[Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy  (อ่าน 155167 ครั้ง)

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #30 เมื่อ19-01-2010 19:14:09 »

 :sad11:น่าสงสารอะ

ทอมใจร้าย

อยากอ่านต่ออะเจ๊หมวยจ๋า :-[

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #31 เมื่อ19-01-2010 21:08:48 »

ง่ะ ใจร้ายอ่ะ :angry2:
รังแกเด็ก

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #32 เมื่อ20-01-2010 01:10:16 »

แวะมาให้กำลังใจนิยายเรื่องใหม่(ที่นี่)ของเจ๊หมวยค้าบ
 :3123:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #33 เมื่อ20-01-2010 01:37:13 »

ฮ่าๆๆๆ มคนอ่านเกลียดทอมกับจิมตอนนี้แล้ว
แล้วตอนต่อๆไปล่ะ รักไม่รัก รอลุ้น

เป็นกำลังใจให้เจ๊หมวยจ้า  :L2:


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #34 เมื่อ20-01-2010 12:35:09 »

บทที่ 2  (ต่อ) ....


"นี่ที่พักของเธอนะ แม็กกี้.. พออยู่ได้หรือเปล่า เดี๋ยวจะทยอยเอาของออกไปเก็บที่อื่นจะได้กว้างขึ้นหน่อย"
นายเอ๊ดได้รับคำสั่งให้จัดหาที่พักให้เด็กชายที่เรือนคนรับใช้ แต่เนื่องจากไม่มีห้องว่างเหลือหนุ่มน้อยจึงต้องมาอาศัยมุมหนึ่งในห้องเก็บของนอน

"ไม่ต้องหรอกครับน้า แค่นี้ก็กว้างพอแล้ว ผมอยู่ไม่นานหรอกครับ แค่ 2 เดือนเอง"

นายเอ็ดทำหน้างง ระยะเวลาที่เจ้าหนูบอกไหงถึงต่างจากที่คุณจิมบอก
…หาที่พักให้เด็กด้วย เอ็ดดี้.. เอาแค่พอซุกหัวนอน อยู่ได้ไม่กี่วันหรอก…
….เอ! ถ้าจะอยู่ถึง 2 เดือน ให้พักในที่แบบนี้จะดีเร้อ..

นายเอ๊ดรำพึงอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เห็นสมบัติของเด็กชายมีกระเป๋าเป้ขนาดย่อมเพียงใบเดียวก็ชักไม่แน่ใจ
"จะอยู่ตั้ง 2 เดือน แล้วมีเสื้อผ้ามากี่ชุดล่ะ ไอ้หนู.."

"เอ่อ.. ผมเอามาแค่ 2 ชุดครับ ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่นาน แต่ไม่เป็นไรครับ ผมซักทุกวันอยู่แล้ว"

นายเอ๊ดพยักหน้าหงึก
"อืมม์.. เอาเถอะ เดี๋ยวจะแบ่งเสื้อผ้าตัวเล็กๆ มาให้ เอาของเก็บซะ แม็กกี้.. แล้วตามไปที่โรงรถ น้าจะสอนวิธีล้างและทำความสะอาดรถให้"

"ครับ"
แม็คกิลล์น้อยพยักหน้ารับด้วยความยินดี รู้ว่าการทดสอบบทที่ 1 กำลังจะเริ่มต้นแล้ว แค่อดทนอยู่จนครบ 2 เดือนเท่านั้น เขาก็จะได้รู้ความจริงเรื่อง "พ่อ" ที่เคลือบแคลงมาตลอดชีวิตเสียที…


 :monkeysad:


"นี่น่ะเหรอ แผนของนาย จิม.. แค่ให้ทำงานบ้าน ตัดหญ้า ล้างรถ เนี่ยนะ.. เด็กที่ไหนก็ทำได้ ไม่เห็นต้องใช้ความอดทนอะไรเลย"

ทอมโวยใส่จิมเมื่อเห็นเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว เด็กชายยังมีความเป็นอยู่อย่างสบายๆ งานที่จิมสั่งให้ทำก็ไม่เห็นหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่เด็กวัย 12 ปีจะทำได้สักนิด แถมยังมีเวลาว่างนั่งพูดคุยหัวเราะสนุกกับคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้าน

จิมหัวเราะ เดินเข้ามาโอบไหล่เทพบุตรของเขา
"ใจเย็นๆ ซี ทอม.. จู่โจมเร็วเกินไป เด็กตกใจหนีกลับบ้านก็หมดสนุกกันพอดี"

"นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นสนุกนะ ตกใจหนีกลับไปให้เร็วที่สุดยิ่งดี นายก็รู้ว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเด็กนั่น อยากให้ออกไปจากบ้านนี้เร็วๆ"

"วางใจเถอะน่า ทอม.. ตั้งแต่พรุ่งนี้นายจะได้เห็น และถึงเวลานั้นเจ้าหนูแม็กจะได้รู้ซึ้งว่า "นรกมีจริง"

จิมหัวเราะน้ำเสียงเย็นเยือกจนทอมใจหาย แม้ในใจจะรู้สึกว่าวิธีการของจิมและเขาเป็นการรังแกเด็กที่ไม่มีทางสู้ แต่จะทำไงได้ล่ะ.. เขาจำเป็นต้องให้เจ้าหนูคนนี้ไปให้พ้นจากชีวิตเขาและโดยเร็วที่สุดด้วย


 o3


"ลุงแก้วลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด คงอีกหลายวันกว่าจะกลับ ตั้งแต่วันนี้ไปนายต้องรับหน้าที่แทนลุงแก้วทั้งหมด มีปัญหามั้ยแม็กกี้.. ดูแลสวนและต้นไม้เป็นหรือเปล่า... ทำไหวมั้ย… "

"พอเป็นครับ ทำไหวครับ " เด็กชายตอบรับแต่อึกอักเล็กน้อย ขืนปฏิเสธว่าไม่เป็นหรือบอกว่าไม่ไหวก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทดสอบเลยน่ะซี

"ดี.. แต่ไม่ใช่งานสวนอย่างเดียวนะที่นายต้องดูแล งานทำความสะอาดรถยังเป็นหน้าที่ของนายเหมือนเดิมด้วยนะ"

"ครับ"

"ทุกงานที่ได้รับมอบหมายต้องเรียบร้อยไม่มีที่ติ ก่อน 7 โมงเช้ารถทั้ง 3 คันต้องอยู่ในสภาพใหม่พร้อมใช้งาน ถนนและสนามหญ้าต้องไม่มีเศษไม้ใบหญ้าเกลื่อนรก…."
จิมหยุดพูดเมื่อเห็นเด็กชายยังมีสีหน้ายิ้มแย้มและนิ่งฟังโดยไม่โต้แย้งใดๆ เขาลอบยิ้มในใจ … ยังไม่หมดหรอกนะ ไอ้หนู…

"อ้อ! ยังมีอีกเรื่องที่นายต้องรับผิดชอบแทนลุงแก้วคือ รอเปิดประตูให้ฉันและคุณทอม ไม่ว่าจะกลับดึกขนาดไหนเป็นหน้าที่ของนายต้องคอย…
งานหลักๆ ก็มีเท่านี้ ไม่หนักหนาเกินไปใช่มั้ย แม็กกี้.. "

"ไม่ครับ"

"ดีมาก เจ้าหนู… ฉันขอบอกอะไรไว้อย่าง คุณทอมเป็นคนรักต้นไม้มาก เพราะมันช่วยให้เขาคลายเครียดและหายเหนื่อย วันไหนว่างจะใช้เวลาอยู่ในสวนและนั่งอยู่ที่สนามนานๆ
หวังว่านายคงจัดการต้นไม้ทุกต้นให้งดงามได้ไม่แพ้ลุงแก้ว อ้อ! แล้วก็สนามหญ้า.. อย่าให้ยาวเกินกว่าที่ลุงแก้วเคยดูแลไว้"

"ครับ" รอยยิ้มเด็กชายค่อยๆ จางลงเพราะเริ่มหนักใจเรื่องงานดูแลสวน แต่ยังคงพยักหน้ารับคำสั่งด้วยความยินดี


 :m17:


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #35 เมื่อ20-01-2010 12:40:37 »

สามวันแล้วที่หนุ่มน้อยแม็คกิลล์ต้องรับหน้าที่เป็นทั้งคนสวนและผู้ช่วยนายเอ๊ดคอยดูแลทำความสะอาดรถ รวมถึงเป็นยามคอยเปิดประตูให้รถเข้าออก

สองคืนแรกรอจนถึง 5 ทุ่มเศษ… แต่เมื่อคืนเด็กชายนั่งคอยที่ระเบียงหน้าตึกจนหลับและสะดุ้งตื่นตั้งหลายครั้งเจ้านายหนุ่มทั้งสองก็ยังไม่กลับจนกระทั่งมาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนฟ้าใกล้สางเพราะเสียงแตรรถ

แม็กกี้ยืนงงหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน คุณจิมแบกคุณทอมขึ้นตึกคงจะหลับทั้งๆ ที่เมา เพราะเดินผ่านไปตั้งนานแล้วกลิ่นเหล้ายังคลุ้งอยู่เลย   ส่วนน้าเอ๊ดดี้ก็หายแว่บไปทันทีหลังจากเอารถเข้าจอดเรียบร้อยแล้ว แม็กกี้ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไร รู้แต่ว่าใกล้สว่างแล้ว

ใครจะยังหลับสบายอยู่ก็ช่าง แต่สำหรับแม็กงานแรกของวันเริ่มต้นแล้ว ถึงแม้วันนี้คุณทอมกับคุณจิมจะไม่ใช้รถในช่วงเช้าแน่นอน   แต่คำสั่งของคุณจิม รถทุกคันต้องสะอาดพร้อมใช้ก่อน 7 โมงเช้า ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ก็ตาม…


 :m15:


สัปดาห์ที่ 2 ของการทดสอบ…


แม็กกี้ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น แม้จะเตรียมใจไว้แล้วแต่ก็อดนึกหวาดไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าของคุณทอมและคุณจิมไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร โดยเฉพาะคุณทอมหน้างอและบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด

น้าเอ็ดดี้บอกว่าวันนี้คุณทอมว่างไม่มีงานเดินหรือถ่ายแบบที่ไหนและจะพักผ่อนอยู่กับบ้านทั้งวัน เพราะฉะนั้นแม็กจึงทำใจเตรียมพร้อมไว้แล้ว  ยังไงซะ.. วันนี้ต้องได้รับการทดสอบความอดทนจากคุณจิมแน่นอน

"สั่งแล้วใช่มั้ย แม็กกี้.. ว่าอย่าให้หญ้ายาวเกินกว่าที่ลุงแก้วเคยดูแลไว้ วันนี้คุณทอมอุตส่าห์ตื่นเช้าจะออกไปเดินเล่นที่สนาม แต่กลับต้องหงุดหงิดเพราะนาย.. ดูแลสนามหญ้าประสาอะไร หา!!…"

ทอมชักสีหน้าไม่พอใจและแสดงอาการหงุดหงิดทันทีเมื่อถูกจิมอ้างถึง

"เอ่อ.." เด็กชายหน้าจ๋อยรู้สึกผิดที่ทำให้คุณทอมหงุดหงิด

“ขอโทษครับ คือ.. ผมหาเครื่องตัดหญ้าไม่เจอ ไม่รู้ว่าลุงเอาไปเก็บไว้ที่ไหน"

"ว่าไงนะ !.. หาเครื่องตัดหญ้าไม่เจอก็เลยไม่ตัด นายมีมือหรือเปล่า.."

"เอ่อ.. มีครับ" เด็กชายตอบรับเสียงอ่อย

"ดี.. กรรไกรตัดหญ้าคงไม่ได้หายไปด้วยใช่มั้ย"

"ครับ"

"ถ้างั้นนายคงรู้นะว่าต้องทำยังไงหญ้าถึงจะสั้นลงได้"

"ครับ"

"ดี.. ไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย ฉันให้เวลาหนึ่งชั่วโมง พอหรือเปล่า.."

"พอครับ" แม็กต้องรับปากทุกเรื่องโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะถ้าเผลอตอบว่าไม่ นั่นหมายถึงต้องแพ้เกมทดสอบ แม็กไม่หลงกลคุณจิมง่ายๆ หรอก …

"โอเค.. นับจากเวลาตอนนี้ เที่ยงครึ่ง.. สนามหญ้าต้องเรียบร้อย ไปจัดการได้ แม็กกี้.."

"ครับ" แม็กกี้รีบรับคำและลุกขึ้นเพราะไม่อาจเสียเวลาแม้เพียงนาทีเดียว สนามหญ้ากว้างขนาดนั้นขนาดใช้เครื่องตัดแม็กยังเห็นลุงแก้วใช้เวลาเป็นชั่วโมง
ไหนจะต้องเก็บเศษหญ้าทิ้งอีก… ถ้าใช้มือตัดเวลาแค่ชั่วโมงเดียวจะทันหรือเปล่าก็ไม่รู้..


 :m15:


"เอ๊ะ!.. นั่นเจ้าหนูแม็กใช่มั้ย พี่เอ๊ดดี้.. แดดร้อนเปรี้ยง ทำไมไปนั่งตัดหญ้าอย่างนั้นล่ะ"

นายเอ๊ดมองตามสาวใช้แววภรรยาสุดที่รักของเขาแล้วพยักหน้าหงึก รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
"คงเป็นคำสั่งของคุณจิมน่ะ"

"เอ๊ะ! คุณจิมไม่ใช่คนใจร้ายใจดำสักนิด เธอน่ารักและใจดีจะตาย เพราะอะไรถึงใช้เด็กทำงานกลางแดดแบบนั้น สงสัยแม็กกี้ทำเรื่องอะไรให้โกรธแล้วถูกลงโทษกระมัง พี่.."

"ช่างเถอะ แวว.. เอ็งอย่าซักมากเลย พี่ก็ไม่รู้อะไรหรอก.."
นายเอ๊ดบอกปัดทั้งๆ ที่พอจะรู้เหตุผล เขามีจรรยาบรรณของคนขับรถที่ดีไม่แพร่งพรายความลับของเจ้านายให้ใครล่วงรู้เด็ดขาด ถึงจะเป็นเมียก็เถอะ…

"เฮ้! แม็กกี้.. งานเร่งเหรอ.." คนรถหนุ่มกล่าวทักสั้นๆ เด็กชายเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้ เหงื่อไหลย้อยเพราะอากาศและแดดร้อนเปรี้ยง สองมือจับกรรไกรตัดหญ้าฉับๆ

นายเอ๊ดรีบสวมหมวกไว้ที่ศีรษะเจ้าหนูด้วยความสงสารพร้อมกับโยนถุงมือให้
"สวมถุงมือซะ ไอ้หนู เดี๋ยวมือจะพองซะก่อน"

แม็กกี้หยุดมือและรีบคว้าถุงมือขึ้นมาสวม เพราะเริ่มรู้สึกเจ็บบ้างแล้ว
"ขอบคุณครับน้าเอ๊ดดี้"

"ยังไม่ได้กินกลางวันเลยไม่ใช่หรือ แม็กกี้.. ไปกินก่อนแล้วค่อยมาจัดการต่อดีมั้ย"

"ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวงานเสร็จไม่ทัน ผมยังไม่หิวด้วย"

"ต้องเสร็จกี่โมงเหรอ? "

นายเอ๊ดตกใจเมื่อรู้ว่าคุณจิมให้เวลาเด็กชายเพียงหนึ่งชั่วโมงกับสนามหญ้าพื้นที่เกือบ 200 ตร.วา โดยใช้กรรไกรตัดหญ้า
มีวิธีเดียวที่พอจะทันคือตัดอย่างเดียวโดยไม่ต้องเก็บกวาด และดูเหมือนเจ้าหนูแม็กก็คงจะทำตามที่เขาคิดเช่นกัน และยังฉลาดพอที่จะเลือกตัดบริเวณที่หญ้ายาวมากๆ ก่อน

ให้ตายเถอะ !.. นี่ถ้าครูยุ่นจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กมาเห็นล่ะก็ เจ้านายสุดหล่อของเขามีหวังได้ขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1 แน่….

อีก 10 นาทีก็จะเที่ยงครึ่งแล้วเหลือพื้นที่ไม่ถึง 20 ตร.วา มือและแขนของเด็กชายล้าและเจ็บจนขยับแทบไม่ไหว แต่พยายามกัดฟันอดทน   นึกถึงวันที่ตัวเองจะได้พิสูจน์ความจริงกับคุณทอมแล้ว..ยังไงซะ.. แม็กก็แพ้ไม่ได้…


 :m15:


"เครื่องตัดหญ้าจะหายได้ยังไง เด็กนั่นหาถูกที่หรือเปล่า.."

ทอมพึมพำขณะชะเง้อมองเด็กชายนั่งยองๆ ตัดหญ้าด้วยกรรไกรอยู่ที่สนาม จิมนั่งอมยิ้มจิบเบียร์เย็นๆ อย่างสบายใจ

"คงต้องให้เอ๊ดดี้ไปหาดูอีกที ถ้าหายจริงจะได้ให้ไปซื้อใหม่"

"ไม่ต้องหาหรอก หาก็ไม่เจอ แล้วก็ไม่ต้องซื้อใหม่ด้วยเพราะไม่ได้หาย"

"อะไรของนายน่ะ จิม.. หมายความว่าไง"

"จะซื้อทำไมล่ะ ฉันแค่ยืมเครื่องตัดหญ้าของนายไปใช้ที่คอนโดสัก 2 - 3 วันเดี๋ยวก็เอามาคืน"

"อะไรนะ?..ตัดหญ้าที่คอนโด.."

ทอมพึมพำเบาๆ ก่อนจะแย้มยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเป็นแผนทดสอบของจิม แต่นึกไม่ถึงว่าจิมจะหาวิธีแกล้งเด็กได้แนบเนียนขนาดนี้

มิน่าล่ะ! ทั้งๆที่วันนี้ไม่มีคิวงาน จู่ๆ ก็ปลุกให้ตื่นขึ้นมาชวนลงไปสูดอากาศที่สนาม ( ที่เห็นนั่งหน้าบูดเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะหงุดหงิดเรื่องสนามหญ้าหรอก
แต่ยังเมาขี้ตาอยู่และฉุนจิมที่มาปลุกให้ตื่นทั้งๆ ที่วันนี้เขาควรจะได้นอนทั้งวันด้วยซ้ำ)

จิมยืนอึ้งเมื่อเด็กชายสามารถตัดหญ้าในสนามได้เสร็จตามเวลาที่กำหนด แม้จะยังเก็บกวาดเศษหญ้าไม่หมดแต่เขาจำต้องอนุโลมให้เพราะเจ้าหนูจอมแสบรีบออกตัวด้วยสีหน้าละห้อย

"ผมตัดหญ้าเสร็จตามเวลาที่สั่งแล้วครับ เหลือเก็บกวาดเศษหญ้าออก คุณจะกำหนดเวลาด้วยหรือเปล่า ถ้ายังไงผมขออนุญาตไปทานข้าวก่อนได้มั้ยครับ ผมหิว…"

……จริงๆ แล้วเด็กชายไม่ได้หิวแค่อยากหาทางขอพักสักเดี๋ยวเพราะเหนื่อยและเจ็บมือมาก ปวดเมื่อยระบมไปทั้งแขน เสี่ยงขออนุญาตไปยังงั้นเอง
ถ้าคุณจิมบอกให้ทำต่อ เจ้าหนูคงล้มทั้งยืนแน่….

ทอมรีบอนุญาตก่อนที่จิมจะหาทางแกล้งทดสอบเด็กต่อ ถึงจะไม่ชอบขึ้หน้าเจ้าหนูตรงหน้าแค่ไหนก็ตาม แต่เกมทดสอบระหว่างเขากับเด็กจะต้องดำเนินไปอย่างมีมนุษยธรรม

จิมส่ายหน้าเมื่อทอมรีบเข้ามาตัดบทเอ่ยอนุญาตให้เด็กชายไปทานข้าวได้ ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่อยากเห็นหน้าและไม่อยากคุยด้วยแท้ๆ

"ทำไมล่ะทอม.. สงสารเหรอ.."

"เปล่าซะหน่อย" ทอมชักสีหน้าไม่พอใจ

“ตกลงกันก่อนนะ จิม.. ทำยังไงก็ได้..ให้ไอ้หนูนี่เผ่นแน่บออกไปจากบ้าน แต่อย่าแกล้งทรมานเด็กให้เจ็บหรือหิว " ทอมผละจากจิมเดินกลับเข้าบ้านไปนอนต่อ

จิมยืนนิ่งมองตามตาปริบๆ…

…ไม่ให้เจ็บหรือรู้สึกทรมานบ้าง เด็กจะเผ่นแน่บหรือครับบ๊อส…


 :เฮ้อ:




ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #36 เมื่อ20-01-2010 12:55:27 »

สายใยรัก บทที่ 3
กุญแจกลางสายฝน
-----------------


สัปดาห์ที่ 3…

วันนี้เป็นอีกวันที่นายแบบหนุ่มสุดฮอทแห่งปีได้มีเวลาพักผ่อนอยู่กับบ้าน จริงๆ แล้ววันนี้ทอมมีคิวถ่ายแบบ แต่เป็นการถ่ายนอก Studio ฝกตกหนักติดต่อกัน 2 วันทำให้คิวถ่ายชุดนี้ต้องเลื่อนไปจนกว่าท้องฟ้าจะโปร่ง

ทอมยืนกอดอกมองดูสายฝน เสียงฟ้าคะนองและแสงจากฟ้าแลบทำให้ภาพในอดีตฉายซ้อนขึ้นมาในความนึกคิด

....."ฝนตกแล้ว กลับบ้านเถอะค่ะ คุณทอม.. "

สาวน้อยวัย 16 ปี พยายามประคองเจ้านายหนุ่มน้อยวัย 14 ด้วยความทุลักทุเล แม้เธอจะอายุมากกว่าแต่รูปร่างกลับเล็กและบอบบางกว่ามาก จะไม่ให้คุณหนูของเธอสูงใหญ่กว่าได้ยังไง ในเมื่อคุณพ่อเป็นฝรั่ง คุณแม่เป็นลูกครึ่ง หนำซ้ำคุณหนูยังเป็นนักกีฬาของโรงเรียนด้วย

ท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก สาวน้อยประคองกอดคุณหนูของเธอเอาไว้แน่น แต่กำลังของเธอสู้หนุ่มน้อยที่กำลังเมาไม่มีสติไม่ได้

"ไม่.. ฉันไม่กลับ เธอนั่นแหล่ะ กลับไป.. อย่ามายุ่ง" หนุ่มน้อยผลักพี่เลี้ยงสาวล้มลง
"อย่าไปนะคะคุณทอม กลับบ้านเถอะค่ะ คุณพ่อเป็นห่วงนะคะ"

หนุ่มน้อยไม่ฟังเสียงวิ่งหนีฝ่าสายฝนไป แต่ไปได้เพียง 3 ก้าวก็สะดุ้งสุดตัวเพราะปรากฎแสงจากฟ้าแลบผ่าเป็นสายลงมา สองมือกุมศีรษะและหมอบลงกับพื้นด้วยความตกใจกลัว พี่เลี้ยงสาวรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปสวมกอดคุณหนูของเธอพร้อมๆ กับที่เสียงฟ้าคะนองดังขึ้น

"ไม่ต้องกลัวนะคะคุณทอม.. แค่ฟ้าร้องเท่านั้น กลับบ้านกับแอนเถอะนะคะคนดี"
หนุ่มน้อยยังเกเรไม่เลิก สะบัดตัวออกจากอ้อมกอดพี่เลี้ยงสาวและกลับเป็นฝ่ายสวมกอดเธอแทน
"ฉันไม่กลับ ฉันจะไม่กลับบ้าน นอกจากเธอจะยอมเป็นของฉันก่อน"
สาวน้อยนิ่งตะลึงอยู่ในอ้อมกอดคุณหนูของเธอท่ามกลางสายฝนและฟ้าคะนองในซอยเปลี่ยวกลางดึก เธอไม่รู้ว่าคุณหนูพูดด้วยความเมาไม่มีสติหรือเพราะโกรธเกลียดเธอกันแน่
"ล้อเล่นใช่มั้ยคะ คุณทอม.."
พี่เลี้ยงสาวถูกคุณหนูของเธอผลักล้มลง และร่างสูงใหญ่ของหนุ่มน้อยที่อ่อนวัยกว่าก็โถมทับลงมาแทนคำตอบ....


 :monkeysad:


ทอมบันดาลโทสะขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต รู้สึกเกลียดชังหญิงสาวและลูกชายขึ้นมาจับใจ  ที่จู่ๆ ก็มาอ้างว่าเขาเป็นพ่อ ทั้งๆ ที่เขามีอะไรกับเธอแค่คืนนั้นเพียงครั้งเดียวและด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปี หนำซ้ำยังเป็นครั้งแรกของเขาที่มีอะไรกับหญิงสาว ท่ามกลางสายฝนและฟ้าคะนองในซอยเปลี่ยว ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความทุกลักทุเล ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นเรื่องที่ผิด แต่นาทีนั้นเขาหยุดความต้องการของตัวเองไม่ได้

…เพราะเธอคนเดียว ทำไมถึงไม่หนี ทำไมถึงยอม เรื่องบ้าๆ ในคืนนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นถ้าเธอไม่ตามฉันไป ฉันเกลียดเธอแอนนา.. เธอทำให้ฉันมีความหลังที่น่าละอาย กว่าฉันจะลืมวันนั้นได้ต้องใช้เวลากว่า 10 ปี จู่ๆ ไอ้หนูบ้านี่ก็โผล่มา เธอโกหกใช่มั้ย แอนนา.. เธอมีผู้ชายคนอื่น.. เธอโกหกลูกของเธอเพื่อให้เขากลับมาแก้แค้นฉันใช่มั้ย…

ทอมสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกจิมจับไหล่เบาๆ ทำเอาอีกฝ่ายสะดุ้งตาม

"โธ่เว้ย! จิม.. ตกใจหมดเลย เข้ามาเงียบๆ"

จิมยืนตาปริบๆ เขาเรียกทอมตั้งหลายครั้งก่อนจะเดินเข้ามาเอามือแตะไหล่

"ขอโทษที่ทำให้ตกใจทอม.. คิดอะไรอยู่"

"เปล่า.. ไม่ได้คิด แค่ยืนดูสายฝนเฉยๆ ตอนเด็กๆ นายกลัวฟ้าร้องมั้ยจิม.."

จิมเลิกคิ้วนึกแปลกใจกับคำถาม
"ฟ้าร้องไม่กลัวหรอกกลัวฟ้าผ่ามากกว่า แล้วนายล่ะ.. กลัวหรือเปล่า"

"ฉัน.. เอ่อ.. ฉันก็ไม่กลัว.." ทอมหลบสายตาจิมขณะตอบเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับโกหกได้

"แต่เฉพาะเด็กบางคนหรอกที่ไม่กลัว" ทอมรำพึงอย่างครุ่นคิดก่อนจะหันมายิ้มกับจิมอย่างมีแผน

"มาทดสอบกันดีกว่าจิม.. ว่าเด็กผู้ชายอายุ 12 ปี กลัวฟ้าร้องหรือเปล่า.."

ทอมฉุดแขนจิมเดินออกไปที่เทอเรซหน้าบ้าน จิมอ้าปากหวอเมื่อทอมเขวี้ยงกุญแจรถออกไปกลางสนาม สีหน้าและแววตาส่อความโกรธแค้นและชิงชัง ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าใครที่ทอมกำลังรู้สึกเกลียดชังอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าจู่ๆ ทำไมอารมณ์ถึงพลุ่งขึ้นมา

"ทำอะไรน่ะ ทอม.. อย่าบอกนะว่าจะให้…."

"ใช่" ทอมสวนขึ้นทันควันก่อนจะตะโกนเรียกหาสาวใช้

"ตอนนี้เลยเหรอ.."

จิมถามย้ำและนิ่งอึ้งเมื่อทอมพยักหน้ารับ ทอมออกปากยกหน้าที่จัดการเด็กให้เขา ไม่ใช่เพราะเกลียดเด็กจนไม่อยากพูดจาด้วยเพียงอย่างเดียว แต่เพราะโดยนิสัยแล้วทอมเป็นคนอ่อนโยน ใจไม่แข็งพอที่จะกระทำทารุณกับเด็กได้ ยกเว้นเวลาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเหมือนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น

วิธีที่ทอมกำลังจะทดสอบเจ้าหนูแม็กในขณะนี้ เป็นเรื่องที่เขานึกไม่ถึงและถึงนึกได้ก็ไม่กล้าทดสอบด้วยเพราะอันตรายและเสี่ยงเกินไป ไม่อยากเชื่อเลยว่าทอมกล้าที่จะทดสอบเจ้าหนูด้วยวีธีที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้…



ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #37 เมื่อ20-01-2010 13:09:40 »

"ไปเรียกเจ้าหนูแม็กมาหาฉันเดี๋ยวนี้"
"ค่ะ คุณทอม.." สาวใช้รับคำสั่งและรีบเดินกลับเข้าไปตามเด็กชาย
"จะดีหรือ ทอม.. ฟ้าลงขนาดนี้ มันอันตรายนะ"
"ไม่มีอันตรายหรอกน่า จิม.. อย่างมากก็แค่ตกใจกลัว ร้องไห้เท่านั้นเอง"
ทอมหัวเราะชอบใจและกล่าวแดกดันจิม
"ฉันไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์หรอก นี่มันสัปดาห์ที่ 3 เข้าไปแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะครบเดือน เรามีเวลาแค่ 2 เดือนนะ จะให้ฉันนั่งใจเย็นอย่างนายได้ยังไง ไม่ใช่นายนี่หว่าที่เด็กนั่นอยากจะพิสูจน์ด้วย"
"ไม่เอาน่าทอม อย่าโมโหซี.."
จิมเหนื่อยใจ พูดถึงเรื่องนี้ทีไรเทพบุตรของเขาจะอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นทันที เขาเตรียมแผนสุดท้ายที่จะจัดการกับเด็กชายเอาไว้แล้ว ซึ่งแผนนี้เขาไม่สามารถบอกให้ทอมรู้ได้ รู้แต่ว่าจัดการเรียบร้อยเมื่อไรเจ้าหนูแม็กจะต้องเก็บเสื้อผ้าหนีกลับบ้านทันที


 :m15:


แม็กกี้ใจเต้นระทึกขณะทรุดตัวลงตรงหน้าชายหนุ่มทั้งสอง อุตส่าห์ทำใจไว้แล้วว่าวันนี้คงเป็นอีกวันที่ตัวเองจะต้องถูกทดสอบ ถ้าเป็นคุณจิมเรียกหาแม็กคงไม่ตื่นเต้นเท่าไร แต่นี่เป็นคุณทอม แถมน้าแววยังแอบกระซิบบอกว่าคุณทอมอารมณ์ไม่ค่อยดี ให้ระวังด้วย…

"ฉันมีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อย"
เด็กชายหน้าตื่นรู้สึกตื่นเต้นและยินดีเพราะเป็นครั้งแรกที่คุณทอมยอมพูดด้วย เกือบ 3 สัปดาห์ที่อยู่ที่นี่ทอมไม่เคยพูดหรือออกคำสั่งอะไรกับเด็กชายด้วยตัวเองเลย
"ครับ" เด็กชายพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ดีใจที่วันนี้คุณทอมเป็นคนออกคำสั่งเอง
"ฉันทำกุญแจรถหาย คิดว่าคงหล่นที่สนาม เธอช่วยไปหาให้หน่อย"
"ได้ครับ ฝนหยุดเมื่อไร ผมจะออกไปหาทันที"
"เดี๋ยวนี้" ทอมย้ำสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา รู้สึกสะใจที่เห็นเด็กชายหน้าถอดสีและหันไปมองสายฝนที่กำลังเทลงมาอย่างหนัก
"เอ่อ.. แต่ฝนกำลังตกหนัก นะครับ"
"แล้วไง.. กะอีแค่ฝน กลัวด้วยเหรอ.." ทอมทรุดตัวลงส่งยิ้มหวานให้เด็กชาย
"บอกซีว่าเธอกลัวและทำไม่ได้ การทดสอบจะได้จบลงซะที ฝนหยุดเมื่อไร เธอจะยอมเก็บกระเป๋าออกจากบ้านฉันไปแต่โดยดีใช่มั้ย"
ทั้งคำพูดสีหน้าและสายตาของทอมราวกับจะหลอมเด็กชายตรงหน้าให้ละลายไปพร้อมกับสายฝน
"ผมไม่กลัว ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้ครับ"

แม็กกี้รีบส่ายหน้าและตอบรับเสียงสั่น ทำใจดีสู้ทั้งที่หัวใจเต้นแรง คุณทอมไม่รู้หรอกว่าแม็กกลัวฟ้าร้องฟ้าผ่าขนาดไหน ตอนเด็กๆ เคยเห็นฟ้าผ่าลงตรงหน้ามาแล้วต้นมะพร้าวถูกแยกเป็น 2 ส่วน ไหม้เป็นตอตะโกทันที แต่ถึงจะกลัวแค่ไหนแม็กก็ไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ หรอก

"ตกอยู่แถวไหนหรือครับ จะได้หาถูกที่"
"หึ! ถ้าฉันรู้ว่าตกที่ไหนคงไม่เรียกเธอไปหาหรอก เร็วๆ เข้า ฉันจะออกไปข้างนอก" ทอมจำเป็นต้องเร่งเวลาก่อนที่ฝนจะหยุดตก
"เอ่อ.. ครับ" แม็กกี้รับคำและลุกขึ้นยืน ตาปริบๆ มองสายฝนที่กำลังเทลงมาอย่างหนัก

แม็กกี้ยืนทำใจอยู่ใต้ชายคาโรงรถชั่วอึดใจก่อนจะวิ่งฝ่าสายฝนออกไปที่สนาม แต่เพียงแค่วูบแรกก็สะท้านแล้ว… จุดแรกที่ต้องหาก่อนคือ บริเวณที่คุณทอมนั่งพักผ่อนเป็นประจำ แม็กกี้ทรุดตัวลงพยายามใช้สองตาและสองมือให้เป็นประประโยชน์ที่สุด ฝนตกหนักมากจนแทบจะมองไม่เห็นเพราะไม่สามารถลืมตาได้ ต้องก้มหน้าคลานไปตามพื้นสนาม บริเวณใต้โต๊ะและเก้าอี้ที่คุณทอมนั่งประจำ ไม่มีกุญแจหล่นอยู่ มันควรจะตกอยู่ตรงไหนเหรอ คุณทอมเดินไปตรงไหนบ้างนะ

เปรี้ยง!!!!…

ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกสุดตัว หัวใจแทบหยุดเต้น จู่ๆ ฟ้าก็คะนองโดยไม่ส่งแสงแว่บลงมาให้รู้ตัวก่อน

"เร็วๆ หน่อย อย่ามัวแต่หลบอยู่ ฉันต้องรีบไป"

แม็กไม่รู้ว่าคลานเข้ามาหลบใต้โต๊ะตั้งแต่เมื่อไร รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคุณทอมดังแว่วฝ่าสายฝนมา จึงรีบคลานออกจากใต้โต๊ะและตัดสินใจลุกขึ้นยืน เพราะถ้ายังขืนคลานอยู่อย่างนี้ทัศนวิสัยในการมองหาคงไม่ดีแน่ แม็กก้มลงมองที่พื้นสนามและกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ ขยับถอยหลังไปเรื่อยๆ มีแสงแว่บเมื่อไรก็ยกสองมือกุมศีรษะไว้ทุกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบังอะไรได้

เด็กชายเดินหาเกือบรอบสนามแล้วก็ยังไม่เจอ ฝนก็ไม่ยอมหยุดตกซะที ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงด้วย เหมือนเป็นใจให้กับการทดสอบของทอม หนุ่มน้อยใช้สองมือสวมกอดตัวเองไว้ เพราะหนาวจับใจจนถึงกระดูกแล้ว ปากสั่นจนฟันกระทบกัน ขาสองข้างก้าวแทบไม่ออกเพราะอาการสั่นสะท้าน

"… หนาวจังเลย แม่จ๋า… กุญแจ… กุญแจคุณทอม… อยู่ไหน… แม่จ๋า…กุญแจ…"

จิมรู้สึกไม่ค่อยชอบใจกับวิธีทดสอบของทอม เป็นคนบอกเขาเองว่าอย่าทำทารุณหรือทรมานเด็กให้เจ็บหรือหิว แต่ที่ตัวเองทำอยู่ตอนนี้มันทารุณเด็กเห็นๆ

"พอเถอะน่า ทอม.. หาไม่เจอหรอก เรียกขึ้นมาเถอะ"
ทอมยืนกอดอกดูเด็กชายยืนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางสายฝนด้วยความสะใจ
"ถึงเรียกก็ไม่ยอมขึ้นหรอก เด็กนั่นคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ"
"ไม่เอาน่าทอม.. บอกเด็กว่านายไม่ต้องการกุญแจแล้ว หาวิธีทดสอบอย่างอื่นดีกว่า"
"ไม่.. ฉันต้องการกุญแจ นายจะใช้วิธีไหนก็เรื่องของนาย คิดเตรียมไว้ด้วยก็แล้วกัน ฉันเชื่อว่าเด็กนั่นต้องหาเจอแน่ แค่อยากจะแกล้งให้ตกใจเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าบ้างเท่านั้นเอง"


 :laugh3:


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #38 เมื่อ20-01-2010 13:20:38 »

"พี่เอ๊ดดี้.. คุณทอมเธอให้แม็กกี้ออกไปหาอะไรที่สนามน่ะ ..."

นายเอ๊ดส่ายหน้าความหมายไม่รู้ว่าให้หาอะไร รู้แต่ว่าเป็นการทดสอบจากเจ้านายหนุ่มทั้งสองอีกแน่ รู้สึกไม่ชอบใจการกระทำของเจ้านายและคุณจิมที่ผลัดกันหาวิธีทดสอบเด็กชายวัยเพียง 12 ปี คนนี้อย่างโหดร้ายทารุณผิดวิสัยของชายหนุ่มทั้งสองหน้ามือเป็นหลังมือ

…ทำไมเจ้านายถึงไม่ยอมพิสูจน์ความจริงกับเด็กไปซะ เรื่องจะได้จบๆ ไป ยังไงก็ไม่ใช่อยู่แล้ว เอ๊ะ...แต่ถ้าเกิดใช่..ขึ้นมาล่ะ… เฮ้อ! เป็นคนมีชื่อเสียงนี่ลำบากชะมัด เพื่อรักษาภาพพจน์ซีนะ เจ้านายและคุณจิมถึงต้องสวมหน้ากากยักษ์แสร้งโหดร้ายใจดำผิดวิสัยแบบนี้…


 :z3:



แม็กกี้ยืนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางสายฝนและฟ้าคะนอง ไม่รู้ว่าจะเริ่มหาตรงไหนต่อดี ฟ้าแลบแปลบปลาบขึ้นอีกครั้ง พลันมีแสงแว่บสะท้อนขึ้นมาจากพื้นสนามข้างหน้า แม็กเบิกตาโพลงด้วยความดีใจ ลืมไปเลยว่าจะต้องยกสองมือปิดหู รีบสาวเท้าเดินตรงไปด้วยอาการสั่นสะท้าน และมัวแต่จับจ้องอยู่ที่พื้นสนามข้างหน้า จึงสะดุดก้อนหินล้มลง สายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องอยู่กลางสนามเบิกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อเจ้าหนูแม็กกี้ล้มลงพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง จิมอุทานและเผลอเรียกเด็กชายด้วยความเป็นห่วงรีบหันมาเพื่อบอกให้ทอมเลิกทดสอบเด็กชายด้วยวิธีนี้ ก็พบว่าเทพบุตรของเขายืนหน้าถอดสีอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน

 o2

ยังไม่ทันที่จิมจะเอ่ยอะไรนายเอ๊ดก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา มือถือร่มคันใหญ่เตรียมพร้อม

"เจ้านายครับ จะให้ผมออกไปรับเด็กมั้ยครับ"

ทอมยังอยู่ในอาการตะลึงไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปและไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
"รีบไปพาแม็กกี้เข้ามา เอ๊ดดี้.. บอกว่าคุณทอมไม่ต้องการของแล้ว"

จิมฉวยโอกาสตัดบทและจบการทดสอบเด็กชายแต่เพียงเท่านี้ ไม่สนใจว่าทอมจะคัดค้านหรือไม่ เกือบครึ่งชั่วโมงที่เจ้าหนูต้องทนหนาวอยู่ท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก มันมากเพียงพอที่จะผ่านการทดสอบแล้ว

จิมโล่งอกเมื่อเห็นเด็กชายขยับตัวขึ้น คงแค่ตกใจเสียงฟ้าร้องจึงล้มลง แต่เทพบุตรทอมที่สวมวิญญาณมารร้ายเมื่อสักครู่ยังยืนอึ้งอยู่ สีหน้ารู้สึกผิดจนจิมแอบลอบยิ้มในใจ มารร้ายคงออกจากร่างแล้วกระมัง

"แม็กกี้.. แม็กกี้.. เป็นอะไรหรือเปล่า.. เฮ้! ไอ้หนู.. กลับเข้าไปข้างในกันเถอะ ไม่ต้องหาแล้ว คุณทอมไม่ต้องการแล้ว"

นายเอ๊ดประคองเด็กชายขึ้นยืน ทั้งๆ ที่ร่างกายสั่นสะท้านแต่เจ้าหนูกลับส่งยิ้มให้เขาและโชว์ของในมือให้ดู

"ผมหาเจอแล้ว… หาเจอแล้ว..ครับ กุญแจ..รถ..คุณทอม ในที่สุด..ผ..ผมก็หาเจอ.." เด็กชายเสียงสั่นจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ หากแต่กุญแจรถในมือเจ้าหนูทำให้นายเอ๊ดถึงกับตะลึงและอึ้งไป

….ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณทอมให้เด็กชายออกมาหากุญแจรถทั้งๆ ที่กุญแจสำรองก็มีอยู่ที่เขาและคุณจิมคนละชุด คุณทอมจงใจแกล้งเจ้าหนูแม็กอย่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย….

นายเอ๊ดประคองเด็กชายเดินกลับเข้ามาและกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรแน่นะ แม็กกี้.. รีบไปอาบน้ำแล้วเช็ดตัวให้แห้งเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย"
"ไม่.. ไม่เป็นไรครับ.. ผมต้องเอากุญแจไปให้คุณทอมก่อน.."
จิมคว้าแขนทอมซึ่งทำท่าจะเดินกลับเข้าบ้านเมื่อเห็นเด็กชายเดินเข้ามาหา
"จะไปไหนทอม.. รู้สึกว่าไอ้หนูจะหา ของ ให้นายได้แล้วนะ รับของจากเด็กก่อน"
“ไม่.. นายรับล่ะกัน จิม.. ฉันจะเข้าข้างใน"
ทอมพยายามจะเดินหนีแต่ถูกจิมฉุดไว้
"ไม่ได้นะทอม.. นายต้องรับด้วยตัวเอง คำสั่งของนายไม่ใช่ของฉัน"
"โธ่เว้ย! จิม.. ช่วยรับหน่อยไม่…"

"คุณทอมครับ.. ผมหากุญแจได้แล้ว…"  :m15:

ทอมชะงักเมื่อเสียงสั่นสะท้านของเด็กชายดังขึ้นด้านหลัง เขาจำต้องหันไปเผชิญหน้าด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เพียงแว่บแรกที่เห็นก็ใจหายวาบแล้ว..

เด็กชายในสภาพมะล่อกมะแล่ก น้ำหยดเป็นทาง ยืนตัวสั่นอยู่ที่ขั้นบันไดไม่ยอมก้าวขึ้นมา ริมฝีปากบางซีดจนเกือบจะเขียวเผยอยิ้มให้เขาพร้อมๆ กับยื่นกุญแจที่อยู่ในมือให้ดู

"ใช่..อันนี้..หรือเปล่า..ครับ คุณทอม.." เสียงเจ้าหนูขาดหายเป็นห้วงๆ เพราะอาการสะท้าน มือที่ยื่นกุญแจให้สั่นระริกจนทอมต้องรีบหยิบขึ้นมาถือไว้

"ใช่.. ขอบใจ" ทอมไม่อาจกล่าวอะไรได้มากกว่านี้ ไม่รู้ว่าอารมณ์โกรธแค้นและชิงชังเด็กชายอย่างรุนแรงเมื่อสักครู่หายเป็นปลิดทิ้งได้อย่างไร
"ขอบใจ แม็กกี้.. หมดธุระแล้ว รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ" จิมกล่าวตัดบทเมื่อทอมยืนนิ่งไม่ยอมพูดอะไรต่อ
"ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมไปอาบน้ำนะครับ คุณทอม.."
เด็กชายเอ่ยขออนุญาตทอมเสียงสั่น ทอมพูดอะไรไม่ออกได้แต่พยักหน้าให้
"กุญแจก็ได้มาแล้ว จะออกไปเที่ยวไหนหรือ ทอม.. อากาศเย็นสบายแบบนี้นอนอยู่บ้านไม่ดีกว่าเหรอ.."

จิมกระเซ้าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ และชะงักทันควันเมื่อทอมออกอาการฉุนด้วยการปากุญแจรถใส่เขา ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านด้วยความไม่สบอารมณ์

อีกครั้งที่จิมต้องกล่าวตัดบทให้เทพบุตรของเขา เพราะขืนให้ทอมพูดมากกว่านี้ ประโยคต่อไปอาจเป็นคำขอโทษก็ได้ เขารู้ว่าทอมใจเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับการทดสอบของทอมในครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้ทอมแสดงความใจอ่อนกับเด็กชายได้


 o3

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #39 เมื่อ20-01-2010 13:23:55 »

แม็กกี้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่กลับเข้าห้องเพราะรู้สึกหนาวจนถึงกระดูกแล้ว ถ้าต้องอาบน้ำก่อนอาจแข็งตายอยู่ในห้องน้ำก็ได้ แต่จนถึงตอนนี้แม็กนั่งกอดเข่าห่มผ้าอยู่บนที่นอนนานเกือบชั่วโมงแล้วก็ยังไม่หายหนาวเลย

"ขอบคุณฮะแม่.. ขอบคุณที่ช่วยหากุญแจให้ผม.."

แม็กกี้พึมพำขอบคุณแม่ไปมา สะดุ้งเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงเรียกของนายเอ๊ด
"แม็กกี้.. ทำอะไรอยู่ น้าเข้าไปนะ"
นายเอ๊ดวางชามข้าวต้มลงข้างๆ เด็กชาย
"เป็นไงมั่ง ยังหนาวอยู่เหรอ"
"ค่อยยังชั่วแล้วครับ"
"อือ.." นายเอ๊ดพยักหน้าหงึก หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กบนที่นอนเช็ดผมที่ยังชื้นอยู่ให้เด็กชายด้วยความรู้สึกเวทนา
"อาบน้ำแล้วใช่มั้ย เช็ดผมให้แห้งซี เดี๋ยวไม่สบาย "
เด็กชายสั่นศีรษะ "ยังไม่ได้อาบครับ ผมหนาว เดี๋ยวค่อยอาบตอนเย็น.."
"อ้าว! แล้วกัน เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก งั้นทานข้าวต้มร้อนๆ ก่อนจะได้อุ่นขึ้น"
"ขอบคุณครับ" แม็กกี้รับถาดข้าวต้มจากนายเอ๊ดมาถือไว้ และตักทานทันทีเพราะกำลังรู้สึกหิวพอดี
"คุณทอมไปแล้วหรือครับน้าเอ๊ดดี้ ไปกับคุณจิมใช่มั้ย ทำไมวันนี้คุณทอมไม่ให้น้าขับรถให้ล่ะครับ"
"เอ่อ.." นายเอ๊ดอึกอักตอบไม่ถูก ยังไงคุณทอมก็เป็นเจ้านายที่เขารักและเคารพมาก
"คุณทอมเปลี่ยนใจไม่ไปแล้วล่ะ คงเห็นเราลำบากต้องออกไปตากฝนก็เลยไม่สบายใจ"

นายเอ๊ดจำต้องบอกไปเช่นนั้นเพื่อให้เด็กชายสบายใจและมีกำลังใจต่อสู้กับเกมทดสอบสุดโหดต่อไป ซึ่งเขาเองก็แอบเอาใจช่วยเจ้าหนูแม็กกี้ให้ชนะเพราะอยากรู้ความจริงด้วยเช่นกัน

"จริงเหรอครับ แย่จัง เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่ต้องทำตามคำสั่งให้สำเร็จ ผมไม่อยากให้คุณทอมไม่สบายใจเลย ผมไม่ได้ลำบากอะไรซะหน่อย แค่หนาวนิดหน่อยเอง"

นายเอ๊ดส่ายหน้า เมื่อเห็นเจ้าหนูแม็กกี้ห่วงความรู้สึกของคุณทอมมากกว่าตัวเอง
"ถามจริงๆ เถอะ แม็กกี้.. จะทำยังไงต่อไปถ้าสามารถพิสูจน์ความจริงกับคุณทอมได้.. และถ้าคุณทอมเป็นพ่อจริงๆ แต่เขาไม่ยอมรับล่ะ จะทำยังไง?.."
"ผมไม่ได้ต้องการให้คุณทอมยอมรับ ผมแค่อยากรู้ความจริงเฉยๆ รู้แล้วผมก็จะไป ผมจะไม่กลับมากวนใจคุณทอมอีก.."
"จริงเหรอ" นายเอ๊ดหน้าตื่น ตกใจกับคำตอบที่ได้รับ
"คุณทอมรู้เรื่องนี้หรือเปล่า ว่าเราไม่ต้องการอะไรน่ะ.."
"ทราบครับ คุณจิมทราบ คุณทอมก็ทราบ"
"อือ…ไม่อยากเชื่อเลย " นายเอ๊ดส่งเสียงครางและพึมพำเบาๆ กับตัวเองก่อนจะซักคำถามต่อไปด้วยความอยากรู้
"แล้วจะกลับไปไหนเหรอ.. กลับบ้านที่เมืองกาญจน์หรือเปล่า"
"ไม่ครับ ผมไม่กลับไปที่นั่น"
"อ้าว! แล้วจะไปไหนล่ะ บอกหน่อยได้มั้ย เผื่อวันหน้าวันหลังน้าจะได้ไปเยี่ยมไง.."
"ผมก็ยังไม่รู้เลยครับว่าอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเป็นเกาะ ญาติของแม่เปิดร้านอาหารที่นั่น เคยชวนแม่กับผมไปอยู่ด้วย ก่อนแม่ตายแม่สั่งให้ผมไปอยู่กับเขา ไปช่วยทำงานด้วยครับ.."

เสียงเด็กชายอ่อยลงเมื่อพูดถึงแม่ และวางชามข้าวต้มที่เหลือกว่าครึ่งลง
"อ้าว! อิ่มแล้วเหรอ ทำไมกินน้อยจัง"
"อิ่มแล้วครับ เดี๋ยวผมจะเอาที่อยู่ให้ดู น้าช่วยบอกทางให้ผมด้วยนะครับว่าไปยังไง"

นายเอ๊ดพยักหน้ารับ รู้สึกเวทนามากขึ้นเมื่อรู้ว่าเด็กชายต้องการรู้ความจริงเฉยๆ ไม่ได้หวังหรือต้องการอะไรจากเจ้านายหนุ่มของเขาสักนิด แม้ว่าความจริงจะใช่ก็ตาม ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณทอมจะพยายามหลบเลี่ยงโดยการเปิดเกมทดสอบเด็กทำไมกัน

แม็กกี้หยิบสมุดที่หัวนอนออกมาเปิดและพลิกหน้ากระดาษไปมา นายเอ๊ดจึงได้มีโอกาสเห็นว่าสมุดเล่มนี้คงเป็นทั้งไดอารี่และอัลบั้มคนพิเศษของเด็กชาย เพราะมีทั้งตัวหนังสือและรูปถ่ายคละไปมาเกือบทุกหน้า

"เอ่อ.. แม็กกี้ อย่าหาว่าน้าเสียมารยาทเลยนะ ภาพในสมุดนั่นใช่คุณทอมหรือเปล่า.."
"ใช่ครับ อ๊ะ ! เจอแล้ว.." เด็กชายหยิบซองจดหมายเปล่าที่เสียบอยู่ในหน้าท้ายๆ ของสมุดยื่นให้นายเอ๊ด

"นี่ครับ น้าเอ๊ดดี้ ที่อยู่ญาติของแม่.."
นายเอ๊ดรับซองจดหมายไว้แต่ตายังจับจ้องอยู่ที่สมุดบนตักเจ้าหนู
"เอ่อ.. ขอน้าดูรูปคุณทอมหน่อยได้มั้ย แม็กกี้.. ไปหาตัดมาจากไหนเหรอ ภาพสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะ"
"ได้ซีครับ ผมขอตัดมาจากหนังสือแฟชั่นและนิตยสารของร้านเสริมสวยที่แม่ทำงานอยู่ครับ"
เด็กชายเปิดสมุดหน้าที่มีรูปทอม แม็คกิลล์ 2 รูปใหญ่ๆ ยื่นให้นายเอ๊ดดู
"ดูซีครับน้าเอ๊ดดี้.. คุณทอมหล่อจังเลยเนอะ ดูเท่าไรก็ไม่เบื่อเลย ผมมีความสุขที่สุดเวลาได้ดูรูปคุณทอม โชคดีนะที่คุณทอมเป็นนายแบบมีชื่อเสียง ไม่งั้นผมคงไม่มีปัญญาทำอัลบั้มรูปพ่อในฝันของผมได้หรอก.."  :m1:

เด็กชายพูดถึงคุณทอมด้วยสีหน้าเป็นสุขจริงๆ และยังเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นว่าคุณทอมเป็นพ่อของตัวเองแน่นอน บรรยากาศรอบตัวเจ้าหนูสดชื่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ทำเอานายเอ๊ดนั่งอึ้ง ไม่เข้าใจความต้องการของเด็กชาย ในเมื่อเชื่อมั่นขนาดนี้จะมาขอพิสูจน์ความจริงทำไมอีก…


 :m1:


TBC >>>


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2010 13:26:27 โดย j-muay »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
« ตอบ #39 เมื่อ: 20-01-2010 13:23:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #40 เมื่อ20-01-2010 15:26:58 »

คงแค่อยากอยู่ใกล้ๆพ่อแต่รู้ว่าการที่พ่อเป็นคนมีชื่อเสียงทำให้ไม่สามารถทำได้เลยอ้างไปว่าอยากพิสูจน์หรือเปล่า?


สวัสดีค่ะเจ๊หมวย   :กอด1: :L2:

ไอว่าจะเมลล์ไปหาหลายรอบแล๊ะ อยากบอกว่าเรื่องราวของ 'ปะป๊าโยกะพ่อโจ' สนุกมากมายค่ะ  ไออ่านจบไปหลายรอบแล๊ะ  :-[ 


ไอล่ะชอบแนวนี้จริงๆ  แต่เพิ่งเห็นเรื่องนี้เนี๊ยแหละ  เดาแนวเรื่องไม่ออกเลย  มันจะเป็นแนว daddy's love ยังไงหว่า??  แนวทารุณกรรมเด็กล่ะไม่ว่าสิน่าาาา

นี่ถ้าไม่ใช่พ่อเด็กจริงๆและไปทำให้เขาเกลียดจะยุ่งไปใหญ่นะ สังคมเด๋วนี้ลูกแจ้งความพ่อได้นะแล้วถ้าไม่ใช่ยิ่งแล้วใหญ่ จะอ้างว่าเด็กเต็มใจไงก็ฟังไม่ขึ้นหรอกนะ   :angry2:

(ชักเกลียดทอมกะจิมจริงๆนั่นแหละ)    สงสารแม๊กกี้โว้ย!!!!!!!!!!!            :m31: :fire:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #41 เมื่อ20-01-2010 16:03:25 »

แหะ ๆ  เพื่อนๆ น้องๆ ค้า~


เรื่องนี้ตอนต้นๆ   อ่านแล้วจะพลุ่งพล่านแบบนี้กันทุกคน  :m16:


เวลาที่น้องๆ  ต่อว่าทอมกับจิม  เจ๊หมวยรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ไปด้วย


แหะๆ ยังไงก็ขอให้ใจเย็นๆ กันนิสนึง


เชื่อเหอะว่า  สายใยรัก    เป็นนิยาย  Daddy's love   จริงๆ  ไม่โกหก


 :oni1:



ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #42 เมื่อ20-01-2010 16:26:40 »

เค้าเชื่อเจ้แหละ  :laugh: เจ้จะไม่เขียนต่อรุ่นหลานหรอ  :jul3: อยากอ่านอะ

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #43 เมื่อ20-01-2010 17:24:32 »

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

วันนี้จะมีแถมอีกรอบไหมน้อ :-[

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #44 เมื่อ20-01-2010 19:07:52 »

เข้ามาอ่านด้วยคนคับ

:m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

วันนี้จะมีแถมอีกรอบไหมน้อ :-[

นั่นสิเนาะ

gypsy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #45 เมื่อ20-01-2010 20:14:50 »

หมั่นไส้ จิมกับ ทอม อย่างแรง

สองคนนี้มีซัมติ้งกันแน่ๆเลยอ่ะ

อย่างเช่น ทอมแอบชอบจิมอยู่แหงๆ

แล้ว daddy's love เนี่ย

หึหึหึ จะมีอะไรผิดศีลธรรมหรือเปล่าคับ

แบบว่าชอบ 5555

ขอบคุณเจ๊หมวยสำหรับนิยายสนุกๆนะคับ


ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #46 เมื่อ20-01-2010 22:25:54 »

 :angry2:ไอ้บ้าทอมทำไมถึงได้ใจร้ายอย่างนี้อ่ะ
สงสารน้องแม็กกี้จัง :m15: :m15:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #47 เมื่อ20-01-2010 23:06:41 »


บทที่ 3 ต่อ...



"หลังจากวันพรุ่งนี้ คุณทอมไม่มีคิวว่างให้เวลาทั้งวันแล้วนะ ลูซี่.. ถ้าไม่จบภายในพรุ่งนี้ เธอเตรียมแก้ปัญหาเองล่ะกัน"
จิมตัดสายโทรศัพท์จบการนัดหมายงานถ่ายแบบสำหรับวันพรุ่งนี้ เขาต้องเคลียร์คิวและจัดตารางการทำงานให้ทอมล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ โดยพยายามให้มีวันว่างอาทิตย์ละหนึ่งวัน เพื่อให้ทอมได้พักผ่อน
"พรุ่งนี้มีถ่าย Location สายๆ แต่เราต้องออกเดินทางไม่เกินสองโมงเช้า คืนนี้เข้านอนเร็วหน่อยนะทอม.." จิมพูดขณะก้มหน้าก้มตาจดคิวงาน
เงียบ!!! ไม่มีเสียงโวยหรือบ่นว่าใดๆ กลับมา ซึ่งผิดวิสัยของทอม
จิมเงยหน้าขึ้นก็พบเทพบุตรของเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ ร่างสง่างามยืนกอดอกอยู่ริมหน้าต่าง สายตาทอดยาวออกไปถึงไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าที่เขาพูดไปเมื่อสักครู่ทอมไม่ได้ยินแน่
จิมวางมือ ลุกขึ้นเดินเข้าไปโอบไหล่ทอมและกระซิบถาม
"เป็นอะไรทอม.. ไม่สบายใจเหรอ อย่าคิดมากซี "
"รู้เหรอว่าฉันคิดอะไรอยู่"
จิมหัวเราะ
"ทำไมจะไม่รู้ล่ะ นายไม่สามารถปิดบังอะไรฉันได้ เพราะนายเก็บซ่อนความรู้สึกไม่เป็น ฟังนะทอม.. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นแค่เกมทดสอบ และเด็กก็เป็นฝ่ายชนะเราด้วย ไม่ต้องคิดมากและไม่ต้องเสียใจกับเรื่องที่ทำลงไป"
ทอมถอนใจเฮือก
"แต่ภาพตอนที่เด็กล้มลงไปพร้อมๆ กับเสียงฟ้าร้องยังติดตาฉันอยู่เลย ถ้ามันไม่ใช่ฟ้าร้องแต่เป็นฟ้าผ่า… อะไรจะเกิดขึ้น นายเตือนฉันแล้วแต่ฉันไม่ฟัง มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยถ้าเด็กเป็นอะไรไปเพราะคำสั่งบ้าๆ ของฉัน"
อารมณ์และความรู้สึกของทอมที่มีต่อเด็กชายในนาทีนี้ไม่ได้เกลียดหรือชิงชังแต่กลัว.. ทอมหันมาสวมกอดและซบลงที่ไหล่จิม
"เมื่อไรเด็กจะไปจากเราซะที ฉันไม่อยากเห็นหน้าไอ้หนูแม็กกี้อีกเลย จิม.."
"ใจเย็นๆ น่าทอม เด็กนั่นอยู่ได้ไม่ถึง 2 เดือนหรอก ปล่อยฉันจัดการเอง นายไม่ต้องทำอะไรเหมือนเมื่อกลางวันนี้อีกแล้ว อยู่เฉยๆ แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย ฉันสัญญา… เจ้าหนูแม็กกี้จะต้องไปจากเราโดยไม่มีโอกาสได้พิสูจน์อะไรทั้งนั้น และจะไม่กล้าหวนกลับคืนมาอีกด้วย…"
ทอมรู้สึกสบายใจและคลายความกังวลเป็นปลิดทิ้ง เขาไม่เคยผิดหวังกับเรื่องที่จิมรับปากหรือให้สัญญาเลย
"ขอบใจนะ จิม.. พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าใช่มั้ย ฉันควรจะไปนอนได้แล้วซีนะ"
จิมพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มและสายตาสื่อความรักใคร่และห่วงใยจนทอมรู้สึกเขินรีบผละออก แต่ขยับจะก้าวเดินก็ชะงักและหันกลับมาจูบแก้มผู้จัดการส่วนตัวของเขาก่อนจะขยับลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบาอีก 1 ครั้งแถมให้
"จูบที่นายต้องการ ฉันให้เป็นรางวัล ขอบใจอีกครั้งนะ จิมมี่.. กู๊ดไนท์.."
ทอมเดินตัวปลิวขึ้นไปนอนอย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้จิมยืนตะลึงกับรางวัลที่ได้รับ เป็นอาการตะลึงที่แฝงไว้ด้วยความผิดหวัง…
"นั่นไม่ใช่จูบที่ฉันต้องการ ฉันไม่ใช่เด็ก 2 ขวบนะ ทอม.. ถือซะว่านายยังติดรางวัลฉันอยู่ และฉันจะรอจนกว่านายจะใจอ่อน ถึงวันนั้นฉันจะทบทั้งต้นทั้งดอกให้สาแก่ใจเลย แม็คกิลล์..."


 :haun5:


"ป้า.. อาหารเช้าตั้งโต๊ะ 2 ที่นะจ๊ะ วันนี้คุณทอมมีงานเช้า อ้อ! แล้วช่วยเตรียมอาหารว่างเผื่อให้เธอระหว่างทางด้วย เพราะต้องนั่งรถยาวไปถึงเขาใหญ่นู่น...แน่ะ "
"ใครให้เอ็งมาสั่งข้า นังแวว.. แล้วรู้ได้ไงว่าคุณทอมออกเช้า"
"อุ๊ย! ฉันจะกล้าสั่งป้าได้ยังไง คำสั่งคุณจิมเธอนะ ไม่เชื่อถามพี่เอ๊ดดี้ดูซิ"
นายเอ๊ดเดินหน้ามุ่ยเข้ามาในครัวพอดี
"วันนี้คุณทอมมีงานเช้าหรือวะ เอ๊ดดี้.. ทำไมคุณจิมไม่เห็นบอกข้า"
“ใช่.. ป้า ออกเดินทาง 2 โมงเช้านี่ล่ะ คุณจิมคงลืมสั่งมั้ง"
"จริงด้วย คุณจิมคงงานยุ่งน่ะ เมื่อวานเห็นติดต่อนัดคิววุ่นวายไปหมด มาเถอะป้า เร่งมือเถอะ ฉันช่วยเอง"
สาวใช้แววรีบเออออตามสามีและกุลีกุจอเข้าไปช่วยป้าทิพย์เตรียมอาหาร เพราะจริงๆ แล้วจิมสั่งงานไว้ที่เธอและฝากให้บอกป้าทิพย์ด้วย คนที่ลืมคือตัวเธอเอง
นายเอ๊ดยืนหมุนตัวไปมานึกไม่ออกว่าเข้ามาทำอะไรในครัวสักครู่ก็อุทานขึ้นมาเพราะนึกขึ้นได้
"เออ! ใครเห็นเจ้าหนูแม็กบ้าง"
"โอ๊ย! ตกใจหมดพี่เอ๊ดดี้ ตะโกนขึ้นมาได้ ฉันไม่เห็นหรอก ป้าเห็นมั้ย"
"ข้าก็ไม่เห็น อยู่ที่สนามหรือเปล่า เวลานี้ถ้าไม่กวาดถนนก็รดน้ำต้นไม้ แต่เมื่อวานฝนตกหนักเลยไม่ต้องลดล่ะมั้ง"
"เอ..ไม่เห็นที่สนามเลยนะป้า ใบไม้เกลื่อนเต็มถนนก็ยังไม่ได้กวาด ที่สำคัญรถ 3 คันก็ยังไม่ได้ปัดเช็ด ดีนะที่เมื่อวานเจ้านายไม่ได้ออกไปไหน"
นายเอ๊ดยืนรำพึงก่อนจะเสียงดังขึ้นอีกเพราะนึกขึ้นได้
"เฮ้! หรือจะออกไปตลาดนัด เมื่อวานเห็นบอกกับป้าว่าอยากออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวไม่ใช่เหรอ"
"จะบ้าหรือวะ เอ๊ดดี้.. แม็กกี้จะกล้าออกไปข้างนอกทั้งๆ ที่งานยังทำไม่เรียบร้อยได้ยังไง ไม่ใช่แกกับนังแววนี่..จะได้กล้าทำแบบนั้น"
ป้าทิพย์บ่นแต่ปาก ส่วนมือก็จัดเตรียมอาหารไปด้วย
สาวใช้แววค้อนแม่บ้านที่เหน็บเธอ แต่นายเอ๊ดไม่สนใจพยายามนึกว่าเด็กชายจะไปไหนได้อีกล่ะ นอกจากยังไม่ตื่น…หรือว่า..
"ฉันว่าอาจจะยังไม่ตื่นก็ได้นะ พี่เอ๊ดดี้.. ลองไปดูที่ห้องซิ เมื่อวานตากฝนอยู่นานอาจไม่ค่อยสบายก็ได้ อ้าว! ไปไหนแล้วล่ะ… "
สาวใช้แววตาปริบๆ ไม่รู้ว่าสามีผลุบออกไปตอนไหน...
เกือบ 7 โมงเช้าแล้วเด็กชายยังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ปกติจะตื่นตั้งแต่ตี 5 และสามารถตื่นได้เองโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาหรือให้ใครมาปลุก
"แม็กกี้.. แม็กกี้.. 7 โมงเช้าแล้วนะ ไอ้หนู.. เฮ้!.."

นายเอ๊ดส่ายหน้า คิดว่าเด็กชายคงจะเหนื่อยหรือไม่ก็อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายเพราะเมื่อวานตากฝนอยู่นาน คงต้องหายาให้ทานกันไว้ก่อน เขาทรุดตัวลงข้างที่นอนและดึงผ้าห่มออก แม็กกี้ซึ่งนอนขดตัวนิ่งอยู่ก็ส่งเสียงพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ในลำคอ

"อือ.. อือ.."

นายเอ๊ดรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องอึดอัดและอบอ้าว สีหน้าคิ้วขมวดของเด็กชายทำให้เขาต้องขยับเข้าไปใกล้ ใจหายเพราะรับรู้ในทันทีว่าต้นเหตุของความอบอ้าวส่งผ่านออกมาจากร่างเล็กๆ ที่นอนขดตัวอยู่ ขณะสัมผัสเพียงแค่ลมหายใจยังร้อนขนาดนี้ นายเอ๊ดอังฝ่ามือที่หน้าผากของเจ้าหนูก็ต้องสะดุ้งและใจหายวาบอีกครั้ง ถึงจะนึกไว้แล้วว่าเด็กชายอาจจะไม่สบาย แต่ไม่คิดว่าจะมีอาการจับไข้สูงแบบนี้

เสียงพึมพำในลำคอของเด็กชายชัดเจนขึ้นแต่ขาดหายเป็นห้วงๆ นายเอ๊ดต้องเงี่ยหูฟังด้วยความอยากรู้ว่าเจ้าหนูพูดอะไร
"กุญแจ.. กุญแจ.. คุณทอม… อือ.. กุญแจ.. กุญแจ …"
นายเอ๊ดใจหาย เหตุการณ์เมื่อวานคงยังอยู่ใต้จิตสำนึกของเด็กชายจนเก็บมาเพ้อ
"แม็กกี้.. แม็กกี้.. เฮ้! ไอ้หนู.. กุญแจหาเจอแล้วไง คุณทอมได้กุญแจแล้ว.."
แม็กกี้สงบลงเล็กน้อยแต่ยังมีเสียงงึมงำในลำคอเพราะอาการไข้
"ไม่เป็นไรนะ แม็กกี้.. น้าจะพาไปหาหมอนะ"
นายเอ๊ดช้อนร่างเด็กชายไว้ในวงแขน ขยับจะลุกขึ้นก็นึกขึ้นได้ว่าต้องขับรถไปส่งเจ้านายเช้านี้ จำต้องปล่อยเด็กชายนอนลงก่อนและห่มผ้าให้
"คอยเดี๋ยวนะ แม็กกี้.. แป๊บเดียว เดี๋ยวน้ามา"


 :dad2:


จิมคุยโทรศัพท์นัดหมายกับทีมงานขณะเดินลงบันได นึกแปลกใจเมื่อเห็นนายเอ๊ดยืนรีรออยู่ เมื่อเขาเดินผ่านก็เดินตามและวนเวียนอยู่ใกล้ๆ จิมจบการสนทนาก็หันมาเอ็ด

"อะไรของแกวะ เอ๊ดดี้.. มายืนรอรับเสด็จใคร รถราเช็คเรียบร้อยหรือยัง วิ่งทางไกลนะโว้ย"
"รถเช็คเรียบร้อยแล้วครับ ผมมารอคุณจิมมีเรื่องสำคัญจะรายงานครับ"
จิมขมวดคิ้ว นายเอ๊ดก็รีบรายงานทันที
"แม็กกี้ไม่สบายมากครับ คุณจิม.. นอนจับไข้ไม่ได้สติอยู่ในห้อง คงเป็นเพราะตากฝนเมื่อวาน"
"ว่าไงนะ" จิมอึ้งไปชั่วอึดใจก่อนจะพยักหน้าให้ตามไปคุยนอกบ้าน


 :dad2:


จิมทรุดตัวลงข้างที่นอน เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสเข้ามาในห้องพักของเด็กชาย ซึ่งแต่เดิมเป็นห้องเก็บของแต่ของถูกขนย้ายออกไปกว่าครึ่งแล้ว จึงเหลือพื้นที่เป็นมุมพักผ่อนของเจ้าหนูเกือบครึ่งห้องตามที่นายเอ๊ดเคยรายงานให้ทราบ ฟังดูแล้วเหมือนน่าจะอยู่สบายพอสมควร หากแต่สภาพของห้องจริงๆที่เห็นอยู่ในขณะนี้ นอกจากจะมีกลิ่นอับจากข้าวของที่วางอยู่แล้ว มุมที่เด็กชายพักผ่อนสามารถนั่งและเดินไปมาได้มีพื้นที่เพียง 3X2 ตร.เมตรเท่านั้น

จิมตกใจมากเมื่อเห็นเด็กชายจับไข้จนเพ้อฟังไม่ได้ศัพท์ ยิ่งเมื่อรู้จากนายเอ๊ดว่าเจ้าหนูเพ้อหากุญแจและเรียกหาทอม ทำให้จิมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดในอาการป่วยของเด็กชายได้

"แม็กกี้.. แม็ก.." จิมสะดุ้งเมื่อพบว่าเจ้าหนูตัวร้อนจี๋และยังมีอาการผวา ไข้สูงมากแบบนี้หากปล่อยไว้อาจเกิดอาการช็อคได้
"เอ๊ดดี้.. อุ้มเด็กขึ้นมา ต้องรีบให้ถึงมือหมอเร็วที่สุด"
นายเอ๊ดรีบปฏิบัติตามสั่งและเดินตามจิมออกไป จิมจ้ำอ้าวไปที่รถและเปิดประตูให้
"แกพาเด็กไปหาหมอนะ เอ๊ดดี้.. คลีนิคปากทางเข้าหมู่บ้าน ด่วนจี๋เลย"
"ครับคุณจิม ถ้ายังไงผมเอาแววไปด้วย ให้แววอยู่ดูเด็ก ผมจะได้รีบกลับมาให้ทัน 2 โมงครับ"
"ไม่ต้อง ฉันขับไปเอง แกอยู่ดูแลเด็ก ให้นอนพักที่คลีนิคจนกว่าไข้จะลดถึงจะพากลับมาได้ รีบไปก่อนที่ทอมจะลงมา"
"ครับผม"

จิมไม่อยากให้ทอมรู้ว่าเด็กชายป่วย ขนาดเขายังรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมเป็นต้นเหตุ แล้วทอมล่ะ ! ถ้ารู้ว่าเด็กไม่สบายเพราะตากฝนเมื่อวาน มีหวังวันนี้ทั้งวันคงไม่เป็นอันทำงานแน่…


 :dad2:



ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #48 เมื่อ20-01-2010 23:15:55 »

"ให้เอ๊ดดี้ไปไหนหรือ จิม.. จะออกเดินทางแล้วไม่ใช่เหรอ.."
ทอมจิบกาแฟและจัดการอาหารเช้าตรงหน้าด้วยความเร่งรีบ อีก 5 นาทีจะ 2 โมงเช้า จิมขึ้นไปปลุกตั้งแต่ 7 โมงแล้ว แต่เขาไม่ยอมตื่นขอนอนต่ออีกหน่อยจน 7 โมง 40
"ฉันให้เอ๊ดดี้ไปทำธุระให้น่ะ วันนี้ฉันขับเอง ทอม.."
ทอมชะงัก เลิกคิ้วแปลกใจก่อนจะงับเบคอนเข้าปาก
"ธุระสำคัญมากเลยเหรอ ถึงขนาดยอมขับรถแทน"
"ทำไมล่ะ นายไม่ไว้ใจฉันขับเหรอ" จิมพยายามเลี่ยงไม่ตอบคำถาม
"เปล่า… ไม่ได้ไม่ไว้ใจ ไม่อยากให้นายเหนื่อย นี่มันทางไกลนะ"
"ขับให้เจ้านายสุดที่รักนั่ง ไกลแค่ไหนก็ไม่เหนื่อยหรอกครับ "
จิมหยอดคำหวานด้วยสีหน้าและสายตากรุ้มกริ่ม ก่อนจะรีบตัดบทเมื่ออีกฝ่ายค้อนประหลับประเหลือก
"อิ่มแล้วเหรอ.. ถ้างั้นไปกันเลย"
ทอมวางแก้วน้ำดื่มและลุกขึ้นยืน
"ตกลงยังไม่ได้บอกเลยว่าธุระสำคัญอะไร"
"เอาเถอะน่า เดี๋ยวจะบอกในรถ"
จิมโอบไหล่ทอมตรงไปที่รถ เป็นนิสัยปกติของทอมที่ขึ้นรถได้ไม่ถึง 5 นาทีก็จะง่วงและหลับสนิทจนถึงที่หมาย ยิ่งถ้าต้องตื่นเช้าเพื่อเดินทางไกลด้วยแล้ว หลับยาวหายห่วงแน่…
"แม็กกี้ไปไหนน่ะ" ทอมถามถึงเด็กชายเมื่อเห็นสาวใช้เป็นคนวิ่งไปเปิดประตูให้
"ทำไมปล่อยให้ใบไม้เกลื่อนถนนอย่างนี้ ทำงานไม่เรียบร้อย เดี๋ยวปรับให้แพ้ซะเลย"
จิมใจหาย รีบเลี้ยวรถออกจากบ้านก่อนที่ทอมจะเห็นอะไรน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น


 :dad2:


โทรศัพท์มือถือดัง……จิมเอื้อมมือจะรับแต่ถูกทอมคว้าขึ้นมาถือไว้และทำท่าจะกดรับ

"ฉันรับเอง ทอม.."
"ไม่เป็นไร ฉันรับให้ นายขับรถเถอะ"
"อย่าดีกว่า ฉันคุยเอง ส่งมาทอม"
ทอมขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนจิมมีอะไรปิดบังอยู่จึงไม่ยอมส่งโทรศัพท์ให้
"ทำไม.. มีอะไรที่ไม่อยากให้ฉันรู้งั้นเหรอ หรือว่านายทำงานให้คนอื่นนอกจากฉันด้วย"
"เปล่านะทอม.. โอเค!.. อยากรับก็รับ" จิมตัดบทไม่อยากมีเรื่องกับทอมเวลานี้ ภาวนาให้ใครโทรมาก็ได้ยกเว้นเจ้าเอ๊ดดี้

ทอมกดรับสายด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี ปกติเขาสามารถรับโทรศัพท์แทนจิมได้ทุกสาย เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องงานและเกี่ยวข้องกับตัวเขาเองเองทั้งนั้น น้อยครั้งที่จะเป็นเรื่องส่วนตัวของจิม

"Hello.."

"คุณจิมครับ คลีนิกหน้าหมู่บ้านคุณหมอเวรเพิ่งกลับไป พยาบาลให้คอยครึ่งชั่วโมงและจะช่วยลดไข้ให้เด็กก่อน แต่เด็กอาการไม่ค่อยดีผมไม่ไว้ใจเลยพามาโรงพยาบาลแล้วนะครับ ตอนนี้อยู่ในห้องตรวจ ถ้าได้เรื่องยังไงผมจะโทรรายงานให้ทราบอีกครั้งครับ"

สายถูกตัดไป !!!!!…

ทอมนั่งอึ้ง ในขณะที่โชเฟอร์จิมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หนาวๆ ร้อนๆ เพราะได้ยินเสียงเจ้าเอ๊ดดี้ดังแว่วออกมานอกหูอย่างชัดเจน
"จอดรถ" ทอมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบและแผ่วเบา
จิมแสร้งทำใจดีสู้ "จอดทำไม ทอม.. ลืมอะไรเหรอ.."
"ฉันไม่ได้ลืม คนที่ลืมคือนาย จิม.. ทำไมไม่ตอบคำถามฉันซะทีว่าให้เอ๊ดดี้ไปทำธุระอะไร นายให้มันพาเด็กที่ไหนไปหาหมอ อย่าบอกนะว่าเด็กนั่นคือ แม็กกี้"
"เอ่อ.." จิมอึกอักนึกโมโหเจ้าเอ๊ดดี้ …ทำไมต้องโทรมารายงานตอนนี้ด้วยฟะ!..
"ว่าไงล่ะ จิมมี่.. ตอบฉันซี หยุดรถด้วย!!!.. ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นตราบใดที่ฉันยังเป็นไอ้โง่อยู่.." ทอมตะวาดใส่ด้วยอารมณ์โกรธ
"โอเค! ทอม .. โอเค!.."
จิมชะลอรถและจอดเข้าข้างทาง ถอนหายใจเฮือกก่อนจะหันมาสบตาเขียวปั้ดของทอม
"อย่าโมโหซี ทอม.. ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดนาย ยังไงก็ต้องบอกให้รู้อยู่แล้ว รอเอ๊ดดี้โทรมารายงานก่อน"
"งั้นเหรอ.. แล้วนายอยากรู้มั้ยว่าเอ๊ดดี้รายงานว่าอะไร"
"เอ่อ.. วะ.. ว่ายังไงเหรอ"
"คลีนิคหน้าหมู่บ้านไม่มีหมอ เด็กอาการไม่ค่อยดีเลยพาไปโรงพยาบาล ตอนนี้รอหมอตรวจอยู่ รู้แล้วยังไงล่ะ จิมมี่.. ถ้าฉันไม่ได้เป็นคนรับสาย นายจะบอกฉันแบบนี้หรือเปล่า เห็นฉันเป็นเด็ก 10 ขวบหรือไง เรื่องที่ฉันควรรู้ก็ไม่ให้รู้ ทำไม จิม.. ทำไม.."
"ใจเย็นซี ทอม.. บอกแล้วไงว่าฉันไม่คิดจะปิดนาย แล้วเด็กก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่จับไข้.. เอ่อ.. นิดหน่อย"
"แล้วนายคิดจะบอกฉันตอนไหน…รู้ก็ทั้งรู้ว่าเด็กนั่นป่วยเพราะคำสั่งของฉัน ฉันแกล้งเด็กด้วยความเกลียดชังจนทำให้เด็กไม่สบาย นายน่าจะรีบบอกให้ฉันรู้ ฉันจะได้ดีใจและสะใจยังไงล่ะ จิมมี่...”
จิมส่ายหน้าเมื่อทอมกล่าวประชดตัวเอง นี่คือเหตุผล...ว่าทำไมเขาถึงบอกทอมตอนนี้ไม่ได้…
"ถ้านายรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ ฉันคงรีบวิ่งขึ้นไปบอกตั้งแต่นายยังนอนอยู่บนเตียงแล้ว ฉันทำทุกอย่างเพราะแคร์ความรู้สึกของนายนะ ทอม..”
“ไม่ว่าฉันจะรู้สึกยังไง นายก็น่าจะบอกให้ฉันรู้” ทอมเสียงอ่อนลงเมื่อจิมเริ่มเสียงดังบ้าง
“เด็กไม่สบายก็เพราะฉันสั่งให้ออกไปตากฝน ไม่คิดเลยว่าฉันจะทำเรื่องแบบนั้นได้ ฉันรังแกเด็ก..  เพราะอยากให้ไอ้หนูนั่นไปจากชีวิตฉันเร็วๆ ฉันเป็นผู้ใหญ่ที่แย่มากเลยใช่มั้ย จิมมี่..”
“ไม่เอาน่ะทอม.. หยุดโทษตัวเองและเลิกคิดว่านายรังแกเด็กได้แล้ว เราคุยเรื่องนี้กันแล้วไม่ใช่หรือว่ามันเป็นแค่เกมทดสอบ แม็กกี้เองก็ยอมรับและยอมทำทุกอย่างที่เราสั่ง เพราะมีจุดมุ่งหมายที่จะเอาชนะเพื่อให้ได้พิสูจน์ความจริงกับนาย คิดหรือว่าเด็กฉลาดอย่างเจ้าหนูแม็กจะยอมให้เรารังแกได้”

ทอมนั่งนิ่งอารมณ์สงบลง สีหน้าเรียบเฉยจนจิมเดาความรู้สึกไม่ออก

“ไปโรงพยาบาลก่อน จิม..”
“อะไรนะ”
“ให้ฉันเห็นว่าเขาปลอดภัย ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ค่อยเดินทางต่อ”

จิมลอบถอนใจ เริ่มกังวลและไม่แน่ใจกับความรู้สึกที่ทอมมีต่อเด็กชายในเวลานี้ เขาคงต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ความเกลียดชังถูกแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่น

“ฉันไม่อยากขัดนายนะ ทอม.. อยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่าลืมว่านายไม่ใช่แค่ชายหนุ่มหน้าตาดีธรรมดา ทันทีที่ก้าวลงจากรถและเหยียบย่างเข้าไปในโรงพยาบาล นายต้องมีคำตอบเตรียมไว้สำหรับทุกคำถาม ...คุณทอม แม็คกิลล์ มาทำอะไรที่โรงพยาบาลครับ… ไม่สบายเป็นอะไรคะ… มาเยี่ยมไข้หรือคะ… เด็กเป็นอะไรกับคุณทอมครับ… เป็นญาติ เป็นน้อง เป็นหลานชาย หรือว่าเป็น....”

“พอแล้ว พอ... หยุด โอย....”   ทอมเอามือกุมศีรษะเพราะรู้สึกเครียดจนปวดหัวตึบ จิมรีบขยับที่นั่งเอนลงเพื่อให้เทพบุตรของเขาอยู่ในท่าที่ผ่อนคลายขึ้น
“ใจเย็นๆ ซีทอม... เอางี้ดีมั้ย..” จิมปลอบโยนพร้อมกับบีบนวดที่ขมับให้เหมือนทุกครั้ง
“เราออกเดินทางกันไปเรื่อยๆ ฉันจะขับช้าๆ ระหว่างรอเอ๊ดดี้โทรมารายงาน ถ้าหากมีอะไรร้ายแรงเราก็จะวกรถกลับไปโรงพยาบาลทันที”

ทอมทำหน้าเหมือนไม่ค่อยชอบใจกับข้อเสนอ จิมจำต้องรีบตัดบท

“เชื่อฉันซีทอม.. แม็กกี้ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่ไข้หวัดเท่านั้น ถึงมือหมอแล้วก็หมดห่วง ที่สำคัญเอ๊ดดี้ก็อยู่ด้วย ฉันอุตส่าห์ยอมขับรถแทนเพื่อให้หมอนั่นไปทำหน้าที่สำคัญแทนเรา นายยังจะห่วงอะไรอีก”

ทอมพยักหน้าและหลับตาลง จะยังไงก็ได้แล้ว เพราะเขารู้สึกเหนื่อยและเครียดมาก

จิมสตาร์ทรถออกเดินทางต่อเมื่อเทพบุตรของเขาสงบลงและยอมโอนอ่อนด้วยดี ซ้ำยังหลับสนิทไปภายในเวลาไม่กี่นาที จิมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตัดเสียงเรียกเข้าเป็นสั่นเตือน อยากให้ผู้โดยสารของเขาหลับยาวโดยไม่มีเรื่องมารกสมองและกวนใจอีก

…ครึ่งชั่วโมงต่อมา.. นายเอ๊ดโทรมารายงานว่าอาการไข้ของเด็กชายทุเลาลงเล็กน้อย หมอเตือนว่าอย่าให้เด็กเล่นน้ำฝนอีก ความเย็นจากน้ำฝนไม่เหมือนน้ำธรรมดา โชคดีที่รีบพามาหาหมอเพราะเด็กมีไข้สูง ถ้าปล่อยไว้จะเกิดอาการปอดบวมแทรกซ้อนแน่

“... หมอดุผมใหญ่เลยครับ คุณจิม.. หาว่าผมปล่อยให้หลานวิ่งเล่นน้ำฝนอยู่ได้ยังไงตั้งครึ่งค่อนชั่วโมง..”

จิมนึกขำอยู่ในใจ สมควรแล้วที่หมอจะดุแก เอ๊ดดี้.. เรื่องอะไรไปบอกว่าเด็กเล่นน้ำฝน แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องบอกเรื่องจริงกับหมอเพื่อการวินิจฉัยโรค ถ้าเป็นเขาก็คงต้องบอกว่าเด็กถูกฝนเหมือนกัน

....แต่เรื่องที่บอกว่าเจ้าหนูแม็กเป็นหลานแกนี่ซิ คิดได้ไงวะ เอ๊ดดี้...


 :dad2:


หนุ่มน้อยแม็กกี้ต้องนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืนตามคำสั่งของหมอ ทอมสบายใจขึ้นเมื่อเด็กชายไม่เป็นอะไรมาก นึกอยากจะไปเยี่ยมแต่แล้วก็เปลี่ยนใจกระทันหันซึ่งจิมเองก็รู้สึกโล่งอก เพราะเขาไม่อยากให้ทอมแสดงความห่วงใยให้เด็กชายเห็น

กลับจากโรงพยาบาลทอมอนุญาตให้เด็กชายพักผ่อนต่อจนกว่าจะหายและแข็งแรงดีค่อยทำงาน แต่แม็กกี้เมื่อไม่มีอาการไข้ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นปกติดี ไม่อาจนั่งอยู่เฉยๆ ได้

“เฮ้!.. ทำอะไรน่ะ แม็กกี้.. เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้เอง ลุกขึ้นมาทำอะไรแต่เช้า เดี๋ยวไข้ขึ้นอีกหรอก”
แม็กกี้เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้นายเอ๊ด ในมือถือฟองน้ำกำลังทำความสะอาดล้อรถ
“ผมค่อยยังชั่วแล้ว ไม่มีไข้แล้วครับ”
นายเอ๊ดทรุดตัวลงนั่งยองๆ
“ถึงไม่มีไข้ก็ใช่ว่าจะหายนะ วางมือเถอะ เดี๋ยวคุณทอมรู้ก็ถูกดุหรอก ท่านสั่งให้พักก็พักเถอะ เวลาที่จะได้ทำงานมีอีกเยอะ”
“เยอะที่ไหนกันครับ ผมจะอยู่ที่นี่อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น ผมอยากทำงานให้คุณทอมเยอะๆ แลกเปลี่ยนกับความจริงที่ผมจะได้รู้”
นายเอ๊ดกลืนน้ำลายเอื๊อก ในหัวสมองเด็กชายมีแต่เรื่องความจริงที่อยากจะพิสูจน์
“ถามจริงๆ เถอะแม็กกี้.. พิสูจน์แล้วจะได้อะไรขึ้นมา ถ้าหากรู้ว่าไม่ใช่จะไม่เสียใจเหรอ..”
เด็กชายชะงักมือเล็กน้อย ก่อนจะบรรจงเช็ดถูแม็กรถต่อด้วยความตั้งใจ
“เสียใจครับ เสียใจที่แม่หลอกผม.. แต่ผมเชื่อว่าแม่พูดจริง ผมถึงมั่นใจว่าใช่..”
นายเอ๊ดยกมือเกาหัว
“มั่นใจว่าใช่..ในเมื่อเชื่อที่แม่พูดแล้วจะมาพิสูจน์ความจริงทำไมอีกล่ะ หือ..”
“เป็นเหตุผลส่วนตัวของผมครับ น้าเอ๊ดดี้อยากรู้เหรอ..”
“เอ่อ.. ฮะ ฮะ ก็.. ไม่เป็นไร บอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
เอ๊ดดี้หัวเราะแห้งๆ รู้สึกว่าตัวเองชักจะเป็นผู้ใหญ่ที่สอดรู้สอดเห็นเรื่องของเด็กมากไป
“บอกก็ได้ครับ แต่น้าต้องสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ได้มั้ยครับ”
นายเอ๊ดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าและรับปากให้สัญญา..


 :dad2:


ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #49 เมื่อ20-01-2010 23:21:45 »

.....ผมเชื่อว่าคุณทอมเป็นพ่อ..เพราะแม่บอก ผมเชื่อที่แม่พูด… ผมเชื่อมาตั้งแต่เด็กแต่พอโตขึ้นผมชักไม่แน่ใจ เด็กผู้ชายอายุ 14 แถวบ้านผมหลายคนตัวเท่าผม บางคนเล็กกว่าผมก็ยังมี คุณทอมอาจตัวใหญ่กว่าเพราะเป็นฝรั่ง แต่ผมก็ไม่อยากเชื่อว่าจะทำให้ผู้หญิงมีลูกได้ ถ้าได้พิสูจน์แล้วว่าใช่.. ผมก็มีความสุขมากขึ้น ต่อไปเวลามองดูรูปคุณทอม ผมก็เรียกเขาว่าพ่อได้สนิทใจ แต่ถ้าเกิดไม่ใช่... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงต่อไป รู้แต่ว่าผมคงต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อจริงๆ อย่างที่คนอื่นเข้าใจ แต่ถึงผมจะเสียใจผมก็ไม่โกรธแม่หรอกครับ ผมรู้ว่าแม่ทำเพราะรักผม แม่อยากให้ผมมีพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆ เลยให้คนที่แม่รักเป็นตัวแทนพ่อของผม บางที.. ผมอาจจะให้คุณทอมเป็นตัวแทนพ่อตลอดไปก็ได้...

...เหตุผลที่ผมต้องจากไปโดยไม่หวนกลับมาอีก แม้ว่าผลการพิสูจน์คุณทอมจะเป็นพ่อของผม เพราะความจริงที่ได้รับรู้เป็นความจริงสำหรับผมคนเดียว แต่ความจริงสำหรับคุณทอม ผมไม่ใช่ลูกเขา คุณทอมไม่มีวันรับเรื่องนี้ได้ เป็นใครก็รับไม่ได้ที่จู่ๆ ก็ต้องมามีลูกชายตัวโตเท่านี้ ในสายตาของคุณทอม ผมเป็นแค่เด็กแปลกหน้าคนหนึ่ง เป็นเด็กที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในชีวิตคุณทอม ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณทอมครับ ผมถึงไม่ต้องการอะไร ผมไม่ต้องการเป็นลูกของคุณทอม ผมขอเป็นแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่คุณทอมเคยรู้จักก็พอครับ....  :m15:



 :dad2:



TBC>>>>>>

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
« ตอบ #49 เมื่อ: 20-01-2010 23:21:45 »





ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #50 เมื่อ20-01-2010 23:42:17 »

 :m15: :m15: :m15: :m15:
ชีวิตยิ่งกว่าดาวพระศุกร์

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #51 เมื่อ21-01-2010 10:58:01 »


สายใยรัก บทที่ 4..
“อ่างปลา คุณทอม”

-----------------



“เข้าไปทำ อะไรน่ะ แวว..”
จิมเอ่ยทักสาวใช้ที่กำลังก้าวออกจากห้องพร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด
“ทำความสะอาดค่ะ"
"ใครสั่ง?"
จิมถามด้วยความสงสัยเพราะไม่ใช่ที่ทางที่ต้องทำความสะอาดทุกวันตามหน้าที่ เนื่องจากเป็นห้องพักสำหรับคนรับใช้ที่ปิดว่างไว้ และไม่มีทางที่สาวใช้แววจะนึกขยันเข้าไปทำความสะอาดโดยไม่ได้รับคำสั่ง
"คุณทอมค่ะ คุณทอมสั่งพี่เอ๊ดดี้ไว้เมื่อคืน ให้ทำความสะอาดห้องพักคนรับใช้บนตึกด้วย"
"ทำไมรู้มั้ย"
"ไม่ทราบค่ะ คุณทอมไม่ได้สั่งอะไรต่อค่ะ"
จิมผละจากสาวใช้เดินกลับขึ้นไปชั้นบน ทอมไม่เห็นบอกเขาสักคำว่ากำลังทำอะไร หรือว่า….


 :m28:


จิมเพลินกับการยืนชมความงามของเทพบุตรทอมจนลืมไปเลยว่าเข้ามาทำอะไร เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงไม่รู้สึกเบื่อเลย ทั้งๆ ที่ได้เห็นหน้าและพูดคุยใกล้ชิดอยู่ทุกวัน

ไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น ทอม แม็คกิลล์ ก็ยังคงความงดงามราวเทพบุตรอยู่เสมอ ในยามหลับเป็นความงดงามที่อ่อนโยนน่าทะนุถนอม ชวนให้อยากสัมผัสและอยู่ใกล้ ต่างจากเวลาตื่นความงามมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอารมณ์ ด้วยใบหน้าที่หล่อและมีเสน่ห์ชวนฝัน เมื่อไรที่ยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข บรรยากาศรอบๆ เหมือนอยู่บนแดนสวรรค์ยังไงยังงั้น.. แต่ถ้าโกรธหรือไม่พอใจขึ้นมาเหมือนมีเมฆดำแผ่กระจายรอบๆ บรรยากาศมาคุ… เราดีๆ นี่เอง

จิมยอมรับว่าความรู้สึกที่เขามีให้ทอมในวันนี้ ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนหรือลูกจ้าง ถึงวันนี้เขาพร้อมที่จะทำงานให้ทอมโดยไม่ต้องการค่าจ้างหรือผลตอบแทนสักบาท ขอแค่ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดก็เพียงพอแล้ว

…เมื่อไรจะใจอ่อนซะที ทอม.. นายรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย นายให้ความหวังฉันโดยการไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ยอมตอบรับความรู้สึกของฉันซะที…

จิมโน้มตัวลงไปใกล้เทพบุตรของเขา จึงสังเกตุเห็นว่าทอมไม่ได้กลัดกระดุมเสื้อนอน เปลี่ยนเสื้อเสร็จคงกระโดดขึ้นเตียงหลับปุ๋ยไปเลย จิมขยับเสื้อนอนของทอมให้เข้าที่และกลัดกระดุมให้

"อืมม์.. อย่านะ ไม่…" เสียงพึมพำจากริมฝีปากบางสวย คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันเหมือนตกอยู่ในอาการฝันร้าย

"ทอม.. ทอม.." จิมปลุกทอมให้ตื่นจากภวังค์ร้าย

ทอมลืมตาขึ้นก็ผวาเฮือกและผลักร่างสูงออกก่อนจะลุกขึ้นโวยเสียงดัง

"ทำบ้าอะไรน่ะจิมมี่.. ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าฉันไม่ใช่!!… ฉันไม่ชอบ  และไม่มีรสนิยมแบบเดียวกับนาย กลับไปพักที่คอนโดของนายบ้างก็ได้นะ จะได้หาใครมาระบายความใคร่ได้บ้าง ไม่ต้องนอนที่นี่ทุกคืนก็ได้…"

จิมอ้าปากหวอตกใจกับอารมณ์และถ้อยคำต่อว่าที่รุนแรงของทอม มันไม่ใช่อารมณ์โกรธของคนที่กำลังหลับสบายและถูกปลุกให้ตื่น ทุกถ้อยคำเหมือนเก็บความโกรธและไม่พอใจไว้นานแล้ว แต่ทอมคงไม่กล้าพูดและต่อว่าให้เขาเสียน้ำใจ หรือไม่ก็จำต้องอดทนเพราะเขาต้องทำงานให้   แม้จะรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจแต่จิมก็สามารถซ่อนความรู้สึกได้อย่างมิดชิด สีหน้าของเขาขณะนี้จึงเป็นสีหน้าของคนที่ไม่เข้าใจและอยู่ในอาการงุนงงเท่านั้น

"เรื่องอะไร ทอม.. ฉันแค่ปลุกนายเฉยๆ"

"ปลุกทำไม!!.." ทอมเหลือบดูเวลาที่หัวเตียงและหันมาโวยต่อ   "เพิ่งจะ 3 โมงเช้าเอง วันนี้มีงานตอนเย็นไม่ใช่เหรอ มันไม่ใช่เวลาที่ฉันควรจะตื่นซะหน่อย"

"เอ่อ.. ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปลุกให้ตื่น แค่จะให้ออกจากฝันร้ายเท่านั้น"

"ฝันร้ายอะไร รู้ได้ไงว่าฉันฝัน หรือว่านายเข้าไปอยู่ใน…"

ทอมชะงักเมื่อรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเขากำลังฝันจริงๆ และในฝันก็มีจิมอยู่ด้วยจริง บอกไม่ถูกว่ามันคือฝันร้ายหรือเปล่า ไม่ซิ เขาฝันดีต่างหาก…

….เขาฝันว่าได้ก้าวไปสู่เวทีนายแบบระดับโลกด้วยการผลักดันของจิม เขาให้รางวัลจิมเป็นสิ่งที่เจ้าตัวอยากได้แต่ไม่เคยได้รับจากเขานั่นคือ การจูบด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ยินยอม แต่มีข้อแม้ว่าให้แค่จูบเท่านั้น ห้ามเกินเลยมากไปกว่านี้ จิมรับปากและตรงรี่เข้ามาขอรับรางวัลจากเขาทันที เขาและจิมผลัดกันให้และรับรางวัลกันอย่างดูดดื่ม แม้จะรู้สึกดี… แต่เขาก็มีขอบเขตของการให้ ก่อนที่อารมณ์ของเขาและจิมจะเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ เขาขอหยุดและพยายามจะผละออก แต่จิมไม่ยอมกลับผลักเขาล้มลงและตัดกำลังด้วยการชกที่ท้องเขาจนจุก อย่างนี้แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกโกรธมากได้ยังไง เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบใบหน้าของจิมอยู่ห่างไม่ถึงฟุต และมือก็กำลังปลดกระดุมเสื้อของเขาอยู่….

ทอมหน้าแดงรู้สึกละอายกับความฝันบ้าๆ ของตัวเอง   แต่ถึงจะเป็นแค่ความฝันเขาก็รู้สึกโกรธคู่กรณีในฝันที่กำลังนั่งหน้าเหลออยู่ตรงหน้าขณะนี้

"ตกลงนายฝันร้ายหรือเปล่า ถ้าเปล่า.. ฉันก็ขอโทษด้วยที่รู้มากไปหน่อย หลับต่อเถอะ.. "

จิมลุกขึ้นยืนผละออกจากเตียงไปได้ 2 ก้าวก็หันกลับมาสั่งเสียเทพบุตรแสนรักของเขาด้วยความห่วงใยจากใจจริง
"ยังติดกระดุมเสื้อไม่หมดจัดการต่อเองนะ ต่อไปเวลานอนอย่าลืมติดกระดุมล่ะ ถ้าขี้เกียจก็สวมเสื้อยืดซะ นายชอบเปิดแอร์ซะหนาว.. และยังนอนไม่ห่มผ้าด้วย เดี๋ยวจะเป็นหวัด "
ร่างสูงชะงักอีกครั้งขณะก้าวออกจากห้อง
"อ้อ! เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก ถ้าไม่ติดธุระอะไรจะกลับมารับนายตอน 4 โมงเย็น แต่ถ้าไม่มาฉันจะโทรบอกก่อนแล้วนัดเจอกันที่โรงแรมเลย ไปเองได้ใช่มั้ย ทอม"

ทอมนั่งอึ้งรู้สึกเสียใจที่เข้าใจผิดคิดว่าจิมกำลังจะ… เขาพยักหน้าหงึกทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะออกจากบ้านไปไหนคนเดียวได้หรือเปล่า นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ทำอะไรหรือไปไหนคนเดียวโดยไม่มีชายหนุ่มผู้นี้อยู่ข้างกายด้วย

"เดี๋ยวก่อน!!.."

จิมเลิกคิ้วเมื่อบ๊อสหนุ่มออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง
"จู่ๆ ก็มีธุระ จะไปไหนอ่ะ ทำไมไม่บอกล่วงหน้า"

จิมเริ่มเหนื่อยใจ เขาเคยคิดว่าสามารถอดทนกับความเจ้าอารมณ์ของทอมได้ แต่ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจแล้ว ไม่รู้ว่าจะอดทนไปเพื่ออะไร จิมพยายามตอบคำถามด้วยน้ำเสียงปกติที่สุด

"ขอโทษนะครับ บ๊อส.. ผมก็ไม่รู้ล่วงหน้าเหมือนกันว่าจะมีธุระ ก็แค่จะขนของใช้ส่วนตัวกลับไปที่คอนโด แล้วก็อยู่เก็บกวาดทำความสะอาดสักหน่อย คืนนี้กลับเข้าไปจะได้นอนสบาย"

ทอมอ้าปากหวอนั่งตะลึงโดยไม่พูดอะไรอีก จิมจึงรีบตัดบท

"ผมจะพยายามกลับมารับให้ทันล่ะกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะครับ บ๊อส.. ขอโทษด้วยที่เข้ามารบกวน "

จิมกลับไปที่ห้องตัวเองเพื่อเก็บเสื้อผ้า เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่เขาพักอยู่ร่วมชายคาเดียวกับสุดยอดนายแบบชื่อดัง ระยะแรกจะพักเฉพาะคืนที่กลับดึกมากเท่านั้น แต่ช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมานี้ทอมมีงานดึกเกือบทุกคืนจึงชวนให้เขาย้ายมาพักอยู่ด้วย
ถึงเวลาที่เขาควรจะแยกกลับไปอยู่ในที่ทางของตัวเองซะที นึกแล้วก็น่าขัน เขาหอบเสื้อผ้ามาพักอยู่ที่นี่ก็เพราะทอมชวนให้มา ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องกลับไปเพราะทอมเอ่ยปากไล่…

จิมชะงักเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาดึงเสื้อออกจากไม้แขวนและโยนไปที่เตียงก่อนจะเดินไปเปิด เพียงแค่ขยับลูกบิดปลดล็อคประตูก็ถูกผลักเข้ามาพร้อมๆ กับร่างของทอมถลาเข้ามาสวมกอดโดยที่จิมไม่ทันตั้งตัว

"อย่าไปนะจิม.. ฉันขอโทษ... ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้หมายความว่าให้นายจากไป" ทอมละล่ำละลักบอกกล่าวความในใจ
"นายไปแล้วฉันจะอยู่กับใคร ใครจะช่วยฉันดูคิวงาน ใครจะจัดการเจ้าหนูแม็กกี้ให้ฉัน อย่าไปนะ จิมมี่.. อย่าทิ้งฉันไป ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้.."

ทอมซบไหล่จิมสะอื้น จิมตกใจรีบสวมกอดและปลอบโยนเทพบุตรแสนรักที่กำลังอยู่ในอาการขวัญหายเพราะกลัวถูกเขาทิ้งให้อยู่คนเดียว

"ใจเย็นๆ ทอม ฉันไม่ได้ไปไหน แค่กลับไปนอนที่คอนโดเท่านั้น ฉันไม่ได้ขอลาออกจากงานซะหน่อย ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เสร็จจากงานก็พานายกลับบ้าน รอจนนายเข้านอนแล้วฉันถึงจะกลับ และทันทีที่นายตื่นก็จะเห็นฉันยืนอยู่ตรงหน้าเหมือนทุกวัน เห็นมั้ยว่าไม่มีเวลาไหนที่ฉันจากไปหรือทิ้งให้นายอยู่คนเดียวเลยยกเว้นเวลานอนเท่านั้น ทุกวันนี้ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือทอม หือ.."

ทอมผละจากจิมเดินไปที่เตียงรื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า
"ไม่เอา ฉันไม่ให้ไป ทำไมต้องกลับไปนอนที่คอนโดด้วย แค่นี้ยังเหนื่อยไม่พออีกหรือไง เทียวไปเทียวมาทำไมอีก ฉันไม่ให้นายไป!!! "
จิมส่ายหน้าเอาใจบ๊อสหนุ่มแสนรักไม่ถูก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย.. เดี๋ยวรักเดี๋ยวเกลียด.. เดี๋ยวไล่ให้ไปเดี๋ยวสั่งให้อยู่…
"แน่ใจหรือทอม..ว่าอยากให้ฉันนอนที่นี่เหมือนเดิม ไม่กลัวฉันเกิดอารมณ์ใคร่ขึ้นมาแล้วย่องเข้าไปหานายอีกเหรอ"
ทอมหน้าจ๋อยรู้สึกเสียใจที่พูดจารุนแรงออกไป เพราะในความเป็นจริงจิมไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น ไม่มีทางใช้กำลังทำร้ายและบังคับเขาอย่างในฝันแน่
"ฉันเสียใจ ฉันขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับนาย ฉันกำลังฝันร้ายจริงๆ ตื่นขึ้นมาก็เลยตกใจต่อว่านายรุนแรง ยกโทษให้ฉันได้มั้ย จิมมี่.."
จิมลอบยิ้มในใจแสร้งตีหน้าเครียดเดินเข้าไปจับไหล่
"ไม่ได้หรอก ฉันยกโทษให้ไม่ได้"
คิ้วเรียวขมวดมุ่น จิมรีบกล่าวต่อ
"ฉันไม่ได้โกรธ จะให้ยกโทษเรื่องอะไรล่ะ หือ.."
"แต่นายกำลังจะเก็บของกลับไปนอนที่คอนโด ก็แปลว่านายแคร์คำพูดของฉัน…"
"ฉันไม่ได้แคร์คำพูดของนายเลย ทอม.. ฉันแคร์ความรู้สึกของนายต่างหาก อยากให้นายสบายใจ เวลานอนจะได้ไม่ต้องผวาและกังวลว่าฉันจะเข้าไปทำอะไร"

ทอมทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ เขาไม่เคยมีฟอร์มอย่างที่เห็นในเวลาเดินแบบหรืออยู่ต่อหน้าสาธารณชนเวลาอยู่กับจิม ทอมเหมือนเด็กชาย หงุดหงิดอารมณ์เสียเวลาโกรธ หัวเราะเวลาสุขและร้องไห้เมื่อเสียใจ

"ฉันไม่เคยผวาหรือกังวลเรื่องของนายมาก่อนเลยนะ จิม.. เมื่อเช้าฉันกำลังฝันถึงนายพอดี ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าก็เลยตกใจอ่ะ…"
จิมเลิกคิ้วความหมายว่าไม่เข้าใจ ทอมจึงเล่าความฝันของตัวเองให้ฟัง

 :-[




ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #52 เมื่อ21-01-2010 11:08:03 »

"หัวเราะอะไร นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ" ทอมฉุนและตาเขียวใส่เมื่อจิมหัวเราะความฝันของเขา
จิมทรุดตัวลงนั่งบนเตียงและฉุดเทพบุตรแสนรักของเขานั่งลงข้างๆ
"ไม่ใช่เรื่องตลกแต่เป็นเรื่องที่น่าดีใจ ไม่อยากเชื่อว่านายยอมให้ฉันจูบแล้ว"
ทอมกระเถิบออกห่าง หน้าแดงเมื่อถูกล้อ
"บ้าเหรอ.. นั่นมันในฝัน ไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย"
"ฉันอยากให้ความฝันเป็นจริง"
จิมส่งสายตาหวานซึ้งให้ แต่ทอมกลับทำตาเขียวใส่
"ถ้าฝันเป็นจริงฉันก็จะไม่รั้งนายให้อยู่ที่นี่อีกต่อไป นายไม่รักษาคำพูด ใช้กำลังบังคับฉัน ทำฉันเจ็บ ฉันจะเกลียดนายชั่วชีวิตเลยถ้านายทำอย่างนั้นกับฉันจริงๆ"
จิมจับไหล่ทอมเขย่าให้รู้สึกตัว
"เฮ้! ทอม.. ฉันอยากให้เป็นจริงเฉพาะเรื่องจูบเท่านั้นนะ เรื่องที่ฉันทำร้ายนายไม่มีทางเป็นจริงไปได้"

จิมสวมกอดและจูบหน้าผากเทพบุตรแสนรักเบาๆ โดยอีกฝ่ายยอมก็นั่งนิ่งแต่โดยดี

"ฉันสัญญาว่าจะไม่แตะต้องและมีอะไรเกินเลยกับนายนอกเหนือจากกอดและจูบ.. เมื่อนายไม่ชอบฉันก็จะไม่ฝืน นายชอบและรักผู้หญิงก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ฉันขอแค่เป็นฝ่ายชอบนายคนเดียวก็พอ ลืมฝันร้ายเมื่อเช้านี้ซะ โอเค.."

"ถ้างั้นนายก็จะไม่กลับไปนอนที่คอนโดแล้วใช่มั้ย"
ทอมยิ้มออกเมื่อจิมพยักหน้าให้ ร่างเพรียวงามหงายหลังลงบนที่นอน คว้าหมอนหนุนของจิมมาสวมกอดและหลับตาลงด้วยความสบายใจ
"ฉันขอนอนต่อที่ห้องนายนะ จิม.."
...อยากเป็นหมอนใบนี้จังเลย…จิมรำพึงในใจก่อนจะเอ่ยเรียกเมื่อนึกขึ้นได้
"ทอม.."
"หืมม์.." ทอมขานรับโดยไม่ลืมตา
"สั่งให้ทำความสะอาดห้องคนรับใช้บนตึกเหรอ.."
"อือ.. ลืมไปเลย สั่งเอ๊ดดี้ให้บอกแวว บอกหรือยังก็ไม่รู้"
"บอกแล้ว ฉันเห็นแววเข้าไปเก็บกวาดอยู่ จะให้แม็กกี้ขึ้นมาพักเหรอ.."
ทอมลืมตาและลุกพรวดขึ้นนั่ง
"รู้ได้ไง ฉันบอกนายแล้วเหรอ.."
"เปล่า.. ถ้าบอกแล้วฉันจะถามทำไม แค่สังหรณ์ว่าต้องเป็นเจ้าหนูแม็ก ทำไมล่ะ ทอม.."

"เอ่อ…ก็... เมื่อสองวันก่อนฉันได้ยินนายเปรยว่าที่พักของเด็กเล็กกว่าห้องน้ำบนตึกนี้เกือบ 2 เท่าอ่ะ… คิดๆ ดูแล้วรู้สึกว่าเราโหดร้ายใจดำเกินไป ก็เลยอยากให้เขาพักที่สบายกว่านี้หน่อย ผิดหรือจิม ไม่ควรทำแบบนี้เหรอ.."

"เปล่า.. ไม่ผิดหรอกทอม.. นายสมควรทำ เราต้องการชนะแค่ในเกมเท่านั้น นอกเกมเราสามารถเอื้อเฟื้อต่อเด็กได้ตามความเหมาะสมและสมควร ฟังนะ ทอม.. อีกไม่กี่วันก็จะครบหนึ่งเดือนที่เจ้าหนูแม็กพักอยู่ที่นี่ เหลือเวลาหนึ่งเดือนที่เราจะทดสอบเด็ก ฉันอยากฟังความต้องการของนายตอนนี้อีกครั้ง ว่ายังยืนยันที่จะให้เด็กออกไปให้พ้นจากชีวิตโดยหลีกเลี่ยงการพิสูจน์ความจริงด้วยหรือเปล่า"

ทอมอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะยืนยันความต้องการของตนเอง แต่ไม่ยอมสบตาจิมขณะพูด
"ทำตามที่เคยตกลงกันไว้น่ะแหล่ะ จิม.. อย่ามาถามเซ้าซี้อีก ฉันจะนอนต่อห้ามกวนนะ"

จิมตาปริบๆ มองทอมล้มตัวลงนอนต่อ
… ห้ามกวน!! ทั้งๆ ที่นอนอยู่บนเตียงคนอื่นเนี่ยนะ…

… หึ! ขอให้หมายความตามที่พูดจริงๆ เถอะ ทอม.. ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าความเกลียดชังในตัวเด็กของนายลดน้อยลงไปแล้ว ลดลงไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าเปลี่ยนความรู้สึกจากเกลียดเป็นรักก็แล้วกัน  ฉันไม่มีวันยอมให้เจ้าหนูนี่มาขัดขวางอนาคตที่กำลังรุ่งโรจน์ของนายหรอก แม็คกิลล์…


 :laugh3:


"เจอหรือยังวะเอ๊ดดี้.. ทำไมไม่ไว้กับกุญแจรถ หรือว่าลืม.."

จิมชะโงกหน้าไปถามเมื่อรู้สึกว่ารถจอดนิ่งอยู่หน้าประตูบ้านนานเกินไปแล้ว

นายเอ๊ดล้วงกระเป๋ากางเกงซ้ายขวาหารีโมทประตูซึ่งปกติจะติดตัวไว้ตลอดเวลา

"เอ!.. ผมว่าผมเอามานะครับคุณจิม.. หรือว่าจะหล่นหายก็ไม่ทราบ"

"ถึงบ้านแล้วเหรอ…"

ทอมงัวเงียตื่นขึ้นเพราะเสียงพูดคุย คืนนี้เขาเหนื่อยมากจริงๆ แคทวอล์คคนเดียว 20 ชุด จากที่ตกลงกันไว้เพียง 10 ชุด เพราะนายแบบที่เดินคู่กับทอมเกิดป่วยกระทันหัน เจ้าของห้องเสื้อขอร้องให้ทอมช่วยเดินแทน เพราะมีเขาเท่านั้นที่เข้ากับ Concept ของชุด จิมขอต่อรองเหลือแค่ 15 ก็ไม่ยอม อ้างว่าไม่คุ้มค่าใช้จ่ายที่ลงทุนจัดงาน และแบบเสื้อ 20 ชุดที่ว่าก็เป็นดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่ตั้งใจมาเปิดตัวในงานนี้โดยเฉพาะ

"เดี๋ยวก่อนทอม.. ถึงแล้วแต่ยังไม่ได้เข้าบ้าน" จิมรีบบอกเมื่อเห็นทอมทำท่าจะเปิดประตูรถ
"หารีโมทเจอรึยัง เอ๊ดดี้.." จิมหันไปเอ็ดประตูรั้วก็เปิดออกพอดี

"ต่อไปเก็บไว้กับกุญแจรถเลยนะ เอ้า! เข้าบ้านซีวะ นั่งเซ่ออยู่ทำไม"
"ครับผม"

นายเอ๊ดรีบเคลื่อนรถเข้าบ้าน เขาไม่ได้เป็นคนเปิดประตูเพราะยังหารีโมทไม่เจอ และเมื่อเขาไม่ได้เปิดก็แปลว่า…..

"อ้าว! แม็กกี้นี่.. แสดงว่าแกยังหากุญแจไม่เจอล่ะซี เอ๊ดดี้.."

จิมกล่าวอย่างรู้ทันแต่ไม่ได้โวยวายต่อว่า ในขณะที่ทอมเหลียวหลังมองก็เห็นเจ้าหนูกำลังบังคับรีโมทปิดประตู
"ไม่ได้บอกเด็กหรือ เอ๊ดดี้.. ว่าไม่ต้องมารอเปิดประตู ให้พักจนกว่าจะแข็งแรงดีก่อนน่ะ"

ทอมเอ็ดนายเอ๊ดเมื่อเห็นเด็กชายมายืนรอเปิดประตูให้ทั้งๆ ที่เวลาขณะนี้เกือบจะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว และเจ้าหนูก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ 3 วัน
"เอ่อ.. บอกแล้วครับเจ้านาย แต่แม็กกี้บอกว่าค่อยยังชั่วมากแล้ว ไม่อยากนั่งเฉยๆ ครับ"
"เชอะ! เด็กบ้า อวดเก่ง.."
ทอมเปิดประตูและก้าวลงจากรถด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี จิมซ่อนยิ้มไว้ในหน้า รีบรับปากจัดการให้

"ไปนอนเถอะทอม.. ฉันจัดการเอง ถ้าหายดีแล้วจะได้เปิดเกมทดสอบกันต่อ"
ทอมพยักหน้าทำท่าจะเดินขึ้นตึกแต่แล้วก็ชะงัก
"เฮ้! เดี๋ยวก่อนจิม จะทดสอบอะไร ไม่ใช่ตอนนี้นะ"
"โอ! ทอม.. เห็นฉันเป็นยักษ์เป็นมารหรือไง ไม่ใช่ตอนนี้แล้วก็ไม่ใช่พรุ่งนี้ รออีก 2-3 วัน ฉันแค่จะเกริ่นให้เจ้าหนูรู้ล่วงหน้าก่อนเท่านั้น อย่าห่วงเลยน่ะ บ๊อส… ไปนอนซะ"
"แม็กกี้.."
จิมกวักมือเรียก เด็กชายก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามาหา
"หายแล้วเหรอ"
"ครับ"
จิมโอบไหล่เด็กชายพาเดินเข้าบ้าน
"ฉันจะไปส่งที่ห้อง ห้องพักใหม่เป็นไงบ้าง สบายมั้ย"
"สบายครับ เอ่อ..ผมไปที่ห้องเองได้ครับ คุณจิม.."
"ไม่เป็นไร ฉันอยากไปส่ง มีเรื่องจะคุยด้วย"


 o18


ทอมกำลังจะก้าวขึ้นรถก็ต้องชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปที่สนามเห็นร่างเล็กกำลังขุดดินด้วยพลั่วขนาดใหญ่เกือบเท่าตัว

"แม็กกี้ทำอะไรอยู่น่ะ เอ๊ดดี้.. อย่าบอกว่าขุดดินนะ" ทอมรีบดักคอก่อนจะได้รับคำตอบที่ไม่สร้างสรรค์

"เอ่อ.. คุณจิมสั่งให้ขุดครับเจ้านาย เห็นว่าจะทำบ่อเลี้ยงปลา"

"อะไรนะ"

ทอมยืนนิ่ง จิมคงเริ่มเกมทดสอบแล้วกระมัง ทำไมไม่บอกเขาสักคำว่าจะทำอะไร!!
"อ้าว! ยังไม่ขึ้นรถอีกเหรอทอม.. รีบไปเถอะ เดี๋ยวสาย.."

จิมเดินตามออกมา เป็นครั้งแรกที่ทอมเป็นฝ่ายออกมาคอยเพราะเขาติดโทรศัพท์ทางไกลอยู่

"ให้เด็กขุดดินทำไมจิม.. จะทำอะไรน่ะ"

"อะไร.. อ๋อ.." จิมมองไปที่สนามและยิ้มด้วยความพอใจ หารู้ไม่ว่ารอยยิ้มของเขาทำให้ทอมรู้สึกไม่ชอบใจ

"ได้ยินนายบ่นว่าอยากมีบ่อเลี้ยงปลาในบ้านไม่ใช่เหรอ…"

ทอมตาโต สีหน้าไม่พอใจจนจิมต้องรีบขัดขึ้นก่อน

"ล้อเล่นน่า.. แค่บ่อ เอ้ย! อ่างเลี้ยงปลาเท่านั้น เล็กๆ ไม่ใหญ่มากหรอก"

"ไม่ใหญ่มากน่ะ แค่ไหน"

ทอมถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไร ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องฉุนด้วย รู้ก็รู้ว่าจิมทำไปเพราะช่วยเขา

"ก็.. แค่ 4-5 ตารางเมตรเท่านั้นแหล่ะทอม.. ไม่หนักหนาเท่าไรหรอก แล้วครั้งนี้ฉันก็ให้เวลาทั้งวัน เย็นนี้ค่อยกลับมาดูผลงาน ไปกันเถอะ เดี๋ยวสาย"

ทอมยังยืนนิ่งอยู่ จิมลอบถอนใจเมื่อเห็นสายตาที่ทอมมองดูเด็กชาย

"ถ้านายไม่สบายใจ ฉันจะไปบอกแม็กกี้ให้เลิกขุดเดี๋ยวนี้ โอเค.."

ทอมไม่ตอบ จิมถอนใจเฮือกและเดินดุ่มไปที่สนามทันที

"จะไปไหนจิม.. ไม่รีบไปเดี๋ยวจะสายนะ "

จิมชะงักหันกลับไป ทอมเรียกเขาขึ้นรถด้วยสีหน้าและรอยยิ้มที่เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่

"เย็นนี้ค่อยกลับมาดูว่าจะได้อ่างปลาหรืออ่างบัว"

ทอมก้าวขึ้นรถ นายเอ๊ดตามมาปิดประตูให้และเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ จิมส่ายหน้าเดินกลับไปขึ้นรถ…


 :o9:




ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #53 เมื่อ21-01-2010 11:23:08 »

"แม็กกี้.. พักก่อนเถอะ น้าเอาข้าวกลางวันมาให้" สาวใช้แววพยายามเรียกเด็กชายเป็นครั้งที่ 3

"ขอบคุณครับ ผมยังไม่หิว"

เด็กชายกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ อุปกรณ์ขุดดินหลายชนิดวางกองอยู่

….ขุดด้วยเครื่องมืออะไรก็ได้ที่นายถนัดให้ได้ขนาดเท่าที่ฉันมาร์คไว้ ความลึก 60 ซม. ต้องเผื่อเทปูนด้วย พรุ่งนี้ฉันจะให้ช่างปูนมาทำงานต่อจากนาย อีก 2 วันคุณทอมก็จะได้อ่างปลาคราฟไว้นั่งดูเล่นคลายเครียด ครั้งนี้ฉันไม่กำหนดเวลา แต่งานต้องเสร็จเมื่อฉันและคุณทอมกลับมา ไม่เร็วกว่า 5 โมงเย็นหรอก บางทีอาจจะช้ากว่านั้นด้วยซ้ำ และด้วยสัญญาของลูกผู้ชาย นี่เป็นงานของนายเพียงคนเดียวนะแม็กกี้.. คนอื่นไม่เกี่ยว…

เด็กชายตักดินใส่ถังเพื่อขนออกไปเทไว้ข้างๆ อ่างปลารูปวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 2.5 เมตร มันก็ไม่ใหญ่มากนักหรอกแต่มันก็ไม่เล็ก และที่สำคัญต้องให้ได้ความลึกถึง 60 ซม.นี่ซิ ! มันทำให้แม็กต้องขุดดินออกไปกองไว้ข้างๆ ผ่านไป 3 ชั่วโมงแล้วยังขุดได้ไม่ถึงครึ่งเลย เหลือเวลาอีก 5 ชั่วโมง… ไม่รู้ว่าจะขุดทันหรือเปล่า.. เรี่ยวแรงก็ชักจะหมดลงแล้ว…

"แม็กกี้.. ขึ้นมาพักกินข้าวก่อนเถอะ จะบ่ายอยู่แล้ว"

แม่บ้านทิพย์นั่งยองๆ อยู่ข้างหลุมที่เด็กชายกำลังขุด เมื่อสาวใช้แววไม่สามารถเรียกแม็กกี้ขึ้นมาจัดการอาหารกลางวันได้ จึงเดือดร้อนถึงแม่บ้านต้องมาช่วยเรียกแทน

แม็กกี้เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มอ่อนระโหยให้ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนแต่ก็มีกำลังใจที่จะสู้เพราะคนที่นี่ดีกับแม็กทุกคน แม้แต่คุณจิมเองนอกเหนือจากเกมทดสอบแล้ว บางครั้งคุณจิมก็เข้ามาพูดคุยหยอกล้อด้วยความเอ็นดู ส่วนคุณทอมถึงจะพูดคุยด้วยนับคำได้ แต่แม็กก็เชื่อว่าจริงๆ แล้วคุณทอมเป็นคนใจดี และคงไม่เย็นชาแบบนี้ถ้าแม็กไม่ได้เข้ามาในบ้านเพื่อต้องการพิสูจน์ความจริงในเรื่องที่ร้ายแรงและรับไม่ได้สำหรับคุณทอม

"ผมยังไม่หิวครับป้า ผมต้องรีบขุดด้วย เดี๋ยวไม่ทัน"

"โถ! พ่อคุณ มันไม่ได้เสียเวลาเท่าไรหรอก ขึ้นมาก่อนเถอะ  พักดื่มน้ำก่อนก็ยังดี.."

แม็กกี้วางจอบในมือและลุกขึ้นยืนจะปีนขึ้นจากหลุม  แต่หน้ามืดเสียหลักล้มลงเพราะลุกขึ้นเร็วเกินไป

"ผมไม่เป็นไรครับป้า หน้ามืดนิดเดียว"

แม่บ้านทิพย์ร้องเรียกสาวใช้แววให้เอายาดมออกมา และช่วยฉุดเด็กชายขึ้นจากหลุมพาไปหลบแดดใต้ร่มไม้

"เดี๋ยวให้แววออกมาช่วยนะ แม็กกี้.. จะได้เสร็จทันเวลา" แม่บ้านส่งน้ำให้เด็กชายดื่ม

"ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องทำเอง"

"โธ่เอ๊ย! แม็กกี้.. ให้แววช่วยจะได้เสร็จเร็วขึ้น ไม่มีใครรู้หรอก ป้าจะไม่บอกใคร"

"ไม่ได้ครับ ผมขี้โกงไม่ได้ คำสั่งของคุณทอมผมต้องทำให้เสร็จครับ"

เด็กชายทานข้าวเพียงครึ่งจานก็วางช้อนลง และลุกขึ้นกระโดดลงไปทำงานต่อ แม็กกี้ไม่สามารถพูดอะไรให้ป้าทิพย์หรือน้าแววเข้าใจได้มากกว่านี้ เพราะเรื่องระหว่างแม็กกับคุณทอม คุณจิมสั่งห้ามไม่ให้พูดหรือบอกใคร ยกเว้นน้าเอ๊ดดี้เท่านั้นที่รู้…

"เฮ้อ! คุณทอมกับคุณจิมทำไมถึงใจร้ายอย่างนี้นะ ใช้งานเด็กอย่างกับทาส ผิดวิสัยจริงๆ"

แม่บ้านรำพึงด้วยความเวทนา…


 :monkeysad:


อีก 15 นาทีจะ 5 โมงเย็น…

ร่างเล็กปวดระบมและล้าไปหมดทั้งตัว ไม่มีแรงลุกขึ้นยืนหรือแม้แต่จะยกแขนขึ้น อ่างปลาของคุณทอมถูกขุดเป็นวงได้ขนาดตามที่คุณจิมต้องการแล้ว เหลือแต่ความลึกที่ยังขุดได้ไม่ทั่วทั้งวง ฝ่ามือทั้งสองข้างของเด็กชายบวมช้ำจนไม่สามารถจับเครื่องมือใดๆ ได้แล้ว แต่ตราบเท่าที่ยังมีแรงอยู่แม็กก็จะไม่หยุด ที่ยังพอทำได้ขณะนี้คือใช้เท้ากระแทกดินให้ร่อนออก แล้วใช้ขันพลาสติคตักดินใส่กระป๋อง

แม็กกี้รู้ดีว่าความหวังที่จะผ่านการทดสอบครั้งนี้หมดลงแล้ว ถึงคุณทอมและคุณจิมจะกลับมาช้ากว่านี้ แม็กก็ไม่สามารถทำงานนี้สำเร็จเพราะแม็กกำลังจะหมดแรงแล้ว…..

…แม่จ๋า.. ผมไม่ได้พิสูจน์ความจริงแล้ว… ผมคงต้องไปจากที่นี่… :m15:  ไปจากคุณทอม.. ผมไม่ไหว… ผมแพ้….แล้ว…

ในที่สุดเด็กชายก็หมดสติไปเพราะความเหนื่อยและเพลียที่สุดเท่าที่ร่างกายเคยได้รับ..


 :m15:


"แวว.. เอ็งออกไปดูซิ แม็กกี้เป็นยังไงบ้าง"

"อุ๊ย! ไม่เอาหรอกป้า คุณจิมโทรมากำชับว่าไม่ให้เข้าไปช่วยเด็กทำงาน ฉันไม่อยากขัดคำสั่ง เดี๋ยวถูกไล่ออก"

"ข้าให้เอ็งออกไปดูเฉยๆ ให้มันรู้ไปซีวะ ว่าแค่ยืนดูจะถูกไล่ออก เจ้านายของพวกเราน่ะ คุณทอมนะไม่ใช่คุณจิม"

"โธ่.. ป้า คุณจิมก็อ้างคำสั่งคุณทอมน่ะแหล่ะ เอาเถอะ ! เดี๋ยวฉันจะออกไปดูให้ ป้าเร่งมืออาหารเย็นด้วยก็แล้วกัน คุณจิมว่ากลับมาถึงก็ให้เตรียมตั้งโต๊ะเลย คืนนี้คุณทอมต้องพักผ่อนเร็วหน่อย เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามืดเดินทางไปถ่าย โลเคชั่นที่เมืองกาญจน์ "

"เฮ้อ! ทำไมรับงานเยอะเหลือเกิน คุณทอม.. มรดกทรัพย์สินของตระกูลก็มีมากมาย ไม่รู้จะทำงานให้เหน็ดเหนื่อยไปทำไม"

เสียงแตรรถดัง!!!

สาวใช้แววแสดงอาการยินดีรีบวิ่งออกไปเปิดประตูรับ แม่บ้านค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้ รู้ว่าอาการดีใจของแววไม่ใช่เพราะเจ้านายกลับ แต่เพราะสามีของเธอกลับมาแล้วต่างหาก

"โอ้โฮเฮะ !… อะไรกันเนี่ย… นายเห็นอย่างที่ฉันเห็นหรือเปล่า ทอม.."

จิมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เด็กชายวัย 12 ปีคนนี้เอาเรี่ยวแรงมากมายมาจากไหน ถึงสามารถขุดหลุมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 เมตรขึ้นมาจนได้ เศษดินกองเป็นแนวรอบปากหลุม สูงพอประมาณจนทำให้ไม่สามารถมองเห็นร่างเด็กชายได้ (ถ้าเจ้าหนูยังอยู่ในนั้น)

จิมก้าวลงจากรถตรงดิ่งไปที่หมายทันที ทอมวิ่งหน้าตื่นตามมาติดๆ ตกตะลึงและทึ่งกับผลงานของเด็กชายเช่นกัน

"กลับมาแล้วเหรอพี่เอ๊ดดี้ อ้าว! นั่นคุณทอมกับคุณจิมวิ่งไปไหนกันน่ะ"

นายเอ๊ดคว้าแขนเมียรักเข้ามาถาม

"นี่ แวว.. เธออยู่บ้านทั้งวัน ได้เข้าไปช่วยเจ้าหนูแม็กขุดดินหรือเปล่า"

"อุ๊ย! ใครจะกล้าช่วย คุณจิมเธอสั่งไว้ไม่ให้เข้าไปยุ่ง"

"อย่าบอกนะว่าหลุมขนาดนั้น แม็กกี้ขุดคนเดียว" นายเอ๊ดเขย่าแขนเมียด้วยความตกใจ

"จะบ้าเหรอ พี่เอ๊ดดี้.. ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย" แววสะบัดแขนออกค้อนสามี

"ก็เล่นขุดตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ยังไม่ยอมพักเลย ข้าวกลางวันกินไปได้แค่ไม่กี่คำ นี่ฉันกำลังจะออกไปดูพอดี พี่ก็พาคุณๆ กลับมา"

นายเอ๊ดหายจากอาการตกตะลึงก็หันมาเอ็ดเมียต่อ

"ทำไมไม่เข้าไปช่วยเด็กล่ะ แวว.. ไม่มีน้ำใจเลย"

"เอ๊ะ! อย่ามาหาเรื่องนะ พี่เอ๊ดดี้ เด็กนั่นยอมให้ช่วยซะที่ไหน พูดแต่ว่าเป็นงานของตัวเอง ต้องรับผิดชอบเอง แพ้ไม่ได้ แพ้ชนะเรื่องอะไร พี่รู้มั้ย.."

นายเอ๊ดไม่พูดอะไรอีก ผละจากเมียวิ่งไปหาเจ้านายที่สนาม สังหรณ์ว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรอีกแน่..


 :เฮ้อ:


"โอ! พระเจ้า.."

จิมและทอมร้องครางด้วยคำอุทานเดียวกัน เมื่อเห็นสภาพของเด็กชายเนื้อตัวมอมแมมไปด้วยขี้ดิน นอนหงายเหยียดยาวไม่ได้สติอยู่ในหลุมที่ตัวเองขุด

จิมกระโดดลงไปทรุดตัวลงช้อนร่างเด็กชายไว้ในวงแขน ในขณะที่ทอมทรุดตัวลงนั่งข้างกองดิน หน้าเสียด้วยความตกใจ

"แม็กกี้.. แม็กกี้.. เฮ้!.. ตื่นได้แล้ว ไอ้หนู… อย่าอู้งานซี"

จิมแสร้งทำใจเย็นปลุกเด็กชาย ทั้งๆ ที่กำลังรู้สึกตกใจและเสียใจกับการกระทำของตัวเอง แต่เขาต้องซ่อนความรู้สึกไว้ไม่อาจแสดงความใจอ่อนให้ทอมเห็นได้

แม็กกี้รู้สึกเหมือนมีคนกำลังเรียก อยากจะขยับตัวแต่ขยับไม่ไหว ทำได้แค่เพียงพยายามลืมตาขึ้น

"แม็กกี้ เฮ้! ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย.."

จิมลอบถอนใจด้วยความโล่งอกเมื่อเด็กชายลืมตา มือช่วยบีบนวดแขนขาที่ไร้เรี่ยวแรงของเจ้าหนูเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้น

"คุณ.. จิม.."

เด็กชายเอ่ยเรียกจิมเสียงแผ่วเบา สีหน้าแสดงความกังวลก่อนจะรายงานผลงานที่ตัวเองทำด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น

"ผมขุด.. อ่างปลา.. เกือบเสร็จแล้ว.. แต่.. ขุดได้ลึกแค่.. ฟุตเดียว… ผมทำไม่ไหว..แล้ว.. มือผม… เจ็บ.. ผม… ไม่มีแรงแล้ว ผมยอมแพ้… ผมทำไม่ได้… พรุ่งนี้.. ผมจะไปจากที่นี่…"

"เฮ้! เฮ้!… เดี๋ยวก่อนซี.." จิมเสยผมเด็กชายไปมา

"ใครบอกว่าแพ้ หือ…นายชนะพวกเราอีกแล้วต่างหาก คุณทอมเปลี่ยนใจอยากได้อ่างตื้นๆ จะจัดเป็นสวนน้ำตกแทน ที่นายขุดไว้ลึกเกินพอแล้ว แม็กกี้.."

จิมไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป รู้แต่ว่าพูดตามอารมณ์และความรู้สึก หากทอมเป็นเขาก็ต้องพูดแบบเดียวกัน ดีไม่ดีอาจเอ่ยขอโทษเด็กชายด้วยก็ได้

"จริง… เหรอครับ"

"จริงซี ไม่เชื่อถามคุณทอมดูก็ได้" จิมหันหน้าเด็กชายไปหาคู่กรณี

"ใช่มั้ย ทอม.. ความลึกแค่นี้ใช้ได้แล้วใช่มั้ย"

"ใช่"

ทอมพยักหน้าและส่งยิ้มให้ด้วย รอยยิ้มของทอมทำให้หัวใจของหนุ่มน้อยพองโตด้วยความยินดีและเป็นสุข จนแทบจะหายจากอาการปวดล้าที่เป็นอยู่ เพราะกว่าหนึ่งเดือนที่พักอยู่ที่นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณทอมยิ้มให้แม็ก…

"งั้นผมก็.. ยังไม่ต้องไป.. จากที่นี่ใช่มั้ยครับ"  :m15:

"ใช่" จิมและทอมตอบรับพร้อมๆ กัน 

"ขอบคุณครับ.. ขอบคุณคุณทอม.. ขอบคุณคุณจิม.."

เด็กชายยิ้มอย่างอ่อนระโหย รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกทางใจเท่านั้น ครั้งนี้หนุ่มน้อยไม่สามารถใช้กำลังใจบังคับร่างกายให้ลุกขึ้นได้ เพราะเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกใช้ไปเพื่อขุดอ่างปลาให้คุณทอมหมดแล้ว
แม็กกี้คอพับไปในอ้อมแขนของจิมอีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นสุข ทอมตกใจทำท่าจะโวยแต่จิมรีบขัดขึ้นก่อน

"หลับน่ะ ทอม.. ไม่เป็นไร เกมนี้เขาเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ"

จิมสวมกอดเด็กชายด้วยความลืมตัว บอกความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจที่เกมทดสอบครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายขอแพ้

นายเอ๊ดวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาดูสถานการณ์

"เอ๊ดดี้.. ช่วยคุณจิมพาเด็กไปพักผ่อนหน่อย เช็ดตัวทำความสะอาดให้ด้วย"

"ครับ เจ้านาย"

นายเอ๊ดเข้าไปช่วยรับเด็กชายจากจิมเพื่อพากลับไปพักผ่อนที่ห้อง เสียงจิมตะโกนไล่หลังให้ดูแผลที่มือเด็กด้วย

"ไม่ว่าใช่มั้ย ทอม.. ที่ครั้งนี้เราเป็นฝ่ายขอยอมแพ้…"

ทอมยิ้ม ส่งมือให้จิมและฉุดขึ้นจากหลุม

"ทุกเรื่องที่นายทำมีเหตุผลเสมอไม่ใช่หรือ จิม.. แล้วนายจะว่ามั้ยถ้าฉันจะขอให้ครั้งนี้เป็นการทดสอบครั้งสุดท้าย... ที่เราจะใช้วิธีทารุณเด็ก.. "

จิมอึ้งไปก่อนจะพยักหน้ารับ

…..ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายตอนเจ้าหนูแม็กไม่สบายเพราะออกไปตากฝนแล้ว เราสองคนนี่มันมือสมัครเล่นจริงๆ ไอ้พวกเดนมนุษย์ที่มันชอบรังแกและทำทารุณกับเด็ก จิตใจทำด้วยอะไรนะ…..



 :dad2:



TBC>>>>>>





ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #54 เมื่อ21-01-2010 12:00:37 »

 :pig4:  กำลังสนุกเลย

มาต่ออีกหน่อยสิค่ะ


OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #55 เมื่อ21-01-2010 12:13:37 »

ตอนแรกที่อ่าน  เคืองทอมกับจิมมากๆเลย รังแกเด็กได้
แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นบ้างละ
เมื่อไหร่พวกผู้ใหญ่จะใจอ่อนซะทีน้า สงสารน้องแม็กกี้

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #56 เมื่อ21-01-2010 15:31:53 »

 :sad4:ฮือๆสงสารแม็กกี้..ผู้ใหญ่ใจร้าย


 :L2:ขอบคุณเจ้หมวยนะครับ....ติดตามอ่านต่อไปครับ

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #57 เมื่อ21-01-2010 19:34:58 »

 :m15: :monkeysad: :m15: :monkeysad:

สงสารแม็กกี้อ่ะ :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #58 เมื่อ21-01-2010 21:27:48 »

จะไปฟ้องปวีณา ใจร้าย รังแกเด็ก

เชอะ

unnoname

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก by J-muay
«ตอบ #59 เมื่อ21-01-2010 22:44:33 »

ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยย  :sad4:


แล้วรอตอนต่อไปนะคะ J-muay  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด