improbabale 2 : เด็กใหม่
ผมเดินตามหลังพี่โต ที่เดินเข้ามาในแดนสิบสอง หลังจากพี่วิทย์เอ่ยประโยคนั้นออกมา พี่โตก็เดินนำผมเข้ามาในเรือนอนที่พวกเราอาศัยอยู่ แต่ก่อนจะไปถึง ผมก็พบกับกลุ่มของนักโทษหลายสิบคนยืนรุมล้อมอยู่เป็นกลุ่ม
ได้ยินเสียงพี่ทินคุ้นหู พร้อมกับแว่วเสียงก่นด่า ปนกับเสียงเชียร์อะไรบางอย่างด้วยความสะใจ
ผมหน้านิ่ว มองพี่โตที่เดินฝ่าเข้าไปในฝูงชนและเดินตามไปเงียบๆ
พี่ทินยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าหงุดหงิด นัยน์ตาคู่นั้นแฝงแววแห่งความไม่พอใจชัดเจนและแสดงออกกระทั่งดวงตา พร้อมกันนั้นผมก้มมมองบางอย่างที่คุดคู้อยู่ตรงหน้าพี่ทิน..ร่างในชุดสีเดียวกันกับผมเปรอะเปื้อนด้วยร่องรอยของฝ่าเท้า น้ำสกปรก
และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง มันถือเป็นเรื่องธรรมดา..ธรรมดาสำหรับพวกเราเหล่านักโทษที่จะต้องพบเจอเมื่อเดินทางมาในเรือนจำนี้แรกๆ นั่นทำให้ผมรู้ได้ทันที ว่าร่างของมนุษย์ชายคนหนึ่งที่นอนหมอบอยู่ตรงปลายเท้าพี่ทินคงจะเป็นนัดโทษคนใหม่ไม่ผิดแน่
แต่ที่ผมไม่เข้าใจ คือพี่ทินมไปมีเรื่องอะไรกับหมอนี่ กับเด็กใหม่ที่ไม่รุ้เรื่อง และคงจะเสียขวัญ..ไม่รู้จะไปทำร้ายเขาทำไม ทั้งที่ดูท่าทางก็ไม่น่าจะใช่พวกอวดดีหรือทำตัวขวางโลกสักนิด..
นัยน์ตาของผมมองเห็นชายคนนั้นค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นจากพื้นอย่างเชื่องช้า มองเห็นแขนเพรียวที่สั่นไหวนั่นอย่างชัดเจน กระทั่งนำลายที่ถ่มลงบนพื้นเรือนจำซึ่งปนไปด้วยเศษเลือด รวมไปถึงใบหน้าฟกช้ำ..เต็มไปด้วยรอยหมัด แต่แววตาคู่นั้นยังคงหนักแน่น
ร่างของนักโทษรายนี้ค่อยๆพยุงตวลุกนั่งบนพื้น ขณะที่พี่โตเดินเข้าไปใกล้
"...มีอะไร ไอ้ทิน..? " พี่โตออกปากถามสีหน้าบูดบึ้งไม่น้อยทำให้ทุกคนชะงัก เพราะไม่มีใครต้องการให้ขาใหญ่โมโห ถึงจะเป็นลุกน้องคนสนิทอย่างพี่ทินก็เถอะ..
"..เหี้ยนี่กวนตีนว่ะพี่ รับน้องซักทีดีมั้ย? " พี่ทินสถบออกมาดังๆอย่างหงุดหงิด อาจจะหงุดหงิดมากกว่าพี่โตด้วยซ้ำ เพราะเจ้าตัวไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวสายตาขุ่นๆของพี่โตเท่าที่เคยเป็น นั่นอาจจะเพราะอารมณ์เสียมากนั่นเอง..
"..ที่มึงทำอยู่ก็รับน้องไม่ใช่รึไง ? " พี่โตออกปากถามพลางพ่นลมหายใจพรู ก้มลงมองหน้าเด้กใหม่ที่เงยหน้ามามองหน้าพี่โตทันควัน..
"................." ตอนนี้มีแต่งความเงียบ ทุกคนต่างก็จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างลุ้นระทึก...ไม่เว่อร์เกินหรอกครับ ก็คนที่จะตัดสินอนาคตของเด็กใหม่ในแดนสิบสอง..ว่าจะได้เป็นลูกน้อง อยู่ในกลุ่มได้อย่างมีความสุข หรือต้องถูกรังเกียจ ไม่ยอมรับแล้วได้แต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างใจหายใจคว่ำ คนตัดสินใจน่ะมันก็พี่โตนั่นล่ะครับ..
"..หวัดดีครับพี่...." ไม่น่าเชื่อ ว่าคนที่กล้าออกปากก่อนจะเป็นเด็กใหม่ ที่นอกจากจะกล้าอ้าปากคุยกับพี่โตด้วยสีหน้าไม่หยี่ระแล้ว ยังกล้าจ้องหน้าพี่แกตอบเขม็งเสียด้วย
"............" พี่โตยั่งนิ่ง ประดุจว่าคำพุดเมื่อกี้เป็นแค่สายลมผ่าน ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเอาเสียเลย
"...พี่เป็นหัวหน้าที่นี่เหรอ? ขอผมอยู่ด้วยคนได้มั้ยพี่ มาใหม่เดี๋ยวหมามันจะกัดเอา.." เอ่อ..คราวนี้เข้าใจ แจ้งชัดแล้วล่ะครับ ว่าทำไมมันถึงโดนกระทืบ ปากชวนหาเรื่องชนิดเเรียกส้นตรีนลอยมาหาตัวแบบนี้ก็สมควรล่ะครับ เด็กใหม่มันพูดแบบนี้แล้วตวัดสายตามองพี่ทินแบบเหยียดๆ นี่คิดผิดแล้วมั้งที่เห็นสองคนนี้อยู่คนล่ะขั้วน่ะนี่ไม่ใช่หนังน้ำเน่านะครับ ที่พอเข้าคุกจะได้โดนฝ่ายร้ายนมาแกล้งแล้วฝ่ายดีมาช่วย เรียกมาเป็นพวก น้ำเน่าจริง(แต่เอ..มันเหมือนชีวิตใครน่ะ?)
ผมมองหน้าพี่ทินที่กำลังระงับโทสะไม่ใช่เดินไปเตะปากเด็กใหม่ตรงหน้าอย่างสุดความสามารถ ขณะที่พี่โตมองหน้ามันนิ่ง สีหน้าสงบแต่ผมพอตจะมองออกว่ากำลังมีพายุนิวเคลียร์ โซนร้อน หรือเฮอริเคนกำลังก่อตัวอยู่ในสายตาของพี่แก..อย่าได้เฉียดใกล้หรือทำอะไรให้ท่านได้เคืองโกรธ แต่เหมือนว่าคำเตือนทางโทรจิตของผมจะไม่สามารถส่งไปถึงเด็กใหม่ตรงหน้าเจ้าตัวถึงได้ทำท่าทางปปและสีหน้าแบบนั้นไปแล้ว และอีกซักห้าวินาทีต่อมา ปลายเท้าพี่โตก็ตวัดเข้าที่หน้าท้องเป็นส่วนแรก ตามมาด้วยซี่โครงและ..อื่นๆอีกมากมาย..
ผมเบ้หน้าอย่างหวาดเสียว เมื่อมองเห็นฝ่าเท้าของพี่โตที่กำลังองค์ลงเข้าทรงประทับที่ร่างของเด็กใหม่ตรงหน้า ท่ามกลางเสียเชียรืและโห่ฮาด้วยความชอบอกชอบใจของนักโทษโดยรอบราวกับว่านี่คือสนามมวยราชดำเนิน แบบว่าชวนให้นึกถึงมวยไทยเจ็ดสีขึ้นมาจับใจ
ถามว่าสงสารไหม? ก็นิดหน่อยนะครับ ตามประสาคนเข้าอกเข้าใจว่าเด็กใหม่น่ะมันต้องเจออะไร ทั้งเรื่องที่ต้องถูกขัง ถูกรังเกียจ และอื่นๆมากมาย โดนข้างนอกนั่นว่าลำบากแล้ว แต่พอมาในคุกแล้วเจอเรื่องแบบนี้อีกมันก็เหนื่อยใจสุดจะทน แต่ก็นั่นล่ะครับ ใครบอกให้ทำตัวเอง เป็นเด็กใหม่แทนที่จะสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่หาเรื่องชาวบ้าน แต่ไหงเข้ามาแล้วถึงมาทำท่าจองหองอวดดี โดนกระทืบแบบนี้ บอกได้คำเดียววว่าสาสม..
ผมมองเห็นเจ้าเด็กใหม่คนนั้นค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นเมื่อพี่โตหยุดฝ่าเท้าของตัวเองได้ในที่สุด (ช้าพอดูนะครับพี่ ตั้งสองนาทีกว่าจะหายมันส์) รอยเลือดที่กระเซ็นมาโดนปลายเท้าพี่โตถูกขาใหญ่เอาฝ่าเท้าเช็ดบนเสื้อสีกากีตัวใหม่ของเจ้าเด็กใหม่อย่างเย้ยหยัน ชวนให้คนรักศักดิ์ศรีเลือดขึ้นหน้าได้ง่ายๆ
"..ไปกราบตีนมัน.." พี่โตพูดเสียงเย็น พลางชี้ไปยังพี่ทิน ที่พอได้ยินคำนั้นก้แสยะยิ้มออกมาอย่าสาแก่ใจเป็นที่สุด.
"..อะ...อะไรน่ะ..." เจ้าคนมาใหม่ไอออกมาเบาๆพร้อมรอยเลือดที่กระเซ็นลงบนพื้น..คงจะน่าสงสารพอดู ถ้าเหตุของเรื่องจะไม่ใช่เพราะมันกวนตีนและดุถุกคนในแก๊งค์ของเรา
"..กูบอกว่า..ให้มึงไปกราบตีนหมาที่มึงว่า.." พี่โตเอ่ยนพร้อมกับชี้มือไปทางพี่ทินที่ยินยิ้มมุมปากอยู่ "กล้ามั้ยนล่ะ ถ้าทำ กูจะยอมรับมึงเป็นลุกน้อง เพราะอย่างน้อย มึงก็ใจถึง..หน้าด้านพอตัว..."
นั่นเป็นคำชม..ที่จะถือว่าเป็นคำชมก็คงได้มั้ง..
"..................." พวกเราในนี้ต่างก็นิ่งเงียบ จ้องมองเด้กใหม่ที่นั่งอึ้ง มันจ้องหน้าพี่โตอย่างตกตะลึง สลับกับจ้องหน้าพี่ทินอย่างไม่รุ้จะทำยังไงดี
" โหดไปมั้ยมึง?"ผมได้ยินเสียงนักโทษด้วยกันกระซิบออกมาเบาๆ ไอ้เนมหรี่ตาลงน้อยๆมองภาพตรงหน้า นั่นสินะ โหดไปรึเปล่า?
" แบบนี้ล่ะปกติแล้ว เด็กใหม่มาห้องมันทีไรไอ้โตแล่นเกือบตายทุกที มาดีๆมีที่ไหน" เสียงกระซิบตอบนั่นทำให้ผมขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมองนักโทษสองคนนั้น ที่กำลังกระซิบคำว่า
"ยกเว้น....." และกำลังหันมามองหน้าผมอยู่...
สองคนนั่นหลบตาและหันไปทางอื่นทันที ผมขมวดคิ้วน้อยๆ พลางคิดว่า ถ้าผมไม่โชคดี(เหรอ?)ถูกป๋ากับผู้พันเลือกมาเป็นตัวพนันในเกมส์งี่เง่าเมื่อสามปีก่อนแล้ว ผมจะมีสภาพแบบนี้ไหม? หนักกว่า? รึเบากว่า? หรือต้องผูกคอตายในห้องขังแบบที่โดนว่าไว้จริงๆ
"..มีอะไร?..." น้ำเสียงเรียบๆที่แสนคุ้นหูทำให้ผมหันขวับไปมอง เด็กหนุ่มร่างผอมและใบหน้าน่ารักที่เดินมาข้างตัว เมฆที่น่าจะทำงานของวันนี้เสร็จแล้วเดินเข้ามาใกล้ผม พร้อมกับมองภาพตรงหน้าไปด้วย พร้อมกับทำสีหน้าเย็นชา
"..เด็กใหม่เหรอ? " มันถามเรียบๆ พร้อมกับหันมามองหน้าผม " มาแดนมึงรึไง.."
" อือ มาแทนลุงเก่งที่เพิ่งพ้นโทษไปเมื่อวาน " ผมตอบสั้นๆ พลางมองภาพตรงหน้าเด็กใหม่ยังไม่ยอมขยับไปทางไหน ส่วนพี่โตก็ยืนกอดอกมองด้วยสีหน้ารื่นรมย์อย่างยิ่ง เหมือนว่าพี่แกจะมีที่ระบายหลังจากอดหลับอดนอนและอารมณ์เสียจากการถุกเรียกปลุกแล้วสินะ..
"..ไอ้โง่เอ๊ย....ซวยมาอยู่แดนไหนไม่ว่า เสือกมาอยู่แดนสิบสอง" เมฆมันบ่นพร้อมกับถอนหายใจเฮือกราวกับเวทนาภาพของเด็กใหม่ผู้กำลังอึ้งไม่หายกับท่าทีของชายสองคนตรงหน้า " มาอยู่ที่เดียวกับพวกพญามารซะได้ "
"................." ผมหันไปมองหน้าเมฆด้วยสีหน้าบอกไม่ถุก นี่จะรู้มั้ยว่ากำลังว่าผม ว่าพี่โต พี่วิทยNสุดที่รัก พี่กันย์ รวมทั้งตัวเอ็งด้วยน่ะ !!
" อะไร...ดูทำหน้าเข้า " เมฆหันมาบ่นใส่ผม
" เปล่า แค่เพิ่งเห็นคนด่าตัวเอง.." ผมรับคำด้วยสีหน้าเรียบๆ แต่เมฆแทบจะพ่นไฟออกมาแล้ว ฮ่าๆ...
ปึก..
"...ทะเลาะไรกันพวกมึง.." ข้อศอกและท่อนแขนที่พาดลงมาบนหัวผมกับเมฆไม่เบานัก พร้อมกับกลิ่นจั๊กกะแร้ เอ๊ย..กลิ่นเหงื่อโชยมาบางๆ ก็คือพี่วิทย์ซึ่งอยุ่ในสภาพกรรมกรขุดดินถางหญ้า เหงื่อทั่วตัวเช่นเคย..
" เปล่าคร้าบบบ..ใครจะกล้าหาเรื่องสุดที่รักของพี่ได้ล่ะ.." ผมว่าพลางหัวเราะหึหึๆเมื่อเห็นเมฆโดนพี่วิทย์คว้าคอไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง โดยที่เจ้าตัวพยายามแงะแขนคู่นั้นออกจากคอตัวเอง ปากก็บ่นอู้ว่าเหม็นกลิ่นเหงื่อ แต่หน้างี้แดงก่ำเชียว
"...แล้วนั่นไอ้โตลองตีนเด็กใหม่ไม่เสร็จอีกเหรอว่ะ?.. " พี่วิทย์ถาม หลังจากปล้ำจูบ...เอ้ย!!หอม....เอ่อ...กอด เมฆกลางฝูงชนได้สำเร็จแล้ว..
"..ยังพี่...กำลังตกลงกันอยู่..." ผมตอบ พร้อมกับหันไปมองภาพเบื้องหน้าอีกครั้ง..
" ตกลงอะไร?..เฮ้ย...ไอ้โต..มึงยังไม่เสร็จเรื่องอีกเหรอ?มาได้แล้วเว้ย เมียมึงบ่นหา.....
โอ๊ย!! "" พี่วิทย์ร้องเรียกพี่โตด้วยข้อความอันไม่น่าพึงประสงค์ ทำเอาผมแทบจะประทับฝ่าเท้าบนหลังตีนพี่แกไม่ทัน..แล้วก็ไม่ทันจริงๆเสียด้วย เมื่อพี่วิทย์แกเอ่ยประโยคนั้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับพี่โตที่หันมามองทันควัน..
"..รอแปปนะเมียจ๋า..เดี๋ยวกูขอจัดการไอ้พวกกวนตีนให้เสร็จก่อน..." ไอ้$@#%$@$ ... ไอ้พี่โตบ้าเอ๊ย...จะตะโกนขึ้นมาหาอะไรครับ !! ทำอย่างกับตอนนี้คนเขารู้กันไม่มากพอว่าผมกับพี่เป็นอะไรกัน ไอ้พี่ ###@#@ โว้ยยยยย ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว !!
ผมหันขวับ ไม่ได้หันกลับไปหน้างอใส่หรือตวัดตาค้อนลมค้อนแล้งเหมือนตอนอยู่กันสองคน แค่นี้ก็โดนชาวบ้านเขาแซวมากพอแล้ว จะทำตัวเป็นสาวน้อยให้ชาวบ้านลือเพื่ออะไรล่ะครับ ที่ทำได้ก็มีแต่หน้าบึ้งๆด้วยความไม่พอใจ ชิ..
"...อย่าเขินน่า ไอ้เนม...ไม่เห็นเป็นไรเลย....เน้อออออออ..." พี่วิทย์ว่าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ทำเอาผมชักสีหน้าหงุดหงิด ก่อนจะยิ้มออกเมื่อเมฆหันไปทุบหลังพี่แกเสียอั๊กหนึ่ง ตอบแทนที่โดนลวนลามกลางฝูงชนเมื่อครู่..
"...อย่าให้ถึงทีผมบ้างแล้วกัน..." ไอ้เนมอาฆาตแรงน่ะเฟ้ยยย..
" โหยยย กลัวตายยยยย.." พี่วิทย์หัวเราะร่า ก่อนจะละมือออกจากคอเมฆแล้วเดินไปหาพี่โตที่ยินอยู่ตรงกลางวงด้วยสีหน้าสะอกสะใจบ้าง..
"..มึงจะให้มันทำอะไร?.." พี่วิทย์เลิกคิ้ว ออกปากถาม
" กราบตีนไอ้ทิน.." พี่โตตอบออกไปห้วนๆ นัยนต์ตายังจ้องเขม็งมองเด็กใหม่คนนั้นต่อไป..
"..หือ?...ทำไม " ว่าแล้วก็หันไปมองหน้าพี่ทินที่ยืนรอท่าอยู่..
"..มันด่ากูว่าหมาว่ะ พี่วิทย์.." พี่ทินตอบสั้นๆ คนฟังเลยพยักหน้าหงึกๆ...
"..อ้อ...งั้นก็ทำไปสิ.." พี่วิทย์ว่า ทำเอาเด็กใหม่ที่มีสีหน้าอ้อนวอน แทบจะคุกเข้ามาซบฝ่าเท้าพี่วิทย์ชะงัก มันทำหน้าเหวอๆได้อีก ทำเอาคนมองอย่างผมได้แต่ถอนหายใจ..อย่าเลยว่ะ..อย่าคิดไปหวังอะไรกับคนที่เข้ามาถามเลย กี่รายๆก็อีหรอบเดียวกันแหละครับ..เพราะ แดนนี้ถุกควบคุมไว้แล้วโดยพี่โตและพรรคพวก..
"..ทำไมว่ะ...กลัวไรมึง...ทำหน้าเบ้เชียว.." พี่วิทย์เลิกคิ้ว ก้มมองหน้าเด็กใหม่ด้วยท่าทีงงๆปนสงสัย..
"...อึก.......ผะ....." ไอ้เด็กใหม่จะอ้าปากพูดด้วยนัยน์ตาสั่นระริกใกล้จะร้องไห้เต้มที แต่พี่วิทย์แกบีบมือลงบนปลายคางที่จับอยู่ซะก่อน แรงซะจนเจ้านั่นหน้าเหยเก...ดูๆไปก็น่าสงสารนะนั่น..
"..มีปัญญาด่าคนอื่นว่าหมา แล้วทำไมไม่มีปัญญาขอโทษล่ะว่า ทีเห่ามาก็ยังเห่ามาได้ แบบนี้ต่างกับหมาตรงไหน?.." พี่วิทย์ถามพร้อมกับหัวเราะหึหึ แล้วสะบัดมืออกจากคางเด็กใหม่แรงๆ จะว่าไปแล้วพี่วิทย์เคยทำหน้าโหดๆให้ผมดูไม่บ่อยนัก..เพิ่งได้มาเห็นอีกครั้งก็คราวนี้ ถือว่าเป็นของแรร์เลยนะครับ..หายากๆ..
แต่ไปๆมาๆ ดูเหมือนจะมีคนไม่อยากเห็นมากกว่า
ผมเหลือบมองเมฆที่เม้มปากแล้วหันไปมองทางอื่น โดยที่มีฝ่ามือกำแน่น คราวแรกผมเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเมฆเป็นอะไร แต่พอมองไปก็นึกได้ คงเพราะเมฆไม่อยากเห็นพี่วิทย์เป็นแบบนี้ล่ะมั้ง? หรือไม่ก็ไม่อยากให้พี่วิทย์ทำหน้าตาแบบนี้กับใคร จะเก็บไว้ซาดิสต์กันสองคน..เอ่อ...เหมือนยิ่งคิดไปเรื่อยเปื่อยยิ่งพล่ามไร้สาระไปเรื่อยแฮะ..
"...เป็นอะไร?.." ผมออกปากถามเบาๆ ทำให้เมฆชะงัก เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกมอง เลยรีบทำสีหน้าปกติ...
"...เปล่า..." เมฆบอกสั้นๆพลางถอนใจเบาๆ...ผมมองแล้วหรี่ตาลงน้อยๆ..
"..ไม่อยากเห็นพี่วิทย์ทำตัวแบบนั้นรึไง?.. " ผมถามออกไปเรียบๆ..ได้ยินเสียงลมหายใจอีกฝ่ายสะดุดลงพร้อมกับอาการถอนใจเบาๆอีกรอบ..
"..แล้วไง...พูดอย่างกับมึงชอบ.." เมฆตอบกลับมาเบาๆ ทำให้ผมหันไปมองหน้าพี่โตอีกครั้ง สีหน้าเยาะเย้ย เหยียดหยามคนอื่นที่ได้เห็น มันดูไม่น่ามองแบบที่เมฆว่านั่นแหละ แน่นอนว่าจริงๆแล้วผมก็ไม่อยากจะมองเห็น..ใครอยากจะมองคน..เอ่อ...หมายถึงคนข้างๆตัวเองมีสีหน้าแบบนั้นล่ะครับนอกจากจะไม่เจริญหูเจริญตาแล้วยังชวนประสาทเสียอีกต่างหาก...
...แต่ว่า..
"..ก็เปล่า..แต่แค่ไม่ทำหน้าแบบนั้นกับเราก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่รึไง?.." ผมถามาเมฆกลับเบาๆ ไอ้การทำตัวเป็นคนดีมีศีลธรรมโอบอ้อมอารีกับเพื่อนนุษย์น่ะ ใครๆก็อยากทำและอยากให้คนที่นรักเป็นกันทั้งนั้น แต่ในคุก ในที่แบบนี้ ทำตัวแบบนั้นจะอยู่รอดรึไง? สามปีที่ผ่านมามันสอนผมมามากแล้ว
อาจจะเห็นแก่ตัว แต่ในที่แบบนี้ แค่คนๆนั้นไม่ทำสีหน้าอย่างนั้นให้เห็น ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ?
"..กูรู้..แต่ก็ไม่อยากเห็นอยุ่ดี..มองแล้วประสาทเสียว่ะ.." เมฆบ่นออกมาเบาๆ ทำให้ผมเหล่มองช้าๆ เมื่อสามปีก่อนผมเข้ามาโดยไม่รู้เรื่องราวอะไรระหว่างพี่วิทย์กับเมฆเลย เมื่อเวลาผ่านไปถึงได้รู้อะไรมาจากพี่โตบ้าง ก็แค่คร่าวๆว่าเมฆเคยเจออะไรเหมือนกับผม และอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำ เลยกลายเป็นคนแข็งกร้าวไม่ยอมเชื่อใคร ความทรงจำที่เมฆมี..ก็ย่อมเลวร้ายและฝังใจกว่าที่ผมเจออยู่แล้ว..
"..คิดมะ........"
"..คุยอะไรกัน..? " ฝ่ามือหนาโยกหัวเมฆเบาๆพร้อมกับเสียงทักนิ่มๆทำให้ผมกับเมฆหันกลับไปมอง แน่นอนว่าคนๆนั้นคือพี่กันย์..ซึ่งกำลังถือเอกสารอะไรบางอย่างในมืออยู่..
"...เรื่องเด็กใหม่พี่.." ผมตอบพี่กันย์ ทำให้พี่เขาหันไปมองคนที่อยู่กลางวง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันน้อยๆ..
"..พอดีเลย..ผู้คุมฝากเอกสารให้เด็กนั่นไปกรอก.." พี่กันย์ว่า ขณะที่กอดคอเมฆไว้หลวมๆด้วยท่าทีสนิทชิดเชื้อ ทำเอาผมหัวเราะแหะ ขยับห่างออกมาด้วยกลัวว่าบางทีลูกระเบิดอาจจะถล่มลงมาใส่กบาลได้..
".
.มีอะไร..? " ว่าแล้วไง...ไม่เกินสิบวินาทีที่พี่กันเริ่มเข้ามานัวเนียเมฆ พี่วิทย์ก็เดินออกมาจากกลุ่มพิพากษานั้นแล้วส่งเสียงเข้มๆแหวกผู้คนมาก่อนตัวเสียอีก..
"..เปล่านี่ครับ..ทำไมเหรอ? พี่ชายน้องชายทักทายกันไม่ได้รึไง?.." อ่า..เหอะๆ...มองแล้วชักประสาทเสียครับ..พี่กันย์กับพี่วิทย์ เริ่มคู่มวยชุมชน เอ๊ย..มวยประจำแดนสิบสองอีกแล้ว..
".....ไม่ว่าหรอก ถ้าไอ้พี่มันคิดแค่นั้นจริงๆ " พี่วิทย์ส่งเสียงฮึ่มฮั่มแล้วเดินเข้ามาคว้าแขนเมฆมาหาตัว ได้ยินเสียงเมฆบ่นออกมา แต่ก็ต้องเงียบลงเพราะพี่วิทย์ทำตาดุใส่.
"..เฮ้อ..ช่างเถอะ... " พี่กันย์ถอนใจด้วยสีหน้าระอากับพฤติกรรมเยี่ยงเด็กหวงของอย่างพี่วิทย์..และยิ้มให้ " ดูแลกันดีๆแล้วกัน"
"..........." พี่วิทย์เงียบครับ ไม่พูดอะไรนอกจากจะจ้องตาพี่กันย์ที่ฉายแววอมหิตไม่เงียบออกมาเด่นชัด..บอกตามตรงว่าถึงผมจะเห็นบ่อย แต่ก็ยังไม่ชินครับ ไม่ชินจริงๆกับเรื่องแบบนี้
".....เอ่อ...พี่ ไหนบอกจะให้เด็กใหม่กรอกอะไร.. " ผมออกปากถามพี่กันย์ที่ยืนมองพี่วิทยืและเมฆที่เดินออกปากจากตรงนี้แล้ว..ทักให้เขารู้ว่า เด็กใหม่ต่างหากเฟ้ย !! ที่เอ็งควรจะสนใจน่ะ..
"..อ้อ.....แล้วดูทำเข้า.." พี่กันย์บ่นออกมาเมื่อหันไปเห็นภาพพี่โตเอาฝ่าเท้าไปกดแผ่นหลังเด็กใหม่ให้หมอบแนบอยู่กับพื้น..ด้วยสีหน้าแสนมีความสุข..
"....เรียกให้หน่อยสิ.." พี่กันย์สะกิดเเรียกใช้ผมเบาๆ...เอ่..พี่ครับ..เรื่องอื่นไม่ว่า แต่ทำไมต้องให้ผมทำตอนนี้เล่า..
" พี่ไม่เรียกเองล่ะครับ?.." ผมหันไปโบ้ยกลับทันควัน ไม่อยากจะขัดขวางความสุขพี่ท่าน เดี๋ยวได้ลำบากอีก..
"....เดี๋ยวโดนหาว่ามาขัดคออีกน่ะสิ.." พี่กันย์ว่า ทำให้ผมได้แต่ทำหน้าเหยเก..สุดท้ายแล้วก็ต้องมาลงที่ไอ้เนมคนนี้สินะ...เวรเอ๊ย...
"....เอ่อ........พี่โต.!! ..." เรียกแล้วนะ...ผมออกปากเรียกให้แล้ว ถึงเสียงมันจะไม่ดังนัก แต่ก็พอจะได้ยินล่ะ อย่ามาว่าผมไม่เรียก เรียกตามที่ขอแล้วครับพี่กันย์ ถ้ารายนั้นไม่ได้ยินก็เชิญเรียกใหม่เอง.. ผมทำหน้าตาไม่รู้สึกรู้สากับสีหน้าอ่อนใจที่พี่กันย์ส่งมาให้ อย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยครับพี่กันย์ ไอ้ท่าทางมีความสุขที่ได้กดขี่ชาวบ้านเยี่ยงได้ขึ้นสวรค์แบบนั่นน่ะ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนะครับ เพราะงั้นต่อให้ผมไปขัดคอก็อาจจะมีสิทธิม่องได้ง่ายๆ เข้าใจไอ้เนมนะพี่..
"..อะไร..." อ้าว...ได้ยินซะงั้น.. แถมหันมามองด้วยนัยน์ตาเขียวๆอีก..
".........." ผมไม่ตอบแต่ชี้ไปที่พี่กันย์ที่ยืนข้างๆเป็นเชิงบอกว่าไอ้นี่ต่างหากที่กวน..
"..มีเอกสารให้เด็กใหม่ทำน่ะครับ.."พี่กันย์ตอบ พลางเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปกลางวง
"..........เหรอ..." พี่โตรับคำสั้นๆ ขณะที่พี่กันย์ก้มมองเด็กใหม่ที่มองตนเองเยี่ยงพระมาโปรดแล้วหันมามองหน้าพี่โต พลางกระซิบบอกอะไรซักอย่าง..ซึ่งทำให้พี่โตถอนใจเฮือก..
"....ถือว่ามึงรอดไปแล้วกัน..." พี่โตชี้หน้าเด็กใหม่ด้วยสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด..
"..ไปไหนล่ะพี่.." พี่ทินออกปากถามสีหน้างงๆ..
"..ไปหาไอ้ชาติ.." พี่โตตอบสั้นๆพร้อมกับละฝ่าเท้าออกจากศพ(?)ของเด็กใหม่รายนั้น แล้วเดินมาทางผม..
"..ไปอาบน้ำก่อนไป..เดี๋ยวกูไปหาไอ้ชาติก่อน แล้วจะมากินข้าวด้วย.." พี่โตลูบหัวผมพลางสั่งสั้นๆ...ก่อนจะละแขนออกแล้วเดินไปพร้อมกับพี่กันย์ ส่วนศพเด็กใหม่นั้นก็ทิ้งไว้ให้พี่ทินและเหล่าพลพรรคในเรือนจำแดนสิบสองยำตีนกันตามสะดวก
ส่วนผมที่รู้สึกว่าการดูคนโดนกระทืบไม่ได้เป็นอะไรที่น่ามองนักก็เดินเข้าไปในเรือนนอน คว้าข้าวของออกมาอาบน้ำไปกินข้าวตามที่พี่โตบอกไว้..
......................................................................................
[/color]