หลังจากเปิดภาคเรียนได้ 3 วัน ก็เป็นวันแรกของการเปิดห้องเชียร์และจับสายรหัสของคณะนิติศาสตร์ การขึ้นห้องเชียร์ของคณะ คือ 3 วัน ต่อสัปดาห์ ในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เวลา 5 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม โดยใส่เสื้อซ้อมเชียร์ของคณะ กางเกงวอร์มสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว การซ้อมเชียร์จะใช่เวลาในช่วงเดือนแรกของภาคเรียนต้น ก่อนการเปิดการแข่งขันกีฬาภายใน
รุ่นพี่ปี 2 ในคณะต่างพากันเตรียมของมากมายเพื่อนรับขวัญน้องรหัสของตัวเอง ในปีนี้ทางคณะรับนิสิตใหม่เพิ่มขึ้นจึงทำให้น้องปี 1 มีมากกว่ารุ่นพี่ปี 2 ทางสโมสรนิสิตคณะจึงได้ทำฉลากรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ รุ่นพี่ปี 2 จำนวน 2 ชุด ทุกคนจะมีน้องรหัส อย่างน้อย 1 คน แต่บางคนอาจจะได้ถึง 2 คน
และในวันนี้ก็มีการคัดตัว เชียร์ลีดเดอร์ และนักกีฬาประเภทต่าง ๆ ด้วย ต้นข้าวและทิวไผ่เองก็ติดโผในรายชื่อนั้นด้วย แต่ทิวไผ่ยื่นความจำนงว่า เขาจะต้องลงกีฬาบาสเกตบอลจึงหลุดโผไปแต่หนุ่มหน้าใสไม่มีข้ออ้างใดเลยที่จะปฏิเสธหรือขัดขืนรุ่นพี่ได้ เพราะเขาไม่ถนัดกีฬาซักอย่าง ถ้าจะโกหกว่ามีโรคประจำตัวก็เกิดความละอายแก่ใจ จึงต้องรับหน้าที่นี้ไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง
ก่อนเลิกห้องเชียร์ พี่ ๆ คณะกรรมการห้องเชียร์ถือกล่องฉลากขึ้นไปบน อัฒจันทร์ ที่น้องปี 1 นั่งรออยู่ ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นของทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ บางคนนั้นหมายตากันไว้แล้ว แต่มันจะเป็นไปตามที่หวังหรือเปล่า ก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้วล่ะ
“พี่จุ๊บแจง 089-8765432” ต้นข้าวอ่านเบา ๆ (เลขหมายโทรศัพท์สมมติ)
“อ้าวน้อง ๆ ครับ ลงมาจากอัฒจันทร์ได้แล้ว พี่รหัสรอรับอยู่หน้าประตูด้านหลังสแตนด์นะครับ” เสียงพี่ฝ่ายวินัย คนหนึ่งบอกให้น้อง ๆ ทยอยลงจากสแตนด์เชียร์
เหตุการณ์ด้านนอกค่อนข้างชุลมุนวุ่นวายเล็กน้อยเพระเพิ่งเปิดภาคเรียนใหม่น้องปี 1 ยังไม่รู้จักรุ่นพี่กันมากนัก เสียงเรียกหาพี่รหัสน้องรหัสจึงดังระงมเซ็งแซ่
“พี่จุ๊บแจง....ต้องเป็นผู้หญิงสินะ” ต้นข้าวพึมพำ พรางเดินสอดส่องสายตาและตะโกนเรียกชื่อพี่รหัสของตนไปท่ามกลางกลุ่มเพื่อน ๆที่แน่นขนัด
“พี่ครับ ๆ พี่จุ๊บแจงคนไหนครับ”
“นู่นเลยค่ะน้อง ยืนโด่เด่อยู่มุมนู้น.... เห็นยัง ยัยตัวเล็ก ๆ ใส่เสื้อสีดำถือถุงขนมกระโดดเหยงๆ อยู่นั่นล่ะ” ต้นข้าวมองตามที่พี่คนนั้นชี้ไม้ชี้มือไป เขาก็มองเห็นคนตัวใหญ่หน้าคมเข้มที่เคยเห็นจนชินตายืนคุยอยู่กับพี่คนที่ชื่อจุ๊บแจงนั่นอยู่ก่อนแล้ว ต้นข้าวขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด ความคิดโลดแล่นประทังเข้ามาสุมในหัวแน่นไปหมด ต้นข้าวกล่าวขอบคุณพี่คนนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปหาพี่จุ๊บแจง ในใจภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิด
“เอ่อ พี่จุ๊บแจงใช่มั้ยครับ” ต้นข้าวยกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่สาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ใช่จ้ะน้อง...”
“ต้นข้าวครับพี่ เรียกต้นเฉย ๆ ก็ได้ครับ” หนุ่มหน้าใสตอบแล้วส่งกระดาษฉลากที่มีชื่อและเบอร์โทรให้พี่จุ๊บแจงเพื่อยืนยัน
รุ่นพี่สาวยิ้มหวาน แล้วส่งขนมถุงใหญ่และของที่ระลึกให้หนุ่มหน้าใส ก่อนจะมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน
“เฮ่ย...ไอ้แจงแมร่งน่าอิจฉาโคตรเลยว่ะ ได้น้องที 2 คน คนนึงก็รูปหล่อ อีกคนก็น่ารักซะ ขอจีบน้องแกซักคนได้มั้ยว้า...” รุ่นพี่สาวอีกคนส่งเสียงแซวเข้ามา
“เหอะ... ไม่ได้โว้ยน้องชั้นใครอย่าแตะ โดยเฉพาะพวกโคแก่ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“โห หวงก้างว่ะ ระวังจะได้ชื่อว่าเป็นสมภาร ไม่ใช่สิ...แม่ชีกินไก่วัดนะเฟร้ยแก.........” เพื่อนสาวรุ่นพี่ลากเสียงยาว ทำท่าล้อเลียน
“บ้าสิ น้องโว้ยน้อง”
“ให้มันเจง เฮอะ....ไปแล่ว หาน้องชั้นก่อนยังไม่เจอซักคนเลย”
“เออ ไปเลยแก น้องชั้นอายหน้าแดงหมดแล้ว”
“เอ่อ พี่ครับ...” ต้นข้าวงอ้ำอึ้ง สายตามองไปทางหนุ่มตัวสูงที่ยืนอมยิ้มทำสีหน้ากวน ๆ ยียวนอยู่อีกฟากหนึ่งอย่างไม่เชิงเป็นมิตรนัก
“น้องมีอะไรหรอคะ...เอ้อ พี่ลืมแนะนำไปเลย นี่น้องทิวไผ่ หรือน้องไผ่ค่ะ นี่น้องรหัสพี่อีกคนรู้จักกันรึยังเราสองคนเนี่ย” รุ่นพี่สาวพูดพลางมองหน้าสองหนุ่มสลับกันไปมาอย่างสงสัย (ชั่งไม่รู้อะไรบ้างเลย....)
“รู้จักครับ รู้จักดีด้วย” หนุ่มหน้าใสเน้นเสียงตอบ ‘อ๊ากกก.... ทำไมฟ้าเล่นตลกอย่างนี้ฟระ เซ็งว้อย...’
“งั้นก็ดีเลย รู้จักกันไว้ เดี๋ยวต่อไปมีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษากัน อื้มอีกอย่างหนังสือตำราเรียนที่พี่จะให้จะได้ไปแบ่งกันอ่านได้” รุ่นพี่สาวชวนสองหนุ่มรุ่นน้องพูดคุยเพื่อทำความสนิทสนมคุ้นเคย และแนะนำเรื่องต่าง ๆ อยู่อีกซักพัก ก่อนจะให้รุ่นน้องได้กลับไปพักผ่อนเตรียมตัวไปเรียนในวันรุ่งขึ้น
...
(ใต้ตึกคณะแพทย์ วันพบหน้าพี่รหัส)
สถานการณ์วุ่นวายของการตามหาพี่รหัสน้องรหัสจะเกิดขึ้นไม่แพ้กันในแต่ละคณะ แต่สำหรับคณะแพทย์แล้ว จะไม่มีการจับสายรหัสรุ่นน้องกับรุ่นพี่ แต่จะฟิกไปตามหมายเลข 3 หลักสุดท้ายของรหัสนิสิตที่ตรงกัน หรือเรียงตามลำดับก่อนหลังตามรายชื่อทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่จับคู่กันไปเลย และพี่รหัสน้องรหัสจะเจอกันก่อนขึ้นห้องเชียร์ หนุ่มน้อยตัวเล็กไม่ได้รู้เอาเสียเลยว่าตนเองได้ตกเป็นเป้าหมายของรุ่นพี่หนุ่มในคณะที่หมายปองในตัวเขาไปเสียแล้ว
สายฟ้ายืนหันรีหันขวาอยู่ท่ามกลางผองเพื่อนที่กำลังวุ่นวายกันอยู่
สายชลใจเต้นโครมคราม นึกภาวนาให้สมกับที่ตนหวังไว้ แต่โชคชะตามักจะเล่นตลกเสมอทำให้คนไม่ค่อยสมในสิ่งที่ตนหวัง และในครั้งนี้มันก็เกิดขึ้นกับสายชลนิสิตแพทย์หนุ่มหล่อคนนี้ เพราะหลังจากไปตรวจเช็ครหัสนิสิต 3 ตัวสุดท้ายแล้วหนุ่มน้อยร่างเล็กขวัญใจของเขามีเลขรหัสตรงกับเพื่อนสาวคนสนิทของเขาแทนที่จะเป็นตัวเขา รุ่นพี่หนุ่มสายหน้าอย่างเสียดาย แต่แล้วความคิดอันแยบยลก็ผุดพรายขึ้นมาในหัว นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้ตีสนิทหนุ่มรุ่นน้องผู้น่ารักคนนี้
“น้องฟ้าครับ เจอพี่รหัสรึยังครับ” สายชลตรงปรี่เข้ามาทักทายรุ่นน้องทันทีหลังจากที่เข้ามองหาเป้าหมายอยู่นาน
“ฟ้ายังไม่รู้จักพี่ขวัญเลยครับพี่” สายฟ้าส่งเสียงใส ๆ ตอบกลับมา
“ปะ ไปกับพี่ ยัยนี่พี่รู้จักดีเลยล่ะ” สายชลคว้าข้อมือหนุ่มร่างเล็กเดินออกไปจากกลุ่มฝูงชน สายฟ้าได้แต่ทำหน้างง ๆ
“เฮ่ย ไอ้ขวัญ พาน้องรหัสมาส่งแกแน่ะ เอ้ารับขวัญน้องซะ” สายฟ้าถึงบางอ้อ ที่แท้พี่ขวัญก็คือเพื่อนสนิทของพี่น้ำที่เคยแซวเขากับพี่น้ำบ่อย ๆ เพราะก่อนหน้านั้นเขายังไม่รู้จักชื่อรุ่นพี่สาวคนนี้เลย
ขวัญคือเพื่อนสนิทของเขาถ้าจะจีบน้องรหัสเพื่อนคนนี้คงไม่ยากเท่าไหร่ เพราะรู้ไส้รู้พุงกันดีอยู่แล้ว
สายฟ้ายกมือไหว้รุ่นพี่สาว ก่อนจะรับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่พี่รหัสเตรียมไว้ให้ สายฟ้าเขินอายนิด ๆ รับตุ๊กตามากอดไว้แนบอก
“อืม ก็เข้ากับหน้าเราดีนี่ ดีไปถึงไม่ใช่น้องผู้หญิงแต่ก็ไม่ใช่พวกหน้าเถื่อน มีหวังมันเอาตุ๊กตาพี่ไปเป็นเป้าซ้อมมวยแทนกระสอบทรายแหง ๆ” สายฟ้าฉีกยิ้ม ยิ่งหน้าแดงหนักเมื่อพี่รหัสพูดเชิงล้อ ๆ
“แหม...พ่อ... มองซะหยาดเยิ้มเลยนะแกน้องชั้นโว้ย แกอย่าหวัง ชั้นรู้ว่าแกคิดอะไรอยู่ ไม่มีทางซะล่ะ” ขวัญหันไปแขวะเพื่อนหนุ่มเข้าให้ เมื่อเห็นยืนมองหนุ่มน้อยอยู่อย่างหวานเยิ้มไม่วางตา
“อาราย ๆ ชั้นก็มองน้องชั้นสิโว้ย น้องแกก็เหมือนน้องชั้น จริงมะ...” สายชลตอบโต้เพื่อนสาวจอมก๋ากั่นของเขา
“ไม่ต้องเลย ๆ รีบไปหาน้องรหัสแกเลย ป่านนี้คงตามหาแกหัวซุกหัวซุนแล้วมั้ง เดี๋ยวน้องมันก็น้อยใจเอาหรอก มัวแต่มาป้อน้องชั้นอยู่ได้ เด็กมันอายนะเว้ย ไปเลย ๆ” ขวัญมณีรุนหลังให้สายชล รีบเดินไปตามหาน้องรหัสของตนเอง ก่อนจะมาชวนสายฟ้าคุยทำความคุ้นเคยตามประสาพี่น้อง
“น้องอย่าไปสนใจมันเลย ไอ้นี่มันเป็นแบบนี้ล่ะ อย่าไปถือสาคนบ้าเลยนะ”
“นินทาอะไรให้น้องฟังวะ เดี๋ยวเหอะ แก...”
“เฮ่ย อยู่ตั้งไกลยังมีหน้าได้ยินอีกนะ”
“เซ้นส์มันบอกน่ะว่าแกนินทาชั้นอยู่ อีกอย่าง ใช้หูฟังเว่ย ไม่ได้ใช้หน้าฟัง”
สายฟ้าเลยกลายเป็นฝ่ายนั่งฟังรุ่นพี่แขวะกันไปมาซะมากกว่า
...