่าเล่นกับมันนี่ได้เหงื่อยิ่งกว่าไปวิ่งเมื่อกี้อีก พอเล่นกันจนเหนื่อยไอ้ลูกชายผมมันก็วิ่งขึ้นบ้านไป ส่วนผมกับกรที่หมดแรงแล้วก็ถูกมันทิ้งให้นอนแผ่กันอยู่ที่เก้าอี้นอนใต้ต้นไม้

.
.
.


“หยุดนะ อย่าเข้ามา” ผมรีบชี้หน้าบอกกรที่ลุกจากเก้าอี้ข้าง ๆ แล้วย่างเท้าเข้ามาใกล้ แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าคิดจะทำอะไร อย่านะเว้ย

“ทำไม ชี้หน้ากรทำไม”

“เฮ้ย ไม่เล่นนะ” ผมลุกขึ้นจะวิ่งแล้ว แต่มันไม่ทัน ถูกรวบตัวแล้วยกขึ้นพาดบ่าอีกคนไปเรียบร้อย ไม่คิดจะให้โอกาสหนีกันหน่อยหรอ

“เอาน่า ไปเล่นน้ำกันเหอะ เนี่ยอากาศกำลังดีเลย” ไอ้คนที่แบกผมอยู่เนี่ยก็ไม่ได้สนใจเลยว่าผมพูดอะไรบ้าง บอกไม่เล่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจเลย

ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเล่นน้ำหรือยังไง มาทะเลก็เล่นน้ำเกือบทุกครั้งอยู่แล้ว เมื่อวานก็ลงเล่น แต่ที่ยังไม่อยากเล่นตอนนี้เพราะกำลังนอนเพลิน ๆ  แล้วก็ไม่รู้ว่ากรเป็นอะไร ถ้าเห็นผมนอนมีความสุขเมื่อไหร่ละก็ชอบเข้ามาแกล้งนักล่ะ ยิ่งเห็นผมโวยวายยิ่งชอบ โรคจิตชัด ๆ ส่วนผมก็พยายามแล้วจะไม่โวยวาย แต่มันอดได้ที่ไหนก็ดูเขาทำกับผมแต่ละอย่าง

“เอ้ย จะอุ้มไปถึงไหน ปล่อยได้แล้ว” ผมร้องบอก เมื่อเห็นว่ากรไม่จับผมทุ่มลงน้ำอย่างทุกทีแต่พาเดินลงทะเลลึกออกไปเรื่อย ๆ

“เฮ้ย จะทำอะไร” ผมร้องเป็นรอบที่สอง เมื่อถูกคนที่แบกลงทะเลจับเปลี่ยนท่าอุ้มใหม่ ขาผมสองข้างถูกจับให้เกี่ยวรอบเอวเขา มีมือเขาทั้งสองข้างมาช้อนสะโพกผมเพื่อรับน้ำหนักไว้ จะดิ้นก็กลัวหงายหลังโครมลงน้ำให้สำลัก เลยได้แต่เกาะบ่าคนอุ้มไว้ แต่รู้สึกว่าท่าทางมันล่อแหลมยังไงพิกล คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง กลางทะเลแบบนี้ ไม่มีอะไรแน่ ๆ ไม่มี ไม่มี

“กร ปล่อย” ปากพูดบอกกรไป แต่สายตาต้องหันกลับไปมองด้านหลังเมื่อไม่เห็นมีใคร ถึงหันมองไปทางอื่น มองจนรบแล้วว่าไม่มีใครถึงกลับมาสนใจกับใบหน้าที่อยู่ใกล้กันแค่คืบ

“ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่พามาเล่นน้ำเฉย ๆ เอง ไม่ปล่อยหรอก” ยังจะมาตอบหน้าตาเฉยอีก ให้ไอ้ที่คิดอยู่มันไม่มีอะไรเหมือนที่พูดเหอะ

“เล่นแบบนี้ไม่เอา เดี๋ยวใครมาเห็น” ผมพูดแล้วมองไปรอบ ๆ อีก

“ไม่มีใครหรอกเช้าขนาดนี้ น้ำก็เย็นใครจะออกมาเล่น” กรตอบ แล้วไอ้บ้าที่ไหนมันมายืนอยู่ในน้ำนี่ล่ะ เป็นคนอื่นมาเห็นผมอาจจะไม่ใส่ใจอะไรมากแล้วก็มีโอกาสน้อยมาที่จะมีคนอื่นมาเห็นเพราะแถวนี้มีแต่บ้านพักส่วนตัว แต่ละหลังก็ห่างกันเป็นโยชน์ แต่ที่ผมกังวลคือคนในบ้านต่างหาก ผมยังไม่อยากทำคนแก่หัวใจวาย

“งั้นไปลึกกว่านี้อีกหน่อยดีกว่า ถ้าเห็นก็เห็นแบบลิบ ๆ เขาไม่รู้หรอก ว่าอะไรเป็นอะไร” กรพูดต่อ เฮ้ย ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พอพูดจบกรก็พาผมเดินลึกลงไปในทะเลอีก จนกรโผล่พ้นน้ำทะเลมาแค่ช่วงบ่า ส่วนผมอยู่แค่ระดับอกเพราะถูกอุ้มไว้ แล้วไอ้ที่พูดว่าอะไรเป็นอะไร นี่มันคืออะไร

“จะทำอะไร ปล่อยนะกร” ผมบอก

“กร” ผมเรียกชื่อเขาซ้ำ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ มุมปากที่ยกยิ้มแบบไม่น่าไว้ใจ

“กลับขึ้นบ้านเถอะนะ” เมื่อดุแล้วไม่ได้ผล ผมก็ต้องลองใช้ไม้อ่อนดูบ้างเผื่อจะได้ผล ทำยังไงก็ได้ให้ผมรอดจากตรงนี้ไปก่อน

“นะ” นะ นะอะไร อย่ามาพูดสั้น ๆ แบบนี้ ไม่ชอบเลยเวลากรพูดสั้น ๆ เพราะมันจะหมายถึงความไม่ปลอดภัยในสวัสดิภาพของผม ไม่รู้ว่าไอ้คำว่า “นะ” คำเดียวนี่มันกลายเป็นคำสื่อถึงเรื่องอย่างว่าระหว่างผมกับกรไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอกรพูดคำนี้ทีไร รู้ตัวอีกทีของกรก็เกือบจะเข้ามาอยู่ในตัวผมแล้ว ดีที่ครั้งนี้ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น

“มะ อุ๊บ” ยังไม่ทันจะตอบอีกคนก็โฉบปากลงมาปิดปากผมไว้เสียก่อน อย่าเพิ่งทำแบบนี้ได้ไหมเล่า ผมพยายามทุบหลังทุบไหล่กรก็แล้ว เบี่ยงหน้านี้ก็แล้ว แต่กรก็ยังไม่ยอมหยุด จนเขาพอใจแล้วถึงได้ยอมถอยออกไปเอง

“อายหรอ” ถามมาได้ ไม่อายก็ด้านเกินไปแล้ว มองดูบ้างนี่มันกลางแจ้ง ถึงจะในน้ำลึกก็เถอะ ผมไม่ตอบแต่ก้มหน้าลงกับบ่าของกรแทน แล้วค่อยพยักหน้าตอบทั้งที่ยังก้มหน้างุดซุกอยู่กับบ่าเขา ตอนนี้รู้สึกว่าหน้าของผมมันร้อนฉ่าไปหมด ทั้งที่ตัวแช่อยู่ในน้ำเย็น การกระทำของผมทำไมมันไม่ไปทางเดียวกับที่คิด ผมควรจะต้องออกแรงทำยังไงก็ได้ให้กรปล่อยตัวผม ไม่ใช่มาตัวอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟก้มหน้าซุกบ่าเขาอยู่แบบนี้

“ปล่อยเหอะ” ผมบอกเสียงอ่อย ถ้าอยู่ท่านี้นาน ๆ เข้า ผมว่าผมคงไม่รอด ยิ่งคลื่นกระแทกตัวเข้ามาที ไอ้อะไร ๆ ที่มันเสียดสีกันอยู่มันก็ยิ่งขยับบดเบียดเข้าหากันไปใหญ่ ผมก็พยายามจะโหย่งตัวหนี แต่อีกคนก็พยายามจะทำให้มันแนบชิดกันมากขึ้นตลอด

“เปลี่ยนบรรยากาศไง ตื่นเต้นดีออก” ใช่ ตื่นเต้นมากเลยล่ะตอนนี้ ทั้งตื่นเต้นทั้งลุ้นระทึก ถูกทำให้ตื่นทั้งตัวเลยตอนนี้ ถ้าตัวไม่เปียกคงเห็นว่าผมขนลุกอยู่

“ไม่เอาตรงนี้” ผมยังยืนยัน ให้ทำตรงนี้ไม่เอาจริง ๆ ยังไงก็ไม่เด็ดขาด

“ถ้าเข้าบ้านแล้วได้ใช่ไหม” พอถูกถามแบบนี้ผมก็รีบพยักหน้าตอบ ทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่แบบนั้น ส่วนกรพอผมตอบแบบนั้นเขาก็ยกมือมากดหัวผมให้แนบลงกับบ่าเขาแน่นขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็กอดผมไว้จนแน่น ผมเองก็กอดเขาตอบ

“ตอนเช้านะ” กรถามอีก ผมก็พยักหน้าตอบอีก ยังไงก็ได้ ตอนไหนก็ได้ แค่เป็นที่เตียง ไม่ใช่ในทะเลนี่

“งั้นกลับเข้าบ้านกัน” พอได้ยินแบบนั้นผมก็รีบผงกหัวตอบ ได้ยินเสียงกรหัวเราะในคอด้วย แต่ก็ช่างมันเถอะ ผมไม่สนใจแล้ว

-------------------------------------------------------

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1941 เมื่อ13-04-2012 23:19:30 »

กันต์อ่ะ กรเข้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่ใจเลย

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1942 เมื่อ13-04-2012 23:33:17 »

โหวววววววววววววววววววว อดดูเลย อุตส่าห์ตามไปแอบดู ดันพาเข้าห้องอีกแล้วววววววววววววว :z3:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1943 เมื่อ14-04-2012 00:45:59 »

"นะ"......   :haun4:

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1944 เมื่อ14-04-2012 01:03:30 »

ต่อ อีกนิด.       นะ (:

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1945 เมื่อ14-04-2012 04:21:06 »

เด็กน้อยดีกันแล้ว
ทะเลหวาน :-[
สุขสันต์วันสงกรานต์ :mc4:
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2012 04:36:48 โดย Horizon »

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1946 เมื่อ14-04-2012 05:36:53 »

                                               เด็กผลัดกันง้อผลัดกันงอน พี่ๆคอยเชียร์ล่ะกัน

ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1947 เมื่อ14-04-2012 07:01:05 »

น่ารักอ่ะน่ารัก...น่ารักที่สรวดดดดดด

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1948 เมื่อ14-04-2012 12:33:21 »

 :L1: :กอด1:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รักคือ... รัก >>> Shy p. 65 13/4/12
«ตอบ #1949 เมื่อ14-04-2012 13:50:09 »

ไปนอนรอใต้เตียงกว่าเรา  หุ หุ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด