<เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน  (อ่าน 148828 ครั้ง)

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #390 เมื่อ02-06-2010 16:30:35 »

ภาคต่อ ตอนที่ 32

  คุณกำชัยและคุณเจนนิเฟอร์ผู้เป็นพ่อกับแม่ของพลกฤษณ์เดินทางมาถึงสนามบินหาดใหญ่ในเวลาแปดโมงครึ่งเพราะคนทั้งสองหาตั๋วเครื่องบินได้ทันในเที่ยวแรกของวันตามที่ต้องการ เมื่อถึงแล้วพวกเขาจึงโทรหาลูกชายทันที
“ฮัลโหล แจ๊ค ตอนนี้ป๊ากับม้าถึงสนามบินแล้วนะลูก”
“เหรอครับ” เขาดีใจ “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวผมไปรับนะครับ”
“อ่าดี เดี๋ยวป๊ากับม้าไปเช่ารถรอเราเลยนะ” คนเป็นพ่อตอบกลับ
“ครับ ๆ ได้ครับ เจอกันนะฮะป๊าม้า”
เขาแต่งตัวด้วยชุดที่ไม่ได้ไปทำงานที่ร้านของพ่อกับแม่พีร์เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่เขาจะตกใจไปเสียก่อน ป๋องเห็นชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์เหมือนที่เขาเคยเห็นในรูปตามข่าวจึงร้องทัก
“โอ้โห น้องแจ๊ค แต่งตัวหล่ออย่างนี้จะไปไหนเนี่ยะ”
พลกฤษณ์ตอบรับ “พ่อกับแม่ผมมาถึงหาดใหญ่แล้วหน่ะครับ เดี๋ยวผมจะไปรับ”
“เหรอ โห รวดเร็วทันใจจริง ๆ”
“ผมไปก่อนนะครับพี่ป๋อง ขอบคุณมากนะครับ”
“เออ ๆ โชคดีน้องแจ๊ค เดี๋ยวพี่บอกเสี่ยให้”
เขาออกไปจากห้อง ก็เจอกับอุสนาที่กำลังจะออกไปทำงานพอดี
“คุณแจ๊ค วันนี้จะไปไหนเหรอคะ”
“อ่อ ไปรับพ่อกับแม่ที่สนามบินครับ”
“ค่ะ โชคดีนะคะ” เธออวยพรให้ชายหนุ่มพร้อมส่งยิ้มจริงใจ พลกฤษณ์ยิ้มรับแล้วรีบซ้อนท้ายมอเตอร์ไชค์รับจ้างไปยังสนามบินเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ของเขารอนาน

เมื่อไปถึงสนามบิน เขาก็ไปยังส่วนของรถเช่าตามที่นัดหมายกับพ่อแม่ไว้ เมื่อคนทั้งสามเจอกันก็เข้ามากอดกันอย่างคิดถึงและเป็นห่วงซึ่งกันและกันอย่างอบอุ่น
“แจ๊ค ลูกผอมไปหรือเปล่าเนี่ยะ” คนเป็นแม่ถาม
“ก็ นิดหน่อยครับ”
“ป๊าเช่ารถเรียบร้อยแล้ว งั้นเราไปกันเลย ป่ะ”
“โห นี่คุณไม่คิดจะไปเช็กอินที่โรงแรมก่อนเหรอ” คนเป็นแม่ท้วงขึ้น
“มาถึงแล้ว จะรออีกทำไมให้ตื่นเต้น ใช่มั๊ยแจ๊ค”
“อ่าครับ” เขายิ้มกับคนเป็นพ่อ และช่วยเก็บสัมภาระของพ่อกับแม่ใส่ท้าย Toyota Camry สีขาวที่เช่าไว้  เมื่อพนักงานส่งกุญแจรถมาให้ พลกฤษณ์ก็ขึ้นนั่งในตำแหน่งคนขับ เพื่อที่จะพาพ่อกับแม่ของตัวเองไปที่บ้านของพีร์ อย่างอดตื่นเต้นไม่ได้
เพราะเกิดมาเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องให้พ่อกับแม่มาคุยกับครอบครัวของคนรักแบบนี้
ยังกับว่าเขาจะไปขอผู้หญิงอย่างนั้นแหล่ะ ชายหนุ่มคิด

  รถซีดานหรูสีขาวจอดเทียบหน้าบ้านของพีร์อย่างรู้ที่ทาง พ่อกับแม่ของพีร์นึกรู้ว่าใครมาตามที่ป๋องบอกไว้ พวกเขาพร้อมกับพีร์จึงออกไปต้อนรับผู้มาเยือนอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน
  พ่อกับแม่ของพลกฤษณ์ เปิดประตูรถลงมา และก็เดินตามลูกชายเข้าไป ก็พบว่าพ่อกับแม่ของพีร์ยืนรออยู่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายยกมือไหว้กันและกันตามมารยาท แต่พ่อของพลกฤษณ์และพ่อของพีร์มองหน้ากันอย่างสงสัยในตัวแต่ละฝ่าย
“เอ หน้าคุ้น ๆ นะ” พ่อของพีร์มองพ่อของพลกฤษณ์อย่างสังเกตุเช่นเดียวกัน
“เอ่อ ขอโทษนะครับ นี่ใช่กวงหรือเปล่าครับ” พ่อของพลกฤษณ์ถามออกไป
“ใช่ครับ แล้วนี่ใช่อากิมหรือเปล่าครับ” พ่อของพีร์ก็ถามไปเพื่อความแน่ใจเหมือนกัน
“ใช่ ๆๆ เฮ้ยย อย่าบอกนะว่า แกเป็นพ่อของหนูพี”
“เออ แล้วแกก็อย่าบอกนะว่าพ่อเจ้าแจ๊คก็คือแกเองเหรอ”  
 ผู้เป็นพ่อทั้งสองตกใจในตัวแต่ะละคน เช่นเดียวกับคนรอบข้างที่ก็งงไม่แพ้กันในตอนนี้ คนเป็นพ่อทั้งสองกอดคอกันตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“เข้ามานั่งคุยกันข้างในดีกว่านะคะ” แม่ของพีร์เชิญให้ทุกคนเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องแอร์ก่อนจะชวนลูกชายไปนำน้ำมาต้อนรับ
“นี่มันยังไงอ่ะครับป๊า ผมงงไปหมดแล้ว” พลกฤษณ์ถามขึ้น
“ก็ พ่อของหนูพีเนี่ยะ เป็นไอ้กวง เพื่อนสมัยเรียนช่างกลของป๊าเอง ฮ่ะ ๆๆ”
“จริงเหรอครับ”
“อื้ม ใช่แล้ว ผมกับพ่อคุณเป็นเพื่อนกันมาก่อน” พ่อของพีร์สมทบ
“แล้ว นี่มันยังไงวะกวง เรียนจบแล้วแกกลับมาปักษ์ใต้เลยเหรอ”
“เออ ใช่ พ่อกับแม่ของชั้นให้กลับมาเลย เพื่อมาแต่งงานกับแม่ของพีนี่หล่ะ แล้วแกล่ะ หายหน้าหายตาไปเลย ได้ข่าวว่าไปเมืองจีนแล้วไม่ส่งข่าวมามั่งเลยนะ”
“เฮ่ยย มันยุ่ง ๆ ว่ะช่วงนั้น ก็ ไปเรียนต่อที่ฮ่องกง ไม่ได้ไปแผ่นดินใหญ่หรอก ก็เนี่ยะ เรียนไปเรียนมาก็เจอเจนนี่นี่หล่ะ” เขาพูดถึงภรรยาใบหน้าลูกครึ่งฝรั่งที่นั่งข้าง ๆ
“อ่าวเหรอ แล้วแกกลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็ลูกคนเล็กสามขวบก็กลับเมืองไทย และก็ไป ๆ มาๆ อย่างงี้แหล่ะ”
“เหรอ...”  พ่อของพีร์ตอบรับ พอดีที่คนเป็นแม่ของพีร์ยกน้ำเข้ามาพอดี
“อ่านี่ หงีมาพอดี จะแนะนำให้รู้จัก” เขาพูดกับพ่อของพลกฤษณ์
  “อากิม นี่ อาฟุง แม่ของพี อาฟุง นี่อากิม เพื่อนสมัยเรียนช่างกลของไหง กับ คุณเจนนี่”
“สวัสดีค่ะ” คนเป็นแม่ของพีร์ยกมือไหว้คนทั้งสองที่รับไหว้ทันที
“ไม่ต้องหรอกครับคุณฟุง คนกันเองทั้งน้านนน”  
“เอ่อ แจ๊คกับน้องพีจ๊ะ ช่วยออกไปก่อนได้มั๊ย คือ เดี๋ยวขอพวกเราคุยกันก่อนนะจ๊ะ” แม่ของพลกฤษณ์บอกอย่างนั้นทำให้คนเป็นลูกต้องลุกออกไปข้างนอกตามที่ขอร้อง

“คุณแจ๊ค คุณลุงคุณป้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ” พีร์ได้โอกาสถามทันทีขณะที่ออกมาอยู่ในครัวด้วยกัน เพราะเขาก็ตกใจเหมือนกัน ที่พ่อแม่ของพลกฤษณ์จะมาได้รวดเร็วอย่างนี้
“ลงเครื่องปุ๊บก็มาเลยเนี่ยะ”
“โห ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อืม ป๊ากับม้าเค้ากลัวพ่อแม่คุณเปลี่ยนใจหน่ะเลยรีบมา”
 เขาตอบยิ้ม ๆ ทำให้พีร์เองก็เขินไปเหมือนกัน
“คุณว่าไงอ่ะ ป๊ากับม้าพวกเราคุยกันอย่างนี้แล้ว” พลกฤษณ์หันมาถามพีร์อย่างอยากรู้
“ผมก็เดาไม่ได้เหมือนกันอ่ะ”
“แล้วคุณอยากให้มันเป็นแบบไหนล่ะ”
“ก็ ไม่รู้อ่ะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” พีร์ตอบไม่ถูก พร้อมกับมองไปที่พวกผุ้ใหญ่คุยกันอย่างครุ่นคิด

“อากวง เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ชั้นก็เจนนี่ก็จะมาคุยกับแกตรง ๆ ละกันนะ”
“อืม ที่ชั้นให้แจ๊คเรียกพ่อกับแม่มาคุยนี่ก็จะคุยกันเรื่องของพีเหมือนกันหล่ะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแกไปได้”
“อืม แล้วแกโอเคมั๊ยกับลูกชายชั้น”
“ก็ ดีนะ เด็กคนนี้อดทนดี ตอนแรกชั้นก็จะนึกว่าเค้าจะหนีกลับไปตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ที่ไหนได้ อยู่ทำงานทุกวันโดยไม่ปริปากพูดอะไรซักคำเลย”
“แล้วลูกแกล่ะ”
“เฮ่ยยย ตอนแรกชั้นก็รับไม่ได้เหมือนกัน แต่พอมาคิด ๆ ดู ลูกก็ลูกเรา มันก็เป็นเด็กดีมาตลอด เออ ว่าแต่ ตอนแกรู้เรื่องเจ้าแจ๊คเป็นอย่างนี้นี่ แกเป็นไงมั่งวะ”
“เป็นไงเหรอ” เขาหัวเราะออกมา “ก็เฉย ๆ หน่ะ เพราะแจ๊คมันฉายแววตั้งแต่อยูอนุบาลแล้ว”
“หะ ยังไงวะ”
“ก็ ครูมันตอนอนุบาลมาฟ้องทุกเย็นเลยว่าเจ้าแจ๊คชอบไปไล่หอมแก้มเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนึงที่ตัวเล็ก ๆ อ่ะ เจนนี่ เธอจำได้มั๊ย”
“จำได้สิ ตอนนั้นชั้นก็ไม่คิดอะไรมากหรอกนะคะ จนแจ๊คเป็นวัยรุ่นเค้าก็เริ่มคบผู้ชายด้วยกัน ตอนแรกเค้าก็ไม่อยากบอกพวกเราหรอก แต่ชั้นก็เข้าไปคุยกับลูกดี ๆ ก็เป็นอันว่าเข้าใจกัน”
“แล้วไม่ตกใจกันมั่งเหรอคะ”
แม่ของพลกฤษณ์ส่ายหน้า “ไม่หรอกค่ะ แต่ชั้นก็บอกลูกเสมอนะว่าเป็นอย่างนี้แล้วอย่าทำให้ใครเดือดร้อน ทำอะไรก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น”
พ่อกับแม่ของพีร์มองหน้ากันอย่างกรุ่นคิด
“แต่แจ๊คหน่ะ ดูภายนอกเป็นคนเจ้าชู้ก็จริง แต่จริง ๆ แล้วเค้าไม่เคยพาใครมาให้ชั้นกับกิมรู้จักเลยนะคะ นอกจากหนูพี”
“จริงๆ นะ หนูพีก็เป็นเด็กน่ารัก พวกชั้นก็ชอบเค้ามากเลย”
“ถ้าพวกคุณไม่รังเกียจลูกของเรา ก็อยากจะขอ....”
“ตกลงค่ะ” คนเป็นแม่ของพีร์ที่นั่งเงียบ ๆ มาตลอดตอบตกลงโดยที่แม่ของพลกฤษณ์ยังพูดไม่จบ ทำให้พ่อของพีร์หันไปมองภรรยาตัวเองอย่างตกใจ
“อ่าว หงี...”
“ค่ะ ชั้นเห็นว่าแจ๊คเป็นคนดี ดูแลพีได้ ชั้นในฐานะคนเป็นแม่ก็ดีใจนะคะที่ลูกของชั้นจะมีคนที่ดีมาดูแลอย่างนี้”
“เป็นอันว่าตกลงใช่ไหมครับคุณฟุง ใช่มั๊ย ไอ้กวง” พ่อของพลกฤษณ์ถามเพื่อความแน่ใจ
“เออ..” พ่อของพีร์พยักหน้าไปอย่างเสียไม่ได้ เขาแอบเคืองภรรยาเล็กน้อยที่แย่งชีนสำคัญของเขาไป
“งั้นเป็นอันว่าตกลงนะ แล้วทางชั้นจะลงมาทำให้ถูกต้องตามธรรมเนียมอีกที”
“หะ ยังไงวะ”
“ก็ ไหน ๆ ก็ไปมาหาสู่กันอย่างถูกต้องอย่างนี้ ชั้นก็อยากให้ลูก ๆ มายกน้ำชาและก็ส่งตัวให้มันถูกต้องไปเลยแกว่าไง”
“เอางั้นเลยเหรอวะ”
“ดีค่ะ ดี ชั้นเห็นด้วย” แม่ของพีร์ตอบรับ “ไม่ดีเหรอป๊า เค้าให้เกียรติเราขนาดนี้”
“อืม ก็ดีนะ แต่อย่าเอิกเกริกมากได้มั๊ยวะ”
“ได้สิ จัดกันเล็ก ๆ ให้เป็นพิธีก็พอ”
“อืม ดี ๆ งั้นชั้นตกลงเรื่องของพีกับเจ้าแจ๊ค ให้เป็นไปตามนี้ละกัน” คนเป็นพ่อของพีร์เอ่ยออกมาอย่างเชื่อใจคนเป็นเพื่อน และเริ่มเชื่อมั่นในตัวของพลกฤษณ์

 หลังจากคุยธุระกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อตอนกลางวัน ตกเย็นเมื่อพลกฤษณ์ช่วยงานที่ร้านของพ่อพีร์เสร็จแล้วเขาจึงก็ได้ขออนุญาตพ่อแม่ของพีร์ ให้พีร์พาเขาออกมาเที่ยวรอบ ๆ ตัวเมืองหาดใหญ่ เพราะเขาเองก็ยังไม่เคยมาและไม่เคยได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลยตั้งแต่มาถึง
“พี่ คุณว่าไงอ่ะ เรื่องที่ป๊าผมบอกว่าจะให้เราแต่งงานกัน”  พลกฤษณ์ถามขณะที่อยู่กับอีกฝ่ายในห้องพักของเขาที่โรงแรมขณะที่พีร์มาส่ง  
“ก็ ไม่รู้สิ”
“ทำไมล่ะ ไม่อยากอยู่กับผมเหรอ”
“คือ มันเร็วไปหน่ะ ผมก็ยัง งง ๆ อยู่เหมือนกัน” พีร์ตอบไปออกไปโดยที่ไม่ได้สบตาอีกฝ่าย
เขาจับแขนพีร์ทั้งสองข้างเบา ๆ  พร้อมกับมองหน้าพีร์อย่างจริงจัง “หรือว่า คุณยังรักไอ้หยก”
พีร์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง เขาไม่เคยปิดบังอะไรพลกฤษณ์มิดจริง ๆ น้ำตาของพีร์ค่อย ๆ ไหลออกมาเมื่อนึกถึงตรงนี้
“โอเค ผมเข้าใจแล้ว” พลกฤษณ์ปล่อยมือ และถอนหายใจออกมาอย่างรับรู้และยอมรับ เขาค่อย ๆ พาตัวเองออกไปจากห้อง ปล่อยให้พีร์ได้อยู่คนเดียวกับความจริงในใจของตัวเอง


http://www.youtube.com/v/IHRgM3M_oJM
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2010 14:46:50 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #391 เมื่อ02-06-2010 16:46:23 »

มาขอจิ้ม :z13: คนเขียนก่อน
อิอิ
--------------------------------

 :laugh: โดนว่าที่พ่อตาทดสอบเอาแล้วไงเฮียแจ็ค
แล้วที่พีร์พูดเรื่องรถกะคนเนี้ย
 เฮียก็ไม่รู้ซะเล๊ยยยยย  :m16:ว่าพีร์เค้าบอกเปงนัยๆว่าให้เลิกซะ ไอ่มีหลายๆคนเนี้ย

ปล.“ยังไงซะผมก็เชื่อว่าพ่อแม่คุณก็คงไมทำอะไรคุณมากเท่าผมหรอก”มันหมานความว่าไงอ่ะคุงน้ำพริก
     คนอ่านคิดมากไปเอง :haun4: หรือคนเขียนๆให้คิดละเนี้ย



หมายถึงว่า พลกฤษณ์จะบอกว่า พีร์ก็คงไม่ถูกพ่อแม่ของตัวเองตั้งป้อมรังเกียจและทดสอบแบบทรหดอย่างที่ตัวเฮียแจ๊คจะเจอ ไงคะ (คนเขียนเขียนซับซ้อนไปหรือเปล่าเอ่ย เหอะๆๆ)

ไม่ซับซ้อนหรอกจ้า คนอ่านพาหื่นไปเอง เอ๊กๆๆ :laugh:
ป๊ากะม๊าเฮียแจ็คใจร้อนเปงวัยรุ่ยเลย น่ารักที่ซู๊ดดดดดด

ปล.คุณน้ำพริกเปงเด็กใต้รึป่าวเอ๋ย??
  +1 กะความพยายามของเฮียแจ็คสุดที่เลิฟ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้เฮียแจ๊คค่ะ
อ่อ ไม่ใช่คนใต้ค่ะ แต่ส่วนตัวไปภาคใต้บ่อย ๆ หน่ะค่ะ  เหอะ ๆ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #392 เมื่อ02-06-2010 17:32:22 »

 :z13: :z13:
คนแต่งลงใต้บ่อยเพราะว่ามีใครรออยู่หรือเปล่า  อิอิ
ให้กำลังใจน้องพีร์  เชียร์พี่แจ้คแบบออกหน้า  อิอิ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #393 เมื่อ02-06-2010 17:36:16 »

อีป้าแก่ๆ บอกแล้วให้โอเค ทำไม่ไม่เชื่อค่ะ คนแก่อาบน้ำร้อนมาก่อนนะค่ะ เชื่อสิค่ะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #394 เมื่อ02-06-2010 17:47:31 »

อืมมม...รักแรกมันฝังใจ แถมยังเป็นผู้ชายคนแรกอีก :z3:
แต่ก็นะ พีร์ต้องอยู่กับปัจจุบันที่เป็นพี่แจ๊คที่แสนดี :กอด1:
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา

ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #395 เมื่อ02-06-2010 18:11:34 »

 :L3: :L3: :L3: :L3: :L3: :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ wowhaha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #396 เมื่อ02-06-2010 19:08:31 »

อย่ามีเรื่องเศร้าอีกเลย นะครับ

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #397 เมื่อ02-06-2010 19:55:27 »

ลืมค่ะ โพสหน้าตอนจบนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #398 เมื่อ02-06-2010 20:01:26 »

กลัวเหลือเกินว่า ไรเตอร์จะจบแบบน้องพีร์ต้องสมรักกับแจ๊คแน่ๆเลยนิ ไม่ง่ะ เราเชีรย์หยกง่ะถึงหยกมันจะมีเมียแล้วมีลูกแล้วก้อตามง่ะก้อหัวใจมันห้ามรักไม่ได้นี้

หยกนายก้อเลิกกับเมียซะซิแล้วมาขอน้องพีร์แต่งงานเลย

ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #399 เมื่อ02-06-2010 20:50:30 »

รักพี่เเจ๊คเขาไปเหอะ ไม่มีพันธะ โรเเมนติกมากๆ
ปล.อ่านมานานเเต่ไม่ค่อยได้เม้นเลย เเต่เป็นเรื่องที่ต้องเปิดเข้ามาอ่านทุกวัน  คนเเต่งน่ารักมากมาอัพให้ทุกวันเลยค่ะ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #399 เมื่อ: 02-06-2010 20:50:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #400 เมื่อ02-06-2010 21:20:34 »

เฮ้อ เรื่องของจิตใจห้ามกันยาก แต่คิดว่า พีร์ คงรู้แหละว่าใครที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้จริงๆ

หนูจะเอ้า

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #401 เมื่อ02-06-2010 21:39:21 »

 ความเป็นจริง คุณแพรว คงจะเป็นอีกย่าง ไม่ มากก็ น้อย ...

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #402 เมื่อ02-06-2010 22:22:14 »

พีร์ หยกมีไรดีอ่ะ

คุณแจ๊คเถอะๆๆๆๆ

Lucio

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #403 เมื่อ02-06-2010 22:48:31 »

พอพ่อแม่โอเคคนลูกกลับมีปัญหาซะงั้น

เชียร์พี่แจคสุดใจ  o13

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #404 เมื่อ02-06-2010 23:20:07 »

หยกมีดีที่ตรงนั้น..................

















ตรงความมีเสน่ห์และเอาใจใส่  :laugh:

สงสารเฮียแจ๊คเรา แต่ก่อนเป็นเพลย์บอยตัวพ่อไม่ต้องทำไรมาก ก็มีหนุ่มน้อยเยอะแยะเสนอตัว มาคราวนี้ได้แต่เศร้าในอกเพราะไปหลงรักคนที่เค้าตัดใจจากรักแรกไม่ลง  :monkeysad:

ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #405 เมื่อ03-06-2010 00:48:26 »

 :call: :call: :call: :call: :call:ขอให้โลกมีความสุข

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #406 เมื่อ03-06-2010 09:56:19 »

คุณแจ็คตรูใจแป้วเลย....เฮ้อง.แต่มันก็พูดอยากเนอะเพราะเหมือนคุณหยกเป็นคนแรกของพีด้วยมั้ง  สู้ๆๆคุณแจ็คอย่าน้อยใจไปเลย น้องพีก็พยายามลืมไอ่พี่หยกเหอะ...

รออ่านต่อจ้า


ปล. แอบใจหาย ต่อไปตอนจบแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #407 เมื่อ03-06-2010 14:36:10 »

จบไม่เศร้าใช่มั้ย ไม่เศร้านะคุณน้ำพริก
ขอละ
อยากอ่านตอนส่งตัวเข้าหออ่ะ  :z1:เด่วจะไปแอบอยู่ใต้เตียง
555

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #408 เมื่อ03-06-2010 14:49:05 »

ภาคต่อ ตอนที่ 33

   ถึงแม้พลกฤษณ์จะรับรู้จากพีร์ว่าในใจของเขายังคงรักศิลาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ตกใจที่เป็นอย่างนั้นซะเท่าไหร่ เพราะเขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มนั้นคงจะไม่มีใจให้เขาเลยแม้แต่น้อย
   ที่พีร์มีให้เขา คงเป็นเพียงความเห็นอกเห็นใจ มากกว่าจะเป็นความรัก
“ไอ้หยกมันคงจะดีใจน่าดู ที่น้องพียังรักมันอยู่” เขานึกถึงเพื่อนขึ้นมา และก็นึกถึงตัวเองที่ก็รักพีร์เหมือนกัน
เขายิ้มเยาะตัวเอง ว่าใครรู้เข้าคงหัวเราะเยาะ ว่าแจ๊คตัวพ่อไม่มีปัญญาเอาชนะใจของเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ อย่างพีร์ได้สำเร็จ ทั้ง ๆ ที่มีคนเป็นร้อยยอมศิโรราบให้กับเขา โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรมาก
แต่ก็คงไม่ใช่พีร์ คนที่เขารักคนนี้เป็นแน่แท้
แต่ไม่ว่ายังไง งานแต่งงานของเขาที่พ่อแม่ตั้งใจจัดให้ คงจะไม่เป็นหมันอย่างแน่นอน

  วันต่อมาที่เขากับพีร์ได้พาพ่อกับแม่ของเขาท่องเที่ยวไปในหลาย ๆ ที่ ทั้งเกาะยอ ตัวเมืองสงขลา และในเวลาเย็นนี้ที่หาดสมิหลา ชายหาดที่เป็นสัญลักษณ์ของสงขลา คนเป็นพ่อกับแม่นั้นปล่อยให้คู่รักได้อยู่กันตามลำพังหลังจากที่ไปเที่ยวกับพวกเขามาทั้งวัน
 พีร์นั้นเดินเอื่อย ๆ  นำหน้าร่างสูงใหญ่ริมชายหาด ลมเย็น ๆ ที่พัดมาไม่ได้ทำให้พีร์รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อเช้าเลย เขารู้สึกอึดอัดใจเหลือเกินที่ทำให้พลกฤษณ์ต้องมาเสียใจเพราะเขา แถมชายหนุ่มก็ยังไม่มีท่าทีโกรธเคืองอะไรออกมาให้เขาเห็นแม้แต่น้อย
  พลกฤษณ์รู้ดีว่าพีร์รู้สึกอย่างไร แต่เขาก็มีวิธีของเขาที่จะทำให้คนที่เขารักนั้นไม่ต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป
 ถึงแม้พีร์จะไม่เต็มใจนัก แต่เขาก็เชื่อว่าเขาจะทำให้พีร์มีความสุขที่สุด
“พีครับ” เขาเอ่ยขึ้นมา พีร์หันหลังมองร่างสูงที่ตามเขาอยู่ “ผมรู้นะว่าคุณรู้สึกยังไง”
พีร์เงียบ ไม่ตอบอะไรออกมา
“แต่ผมมีเรื่องอะไรจะขอคุณเรื่องนึง”
พีร์หยุดนิ่ง พร้อมกับหันไปฟังร่างสูงพูดอย่างตั้งใจ
“แต่งงานกับผมนะ” พลกฤษณ์คุกเข่าลงตรงหน้าพีร์ที่ตกใจเมื่อได้ยินประโยคนี้
เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะในชีวิตที่เขาเลือกนี้ เขาก็ไม่คิดฝันเลยว่าจะมีชายหนุ่มคนไหนจะขอเขาแต่งงานอย่างนี้
“ไม่ว่าคุณจะรักใคร หรือ คุณจะไม่รักผมเลยก็ตาม แต่ผมขอล่ะ แต่งงานกับผมเถอะนะ”
สายตาอ้อนวอนจากใจของชายหนุ่ม ทำให้พีร์นั้นอ่อนลง เขาค่อย ๆ ร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน
พลกฤษณ์ค่อย หยิบแหวนทองคำขาวแบบเกลี้ยงที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต เขามองหน้าพีร์อย่างขอคำตอบ
  พีร์ที่ตอนนี้น้ำตานองหน้าอย่างตื้นตัน พยักหน้าออกมาอย่างตอบรับ เพราะเขานั้นเห็นคุณค่าในสิ่งที่ชายหนุ่มทุ่มเทให้เขามาโดยตลอด พลกฤษณ์ค่อย ๆ จับมือซ้ายของพีร์ออกมาแล้วบรรจงสวมแหวนที่นิ้วทาง เมื่อสวมเสร็จพีร์ก็ดึงให้ชายหนุ่มลุกขึ้น
  ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มตั้งตัว พีร์ก็เข้าไปกอดเขาอย่างขอบคุณ เขาซบที่อกของชายหนุ่มแล้วร้องไห้หนักขึ้น พลกฤษณ์นั้นลูบผมนุ่มเบา ๆ อย่างปลอบโยน
    ทันใดนั้นเสียงเฮก็ดังมาจากทิวสนอย่างชอบใจ พวกเขาหันไปก็พบว่า พ่อกับแม่ของพวกเขาและบรรดาคนอื่นที่อยู่แถวนั้นคงรอลุ้นกับภาพเมื่อสักครู่เป็นแน่แท้ พีร์นั้นอายมาก ส่วนพลกฤษณ์ยิ้มกับพ่อแม่และยกนิ้วโป้งให้อย่างมั่นใจ
และเมื่อถึงวันกลับ พลกฤษณ์นั้นกลับมากรุงเทพฯกับครอบครัว เพื่อทำงานและเตรียมสำหรับการไปสู่ขอพีร์ตามที่พ่อเขาบอก ส่วนพีร์นั้นพ่อกับแม่ของเขาอยากให้อยู่ที่บ้านและรอให้อีกฝ่ายมารับตัวเขาไปอย่างถูกต้อง                    
    วันนี้พลกฤษณ์ก็ได้มาออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังที่มักจะเชิญแขกรับเชิญเป็นคนดังจากวงสังคมมาเปิดเผยชีวิตและประเด็นร้อน พิธีกรสาวถามคำถามทั่วไปกับเขาตามปกติ จนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรายการเธอก็ไม่พลาดที่จะเจาะลึกเรื่องความรักของชายหนุ่มให้ผู้ชมฟัง
“มาถึงเรื่องนี้กันบ้างค่ะ คุณผู้ชม จัดว่าเป็น Talk of the town เลยก็ว่าได้สำหรับข่าวคราวด้านความรักครั้งล่าสุดของชายหนุ่มคนนี้” เธอหันมาถามพลกฤษณ์ “เป็นไงมั่งคะคุณแจ๊ค ภายหลังที่ข่าวออกไป มีผลอะไรออกมาบ้าง คุณพี เป็นยังไงมั่งคะ”
“ก็ มีคนรู้จักพีเค้าเยอะขึ้นหน่ะครับ ผมก็พยายามให้เค้าเข้าใจในตรงนี้”
“แล้ว พี่ขอถามนะคะ ไปรู้จักกันได้ยังไง”
“ก็ คือ วันนั้นผมไปซื้อหนังสือหน่ะครับ แล้วก็หันไปเห็นเค้ายืนอยู่ก็เลยทำฟอร์มเข้าไปถามนู่นนี่”
พิธีกรสาวตั้งใจฟัง ส่วนคนในห้องส่งฮิ้วลั่นอย่างถูกใจ
“ตอนที่เจอกัน เค้าก็ไม่สนใจผมเท่าไหร่หรอกนะครับ”
“แต่นั้นก็ทำให้คุณแจ๊คยิ่งเข้าไปหาใช่มั๊ยคะ”
“ครับ” เขาตอบรับยิ้ม ๆ
“แล้วชอบเค้าที่ตรงไหนคะ”
“พูดไม่ถูกอ่ะครับ ก็คงที่เค้าเป็นตัวเค้านั่นหล่ะครับ”
“แล้ว ทางบ้านคุณแจ๊คว่ายังไงมั่งคะ”
“ที่บ้านชอบพีมากเลยครับ ก็ผมกับทางพ่อแม่ของพีก็คุยกันเรียบร้อยแล้วครับ”
“จริงเหรอคะ!” เธอตื่นเต้น
“ใช่ครับ” พลกฤษณ์มั่นใจ
“แล้ว อย่างนี้จะมีข่าวดีมั๊ยคะ”
“ก็ นี่หล่ะครับเป็นข่าวดีแล้ว เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ ก็เท่ากับว่าครอบครัวของพวกเรายอมรับแล้ว”
“อุ๊ยย ดีจังเลยอ่า”
คนดูในห้องส่งฮิ้วอีกรอบ พิธีกรสาวเลยถามต่อ
“แล้วคุณแจ๊คคิดยังไงบ้างคะกับความรักครั้งนี้ มีการวางแผนอะไรมั๊ยคะ”
“ไม่ครับ ผมคิดว่า ที่ผมเจอพี และพ่อแม่ผมก็ยอมรับได้ ก็นับว่าผมโชดดีพอแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ความรักแบบผมมันไม่มีอะไรเป็นหลักประกันและข้อผูกมัด แต่ผมขอสัญญากับทุกคนว่า ผมจะรักและดูแลพีไปตลอดครับ”
คนทั้งห้องส่งกรี๊ดและลุกขึ้นปรบมืออย่างประทับใจที่สุด พิธีกรสาวเองก็เช่นกัน เธอกล่าวปิดรายการตามแบบฉบับ เพื่อทิ้งท้ายให้คนดูทางบ้านประทับใจในเทปนี้มากขึ้น และรับรองว่าการให้สัมภาสน์ออกโทรทัศน์ของพลกฤษณ์ในครั้งนี้จะเป็นที่ฮือฮาในสังคมวงกว้างอย่างแน่นอน

“ปิดตำนานเก้งตัวพ่อ แจ๊คลั่น คนนี้รักจริง”
“เสื้อสิ้นลาย ตัวพ่อประกาศ แต่งหนุ่มน้อยแน่”
“แจ๊คตัวพ่อเอ่ย หยุดตรงนี้ที่เธอ”

บรรดาพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ ทยอยวางออกมาบนโต๊ะทำงานของศิลา เขามองพาดหัวตัวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์นั้นอย่างเจ็บช้ำ เขาอ่านสัมภาสน์ของเพื่อนอย่างกล้ำกลืน ถึงแม้ว่าถ้อยคำของพลกฤษณ์จะไม่ได้หวานเลี่ยนหรือเกินความจริง แต่นั้นก็ทำให้เขาเจ็บช้ำอยู่ดีเมื่อเขาต้องพบว่า ต่อจากนี้ไป เขาจะไม่มีสิทธิ์ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้พีร์อีกต่อไปแล้ว
  คงเป็นเพราะความหึงหวงในคราวนั้นสินะ ที่ได้ทำลายความรักของเขากับพีร์ไปเสียสิ้น
ศิลายิ้มเยาะตัวเอง เขานึกย้อนไปยังวันวานของความรักที่เขาไม่คิดว่าจะเจอ แต่เหมือนว่าเขาคงรู้จักความรักน้อยเกินไปแค่ด้านเดียว ทุกวันนี้เขาจึงได้มาสัมผัสอีกด้านของอานุภาพรักอย่างถ่องแท้
 เหมือนรักของเขาเป็นไฟร้อนที่ให้ความอบอุ่น แต่ก็เผาทั้งเขาและพีร์จนมอดไหม้ไปอย่างที่เห็น
ศิลาสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เขามองดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของพลกฤษณ์ เขาคิดอยู่สักพักจึงกดรับ
“ฮัลโหล” ศิลาทักปลายสายเรียบ ๆ
“ฮัลโหล หยก”
“ว่าไง”
“อืม ชั้นมีเรื่องจะคุยกับแก”

ศิลานั้นมาที่ร้านกาแฟหรูตามที่พลกฤษณ์นัดหมายไว้ เขาเดินตรงไปหาเพื่อนที่นั่งรอเขาอยู่ทันที
พลกฤษณ์ยิ้มให้เพื่อนที่เพิ่งมาถึง เขาค่อย ๆ คนกาแฟอย่างกรุ่นคิด จนศิลาต้องถามขึ้นมาก่อน
“มีอะไรวะแจ๊ค”
“คือ อีกสองวัน ชั้นจะลงไปบ้านน้องพีที่หาดใหญ่”
ศิลาพยักหน้ารับรู้ ในเวลานี้เขารู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไปไม่ได้แล้ว
“ป๊าชั้นให้ชั้นกับน้องพีแต่งงานกันให้ถูกต้อง”
ศิลามองหน้าเพื่อนอย่างตกตะลึง
“ก็ ไม่มีอะไรมากหรอกว่ะ แค่ไหว้เจ้า ยกน้ำชา และก็รับตัวเค้าให้ถูกต้องก็เท่านั้น”
“แล้วแกมาบอกชั้นทำไม” ศิลาถามขึ้นมาอย่างเจ็บปวด
“มันคงจะดีนะ ถ้างานนี้พีเค้ารักชั้น”
ศิลามองหน้าเพื่อน แทบไม่เชื่อหูของตัวเองเหมือนกัน
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา เค้าไม่เคยลืมแกได้เลยว่ะ หยก แกเชื่อมั๊ยว่าน้องเค้าไม่เคยรักใครมากกว่าแกเลย” พลกฤษณ์บอกอย่างเจ็บช้ำไม่แพ้กัน
ศิลาเองรู้สึกดีที่ได้ยินอย่างนั้น เขาหยักหน้าตอบรับเพื่อนและยิ้มน้อย ๆ พลกฤษณ์พูดต่อ
“แต่ชั้นเองก็รักน้องเค้าไม่น้อยกว่าแกเท่าไหร่ แกคงเข้าใจนะ”
ศิลายิ้มมุมปากให้เพื่อน
“หยก แกยังรักน้องพีอยู่ใช่มั๊ย”
ศิลาพยักหน้าเบา ๆ แล้วตอบเพื่อนไป “รักสิ”
“ถ้าอย่างนั้น แกช่วยชั้นอย่างนึงได้มั๊ย..” เขาบอกออกไปถึงสิ่งที่เขาคิดในหัวให้ศิลาฟัง ศิลานั้นยิ้มรับ และตอบตกลงอย่างง่ายดาย
พลกฤษณ์นั้นยิ้มเศร้า แต่เขาก็ดีใจที่ทำให้คนที่ตัวเองรักจะได้มีความสุขจริง ๆ

  ส่วนพีร์ที่อยู่ต่างจังหวัด เมื่อได้ดูรายการโทรทัศน์และอ่านหนังสือพิมพ์ เขาไม่ได้รู้สึกอายหรือรำคาญกับอะไรดังกล่าวอีกต่อไป
  พ่อกับแม่ของเขานั้นดูภูมิใจในตัวพลกฤษณ์มาก ที่แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าคบหาเขาด้วยความจริงใจ และบริสุทธิ์ใจกับครอบครัวเขามากเพียงใด การที่เขาตกลงแต่งงานกับพลกฤษณ์ในตอนนั้น อาจจะเป็นเพราะความเห็นใจในตัวชายหนุ่มและเพื่อไม่ให้เสียทางผู้ใหญ่ที่คุยกันไว้ แต่เวลานี้เขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าชายหนุ่มรักเขามากเพียงใดเมื่อนึกย้อนไปตั้งแต่คราวที่พลกฤษณ์มาช่วยเขาได้ทันท่วงทีในหลาย ๆ เรื่อง และปกป้องเขาอย่างดีจากการดูถูกเหยียดหยามจากสังคมภายนอก
   ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองก็มีพื้นที่ราคาแพงในสังคมเช่นกัน จากการที่พลกฤษณ์สอนให้เขารู้จักเข้มแข็งและอย่าได้สนใจใคร
   เขายิ้มออกมาอย่างคิดได้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่มีคนรักอย่างพลกฤษณ์คอยเคียงข้าง
   พีร์ยินดีกับการส่งตัวที่บุพการีจัดให้ด้วยความเต็มใจอย่างแท้จริง

  และวันสำคัญของคนทั้งคู่ก็มาถึง โดยพิธีการต่าง ๆ ดำเนินไปตามฤกษ์ยามที่กำหนดไว้ พิธียกน้ำชาของพลกฤษณ์และพีร์เป็นไปด้วยความชื่นมื่นของบุพการีทั้งสองฝ่าย วันนี้ทุกคนแต่งกายสวยงามดูดีโดยเฉพาะพีร์ที่ดูดีด้วยสูทสีขาวที่ตัดเย็บตามสไตล์เกาหลีคลุมทับเชิ้ตสีชมพูข้างในและแม่ของพีร์นั้นให้ทัดใบทับทิมตามธรรมเนียมด้วย งานนี้ก็มีแต่คนที่สนิทชิดเชื้อของสองครอบครัวมาร่วมงานเพียงเท่านั้นและไม่ได้บอกนักข่าวหรือคนอื่นแต่อย่างใด  นลพรรณกับปกรณ์ที่มาตามคำเชิญของพลกฤษณ์และศิริพจน์กับแคทเธอรีนที่มาจากสิงคโปร์เพื่อร่วมยินดีกับคนทั้งสอง
  ศิริพจน์ดีใจเหลือเกินที่เห็นพีร์จะมีความสุขกับพลกฤษณ์ ผู้ชายที่รักในตัวพีร์ไม่น้อยไปกว่าเขา หรือ ศิลา
แต่สิ่งที่เขาและศิลาให้ไม่ได้ ก็คือการอยู่กลางแสงตะวันอย่างที่เป็นนี้
เขาและพี่น้องจากรุงเทพ ฯ ยิ้มยินดีกับพีร์จากใจจริงที่ต่อไปนี้ พีร์คงจะไม่เศร้าหมองเพราะรักที่ซ่อนแอบที่ต่อไป
   พิธีการทั้งหมดเริ่มจากเมื่อพลกฤษณ์ที่หล่อเนี้ยบด้วยสูทหรูแบนด์ยุโรปสีน้ำงินกรมท่า มาถึงบ้านพีร์ในเวลาเช้าตรู่ตามฤกษ์ยาม โดยเขานั้นต้องฝ่าด่านประตูต่าง ๆ จากญาติ ๆ และคนรู้จักที่มาช่วยกั้นเพื่อจะได้เจอพีร์ เสร็จแล้วเขากับพีร์นั้นก็ตระเวนไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบ้าน ถึงแม้ครอบครัวเขาจะเป็นคริสเตียน แต่เรื่องประเพณีดั้งเดิมนี้เขาก็ไม่ละทิ้งเช่นกัน ต่อด้วยการไหว้บรรพบุรุษและการยกน้ำชาคารวะ ผู้เป็นบุพการี และปิดท้ายการกินขนมอี๋ตามธรรมเนียม
“ดูแลน้องให้ดี ๆ นะแจ๊ค ป๊ากับม้าดีใจนะที่เรามีวันนี้” คุณกำชัยผู้เป็นพ่อของพลกฤษณ์อวยพรขณะรับน้ำชาจากคนทั้งสอง
“ครับป๊า” เขาตอบรับ และเดินเข่ามาหาบุพการีของพีร์ที่อยู่ถัดมา
“ฝากพีด้วยนะลูก อย่าทำให้ป๊าต้องผิดหวังนะ” คนเป็นพ่อของพีร์กล่าวออกมาอย่างใจดีขณะรับถ้วยน้ำชา
“ครับป๊า” พลกฤษณ์ตอบรับ พร้อมกับมองหน้าพีร์อย่างดีใจ
“พีก็อย่าไปแสนงอนกับพี่เค้ามากนะลูก ส่วนแจ๊คก็หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะจ๊ะ”
“ครับม้า” พลกฤษณ์ตอบรับ พีร์นั้นยิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุขเช่นกัน

  

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #409 เมื่อ03-06-2010 14:50:17 »

ภาคต่อ ตอนที่ 33 (ต่อ)

และเมื่อเวลาส่งตัวก็มาถึง พีร์นั้นเกาะแขนคนเป็นพ่อไปหน้าบ้าน โดยที่มีญาติผู้ชายคนนึงของพีร์เป็นคนถือตะเกียงนำทางตามธรรมเนียม  ในการมารับตัวพีร์ครั้งนี้ ทางครอบครัวของพลกฤษณ์นำ Maserati Quattroporte สีน้ำเงินป้ายแดง ที่ ผูกโบว์สีชมพูเข้มมารอรับตัวพีร์ถึงหน้าบ้านตามธรรมเนียม  เขากับพลกฤษณ์ขึ้นนั่งบนรถที่มีคนขับรถรออยู่เพื่อไปยังโรงแรมสำหรับการเข้าหอเพื่อจะได้บรรลุขั้นตอนตามธรรมเนียม
    คนเป็นพ่อและแม่มองตามรถหรูที่มารับตัวพีร์ไปอย่างยินดี และอดคิดถึงลูกไม่ได้ที่ต้องออกไปเป็นคนของครอบครัวอื่น แต่ก็ยินดีที่ชีวิตของลูกจะมีคนดี ๆ อย่างพลกฤษณ์มาดูแล
   พลกฤษณ์นั้นมองหน้ากับพีร์อย่างมีความสุข พีร์ยิ้มรับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกัน หนุ่มน้อยไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเขาจะมีวันนี้และมีผู้ชายที่รักเขาขนาดนี้อยู่เคียงข้าง
   พลกฤษณ์นั้นยิ้มให้พีร์เช่นกัน เขายิ้มเศร้าเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าพีร์ก็คงไม่ได้รักเขาเท่าไหร่เลย

เมื่อถึงโรงแรมที่พัก ก็ต้องเป็นไปตามธรรมเนียมเล็กน้อยที่คู่แต่งงงานต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของโรงแรมที่ต่างว่าเป็นที่พักของเจ้าบ่าว ก่อนจะขึ้นมาที่ห้องพักของพ่อกับแม่พลกฤษณ์เพื่อพิธีไหว้และกินขนมอี๋กันอีกครั้ง จนถึงการเข้าหอ ซึ่งเป็นของสวีทของโรงแรมห้าดาวแห่งนี้ พีร์นั้นต้องอยู่คนเดียวสักพักตามธรรมเนียมเพื่อให้เจ้าบ่าวเข้ามาในห้อง
  ในการนี้ พลกฤษณ์นั้นสวมผ้าคลุมหน้าสีแดงให้พีร์ตามธรรมเนียม พีร์หงุดงิดในใจเพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะทำอะไรให้เขาได้ประหลาดใจอีก เพราะความจริงเขาไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้ พีร์อยากรู้เหมือนกันว่าพลกฤษณ์นึกสนุกอะไรอีก
 สักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พีร์นั่งนิ่ง ๆ อย่างตื่นเต้นเพราะรู้ว่าพลกฤษณ์มาแล้ว เขามองลอดผ้าที่พอจะเห็นได้ก็เห็นว่าชายหนุ่มเดินตรงมาที่เขา พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะเปิดผ้าคลุมหน้าของเขาออกตามธรรมเนียม
พีร์มองพลกฤษณ์อย่างสงสัยว่าเขานึกสนุกอะไร ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรออกจากยิ้มให้เฉย ๆ พีร์มองหน้าชายหนุ่มอย่างสงสัยว่ารอยยิ้มนี้มันดูเศร้าเหลือเกิน พลกฤษณ์นั้นลุกออกไปก็ทำให้เห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
 “พี่หยก.....” พีร์ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าพลกฤษณ์จะพาศิลามาตรงนี้ได้ เขามองหน้าชายหนุ่มอย่างสงสัย
พลกฤษณ์ไม่ตอบอะไร เขาเพียงแต่ยิ้มให้ และเดินไปตบไหล่ศิลาก่อนจะออกไปข้างนอก
พีร์มองตามฝ่ายนั้นอย่างสงสัย แต่ก็มองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างประหลาดใจเช่นกัน

  พลกฤษณ์เดินออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลายปนกัน เขากดลิฟท์และลงมานั่งเงียบ ๆ คนเดียวในล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อปล่อยให้คนทั้งสองได้อยู่ด้วยกันข้างบนห้อง
   ชายหนุ่มยินดีที่จะได้เห็นคนที่เขารักมีความสุขจริง ๆ กับคนที่รัก แต่ในอกก็รู้สึกปวดร้าวเหลือเกินที่ต้องให้คนที่รักเป็นของอีกคนอื่นอีกครั้ง
   เมื่อก่อนพลกฤษณ์นั้นมองว่าการที่มีใครแค่คนเดียวข้างกายนั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อบางครั้งเขาก็เคยแลกแฟนหรือคู่นอนกับคนอื่นบ้างเพื่อเปลี่ยนอรรถรส ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าแค่ใช้แฟนร่วมกันมันจะรู้สึกแย่ตรงไหน
    ถึงแม้เมื่อครู่เขาจะแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้จริงตามธรรมเนียมโดยการเป็นคนเปิดผ้าคลุมหน้าให้พีร์แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่ว่าพีร์ไม่ได้เป็นของเขาจริง ๆ นั้นดีขึ้นมาเลย
       วันนี้ชายหนุ่มเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าความรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องให้คนรักเป็นของคนอื่นมันเป็นอย่างไร

“พี่หยก พี่หยกมาได้ยังไงครับ”
“แจ๊คมันบอกกับพี่ว่าวันนี้คุณลุงคุณป้าจะมารับตัวน้องพีอย่างถูกต้องที่นี่ แล้วมันบอกว่ามันอยากให้น้องพี มีความสุขจริง ๆ” เขาตอบแบบยิ้มเศร้า ส่วนพีร์เองก็ยิ่งงงเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“เค้าบอกกับพี่หยกเองเหรอครับ ว่าให้ทำแบบนี้”
ศิลาพยักหน้า ส่วนพีร์เองก็ตกใจมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น ศิลาพูดต่อออกมาอย่างเรียบ ๆ
“น้องพีครับ เรื่องของเรา มันคงจะจบลงจริง ๆ แล้วสินะ”
พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็ตอบรับ “ครับ”
“พี่เข้าใจว่าไอ้แจ๊คมันทำแบบนี้เพราะอะไร แต่พี่ก็ไม่เลวพอที่จะทำลายชีวิตของน้องพีได้ต่อไปอีก”
เขาถอนหายใจและพูดต่อ “พจมันพูดถูก ว่าพี่ควรจะปล่อยมือจากน้องพี ให้อยู่กับคนที่พร้อมกว่า รักก็รักน้องพีเหมือนกัน”
พีร์รับฟังเงียบ ๆ ศิลาจับมือนุ่มที่คุ้นเคยนั้นขึ้นมาแล้วบอกว่า “พี่ยินดีด้วยนะครับ ที่น้องพีจะได้มีความสุขจริง ๆ ซะที”
“ขอบคุณครับ” พีร์ตอบรับเรียบ ๆ
“ถึงแม้ว่าเราจะรักกันไม่ต่างจากวันแรก แต่ถ้าความรักของเรามันทำร้ายน้องพี เราก็จากกันเสียดีกว่า ดีมั๊ยครับ”
“ครับ”
“พี่จะไม่ลืมเลยนะครับว่าครั้งนึงพี่ก็เคยมีความรัก และมีคนรักอย่างน้องพี” เขาจับมือพีร์แน่นเป็นครั้งสุดท้าย
“ครับ พีก็เหมือนกัน”
ศิลานั้นหยิบต่างหูเพชรที่เขาเคยให้พีร์ และถูกเด็กหนุ่มส่งคืนมาแล้วสองครั้งออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท พีร์ตกใจที่เห็นศิลาหยิบสิ่งนี้ออกมา
“ของสิ่งนี้ พี่มอบให้น้องพีร์ มันเป็นของน้องพีร์แล้ว อย่าปฎิเสธอีกเลยนะครับ”
“พี่หยก...”
“ถือซะว่าพี่ให้ เป็นของขวัญแต่งงานก็แล้วกัน”
   พีร์พยักหน้าอย่างยินดี ศิลาถอดต่างหูทองคำขาวเล็ก ๆ ที่ประดับอยู่ก่อนหน้าบนรูล่างสุด แล้วค่อยสวมต่างหูเพชรของเขาให้อย่างเบามือบนหูซ้ายของเด็กหนุ่ม เขาลูบเบา ๆ และยิ้มให้อย่างมีความหมาย
  คนทั้งสองมองหน้ากันอย่างเข้าใจพร้อมสวมกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย ศิลานั้นยอมรับความเป็นจริงของชีวิตด้วยความยินดีและเข้าใจในคำว่า “รัก” มากขึ้น
  หนุ่มน้อยของเขาพูดถูก คนรักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แต่ก็ใช่ว่าจะรักกันไม่ได้
และวันนี้ความรักอันร้อนแรงของเขา ก็แปรเปลี่ยนไปเป็นความรักที่มีความเข้าใจมาช่วยดับไฟนั้นให้เย็นลง

ศิลานั้นมองหาพลกฤษณ์ในล็อบบี้ของโรงแรม เขาตั้งใจว่าถ้าไม่เจอเขาก็คงจะโทรหาเพื่อนแล้วค่อยบอกกล่าวกันต่อหน้า
“วันสำคัญแท้ ๆ เจ้าบ่าวปล่อยให้เจ้าสาวอยู่กับคนอื่นได้ยังไง” เขานึกในใจ และก็เห็นร่างสูงใหญ่ของพลกฤษณ์นั้นนั่งหันหลังอยู่ เขาจึงเข้าไปสะกิดเพื่อนเบา ๆ
“อ่าว หยก” เขาประหลาดใจที่เห็นศิลาลงมาเร็วนัก เขาคิดว่าคนทั้งสองจะให้เวลาร่วมกันเสียอีก
“แกทิ้งเจ้าสาวให้อยู่กับคนอื่นตอนเข้าหอได้ไงวะ” ศิลายิ้มล้อเพื่อนตัวเอง พลกฤษณ์มองหน้าเพื่อนอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ไอ้หยก..”
ศิลานั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้า แล้วพูดต่อ “วันนี้เป็นวันของแกและน้องพี ชั้นยินดีกับแกด้วยนะแจ๊ค และก็ดีใจกับน้องพีเค้าด้วย ที่จะมีแกคอยดูแลต่อไป”
“แล้ว...”
“น้องพีเค้าไม่ได้ดีใจเลยนะที่เห็นชั้นมา” เขายิ้ม ๆ “เค้าคงจะงงล่ะว่าเจ้าบ่าวทิ้งเค้าไปได้ไง แต่ก็ร้ายนะ บอกให้ชั้นมาอยู่กับน้องพี แต่แกก็เป็นคนเปิดผ้าคลุมนี่หว่า ฮ่ะๆ”
“ก็มันงานชั้นนี่หว่า” พลกฤษณ์ค่อยยิ้มออกมา แล้วถามต่อ “ทำไมเค้าไม่ดีใจวะ”
“ก็เค้าไม่ได้รักชั้นแล้วหน่ะสิ”
“หะ..”
“ถึงเค้าจะรักชั้น แต่เค้าก็คงตัดใจเพราะว่ามันคงเป็นไปไม่ได้อย่างที่แกหรือไอ้พจมันบอก” ศิลาเว้นวรรค “เรื่องของชั้นกับน้องพีก็คงจบแล้วหล่ะว่ะ”
พลกฤษณ์ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่คนรักของเขาไม่ได้เป็นของคนอื่น
“ไป ขึ้นไปข้างบนได้แล้ว ทิ้งเจ้าสาวมาอย่างงี้ได้ไงวะ” ศิลาฉุดเพื่อนให้ขึ้นมา
“ขอบใจมากนะ หยก”
“ไม่เป็นไร ชั้นต่างหากที่ต้องขอบใจ” เขาตบไหล่กันและกันและมองหน้ากันอย่างเข้าใจ พลกฤษณ์ไม่รอช้าที่จะกลับไปยังที่ของเขา ส่วนศิลานั้นก็ได้แต่มองตามเพื่อนไปอย่างยินดี

  พลกฤษณ์เปิดประตูห้องอย่างร้อนรน เขาตื่นเต้นและดีใจเป็นที่สุดที่ได้เข้ามาอยู่กับพีร์จริง ๆ เมื่อเปิดประตูห้องเขาก็ไม่พบตัวพีร์ เขาจึงมองหาและร้องเรียกอย่างร้อนรน
“พี! พี! คุณอยู่ไหน!!”
พลกฤษณ์ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ก็หายร้อนใจ เมื่อพบว่าพีร์เดินออกมา เขายิ้มอย่างโล่งใจและเข้าไปหาร่างอวบทันที
“ตกใจแทบแย่”
“แล้วไม่คิดเหรอว่าผมจะตกใจ ที่คุณทิ้งผมไปเมื่อกี๊” พีร์ตอบงอน ๆ
พลกฤษณ์อมยิ้ม เมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาเลยจูงมือพีร์มานั่งคุยกันบนเตียง พีร์นั้นก้มหน้าเดินตามมาเขิน ๆ และนั่งพร้อมกับชายหนุ่ม
  “ผมขอโทษ ผมแค่อยากให้คุณมีความสุขหน่ะ”
“จะบ้าเหรอ นี่มันเป็นวันของเรานะ” พีร์แหวคนข้าง ๆ “ผมจะมีความสุขได้ไงล่ะ ถ้าไม่ได้อยู่กับคุณ”
พีร์ตอบเขิน ๆ ทำให้พลกฤษณ์หันมามองหน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่เชื่อหู
“นี่คุณพูดจริงเหรอ”
“โกหกมั๊ง” พีร์เขินมาก เลยตอบอย่างอื่นแก้เก้อ “ก็ป๊ากับม้าอุตส่าห์รับคุณแล้วนะ อย่าทิ้งผมไปแบบเมื่อกี๊อีกนะ”
“อืม” เขาพยักหน้าแล้วยิ้มให้พีร์อย่างอบอุ่น “ผมดีใจที่สุดเลยนะพี่คุณยอมรับผมด้วยตัวคุณเอง”
“อืม” พีร์พูดได้แค่นั้น และคนทั้งสองก็สวมกอดกันอย่างได้เวลา พลกฤษณ์กอดร่างอวบที่นุ่มนิ่มของพีร์ไว้อย่างแสนรัก ในใจเขาตอนนี้มีความสุขเสียเหลือเกิน เนื้อตัวนุ่มนิ่มและกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของพีร์นี่หล่ะที่เขาไม่เคยได้แตะต้องแม้แต่น้อย แต่วันนี้เป็นวันของเขาแล้ว พลกฤษณ์จึงจะกระซิบข้างหูหนุ่มน้อยเบา ๆกับเรื่องที่เขาคิดอยู่ แต่เขาก็เหลือบไปเห็นว่าที่ติ่งหูซ้ายนั้นเป็นตุ้มหูเพชร แทนที่ตุ้มหูที่เด็กหนุ่มเคยใส่
“นี่อะไรเนี่ยะ” เขาถามพีร์ด้วยความสังสัย
“อ่อ พี่หยกเค้าให้ผมมะกี๊อ่ะ”
“ของไอ้หยกเหรอ”
“ทำม่ะ” พีร์ถามออกไป
“เปล่า ๆ แต่กลับกรุงเทพฯ คุณถอดได้มั๊ย”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ ผมจะซื้อให้ใหม่ไง”
“หือ..”
“นะ ได้ไงอ่ะ ผมเป็นสามีนะ ก็ต้องซื้อของขวัญให้ภรรยาสิ”
“น้อย ๆ หน่อยคุณแจ๊ค เราแค่ทำให้ป๊ากับม้าสบายใจนะ จะจริงจังอะไรขนาดนั้น”
“ก็จริงจังหน่อยไม่ได้เหรอ” เขาบอกอ้อน ๆ ก่อนกระซิบคนในอ้อมกอดออกไปแบบกรุ่มกริ่ม “เมื่อกี๊ที่คุณไปเข้าห้องน้ำมาเนี่ยะ ไปเตรียมตัวสำหรับทำหน้าที่ตอนเข้าหอเหรอ หะ”
“บ้า! ลามก” พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็แหวออกมาพร้อมกับทุบอกล่ำอย่างขัดใจ “ผมแต่งงานกับคุณใช่ว่าผมจะยอมคุณวันนี้นะ”
พลกฤษณ์ยิ้ม ๆ ไม่ได้ผิดหวังหรืออะไรมากมาย “แต่วันหน้ายอมใช่มั๊ย”
“เงียบเลย” เขาตอบงอน ๆ และล้มตัวลงนอน “ผมของีบก่อนนะ เมื่อเช้าเหนื่อยมากเลย”
“อืม ๆ” พลกฤษณ์ตอบรับและล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เด็กหนุ่ม เขารู้สึกมีความสุขเหลือเกินที่ได้นอนเคียงข้างพีร์ ถึงแม้พีร์จะยังไม่ยอมเขาตามที่เขาออกปากแซว แต่แค่เขาได้อยู่ใกล้ ๆ พีร์อย่างนี้ เขาก็มีความสุขเหนือสิ่งอื่นใดและสุขยิ่งกว่าที่เคยผ่านมาเสียอีก

.....................................
7 เดือนต่อมา

“คุณแจ๊คคะ ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะคะ” บรรดาหญิงสาวในชุดนักศึกษาและชุดครุยเข้ามาขอพลกฤษณ์ถ่ายรูปด้วย เพราะเจ้าตัวนั้นมาร่วมแสดงความยินดีกับพีร์ในวันพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยแถวท่าพระจันทร์  แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวสักเพียงใด เขาในฐานะคนรักของพีร์ก็ไม่ย่อท้อที่จะมาดูแลพีร์และครอบครัวที่ขึ้นมาจากหาดใหญ่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่นี่กลับกลายเป็นว่าเขากลายเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างและบรรดาบัณทิตทั้งหลายที่แทนที่จะถ่ายรูปกับซุ้มดอกไม้ แต่กลับกลายเป็นว่ามาถ่ายกับตัวเขาแทน เขายืนรอรอพีร์ที่เข้าหอประชุมในรอบบ่าย ป่านนี้ก็คงใกล้เวลาจะออกมาแล้ว เขาคิดอย่างนั้น
  บรรดาสาว ๆ ขอบคุณเขาอย่างระรี้ระริก เขาตอบรับตามมารยาท แต่ก็มีสาว ๆ กลุ่มใหม่เข้ามา แต่เขาก็รู้สึกว่าพีร์กำลังมองเขาอยู่อย่างไม่พอใจ เมื่อเขาหันไปก็พบร่างอวบในชุดครุยสีดำที่มีแถบผ้าสีฟ้าขาวพาดที่ไหล่มองเขาอย่างเหวี่ยง ๆ และงอน ๆ
  “เอ่อ ขอตัวก่อนนะครับ” เขาพูดกับบรรดาแม่สาวพวกนั้น และเข้ามาหาพีร์ที่ยืนงอนอยู่อย่างเอาใจ
“เป็นอะไร หึงเหรอ” เขาถามยิ้ม ๆ
“ใครหึงคุณ”
“ไม่เอาน่า อย่าเหวี่ยงสิ” เขาค่อยใช้ทิชชู่เช็ดหน้าที่เต็มใบด้วยเหงื่อของพีร์ “เพิ่งจะออกมาจากหอประชุมแท้ ๆ ทำไมเหงื่อเยอะจัง”
“ก็ยืนรอคุณถ่ายรูปกับชะนีพวกนั้นอยู่ไงล่ะ”
“โอ๋ ๆๆ ไม่เอาน่า ก็พวกเค้ามาขอผมถ่ายรูปหน่ะ” เขาพูดต่อ
“ก็อาทิตย์ที่แล้วตอนไปรังสิต ที่ผมไปถ่ายรูปให้ไม่เห็นเหรอว่าน้อง ๆ คนอื่นเค้าก็มาขอผมถ่ายรูป”
  เขาพูดถึงตอนที่เขาไปเป็นตากล้องส่วนตัวให้พีร์ ที่วิทยาเขตรังสิตของมหาวิทยาลัย ถึงแม้คนรอบข้างจะอดอิจฉาพีร์ไม่ได้ที่มีหนุ่มหล่อขับรถหรูมาเป็นตากล้องส่วนตัวให้  แต่ก็ชื่นชมในความรักของคนทั้งสองเป็นอย่างดี และก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปถ่ายรูปกับคนดัง
พีร์หน้างอไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินไปหาพ่อกับแม่แทน พลกฤษณ์มองตามและเดินตามพีร์ไป
“ป๊า ม้า นี่ครับ” เขายื่นปริญญาบัตริให้คนเป็นพ่อกับแม่ได้ภูมิใจ
“เก่งมาก ลูกของป๊า”
“ม้าภูมิใจและดีใจกับพีด้วยนะ” คนเป็นพ่อกับแม่มองหน้าลูกชายอย่างภูมิใจ
“มาแจ๊คมาลูก มาถ่ายรูปกัน” คนเป็นพ่อเรียกพลกฤษณ์ที่เดินตามพีร์มา
“ครับป๊า”
  ทุกคนใบหน้ายิ้มแย้มและจัดท่าทางกับบัณทิตใหม่อย่างตื่นเต้น ตากล้องให้สัญญาณเริ่มยิ้ม คนในครอบครัวทั้งหมดยิ้มออกมาจากใจอย่างมีความสุข

จบ จ้ะ

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ สำหรับการติดตามอย่างเหนียวแน่น

ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณคุณผู้อ่านขาประจำที่เป็นกำลังใจอาทิเช่นคุณ PEENAT 1972,คุณbbyuqin ,คุณj4c9y  คุณLucio, คุณ andy_kwan,  คุณdahlia ,คุณ silverspoon ,คุณnolirin,คุณyunjaejoong,คุณ yoursister ที่หลังไมค์มาคุยกันบ่อย ๆ ค่ะ และก็อีกมากมายค่ะ ที่อยากจะขอบคุณ เพราะถ้าไม่มีคุณผู้อ่านเป็นกำลังใจ คนเขียนคงไม่ฮึดมาลงและเขียนต่อเนื่องทุกวันหรอกค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ

และต้องขอโทษสำหรับกองเชียร์พี่หยกด้วยนะคะ ที่ต้องจบแบบในรูปแบบนี้ เพราะอยากให้เรื่องของน้องพีจบลงด้วยดีจริง ๆ

ก็ใจหายเหมือนกันค่ะ ที่จะจบไป เพราะบอกตรง ๆ ว่าก็ติดคุณผู้อ่านเหมือนกัน 555

เอ่อ ผู้อ่านที่รักคะ อยากจะรู้มั๊ยว่าน้องพีจะยอมเฮียแจ๊คตอนไหน ถ้าอยากอ่านก็ขอเสียงหน่อยค่า....
(เป็นคอนเสริ์ตเลย เหอะ ๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #409 เมื่อ: 03-06-2010 14:50:17 »





piyakorn

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #410 เมื่อ03-06-2010 15:45:33 »

 :L1: จะมีตอนพิเศษบ้างไหมครับ 

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #411 เมื่อ03-06-2010 15:55:51 »

ทำไมไม่มี NC เฮียแจ๊คกกะพีร์อ่ะ  :m16: ถือว่าจบไม่บริบูรณ์นะเนี่ย

จัดมาหน่อยดิค้า  :laugh: ตอนพิเศษ อีกซักห้าสิบตอน  :jul3:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #412 เมื่อ03-06-2010 16:14:47 »

ทำไมไม่มี NC เฮียแจ๊คกกะพีร์อ่ะ  :m16: ถือว่าจบไม่บริบูรณ์นะเนี่ย

จัดมาหน่อยดิค้า  :laugh: ตอนพิเศษ อีกซักห้าสิบตอน  :jul3:
นั่นสิๆ ทำไมไม่มี NC ละจ๊ะคุณน้ำพริก
ขอหน่อยน๊า ขอตอนพิเศษหวานหน่อย :-[
เปงกำลังใจให้คนอ่าน  :monkeysad:ที่ใจหายแว๊บบบบบ ตอนเฮียแจ๊คไปขอร้องไอ่คุณหยกอ่ะ

+1 เปงกำลังใจเช่นเคยค๊าบบบบ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #413 เมื่อ03-06-2010 16:27:51 »

อ้างถึง
เอ่อ ผู้อ่านที่รักคะ อยากจะรู้มั๊ยว่าน้องพีจะยอมเฮียแจ๊คตอนไหน ถ้าอยากอ่านก็ขอเสียงหน่อยค่า....
จัดมาเลย โย่วๆๆๆๆ แล้วก็เห็นด้วยทุกประการกับ คุณ silverspoon  :laugh:

แอบชมว่า ตอนจบจบได้โอเคมากเลยนะ เสียอย่างเดียวขาด NC นี่แหละอุตส่าห์ส่งตัวเข้าหอแล้วนะนั่น ตาอยู่แจ๊คนี่ไม่ไหวเลย  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2010 16:32:45 โดย dahlia »

Lucio

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #414 เมื่อ03-06-2010 16:28:34 »

ม่ายยย จบแล้วหรอเนี่ย กำลังติดลมเลย
ถ้าไม่มีภาคต่อ เค้าไม่ยอมจิงๆด้วยย ~~

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #415 เมื่อ03-06-2010 16:30:01 »

ขอตอนพิเศษของเฮียแจ้คกับน้องพีร์   อิอิ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #416 เมื่อ03-06-2010 19:36:33 »

ขอตอนพิเศษเฮียแจ้คกับน้องพีร์ค่ะ

อยากอ่านๆ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปจ้  แต่งเรื่องใหม่มาให้อ่านกันอีกนะคะ


ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #417 เมื่อ03-06-2010 19:44:29 »

อยากรู้ใจจะขาดว่าพีร์จะยอมพี่แจ๊คตอนไหน :haun4:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #418 เมื่อ03-06-2010 20:03:55 »

 :z13: อิหนูเบียร์ 555

อีป้าแก่ๆ ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกัน สำหรับความสนุกสนาน เศร้าเคล้าน้ำตา ครบรส

ที่ตามติดอ่านเรื่องนี้มาตลอดก็เพราะความชอบไงค่ะ ความรักเป้นสิ่งสวยงาม

ไม่มีใครทำให้ความรักแปรเปลี่ยนเป็นอื่นได้นอกจากตัวเราเองไงค่ะ

หวังว่าจะมี ตอนพิเศษมาฝากเพิ่มอีกนะคะ รักค่ะ +1

ออฟไลน์ mayamay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #419 เมื่อ03-06-2010 20:27:30 »

อยากรู้ค่า สุดๆเลยด้วย :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด