ทิวไผ่เลื่อนลิ้นเลื่อนต่ำลงมาฉกวนรอบสะดือไปมา กระดุมกางเกงยีนส์ของต้นข้าวถูกปลดออกที่ละเม็ด ๆ แล้วมันก็ถูกรูดลงไปจนหลุดพ้นปลายเท้า แล้วถูกโยนออกไปมุมห้องอย่างไม่ใยดี ทิวไผ่ละสายตามองเจ้าหนูน้อยของต้นข้าวยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ในกางเกงในสีขาวอย่างน่าเอ็นดู ทันใดนั้นมันก็ถูกกอบกุมด้วยมือหนาแกร่งอย่างรวดเร็ว
“อืมมม....” เสียงครวญคราง อย่างซ่านเสียวของต้นข้าวดังขึ้นขณะที่ดวงตายังหลับสนิทมีเพียงใบหน้าเหยเย เท่านั้น เมื่อถูกทิวไผ่ใช่มือบีบคลึง และขยับมือไปมากับเจ้าหนูของเขาเบา ๆ
สองขาของหนุ่มร่างบางเหยียดเกร็ง นอนบิดตัวเร่า ๆ อยู่บนเตียงไปมา ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์กระสันของทิวไผ่อย่างมาก เขาจ้องมองใบหน้าบิดเบี้ยว และร่างกายที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้นอย่างพึงพอใจ
ไม่นานกางเกงในสีขาวตัวน้อยก็ถูกดึงลงไปกองที่ปลายเท้า เจ้าหนูขนาดพอเหมาะที่เริ่มพองตัวจากการถูกกระตุ้นก็ดีดผงาดออกมาทันทีที่มันถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ และมันก็ถูกคว้าไว้ด้วยมือหนาแกร่งอีกครั้ง ทิวไผ่ฉกปลายลิ้นลงที่ส่วนปลายหัวของมันแล้วตวัดเบา ๆ ต้นข้าวสะดุ้งเฮือก ตัวเกร็ง ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ร้องครางออกมาอย่างเสียงดัง
ทิวไผ่จัดการลงลิ้นอย่างหนักหน่วงไปทั่วทั้งตัวเจ้าต้นน้อย เขาเซาะซอนปลายลิ้นไปตามรอยร่องสลับกับการดูดคลึงพวงสวรรค์ไปมา แล้วก็ครอบมันเข้าไปในช่องปากจนมิด ก่อนจะดูดดุนจนต้นข้าวดิ้นพล่านสองมือพยายามผลักศีรษะหนุ่มร่างแกร่งออกด้วยความเสียวสุดขีด ทว่าทิวไผ่ไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น เขาเงยหน้ามองเจ้านายของเจ้าหนูน้อยนอนหลับตาปรือบิดตัวไปมา ส่งเสียงร้องครวญครางออกมาอย่างไม่เป็นภาษา ใบหน้าเนียนสวยแดงระเรื่อด้วยอารมณ์พิศวาสบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บิดเบี้ยวเหยเก บ่งบอกถึงความเสียวกระสันอย่างสุด ๆ หนุ่มหน้าเข้มกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างพอใจแล้วรูดปากเข้าออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดแล้วดูดแรง ๆ ที่ส่วนหัว
“อ๊า....” ต้นข้าวร้องเสียงหลง ร่างขาวเนียนกระตุกเกร็ง สองมือกดศีรษะทิวไผ่ไว้แน่น พร้อมกับการปลดปล่อยธารลาวาสวาทสีขาวขุ่นพุ่งเข้าสู่โพรงปากของหนุ่มหล่อเข้มอย่างมากมาย เขากลืนกินมันโดยไม่ได้รู้สึกรังเกียจ ก่อนจะเล็มเลียทำความสะอาดเจ้าหนูให้จนหมดจรด
สภาพของต้นข้าวตอนนี้นอนแผ่หลาหลับตาพริ้มอย่างหมดแรง ร่างเปลือยเปล่าหอบกระเส่ามีเหงื่อเกาะพราวชุ่มกาย ทิวไผ่เลื่อนตัวตามขึ้นทาบทับ พร้อมกับประกบจูบที่ริมฝีปากเบา ๆ ก่อนหอมที่ข้างแก้มอีกฟอดใหญ่
“คราวนี้ตาผมนะครับ ต้น” เขากระซิบที่ข้างหูหนุ่มหน้าใสเบา ๆ
ทันใดนั้น ท่อนขาเรียวสองข้างของต้นข้าวก็ถูกยกขึ้นพาดบ่าไว้ มีท่อนเนื้อร้อน ๆ เสียดสีถูไถไปมาอยู่ที่หน้าขา นิ้วมือแกร่งมีของเหลวเหนียว ๆ อะไรซักอย่างกำลังชโลมลูบไล้ไปทั่วทั้งช่องทางนั้น ทิวไผ่พยายามเปิดทางด้วยนิ้วค่อย ๆ ขยับเข้าไปจนสุด ต้นข้าวต้องสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อหนุ่มหน้าเข้มเริ่มที่จะควานนิ้วไปมาในตัวเขา ก่อนจะชักกลับออกมา
ซักพักต้นขาของหนุ่มหน้าใสก็ถูกดันมาข้างหน้าจนสุด และแล้วเจ้ามังกรตัวเขื่องของทิวไผ่ก็เริ่มเคลื่อนที่เข้าสู้เป้าหมายทันที แต่มันเข้าไปได้แค่เพียงส่วนหัวเท่านั้น ก็ต้องหยุดเคลื่อนที่ เพราะมันฟิตแน่นมาก ๆ
ต้นข้าวสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลงด้วยความเจ็บปวด เหมือนร่างกายจะฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ และเขาต้องตกใจสุดขีดกับสภาพที่เห็น
ทิวไผ่ก้มลงประกบจูบริมฝีปากเรียวสวยนั้นไว้ทันทีเมื่อต้นข้าวมีทีท่าว่าจะร้องออกมา ทิวไผ่ตกใจระคนกับความแปลกใจ เมื่อซักครู่นี้ต้นข้าวยังไม่ได้รู้สึกตัวอีกหรือ
หนุ่มร่างบางพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นการเกาะกุมอย่างเต็มที่ แต่มีหรือจะสู้แรงมหาศาลของร่างกายแข็งแกร่งที่กดทับเขาเอาไว้ ข้อมือสองข้างถูกมือหนาใหญ่จับตรึงไว้กับที่นอน ต้นข้าวแทบขยับเขยื้อนตัวไม่ได้เลย หยดน้ำใส ๆ ไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย ต้นข้าวสะอื้นจนตัวโยน ทิวไผ่ยิ่งตกใจอย่างมาก นี่เขาทำร้ายร่างกายและจิตใจหนุ่มหน้าใสได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ ตอนแรกนึกว่าต้นข้าวโอนอ่อนผ่อนตามแล้วเสียอีก
ทิวไผ่ปล่อยข้อมือต้นข้าวให้เป็นอิสระ แต่มันกลับแน่นิ่งอย่างสิ้นเรียวแรง เขาใช้นิ้วหัวแม่มือปราดน้ำตาออกจากดวงหน้าสวยแล้วจูบซับให้อย่างปลอบโยน
“ต้น ผมขอโทษ ผม....” แววตาทิวไผ่เศร้าสร้อยสำนึกผิดแต่เปี่ยมด้วยความรักและความอ่อนโยน
“...ผมรักต้นนะครับ”
“รักมานานแล้ว รักมากด้วย”
“ผมรับรองผมจะรับผิดชอบ ผมไม่มีวันทอดทิ้งต้น ผมจะรักต้นตลอดไปนะครับ”
“ต้นเชื่อใจผมนะ ผมรักต้นจริง ๆ นะ”
‘…ผมรักต้น ...ต้น ...ต้น ...ต้นนน .....’ คำ ๆ นี้ ดังสะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาตของต้นข้าว น่าแปลกใจที่มันทำให้อาการสะอื้นไห้บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
ทิวไผ่กอดกระชับร่างบางนั้นให้แน่นขึ้น พร้อมกับมอบจุมพิตอันดูดดื่มอย่างทะนุถนอมอย่างเนิ่นนาน เหมือนจะเป็นการการันตีคำพูดของเขาเมื่อซักครู่ สองแขนที่วางนิ่งอยู่บนที่นอนขึ้นมากอดกระชับตัวเขาไว้
สำหรับต้นข้าว นี่เป็นคำหวานที่เพียงเพื่อปลอบประโลมรึเปล่าไม่รู้ แต่มันทำเขารู้สึกดีขึ้นอย่างมาก ไอ้เจ้ามังกรตัวร้ายมันแอบมุดเข้าไปจนสุดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเองยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ รู้สึกแต่ว่าความเจ็บปวดตอนแรกกลับกลายเป็นความตึง ชา และคับแน่นมากกว่า
ขณะที่รสจูบหอมหวานเนิ่นนานไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ทิวไผ่เริ่มขยับส่วนกลางของร่างกายเข้าออกไปมาอย่างช้า ๆ และเร่งจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับจุมพิตที่หอมหวานเปลี่ยนแปรเป็นเร่าร้อนและรุนแรงขึ้นตามจังหวะการเคลื่อนไหวของส่วนนั้น
“ไผ่รักต้นครับ...” เขาถอนปากออกแล้ว ครางกระเส่ากระซิบที่ข้างหูเบา ๆ ต้นข้าวหลับตาพริ้ม ตัวโยนไปมาตามแรงกระแทกกระทั้น หยดน้ำเล็ก ๆ เล็ดรอดออกมา มันเป็นหยดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดหรือความสุข หรือความสับสนเขาเองก็ยังไม่สามารถตอบตัวเองได้ในตอนนี้
“อา...อืมมม......ไผ่รักต้นที่สุดในโลกเลย.............” ทิวไผ่ครางกระเส่าครวญครางพร่ำคำรักอย่างเสียวสุด ๆ ต้นข้าวกอดกระชับร่างแกร่งชุ่มเหงื่อนั้นไว้แน่น หนุ่มหน้าใสหลับตาพริ้ม
ทิวไผ่แหงนหน้ามองเพดานห้อง กอดหนุ่มหน้าใสไว้แน่น เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้น ๆ ก่อนที่ร่างหนาแกร่งชุ่มเหงื่อจะกระตุกเกร็งโชว์มัดกล้ามและเส้นเลือดปูดโปน ต้นข้าวลืมตาขึ้นมองผมเปียกเหงื่อจนชุ่มระคนใบหน้าหล่อเหลาชวนหลงใหลนั้น
“ผม...รักกก......ต้นนน...........” ทิวไผ่อัดส่วนกลางลำตัวไว้แนบแน่นฉีดธารธาราแห่งรักอันอบอุ่นเข้าสู่ตัวต้นข้าวอย่างมากมายจนหนุ่มหน้าใสอุ่นวาบไปทั้งช่องท้อง ก่อนทิวไผ่จะหันมามองสบตาอย่างรักใคร่ ต้นข้าวหลบสายตานั้น แล้วหนุ่มหน้าเข้มก็หมดแรงทรุดลงนอนข้าง ๆ ต้นข้าว พร้อมดึงตัวหนุ่มร่างบางเข้ากอดไว้แนบอก ต้นข้าวซุกใบหน้าที่หน้าอกแกร่งนั้นแล้วผล็อยหลับไป ด้วยความอ่อนเพลีย
...