Oh!!bad guy : รักร้ายๆของผู้ชายในคุก
Improbable 1: วันนี้ที่แดนสิบสอง..
ควันสีขาวกลิ่นฉุนจมูกลอยเอื่อยๆอยู่ด้านหลังอาคารก่ออิฐ ที่มีผ้าสีขาวผืนใหญ่สะบัดพลิ้วไปตามสายลมแรง แสงแดดจ้าสาดส่องลงมาตามรูโหว่และบากบิ่นของกระเบื้องมุงหลังคาสีซีดซึ่งผ่านฝนผ่านหนาวมามากมาย พื้นฉาบปูนหยาบๆกันดินโคลนมีสีกระดำกระด่างจากรอยเท้าเด่นชัด ขณะที่ร่างเงาของชายคนหนึ่งนั่งซุกตัวอยู่ริมชายคา ใบหน้าแหงนเงยมองท้องฟ้าสีจัดจ้าอย่างสบายอารมณ์ ริมฝีปากคาบบุหรี่ที่ส่งกลิ่นฉุนและพ่นควันสีขาวออกมาอย่างต่อเนื่อง..
ป๊าบ!
“..พี่โต !! มาอยู่นี่เอง..” เสียงร้องทักมาพร้อมกับฝ่ามือฟาดเข้าให้ที่หลังไม่เบานัก ทำเอาคนตัวสูงที่กำลังอยู่ในอารมณ์สุนทรถึงกับสำลักควันบุหรี่... นัยน์ตาสีเข้มตวัดมองเจ้าคนทำอย่างเอาเรื่อง แต่ก็พลันอ่อนลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อมองเห็นร่างเพรียวที่ยืนมองอยู่..นัยน์ตาสุกใสของเจ้าตัวจ้องเขม็งมายังตน พร้อมด้วยสีหน้าเอาเรื่อง..
“..แค่ก....อะไร..จะเสียงดังไปทำไม เดี๋ยวพ่อมึงก็มาหรอก..” ออกปากบ่นพลางสำลักกระไอเบาๆ เสียงแต่เจ้าคนฟังไม่นึกขำ เพราะเจ้าตัวยังจ้องเขม็งมาไม่ลดละ..
“..พ่อผมไปสวรรค์ตั้งนานแล้ว ถึงเรียกก็ไม่มาหรอก..แต่ไอ้ควันโขมงนี่ รับรองจะเรียกพ่อพี่มาแน่..” ริมฝีปากสีอ่อนบิดลงอย่างไม่พอใจพลางส่ายหัวช้าๆ อย่างระอาใจ.. “ดับเลยนะ..เดี๋ยวผู้คุมก็มาเช็คชื่อแล้ว คนอื่นเขากวาดพื้นอยู่ ตัวเองยังจะมานั่งดูดบุหรี่สบายใจเฉิบ..”
“..สั่งได้สั่งเอานะมึง..”ออกปากบ่นพลางขยี้บุหรี่ลงกับเศษจานกระเบื้องในมือช้าๆ ก่อนจะเก็บที่เหลือใส่ในกระเป๋าเสื้อ..
“..แล้วไงเล่า.. มาเรียกนี่ก็กลัวโดนลากไปขังหรอก..รู้อยู่ว่าเขาห้ามก็ยังจะกิน..แปลกคน...” บ่นพลางส่ายหัวและสาวเท้าเดินนำ..
“..เหอะ..ไอ้เนม..บุหรี่ในนี้นะ มีค่าซะยิ่งกว่าทองอีกน่ะมึง..ให้เอาเด็กมาแลกยังยอมเลย..” คำพูดนั้นทำให้คนฟังชะงัก..นัยน์ตาคู่นั้นหันกลับมามอง..ก่อนจะยิ้มแสยะ..
“...แล้วจะเอาผมไปแลกมั้ยครับ....พี่โต....”
“...เหอะๆ...ไม่โว้ย..ไปๆ มาเรียกไปกวาดพื้นกูก็ไปล่ะ..อย่ามาทำหน้าตาแบบนี้ใส่กูเชียว..” บ่นแล้วพาดแขนลงบนลำคอเจ้าคนที่ทำหน้านิ่ว โตเอื้อมมือขยี้เส้นผมสั้นๆนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะก้มลงงับใบหู ทำเอาร่างเพรียวสะดุ้งโหยง.. หันมาทำตาปะหลับปะเหลือกให้อย่างไม่รู้จะแก้นิสัยยังไง..
.....Oh !! bad guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก....
“..มาแล้วเหรอเฮีย..หายไปไหนมาว่ะ..” เสียงทักทายที่แสนคุ้นหูดังขึ้น ทำให้ผมกับพี่โตที่เดินคุยกันอยู่ชะงัก และหันไปมองบรรดาแกงค์ที่กำลังทำกิจวัตรเดิมอันคุ้นเคยอยู่..นั่นก็คือ กวาดพื้นและทำแปลงผัก..
พี่โตยักคิ้วให้เป็นคำตอบกันคำถามนั้น ก่อนจะลากผมมานั่งใต้ร่มไม้ต้นมะม่วงด้วยกัน
“.. เสร็จกันรึยังว่ะ...” พี่โตออกปากถาม แขนที่พาดบนไหล่ของผมละออกแล้วหันไปเท้าสะเอวถามบรรดาลูกน้องที่ทำงากันอยู่..ทำเอาเสียงโฮ่ฮาดังใส่อย่างรวดเร็ว..ในฐานะหัวหน้าผู้เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ..แอบหลบไปนั่งสูบบุหรี่สบายแล้วให้ลูกน้องมาทำงานแทน..
“..ไปทำงานบ้างสิมึง..ร้อนจะตายห่า.. “พี่วิทย์เดินเข้ามาพักในร่มไม้บ้างด้วยใบหน้าอาบเหงื่อจนแดงจัด เม็ดเหงื่อเป้งๆไหลลงบนเสื้อสีกากีจนเปียกชุ่มจนมองแล้วรู้สึกร้อนแทน และพอหันไปมองท่านหัวหน้า...ท่าทีสบายอารมณ์ของพี่แกทำเอาหงุดหงิด...
“..พี่โตกินแรงว่ะ..” ไอ้เนมทำสีหน้ารังเกียจไปให้แล้วแบะปาก เรียกมะเหงกฟาดลงบนกบาลไม่เบานักจนต้องหน้าบึ้ง..
“..แหม..เป็นแค่ไอ้เนมกล้ามาว่ากูเหรอฮึ...เดี๋ยวเถอะ..” ว่าแล้วปลายนิ้วก็จัดการดึงแก้มผมไปมาอย่างล้อเลียน.. แถมไอ้คนทำยังทำหน้าทำตากวนตีนอีกแหนะ..แหม...มันน่านัก...
“...เจ็บนะเว้ย..พี่โตปล่อย..” ไอ้เนมบ่นพร้อมกับดึงมือหนาที่บีบๆดึงๆแก้มตัวเองไว้ ไม่ใช่ขนมมาชเมลโล่นะครับจะได้ดึงๆยืดๆได้ตามใจ มาทำยังกะผมเป็นเด็กห้าขวบไปได้..
“..หึๆ...แล้วนี่ไอ้พวกนั้นไปไหนกันหมด..” พี่โตละมืออกจากแก้มผมแล้วหัวเราะเบาๆอย่างสบายอกสบายใจ..ถ้าดึงแก้มไอ้เนมแล้วอารมณ์ปลอดโปร่งยิ่งกว่าได้สูบบุหรี่แล้วละก็ ทิ้งไอ้บุหรี่ครึ่งตัวเหม็นๆในกระเป๋าเสื้อซะสิครับ..เหม็นหืนจะตายห่า..
“..วันนี้ได้เวรอยู่แถวโรงเพาะชำน่ะ..เดี๋ยวคงมามั้ง..” พี่วิทย์ยกมือลูบเส้นผมที่เปียกชื้นของตัวเองแรงๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างพี่โต พร้อมกับผิวปากเบาๆ..
“..ร้อนมากรึไง..” พี่โตหันไปถามคู่หู พี่วิทย์ก็แค่ยักไหล่และตั้งหน้าตั้งตาผิวปากเป็นทำนองบ้างไม่เป็นทำนองบ้างไปอย่างนั้น..
“..มีอะไรเหรอ? หรือว่าพวกนั้นเรียกอีก..” ผมออกปากถามพี่โตที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่แกยักไหล่
“..ไอ้ชาติเรียก..ไม่รู้จะเรียกกูไปด้วยทำไม..” พี่โตบ่น และทำให้เสียงผิวปากของพี่วิทย์เงียบไปด้วยเช่นกัน..พร้อมกับนัยน์ตากลมๆคู่นั้นหันมามองหน้า..
“...กูรู้แค่นั้น..” พี่โตบอกสั้นๆ “..ช่างเถอะ..มันไม่กล้าทำอะไรหรอก..อยู่แกงค์เดียวกันมาตั้งสามปีแล้ว ถ้าเพิ่งคิดจะรนหาที่ได้..ก็สมองช้าไปหน่อย..”
“..กูแค่ห่วงเมฆ..” พี่วิทย์ว่า นัยน์ตาหรี่ลงช้าๆ..
“...ห่วงอะไร..มันแค่อยู่กลุ่มเดียวกัน..กลุ่มทำงานเองเหอะ..มึงจะกลัวอะไรนัก..” พี่โตบ่นใส่พี่วิทย์ที่ทำหน้านิ่วไม่เลิกอย่างนึกรำคาญ..
“..ไม่รู้...กูกวงของกู..ไม่เหมือนมึงนิ...” อะ...อะไรกันอีกครับ..พูดแบบนั้นแล้วทิ้งหางตามาให้ผมอย่างจะยุแหย่ให้มีเรื่องวิวาท..พี่โตแกครางในลำคอเบาๆและง้างฝ่าเท้าตวัดไปทางพี่วิทย์ทันที ซึ่งรายนั้นก็หลบพลิ้วตัวไปแล้วลึกพรวด พร้อมกับผิวปากทำนองกวนตีนจากไป..
.
“..เชี่ยนี่..กวนส้นตีน...” พี่โตบ่นงึมในลำคอก่อนจะหันมามองหน้าผม..ซึ่งผมก็มองหน้าแกกลับ..
“..ไม่ต้องมองแบบนั้นหรอกครับ..ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย..” ไอ้เนมส่ายหัวช้าๆพร้อมกับถอนใจเฮือก..ใครจะมาบ้าคิดเล็กคิดน้อยกับไอ้เสียงแหย่ของพี่วิทย์กันล่ะครับ..เฮ้อ... “ ถ้าผมเป็นแบบนั้นจริง ป่านนี้คงได้เลิกยุ่งกับพี่ตั้งแต่ปีแรกๆแล้วล่ะ ไม่อยู่กันมานานขนาดนี้หรอก..”
พี่โตฟังแล้วหัวเราะหึๆพร้อมกับยกมือมาโยกหัวผมเล่นเบาๆ..อย่างอารมณ์ดี เฮ้อ..คนแก่ก็งี้แหละครับ..ชอบถูกเอาอกเอาใจ แถมขี้ระแวง ขี้หวง ทั้งที่ไม่รู้จะหวงไปทำไม
อะแฮ่ม..และถ้าทุกคนยังจำประโยคข้างบนได้อยู่ ในข้อว่าด้วยวันเดือนปีนั่น..ใช่แล้วครับ ตอนนี้ผมได้อยู่ที่นี่ เรือนจำXXX แดนสิบสอง มาได้สามปีแล้ว..ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่มาได้ยังไง ทั้งที่ตอนแรกๆยังอยากจะตายๆไปซะให้รู้แล้วรู้รอด เอาเถอะครับ..ผ่านมันมาได้ตั้งสามปีแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องร้ายๆในอดีตเลย..
...ที่อยู่ได้นานขนาดนี้..อาจจะเพราะ...คนข้างๆนี่ก็ด้วยล่ะมั้ง..
ผมถอนหายใจเบาๆพลางเงยหน้ามองฟ้า ท้องฟ้าสีเดิมและวิวทิวทัศน์เดิมๆที่ผมคุ้นตา ก่อนจะก้มลงมามองคนตัวโต ผิวสีเข้ม หน้าตาหล่อน้อยกว่าผม..(ฮ่าๆ)ที่ตอนนี้เอนตัวลงนอนบนพื้นหญ้าไปเรียบร้อยแล้ว..
“...ง่วงเหรอ?..เมื่อคืนพี่ไม่ได้นอนรึไง?..” ผมออกปากถามพร้อมกับเอามือไล้โหนกแก้มพี่โตเบาๆ..เปลือกตาพี่โตกระพริบถี่เมื่อผมแตะปลายนิ้วไปใกล้ ก่อนรายนั้นจะครางฮืม
“...เออ..แม่งเสียงดัง..” พี่โตบ่นงึมงำ..ทำให้ผมหัวเราะรับเบาๆ..ไม่ใช่อะไรหรอกครับ..ก็เมื่อคืนนี้ เหล่านักโทษในแดนสิบสองแอบจัดงานเลี้ยงส่งเล็กๆให้กับนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัว ก็นานๆทีนะครับ เพราะแดนนี้เป็นแดนของผู้ต้องขังที่มีโทษหนัก สิบปียี่สิบปี คนเข้าๆออกๆไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่...พอมีคนออกทีก็เลยต้องแสดงความยินดีด้วย..
ผมจำได้ว่านักโทษรายนั้นที่ได้ออกไปอายุล่วงเข้าไปสี่สิบกว่าแล้ว..ท่าทางขรึมๆอยู่เรือนนอนเดียวกันแต่อยู่ห้องข้างๆครับ.. ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกับลุงแกซักเท่าไหร่..ความจริงก็อยากรู้ว่าแกออกไปแล้วจะไปทำอะไร ยังไง ประกอบอาชีพไหน..ถึงผมจะติดคุกนาน...นานจนไม่อยากจะคิดเพ้อฝันถึงวันที่ออกไปข้างนอกให้ปวดใจเล่นๆ แต่พอเห็นคนเขาได้ออกไปบ้าง..ก็เลยอยากรู้ขึ้นมา..
ผมได้คุยกับลุงแกแค่สั้นๆ แสดงความยินดีเล็กๆน้อยๆ แค่นั้น..เพราะจากนั้นกลายเป็นว่านักโทษทุกคนก็พากันงัดเอาของกินอะไรไม่รู้มาจากไหนไม่ทราบ..เปิดเลี้ยงฉลองกันลั่นทั้งคืน แถมผู้คุมก็ยังเป็นไปกับเขาด้วย..พี่โตก็เลยบ่นอย่างที่เห็นแหละครับ..เพราะแกไม่ค่อยได้หลับทั้งคืน..
ส่วนผมน่ะเหรอ..อยากบอกว่าหลับสบายนอนเหมือนตายเช่นเคยล่ะครับ..แอบกระซิบว่าเพราะพี่โตแกกอดไว้ ทั้งอุดหูทั้งกันเสียง เลยนอนหลับฝันดี..
“..บ่นอะไรล่ะครับ..พี่ก็ได้บุหรี่มาดูดแล้วไง..” ผมว่าพลางหัวเราะหึ..บุหรี่ถือเป็นของหายากในคุกครับ..มีค่ามาก ก็ขนาดที่พี่โตแกว่าเอาเด็กมาแลกเพื่อบุหรี่สักตัวก็ยังได้ เพื่อบุหรี่มวนนึงใช้ฆ่าคนได้ด้วยซ้ำ..เพราะในคุกไม่มีเงินทองใช้สำหรับซื้อขายอะไร ส่วนใหญ่ที่นี่ใช่ระบบแลกของมากกว่า..พวกโทรศัพท์มือถืออะไรพวกนี้ มีแต่บรรดาผู้ทรงอิทธิพลกันแหละครับที่มี ขาใหญ่อย่างพี่โตอย่างมากก็ได้บุหรี่ ส่วนพวกลูกน้องก็เป็นพวกของใช้และความสะดวกสบายอะไรก็ว่ากันไป..
เพราะอยู่ในกลุ่มด้วย..ผมเลยไม่กล้าจะค้านอะไรเวลามีใครไปทำงานอย่างที่ผมเคยทำ..อย่างส่งยา..หรือไปทำร้ายใคร..นานเข้าแล้วก็ได้แต่ทำใจชินล่ะครับ คิดเสียว่าเพื่อความอยู่รอด ทำได้แค่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ และพี่โตก็ใช้อิทธิพลของตัวเองช่วยให้ผมไม่ต้องทำเรื่องพวกนี้เท่านั้น..แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ..จะให้คนอื่นเลิกทำน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก..
“...ที่ลุงชาติเรียกนี่..เรียกพี่กับพี่กันย์ไปเหรอ?..” ผมออกปากถามเมื่อนึกถึงเรื่องที่พี่โตคุยๆกับพี่วิทย์ไว้..
“..อือ...แปลกเหมือนกัน..ปกติเรียกแต่ไอ้กันย์ไป..ไม่เห็นหากู...” พี่โตบ่นๆออกมาพลางขมวดคิ้วทั้งที่กำลังหลับตาอยู่..
“..คงมีงานให้ทำด้วยกันละมั้ง..เพราะยังไงก็อยู่แกงค์เดียวกันนี่...” ผมว่าพลางเอื้อมมือกดปลายนิ้วลงบนหว่างคิ้วที่ขมวดมุ่น กดวนเบาๆให้หัวคิ้วเข้มนั้นคลายออกจากกัน..
พี่กันย์กลายมาเป็นคนที่อยู่แกงค์เดียวกันกับผมและพี่โตเมื่อสามปีก่อน หลังจากมีเรื่องวิวาทกันไปครั้งล่าสุด พี่โตเลยได้เป็นหัวหน้า พี่กันย์เป็นรอง..เพราะลุงชาติแกรวมแกงค์กับผู้พันและป๋า..ถ้าถามว่าคนล่างๆอย่างพวกเราต้องการรึเปล่า..ก็ไม่หรอก แต่แน่นอนว่าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธการตัดสินใจของพวกข้างบน..เลยได้แต่ก้มหัวยอมรับ..
แต่จะว่าไปรวมแกงค์กันก็ดีเหมือนกัน..เพราะในแดนสิบสอง..ตอนแรกที่ผมมานั้นมีสองแกงค์ที่คุมพื้นที่ คือพวกของพี่โตและพี่กันย์..พอเวลามีเรื่องอะไรขึ้นก็มักจะวาวาทฟาดปากกันอยู่บ่อยๆ.. แล้วพอมารวมแกงค์กันได้ สถานการณ์ในแดนสิบสองก็สงบลงมาก..ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรกันจะมีก็แค่เรื่องวิวาทเล็กๆไม่ใหญ่โตอะไรให้ปวดหัวเหมือนคราวที่มีสองขั้วเหมือนแต่ก่อน..
ดังนั้นตอนนี้ในแดนสิบสองเลยมีแกงค์พี่โตเป็นใหญ่..มีรองหัวหน้าเป็นพี่กันย์..ซึ่งก็ทำให้การร่วมมือครั้งนี้กลายเป็นว่าห้องพยาบาลกลายเป็นสถานที่สิงสถิตของกลุ่มเราไปโดยปริยาย..(ถามว่าผมชอบมั้ย..ไม่ ไอ้พี่โตมันชอบลากไปทำอะไรๆแถบนั้นให้พี่กันย์มาเจออยู่เรื่อย..) จากที่แต่เดิมมันคือสถานที่อโคจรอันดับต้นๆที่พวกผมจะไปเลยทีเดียว..
“..พี่โต..ไปดูเด็กใหม่กันดีมั้ยว่ะ..” พี่ทินเดินอาดๆมาหาพลางยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อบนใบหน้า..เสียงล้งเล้งนั้นทำให้พี่โตขมวดคิ้วแล้วครางฮึ่มในลำคอ..
“..ดูทำไม...” พี่แกบ่นไม่พอใจ..ขณะที่ผมเลิกคิ้วขึ้น..นัยน์ตาวาววับ..เด็กใหม่ที่จะเข้ามาในแดนนี้ปีๆนึงมีไม่กี่คนหรอก..แถมเด็กใหม่แต่ละราย..หน้าตามันไม่ใช่”เด็ก”เสียด้วยซ้ำ..มีแต่พวกลุงๆพี่ๆท่าทางน่ากลัวเข้ามา ไม่ค่อยมีเด็กจริงๆแบบที่ผมอยากเจอซักนิด เพราะไอ้ผมก็อยากจะกลายเป็นรุ่นพี่ มีคนเรียกพี่เนมอะไรบ้าง..ไม่ใช่ไปไหนก็มีแต่น้องเนมหรือไอ้เนม..เซ็งครับ..
“..มันมาแทนลุงเก่งแกเหรอพี่..” ผมออกปากถามเงยหน้าไปมองสบตาพี่ทิน..
“..ใช่...กูได้ยินไอ้พวกข้างห้องมันบ่นใหญ่ พี่เก่งแกไปแทนที่จะได้นอนสบายๆซักคืน คนเสือกเข้ามาซะงั้น..ท่าทางอารมณ์เสียกันน่าดู..”
พี่ทินว่าทำเอาผมยิ้มเหย ไม่ต้องเดาก็รู้ได้กลายๆว่า พวกที่อารมณ์เสียนั้นจะระบายความหงุดหงิดอย่างไรกับ”เด็กใหม่” รายนี้..
“..ช่างมัน..ไม่ได้มานอนห้องเรา..” พี่โตยังคงไม่เปิดตามาสนทนากับพี่ทิน.ได้แต่บ่นงึมงำแล้วทำท่าจะนอนต่อซะงั้น..
“..โห...ไรกันว่ะ..ทุกทียังไปเลย..”พี่ทินแกบ่นพร้อมกับส่ายหัวแรงๆเชิงไม่เข้าใจ “ หรือจะบอกว่าเบื่อไอ้พวกมาใหม่ที่เป็นลุงแก่ๆ..ขอบอกว่าไม่ใช่ว่ะ พวกแดนหนึ่งมันส่งข่าวมาบอกตั้งแต่เช้าแล้ว..ว่ายังเด็กอยู่เลยมึง..รุ่นเดียวกับไอ้เนมได้ล่ะมั้ง..”
“..จริงเหรอ?..” ผมหันไปถามด้วยสีหน้าสนอกสนใจ พี่ทินพยักหน้ารับหงึกๆ..
“..พวกมึง..”คราวนี้พี่โตลืมตาพรึ่บขึ้นมาแล้ว แต่สีหน้าและแววตายังหงุดหงิดบ่งชัดว่าไม่ชอบที่ถูกขัดเวลานอน “..จะเด็กแก่อะไรก็ช่างหัวมัน..ไม่เกี่ยวกับกู..ไอ้ทิน..มึงเห็นกุเป็นคงยังไงว่ะ..เฒ่าหัวงูรึไงถึงชอบเด็ก แค่คนเดียวก็ปวดหัวจะตายห่าแล้ว..ไปๆ ไปๆทำไรก็ไป...”
“..เซ็งว่ะ..” พี่ทินบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อขาดคู่หู ส่วนผมเอื้อมมือไปบีบจมูกพี่แกทันที..พาดพิงกันเรอะ..เดี๋ยวเหอะ..
“...จิ๊...ปล่อย..” พี่โตร้องขัดใจพร้อมกับดึงมือผมออก และกระแทกศรีษะลงบนตักไอ้เนมทันควัน..
“..อย่ากวนนะกูจะนอน..มึงอย่ามาประทุษร้ายกูอีกล่ะ ไม่งั้นคืนนี้เจอดีแน่..” หงะ...ข้อความที่ไม่ใช่แค่คำขู่จากพี่โตทำเอาผมที่กำลังคันไม้คันมือชะงักและผละออกอย่างเสียดาย ไอ้เนมหน้ามุ่ย ค้อนลมค้อนแล้งไปตามเรื่อง..มาขู่กันได้ขู่กันดี..เดี๋ยวเจอกดซักทีดีมั้ยครับ..
หยุดครับ..อย่ามามองหน้าผมแบบนั้นนะ ไอ้เนมเป็นคนมีความพยายามครับ ไอ้อุปสรรคเล็กๆน้อยๆประเภทพี่โตตัวใหญ่กว่าผม ล่ำกว่าผม แมนกว่าผม ของพรรคนั้นน่ะไม่ได้ทำให้ความพยายามของผมที่จะ”กด” พี่โตลดลงไปได้หรอก เพราะตอนนี้ก็ผ่านมาสามปีแล้ว ผมน่ะ ล่ำขึ้น(นิดนึง) ตัวใหญ่ขึ้น(เล็กน้อย)สูงขึ้น(รึเปล่า?) แมนขึ้นอีกจมนะครับ..เพรางั้นเรื่องจะกดพี่โตน่ะไม่ได้อยู่ในเรื่องประเภท เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว หึหึหึ
“...เฮ้ย..โต... “วิทย์ที่เมื่อครู่ทิ้งประโยคว่าร้ายชาวบ้านแล้วจากไปกลับมาแล้วครับ พร้อมกับร้องทักพี่โตเสียงดัง ทำเอาพี่โตที่กำลังนอนฝันดี และผมที่กำลังวาดวิมานในอากาศในโปรเจกต์เป็นสามีของพี่โตต่างก็สะดุ้ง..
“..มึงไม่ไปดูเด็กใหม่เหรอ?.. “ขนาดพี่วิทย์ก็ยังถามเรื่องนี้ออกมาด้วย ชะรอยว่าจะไม่ธรรมดาแล้วนะครับ..เด็กใหม่นี่มีอะไรรึเปล่าหว่า...
“...จะอะไรกันนักกันหนาว่ะ !! “ พี่โตแกท่าจะโมโหแล้วล่ะครับ ผุดลุกขึ้นมาและปัดความพยายามจะนอนหลับออกไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับหันหน้าไปมองพี่วิทย์ตาขวางเชียว..
“..มีอะไรนัก..มึงอยากไปดูก็ไปสิ..มันไม่ได้มาเข้าอยู่กรงเดียวกับกูซะหน่อย.. “ พี่โตบ่นดังๆอย่าวนึกรำคาญพร้อมกับยกมือขยี้หัวตัวเองแรงๆอย่างหงุดหงิด..แต่พี่วิทย์แทนที่จะเหวอกับอาการนี้กลับขมวดคิ้ว..มองมาที่ผมและพี่โตงงๆ..
“..อะไร..มึงไม่รู้เหรอ?..” คำพูดนั้นทำให้ผมกับพี่โตชะงัก..หันไปมองหน้าเพี่วิทย์ที่ทำท่าเหนื่อยใจใส่เราสองคน
“..เด็กใหม่น่ะ..มันมานอนห้องเดียวกับพวกมึงต่างหาก..”
“..........”.. คำพูดนั้นทำให้ผมกับพี่โตหันมาสบตากันอย่างงงๆอย่าหาว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะครับ..ก็ใครจะไปนึกถึง ห้องขังที่ผมกับพี่โตอาศัยนอนอยู่น่ะ มันเต็มมาตั้งแต่ผมเข้าอยู่เมื่อสามปีทีแล้ว แล้วนะครับ..ไม่มีคนเข้าออกเลยด้วย แล้วจู่ๆใครจะนึกว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามา..แล้วจะให้พวกเราอัดกันเป็นปากระป๋องอีกหรือไง..นี่ก็แคบจะตายอยู่แล้ว..
แต่สีหน้ายุ่งๆของพี่โตทำผมชะงัก..ก่อนจะสะดุดใจกับเรื่องที่คุยกันมาหมาดๆ..ที่พี่โตบอกว่าลึงชาติเรียก..ทั้งที่ผ่านมาไม่ค่อยให้หาเลยแท้ๆ..
...รึว่า..ไอ้เด็กใหม่ที่จะเข้ามานี่มีอะไร?..
หรือ..คนพวกนั้น..วางแผนอะไรกันอยู่อีก..?
.....Oh !! bad guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก....
สวัสดีค่า..อะแฮ่ม...กลับมาแล้วกับแบดกายซีวันสอง ครึ่งหลัง..ภาคสอง อะไรก็ว่ากันไป

หายไปไม่กี่วันผ่านมาสามปีแล้วเนอะ (ห้าๆ) ก็สามปีแล้วล่ะค่ะตามที่วางโครงการไว้ โปรดสังเกตว่าหลังจ่ากอยู่กินกันมาสามปีพี่โตเริ่มออกอาการ”เกียมัว”แล้วเน้อ (ห้าๆ) ตอนนี้มาก็เบาๆสบายๆก่อนเปิดประเด็น ไม่มีอะไรมากหรอกจ๊ะ อย่าเครียดล่วงหน้าเลย ไว้ใจเค้าหน่อยเด้ (เพราะแกเป็นคนเขียนนี่ล่ะ ชาวบ้านเขาถึงไม่ไว้ใจ

)
และแจ้งข่าวเล็กน้อย ผู้ที่จองหนังสือไว้ หลังจากปรึกษาหารือกันและมีคนโทรมาขอหลายครั้ง..เราตกลงใจว่าจะเปิดโอนเงินแล้วค่ะ โอนได้ตั้งแต่วันนี้เลย อิชั้นจะเมลืไปบอกหมายเลขบัญชีและราคานะค่ะ