ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG  (อ่าน 287884 ครั้ง)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ทิวไผ่มุดเต้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ต้นข้าวไปเลย

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ่านแล้วนึกถึงความหลังครั้งมุดเต็นท์

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 o8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2007 14:06:28 โดย หมูพูห์ »

dokebi

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh3: o3 o17 o3 :laugh: :laugh3: หุหุ มุดมุด

tsukihime

  • บุคคลทั่วไป
รั้วเทา - แสด...
ลูกสมเด็จ...


ม. ที่เอามาเป็นแบ็กกราว์นของเรื่องใช่ มน. เปล่าเนี่ย?
เด็กโรงเรียนสหฯ ในตัวเมืองนี่...
จร. ?
ตอ. ภาคเหนือ?



น่าติดตามๆ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารอลุ้น ใผ่มุดเต็นท์เข้าหาต้น  :haun5:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :haun5: :haun5: ก่อนที่ไผ่จะมุดเต็นท์ต้นข้าวได้เนี่ยะ  ผมสงสัยว่าจะโดนสาวๆมุดเข้าเต็นท์ก่อนน่ะซิครับ o17 o17

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ พูห์เคยไปมุดเต็นท์ครายเหรอ    :teach:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
มุดเต็นท์ มุดเต็นท์ มุดเต็นท์ มุดเต็นท์ มุดเต็นท์ มุดเต็นท์
 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
รับไม่ได้มีแต่คนหื่น ๆ  :sad2:

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
ในวันแรกการฝึกยังคงไม่หนักมากนัก เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมและทดสอบกำลังใจของ นศท. ที่เค้ารับการฝึก บรรยากาศ จึงยังครึกครื้นสนุกสนานอยู่ ยังไม่มีใครเหนื่อยอ่อนหรือหมดแรง  สิ้นเสียงนกหวีด ครูฝึกประจำกองร้องปิดไฟแล้ว ในตอนแรกทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบเชียบวังเวง เพราะอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่ค่อนข้างเงียบสงัดในเวลากลางคืน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงซุบซิบคุยกันลอดออกมาจากเต็นท์ทีละเต็นท์สองเต็นท์ มีเสียงก็อบแกรบจากการเปิดห่อขนมขบเคี้ยว จนเสียงดังฟังชัด บางคนถึงกับออกมานั่งคุยกันนอกเต็นท์ มีกลุ่มสาวเทียม และ เด็กหนุ่มเฮี๊ยว ๆ หลายคนวิ่งวุ่นมุดเต็นท์หยอกล้อกันไปมาส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างสนุกสนาน

“เฮ่ย... นังบ๊อบมุดเต็นท์ไอ้ไผ่เว้ย พวกเรา”  เสียง นศท. คนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับการเฮโลไปรุมล้อมกันที่เต็นท์ของทิวไผ่ เพื่อน ๆ ต่างเชียร์ให้ทิวไผ่กอดปล้ำบ๊อบกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหล่อนก็ส่งเสียงครวญครางตามจริตจกร้านเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ๆ จนเพื่อน ๆ สนุกสนานล้อเลียนกันใหญ่ แม้แต่สายฟ้าและต้นข้าวเองก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้

“นี่ ๆ ต้น ต้นคิดว่าไผ่จะปล้ำยัยบ๊อบมันจริง ๆ หรอ” สายฟ้าลุกขึ้นถามความเห็นของต้นข้าวอย่างกระวนกระวาย แต่ก็พยายามเก็บอาการเป็นห่วงและสงสัยคลางแคลงใจไว้

“ห่วงกันมากนักรึไง นายนั่นจะทำอะไรก็ชั่งเค้าสิ ไม่เกี่ยวกับเรา ถึงขนาดยัยบ๊อบมันมุดเข้าไปหาขนาดนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็คิดดูเองละกัน” ต้นข้าวตอบมาอย่างหงุดหงิด เพราะส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึก ที่ลึกลงไปในก้นบึ้งของหัวใจก็อยากรู้เหมือนกันว่า ทิวไผ่ทำอะไรกับยัยบ๊อบกันแน่ โดยที่ต้นข้าวเองก็ไม่ทราบสาเหตุ แต่รากลึกแห่งความเกลียดชังก็กลบเกลื่อนมันหายไปอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าได้รับคำตอบของต้นข้าวกลับมาในแบบที่เขาคาดไว้จริง ๆ และคิดว่าไม่น่าถามต้นข้าวเลย เพราะ มันยิ่งทำให้เขาวุ่นวายใจหนักขึ้นไปอีก จนอดที่จะโผล่หน้าออกนอกเต็นท์มองไปทางเต็นท์ของทิวไผ่ที่มีกลุ่มเพื่อน ๆ รุมล้อมกันอยู่อย่างอดใจไม่ได้ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“เฮ้ย ! บอกให้นอนก็นอนซิวะ พวกเอ็งอยากลุกขึ้นมาวิ่งรอบกองร้อย ซัก10 รอบ แก้หนาวก่อนรึไง...เดี๋ยวเถอะ พวกนี้ เจอเล่นทั้งกองร้อยเดี๋ยวจะรู้สึก” สิ้นเสียงตวาดคำแรกของครูฝึกประจำกองร้อยดังขึ้น สรรพสำเนียงทั้งปวงที่เคยดังระงมเซ็งแซ่ พลันเงียบกริบไปในบัดดล คนที่อยู่นอกเต็นท์วิ่งเข้าเต็นท์ตัวเองถูกบ้างผิดบ้างกันอย่างโกลาหลวุ่นวาย
สิ้นสุดคำขู่ของครูฝึก ทุกอย่างจึงเงียบลงเข้าสู่ภาวะปกติ มีเสียงพูดคุยเล็ดลอดออกมาบ้าง ไม่นานเสียงพูดคุยต่าง ๆ ก็เงียบหายไป ทดแทนด้วยเสียงลมหายใจอย่างสม่ำเสมอ และมีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรสรรพสำเนียงจากธรรมชาติส่งเสียงร้องดังระงมขับกล่อมเซ็งแซ่ไปทั้งราวป่าเขาลำเนาไพร ยิ่งดึกมากขึ้นเท่าไหร่ ความเงียบสงัดยิ่งเข้าปกคลุมมากขึ้นเท่านั้น เสียงเพลงขับกล่อมจากเหล่าแมลงป่าทั้งหลายจางหายไปเรื่อย ๆ จนเงียบกริบ เวลาล่วงเข้าสองยาม พระจันทร์คืนเดือนแรมชั่งมืดมิดสนิทดำ มีแต่เพียงเสียงลมพัดใบไม้แห้งดังหวีดหวิวนำพาความเหน็บหนาว มาเป็นระยะ ๆ สลับกับเสียงสุนัขจิ้งจอก ส่งเสียงร้องหอนอย่างโหยหวนลอยมาตามลม จน นศท. ที่เข้าเวรยามผลัดดึก ถึงกับผวาสั่นสะท้านไปทั้งสรรพางค์ ด้วยอากาศที่หนาวเย็นอยู่แล้วบวกกับบรรยากาศสุดแสนจะวิเวกวังเวงจนชวนขนหัวลุก มันยิ่งทำให้หนาวเหน็บเหมือนกับหัวใจจับตัวกันเป็นเกล็ดน้ำแข็งไปเลยทีเดียว

ผ้าเต็นท์ถึงแม้จะช่วยกำบังความหนาวเย็นจากกระแสลมไปได้บ้าง แต่พื้นดินที่เคยอบอุ่นในตอนกลางวัน กลับกลายสภาพเป็นเตียงน้ำแข็งไปเสียแล้ว ยิ่งดึก ไอความเย็นจากก้อนหินภูเขาและผิวดินก็ส่งผ่านขึ้นมาตามเสื่อและแผ่นผ้าใบแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่กำลังหลับใหลอยู่ในห้วงราตรีกาล ถึงแม้จะมีใบไม้แห้งกันความชื้นและความเย็นแล้วก็ตาม
ต้นข้าวนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ภายในถุงนอน แต่กระนั้นไอความเย็นจากชั้นหินก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้ ต้นข้าวรู้สึกหนาวจนจับขั้วหัวใจ ริมฝีปากสั่นสะท้านเหมือนกับว่ากำลังอยู่ท่ามกลางดงน้ำแข็งขั้วโลก

แต่ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านเข้ามาแทนที่ เมื่อมีร่างกายอุ่น ๆ เข้ามาเบียดแนบชิดและกกกอดต้นข้าวไว้ในอ้อมกอด เสียงลมหายใจอุ่น ๆ ของคน ๆ นั้นเปล่ารดที่หูและต้นคออย่างแผ่วเบา เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ความอบอุ่นจากร่างกายแผ่ซ่านส่งผ่านให้กันและกัน จนต้นข้าวรู้สึกหายหนาวเป็นปลิดทิ้ง นอนหลับตาพริ้มและอมยิ้มอย่างมีความสุข

“ต้นครับ ไผ่มาหาต้นตามสัญญา แล้วนะครับ หายหนาวรึยังจ๊ะที่รัก” พูดจบทิวไผ่ก็ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของหนุ่มร่างบางนั้นก่อนจะแนบศีรษะลงนอนเคียงข้าง

แต่ทว่าเสียงนั้นมันกลับเหมือนเสียงของปีศาจร้ายที่ทำให้ต้นข้าวตื่นจากภวังค์ในทันที พร้อมกับงอเข่าและถีบออกไปอย่างสุดแรง

“โอ๊ย!” สายฟ้าส่งเสียงร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด เมื่อโดนถีบเข้าที่หน้าท้องอย่างจัง จนทำให้ต้นข้าวลืมตาตื่นขึ้นอย่างตกใจในเสียงร้องของเพื่อนรัก
“ฟ้า ฟ้า เป็นอะไร” ต้นข้าวถามไถ่สายฟ้าอย่างเป็นห่วง

“ก็นายน่ะสิ ถามได้ ถีบเราเข้าอย่างจังเลย คนอุตส่าห์สงสารเห็นนอนหนาวสั่นอยู่ เลยเข้ามากอดหวังว่าจะช่วยให้อุ่นขึ้น แล้วไง ผลตอบแทน โดนถีบเข้าให้ จุกนะเนี่ย” สายฟ้าหน้านิ่วตอบกลับไปอย่างตัดพ้อ

“อ้าว นายหรอกเหรอ... เราขอโทษเราไม่ได้ตั้งใจนะ ขอโทษจริง ๆ เรานึกว่าเป็น....” ต้นข้าวหน้าเสีย เฝ้าขอโทษขอโพยเพื่อนรักเป็นการใหญ่ เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เป็นอะไรของนาย ฝันร้ายรึไง ถ้ารู้ว่าจะโดนแบบนี้ปล่อยให้นอนหนาวตายก็ดีหรอก” สายฟ้าพูดอย่างน้อยใจ

“แหมเพื่อนรักของเราไม่ปล่อยให้เรานอนหนาวตายหรอก เรารู้ ขอบใจนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงเรา มามะ มานอนกอดกันดีกว่า จะได้อุ่น ๆ ถุงนอนเราก็นอนได้สองคนเลยนะ นายย้ายมานอนกับเราเลยดีกว่า จะได้รวมผ้าห่มกันด้วยทีนี้จะได้หายหนาวซะที” ต้นข้าวสวมกอดสายฟ้าที่กำลังงอน และพูดเย้าแหย่เพื่อนรักอย่างสำนึกผิดพร้อมกับเสนอให้สายฟ้าย้ายมานอนในถุงนอนเดียวกัน
ตลอดคืน ต้นข้าวต้องเป็นฝ่ายกอดสายฟ้าแทน เพราะตัวโตกว่า และตัวเขาเองไปทำร้ายเพื่อนก่อนจึงเป็นการไถ่โทษไปด้วยในตัว

……………………………………………………………………………………………….


‘ปรี๊ดดด! ปรี๊ดดด! ปรี๊ดดด! ปี๊ด!’
“อีก 15 นาทีรวม” เสียงนกหวีดดังลั่น ปลุกให้  นศท. ทุกคนตื่นขึ้นมาประกอบภารกิจส่วนตัว ล้างหน้าแปลงฟัน และเข้าห้องน้ำ ก่อนรวมพลกองร้อย เพื่อประกอบกิจกรรมกายบริหาร ในเวลา ตี 5 ครึ่ง
ยามเช้าตรู่ในฤดูหนาว บรรยากาศภายนอกยังมืดสลัวปกคุมไปด้วยสายหมอก และความหนาวเย็นยะเยือก จนทำให้ทุกคนอิดเอื้อนที่จะต้องตื่นแต่เช้ามืด แต่ทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้น แล้วจะถูกลงโทษ สายฟ้าปลุกต้นข้าวที่กำลังงัวเงียสุดขีดให้รีบตื่นไปล้างหน้าล้างตา
สายน้ำที่ถูกกวักขึ้นกระทบผิวหน้าถึงกับทำให้หน้าชาเหมือนถูกตบเข้าฉาดใหญ่ เพราะน้ำในอ่างซีเมนต์เย็นยะเยือกยังกับน้ำแข็งเลยทีเดียว

จากนั้นก็มีเสียงนกหวีด รวมพล จัดแถวยืนระยะห่างพอประมาณในการทำกายบริหารและอบอุ่นร่างกายเพื่อเรียกเหงื่อซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความหนาวเย็นลงไปได้บ้าง ก่อนจะมีการแยกย้ายไปบำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ กองร้อย ในเวลา 6 โมง 15 และปล่อยให้ไปทำภารกิจส่วนตัว แต่งเครื่องแบบฝึก เวลา 6 โมง 30 และรอรับประทานอาหารเช้า ในเวลา 7 โมงเช้าต่อไป

“ตกลงเมื่อคืนฝันร้ายอะไรหรือเปล่า” สายฟ้าถามต้นข้าวขณะที่กำลังแต่งตัวกันอยู่ภายในเต็นท์

“เปล่าหรอก แค่เราเป็นคนนอนดิ้น แล้วก็ไม่ชินเมื่อมีคนมากอดก็เท่านั้นเอง” ต้นข้าวหลีกเลี่ยงที่จะพูดความจริงกับเพื่อนรัก

“จริงอ่ะ” สายฟ้าซักไซ้ อย่างไม่อยากจะเชื่อคำพูดของเพื่อนรักเท่าไหร่นัก

“จริงสิ” ต้นข้าวยืนยันคำพูดของตน ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ทิวไผ่ตามมารังควาน เขาถึงในความฝัน คิด ๆ ก็ให้เจ็บใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ‘แค่คำพูดของนายนั่นว่าจะแอบมามุดเต็นท์เรา ทำไมต้องเก็บมานอนฝันร้ายด้วยวะ’

และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นข้าวอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง


...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ สายฟ้าเจอลูกหลงซะงั้น  o16  o16

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
สรุปว่าต้นข้าวโกรธที่ทิวไผ่ไม่มามุดเต้นเหรอ  :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
หุหุหุหุ

เกือบไปแล้นนน เกือบจะฝัน...แฉะแล้นนนนน

5555555

เหอ เหอ พูห์เคยไปมุดเต็นท์ครายเหรอ    :teach:

ไม่เคยมุดเต็นท์ใครครับ

มีแต่เต้นท์โดดมุด

555555555

 :laugh3:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
ฟ้าเจ็บตัวฟรีซะงั้นอ่ะ o6   


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารอลุ้นต่อ  o15

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
ในวันที่สอง กองร้อยที่ 3 จะเข้าฝึกในฐานทดสอบกำลังใจ ฐานสุดท้าย คือ การกระโดดหอสูง 50 ฟุต เมื่อผ่านด่านนี้ นศท. จะได้รับใบประกาศนียบัตร และได้รับการติดปีกให้
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการปล่อยให้ นศท.พักผ่อนอิริยาบถซักพักก่อนเรียกรวมแถวอีกครั้งหนึ่ง

“เป็นไงบ้างครับฟ้า เมื่อคืนหนาวไหมครับ” ทิวไผ่เดินเข้ามาทักทายสายฟ้า ขณะที่นั่งรอรวมอยู่กับต้นข้าว
“ก็ไม่เท่าไหร่ครับไผ่ แต่ฟ้าจุกเกือบตาย” สายฟ้าพูดตอบทิวไผ่ พร้อมแดกดันเพื่อนรัก และมองต้นข้าวอย่างค้อน ๆ
“อ้าว ทำไมหรอครับ” ทิวไผ่ถามอย่างสงสัย

“ก็ไอ้ต้นมันน่ะสิ ถีบฟ้าอย่างแรงเลย ไม่รู้เป็นอะไรของมัน บอกว่าไม่ชินที่มีคนมากอดเลยลืมตัว”

“เอ้อ ฟ้องกันเข้าไปสิ เห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อนแล้วนี่ ก็เราขอโทษแล้ว ยังไม่หายงอนอีกเหรอ ก็เพราะใครล่ะที่ต้องถีบถ้าไม่ใช่เพราะ...” ต้นข้าวเกือบหลุดปากเพราะความโกรธและหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่สายตาแหลมคมคู่สวยยังจับจ้องหนุ่มตรงหน้าอย่างโกรธเคือง ซึ่งมันก็ทำสายฟ้าพอที่จะเดาได้ว่าเมื่อคืนต้นข้าวเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งทิวไผ่ก็ได้แต่ทำหน้างง ๆ

“เป็นไงล่ะ เมื่อคืนกับยัยบ๊อบคงสนุกมากเลยสินะ” ต้นข้าวได้ทีเริ่มที่จะแขวะทิวไผ่บ้าง พร้อมมองด้วยสายตายิ้มเยาะ
“ก็ดีนะ ทำไมหรอ อยากโดนมั่งล่ะสิ” ทิวไผ่ตอบแบบประชดประชันและยอกย้อนกลับมา ด้วยใบหน้าหื่น ๆ ใส่ต้นข้าว

“บ้าสิ ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตวิปริตอย่างนายนะ”

“อ๋อเหรอ กล้าพิสูจน์มั้ยล่ะว่านายไม่ใช่”

“พิสูจน์อะไร ทำไมต้องพิสูจน์ ก็เราไม่ใช่”

“เดี๋ยวก็รู้อย่าเผลอละกัน”

ตลอดเวลาที่ทิวไผ่และต้นข้าวตอบโต้กันไปมาอย่างเผ็ดร้อน ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของสายฟ้าทั้งหมด และสายฟ้าเองก็เริ่มที่จะไม่แน่ใจเสียแล้วว่าเพื่อนรักที่คบกันมาตลอดหกปีของเขา และเพื่อนชายร่วมห้องที่ตนแอบชอบตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรก ในจิตใจส่วนลึกจะไม่มีความรู้สึกอะไรเกินเลยไปกว่าที่จะเป็นคู่กัดกันเท่านั้น เพราะยิ่งนานไปพฤติกรรมการแสดงออกของสองคนนี้เริ่มที่จะแปลก ๆ และเปลี่ยนไปทุกที ซึ่งทิวไผ่ไม่เคยรู้สึกและทำกับตนมาก่อนเหมือนกับต้นข้าวเลย ทั้งที่สายฟ้าเองควรจะดีใจที่สองคนนี้อาจจะใยดีกันได้ในเร็ววัน แต่มันกลับทำให้เขาเองต้องรู้สึกเหมือนกับว่า มีหนามแหลมคอยทิ่มแทงหัวใจอยู่ และนับวัน มันจะยิ่งฝังลึกลงไปเรื่อย ๆ จนยากยิ่งที่จะบ่งออกได้ง่าย ๆ คงต้องปล่อยให้มันอักเสบช้ำเลือดช้ำหนองไปเพียงฝ่ายเดียวแบบนี้

ขณะที่สายฟ้านั่งเหม่อลอยอยู่นั้นครูฝึกก็เรียกรวมแถว เพื่อออกเดินทางข้ามเขาไปอีกลูกหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีกระโดดหอ ในฐานทดสอบกำลังใจ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที พวกเขาก็เดินมาถึง พื้นที่ลานแคบ ๆ บริเวณเชิงเขา มีหอสูงราว 34 ฟุตตั้งตระหง่านอยู่มุมด้านหนึ่ง มีสายลวดสลิง  ขนาดใหญ่สองเส้นขึงจากเสาด้านข้างหอทั้งสองฝั่ง แล้วค่อย ๆ ลดระดับลงไปยังเนินดินฝั่งตรงข้ามของลานนั้น
ครูฝึกประจำฐานแนะนำวิธีการติดเข็มขัด ของสายร่มชูชีพเข้ากับตัวเองอย่างปลอดภัย และวิธีวางตำแหน่งของร่างกายเมื่อกระโดดลงมาจากที่สูง ที่จะไม่ให้ตัวเองได้รับอันตรายจากสายร่ม โดยที่ครูฝึกได้กล่าวติดตลกว่าทุกรุ่นจะมีการปล่อยฝนเทียมและลูกเห็บอยู่เป็นประจำ
ฐานนี้เป็นฐานสร้างความเข็ดขยาดให้แก่คนที่กลัวความสูง เพราะเมื่อขึ้นไปบนหอแล้วมองลงมาเบื้องล่างดูเหมือนมันจะสูงกว่าการที่เรามองจากด้านล่างขึ้นมาเสียอีก เวลาลมพัดมาเพียงแผ่วเบาก็รู้สึกว่าหอโครงเครงอย่างไม่มั่นคงเอาเสียเลย ก่อนที่จะมีการกระโดด ครูฝึกบนหอจะค่อยเช็คความเรียบร้อยของเส้นเชือก สายร่ม สลิง และการเรียกกำลังใจ โดยการให้ตะโกนคำรายงานตัวบนหอด้วยเสียงอันดัง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด แล้วจึงให้มานั่งยอง ๆ ที่ขอบหอ เมื่อครูฝึกสั่งให้กระโดด นศท. ต้องตะโกน เอี้ยยย! อย่างสุดเสียง ถ้าไม่ยอมกระโดด จะโดนคอมแบทของครูฝึกช่วยส่งลงมาโดยปริยาย
เมื่อกระโดลงไปแล้วต้องเก็บขาคู้เข้าหาลำตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกสายร่มรัดต้นขา มือจับสายร่มสองข้างให้แน่น สายร่มจะไหลไปตามลูกรอกของสลิงลงไปเรื่อย ๆ จนสุดสาย และจะมีจุดเบรกลูกรอกที่ปลายสายโดยมีเพื่อน ๆ นศท. หรือ ครูฝึกค่อยรับอยู่อีกที
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนกระโดดลงมาผิดท่าทางอยู่จนได้ จนถูกสายร่มรัดเป้าหน้าเขียวไปหลายราย หลายคนไม่กล้ากระโดดลงมาต้องให้ครูฝึกช่วยถีบส่ง บางคนกลัวจนตัวสั่นหน้าซีด ดูเหมือนว่าพวกสาวเทียมทั้งหลายจะเป็นสีสันในฐานนี้อย่างมาก เพราะสามารถเรียกเสียงเฮฮาได้ตลอดเวลาที่เจ้าหล่อนแต่ละคนแสดงอาการต่าง ๆ นานาออกมาระหว่างการกระโดดลงจากหอ

ต้นข้าวเกือบจะเป็นคนสุดท้ายในการทดสอบด่านนี้อีกตามเคย โดยมีสายฟ้าคอยให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ หลังจากตะโกนคำรายงานตัวเสร็จแล้วครูฝึกสั่งให้มายืนและนั่งยอง ๆ ลงที่ริมขอบหอ ต้นข้าวเผลอเหลือบมองลงไปด้านล่างแบบตรง ๆ ความรู้สึกเสียววูบวิ่งแผ่ไปทั่วสันหลัง มันหวิว ๆ อย่างบอกไม่ถูก ร่างกายอ่อนแรงลงอย่างฉับพลัน อาการหน้ามืด มึนงงเข้าครอบงำอย่างรวดเร็ว รู้สึกเหมือนกับว่า หอกำลังหมุนติ้วและลอยเคว้งคว้างและเหมือนมันกำลังจะล้มลงในเดี๋ยวนั้น 
ต้นข้าวหันมามองหน้าเพื่อนรักอย่างหวาดหวั่น แต่สายตามาดมั่นของสายฟ้าที่มองตอบกลับมาก็ช่วยให้ต้นข้าวมีความมั่นใจขึ้นมาว่าตัวเองต้องทำได้
เมื่อครูฝึกสั่งให้กระโดด ต้นข้าว นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ตนนับถือ พร้อมทั้งพ่อและแม่ของเขาที่รอคอยอยู่ที่บ้าน ต้นข้าวสูดหายใจลึก ๆ เข้าเต็มปอด ก่อนจะหลับตาปี๋ ตะโกนเอี้ยยย! สุดเสียง พร้อมทั้งกระโดดลงไปเบื้องล่าง
ต้นข้าวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับเป็นก้อนหินถูกโยนลงมาจากที่สูงยังไงยังงั้น ความกดดันมหาศาลในจิตใจแน่นคับอยู่เต็มอกเมื่อร่างลอยละลิ่วลงสู่เบื้องล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่เมื่อสายเชือกร่มตึงและกระตุกดึงร่างบอบบางกระเด้งขึ้น เหมือนกับมีใครมาฉุดรั้ง ยื้อชีวิตเขาจากเงื้อมือของมัจจุราชร้ายเอาไว้ ต้นข้าวถอนหายใจเฮือกใหญ่ โล่งวาบเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก และลืมตาขึ้นหลังจากความกดดันทั้งหมดผ่านพ้นไป มั่นใจได้ว่ารอดแน่ ๆ แล้วในเมื่อเชือกไม่ขาดผึงลง แล้วลูกรอกก็ไหลไปตามเส้นลวดสลิงจนสุดปลายสาย
ส่วนสายฟ้าก็กระโดดตามต้นข้าวลงมาจากสลิงอีกฝั่งหนึ่งของหอ

ทุกคนกระโดดเสร็จสิ้นก็เกือบถึงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ครูฝึกจึงสั่งเรียกแถวเพื่อเดินกลับไปกินข้าวกลางวันกันที่กองร้อย ก่อนจะเริ่มการฝึกในภาคบ่าย

“เป็นไงบ้างต้น” สายฟ้าถามเพื่อนรักระหว่างเดินทางกลับกองร้อย

“เฮ่อ โล่งมาก ๆ เลยล่ะฟ้า เหมือนรอดตายมายังไงยังงั้น ขอบใจนายมากนะ ที่ให้กำลังใจเรา”

“ไม่เป็นไรหรอก เราเพื่อนกันนี่นา” สายฟ้าโอบไหล่เพื่อนรักแล้วตบเบา ๆ

“เป็นไงล่ะพ่อคนเก่ง เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลยใช่มั้ยล่ะ กว่าจะลงมาได้ลีลาซะ” เสียงยียวนกวนประสาท ของใครบางคนอันแสนจะคุ้นเคย ดังสอดแทรกเข้ามาในโสตประสาทของต้นข้าว

“แล้วไง ก็ดี ตื่นเต้นดีออก” ต้นข้าวตอบกลับไปห้วน ๆ อย่างไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วยเท่าไหร่นัก

สายฟ้ารู้สึกน้อยอกน้อยใจอยู่ลึก ๆ ที่ดูเหมือนทิวไผ่จะสนใจใยดีแต่ต้นข้าวถึงแม้มันจะเป็นการแขวะเสียมากกว่าก็ตามที
 “แล้วไผ่ล่ะครับเป็นไงบ้าง” สายฟ้าตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนาก่อน

“ก็สนุกดีครับฟ้า แล้วฟ้าล่ะ”

“ก็ เหมือนกันครับ” สายฟ้าตอบกลับไปอย่างเสียงเรียบเป็นปกติ ทั้งที่ใจจริงนั้นมันอยากจะตัดพ้อเสียเหลือเกิน


...


การฝึกในภาคบ่าย หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ครูฝึกกองร้อยได้แจกจ่าย ปลย.66 อาวุธประจำกายให้แก่ นศท. ทุกคนเพื่อใช้ในการฝึก ซึ่งกองร้อยที่ 3 จะเข้าฝึกในฐานการซุ่มโจมตี โดยการจำลองสถานการณ์ เป็นการซุ่มโจมตีการลาดตระเวนของฝ่ายตรงข้าม และต้องเดินเท้าไปยังภูเขาอีกลูกหนึ่ง
โดยทางยุทธวิธีการซุ่ม จะซุ่มบนเนินเขาบริเวณช่องทางแคบคอเขาที่ฝ่ายตรงข้ามต้องเดินผ่านมา มีการกระจายกำลังออกเป็นจุด ๆ ตลอดข้างทาง และจะวางกำลังฝั่งเดียวของช่องเขา เพื่อป้องกันการยิงกันเอง นศท.แต่ละคนต้องวางตัวห่างกันคนละ 5-10 เมตร หาที่กำบังตามภูมิประเทศ เช่น ต้นไม้ ก้อนหิน เป็นต้น ในลักษณะสลับฟันปลาสูงต่ำ จากนั้นแต่ละคนก็ต้องถากถางพื้นที่การยิงกำจัดสิ่งกีดขวางวิถีกระสุน ด้านตรงหน้าในรัศมี 45 องศา ซึ่งรัศมีด้านข้างแต่ละคนจะทับซ้อนกัน ทำให้การยิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่จะต้องคำนึงถึงการซ่อนพรางไม่ให้ข้าศึกรู้ตัวว่าถูกซุ่มโจมตีด้วย
ขั้นการปฏิบัติ จะมีการฝังทุ่นระเบิดไว้ที่ทางเดินที่ข้าศึกจะเดินผ่านโดยครูฝึกจะกดระเบิดเอฟเฟค ซึ่งทำจากพลุ ส่งเสียงดังสนั่นก้องหุบเขาเหมือนกับเสียงระเบิดจริง เมื่อขบวนแถวของข้าศึกเดินมาถึงตรงกลางพอดีเป็นการให้สัญญาณเริ่มการระดมยิงโดยทันที เมื่อการปะทะสิ้นสุดลงก็จะเป็นการเคลียร์พื้นที่ ตรวจสอบความเสียหายของทั้งฝ่ายเราและฝ่ายตรงข้าม โดยจะส่งหน่วยระวังป้องกัน ออกวางกำลังไปราว 200 เมตร ตรงด้านหน้าที่ข้าศึกล่าถอยไป เพื่อป้องกันการตีโต้ตอบจากฝ่ายข้าศึก เมื่อเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะมีการถอนตัวออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัยจากการถูกตอบโต้กลับด้วยกระสุนปืนใหญ่ เมื่อฝ่ายตรงข้ามทราบพิกัดการวางกำลังของเราแล้ว

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการฝึกครูฝึกก็มีคำสั่งเรียกแถวเดินทางลัดเลาะภูเขาจากพื้นที่การฝึกเพื่อกลับกองร้อยในช่วงเย็น ในวันนี้ทุกอย่างดูจะสงบเรียบร้อยขึ้นกว่าวันแรก เพราะ นศท. ทุกคนเริ่มล้า กันบ้างแล้ว เพราะต้องมีการเดินลัดเลาะข้ามเข้าไปมาระหว่างฐานฝึกต่าง ๆ กับกองร้อย ความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เริ่มเข้ามาเยือนอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะส่วนขาที่ปวดหนึบไปหมดจากการเดินทั้งวัน แถมเท้ายังแดงระบม เพราะต้องใส่คอมแบทตลอดเวลา
จนต้นข้าวบ่นปวดน่องและต้นขาอย่างทรมาน เท้าอันบอบบางของของสองหนุ่มหน้าใส บวมแดงอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่สายฟ้านำครีมสำหรับนวดบรรเทาอาการอักเสบและคลายกล้ามเนื้อติดตัวมาด้วย สองหนุ่มผลัดกันบีบนวดให้กันและกัน ช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวดลงไปได้บ้าง
ตกกลางคืนเมื่อถึงเวลานอน เสียงเจี๊ยวจ๊าวจากการพูดคุยกัน มีเพียงเบาบางประปราย แตกต่างจากวันแรกอย่างแทบจะสิ้นเชิง ต้นข้าวและสายฟ้าผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วจากความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียมาตลอดทั้งวัน

...

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หลับสนิทแบบนี้ จะมีใครมามุดเต็นท์มั๊ยนี่  :interest:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
สมัยผมเข้าค่ายนี้ เข้าตอนปี1 กับปี3 ก็สนุกแบบนี้แหละทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น

แล้วไอ้เรื่องมุดเต้นเนี่ย ก็น่ะ..................... อิอิ

แล้วรออ่านต่ออีกนะค้าบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :give2: :give2:  เริ่มกัดแขวะกันด้วยความรักแล้วชะมะคับ  ไม่ใช่ด้วยความหมั่นไส้เหมือนเมื่อก่อน :haun5: :haun5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
สงสารสายฟ้าหง่ะ

 :sad4:

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วเหนื่อยแทน เลยอ่ะ  ลำบากลำบน เจงๆเลย


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
บทสนทนาระหว่างต้น - ไผ่ กับ ฟ้า - ไผ่ ช่างแตกต่างกันลิบลับ

แล้วอย่างนี้เมื่อไรต้นจะยอมพูดดีๆ กะไผ่สักที
หรือต้องรอให้มุดเต้นท์จริงๆ  :haun5:

 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:

ฟันเฟืองน้อย

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งร๊ายย ก็ยิ่งร๊ากกก

 o3 o3

สงสารสายฟ้าจางเยย

 o7 o7

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
   ย่างเข้าสู่วันที่ 3 ของการฝึกภาคสนามประจำปีของนักศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 3 เสียงนกหวีด กรีดร้องอย่างบาดแก้วหูแต่เช้ามืดเช่นทุกวัน หลังผ่านพ้นราตรีกาลอันหนาวเหน็บไปอีกหนึ่งคืน ภารกิจในการฝึกเช้าวันนี้ของกองร้อยที่ 3 คือ การฝึกยิงปืนด้วยกระสุนจริง เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกสั่งเรียกแถวและพา นศท. เดินจากกองร้อย ลัดเลาะไปตามทางเดินป่าเล็ก ๆ ในร่องเขาไปยังสนามยิงปืนซึ่งห่างจากที่ตั้งกองร้อยประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ ใช้เวลาประมาณ เกือบ 30 นาที ก็มาถึงลานโล่งกว้าง มีสันเนินดินสูง ๆ อยู่ชายป่าฝั่งตรงข้าม ตรงหน้าเนินมีป้ายปักเป้ากระดาษสีขาวขนาด เอ4 ซึ่งตรงกลางมีจุดดำ ๆ อยู่ ห่างกันเป็นระยะ ประมาณ 40 จุด ถัดออกมา 25 เมตร เป็นแนวยิง โดยมีเต็นท์ผ้าใบกันแดดปลูกวางไว้เป็นแนวยาวเรียงกัน ในเต็นท์มีฐานรอง ปลย.11 หรือ เอชเค 33 จำนวน 40 กระบอก ด้านหลังแนวยิงเป็นหออำนวยการยิง และถัดมาเป็นเต็นท์กองอำนวยการฝึกประจำฐาน
   ครูฝึกสั่งให้ทุกคนเข้าแถวและจับคู่บั๊ดดี้กัน ก่อนนั่งฟังคำแนะนำในการปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด เพราะ การยิงปืนด้วยกระสุนจริง หากประมาทเลินเล่อแล้วย่อมหมายถึงชีวิต จากกนั้นทุกคนลุกขึ้นไปรับแผ่นเป้ากระดาษ และกล่องกระสุน ขนาน 5.56 มิลลิเมตร ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ คนละ 1 กล่อง  ซึ่งบรรจุกระสุนจำนวน 10 นัด กระสุนหัวทองแดงแหลมเพี๊ยว บ่งบอกถึงอำนาจการทำลายล้างของมันอย่างชัดเจนเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียงเข้ากระทบเป้าหมาย
   “ประจำปืน” นักศึกษาวิชาทหาร 40 คู่แรก เข้าประจำปืนเมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่อำนวยการยิง โดย คนหนึ่งเป็นพลยิง พลยิงนอนหมอบลงในท่านอนยิง บั๊ดดี้นอนหมอบอยู่ทางด้านขวา ทำหน้าที่บรรจุกระสุนลงไปในซองกระสุน และคอยใช้หมวกเหล็กรองใน ในการป้องรับปลอกกระสุนที่ทำการยิงแล้ว หลังจากถูกคัดออกจากรังเพลิงโดยอัตโนมัติ
   
   “ใส่ซองกระสุน”  นศท. ที่ทำหน้าที่พลยิง นำซองกระสุนที่บรรจุกระสุนแล้วใส่เข้าไปในช่องใส่ซองกระสุน พร้อมทั้งเช็คความแน่นหนาถาวร

   “เตรียมยิง” พลยิงดึงชุดลูกเลื่อนเพื่อขึ้นนกปืนและตบกลับเข้าที่พร้อมกับปลดล็อคปุ่มห้ามไก และยกปืนขึ้นเล็งตรงไปยังเป้าหมาย

   “ยิงหาพิกัด ครั้งที่ 1 จำนวน 1 นัด ยิง !”  สิ้นสุดคำสั่งจากเจ้าหน้าที่หออำนวยการยิง พลยิงกั้นหายใจชั่วขณะเพื่อไม่ให้ปืนกระเพื่อม และเป็นการเพิ่มความแม่นยำ เมื่อนิ้วของพลยิงกระตุกไกปืนเบา ๆ เจ้ามัจจุราชร้ายก็แผดเสียงดัง ปัง! อย่างกึกก้อง คลื่นเสียงดังสะท้านไปทั้งหุบเขาเป็นระยะ ๆ
กระสุนวิ่งตรงเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฝุ่นฟุ้งขึ้นที่หน้าเนินดินหลังเป้าหมาย มีแรงถีบของปืนเข้าที่ซอกไหล่และข้างแก้มพลยิงจนรู้สึกได้ นศท.หลายคนถึงกับตื่นตกใจ จากเสียงอันดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นพลยิงเองหรือพลกระสุนคู่บั๊ดดี้แม้แต่ นศท. กลุ่มที่ยิงไม่ได้ทำการยิง หลายคนก็เอามืออุดหูแทบไม่ทัน ถึงแม้ว่าจะผ่านการยิงปืนเกเกอร์ด้วยกระสุน .22 มาแล้วในชั้นปี 1 และปี 2 แต่ความรุนแรงและเสียงแตกต่างกันอย่างมาก จนต้นข้าวและสายฟ้าถึงกับสะดุ้งเฮือกหัวใจหล่นวูบอย่างตกใจ จนทิวไผ่ยิ้มเยาะมาทางต้นข้าวอย่างขำ ๆ สร้างความไม่พอใจให้ต้นข้าวเป็นอย่างมาก

   “เอ้อ ดี ทหารไทย กลัวแม้แต่เสียงปืน แล้วพวกเอ็งจะไปรบได้ยังไงวะ ได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิดจะไม่หัวใจวายตายก่อนที่จะถูกข้าศึกยิงตายเรอะ”
 ครูฝึกคนหนึ่งพูดกระทบกระแทกแดกดันขึ้น เมื่อเห็นกริยา อาการตกใจกลัวของ นศท. หลาย ๆ คน

“ห้ามไก ตรวจเป้าหมาย” เสียงจากหอควบคุมการยิง สั่งให้พลยิงห้ามไกปืน และตรวจเป้าหมาย ว่ากระสุนเข้าตรงเป้าหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทราบวิถีและแนวกระสุนของปืนที่ตนยิง

“เตรียมยิง ครั้งที่ 2 ยิงติดต่อกัน ทีละนัด จนหมดซองกระสุน ยิง!” สิ้นสุดคำสั่ง มัจจุราชทั้ง 40 กระบอก ก็ร่วมแรงร่วมใจกันแผดเสียงรัวกึกก้องไปทั่วทั้งหุบเขา เสียงสะท้อนกลับจากทิวเขาลูกต่าง ๆ ดังกังวานไปทั่วทั้งป่า เหล่าสิงสาราสัตว์ต่างแตกตื่นตกใจวิ่งหาที่หลบซ่อนกันอย่างจ้าละหวั่น

จากนั้น ครูฝึกก็จะสั่งเปลี่ยนตำแหน่งพลยิงและพลกระสุน และเปลี่ยนแผ่นเป้ากระดาษต่อไป

ต้นข้าว สายฟ้า และทิวไผ่ เป็นชุดที่ 2 ที่จะทำการยิงต่อจาก นศท. ชุดแรก โดยที่ต้นข้าวจับคู่กับสายฟ้าเหมือนเช่นเคย ซึ่งสายฟ้าเป็นฝ่ายยิงก่อน จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของต้นข้าว เขารู้สึกว่าประหม่ามาก ๆ จนหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อได้ทำการยิงด้วยตนเอง ต้นข้าวยกปืนขึ้นเล็งอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ไม่ค่อยมีสมาธิในการยิงนัก เพราะความกลัวและเสียงอันดังจนแสบแก้วหูของมัน

เมื่อทุกคนทำการยิงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็จะตรวจเป้ากระดาษของแต่ละคน มี นศท. คนหนึ่งเป้าขาวสะอาดไม่มีริ้วรอยของกระสุนแม้แต่รอยเดียว ขณะที่เพื่อนนศท. ที่ทำการยิงด้วยกันข้าง ๆ เขา มีกระสุนเข้าเป้าถึง 2 เท่าของจำนวนกระสุนที่ทำการยิงจริง ๆ
   “เฮ่ย เอ็งทำได้ไงวะ เก่งจริง ๆ ว่ะ เป้าตัวเองมี ไม่ยิง ไปช่วยชาวบ้านเขายิง ดันพื้น 20 ครั้ง ปฏิบัติ เอ็งด้วย โทษฐานที่มีกระสุนเข้าเป้าเกินความจริง ดันพื้น 10 ครั้ง ปฏิบัติ” เสียงครูฝึกสั่งทำโทษ จนเรียกเสียงเฮฮาสนุกสนานจากครูฝึกคนอื่น ๆ และเพื่อน ๆ ได้ทั้งกองร้อย

   สายฟ้าขอแลกเป้าดูกับทิวไผ่ และชมทิวไผ่เป็นการใหญ่ว่ายิงปืนแม่นมาก ๆ จนเจ้าตัวยืดอกรับอย่างภูมิใจ พลางเหล่ตายักคิ้วใส่ ต้นข้าวอย่างกวน ๆ
เป้าของทิวไผ่ กระสุนเข้าเป้าหมาย ครบทุกนัด คะแนนอยู่ในเกณฑ์ดี และรอยกระสุนเกาะกลุ่มกันกลางเป้าหมาย ส่วนของสายฟ้ากระสุนเข้าเป้าจำนวน 9 นัด หายไป 1 นัด คะแนนอยู่ในเกณฑ์ พอใช้

“พ่อไผ่เคยสอนยิงปืนมาบ้างแล้วน่ะครับฟ้า ของฟ้าก็ใช้ได้นะครับ เข้าเป้าเกือบทุกนัดเลย ขาดไปนัดเดียวเอง ว่าแต่ว่า ของคุณชายต้นข้าวจะเป็นยังไงบ้างน้า ยิงโดนเป้าบ้างรึเปล่า รึว่ายิงลมยิงแล้งไปหมดแล้วสงสัยจะขาวสะอาดอีกราย ล่ะสิ”

ทิวไผ่ยั่วยุเยาะเย้าต้นข้าวอย่างครึ้มอกครึ้มใจ เขารู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ดีอย่างแปลก ๆ ไปซะแล้วเมื่อได้แหย่หรือโต้ตอบกับหนุ่มหน้าใสคนนี้

 “ทำไมจะไม่โดน กะอีแค่ยิงปืน” ต้นข้าวสวนกลับมายังคนที่ชอบยั่วยุเขา อย่างหงุดหงิด แต่ต้นข้าวเองก็รู้สึกว่า วันไหนที่ไม่ได้ยินเสียงยียวนกวนโมโห ของหนุ่มคนนี้แล้ว เหมือนกับว่าชีวิตของเขาขาดอะไรไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ต้นข้าวโชว์เป้ากระดาษให้ทิวไผ่ดูอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ในเป้าของต้นข้าว กระสุนเข้าเป้าหมาย 7 นัด หายไป 3 นัด เป็นเส้นคะแนนรอบนอกเกือบทั้งหมด อยู่ในเกณฑ์ ปรับปรุง เพราะความประหม่าของเขาและการกำหนดลมหายใจขณะยิงไม่ดีพอ จึงทำให้ยิงได้ค่อยไม่ดีนัก

“อื้ม ก็ดีนี่ ยังพอมีรอยเขม่าดินปืนอยู่บ้าง นึกว่าจะสะอาดหมดจดไร้ริ้วรอย”

“ขอบใจที่ชม ทีหลังไม่ต้อง” ต้นข้าวตอบรับคำพูดของทิวไผ่อย่างไม่ใยดีนัก

สายฟ้ารู้สึกห่อเหี่ยวและเจ็บแปลบ ที่ใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นเพื่อนรักของเขา พูดคุยโต้ตอบกับทิวไผ่ โดยสายฟ้าสังเกตเห็นอาการของเพื่อนรักของเขาจะค่อนข้างเงียบเหงา หากว่าวันใดไม่มีการปะทะคารมกับทิวไผ่แล้ว ขณะที่ทิวไผ่เองดูเหมือนจะสดใสและอารมณ์ดีเมื่อได้ยั่วแหย่ต้นข้าว
สายฟ้ามั่นใจอย่างแน่แท้ว่า ในส่วนลึกของจิตใจแล้ว สองคนนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน เหมือนกับวันไหนที่เขาเองไม่ได้เห็นหน้าหรือได้ยินเสียงทุ้ม ๆ นุ่มลึก ของทิวไผ่แล้ว ก็จะรู้สึกเหงาอย่างแปลก ๆ



    …………………………………………………………………………………….

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ่านแล้วเศร้าแทนสายฟ้าอะ

เป็นกำลังใจให้สายฟ้าคร้าบบบบบบบบบ

 :impress:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
สงสารสายฟ้าจัง  :sad2:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o2  o2  เชียร์ไม่ถูก  สายฟ้ากะทิวไผ่  หรือว่า ต้นข้าวกะทิวไผ่ :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
สายฟ้าเดี่ยวก็มีพี่สายชลมาดามใจแล้วนี้

มาลุ้นให้ทิวไผ่กับต้นข้าวลงเอยกันดีกว่า อยากอ่านฉากหวานแหววแล้ววววววววววววววววววววววววว

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ  ยังคงเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด