Eternal Sunshine by Sake พี่หมอทิ ♡ น้องข้าวหอม (ข่าวดี!! รวมเล่ม+ตอนพิเศษ P.56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Eternal Sunshine by Sake พี่หมอทิ ♡ น้องข้าวหอม (ข่าวดี!! รวมเล่ม+ตอนพิเศษ P.56)  (อ่าน 716303 ครั้ง)

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
- Eternal Sunshine 21 -


วันเวลาเคลื่อนผ่านโดยที่ทิเบตยังคงรักษาระยะห่างไว้สม่ำเสมอ สร้างความยากลำบากในการเข้าหาร่างสูงแก่ข้าวหอมหนักหนา ด้วยการจะเปิดใจที่ได้ปิดลงไปแล้วมันยากกว่าครั้งแรกเจอ เพราะเมื่อรู้ว่าความเจ็บเป็นยังไงหัวใจก็จะยิ่งปิดแน่นขึ้นเท่านั้น และนี่คือโทษที่เขาต้องเต็มใจรับ ถ้าไม่ต้องการเสียอีกฝ่ายไป ทว่าการพักรักษาตัวที่คิดว่าจะต้องทรมานนานแสนนานกลับผ่านไปเร็วจนกระทั่งวันสุดท้ายมาถึง เมื่อทิเบตกลับมาจากทำงาน

“อาหมอบอกว่าสุขภาพไม่มีอะไรต้องน่าห่วง พรุ่งนี้หอมกลับบ้านได้แล้วนะ ฉันโทรบอกพ่อกำนันให้แล้ว ดีใจมั้ย ป่านนี้ไอ้โก๊ะนั่งรอหน้าบ้านแล้วล่ะ”

ข้าวหอมพยักหน้ายิ้มกว้าง จะได้กลับบ้านซะที ใครเล่าจะไม่ดีใจ ถึงที่นี่จะสุขสบายแต่ก็ไม่ใช่บ้านที่เติบโตคุ้นเคย

“นายจะไปด้วยใช่มั้ย” ข้าวหอมถามด้วยหวั่นใจหน่อยๆ ถ้ากลับบ้านก็ต้องห่างจากชายหนุ่ม แล้วเขาจะทำยังไงต่อไปดี

“ไปสิ ไม่ไปได้ยังไงล่ะ”

ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของกำนันสิงห์ทั้งคน ปล่อยให้กลับไปคนเดียวได้กินลูกปืนแทนข้าวแน่

คำตอบทำให้ข้าวหอมดีใจยิ้มแก้มปริ มองซ้ายมองขวาคว้ากระเป๋าขึ้นมาเก็บเสื้อผ้า แล้วต้องชะงักมือ

‘ทิ้งเอาไว้แบบนี้ล่ะ เหลือเอาไว้แบบนี้ล่ะดีแล้ว’

ท่าทางชักเข้าชักออกของร่างบางสร้างรอยยิ้มที่มุมปากทิเบต ก่อนแววตาค่อยสลดลง แผ่นหลังโค้งเว้าแลดูเปราะบางจากการป่วย ต่างจากเมื่อก่อนมากโขที่มักซนเป็นลิง ร่าเริงตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนี้เพราะการตัดสินใจของเขา ทิเบตนึกโทษตัวเอง


รถยนต์คันใหญ่โตหรูหราวิ่งเรียบไม่มีสะดุดบนเส้นทางยาวไกล ด้วยเจ้าของต้องการให้คนเพิ่งหายป่วยสบายมากที่สุด ทิเบตเหลือบมองข้าวหอมทิ้งตัวพิงเบาะหนังเนียนนุ่มด้านข้าง ดวงตาเปล่งประกายยินดี ไร้วี่แววความอ่อนล้าให้เห็นก็สบายใจ ขับรถมุ่งหน้าสู่เรือนไทยในเวลาต่อมา

เสียงรถยนต์แปลกหูทำให้เจ้าสี่ขาทั้งสามตัวแข่งกันเห่าดังขรมจนคนบนเรือนซึ่งรอคอยการมายิ้มออก รีบหยิบผ้าขาวม้าพาดไหล่ลุกขึ้นไปรอรับบุตรชาย ซึ่งต้องผ่านด่านสุนัขเสียก่อน

“เฮ้ย! โจ๋น้อย หมูอ้วน อย่าตะกายสิ ไอ้โก๊ะ! เอ็งก็เป็นไปกับพวกมันด้วย”

ข้าวหอมแสร้งดุเสียงร่าเริง เมื่อถูกบรรดาสุนัขล้อมหน้าล้อมหลัง น้ำลายกระจายฟุ้งในอากาศ บรรยากาศน่ายินดีอวลรอบตัวจนทิเบตอดยิ้มไม่ได้ทั้งที่ในใจอ่อนแรงเหลือเกิน

โจ๋น้อยสุดแสบตะกายจนแทบจะขึ้นไปขี่หลังเจ้านาย ส่วนข้อมือก็ถูกหมูอ้วนคาบไว้ในปากน้ำลายย้อย ไอ้โก๊ะซึ่งมารยาทดีมาตลอดเวลานี้กลับกระโดดเข้าหาแทบจะเลียหน้าได้ ด้วยหายหน้าหายตาจากไปนาน จนพวกมันเกิดความรู้สึกไม่มั่นคงอย่างรุนแรง

เพราะกลัวถูกทอดทิ้ง!

ข้าวหอมมองแววตาสะท้อนความรักความคิดถึงของเจ้าสัตว์หน้าขนแล้วตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก

หมามันก็มีหัวใจ แล้วคนจะไม่มีได้ยังไง!

ร่างโปร่งหันมองทิเบตซึ่งมองมาอยู่ก่อนแล้ว ในอกอิ่มเอิบคลี่ยิ้มขัดเขิน เอ่ยชักชวนชายหนุ่มขึ้นเรือน แม้รู้สึกกระดากอยู่บ้างเพราะความไม่เคยชิน แต่เขาต้องการให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว

ทิเบตเดินตามหลังร่างโปร่ง พลางลูบหัวโจ๋น้อยและหมูอ้วนซึ่งมาเคล้าเคลีย หลังจากพวกมันเต็มอิ่มกับเจ้านายเรียบร้อยแล้ว มีแต่ไอ้โก๊ะหน้าดำที่ยังยืนมองเขาอยู่ไม่ห่าง เขาจ้องดวงตาดุดันสีทองเป็นประกายนิ่ง แล้วต้องทอดถอนใจ มันก็ยังคงเป็นมัน ไม่คิดจะญาติดีกับเขาเหมือนเจ้านายของมันไม่มีผิด เลี้ยงกันมาดีจริงๆ ชายหนุ่มนึกประชดเข้าให้

เสียงกำนันสิงห์ตะโกนเรียกไอ้ขันไอ้แก้วให้นำน้ำมารับรอง แต่ไม่มีใครโผล่หัวมาซักคน ก่อนรีบหันไปหาบุตรชายซึ่งเดินมาถึงแล้ว

“ขึ้นมาๆลูก”

กำนันสิงห์โอบกอดบุตรชายน้ำตาคลอเบ้า เวลาอยู่ก็หาแต่ปวดหัวมาให้ แต่พอไม่อยู่ก็เหงาใช่น้อยเสียเมื่อไร

“พ่อ ฉันกลับมาแล้ว”

ข้าวหอมยกมือไหว้ที่อกบิดา กลิ่นที่คุ้นเคย สถานที่ที่อยู่มาแต่อ้อนแต่ออกทำให้ในอกอุ่นวาบ รู้สึกสบายใจจนบอกไม่ถูก

“อยู่เย็นเป็นสุข หมดเคราะห์หมดโศกเสียทีนะ”

ข้าวหอมพยักหน้ารับหงึกๆด้วยพูดอะไรออกไปตอนนี้เป็นได้เป่าปี่แน่นอน ร่างเล็กนั่งลงบนตั่งข้างบิดามองไปรอบๆบริเวณที่ห่างหายไปนาน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

“เดี๋ยวพี่เราคงมาถึง หิวรึยัง จะเที่ยงแล้ว” กำนันสิงห์ยิ้มบอกบุตรชาย “แต่ไม่รู้ไอ้ขันไอ้แก้วมันหายหัวไปไหน ก่อนหน้านี้ยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย”

“มาแล้วๆเห็นมั้ย” เสียงไอ้ขันดังมาจากใต้ถุนเรือน

“พูดไม่ทันขาดคำ”

ผู้สูงวัยหันไปยิ้มให้ทิเบต ใบหน้าแม้จะแลดูปกติหากดวงตาหมองหม่น ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจึงได้แต่ภาวนาให้อีกฝ่ายมีน้ำอดน้ำทน

“พี่หอม ฉันคิดถึงพี่จัง พอรู้ว่าพี่จะกลับมาวันนี้พวกฉันเลยไปขอปันเห็ดนางฟ้าที่เรือนเพาะท้ายหมู่บ้านมา จะทำต้มยำที่พี่ชอบให้กิน” ไอ้ขันชูถุงเห็ดนางฟ้าให้ดูพลางนั่งลงจับแข้งจับขาลูกพี่ สำรวจเนื้อตัวจนพอใจก็น้ำตาคลอ “ฉันคิดถึงพี่จริงๆนะ”

“เออ ก็กลับมาแล้วไง” ก่อนจะกลายเป็นหนังโศก ข้าวหอมก็ยิ้มร่ากระเซ้าลูกน้อง “คิดถึง? แต่ไม่เห็นเอ็งคิดจะไปเยี่ยมข้า ปล่อยให้ข้าอยู่คนเดียว”

“โธ่พี่ ก็กำนันน่ะสิ มีงานให้ฉันช่วยทำตลอด ไม่งั้นฉันไปหาแล้ว” ไอ้ขันหันไปค้อนผู้สูงวัย

“อ้าวๆไอ้นี่ ไป เอ็งจะไปทำต้มยำก็ไป ก่อนจะถูกข้าแพ่นกบาล”

ไอ้ขันแสร้งเอี้ยวหลบเมื่อกำนันเงื้อมือขึ้นไม่จริงไม่จัง แล้วเผ่นแน่บเข้าครัว

“หมอทิอยากกินอะไรมั้ย ฉันจะทำให้ แล้วกระเป๋าเสื้อผ้าเอาออกมาจากรถรึยัง เดี๋ยวฉันไปเอาขึ้นมาให้” ไอ้แก้วที่นั่งอยู่ไม่ห่างทิเบตเอ่ยถามเอาใจ

‘อย่างน้อยเขาก็ยังมีพวกบ้างสินะ’ ทิเบตยิ้มบางกับน้ำใจเล็กๆน้อยๆของไอ้แก้ว

“ไม่ต้องหรอกแก้ว ขอบใจ วันนี้ฉันไม่ได้ค้าง เลยไม่ได้เตรียมอะไรมา”

เหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ ข้าวหอมหน้าเผือดลงทันทีหันมองชายหนุ่ม

“ทำไมล่ะพ่อทิ?”

เสียงกำนันสิงห์เอ่ยถามแทนความต้องการของข้าวหอมพอดี

“พรุ่งนี้ผมมีประชุมสำคัญ เรื่องที่จะขยายโรงพยาบาลนั่นล่ะครับ ให้ใครแทนไม่ได้ ผมมาส่งหอมแล้วต้องกลับเลยครับ”

“งั้นรึ” กำนันสิงห์พิจารณาอะไรบางอย่างสักพักจึงพยักหน้ารับรู้ “แต่อยู่กินข้าวกินปลากันก่อนเถอะ แล้วค่อยกลับนะ”

“ครับ”

ทิเบตยิ้มรับก่อนเลื่อนสายตาไปมองร่างโปร่งซึ่งมองมาอยู่ก่อนแล้ว หากอีกฝ่ายรีบหลุบตาหลบ เขามองแผงขนตาดำกะพริบถี่ๆทาบเนื้ออ่อนขาวอมชมพูที่เขาพยายามดูแลแทบเป็นแทบตาย รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย อยากจะอยู่ชื่นชมใจแทบขาด แต่ถ้าไม่พยายามหักห้ามใจเสียตอนนี้ ถึงเวลาต้องไปจริงๆจะลำบากจนอยู่ไม่ได้แน่นอน

“พ่อ หอมมาแล้วใช่มั้ย ฉันเห็น...” รถยนต์ เสียงข้าวสวยหยุดคำพูดเมื่อเงยหน้าขึ้นจากบันไดเห็นน้องชายนั่งใกล้บิดา “ไอ้หอม!”

ข้าวสวยเข้ามากอดน้องชายอายุห่างแนบแน่น “อย่าซนแบบนี้อีกนะ”

“จ้ะ”

ข้าวหอมรับคำพลางมองพี่สารเดินตามหลังมาดวงตาสั่นไหวของพี่ชายทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงเขาแค่ไหน

ข้าวสารลูบศีรษะน้องชายเบาๆก่อนหันไปมองหน้าทิเบตอย่างไม่สบอารมณ์ ‘ทำไมพ่อถึงรักมันนักก็ไม่รู้’

“มาส่งแล้วก็กลับไปได้แล้วมั้งคุณหมอ เดี๋ยวจะเสียงานเสียการเอาได้นะ”

ข้าวสารจงใจแดกดันคุณหมอหนุ่มต่อหน้าต่อตาบิดาที่กำลังขึงตาใส่ หากเจ้าตัวกลับยกไหล่ไม่ยี่หระ ต่างกับน้องชายซึ่งตาโตเท่าไข่ห่าน

‘ไอ้พี่บ้า! พูดอะไรออกมา’ ข้าวหอมหันมองทิเบตอย่างหวาดๆในรอยยิ้มบางเบาบนมุมปาก ไม่คิดตอบโต้

“ครับ จะกลับแล้วล่ะ”

ข้าวสารเลิกคิ้วหนาขึ้นแปลกใจ ‘คราวนี้มาแปลกนะเอ็ง ว่าง่ายผิดปกติ’ หากก็ยิ้มสมใจไม่คิดหาต้นสายปลายเหตุ

“ดี เชิญ เอาน้องฉันไปครอบครองไว้ตั้งนาน ครอบครัวเขาจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันซะที”

“งั้นขอตัวก่อนนะครับพ่อกำนัน”

ทิเบตลุกขึ้นแทบจะพร้อมๆกับที่ข้าวหอมลุกขึ้นยืนอึกอัก ให้ทิเบตเลิกคิ้วสงสัย

“พ่อทิ”

กำนันสิงห์ที่อยู่ด้วยเอ่ยปราม ทำนองไม่อยากให้ทิเบตใส่ใจคำพูดของข้าวสารมากนัก ทิเบตซึ่งเข้าใจในสิ่งที่กำนันสิงห์จะบอก แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ตัวเองเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัวจึงอยากไปเสียก่อน

ความอึดอัดใจบนใบหน้าทิเบตทำให้กำนันสิงห์จำต้องพยักหน้ารับคำกล่าวลา พลางเหลือบมองหน้าบุตรชายคนเล็กที่ออกอาการกระสับกระส่ายให้ต้องระบายลมหายใจยาวยืด

เวรกรรมอะไรหนอ...

ทิเบตเหลียวมองใบหน้านวลแวบหนึ่งก่อนเดินลงจากเรือนไปด้วยความน้อยใจนิดๆ อีกฝ่ายไม่คิดจะรั้งเขาไว้บ้างเลย ร่างสูงก้มหน้าก้มตาเดินไปยังรถ ไม่คิดจะเหลียวมองอะไรให้เป็นที่อาลัยอาวรณ์ในจิตใจอีก

แต่หากชายหนุ่มจะเหลียวมองซักนิดก็จะพบว่า มีเจ้าสัตว์สี่เท้าหน้าขนตัวดำ ยืนจ้องมองเขาอยู่ ก่อนจะกระดิกหางให้อยู่ไม่ห่าง รอเพียงเขาเดินเข้าไปหาอีกนิดเดียว มันก็พร้อมจะเปิดใจให้แล้ว ทว่าชายหนุ่มกลับไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้หางที่กระดิกแกว่งไกวอย่างลังเลชะงัก มองรถยนต์หรูหราแล่นจากไปลับตา

ไม่ต่างกับเจ้านายของมันที่ยืนมองผ่านม่านน้ำตาพร่าเลือนบนระเบียง

เขาไม่สนใจเราแล้วล่ะไอ้โก๊ะ...


---------------------------------------------------------------------


สองอาทิตย์ผ่านไปจวนใกล้เทศกาลงานทิ้งกระจาด เรือนไทยหลังงามก็ยังไร้ร่องรอยของร่างสูงมาเยือน คุณหมอหนุ่มได้แต่โทรมาเช็คถามถึงสุขภาพร่างกายของข้าวหอมเป็นระยะๆกับกำนันสิงห์บ้างกับเจ้าตัวเองบ้าง และก็เป็นช่วงเวลาที่ร่างเล็กรอคอยอยู่ทุกวัน รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แต่กลับไม่มีความกล้าโทรหาอีกฝ่ายเพราะกลัวความผิดที่ตัวเองเคยทำจะย้อนกลับมาทิ่มแทงให้หมดกำลังใจ ข้าวหอมหงุดหงิดกับตัวเองที่เป็นแบบนี้

ร่างโปร่งนั่งชันเข่าบนเตียง มือกำโทรศัพท์มือถือมองเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน ‘วันนี้ยังไม่โทรมาเลย’ ข้าวหอมบอกกับตัวเองหงอยๆก่อนทิ้งโทรศัพท์ไว้บนเตียงเย็นชืด เดินออกไปหาพ่อซึ่งนั่งรับลมอยู่ที่ระเบียง

“ออกมาแล้วรึ ว่าไอ้แก้วทำกับข้าวเสร็จแล้วจะไปเรียก”

“ไอ้ขันล่ะพ่อ”

“มันกลับบ้านไปหาพ่อหาแม่ ว่าแต่ก่อนไป มันน้ำหูน้ำตาเล็ดมาฟ้องว่าลูกหายไปไหนพักใหญ่ ไม่บอกมัน ทำเอามันใจหายวูบ”

“มันเวอร์พ่อ ฉันแค่เบื่อเข้าไปเดินเล่นในสวนมะม่วงแค่นั้นเอง”

“แล้วทำไมไม่บอกมันล่ะ มันเป็นห่วงนะ”

“ก็มันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ สงสัยแอบไปหาสาว ผลุบๆโผล่ๆทั้งวัน”

กำนันสิงห์ฟังบุตรชายบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะเงียบลงมองเหม่อไปยังท้องฟ้ายามเย็น แลดูอ้างว้างเงียบเหงาจนคนเป็นพ่อปวดหนึบในหัวอก หยิบผ้าข้าวม้าขึ้นมาปัดริ้นไรรอบตัว

“อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานทิ้งกระจาดแล้ว เอ็งโทรไปถามพ่อทิซิว่าว่างรึเปล่า ชวนมาเที่ยวมาทำบุญด้วยกันหน่อย”

“เขาจะว่างหรือพ่อ” ข้าวหอมเสียงอ่อย

“ก็ข้าบอกให้โทรถามอยู่นี่ไง”

“พ่อโทรสิ” ฉันโทรเขาอาจไม่ว่างก็ได้

“เอ็งล่ะโทร เป็นผัวเป็นเมียกันแท้ๆ จะร่ำไรหาอะไรกัน”

ข้าวหอมหน้างอลุกขึ้นเดินลงส้นเข้าห้องนอน แต่หัวใจกลับเต้นถี่รัวขณะหยิบโทรศัพท์กดโทรหาชายหนุ่มมือไม้สั่น

“ทิเบตครับ”

“...เออ...ฉันเองนะ พ่อให้โทรมาถามว่าช่วงนี้นายว่างรึเปล่า” ข้าวหอมเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก

“หอมหรือ...ทำไม มีอะไรเหรอ”

“ก็...ก็อีกวันสองวันที่นี่จะมีงานทิ้งกระจาด พ่ออยากชวนนายมาทำบุญด้วยกัน”

ตอนเห็นเบอร์โชว์บนหน้าจอมือถือก็นึกแปลกใจ แต่ลึกๆก็ยินดีไม่น้อย ถึงขนาดแอบยิ้มตอนกดรับสาย ความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงอีกฝ่ายหายวับไปกับตาเพราะความคิดถึงมันท่วมท้นล้นใจ หากพอได้ฟังเหตุผลที่โทรมา ทิเบตถึงกับไหล่ตก

“ยังงั้นหรือ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่างจริงๆ”

ประโยคปฏิเสธกลายๆทำให้ข้าวหอมร้อนรน กำโทรศัพท์แน่น “แต่พ่ออยากให้นายมานะ”

“พ่อกำนันคงไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าฉันไม่ไป”

“แต่...แต่พ่ออยากให้นายมาจริงๆนะ”

“ฉันติดประชุมน่ะ” ทิเบตกุเรื่อง ก่อนหันไปตามเสียงเรียกของแม่บ้าน ที่มาตามไปทานข้าวเย็น “แม่บ้านมาตามไปทานข้าวแล้ว ฉันต้องวางสาย...”

“ดะเดี๋ยวสิ...แต่งานนี้สนุกจริงๆนะ ตอนวิ่งเก็บไม้ติ้วแล้วลุ้นว่าจะได้อะไร ไก่ย่างก็อร่อย แถมมีขบวนเชิดสิงโตย๊าวยาว เที่ยวได้ทั้งวันไม่เบื่อเลย ไม่อยากมาดูบ้างเหรอ”

น้ำเสียงตื่นๆจากต้นทางทำให้ทิเบตขมวดคิ้ว แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนกลั้นใจถาม

“อยากให้ฉันไปเหรอ”

“พะ...พ่ออยากให้นายมา” ข้าวหอมเสียงอ่อย

“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงหอมเต็มใจให้ฉันไปรึเปล่า”

คำถามตรงเป้าเข้าประเด็นจนข้าวหอมที่เหมือนหูดับไปแล้วพยายามอย่างยิ่งที่จะรวมรวมพลังใจ กึ่งกล้ากึ่งกลัวอีกฝ่ายจะขยี้น้ำใจที่เขามีตอบแทนสิ่งเลวๆที่เขาเคยทำเอ่ยกลับไป เพราะมันไม่ต่างกับฟางเส้นสุดท้ายที่เขาต้องยึดไว้ให้ได้

“เต็มใจสิ ฉันเต็มใจให้นายมา ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ดีกับนายไว้เยอะ ฉันรู้สึกผิดกับนายจริงๆนะ ฉันขอโทษ” เสียงตอบเบาหวิวรัวเร็วหากทิเบตได้ยินชัดเจน

“อีกสองชั่วโมงเจอกัน”

“อะ! ไหนว่าติดประชุม”

“คิดถึงเมียจะแย่ เดี๋ยวให้เจ้าโรมเข้าประชุมแทน”

ทิเบตตอบแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆกับเรื่องที่กุขึ้น

“งั้น งั้นแค่นี้นะ”

ร่างโปร่งรีบวางสายหน้าร้อนซู่ แต่ในหัวใจกลับอุ่นซ่าน

ขณะที่ทิเบตรีบแต่งตัวขับรถกลับไปหาภรรยาที่แสนจะคิดถึงทุกลมหายใจ เขาไม่อยากทรมานใจตัวเองแบบนี้อีกแล้ว ขอเขาได้อยู่ใกล้ๆร่างโปร่งบางจนกว่าจะถึงวันนั้นดีกว่า ชายหนุ่มยิ้มรับความสุขจอมปลอมตรงหน้ากลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่ความจริงอีกฝ่ายไม่มีวันรักเขา หากแต่รู้สึกผิดจึงทำดีเพื่อไถ่โทษ ทว่าหัวใจก็ยังไม่มีเขาอยู่เช่นเดิม

ทิเบตยิ้มขื่น แม้รู้ว่าไปหาแล้วจะทำให้ตัดใจยากกว่าเดิม แต่เขาก็ยินดีจะไปหาความเจ็บปวดนั้นด้วยหัวใจแช่มชื่น ไม่ถึงสองชั่วโมงร่างสูงก็มายืนหน้าเรือนไทย รอบตัวมืดสลัวลงแล้ว เสียงจิ้งหรีดกรีดร้องตามโคนไม้ส่งทอดเป็นระยะ

“โทษทีโจ๋น้อย ฉันรีบเลยไม่ได้ซื้ออะไรมาฝาก”

ทิเบตลูบหัวสุนัขนิสัยอยู่ไม่สุขอย่างเอ็นดู ส่วนหมูอ้วนนอนกระดิกหางบนแคร่เตรียมตัวนอน มันจึงไม่คิดจะลุกมาหาด้วยความขี้เกียจ ร่างสูงเงยหน้ามองระเบียงซึ่งมีเงาตะคุ่มเท้าแขนมองเขาอยู่ก่อนแล้ว หอม... ทิเบตรำพึง และเงานั้นค่อยๆหมุนตัวหายไปจากสายตา จึงค่อยก้าวขึ้นเรือน

“ก็ว่าเสียงรถคุ้นๆ หมูหมามันถึงได้ร้องหงิงๆ”

กำนันสิงห์เอ่ยปากทักเมื่อเห็นทิเบตโผล่หน้ามายกมือไหว้

“ครับ แล้วขันกับแก้วไปไหนล่ะครับ บ้านเงียบๆ”

“ไอ้ขันกลับบ้านไปหาพ่อหาแม่มัน ไอ้แก้วเข้าห้องนอนไปแล้ว ไอ้หอมรอหมอจนเพิ่งเข้าห้องไปเมื่อกี้” กำนันบอกให้เสร็จสรรพ พลางสังเกตหน้าตาชายหนุ่มมีร่องรอยเหน็ดเหนื่อยบางเบา “ชวนมาทำบุญ แต่ไม่คิดว่าพ่อทิจะรีบมาขนาดนี้ กินข้าวกินปลามารึยังล่ะ”

ทิเบตอมยิ้มติดเขินเล็กๆ “ยังเลยครับ”

“งั้นให้ไอ้แก้ว...”

“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ทิเบตลุกไปหาข้าวใส่ท้องอย่างคุ้นเคย ท่ามกลางสายตาวาววับของผู้สูงวัย

ข้าวหอมผุดลุกผุดนั่งด้วยความประหม่า หาใช่จงใจหลบเลี่ยงไม่อยากเห็นหน้าชายหนุ่ม ก็แสดงออกนอกหน้าไปขนาดนั้น คนไม่เคยก็อายเป็นธรรมดานี่ นั่งรอไปสักพักชายหนุ่มก็ยังไม่เข้ามา ได้ยินเพียงเสียงโทรทัศน์แว่วดังจากภายนอก พ่อคงยังนั่งดูทีวีอยู่

‘คุยกับพ่ออยู่มั้ง...’

คนเดาไปเรื่อยล้มตัวลงบนฟูก หยิบหนังสือออกมาอ่านฆ่าเวลาด้วยใจระส่ำ หางตาเหลือบมองบานประตูเป็นระยะ จนกระทั่งร่างสูงเปิดประตูหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินเงียบเชียบมาวางไว้ที่เดิมไม่ผิดเพี้ยน

ทิเบตมองพื้นกระดาน ที่ที่เขายึดอาศัยนอนมายาวนานไร้ซึ่งหมอนและผ้าห่ม ผิดไปจากที่คาดไว้ ชายหนุ่มจึงเหลือบมองคนนอนอ่านหนังสือเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนทรุดนั่งบนเตียง รื้อกระเป๋าเตรียมไปอาบน้ำ

“กิน...กินข้าวยัง”

ข้าวหอมรีบปิดหนังสือเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าลุกไปอีก

ทิเบตขยับตัวหันหาร่างโปร่งบางซึ่งผุดลุกขึ้นมานั่ง ผมยุ่งนิดๆกับแววตาบ้องแบ๊ว ส่งผลให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม “อืม กินแล้ว” แล้วชี้ให้ดูผ้าเช็ดตัวบอกว่าจะไปอาบน้ำ

ความอิหลักอิเหลื่อเกิดขึ้นระหว่างชายหนุ่ม ร่างสูงจึงหลบไปอาบน้ำครู่ใหญ่ ส่วนคนตัวเล็กยกมือลูบท้ายทอยตัวเองก่อนหงายหลังทิ้งศีรษะลงหมอนใบเขื่อง หลับตายิ้มเป็นสุข

กลับมาแล้ว...

เมื่อทิเบตออกจากห้องน้ำก็พบว่าคนบนเตียงหลับไปด้วยความสบายอกสบายใจไปเรียบร้อย สังเกตจากสีหน้าผ่อนคลายจุดรอยยิ้มที่มุมปาก ทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มตาม ทรุดนั่งบนเตียงเอนกายเสยผมบนหน้าผากมนแผ่วๆ ความอบอุ่นอ่อนหวานเข้าท่วมท้นหัวใจ

ไม่คิดว่าจะรักได้ขนาดนี้ และมันกลายเป็นรักที่ยิ่งรักยิ่งเจ็บไปซะแล้ว


---------------------------------------------------------------


เสียงนกกาออกหากินแต่เช้าตรู่ ปลุกให้ข้าวหอมลืมตาตื่นจากห้วงนิทราด้วยความรู้สึกผวาเล็กๆ รีบหันมองข้างกายทันที จากนั้นจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจยาว ตะแคงตัวมองใบหน้าคมคายหลับ หายใจเข้าออกเป็นจังหวะ

ใบหน้าที่อยากเห็น กลิ่นที่แสนคะนึงหา กำลังโอบล้อมรอบกาย เมื่อหลุดจากทิฐิ สิ่งที่พบคือความสุข แต่ความสุขที่ว่าอาจหายไปในไม่ช้า

ดวงตาสดใสอับแสง เท้าคางมองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่าย “จะทิ้งกันจริงๆเหรอ” นิ้วชี้ตัดเล็บสั้นสะอาดจิ้มลงไปที่แก้มชายหนุ่ม พร้อมๆกับดวงตาคู่อ่อนโยนเปิดขึ้น

“อะ!”

นิ้วชะงักงอลงในฉับพลัน ตกใจกับดวงตาที่เลื่อนมองมาทางตน

“อือ...ตะ...ตื่นแล้วเหรอ”

ทิเบตผงกศีรษะขึ้นพิจารณาท่าทางพิกลของคนตรงหน้า ส่งผลให้ข้าวหอมรีบขยับถอยหลังกลิ้งตกเตียงดัง ตุ๊บ!

“โอ๊ย!...จะ เจ็บ”

“หอม!”

ทิเบตรีบชะโงกตัวมองคนนอนแอ้งแม้งบนพื้นกระดาน เห็นกุมศีรษะกัดฟันแน่นก็รีบเข้าไปประคอง

“ไหนดูซิ เจ็บตรงไหน”

ร่างสูงง้างมือเล็กออกจากศีรษะ แหวกเส้นผมก็พบรอยนูนแดงด้านหลัง หัวคิ้วคุณหมอย่นเข้าหากันทันที เหลือบมองคนกำลังพยายามหลบตาแล้วให้รู้สึกชาไปทั้งตัว

เป็นคนอนุญาตให้เขานอนด้วยแท้ๆ กลับตั้งท่ารังเกียจกันซะได้

ทิเบตถอนใจให้อีกฝ่ายได้ยิน แล้วฉุดร่างโปร่งนั่งบนเตียง ส่วนตัวเองเดินไปเปิดลิ้นชักที่เจ้าของห้องใช้เก็บหยูกยา โดยมีสายตาคนรู้สึกผิดมองตามหลัง เมื่อร่างสูงกลับมานั่งตรงหน้าและส่งสายตาดุๆให้หันหลัง จะทายาให้ คนตัวเล็กจึงเม้มปากหันหลัง แสบร้อนโพรงจมูก

เขาแค่ตกใจ ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด คิดว่าเขารังเกียจ


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
นิ้วมือขาวกำเข้าหากันแน่น เพราะไม่เข้าใจกัน สิ่งเล็กๆน้อยๆจึงสามารถทำให้เข้าใจผิดกันได้แล้ว ทุกอย่างที่เคยทำกับอีกฝ่ายมันย้อนกลับมาทำให้ใจเขาเจ็บร้าวไม่ผิดเพี้ยน

เดี๋ยวนี้กรรมมันติดจรวด ถึงได้ส่งผลเห็นทันตาเขาจริงๆ

“พอแล้วล่ะ ฉันไม่เจ็บอะไรนักหรอก”

ศีรษะทุยเอียงหลบพ้นมือใหญ่ ก่อนลอบมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

ความทรมานที่แม้อยู่ใกล้ก็ไม่สามารถสื่อสารกันได้ ทำให้ร่างเล็กสะเทือนใจอยากร้องไห้ออกมาดังๆ ก่อนหันหลังล้มตัวซุกหน้ากับหมอนแน่น

ทิเบตเห็นไหล่อีกฝ่ายสะท้านไหวจึงขยับเข้าไปใกล้ “เป็นอะไร” น้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่พยายามพลิกคนนอนคว่ำหน้าให้หันมามองแต่ถูกขัดขืน แววตาอ่อนโยนสุดล้ำลึกสังเกตร่างสั่นเทาบนเตียง ให้รู้สึกใจหาย คนๆนี้ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ แล้วทำไมถึงมีท่าทางสิ้นหวังแอบแฝงอยู่ แม้จะไม่ได้รักชอบเขา แต่เขาก็อยากเห็นอีกฝ่ายสดใส สุขภาพแข็งแรง แม้จะเป็นท่าทางหยิ่งจองหองอวดดีนั่นมากกว่าสภาพเหมือนคนจนตรอกแบบนี้

ร่างสูงขยับเข้าไปทาบทับแล้วโอบกอดร่างเล็กๆไว้แนบแน่นด้วยหัวใจหนักอึ้ง โดยอีกฝ่ายไม่ยอมหันมามอง

“อย่าเป็นอย่านี้สิ ฉันเห็นแล้วปวดใจเหลือเกินรู้มั้ย”

คำพูดเสียงแหบพร่าและแรงกอดรัดทำให้ข้าวหอมค่อยๆขยับหน้าหันมอง ดวงตาแดงช้ำคลอขังด้วยหยาดน้ำ ยิ่งทำให้ทิเบตเจ็บหนึบในช่องอก ใช้นิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้เบาๆ

“อย่าเป็นอย่างนี้เลยนะ อย่าต้องทรมานเพราะฉันเลยนะ” ทิเบตเพิ่มแรงกอดมากขึ้น ดวงตาเริ่มสะท้อนแสงแวววาวจากธารน้ำ “ไม่ต้องทนอะไรอีกแล้ว...”

“ฉันไม่ได้ทน!” ข้าวหอมเอ่ยทะลุกลางปล้อง “แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วต่างหาก ฉันขอโทษนาย ฉันผิดไปแล้ว แต่นายก็ยังไม่ยกโทษให้ นายทำให้ฉันรู้สึกว่านายเปลี่ยนไปแล้ว จนฉันเข้าหานายไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงนายถึงจะพอใจ เข้าใจฉัน ฉันไม่รู้แล้ว...จริงๆ”

ข้าวหอมระบายความอึดอัดทั้งหมดออกมาพร้อมน้ำหูน้ำตาไหลพราก

“บอกฉันสิ จะให้ฉันทำยังไงนายถึงจะกลับไปเป็นเหมือนก่อน ฉันยอมหมด บอกฉันสิ อย่าให้ฉันต้องอยู่ในสภาพที่รู้สึกผิดแบบนี้ไปตลอดเลยนะ ฉันขอร้อง มันทรมานเหลือเกิน”

มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าบดบังรอยน้ำตาและพยายามกลั้นสะอื้นไว้สุดกำลัง

หมดแล้วทุกอย่างที่มี ขอแค่อีกฝ่ายอยู่กับเขา ต่อให้ต้องอับอายมากกว่านี้ เขาก็ยอม

ทิเบตอยากกระชากหัวใจตัวเองออกมาบีบให้เจ็บให้ปวด เมื่อเห็นสภาพสิ้นหวังจนตรอกของร่างเล็กที่เขาเฝ้าห่วงหวง สองมือจับข้อมือเล็กเปิดเผยใบหน้าชุ่มน้ำตาให้เห็น และตัดสินใจได้ในทันที

“ไม่ต้องทำอะไร หอมไม่ต้องทำอะไรเลย ฉันจะเป็นเหมือนเดิมเอง ฉันสัญญา”

ชายหนุ่มประคองกอบกุมมืออ่อนไร้เรียวแรงขึ้นจูบหนักๆ

จนกว่าจะถึงวันนั้น ฉันจะเป็นเหมือนเดิมให้นายสบายใจที่สุด ไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะฉันอีก

และนี่จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำให้ได้ และฉันจะทำให้ดีที่สุด!

“จริงนะ นาย...จริงๆนะ”

ข้าวหอมลุกลี้ลุกลน มองอีกฝ่ายอย่างมีความหวัง

ความหวังที่สวนทางกัน

“อืม ขอแค่หอมพูดดีๆกับฉัน ไม่เฉยเมยใส่ฉัน แค่นี้ก็พอ”

ข้าวหอมรีบพยักหน้าหงึกๆยิ้มทั้งน้ำตา ความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกยังไงยังงั้น

“ได้...ได้ๆ”

ร่างเล็กย้ำคำพูดเดิมๆพร้อมกับโอบกอดตอบอีกฝ่ายแนบแน่น น้ำตายังไหลเป็นท่อประปาแตก

“หยุดร้องสิ ร้องไห้มากๆตาบวมหมด”

ทิเบตทิ้งน้ำหนักลงข้อศอก ยันตัวเองเพื่อทิ้งระยะห่างมองใบหน้านองน้ำตา

“นายก็ร้อง”

ข้าวหอมเอื้อมมือไปเช็ดหยาดน้ำบริเวณหางตาให้ชายหนุ่มที่ยังไม่รู้ตัว พลางพยายามแย้มยิ้ม

“ว่าแต่เขา”

เห็นรอยยิ้มแรกของร่างโปร่ง ทำให้ทิเบตคลี่ยิ้มตามแล้วค่อยๆทรุดตัวลงกอดร่างอบอุ่น ไม่สนใจเช็ดรอยน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง ประทับจุมพิตที่ขมับอีกฝ่ายหลายต่อหลายหน จนคนถูกจูบเผลอหัวเราะคิกออกมา

“จั๊กจี้”

ใบหน้าเนียนแดงก่ำจากการร้องไห้เบี่ยงหลบริมฝีปากได้รูปพัลวัน

เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินมานาน เหมือนดังก้องไปมาทั่วห้องที่เริ่มมีแสงแดดอุ่นสาดส่องเข้ามากระทบวัตถุเกิดเป็นเงาร่ำไร จนเมื่อเสียงหัวเราะเงียบหาย ทิเบตจึงบรรจงปัดเส้นผมบริเวณแก้มนิ่มเบามือ

“ฉันมีความสุขมาก”

ดวงตาอ่อนโยนทอประกายรักใคร่ไม่ปิดบัง ส่งผลให้ข้าวหอมแก้มร้อนซู่ หลุบตาลงให้แพขนตาดำขลับทาทาบกับผิวเนื้ออ่อน อากัปกิริยาน่ารักน่าเอ็นดูทำให้ทิเบตต้องกลั้นหายใจ ก่อนจะคลายอ้อมแขน

“เสียงเหมือนแก้วลุกขึ้นมาหุงข้าว พ่อกำนันคงเตรียมของใส่บาตรแล้วล่ะ เราก็ลุกกันได้แล้วมั้ง”

ข้าวหอมพยักหน้าเห็นด้วย ลุกขึ้นไปอาบน้ำด้วยเนื้อตัวเบาโหวง

ในขณะที่ทิเบตเมื่อลับหลังร่างโปร่งกลับหงายหลังทิ้งตัวลงนอน เปลือกตาปิดลงคอยฟังเสียงรอบตัวอย่างสงบ

---------------------------------------------

“หมอ! หมอมาตั้งแต่เมื่อไร”

เสียงแป๋นของไอ้ขันทักขึ้นเมื่อมันก้าวเท้ายังไม่พ้นหัวกะได เห็นคุณหมอหนุ่มนั่งทานข้าวโดดเด่น

“จะตะโกนทำไมไอ้ขัน อยู่กันแค่นี้ๆ” กำนันสิงห์ตำหนิไม่จริงไม่จัง “แล้วเอ็งกินข้าวมายัง ไปเอาจานมาตักข้าวไป”

“ยังจ๊ะ” ตอบแล้วจึงหันไปหาทิเบต

“มาเมื่อคืน”

“เหรอจ้ะ ฉันดีใจที่หมอมา พี่หอมเอาแต่นั่งรอหมอหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง แต่ไม่ยอมโทรไปซักกะที”

“ไอ้ขัน! เอ็งอยากกินข้าวหรือจะกินตีนข้าแทนข้าว”

คนหน้าบางเอ่ยขัดเสียงดุ พลางมองสมุนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ

‘ไอ้ปากเปราะ’

พอเห็นสายตาลูกพี่ไอ้ขันก็คอหดรีบเผ่นแน่วหายลับไปในครัว ปล่อยให้ข้าวหอมวางหน้าไม่ถูก เสยกน้ำขึ้นจิบแก้เก้อ แต่เสียงสำลักน้ำของคนเป็นพ่อทำให้ข้าวหอมอยากแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด ก้มหน้างุดแต่หางตาแอบมองร่างสูงข้างๆที่เอาแต่อมยิ้มเคี้ยวข้าวตุ้ย

อายเว้ย...

ไอ้แก้วแอบมองลูกพี่ พลางพยายามกลั้นหัวเราะทั้งที่ข้าวเต็มปาก

ลิงก็อายเป็นด้วย แก้มแดงเชียว

-------------------------------------------------------------

จนตะวันใกล้ตรงศีรษะ ข้าวหอมปิดสมุดบัญชีที่ช่วยบิดาทำ จากนั้นจึงเหลียวมองหาทิเบต ‘เมื่อครู่เห็นอ่านหนังสืออยู่แถวนี้นี่นา หายไปไหนแล้ว’ ร่างโปร่งลุกขึ้นมองหาอีกครั้ง จนเห็นไอ้ขันไอ้แก้วกลับมาจากสวน แบกกล้วยห่ามขึ้นมาบนเรือนด้วยเครือหนึ่ง

“เห็นหมออยู่ข้างล่างมั้ย”

“เห็นอยู่ใต้ถุนแน่ะพี่หอม” ไอ้ขันรีบเสนอหน้าตอบ

“แล้วคนงานเก็บกวาดกระต๊อบท้ายสวนเสร็จยัง”

“เกือบเสร็จแล้วพี่ พี่ลองไปดูสิ จะให้ต่อเติมตรงไหนด้วยเลยรึเปล่า”

“อืม ไว้ก่อน”

ข้าวหอมแทบไม่ได้ฟัง รีบเดินลงบันไดไปก็เห็นแผ่นหลังกว้างกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ใบหน้าด้านข้างกำลังอมยิ้มไปพูดไป สำเนียงเสียงพูดแปร่งๆทำให้ข้าวหอมชะงักตัวชา

คุยกับผู้หญิงคนนั้น คนที่กำลังป่วย

หัวใจไหววูบไปชั่วขณะ ลมเพชรหึงตีวนหมุนรอบตัวก่อนจะสงบลงอย่างรวดเร็วเหมือนตอนเกิด

ไม่หึงๆ เขาเป็นคนไข้กับหมอเท่านั้น ห้ามคิดอกุศลเด็ดขาด

ข้าวหอมปัดภาพวุ่นวายในหัวทิ้ง หมุนตัวเดินกลับขึ้นเรือนแล้วนั่งแปะบนตั่งที่บิดานั่งทุกวัน

‘เป็นเอามากนะเรา นิดๆหน่อยๆก็จะวีนแตกซะแล้ว’ เจ้าตัวบ่นตัวเองในใจพลางเกาศีรษะเหมือนมีเหาอาศัยอยู่ กระทั่งเห็นทิเบตกลับขึ้นมาบนเรือน เดินตัดระเบียงมาหา

“เดี๋ยวฉันจะออกไปคุยเรื่องที่ดินที่จะสร้างโรงพยาบาลกับเจ้าของที่เขาหน่อย หอมจะไปกับฉันมั้ย”

“ไม่ล่ะ นายไปเถอะ เดี๋ยวต้องเดินไปดูคนงาน”

“งั้นหรือ แล้วจะเอาอะไรมั้ย ขากลับจะซื้อให้”

“ขนม”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วกับคำตอบเหมือนเด็กอนุบาล ก่อนส่ายหน้าระบายยิ้ม

“ได้ แล้วอย่าทำอะไรเกินกำลังนะ เอาใครไปด้วย อย่าไปคนเดียว”

“คร๊าบ...”

คนตอบตัดบททำปากยื่นกับคำเตือนยาวเหยียด จนทิเบตต้องขึงตาใส่ จากนั้นจึงออกไปทำธุระ

“ไอ้ขัน กินข้าวเสร็จยัง ไปดูกระต๊อบกัน” ข้าวหอมหันไปตะโกนเรียกสมุน

“ยังจ้า พี่หอมก็มากินด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปสิ เดี๋ยวหิวนะ”

“เออ”

กินข้าวเสร็จไอ้ขันก็ทำหน้าที่สารถีปั่นจักรยานให้ลูกพี่ซ้อนท้ายพร้อมบรรดาสุนัขเพศผู้พาไปยังที่หมาย ข้าวหอมมองคราบขี้โคลนและร่องรอยต้นไม้ใบหญ้าที่แตกหน่อผลิใบหลังถูกทับถมด้วยโคลนเลนไปตลอดทางจนถึงริมตลิ่งที่ระดับน้ำลดลงสู่ภาวะปกตินานแล้ว

กระต๊อบหลังน้อยตอนนี้ถูกมุงหลังคาใหม่เอี่ยม โอ่งน้ำถูกกลิ้งกลับมาไว้ที่เดิมหลังจากมันระเห็จไปติดรั้วลวดหนามอยู่เป็นนานกว่าจะหาเจอ คนงานนำหม้อชามจานไหออกจากตู้มาล้างทำความสะอาด แล้วตากแดดบนแคร่ไม้ไผ่ที่ถูกทำขึ้นมาอย่างลวกๆ ส่วนพวกผ้าผ่อนต้องทิ้งไปเพราะมันแช่โคลนนานเสียจนเข้าเนื้อเข้าหนัง สกปรกจนใช้อีกไม่ได้ ร่างโปร่งเดินเข้าไปสำรวจใกล้ๆ ทุกอย่างเกือบเรียบร้อย เหลือเพียงเอาไม้ไผ่ผ่าซีกตีเป็นกำแพงบังลมบังฝน กองเศษไม้เศษขยะถูกจุดไฟเผากลายเป็นควันโขมง คนงานบางคนกำลังถางหญ้ารอบๆเรือนหลังน้อยให้สะอาดโล่งตาปลอดงูเงี้ยวเขี้ยวขอ

ร่างโปร่งเข้าไปช่วยหยิบจับเล็กๆน้อยๆท่ามกลางสายตาขวางๆของไอ้ขัน

“ฉันบอกไม่ต้องทำไงล่ะพี่”

“อ๊ะ...เอ็งนี่มันยังไง ข้ายังไม่ได้แบกหามอะไรซักหน่อย”

“ก็นั่นล่ะ พี่ไปนั่งเฉยๆตรงโน้นเลย เดี๋ยวเป็นลมไป หมอทิเอาฉันตาย”

ไอ้ขันชี้นิ้วไปที่ใต้ร่มมะม่วงใหญ่

“นี่! เอ็งมันจะเวอร์เกินไปล่ะ แล้วหมอเขาไปเกี่ยวอะไรด้วย”

“ก็หมอรักพี่หอมจะตาย เกิดพี่เป็นอะไรขึ้นมา มีหวังฉันถูกมีดหมอชำแหละเป็นชิ้นแหงๆ”

ร่างโปร่งแก้มร้อนซู่หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ “แล้วเอ็งไม่กลัวลูกปืนบ้างเรอะ”

“มีดมันเสียวกว่านี่พี่”

ไอ้ขันทำท่าเสียว ทะเล้นจนถูกก้อนดินปาใส่

“ทะลึ่งละเอ็ง”

หากคำพูดของไอ้ขันก็ตอกย้ำให้ข้าวหอมอุ่นวาบในอก อีกฝ่ายมีความรู้สึกลึกล้ำกับเขาแค่ไหน คนรอบข้างยังดูออก มีแต่ตัวเองนี่ล่ะ...

ข้าวหอมถอนใจยาว และก่อนจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้จึงช่วยเอาจานชามไปเก็บใส่ตู้สะอาดเอี่ยม แม้แดดจะอ่อนแสงแต่ความร้อนยังคงมีอยู่ไม่คลาย ร่างโปร่งซึ่งเอาแต่กินๆนอนๆในร่มมาตลอดจึงรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ ยกมือขึ้นปากเหงื่อและอ้าปากช่วยหายใจให้ไอ้ขันปาดเข้ามาหา

“ฉันบอกพี่แล้ว พี่นี่ดื้ออย่างที่หมอบอกจริงๆด้วย”

ไอ้ขันดึงข้าวของในมือร่างโปร่งออก แล้วรุนหลังลูกพี่ไปพักโค่นมะม่วง

“ไอ้ขัน ข้าไม่ใช่เด็กนะ!”

ร่างโปร่งหันไปแหวใส่ หากถูกเสียงไอ้ขันกลบเสียมิด

“หมอ! หมอ พี่หอมเขาไม่เชื่อฉัน เดินไปเดินมาอยู่นั่นล่ะ”

ข้าวหอมหันขวับไปต้นทาง เห็นทิเบตเดินพ้นต้นไม้หนาทึบมาถึงลานโล่งริมน้ำแล้ว ก่อนเหล่ตามองไอ้คนข้างหลัง เดี๋ยวนี้เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ

“ทำอะไรกัน” ทิเบตทัก

“พี่หอมชวนมาดูคนงานซ่อมกระต๊อบ แต่ไม่ยอมดูเฉยๆ เลยไม่สบาย ดูสิหมอ”

ไอ้ขันฟ้องคุณหมอเสียจนข้าวหอมสะดุ้งมองไอ้ตัวดีตาเขียว

ทิเบตทรุดตัวนั่งยองๆตรงหน้าร่างโปร่ง สำรวจหาความผิดปกติ

“รู้สึกเหนื่อยผิดปกติหรือเปล่า”

ข้าวหอมส่ายหน้าพรืด ยิ้มแห้งๆให้ชายหนุ่ม

“เปล่า แค่รู้สึกร้อนกว่าปกติเท่านั้น ไปเชื่อไอ้ขัน มันพูดจากขาวเป็นดำได้ล่ะ”

“ฉันเปล่านะพี่!” เสียงไอ้ขันร้องแย้งขึ้นมาด้านหลัง

“เขาเป็นห่วงหรอก แต่ขอฉันตรวจคร่าวๆหน่อย” ทิเบตยื่นมือไปวัดอุณหภูมิและตรวจชีพจรจนแน่ใจจึงหย่อนก้นลงกับพื้นหญ้า

“ไม่มีไข้นะ แต่อย่าตากแดดนานๆเลย เดี๋ยวไม่สบายจริงๆจะลำบาก”

“อืม แล้วคุยเรื่องที่ดินเสร็จแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง”

“เร็วหรือ นี่มันบ่ายแก่แล้วนะ กลับมาเจอแต่แก้ว ฉันเลยตามมานี่ล่ะ”

“เหรอ ลืมเวลาไปเลย”

“งั้นกลับกันเลยมั้ย” ทิเบตยิ้มชวนหากในอกขมขื่น

ภาพตนเองถูกทิ้งเกือบจมน้ำตายหวนกลับมาหลอกหลอน แม้กระต๊อบตรงหน้าจะดูใหม่เอี่ยมหากในใจเขาไม่สามารถลบภาพเก่าแล้วทำเป็นลืมดังสร้างใหม่เช่นสิ่งของตรงหน้าได้

“เดี๋ยวสิหมอ ไปดูข้างในกันก่อน เขาตีกำแพงเสร็จแล้ว ไปดูกันปะ อยากให้เขาทำเพิ่มอะไรจะได้บอกทัน”

ไอ้ขันชี้ให้ดูกระต๊อบเสร็จเป็นรูปเป็นร่างสมบูรณ์ บังลมบังแดดได้ดังเดิม

ทั้งสามลุกขึ้นเดินเข้าไปสำรวจกระต๊อบหลังใหม่ ข้าวหอมเงยหน้ามองซ้ายมองขวาแล้วยิ้มพอใจกับกลิ่นใหม่ๆของตับหญ้าคาและไม้ไผ่ผ่าซีก ส่วนไอ้ขันก็เอาแต่พูดไม่หยุด ผิดจากร่างสูงซึ่งเดินตามเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเงียบกริบ เพียงใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ ในอกหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ อากาศรอบตัวคล้ายแปรเปลี่ยนเป็นสายน้ำให้เขาหายใจไม่ออก แคร่ใหญ่ที่เคยเป็นเตียงนอนสร้างความปลาบแปลบจนชายหนุ่มนึกอยากหมุนตัวกลับออกไปรอด้านนอก

ทว่ากลิ่นไม้ใหม่หอมกรุ่นติดจมูก ดวงตาไอ้ขันส่องประกายในทันใด

“วันนี้นอนกันที่นี่มั้ยพี่หอม เดี๋ยวไปชวนไอ้ปื๊ดไอ้หมึกมาเล่นน้ำ แล้วก่อกองไฟเหมือนเข้าค่ายลูกเสือ น่าสนุกมั้ยพี่ เราไม่ได้ทำนานแล้วนา”

ไอ้ขันหันไปพยักหน้าชวนลูกพี่ตามไอเดียบรรเจิดในสมอง

“เอางั้นเลย แล้ว...” ร่างโปร่งหันหาทิเบต เพราะเรื่องแบบนี้ตัวเองไม่พลาดอยู่แล้ว “นายค้างมั้ย”

“ไม่ล่ะ” ชายหนุ่มเว้นช่วงไปชั่วครู่ “แล้วหอมก็ไม่ควรค้างด้วย ไว้แข็งแรงกว่านี้อีกหน่อยดีกว่านะ มาตอนนี้พ่อกำนันเป็นห่วงเปล่าๆ”

ทิเบตปรามเสียงเรียบ แล้วคว้าข้อมือเล็กดึงออกไปนอกกระต๊อบ

แต่เพราะหน้าตาเหมือนหมาหลง ทำให้ทิเบตอ่อนใจจะค้าน และเขาเองก็ไม่มีแรงใจมากพอจะอยู่เป็นเพื่อนได้ ไหล่ตึงเครียดคลายลงอย่างอ่อนล้า มองหน้าคนที่ตัวเองรักแล้วสูดลมหายใจหนัก

“หรืออยากค้าง”

“เออ...ก็...ก็”

“จะค้างก็ได้ แต่เอาแก้วมาค้างด้วย ขันคนเดียวฉันยังเป็นห่วง”

“อ้าว...แล้วนายล่ะ?” ไม่ค้างด้วยกันเหรอ

ข้าวหอมหน้าตาตื่น ใจหายวูบไปกับท่าทางห่างเหินที่เกิดขึ้นชั่วขณะ

“ไม่ค้างล่ะ หอมอยู่สนุกกับน้องๆกันเถอะ แต่ต้องระวังเข้าใจมั้ย” ทิเบตคลายยิ้มอ่อน “หอมอยู่ดูคนงานต่อไปนะ ฉันขอกลับก่อน แค่แวะมาดูเท่านั้นล่ะ”

พูดจบร่างสูงก็หันหลังกลับ ให้ข้าวหอมคว้าแขนไว้แทบไม่ทัน

“เดี๋ยวๆไม่ค้างก็ไม่ค้างสิ ฉันกลับด้วย”

ทิเบตเลิกคิ้วกับท่าทางร้อนรนนิดๆของอีกฝ่าย แม้แปลกใจแต่ก็โล่งใจอยู่ไม่น้อยที่คนตรงหน้ายังนึกถึงใจเขาอยู่บ้าง ไม่ใจดำเช่นดังเก่า และสิ่งนี้จะเป็นดังเช่นหยดน้ำหล่อเลี้ยงให้เขาอยู่ไปได้จนถึงวันนั้น โดยไม่แหลกสลายไปเสียก่อน

“ไอ้ขันเอ็งอยู่ไปคนเดียวนะ ข้ากลับกับหมอล่ะ” ข้าวหอมหันไปตะโกนบอก

“อ้าวพี่ แล้วไม่ค้างเหรอ”

ไอ้ขันเกาหัวแกรกๆ มองลูกพี่เกาะติดคุณหมอแจ เดินพ้นพุ่มไม้หนาทึบกลับเรือน

“เดี๋ยวนี้เราเลยเป็นหมาหัวเน่า...เนอะไอ้โก๊ะ”

เด็กหนุ่มก้มมองเจ้าสนัขตัวโปรดของลูกพี่ ซึ่งวิ่งลอดใต้แคร่ออกมาหยุดที่เขา

ไอ้โก๊ะลิ้นห้อยเหงนมองหน้ามนุษย์ ก่อนเห่าใส่เสียงดัง

“เฮ้ย! เอ็งด่าข้ารึไงไอ้โก๊ะ เดี๋ยวเถอะมึง”

ก่อนที่ไอ้ขันจะง้างเท้าใส่ ไอ้โก๊ะมันก็แยกเขี้ยวรีบวิ่งตามเจ้านายไปไกล ปล่อยให้ไอ้ขันโวยวายอยู่ด้านหลังคนเดียว




TBC



เรื่องนี้คนเเต่งเเต่งเสร็จหมดเเล้วค่ะ
อีกไม่กี่ตอนก็จบ happy Ending เเน่นอน

เตียมตัวไปงานเทกระจาดกันวันอังคารจ้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2010 12:58:20 โดย jeab_u »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
^
^
ได้จิ้มแต่เช้า เย่ๆ
แล้วคุณหมอก็อาการหนักนะเนี่ย เป็นโรคคิดเองเออเอง -"-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2010 08:33:19 โดย JJHJJH »

KM

  • บุคคลทั่วไป
ฮิ้วววววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1


รัก ไม่คิดว่าบทจะง่ายก็ง่าย
แต่พอรักกันแล้วบทจะง่ายกลับยากซะนี่

พูดไปตรงๆ อย่างที่ใจคิดเลยสิหอม มัวอ้ำอึ้งอยู่ได้
ไม่สมกับเป็นหอมลูกพ่อกำนันสิงห์คนเดิมเลย
ทีพูดให้คนอื่นสะเทือนใจล่ะกลับพูดได้พูดดี

+1ให้กำลังใจให้หอมฮึดสู้

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
 :serius2:  เพิ่งกด + ให้ยังไม่ครบ 24 hr เลยอ่ะ
ไม่เป็นไร งั้นา :กอด1:  :L2:ให้แทนนะ

ออฟไลน์ Ayame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
เหมือนจะดีขึ้น(รึเปล่า?)

สู้ๆนะน้องหอม เปิดใจหมอทิอีกครั้งให้ได้ 

จะรอไปงานเทกระจาดอย่างใจจดใจจ่อค่า   :oni1:

เป็นกำลังใจให้น้องหอม หมอทิ คนแต่ง คนโพส  :กอด1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เหมือนจะดีขึ้น(รึเปล่า?)

สู้ๆนะน้องหอม เปิดใจหมอทิอีกครั้งให้ได้ 

จะรอไปงานเทกระจาดอย่างใจจดใจจ่อค่า   :oni1:

เป็นกำลังใจให้น้องหอม หมอทิ คนแต่ง คนโพส  :กอด1:





นั่นจิ
มันเหมือนจะดีขึ้นน่ะ
แต่เหมือนหมอยังมีอะไรในใจอ่ะ
มันเหมือนจะสุข แต่ก็เศร้าเนอะ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ข้าวหอมขี้ขลาด  :m14:


ปล. แอบบอกคำผิดค่ะ ลุกลี้ลุกลน (ล ลิงนะคะ) ปากเปราะ (ต้องมี ร เรือ ด้วย)

ออฟไลน์ zingiber

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
เอาใจช่วยน้องข้าวหอมกะพี่หมอทิต่อไป
เฮ้อออ เมื่อไหร่จะเปิดใจกันซะทีน๊า

hene2526

  • บุคคลทั่วไป
นี่ถ้าตอนนี้ข้าวหอมยังไม่ทำอะไรให้มันดีขึ้นละก็....หึ

หมอทิช่วยอดทนกับน้องหน่อยนะ แล้วก็ช่วยเปิดใจรับความรู้สึกของน้องด้วยหล่ะ สงสารมัน

หอมก็สู้ๆนะ อ้อนให้เยอะกว่านี้หน่อย มารยาที่มีก็เอามาใช้บ้างนะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ชอบประโยคนี้จัง "ความหวังที่สวนทางกัน"

นั่นสิแล้วเมื่อไหร่มันจะเดินไปทางเดียวกันล่ะ  เฮ้อ หมอทิเริ่มจะถอดใจแล้วซะงั้น...

หวังว่างานเทกระจาดจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้นนะ...

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ hpsky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1073
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-0
ความรักของหอมยังคงส่งไปไม่ถึงหมอ :กอด1:

ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
ไม่อยากให้จบเลยยยยยย อย่าจบได้ไหมอ่า :m15:

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
ทำเค้าไว้เยอะ
ก็ต้องพยายามหน่อยนะน้อง   :a2:
แต่
ไม่อยากให้จบเลย
ต่อตอนพิเศษไปเรื่อยๆได้ม๊า
   :impress:

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
เหนื่อยใจแกมเศร้าใจแทน :เฮ้อ: รักกันแต่กลับเข้าใจการกระทำของกันและกันไปคนละทิศคนละทาง หอมพยายามเข้านะค่ะ ใช้ความรักและเวลาลบภาพความเลวร้ายในใจหมอทิออกไปให้หมด หมอทิเค้าเจ็บเค้าช้ำมาเยอะจากการกระทำของหอม ลบล้างความผิดที่ทำไว้ซะนะค่ะ จะได้มีความสุขแบบไร้เงามืดเล็ก ๆ ในหัวใจกันซักที :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
หมอยังคิดที่เลิกกับหอมอยู่หรอเนี่ยะ T^T
ตอนนี้หอมน่ารักมาก ดีแล้วลูกเปิดใจบ้างๆ
ชอบตอนที่หมอเล่นกับหอมอะ
น่ารักน่าตีทั้งคู่เลย  แอร๊ยยย
5555555555

mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: :monkeysad:
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จำทำให้อะไรกลับมาเป็นเหมือนเดิมอ่ะนะ
 ถึงข้าวหอมจะดูเปลี่ยนแปลงไปแต่หมอก็คงจะมองเจตนาและ
รู้สึกถึงภาพเก่าๆที่ตัวเองเคยเจอเคยโดนกระทำมาก่อนอ่ะนะ
แค่มาส่งเมียที่บ้านยังเจอที่ชายไล่ตะเพิดแล้วยอมกลับไปง่ายๆแบบไม่ต้องมีใครรั้งไว้เลย
ทำให้ทั้งหมาทั้งเจ้านาย จ๋อยแดกไปตามๆกัน ไอ่โก๊ะอ่ะไม่เท่าไหร่ลูกพี่ไอ่โก๊ะเนี่ยดิ
หัวใจหล่นหายไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้  พออยากจะเรียกวันเวลาดีๆกลับมาอีกคนก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ถึงปากจะบอกว่าอะไรๆจะเหมือนเดิมแต่กำแพงที่ตัวเอง
ก่อไว้กันใจเจ็บนั่นอ่ะนะก็นับวันยิ่งสูงขึ้นๆ เจ้าหอมเอ้ยจะปีนไหวมั๊ยลูก ถึงตอนนี้จะอ่อนลงแล้วอ่ะนะ แต่ก็ต้องเคลียร์กันมากกว่านี้แหละ พี่หมอของอิป้าเตรียมยกธงขาวอยู่แหวบๆ ................ คนอ่านเศร้า กระซิกๆ

"ทว่าชายหนุ่มกลับไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้หางที่กระดิกแกว่งไกวอย่างลังเลชะงัก มองรถยนต์หรูหราแล่นจากไปลับตา
ไม่ต่างกับเจ้านายของมันที่ยืนมองผ่านม่านน้ำตาพร่าเลือนบนระเบียง
เขาไม่สนใจเราแล้วล่ะไอ้โก๊ะ..."
>> กระซิกๆ เศร้าสุดตับ

+1  :o12:(me/ออกไปซับน้ำตา กระ6ๆ)

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น้องหอมยังไม่ได้บอกรักหมอทิเลยนะค๊ะ
อ่านแล้วก็เลยรู้สึกขมปนหวานยังไงก็ไม่รู้
รักทั้งคนแต่งและคนโพสค่ะ รักข้าวหมอหมอทิด้วย :L1:

ออฟไลน์ meduza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
มารอเตรียมไปงานเทกระจาด
ก็เริ่มเบาใจขึ้นมั่งแต่ทำไมหมอทิถึงตัดใจง่ายๆนะ
กว่าจะได้ใจหอมมาก็นานก็น่าจะทนอีกนิดก็มีความสุขอยู่แล้วเชียว
ก็ลุ้นให้ทั้งคู่เข้าใจกันไวๆคนอ่านรออ่านฉากหวานๆอยู่น๊าค่า
+1เป็นกำลังใจให้หมอทิกับข้าวหอมอิอิ

ptyunjae

  • บุคคลทั่วไป
 :z6:หมออ่ะโง่ววววววววว
น้องหอมเปิดใจให้แล้ว
ยังหยิ่งอยู่อีกนะ
รีบๆบอกรักกันเลย
เดี๋ยวไปแต่งตัวเตรียมไปงานทิ้งกระจาดก่อนนะ
เผื่อเจอหมอกะข้าวหอมเขาหวานกัน :L2:

Laxxeez

  • บุคคลทั่วไป
พี่สาร...เป็นไรมากป่าวคับ หมอทิเค้าไม่ดีตรงไหนหรอคับ เขม่นถากถางหมอทิตลอดเลย หอมได้คนดี ๆ มาดูแลกลับไม่ชอบ ตกลงว่าไอ้โก๊ะตกอันดับไปแล้วใช่ป่าวคับ เพราะพี่สารเห่าเก่งกว่า กัดเก่งกว่า แล้วก็ดุกว่าด้วย พี่สารทำตัวน่าหมั่นไส้จนอยากฝาก o18 ไว้จัง

hahn

  • บุคคลทั่วไป
สู้สู้นะจ๊ะ น้องหอม บอกพี่หมอไปเลยว่ารัก

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
ข้าวหอมเปิดใจ แต่พี่หมอ ปิดเสียสนิทเลย  :sad11:
 
เฮ้อออ. . .  ดูแล้วเหนื่อยแทนเน๊อะ  เอาน่า น้ำ(กรด) หยดลงหิน หินมันต้องกร่อนบ้างล่ะน่า~!!

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
--**--

ซึ้งแบบเศร้าๆ อ่ะ.... :monkeysad:

ไหงเป็นแบบนี้อ่ะ...เหมือนหมอจะเข้าใจแต่ก็ไม่อ่ะ.............   :เฮ้อ:

..

..

..

..

เอาใจช่วยนะ...

 :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด