รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 581021 ครั้ง)

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
โดนจนได้นี่หมายถึงใครโดนหว่า 5555
รออีกครึ่งนึงนะคะ

Mafia Mania

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยจะเป็นกันต์ที่โดนเข้าแล้วแน่ๆ ... โดนลงโทษอ่ะนะ  :laugh: ฮ่าๆ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
อ่านรวดเดียวเล่นเอามึน  :really2:

แต่ดีที่มีความหวานมาช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือด   :-[

ออฟไลน์ Mr.Frog

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อ่านรวดเดียว ตามทันแระดีใจๆ

แอบคิดว่า เราไปอยู่ไหนมา ทำไมเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้
น่ารักมากกกกก ชอบมว๊ากกกกกกกก
ขอบคุณไรเตอร์นะค้าบบบบบ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อยากรู้ว่าตอนนี้จะลงเอยยังไงแล้วค่ะ

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 :call:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 53 โดนจนได้... [2/2]


“กันต์” เสียงกรมายืนเรียกผมอยู่ข้างๆ แต่ตอนนี้ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจเขาเท่าไหร่ เพราะไอ้ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้ามันเรียกความสนใจจากผมได้มากกว่า ถ้าตอนนี้จะให้ผมหันไปพูดตอบเขา ผมคงพูดแค่คำเดียว “โรคจิต” พูดอะไร บอกอะไรไม่เคยฟังกันเลยโดยเฉพาะเรื่องนี้ ดูเอาเถอะเล่นสะสมไว้เยอะขนาดนี้ รวมเล่มออกมาเป็นหนังสือภาพสักเล่มเลยดีไหม

ตอนแรกผมยืมคอมพิวเตอร์ เขาส่งเมลรายละเอียดงานให้พี่แอมแค่นั้น แต่พอเห็นเขาลุกไปนอกห้อง เลยนั่งคลิกดูนั่นดูนี่เล่นไปเรื่อย แล้วดันแจ๊คพอตไปเจอไฟล์รูปของตัวเองเขา เน้นว่าของผมเอง เพราะมันมีแต่รูปผมคนเดียวเลย แถมแต่ละรูปก็นะ แทบจะติดเรทอยู่แล้ว แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไง คนมันก็อายเป็นนะเว้ย!! 

“กันต์” กรเรียกผมซ้ำอีก คราวนี้เสียงอ่อนลงกว่าเดิมจนกลายเป็นอ้อนแล้ว แต่ยังครับยังอย่าเพิ่งไปหลงกล รายนี้เจ้าเล่ห์ตัวพ่อ ผมไม่ได้โกหกพกลมแต่ประการใด อย่าได้ไปหลงเชื่อกับสิ่งที่เห็นนักเชียว ไอ้ที่เห็นว่าหล่อ รวย ติสท์ ติดเซอร์ เนี้ยบบ้างบางเวลา เรียนดี กีฬาเด่น นิสัยดี สุภาพ จริงใจ เป็นกันเอง มีเหตุผล เอาใจเก่ง ขี้อ้อน รู้สึกว่าจะมีข้อดีเยอะไปรึเปล่าวะ เออ แต่ก็นั่นแหละ ใต้ภาพลักษณ์แบบนั้นมีอะไรซ่อนไว้อีกเยอะ ทั้งขี้หวง ขี้หึงเป็นที่หนึ่ง แถมยังดื้อเงียบอีกต่างหาก ไม่คบเองไม่รู้หรอก บางครั้งเลยพูดกันยากเอาเรื่อง ถึงจะมีข้อเสียแต่มันก็เล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งที่ผมรับได้ บางทีถ้าพูดกันยากนักมันก็ต้องใช้วิธีอื่นแทน อยากพูดไม่รู้เรื่องเองนี่ ผมใช้วิธีของผมบ้างก็อย่ามาว่ากัน 

 “ทำไม เห็นตัวจริงมันไม่ดีกว่าในรูปหรือไง” ผมพูดนิ่งๆ โดยไม่หันไปมองหน้าเขา ก่อนละมือออกจากเม้าส์แล้วกอดอกทิ้งตัวเอนพิงพนัก สายตายังคงมองตรงไปที่หน้าจอ รูปสวยดีหรอกนะ แต่ยังไงมันก็ไม่ชอบอยู่ดี มันเขินเข้าใจไหม แล้วตัวจริงก็มีให้เห็นอยู่แบบนี้จะต้องไปอะไรกับรูปนักก็ไม่รู้

“ก็ดี ดีกว่าอยู่แล้ว” เขาพูด แล้วขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีกนิด

“แต่ก็ยังชอบรูปมากกว่า ห้ามอะไรก็ไม่เคยฟัง เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้ารูปมันหลุดไปกันต์จะเป็นยังไง” ผมพูดเสียงเย็น เรื่องภาพหลุดนี่ผมซีเรียสนะ ถึงรู้ว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้หลุดไปได้อยู่แล้ว แต่มันก็อดหวั่นใจไม่ได้ เพราะตัวอย่างมันก็มีให้เห็น

“ไม่หลุดหรอกน่าจริงๆ” กรย้ำกับผม มาขนาดนี้แล้วเขายังไม่คิดจะบอกกับผมสักคำว่าจะลบทิ้งคิดดูแล้วกัน จะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไง


R R RRRR....


“ว่าไงมึง” ผมรับสาย หลังได้ยินเสียงเรียกดังแทรกขึ้นมาระหว่างที่เราคุยกันอยู่

[มึงจะเปลี่ยนใจออกมากับพวกกูไหม กูออกจากบ้านมาแล้ว ถ้ามึงไปเดี๋ยวกูแวะรับ] เสียงไอ้ยุดังมาตามสาย ตอนแรกผมปฏิเสธมันไปแล้วนะ แต่ว่าตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว

“เออ มารับกูด้วย” ผมพูด ตอบปลายสาย ส่วนกรเองก็ยังมองผมอยู่ตลอด

[เป็นไรวะมึง] ไอ้ยุถาม ไอ้นี่มันช่างสังเกตเวลาใครมีอะไรปิดมันไม่เคยได้

“ไม่ต้องมาอยากรู้อะไรตอนนี้ ถ้าจะให้กูไปก็รีบมารับ” ผมพูดเสียงห้วน ขอโทษนะไอ้ยุ กูพาลว่ะ ผมบอกมันในใจ ก่อนตัดสายทิ้ง แล้วลุกออกจากห้องไป โดยไม่พูดอะไรกับกร

.
.
.

“จะไปไหนอ่ะ” กรตามเข้ามาในห้อง แล้วถามผมที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็ไม่รู้นึกอะไรขึ้นมาถอดเสื้อผ้าใส่นอนออกหมดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า แบบไม่เหลือติดตัวสักชิ้น แล้วค่อยเปิดหาเสื้อผ้าในตู้ออกมาบรรจงใส่

“เที่ยว” ผมตอบ ตั้งใจตอบด้วยนะครับ เขาจะได้รู้ว่าผมไปไหน ตอนนี้เริ่มคิดได้แล้วว่าจะทำยังไงกับคนพูดไม่รู้เรื่องดี ไม่รู้ว่ามันจะดูงี่เง่าไปหรือเปล่า เพราะที่ผมกำลังทำมันเหมือนกับว่าผมกำลังใช้อารมณ์และประชดประชันเขาอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังจะทำอยู่ดี

“ไปที่ไหน เดี๋ยวกรไปรับนะ” กรเดินเข้ามายืนซ้อนหลังพูดกับผมใกล้ๆ และมองผมผ่านกระจก 

“ไม่รู้ อยากไปรับก็โทรมาถามเอา” ผมพูด แล้วเบี่ยงตัวเดินออกจากห้องไป ตอนไอ้ยุมารับที่หน้าบ้านกรก็ยังเดินออกมาส่งผม


“ขอโทษนะ” ผมพูดเบาๆ แล้วหันกลับไปมองกรก่อนขึ้นรถ กรไม่ได้ยินหรอก เพราะอยู่ในรั้วบ้านไม่ได้เดินออกมาด้วย

.
.
.
“มีอะไรหรือเปล่าวะ กูเห็นกรมันหน้าหงอยๆ” ไอ้ยุถาม หลังจากออกรถมาแล้ว

“แค่พูดกันไม่รู้เรื่องนิดหน่อยว่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก” ผมตอบ

“กรหรือมึงกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่อง” ฟังไอ้ยุมันพูดแล้วกัน น้ำเสียงมันดูจะเข้าข้างกรมากกว่าผมอีก คิดแล้วมันน่าน้อยใจไหมล่ะ เพื่อนตัวเองยังไม่เข้าข้างเลย ชักจะปัญญาอ่อนใหญ่แล้วกู มีน้อยใจ เฮอๆ

“ปกติกูเห็นมันตามใจมึงจะตาย” ไอ้ยุพูดต่อโดยที่ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วมันก็เลี้ยวรถออกถนนใหญ่

“หรอ” ผมส่งเสียงออกมาแค่นั้นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

“ไม่ต้องมาหรอเหรอใส่กู เดี๋ยวถีบให้ แล้วอีกอย่างไอ้กรนะถ้ามันประคบประหงม กกมึงไว้ให้อยู่แต่ในบ้านได้มันคงทำ หวงฉิบหาย ทำอย่างกับมึงน่ารักตายห่า” ไอ้ยุพูด พอจังหวะรถติดไฟแดงมันก็หันมามองหน้าผม

ผมเลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่แอบยิ้มนิดๆ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ใจอ่อนเรื่องนั้นเด็ดขาด

“งี่เง่ามากๆ ระวังเหอะมึง เดี๋ยวมันมีคนใหม่กูจะขำ” ฟังไอ้เพื่อนเวรมันพูด

“ตกลงมึงเป็นเพื่อนใครกันแน่” ผมถามแล้วหันออกนอกรถ ขนาดผมเป็นเพื่อนมันแท้ๆ มันยังไม่คิดจะเข้าข้างผมเลย

...................................................




“คุณกันต์ สวัสดีครับ” เสียงของคนที่เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะเอ่ยทัก

“อ้าว คุณสรรค์ สวัสดีครับ” ผมเองก็ยิ้มรับ ก่อนทักทายกลับไป ตามประสาคนรู้จัก   

“วันนี้มากับเพื่อนหรอครับ” คุณสรรค์ถาม ก่อนจะทักทายเพื่อนผม ผมกับคนที่เข้ามาทักเคยเกือบมีเรื่องเข้าใจผิดกันครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็มีโอกาสคุยกันอีก จนกลายเป็นทั้งลูกค้าแล้วก็เพื่อนอีกคน เพราะคุยๆ กันแล้วเขาก็ถือว่าเป็นอีกคนที่น่าคบหาเลยทีเดียว เป็นคนเปิดเผยแล้วก็พูดอะไรตรงๆ

“ครับ” ผมตอบรับ

“แล้ววันนี้แฟนคุณกันต์ไม่ได้มาด้วยหรอครับ” เขาถามผม

“เปล่าครับ” ผมตอบ

“ตอบเสียงเซ็งๆ แบบนี้ ผมจะมีลุ้นบ้างไหมเนี่ย” คนตรงหน้าเอ่ยแซว แต่ก็แซวกันภาษาเพื่อนนั่นล่ะครับ เพราะคุณสรรค์เองก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ผมเองมีโอกาสเจออยู่หลายหน เพราะคู่นี้เขาทำงานด้วยกัน ถ้านัดคุยงานกับผมเขาก็มาด้วยกันเกือบทุกครั้ง ผมเลยรู้จักแล้วคุยถูกคอกับทั้งคู่

“ฮ่าๆ อย่าดีกว่าครับ” ผมตอบ

“แล้วนี่คุณเชนไม่ได้มาด้วยหรอครับ” ผมถามถึงแฟนของคุณสรรค์

“เขาบินไปเยี่ยมน้องสาวที่อังกฤษได้สองสามวันแล้วล่ะ คุณกันต์ไปนั่งคุยต่อที่โต๊ะผมไหมครับ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนผมด้วย เผื่อคุณกันต์จะได้ลูกค้าเพิ่ม แล้วยังไงก็อย่าลืมแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ผมบ้างแล้วกัน” คุณสรรค์พูดยิ้มๆ ผมเองก็ตัดสินใจเดินตามเขาไปนั่งโต๊ะที่อยู่ข้างๆ กับโต๊ะผม

โต๊ะที่คุณสรรค์นั่งรวมกับเพื่อนเขาแล้วก็มีกันสี่คน ทุกคนก็อัธยาศัยดีครับ ระหว่างที่ผมนั่งโต๊ะนี้ก็ยังมองกลับไปที่โต๊ะเพื่อนของตัวเองด้วย กลัวโดนหาว่ามาแล้วไม่สนใจพวกมัน แต่จริงๆ ก็รู้ว่าพวกมันไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนั้นหรอกครับ แต่สักพักผมก็เริ่มคิดอะไรดีๆ ออก เดี๋ยวต้องนัดแนะกับคนที่นั่งข้างๆ กันก่อนครับ จะได้ไม่ผิดแผน

“คุณสรรค์ ช่วยอะไรผมหน่อย” ผมเอียงหน้าเข้าไปพูดกับเขา ตอนที่คนอื่นๆ ในโต๊ะลุกออกไปหมดแล้ว 

“อะไรครับ” เขาถามกลับมา

“เล่นตามผมหน่อย ถ้าเพื่อนคุณมาเห็น คุณค่อยไปอธิบายเพื่อนคุณที่หลังแล้วกัน” ผมพูดแค่นั้น ก่อนทำใจกล้าหน้าด้านเอนหัวลงซบบ่าตนข้างๆ ทันที เหลือบมองไปที่โต๊ะที่พวกเพื่อนผมนั่งก็เห็นไอ้ยุมองมา “ไอ้ยุกูขอโทษ” ผมบอกมันในใจ งานนี้ต้องใช้มือไอ้ยุด้วยอีกคน แล้วด้วยนิสัยมันผมพอจะเดาออกว่าถ้ามันเห็นสิ่งที่ผมทำมันจะทำอะไร

“หา เอ่อ ครับ” เสียงคุณสรรค์ตอบรับแบบงงๆ ก่อนจะเข้าใจที่ผมสื่อเมื่อผมยกแขนข้างหนึ่งไปพาดอยู่บนหน้าท้องเข้า ก่อนทำตัวอ่อนปวกเปียก คนที่ผมส่งบทให้ก็รับบทต่อได้ทันทีส่งแขนอ้อมมาโอบเอวผมไว้เหมือนกัน แต่แค่หลวมๆ เท่านั้น

“ผมจะโดนต่อยไหมเนี่ย ดูเพื่อนคุณมองผมสิ” คุณสรรค์ก้มหน้าลงมาถาม

“ถ้าคุณโดนต่อยผมจะลดค่าของให้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์” ผมพูด

“ค่อยคุ้มหน่อย แต่ถ้าถึงมือหมอผมขอเป็น...” เขาพูด แล้วยกมือชูห้านิ้วมาตรงหน้าผมเป็นอันรู้กันว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ก่อนหัวเราะเบาๆ เมื่อผมพยักหน้าตอบตกลง เราอยู่ท่านี้กันไม่นานหรอก นั่นไงไอ้นนท์มันเดินมาทางโต๊ะนี้แล้ว ส่วนไอ้ยุผมเห็นมันหยิบโทรศัพท์ออกมาแต่ไม่รู้โทรไปหาใคร แต่ถ้าให้เดามันคงโทรไปตามกรให้มารับผม

“กันต์ ไอ้กันต์” ไอ้นนท์เดินเข้ามาฉุดแขนผมที่พาดอยู่บนหน้าท้องของคุณสรรค์ออก

“อื้อ” ผมส่งเสียงเหมือนรำคาญมัน แล้วพยายามดึงแขนตัวเองออก โคตรมารยาเลยกู ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เล่นทั้งทีก็เอาให้มันสมบทบาทหน่อย

“กลับบ้านได้แล้วมึง ไอ้ยุมันตามกรมารับแล้ว” ไอ้นนท์ตะโกนบอก แล้วฉุดตัวผมให้ลุกจากโซฟาจนได้

“ขอบคุณมากคร้าบ คุณสาน” ผมพูดเสียงอ้อแอ้ให้เหมือนคนเมา

“โชคดีครับ” เจ้าของชื่อตอบรับและโบกมือให้ ส่วนผมก็ถูกไอ้นนท์ลากตัวไปส่งให้ไอ้ยุอีกที

“ไป ไอ้กรมารับแล้ว” ไอ้ยุมันตะโกนบอก แล้วกึ่งลากกึ่งประคองผมออกจากร้าน ออกมาก็เจอกรยืนรออยู่หน้าร้าน พอเห็นกรไอ้ยุมันก็รีบส่งตัวผมให้กรรับไว้แทน

“ใช่มันหรือเปล่าวะ” ผมได้ยินเสียงไอ้ยุถามไอ้นนท์ แต่ผมไม่เห็นหรอกว่ามันพูดถึงใคร เพราะหันหลังให้พวกมันอยู่ แถมซุกหน้าอยู่กับไหล่กรอีก ส่วนเจ้าของไหล่ก็กอดผมไม่ได้สนใจใครเลย

“เออนั่นแหละ ไอ้กันต์มันบอกว่าเป็นลูกค้ามัน แต่เผลอหน่อยเดียวแม่งจะแดกเพื่อนกูแล้ว ไอ้กันต์แม่งก็นะ” เสียงไอ้นนท์ตอบไอ้ยุ เอาแล้วไงพวกมันขี้ฟ้องฉิบหาย แต่ก็ถือว่าตามแผน ถึงอยากจะหันไปเตะคนละทีแต่ต้องทนไว้ก่อน อยากรู้มากกว่าว่ากรจะทำยังไง โรคจิตไหมล่ะผม แล้วก็ได้เรื่องเมื่อกรออกแรงกระชับแขนกอดเอวผมจนแน่น อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ผมเลยเอาคืนด้วยการอ้าปากกัดลงที่บ่าเขาแรงๆ

“มันโกรธอะไรมึงมาหรือเปล่าวะ” เสียงไอ้ภพถามขึ้นมาบ้าง

“นิดหน่อยพี่” กรตอบไอ้ภพ

“เออ เรื่องของมึงเคลียร์กันเองแล้วกัน แต่อย่าบ่อย มีคราวหน้ากูจะให้มันเลิกกับมึง” ไอ้ยุพูดขึ้นมา ก่อนยกมือมายีหัวผม ลามปามใหญ่แล้วนะมึง กูไม่ใช่หมาบ้านมึงจะได้มาลูบหัวเล่น

“อ้าว!! พี่ไหงพูดงั้น” กรโวย

“ส่วนมึงประชดเก่งนักนะ ระวังคราวหน้ากูจะยุให้ไอ้กรมันหาเมียใหม่” ไอ้ยุมันแขวะผม ไอ้เพื่อนเลวลองยุดูสิมึง

“สัด” ผมหันไปพูดนิ่งๆ ใส่เพื่อนตัวเอง ก่อนจะหันกลับมาซุกหน้ากับบ่ากรเหมือนเดิม

“มึงพามันกลับเหอะ” เสียงไอ้นนท์พูดตัดบท ผมกับกรเลยได้กลับบ้านกันสักที แล้วเรื่องมันก็น่าจะจบแค่นั้น มีอะไรเดี๋ยวค่อยไปเคลียร์ต่อที่บ้าน แต่เรื่องมันดันไม่จบง่ายอย่างที่ผมคิด เพราะคำพูดสั้นที่ดังมาให้ได้ยินก่อนขึ้นรถ
 


“มีของดี ก็ดูแลดีๆ หน่อย ระวังจะมีคนอื่นมาช่วยดู”

พูดจบมีลอบส่งยิ้มขำมาให้ผมอีก แต่คิดว่ากรคงไม่เห็น เล่นมาพูดทิ้งไว้แบบนี้ เลยไม่รู้ว่าต้องเคลียร์เรื่องไหนก่อนเลยทีนี้ คุณสรรค์นะคุณสรรค์ทำกันได้ ไอ้ผมนะรู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับผมหรอกครับ รักแฟนตัวเองเสียขนาดนั้น แต่ไอ้คนที่คิดเนี่ย มันแฟนผมครับ กลับไปคงเคลียร์กันยาว หาเรื่องแท้ๆ เลยกู

……………………………………….



“เอาไงดีวะกู” ผมคิดระหว่างทางเดินเข้าบ้าน ตลอดทางที่กลับมาผมแสร้งทำเป็นหลับมาตลอดทาง ทั้งที่จริงไม่ได้เมา ไม่ได้หลับ แค่ฟอร์มจัดไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้คนฟอร์มจัดกำลังจะไปไม่เป็นแล้ว เอาไงดีวะ เอาไงดี ลำพังที่ไอ้ยุมันโทรไปเล่าให้กรฟังตอนตามมารับผมคงไม่เท่าไหร่ มันคงไม่ทำให้เพื่อนมันตกที่นั่งลำบากนักหรอก แต่ทีเด็ดมันไปอยู่ตอนท้ายก่อนจะกลับมาต่างหาก

ถ้าทำแบบนั้นมันจะได้ผลหรือเปล่าวะ จะลองดูดีไหม เสียงปิดประตูดังไล่หลังมาแล้ว เอาวะ ใครว่าคนอย่างผมเอาแต่นิ่งขรึมเป็นอย่างเดียว จะลองเปลี่ยนวันนี้แหละ คนเรามันเปลี่ยนกันได้


"กันต์" เสียงเรียกมาจากด้านหลัง เสียงนั้นทั้งห้วนทั้งสั้นต่างกับเวลาปกติลิบลับ เวลาผมโกรธเสียงผมเป็นอย่างนี้หรือเปล่า เอาวะเป็นไงเป็นกัน สู้กันดูสักตั้ง ยังไงซะก็ไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออกหรอก ว่าแล้วก็สูดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปเผชิญหน้ากับคนที่เรียก

ผมเลือกที่จะไม่ขานตอบแต่หันไปเฉยๆ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไร ผมไม่ได้ไปทำอะไรมาก่อนหน้านี้เลยจริงๆ มีแต่เขานั่นแหละที่ผิด ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น อย่ามามองกันแบบนั้นนะ

“ไปทำอะไรมา ไหนเล่าให้กรฟังหน่อยสิ” กรพูด ก่อนก้าวเข้ามาประชิดตัว ผมเห็นแบบนั้นก็จะก้าวถอยหลังหนี แต่ไม่ทันโดนรวบตัวไว้ได้ก่อน ใครก็ได้ช่วยผมที

“เปล่า ไปเที่ยวตามปกติ ไม่มีอะไร” ผมพูด ทำตัวเป็นผู้ร้ายปากแข็งไว้ก่อน ยังไงซะตอนนี้ก็มีความผิดติดตัวกันคนละเรื่อง 

“แต่กรไม่ชอบ” เขาพูด แล้วก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกเราชนกัน

“แล้วทีกันต์บอกว่าไม่ชอบอะไร ทำไมกรยังทำล่ะ” ผมพูดขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ได้ใส่อารมณ์นะ พูดเสียงเบาหน่อยเหมือนงุบงิบพูดคนเดียว ทำตัวสงบเสงี่ยมให้อีกคนเห็นใจหน่อย โกรธไปก็แล้วแต่ไม่เคยได้ผลลองเปลี่ยนมาอ้อนขอดีๆ บ้าง เพื่อจะได้ผล เอาสิยังจะทำเสียงแข็งใส่กันได้อีกก็เอาเลย คนเขาลงทุนขนาดนี้แล้วนะ

“มันไม่เหมือนกัน” กรพูด แล้วดันตัวผมเข้าไปประชิดกับผนังที่ใกล้ที่สุด ก่อนยกแขนมายันผนังกักตัวผมไว้ไม่ให้ไปไหน

“ไม่เหมือนกันยังไง กันต์ไม่ชอบ กรไม่ชอบ มันก็ไม่ชอบเหมือนกันนิ” ผมพูดบ้าง แล้วมองหน้าเขาก่อนกระพริบตาปริบๆ

“ทำประชดกันใช่ไหม” กรถามด้วยน้ำเสียงที่กลับมาเป็นปกติ แล้วเอามือข้างหนึ่งมาเชยคางผมขึ้นเพื่อให้เขาสบตากับผมได้

“คิดว่ายังไงล่ะ” ผมย้อน ตอนนี้ผมรู้สึกว่าอารมณ์กับคำพูดเราสองคนจะไปคนละทาง พูดเหมือนกระทบกันไปมา แต่มองตากันเยิ้มเสียอย่างนั้น ฮ่าๆ สงสัยท่าทางของผมแบบนี้จะใช้ได้ผล

“ถ้ากรทำบ้าง” กรพูด แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม

“ถ้ากล้าก็เอา” ผมพูด แล้วมองหน้าเขานิ่ง เขาเองก็ไม่หลบตาผม

“หึหึ โอเคๆ กรยอมแล้ว” เยส ก็แค่นั้นแหละ ผมร้องเฮอยู่ในใจ โดยไม่แสดงอาการอะไรออกไป ที่แสดงออกก็มีแค่

>จุ๊บ< จูบแก้มเบาๆ ปลอบใจคนยอมไปหนึ่งที

 “โดนเข้าแล้วใช่ไหมเนี่ย” กรพูด แล้วส่ายหน้าเบาๆ

“หึหึ คงอย่างนั้นมั้ง แต่รูปจะถ่ายอีกก็ได้ ยกเว้นตอนไม่มีเสื้อผ้าห้ามถ่าย” ผมพูดจริงจังขึ้นมาหน่อย

“โอเคๆ หมดเรื่องกันแล้วใช่ไหม” กรพูด แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์


สำหรับเรื่องบางเรื่องของคนสองคน มันก็มีทั้งเรื่องที่คุยกันง่ายและไม่ง่าย
และกับเรื่องง่ายๆ แต่พูดยาก บางครั้งเราก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไป


“ถ้าอย่างนั้นมาทำเรื่องทีเราชอบเหมือนกันดีกว่า” กรพูด ได้ยินแค่นั้นผมเองก็เริ่มไหวตัวทัน ก้มมุดลอดแขนเขาแล้วก้าวขาออกวิ่ง วิ่งขึ้นห้องนะ ฮ่าๆ   

“เฮ้ยยย ใครชอบอย่ามามั่ว” ผมหันไปตะโกนส่งท้าย 

 “จะหลบไปไหน กรยังไม่ได้คิดบัญชีของกรเลย” เสียงกรไล่ตามหลังมา ก่อนจะจบลงด้วยเสียงปิดประตูห้อง ที่ปิดกั้นเราสองคนออกจากโลกภายนอกไปจนถึงเช้า

--------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 20:19:21 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
โดนเเล้ว โดนลงโทษเเล้วกันต์ -////-

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง  :เฮ้อ: สบายใจแร่ะ อิอิ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
หายคาใจแล้ววว
ทั้งคู่ยังรักกันเหมือนเดิม
วิธีการของกันต์เล่นเอาคนอ่านเสียวแว้บบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> โดนจนได้... [2/2] p.56 up 24-6-11
« ตอบ #1659 เมื่อ: 24-06-2011 19:44:06 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-2
 :เฮ้อ: โล่งอก นึกว่าจะเกิดเรื่อง
 :pig4:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ก็แล้วไป ตาคนนั้น...นึกว่าจะเป็นพวกฉวยโอกาสซะอีก
กันต์เจ้าเล่ห์แต่น่ารักนะ (แถมแอบชมแฟนตัวเองให้คนอ่านฟังเฉยเลย  :-[)
อ่านแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มตลอดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2011 21:09:45 โดย pattybluet »

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ค่อยโล่งอกหน่อยที่เป็นเพียงเรื่องที่กันต์เตี๊ยมไว้กับคุณสรรค์ไม่งั้นได้ดูมวยสดในร้านแน่ๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
จะเอาตอนกรลงโทษกันต์อ่ะ   จะเอา ๆ ๆ ๆ  :serius2:

ออฟไลน์ makimaki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
อยากอ่านตอนกันต์โดนลงโทษจัง   :impress2:

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
โล่งอกแทนกร  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
คดีพลิกค่ะ กันต์เจ้าเล่ห์มากเลยนะ แต่ไม่เป็นไรให้อภัยได้  :-[
ถ้าไม่ตามอ่านแต่แรก มาอ่านเอาตอนล่าสุดก่อนนี่คงคิดว่ากันต์เด็กกว่ากรแน่ๆ  :laugh:
คุณลูกค้าท่านนั้น (สรรค์) เป็นคนดีนี่ ><

คุณกวาง แล้วรายละเอียดตอนกรคิดบัญชีมันล่องหนไปไหน? ฮ่าๆๆๆ



 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2011 00:18:28 โดย knightofbabylon »

ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
 :z1: :z1: :z1:
อยากให้โดนบ่อยๆ

RakorN

  • บุคคลทั่วไป
ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความโล่งอก  :กอด1: กรกันต์

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
อยากรับรู้บทลงโทษด้วยจริง ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักคือ... รัก >>> โดนจนได้... [2/2] p.56 up 24-6-11
« ตอบ #1669 เมื่อ: 25-06-2011 09:14:28 »





Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
มายกมือสนับสนุนขอบทลงโทษสำหรับคนเจ้าเล่ห์(มากกว่ากร) ด้วยอีกคน  :laugh:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
แกล้งกันแบบนี้ต้องจัดหนักเลยนะกร

OHmeza019

  • บุคคลทั่วไป
ฮ่าๆๆ ฉากนี้ กันต์ เหมือนเดกน้อยมากครับ น่ารักดี
ส่วนกร ขอไห้จัดหนัก ไม่เช้าไม่ต้องหยุด ฮ่าๆๆ

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
รักที่เป็นสุขทำให้คนอ่อนกว่าวัยลงได้โดยไม่รู้ตัว  :impress2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คู่นี้น่ารักจริงๆ แบบนี้สิ ชีวิตคู่ อย่าเอาแต่อารมณ์ใส่กันโครมๆๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
นึกว่ากันต์เมาจริงแต่แค่แกล้ง จะโดนกรเอาคืนแค่ไหนนะ

Mafia Mania

  • บุคคลทั่วไป
เป็นคู่ที่น่ารักเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ   :กอด1:

paradoxxx

  • บุคคลทั่วไป


น่ารักอะ อ่านไปยิ้มไป อิอิ
นึกว่าจะมีดราม่ากันซะแล้ว

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
ยังไม่เข้าใจกันต์อยู่ดี
ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ
เพื่อจะให้กรเข้าใจ

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 54 ไม่ทันตั้งตัว
 
RRRR...

“เฮ้ย!!” ผมกดรับสายโทรศัพท์ไอ้ป่าน แต่ยังไม่ทันพูดอะไร มือผมดันปัดไปโดนหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงลงพื้นไปก่อน ที่ร้องไม่ใช้อะไร หนังสือเล่มนี้เพิ่งได้มา แล้วเล่มตั้งหลายพัน อย่าว่าแต่ขาดแค่มันยับก็เสียดายแล้ว

[มึงจะตะโกนทำซากอะไร] ไอ้ป่านมันโวยวายกรอกเสียงมาตามสาย เพราะเสียงผมที่ตะโกนก็ไม่ใช่เบาๆ คือถ้าอะไรที่ผมรักก็จะค่อนข้างหวงครับ แล้วหนังสือเล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่ถูกใจผมมาก เลยอยากถนอมมันหน่อย หลังเก็บขึ้นมาเช็คสภาพแล้วยังสมบูรณ์ดี ค่อยยังชั่ว

“เพราะมึงหนังสือกูเลยร่วง สัด!!” ผมโทษมัน ถ้าผมอยู่กับมันสองคนก็อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้สิงสาราสัตว์ออกมาเผ่นผ่านกันบ้างตามประสา

[มึงอยู่ไหน] มันถามกลับมา ส่วนผมตอนนี้ก็ปิดหนังสือที่กำลังเปิดดูลายสวยๆ เอามาเป็นไอเดียทำงานส่งลูกค้า

ช่วงนี้ผมเป็นฟรีแลนซ์รับงานออกแบบจากคนที่รู้จักกันมาทำที่บ้านกับช่วยงานกันต์บ้างประปรายระหว่างรอรับปริญญาฯ เอาไว้หลังรับปริญญาฯ แล้วค่อยเข้าไปทำงานกับพ่อเต็มตัว ก่อนหน้านี้มีงานที่เพิ่งทำจบไปคือ ไปเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ให้กับหนังจากต่างประเทศเรื่องหนึ่งที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ตอนท้ายเรื่องที่ขึ้นเครดิตมีชื่อผมขึ้นด้วย ไอ้ตรงนี้แหละที่ภูมิใจ ก็นะหนังระดับฮอลลีวูด งานนี้มีรุ่นพี่ที่สนิทกันมาชวนผมกับไอ้นายไปทำ เลยรับทรัพย์กันไปพอประมาณ ตอนไปทำก็ยังงงๆ ว่าพี่แกคิดยังไงถึงมาชวนเด็กหน้าใหม่อย่างผมสองคนไปทำ ถึงผมจะเคยไปช่วยงานพี่แกอยู่บ่อยๆ ก็เถอะ แต่ไม่กล้าไปถามะไรพี่แกมาก ถามเยอะกลัวจะชวดงาน เลยเงียบไว้ดีกว่า
 
“อยู่บ้าน” ผมพูดแล้วลุกออกจากห้องทำงาน ใกล้เที่ยงแล้วเลยจะเดินไปหาอะไรกินในครัวด้วย วันนี้พี่จินลาหยุด เดี๋ยวคงทำอะไรง่ายๆ กินเอง

[กู หิว...] มันลากเสียงตอบ มึงเห็นเพื่อนเป็นเคเอฟซีหรือไงวะ พอโทรมาหาแล้วมึงจะหายหิว

“แล้วมึงจะบอกกูเพื่อ” ผมพูด แล้วเริ่มเหล่ๆ หาของในตู้เย็นออกมาทำเป็นมื้อกลางวัน มะเขือเทศ หอมใหญ่ ไข่ เมื่อวันเสาร์ซื้อมักกะโรนีมา ผัดมักกะโรนี ผมสรุปก่อนเปิดช่องฟรีสหยิบถุงกุ้งแช่แข็งออกมา

[มึงทำไรให้กูกินหน่อย เดี๋ยวกูไปกินข้าวด้วย] มันพูด แล้วผมก็ได้ยินเสียงปิ๊บเหมือนมันกดรีโมทรถยนต์ ทำขนาดนี้แล้วมึงไม่ต้องโทรบอกกูก็ได้มั้ง

“ไม่ต้องมาเลยมึง พี่จินไม่อยู่ ใครจะทำให้มึงกิน” ผมพูด ก่อนยืดแขนขึ้นเปิดตู้ที่อยู่ด้านบนหาถุงมักกะโรนี

[มึงไง] มันตอบ แม่งพูดง่าย 

“เรื่องอะไรกูต้องทำให้มึงกิน ไปซื้อนู่นไป กูขี้เกียจ” ผมพูด แล้วเปิดน้ำใส่กะละมังเพื่อแช่ผัก

[กูเพื่อนมึงนะ] มันพูดเสียงอ่อย อย่ามาเล่นมุขนี้กับกู แม่ง!! มันรู้ว่าเดี๋ยวยังไงผมก็ใจอ่อนยอมมันอยู่ดี ผมก็ไม่รู้จะเถียงกับมันให้เหนื่อยทำไมเหมือนกัน

“เออ จะมาก็รีบมา” ผมพูด แล้วเดินไปหยิบไข่เพิ่มอีกฟอง 

[สิบนาทีเจอกันนะคะ ที่รัก] ไอ้ป่านทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่โทรศัพท์ ทีอย่างนี้ล่ะปากเก่งนะมึง กับตัวจริงของมึงพูดให้มันได้อย่างนี้เถอะ ผมแค่คิดในใจ แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก กดตัดสายไปทันทีที่มันพูดจบ แล้วยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง ก่อนตั้งหม้อน้ำบนเตาใส่เกลือและน้ำมันลงไปนิดหน่อยสำหรับต้มมักกะโรนี

………………………………………….



“สวัสดีค่ะที่รัก มึงทำอะไรให้กูกินคะ” เสียงกวนตีนของไอ้ป่านดังขึ้นมาจากหน้าประตูครัว ในจังหวะที่ผมกำลังตักผัดมักกะโรนีขึ้นใส่จาน

“มึงจะกินไหม ถ้าจะกินช่วยหุบปากมึงซะ” ผมพูดแล้วส่งจากมักกะโรนีไปให้มันรับไว้ มันก็รู้งานรีบหุบปาก รับจาน แล้วเดินไปเปิดตู้หยิบช้อนส้อม ก่อนเอามาชูให้ผมดูว่ามันหยิบมาเผื่อผมแล้ว แล้วเดินออกจากครัวไป

“พี่กันต์กลับวันไหนวะ” ไอ้ป่านถาม ตอนผมเดินมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าวฝั่งตรงข้ามกับมัน

“วันอาทิตย์” ผมตอบ พูดแล้วก็คิดถึง ไม่ได้อยู่ห่างกันนาน พอห่างเข้าหน่อยโคตรคิดถึงเลย

“คิดถึงดิ มึง” มันถาม แล้วเริ่มต้นเขี่ยหอมใหญ่ออกมาไว้ที่ขอบจาน

“ก็ธรรมดา ว่าแต่มึงเหอะ มีไรรึเปล่า” ผมพูด แล้วหยิบขวดซอสมะเขือเทศมาเปิดเทเพิ่มลงไปในจานอีก ตอนผัดผมจะใส่ซอสไม่เยอะมาก ชอบมาใส่เพิ่มเอาทีหลังมากกว่า

“เหอะ กูแค่มาหาข้าวกิน” มันพูด แล้วหยิบเอาขวดซอสมะเขือเทศที่ผมเพิ่งวางกลับที่ไปเปิดเทลงจานมันบ้าง พอได้ยินมันบอกว่าไม่มีอะไรก็ดีแล้วครับ ดูจากสีหน้าท่าทางมันแล้วชีวิตมันช่วงนี้ก็คงจะราบรื่นดี


RRRR…..

“เป็นไงบ้าง กินข้าวยัง” ผมถามปลายสายระหว่างที่รอฟังคำตอบก็ได้ยินเสียงคนคุยกันจอกแจกแทรกเข้ามาเป็นระยะ

[แดดร้อน เพิ่งเล่นเกมเสร็จ กำลังขึ้นไปกินข้าวที่โรงแรม กินข้าวยัง] เสียงกันต์ตอบกลับมามีเสียงหอบเล็กๆ ตอนนี้กันต์อยู่ที่ปราณบุรีครับ ที่บริษัทฯ เขาจัดสัมมนา เขาก็ชวนผมไปด้วยกันนั่นแหละ แต่ผมติดงานที่ต้องรีบทำส่งลูกค้าเลยไปไม่ได้ แล้วอีกอย่างเขาก็ไปแค่สองคืนเอง เหลือคืนนี้อีกคืนพรุ่งนี้ก็กลับมาแล้ว

“กำลังกิน อยู่กับไอ้ป่าน” ผมพูด แล้วเหลือบตาขึ้นมองไอ้ป่านบ้าง ก็เห็นมันนั่งเคี้ยวตุ้ยๆ เลี้ยงเพื่อนกูอดๆ อยากๆ หรือเปล่าวะ มาถึงก็กินเอาๆ

[ออกไปกินข้าวข้างนอกกันหรอ] เสียงกันต์ถามกลับมา

“เปล่า มันมาบ้าน คนเลี้ยงมันปล่อยมันอดๆ อยากๆ ต้องมาหาข้าวกินถึงนี่” ผมพูด มีแอบกัดเพื่อนตัวเองเล็กน้อย ไอ้ป่านพอได้ยินที่ผมพูดกับกันต์ มันก็ขยับปากด่าผมแบบไม่ออกเสียง แต่ผมอ่านปากก็รู้แล้วว่ามันด่าว่าอะไร ระหว่างนั้นมีเสียงกริ่งดัง ผมเลยขยับตัวเตรียมจะลุกออกไปดูที่หน้าบ้าน แต่ไอ้ป่านมันพูดขึ้นมาก่อน

“เดี๋ยวกูไปดูให้” เสียงไอ้ป่านบอกผม หลังจากได้ยินเสียงกริ่งดังขึ้น ผมก็พยักหน้าส่งไป แล้วนั่งลงตามเดิม

[แล้วทำอะไรกิน วันนี้พี่จินไม่เข้าบ้านนิ] เสียงกันต์ถามต่อ และมีเสียงลมพัดให้ได้ยินเข้ามาเป็นระยะๆ

“ผัดมักกะโร แล้วนี่เดินถึงโรงแรมหรือยัง” 

[ถึงแล้วๆ ไปกินข้าวก่อนนะ หิว]

“งั้นเดี๋ยวดึกๆ กรโทรไปหาแล้วกัน” ผมพูด

[อือ] กันต์ตอบรับสั้นๆ แล้ววางสายไป พอวางสายผมก็เดินเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำ พร้อมแก้วอีกสองใบ เดินกลับมาที่โต๊ะกินข้าว แต่พอกลับเข้ามาก็เจอกับบุคคลที่สามที่ไม่คาดว่าจะได้เจอยืนอยู่หน้าไอ้ป่าน

“ป้าแพรว” ผมเอ่ยชื่อเรียกหญิงวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะรีบเอาของที่ถือมาวางลงบนโต๊ะ

“สวัสดีครับ ป้าแพรวมาได้ยังไงครับ” ผมรีบยกมือไหว้ แล้วถามป้าแพรวแบบงงๆ ที่งงเพราะป้าผมเขาอยู่ที่เนเธอแลนด์กับครอบครัวแล้วก็ตายาย แล้วจู่ๆ ป้าแพรวมาหาผมได้ถึงบ้านนี้ผมก็งงสิครับ ถึงจะกลับมาเยี่ยมเมืองไทยทุกปี แต่ไม่เคยมาโดยที่ไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้

“ลุงอุ้ยกลับมางานแต่งหลานเขา เกรซกับเกล้าก็อยากตามมาเที่ยวด้วยเลยพากันมาหมด นี่ป้าเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่เมื่อเช้า พอมาถึงก็มาหาเรานี่แหละ เสียดายพ่อแม่เราไปเวียดนามก่อน ป้าเลยไม่ได้เจอเลย” ป้าแพรวพูด ลุงอุ้ยที่ป้าพูดถึงคือสามีของป้าแพรว ส่วนเกรซกับเกล้าก็ลูกสาวของป้าแพรว ลูกพี่ลูกน้องผมนั่นแหละ เกรซอ่อนกว่าผมปีเดียว ส่วนเกล้าสองปี

“ป้าแพรว นั่นป่าน เพื่อนกร” ผมมัวแต่ตกใจกับการมาของป้าแพรวจนเกือบลืมไอ้ป่านไปสนิท

“ป่านบอกป้าตอนไปรับที่หน้าบ้านแล้วล่ะ” ป้าแพรวพูด ก่อนเดินมายืนข้างผม

“คนนี้หรือเปล่าที่แม่เราเล่าให้ป้าฟัง” ป้าแพรวเหล่ตามองไอ้ป่านมันนิดนึง ก่อนหันมาพูดเบาๆ ข้างหูผม แล้วผมจะรู้ไหมเนี่ยว่าแม่ไปเล่าอะไรให้ป้าฟังบ้าง

“กินข้าวกันอยู่หรอลูก มานั่งกินต่อมา” ป้าแพรวพูด แล้วกวักมือเรียกไอ้ป่านกลับมานั่ง มันก็เดินกลับมา

“เล่าอะไรป้าแพรว” ผมหันไปกระซิบถาม แต่ป้าแพรวไม่ตอบครับ ไอ้ป่านเองก็เหลือบมองผมบ้าง แล้วค่อยลงมือกินผัดมักกะโรนีที่ยังค้างอยู่เกือบครึ่งจาน

“แล้วป้าแพรวกินข้าวมาหรือยังครับ แล้วลุงอุ้ย เกรซ เกล้าไม่ได้มาด้วยหรอ” ผมถามเปลี่ยนเรื่อง เอาไว้กินเสร็จแล้วค่อยคุยเรื่องอื่นดีกว่า

“ป้าแวะกินมาแล้ว เมื่อกี้ป้าแวะไปห้างก่อนถึงบ้านเรานี่แหละ เกรซกับเกล้าไปดูชุดใส่ไปงานกัน เดี๋ยวเสร็จแล้วจะตามมา ป้าขี้เกียจเดินด้วยเลยนั่งแทกซี่มาหาเราก่อน” ป้าแพรวพูด แล้วหันไปทางไอ้ป่านอีก แล้วก็หันกลับมามองผมใหม่

“ตอนแรกป้าจะแวะไปหาที่บ้านแต่โทรหาแม่เราแล้ว เขาบอกว่าเราแยกมาอยู่กับเพื่อน แล้วคิดยังไงออกมาปลูกบ้านอยู่เอง ตอนแรกป้านึกว่ากรแต่งงานแล้วไม่ยอมบอกป้าซะอีก ที่ไหนได้แม่เราบอกว่ามาอยู่กับเพื่อน แล้วนี่อยู่กันสองคนหรอ” ป้าแพรวพูดแล้วหันไปมองรอบๆ 

“ฮะ ครับ ไม่ใช่ครับ” ไอ้ป่านส่งเสียงตอบอึกอักหันหน้ามาขอความช่วยเหลือจากผมเพราะไม่กล้าพูดอะไรมาก เลยได้แต่ยิ้มเจื่อนให้ป้าแพรวแทน 
   
“ไอ้ป่านมันมากินข้าวกับกรด้วยเฉยๆ แล้วคืนนี้ป้าแพรวนอนที่ไหน นอนที่บ้านกรไหม”
 
“ป้าจะไปนอนบ้านพ่อแม่เรานั่นแหละ แล้วพรุ่งนี้บ่ายค่อยต่อเครื่องไปภูเก็ต” ป้าแพรวตอบ ตอนนี้ไอ้ป่านลุกเอาจานไปเก็บในครัว

“จริงๆ ป้าแพรวนอนที่บ้านนี้ก็ได้นะ ยังมีห้องว่างอีกสองห้อง เดี๋ยวตอนเย็นกรพาไปกินข้าว ร้านนี้ป้าแพรวน่าจะชอบ” ผมพูด ตอนเด็กๆ ช่วงปิดเทอมพ่อกับแม่ก็ส่งผมไปอยู่กับป้าแพรว ผมกับป้าแพรวเลยสนิทกัน แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้เจอสองสาวลูกพี่ลูกน้องผมนานแล้ว มาเมืองไทยทั้งที่คืนนี้เลยว่าจะควงสองสาวแสบไปเที่ยวด้วยกันซะหน่อย ถึงผมไม่เอ่ยปากแต่เชื่อเถอะถ้ามันสองคนเจอหน้าผมก็รบเร้าให้พาพวกมันไปอยู่ดี

“พอดึกๆ จะชวนกันไปเที่ยวอีกล่ะสิ” ป้าแพรวพูดอย่างคนรู้ทัน ไม่รู้ๆ ทันลูกสาวตัวเองหรือรู้ทันผมกันแน่ ฮ่าๆ

“นิดนึงน่า เฮ้ย! ป่าน คืนนี้ไปร้านไอ้เดย์กัน” ผมบอกป้าแพรว พร้อมทำหน้าทะเล้นใส่ ก่อนหันไปบอกไอ้ป่าน มันมองผมแบบงงๆ แต่ก็พยักหน้ารับ สำหรับสองสาวไม่ต้องไปนัดหรือไปถามอะไรมันหรอกครับ มั่นใจว่ายังไงมันไม่มีทางปฎิเสธอยู่แล้ว

“แล้วจะไปกี่โมง” มันถามแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ นั่งลงตามเดิม

“ยังไม่รู้วะ มึงจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเปล่า เดี๋ยวกูโทรหาพวกนั้นได้ แล้วจะโทรไปบอกอีกที” ผมบอก ไอ้ป่านมันก็พยักหน้ารับ

“งั้นกูกลับเลยแล้วกัน ป้าแพรวครับ ป่านกลับก่อนนะครับ” ไอ้ป่านพูด แล้วยกมือไหว้ลาป้าแพรว

“อ้าว กลับแล้วหรอลูก ไม่ไปกินข้าวเย็นด้วยกันหรอ ไปหลายๆ คนสิจะได้สนุก นะไปด้วยกัน” ป้าแพรวพูดพร้อมทำหน้าเสียดาย

“เออ มึงก็ไปกินข้าวเย็นกับกูดิ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเอารถกลับมาจอดไว้บ้านกู อย่าลืมบอกพ่อมึงด้วย” ผมบอกมัน ส่วนพ่อมันที่ผมพูดถึง คงจะรู้กันนะครับว่าผมไม่ได้หมายถึงพ่อบังเกิดเกล้าของมัน แต่เป็นพ่อทูนหัวต่างหาก เฮอๆ

“งั้นเดี๋ยวป่านกลับมานะครับ ป้าแพรว” มันพูด แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้

“กรไปส่งมันแป๊บนึงนะ” ผมพูดแล้วลุกตามไอ้ป่านไป จริงๆ ไม่ได้จะมาส่งมันหรอกครับ แต่มีเรื่องจะคุยกับมันมากกว่า

“แม่ง ป้ามึงถามมาซะกูไปไม่ถูก แม่มึงเล่าอะไรให้ป้ามึงฟังบ้างวะ โชคดีพี่กูไม่อยู่ ไม่งั้นได้สนุกกันใหญ่แน่” แค่เดินพ้นจากโต๊ะกินข้าวมาได้หน่อย ไอ้ป่านมันก็เริ่มเลยครับ พอกับผมที่พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากหายใจไม่ทั่วท้องอยู่นาน

“สนุกบ้านมึงสิ ตกลงแม่กูไปเล่าอะไรไว้บ้างวะ เดี๋ยวต้องโทรถามซะหน่อย แล้วส่งป้าแพรวมาไม่บอกกูล่วงหน้า กูจะได้กลับบ้าน ส่งมานี่เฉยเลยแม่กู” ผมบ่น ที่บ่นไม่ใช่เพราะไม่สะดวกใจที่จะให้ป้าแพรวมานี่นะครับ เรื่องนั้นเรื่องเล็ก แต่ไม่รู้จะอธิบายเรื่องที่ผมออกมาอยู่บ้านนี้ได้ยังไงมากกว่า

“หึหึ” ไอ้ป่านหัวเราะ เหมือนเป็นเรื่องสนุกเสียเต็มประดา

“เออ ไม่ถึงตามึงบ้างให้มันรู้ไป” ผมพูด

“แล้วเย็นนี้มึงจะไปร้านไหนวะ” ไอ้ป่านมันถาม แล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ โดยมีผมเอาแขนท้าวประตูรถมันไว้

“รัสมุข-มัสยา” ผมตอบ ร้านนี้คนที่พาผมไปก็ไม่ใช่ใคร สุดที่รักของผมนั่นเอง

“เออๆ กูไปละ เดี๋ยวกูกลับมาสักห้าโมงแล้วกัน เชิญมึงคุยกับป้ามึงตามสบาย โชคดีๆ” ไอ้ป่านโบกมือลา ก่อนยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วลากปาดคอ การกระทำมึงขัดกับคำพูดมาก ไอ้เพื่อนเลว!!

........................................................



“พี่ป่าน เป็นแฟนพี่กรหรอ” สองสาวแสบของผมมันเริ่มแผลงฤทธิ์กันแล้วครับ ถึงรอดจากคนแม่มาได้ แต่เจอคนลูกผมคงรอดยาก ตอนนี้ผมกำลังขับรถพามันกับไอ้ป่านไปที่ร้านของไอ้เดย์ คืนนี้เพื่อนผมมันไปกันครบ มันถือโอกาสไปฉลองเรียนจบกันด้วย ที่จริงปิดโปรเจคกันไปเกือบเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้นัดเลี้ยงกันเพราะไอ้นายไปเยี่ยมน้องสาวมันที่เชียงใหม่ น้องมันเรียนสถาปัตย์อยู่มอชอ แล้วเพิ่งกลับลงมาเมื่อวานนี้

“เฮ้ย!! ไม่ใช่ๆ” ไอ้ป่านรีบหันไปปฎิเสธเกรซที่นั่งอยู่เบาะหลัง

“จริงอ่ะ น้าพลอยบอกว่าพี่กรอยู่กับเพื่อน เพื่อนคนไหน ใช่เพื่อนแน่หรออออ...” คราวนี้เสียงน้องเกล้า แล้วมันจะทำเสียงสูงท้ายประโยคทำไมฮะ ไอ้ป่านแม่งก็ขำ บางทีมึงช่วยกูบ้างก็ได้นะ จ้องแต่จะซ้ำกูตลอด

“เพื่อนคนนั้นน่ารักเท่าพี่ป่านไหม ถ้าน่ารักเหมือนพี่ป่านก็โอเค” เสียงเกรซเจื้อยแจ้วต่อ แล้วนี่น้องผมมันยินดีกันมากใช่มั้ยถ้าพี่ชายจะมีแฟนเป็นผู้ชายเนี่ย ช่วยทำตัวเป็นน้องสาวแบบปกติกันบ้างได้ไหม ทำเป็นตกอกตกใจกันบ้างสักนิดก็ได้ นี่อะไร ดูยินดีปรีดากันเหลือเกิน ผมล่ะไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ

“ดูรูปป่ะ เดี๋ยวพี่เอาให้ดู” ไอ้ป่านเสนอ มึงชักสนุกใหญ่แล้วนะ

“มึงช่วยถามกูสักคำครับ ว่ากูยินดีไหม” ผมหันไปพูดกับไอ้ป่าน แต่คิดว่ามันจะสนไหมครับ ไม่เลย ผมพูดไปมันก็หยิบเอาโทรศัพท์มาเลื่อนๆ หารูปไป แม่งเป็นเพื่อนรักกูมาก แต่รูปแฟนกูก็พี่มึงนะ คิดนิดนึงเหอะ

“นี่ไง” พอไอ้ป่านเจอรูปที่มันต้องการก็ส่งโทรศัพท์มันไปด้านหลัง แล้วก็ได้ยินเสียงสองสาวกรี๊ดกร๊าดกันใหญ เก็บอาการกันนิดนึงไหมน้องกู

“หล่อ”

“ไหนๆ อุ้ย!! หล่อจริงด้วย ก็น่ารักเหมือนกันนะ แต่พี่ป่านน่ารักกว่า”

“แต่พี่คนนี้หล่อกว่า”

“โอเค ผ่านๆ” เสียงเกรซกับเกล้ามันคุยกันสองคนที่เบาะหลัง ไอ้ป่านก็เอาแต่หัวเราะครับ สนุกเกินไปนะมึง

“พี่ป่านๆ แฟนพี่กร ชื่ออะไรอ่ะ” พอได้ยินเสียงมาจากด้านหลังผมก็หันไปมองไอ้ป่านทันทีเลยครับ แต่ก็เหมือนเดิม ผมไม่ใช่พี่กาวน์นิจะไปทำอะไรมันได้

“พี่กันต์” ไอ้ป่านตอบแล้วหันมามองหน้าผมแบบสะใจมาก คราวนี้สองสาวมันยิ่งได้ใจใหญ่เห็นไอ้ป่านเป็นพวกไปเรียบร้อย ยื่นหน้าเข้ามาหาพร้อมเอามือเกาะเบาะไอ้ป่าน ก่อนเริ่มถามซักกันเป็นการใหญ่ ไอ้เพื่อนผมก็น่ารักน่าตื้บมาก ตอบตรงทุกคำถาม จนผมอยากจอดรถแล้วเปิดประตูถีบมันลงไปเสียเดี๋ยวนี้

“ใครจีบ ใครก่อนอ่ะพี่ป่านรู้ป่ะ” ถามกันมาจนจะถึงร้าน ยังไม่หยุด เพื่อนมึงไม่ใช่ดาราครับไอ้คุณป่าน มึงไม่ต้องคุ้ยเรื่องกูมาเล่าขนาดนั้น ไอ้ผมก็ไม่มีปัญญาจะไปห้ามมันทั้งคนถามคนตอบ คงทำได้แค่อย่างเดียวคืออย่าให้มันไปพูดต่อแค่นั้น แต่คิดว่ามันคงรู้แหละว่าอะไรเป็นอะไร พูดได้ไม่ได้ แต่เดี๋ยวย้ำอีกรอบกันเหนียวดีกว่า

“ไม่ต้องไปพูดกันต่อล่ะ” ผมหันไปพูดกับสองสาวหลังจากจอดรถแล้ว

“รู้แล้วน่า แม่ก็ไม่ได้รู้ซะหน่อยว่าพี่อยู่กับแฟน แต่ถึงรู้ก็ไม่อะไรหรอก พี่กรก็รู้นิ” เสียงเกรซมันพูด

“เออๆ นั่นแหละ แต่อย่ารู้ดีกว่า” ผมพูด แล้วเปิดประตูลงจากรถ พอลงจากรถ น้องเกล้าก็วิ่งมาควงแขนผมเลยครับ อย่างนี้ประจำถ้ามาด้วยกัน ส่วนน้องเกรซเดินคุยอยู่กับไอ้ป่าน

“แล้วเกล้าจะเจอพี่กันต์ไหมเนี่ย อยากเห็นตัวจริงอ่ะ”

“อาจจะ” ผมตอบแค่นั้น เพราะเมื่อเข้าไปในร้านก็คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องแล้วล่ะครับ เสียงมันดัง แต่ในใจก็ภาวนาให้พรุ่งนี้กันต์มาถึงบ้านช้าหน่อย จะได้คลาดกัน อย่าได้มาเจอกันเลยจริงๆ

............................................................................ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2011 23:30:30 โดย Angel_K »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด