*******************************
บทที่ 64 คนแปลกหน้า...นายเองหรอ
ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ของแบ๊งค์กับคนรอบข้างเริ่มแน่นแฟ้นกันมากขึ้น เราเข้าใจกันในหลาย ๆ เรื่อง แบ๊งค์ไม่อยากละทิ้งความรู้สึกดี ๆ นี้ไปเลยจริง ๆ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้แบ๊งค์ยังคาใจอยู่ นั่นคือนายโต้เป็นใคร แบ๊งค์ยังคงไม่ลืมเรื่องนี้ ยังพยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ ว่านายโต้เป็นใคร แล้วที่เค้าเข้ามาคุยกับแบ๊งค์นั้นเค้าทำเพื่ออะไร แต่ยิ่งค้นหา ก็เหมือนยิ่งไกลออกไป
ตอนนี้แบ๊งค์ไม่ได้ติดต่อกับนายโต้แล้ว MSN นายโต้ก็ไม่ยอมออน โทรศัพท์มือถือก็ไม่ยอมเปิด แบ๊งค์ลองหลอกถามหลาย ๆ คน ว่ามีใครที่ชื่อโต้หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่รู้นะว่าชื่อนั้นมันไม่ใช่ชื่อของเค้าจริง ๆ ก็ตาม อยากรู้จริง ๆ ว่าเค้าเป็นใคร
.
.
.
วันนี้แบ๊งค์มานั่งเล่นที่ข้างสนามบาสเหมือนเดิมครับ วันนี้คนมาซ้อมไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คงเป็นเพราะใกล้สอบแล้ว โค้ชก็ไม่ได้เคร่งอะไรมากมายด้วย แบ๊งค์ก็เลยมานั่งเล่นเพลิน ๆ ไป ก็มานั่งกับนายกาวนายปรินซ์นั่นแหละ แต่ว่าตอนนี้ทั้งสองคนน่ะ วิ่งไล่ตามลูกบาสอยู่ในสนามกับพวกพี่อาร์ทโน่น
แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศีพท์ดังขึ้นครับ แบ๊งค์ก็มองหาล่ะสิ ว่าต้นเสียงมันมาจากไหน อ๋อ...ที่แท้ก็มาจากกระเป๋านายกาวนั่นเอง
“กาว!!!!โทรศัพท์น่ะ” แบ๊งค์ตะโกนไปบอกนายกาวที่อยู่ในสนาม
“รับไปก่อน บอกว่าเราไม่ว่างนะ” กาวตะโกนตอบกลับมาครับ แบ๊งค์ก็เลยเอาโทรศัพท์มันออกมาแล้วรับสายไป
“ฮัลโหลครับ” แบ๊งค์พูด
“อ่ะ....นั่นใครน่ะ” ปลายสายถาม
“แบ๊งค์ครับ เป็นเพื่อนกับกาวคือกาวเค้าไม่ว่างน่ะครับ มีอะไรจะฝากบอกมั้ยครับ” แบ๊งค์ถามกลับไป
“อ่อ...แบ๊งค์เองหรอ นี่พี่ก้องเองนะเป็นพี่ชายของกาว” พี่ก้องแนะนำตัวครับ
“อ่ะ..ครับ ๆ” แบ๊งค์ตอบ
“บอกกาวด้วยแล้วกัน ว่าให้โทรกลับหาพี่แค่นี้นะ” แล้วพี่ก้องก็วางสายไปครับ เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่านายกาวน่ะมีพี่ชายกับเค้าด้วย เอ...ว่าแต่ไอ้ประโยค ‘แบ๊งค์เองหรอ’ ที่พี่ก้องพูด นี่มันหมายความว่ายังไงน่ะ หรือว่าพี่ก้องรู้จักแบ๊งค์ ไม่นะ ก็แบ๊งค์ไม่เคยเจอหน้าพี่ก้องนี่นา
แล้วตอนที่กำลังจะเก็บโทรศัพท์นายกาวเข้าที่เดิมครับ แบ๊งค์ก็เห็นภาพ wallpaper ของมันสวยดี ก็กะว่าจะขโมยน่ะ เลยบอกมันไปก่อน
“กาว !!!! แบ๊งค์ขอ Bluetooth รูปหน่อยนะ” แบ๊งค์ขอมันครับ
“อืมเอาสิ” ไอ้กาวอนุญาตแล้ว มันพูดโดยไม่มองแบ๊งค์ด้วยนะ ห่วงแต่เล่นบาสจริง ๆ นะนายคนนี้ แบ๊งค์ก็เลยนั่งเปิดดูรูปในเครื่องมันไปเรื่อย ๆ ครับ เผื่อว่าเจอรูปสวย ๆ หรือเจอรูปตอนไอ้กาวมันรั่ว ๆ น่ะ จะได้เอาไปประจานซะหน่อย
มีรูปรวมครอบครัวมันด้วย พ่อกับแม่มันดูดีมาก ๆ เลยล่ะ เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่ากาวมีพี่น้อง 3 คน ดูท่าทางกาวจะเป็นคนกลางนะ ก็ดูผู้ชายอีกคนดูเด็ก ๆ อยู่ ท่าทางจะเป็นน้องคนเล็กน่ะ ส่วนอีกคน.....อืม คงเป็นพี่ก้องคนที่โทรมาเมื่อกี้แน่ ๆ เลย หล่อดีเหมือนกันนะเนี่ย อิอิ
แล้วแบ๊งค์ก็ส่ง Bluetooth ภาพจนได้ครบตามที่ต้องการครับ แบ๊งค์ก็เหลือบไปเห็น ชื่อเครือข่ายมือถือที่หน้าจอของมัน ปกติกาวมันใช้ซิม AAA ค่ายเดียวกับแบ๊งค์นี่นา ทำไมวันนี้เป็น XYZ ล่ะ เปลี่ยนเบอร์หรอ ไม่หรอกมั้ง เพราะเมื่อวาน แบ๊งค์ยังโทรคุยกับมันที่เบอร์ของ AAA อยู่เลย แอบใช้ 2 ซิมแน่ ๆ
อย่างนี้ต้องเก็บเบอร์นี้ไว้ซะหน่อยครับ เอาไว้เวลาโทรจิกมันไม่ได้ แบ๊งค์จะได้โทรเข้าเบอร์นี้ ให้มันตกใจเล่น ๆ ว่าแล้วแบ๊งค์ก็ทำการกดยิงเข้าเบอร์แบ๊งค์ทันทีครับ
แต่แล้วแบ๊งค์ก็ต้องตกใจอีกครั้ง ตกใจมากถึงมากที่สุดด้วย ก็เบอร์ที่กำลังโทรเข้าเครื่องแบ๊งค์ตอนนี้น่ะ มันได้ถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องแบ๊งค์เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้จัดเก็บชื่อใครหรอก เป็นชื่อนายโต้นั่นเอง
นี่สรุปว่า นายโต้เป็นกาวหรอกหรอเนี่ย ความผูกพัน ความหวังดี ที่นายโต้มีให้แบ๊งค์เสมอมา มันมาจากใจของกาวหรอเนี่ย แล้วเรื่องที่นายโต้แอบรักเพื่อน........หรือว่ากาวจะแอบรักแบ๊งค์อีกคน ไม่จริงหรอก....กาวคงไม่คิดกับมากเกินกว่าคำว่าเพื่อนแน่ ๆ
แต่พอแบ๊งค์ทบทวนดูเรื่องที่นายโต้เล่าให้ฟังในแต่ละครั้ง จากเรื่องที่แบ๊งค์เคยมองว่าเป็นเรื่องของคนแปลกหน้า ที่ไกลตัวเอามาก ๆ ก็กลับคืบคลานเข้ามาใกล้แบ๊งค์ไปเรื่อย ๆ แล้วไหนยังจะมีเรื่องที่ทางเชื่อมตึกวันนั้นอีกล่ะ นี่สรุปว่า กาวคือคนแปลกหน้าคนนั้นจริง ๆ หรอเนี่ย ไม่อยากเชื่อเลย
แบ๊งค์ตัดสินใจแล้วว่า วันนี้แบ๊งค์กับกาวจะต้องพูดกันให้รู้เรื่อง แบ๊งค์ต้องรู้ให้ได้ว่ากาวทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แบ๊งค์เลยโทรไปบอกพี่นุ่นว่าแบ๊งค์จะไม่กลับด้วย โดยอ้างว่าวันนี้มีธุระนัดกับเพื่อนเอาไว้
ตอนนี้แบ๊งค์นั่งเหม่อลอย สายตาก็จับจ้องแต่นายกาว ในหัวก็นึกถึงการกระทำของกาว กับนายโต้สลับกันไปมา แล้วยังนึกคำพูดที่จะใช้พูดกับนายกาวในอีกไม่ช้านี้อีกด้วย ในที่สุดพวกนักกีฬาก็เลิกซ้อมกันแล้ว ทุก ๆ คนทยอยกันไปอาบน้ำ
ตอนนี้พี่อาร์ทอาบเสร็จแล้ว นายกาวกับนายปรินซ์ก็ด้วย แต่สองคนนั่นยืนคุยกันอยู่
“แบ๊งค์กลับคอนโดยังไงหรอครับวันนี้” พี่อาร์ทถาม
“ก็คงกลับเองน่ะครับ” แบ๊งค์ตอบไป แต่สายตาก็ยังคงเหลือบมองนายกาว
“กลับกับพี่มั้ยครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่อาร์ทอาสาจะไปส่งครับ
“ไม่ต้องหรอกครับ คือแบ๊งค์มีธุระนิดหน่อยน่ะ” แบ๊งค์แกล้งตอบแล้วส่งยิ้มให้พี่อาร์ทไป พี่อาร์ทก็เลย กลับไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป ตอนนี้แบ๊งค์ยังคงจับจ้องอยู่ที่นายกาวและนายปรินซ์
“นั่นไง แบ๊งค์อยู่นี่ ๆ เองผมกลับก่อนนะพี่กาว หวัดดีครับ” ปรินซ์บอกลากาว
“ระวัง ๆ ตัวด้วยนะ” กาวพูดครับ
“เราไปก่อนนะแบ๊งค์” แล้วปรินซ์ก็หันมาลาแบ๊งค์ครับ แล้วนายปรินซ์ก็วิ่งออกไปอีกทาง ตอนนี้ก็เหลือแบ๊งค์กับกาวสองคนแล้ว
“ป่ะแบ๊งค์กลับกันดีกว่านะ” กาวพูดครับ มันพูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
“กาว........เรามีเรื่องจะคุยกับนาย” แบ๊งค์พูดออกไป
“เอาไว้คุยพรุ่งนี้ดีกว่านะ ตอนนี้ดึกแล้ว” กาวพูดครับ พร้อมกับเอามือมาโอบไหล่แบ๊งค์เอาไว้ แต่แบ๊งค์รีบสะบัดออก
“นายทำแบบนี้ทำไม” แบ๊งค์พูด
“เราทำอะไรหรอ” กาวคงยังไม่เข้าใจในสิ่งที่แบ๊งค์พูด
“นายคือคนแปลกหน้าใช่มั้ยกาว” แบ๊งค์หันมาพูดกับกาวครับ มันก็นิ่งไปซักพัก
“อ....อะไรกัน คนแปลกหน้าอะไรหรอเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย” กาวพยายามปฏิเสธ
“พอเถอะกาว เรารู้หมดแล้วนายคงลืมเปลี่ยนซิมไปสินะ” แบ๊งค์พูดครับ แค่นั้นแหละ ไอ้กาวมันก็รีบล้วงมือถือขึ้นมา พอมันเห็นหน้าจอของมันเท่านั้นแหละ มันก็ทำท่าตกใจ
“นายทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร นายบอกเราสิ” แบ๊งค์ถามย้ำอีกครั้ง
“...............................” ไอ้กาวเริ่มก้มหน้าลง มันนิ่งเงียบไปครับ
“ทำไมนายไม่แสดงตัวออกมาล่ะแสดงตัวว่านายเป็นใคร” แบ๊งค์ตะคอกออกไป
“แบ๊งค์จะให้เราบอกว่าเรารักแบ๊งค์ทั้ง ๆ ที่แบ๊งค์มีพี่อาร์ทอยู่อย่างนั้นน่ะหรอ” กาวมันพูดตอบกลับมาครับ เล่นเอาแบ๊งค์อึ้งไปเหมือนกัน ไอ้กาวแองก็ดูตกใจกับคำพูดที่มันพูดออกมาเหมือนกัน
“ฮะฮะฮะ ในที่สุดก็หลุดปากออกไปจนได้” กาวพูดครับ ตอนนี้น้ำตามันค่อย ๆ ไหลออกมาแล้ว
“ทั้ง ๆ ที่เคยตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่บอกแล้วแท้ ๆเรานี่มันไม่ได้เรื่องเลย” กาวทรุดตัวลงนั่งกับพื้น แล้วค่อย ๆ ร้องไห้ออกมาครับ
“กาว...........” แบ๊งค์เรียกชื่อมันเบา ๆ
“ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ทำไมนะ ทำไมใจมันก็ยังฝืน ทำไมเราถึงห้ามใจไม่ได้” กาวพล่ามออกมา
“......................” แบ๊งค์ได้แต่เงียบครับ
“อุตส่าห์ได้มีความสุข กับการมองแบ๊งค์อยู่ห่าง ๆอุตส่าห์ได้เป็นนายโต้ คนที่ไม่มีตัวตนแล้วแท้ ๆแต่ผลสุดท้ายก็ล้มเหลว ถูกเปิดเผยจนได้ เรานี่มันบ้าจริง ๆ” เมื่อพูดจบ กาวก็เงียบลงอีกครั้ง
“กาว.........” แบ๊งค์ค่อย ๆ ลงไปนั่งอยู่หน้ามัน แล้วเอามือแตะที่ไหล่มัน แต่ก็ถูกมันปัดออกครับ
“แบ๊งค์เข้าใจมั้ย ว่าเรารักแบ๊งค์ เรารักแบ๊งค์รักมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน รัก ๆๆๆ รักทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้” มันตะโกนออกมาครับ แล้วก็วิ่งหนีไปทางหน้ามหาวิทยาลัยครับ
“กาวเดี๋ยวก่อน!!!!!” แบ๊งค์พยายามวิ่งตามมันไปครับ แต่มันวิ่งเร็วมากเลย คงเพราะว่าเป็นนักกีฬาด้วยล่ะมั้ง แล้วมันก็ขึ้นแท็กซี่หนีออกไปเลย
“กาว................” แบ๊งค์เรียกชื่อมัน พลางยืนหอบอยู่หน้ามหาวิทยาลัย
.
.
.
ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ ๆ 1 อาทิตย์แล้วจากเหตุการณ์ในวันนั้น และก็เป็นเวลาเกือบ ๆ 1 อาทิตย์เหมือนกันที่กาวหายหน้าไปจากมหาวิทยาลัย
“มีใครรู้มั่งน่ะ ว่าพี่กาวหายไปไหน” ปรินซ์ถามขึ้นครับ
“ไม่รู้สิ ไม่เจอหน้ามันเป็นอาทิตย์แล้ว โทรไปมันก็ไม่รับสาย” แมคบ่นครับ
“มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าแบ๊งค์” พี่ตั้มหันมาถาม
“ม.....ไม่รู้สิ ก็เห็นมันปกตินะ” แบ๊งค์พูด
“เฮ้อ~~~มันหายไปไหนของมันนะ ใกล้จะสอบแล้วด้วยสิ” แมคบ่นครับ ใช่สิ ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบแล้ว ถ้าขืนกาวยังขาดอยู่อย่างนี้มีหวัง ได้ F แน่ ๆ ทำไงดีนะ
“นี่ ๆ มีใครรู้จักบ้านไอ้กาวมั่งอ่ะ” แบ๊งค์ถามไปครับ
“ก็รู้จักนะ แต่ไม่เคยไปน่ะ” ปรินซ์พูดครับ แล้วเจ้าปรินซ์มันก็อธิบายทางไปบ้านกาวให้แบ๊งค์ฟัง จนแบ๊งค์เข้าใจน่ะแหละ
“แบ๊งค์ถามไปทำไมหรอ” พี่ตั้มถามครับ
“ก็เผื่อถ้าแบ๊งค์ว่าง ๆ แบ๊งค์จะได้ไปตามมันไง” แบ๊งค์ตอบ
“อืม....ไงก็ฝากด้วยนะแบ๊งค์เพราะแบ๊งค์น่ะ สนิทกับมันที่สุดแล้ว” แมคพูด สนิทหรอ เพื่อสนิท....คำ ๆ นี้สินะ ที่แบ๊งค์มอบให้กาว และเป็นคำที่คอยทิ่มแทงทำร้ายจิตใจกาวตลอดมา
.
.
.
วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดครับ แบ๊งค์เลยตัดสินใจ ไปบ้านนายกาว ตามทางที่นายปรินซ์เล่าให้ฟัง แบ๊งค์ออกจากคอนโดตั้งแต่ 8 โมงกว่า ๆ ครับ เพราะรู้แน่ ๆ ว่าต้องหลง แล้วก็เป็นจริง ๆ อย่างที่คิดไว้นั่นแหละ ตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว แบ๊งค์ยังหาบ้านนายกาวไม่เจอเลย เฮ้อ~~ทำไมบ้านหายากแบบนี้นะ ตอนนี้แบ๊งค์แวะซื้อชาเขียวดื่มเติมพลังที่เซเว่นครับ
“ครับพี่ก้อง เดี๋ยวกายก็กลับแล้วล่ะครับตอนนี้ก็ซื้อของเพิ่งเสร็จน่ะครับ” เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ท่าทางคุ้น ๆ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ แบ๊งค์ครับ
“แล้วพี่กาวล่ะ เป็นไงบ้างเฮ้อ~~~เป็นห่วงจังไม่รู้ไปเจอปัญหาอะไร” เด็กผู้ชายคนนั้นพูดชื่อกาวครับ แค่นั้นแหละ แบ๊งค์ก็นึกขึ้นได้ ว่าเด็กผู้ชายคนนี้ คือคนที่อยู่ในรูปรวมครอบครัว ที่อยู่ในโทรศัพท์ของไอ้กาว เป็นน้องชายของกาวแน่ ๆ พอน้องเค้าวางสายไป แบ๊งค์ก็รีบเข้าไปเลยครับ
“เอ่อ.....น้องครับ” แบ๊งค์พูด
“ครับ......” น้องเค้าหันมาตอบกับแบ๊งค์พลางมองหน้าแบ๊งค์
“คือพี่เป็นเพื่อนของกาวนะ คือพี่......” แบ๊งค์ไม่รู้จะพูดอะไร
“พี่แบ๊งค์ พี่แบ๊งค์เพื่อนพี่กาวใช่มั้ยครับกายเคยเห็นรูปในมือถือพี่กาว” น้องกายทักแบ๊งค์ขึ้นครับ แบ๊งค์เลยได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบไป แล้วเราก็ได้คุยกันครับ คือน้องเค้าเพิ่งกลับจากบ้านเพื่อนน่ะ ก็เลยมาแวะซื้อของ
ส่วนที่จำแบ๊งค์ได้ ก็เป็นเพราะว่า น้องกายชอบยืมมือถือกาวไปเล่น แล้วเห็นรูปแบ๊งค์ แล้วในคอมของไอ้กาวก็มีรูปแบ๊งค์อยู่ด้วย กายก็เลยถามกาวไปว่าเป็นใคร ก็เลยรู้จักแบ๊งค์ ส่วนเรื่องอาการของไอ้กาวตอนนี้น่ะหรอ กายบอกว่า กาวเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ยอมทานข้าว ไม่ยอมพูดอะไรกับใคร และก็ไม่ยอมไปเรียนด้วย
น้องกายบอกครับ ว่าพ่อกับแม่ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด พี่ก้อง กาว และก็น้องกาย เลยต้องอยู่กันเอง 3 พี่น้อง แล้วในที่สุดก็มาถึงบ้านไอ้กาวซักที แบ๊งค์รู้สึกเหมือนว่าแบ๊งค์จะเคยเดินผ่านบ้านหลังนี้ไปแล้วนะ หุหุ หลงจนได้นะกรูส์
“พี่ก้องครับ กายกลับมาแล้ว” น้องกายตะโกนบอกพี่ก้องครับ
“อืม....กลับมาแล้วหรอ อ้าว......แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ เพื่อนคนไหนอีก ไม่เคยเห็นหน้า” พี่ก้องพูดครับ แบ๊งค์เลยยกมือไหว้พี่ก้องไป
“เพื่อนน่ะใช่ครับ แต่เพื่อนพี่กาวเค้าหรอก” น้องกายแนะนำครับ
“แบ๊งค์เองครับ” แบ๊งค์แนะนำตัวไป
“อ่อแบ๊งค์เองหรอ เห็นตัวเล็ก ๆ นึกว่าเพื่อนกายเค้าน่ะ” พี่ก้องแซวมาครับ เราก็เลยหัวเรากัน จะว่าไปก็จริง ๆ นะ เด็กสมัยนี้โตไวโคตร ๆ ดูอย่างน้องกายนี่สิ เห็นว่าอยู่แค่ ม.4 เอง ตัวสูงกว่าแบ๊งค์ไปตั้งแยะ เฮ้อ~~~ความสูงของชั้น ได้แค่นี้เองหรอเนี่ย
“ขึ้นไปดูกาวมันหน่อยป่ะ อยู่ข้างบนน่ะ” พี่ก้องบอกครับ แบ๊งค์ก็เลยขออนุญาตเดินขึ้นไปดูกาวที่ข้างบนห้องครับ
ชั้นบนของบ้านกาวมีอยู่ 5 ห้องครับ เป็นห้องอะไรบ้างแบ๊งค์ก็ไม่รู้หรอกนะ แต่มีอยู่ 3 ห้องที่มีป้ายชื่อแขวนอยู่ ห้องแรก ห้องพี่ก้อง ห้องที่สอง มีรูปติดอยู่ด้วย ห้องน้องกายนั่นเองแล้วก็ห้องที่ 3 ไม่ใช่ห้องใครอื่นหรอกครับ ห้องนายกาวนั่นเอง
แบ๊งค์ค่อย ๆ บิดลูกปิดประตูเข้าไป ดูเหมือนห้องมันจะไม่ได้ลอคนะ แล้วแบ๊งค์ก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปครับ ภายในห้องมันน่ะหรอ มือมากมายเลย คงเพราะมันเอาผ้าม่านลงด้วยมั้ง
“พี่ก้องหรือกายล่ะบอกแล้วว่าไม่หิว ไม่ต้องขึ้นมาตามหรอก” ไอ้กาวครับ มันนอนอยู่บนที่นอน เอาผ้าห่มคลุมโปงอยู่ แบ๊งค์เลยค่อย ๆ ปิดประตู แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ มัน
“ไม่เอาน่า บอกแล้วว่าไม่หิวจริง ๆ “ แล้วไอ้กาวก็โผ ลุกขึ้นมานั่งครับ พอมันเห็นหน้าแบ๊งค์เท่านั้นแหละ มันตกใจใหญ่เลย
“แบ๊งค์!!!! มาได้ไงน่ะ” กาวพูดครับ
“กรูส์คงใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่มามั้ง” แบ๊งค์ตอบไป หากเป็นเมื่อก่อน เราสองคนคงจะหัวเราะด้วยกัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ กาวนั่งก้มหน้านิ่ง ๆ เงียบ ๆ
“กาว....เป็นอะไรไปน่ะทำไมไม่ไปเรียน กรูส์เป็นห่วงมากรู้มั้ย” แบ๊งค์พูดครับ
“แบ๊งค์อย่ามาห่วงเราเลย ไปห่วงคนอื่นที่แบ๊งค์รักดีกว่านะ” กาวพูดครับ
“กาว....ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ กรูส์เป็นห่วงเมริงจริง ๆ นะเว้ย” แบ๊งค์พูดกับมัน
“เราไม่กล้าน่ะ ไม่กล้าที่จะสู้หน้าแบ๊งค์” กาวพูดครับ
“แล้วไงล่ะ ตอนนี้เราก็อยู่หน้ากาวแล้วไงเราก็ยังพูดคุยกันได้เหมือนเมื่อก่อน” แบ๊งค์พูด
“ไม่หรอกแบ๊งค์ การกระทำมันเหมือนเมื่อก่อนก็จริง แต่เรา......แต่เราเลิกรักแบ๊งค์ไม่ได้หรอก” กาวพูดครับ
“กาว.............” แบ๊งค์เอื้อมมือไปแตะไหล่มันครับ
“แบ๊งค์รู้นะว่ากาวรักแบ๊งค์ แต่แบ๊งค์คงให้กาวไม่ได้มากกว่านี้แบ๊งค์ไม่อยากรักกาวแบบคนรักหรอกนะ แบ๊งค์อยากรักกาวในแบบเพื่อนมากกว่าหวังว่ากาวคงเข้าใจนะ” แบ๊งค์พูดครับ
“อืม....เราเข้าใจ เราก็รู้ แต่เราทำใจไม่ได้ก็เท่านั้น” กาวมันก้มหน้าพูดครับ
“กาว....อย่าทำแบบนี้สิ อย่าให้คำว่าเพื่อนต้องมาพังลงด้วยคำว่ารักสิ” แบ๊งค์พูด
“แบ๊งค์.......เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั้ย” กาวพูด
“ใช่สิ ไม่ว่ายังไง นายก็ยังเป็นเพื่อนเราเสมอแหละ” แบ๊งค์ตอบกลับไป
“ขอบคุณนะ” กาวพูดครับ แบ๊งค์เลยขยับเข้าไปโผกอดมัน แบ๊งค์กอดมันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันเองก็กอดแบ๊งค์ตอบเหมือนกัน
จากนั้นแบ๊งค์ก็ผละออก แล้วค่อย ๆ เช็ดคราบน้ำตา ที่ไหลอาบแก้มมันอยู่
“แบ๊งค์...........” ไอ้กาวมันเรียกแบ๊งค์ครับ แบ๊งค์เลยหันหน้าไปมองมัน ตอนนี้เราสองคนจ้องตากันอยู่ ไอ้กาวค่อย ๆ เลื่อนหัวลงมา เหมือนว่ากำลังจะประกบจูบกับแบ๊งค์ แต่แล้วมันก็เบี่ยงหน้าออกไป
“ไม่ ๆๆ เราเป็นเพื่อนกัน เราต้องไม่ทำแบบนี้” กาวมันบ่นออกมาครับ
“กาว..........” แบ๊งค์เรียกมันครับ พอมันหันมา แบ๊งค์ก็ประกบปากจูบมันในทันที มันก็ดูเหมือนจะตกใจอยู่เหมือนกัน แต่แล้วมันก็เคลิ้มไปกับจูบของแบ๊งค์ มันค่อย ๆ ดันลิ้นสอดเข้ามาในปากของแบ๊งค์ เราดื่มด่ำกับรสจูบอยู่อย่างนั้นซักพัก แล้วแบ๊งค์ก็ผละออก
“ให้ทุกอย่าง มันหายไปกับจูบเมื่อกี้นะแล้วหลังการจูบเมื่อกี้ เราขอให้ทุกอย่างมันเริ่มต้นใหม่นะ” แบ๊งค์พูด
“อืม....มิตรภาพใหม่ของเรา” กาวพูด แล้วมันก็ยื่นมือมาให้แบ๊งค์ครับ แบ๊งค์ก็เลยจับมือมันเอาไว้
“อืม....มิตรภาพใหม่ของเรา........” แบ๊งค์พูด
****************************