Absolution Café : ร้านบำบัดรัก (SM) จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Absolution Café : ร้านบำบัดรัก (SM) จบ  (อ่าน 289627 ครั้ง)

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: ซากุน่ารักอ่ะ เป็นลูกผู้หญิงที่มีความรับผิดชอบมาก :o9:
เรย์จิเข้าคอร์สเจ้าสาวรอเล้ยยยยย

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
เรย์จิไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนมด่วนนน o4

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
งั้นตอนแต่ง ซากุระคุงคงใส่ชุดเจ้าบ่าว ส่วนเรย์จิคงใส่ชุดเจ้าสาว
 :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Absolution Café ตอนที่ 15/1 อัพ 27-4-10 จบในตอน
«ตอบ #183 เมื่อ27-04-2010 20:02:14 »

ตอนที่ 15 How to be a Normal Person : วิถีทางการเป็นคนธรรมดา

(ตอนที่ 15/1)


สายลมหนาวกำลังพัดผ่าน เทศกาลแห่งความสุขกำลังใกล้เข้ามา อีกไม่นานแล้ว หิมะก็คงจะตามมาเช่นกัน เช้าวันนี้อากาศดี ท้องฟ้าสีฟ้าสด ดูกระจ่างใสราวแก้วเนื้อดี ร่างสูงหายใจเข้าลึก ๆ อย่างผ่อนคลาย เท้าอันมั่นคงก้าวเดินไป พร้อมกับไม้กวาดในมือ
   
เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วสำหรับตัวเขา ที่จะต้องมากวาดลานหน้าบ้านหลังจากตื่นนอน
   
ร่างสูงแข็งแรงบิดกายเล็กน้อยขับไล่ความเกียจคร้าน ร้านคาเฟ่ที่ดูวุ่นวายในหลายวันก่อน ในที่สุดก็กลับคืนสู่สภาพปกติอันแสนสงบสุขเสียที
   
“ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ” เสียงใสอ่อนโยนทักด้วยรอยยิ้ม เด็กหนุ่มยิ้มตอบแห้ง ๆ รู้ดีว่าคนทักเจตนาจะแกล้งเขาอีกแล้ว
   
แต่เขาจะไม่เคลิ้มตามเด็ดขาด…เพราะรู้อยู่แก่ใจ ว่าคน ๆ นี้ ไม่ใช่ผู้หญิง แม้ว่าในยามนี้ จะใส่ชุดกระโปรงเรียบร้อย มีแถบผ้ากันเปื้อนคาดทับ ที่ไหล่บาง ยังมีผ้าคลุมลายลูกไม้กันหนาว ดูงดงามราวหญิงสูงศักดิ์สมเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วก็ตาม
   
เรย์จิรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ว่านอกจากจะไม่ใช่ผู้หญิงแล้ว คนผู้นี้ ยังเจ้าเล่ห์มากอีกด้วย
   
“อรุณสวัสดิ์ครับ โคโตะคุง” เด็กหนุ่มทัก
   
“เรียกทาโนเอะสิจ๊ะ เวลาทำงาน ฉันยังคงเป็นทาโนเอะนะ อย่าลืมสิ” ชายหนุ่มในคราบหญิงสาวน่ารักย้ำ

“ว่าแต่ว่าวันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงรีบตื่นนักล่ะ” ร่างบอบบางถามต่อ
   
คนฟังยิ้มตอบรับ “ผมชินซะแล้วน่ะสิครับ ถึงวันพุธ คุณจะให้ผมกับซากุระคุงได้หยุดก็เถอะ”
   
“ไม่มีอะไรทำสินะ” คนถามเริ่มยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยชอบกล แต่สำหรับเรย์จิ ผู้ที่ไม่เคยตามใครเขาทัน กลับไม่ได้สังเกตเห็น
   
“เอ้อ…ก็ทำนองนั้นแหละครับ ให้ผมช่วยงานในร้านดีกว่ามั้ย”
   
ร่างบอบบางส่ายหน้า “ไม่ได้สิ วันนี้เป็นวันหยุดของเธอนะ จะเอาเปรียบกันได้ยังไง” คำพูดนุ่มนวลอ่อนโยน สมกับเป็นทาโนเอะของเขา…เอ๊ย ไม่สิ ไม่ใช่ของเขา…ที่สำคัญ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อยนี่นา
   
เรย์จิลอบถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ แกมเสียดาย
   
คนมองมาเข้าใจความคิดของเด็กหนุ่มจนแอบขำแทบไม่ได้ ร่างเล็กอมยิ้มอย่างนึกสนุก ก่อนจะพูดต่อไป
   
“ซากุระคุงไปไหนแล้วล่ะ”
   
“น่าจะอยู่ในครัวมั้งครับ ถึงจะเป็นวันหยุด แต่สงสัยจะทำอาหารอยู่แน่เลย”
   
“พวกเธอนี่นะ เหมือนกันจริง ๆ เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าว่างงานกันนัก ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม”
   
“อะไรหรือครับ”
   
“ใกล้จะคริสต์มาสแล้ว ฉันอยากให้พวกเธอช่วยหาเครื่องประดับร้าน   สวย ๆ มาแต่งร้านเราตามเทศกาลน่ะ แล้วก็นี่” ร่างบอบบางยื่นเงินให้ “ครึ่งหนึ่งเป็นค่าของ และอีกครึ่ง…เป็นค่าจ้าง”
   
“ผมรับค่าจ้างไม่ได้หรอกครับ ผมเองก็อยากแต่งร้านของพวกเราให้สวยเหมือนกัน” เด็กหนุ่มแย้งอย่างซื่อ ๆ
   
ทาโนเอะส่ายหน้าเบา ๆ แล้วยิ้มให้ “ไม่ใช่ค่าจ้างไปซื้อของ แต่ว่า…เป็นค่าจ้าง สำหรับการเป็นครูพิเศษในวันนี้”
   
“เอ๋?”
   
“ของที่ต้องซื้อน่ะ ซื้อแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว แต่ว่าฉันจะจ้างเธอเป็นการพิเศษ วันนี้ทั้งวัน เธอจะต้องเป็นครูพิเศษให้ซากุระคุง สอนเขา…ให้รู้จักโลกภายนอก รู้จักการเป็นคนธรรมดา จะได้ไหมล่ะ”
   
ใบหน้าของคนพูดเคร่งขรึมลงเล็กน้อย เมื่อพูดต่อไปว่า “ซากุระคุงน่ะ ไม่เคยใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดามาก่อนเลย ตลอดชีวิตของเขา มีเพียงการจับดาบ และการสังหารคนตามคำสั่งเท่านั้นเอง”

“ถึงเขาจะยอมเปิดใจให้ฉัน แต่…ในยามที่เขาต้องการใครสักคน ฉันกลับไม่สามารถเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเขาได้ เด็กคนนั้น…ถึงได้แต่เจ็บปวดมาตลอด”
   
“แต่เธอ…ต้องทำมันได้แน่ ๆ ดังนั้น…ช่วยเปลี่ยนวิถีชีวิตของเขาที ฉันอยากให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กสาวธรรมดา ไม่ใช่ใช้ชีวิตราวเครื่องจักรสังหารแบบนี้”

“นะ…ได้ไหม เรย์จิคุง ช่วยเป็นเพื่อนกับซากุระคุงทีนะ พาเขาไปเที่ยว พาไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปทำอะไรก็ได้ ที่ ‘เด็กสาววัยรุ่น’ เขาทำกัน เธอคงจะรู้ใช่มั้ยล่ะ”
   
เรย์จิอึ้งไปเล็กน้อย “เอ่อ แต่แบบนั้น ไม่จำเป็นต้องจ้างก็ได้ครับ”

ร่างบอบบางหลิ่วตาให้ “ออกไปเดทกับสาวน้อยทั้งที หนุ่มน้อยอย่างเธอก็ต้องเป็นเจ้ามือสิ เงินนั่น ฉันให้เพื่อการนี้นั่นแหละ”
   
เดท…เดทงั้นเหรอ
   
คนฟังเริ่มหน้าแดงเรื่อ เมื่อเผลอจินตนาการสุดสวีทไปเรียบร้อยแล้ว มือบอบบางตบไหล่เด็กหนุ่มพลางพูดว่า “ฉันบอกซากุระคุงไว้แล้วนะ ให้เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วด้วย”
   
“หา?” คนฟังชักเริ่มตั้งตัวไม่ติด แต่ไม่ทันได้พูดอะไร ก็ยืนอึ้งอ้าปากค้างไปเสียก่อน เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาหา ร่างบอบบางน่ากอดมีเสื้อโค้ทยาวสีหวานคลุมข้างนอก ใต้กระโปรงยาวยังมีกางเกงสแลคตัวบางแนบเนื้อตามแฟชั่นหน้าหนาว แถมที่ไหล่บาง ยังปล่อยผมสีดำสนิทยาวตรงถึงกลางหลังดูน่ารัก การแต่งตัวราวสาวรุ่นทันสมัยขนาดนี้ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ได้ ว่าเสื้อผ้าพวกนี้ เป็นฝีมือการเลือกซื้อของโคโตะแน่ ๆ
   
“ซะ…ซากุระคุง”
   
“ยังไม่ได้แต่งตัวอีกเหรอ โคโตะไม่ได้บอกนายหรือไง” สาวน้อยผู้มาใหม่ถามขึ้นเรียบ ๆ
   
“อ่ะ ครับ ๆ จะแต่งตัวเดี๋ยวนี้แหละ” คนรับคำแทบจะติดจรวดวิ่ง เพื่อไปแต่งตัวราวสายฟ้าแลบ
   
ร่างสูงโปร่งมองตามไปแล้วถอนหายใจยาว ดวงตาเรียวสีเข้มหันมามองโคโตะในคราบของทาโนเอะที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น “แค่ไปซื้อของ ทำไมฉันต้องใส่กระโปรงด้วยล่ะ”
   
“ถ้าแต่งตัวน่ารัก ร้านเขาจะมักจะลดราคาพิเศษให้น่ะสิ ช่วงนี้มีคนเยอะขึ้น ค่าใช้จ่ายก็เพิ่ม ดังนั้น…ถ้าเขายอมลดราคาได้มันก็คุ้มไม่ใช่เหรอ” ร่างบอบบางพูดหน้าตาย
   
“เอาเถอะ ถ้าเพื่อร้านของพวกเราล่ะก็ จะยอมสักครั้งก็ได้” ซากุระตอบ   ง่าย ๆ
   
เพียงพริบตาเดียว ร่างสูงของเด็กหนุ่มก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา ในชุดเตรียมพร้อมออกไปข้างนอก “เรียบร้อย…แล้ว…ครับ”
   
คนยืนอยู่ก่อนมองมาอย่างขำ ๆ เรย์จิคงรีบจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน พอมาถึงเลยต้องยืนตั้งหลักอยู่ครู่ใหญ่
   
“เอ้า ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ไม่ต้องรีบกลับหรอกนะ วันนี้ทั้งวัน เป็นวันหยุดของพวกเธอ ฉันไม่รีบใช้ของพวกนั้นด้วย” ทาโนเอะว่าพลางโบกมือบ๊ายบาย

หากก่อนทั้งคู่จะจากไป หญิงสาวก็พูดขึ้นเหมือนพึ่งนึกขึ้นมาได้ “จริงสิ ซากุระคุง วันนี้เรย์จิบอกว่าจะติวเข้มเรื่องวิธีการเป็นคนธรรมดาให้นะ เชื่อฟังเขาหน่อยก็แล้วกัน” ซากุระผงกศีรษะรับ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก

ทั้งคู่เดินมาถึงริมถนนใหญ่ แม้จะไม่ใช่วันหยุด แต่ก็ยังมีคนเดินไปมาจับจ่ายซื้อของเหมือนปกติ แถมในวันนี้ยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ ด้วยมีบู้ทสำหรับขายสินค้าของขวัญคริสต์มาสมาเปิดกันหลายร้าน รวมถึงบู้ทจัดงานแต่งงานแบบครบวงจรด้วย ร่างสูงโปร่งบอบบางมองไปยังหนุ่มสาวหลายคู่ ที่เดินซื้อของด้วยกันอย่างครุ่นคิด

เรย์จิที่เดินตามชักเริ่มเกร็ง ๆ เขาไม่ได้เดินเที่ยวกับหญิงสาวที่สวยขนาดนี้มานานแล้ว ครั้งล่าสุดก็คง…ตอนไปเรียนภาคค่ำวันแรก ที่ซากุระแต่งชุดนักเรียนหญิงนั่นเอง แต่นั่น ก็ไปกับซานะ และยูเมะด้วย เลยจะเรียกว่าเดทก็คงเรียกได้ไม่เต็มปากเท่าใดนัก

แต่เดทแบบนี้ เขาก็ควรจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนสินะ…

“ถ้าอย่างนั้น…เอ่อ เราไปที่…”

พูดยังไม่ทันจบ มือบอบบางที่ขาวผ่อง ก็ยื่นมาเบื้องหน้าเขา

เรย์จิมองมาอย่างงง ๆ จนอีกฝ่ายต้องพูดเอง

“โคโตะบอกว่า เวลาคนธรรมดาไปซื้อของ เขาจะเดินจับมือกัน” ใบหน้าสวยโบ้ยใบ้ให้มองคนเดินไปมาด้านข้าง คนที่เดินจับมือกัน ไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ได้ ว่าทั้งหมดนั่นล้วนเป็นคู่รักสวีทหวานแหววทั้งนั้น แต่เรย์จิเองก็รู้อีกเช่นกัน ว่าซากุระ ไม่ได้รู้เลยสักนิด ว่าเขาจับมือกันเพราะอะไร นอกจากเข้าใจตามที่โคโตะบอก ว่าคนธรรมดา จะจับมือกันเดิน ก็เท่านั้น

เด็กหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหน้าแดงกว่าเดิม โคโตะหนอโคโตะ ช่างแนะนำแต่เรื่องวิเศษดีแท้ แล้วนี่เขา…จะปฏิเสธได้ยังไง ถึงจะดูเหมือนฉวยโอกาสอยู่ แต่ว่า…แต่นาน ๆ ที ได้จับมือสาวสวย มันก็…ไม่เลวอยู่
มือสั่นน้อย ๆ ยื่นมาจับมือบอบบางนั้นอย่างเคอะเขิน

หากดวงตาอีกฝ่ายกลับเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองกลับมา

“ฉันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าแบบนั้น นายจะไม่จับมือฉันก็ได้นะ”

มือที่สั่นเมื่อครู่เลิกสั่นไปเลยในตอนนี้ เรย์จิเข้าใจแล้ว ว่าซากุระ ไม่มั่นใจขนาดไหน ยามต้องออกมาภายนอกเพียงลำพัง โดยเฉพาะตอนที่แต่งเป็นผู้หญิงเช่นนี้

มือแข็งแรงของเขาบีบมืออีกฝ่ายเบา ๆ แกมให้กำลังใจ
 
“ผมไม่ได้รังเกียจคุณนะ แต่แค่…ผมไม่ค่อยได้จับ…เอ้อ จับมือผู้หญิงเท่าไหร่”

ใบหน้าสวยขยับแย้มยิ้ม แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มจาง ๆ แค่นั้นก็เล่นเอาคนมองแทบใจละลายแล้ว

“ถ้าไม่รังเกียจ…ก็จับเอาไว้นะ ได้หรือเปล่าล่ะ”

คนฟังพยักหน้ารับแข็งขันด้วยใบหน้าที่แดงฉาน

“มือของนายอุ่นดี ฉันชอบ” ซากุระพึมพำเสียงแผ่วราวกระซิบ แต่เรย์จิที่ได้ยินเต็มสองหู แทบจะตัวลอยด้วยความปลาบปลื้มไปเรียบร้อยแล้ว


......................................................

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :impress2:

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ตามพี่นุ่น น่ารักอ่า :impress2:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 :m1: น่ารักอ่ะ
เรย์จิสู้ๆ โอกาสที่จะได้เปลี่ยนมาเป็นเจ้าบ่าวรออยู่ ~

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ ratrirattikan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักจัง แต่คงต้องขอบคุณแผนการจากไคโตะสินะคะเนี่ย :m4:
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ค่ะ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
กรี๊ดอะไรกัน
เค้างงน่ะ
เพราะเค้ายังไม่ได้อ่าน
ต้องอ่านซะแล้วเรื่องนี้

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
(จบตอนที่ 15)


ใกล้คริสต์มาสแล้ว ร้านค้ามากมายเริ่มตกแต่งและวางขายสินค้ากันเอิกเกริก อากาศหนาวที่เริ่มมาเยือน ยิ่งเสริมบรรยากาศแสนสุขให้ได้เห็นทั่วไป แม้อากาศจะเย็น แต่มือที่จับกันยังคงแนบแน่น

“เราไม่ซื้อของกันเหรอ” ซากุระถามขึ้น หลังจากที่เดินตามเรย์จิมาได้ครู่ใหญ่อย่างแปลกใจ

“ของน่ะ ซื้อตอนจะกลับสิครับ ถ้าซื้อตอนนี้ เราก็ต้องหิ้วอยู่ตลอด เป็นภาระเปล่า ๆ นะ” เรย์จิตอบยิ้ม ๆ

“แต่วันนี้…เรามีหน้าที่มาซื้อของไม่ใช่เหรอ” ซากุระพูดต่อไป การที่ทำงานซึ่งได้รับมอบหมายมา สำหรับเขา มันคือการออกปฏิบัติการ ซึ่งจะต้องทำตามคำสั่ง อย่างถูกต้องครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
   
มือแข็งแรงดึงมืออีกฝ่าย แล้วพาเข้าร้านอาหารใกล้ ๆ โดยไม่ตอบคำ
   
“นั่งสิครับ”
   
ซากุระมองเก้าอี้ที่อีกฝ่ายเลื่อนให้ ก่อนจะนั่งลงโดยไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของเขาคล้ายจะซีเรียสมากขึ้นอีกเล็กน้อย
   
“มีคนตามเรามางั้นหรือ” เสียงเบากระซิบถาม ออกจะทึ่งกับเด็กหนุ่ม ที่รู้สึกถึงอันตรายก่อนตัวเขาเสียอีก
   
เรย์จิฟังแล้วอึ้งกว่าเดิม สุดท้ายก็ตัดสินใจรับมุก “ชะ…ใช่ครับ มีคนตามเรามา เราจะให้มันรู้ตัวไม่ได้…ดังนั้นเราต้อง…” ตั้งท่าจะพูดว่า ทำตัวให้เป็นคนธรรมดา แต่ยังไม่ทันได้พูดเช่นนั้น ร่างบอบบางโน้มตัวเข้าหา แล้วกอดเด็กหนุ่มไว้เรียบร้อยแล้ว

ดวงตาเรียวยาวเหลือบมองเงาในกระจกพลางกระซิบถาม “พวกนั้นไปหรือยัง?”
   
เรย์จิที่แทบจะแข็งไปแล้วพูดเกือบไม่ออก “เอ่อ…ยังครับ”
   
มือบอบบางจับหน้าเด็กหนุ่มโน้มเข้ามาใกล้ ประกบริมฝีปากจูบลงไปแนบแน่น ไม่ใช่แค่นั้น เขายังรู้สึกได้ ว่าเรียวลิ้นนุ่ม ยังสอดแทรกเข้ามาคล้ายต้องการยั่วยวนเขาเสียด้วย
   
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ กับเด็กหนุ่มที่ทั้งเคลิบเคลิ้ม ทั้งเขินอายจนใบหน้าแดงฉาน เรย์จิค่อยลมหายใจลงก่อนผละออกนุ่มนวลแล้วกระซิบว่า “พวกนั้น…ไปแล้วมั้งครับ”
   
คนฝั่งตรงข้ามผละออกแทบจะในทันที ด้วยท่าทีเฉยเมยราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น
   
เรย์จิมองมาอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไรดี สิ่งพวกนั้น…คงเป็นสิ่งที่ซากุระได้เรียนรู้ ยามต้องการแฝงตัวมาสังหารใครสักคนกระมัง
   
ถึงจะดีใจที่ได้จูบ แต่เขาก็รู้เต็มอก ว่ามันผิดปกติมากแล้ว คนธรรมดา ไม่มีใครทำเช่นนี้แน่ ๆ
   
ดวงตาเรียวยาวมองกลับมา “เป็นอะไรน่ะ นายหน้าแดงจังนะ”
   
“เอ่อ…ไม่…ไม่มีอะไรครับ” เรย์จิตอบกลบเกลื่อน
   
ซากุระอมยิ้ม “เมื่อกี้…คงไม่ใช่จูบแรกของนายหรอกนะ”
   
“พะ..พูดอะไรแบบนั้นครับ ผมน่ะ…ผม…” พูดแล้วก็อึ้งไป ถ้านับว่าโดนกระเทยอย่างลิซ่าจังเพื่อนพ่อเขาจูบ หรือโดนสาวน้อยน่ารักอย่างยูเมะจูบได้ มันก็ไม่ใช่…จูบแรกหรอกนะ
   
เด็กหนุ่มผู้มีประสบการณ์น้อยกว่าอึ้งไปอีก เขาไม่คิดว่า ซากุระ จะชำนาญขนาดนี้ เล่นชำนาญกว่าเขาเสียอีก แบบนี้เขาจะสอนอะไรได้ล่ะ
   
ร่างบอบบางพูดขึ้นเบา ๆ “ฉันรู้นะ เมื่อกี้น่ะ ไม่มีใครตามมาหรอก” ว่าพลางถอนใจ “ถึงจะไม่ได้ทำงานแบบนี้มานานเป็นปี แต่มันก็ไม่ได้ทำให้สัญชาตญาณของฉันทื่อลงหรอกนะ”
   
เรย์จิอ้ำอึ้งไปเลย แบบนี้ซากุระก็รู้น่ะสิ ว่าเขา…แอบฉวยโอกาส…แต่เอ้อ…เขาไม่ได้คิดจะจูบนี่นา เป็นซากุระต่างหาก ที่จูบเขาเอง
   
แล้วจะโดนฆ่ามั้ยเนี่ย…
   
คิดแล้วขนลุกซู่ เมื่อมือบอบบางเอื้อมมาจับมือเขาไว้อีกรอบ
   
“ถึงนายจะจูบไม่เป็น แต่ฉันก็ชอบนะ” หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ  “นายได้จูบแล้ว ทีนี้จะเลี้ยงฉันได้หรือยังล่ะ”
   
“เอ่อ…ครับ” เรย์จิได้แต่รับคำแล้วสั่งเครื่องดื่มกับของว่างเพื่อบดบังความขัดเขิน ทำไมงวดนี้ มันคล้ายกับว่า เป็นเขาที่โดนซากุระลวนลามนะ..ไม่เข้าใจเลย
   
“คนธรรมดา เขาคงทำกันแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ” ซากุระพูดต่อเรื่อย ๆ
   
“หมายความว่ายังไงครับ” เรย์จิถามงง ๆ
   
“ก็…กอดแล้วก็จูบกัน ในที่สาธารณะไง” คนพูดชี้ไปยังโต๊ะใกล้ ๆ ที่กำลังทำเช่นนั้น หรือว่า…ซากุระ กำลังเลียนแบบ?
   
“ถึงฉันจะแสดงละครไม่เก่งนัก แต่เรื่องยั่วยวนเหยื่อก่อนเชือดเนี่ย ยังคงพอมีความมั่นใจอยู่” เขาพูดต่อไป
   
สีหน้าเด็กหนุ่มเคร่งเครียดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาสีเข้มจ้องมองมายังอีกฝ่ายก่อนจะถามว่า “เมื่อกี้…เป็นการแสดงหรือครับ”
   
ร่างบอบบางมองกลับมา ด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า “ก็ใช่น่ะสิ มีเหตุผลอะไรมากกว่านั้นงั้นหรือ ยิ่งยั่วยวนเหยื่อได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถเข้าใกล้ได้มากขึ้นเท่านั้น และเปอร์เซ็นต์ที่จะฆ่าสำเร็จ ก็จะยิ่งมากขึ้นไปด้วย ทริกของมันก็คือ เมื่อเข้าใกล้ได้มากพอ ต้องรีบชิงลงมือในพริบตา ที่จุดตายเท่านั้น”
   
คนฟังเริ่มแอบสยอง วันนี้จะเป็นเขาเทรนให้ซากุระเป็นคนธรรมดา หรือจะเป็นวันที่เขาถูกเทรน ให้เป็นนักฆ่ากันแน่ล่ะเนี่ย
   
“คนธรรมดา จะกอดหรือจูบกัน ก็เฉพาะกับคนที่เขารักเท่านั้นนะครับ…และการทำแบบนั้น จะต้องมาจากใจ ไม่ใช่การแสดง” เรย์จิพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
   
ซากุระเงียบไปอีก เป็นความเงียบเหมือนเมื่อตอนแรก ๆ ที่รู้จักกัน เรย์จิรับรู้ได้ในทันที ว่าอีกฝ่ายเริ่มกางเกราะป้องกันตัวเองอีกแล้ว
   
“เมื่อก่อนนี้…ฉันจะกอดหรือจูบคน ก็ต่อเมื่อฉันต้องฆ่าเขาเท่านั้น” เสียงที่คล้ายรำพึงกับตัวเองพูดขึ้น แล้วก็เงียบไปอีก
   
เรย์จิมองมาอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไรหรอกครับ อย่างน้อยในตอนนี้ คุณก็กอดยูเมะกับซานะได้ กอดโคโตะได้ แถมวันก่อน…เอ่อ…วันก่อนนั้น ยังกอด…ผมได้อีก”
   
“นั่นคือความรักงั้นหรือ” คนฟังถามขึ้นกลางคัน เล่นเอาคนกำลังอธิบายอึ้งไปแล้ว
   
“เอ่อ ก็…ทำนองนั้นล่ะครับ”
   
“การกอดคนในครอบครัว ก็เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งเหมือนกัน” เรย์จิพูดต่อไป
   
“งั้นเหรอ” ซากุระพึมพำอย่างครุ่นคิด “แล้วที่ฉันจูบนายล่ะ จะนับได้มั้ย”
   
คนฟังหน้าแดงอีกรอบ คำพูดนั้น เหมือนสารภาพรักชอบกล หวังว่าเขาคงไม่ได้คิดไปเอง เรย์จิเริ่มฝันหวาน
   
“นายก็เป็น…คนในครอบครัวของฉันนี่นา” ร่างบอบบางพูดต่อ เล่นเอาคนฟังอกหักดังเป๊าะ
   
“เอ้อ…จะว่างั้นก็ได้ครับ” เรย์จิได้แต่รับคำต่อไปอย่างเสียดายนิดหน่อย
   
“ถ้างั้นคืนนี้ ฉันนอนกอดนาย ก็คงไม่เป็นไรสินะ”
   
เรย์จิที่กำลังดื่มน้ำแทบสำลัก ดูท่าว่าซากุระจะติดใจเขาเข้าเสียแล้ว…ในฐานะ…หมอนข้าง…ล่ะนะ
   
“เอ่อ…ผมว่ามัน”
   
“ไม่เหมาะ?” คนฟังต่อให้ คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย
   
“คะ..ครับ ใช่ครับ”
   
“ก็คิดว่าฉันเป็นผู้ชายสิ ผู้ชายกอดกับผู้ชาย ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนไม่ใช่เหรอ นายเองก็บอกนี่นา ว่าคนในครอบครัว กอดกันได้เพื่อแสดงความรัก”

คำพูดที่ย้อนสิ่งที่เขาพูดมาจนครบ แถมยังฟังดูมีเหตุมีผลชอบกล ทำให้คนฟังเริ่มเถียงไม่ออก มีหรือเขาจะไม่อยาก ที่จะให้อีกฝ่ายกอด แต่ว่า…ซากุระไม่ใช่ผู้ชายจริง ๆ นี่นา และเขา…ก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียด้วย
   
“ตะ..แต่ว่า สำหรับผู้หญิงแล้ว จะกอดหรือจูบก็เฉพาะกับ…เอ้อ ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ ก็ต้องเป็น…คนที่จะแต่งงานด้วย” เรย์จิพยายามอธิบายต่อไป
   
“แต่เรย์จิ เหมือนกับพ่อฉันเลยนะ ตั้งแต่เรานอนห้องเดียวกัน ฉันรู้สึกว่า…นอนได้หลับสนิทมากขึ้นจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่…พ่อที่แท้จริง ยังไม่เคยทำให้รู้สึกได้ขนาดนี้”
   
นี่เขา…เป็นหมอนที่ทำให้ทุกคนหลับฝันดีหรือไงเนี่ย คราวอายาเมะก็ทีแล้ว เด็กหนุ่มคิดอย่างเศร้าใจเล็กน้อย แถมยังเป็นหมอนที่…พอเจ้าตัวได้เจอกับคนที่ใช่ ก็โดนโยนทิ้งไปไม่ใยดี
   
แต่อย่างน้อย…เขาก็ทำให้คนที่ได้สัมผัส มีความสุขชั่วระยะเวลาหนึ่งล่ะนะ
   
…ถึงจะเป็นพ่อในสายตาของซากุระ…
   
คิดแล้วเศร้ากว่าเดิมแฮะ
   
เด็กหนุ่มที่ทำท่าเหมือนจะจิตตก ทำให้ซากุระมองมาอย่างงงกว่าเดิม
   
“ฉันทำผิดอีกแล้วสินะ” ดวงตาคู่นั้นดูเศร้าลง “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้จริง ๆ”

เรย์จิรีบส่ายหน้า “เอ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเราน่ะนะ มันเรียนรู้กันได้”

ร่างบอบบางยังคงเศร้า เมื่อพูดต่อไป

“แต่เล็กมาแล้ว สิ่งเดียวที่ฉันต้องศึกษา และต้องเรียนรู้ ก็คือวิธีการฆ่าคน ฉันผิดเอง ที่เกิดมาเป็นผู้หญิง ทั้ง ๆ ที่บ้านนั้น คาดหวังว่าจะเป็นชาย ที่จะสามารถสืบทอดสกุลต่อไปได้ ที่นั่นเปิดเป็นสำนักดาบ แต่เบื้องลึก ทำหน้าที่มือสังหาร สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว”
   
เรย์จินิ่งฟังสิ่งที่อีกฝ่ายเล่า นาน ๆ ที ซากุระจึงจะยินยอมเปิดใจ อาจจะเพราะเคยเล่าเรื่องราวของคนในคาเฟ่มาก่อน ในครั้งนี้ จึงไม่ได้รู้สึกขัดเขินนัก ยามต้องเล่าประวัติตัวเองให้เขาฟัง
   
ดวงตาคู่สวยมองออกไปนอกหน้าต่าง ผู้คนหลากหลายยังเดินผ่านไปมา ดูมีอิสระยิ่งนัก ซากุระยังคงพูดต่อไป
   
“เพื่อความปรารถนาของพ่อ ฉันถูกขังไว้ในห้องลับใต้คฤหาสน์ ต้องฝึกดาบทุกวันตั้งแต่จำความได้ และแทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยถ้าไม่จำเป็น จะให้ใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงไม่ได้ จะให้ใคร…รู้จักหน้าไม่ได้ ฉันต้องฆ่า…ทุกคนที่รู้ให้หมด เพื่อไม่ให้เป็นภัยในอนาคต”

ใบหน้าสวยยิ้มเศร้า “ฉันเคยมีเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็น…เด็กผู้ชายที่ร่าเริงมาก พวกเรา พบกันเพราะเขาทำหน้าที่มาส่งอาหารให้ ตอนที่แม่นมป่วย”

“แต่พอพ่อรู้…ว่าเราแอบนัดเจอกัน…เขาก็ออกคำสั่ง…ให้ฉัน…ฆ่าเด็กคนนั้น เป็นคน ๆ แรกในชีวิต ที่ฉันต้องลงมือสังหาร”
   
“จนถึงวันนี้…เลือดของเขา…ในวันนั้น ยังคล้ายจะเปื้อนมือฉันอยู่เลย และหลังจากการฆ่าในครั้งนั้น…ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรอีก ไม่ว่าพ่อจะให้ฉัน…ไปฆ่าใครก็ตาม”
   
มือเรียวยาวทาบทับที่บานกระจกร้าน “ในโลกแคบ ๆ ที่มีกำแพงบ้านกางกั้น ฉันจะสามารถออกไปข้างนอกได้ ก็เฉพาะตอนที่จะทำหน้าที่สังหาร จนกระทั่งวันหนึ่ง…ที่กรรมตามสนองบ้านของเรา พวกเขาถูกฆ่าทั้งหมด แต่ฉัน ที่อยู่แต่ในห้องลับ กลับแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย และโคโตะ…ก็เป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้”
   
“หลังจากนั้น ฉันก็ติดตามโคโตะเรื่อยมา โคโตะ…ทำให้ฉันคิดถึงเด็กผู้ชายคนนั้น…คนที่ฉันเป็นคนฆ่าคนแรก ถ้าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ คงจะเหมือนกับโคโตะนี่แหละ”
   
“และนั่น ทำให้ฉัน…อยากจะอยู่เคียงข้างเขา…อยากจะชดเชย ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เคยทำไปในอดีต แต่ฉันก็รู้…ว่าเป็นฉันไม่ได้ โคโตะ ไม่เคยมองฉัน มากไปกว่าการเป็นเครื่องมือฆ่าคน”
   
“ถึงอย่างนั้น…ฉันก็ยังภูมิใจ ที่สามารถทำประโยชน์ให้กับโคโตะได้ เพราะสิ่งเดียวที่ฉันทำได้…ก็คือการฆ่าคน”
   
เรย์จิมองใบหน้าบอบบางนั้นโดยไม่ได้พูดอะไรขัดจังหวะ เขาได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดต่อไป โดยทำหน้าที่เพียงรับฟัง รอยยิ้มขมขื่นปรากฏขึ้นจาง ๆ บนสีหน้าที่ไม่ค่อยมีการแสดงออกนั้น
   
“แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไป ในวันที่ฆ่าคนวันสุดท้าย…โคโตะบอกว่า…ฉันไม่ต้องฆ่าใครอีกแล้ว…เขาต้องการให้ฉันกลับเป็นคนธรรมดา เขาจะรับบาปทั้งหมดของฉันเอาไว้เอง เพียงแค่ขอให้ฉัน เป็นคนธรรมดาให้ได้ก็พอ”

มือบอบบางกุมมือของเรย์จิไว้ “สอนฉันทีเถอะนะ วิธีการเป็นคนธรรมดา ฉันไม่อยาก…เห็นโคโตะต้องเศร้าอีก ถ้าฉันสามารถเป็นอย่างที่โคโตะอยากให้เป็นได้ โคโตะคงจะมีความสุขแน่ ๆ”
   
“น่าอิจฉาโคโตะจังนะครับ” เด็กหนุ่มพึมพำ “แต่ว่า…ผมว่า…พอแล้วดีมั้ยครับ”
   
ร่างบอบบางมองมาอย่างไม่เข้าใจนัก “นายหมายความว่ายังไง”
   
“ชีวิตของคุณ เป็นของคุณนะครับ ไม่ได้เป็นของพ่อ หรือของโคโตะ หรือกระทั่ง…ของเด็กคนนั้น”
   
“สิ่งสำคัญของการเป็นคนธรรมดา ก็คือการหาความสุขให้กับตัวเอง เพื่อให้ตัวเอง มีความสุข”
   
“แต่ว่า…”
   
“ผมรู้ คุณกำลังพยายามทำตัวให้ดีที่สุด ตามความต้องการของทุกคน เพื่อที่จะให้คนอื่นมีความสุข แต่ว่า…ถ้าทำแล้ว คุณไม่มีความสุขล่ะก็ จะไม่มีใคร…มีความสุขเช่นกันนะครับ”
   
“การมีความสุข จะต้องเริ่มจากตัวเราเอง ถ้าเรามีความสุข คนอื่นก็จะมีความสุขไปด้วย อย่างเช่นตอนนี้ ถ้าคุณยิ้ม ผมก็จะมีความสุข ถ้าผมและคุณมีความสุข โคโตะก็ย่อมมีความสุขไปด้วย และคนอื่น ๆ ก็จะมีความสุขตามไปเป็นลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ”
   
“เลิกฝืนใจที่จะทำในสิ่งที่คิดว่า ถ้าทำสำเร็จแล้ว จะทำให้คนอื่นมีความสุขเถอะครับ ผมชอบคุณ ที่คุณเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่การพยายามแล้วต้องทุกข์ทรมานกับมัน แล้วสุดท้าย ก็จะไม่มีใครเลย…ที่จะมีความสุข”
   
“ฉันไม่รู้นี่นา ว่าจะทำยังไง ถึงจะมีความสุข” ร่างบอบบางพึมพำ
   
เรย์จิยิ้มให้แล้วตอบว่า “วันนี้ผมจะสอนให้ ดีมั้ยครับ”
   
“อื้ม” ซากุระตอบรับ
   
“ความสุขอย่างง่าย ๆ เริ่มจากนมอุ่น ๆ” เขาว่าพลางรับเครื่องดื่มร้อน ๆ น่าทานจากบริกรสาวแล้วส่งให้อีกฝ่าย
   
“อากาศหนาวแบบนี้ การได้ทานของอุ่น ๆ ก็ทำให้มีความสุขได้”
   
โกโก้ร้อน ๆ ที่ถูกยกจิบ ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้จริง ๆ สีหน้าราบเรียบเปลี่ยนเป็นพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด เรย์จิยิ้มให้แล้วบอกต่อไปว่า
   
“ยังมีอีกหลายอย่าง ที่ทำแล้วจะมีความสุข ถ้าคุณไม่รู้ ว่ามีอะไรบ้าง ผมจะเป็นคนสอนคุณเอง”
   
“นายนี่นะ…เหมือนเป็นพ่อฉันจริง ๆ” คนพูดยิ้มน้อย ๆ
   
เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มใหม่อย่างพยายามทำใจ เอาเถอะ…พ่อก็พ่อเถอะนะ…สำหรับตอนนี้
   
มือของเขากุมมือของซากุระไว้ “ผมรู้ว่าคุณเป็นคนเข้มแข็ง แต่ว่า…คุณก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี”
   
“ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงสักหน่อย… ไม่มีใคร ต้องการคนอ่อนแอ…โดยเฉพาะ ผู้หญิง…ที่อ่อนแอ ของแบบนั้น…มันไร้ค่า”
   
“เป็นผู้หญิงสิดี เชื่อรึเปล่าล่ะครับ”
   
คนฟังจ้องมองหน้าเรย์จิ “นายเป็นคนแรกนะ ที่พูดแบบนั้น”
   
ใบหน้าเด็กหนุ่มเริ่มแดงเรื่อ “เกิดเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ เกิดเป็นคนอ่อนแอ ก็ไม่ผิดเหมือนกัน ผู้หญิงนี่แหละ กำไร ถึงจะอ่อนแอ ถึงจะทำอะไรไม่ได้ ก็ไม่ผิด ไม่น่าเกลียดอะไร แถมยังมีคนเต็มใจช่วยเหลืออีกเยอะแยะ ไม่เหมือนผู้ชายหรอกครับ คุณได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้ทั้งที จะปฏิเสธมันไปทำไม”
   
“อ่อนแอบ้าง เพื่อให้ผู้ชายปลอบโยนคุณ ผมจะได้ดูแมนขึ้นบ้างไง” ว่าแล้วเขาก็บีบมือบอบบางนั้นเบา ๆ
   
“คุณไม่ได้ร้องไห้มานานมากแล้วสินะ กำไรอีกอย่างของการเป็นผู้หญิงก็คือ ไม่ว่าจะร้องไห้ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ไม่เป็นไร ดังนั้น…ถ้ามันอัดอั้นตันใจ ถ้ามันอยากระบายออกมา ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนเอาไว้หรอกนะครับ”
   
เรย์จิมองมาพลางกระตุ้นอีก “ผมว่ามีผงเข้าตาคุณแล้วล่ะนั่น ดูสิ ตาแดงเชียว ถ้าไม่ให้น้ำตามันออกมา จะไล่มันไปไม่หมดนะ เดี๋ยวเป็นโรคตาแดงไม่รู้ด้วย” เขาพูดต่อหน้าตาเฉย “เอ้า เร็วสิครับ”
   
“บ้าจริงนายนี่ แล้วแบบนี้….” ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นมีน้ำตาคลอ “ฉัน…”
   
เด็กหนุ่มขยับเปลี่ยนเก้าอี้เข้าไปนั่งด้านข้างอีกฝ่าย “ถึงผมจะไม่ค่อยเอาไหนเท่าไหร่ แต่ว่า…อกผมก็ยังน่าใช้ซับน้ำตานะครับ” ว่าพลางโอบอีกฝ่ายมากอดไว้เบา ๆ
   
“คุณเป็นคนแรกเสียด้วย ที่จะได้ลองใช้มัน” เขาพูดติดตลก
   
คนซบแอบยิ้มจาง ๆ ทั้งน้ำตา ไม่รู้ทำไม พออยู่กับเรย์จิแล้ว ถึงได้รู้สึกสบายใจแบบนี้ทุกครั้ง

เสียงสะอื้นแผ่วเบากับร่างบอบบางที่สั่นน้อย ๆ ทำให้เรย์จิกอดซากุระเอาไว้กระชับกว่าเก่า มือแข็งแรงลูบหลังสั่นเทาพลางปลอบประโลม
   
“ร้องไปเถอะครับ เท่าที่คุณพอใจ ผมจะอยู่ตรงนี้ เป็นเพื่อนคุณเอง”
   
“อื้ม…ขอบใจนะ” เสียงรับแผ่วเบาจากร่างนั้น แม้น้ำตาจะยังเปียกชื้น
   
เรย์จิจึงได้แต่นั่งอยู่ในสภาพนั้นเป็นครู่ใหญ่เลยทีเดียว กว่าอีกฝ่ายจะหยุดร้องได้ กระดาษซับแผ่นบางถูกยื่นให้เช็ดใบหน้า ก่อนที่เขาจะเห็นอีกฝ่ายพึมพำ อย่างเคอะเขิน
   
“อย่าบอกเรื่องนี้…ให้ใครฟังนะ ได้ไหม”
   
“รับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลยครับ เอาล่ะ พอร้องไห้แล้ว คราวนี้ก็คงจะยิ้มได้แล้วใช่ไหมล่ะ”
   
ใบหน้าหญิงสาวเริ่มแดงเรื่อ พลางพึมพำตะกุกตะกัก “ฉัน…ยิ้มไม่ค่อยเป็นหรอก”
   
“ลองสิครับ ผมรับรองได้ ว่ารอยยิ้มของคุณ น่ารักกว่าใคร”
   
คนฟังก้มหน้างุด อายจนพูดไม่ออกไปแล้ว
   
“วันนี้เรามาเดท เอ๊ย มาฝึกการเป็นคนธรรมดากันนะครับ คนธรรมดาน่ะ จะยิ้ม แล้วก็หัวเราะ เมื่อมีความสุข”
   
“ต้องหัดเอาไว้สินะ” คนฟังตั้งใจราวกับจะจดเล็คเชอร์เก็บไว้
   
“แน่นอนครับ ตอนนี้…เอาง่าย ๆ ก่อน มายิ้มกันดีกว่า”
   
ใบหน้าสวยขยับริมฝีปากอย่างเคอะเขิน ท่ามกลางการลุ้นของเรย์จิ    
   
“แบบนั้นแหละครับ น่ารักมาก ๆ เลย เอาล่ะ เราไปที่อื่นกันต่อดีกว่านะ” เขาว่าพลางจัดการจ่ายเงิน แล้วดึงร่างบอบบางก้าวเดินต่อไป
   
มือที่จับกันไว้ แนบแน่นกว่าเก่า
   
ซากุระมองมัน แล้วยิ้มอีกครั้ง
   
เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน ที่ไม่คิดว่า ชั่วชีวิตนี้…จะสามารถทำได้อีก…
   
รอยยิ้มที่เรย์จิบอกไว้ว่า…จะมีได้เมื่อมีความสุข
   
ตอนนี้พวกเขากำลังมีความสุขใช่ไหมนะ…?
   
อยากจะเข้าใจแบบนั้นจริง ๆ


...........................................


ต้นคริสต์มาสสูงตระหง่านหน้าห้างชั้นนำในเมืองประดับไฟสีสันสวยงาม แม้จะเป็นยามกลางวัน ก็ยังรู้สึกได้ถึงความงดงามนั้น ทั้งคู่เดินเลือกซื้อของด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน
   
เรย์จิซื้อผ้าพันคอผืนหนึ่ง ก่อนจะจัดการพันมันรอบคอขาวที่ดูจะหนาวเย็นจากอากาศที่เย็นลงเรื่อย ๆ พลางพูดว่า “พันไว้แบบนี้ จะได้ไม่หนาว”
   
“อากาศหนาวแค่นี้ ฉันไม่เป็นไรหรอก เมื่อก่อนต้องซุ่มรอในหิมะเกือบทั้งคืน ยังไม่เป็นไรเลย” ซากุระแย้ง
   
“ผมรู้อยู่แล้วล่ะ แต่ว่านะ คนธรรมดา เขาจะใช้กัน ลองดูไปรอบ ๆ สิครับ”
   
ผู้คนรอบข้างหลายคนใช้ผ้าพันคอจริง ๆ แถมยังหลากหลายสีสันเสียด้วย
   
ร่างสูงโปร่งแตะผืนผ้าถักนั้นแผ่วเบา ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มน้อย ๆ “ถึงจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่มันก็…อุ่นดีนะ”
   
“แน่นอนสิครับ”
   
มือเรียวหยิบผ้าอีกผืนจากร้านข้าง ๆ พร้อมกับจ่ายเงิน แล้วจัดการพันรอบคอเรย์จิบ้าง
   
“ฉันให้”
   
“เอ่อ…” เรย์จิยืนอึ้งไปแล้ว
   
“นายจะได้อุ่นเหมือนกัน” เสียงราบเรียบตอบ
   
เรย์จิมองมาพลางอมยิ้ม “ขอบคุณนะครับ อุ่นมาก ๆ เลย”

ซากุระมองท้องฟ้าที่ยังกระจ่างใสพลางพูดต่อไป

“ไม่ใช่เพราะโคโตะ หรือเพราะใครทั้งนั้น…แต่ในตอนนี้ ฉันรู้สึกอยากจะ…อยากจะเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ เหมือนกัน” ซากุระพึมพำ
   
เรย์จิอมยิ้ม “ตอนนี้คุณก็เป็นสาวน้อยธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว”
   
“ฉันไม่ธรรมดาตรงไหน” ร่างบอบบางหันกลับไปถามทันที
   
“ก็ตรงที่…คุณน่ารักกว่าสาว ๆ ทั่วไปไงล่ะครับ”
   
คนฟังยิ้มได้อีกรอบ ก่อนจะพูดต่อไป “มีที่ไหนน่าไปอีกล่ะ พาฉันไปสิ”
   
“ได้เลยครับ” เด็กหนุ่มรับคำกระตือรือร้น


.............................................


วันนั้นทั้งวัน เรย์จิพาเที่ยวไปเสียรอบ ทุกอย่างแปลกใหม่หมดสำหรับซากุระ ทั้ง ๆ ที่อยู่ที่นี่มาก็ระยะหนึ่งแล้ว แต่นอกเหนือจากการซื้อของตามหน้าที่ คล้ายกับว่า ซากุระ จะไม่เคยไปไหนเลย

ครั้งนี้จึงนับเป็นการออกมาเปิดหูเปิดตาเป็นครั้งแรก…
   
ยามค่ำเริ่มมาเยือน หลังจากช็อปปิ้งอุปกรณ์แต่งร้านจนเงินหมด ทั้งคู่ก็ช่วยกันหอบหิ้วข้าวของกลับร้าน ร่างบอบบางเหลือบมองชายหนุ่มด้านข้าง แล้วยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง
   
เสียงแผ่วเบาราวกระซิบพึมพำบอกเรย์จิว่า
   
“ขอบใจนะเรย์จิ ถึงฉันจะยังไม่เข้าใจนัก ว่าทำอย่างไร ถึงจะมีความสุขได้มาก ๆ แต่อย่างน้อยฉันก็รู้สึกว่า เวลาที่ได้อยู่กับนาย ฉันมีความสุข”
   
เรย์จิยิ้มให้ “ผมก็มีความสุขนะ เวลาได้อยู่กับคุณ”
   
ร่างบอบบางหันไปมอง “วันหยุดคราวหน้า เรามากันอีกนะ”
   
“แน่นอนสิครับ”
   
“ชวนยูเมะกับซานะมาด้วยคงดี เด็ก ๆ จะได้มีความสุขด้วย”
   
คนฟังแอบเสียดายเล็กน้อย นี่ซากุระไม่ได้อยากเดทกับเขาสองต่อสองหรอกหรือ
   
“พอได้มีความสุข ฉันก็อยากให้ทุกคนที่ร้าน มีความสุขเหมือนกัน”
   
“ถ้างั้นวันหลัง เราชวนทุกคนออกมาเที่ยวกันดีกว่ามั้ยครับ”
   
ร่างบอบบางรับคำด้วยรอยยิ้ม
   
การฝึกเป็นคนธรรมดาวันนี้ดูเหมือนจะไปได้สวย อย่างน้อย…หญิงสาวข้างตัวเขา ก็ดูเป็นสาวน้อยน่ารักที่กำลังมาเดทครั้งแรก และเขาเอง ก็ได้มีเดทแรกสุดสวีท ในความทรงจำดี ๆ ครั้งนี้เช่นกัน
   
“รู้ไหมครับ วันนี้น่ะ คุณดูเป็นคนธรรมดามากจริง ๆ นะ” เรย์จิพูดเรื่อย ๆ
   
คนฟังหันมาแทบจะในทันที “จริงเหรอ”
   
“แน่นอนสิครับ เป็นคนธรรมดาที่มี ‘ความสุข’ ด้วยล่ะ”
   
“ฉันอยากเป็นแบบนี้ตลอดไปจัง” ร่างบอบบางพูดลอย ๆ ใบหน้าสดใสมองไปยังร้านคาเฟ่…บ้านของพวกเขา ที่กลับมาถึงแล้ว
   
หากก่อนจะเข้าประตู ริมฝีปากนุ่ม ก็จูบเบา ๆ ที่ข้างแก้มเด็กหนุ่มนั้น
   
“ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ ฉันสนุกมากจริง ๆ”
   
ว่าแล้วก็เดินตัวปลิวเข้าร้านไป ทิ้งให้เด็กหนุ่มผู้ถูกจูบรอบสอง ยืนอึ้งท่ามกลางลมหนาวอยู่ตรงนั้นเป็นครู่ใหญ่เลยทีเดียว…


- จบตอนที่ 15 -

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Absolution Café จบตอนที่ 15 อัพ 30-4-10 จบในตอน
« ตอบ #189 เมื่อ: 30-04-2010 12:50:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยย น่ารักมากๆๆ
เดทหวานๆของคนน่ารัก  :-[
เอาอีกๆๆ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ ratrirattikan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ หวาน~ ไม่คิดว่าซากุระคุงจะทำอย่างนี้เป็ฯด้วย แต่น่าสงสารจัง ที่ต้องทำอะไรแบบนั้นจนเหมือนชินชา จนเป็นแค่การแสดงละคร เฮ้อ~
แต่ตกลง เรย์จิคู่กับซากุระเหรอคะเนี่ย!?

liTTle.SaLapaO

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ 
เดทสุดหวาน
ซากุน่ารักจังเลย
จุ๊บสุดท้ายเนี่ย
คนอ่านเขินแทนจัง

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Ottomechan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ซากุระจังน่ารักนะเนี่ยย

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
เรย์จิน่ารักจังโดนซากุระลวนลามด้วย :laugh:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
น้ำตาลจะขึ้นมั้ยเนี่ยกรู
กร๊ากกกกกกกกกกกก :laugh:

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
ตอนที่ 16 The Line Between Us : เส้นคั่นระหว่างสองเรา

(ตอนที่ 16/1)

Rate: NC-18, Shotacon, Rape, 3P, SM
*เนื้อหารุนแรงโดยเฉพาะฉากข่มขืน กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน*


ร่างสูงแข็งแรงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวประจำ แหล่งกบดานแห่งนี้ นับว่าเป็นความลับพอสมควร และเป็นที่ ๆ เขาชอบใช้ โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องใช้ความคิดเช่นนี้ กระดาษรายงานที่พึ่งได้รับมาสด ๆ ร้อน ๆ ถูกวางลงบนโต๊ะหลังอ่านจบ เนื้อหาของมัน ทำให้เขาเครียดมาได้พักหนึ่งแล้ว

มือแกร่งกุมขมับอย่างครุ่นคิด เขารู้ดี...ว่าเรื่องแบบนี้ สักวันก็ต้องเกิดขึ้น

งานในโลกมืด จะอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้มันขาวสะอาดไปได้

ไม่ว่าจะตบตาเพียงใด สักวันความจริงก็ต้องปรากฏ

โคโตะก็ไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่ว่า...รู้เรื่องนี้มาจากใคร ต้องมีใครสักคน...ที่บอกทุกอย่าง และล้างสมองโคโตะได้

มือใหญ่กำแน่นอย่างแค้นเคือง คน ๆ นั้น...มันเป็นใครกัน

เพียงเวลาไม่นาน แต่ด้วยสมองอันปราดเปรื่อง และการลงมืออย่างเงียบเชียบเป็นความลับสุดยอด เขาสามารถสืบได้ว่า โคโตะ...กำลังวางแผนเก็บคนของเขา...คนที่เป็นบุคลากรที่สำคัญในองค์กรนี้ ทีละคน ๆ

ถ้าเป็นโคโตะ ที่รู้โครงสร้างขององค์กรโดยทฤษฎีอย่างดีเยี่ยม คงลงมือวางแผนได้ไม่ยากเย็นนัก

แต่ที่แปลกคือ โคโตะที่แสนจะละเอียดอ่อนและอ่อนโยน ทำไมจึงลงมืออย่างเลือดเย็นได้ขนาดนี้

เพราะเขาไม่เคยให้ลงมือปฏิบัติเลย...โคโตะ...ไม่เคยต้องมือเปื้อนเลือด...เขาไม่มีวันยอม แผลใจจากการฆ่าคน มันบาดลึกยากจะจางหาย เขารู้ดี...นับตั้งแต่วันที่สังหารพวกสัตว์นรก ที่สังหารครอบครัวเขา รวมทั้งทำลายทั้งร่างกายและจิตใจของโคโตะจนยับเยิน

เขาไม่เคยคิดจะให้โคโตะ ต้องลงมาแปดเปื้อนเหมือนกับเขา ที่ในตอนนี้ มือทั้งสองข้างเปื้อนเลือดจนยากจะหาสิ่งใดชะล้างได้แล้ว

แต่นั่นก็ไม่สำคัญ หากสิ่งนั้นทำให้โคโตะยิ้มได้ ต่อให้ต้องฆ่าคนอีกสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่แคร์!

เขาผิดพลาดแล้วสินะ ที่ไปขอร้องให้โคโตะสืบเรื่องของคน ๆ นั้น ด้วยความเชื่อใจว่าโคโตะ จะไม่คิดทรยศอย่างเด็ดขาด

ทว่าตั้งแต่กลับมา โคโตะ...ก็เปลี่ยนไป

ท่าทีห่างเหิน แววตาไม่ไว้วางใจและปวดร้าว แสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง

การลงมืออย่างเหี้ยมโหดและเลือดเย็น

ทุกอย่างเกิดขึ้น นับตั้งแต่ตอนนั้นจริง ๆ...

ต้องเป็นคน ๆ นั้นแน่ ๆ ที่ทำให้เป็นเช่นนี้

...ยามาโนะ เรอิจิ!


..........................................


ทั้ง ๆ ที่โคโตะ เป็นน้องชายเพียงคนเดียวเท่านั้น...ที่เขาตั้งใจจะดูแลอย่างดี...ตั้งใจจะจะปกป้องไว้ให้ได้ จากอันตรายทั้งปวง แต่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นนี้ ก็เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขาลง...อย่างสิ้นเชิง

...ในวันนั้น...วันเกิดครบรอบ 14 ปี...ของพวกเขา

"มาโอะ...รอด้วยซี่" ร่างเล็กวิ่งกระหืดกระหอบตามหลังมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

"นายขาสั้นเอง จะมาบ่นอะไร รีบ ๆ เข้าสิ เดี๋ยวก็สายพอดีนะ" เสียงหัวเราะจากพี่ชายผู้สูงกว่า แข็งแรงกว่า และมีพลังมากกว่า ทำให้คนตัวเล็กกว่าที่วิ่งตามไม่ทันเริ่มกระเง้ากระงอด

"ขี้โกงนี่ ใครจะไปอยากขาสั้นกันเล่า" ดวงตากลมโตค้อนให้ พลางมองร่างสูงใหญ่กว่าเด็กในวัยเดียวกันของมาโอะแกมอิจฉา ตัวเขาเอง...ทั้ง ๆ ที่เกิดมาพร้อมกัน แต่กลับตรงกันข้าม เขาเองนั้น ตัวเล็กกว่าเด็กรุ่นเดียวกันเยอะด้วยซ้ำ แถมยังค่อนข้างขี้โรคอีกต่างหาก

คล้ายว่ามาโอะจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างไปมากกว่าตั้งแต่เกิดแล้ว ทั้งโตเร็วกว่า แข็งแรงกว่า และยัง...มีเสน่ห์กว่า...ในสายตาของเขา มากมายนัก

แต่เขาไม่เคยที่จะน้อยใจ เพราะพี่ชายคนนี้ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ก็จะคอยดูแลและปกป้องเขาอยู่เสมอ

พวกเขาเป็นฝาแฝด...ถึงจะไม่ใช่แฝดเหมือนจากไข่ใบเดียว...แต่พวกเขาก็เป็นพี่น้อง ที่เกิดมาแทบจะพร้อมกัน จากในครรภ์เดียวกันของมารดา

สายใยที่เชื่อมถึงกันผ่านรกในครรภ์ ยังคงเชื่อมถึงกันได้ตลอดเวลา แม้จนบัดนี้

ร่างสูงที่จงใจวิ่งช้าลงถูกกระโดดกอดจากด้านหลัง "จับได้แล้ว ฮึ ถ้าจะให้วิ่งจริง ๆ ชั้นก็ไม่แพ้นายหรอกน่า"

"อยากเดินเร็วนัก แบกไปด้วยเลยแล้วกัน" มือเรียวเล็กโอบกอดรอบคอ ขึ้นขี่หลังคนตัวสูงอย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มน่ารักแกมเจ้าเล่ห์ส่งไปให้อีกฝ่าย คนถูกขี่หลังหันมาหัวเราะ "ถึงขานายจะสั้น แต่ก็หาวิธีอู้ได้ตลอดอยู่ดีนั่นแหละ"

"แล้วจะไม่แบกไปหรือไง" เสียงเล็ก ๆ ถามอย่างงอน ๆ "นายผิดเองนะ ที่ทำให้ชั้นวิ่งตามจนเหนื่อย"

"โอเค ๆ เกาะแน่น ๆ ล่ะ ถ้าหล่นไประหว่างทางไม่ตามเก็บด้วย"

"อื้ม" ร่างบางตอบรับ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดรอบคอแกร่งแนบแน่นกว่าเก่า "ไม่ว่ามาโอะจะไปที่ไหน โคโตะก็จะไปด้วย...อย่าทิ้งโคโตะนะ" เสียงใสออดอ้อน

"มาโอะไม่มีวันทิ้งโคโตะแน่นอน สัญญาได้เลย" นิ้วก้อยที่เกี่ยวกันทำให้ร่างเล็กอมยิ้มอย่างมีความสุข

"โคโตะรักมาโอะนะ...รักที่สุดในโลกเลย"

"อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรอีกล่ะเนี่ย" คนกำลังแบกพึมพำ

เสียงใสหัวเราะคิก "โคโตะไม่อยากได้อะไรหรอก ขอแค่มีมาโอะอยู่ด้วยก็พอ"

คำพูดจริงใจ สายใยที่สัมผัสได้...ใช่...ขอแค่พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว


......................................


"ภาพที่เจ้านั่นมันแอบถ่ายไป มีภาพของฉันอยู่ด้วย หลักฐานนั่น จะทำให้ฐานะทางการเมืองของฉันสั่นคลอน ดังนั้น แกต้องไปจัดการ...ปิดปากพวกมันให้หมด แล้วเอาฟิล์มมาให้ได้" เสียงทรงอำนาจสั่ง

นักการเมืองท้องถิ่นเช่นเขา กลับพลาดง่าย ๆ โดนถ่ายรูปตอนกำลังรับเงินใต้โต๊ะ มันเป็นอะไรที่หยามกันจนยากจะให้อภัย หลังจากสืบทราบจนแน่ชัดว่าคนทำเป็นใคร เขาก็ตัดสินใจ ที่จะสั่งสอน ให้พวกมันได้รู้ซึ้งกันเสียบ้าง

รอยยิ้มพึงใจราวสุนัขผู้ล่าได้พบเหยื่อ แสดงออกอย่างชัดแจ้ง

"จัดการได้...ทั้งหมด ใช่มั้ยครับนายท่าน"

คนฟังหันหลังให้ ดวงตาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงราบเรียบพูดต่อไปว่า "โทษฐานที่พวกมันลบหลู่ชั้น...คือความตาย! จัดการพวกมันอย่าให้เรื่องมาถึงฉันก็แล้วกัน จะทำยังไงก็ตามสบาย"

ร่างสูงที่ฟังคำสั่งพยักหน้ารับ ใบหน้ากร้านแดดมีรอยยิ้มอำมหิต "รับทราบครับ นายท่านไม่ต้องห่วง"


....................................


"โคโตะ นายกลับบ้านไปก่อนเลยนะวันนี้" ร่างสูงสุดเท่ของมาโอะในชุดนักเรียนโผล่เข้ามาในห้องเรียนของโคโตะพลางสั่งความ เสียงกรี๊ดกร๊าดเบา ๆ จากสาว ๆ ในห้อง ทำให้ร่างบอบบางแอบขัดใจไม่น้อย

"ทำไมล่ะ วันนี้จะมีงานฉลองวันเกิดพวกเรานะ นายจะไปไหนกัน"

"ฉันต้องทำเวร แล้วก็มีของที่ต้องไปซื้ออีกนิดหน่อย" มาโอะตอบ

ร่างบอบบางยิ้มหวาน "ถ้านายจะแวะซื้อของขวัญให้ชั้นล่ะก็ จะกลับช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร" เขาว่ายิ้ม ๆ

มือใหญ่กว่าลูบผลนุ่มของอีกฝ่ายเบา ๆ พลางบ่นพึมพำ "รู้ดีงี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์กันพอดีสิ อุตส่าห์จะเก็บเป็นความลับซะหน่อย"

ร่างเล็กกอดพี่ชายไว้ "ไม่เซอร์ไพรส์ก็ไม่เป็นไรนี่ ของที่มาโอะให้ โคโตะชอบทั้งนั้นแหละ"

"งั้นโอเคนะ กลับบ้านดี ๆ ล่ะ"

คนตัวเล็กพยักหน้ารับ แล้วมองอีกฝ่ายเดินจากไป หลังจากนั้นแค่พริบตา รอบโต๊ะเขาก็มีแต่คนมารุมล้อม "พี่ชายเธอเหรอ โคโตะ เขาเท่จังเลยนะ แนะนำให้รู้จักบ้างสิ" สาว ๆ เพื่อนร่วมห้องหลายคนเริ่มเข้าทางเขา ดวงตากลมโตมองมายังเด็กสาว ที่ดูไม่เรียบร้อยสักนิดแม้จะอยู่ในห้องเรียนอย่างเฉยเมย พลางพึมพำว่า

"อย่าเสียเวลาเลย มาโอะน่ะ เป็นเกย์" ร่างเล็กพูดหน้าตาเฉย ท่ามกลางสีหน้าเหรอหราแทบไม่เชื่อจากหลายคนที่ได้ยิน

"จริงเหรอ ไม่น่าเชื่อเลย"

"จริงสิ สเปคของมาโอะน่ะ ต้องเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ แล้วก็อ้อนเก่ง ๆ ด้วยนะ" คนพูดบรรยายต่อไปอย่างออกรส

คนฟังเริ่มอึ้ง "เสียเวลาจริง ที่แท้ก็เป็นพวกอย่างว่า...พวกเราไปกันเถอะ" ว่าแล้ววงก็สลายลงในพริบตา ปล่อยให้จอมเจ้าเล่ห์อมยิ้มเพียงลำพัง ที่จัดการกับศัตรูหัวใจในอนาคตได้จนหมดเรียบร้อย

มาโอะเป็นของเขาเท่านั้น เรื่องอะไรจะยกให้ใครง่าย ๆ กันล่ะ!


............................................


ร่างบอบบางเดินกลับบ้านลำพังอย่างอารมณ์ดี วันนี้เป็นวันเกิดของพวกเขาทั้งสอง ของขวัญสำหรับมาโอะเขาเตรียมไว้แล้ว และยังอดตื่นเต้นไม่ได้กับสิ่งที่มาโอะจะหามาให้เช่นกัน วันดี ๆ แบบนี้...ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียว แต่ก็เป็นวันที่เขาจะมีความสุขที่สุด

ครอบครัวของพวกเขาเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างอบอุ่น แม่ที่แสนใจดีมักเตรียมจัดทำอาหาร เค้ก และขนมเอาไว้ให้ ก่อนจะจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ในครอบครัวฉลองกันตอนกลางคืนเมื่อผู้เป็นพ่อกลับมาจากงานแล้ว

ปกติแล้วพวกเขาจะไม่เชิญใครมางาน เด็กน้อยชอบจะอยู่ด้วยกันมากกว่า ช่วยกันเปิดของขวัญ ช่วยกันตัดเค้ก แล้วก็แบ่งกันทานอาหาร เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้ทำอะไรร่วมกัน

วันนี้ก็คงจะเป็นอีกวันที่ดีมากแน่ ๆ

มือเล็ก ๆ ที่เปิดประตูออกชะงักเมื่อมองเข้ามา ข้าวของภายในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย สภาพห้องเลอะเทอะราวกับว่าคนทำต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง เห็นได้ชัดจากตู้โต๊ะลิ้นชักที่ล็อคกุญแจ ถูกทุบทำลายจนหมดสิ้น สิ่งของด้านในโดนเทออกทิ้งขว้างไม่ใยดี

เด็กชายมองไปรอบ ๆ อย่างตกใจ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากห้องครัวด้านใน...เป็นเสียงที่คุ้นเคยซึ่งเขาไม่มีวันลืม

"แม่ฮะ!" ร่างเล็ก ๆ รีบวิ่งเข้าไปทันที สภาพครัวเละเทะไม่ต่างจากด้านนอก แต่ที่แย่ไปกว่านั้น เขายังเห็นมารดาของตนเอง กำลังโดนเจ้าพวกสัตว์นรกนั่นทำร้าย!

"โคโตะ.." เสียงอ่อนแรงจากร่างเปลือยเปล่าพยายามพูด ผู้ชายแปลกหน้าตัวใหญ่กำยำ ท่าทางนักเลงคนหนึ่งคร่อมอยู่เหนือร่างเธอ

"หนีไปซะ..เร็ว..อึก..!" มือแกร่งของเจ้าเดนนรกนั่นบีบลำคอขาวให้หยุดร้อง ร่างบอบบางของหญิงสาวเกร็งแน่น ลมหายใจที่ติดขัดทั้ง ๆ ที่ยังถูกทรมานทรกรรมเช่นนี้ทำให้ยิ่งยากจะขัดขืน แม้จะห่วงแสนห่วงลูกชายที่จู่ ๆ ก็เข้ามาในสภาวะที่อันตรายเช่นนี้

เด็กน้อยวิ่งเข้าใส่โดยไม่ได้เกรงกลัวต่อสิ่งใดทั้งนั้น "หยุดนะ! จะทำอะไรแม่ชั้น หยุดเดี๋ยวนี้!"

เขาพยายามจะดึงมือที่รัดรอบคอบางนั้นออกไป แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่ปกติก็น้อยอยู่แล้ว ทำให้ไม่อาจหยุดยั้งคนตรงหน้าได้ มือมั่นคงยังคงบีบแนบแน่น ไม่สะดุ้งสะเทือน

ร่างบอบบางเกร็งกระตุกดิ้นรนอย่างอึดอัดอยู่เป็นครู่ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง คนด้านบนชักรำคาญจึงออกแรงมากขึ้นไปอีก เสียงดังกร็อบก่อนที่ร่างนั้นจะแน่นิ่งไป ท่ามกลางเสียงเรียกแทบขาดใจของโคโตะ

"แม่!!!" ร่างเล็ก ๆ ร่ำไห้และดึงรั้งให้อีกฝ่ายออกไปจากผู้เป็นมารดาอย่างเอาเป็นเอาตาย ชายคนนั้นที่ยังกลัดมันไม่เลิกใช้มือผลักออกไปโดยแรง จนร่างเล็กกระเด็นไปกระแทกพื้น หากยังคงไม่มีผล โคโตะผุดลุกขึ้น แล้ววิ่งเข้าหาอีกครั้ง คนอารมณ์ค้างมองมาอย่างหงุดหงิดเป็นที่สุด ข่มขืนคนตาย มีหรือจะได้อารมณ์เท่าคนเป็น แต่เพราะพลั้งมือฆ่าไปแล้ว แม้จะยังทำไม่ทันเสร็จสิ้น

"เอะอะอะไรกันนักกันหนาวะ" ร่างผอมสูงชะลูดของชายอีกคนเดินเข้ามาจากห้องอีกด้าน ในมือที่มีเพียงหนังหุ้มกระดูกถือมีดอยู่ด้วย

...แถมยังเป็นมีดที่เปื้อนเลือด...

"เฮอะ ตายสบาย ๆ ไม่ชอบ กว่าจะยอมคายที่ซ่อนออกมาได้ เล่นเอาเหนื่อย" คนผู้มาใหม่ยังคงพึมพำต่อ ลิ้นยาวชวนสยองเลียปลายมีดที่มีคราบเลือด ก่อนจะแสยะยิ้ม "แต่ได้ชำแหละคนเป็น ๆ นี่มันสะใจดีจริง"

เด็กน้อยตาเบิกกว้าง ร่างกายสั่นระริกจนแทบจะยืนหยัดอยู่ไม่ไหว ร่างชุ่มเลือดที่นอนอยู่หลังประตูนั้น..คือผู้เป็นบิดานั่นเอง

"พ่อ!!! อะ..อื้้อ.." เสียงร้องหายขาดไปเพราะถูกจับปิดปากไว้

"เฮ้ย เสร็จแล้วก็มาช่วยกันหน่อยสิวะ ไอ้เด็กเวรนี่ยุ่งซะจริง ดูซิ เลยเผลอบีบคอนังผู้หญิงนั่นหักคามือไปเลย แทนที่จะได้สนุกมากกว่านี้" คนในห้องหาแนวร่วม เพราะร่างบอบบางที่จับยึดอยู่ดิ้นเสียจนแทบเอาไม่ไหวแล้ว

"อย่ามัวชักช้าสิแกนี่ ฆ่ามันซะก็หมดเรื่อง เดี๋ยวตำรวจก็แห่มากันพอดี" ชายผอมสูงผู้นั้นรีบเตือน ด้วยความที่ตัวสูงกว่ามาก มือแข็งแรงจึงช่วยยึดจับแขนบอบบางนั้นไว้ไม่ให้หนีได้อย่างง่ายดาย

โคโตะดิ้นรนพยายามพลิกตัวให้เป็นอิสระ แต่แขนที่ถูกรวบไว้ ไหนจะส่วนตัวที่ถูกคนเบื้องหน้าพยายามรั้งไว้ไม่ให้หนีไปได้โดยง่าย

"ตัวก็แค่นี้ แรงมากจริงนะ" เสียงจากชายร่างใหญ่คำราม มือคว้าสาบเสื้อนักเรียนที่ด้านหน้าได้ ก็กระชากเข้ามาจนกระดุมหลุดคามือ เสื้อที่หลุดลุ่ยเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวละเอียด ผิวเนียนสวยยิ่งกว่าผู้หญิง บวกใบหน้าได้รูปที่ดวงตาคู่งามยังคงนองไปด้วยน้ำตา ทำให้คนอารมณ์ค้างเผลอมองมาอย่างลืมตัว

"สวยไม่เลวนี่หว่า แกสนใจบ้างมั้ย" ดวงตาหื่นกระหายจ้องมองจนโคโตะเสียววาบ ท่าทางราวกับต้องการจะกลืนกินทำให้เด็กน้อยเผลอหยุดดิ้นโดยแทบไม่รู้ตัว แขนที่ดึงรั้งถูกจับไขว้ล็อคไว้ด้านหลัง เหลือขาที่ยังเป็นอิสระที่พอตั้งสติได้ก็ถีบดิ้นไม่ยอมหยุด มือหยาบที่เริ่มรำคาญจึงคว้าหมับที่ขาเรียวน่าลูบนั้นไว้ก่อนจะยกร่างนั้นขึ้น แล้วพยักเพยิดให้คนจับทางด้านหัวช่วยยกวางพาดบนโต๊ะ

เป็นโต๊ะที่ยังคงมีร่างที่ไร้วิญญาณของหญิงสาวอยู่ มือข้างหนึ่งปัดร่างนั้นทิ้งลงไปด้านล่างอย่างไม่ใยดี

เด็กชายที่โดนยึดจับมองมาด้วยนัยน์ตาแดงช้ำ

"ไม่นะ..แม่!!!"

ภาพที่เห็นทำร้ายจิตใจจนแทบแหลกสลาย โคโตะทั้งร้องทั้งดิ้นแต่ไม่สามารถจะหลุดจากการยึดจับได้ เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากออกจนหมด หลงเหลือเพียงเรือนร่างที่เปลือยเปล่า เด็กชายตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ไม่อาจขัดขืนได้ มือของอีกฝ่ายแข็งแรงราวคีมเหล็ก ที่ไม่ว่าจะต่อต้านเช่นใดก็ยังคงไร้ผล

ดวงตากลมโตเปียกเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาจนพร่าเลือน หากยังคงไม่หยุดดิ้น คนพวกนี้จะทำอะไรเขา..เด็กน้อยยังไม่เข้าใจเลย แต่ที่รู้แน่ชัดก็คือคนพวกนี้ ฆ่าพ่อกับแม่ของเขา!

"มาโอะ...ช่วยด้วย อย่านะ" ได้แต่ร่ำร้องขอความช่วยเหลือ พี่ชายเพียงคนเดียว..ที่เหลืออยู่ ถ้ามาโอะอยู่ล่ะก็...

แขนที่ถูกจับยึดถูกตรึงไว้เหนือศีรษะแน่นโดยชายร่างสูง ในขณะที่ชายร่างใหญ่อีกคน ยังคงพยายามจับขาขาวนั้นกดลงกับโต๊ะไม่ให้ดิ้นก่อนจะฝืนแกมบังคับจับอ้าออก

สัมผัสหยาบกร้านน่าขยะแขยงลูบไล้ร่างเรียบลื่น จูบไล้ตะกละตะกราม ทั้งกัดทั้งเลียลิ้มรสชาติราวกับร่างกายของเขาเป็นอาหารชั้นเยี่ยม ยิ่งสัมผัสยิ่งคลื่นไส้จนแทบอยากจะอาเจียน ร่างบอบบางเบือนหน้าหนี มีเพียงน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างเจ็บปวดใจที่ไม่อาจหลีกหนีไปให้พ้น ๆ จากเจ้าพวกสัตว์นรกนี้ได้

เสียงหัวเราะพึงใจในลำคอยามได้ยินกลับคล้ายเสียงปีศาจซาตานจากนรกที่มองมาอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงใหญ่ที่คุกคามลงเบื้องล่างเริ่มบีบเค้นบั้นท้ายเล็กแกมกระตุ้นด้วยแรงไม่มียั้ง เด็กชายสะดุ้งเฮือกยามรู้สึกได้ถึงการบีบบังคับแทรกเข้าด้วยปลายนิ้วอวบหนา

"โอ๊ย เจ็บนะ ไม่!!!" โตโตะบิดตัวดิ้นรน หากเรี่ยวแรงเท่าที่มี ไม่อาจสู้แรงผู้ใหญ่ถึงสองคนนั้นได้ นิ้วชุ่มน้ำลายที่แทรกเข้า หาได้ช่วยลดความเจ็บปวดจากการล่วงล้ำได้แม้แต่น้อย ช่องทางคับแคบบวกกับร่างตึงเครียดยิ่งเกร็งแน่น สร้างความทรมานมากกว่าเดิม

นิ้วกักขฬะดึงดันเข้าลึกจนปวดแสบ เลือดสด ๆ เริ่มหลั่งรินภายใน เด็กน้อยได้แต่เพียงร่ำร้องขอความเห็นใจ หากเสียงอ้อนวอนกลับคล้ายปลุกเร้า ให้อีกฝ่ายจัดการรุนแรงขึ้นอีก

เสียงที่ร้องดังขึ้นทำให้ชายร่างผอมสูงผู้ยึดจับอีกฝั่งอมยิ้ม นิ้วยาวรสเฝื่อนล้วงลึกเข้าปากเล็ก กวาดไล้ภายในจนอึดอัดก่อนบีบกรามบอบบางบังคับให้อ้ากว้าง แล้วขยับร่างเข้าหาแกมบังคับแทรกแก่นกายใหญ่ของตนเองเข้าโพรงปากอุ่น

เสียงขลุกขลักในลำคอแทบสำลัก ยิ่งดิ้นคนตรงหน้ายิ่งแสยะยิ้ม มือแข็งแรงยึดจับร่างบอบบางไว้จนดิ้นไม่หลุด ขยับบั้นท้ายดึงดันสวนเข้าออกลึก ลมหายใจที่ขาดห้วงอึดอัดกับการล่วงล้ำดุดัน ฉายแววทรมานเด่นชัดทางดวงตางามเพราะไม่อาจออกเสียงได้ มีเพียงน้ำตาทดแทนการระบายออกที่แสนเจ็บช้ำ

"อึ้้ก..อื้อ!!!" ร่างเล็กสะดุ้งอีกรอบเมื่อรู้สึกได้ถึงการล่วงล้ำที่ใหญ่กว่าเดิมเบื้องล่างจากชายอีกคนที่คร่อมอยู่ ช่องทางเล็กแคบถูกรุกรานทีละน้อยแม้จะยังไม่ผ่อนคลายเท่าที่ควร ความเป็นชายที่คับแน่นดันเข้าหา ไม่ใส่ใจว่าร่างกายที่บอบบางนั้นจะฉีกขาด หรือเลือดจะไหลริน

คนทำเริ่มกลัดมัน ขยับสวนร่างเข้าหาไม่มียั้ง ร่างเล็กกระตุกเฮือกเกร็งแน่นทรมาน ช่องทางที่อ่อนไหวถูกกระแทกกระทั้นเสียดสี จนร่างกายบอบบางแทบไม่อาจต้านทานไหว ภายในที่เจ็บปวดจนแทบด้านชา ได้แต่ทนรับสภาพอย่างจำยอม

"เฮ้ย ตาข้าบ้างสิวะ" คนอีกฝั่งทัดทานหลังจากเห็นเพื่อนได้ปลดปล่อยสมใจ ร่างกำยำถอนกายออกพลางหัวเราะ

"เอาสิ เดี๋ยวข้าค่อยต่ออีกรอบก็ได้ แหม ไอ้เด็กนี่..เด็ดกว่าแม่ผู้หญิงนั่นอีกว่ะ"

คำพูดที่แสบถึงทรวง ทำให้ร่างบอบบางดิ้นแรงขึ้นอย่างโกรธแค้น หากโดนมืออวบหนานั่นกดร่างไว้ ปล่อยให้เพื่อนเริ่มบรรเลงเพลงกามให้ต่อเนื่อง ร่างผอมสูงเลียริมฝีปากอย่างกระหาย แล้วลงมือบ้าง คนถูกทำดิ้นรนอึดอัด แต่ยังคงเปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง

สติสัมปชัญญะเริ่มรางเลือน ทั้งหวาดกลัวและเจ็บปวด...ทรมาน...มือบอบบางไขว่คว้าเพียงอากาศธาตุ ไร้ซึ่งความสามารถจะหยุดยั้งใด ๆ

ท่ามกลางเสียงหัวเราะกักขฬะอย่างสะใจของคนทั้งคู่ที่กำลังข่มเหงเขา ดวงตาคู่งามที่ปวดร้าวหลับลงทั้งน้ำตา ความทรมานที่ไม่จบไม่สิ้น...ทำให้นึกอยากจะตายเสียให้พ้น ๆ อยากจะหนีจากสภาพในตอนนี้...

ถ้าเขาดิ้น..ถ้าขัดขืนอย่างรุนแรงได้สักที ถ้าเขา...กัดหรือทำให้พวกมันโกรธได้...พวกมันคงโมโหจนฆ่าเขาทิ้งแน่ กำลังเฮือกสุดท้ายที่มี..ถ้าใช้มัน...เขาคงได้ตายสมใจ

จะได้จบสิ้นกันไปเสียที กับความทรมานที่เจ็บปวดจนทนทานไม่ไหวเช่นนี้

จะอย่างไรคนพวกนี้..คงจะฆ่าเขาแน่ ๆ อยู่แล้ว เหมือนกับพ่อ..และแม่..ที่ถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น

ร่างบอบบางเกร็งตัวขึ้น พยายามจะขัดขืน ก่อนจะนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้

...มาโอะ...

ในความทรมานเจียนตายนั้น...เด็กน้อยเพียงคิด...ถึงพี่ชาย...

โคโตะได้แต่ผ่อนกำลังลง เขาต้องพยายามมีสติไว้ เขาจะไม่..ขัดขืนอีกแล้ว ต้องรักษาชีวิตเอาไว้ ให้นานที่สุด ต้องอดทน...อดทนเข้าไว้!

...เขาจะตายไม่ได้...

ถ้าเขาตายล่ะก็...มาโอะจะเป็นยังไง...

มาโอะ..กำลังจะกลับมา...มาโอะจะต้องมาช่วยเขาแน่ ๆ...เขาจะต้อง...

...มาโอะ...


...................................

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: โหดร้ายที่สุด !!!
น่าสงสารโคโตะอ่าาา

เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมค่ะ   :monkeysad:

ออฟไลน์ ratrirattikan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหอๆ อดีตของไคโตะช่าง.... น่าสงสารแฮะ
แว๊กก แล้วอย่างนี้ถ้ามาโอะมาเจอเข้าจะเป็นยังไงนั่น
ดีใจที่ไรเตอร์มาอัพค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
ใจร้ายอ่ะ น่าสงสารไคโตะ
โมเอะมาช่วยไคโตะเร็วๆสิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ นัตสึกิ

  • เป็ดตัวกระเปี๊ยก
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ไหวที่จะเมนท์ :o12:


รออ่านตอนต่อนะคะ ทรมานเหลือเกินนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
อือ สงสารน้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ยอมรับเลยว่าอ่านตอนนี้แบบข้ามๆ แค่อยากรู้เหตุการณ์ แต่ทนอ่านที่โคโตะโดนข่มขืนไม่ได้อ่ะ

gneuhp

  • บุคคลทั่วไป
พูดได้คำเดียวว่า โหดร้ายอ่าา
สงสาร โคโตะ
มาโอะมาช่วยเร็วๆๆนะ

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Absolution Café ตอนที่ 16/2 อัพ 11-5-10 จบในตอน
«ตอบ #204 เมื่อ11-05-2010 16:05:11 »

(ตอนที่ 16/2)


ที่ร้านขายของในเมืองที่ไกลออกไปไม่มากนัก ร่างสูงของมาโอะ กับเพื่อนอีกสามคน กำลังเดินเลือกซื้อของอย่างตั้งใจ เด็กหนุ่มหมายตาสร้อยเงินสุดเท่เส้นหนึ่งเอาไว้แล้วตั้งแต่หลายวันก่อน แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับเด็กอายุขนาดเขา จึงต้องเก็บเงินมาจนถึงวันสุดท้าย ถึงจะเพียงพอที่จะซื้อได้

วันนี้เขาจึงมาอย่างตั้งใจ โคโตะจะต้องดีใจมาก ๆ แน่...ด้วยความที่เป็นฝาแฝดที่ใจสื่อถึงกันได้เป็นอย่างดี เขาจึงรู้ว่า ของชิ้นนี้ จะถูกใจโคโตะอย่างแน่นอน

ทว่าจู่ ๆ หัวใจเขาก็เจ็บแปลบ มาโอะเกาะผนังร้านพยุงตัวที่เซไปอย่างงุนงง เพื่อนที่มาด้วยกันหันไปถามอาการทันที

ร่างสูงส่ายศีรษะเมื่อตั้งหลักได้ ใจหายวาบกับสิ่งที่รู้สึก

...โคโตะ...!

คลื่นความคิดที่ปวดร้าวและทรมานแล่นวูบเข้ามาจนเขาแทบยืนทรงตัวไม่อยู่ แต่เพียงวูบเดียวก็จางหายไป

ร่างสูงตะลึงงัน สัมผัสที่รับได้ทำให้เขามั่นใจ ด้วยความที่เป็นฝาแฝดกัน จะอย่างไร ก็มีความรู้สึกเชื่อมโยงถึงกันได้ในบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่าย กำลังตกอยู่ในอันตราย

ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับโคโตะแน่ ๆ!

พนักงานขายยื่นกล่องใส่สร้อยที่ใส่ถุงเรียบร้อยให้กับร่างสูง มาโอะคว้ามันมาก่อนผลุนผลันเดินออกไป

"อ้าว เฮ้ย มาโอะ ไปไหนน่ะ"

"กลับบ้าน!" เขาตอบแล้วจ้ำอ้าว เล่นเอาเพื่อนที่เหลือวิ่งตามไปแทบไม่ทันอย่างประหลาดใจ


........................................


นานแค่ไหนแล้วเขาไม่อาจรับรู้ ดวงตาคู่งามเริ่มอ่อนล้าและไร้วิญญาณ การกระทำชั่วช้าจากฆาตกรทั้งสองทำให้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเขาไม่อาจต่อต้านใด ๆ ได้ ร่างบอบบางที่ไร้เรี่ยวแรงเลิกดิ้นรน ปล่อยให้การทำร้ายนั้นดำเนินต่อไป พวกมันยังคงสลับกันข่มขืนเขา โดยไม่ได้ใส่ใจต่อสภาพร่างกายที่บอบช้ำเลยแม้แต่น้อย

น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสาย แต่ไม่อาจทำอันใดได้นอกจากยอมรับชะตากรรม

เป็นชะตากรรมที่พวกสัตว์นรกเหล่านี้มอบให้อย่างเลือดเย็น!

ชายร่างใหญ่เกร็งแน่นปลดปล่อยคราบกามไว้ทั่ว คนบนโต๊ะไม่หลงเหลือสติแล้วในตอนนี้ มีเพียงการมองอย่างเลื่อนลอยแม้จะยังไม่ได้หมดสติลง

"มาโอะ รอด้วยสิ พวกเราก็มีของขวัญให้โคโตะจังเหมือนกันนะ" บรรดาเพื่อนผู้เป็นโคโตะแฟนคลับวิ่งตามมา เสียงดังที่หน้าบ้านทำให้คนด้านในหยุดชะงัก

"เฮ้ย มีคนมา รีบ ๆ ฆ่าไอ้เด็กนี่ปิดปากเร็ว" เพื่อนผอมสูงอีกคนสั่ง คนกำลังกลัดมันกำลังถึงจุดอีกครั้งได้แต่สบถอย่างรำคาญ มือแกร่งคว้าลำคอขาวที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะปัดป้อง แล้วออกแรงบีบเต็มแรง

มาโอะก้าวเข้ามาในบ้านแล้วยืนตะลึงอย่างตกใจ บ้านที่เละเทะไปหมด ใจหายวาบเมื่อนึกถึงความรู้สึกเมื่อครู่...ต้องมาจากโคโตะแน่ ๆ

โคโตะกำลังอยู่ในอันตราย!

"โคโตะ...นายอยู่ไหนน่ะ" เสียงเรียกร้อนรนจากทางหน้าบ้านอันคุ้นเคยทำให้คนใกล้หมดสติมีรอยยิ้ม...มาโอะของเขา...มาแล้ว...

มือแกร่งที่ยังคงบีบอยู่รอบคอ ลมหายใจอึดอัดกำลังจะขาดห้วง เมื่อหลายคนเดินเข้ามา

เสียงพูดคุยและร่างในมือที่ตอนนี้แน่นิ่งไปแล้ว ทำให้ชายผู้นั้นปล่อยโคโตะลงกับโต๊ะ แล้วสบตากับเพื่อนผู้ร่วมก่อการ

"ไปเถอะ คนชักเยอะเดี๋ยวเสียเรื่อง" ว่าแล้วก็รีบพากันจากไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็วพร้อมกับฟิล์มที่หามาได้ ในตอนที่มาโอะเข้ามาพอดี

โคโตะที่นอนนิ่งบนโต๊ะในสภาพที่โดนทารุณจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ร่างขาวโพลนที่ฟกช้ำทั่วทั้งตัว ร่องรอยการทรมานมีอยู่ทั่วไป คราบเลือดคราบน้ำกามเลอะเทอะไปหมด ทำให้มาโอะใจหายวูบ เขารีบตรงไปสำรวจสภาพน้องชาย แล้วก็ได้พบว่า...ร่างบอบบางนั้น...ยังไม่หายใจแล้วด้วย

ตัวยังอุ่น มาโอะที่มีสติและการตัดสินใจที่เฉียบขาดเสมอมา รีบตรงเข้ามาก่อนทำการปั๊มหัวใจทันที โดยไม่ได้ใส่ใจริมฝีปากที่เลอะคราบรสฝาดเฝื่อน มือแกร่งดันคางสวยเงยขึ้น ประกบปากเป่าลมช่วยสลับกับกดเป็นจังหวะที่ส่วนอกช่วยชีวิต

ในเวลาไม่นาน ร่างบอบบางก็สะท้านเฮือก ก่อนจะค่อย ๆ กลับมาหายใจเองได้ นับว่าการตัดสินใจช่วยเหลือของเขาทำได้อย่างทันท่วงที ดวงตากลมโตที่ลืมขึ้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ภาพที่เห็นเบื้องหน้าแม้พร่าเลือน ก็ยังจดจำได้แน่ชัด ว่าเป็นพี่ชาย

มาโอะของเขา...มาช่วยแล้ว...

ราวทำนบแตกทลาย ความเจ็บปวดทรมานที่สู้อดทนอดกลั้นมา ไม่อาจทนได้ต่อไปอีกแล้ว ทั้งความเสียใจ ความเจ็บปวด...ความโกรธแค้น...พ่อกับแม่...พวกสัตว์นรกนั่น...ทุกสิ่งทุกอย่างประดังเข้ามา จนยากจะควบคุมมันไว้ได้

ร่างเล็กโผเข้าหาพี่ชายแล้วกอดแนบแน่น มาโอะสัมผัสได้ถึงร่างกายที่ยังคงสั่นเทาและเจ็บปวดอย่างน่าสงสารของอีกฝ่าย ร่างเล็ก ๆ ที่ซุกแน่นหาที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อใจเสมอมา

มาโอะกอดโคโตะไว้ นึกโกรธแค้นทุกคน...แม้กระทั่ง..ตัวเอง

เขาผิดเอง ที่ทิ้งโคโตะไป ในยามที่โคโตะกำลังต้องการเขาเป็นที่สุด!

ร่างสูงได้แต่ควบคุมสติตัวเองไว้ มือของเด็กชายได้แต่กำแน่น แม้จะเสียใจและปวดร้าวไม่ต่างกัน แต่เขาจะแสดงออกไปไม่ได้

ในยามนี้ต้องหนักแน่น... ในยามนี้... ที่โคโตะ ต้องการที่พึ่งจากเขามากกว่าใคร

แม้ว่าศพของพ่อและแม่ยังคงอยู่ใกล้ ๆ เขาก็จะร้องไห้ไม่ได้ แม้ว่าสภาพบ้านจะแทบพังทลาย แม้ว่าคนพวกนั้น จะทำอะไรลงไปบ้าง เขาก็จะต้องเข้มแข็ง

ไม่ว่าจะฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย เขาก็จะต้องยืนหยัดและค้ำมันไว้เอง

ถึงเขาจะไม่เหลือใคร เขาก็ยังเหลือโคโตะ

โคโตะที่ยังคงต้องการเขา

ต้องการการปลอบโยน ต้องการความมั่งคงและกำลังใจ

มือใหญ่ลูบผมนุ่มของอีกฝ่ายเบา ๆ ปล่อยให้ความเงียบและเสียงเต้นของหัวใจของกันและกัน ช่วยปลอบโยนและเยียวยาหัวใจที่แตกสลายนั้นอย่างช้า ๆ

โคโตะไม่ได้ร้องไห้อีก มือที่กอดไว้อ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ ก่อนจะหมดสติไปอีกรอบ

มาโอะยังประคองร่างน้องชายไว้แนบอก ดวงตาคมกล้ามีประกายอย่างโกรธแค้น

ทุกคนที่ทำให้พ่อกับแม่ของเขาต้องตาย

ทุกคนที่ทำร้ายโคโตะ

เขาจะไม่มีวันปล่อยให้พวกมันลอยนวล แม้ในตอนนี้เขาจะยังทำอะไรไม่ได้ แต่เขาจะต้องทำให้ได้ในที่สุด

เด็กชายสาบานต่อหน้าร่างที่หมดสติไปแล้วของน้องชาย...ต่อร่างอันไร้วิญญาณของพ่อและแม่

พวกมันเท่านั้นที่เขาจะไม่ให้อภัย

คนที่ทำกับครอบครัวของเขาขนาดนี้...มีแต่โทษตายสถานเดียว!


.........................................


ร่างบอบบางมองหน้าต่างจากเตียงคนไข้อย่างเลื่อนลอย เด็กน้อยมีแผลใจอย่างใหญ่หลวงจนแทบจะพูดไม่ได้ ยามอยู่ลำพังก็มีเพียงอาการเหม่อและหวาดระแวง ยิ่งยามมีใครเข้าใกล้ เขาจะรีบหลบซุกให้ไกลสุดเท่าที่จะทำได้

โคโตะกลัวการสัมผัสจากคนแปลกหน้า กลัวการพูดคุย กลัวทุกสิ่งทุกอย่าง

ยกเว้นมาโอะ

ในอาณาเขตบนเตียงนุ่มนั้น มีเพียงมาโอะ ที่เข้าไปได้

ร่างสูงของผู้เป็นพี่ถอนใจยาว เขารู้ดีว่าโคโตะต้องการเวลา บาดแผลภายนอกรักษาได้ หากบาดแผลภายในใจ กลับรักษาได้ยากเย็นนัก

โคโตะไม่ไว้ใจใครเลยนอกจากมาโอะ

พวกเขา...เหลือกันแค่สองคนแล้ว...ในโลกนี้


.........................................


หลังได้ออกจากโรงพยาบาล สภาพจิตใจของโคโตะค่อย ๆ ดีขึ้น จนดูเหมือนทุกอย่างเป็นปกติแล้ว พวกเขาที่ไร้ญาติขาดมิตร ได้ไปอาศัยอยู่กับคนรู้จักของพ่อชั่วคราว

หากมาโอะกลับพบว่านิสัยของโคโตะได้เปลี่ยนไป โคโตะยังคงเป็นเด็กขี้อ้อนเหมือนแต่ก่อน แต่กลับเริ่มหลีกเลี่ยงการแตะเนื้อต้องตัวหรือเข้าใกล้เขาอย่างจงใจ และการแสดงออกนั้น...นับวัน จะยิ่งมากขึ้นทุกที

ทั้ง ๆ ที่สมัยก่อน พวกเขามักจะกอดกันเสมอ ในยามที่อีกฝ่ายทุกข์ใจ หรือไม่สบายใจ แต่ในตอนนี้...ไม่มีอีกแล้ว
 
และในบางคืน...โคโตะก็ไม่กลับบ้าน

มาโอะที่ตามไป กลับพบโคโตะ...อยู่บนเตียงกับชายแปลกหน้า!

เขาเกือบจะฆ่าคนผู้นั้นแล้ว หากไม่มีร่างบอบบางของผู้เป็นน้องชายกางกั้นไว้

"ทำไม...นายถึงทำแบบนี้!" มาโอะตวาดใส่ เลือดขึ้นหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ภาพที่เขาเห็น ราวกับภาพที่เห็นในวันนั้น...วันที่โคโตะ...ถูกข่มขืน

"นายรังเกียจเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอโคโตะ ทำไมนาย..." เขายังคงถามซ้ำอย่างไม่เข้าใจ

"อย่าฆ่าเขานะมาโอะ" เสียงร้องห้ามอย่างแน่วแน่ "ถ้านายโกรธนัก ก็ฆ่าชั้นสิ...ใช่...ชั้นต้องการเขา...ไม่ใช่แค่เขานะ...จะเป็นใครก็ได้ ขอแค่เป็นผู้ชายก็พอ!"

ร่างสูงชะงัก ความโกรธเริ่มบังตากว่าเดิม "ถ้าแบบนั้นเป็นฉันคงได้สินะ!" มาโอะคำราม เขากดร่างบอบบางนั้นลงบนเตียงอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นหนีหายไปจากห้องแล้ว มีเพียงความรุนแรงที่อยู่ในใจ ที่โหมกระหน่ำทำร้ายคนบนเตียง โดยไม่อาจควบคุมได้

โคโตะมองคนเบื้องหน้าที่ยังคงโกรธเกรี้ยว โดยไม่ได้ต่อต้านอันใด ร่างบอบบางนั้น ปล่อยให้อีกฝ่ายได้กระทำจนสาสมแก่ใจ ปล่อยให้ระบาย ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่อัดอั้นในใจ โดยไม่มีการปัดป้อง

มีเพียงน้ำตา...จากดวงตาคู่นั้น ที่ไหลอย่างเงียบ ๆ กับร่างกายที่สั่นเทา ความทรงจำที่เลวร้าย กำลังย้อนกลับมา และโคโตะ กำลังต่อสู้กับมันอย่างสุดฤทธิ์

น้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มอย่างไร้เสียง ทำให้ร่างสูงชะงักงันกับภาพที่เห็น และเริ่มตั้งสติได้ เขาตกใจนักกับการกระทำของตัวเอง

ร่างบอบบางที่สั่นไม่หยุด ไม่ต่างจากครั้งนั้น...

เขาทำลงไปได้อย่างไร รู้ทั้งรู้ ว่าโคโตะมีปัญหาทางใจเรื่องนี้...เขายังกลับสร้างบาดแผลให้ลึกขึ้นไปอีก

แล้วแบบนี้ จะมีหน้ามาพูดว่าจะปกป้องได้เหรอ

น้องชายที่รักเพียงคนเดียวของเขา

มาโอะนั่งนิ่งที่ข้างเตียงหันหลังให้คนบนเตียงที่ยังนอนอยู่อย่างปวดร้าว...ปกป้องไว้ไม่ได้อีกแล้ว

เป็นเขาเอง ที่ทำลายโคโตะ

หากมือที่อุ่นจนร้อนกลับกอดรอบเอวหนาที่ยังนั่งอยู่อย่างตั้งใจ คล้ายต้องการปลอบประโลมเขา มาโอะชะงัก ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนทำรุนแรงไปขนาดนั้น โคโตะก็ยัง...ยอมให้อภัยเขาอีกงั้นหรือ

"ขอโทษนะ...ฉัน...ฉันผิดเอง" ร่างสูงพึมพำอย่างรู้สึกผิด

ใบหน้าสวยแอบอิงที่แผ่นหลังกว้างอย่างเสียใจ นับตั้งแต่รู้สึกได้ ถึงความปวดร้าวของมาโอะ ที่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นลงไป

โคโตะไม่ต้องการให้มาโอะรู้สึกผิดขนาดนี้...เพราะทุกอย่าง...มันเป็นฝีมือของเขาต่างหาก

คงถึงเวลาแล้ว ที่จำเป็นจะต้องพูดเสียที แม้รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะโดนเกลียด

"นายไม่ผิดหรอก...ทั้งหมดนี่ มันเป็นแผนของชั้นเอง" โคโตะพึมพำ อ้อมแขนบอบบางกอดแน่นกว่าเดิม คล้ายหวาดกลัว ว่าคำสารภาพต่อไป จะทำให้คนฟังลุกหนีจากไปได้

คนฟังได้แต่อึ้งไปแล้ว "นายหมายความว่ายังไง โคโตะ?"

"ชั้นตั้งใจ...ทำให้นายโกรธ เพื่อให้นาย...ทำแบบนั้นกับชั้น"

มาโอะมองมาอย่างตกใจ "ทำไมนายถึงต้องทำแบบนั้นด้วย"

"ชั้น...กลัวการถูกสัมผัส...โดยเฉพาะกับผู้ชาย...ชั้นกลัว...กลัวมาก ๆ...แต่ว่า ในความกลัวนั้น...ชั้นกลับต้องการ...ต้องการให้ใครสักคน ทำเรื่องแบบนั้น..."

น้ำตาไหลอาบแก้ม เมื่อร่างบอบบางเหยียดยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มสมเพช ที่เขายิ้มให้กับตัวเอง

"มันบ้าใช่มั้ย ทั้ง ๆ ที่ชั้นเกลียดมัน แต่ร่างกายชั้น...กลับต้องการมากขึ้นทุกที น่ารังเกียจนัก..ร่างกายบ้า ๆ นี่...ยังไงชั้นก็ต้อง...ต้องหายให้ได้ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาระกับนาย"

ร่างบอบบางที่สั่นน้อย ๆ เงยหน้าสบตาเขา "แต่ชั้นก็ทำไม่ได้...ชั้นลองมาหลายครั้งแล้ว กับผู้ชายคนเมื่อกี้ก็เหมือนกัน แต่ชั้น...ไม่สามารถทนการสัมผัสจากเขาได้เลย มัน...น่ากลัวมาก"

"แต่ว่า...ถ้าเป็นนายล่ะก็...ถ้าเป็นนาย ที่ชั้นไว้ใจที่สุด ถ้าเป็นนาย...ที่ชั้น...รักมากที่สุด มันอาจจะต่างออกไป พอคิดแบบนั้นแล้ว...ก็ไม่สามารถหยุดความคิดนั้นได้ ชั้น...เริ่มรู้สึกอยากให้นายสัมผัส อยากให้นาย..." ใบหน้าคนพูดเริ่มแดงเรื่อราวสารภาพรัก แม้สีหน้าจะยังเศร้าหมอง

"ในที่สุดชั้นก็ได้รู้ใจตัวเอง ว่าแท้ที่จริงแล้ว ชั้นอยากให้นาย...กอดชั้นแบบนี้ มาตลอด"

"ชั้นเลยวางแผนให้นายมาเห็น...วางแผน ให้นายโมโหจนเลือดขึ้นหน้า วางแผน...ให้นาย...ทำเรื่องแบบนั้นโดยขาดสติ...ขอโทษนะ...ชั้นมันเลวเองที่บีบบังคับให้นายต้องทำแบบนั้น ถึงแม้ว่า...นายจะเป็นคนเพียงคนเดียว ที่ชั้นจะอยากให้กอด..."

"ขอครั้งนี้...เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็ได้ ชั้นขอโทษ ที่ทำเรื่องแบบนั้นลงไป ชั้น...จะไปจากนายเอง ถ้าเรายังอยู่ด้วยกันแบบนี้ สักวัน ชั้นก็คงจะต้องการนายอีก...ทั้ง ๆ ที่..เราเป็นพี่น้องกัน..." ดวงตาคู่งามที่มีน้ำตาไหลไม่หยุดยังคงมองมายังมาโอะ ก่อนตัดสินใจพูดขึ้นว่า

"ชั้นไม่สามารถมองนายให้เป็นพี่ชายได้อีกต่อไปแล้ว บางทีมันอาจจะดีกว่าก็ได้ ถ้าเรา...แยกกันเสียตั้งแต่ตอนนี้"

คำพูดประโยคสุดท้าย น้ำเสียงนั้นสั่นอย่างเห็นได้ชัด โคโตะกำลังกลัว...แต่ก็ยังตัดสินใจ ที่จะพูดและเผชิญหน้ากับความจริง

มันทำให้เขาพึ่งได้รับรู้...ว่าโคโตะ ต้องการเขามากแค่ไหน

แม้ว่าจะเป็นพี่น้องกันก็ตาม

ไม่ว่าจะเพราะแผลใจในอดีต หรือจะเพราะความต้องการในปัจจุบัน

แต่สิ่งเดียวที่เห็นได้ชัดก็คือ โคโตะ...ต้องการเขา

ร่างสูงจ้องมองคนบนเตียงที่ยังคงร่ำไห้ มือของเขาลูบผมนุ่มเบา ๆ ไม่ต่างจากทุกครั้ง

"ถ้านายต้องการ ก็บอกฉันสิ...ถ้าร่างกายนี้ของฉัน ทำให้นายรู้สึกดีได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันก็จะทำ"

"แต่ว่า..."

"เราเป็นพี่น้องกัน แล้วไงล่ะ...ฉันไม่สนใจหรอก ถ้ามันทำให้นายยิ้ม แทนร้องไห้แบบนี้"

มืออ่อนโยนเช็ดคราบน้ำตาออก ก่อนโอบกอดร่างเปลือยเปล่านั้นไว้ "บอกฉัน ถ้านายต้องการ ไม่จำเป็นต้องวางแผนอะไรทั้งนั้น...สำหรับเราสองคนไม่มีอะไรที่ไม่ได้...ไม่ว่าอะไร ฉันก็จะทำให้...เพื่อนาย"

ใบหน้าบอบบางอมยิ้มทั้งน้ำตา มือนั้นโอบกอดกระชับแน่น "ถ้าอย่างนั้น...ทำต่อได้ไหม ชั้นอยากให้นาย...รุนแรงกับชั้น...แทนพวกสัตว์นรกในความจำที่เลวร้ายนั่น ได้ไหม มาโอะ"

ร่างบอบบางยังคงสั่นน้อย ๆ เห็นได้ชัดว่ายังคงหวาดกลัว แต่ความตั้งใจนั้นกลับแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง

มาโอะมองมาอย่างรู้ดี เขารู้ แม้โคโตะจะอ่อนแอและบอบบาง แต่หากได้ตัดสินใจต่อสิ่งใดไปแล้ว ยากนักที่จะทำให้เปลี่ยนความตั้งใจได้

ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดสักแค่ไหน

ไม่ว่าจะต้องทุกข์ทรมานสักเพียงใด

โคโตะก็จะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด

มันเป็นความแน่วแน่ที่เขาชื่นชมตลอดมา แต่ว่า...ทำแบบนี้ มีแต่ทรมานมากกว่าเดิมไม่ใช่หรือ

มาโอะรู้ดี ว่าโคโตะ...กำลังต้องการลบภาพที่โหดร้ายพวกนั้นออกไป...

แต่การทำเช่นนี้ มันออกจะหักดิบเกินไปแล้ว

"นายแน่ใจเหรอ ว่าจะไหวน่ะ"

"ชั้นเคยลองพยายามแล้ว กับคนอื่น...แต่มันไม่ได้...ไม่มีใครลบแผลใจนี้ได้...ต้องเป็นนาย...เท่านั้น" ร่างบอบบางเงยหน้าขึ้นสบตาเขา "ช่วยชั้นนะ มาโอะ...ถ้าเป็นนายล่ะก็...ชั้นจะไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแน่ ๆ"

เสียงแผ่วเบาในวันนั้น เขาจำไม่มีลืม โคโตะมักต้องการให้เขาทำรุนแรงด้วยเสมอ เพื่อลบล้างภาพในวันนั้นให้จางหาย เพื่อรักษาแผลใจที่เกิดขึ้น

แม้ว่าจะไม่อยากทำแบบนั้น แต่ถ้ามันทำให้โคโตะ...สบายใจขึ้น เขาก็คงต้องทำ แต่ก็จะพยายามให้โคโตะบอบช้ำน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้

ถ้าโคโตะต้องการความช่วยเหลือ ต้องเป็นเขาเท่านั้น ที่จะช่วยเหลือได้

ใช่...เขาต้องทำให้ได้ เพราะโคโตะเป็นของเขา...ของเขาแต่เพียงผู้เดียว


.........................................


หากเรื่องยุ่ง ๆ กลับยังคงไม่หยุดเพียงแค่นั้น โคโตะเป็นคนเดียว ที่เห็นหน้าคนร้าย เป็นคนเดียว ที่จะสืบสาวหาต้นตอคนบงการได้ และนั่นทำให้โคโตะตกเป็นเป้าหมาย ที่จะถูกฆ่าปิดปากไปโดยปริยาย

นักฆ่าถูกส่งมาเรื่อย ๆ และเป็นมาโอะ ที่พยายามปกป้องและช่วยเหลือสุดกำลัง

น้องชายเพียงคนเดียว ที่เขาปกป้องไว้ไม่ได้ในครั้งนั้น ในตอนนี้...เขาจะต้องทำให้ได้

เด็กน้อยในกาลก่อน กลับเติบโตขึ้นรวดเร็วนัก ทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้เพื่อปกป้องคนสำคัญ มาโอะตัดสินใจก้าวเข้าสู่เส้นทางสายมืด ทั้งนี้เพื่อเรียนรู้ และหาวิธีการปกป้องโคโตะ

เพื่อการนี้ เขาจะต้องมีอำนาจ ต้องยิ่งใหญ่กว่าใคร

จะได้ไม่มีใคร...รังแกโคโตะได้อีก

เพียงอายุ 18 ปี เขาก็สามารถตั้งแก๊งมืดในเมืองได้แล้ว และจัดการสืบเสาะหาคนที่ข่มเหงโคโตะ รวมถึงสำเร็จโทษได้จนสำเร็จ

แต่นั่นยังไม่พอ...คนบงการ ที่ทำลายครอบครัวเขา มันมีอำนาจมากกว่านั้น

เด็กหนุ่มพยายามต่อไปอย่างมีเป้าหมาย เขาจะต้องมีอำนาจมากกว่านี้ เพื่อที่จะได้จัดการเจ้านั่น

จากการช่วยเหลือของคนรู้จักหลายคนในวงการมืด เขาได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเหล่าบรรดาผู้ถูกเอาเปรียบและโดนรังแก ช่วยฝึกปรือฝีมือ และเทคนิคการฆ่า

และในช่วงนั้นเอง...เขาและโคโตะ ก็ได้ร่วมกันจัดตั้งองค์กรลับ ๆ ขึ้นมา

...เพื่อสร้างนักฆ่าที่ร้ายกาจ ไปสังหารคนที่ทำร้ายครอบครัวเขาให้หมดสิ้น!


................................................


ชื่อในวงการของเขาคือมาโอ ชายหนุ่มผู้แสนเด็ดขาดและแข็งแกร่ง

มาโอ ชื่อที่ใครพูดถึงก็ยังกลัวเกรง

สุดท้ายแล้วเขาก็ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้า และดำเนินงานการจัดสร้างนักฆ่า...พวกเขาปรึกษากันแล้ว ทั้งเขาและโคโตะ เห็นพ้องต้องกัน

เป้าหมายก็คือ ฆ่าเพื่อช่วยเหลือ

ยังมีคนอีกมาก ที่ถูกรังแกจากพวกมีอิทธิพล และไม่อาจจะดิ้นรนต่อสู้กับพวกมันได้ ด้วยเรี่ยวแรงและพลังอำนาจที่มี น้อยนิดนักเมื่อเปรียบเทียบกับคนเหล่านั้น

และในตอนนี้ พวกเขาเองพร้อมแล้วที่จะช่วยคนเหล่านี้!

โคโตะที่เคยอ่อนแอในอดีต กลับเข้มแข็งขึ้น เด็กหนุ่มในยามนี้ ต้องการทำเพียงอย่างเดียว คือช่วยเหลือพี่ชาย ที่เหนื่อยยากมามากเพื่อตนเอง เขาพยายามกล้ำกลืนฝืนทนลืมอดีตที่เจ็บช้ำ และพยายามที่จะต่อสู้ต่อไป เพื่อไม่ให้มีใครต้องเจ็บแบบเขาอีก

ดังนั้นในการบริหารงาน โคโตะจึงเสนอตัวเป็นเสนาธิการ ช่วยวางแผนงานให้กับองค์กร รวมถึงการวางแผนการเพื่อกำจัดผู้ต่อต้านลงอีกด้วย

มาโอะรู้ดีว่าโคโตะต้องการจะช่วย แม้เขาจะไม่ได้อยากให้โคโตะทำอะไรเกินแรง แต่การได้ทำอะไรบ้าง ย่อมทำให้จิตใจที่เปราะบางในครั้งก่อน กลับเข้มแข็งขึ้นได้ เขาจึงใช้อำนาจที่มี ปกปิดการคงอยู่ของน้องชาย และให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในเงามืดเท่านั้น

แทบจะไม่มีใครรู้ถึงการคงอยู่ของโคโตะในองค์กรนี้ และแน่นอน...เขายิ่งไม่เคย...ให้โคโตะออกไปทำงานฆ่าคน

แม้โคโตะจะรู้ถึงตัวงานที่เขากำลังทำ แต่เขา..ก็ไม่เคยให้โคโตะ ได้เห็นการฝึก หรือการฆ่าของจริงเลย

ของพวกนั้นเขาจัดการได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้โคโตะผู้แสนบอบบาง ทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องมารับรู้ขอเพียงโคโตะอยู่อย่างปลอดภัย มือของเขาจะต้องเปื้อนเลือดมากสักแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว

จนคนผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นมา คนที่ยากจะจัดการ และเขา...ที่ตัดสินใจผิด จนต้องส่งโคโตะไปพบกับความทรมานอีกครั้ง...


..................................


ร่างสูงในชุดสีดำสนิทรัดกุมแฝงกายเข้ามาในบ้านเช่าหลังหนึ่งอย่างเงียบเชียบ บ้านแห่งนี้ จากการสืบหาอย่างยากเย็น ท้ายที่สุดเขาก็ค้นพบ มันเป็นบ้านพัก...ในช่วงนี้ของ ยามาโนะ เรอิจิ นั่นเอง

ยามาโนะ เรอิจิ คนที่ทำให้โคโตะของเขาเปลี่ยนไป

เขาต้องการจะรู้ ว่าคนผู้นี้ทำอะไรกับโคโตะ ถ้าไม่รู้ถึงสาเหตุ เขาก็คงไม่อาจจะช่วยเหลือได้ เพื่อการนี้ เขาจึงตัดสินใจบุกเข้ามาเพียงลำพัง หลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่า เรอิจิอยู่คนเดียว ไม่มีบอดี้การ์ด หรือใครทั้งนั้นอยู่ด้วย

บ้านที่อยู่ห่างไกลจากย่านชุมชน ดูราวกับว่าวางแผนเพื่อล่อให้เขาเข้าไปติดกับ

แต่เขาไม่ใส่ใจ

ชายหนุ่มมั่นใจในความสามารถของตัวเองเสมอมา และที่สำคัญ เขาไม่มีเวลาอีกแล้ว

โคโตะกำลังเปลี่ยนไป และกำลังตัดสินใจ ทำเรื่องน่ากลัวบางอย่าง ฝาแฝดอย่างเขาย่อมรู้ได้เป็นอย่างดี

ถ้ารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว เขาจะฆ่ามันซะ

คนที่ทำให้โคโตะของเขาต้องเจ็บช้ำ

ไม่มีใครได้ตายดี!


......................................

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกกดดันมากเลยค่ะ
มาโอ โคโตะ  :sad4:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ ratrirattikan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อดีต... อดีตที่เป็นรากของปัจจุบันมีอะไรลึกๆกว่าที่คิดนะคะเนี่ย มาโอะ...คิดๆไปก็น่าสงสารแฮะ เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
สงสารโคโตะ :m15:

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
ประตูที่ล็อคไว้อย่างธรรมดามาก ถูกเปิดออกด้วยกุญแจผีง่ายดาย ง่ายเกินไปด้วยซ้ำ เรอิจิคนนั้น ไม่น่าจะเลินเล่อขนาดนี้ได้ คงจะต้องมีแผนอะไรอยู่แน่ ชายหนุ่มเคลื่อนไหวในเงามืดอย่างระมัดระวังขึ้นไปชั้นสอง ไม่มีกับดักใด ๆ รออยู่ ห้องนอนของเรอิจิอยู่ที่ปีกหลังของตัวบ้าน ตำแหน่งนั้นเขาตรวจสอบมาอย่างดีเช่นกัน

มือแกร่งถือปืนเก็บเสียงด้วยท่าทีระวังภัย เขาค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปทีละขั้น และเปิดประตูห้องนอนเข้าไปในทันที

ทันใดนั้น ห้องนอนที่มืดสนิทก็สว่างขึ้นด้วยแสงไฟ

ดวงตาที่พร่าเล็กน้อยจากความสว่างที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับ ทำให้เคลื่อนไหวได้ช้าลง แต่เจ้าของห้อง กลับไม่ฉกฉวยโอกาสนี้ เพื่อจับกุมเขา

ไม่แม้แต่จะจัดการ กับอาวุธในมือที่ถืออยู่

คนเบื้องหน้าเหมือนกับที่เห็นในกาลก่อน ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะส่งโคโตะไปสืบเรื่องนั้น จนกระทั่งโคโตะกลับมา ท่าทางสบาย ๆ เป็นกันเอง และใบหน้าที่มีรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติและไม่ได้วิตกกังวลต่อสิ่งใดเลย

แม้ว่าเขากำลังจ่อปืนเข้าหาเช่นนี้

สีหน้าของมาโอเคร่งเครียดกว่าเดิม คนประเภทนี้ ยากจะจัดการจริง ๆ

"ยังไม่ยิงฉันสินะ ถ้างั้นก็นั่งก่อนสิ" เรอิจิพูดขึ้นง่าย ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียง มือของเขาผายไปยังเก้าอี้ด้านข้างราวเชิญแขกให้นั่งลงอย่างเป็นกันเอง

ร่างสูงยังคงยืนอยู่ที่เดิม ปล่อยคำพูดของอีกฝ่ายให้ผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือแกร่งยังคงถือปืน และเล็งมาที่หัวใจของเจ้าของห้องอย่างแม่นยำ เรอิจิที่นั่งลงแล้วหัวเราะเบา ๆ

"มีอะไรน่าขำรึ" มาโอพูดขึ้นอย่างขัดใจเล็กน้อย ที่อีกฝ่ายดูไม่เกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย ...มาโอ ที่ฆ่าคนมามากมาย มาโอ ที่เป็นถึงหัวหน้าขององค์กรนักฆ่า เขาคนนี้ แม้จะมีใครพูดถึง ก็ยังต้องพูดอย่างระมัดระวังด้วยซ้ำ

แต่กับคน ๆ นี้ ทั้ง ๆ ที่เผชิญหน้ากับเขา ที่มีอาวุธตรง ๆ กลับหัวเราะขึ้นเสียได้

"จะไม่ให้ขำได้ยังไง ก็เธอน่ะ...ช่างเหมือนโคโตะจริง ๆ"

ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาเหมือนโคโตะมาก่อน แม้ใบหน้าจะละม้ายคล้ายคลึงบางส่วนด้วยความเป็นพี่น้อง แต่รูปร่างหน้าตา ทุกสิ่งทุกอย่างของเขา แทบจะตรงข้ามกับโคโตะด้วยซ้ำ

"ฉันเหมือนโคโตะตรงไหน"

ใบหน้าเรอิจิมีรอยยิ้มจาง ๆ "ตรงที่ทำได้ทุกอย่าง เพื่อพี่น้องของตัวเองล่ะมั้ง" เขาพูดลอย ๆ

คำพูดนั้นเล่นเอามาโอสะดุดกึก "โคโตะ...กำลังทรยศต่อฉัน"

ดวงตาที่น่ากลัวจ้องมองมาราวจะกินเลือดกินเนื้อ

"และนั่น...มีสาเหตุมาจากนาย!"

ราวกับไม่ได้ยินคำพูดนั้น เรอิจิยังคงพูดต่อไป "รู้ไหม พอโคโตะรู้ว่า ฉันรู้ว่าเขาเป็นใคร เด็กคนนั้นทำยังไง" เขาหยุดเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "เด็กคนนั้น ฆ่าตัวตาย แทบจะในทันที...และนั่น ก็เพื่อเธอ"

มาโอไม่แปลกใจนัก เขารู้ดี ว่าโคโตะคิดยังไง ถ้าเปลี่ยนให้เขาเป็นโคโตะ แล้วมีคนจับได้ เขาก็คง...จะตัดสินใจทำเช่นนั้น เพื่อไม่ให้คนที่เหลือ ต้องลำบากเพราะเขาเอง

"แต่ถึงอย่างนั้น...โคโตะก็ยังทรยศฉัน" เขายังคงย้ำประโยคเดิม ด้วยดวงตาที่เป็นศัตรูอย่างชัดแจ้ง

"นายทำอะไรโคโตะ!"

เรอิจิส่ายหน้าเบา ๆ "ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจาก...ให้โคโตะ ได้รับรู้ความจริง"

"ความจริงอะไรกัน" เขาถามขึ้นทันควัน

"ความจริงที่ว่า มีเด็กสองคน...ที่ต้องทรมานจากการบังคับให้เป็นนักฆ่า เด็กชายตัวน้อยที่รักน้องสาว มากเสียจนยอมเป็นเหยื่อให้คนข่มขืนเสียเอง และเด็กหญิง...ที่ฆ่าทุกคน เพื่อปกป้องพี่ชายของเธอ"

"มีเรื่องแบบนี้ด้วย?" ร่างแกร่งที่มองมาถามขึ้นอย่างระแวดระวัง

"เธอไม่รู้? เป็นองค์กรของพวกเธอนะ ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้" เรอิจิถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

มาโอส่ายหน้าช้า ๆ พลางมองมาอย่างระมัดระวังกว่าเดิม "นายคิดจะเล่นตลกอะไรกันแน่"

"กับคนตรงไปตรงมา ฉันไม่เคยคิดจะลวดลาย" ชายหนุ่มตอบง่าย ๆ "และฉันใช้วิธีนี้ กับโคโตะเช่นกัน เธอเป็นพี่ชายของเขา ก็น่าจะรู้ โคโตะไม่ใช่คนโง่ ถ้าฉันหลอกลวง มีหรือเขาจะยอมรับฟัง"

ว่าพลางถอนหายใจยาว "แต่ฉันเอง ก็ผิดพลาดเสียแล้ว"

มาโอมองคู่สนทนาโดยไม่ตอบคำ อีกฝ่ายจึงพูดต่อไป "ฉันคิดว่า...เธอเป็นคนบงการเรื่องนี้ แต่ดูเหมือน...มันจะไม่ใช่"

"ถ้าเป็นแบบนี้...โคโตะต้องแย่แน่ ๆ"

คิ้วเข้มขมวดก่อนจะถามช้าชัด "เมื่อกี้นายบอกว่า เด็กผู้ชายคนนั้น...ยอมโดนข่มขืนงั้นเรอะ"

"ใช่" เรอิจิยอมรับ

"แล้วโคโตะ...นายทำให้โคโตะ ได้เห็นทั้งหมด?"

"อืม ใช่แล้ว"

ปืนในมือเล็งมาอีกครั้ง อย่างแน่วแน่กว่าเดิม "เป็นนายนั่นแหละ ที่ทำร้ายโคโตะ!"

ดวงตาสีเข้มของเรอิจิจ้องมองกลับมา ไม่ได้ขยับเขยื้อน ไม่ได้คิดป้องกัน และไม่ได้คิดหลบหนี เขาเจตนายืนเป็นเป้านิ่ง แม้จะแน่ใจว่า มาโอสามารถยิงได้แน่นอน

เรอิจิไม่ปฏิเสธใด ๆ เขาผิดจริง ๆ และยังคงเสียใจมาจนถึงตอนนี้

"ใช่ เป็นฉัน ที่ทำร้ายโคโตะ.." เขาพึมพำ ท่าทางที่ไม่มีการเสแสร้งทำให้คนเล็งปืนมาชะงัก

"ฉันไม่รู้...ว่าโคโตะ มีแผลใจเรื่องนี้ ในวันนั้น...เขาทรมานมากจริง ๆ มันผิดจากที่ฉันได้คิดเอาไว้"

ดวงตาคู่นั้นสบตามาโอตรง ๆ "ถ้านี่เป็นการชดเชยความผิดนั้น จะฆ่าฉันเสียก็ได้ ในตอนแรก ฉันแค่คิดจะให้โคโตะไปกล่อมเธอ ฉันรู้ดี ว่าพวกเธอ มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ถ้าคนพูด คือโคโตะ เธอคงจะรับฟัง ฉันหวังไว้แค่นั้น"

"แต่ว่า โคโตะ...กลับทำมากกว่าที่คิดไว้...เยอะมาก ๆ และฉัน หยุดเขาไม่ได้"

"ฉันรู้ ว่าฉันผิด ดังนั้น...ฉันจึงรอให้เธอมาหา รอมาตลอด ในหลายวันนี้"

"นายคิดจะทำอะไรกันแน่" มาโอถามกลับ เริ่มงงมากกว่าเดิม "ฉันตั้งใจจะมาฆ่านายนะ"

เรอิจิยิ้ม "เธอเหมือนโคโตะจริง ๆ เอาเถอะ พูดง่าย ๆ ก็แล้วกัน ถ้าเธอต้องการฆ่าฉัน ก็ฆ่าซะ ฉันยินดีชดใช้ในสิ่งที่ฉันทำ…กับทั้งเธอ แล้วก็โคโตะ ส่วนเรื่องของโคโตะ ฉันคงต้องฝากไว้กับเธอแล้ว"

"แต่ว่า ถ้าเธอยินดีที่จะฟังฉัน ฉันอยากจะขอความร่วมมือกับเธอ เพื่อช่วยโคโตะ"

"โคโตะเป็นของฉัน ฉันดูแลเองได้" เสียงห้วนสั้นตอบกลับ นึกไม่พอใจเท่าใดนัก กับคำพูดราวเป็นเจ้าของของอีกฝ่าย

เรอิจิยังคงยิ้ม "ฉันรู้ ว่าเธอดูแลได้ แต่ว่า...โคโตะในตอนนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากการวิเคราะห์สภาพจิตใจในช่วงนี้ ฉันบอกได้เลย ว่าอันตรายมาก ๆ"

"อ้อ อาจจะบอกช้าไปสักนิด แต่ฉัน...เป็นจิตแพทย์...อาชญจิตแพทย์ หรือพูดง่าย ๆ ว่า จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการบำบัดจิตของอาชญากร"

"โคโตะ..ไม่ใช่อาชญากร!" มาโอค้านทันที

"โคโตะ กำลังเป็นอาชญากร...เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอ โคโตะ กำลังบงการคน เพื่อให้ฆ่าคน แม้จะเข้าใจว่า มันเป็นการฆ่า เพื่อยุติทุกสิ่งทุกอย่างก็ตาม"

มาโอนิ่งไป ใช่...เขารู้ ว่าโคโตะกำลังทำเช่นนั้น

"ไม่ใช่แผนของนายหรอกเรอะ" ดวงตาคมมองกลับมาราวต้องการจะจับผิด เขารู้ เรอิจิพูดถูกทุกอย่าง แต่จะอย่างไร เรอิจิก็คือศัตรู

แถมเป็นศัตรู ที่กล่อมได้แม้กระทั่งโคโตะ ให้หันมีดเข้าหาเขา ซึ่งเป็นคนที่โคโตะเชื่อใจที่สุดในโลก!
คนผู้นี้มีความสามารถโน้มน้าวใจได้จริง ๆ

เขาจะไม่เชื่อ…ไม่มีวันยอมเชื่อคนผู้นี้ได้โดยง่าย

เพราะเขาไม่ใช่โคโตะ ที่มีแผลใจในเรื่องนี้

การเห็นภาพแบบนั้น มันตอกย้ำอดีตที่บอบช้ำในจิตใจ อดีตที่โคโตะพยายามกลบฝังมันไว้ ให้รื้อฟื้นขึ้นมาอีก

สิ่งนั้นแหละที่ทำให้โคโตะหลงเชื่อเรอิจิได้โดยง่าย

โคโตะ…อ่อนไหวจนเกินไป กับเรื่องประเภทนี้!

เขาจะแน่ใจได้ยังไง ว่าเรอิจิ ไม่ได้รู้จริง ๆ ว่าโคโตะ มีปัญหาทางจิตในเรื่องการถูกข่มขืน เขาจะเชื่อได้หรือ ว่าเรอิจิ ไม่ได้จงใจใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ เพื่อหลอกให้พวกเขา..ฆ่ากันเอง

เพื่อให้องค์กร ที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมาอย่างยากเย็น ต้องล้มลงไปอย่างง่ายดาย แล้วปล่อยคนผู้นี้ ยืนดูและหัวเราะเยาะอยู่เบื้องหลัง โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย!

คน ๆ นี้…อันตราย

เขาจะไม่เชื่อ…เรอิจิอย่างเด็ดขาด!

ดวงตาระแวดระวังมองมา มาโอรู้ดี ว่าจะประมาทไม่ได้เลย

ปืนในมือลดลง มาโอตัดสินใจเก็บมันไป ด้วยรู้ดีว่าการใช้อาวุธขึ้นขู่เรอิจิ ไม่ใช่วิธีการที่ได้ผล เรอิจิกำลังจะล้างสมองเขาเช่นกัน โดยใช้โคโตะที่เขารัก…เป็นเครื่องมือต่อรอง

เพราะเรอิจิรู้…ว่าคนอย่างเขา ยอมทำทุกอย่างได้ เพื่อโคโตะ

นั่นเป็นจุดอ่อนของเขาเช่นกัน!

การต่อรองจะไม่มีความหมายใด ๆ ถ้าคนที่เป็นเป้าหมาย ไม่ใช่โคโตะ และนั่น ทำให้เรอิจิมั่นใจ ว่าจะกล่อมเขาได้

แต่ไม่มีวัน!

“ฉันไม่เชื่อนาย” เขาพูดประโยคเดียวเท่านั้น หลังจากนิ่งไปนาน ร่างสูงของมาโอ ขยับหันหลังเปิดประตูออกไป

เรอิจิถอนหายใจพลางมองตามแผ่นหลังแกร่งไป  ชายหนุ่มพูดขึ้นต่อไปว่า “การที่เธอไม่ฆ่าฉัน แสดงให้เห็นแล้ว ว่าเธอยอมเชื่อฉัน แม้ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ขอให้รู้ไว้ ว่าฉัน ไม่เคยคิดร้ายกับโคโตะ และพร้อม…ที่จะช่วย ทั้งเธอ และโคโตะ ตลอดเวลา”

คนฟังไม่ตอบคำ

“ถ้าทุกอย่างมาถึงทางตัน แล้วเธอจัดการไม่ได้ ถ้าเธอไม่อยากจะเสียโคโตะไป…ติดต่อมาหาฉันนะ” คำพูดทิ้งท้ายบอกออกไป เรอิจิไม่ได้ให้นามบัตรหรือเบอร์ติดต่อ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่รับ แต่เขาก็รู้เช่นกัน ว่ามาโอ ย่อมมีหนทางจะเสาะหาของพวกนี้ได้แน่นอน

ร่างสูงชะงักเล็กน้อย แต่ยังคงไม่หันกลับมา แม้จะมีแววลังเลใจอยู่วูบหนึ่ง สุดท้ายมาโอ ก็จากไปในความมืด อย่างเงียบเชียบไร้ร่องรอยเหมือนกับขามา


.........................................


แผนการของโคโตะ อันตรายขึ้นทุกวัน

อันตรายทั้งต่อตัวเอง…และอันตรายต่อความมั่นคง ขององค์กรของเขาด้วย

โคโตะ…เป็นคนทรยศ อย่างชัดเจนแล้ว

หัวหน้าองค์กรอย่างเขา ยังควรจะปล่อยโคโตะไปอีกงั้นหรือ

ร่างสูงครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด เอกสารหลายอย่าง แจ้งมาอย่างชัดเจน จากทั้งสายสืบ และสายบังคับบัญชา

คนของเขา นักฆ่าที่ถูกฝึกใหม่ และนักฆ่าเก่าที่มีฝีมือ ต่างถูกเก็บ

บางคนหายตัวไปอย่างลึกลับ บางคน…ก็ถูกฆ่า

ถ้าเขายังคงรีรออยู่เช่นนี้ ทุกอย่าง…จะต้องพังทลาย เขาจะรักษาสิ่งใดไว้ไม่ได้เลย ทั้งองค์กร สถานภาพที่มั่นคง และโคโตะ

ร่างสูงถอนหายใจยาว ดวงตาอ่อนล้ามองไปเบื้องหน้า

ภาพเด็กน้อย…ที่บอบช้ำและเต็มไปด้วยน้ำตา…เขาไม่ต้องการเห็นมันอีกแล้ว

มาโอตั้งคำถามกับตัวเอง

องค์กรนี้ สำคัญกับเขามากแค่ไหน?

สถานภาพของเขา ที่ขึ้นมาถึงจุดสูงสุด ขององค์กรนี้ล่ะ สำคัญแค่ไหน?

โคโตะ…น้องชาย…คนรัก…อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตของเขาล่ะ?

เขาทิ้งสิ่งใดได้ และเขา…ทิ้งสิ่งใดไม่ได้

คำตอบชัดเจนอยู่แล้ว

เขาทิ้งทุกอย่างได้ ถ้านั่นคือการทำเพื่อโคโตะ!


....................................


หัวหน้าสาขาใหญ่ถูกฆ่าตายเสียแล้ว

เขารู้ ว่าโคโตะจะต้องมา หลังจากจัดการ…หัวหน้าสาขาผู้ก่อเหตุทั้งหมด ผู้นี้เป็นคนสุดท้าย เขาไม่ได้ใส่ใจกับชีวิตของคนผู้นี้ เพราะจากการตรวจสอบแล้ว คน ๆ นี้ ทำเกินหน้าที่ที่ได้รับ คนผู้นี้…สร้างโศกนาฏกรรม ให้กับนักฆ่าฝึกหัดอีกมากมาย และยัง…สร้างแผลใจ รวมถึงความเข้าใจผิด ให้กับโคโตะด้วย

ถึงโคโตะไม่จัดการ เขาก็คงจะจัดการเอง เรอิจิพูดไว้ไม่ผิดเลย องค์กรของเขา สร้างบาปมหันต์ สร้างแผลใจ ไว้กับคนอีกมากมายนัก แม้ว่าตัวเขาที่เป็นหัวหน้า จะไม่ได้รับรู้รายละเอียดเช่นนี้มาก่อน

แต่เขาไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดนั้น

ด้วยความเป็นหัวหน้า เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบใด ๆ

ถ้าความตายของเขา จะทำให้โคโตะ รู้สึกดีขึ้นได้ มันอาจจะดีกว่า

เขารู้ดีว่าการอธิบายเรื่องทั้งหมดให้โคโตะฟัง เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ เด็กคนนั้น ต้องคิดว่าเขาใส่ความคนตาย และเจตนาจะทำบาปต่อไปอีกแน่ ๆ

หัวหน้าสาขาหลักตายแล้ว…และเขา ก็จะเป็นรายต่อไป

เป็นรายสุดท้าย ที่เป็นเป้าหมายของโคโตะ

ถ้าชีวิตนี้ ทำให้โคโตะ เลิกฆ่าคนอีก ถ้าชีวิตนี้ ล้มล้างองค์กรและการทำบาปลงได้

เขาก็ไม่ลังเลเลย ที่จะยกมัน…ให้กับโคโตะ!


..............................................


แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องทบทวนใหม่ นั่นก็คือการปรากฏตัวของซากุ

เป็นซากุที่มา…ไม่ใช่โคโตะของเขา

มีอะไรผิดพลาด

เพียงแค่มองตา เขาก็รู้แล้ว ซากุ…รักโคโตะ

และซากุ…ต้องการจะมาให้เขาฆ่า เพื่อให้โคโตะ…เกลียดเขา

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? โคโตะไม่ได้เกลียดเขาอยู่แล้วหรอกหรือ? โคโตะ ไม่ได้ตั้งใจจะมา เพื่อฆ่าเขาแล้วหรือไง?

เห็นได้ชัดว่าซากุมา ไม่ใช่เพราะคำสั่งของโคโตะ เขามั่นใจ โคโตะ จะไม่มีทางส่งคนอื่นมาฆ่าเขา หากต้องการจะฆ่า โคโตะต้องลงมือด้วยตัวเอง!

มีอะไรผิดพลาดจริง ๆ!

ชายหนุ่มใจหายวาบเมื่อคิดทุกอย่างได้ลงตัว

ซากุรู้ดีว่า…โคโตะ จะมาฆ่าเขา

ไม่ได้ฆ่าเพียงเขา

แต่โคโตะ ต้องการที่จะตาย…ไปพร้อมกับเขาด้วย!

และนั่นเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ซากุมา โดยไม่ยินยอมให้โคโตะเป็นฝ่ายมาด้วยตนเอง!

เขาเข้าใจแล้ว ว่าทำไมโคโตะจึงจงใจที่จะฆ่าทุกคน แทนที่จะหันหน้ามาคุยกับเขา หรือแม้กระทั่ง…มาลอบสังหารเขาเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม เรื่องแค่นี้สำหรับโคโตะ มันง่ายดายมากด้วยซ้ำ

เรอิจิพูดถูก

โคโตะกำลังเป็นอาชญากร…โคโตะ กำลังวางแผนฆ่าทุกคน อย่างตั้งใจเสียด้วย

ในตอนนี้ ระหว่างเขาและโคโตะ มีเส้นบาง ๆ กางกั้นอยู่ และเขาเชื่อมาตลอด ว่าเพราะสิ่งนั้น จะทำให้โคโตะ…ไม่มีวันย้อนกลับมา เคียงข้างเขาอีก

โคโตะ เลือกที่จะอยู่อีกฝั่งมาตั้งแต่ได้รู้ความจริงแล้ว

เขาที่เป็นคนบาป สมควรแล้วที่จะถูกกำจัด

แต่ไม่นึกเลย ว่าโคโตะ จงใจพังเส้นกั้นนี้ เพื่อที่จะได้มายืนเคียงข้างเขา

โคโตะต้องการลงเรือลำเดียวกับเขา แม้ว่าเรือนั้น…กำลังจะจม

ยินยอมให้มือตนเองเปื้อนเลือด เพียงเพราะว่า…ต้องการที่จะเป็นคนบาป เช่นเดียวกันกับเขา

ไม่ใช่แค่นั้น…โคโตะยังคิด จะลบล้างทุกสิ่งเพื่อชดใช้ เพื่อแก้ไขต่อบาปที่เกิดขึ้นอีกด้วย

โคโตะ กำลังต้องการจะแบกรับบาปนั้น ไว้เพียงผู้เดียว…แบกรับไว้ แทนเขา ที่มือเปื้อนเลือดจนยากจะลบล้างได้แล้ว

ทุก ๆ อย่างที่โคโตะทำ ก็เพื่อเขาทั้งนั้น!

โคโตะไม่เคยทรยศต่อเขาเลยจริง ๆ

เป็นครั้งแรก ที่เขาหวาดกลัว

การตัดสินใจของโคโตะ แน่วแน่เสมอมา และยากนัก ที่จะเปลี่ยนใจ ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้…แม้กระทั่งเขาคนนี้ นิสัยของโคโตะ เขาที่เป็นพี่ชายฝาแฝด ย่อมรู้ซึ้งเป็นอย่างดี

แต่โคโตะ จะต้องไม่ตาย เขายอมตายเพื่อโคโตะได้ แต่เขาไม่มีวันยอม ให้โคโตะมาตาย เพราะคนบาปอย่างเขา!

จะทำอย่างไรดี?

ร่างของซากุที่ถูกพันธนาการไว้ คล้ายหลักประกันยืนยัน

ซากุอาจจะรั้งโคโตะไว้ได้ แต่ก็คงแค่เพียงชั่วคราวแน่ จะอย่างไรโคโตะก็ต้องมา

โคโตะกำลังจะมาแล้ว และเขา…ยังไม่รู้ว่า จะหยุดโคโตะได้อย่างไร

จะทำอย่างไร ไม่ให้โคโตะต้องตาย


.......................................


จู่ ๆ สมองก็คิดถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะหลอกลวงเขาหรือไม่ แต่แววตาคู่นั้น ก็ยังกระจ่างชัด และหวังดีกับโคโตะอย่างแน่นอน

เขาเกลียดตัวเอง ที่ต้องยอมรับ ว่าสิ่งที่เรอิจิพูดมา ถูกต้องทุกอย่าง

เขาไม่มีเวลาแล้ว และไม่มีทางเลือกอีกแล้วด้วย

ต้องติดต่อเรอิจิ!

ชายหนุ่มหยิบแฟ้มประวัติของเรอิจิที่ให้ลูกน้องสืบประวัติมาให้ ก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ ตามที่เขียนเอาไว้ แล้วโทรออก


.............................................


โคโตะมาถึงแล้ว

ดวงตาคมมองมาอย่างพินิจพิเคราะห์

โคโตะ…เปลี่ยนไปมาก สภาพจิตใจที่ตึงเครียด ทำให้สภาพร่างกายแย่ลง ใบหน้าซีดขาว ดวงตากลมโตที่แดงช้ำ คงนอนไม่หลับ คงทุกข์ใจมากสินะ และทั้งหมดนั่น เป็นเพราะเขา

ถ้ายังคงปล่อยไว้เช่นนี้ ในไม่ช้า โคโตะก็คงจะพังทลายลง

หากในแววตาที่อ่อนล้า เหน็ดเหนื่อยนั้น เขากลับมองเห็นความตั้งใจที่แน่วแน่

โคโตะ ต้องการที่จะตายพร้อมเขาจริง ๆ!

เขาไม่มีทางเลือกแล้ว คงต้องเชื่อเรอิจิอย่างเดียวเท่านั้น!

   
........................................


ท่ามกลางกองเพลิง และอ้อมแขนที่โอบกอด แม้แกล้งทำเป็นตาย เขาก็ยังได้ยินครบ…ได้ยินทุกคำพูด จากโคโตะที่เขารัก
   
"ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ว่าจะสวรรค์หรือนรก...ชั้นก็จะไปกับนาย"
   
คำพูดนั้นจริงใจเป็นที่สุด โคโตะ ยอมตายพร้อมกับเขาจริง ๆ เขารู้ดี..โคโตะ เป็นอีกครึ่งหนึ่งของเขา และพวกเขา…จะอยู่โดยปราศจากกันและกัน…ไม่ได้เลย
   
ถ้าเขาต้องไปนรก แล้วต้องฉุดรั้งโคโตะลงไปด้วยล่ะก็…เขาไม่มีวันยอมไปเด็ดขาด
   
เรอิจิพูดถูก…เขาจะตายไม่ได้!


.............................................


ที่หน้าห้องคนไข้ ร่างสูงของมาโอ ยืนแอบมองคนบนเตียงภายในห้องนั้น   โคโตะที่ถูกมัดไว้บนเตียง หมดอาลัยตายอยาก หมดกำลังและแรงใจ ที่จะมีชีวิต

ความตายของเขา หนักอึ้งเกินไปสำหรับโคโตะจริง ๆ

ร่างสูงหันกับมามองคนด้านข้างอย่างไม่มั่นใจนัก

“ทำแบบนี้…ดีแล้วงั้นเหรอ เรอิจิ”

เรอิจิจ้องมองมา พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

"เธอจะเลิกทุกอย่าง เพื่อโคโตะได้หรือเปล่าล่ะ"

มาโอถอนหายใจ "องค์กรนี้ สร้างขึ้น แต่แรกก็เพื่อโคโตะ ถ้าจะเลิกมันเพื่อโคโตะ ทำไมฉันจะทำไม่ได้”

เรอิจิมองมาแล้วยิ้ม “ถ้าเธอตัดสินใจได้แบบนั้น ฉันจะช่วยโคโตะเอง มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ว่า…แผลใจ จะต้องจางหาย สัญญาได้ไหม ว่าเธอจะรอถึงวันนั้น…แล้วค่อยปรากฏตัวขึ้น ต่อหน้าโคโตะ”

“ถ้ามันทำให้โคโตะดีขึ้นได้ ฉันก็อดทนได้เช่นกัน”

“ขอบใจนะ ที่เธอเชื่อฉัน”

“ฉันไม่เคยคิดจะเชื่อนาย แต่ว่า…เพราะโคโตะเชื่อนาย และเพราะนาย…จะช่วยโคโตะ ดังนั้น…ฉันจะยอมสงบศึกชั่วคราว” ดวงตาคมมองกลับมา ยังคงมีแววแห่งความเป็นอริอย่างชัดเจน

แม้จะยอมเชื่อ แม้จะยอมทำตาม แต่จะอย่างไร มาโอก็ไม่ยอมที่จะญาติดีด้วยจริง ๆ

เรอิจิมองมาพลางหัวเราะ "ฉันลืมบอกเธอไปอีกอย่าง ฉันไม่เคยคิดกับโคโตะเหมือนเป็นคนรัก และที่สำคัญ ฉันมีภรรยาและลูกชายแล้ว กับโคโตะ ฉันยังเคยหวังว่า เขาจะเป็นเพื่อนที่ดีกับลูกชายฉัน...เป็นลูกอีกคนของฉันได้ เธอก็เหมือนกันนะ"

มาโอมองมาอย่างเคือง ๆ เล็กน้อย "ไม่ต้องมานับญาติกันเลย ฉันไม่เคยคิดว่านายจะเป็นพ่อของพวกเราได้” ชายหนุ่มหยุดเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อไป

“แต่ว่า...ถ้าแค่เพื่อน ก็พอหยวนได้ล่ะนะ"

ความเป็นศัตรูจางหายไป มาโอยิ้มให้เรอิจิเป็นครั้งแรก หลังจากได้พบหน้ากันมา ในเมื่อไม่ใช่คู่แข่ง เขาก็ไม่จำเป็น…ที่จะต้องเป็นศัตรูด้วย

จะอย่างไร ต่อจากนี้ พวกเขาก็ต้องวางแผนต่อไปเพื่อช่วยโคโตะร่วมกัน

และคนผู้นี้ ก็ตรงไปตรงมากับเขาเสมอ

กับคนประเภทนี้ เขาไม่คิดมากเลยที่จะยอมรับเป็นเพื่อน

"โอเค เพื่อนก็เพื่อน แต่นายนี่ ยอมรับอะไรได้ง่ายเกินคาดนะ" เรอิจิว่ายิ้ม ๆ จงใจที่จะเปลี่ยนสรรพนามเรียกหาเป็นระดับเดียวกันอย่างง่ายดายโดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างของอายุ และนี่กระมัง ที่เป็นเสน่ห์ของคนผู้นี้

มาโอถอนหายใจ "คงเพราะอยู่ในโลกมืดมานานล่ะมั้ง เลยรู้ว่า คนอย่างนาย...เป็นคนจริง และจริงใจพอ"

ว่าแล้วเขาก็เหลือบมองไปยังห้องพักคนไข้ด้านข้าง ซึ่งมีเหล่าบรรดาคนที่โคโตะช่วยเหลือไว้พำนักอยู่ จากคำบอกเล่าของเรอิจิ โคโตะต้องการจะไถ่บาปทั้งหมด ด้วยการดูแลเด็กพวกนี้…ให้กลับมามีชีวิตอย่างปกติให้ได้

"อ้อ ขอบอกไว้อีกอย่าง ฉันยินดีร่วมมือด้วยทุกอย่าง เพื่อช่วยเหลือโคโตะ...แต่กับคนอื่น ฉันไม่สนใจด้วยหรอกนะ ไม่ว่าเด็กพวกนั้น จะรอดมาได้เพราะโคโตะอยากช่วยให้รอดหรือไม่ก็เถอะ ถึงจะไม่ใช่ฝีมือฉัน ที่สร้างพวกเขาให้เป็นนักฆ่าอย่างโหดร้ายเช่นนั้น แต่ฉัน ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตัวเป็นสถานสงเคราะห์เด็ก เด็กพวกนั้น...มันอันตรายเกินไป"

ใบหน้าของเรอิจิมีรอยยิ้ม "ถ้างั้นมาพนันกันมั้ยล่ะ ถ้าเด็กพวกนั้น เลิกฆ่าคนได้เด็ดขาดและรักโคโตะจริง ๆ นายจะยอมรับพวกเขา เป็นคนในครอบครัวของนายรึเปล่า"

"ก็ลองดูสิ ถ้าพวกเขาทำได้ ฉันยอมรับก็ได้ จะยังไง ฉันก็ไม่ต้องการขัดใจโคโตะนักหรอก" เขาตอบง่าย ๆ แต่แน่นอน ลองคนพูดคือมาโอ เขาย่อมหมายความเช่นนั้นจริง ๆ

เรอิจิพยักหน้ารับ "โอเค ถ้าอย่างนั้น ให้เวลา…เป็นสิ่งพิสูจน์ก็แล้วกัน หวังว่านายคงจะไม่ลืมข้อตกลงของเราหรอกนะ"

"ถ้าเพื่อโคโตะ ฉันทำได้ทุกอย่าง!" น้ำเสียงหนักแน่นรับคำ

แน่นอนสำหรับเขาแล้ว... ถ้าเพื่อโคโตะ ไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่ามากเกิน!


- จบตอนที่ 16 -

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี  ^ ^
ว่าแต่คุณพ่อเรอิจิไม่คิดจะกลับไปอ้อนคุณแม่่ซักหน่อยหรอคะ
ห่างบ้านมานานแล้วนะเนี่ย

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด