รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 582372 ครั้ง)

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ฮึ๊บบบ 


ดันๆ


คิดถึงสองหนุ่มนี้ตลอดเวนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
คิดถึงทั้งสี่หนุ่มแล้วนะคะ :call:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 50 อ้อนเกิน

“อือ” เสียงผมครางในลำคอตอบรับสายกรที่โทรเข้ามา จริงๆ ไม่ใช่เสียงที่ผมจะใช้รับสายหรอกครับ แต่เป็นเสียงครางเพราะรู้สึกมึนหัวมากกว่า เหมือนหัวมันหนักจนยกแทบไม่ขึ้น ไอ้ตอนแรกที่ขยับพลิกตัวไปคว้าโทรศัพท์จากโต๊ะหน้าโซฟายังไม่เป็นอะไร แต่พอได้โทรศัพท์มากดรับแล้ว และหยัดตัวลุกขึ้นมานั่งนี่ล่ะ กลับปวดหัวขึ้นมาเสียเฉยๆ

“ตื่นหรือยัง” กรถามผม

“เพิ่งตื่น กี่โมงแล้ว” ผมถามกลับไป เพราะยังไม่ได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกไว้ดังขึ้นก่อนหน้าที่กรจะโทรเข้ามา ซึ่งผมตั้งปลุกไว้ตอนเจ็ดโมงครึ่ง

“เจ็ดโมง วันนี้จะออกไปคุยงานใช่ไหม” กรตอบและถามผมต่อ ระหว่างเราสองคนถ้ามีวันไหนที่ใครมีนัดออกไปข้างนอก นอกเหนือจากที่ที่ไปอยู่เป็นปกติ มักจะบอกกันไว้ล่วงหน้าเสมอครับ อย่างเช่น วันไหนที่ผมมีนัดลูกค้า หรือมีประชุมที่โรงพิมพ์ไม่เข้าออฟฟิศ ผมก็จะบอกกรไว้ หรือถ้านัดกะทันหันผมก็จะโทรไปบอก มันก็ไม่ถึงกับจะเรียกว่าต้องรายงานตัวกันตลอด แต่อยากบอกกันเองมากกว่า เพราะฉะนั้นในตารางนัดหมายในโทรศัพท์ก็จะมีตารางนัดหมายของอีกคนอยู่ด้วย

“อืม แต่คงจะให้คนอื่นไปแทน” ผมบอก พอกรถามถึงเรื่องที่ผมต้องออกไปคุยงาน ผมเลยลากสังขารตัวเองไปเข้าห้องน้ำ ตั้งใจว่าจะเข้าไปดูสภาพของตัวเองเสียหน่อย หลังจากเมื่อคืนปล่อยเลยตามเลย แทบไม่ได้ทำอะไรกับตัวเองทั้งนั้น อย่างดีก็แค่ล้างหน้าก่อนนอน แผลอะไรก็ไม่ได้สนใจ

พอผมได้เห็นภาพสะท้อนของหน้าตัวเองในกระจกแล้ว ก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าต้องเปลี่ยนแผนให้คนอื่นไปแทนผม เพราะสภาพร่างกายผมมันไม่เอื้ออำนวยจริงๆ น้ำก็ยังไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อคืน ยิ่งส่งให้อะไรๆ ดูแย่ลงไปอีก ที่มุมปากมีรอยแตกเล็กๆ แต่ที่สะดุดตาก็คงเป็นรอยม่วงช้ำที่ผิวเนื้อข้างมุมปากนั่นแหละ ขนาดที่ว่าเห็นได้แต่ไกล เสื้อเชิ้ตก็อยู่ในสภาพที่หลุดลุ่ยออกนอกกางเกง เข็มขัดกับถุงเท้าก็ยังไม่ได้ถอด เรียกว่าก่อนออกจากบ้านเมื่อคืนใส่ออกไปกี่ชิ้น ตื่นเช้ามาก็ยังอยู่แบบนั้น ขาดไปแค่รองเท้าที่ถูกถอดไปแล้ว

“ไม่สบายหรือเปล่า” เสียงกรถามมา เขาความรู้สึกไว หรือผมไปแสดงอาการอะไรให้เขาจับได้ล่ะครับว่าผมไม่สบาย ก็แค่บอกว่าจะให้คนอื่นไปแทน มันไม่ได้แปลว่าผมต้องป่วยเสียหน่อย

“ปวดหัว” ผมบอก ปากก็บอกไปแค่นั้นแหละครับ ตอนแรกว่าจะไม่บอกเลยด้วยซ้ำว่าไม่สบาย แต่มันหลุดปากไปแล้ว เพราะใจจริงมันอยากจะบอกไปให้หมดว่า ตอนนี้ก็ปวดหัวมาก ๆ เจ็บแผลด้วย เพราะไปโดนต่อยมาเมื่อคืน แต่ไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่อง ไม่ได้เริ่มก่อนด้วย” แต่ก็หลุดบอกไปแค่ปวดหัว และยั้งปากไว้ทัน บอกแค่ครึ่งเดียวพอครับ ไม่ได้โกหก แค่บอกไม่หมดเท่านั้นเอง เอาไว้กลับมาเจอหน้ากันเมื่อไหร่ค่อยบอก

“กินยาหรือยัง” ก็เพราะรู้ว่าบอกไปแล้วจะได้ผลตอบรับแบบนี้ยังไงเล่า ผมถึงไม่อยากบอก เขาเป็นห่วงมันก็รู้สึกดี และดีใจเป็นธรรมดาแหละครับ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า แค่เสียงอย่างเดียวมันไม่พอ ผมไม่ได้จะงี่เง่านะ ก็รู้ว่ากรไปทำงาน ผมก็แค่คิดเฉยๆ เองว่า ถ้าเขาอยู่ด้วยกันก็คงดี ทำไมต้องมามีเรื่องตอนกรไม่อยู่ด้วย

“ยัง” ผมตอบ แล้วเดินไปหายาจากกล่องที่เก็บไว้ในตู้กิน หลังจากนั้นก็ว่าจะเข้าไปอาบน้ำ และนอนต่อ

“มีไข้หรือเปล่า” กรยังถามผมต่อไปเรื่อยๆ

“นิดหน่อย” ผมบอก เพราะรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อยู่เหมือนกัน เดี๋ยววางสายจากกรคงต้องรีบโทรศัพท์ไปสั่งที่ออฟฟิศเรื่องงาน และวันนี้ทั้งวันผมคงไม่เข้าไปทำงาน แต่ไอ้ที่เป็นไข้ขึ้นมาไม่น่าจะใช่เพราะโดนต่อยหรอกครับ เรื่องนั้นมันเรื่องเล็ก แต่เป็นเพราะอากาศมันเปลี่ยนมากกว่า น่าจะสะสมมาตั้งแต่กลับมาจากที่กลับมาจากเชียงใหม่ จากหนาวแล้วมาเจอร้อน เลยร่ำๆ ว่าจะเป็นไข้ไม่สบายอยู่ตั้งแต่วันสองวันแรกที่กลับมา แต่ก็ไม่เป็น ดันมาออกอาการเอาตอนนี้

“หาข้าวกินก่อน แล้วค่อยนอนต่อ ให้กรโทรสั่งให้ไหม” กรพูดบอกผม แกมบังคับ ผมคิดว่าเขารู้ดีว่าผมจะทำอะไร

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวสั่งเอง” ผมบอก ระหว่างเดินกลับเข้าห้องนอน

“กรโทรสั่งให้ดีกว่า รอกันต์สั่งเองได้กินเย็นมื้อเดียว เอาข้าวต้มปลาแล้วกันนะ” กรบอกผม นั่นไงครับ บอกแล้วว่าเขารู้จักผมดี ถึงรู้ทันกันไปหมด

แล้วก็จริงอย่างเขาว่า เวลาผมไม่สบายไม่ค่อยกินข้าวหรอกครับ แค่กินยาแล้วก็นอน ตื่นมาก็กินยาอีก แต่จะไม่กินอะไร มันไม่ใช่ว่าไม่หิว หรือไม่อยากกิน แต่เรื่องของเรื่องคือมันจะรู้สึกขี้เกียจจนไม่อยากทำอะไรมากกว่า ก็จะปล่อยตัวเองอด บางทีถึงกับหิวโซ แล้วไปกินรวบมื้อเย็นมื้อเดียว กรพอรู้ว่าผมชอบทำแบบนั้นเลยต้องบังคับให้ผมกินตลอด ถ้าไม่สบายขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาแทบจะอยู่เฝ้าผมทั้งวัน ถ้าไม่มีธุระหรือจำเป็นต้องออกไปไหน

แล้วก็เพิ่งคิดขึ้นมาได้ครับว่า “กูโคตรเด็กเลย ต้องมีคนเฝ้า กับแค่เรื่องกินข้าว” หรือผมจะขี้อ้อนเอามากๆ ก็ไม่รู้ กรเคยพูดอย่างนั้นเวลาผมไม่สบาย เขาบอกว่าผมขี้อ้อนมากกว่าปกติเยอะ ทำไมผมไม่เห็นรู้ตัว ก็ไม่เห็นว่าจะขี้อ้อนตรงไหน ช่างเถอะขี้เกียจคิด

“อื้อ” ผมตอบรับ ระหว่างถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ ส่วนกรตามใจเขาแล้วกันครับ ไม่อยากขัด จะโทรข้ามประเทศมาสั่งข้าวต้มจากร้านที่คอนโดฯ มาให้ผมก็ตามใจ ผมอือออรับลูกเดียวครับ ตอนนี้รู้แค่ว่า อยากอาบน้ำ แล้วนอนต่อไวไว ไม่มีแรงไปคิด ไปเถียงอะไรด้วยแล้วครับ มันตื้อๆ ไปหมดเลยตอนนี้

“กันต์”


“กันต์” เสียงกรเรียกซ้ำสองเลยทำให้ผมรู้สึกตัวขึ้นมา ตอนนี้เข้ามานอนอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้ว เมื่อกี้พอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็ตรงดิ่งมาที่เตียงและเผลอหลับตา สงสัยจะวูบหลับไป จนกรต้องเรียก

“อื้อ” ผมส่งเสียงยานคางตอบรับ ก่อนยันตัวลุกขึ้นมานั่ง  

“เอาดีๆ ไหวไหม เป็นอะไรมากหรือเปล่า” น้ำเสียงกรจริงจังมากขึ้นจากตอนแรก “อย่ามาทำเสียงแบบนี้สิวะ อื้อ” ผมคิด แล้วครางฮืออยู่กับตัวเอง

“ไหว จะอาบน้ำนอนแล้ว แค่นี้นะ” ผมรีบพูด แล้วตัดสายทิ้งทันที ให้พูดนานกว่านี้ไม่ไหวแล้วครับ ด้วยร่างกายที่ไม่ไหว บวกกับความที่กลัวตัวเองจะเรียกร้องอะไรออกไปในเวลาที่ไม่สมควร เลยใช้วิธีตัดบทเสียดื้อๆ แบบนี้ แล้วรีบพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้รู้สึกสบายตัว

ออกมาจากห้องน้ำก็เดินมาดูโทรศัพท์อีกครั้ง ก็เห็นสายที่ไม่ได้รับจากกรอยู่สามสาย แต่ตัดสินใจไม่โทรกลับ แล้วเลือกการส่งข้อความกลับไปแทน บอกเขาว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนเที่ยงจะโทรไป” ก่อนล้มตัวลงนอน
.
.
.

นอนไปได้ไม่นานก็มีเสียงกริ่งดังเรียก ไม่ได้สงสัยอะไรมากครับ ลุกขึ้นไปเปิดประตูเลยเพราะเดาว่าเป็นคนที่ขึ้นมาส่งมื้อเช้าให้ผมแน่ๆ แล้วก็จริงตามคาดครับ เป็นข้าวต้มปลาที่กรสั่งให้มาส่ง ผมก็รับมาจัดการไปได้ประมาณครึ่งชามเพราะทนเจ็บแผลในปากไม่ไหว ไอ้แผลด้านนอกไม่เท่าไหร่ แต่แผลในปากมันเจ็บว่า ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้คงกลายเป็นแผลร้อนในแผลใหญ่ขึ้นมาแน่ๆ ถึงตอนนั้นคงลำบากเพราะกินอะไรไม่ค่อยได้จริงๆ คิดแล้วก็หงุดหงิดไปหมดเลยครับ พาลจะโมโหเอาง่ายๆ ด้วย กินเสร็จก็ทิ้งชามเอาไว้แบบนั้นเลย กะว่าตอนเย็นสั่งข้าวขึ้นมากินอีก ค่อยให้คนมาส่งรับไปเก็บ

ก่อนจะหลับอีกรอบ ก็กดส่งข้อความไปหากรก่อนว่า “กินข้าวเช้าแล้ว กำลังเข้านอน” ส่งข้อความแบบนี้ดีกว่าครับ เขาจะได้ไม่ต้องมาพะว้าพะวงอะไรกับตัวผมจนเสียงานด้วย


…………………………………………………….


แล้วผมก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงกริ่งเรียกเป็นรอบสองของวัน คิดว่าคงเที่ยงแล้ว และคนจากร้านอาหารข้างร้านคงจะเอาข้าวกลางวันขึ้นมาส่ง แต่ตอนนี้ไม่ยากลุกเลย รู้สึกว่าอาการของผมมันแย่ลงกว่าเดิมอีก

“เออๆ มาแล้ว” เสียงป่านกำลังพูดโทรศัพท์ ตอนผมเปิดประตูออกไปเจอ ก่อนที่ผมจะหลีกทางให้ป่านเดินเข้ามาในห้อง

“เป็นไงบ้างพี่ แล้วนี่หน้าไปโดนอะไรมา” เสียงป่านทักผม พร้อมยกหลังมือข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่ขึ้นมาอังหน้าผากผม ส่วนมืออีกข้างมีถุงใส่ของกินอยู่สามสี่ถุง

“ไปหาหมอไหมพี่ ตัวร้อนโคตร” ป่านบอกผม แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นพูดอีกครั้ง ส่วนผมก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ เพราะไม่อยากออกไปไหน

“ตัวร้อน แถมไปมีเรื่องกับใครมาไม่รู้วะ” ตอนนี้เริ่มเดาได้แล้วครับว่าปลายสายที่ป่านคุยด้วยเป็นใคร แต่จะพูดหรือยกมือขึ้นห้ามไม่ให้บอกปลายสายก็ไม่ทันแล้ว แล้วตอนนี้คนที่เพิ่งมาก็เดินเข้าไปในครัวแล้ว ผมเลยทำแค่เดินไปนั่งทิ้งตัวลงบนโซฟา ปล่อยให้ป่านมันจัดการอะไรของมันไป

“ไม่เป็นไรมาก แค่ช้ำๆ” เสียงป่านยังแว่วมาให้ผมได้ยินจากในครัว

“พี่กันต์กินอะไร มีข้าวต้ม มีซุปไก่ ก๊วยเตี๋ยว” ป่านถามผม แต่ผมไม่ได้ตอบไปทันที เพราะยังไม่อยากกินอะไรเลยตอนนี้ แต่ก็ตัดสินใจเลือกไป ไหนๆ น้องมันก็ซื้อมาให้แล้ว

“เอาซุปแล้วกัน” ผมตอบตามที่เลือกไว้ เพราะฟังจากที่มันถามมาซุปน่าจะกินง่ายสุด แล้วไม่นานผมก็ได้ครีมซุปที่ถูกอุ่นจนร้อนใส่ถ้วยมาตั้งอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา

“เออๆ คุยเองแล้วกัน กูจะได้กินข้าวบ้าง” ป่านพูดกับคนในสาย พร้อมยื่นโทรศัพท์ในมือมาให้ ระหว่างที่เตรียมมื้อกลางวันให้ผม มันก็ยังคุยโทรศัพท์ไม่หยุดนะครับ แต่ผมก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง เพราะมันยังรู้สึกตื้อๆ อยู่มั้งครับ

“คุยกับมันหน่อยแล้วกัน มันไม่ว่าอะไรหรอก มันเป็นห่วงพี่กันต์จนต้องไปตามป่านมาดูเนี่ย” ป่านพูด เมื่อมันเห็นว่าผมไม่ยอมยื่นมือไปรับโทรศัพท์เสียที แล้วที่ผมไม่รับก็ไม่ใช่กลัวจะโดนว่าอะไรหรอกครับ แต่กลัวใจตัวเองมากกว่า

“เป็นยังไงบ้าง” คำถามแรกที่กรถามผม เมื่อผมส่งเสียงเข้าไปในสาย

“มึนหัวนิดหน่อย” ผมตอบ แล้วหันไปมองว่าป่านกำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็เห็นมันกำลังแกะข้าวที่ซื้อมากินอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พอผมหันกลับมาแล้ว ผมก็เอนตัวซบลงนอนกับโซฟา

“กินข้าวหรือยัง” กรถามผมต่อ

“ยัง เดี๋ยวกิน ป่านซื้อมาให้แล้ว” ผมตอบแบบใช้ความพยายามอย่างมากเพราะระบมกับแผล จนพูดไม่ถนัด พอเริ่มนอนได้ที่ก็ยกขาตามขึ้นมาบนโซฟา กะนอนเป็นเรื่องเป็นราวทั้งที่เพิ่งตื่นมาได้ไม่ถึงสิบนาที

“กินข้าว กินยา แล้วนอนพักนะ เดี๋ยวบ่ายๆ กรโทรไปหา” เสียงกรพูดกลับมา

“อื้อ” ผมส่งเสียงตอบรับในลำคอ แล้วหลับตาลงพักหนึ่ง เพราะคำพูดของกรมันทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนคำที่บอกให้ฝันดี จนผมอยากจะหลับตาลงนอนต่อ

“คิดถึงนะ บาย”

“อื้ม” ผมตอบรับสั้นๆ ก่อนกดวางสาย แล้วนอนอยู่อย่างนั้น จนป่านเดินมาชะโงกดูผมจากด้านหลังโซฟา แล้วส่งเสียงเรียก

“พี่กันต์ หลับหรือเปล่า ลุกมากินข้าวก่อน จะได้กินยา” ป่านว่า พอเห็นผมขยับตัวลุกขึ้นมา มันก็เดินกลับไปที่โต๊ะกินข้าวตามเดิม แล้วผมลงมือกินซุปที่ตั้งอยู่ตรงหน้าจนเกือบหมด สักพักป่านที่กินข้าวเสร็จแล้วก็ตามมาส่งน้ำ ส่งยาให้

“เดี๋ยวคืนนี้ป่านอยู่เป็นเพื่อน” ป่านบอกผม ผมก็พยักหน้าตอบรับไป ก่อนจะนั่งดูโทรศัพท์ต่อได้ไม่นานก็หลับไปอีกรอบ


..................................................................



“เป็นไงบ้าง” เสียงที่ผมได้ยินตอนตื่นยังไม่เต็มตา เพราะรู้สึกถึงมือเย็นๆ ที่มาแตะอยู่ที่แก้ม ก่อนจะวางค้างอยู่ที่หน้าผาก จนทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าอีกวัน ตอนแรกนึกว่าเป็นเสียงของป่านเพราะเมื่อคืนมาค้างอยู่กับผม แต่ไม่ใช่ ส่วนเมื่อวานป่านมันอยู่เป็นเพื่อนผม แถมยังรายงานอาการผมให้เพื่อนมันฟังเสร็จสรรพ สมเป็นเพื่อนรักกันดีเหลือเกิน แต่ผมมก็ว่าไปอย่างนั้นแหละครับ ถึงไม่มีกรบอกให้ทำ แต่ถ้ามันรู้ว่าผมป่วย มันก็มาทำให้แบบนี้เหมือนกันอยู่แล้ว จะว่าไปก็ไม่ได้เป็นไข้ไม่สบายหนักๆ แบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน

“ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลย ไหนดูแผลสิ” ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง หลังได้ยินเสียงจากคำถามที่สองชัดขึ้น พร้อมสายตาที่ปรับภาพจนเห็นได้อย่างชัดเจน หลังจากตาปรือเห็นภาพไม่ชัดเมื่อลืมตาขึ้นมาใหม่ๆ

“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามคำถามออกไปทันที โดยไม่สนใจที่จะตอบคำถามที่ถูกถามมาก่อนหน้า

“เพิ่งมาถึง” กรตอบ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างตัวผม ก่อนจะจับตัวผมเหมือนจะสำรวจว่ามีความผิดปกติอะไรตรงไหนบ้าง

“ทำไมกลับเร็ว” ผมถามต่อ แล้วก็ขอให้คำตอบออกมาเป็นงานเสร็จแล้ว มากกว่าจะตอบว่าเป็นเพราะผม

“ที่กำหนดกลับพรุ่งนี้เพราะคนอื่นจะเที่ยวกันต่อ พอเสร็จงานกรเลยขอพ่อกลับมาก่อน” กรตอบผม ส่วนผมก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าเอาหน้าผากไปแปะอยู่บนไหล่กร

“ปวดหัวหรือเปล่า” กรพูด ส่วนผมก็พยักหน้าแทนคำตอบทั้งที่หน้าผากยังแปะอยู่บนไหล่กรแบบนั้น เพราะรู้สึกว่าหัวมันหนักๆ      

“แล้วไปทำยังไงถึงมีเรื่องได้ล่ะ” กรถาม พร้อมกับสอดแขนเข้ามากอดเอวผมไว้ แล้วใช้มือหนึ่งลูบหลังผมเบาๆ ไปด้วย

“ไอ้ยุมันมีเรื่อง” ผมตอบเสียงอู้อี้อยู่กับไหล่คนถาม

“โดนลูกหลง” กรถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“คราวหลังไม่ให้ไปแล้ว” กรพูดเสียงเรียบ ส่วนผมพอได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับทันที

“ไม่เกี่ยว” ผมตอบ

“ไม่เกี่ยวได้ไง ก็เจ็บตัวอยู่นี่” กรพูดต่อ คราวนี้ผมเลิกซุกหน้าอยู่กับไหล่คนพูด แล้วเปลี่ยนเป็นเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาแทน บอกได้เลยว่าตอนนี้เริ่มไม่สบอารมณ์เล็กๆ

“คนจะมีเรื่องอยู่ที่ไหนมันก็มี” ผมเถียงต่อทันทีเหมือนเดิม

“เพราะเมากันด้วยหรือเปล่า ถ้าปกติก็อาจไม่มีเรื่อง” อ้าว พูดแบบนี้มันเหมือนจะหาเรื่องกัน ผมคิดว่าเรื่องที่ผมเจ็บตัวแค่นี้มันเป็นเรื่องเล็กนะ ถึงตอนแรกผมยอมรับว่ามันทำให้ผมหงุดหงิด แต่มันก็แค่หงุดหงิดเพราะไอ้นั่นมันเล่นทีเผลอ แถมทำให้ผมไปพบลูกค้าที่นัดไว้เองไม่ได้ก็แค่นั้น นอกจากนั้นแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีก

“เลิกพูดเหอะ” ผมพูด แล้วขยับตัวลุกจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ถูกดึงข้อมือเอาไว้

“พูดกันให้รู้เรื่องก่อน” เขาพูดกับผม ตอนดึงตัวผมให้หันมาเผชิญหน้าได้แล้ว  

“ไม่ได้ไปหาเรื่อง แต่เรื่องมันมาหาเองจะให้ทำยังไง จะไปตามเฝ้ากันทุกที่เลยไหม หรือจะไม่ให้ไปไหนเลย” ผมพูด ยอมรับเลยว่าตอนนี้คุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ถ้าจะโทษก็โทษที่อาการป่วยของผมแล้วกันเลยอารมณ์ขึ้นง่ายกว่าปกติ

“ไม่ได้จะบอกแบบนั้น” กรพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลงกว่าเดิม แต่อารมณ์ของผมก็ยังไม่ได้ลดลงตาม

“แล้วจะบอกแบบไหน ก็พูดอยู่เมื่อกี้” ผมยังเถียงต่อ ระหว่างที่พูดก็พยายามจะดึงข้อมือที่ถูกกรจับไว้ออก

“เป็นอะไรล่ะ พูดกันดีๆ ก่อนสิ กรว่าอะไรหรือยัง แค่จะบอกว่า ถ้าไปแล้วเจอเรื่องแบบนี้ก็ไม่อยากให้ไป ไม่ได้บอกว่ากันต์ชอบไปหาเรื่องคนอื่น” กรพูด ตกลงว่าตอนนี้ใครที่พูดไม่รู้เรื่องเขาหรือผม
 
“ก็พูดดีๆ อยู่ พูดไม่ดีตรงไหน จะไปอาบน้ำแล้ว ปล่อย” ผมพูดเสียงเรียบ แต่คราวนี้กรไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ลุกขึ้นยืนแล้วรอบตัวผมไว้จากทางด้านหลัง แล้วดึงให้ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงพร้อมกัน เลยกลายเป็นว่าผมนั่งซ้อนอยู่บนตักเขา ผมก็เอาแต่นั่งเงียบ ไม่พูดต่อ

“กันต์” เสียงกรเรียกชื่อผมดังอยู่ข้างหู

“โกรธหรอ” เขาถามผม พร้อมกระชับแขนกอดผมให้แน่นขึ้น

“แล้วพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา ก็มันไม่ได้ตั้งใจ” ผมพูด แต่ไม่ได้หันไปมองหน้าคนฟัง ที่ตอนนี้เอาคางมาเกยอยู่บนไหล่ผม

“ถ้าไม่ห่วงจะพูดแบบนั้นหรอ โอเคๆ กรไม่พูดอะไรแล้ว คราวหน้าก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน” กรพูด ก่อนจะกดจมูกลงมาที่ข้างแก้ม ส่วนผมเองตอนนี้เอนตัวเอาหลังไปพิงกับอกกรแล้ว

“ปวดหัว” ผมพูด เมื่อเริ่มปวดหัวขึ้นมาอีก แล้วยังปวดตามเนื้อตามตัวไปหมด

“มีไข้อยู่อย่าเพิ่งอาบน้ำเลย เช็ดตัวเอาก็พอ เดี๋ยวกรทำให้” กรพูด แล้วดันตัวผมให้ลุกขึ้น ก่อนจับให้นอนลงบนเตียงอีกครั้ง

.
.
.
“ขอโทษ” ผมพูดเสียงอ่อยตอนกรเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ ก็อย่างนี้แหละครับ พอเขาทำดีใส่ ผมก็รู้สึกผิดขึ้นมา
ที่พูดไม่ดีกับเขา ส่วนเขาก็ยิ้มรับ แล้วเช็ดตัวให้ผมต่อ

“งานเป็นยังไงบ้าง” ผมถามระหว่างที่เขาเช็ดตัวให้ผมไปเรื่อยๆ

“เรียบร้อยดี นี่ไปมาตั้งหลายเมือง” กรตอบ แล้วเล่าเรื่องที่เวียดนามให้ผมฟังไป จนเช็ดตัวให้ผมเสร็จ

“เป็นอะไรอีกเนี่ย” กรถามขึ้นแต่ก็ยกแขนขึ้นมากอดผมไว้ เมื่ออยู่ๆ ผมก็ลุกขึ้นมากอดเขา และซุกหน้าไว้ที่ซอกคอเขาพอดี พอเขาถามผมก็ส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร ตอนนี้พูดไม่ไหวแล้วครับ เจ็บคอ แบบเจ็บไปถึงหู ปากก็เจ็บ ตาก็แสบเหมือนน้ำตาจะไหลตลอด แล้วไอ้ที่ลุกขึ้นมากอดกรไว้ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน รู้แค่ว่าอยากทำก็ทำเลย

“ขี้อ้อน” กรพูด แล้วหัวเราะหึหึในลำคอ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะพูดอะไร ก็ยังเอาแขนโอบรอบคอเขาแล้วเอาหน้าซุกไว้อย่างเดิม

“อยู่คนเดียวก่อนนะ เดี๋ยวกรไปอาบน้ำ แล้วค่อยสั่งข้าวเช้ามากินกัน” กรพูด แล้วคิดว่าผมจะได้ฟังที่เขาพูดไหมครับ ก็ไม่ครับ ฟังอะไรไม่รู้เรื่องแล้วตอนนั้น ยังคงเกาะอยู่ท่านั้นเหมือนเดิม แล้วเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีคือกรมาปลุกให้ลุกไปกินข้าว
.
.
.

แล้วผมก็ไม่สบายอยู่แบบนั้นสองวันเต็มครับ วันรุ่งขึ้นก็ดีขึ้น ได้กลับไปทำงานได้อีกทีก็คือวันศุกร์เลย สรุปอาทิตย์นี้ผมหยุดงานไปสามวัน ส่วนแผลก็แน่นอนครับว่าหายไม่ทัน ไปทำงานก็มีผลช้ำๆ ติดตัวไปโชว์ลูกน้องที่ออฟฟิศด้วย จนโดนแซวว่า เจ้านายไปบู้กับใครที่ไหนมา ก็ขำๆ ไปครับไม่มีอะไร

-----------------------------------------------------------


หายไปนานมาก แต่พากันต์กับกรกลับมาส่งแล้วนะคะ ^_^
ส่วนคู่ป่านกับพี่กาวน์อีกไม่นานจะตามมานะ  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2011 20:17:39 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1533 เมื่อ14-03-2011 16:59:07 »

ว้าว มาอัพแล้ว ไม่มาตั้งนาน
แต่พี่กันต์น่ารักอ่ะ อ้อนแบบไม่รู้ตัว
 :L2:

mumu2pm

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1534 เมื่อ14-03-2011 17:21:44 »

 :-[ ขี้อ้อนจังน้าา น่ารักอ่ะ :-[

ออฟไลน์ Fanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-2
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1535 เมื่อ14-03-2011 17:58:51 »

กันต์ป่วยแล้วขี้อ้อนอ่ะ น่ารักๆ :o8:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1536 เมื่อ14-03-2011 18:08:47 »

กันต์ก็อายุเยอะกว่าเกินนะ
แต่ไปๆมาๆ ดูกรมีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากกว่าอีก
แต่ยังไงก็ชอบค่ะ อ้อนกันไปมา น่ารัก

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1537 เมื่อ14-03-2011 19:13:01 »

อ่านแล้วยิ้มกว้างมากกกกกกกกกกกกกกก..  :-[

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1538 เมื่อ14-03-2011 19:47:58 »

หายไปนานมาก แต่พากันต์กับกรกลับมาส่งแล้วนะคะ
ส่วนคู่ป่านกับพี่กาวน์อีกไม่นานจะตามมานะ                           
     


ขอบคุณค่ะ ที่พามาส่งให้หายคิดถึง
กันต์ขี้อ้อนน่ารักจังเลย กรก็ดูแลคนรักดี๊ดี ..แอบอิจฉาเล็กๆล่ะ
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1539 เมื่อ14-03-2011 19:59:25 »

คิดถึงทั้งกรกับกันต์(แถมคุณกวางด้วย)มากค่ะ

ตอนนี้กรน่ารักมาก แต่....กันต์น่ารักกว่า ชอบเด็กน้อยขี้อ้อน >///////<
แต่พระเอกของเรา ยามจะบู๊ก็ไม่น้อยหน้าใครจริงๆ งุงิ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
« ตอบ #1539 เมื่อ: 14-03-2011 19:59:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Na na

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1540 เมื่อ14-03-2011 20:02:02 »

กันต์น่ารักอ่ะ พออยู่กับเพื่อนกับคนอื่นก็ดูเป็นผู้ใหญ่ตามวัยนะ
แต่พออยู่กับกรดูเด็กกว่าอายุตลอด แต่เข้าใจนะ แบบว่าเขามีคนให้อ้อนอ่ะ  :-[

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1541 เมื่อ14-03-2011 20:06:22 »

กันต์ป่วยแล้วอ้อนกรน่ารักจัง
อยู่กับกรแล้วเหมือนเด็กเลย

ออฟไลน์ ღiสุดขอบiღ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-3
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1542 เมื่อ14-03-2011 20:33:45 »

กันต์น่ารักชะมัดเลย ถ้าอิเจ๊เป็นกรนะ เจอแบบนี้เข้าไป ตัดใจออกจากบ้านไม่ได้แน่ๆ ฮิฮิ

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1543 เมื่อ14-03-2011 20:36:51 »

กันต์น่ารักมากมากกกกกกกกกกกกกกกกก


อร๊ากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1544 เมื่อ14-03-2011 20:41:25 »

จริงอย่างที่กรว่า...........เวลาไม่สบาย คุณกันต์จะขี้อ้อนมากกว่าปกติ
แถมอารมณ์ขึ้นง่ายอีกต่างหาก  แต่กรก็ใจเย็นพอ รู้ว่าจะต้องทำยังไง
ให้อารมณ์หวานๆ ของคู่รัก ที่ต้องมีการเรียนรู้กันและกัน
 :o8: :-[ :กอด1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1545 เมื่อ14-03-2011 21:20:49 »

กันต์น่ารัก  น่าตีด้วย

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1546 เมื่อ14-03-2011 22:00:49 »

ประทับใจนายกรมาก
+1

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1547 เมื่อ14-03-2011 22:17:44 »

เย้ มาแล้ว

กรใจเย็นดีจังเลยค่ะ แต่ส่วนมากคนไม่สบายก็เหวี่ยงๆแบบนี้แหละเนอะ หึๆ

อ่านพี่กันต์แล้วนึกถึงตัวเองตอนไม่สบายหรือหงุดหงิดๆ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1548 เมื่อ14-03-2011 22:20:39 »

มากอดกันก่อน คิดถึง :กอด1:
พี่กันต์ป่วยแล้วอ้อน กรก้อดูแลคนป่วย(ขี้อ้อน)ดี๊ดี น่ารักจังค่ะคู่นี้  :m1:

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1549 เมื่อ14-03-2011 22:32:03 »

คนป่วยงอแง ขี้อ้อน แถมเหวี่ยงเล็กๆ แต่ยังไงก็น่ารักน่ากอดที่สุดอ่ะ  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
« ตอบ #1549 เมื่อ: 14-03-2011 22:32:03 »





lovevva

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1550 เมื่อ14-03-2011 23:44:13 »

กันต์ขี้อ้อน :-[

ออฟไลน์ PeeYaR

  • >///<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1551 เมื่อ15-03-2011 01:19:17 »

โอ๊ยยยยยยยยย
พี่กันต์ขี้อ้อน น่ารักสุดๆเลย
>.<

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1552 เมื่อ15-03-2011 09:44:24 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1553 เมื่อ15-03-2011 10:55:48 »

คิดถึงคู่นี้จัง ^^

เวลากันต์ป่วยนี่ทั้งอ้อนทั้งเหวี่ยงดีจริงๆ แต่กรก็ดูแลพี่กันต์ดีมากๆๆๆขนาดอยูต่างประเทศยังใส่ใจจะโทรมาส้งข้าวให้... :กอด1:

+1 แต้มเลยจ้า

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1554 เมื่อ15-03-2011 11:28:34 »

คิดถึงคู่นี้อย่างแรงงงงงงงง >_<

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1555 เมื่อ15-03-2011 11:43:41 »

ดีใจๆๆๆๆ...กันต์ กร กลับมา (เพราะคนเขียน  :กอด1: พามา)

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1556 เมื่อ15-03-2011 14:15:09 »

กรใจเย็นจริง ๆ เนอะ ถ้าร้อนทั้งคู่ทะเลาะกันบ้านแตกพอดี

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1557 เมื่อ15-03-2011 15:34:09 »

หง่ะ คิดถึงกรกันต์มากอ่ะ
หายไปนาน มายาวๆ หวานๆ ป่วยแบบนี้ อ้อนแบบนี้ ก้อน่ารักไปอีกแบบนะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1558 เมื่อ15-03-2011 19:37:09 »

อ่านรวดเดียวเลย ตามทันแล้ว ^^
คู่นี้น่ารักมาก มากจนน่าอิจฉา

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
Re: รักคือ... รัก >>> อ้อนเกิน p. 52 up 14-3-11
«ตอบ #1559 เมื่อ15-03-2011 21:16:17 »

+1 ค่ะ
กลับมาก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะคะคู่นี้
รออ่านพาร์ทพี่กาวน์ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด