นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเปิดออกมาอย่างเชื่องช้า ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวเพราะน้ำตาที่ยังคงเกาะพราวอยู่ตามขนตา เมฆกระพริบตาอย่างเชื่องช้า สมองเลื่อนลอย...หัวใจเจ็บชาและมึนงงกับความรู้สึกอึดอัดเจ็บปวดจากความหลังที่อยู่ในความทรงจำ..เขาครางเบาๆในลำคอ มองเห็นเพดานสีหม่นและรู้สึกถึงสัมผัสที่อยู่บนปลายนิ้ว...
เมฆหรุบตามองฝ่ามือตัวเองที่ถูกยกขึ้นสูง...ปลายนิ้วมีพลาสเตอร์ปะไว้อย่างครบถ้วน นิ้วนางข้างซ้ายกำลังถูกเช็ดล้างด้วยฝ่ามือนุ่มนวลและเคยคุ้น..เขามองห็นเสี้ยวหน้าคมก้มต่ำหรับมองปลายนิ้วตัวเอง ทั้งยังดูแข็งกระด้างแปลกตาอยุ่ในที
เมฆยิ้มเฝื่อน...จ้องมองสีหน้าแข็งกร้าวนั้นเขม็ง...เขาเม้มปากแล้วบิดมันเป็นรอยยิ้มหยัน...ยามที่เขาไม่เห็นก็คงทำหน้าแบบนี้..ตอนที่เขาไม่มอง ก็คงมีสีหน้าแบบนี้ใช่ไหม?...เป็นแบบนี้...ลับหลังเขาใช่ไหม?...
....นี่คือความจริงหลังคำโกหกและใบหน้าอ่อนโยนใช่รึเปล่า?
" ตื่นแล้วเหรอ? "ฝ่ามือของเขาถูกกุมไว้แล้วออกปากถามอย่างอ่อนโยน...อีกทั้งฝ่ามือที่ลูบไล้ศรีษะ...เมฆหรุบตาลงแล้วยิ้มเฝื่อน สัมผัสนี้ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน...แต่กลับยากจะเชื่อว่านี่คือความจริง...
อะไรคือความจริง...ท่ามกลางคำโกหกหลอกลวง เขาเพิ่งเห็นชัดก็วันนี้...เขาประจักษ์ชัด..หลังจากหลอกตัวเองมาเนิ่นนานก็ตอนนี้นี่เอง...
...พี่ชายที่แสนดีนั่น...มันคือคำโกหก...มันคือภาพลวงเท่านั้น...
"..เมฆ....?...." นัยน์ตาแสนห่วงหาคู่นั้นมองมาแล้วยกหลังมือไล้ผิวแก้มเบาๆ...เมฆขยับยิ้มเฝื่อนแล้วดันตัวลุกจากเตียงพยาบาล...เขามองเห็นเสื้อกาวน์สีขาวที่ถูกถอดพาดไว้ข้างเตียงไม่ไกลมองเห็นรอยแดงที่เปื้อนอยู่แล้วทำได้เพียงถอนหายใจ..
"ขอโทษที่ทำเสื้อพี่เปื้อน "...การทำร้ายตัวเองมันไม่เคยสาแก่ใจใช่ไหมถึงต้องมาทำร้ายเขาอีก...เมฆก้มมองปลายนิ้วตัวเองแล้วขยับยิ้มเฝื่อน...ราวกับเย้ยหยัน...
"..ไม่เป็นไร....เมฆ...มีอะไรบอกพี่ได้ไหม? "ฝ่ามือคู่นั้นกุมมือเขา...นัยน์ตาคู่นั้นมองมาที่เขา ใบหน้านั้นก็หันมามองเขาเช่นกัน......ทุกอย่างที่แสดงออกนั้นแปลความได้อย่างเดียวว่ามันคือความห่วงหา...
โกหก!...เขาจ้องมองนัยน์ตาคู่นั้น...ความห่วงใยที่ฉายชัดออกมา มีผลเพียงทำให้สมองของเขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง...
โกหก....
ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ทำเป็นห่วงใยนักหนา ทำตัวดี....ดีและหลอกลวงเขาไดอย่างแนบเนียน...
พี่กันย์ที่เคยแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไม่เคยเปลี่ยนไป...
พี่กันย์ยังคงเป็นคนเดิม...เป็นคนหลองลวงและแย่งชิงคนรักของเขาไปเช่นเดิม...
"...เมฆ..."น้ำเสียงนั้นร้องเรียกแผ่วระโหยราวกับจะสิ้นใจด้วยความทุกข์...มันเป็นการโกหกที่แนบเนียนเสียจนเขาอยากจะหัวเราะให้ลั่น...ทำหน้าตาแบบนั้นแต่ในใจคงไม่พ้นหัวเราะขันและเห็นเขาไม่ต่างกับตัวตลก...
"..ผมไปทำอะไร....." ให้พี่..... เขาหลุดปากออกมาเพียงแค่นั้น กระบอกตาปวดรุมอยากร้องไห้ออกมาไม่หยุดหย่อน...ไปทำอะไร เมฆได้ไปทำอะไรให้พี่กันย์เคืองโกรธตอนไหน พี่กันย์ถึงได้คอยมาทำร้าย พี่กันย์ถึงได้คอยมาจองล้างจองผลาญ ตามหลอกหลอนและแย่งชิงเขาจากคนที่เขารัก คอยขัดขวางความสุขของเขาทุกอย่าง..
ผมไปทำ..ให้พี่เจ็บ...ตอนไหน?
ผมไปทำให้ต้องเสียใครไปหรือ? ผมไปแย่งคนสำคัญของพี่มาหรือไง?
"...อะไรเมฆ....ไอ้วิทย์มันทำอะไร? เกิดอะไรขึ้นกันน...ทำไมเมฆถึงร้องไห้..."....เพราะพี่..ทุกอย่างมันเพราะพี่ ! เพราะพี่ ! เมฆอยากตะโกนคำนี้ใส่หน้าตาเสแสร้งห่วงหานี่นัก...ที่พี่โกรธเพราะผมไปทำให้พี่วิทย์เคืองใช่ไหม? ที่พี่โกรธน่ะมันเพราะพี่วิทย์ใช่รึเปล่า?....เพราะคนที่ร่วมกันหลองลวงไอ้โง่ต้องมาหงุดหงิดกับมันใช่ไหม? ไม่ใช่เพราะไอ้เมฆคนนี้...ไม่ใช่เลย...
คนที่ให้ผมเจ็บคือพี่ คนที่แย่งของๆผมทำลายความสุขของผมคือพี่...
เมฆเม้มปากแน่นเสียจนแทบห้อเลือด สมองตอนนี้แทบหยุดทำงานไปแล้วด้วยซ้ำ...คำว่าโกรธคำว่าเกลียด คำว่าคั่งแค้นอัดแน่นในหัวใจจนแทบคิดอะไรไม่ออก...เขาก้มมองมือที่กุมมือตัวเองไว้...ด้วยความรู้สึกยอกแสยองในอก...
ทำยังไง...จะทำอย่างไรถึงจะมีความสุข?
ทำยังไงถึงจะไม่ถูกแย่งชิง ทำอย่างไรถึงจะไม่ถูกหลอกลวง...
เขาจ้องมองสีน้ำตาลของเสื้อนักโทษที่ประชิดใกล้ อ้อมแขนและฝ่ามืออุ่นโอบรัดแน่นด้วยความห่วงหา...ส่งผ่านความรู้สึกอบอุ่นอันแสบจอมปลอมมาให้เขา เล่นบทพี่ชายที่แสนดีที่เคยชิน...
เขาหลับตาลงและไพล่นึกไปถึงรอยสลักชัดเจนบนหลังหูของคนรัก หัวใจที่ปวดร้าวอ่อนแอด้วยความเจ็บปวดพลันเต้นเร่ำด้วยความแค้นเคือง เมฆกำเสื้อสีน้ำตาลหม่นแน่นขึ้น เขาเอนตัวลงบนเตียงแขนตวัดกอดแผ่นหลังหนาให้ทรุดกายลงมาด้วยกัน เงยรับจูบแผ่วเบาที่ประทับลงบนเปลือกตาและสันจมูก...หลับตาพริ้ม...แต่มือข้างหนึ่งกำลังเลาะไล่อย่าใจเย็นไปยังเสื้อกาวน์สีขาวที่พาดอยู่ไม่ไกล...
..... คนที่ต้องการจะครอบครองเขา ไม่ต่างอะไรกับไอ้แก่ตัณหากลับที่เขาเกลียดชังคนนั้น...
คนที่หลงไหลมัวเมาในความต้องการจนลืมตาไม่ขึ้น...จะขาดการป้องกันตัวโดยสิ้นเชิง...
เมฆออกแรงกอดรัดร่างสูงใหญ่ให้แน่นขึ้น นัยน์ตาเหลือบแลจากไหล่หนามายังเสื้อกาวน์ขาว มือไต่เลาะ...หัวใจเต้นระรัว...
เขารู้...รู้ว่าในนั้นจะมีอะไร
มีดผ่าตัดขนาดเล็กคมปลาบที่พี่ชายเคยให้เขาใช้...มันอยู่ตรงนั้นเสมอ...
....ริมฝีปากบางหยักรอยิ้มขื่นขม น้ำตาที่เอ่อคลออยู่พลันร่วงหล่นลงบนผิวแก้มความทรงจำมากมายไหลผ่านให้ระลึกถึง...ทั้งทุกข์ ทั้งสุข...
...ใบหน้าคมซุกซบอยู่บนผิวเนื้อบริเวณลำคอกกกอดเรือนร่างผอมบางอย่างหลงไหล...ไม่ระวังตัวสักนิด...
...พี่ชาย...พี่ชายที่รัก....
พี่ชายหลอกลวงว่ารัก พี่ชายที่คอยแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่าง...
...พ่อ....แม่...ครอบครัว...คนรัก....ทุกสิ่งทกอย่างที่สำคัญของผม ทุกสิ่งที่อย่างที่เป็นดั่งชีวิตของผม...
.....ถ้าไม่มีพี่แล้ว...ผมจะได้ทุกสิ่งคืนมา....ใช่ไหม?
..อดีต อนาคต...ความทรมารทั้งหลายจะจบลงแล้วใช่ไหม?
เสี้ยวหนึ่งความคิดกระซิบถาม...ถึงความมั่นใจ แน่ใจหรือที่จะทำแบบนี้...
เขาเพียงเหยียดยิ้มและตอบกลับไป...ไม่ทำเขาก็เสียทุกอย่างไป...และถึงทำ เขาก็เสียทุกอย่างไปอยู่ดี..
...ถ้าเพียงทำไปแล้วพี่ชายจะพูดความจริงกับเขาเสียบ้าง...
....ปลายนิ้วแตะลงบนชายเสื้อสีขาว เมฆเม้มปากแน่น...เขาข่มกลืนก้อนสะอื้นในลำคอ...กลืนเอาความเจ็บปวดรวดร้าวเข้าไปอย่างยากเย็น...
...ก่อนจะสอดนิ้วลงไปในกระเป๋าเสื้อ แตะลงบนโลหะเย็นๆ...คุ้นมือ....
.............................
ฮู่ววววววววว(พ่นลมสักที)

....กลับมาแล้วค่ะ หลังจากสอบเสร็จ แฮ่ๆของโทษที่หายไปนานนะค่ะ กลับมาแล้วเน้อ...พร้อมดราม่าน้ำตาร่วงและยาว(แล้วนะ)
เขียนถึงเมฆแล้วสงสารเมฆมาก....มากๆจริงๆ ตอนที่เมฆถูกกันย์กอดนี่แบบ...โอย....ไม่ไหวเหอะ อะไรจะทรมารขนาดนั้น...ไม่ต่างกับเอาเหล็กร้อนมานาบตัวเลย...เจ็บแต่ไปไหนไม่รอด เจ็บแต่พูดไม่ได้ เจ็บแต่หมดแรงจะดิ้นรน....เฮ้อ....ทำไมน่าสงสารฉะนี้หนอ...
เรื่องครอบครัวเมฆ ที่เป็นปูมหลัง อันนี้จะหนักจะเบาแล้วแต่ความคิดนะ เพราะเรื่องของเรื่องคือพี่กันย์แกก็ไม่ได้ทำอะไร (อาจจะผิดที่ไม่ได้ปกป้องเมฆตอนความแตก)ทำให้เมฆโดนผลักออกมา ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ไม่รักเมฆนะค่ะ แต่ว่าต้องการจะจับสองคนแยกกันก่อน เลยให้เมฆไปอยู่กับลุง แต่กลายเป็นว่าเรื่องแย่ลงซะงั้น...มุมมองของความสัมพันธ์ในครอบครัวนี่พูดยากนะค่ะ ถ้าไม่คุยกันดีๆ หรือแม้แต่คุยแล้วไม่เคลียร์ เด็กที่หวั่นไหวและรับรู้อะไรง่าย อาจจะฝังใจและคิดไปว่าพ่อแม่ไม่รัก ไม่ให้ความสำคัญ จนเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นก็ได้..และพี่กันย์ก็ถุกเข้าใจผิด ถูกเกลียดทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเอง...น่าสงสารอยู่นะ...
ส่อวนตอนนี้วิทยืก็....เฮ้อ...พ่อคนรับเละ (หัวเราะหึๆ) รักแต่ก็ป๊อด ทำไม่กล้า กลัวว่าถ้ามัดแน่นไปจะเหมือนแฟนคนเก่า...ผลก็เลย กลายเป็นว่ามันหลวมไปจนเขาไม่รู้สึกว่ารัก....นะ....เฮ้ออออออออออ ต้องพูดสโลแกนสินะว่า สามผีเอยยยยย จงปวดตับยิ่งขึ้นนนนนน
หลอกกันไป หลอนกันมา...สุดท้ายใครจะตื่นก่อน..มาลองดูกัน
ปล.พี่โตโผล่มาแล้ว(นิดนึง)-พูดตั้งประโยคเอาน่า ตอนหน้าเนมก็มาแล้ว
ปล.2 ใครที่อยากได้นิยาย ตอนนี้เอารีปริ้นมาลงไว้ในร้านแล้วนะค่ะ ตามไปสั่งได้ค่ะ http://www.nana-narisshop.com/template/e1/shop.php?shopid=217784 ที่นี่เลย