<เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน  (อ่าน 148703 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #330 เมื่อ27-05-2010 19:39:57 »

พีคงจะมีความสุขแล้วนะทีนี้

ชีวิตที่ผ่านมาของพี ทำเอาอิคนอ่านนี่น้ำตาร่วงเลย

อยากให้ชีวิตพีมีความสุขสักที แล้วก็ขอให้มารผจญทั้งหลายหายไปด้วย จะดีมากเลยค่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ ^^

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #331 เมื่อ27-05-2010 20:04:31 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เพิ่งจะตามอ่านวันนี้เลยน๊า ตอนอ่านภาคแรกรู้สึกสงสารพี
 :monkeysad:พออ่านภาคพิเศษเริ่มสงสารพี่หยกหน่อย อ่านไปอ่านมากลับมาสงสารพจ
อ่านอีกทีสงสารทั้งหยก พจ พี
แต่มาถึงตอนนี้รักอาแจ๊คหมดใจเลยค๊าบบบบบบบบ :impress2: อยากจิ้ม +1 ติดๆกันสักสองสามที

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #332 เมื่อ27-05-2010 20:14:48 »

นี้แสดงว่า หยก ไม่ใช่พระเอกใช่ม่ะ ทำมัยล่ะเค้าเชีรย์ หยกง่ะ

ออฟไลน์ wowhaha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #333 เมื่อ27-05-2010 20:20:45 »

เฮ้อมีเรื่องดีๆเกิดกับพี ถึงไม่มากก็เป็นกำลังใจนะ :L2:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #334 เมื่อ27-05-2010 20:21:49 »

มีคนรักคนชอบก็ดีกว่ามีคนเกลียดละคะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #335 เมื่อ27-05-2010 22:08:03 »

นึกว่าจะพ้นแล้วยังมาเจอะพี่หยกอีก..เฮ้อ....น้องพีร์อย่าหวั่นไหวนะ..คุณแจ๊คก็เร่งมือจืบน้องพีร์ได้แล้ว...

น้องพอลน่ารักอ่ะ

Lucio

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #336 เมื่อ27-05-2010 22:16:15 »

อ่านแล้วลุ้นไปด้วยอย่างแรงเลยอ่ะ

คนรักพีแต่ละคนก็ยอมเสียพีไปทั้งนั้น พีเลยเจอแต่ความช้ำใจ

เล่นเอาคนอ่านคนนี้น้ำตาแทบไหล T^T

พี่แจครีบๆลงมือจีบพีแบบจริงๆจังๆได้แล้วนะฮะ เดี๋ยวคุณศิลาเค้าอาศัยความเจ้าเล่ห์เอาตัวพีไปแล้วจะหาว่าไม่เตือน - -*

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #337 เมื่อ27-05-2010 22:32:43 »

พี่แจ๊คจะเป็นตาอยู่จริงๆด้วยอ๊า กีสสสส :o8:
ลุ้นอ่า ว่าพีร์จะตกลงปลงใจกะใคร แอร๊ยย

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #338 เมื่อ27-05-2010 23:05:08 »

กรี๊ดดดด  


พ่อแจ็ค แม่พีร์

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #339 เมื่อ28-05-2010 14:06:27 »

มารอลุ้นอาแจ็คกะอาพีร์ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #339 เมื่อ: 28-05-2010 14:06:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ abacus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #340 เมื่อ28-05-2010 15:47:43 »

สนุกมากๆเลยครับ

ยังรอลุ้นอยู่นะครับว่าจะเป็นยังไงต่อไป

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #341 เมื่อ28-05-2010 16:57:43 »

ขอขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะสำหรับการติดตามอย่างเหนียวแน่นและล้นหลามนี้  :pig4:

ดีใจและปลื้มใจมากเลยค่ะ ที่ผู้อ่านทุกท่านรักเรื่องของน้องพีนี้

ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คะแนนโหวต และกำลังใจจากคุณผู้อ่านขาประจำหลาย ๆ ท่าน,คุณผู้อ่านที่มาโพสใหม่และคุณผู้อ่านที่ไม่ค่อยมาโพสและ คุณผู้อ่านที่เข้ามาเปิดอ่านอย่าเดียว มากนะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ :pig4:

ภาคต่อ ตอนที่ 27

   ครอบครัวของพลกฤษณ์ประกอบไปด้วยพ่อแม่ของเขา และพี่ชายกับน้องชายอย่างละ 2 คน เขาเองเป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้องผู้ชายทั้ง 5 คน แต่สำหรับที่ยังอยู่กับพ่อแม่เขาที่บ้านนี้มีเพียงเขาและศุภกฤษณ์น้องชายคนถัดมาจากเขาและลูกชายของสุกฤษณ์หรือโจ พี่ชายคนที่สองของพลกฤษณ์นั่นเอง จักกฤษณ์พี่ชายคนโตของเค้าอยู่กับตายายที่ฮ่องกงพร้อมครอบครัว ส่วนจุลกฤษณ์น้องชายคนเล็กที่เป็นเพื่อนกับศิริพจน์นั้น นาน ๆ จะกลับมาที่บ้านสักครั้ง เพราะเขาเป็นนักศึกษาแพทย์ปีที่ห้าของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเขานั้นเลือกที่จะอยู่หอพักเพื่อง่ายต่อการไปเรียนที่คณะตัวเองที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลย่านวังหลัง
  เช่นเดียวกับวันนี้ที่เป็นวันธรรมดา บ้านของเขาจึงมีแต่พ่อแม่ ตัวเขา และน้องชายเพียงเท่านั้นที่รับประทานอาหารเย็นด้วยกัน พอลนั้นอ้อนให้พีร์พาไปเดินเล่นข้างนอกจึงยังไม่กลับมา
“แจ๊ค กับหนูพีเป็นไงมั่งลูก” คนเป็นแม่ถามขึ้นมา
“ก็เรื่อย ๆ หน่ะครับม้า
“งั้นเหรอลูก” เธอทำหน้าคิดตาม เพราะว่าก็เรื่อย ๆ ของลูกชายที่ว่านี่คงหมายความเป็นอย่างอื่นแน่
“โห แต่ดูก๊อจริงจังมากเลยนะครับป๊าม้า” ศุภกฤษณ์ออกความเห็น “ปกติเคยพาใครมาให้รู้จักซะที่ไหน แต่คนนี้นอกจากจะพามาให้รู้จักแล้วยังพามาอยู่บ้านด้วยเลย”
“ก็ใช่หน่ะสิ” คนเป็นพ่อตอบรับ เรื่องนี้เขารู้จักลูกชายตัวเองดีพอว่าพลกฤษณ์มีการเปิดรับและปิดกั้นเรื่องความชิดใกล้กับคนอื่นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องของคนรู้ใจด้วย ลูกชายเขาถึงแม้จะเจ้าชู้ไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เคยทุ่มเทหรือจริงจังกับใครขนาดนี้
“แถมก๊อยังให้น้องคนนั้นนอนคนละห้องกันด้วย มันหมายความว่าไงเนี่ยะ”
“เฮ้ย ไอ้นี่ ทำไมวะ ชั้นก็แค่ไม่อยากให้น้องเค้าเสียหาย” พลกฤษณ์ตอบน้องชายแล้วหันมาสมทกับคนเป็นพ่อ    “จริง ๆ นะครับป๊า ผมรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของน้องเค้ามากเลย พีเค้าก็มีพ่อแม่นะครับ ให้มานอนบ้านเราอย่างเดียวก็เสียหายพอแล้ว”
“แหม ก๊อ พูดยังกับน้องเค้าเป็นผู้หญิงเลย”
“อ่าว ไอ้นี่” เขาหันไปดุน้อง “ทำไมวะ คนเป็นเกย์อย่างพวกก็มีหัวใจนะเว้ย ใช่ว่าจะคิดกันแต่เรื่องนั้นแต่อย่างเดียว”
“นั่นแน่....แสดงว่าคนนี้จริงจังใช่มั๊ยลูก” คนเป็นแม่ร่วมฟันธง
“อืม ก็ไม่รู้อ่ะครับม้า ผมไม่อยากติดสินอะไรที่ตัวเอง ถ้าพีเค้าตกลง ผมก็ยินดี”
“โห นี่ก๊อเป็นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยะ” เขาแปลกที่ที่พี่ชายทุ่มเทให้เด็กหนุ่มขนาดนี้
“ไม่รู้ว่ะจิม ตอบไม่ถูก”
“แต่ป๊ากับม้าก็ชอบน้องพีนะ ป๊าว่าเค้าเข้ากับบ้านเราได้ดี และพอลก็รักเค้ามากด้วย”
“อืม ๆ ใช่ก๊อ”
 พลกฤษณ์คิดตาม เขานึกถึงบรรดาอดีตคู่ขาที่เคยเห็นเขาพาหลานชายไปเดินเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า พวกนั้นพยายามทำดีและตีสนิทหลานชายเขา เพื่อหวังจะเอาใจ แต่ก็ไม่มีเลยสักคนที่พอลจะญาติดีด้วย มีเพียงพีร์ที่เป็นคนแรกและคนเดียวที่หลานเขาดีด้วยและเกาะติดแจ
“นี่เห็นบอกว่าจะลงไปคุยกับพ่อแม่ของน้องพีด้วยใช่ไหมหะแจ๊ค” คนเป็นพ่อถาม
“ครับ วันศุกร์หน้าครับ”
“อืม ป๊ากับม้าพอรู้ว่ามันลำบากใจแค่ไหนที่อยู่ดี ๆ ลูกชายจะควงผู้ชายเค้าบ้านในฐานะแฟน แต่ก็ เราบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ใครจะทำอะไรลูกป๊าได้วะ”
“ใช่ ๆ” คนเป็นแม่สมทบ”
“โห ป๊าครับ พูดยังกับผมจะลงไปพรุ่งนี้”
“เฮ่ยย เตรียมตัวไว้ก่อนก็ดีนะ เผื่อจะเจออะไร แกจะได้ช่วยน้องเค้าได้ เข้าใจไหม”
“ครับป๊า” เขารับคำ และคิดถึงความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งเขายังไม่แน่ใจเลยว่าพ่อแม่ของพีร์จะเข้าใจและยอมรับในความเป็นพีร์จริง ๆ หรือเปล่า

“สวัสดีครับ” พีร์ซึ่งทำหน้าที่รับโทรศัพท์เฉพาะสายของพลกฤษณ์รับโทรศัพท์สายหนึ่งตามปกติ
“Hello, this is Lukewid from Germany.  May I speak to Jackie please.
“Yes, please wait a minute. เขาตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะให้คนออกไปตามพลกฤษณ์ที่ทำงานอยู่กับฝ่ายช่างมารับโทรศัพท์ และพลกฤษณ์ก็เข้ามาหาอย่างรีบเร่ง
“อ่ะนี่ คุณลุควิด จากเยอรมัน”
พลกฤษณ์ทำหน้ากวน ๆ ก่อนจะหยิบมารับสาย พีร์มองอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ เขานั้นจับผิดและลุ้นว่าพลกฤษณ์จะพูดภาษาอังกฤษออกมาเป็นแบบใด

“Hallo, mein Freund” พลกฤษณ์ตอบกลับปลายสายเป็นภาษาเยอรมันชัดเป๊ะ ทำให้พีร์ถึงกับมองหน้าชายหนุ่มอย่างคิดไม่ถึง และก็ไม่ใช่แค่ประโยคเดียว พลกฤษณ์นั้นใช้ภาษาเยอรมันในการสนทนากับปลายสายราวกับเป็นเจ้าของภาษา พีร์คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าชายหนุ่มภาพลักษณ์แบดบอยอย่างพลกฤษณ์จะมีความสามารถขนาดนี้
พอเขาคุยเสร็จก็ส่งโทรศัพท์ให้พีร์และยิ้มกวน ๆ เขาว่าแล้วว่าพีร์ต้องตะลึง
“ตกใจล่ะสิว่าผมคุยภาษาอื่นได้” เขาพูดถูกจุด และชิงพูดอะไรอย่างอื่นก่อนที่พีร์จะยอกย้อน เขาจึงพูดถึงการเรียนปริญญาตรีและโทด้านวิศวะกรรมยานยนต์ของเขาที่เยอรมันนีที่หลังเรียนจบและฝึกงาน พลกฤษณ์เคยทำงานในบริษัทรถยนต์ดัง ๆ มาแล้วหลายที่เพื่อหาประสบการณ์และไต่เต้าไปตามความสามารถ แต่เขาพูดถึงบริษัทสุดท้ายก่อนที่เขาจะกลับมาช่วยงานพ่อแม่ที่เมืองไทย
“แสดงว่าคุณไม่รู้ล่ะสิว่า ผมเคยเรียนและทำงานที่เยอรมันตั้ง 9 ปี แหน่ะ นี่ถ้าผมไม่คิดว่าป๊าเรียกกลับมาก่อนนะ ป่านนี้ผมคงยังทำงานที่โรงงาน BMW อยู่แน่ ๆ”
“ก็ผมไม่ได้สนใจคุณหนิ” พีร์พูดเชิด ๆ พลกฤษณ์ยิ้ม รับรู้ดีว่าเด็กหนุ่มคิดยังไงกับเขา
“อืม ก็นั่นหล่ะ ผมมันไม่ใช่ลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ที่เพียบพร้อมเป็นเพอร์เฟ็กต์แมนหนิ” เขาพูดท้าทาย
พีร์รู้ว่าพลกฤษณ์หมายถึงศิลา เขารู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มเงียบลงและเดินออกไปอย่างพยายามสงบสติ
  พลกฤษณ์รู้ตัวว่าพูดแรงไป อาจจะเพราะความหมั่นไส้ที่เด็กหนุ่มไม่เคยมองเขาในด้านดีบ้างเลย ทำให้หลุดพูดออกไปด้วยความคับแค้น เขารู้สึกผิดมากที่ทำให้พีร์เสียใจ
  เขาไปห้องน้ำ ซึ่งคิดว่าพีร์คงต้องแอบไปร้องไห้คนเดียวอยู่แน่  และก็ไม่ผิดที่คิดไว้ เขาจัดการล็อกประตูใหญ่แล้วเข้าไปในห้องน้ำที่มีสองห้องน้ำเล็กย่อย เขาได้ยินเสียงสะอื้นจากห้องน้ำเล็กทางซ้ายมือ ซึ่งฟังจากเสียงเขาก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร
“พี ผมขอโทษ” เขาพูดออกไปทันที แต่เหมือนว่าพีร์จะร้องไห้ไม่หยุด เขากุมขมับตัวเองอย่างปวดกบาลทันที เพราะไม่เคยมีใครเจ้าแง่แสนงอนได้เท่าพีร์อีกแล้ว
“ผมขอโทษไง หยุดร้องไห้เถอะนะ”
“อ่ะ ผมผิดก็ได้ ที่เหน็บคุณ แต่คุณอ่ะ คุณเคยมองผมในแง่ดีกับเค้าบ้างมั๊ย” พลฤษณ์พูดออกไปด้วยความเป็นคนตรง ๆ ทำให้พีร์ชะงัก
“แล้วผมเคยว่าอะไรคุณไหม ที่คุณชอบคิดว่าผมเป็นอย่างโน้นอย่างนี้อ่ะ” พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็หยุดร้องไห้ทันที เขาจึงค่อยเปิดกลอนประตูห้องน้ำเพื่อจะออกมา แต่ก็ช้ากว่าพลกฤษณ์ที่บุกเข้ามาประชิดตัวร่างอวบให้ติดผนังทันที พีร์ตกใจและเอามือดันอกล่ำของร่างสูงใหญ่ แต่ก็ต้านแรงชายของอีกฝ่ายไม่ได้ พลกฤษณ์ค่อยโน้มลงเข้าใกล้ใบหน้าของพีร์มากขึ้น เขาพิจารณาหน้าใสภายใต้แว่นกรอบดำครู่หนึ่ง แล้วลูบบนติ่งหูซ้ายที่มีต่างหูแบบเสียบติดอยู่เบา ๆ เขาเข้าใกล้ใบหน้าของพีร์มากขึ้น จนเขาเห็นว่าอีกฝ่ายหลับตาปี๋ด้วยความกลัวปนตื่นเต้นเพราะเขาได้ยินเสียงหัวใจของเด็กหนุ่มเต้นระรัว เขาจึงค่อยออกห่างและหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ขำอะไร” พีร์ถามเคือง ๆ เก้อ ๆ  เพราะเห็นอีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เขาคิดไว้
“เปล่า” เขาตอบยิ้ม ๆ “ถ้าหายโกรธแล้วก็ออกไปทำงานกันต่อดีกว่า” เขาจูงมือพีร์ออกมาด้วย ทำให้พนักงานที่รอเข้าห้องน้ำและบริเวณรอบข้างถึงกับตกใจ เมื่อเห็นพลกฤษณ์กับพีร์ออกมาพร้อมกัน
  พีร์นั้นอายอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาจากคนรอบข้าง แต่พลกฤษณ์กลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้พนักงานนั้นยิ่งแน่ใจใหญ่เลยว่า เจ้านายพวกเขากับแฟนเด็กคงไปทำอะไรกันมากกว่าเข้าห้องน้ำแน่ ๆ

“โหย ก๊อ อะไรกันไม่รอกลับไปทำที่บ้านเหรอ” น้องชายเห็นอย่างนั้นก็แซว ขณะที่อยู่ห้องทำงานของคนเป็นน้องที่เป็นประธานฝ่ายการขาย
“อะไร ก็แค่เข้าห้องน้ำด้วยกัน” เขาตอบเรียบ ๆ
“ก๊อ..อย่ามา ปกติก๊อไม่เคยพลาดไม่ใช่เหรอ แหม อยู่บ้านทำเป็นแยกห้องกันนอน ที่แท้ก็..”
“เฮ้ยย ไปกันใหญ่แล้วไอ้จิม ชั้นไม่ได้ทำอะไรกันจริง ๆ แกฟังนะ ชั้นกับน้องพียังไม่เคยมีอะไรกันจริง ๆ”
ศุภกฤษณ์มองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อ
“จริงนะ ขนาดมือเค้ายังไม่ยอมให้ชั้นจับเลย จะเอาอะไรกับทำอย่างอื่น”
เขาเห็นน้องชายทำหน้าไม่เชื่อเขาก็หมดปัญญาพูดต่อ “เออ ไม่เชื่อก็ตามใจ”
“โธ่ก๊อ..” คนเป็นน้องปราม “เชื่อก็เชื่อ ว่าแต่ทำไมไปคุยอะไรกันในห้องน้ำล่ะ”
“ก็นิดหน่อยว่ะ” เขาถอนหายใจ “พีเค้าไม่เคยมองก๊อเป็นคนดีเลยหน่ะสิ ก๊อก็บอกกับเค้าว่าใช่หน่ะสิ ก๊อมันไม่ได้ ไม่เหมือนแฟนเก่าเค้าไง ก็เท่านั้นหล่ะ...” เขาเว้นวรรค และพูดต่อ “เค้าก็หนีก๊อไปร้องไห้ในห้องน้ำเลย”
“โห..แฟนก๊อนี่อาร์ตตัวแม่มากเลยนะเนี่ยะ”
“เออ ก็คิดอยู่”
“น่า แต่ผมว่าดีนะ ก๊อเป็นคนไม่ง้อคน มีแฟนขี้งอนตัวแม่แบบนี้ ก๊อจะได้ง้อคนอื่นเป็นบ้างไง”
“อย่างอนไปมากกว่านี้เลยว่ะ แค่นี้ก็ปวดหัวจะตาย” เขาถอนหายใจเซ็ง ๆ แต่ก็รู้สึกผิดและเป็นห่วงพีร์ที่พูดกับพีร์อย่างนั้น

   ตลอดทางที่เขาขับรถกลับบ้านพร้อมกับพีร์ในวันนี้ เขารู้สึกว่าพีร์ยังคงตึงกับเขานิด ๆ แต่ก็ยังดีที่พีร์ทำตัวปกติไม่ให้พอลสังเกตอะไรมาก จนเมื่อเขาถึงบ้าน พลก็ลงมาจากรถและวิ่งตื๋อไปหาคนคนนึงที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านทันที
“ป่าป๊า....” เด็กน้อยวิ่งเข้าหาชายวัยใกล้ 40 ในชุดหนุ่มออฟฟิศอย่างคิดถึง พีร์คิดว่านี่คงจะเป็นพ่อของน้องพอลที่กลับบ้าน
“ไงก๊อ” พลกฤษณ์ทักทายพี่ชายตัวเอง “หายไปนานจนเจ้าพอลคิดว่าผมเป็นพ่อไปแล้วนะ”
คนเป็นพี่ชายหน้าเสียเมื่อได้ยินน้องชายพูดตรง ๆ อย่างนั้น พลกฤษณ์ไม่ลืมแนะนำพีร์ให้พี่ชายเขารู้จัก
“อืม ก๊อรู้แล้วว่าน้องคนนี้เป็นแฟนแก” เขาพูดกับพีร์ “ขอบคุณน้องมากนะครับ ที่ช่วยดูแลพอล”
“ไม่เป็นไรครับ” พีร์ตอบรับ
“น้าพีใจดีที่สุดเลยครับป่าป๊า” พอลบอกกับสุกฤษณ์ที่กอดเขาอย่างคิดถึง
“เหรอ แล้วนี้พอลลืมป๊าแล้วเหรอ”
“ยัง ๆๆ พอลรักป่าป๊า” เด็กน้อยกอดตอบคนเป็นพ่อเช่นกัน
พลกฤษณ์กับพีร์ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า เขาเข้าใจจริง ๆ แล้วหล่ะว่าไม่ว่าใครก็คงแทนที่พ่อแม่ตัวจริงของคนเป็นลูกไปไม่ได้ ไม่ว่าทั้งสองอาจจะมีช่วงที่ห่างเหินกันแค่ไหนก็ตาม

“นี่คุณแจ๊ค อย่าดื่มเยอะนะ” พีร์ปรามพลกฤษณ์ขณะมาพักผ่อนที่ร้านเหล้าแนวมีดนตรีเล่นสดแห่งหนึ่งที่เอกมัย เพราะว่าวันนี้น้องพอลได้อยู่กับพ่อตัวจริงแล้ว พ่อแม่จำเป็นอย่างพวกเขาจึงขอมาเที่ยวแบบผู้ใหญ่บ้าง
“อืม ๆ คุณกลัวผมเมาเหรอ เหล้าแค่นี้” เขาคิดอะไรออกมาได้จึงกระซิบพีร์ต่อ “เหอะน่า ผมไม่ทำอะไรคุณตอนเมาหรอก” พร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มไปยังเด็กหนุ่ม
พีร์หน้างอทันทีเมื่อเห็นอย่างนั้น “นี่ผมยังไม่หายโกรธคุณนะ”
  พอพีร์พูดจบประโยค พลกฤษณ์ก็ลุกหายไปจากโต๊ะทันที พีร์ตกใจที่เป็นอย่างนั้น เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจให้ชายหนุ่มโกรธเลย แต่ก็คิดได้แบบไว้ตัว “จะไปไหนก็ช่างสิ”
“เอาล่ะครับ วันนี้เรามีรีเควสจากโต๊ะนึงเขอเข้ามาร้องเพลงเองนะครับ ผมเห็นว่าพี่เค้าหล่อดีเลยจัดให้” เสียงจากเวทีประกาศอย่างนั้นแต่พีร์ก็ไม่สนใจ ยังคงมองตามพลกฤษณ์ไปรอบ ๆ
“อ่ะ พี่เค้ามาแล้วขอเสียงหน่อยเร้วววว” MC ของเวทีช่วยสร้างบรรยากาศครึกครื้น “สวัสดีค๊าบบ” เขาทักทายร่างสูงของพลกฤษณ์ที่สะพายกีตาร์สีดำขึ้นมาด้วย “โอ้วว วันนี้พี่แจ๊คมาขอร้องเพลงเองเลย จะร้องเพลงอะไรให้ใครครับเนี๊ย”
พีร์ได้ยินบนเวทีเรียกคนที่มาขอร้องเพลงว่าพี่แจ๊ค เขาจึงหันกลับไปดูบนเวทีทันที เขาสงสัยว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไรนี่?
“ฮัลโหล ๆ เทส สวัสดีครับ” เขาพูดแค่เพียงเท่านั้นก็เรียกเสียงกรี๊ดล้นหลามจากทุกโต๊ะ ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าเขาเป็นอะไร แต่สาว ๆ ก็ยังแพ้ใจในความหล่อขั้นเทพของเขาอยู่ดี
“ วันนี้ผมขอมาร้องเพลงบนเวทีนี้นะครับ ผมขอมอบเพลงนี้ให้กับคนที่มากับผมครับ” เขาไม่ได้ใช้คำว่าแฟน เพราะกลัวว่าพีร์จะอายและคนรอบข้างจะหมั่นไส้พวกเขาไปใหญ่  
“เพลงอะไรอ่ะครับพี่” MC ถามต่อ ส่วนพีร์เองที่นั่งที่โต๊ะก็สงสัยเหมือนกันว่าชายหนุ่มจะร้องเพลงอะไรให้
“เดี๋ยวลองไปฟังกันเลยนะครับ” เขาพูดจบ เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มอีกครั้ง เขาค่อยพรมนิ้วคอร์ทแรกลงไปบนกีตาร์ก่อนจะร้องออกมา
“ก็รู้ว่าฉันไม่มีความหมาย
ก็พอจะรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้
ยิ่งนานเท่าไหร่...ยิ่งหมดหวัง
   เสียงกรี๊ดนั้นดังไม่ขาดสายจากทุกคนในร้าน เพราะว่าพลกฤษณ์ร้องเพลง Unlovable นี้ สด ๆ กับกีตาร์เพียงตัวเดียว เสียงหล่อทุ้ม ๆ ของเขานั้นเข้ากันได้ดีกับเพลงที่มีความหมายดี ๆ นี้ และคนในร้านก็คงจะกรี๊ดในใจเป็นแน่แท้เพราะเนื้อหาของเพลงนี้มันเป็นเพลงขอความรักชัด ๆ
  นี่พวกเขากำลังเห็นเพลย์บอยตัวพ่อมาร้องเพลงขอความรักเหรอเนี่ยะ?
พลกฤษณ์นั้นส่งสายตาไปหาพีร์ที่กำลังมองเขาอยู่เมื่อถึงท่อนนี้
“เมื่อเธอไม่เคยจะหันมองที่ฉัน
ไม่ว่าจะทำเช่นไรเธอคงจะไม่รักกัน
และก็รู้ไม่นานความฝันที่มีก็คงจบไป”
  พีร์เองก็รู้สึกสะดุดกับท่อนที่นี้ที่พลกฤษณ์ร้องเช่นกัน เขามองชายหนุ่มและส่งยิ้มตอบรับไปให้  ส่วนคนอื่นในร้านก็เริ่มเคลิ้มกับพลกฤษณ์ไปแล้ว
“แต่ตอนนี้ยังมีเวลา ให้ฉันจะหาเหตุผลดีๆ
มาฉุดรั้งเธอตอนนี้แต่ก็รู้ดีไม่มีหวัง”  

“ต่อให้ฉันจะรักเธอมากเท่าไหร่
แต่ก็รู้ว่าเธอคงจะไม่สนใจ
ก็ยังฝันไปและยังคงหวังเอาไว้ข้างในจิตใจ
ว่าซักวันเธอจะมีฉัน แต่ก็รู้เป็นไปไม่ได้
เมื่อเธอคิดว่าฉันไม่ใช่ แต่ก็ไม่เป็นไร
ก็อยากจะขอมีเธอเรื่อยไปในใจไปอีกแสนนาน “
   จบครึ่งแรกของเพลงไปอย่างสวยงาม เรียกเสียงกรี๊ดจากคนทั้งร้านได้จมหู ส่วนพีร์เองนั้นสะท้อนใจเหลือเกินจากเนื้อเพลงที่ชายหนุ่มเลือกมาร้องให้เขาฟัง  และวงดนตรีก็รับช่วงต่อช่วยเล่นให้ชายหนุ่มในครึ่งหลังเพื่อเพิ่มความไพเราะให้คนฟังและเป้าหมายของลูกค้าที่ขอขึ้นมาร้องได้ประทับใจยิ่งขึ้น

“และแม้สิ่งที่ฉันทำวันนี้ อาจไม่ทำให้เธอได้รู้สึกดี
สิ่งที่ใจเธอพอจะมีก็เพียงแต่ความรำคาญ
ก็อยากจะขอให้เธอได้ฟังเอาไว้
บทเพลงสุดท้ายที่ฉันตั้งใจจะมอบให้ไป
ที่กลั่นออกมาจากใจ และมีให้เธอผู้เดียวเท่านั้น”

“อ่ะช่วยร้องหน่อยคร๊าบบ....” เขายื่นไมค์ไปในหมู่นักเที่ยวเพื่อให้มีส่วนร่วมในท่อนถัดไป
“ก็เพราะว่าตอนนี้นี้ยังมีเวลา ให้ฉันจะหาเหตุผลดีๆ
มาฉุดรั้งเธอตอนนี้แต่ก็รู้ดีไม่มีหวัง”  
คนดูทั้งหลายนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนพลกฤษณ์เองก็หยิบไมค์ขึ้นมาเดินไปที่โต๊ะต่าง ๆ เพื่อจะได้เป็นไปตามแผนว่าท่อนสุดท้ายนั้นจะต้องจบลงของเขาที่มีพีร์นั่งอยู่ เพื่อที่เขาจะไปร้องท่อนนั้นให้หนุ่มน้อยฟัง
“ต่อให้ฉันจะรักเธอมากเท่าไหร่
แต่ก็รู้ว่าเธอคงจะไม่สนใจ
ก็ยังฝันไปและยังคงหวังเอาไว้ข้างในจิตใจ
ว่าซักวันเธอจะมีฉัน แต่ก็รู้เป็นไปไม่ได้
เมื่อเธอคิดว่าฉันไม่ใช่ แต่ก็ไม่เป็นไร
ก็อยากจะขอมีเธอเรื่อยไปในใจไปอีกแสนนาน “


“ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ กว่าที่ฉันจะลบเธอจากใจ
กว่าที่ความทรงจำดี ๆ มันจะเลือนหาย
กว่าจะได้รักใครอีกครั้ง... “
  เขาเดินมาจนถึงโต๊ะของตัวเองที่มีพีร์มองอย่างตื่นเต้นไม่หาย เขาคุกเข่าลงตรงหน้าหนุ่มน้อย และก็ร้องท่อนนั้นออกมา
“เมื่อเธอคิดว่าชั้น ไม่ใช่
ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่ฉันจะยังหายใจ
จะรักเธอไปตลอดกาล.. “
  เสียงกรี๊ดจากทุกโต๊ะในร้านดังจนกระจกทุกบานแทบแตกเมื่อเห็นภาพของพลกฤษณ์คุกเข่าขอความรักจากหนุ่มน้อย เพราะทุกคนรับทราบแล้วว่าพลกฤษณ์นั้นออกมายอมรับว่าคบหากับหนุ่มน้อยจริงจังเพียงใด ยิ่งเห็นอย่างนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ทุกคนชื่นชมในความสัมพันธ์ของเขากับหนุ่มน้อยผู้โชคดีไปเสียไม่ได้ โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลายที่กรี๊ดออกมาด้วยความชื่นชมปนอิจฉา
  พีร์เองที่ตอนนี้เขินจนทำอะไรไม่ถูก พลกฤษณ์เห็นอย่างนั้นจึงพูดอะไรผ่านไมค์ออกไป
“พีคับ หายโกรธผมหรือยัง” สิ้นเสียงหล่อ ๆ นั้นก็ทำเอาคนทั้งร้านกรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนพีร์เองก็นึกแหวในใจ “ตาบ้า ทำขนาดนี้เพื่อง้อเราเหรอเนี่ยะ”
“ดีกัน ๆ” MC เจ้าเก่าช่วยพูดออกไมค์ เพื่อให้พลกฤษณ์สำเร็จในการร้องเพลงง้อคนรัก ทำให้คนทั้งร้านช่วยกันลุ้นและตะโกนออกมา
“ดีกัน ดีกัน ดีกัน ดีกัน”
โต๊ะข้าง ๆ ก็เข้ามาบอกว่า “เลิกงอนเถอะนะคะ เป็นชั้นจะดีใจมากเลยถ้าแฟนมาทำแบบนี้ให้”
พีร์พยักหน้าแบบตอบรับไปก่อน เขามองหน้าพลกฤษณ์ที่ยังคุกเข่าอยู่ สายตาของพลกฤษณ์นั้นบ่งบอกว่าเขาตั้งใจที่จะทำให้พีร์หายงอนจริง ๆ
พีร์ตัดสินใจหยิบไมค์ลอยที่พลกฤษณ์ถืออยู่มาบอกว่า “โอเคคับ ไม่โกรธแล้วก็ได้”
 พลกฤษณ์นั้นยิ้มออกทันที ท่ามกลางคนทั้งร้านที่ปรบมือยินดีและโห่ร้องออกมาอย่างถูกใจ พีร์มองพลกฤษณ์แบบงอนนิด ๆ ที่ทำอะไรใหญ่โตแบบนี้ แต่เขาก็ชอบนะที่ชายหนุ่มมีอะไรให้เขาได้ประหลาดใจอยู่เสมอ

“พี ที่ผมร้องเพลงนั้นให้ร้านให้คุณฟังหน่ะ” พลกฤษณ์บอกขณะมาส่งชายหนุ่มที่ห้องนอน “ผมพูดจริงนะ”
“หะ พูดจริง..?” เขาสงสัย
“ก็อย่างที่เพลงร้องมานั่นหล่ะ ผมรู้ว่ายังไงผมก็คงไม่ดีพอกับคุณ”
พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเสีย เขาไม่ได้เป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ไหนหนิ ถึงจะได้มีใครดีพอกับเขา
“เพลงมันจบเศร้าไปหน่อยนะ ว่าไหม  ที่คนในเพลงไม่รับรัก” พลกฤษณ์พูดต่อ ตัดบทรวบรัด
“ผมว่าคุณน่าจะรู้นะว่าผมคิดอะไรกับคุณ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะว่าคุณจะโอเคกับผมมั๊ย”
 “ผมไม่อยากบังคับจิตใจคุณนะ คิดดูดี ๆ ละกันว่าคุณรักใคร” เขาพูดประโยคสุดท้ายออกมาก่อนไปนอน
“แต่ไม่ว่าคุณจะรักใคร จำเอาไว้นะ ว่าผมรักคุณ”
พีร์อึ้งเมื่อได้ยินอย่างนั้น นี่เป็นการสารภาพรักที่ดิบ ๆ ห้วน ๆ แต่ก็ไพเราะมากสำหรับเขา ชายหนุ่มไม่พูดอะไรกับเขาต่อนอกจาก คำว่า “กู๊ดไนท์” และก็หันหลังกลับไปห้องนอนของเขา

เหตุผล - Blackhead

http://www.youtube.com/v/QuLk53y52OE


พีร์นั้นหันหลังกลับเข้าห้องไปอย่าง งง ๆ เขาไม่คิดเลยว่า พลกฤษณ์ซึ่งเป็นผู้ชายแบบที่เขาไม่ชอบจะมาพัวพันกับชีวิตเขา ก่อนนั้นเด็กหนุ่มนั้นไม่ชอบผู้ชายท่าทางเจ้าชู้และมีข่าวคราวครึกโครมบ่อย ๆ อย่างพลกฤษณ์เอาเสียเลย
เขาคิดว่า พลกฤษณ์ทำตัวไม่เหมาะสมกับความเป็นผู้ใหญ่และคงไม่มีความรับผิดชอบอะไรมากและคงจะบ้ากามน่าดู แต่จากการที่เขาได้มาใช้ชีวิตกับชายหนุ่มทำให้เขารู้ว่าพลกฤษณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เสียทีเดียว เขาตกใจมากเมื่อหลายครั้งที่เขาพบว่าตัวเองประเมินพลกฤษณ์ผิดพลาดไปจากความเป็นจริงมากมายตามภาพลักษณ์ที่เขาเห็นชายหนุ่มจากภายนอก
   เขางงกับการบอกรักของอีกฝ่ายเสียมากกว่า แต่ก็รู้สึกดีที่ได้รู้ชัดเจนว่านายเพลย์บอยนั้นคิดอะไรกับเขา
แต่ในเมื่อฝ่ายนั้นอยากรู้ว่าเขาจะเลือกทางไหน เขาขอเวลาสักพักเพื่อประเมินและค้นหาคำตอบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2010 14:57:10 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ abacus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #342 เมื่อ28-05-2010 17:16:15 »

จิ้มไปก่อนนะคร้าบบบ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #343 เมื่อ28-05-2010 17:30:52 »

อีป้าแก่ๆ ตอบโอเคไปแบบไม่ต้องใช้เวลาคิดคะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #344 เมื่อ28-05-2010 18:13:34 »

เรื่องนี้มีอะไรให้แปลกใจตลอดเวลาเลย  o13

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #345 เมื่อ28-05-2010 19:49:09 »

พีจ๋า หาอยากน้าแบบนี้

เป็นอิชั้นคนนี้ ตอบตกลงไปอย่างเร็วไว  :laugh:

พีจะมีความสุขแล้วใช่มั้ยเนี่ย

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #346 เมื่อ28-05-2010 20:45:31 »

อิจฉาน้องพีร์นะ  ถ้าเป็นป้าขวัญก็จะค่อยก้มลงไปพยุงพี่พลขึ้นมา
แล้วก็ส่งสายตาหวานฉ่ำให้  แล้วก็บอกว่า"ตกลงค่ะ"

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #347 เมื่อ28-05-2010 21:03:56 »

อีป้าแก่ๆ ตอบโอเคไปแบบไม่ต้องใช้เวลาคิดค่ะ
ถูกค่ะป้า...ตอบตกลงไปเลยจ้ะพีร์ :laugh:
แต่เขินง่ะ พี่แจ๊คโรแมนติคมากมาย น่ารักอ่ะ :-[
แต่ยังอึ้งไม่หายที่พี่แจ๊คจะมาวินนะนี่ :a5: แต่ไงก็ชอบอ่ะ

Lucio

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #348 เมื่อ28-05-2010 23:16:55 »

อ๊ากกก พี่แจค

พอบทจะหวาน ก็หวานซะจนเิขินแทนพีเลยอ่ะ

อิจฉาสุดๆๆ

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #349 เมื่อ28-05-2010 23:50:14 »

กรี๊ด อิจฉา

ทำไมตอนเรางอลแบบนี้ มันสาปส่งเราเลยว่ะ

อิจฉาาาาาพีร์

+1 For JACQUE

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #349 เมื่อ: 28-05-2010 23:50:14 »





ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #350 เมื่อ28-05-2010 23:57:10 »

ใจจริงชอบหยกมากกว่า แค่คิดว่าถ้าคบกับแจ็คพีร์ชีวิตน่าจะมีความสุขมากกว่า

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #351 เมื่อ29-05-2010 00:12:05 »

 :-[

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #352 เมื่อ29-05-2010 00:25:45 »

โห..พี่แจ็ค....ได้ใจไปเลยดีกว่า....แอร๊ยยยยย :-[ ชอบๆๆ

น้องพี...ไม่ต้องคิดนานหรอก...เหอเหอ..เชียร์พี่แจ็คแล้ว...คิกคิก

ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #353 เมื่อ29-05-2010 01:53:16 »

:call: อิจฉา  อยากได้ อยากได้

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #354 เมื่อ29-05-2010 03:25:16 »

คิดว่าสวยเลือกได้รึย่ะหล่อน :fcuk:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #355 เมื่อ29-05-2010 03:48:45 »

 :o8:แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เฮียแจ็คทำซึ้งอ่ะ

เชียร์เฮียสุดพลังเลย 555

ash

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #356 เมื่อ29-05-2010 10:24:22 »

ใครทำน้ำตาลหกไว้แถวนี้เนี้ย!!!
มดมันขึ้นหมดแล้ววววววว
 :-[ :-[

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #357 เมื่อ29-05-2010 17:18:28 »

ภาคต่อ ตอนที่ 28

“ฮัลโหลพี” ศิริพจน์รับสายของพีร์ด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่เป็นการโทรมาหาเขาครั้งแรกของพีร์หลังจากที่อีกฝ่ายออกจากโรงพยาบาล
 “มีอะไรหรือเปล่าครับ โทรมาตอนนี้เนี่ยะ”
“ฮัลโหล พจ พจเป็นไงมั่งอ่ะ ขอโทษนะที่โทรมาดึก ๆ แบบนี้”
“ไม่เป็นไร คุณโทรหาผมได้เสมอนะ ผมก็สบายดี แล้วพีล่ะ พีเป็นไงมั่ง ผมดีใจมากเลยนะที่คุณโทรมา”  ศิริพจน์คิดว่าพีร์คงจะดีขึ้นจากอาการเสียใจในครั้งนั้นแล้ว
“พีก็ดีขึ้นหน่ะ”
“อืม ดีแล้วหล่ะพี แล้วนี่คุณอยู่ที่ไหนเนี่ยะ”
“อ่อ อยู่ที่บ้านคุณแจ๊คอ่ะ”
ศิริพจน์ไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่ก็ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น เพราะพลกฤษณ์เป็นพี่ชายอีกคนที่เขาไว้ใจว่าจะดูแลพีร์ได้ดี
“เหรอ แล้วพี่แจ๊คเค้าดูแลคุณดีไหม”
“ดีมากเลยหล่ะ ผมเกรงใจเค้ามากเลย ผมก็เลยขอไปทำงานให้เค้าบ้าง”
“อืม..”
“แล้วคุณล่ะพจ กับคุณแคทเป็นยังไงมั่ง”
“กับแคทเหรอ ก็เรื่อย ๆ หน่ะ เค้าเป็นเพื่อนที่ดีของผมมากเลยนะ”
“เหรอ....” พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจนิดนึง เพราะคิดว่าเรื่องของศิริพจน์กับแคทเธอรีนจะยังไม่คืบหน้า
“ค่อย ๆ คบกันไปหน่ะ แต่ผมกับเค้าเข้ากันได้ดีนะในทุกเรื่อง นี่พรุ่งนี้ครอบครัวเค้าชวนผมไปเที่ยวลังกาวีด้วยกันเนี่ยะ”
“ดีแล้วหล่ะพจ...พจมีคนที่เหมาะสมและคู่ควรอย่างคุณแคทอยู่ พีก็ดีใจแล้วหล่ะ”
“อืม...ผมว่าผมก็ดีนะที่อย่างน้อยแคทกับผมก็เข้ากันได้ดี”  ชายหนุ่มพูดจากใจจริง
“เออ พจ พีมีเรื่องจะปรึกษาหน่ะ”
“หะ เรื่องอะไรเหรอ” เขาตกใจเพราะกลัวว่าพีร์จะพูดถึงศิลา
“เอ่อ ก็เรื่องของคุณแจ๊คอ่ะ”
“ทำไม พี่แจ๊คเค้ามีอะไรเหรอ”
“ก็...”   พีร์จึงเล่าเรื่องที่พลกฤษณ์ให้เขามาอยู่ที่บ้านด้วย และก็พูดถึงครอบครัวของชายหนุ่มที่เอ็นดูเขาเป็นอย่างดี เรื่องที่เขาช่วยอีกฝ่ายเลี้ยงหลาน และก็เรื่องที่เกิดขึ้นในผับเมื่อครู่นี้
   ศิริพจน์ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกตกใจ แต่ก็เป็นการตกใจที่รู้สึกดีมากกว่าที่พลกฤษณ์จะเป็นคนที่เข้ามาปกป้องดูแลคนที่เขารักแทนตัวเขา
“จริง ๆ นะพจ พียัง งงๆ อยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“อืม...” ศิริพจน์เงียบไปอย่างใช้ความคิด เขาย้อนคิดดูว่าพลกฤษณ์นั้นเริ่มรักพีร์ตั้งแต่ตอนไหน แต่เขาก็คิดไม่ออก คิดได้แต่ว่าอย่างนี้คงต้องไปถามชายหนุ่มเองจะดีกว่า
“ทำไมอ่ะพจ”
“อ่อ เปล่า ไม่มีอะไร แล้วที่พี่แจ็คบอกว่าให้คุณไปคิดดูคุณว่ายังไงอ่ะ”
“ก็ เดี๋ยววันศุกร์หน้าจะลงไปหาป๊ากับม้าที่หาดใหญ่กันอ่ะ ก็ต้องรอดูป๊ากับม้าก่อนว่าโอเคมั๊ย”
“เอางั้นเหรอ โห พี่แจ๊คนี่สุดยอดเลยเนอะ”
“อะไรกัน ทำให้ผมต้องกล้า ๆ กลัว ๆ สู้หน้าป๊าม้าเนี่ยนะสุดยอด” พีร์เริ่มเหวี่ยงเมื่อพูดถึงตรงนี้
“จริงนะพี ผมก็อยากจะเป็นแบบพี่แจ๊คเหมือนกันที่กล้าออกมายอมรับอะไรแบบนี้”  เขาพูดต่อ “อีกอย่างพี่แจ๊คก็แคร์คุณมาก ๆ ด้วยนะ”
“ยังไงอ่ะ แคร์ผม?” เขานึกไม่ออก เพราะพลกฤษณ์เป็นผู้ชายที่พูดจาตรงไปตรงมาและเป็นอีกคนที่เขาไม่เคยเถียงได้ทันเลย
“ก็ที่เค้าจะไปหาพ่อกับแม่คุณไง พี่แจ๊คเค้าคงอยากให้พ่อแม่คุณสบายใจว่า เค้าจะรับผิดชอบคุณหน่ะสิ”
“อย่างงั้นเหรอ”
“อื้มม..”
“แหม รู้สึกว่าพจจะเชียร์พี่แจ๊คจังเลยนะ” พีร์เริ่มเหวี่ยงศิริพจน์แทนเพราะเขาชื่นชมพลกฤษณ์อย่างออกนอกหน้า
“ก็ ไม่รู้สิพี ผมรู้สึกว่าพี่แจ๊คเค้าเป็นคนดีอีกคนนะเท่าที่ผมรู้จักมา” เขาตอบตามความจริงที่เขาคิด
“จ้ะ ๆ เชื่อแล้ว ๆ” พีร์ตอบไปแบบเสียไม่ได้
“อืม นะ ผมก็อยากให้คุณคิดดูดี ๆ ละกันว่าผู้ชายที่รักคุณได้ขนาดนี้และพร้อมที่จะบอกกับใคร ๆ ว่าคุณเป็นอะไรกับเค้าอย่างมีเกียรติ มันคงไม่มีอีกแล้วหล่ะ”
พีร์เงียบไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น ศิริพจน์เลยสมทบต่อ
“ผมอยากเห็นคุณมีความสุขนะครับ”
“ครับ ขอบคุณมากนะพจ”
“อืม ผมขอตัวไปนอนก่อนนะ ที่นี่จะตีสองแล้ว”
“โหยย ผมขอโทษ ผมลืมไปว่าเวลาที่นู่นเร็วกว่าเมืองไทย”
“อืมไม่เป็นไร ๆ มีอะไรก็โทรมาหาผมได้นะพี”
“ครับ ขอบคุณมากนะพจ”
“ครับ บะบายนะ”
“ครับ ๆ” เขากดวางสายไปอย่างกรุ่นคิด กับประโยคที่ศิริพจน์บอกกับเขาก่อนจะวาง พีร์รู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นสนับสนุนให้เขากับพลกฤษณ์ได้ลงเอยกัน เขาสับสนเหลือเกินว่าทำไมทุกคนอยากให้เขาต้องรับรักจากนายเพลย์บอยคนนี้
แต่เขาก็ไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนกับศิลาอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในใจของเขานั้นยังรักศิลาไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ศิลาจะทำร้ายจิตใจของเขามามากแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็แล้วแต่ ด่านสุดท้ายของพลกฤษณ์จริง ๆ ก็คงจะเป็นพ่อแม่ของเขาที่รับได้หรือเปล่ากับชีวิตอีกด้านของเขาที่ถูกเปิดเผยออกมา

  ศิลานั้นยังคงให้นักสืบติดตามความเคลื่อนไหวของพีร์อยู่ไม่ขาด เมื่อเขาพบว่าพีร์นั้นไปอยู่บ้านของพลกฤษณ์เขาก็ยิ่งต้องจับตามากขึ้น
 เพราะจากสายตาของพลกฤษณ์ที่มองพีร์ในครั้งแรกตอนที่เจอกัน เขาก็เริ่มไม่ไว้ใจเพื่อนเท่าไหร่ ประกอบกับอาการเป็นห่วงเป็นใยอีกฝ่ายอย่างออกนอกหน้า มันยิ่งทำให้เขาแน่ใจชัดเลยว่าเพื่อนเขานั้นรักพีร์อย่างไม่ต้องสงสัย
โทรศัพท์มือถือของเขาสั่นเพราะมีสายเข้า เขามองดูก็พบว่าเป็นนักสืบที่เขาจ้างมา เขาจึงกดรับทันที
“ฮัลโหล ว่าไง”
“คุณครับ เอ่อ...” อีกฝ่ายกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะว่าเวลานี้เขาถูกพลกฤษณ์จับคอเสื้ออยู่อย่างเอาเรื่องเพราะชายหนุ่มจับได้ว่าศิลาจ้างให้ตามมาสืบ
“ทำไม มีอะไร ปลายสายร้อนใจ”
พลกฤษณ์กระซิบ “บอกมัน เดี๋ยวให้ไปเจอกันบนดาดฟ้าที่ทำงานมัน”
ศิลาได้ยินเสียงเหมือนใครสักคน เขาจึงพูดออกไป “มีอะไร เกิดอะไรขึ้น”
“เอ่อ เดี๋ยวผมไปเจอคุณบนดาดฟ้าที่บริษัทนะครับ”
“หะ ทำไม มีอะไร...” เขาชักสงสัยมากขึ้น
“ก็เพราะว่าชั้นจับได้หน่ะสิไอ้หยก!” พลกฤษณ์แย่งโทรศัพท์ไปพูดแล้วกดวางสายทันที เขามองหน้านักสืบที่หน้าเสีย ๆ แล้วตบไหล่อีกฝ่ายบอกว่า
 “ไม่ต้องกลัว งานนี้เป็นเรื่องของชั้นกับเพื่อน มีอะไรเกิดขึ้นชั้นรับรองความปลอดภัย”
“ครับ” นักสืบยกมือไหว้ชายหนุ่มปลก ๆ อย่างขอบคุณจริง ๆ

  เมื่อถึงตึกที่ทำการบริษัทของศิลา พลกฤษณ์ก็ไม่รอช้าที่จะขึ้นไปหาศิลาตามที่นัดหมายพร้อมกับนักสืบ เมื่อไปถึงก็พบกับร่างสูงโปร่งของอีกฝ่ายยืนรอเขาอย่างคร่ำเครียด
  ศิลาเห็นว่าพลกฤษณ์มากับนักสืบที่จ้างไว้ก็ตกใจที่เพื่อนของเขาจับได้แล้วจริง ๆ ว่าเขาทำอะไร พลกฤษณ์หยิบสมุดเช็กขึ้นมาเซ็นเป็นตัวเลขหกหลัก แล้วยื่นให้นักสืบ
“แค่นี้น่าจะพอกับค่าปิดปากนะ”
นักสืบมองตัวเลขในเช็คก็พยักหน้าอย่างหวาดกลัวชายหนุ่มทั้งสอง “ครับ ๆ ผมจะเก็บเงียบเรื่องนี้”
“ดี งั้นก็ไปได้”
“ครับ ขอบคุณครับ” เขายกมือไหว้พลกฤษณ์ก่อนจะวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนประจันหน้ากันบนดาดฟ้ายามเย็น
“ฉลาดดีหนิ จับได้ว่าชั้นจ้างนักสืบ” ศิลายิ้มเยาะอีกฝ่าย
“แน่นอน ชั้นเป็นคนเปิดเผยว่ะหยก ไม่เคยทำอะไรลับหลัง”
“เหรอ แล้วที่ชั้นเอาไอ้พจออกไปได้ แกคิดว่าชั้นไม่รู้เหรอว่าแกคิดยังไงกับน้องพี”
พลกฤษณ์ยิ้มให้เพื่อนอย่างท้าทายแทนคำพูด
“แล้วอย่างนี้มันเรียกว่าลับหลังมั๊ยวะหะ!” ศิลาคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมเข้ามาคว้าคอเสื้อยืดของพลกฤษณ์
“ทำไม แล้วชั้นไปทำอะไรให้น้องเค้าเดือดร้อนเหมือนแกมั๊ย!” เขาก็คว้าคอเสื้อสูทของเพื่อนมาเช่นกัน  “ใช่ ชั้นยอมรับว่าชั้นแอบชอบน้องเค้าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว แต่ชั้นก็ไม่ยุ่ง เพราะชั้นรู้ว่าน้องเค้าเป็นของแก และพอรู้ว่าเค้าเป็นของไอ้พจ ชั้นก็ก็ยินดีที่น้องเค้าเจอคนที่ดีกว่าแก แต่คราวนี้ชั้นทนไม่ได้ที่เห็นว่าแกทำให้น้องเค้าใจสลายขนาดนี้”
พูดจบ ศิลาก็ชกหน้าเพื่อนไปอย่างโกรธแค้น  “ไอ้แจ๊ค!! ไอ้ตีท้ายครัว!!ไอ้หมาลอบกัด!!”
พลกฤษณ์เองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เขาจัดการประเคนหมัดกลับไปให้ศิลาอย่างไม่ปราณี
“ใครกันแน่ที่ลอบกัดหะไอ้หยก!! พูดดี ๆ นะ อย่างน้อยชั้นก็ออกมายอมรับละว่าชั้นเป็นอะไรให้คนที่ชั้นรักเค้าได้สบายใจและเชื่อใจในตัวชั้น”
ศิลาเริ่มมองตามความเป็นจริง ว่าเขานั่นหล่ะคือคนที่ใช้วิธีลับหลังในการทำทุกอย่าง และก็เขาไม่เคยทำอะไรอย่างที่เพื่อนเขาทำให้พีร์ได้เลย
“ไอ้แจ๊ค...” เขาค่อย ๆ แกะมือเพื่อนที่กำคอเสื้อเขาออกอย่างยอมแพ้ต่อความจริง เขาค่อย ๆ หันหลังออกมาอีกทางเพื่อไม่ให้เพื่อนเห็นว่าเขาเริ่มเศร้า
“ชั้นรู้ว่าแกรักน้องพีแค่ไหน แต่แกก็อย่าลืมความเป็นจริงของแกด้วยล่ะหยก ว่าแกมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ และหลายอย่างในความเป็นพ่อของแกที่ต้องรับผิดชอบ”
“แล้วทำไมชั้นต้องปล่อยน้องพีไปให้แกด้วย” เขาถามออกมาตรง ๆ
“ถ้าแกไม่เห็นแก่ตัวพอที่จะทำลายชีวิตของคนที่แกรักมากไปกว่านี้ไงล่ะ”
พลกฤษณ์พูดจบก็หันหลังเดินลงไปจากดาดฟ้า ปล่อยให้เพื่อนของเขาได้ใช้ความคิดในเรื่องนี้ ชายหนุ่มหวังว่าศิลาคงจะเข้าใจได้สักทีว่าการยอมให้คนที่เขารักไปเจอคนที่พร้อมกว่า มันย่อมดีกับตัวเขาและพีร์เองด้วย

“คุณแจ๊ค! ไปทำอะไรมาหน่ะ”  พีร์ที่อุ้มพอลอยู่ตกใจเมื่อเห็นพลกฤษณ์ที่ลงมาจากแท็กซี่ขณะที่กลับมาบ้านในสภาพใบหน้าเขียวช้ำบางส่วน นี่ไปมีเรื่องกับใครมานี่ เขาคิดอย่างนั้น
“อาแจ๊คเป็นอารายค๊าบบ” เด็กน้อยถาม
“ไม่มีอะไรหรอกคับน้องพอล” แต่เขาหันไปกระซิบพีร์แทน
“อืม มีเรื่องนิดหน่อยอ่ะ” เขาตอบร่างอวบตรง ๆ “เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังข้างในดีกว่านะ”
พีร์เดินตามเขาไป เขาส่งพอลให้พี่เลี้ยงและพูดกับเด็กน้อยว่า
“น้องพอลคับ น้าพีไปทำแผลให้อาแจ๊คก่อนนะคับ”
“อ๊า น้องพอลจะไปกับน้าพี”
“เอ่อ ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวอาแจ๊คเลือดออกมานะ น้องพอลกลัวเลือดไม่ใช่เหรอ”
“เหวอออ..” เด็กน้อยอุทานออกมาด้วยความกลัวจริง ๆ
“พี่เฮียงครับ ฝากด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ คุณพี ป่ะค่ะ คุณหนู เราไปดูการ์ตูนกันกว่า” หญิงรับใช้ชักชวนพอลและอุ้มออกไป

  พีร์รับหน้าที่เป็นคนทำแผลเหมือนเดิม เขาถามขณะใส่ยาให้อีกฝ่ายว่า “คุณแจ๊ค คุณไปมีเรื่องกับใครมา” เขาคาดเดาไป “พี่หยกใช่มั๊ย”
พลกฤษณ์มองหน้าอีกฝ่ายแบบตอบรับ พีร์หน้าเสียทันทีเมื่อรู้อย่างนั้น
“มีอะไรกันหรือเปล่าคุณแจ๊ค”
“มีสิ” เขาเล่าต่อ “ผมเพิ่งจับได้ว่าไอ้หยกส่งคนมาตามดูคุณ ผมเลยลากตัวไอ้นั่นไปเจอไอ้หยก แล้วผมกับไอ้หยกก็ทะเลาะกันนิดหน่อย ซี๊ดด!!”
“เป็นอะไร แสบเหรอ..” เขาตกใจเรื่องที่ได้ยิน แต่ก็เป็นห่วงชายหนุ่มที่แสบเพราะฤทธิ์ยามากกว่า
“นิดหน่อยหน่ะ” เขายิ้มให้ ถึงแม้พีร์จะมือเบาอย่างที่น้องชายเขาเคยบอกแค่ไหน แต่ฤทธ์ของยาก็ยังคงทำงานอยู่ดี
“ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย” เขาถอนหายใจ “คุยกันดี ๆ ไม่ได้หรือไงนะ”
“ผมก็ไม่รู้ คุณก็พอรู้หนิว่าไอ้หยกหึงร้ายแค่ไหน”
พีร์ทำหน้าเศร้าเมื่อได้ยินอย่างนั้น นิสัยตรงนี้ของศิลาเขารู้ดี “ผมขอโทษนะ คุณมาเดือดร้อนเพราะผมอีกจนได้”
“ไม่เป็นไรหรอก” เขายิ้มรับ และจับมือของพีร์ขึ้นมา “ผมทำเพื่อคุณได้ทุกอย่าง”
พีร์มองหน้าพลกฤษณ์ก็พบสายตาของเขา ที่ไม่เจ้าชู้กรุ้มกริ่มอีกต่อไป สายตาของชายหนุ่มนั้น บ่งบอกว่าเขาจริงจังและมั่นคงต่อสิ่งที่พูดออกมา
“ไป ๆ ใส่ยาแล้วก็ไปกินข้าวซะ แล้วมากินยา” พีร์ไม่รู้จะทำอะไรเลยไล่ชายหนุ่มไปกินข้าวแก้เก้อ
“ได้ไงอ่ะ เจ็บขนาดนี้แล้วให้ผมกินข้าวเนี่ยะอ่ะนะ”
“ก็ กินข้าวแล้วกินยาไงล่ะ”
“โอเค ๆ ผมไปกินข้าวก็ได้” เขายอมแล้วจริง ๆ ชายหนุ่มดีใจที่พีร์ก็เป็นห่วงเขาบ้าง  เขาคลำหน้าเบา ๆ นึกถึงมือนุ่ม ๆ ของอีกฝ่ายที่ทำแผลให้แล้วก็รู้สึกหัวใจพองฟูขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
หรือว่าความรักที่เคยจากไปของเขา จะกลับมาแล้วจริง ๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2010 17:23:43 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #358 เมื่อ29-05-2010 17:37:44 »


ถึงเวลาที่พี่หยกต้องตัดใจแล้วใช่มั้ย  :monkeysad: ใจนึงเชียร์หยกนะ เพราะคิดว่าพีร์น่าจะรักหยกมากที่สุด แต่อีกใจก็ เค้ามีครอบครัวต้องดูแล จะไปอยู่แบบหลบๆซ่อนประหนึ่งเมียน้อยอย่างนั้นหรอ ถ้างั้นก็เลือกแจ๊คดีกว่ามั้ย คนที่สามารถจับมือแล้วเดินไปด้วยกันได้อย่างเปิดเผย เฮ้อ ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ   :z3:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #359 เมื่อ29-05-2010 18:21:03 »

 :m31: อ๊ากกกกก เมื่อไรพีจะตัดใจจากหยกได้สักที
แต่อย่างว่าล่ะนะ รักแรกนิน่า
หยกก็มีครอบครัวแล้ว หย่าก็ไม่ได้ ถึงจะกลับไปคบกันอีก คงเป็นรักที่ปนขมสุดๆ
คบด้วยความไม่สบายใจ...ยังไงก็เชียร์เฮียแจ็คสุดพลังเหมือนเดิม
รอๆๆ อยากอ่านตอนต่อไปจังเลยคุณน้ำพริกแมงดา :z1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2010 18:23:13 โดย nolirin »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด