ฮาลีชะงักไม่กล้าเข้าไปด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวน
“มีอะไรฮาลี?” ทั้งที่หันหลังให้ชีครามิลกลับทักได้ทันทีราวกับมีตาหลัง
“ลองไปเที่ยวมาร์ตินีกดูไหมฝ่าบาท?”
“ฮาลี!ทำไมเราต้องง้อเขาขนาดนั้น” ไนท์หันมาตวาดก้อง
ฮาลียืนนิ่งไม่มีทีท่าหวาดกลัว ด้วยรู้ดีว่าอาการแบบนี้คือหงุดหงิดมากกว่ากริ้ว จริงจัง
“เราไม่ได้ไปง้อใครฝ่าบาท...ก็แค่เสด็จประพาส...”
“อย่ามาเสนอเรื่องไร้สาระกับเรา” ไนท์เบือนหน้าหนีไปทางอื่น ในใจยังขุ่นเคืองแต่ก็อยากรับฟังข้อเสนอของฮาลี
“แต่กระหม่อมอยากไปมาร์ตินีกสักครั้ง หากฝ่าบาทอนุญาต”
“อยากทำอะไรก็เรื่องของเจ้า”
“รับด้วยเกล้า” ฮาลีอมยิ้ม ลององค์รัชทายาทอ่อนให้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะสานรอยราวให้ทั้งคู่
……………………
♚..15..♚
คลื่นที่ม้วนเข้าหาฝั่งลูกเล็กเกินกว่าที่จะเล่นกระดานโต้คลื่น แต่ทรายขาวละเอียดกับหมู่ต้นมะพร้าวร่มรื่นก็ทำให้ที่นี่ สวยงามไปอีกแบบ ด้วยเป็นเพียงเกาะเล็กๆในหมู่เกาะมาร์ตินีกทำให้ยังรักษาความสงบและร่มรื่นไว้ได้
เด็กๆวิ่งไล่กวดกันอย่างสนุกสนานไปตามชายหาด แจ็คแยกตัวออกมานั่งอยู่โคนต้นมะพร้าว ตามองหลานๆแต่ใจลอยไกลจนไม่รู้สึกตัวว่ามีใครมายืนอยู่ข้างๆ
‘ป่านนี้คุณคงได้ของที่คุณต้องการไปแล้วสินะ...ต่อไปคุณจะนึกถึงผมบ้างไหมไนท์’
“สวัสดีครับคุณแจ็ค”ฮาลีทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แจ็คสะดุ้งหันขวับมามองหน้า
“คุณฮาลี!...มาได้ยังไงครับเนี่ย?”
“ผมได้ข่าวว่าที่นี่สวยก็เลยมาเที่ยว”
“แล้วนี่พักที่ไหนครับ?” แจ็คซักถามอย่างกระตือรือร้น ฮาลียิ้มกว้างชี้ไปที่เป้ข้างหลัง
“เพิ่งลงจากเครื่องเดี๋ยวนี้เองครับ”
“งั้นเหมาะเลยครับ ไปพักบ้านพี่สาวผมดีกว่า”
“ยินดีเป็นอย่างยิ่ง”
บ้านสีฟ้าอ่อนกระจ่างตา ร่มรื่นด้วยอยู่ท่ามกลางดงมะพร้าว และเจ้าของก็ขยันปลูกไม้ดอกไม้ใบไว้รอบบ้านจนเหมือนบ้านโผล่ขึ้นกลางกอดอกไม้ เด็กๆยังวิ่งเล่นอยู่ที่ชายหาดทำให้บ้านเงียบ
“มิเชล...มิเชล ผมมีแขกมาเยือนบ้านเรา”
“ว่าไงพ่อตัวแสบโวยวายอะไรแต่เช้า...เอ๊ะ!...อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
มิเชลทำตาโตเมื่อเห็นว่าน้องชายไม่อยู่ตามลำพัง แต่ก็ต้อนรับแขกได้ทันควันด้วยความที่มีอัธยาศัยดี
“อรุณสวัสดิ์ครับ ผมฮาลีครับ”
“มิเชลค่ะเป็นพี่สาวแจ็ค...มีเพื่อนมาก็ไม่บอกให้พี่ขายหน้าอยู่ได้”
“อ้าว!ก็ผม...” แจ็คหน้าเหรอหรา ไม่คิดว่ามิเชลจะโทษเขาดื้อๆ แต่มิเชลไม่สนใจหันไปยิ้มแย้มต้อนรับฮาลี
“ทานมื้อเช้ากับเรานะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ”
เสียงเด็กๆวิ่งไล่กวดกันเกรียวกราวเข้ามาในบ้าน หลังการแนะนำตัวที่ดูชุลมุนวุ่นวาย ทุกคนก็ถูกต้อนให้เข้าประจำที่ในโต๊ะอาหาร เด็กๆสนใจฮาลีมาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่พากันตาโตเมื่อรู้ว่าฮาลีเป็นทหาร ทันทีที่ทานอาหารเสร็จเด็กๆก็ห้อมล้อมฮาลีอยู่ในห้องนั่งเล่น เพื่อฟังเขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับทะเลทราย ซึ่งฟังดูตื่นเต้นโลดโผนจนพวกเด็กๆนั่งฟังอ้าปากค้าง
กว่าที่มิเชลจะต้อนเด็กๆออกไปบ้านคุณย่าได้ก็เล่นเอาเหนื่อย กระนั้นทุกคนก็ยังคาดคั้นให้ฮาลีสัญญาว่าจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับทะเลทรายอีกครั้งตอนค่ำ
แจ็คพาฮาลีเที่ยวรอบๆเกาะ สีหน้าของแจ็คดูสดชื่นขึ้นเล็กน้อย
“ดูคุณฮาลีรักเด็กนะครับ?”
“ผมมีลูก 3คนแล้วนี่...คนเล็กผมเกือบ10ขวบแล้ว”
“โห!คุณดูยังหนุ่มอยู่เลย”
“คนประเทศผมส่วนใหญ่แต่งงานเร็วครับ”
“มิน่าล่ะถึงดูคุณเข้ากับเด็กๆได้ดี ไม่ทันไรเจ้าพวกทโมนติดคุณกันใหญ่”
“ก็ผมเลี้ยงลูกเองนี่ครับ แต่หลานๆคุณนี่ยังถือว่าเรียบร้อยนะ ลูกผมแต่ละคนสร้างวีรกรรมได้เจ็บแสบกว่านี้หลายเท่า ผมว่าภรรยาผมเธอคงดวงดีที่ไม่ต้องอยู่เผชิญกับเจ้าตัวแสบพวกนี้”
“ภรรยาคุณ?...”
“เสียไปตั้งแต่เจ้าคนเล็กได้ 3 เดือน เธอสุขภาพไม่ค่อยดีตั้งแต่หลังคลอด พอมาเจอโรคแทรกซ้อนก็เลยทรุดหนัก แล้วก็จากไปเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว”
“เสียใจด้วยนะครับ”
“มันนานแล้วครับ ไม่ใช่ว่าผมจะลืมเธอได้หรอกนะครับ แต่เวลาก็ทำให้ผมคลายความเศร้าไปได้เยอะ...ตอนเธอเสียผมมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงลูก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเศร้าเท่าไหร่ ขนาดพ่อตาแม่ยายผมยังค่อนขอดเอาบ่อยๆว่าผมไม่ค่อยรักเธอ”
“แล้วคุณไม่คิดจะแต่งงานใหม่เหรอครับ?”
“ไม่...มันยากนะครับ กว่าที่เราจะเจอใครสักคนที่เรารู้สึกว่า ‘คนนี้แหละที่เรารอมาตลอดชีวิต’ แล้วเมื่อเราสูญเสียเขาไป...มันก็ยากที่จะหาใครมาแทนได้”
“ครับ...เมื่อสูญเสียไปแล้วชีวิตมันก็ว่างเปล่า...” แจ็คซุกมือลงในกระเป๋ากางเกง เตะทรายเล่นเหม่อๆ ใบหน้าหมองจนเห็นได้ชัด
“คุณสูญเสียไปแล้วเหรอแจ็ค แน่ใจเหรอ?”ฮาลีหันไปจ้องหน้าแจ็คเขม็ง แจ็คไม่ตอบคำถาม แต่ยิ้มหม่นแล้วแหงนขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆ
“......คุณฮาลีเห็นเมฆไหมนั่นไหมครับ ตอนเป็นเด็กผมเคยจินตนาการว่าเมฆคงเหมือนขนมน้ำตาลสายไหม นุ่มและหอมหวาน ผมอยากจะบินได้เหมือนนกเพื่อที่จะได้ขึ้นไปบนนั้นแล้วก็หยิบเมฆกลับมาบ้านเยอะๆ…แต่เมื่อโตขึ้น ผมก็ได้รู้ว่า เมฆที่ห็นนั่นเป็นละอองน้ำ สวยงาม...สูงส่ง...แต่จับต้องไม่ได้ จะสัมผัสได้ก็เมื่อเมฆยอมกลั่นเป็นฝนแล้วตกจากฟ้าลงมาเท่านั้น”
“แต่มนุษย์ไม่ใช่เมฆ เรามีเลือดเนื้อ จับต้องสัมผัสได้...จริงไหม?” ฮาลีถามยิ้มๆ
“แต่มนุษย์มีกรอบและขีดคั่นของสังคมนะครับ...ขนบธรรมเนียม หรือภาระหน้าที่ ก็ทำให้มนุษย์อยู่ในสถานภาพที่แตกต่างกัน”
“ความรักทำให้ความแตกต่างเหล่านั้นน้อยลงได้ หรืออาจไม่มีเลยก็ได้”
“สำหรับบางคนเท่านั้นแหละครับ...ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีอย่างนั้น”
“แปลว่าคุณถอดใจยอมแพ้แล้วงั้นเหรอแจ็ค”
“เปล่าครับ...ผมเพิ่งส่องกระจกต่างหาก ผมเพิ่งสำนึก...ว่าผมเป็นใคร....”
“ผมผิดหวังในตัวคุณมากเลยแจ็ค ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ ผมคิดว่าคุณกล้ามากที่ไปรักฝ่าบาททั้งๆที่มีแต่อุปสรรค ผมดีใจที่ฝ่าบาทมีคนที่แข็งแกร่งเคียงข้าง.....แต่ไม่ใช่...พอเจอปัญหาเข้าหน่อยคุณก็หนี แล้วฝ่าบาทล่ะ?...ฝ่าบาทจะทำยังไง คุณจะปล่อยให้ทรงเผชิญทุกอย่างเพียงลำพังอย่างนั้นเหรอ?” ฮาลีเยาะเสียงกร้าว แจ็คหันขวับราวกับงูถูกตีขนดหาง ดวงตาคมวาววับด้วยความโกรธและคับแค้น
“คุณคิดว่าผมไม่อยากกลับไปอยู่ข้างๆเขาหรือไง?...ผมรักไนท์...รัก...ตั้งแต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่ต่อให้ผมรักเขาแค่ไหนผมก็เป็นผู้ชาย...วัฒนธรรมของประเทศคุณไม่ยอมรับเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ?........แล้วไนท์ไม่ได้เป็นแค่ มิสเตอร์ไนท์ จิงเจอร์.....แต่เขาคือกษัตริย์องค์ต่อไปของประเทศคุณนะ........”
น้ำเสียงเข้มข้นขาดหาย แจ็คสูดลมหายใจลึก ตัวสั่นนิดๆด้วยความทรมานในอก ก่อนจะพูดต่อเสียงละห้อย
“...ผมจะเป็นยังไงก็ชั่งเถอะ แต่ผมทนเห็นเขามัวหมองไม่ได้...หรือคุณทนได้...หากจะมีข่าวแพร่ออกไปว่ารัชทายาทมีคนรักเป็นผู้ชาย”
แจ็คพรั่งพรูทุกอย่างออกมาจนหมดแล้วหลับตานิ่งอย่างทรมาน ใบหน้าคร้ามขาวซีดเหมือนกระดาษ บรรยากาศรอบตัวเงียบกริบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากแจ็คกับฮาลี
“แต่ฝ่าบาทต้องมีคุณ” ฮาลีจ้องหน้าแจ็คนิ่ง
“หมายความว่ายังไง?...”
“แล้วคุณคิดว่าผมหมายความว่าไงละ?”
“....ไนท์...รักผมงั้นเหรอ?....เป็นไปไม่ได้หรอก คุณเข้าใจผิดมากกว่า”
“ผมก็ไม่ทราบ....แต่ฝ่าบาทไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้ชาย และยิ่งไม่เคยเห็นว่าทรงวางใจใครเหมือนกับคุณ คุณรู้ไหมเวลาที่ผู้หญิงเข้าไปถวายงาน ไคซัคต้องอยู่ในห้องด้วยตลอดเวลา และฝ่าบาทไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนนอนค้างด้วยทั้งนั้น”
“อยู่ด้วยระหว่างที่...เอ่อ..”
“ใช่ สำหรับคุณอาจฟังดูประหลาดหรือน่าตกใจ แต่สำหรับรัชทายาทมันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนี่เป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัย”
“ผมไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย......”
“ผมถึงได้บอกอย่างไรล่ะว่าฝ่าบาทไว้ใจคุณมาก ขนาดองค์ซารีฟยังอยากเห็นคุณจนถึงกับมีรับสั่งให้ฝ่าบาทพาคุณมา”
แจ็คนิ่งอึ้งอยู่นาน ข้อมูลใหม่ที่เพิ่งรู้ทำให้เขาพูดไม่ออก ไม่แน่ใจว่าเกิดจากความดีใจหรือตกใจกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือรู้สึกผิดที่เอาแต่ทิฐิเจ้าอารมณ์ คงเพราะเขาอัตตาสูงถึงทนไม่ได้ที่ถูกคนของไนท์เหยียบย่ำ และรู้สึกว่าไนท์ก็คอยซ้ำเติมให้ต่ำต้อยกว่าอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญ...เขาไม่เคยแน่ใจว่าไนท์คิดกับเขายังไง
“....ผมนี่โง่จริงๆ...คิดอะไรๆไปเองเสียใหญ่โต ผมอยากไปหาไนท์ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนครับ?”
“ยังอยู่ที่วังขาวครับ”
“พรุ่งนี้หลังงานวันเกิด ผมจะรีบเดินทางทันที”
“พรุ่งนี้วันเกิดใครครับ?”
“วันเกิดของผมกับหลานชายคนเล็กครับ หมอนี่เกิดวันเดือนเดียวกับผมเลย แต่ห่างกัน2รอบครับ”
“แล้วนี่ครบกี่ขวบครับ”
“ 2 ขวบครับ คนที่ต้องขี่อยู่บนคอพี่ตลอดเวลานั่นแหละ”
“อย่างนี้ต้องหาของขวัญให้สักหน่อย”
“ไม่ต้องหรอกครับ เราจัดงานเล็กๆให้เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับเขาอีกวันเท่านั้น”
“แล้วคุณละแจ็ค....อยากได้ของขวัญอะไร?”
“บอกไม่ได้ครับ เดี๋ยวไม่สำเร็จ…..ปรกติทุกปีผมจะไปที่หลุมศพพ่อกับแม่....ไปคุยกับพวกท่าน บอกท่านว่าผมโตขึ้นอีกปีแล้ว บางครั้งก็เล่าเรื่องดีๆที่ผมได้พบมาให้ท่านฟัง…”
“ปีนี้ละครับ?”
“คิดว่าจะแวะไปหาท่านพรุ่งนี้เช้าครับ ขอพรให้ท่านช่วยให้สิ่งที่ผมขอสมหวัง”
“ผมก็ขออวยพรให้คุณสมหวังเช่นกันครับ”
“ขอบคุณครับ...เดี๋ยวแวะซื้อของแต่งหน้าเค้กกับเทียนหน่อยนะครับ”
“ได้ครับ”
............
แจ็คเข็นเรือขึ้นไปที่ๆเคยจอดประจำก่อนจะหอบดอกไม้ป่าช่อโต ปีนขึ้นไปยังลานหินกว้างบนหน้าผาเตี้ยๆ ชายหนุ่มชะงัก เมื่อพบว่ามีลิลลี่สีขาว ช่อใหญ่วางอยู่หน้าหลุมศพก่อนแล้ว
แจ็คมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นใคร นึกขึ้นมาได้ว่าอาจเป็นฮาลี เพราะเมื่อเช้าฮาลีออกจากบ้านไปตั้งแต่ยังไม่สว่าง
“พ่อครับ แม่ครับ...สบายดีใช่ไหมครับ ปีนี้ผมอายุ26แล้วนะครับ เป็นปีที่มีอะไรเข้ามาในชีวิตผมมากมาย มาก...เสียจน ผมตั้งตัวไม่ทัน....คืนนี้ผมคงไม่ได้มานอนดูดาวกับพ่อแม่นะครับ เพราะผมกำลังจะไปหาคนรัก ผมจะไปขอโทษเขา ที่ผมใจร้อน วู่วาม แล้วก็หนีหน้าเขามาดื้อๆ พ่อกับแม่ช่วยดลใจให้เขาใจอ่อนยอม ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”แจ็คก้มลงจูบป้ายบนหลุมศพ เบาๆ
แต่เมื่อหันกลับมาก็ต้องยืนตะลึงตัวชา ร่างเพรียวในชุดสีขาวยืนมองเขาอยู่นานแค่ไหนแล้วไม่รู้ แจ็คก้าวยาวๆไม่กี่ที ก็คว้าร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น
“ไนท์! ผมฝันไปหรือเปล่า....คุณ...คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
“มาตามคำอธิฐานของเธอละมั้ง”
“แล้วผมจะสมหวังเหมือนที่อธิฐานหรือเปล่า?”
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอขออะไร?”
“ผมขอ...ให้คุณยกโทษให้ ที่ผมใจร้อนวู่วาม...แล้วก็มาโดยไม่บอกคุณ….คุณจะยกโทษให้ผมไหม?”
“ถ้าฉันไม่ยกโทษให้ พ่อกับแม่เธอคงเสียใจ ก็ได้...ฉันยกโทษให้ แต่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”
“ครับผม....คุณน่ารักที่สุดในโลกเลย” แจ็คกระชับอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม
“แจ็ค! อือ......”
ปากร้อนผ่าวประกบจูบแน่นไม่ปล่อย ไนท์พยายามขืนตัวไว้ แต่ด้วยความที่ห่างเหินกันมานาน พอลิ้นร้อนๆกวาดไล้ไปทั่วแบบนี้ก็ร้อนวาบไปทั้งตัว ไนท์โอบรัดรอบลำคอแจ็คแน่น เบียดร่างเสียดสีกับร่างหนาจนต่างร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แจ็คบีบเคล้นและดันสะโพกตึงให้แนบกระชับยิ่งขึ้นจนไนท์ต้องเป็นฝ่ายผละออกห่างเมื่อรู้สึกได้ว่าแจ็คกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“อย่า...แจ็ค....ต่อหน้าพ่อแม่เธอนะ” ไนท์ปรามดุๆ...แต่ดวงตาวาววับ
“...ขอโทษครับ...พ่อครับแม่ครับ นี่ไนท์ครับ คนที่ผมรักมากที่สุดอีกคน นอกจากพ่อกับแม่....”
ถึงจะอยู่กันลำพังสองคนแต่ไนท์ก็อดเขินไม่ได้ แจ็คหันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน ดวงตาเปี่ยมด้วยความรักหวานระยับ ทำให้ไนท์อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแจ็ค
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” ไนท์พูดแค่นั้นแล้วหลับตานิ่งส่งใจไปถึงผู้ให้กำเนิดทั้งสองของแจ็ค
‘....ผม...สัญญาว่าผมจะดูแลแจ็คให้ดีที่สุด ให้สมกับที่เขาให้ความรักกับผม พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ‘
แจ็คจ้องคนรักด้วยสายตาดื่มด่ำ ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นความจริง หากนี่เป็นความฝัน ก็ขอให้ฝันนี้ยืดยาวไปอย่างไม่มีวันจบ
“คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ ผมไม่เห็นมีเรือเลย?”
“ฮาลีมาส่งแล้วก็กลับไปแล้ว”
“นี่ถ้าผมมาสายคุณก็ต้องรออยู่นี่อีกนานเลยสิครับ”
“จะเป็นไรไป...ที่นี่สวยดีออก ถึงเกาะจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรแต่ก็ร่มรื่นดี เธอเข้าใจหาที่พักให้พ่อกับแม่นะ”
“พ่อกับแม่รักที่นี่มากครับ ตอนผมเด็กๆพ่อชอบพาผมมาที่นี่บ่อยๆ มานั่งคุยกับแม่บ้าง มาปิกนิกกันบ้าง บางทีเราก็มากางเต็นท์ข้างหลุมศพแม่ นอนดูดาวด้วยกันเสียเลย” แจ็คอธิบายพลางจูงมือคนรักเลาะลงจากลานที่ฝังศพพ่อแม่
“เรียกว่าเป็นที่รวมความทรงจำที่ดีๆของเธอสินะ”
“ครับ...ลงด้านนี้ครับ” แจ็คดึงร่างเพรียวให้โดดลงไปด้วยกัน หาดกว้างที่ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่จนร่มครึ้มไปทั้งหาด ไนท์เดินตามงงๆเมื่อแจ็คพาลัดเลาะไปอีกด้านแทนที่จะไปยังบริเวณที่จอดเรือ
“ผมมีอะไรจะอวด”
แจ็คพาไนท์ก้มตัวลอดอุโมงค์สูงขนาดเมตรกว่าๆ น้ำที่สูงประมาณหัวเข่ากับหินค่อนข้างลื่นทำให้ทุลักทุเลไปบ้าง แต่มือแข็งที่ยึดไว้แน่นหนาก็ทำให้ไนท์รู้สึกดีจนชักไม่อยากให้อุโมงค์นี้สิ้นสุดลง
แสงค่อยๆสว่างขึ้นเมื่อมาถึงอีกฟากของอุโมงค์ ไนท์หรี่ตาเมื่อเจอแสงสว่างจ้าสะท้อนจากน้ำเข้าตา ไม่น่าเชื่อว่าเกาะเล็กๆที่มีแต่ลานหินกับหน้าผาสูงชัน เมื่อเดินลอดอุโมงค์มากลับมาโผล่ที่เกาะใหญ่ที่อยู่ติดกัน เกาะใหญ่ซึ่งมองภายนอกเหมือนภูเขาหิน ตรงกลางเป็นปล่องกว้างใหญ่ แสงส่องลงมากระทบชายหาดเบื้องล่างจนเป็นสีขาวสว่างจ้า โพรงกว้างที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำฝนเชื่อมต่อกับถ้ำที่มีอยู่เดิมทำให้กลายเป็นห้องขนาดใหญ่ น้ำฝนที่ซึมลงมาจากปากปล่องรวมกับตาน้ำในถ้ำกลายเป็นธารน้ำกว้างใสแจ๋วไหลมารวมกันเป็นแอ่งใหญ่แล้วไหลออกไปทางอุโมงค์ที่แจ็คพาเข้ามา ปลาตัวเล็กๆสีสดใสว่ายอยู่เป็นหมู่ ที่สำคัญคือ...น้ำในแอ่งเป็นน้ำจืด
“ที่นี่...สวยมาก” ไนท์อุทานอย่างทึ่งๆขณะเงยขึ้นมองไปรอบๆ แสงที่ส่องกระทบหินงอกหินย้อยในถ้ำวิจิตรเกินกว่าจะนึกถึง
“แหล่งน้ำจืดของคนในแถบนี้ครับ...แถวนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย บางเกาะก็ไม่มีแหล่งน้ำจืด ได้อาศัยที่นี่ตอนหน้าแล้ง”
“สวยจริงๆ...นี่ถ้าเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวคงทำรายได้มหาศาล...แต่ความ บริสุทธิ์งดงามคงถูกทำลายย่อยยับ”
“เพราะอย่างนั้นที่นี่ถึงได้เป็นที่ลับสำหรับพวกเราไงครับ”
ไนท์ก้มลงถอดรองเท้าแต่แจ็คแย่งไปถือให้ ชีคหนุ่มอมยิ้ม...ชอบใจกับทรายละเอียดเหมือนแป้งนุ่มเท้า ปล่อยให้แจ็คจูงมือลุยผ่านแอ่งน้ำมายังลานกว้างในถ้ำ พื้นถ้ำเป็นลานหินกว้างราบเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ จุดที่มีหินงอกขึ้นมาจึงเหมือนเสาที่โผล่ขึ้นกลางห้องโถง เพดานสูงลิบลิ่วทำให้ลมพัดเย็นสบาย และไม่มีกลิ่นอับ ชีคหนุ่มหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนกำลังตั้งใจฟังอะไรสักอย่างก่อนจะหันมายกนิ้วให้สัญญาณให้แจ็คเงียบ
“ได้ยินใช่ไหม?...เหมือนเสียงเป่าเขาเลย...ไม่สิ...เสียงเครื่องดนตรีหรือเปล่า?”
“เปล่าหรอกครับ...เสียงลมต่างหาก”
“ไม่ใช่ๆ...ฟังสิ...นี่ไง” ไนท์ปราดเข้ามาป้องหูทั้งสองข้างของแจ็ค ทำหน้าตื่นเต้นเหมือนลุ้นให้แจ็คได้ยินในเสียงเดียวกัน
“ใช่ไหม?”
“ครับ...เสียงดนตรี...สายลมกับถ้ำนี้ ช่วยกันบรรเลงไงครับ”
ไนท์หัวเราะเบาๆ เปลี่ยนจากป้องหูแจ็คมาดึงจมูกโด่งๆนั้นแทน
“พ่อคนช่างฝัน...”
“คุณต่างหากที่ช่างฝัน...คงมีไม่กี่คนหรอกครับ ที่ได้ยินบทเพลงของธรรมชาติอย่างคุณ” แจ็ครวบมือที่บีบจมูกเขามาจูบเบาๆ รอยยิ้มหวานกับตาพราวๆแบบนี้น้อยครั้งเหลือเกินที่จะได้เห็น คุ้มแสนคุ้มที่พาไนท์ดั้นด้นมานี่
“ผอมไปนะ...ไม่สบายหรือเปล่า?” ไนท์ไล้มือข้างที่ว่างไปตามแก้มซูบเบาๆ ถึงจะเป็นห่วงแต่สันดานเห็นแก่ตัวของมนุษย์ก็อดยินดีไม่ได้ที่รู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลเหนือใจใครขนาดนี้
“ผมคิดถึงคุณ...คิดถึงมาก” แจ็คตอบเบาๆ ขณะที่ปากก็เลื่อนจูบจากข้อมือขึ้นไปหาไหล่แล้วเลื่อนไปถึงซอกคอ
ไนท์โอบไหล่กว้างเงยหน้าให้แจ็คซุกไซ้ได้ถนัด เสียงดูดเนื้ออ่อนดังจุ๊บๆขณะที่ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดไปทั่วลำคอจนเสียวแปลบๆไปทั้งตัว แจ็ควางมือที่เขากุมไว้บนไหล่เพื่อแทรกเข้าไปกอดไนท์แนบแน่นกว่าเดิม ซุกไซ้ผ่านซอกคอขาวขึ้นมาหาใบหู ขบเม้มและดูดดึงเบาๆ พอใจกับอาการเกร็งรับของกล้ามเนื้อหลังใต้ฝ่ามือ
ชายหนุ่มเลื่อนมือทั้งสองลงไปโลมลูบสะโพกบางกดให้แนบกระชับกับตัวขณะแทรกลิ้นผ่านกำแพงไข่มุกเข้าไปหารสหวานซ่านภายใน ลิ้นอุ่นนุ่มหดหนีอย่างยั่วเย้า และแจ็คเองก็ไม่รีบ เขาสำรวจทั่วโพรงปากนุ่มหอมก่อนจะวกกลับมาเกี่ยวพันลิ้นนุ่มๆเอาไว้ เพียงแค่ปลายลิ้นสัมผัสกันกระแสร้อนวาบก็กระจายไปทั้งตัว เสียงลมหายใจหอบกระชั้นสลับกับเสียงจูบปลุกเร้าให้เลือดร้อนผ่าว เพียงแค่จูบก็จุดไฟปรารถนาให้ลุกโพลงขึ้นมา และต่างก็ไม่มีใครคิดจะห้ามใคร ช่วงเวลาของการปลดเปลื้องเสื้อผ้าดูช่างยาวนานและแสนทรมาน ร่างเปลือยเปล่าเสียดสีเข้าหากันอย่างเร่าร้อน แจ็คประคองคนรักลงนอนลงบนกองเสื้อผ้า
“ผมคิดถึงคุณ...คิดถึงแทบคลั่ง...การอยู่ห่างคุณมันทรมานเหลือเกิน...”
แจ็คผละจากปากนุ่มเลื่อนลงไปซุกไซ้ซอกคอขาวและหยุดฟอนเฟ้นที่ทรวงอกตึงนูน ไนท์หยัดหลังขึ้น มือเรียวสางไล้ในผมหนานุ่มเพื่อบรรเทาความเสียวซ่าน ฟันคมขบเม้มและดูดดึงยอดสีสดจนแข็งเป็นไต ขณะที่มือร้อนลูบผ่านจากชายโครงลงไปหาหน้าท้องเนียนแน่น จุดไวต่อสัมผัสตื่นรับมือเขาอย่างรวดเร็ว แจ็คกอบกุมอย่างนุ่มนวล อยากให้ความทรงจำวันนี้เป็นความทรงจำที่แสนหวานทั้งสำหรับเขาและไนท์
ปากร้อนแตะชิมทุกตารางนิ้วบนร่างนวลเนียนช้าๆ อยากสัมผัสให้ถึงทุกอณูเนื้อ เสียงไนท์ครางเบาๆอย่างทรมาน ร่างกายตื่นเพริดจนอยากไปให้ถึงจุดหมายเร็วๆ แต่แจ็คกลับถ่วงเวลาให้ช้าลง
ขายาวแยกกว้างเมื่อแจ็คเลื่อนกายลงสำรวจหน้าท้องเนียน ลิ้นร้อนแตะชิมส่วนยอดเพียงเบาๆแล้วไล้ลิ้นลงต่ำ เสียงไนท์ครางระโหย สะโพกยกลอยขึ้นโดยไม่รู้ตัว แจ็คประคองสะโพกตึงไว้ ปลายลิ้นร้อนลากผ่านด้านหน้าลงมาหาซอกหลืบสีชมพูเข้มด้านหลัง เมื่อลิ้นร้อนลูบผ่านสะโพกเนียนก็เกร็งขึ้นทันที
แจ็คขบฟันบนรอยหยักตึงเบาๆแล้วแหวกช่องทางแคบให้เปิดออก เพื่อกดลิ้นเข้าไปภายใน ไนท์ผวาทั้งตัวจนแทบถลันลุกขึ้นด้วยความเสียวซ่าน รู้สึกถึงลิ้นซุกซนที่สอดลึกเข้ามาในกาย ฟันคมขบชิมอยู่ภายนอกกับลมหายใจร้อนๆที่รินรดส่วนอ่อนไหวทำร่างบางบิดเกร็งอย่างทรมาน
“แจ็ค...อา...แจ็ค...ไม่..ไม่ไหว...มาเถอะ...แจ็ค...อ๊า” ไนท์ครางระงม สะโพกตึงขยับหนีแต่แจ็คยึดไว้แน่น ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในทางแคบเข้าออกเป็นจังหวะถูกต้อนรับด้วยแรงบีบรัดมหาศาล จนเสียววูบไปทั้งท้อง ชายหนุ่มยอมละจากสะโพกตึงเลื่อนขึ้นมาครอบครองจุดอ่อนไหวไว้ในปาก แรงบีบรัดเสียดสีเป็นจังหวะเร่งเร้าทำให้ไนท์หมดความอดทน ร่างบางขยับสะโพกรับทุกการเคลื่อนไหวของปากและลิ้นร้อน ฝ่ามือกร้านบีบเคล้นสะโพกตึงเพื่อเร่งให้ไนท์พุ่งขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเร็วขึ้น
“แจ็ค..แจ็ค....”ไนท์ครางเรียกกระเส่า สะโพกยกเกร็งค้างและอยู่ชั่วขณะ หยาดรักร้อนฉีดซ่านออกมาแต่ถูกกลืนกินไว้จนหมด ลิ้นร้อนตวัดไล้เลียความสะอาดให้
แจ็คประคองร่างอ่อนระทวยขึ้นนั่งบนตักเหนี่ยวขาเรียวให้โอบรัดรอบเอวขณะที่สอดกายเข้าไปในทางแคบคับแน่นช้าๆ ไนท์เหนี่ยวใบหน้าคร้ามเข้าหา ปากนุ่มประกบแลกลิ้นดูดดื่ม ขณะที่ทางแคบบีบรัดผู้รุกรานจนแทบขาดใจด้วยความเสียวซ่าน ไม่ว่าจะถูกผลักดันขนาดไหนผู้รุกรานก็ยังรุกคืบเข้าไปทีละน้อย ตราบจนฝังกายเข้าไปแนบสนิทจึงหยุด เพื่อชื่นชมกับแรงบีบรัดเร่าร้อนแสนหวานรอบกาย
ชายหนุ่มปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระ แต่เลื่อนลงมาดูดดื่มยอดตึงเขม็งแทน ไนท์หยัดทรวงอกเข้าหา มือนุ่มประคองหน้าระคายด้วยไรหนวดไว้ ดวงตาคู่งามหรี่ปรือมองปากและลิ้นที่กำลังดูดดื่มยอดอกอย่างกระหายราวกับทารก ทรวงอกเสียวซ่านแต่ในท้องกับตึงแน่นด้วยผู้รุกรานที่ฝังกายเงียบ ไนท์เลียปากเบาๆขณะเกร็งสะโพกแล้วบีบรัดความคับแน่นภายใน
“อา...ที่รัก...” แจ็คอุทานเบาๆด้วยไม่ทันตั้งตัว แรงบีบรัดรุนแรงจนเขาต้องยกสะโพกตึงขึ้นสูงแล้วเหนี่ยวกลับเข้ามาหาช้าๆ เสียงไนท์ครางกระเส่าทุกครั้งที่สะโพกถูกยกขึ้นลงด้วยแรงเสียดสีทำให้กล้ามเนื้อในกายเต้นระริกจนต้องบีบรัดผู้รุกรานแรงขึ้นทุกขณะ แจ็คเลิกถ่วงเวลา ชายหนุ่มเหนี่ยวเอวบางเข้าหาแรงขึ้น ไนท์อาศัยโหนไหล่หนาช่วยประคองขณะยกตัวขึ้นและทิ้งกายลงครอบครองเนื้อร้อนจัดที่เหมือนจะเสียดลึกขึ้นมาทุกที
แจ็คเป่าลมร้อนๆรินรดยอดตึงเขม็ง ความเสียวซ่านทำให้ช่องทางแคบบีบรัดแรงขึ้นอัตโนมัติ แจ็คหมดความอดทน มือกร้านกอบกุมสะโพกตึงแน่นกระชากเข้าหาตัวถี่ยิบ เสียงครางกระเส่าริมหูเร่งให้จังหวะเสียดทานถี่รัวขึ้นทุกที เสียงเนื้อปะทะกันกระตุ้นให้อารมณ์ตื่นเพริด แรงเสียดสีเสียวกระสันพุ่งวาบจากหน้าท้องกระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว เสียงครางประสานกันระรัว ทั้งสองต่างเกร็งตัวและกอดรัดกันและกันแนบแน่น ไอรักร้อนฉีดซ่านทั้งในทางแคบและบนหน้าท้องแจ็คก็เปียกชุ่ม แจ็คไล้เลียปากนุ่มแล้วสอดลิ้นเข้าไปกอดเกี่ยวกับลิ้นนุ่มภายใน กายเขายังสอดลึกเพื่อซึมซับกับความสุขและแรงบีบรัดที่ยังคงรัดแรงเป็นจังหวะ ความอบอุ่นแสนหวานที่ทำให้แจ็ค ไม่อยากถอนกายออกมา
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนโดยมีร่างเพรียวบางซบอยู่บนอก กว่าไนท์จะหยุดหอบหายใจ แจ็คก็เข็มแข็งร้อนฉ่าอีกครั้ง ร่างบางถูกพลิกลงนอนบนเสื้อขณะที่ร่างหนาโหมกายเข้าหาอีกครั้ง เสียงครางหวานระริกอยู่ริมหูทำให้แจ็คเร่งกายระรัว ตราบจนความเสียวซ่านพุ่งขึ้นถึงขีดสุดจึงซวนซบกันหลับใหลด้วยความสุขอิ่มเอม
............

ขอบคุณคะ
