¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12  (อ่าน 237946 ครั้ง)

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
มาให้กำลังใจใหญ่กับฝันนะคะ

 :L2:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อคุ่รักทรหด นี่ขนาดพ่อมาคุยแล้วคล้ายๆเหมือนจะใจอ่อน
แต่ให้เวลาพ่อนิดนึงอ่ะเนอะเรื่องลูกตัวเองทั้งคน สิ่งที่พอ่อยากให้เป็น
แลกกับความสุขชั่วชีวิตของลูก ขอเวลาให้พ่อเ้ค้าหน่อยนะเจ้าฝัน
ส่วนคุณแม่ของฝัน แม่พระจริงๆ เรารักลูกเรายังไงก็เผื่อแผ่ความรักให้
ใหญ่ไปด้วยเช่นกัน น่ารักจริงๆ
+1 คะ

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมๆ
ได้เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อมากขึ้นว่าหวังดีต่อลูกมากแค่ไหน
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพส o13

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
รอวันคุณพ่อใจอ่อน :a1:


b_hihi

  • บุคคลทั่วไป
ง่าใกล้จบแล้วเหรอ

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
รอการติดต่อกลับมาจากใหญ่


morrian

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: มันคือความจริงที่ต้องก้าวผ่าน

เป็นกำลังใจให้ทั้งสองนะคับ

ได้รักกันในที่สุด  :กอด1:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
คุณแม่ของฝันท่านพูดและแนะนำได้ดีจริงๆ
คราวนี้ก็เหลือแต่คุณพ่อของใหญ่ ว่าจะรักลูกแบบไหน
บวกอีก 1 แ้ต้ม ขอบคุณคนโพสต์และคนแต่งนะคะ

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
มานั่งรอจดหมายพี่ใหญ่พร้อมกับข่าวดีต้อนรับวันวาเลนไทน์


 :m3: :m3:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
(ตอนที่๕0)
จดหมายผมคงยังไปไม่ถึง แต่บางทีอาจเป็นเพราะใจเราสื่อถึงกัน วันรุ่งขึ้นขณะที่ผมกำลังขับรถกลับบ้าน ใหญ่ก็โทรศัพท์มาหาผม
“ใหญ่/ฝัน”
เราต่างเรียกชื่อกันและกันขึ้นมาพร้อมๆกัน ผมนิ่งให้ใหญ่พูดก่อน แต่ใหญ่ก็เงียบไป
“ฝัน/ใหญ่”
เราเรียกชื่อพร้อมกันอีกครั้ง ผมต้องยิ้มกับตัวเอง ใจเราคงตรงกันมากเกินไปหน่อย ผมรีบชิงพูดก่อนว่า “มึงพูดก่อน ไม่งั้นวันนี้เราคงไม่รู้เรื่องแน่ๆ”

ใหญ่พูดเสียงเบาๆ จนผมต้องปรับเสียงให้ดังขึ้น “พ่อบอกให้มึงมานี่ มาเชียงใหม่” ใหญ่เงียบไปนานได้ยินแต่เสียงลมหายใจ  ก่อนพูดต่อด้วยเสียงเนือยๆ
“กูไม่แน่ใจนะฝันว่าพ่อคิดยังไง พ่อดูเงียบๆ เครียดๆ ตั้งแต่กูกลับมา กูพยายามจะพูดเรื่องของเรา แต่พ่อก็เดินหนี แล้ววันนี้พ่อหายไปแต่เช้ากลับมาบ่ายๆ ก็บอกให้กูโทรมาหามึง ให้มึงมาเชียงใหม่”
ผมฟังแล้วก็มือเย็นเฉียบ ฟังจากที่ใหญ่พูดมาผมคาดเดาความรู้สึกของพ่อไม่ได้เลย ผมไม่รู้ว่าที่พ่อเรียกผมไป จะให้ไปดูหน้าใหญ่ก่อนต้องเลิกรากันไป หรือเรียกผมเพื่อบอกว่าพ่อยอมรับเราแล้วกันแน่

“กูจะไปคืนพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้เช้ากูไปลางานก่อนแล้วนั่งรถไปเที่ยวค่ำ”
“อืม” ใหญ่พูดน้อยกว่าปกติ จนผมพลอยกังวลเพิ่มไปอีก
“มึงอย่าคิดมากนะ กูมีความหวังเสมอ มีรักแล้วก็ต้องมีหวัง ใช่มั้ย เพลงเค้าบอกว่าอย่างนั้นนี่”
เสียงใหญ่หัวเราะเบาๆ  ก่อนที่จะว่าผมว่า “ไอ้บ้าฝัน”
“หึหึ มะรืนเจอกัน พรุ่งนี้มึงคงได้จดหมายที่กูส่งไป  กูส่งสารไปแทนตัวกูก่อน แล้วเจ้าของสารจะตามไปเอง  มึงคงไม่ว่ากูนะ”
“กูจะไปว่ามึงทำไม กูรอจดหมายจากมึงมานานแล้ว แค่รอเจ้าของอีกแค่วันเดียว ถ้ามันจะตายก็ให้มันรู้ไป”
“หึหึ ดีใจจัง วันมะรืนจะได้เจอมึงแล้ว” เสียงใหญ่หัวเราะเข้าโทรศัพท์มา
“เพิ่งจากกันไม่กี่วันนี้เอง อย่ามาทำพูดดีเลย”

“เอ๊า จากกันกี่วันก็คือจาก รักกันกี่วันก็คือรัก จากกันทั้งๆที่รักก็ต้องยิ่งดีใจสิที่ได้เจอกัน” คราวนี้ผมไม่ได้ยินเสียงใหญ่หัวเราะอีก แต่จากประสบการณ์ผมเดาว่ามันคงหน้าแดง ผมได้ยินแต่เสียงบ่นๆว่า “น้ำเน่าตัวพ่อเลยนะมึง หึหึ กูไม่คุยด้วยแล้ว ลูกกูรอกินข้าวอยู่ ไว้เจอกันนะ คิดถึงเหมือนกันนะครับฝัน”
ถ้ามันอยู่ต่อหน้าผม พูดแบบนี้ผมจะขอกอดมันให้หนำใจ ขอจูบมันให้หายอยาก แต่เราคุยกันติดต่อกันได้เพียงคลื่นของเสียง ผมเลยได้แค่ตอบมันไป
“คิดถึงมึง รักมึงนะใหญ่”
เราวางสายกันไปเงียบๆ ถึงแม้จะมีความกังวลในอนาคตวนเวียนอยู่ระหว่างเรา แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความรักความผูกพันของเราสองคน ผมแทบจะรอวันมะรืนนี้ไม่ไหว

ครั้งนี้ผมมาเชียงใหม่อย่างชำนาญ มาถึงเชียงใหม่เช้ามืดตามเคย แต่ผิดกันที่ว่าคราวนี้มีคนมารอรับผมที่สถานีรถ เมื่อผมเดินงัวเงียลงมาจากรถ ก็มีรอยยิ้มสว่างไสวของใหญ่ต้อนรับผม ผมยิ้มตอบแล้วเดินเข้าไปกอดมันอย่างไม่แคร์สายตาใคร
“มารอนานแล้วเหรอ ทำไมไม่นอน เดี๋ยวกูก็ไปหามึงเอง” ใหญ่ส่ายหน้าจนเส้นผมที่เริ่มยาวสะบัดอย่างน่ารำคาญ ผมเกลี่ยนิ้วเขี่ยเส้นผมออกจากใบหน้ามัน สบตากับสายตาลึกซึ้งที่มองตอบกลับมา
“ทุกครั้งที่มึงมา กูไม่รู้ตัวก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กูรู้ แล้วกูจะใจดำไม่มารับมึงได้ยังไง”
ผมหัวเราะแล้วกอดไหล่มันออกเดิน “ไม่น่าลำบากเลย” ก่อนที่ผมจะนึกอะไรได้หันไปถามมันว่า “นี่พ่อตื่นรึยัง”

ใหญ่เม้มปากแน่น หน้าสลดลงทันที “ยังไม่ลงมาเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าตื่นรึยัง”
ผมเห็นหน้ามันหงอยลงไปเลยลูบหัวมัน “ใจเย็นใหญ่ ทำใจสบายๆ ทุกอย่างจะต้องดี กูดูปฏิทินหน่ำเอี๊ยงมาแล้ว เค้าบอกวันนี้เป็นวันดี  วันธงชัย เหมาะแก่การเริ่มทำอะไรที่ดีๆ”
ผมมองหน้างงๆของมันแล้วแอบหอมแก้มมันไวๆ ใหญ่ขมวดคิ้วอ้าปากกำลังจะว่าผม แต่ผมพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เค้าว่าเหมาะแก่การมงคลสมรสด้วย หึหึ”
ใหญ่หน้าแดงก่ำ เอาศอกมากระทุ้งที่ท้องผมจนผมร้อง “โอ๊ก!” ผมเจ็บก็จริงแต่ก็ยังหัวเราะ
“มึงนี่ กวนไม่มีเปลี่ยนเลยจริงๆ”

ใหญ่พาผมไปหาข้าวเช้ากินที่ตลาดเช้า เรานั่งกินโจ๊กกันไปเงียบๆ แต่เงยหน้าขึ้นมาสบตากันเป็นครั้งคราว ให้พอรู้ว่ายังมีกันและกันอยู่ตรงนั้น รอบข้างเราช่างวุ่นวายไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน แต่สำหรับผมเหมือนเราอยู่กันเงียบๆสองคน ความรู้สึกนี้ช่างดีจนผมอดไม่ได้ที่จะดึงมือใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะมากุมไว้ แล้วบีบเบาๆ แก้มใหญ่เป็นสีชมพูระเรื่อ อาจจะเป็นเพราะแสงอาทิตย์ยามเช้ายังทอแสงอ่อนๆ ทำให้ใบหน้าใหญ่ตอนนี้ดูน่าหลงใหลอย่างประหลาด
“ดีจังนะ ที่เราได้มาอยู่ด้วยกัน” ใหญ่พยักหน้า แต่ขมวดคิ้วเมื่อผมพูดจบ แล้วเอียงคอมองผมอยู่ชั่วขณะ ก่อนถามมาอย่างสงสัย
“ดูมึงไม่กังวลอะไรเลย”  
 ผมส่ายหน้า“ใครว่าล่ะ กูกังวล แต่กูทำใจดีสู้เสือ ในเวลาที่เราไม่แน่ใจในอะไรสักอย่าง กูขอแน่ใจในตัวเองก่อน แล้วกูเชื่อว่าที่เหลือก็เป็นเรื่องรองแล้ว”

ใหญ่ยิ้มกว้างก่อนหัวเราะ  “มึงเข้าใจพูด คิดได้นะมึง”
“ไม่งั้นมึงจะรักกูเหรอ ตกหลุมรักกูจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วยังมาแซวกูอีก” ผมยักคิ้วให้มันแล้วอมยิ้ม ที่เห็นมันทำตาเขียวใส่
“ดีแต่พูดเข้าตัวเองนะมึง” เราหัวเราะเหมือนให้กำลังใจกันและกัน ก่อนที่ใหญ่จะบอกผมว่า “มึงพร้อมแล้วรึยัง”
ผมบีบมือมันแน่นขึ้น “พร้อมตั้งแต่รักมึงแล้ว”
ใหญ่เอามือหลังมือปิดปากแล้วเบือนหน้าไปยิ้มไม่ให้ผมเห็น แต่ผมก็เห็นแก้มป่องๆของมันได้อยู่ดี ทำให้ผมพลอยยิ้มไปด้วย ใหญ่พ่นลมหายใจออกแรงๆก่อนทำสีหน้าแน่วแน่แล้วลุกขึ้นดึงมือผมให้ลุกด้วย บอกว่า
 “งั้นเราไปกัน ไปหาพ่อกู”

ผมกับใหญ่นั่งเงียบรอพ่อเอ่ยปากออกมาก่อน แต่พ่อก็นั่งมองหน้าเราสองคนสลับไปมาอยู่อย่างนั้นนานกว่าสิบนาทีแล้ว มือใหญ่ในมือผมเย็นเหมือนน้ำแข็งจนผมต้องบีบช่วยให้มันคลายความกังวลลง แล้วในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง

“อยากจะรักกันก็ตามใจ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็รับผิดชอบกันเอาเองแล้วกันนะ”
แล้วพ่อก็ลุกขึ้นหันหลังจะเดินจากไป ทั้งที่ผมกับใหญ่ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ผมปล่อยมือใหญ่ออกแล้วเรียกพ่อเสียงดัง “พ่อครับ”
ผมเดินเข้าไปคุกเข่าทรุดตัวลงไหว้พ่อ “ขอบคุณครับพ่อ ที่ให้โอกาสผม ให้โอกาสเรา” สายตาของพ่อที่มองมาเหมือนจะยิ้มให้ผม แต่ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองขนาดนั้น พ่อไม่พูดอะไรกำลังจะเดินออกไป
“พ่อครับ” ใหญ่วิ่งเข้ามากอดพ่อแน่น ใหญ่น้ำตาไหลในอ้อมกอดพ่อตัวสั่นเทา ทำเอาผมน้ำตาซึมไปด้วย พ่อลูบหลังลูบไหล่ปลอบใหญ่แต่ก็น้ำตาคลอๆ ตาแดงๆเหมือนใกล้จะร้องไห้เหมือนกัน

“ร้องไห้ทำไม พ่อไม่ขวางแล้ว ใหญ่น่าจะดีใจ หืม” ใหญ่ขยับตัวออกจากอ้อมกอดพ่อแล้วพูดเสียงอู้อี้ ยกมือเช็ดน้ำตาเหมือนเด็กๆ
“ผมขอบคุณพ่อครับ ผมคิดว่าผมดื้อจนพ่อไม่รักผมแล้ว” พ่อจับหัวใหญ่จับโยกไปมา
“พ่อเหลือลูกคนเดียวแล้วนะ ไม่รักลูกแล้วจะไปรักใคร ยังไงความสุขของลูกก็คือความสุขของพ่อเหมือนกัน”
“ต่อไปนี้ใหญ่ก็ต้องจัดการกับชีวิตเองแล้วนะ พ่อขอไปดูแลน้องออมแทนแล้วกัน”
 ใหญ่ส่ายหน้า “พ่อกับผมก็ยังเหมือนเดิมนะพ่อ ผมไม่ได้เลือกข้างใดข้างหนึ่งเพราะผมก็รักทั้งพ่อ ทั้งฝันมัน ผมก็ยังดูแลพ่อดูแลหลานเหมือนเดิม”

พ่อยิ้มใจดีให้ใหญ่ เหลือบมามองผมที่นั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างๆ “งั้นก็ถือว่า พ่อได้ลูกเพิ่มมาอีกคนก็แล้วกันนะ” ผมยิ้มกว้าง โล่งอกเหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน
 “ต่อจากนี้ไปก็ขึ้นกับลูกสองคนแล้วนะ ที่จะประคองความรักกันไป พ่อก็คงจะมองอยู่ห่างๆ”
ใหญ่มันก้มลงกราบพ่อที่อก “ผมรักพ่อที่สุดเลย” พ่อกับใหญ่กอดกันกลมยิ้มกันทั้งคู่  ผมดูแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วย

ผมมองภาพนั้นด้วยความซึ้งใจในความรักระหว่างพ่อกับลูก แล้วก็ทำให้คิดถึงแม่ผม ทำเอาผมอยากจะกอดแม่บ้าง ถ้าแม่รู้ว่าเรื่องราวออกมาแบบนี้แม่คงดีใจ ก่อนที่พ่อจะออกไปพ่อตบไหล่ผมเบาๆพูดให้ได้ยินกันสองคนว่า
 “ฝากความคิดถึงไปให้คุณแม่ด้วยนะฝัน บอกว่าพ่อฝากใหญ่ให้เป็นลูกอีกคนด้วย แล้วฝากบอกไปด้วยว่า ‘พ่อขอบคุณ’ ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีก ” พ่อผละจากผมและใหญ่ขึ้นไปดูน้องออมปล่อยให้เราอยู่กันลำพัง ใหญ่รีบจูงมือผมขึ้นไปที่ห้อง ผมเองก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย

พอเข้าไปในห้อง ใหญ่ปิดล็อกประตูแล้วดึงมือผมมานั่งที่เตียง  ทำหน้าแปลกๆ ดูตื่นเต้น “ฝัน มึงช่วยตบหน้ากูหน่อย กูไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย พ่อยอมรับให้เรารักกันแล้ว เรื่องจริงแน่ๆ ใช่มั้ย”
ผมหัวเราะกับท่าทางน่ารักของมัน “ก็เรื่องจริงน่ะสิ ไม่ใช่ฝัน”
ใหญ่ส่ายหน้า “กูไม่รู้ กูกลัว ถ้ากูหลับตาไปพอกูลืมตาขึ้นมา มันก็จะกลายเป็นความฝัน  ทำไมอยู่ๆพ่อก็ยอมง่ายๆทั้งที่พูดยากมาตั้งนาน”
ใหญ่มันปล่อยมือผมแล้วลุกขึ้นเดินวนไปวนมาบ่นพึมพำกับตัวเอง
 “ทำไมพ่อเปลี่ยนใจ”
“หรือเกี่ยวกับที่พ่อหายไปวันก่อน”
“พ่อไม่สบายรึเปล่า”
“หรือว่ามันจะเป็นแผน หลอกให้เราตายใจ” ใหญ่หันหน้ามาถามผมแต่คงไม่ต้องการคำตอบ เพราะยังคงบีบมือตัวเองเดินวนเป็นวงกลมต่อไป จนผมเกือบจะเวียนหัว  ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มล้มตัวลงนอน จนใหญ่หันมาเห็น เดินมาดึงมือผมให้ลุกขึ้น “อย่านอนสิ เดี๋ยวตื่นมากูหายวับไปกับตามึงไม่รู้นะ”

ผมยอมลุกขึ้นนั่งแต่ก็ยังขำ “มึงจะหายไปได้ไง” ผมรั้งเอวมันให้นั่งลงมาบนเตียงแล้วหอมแก้มมันเร็วๆ
“ก็กูได้กลิ่นแก้มหอมๆของมึงอยู่นี่” ผมทำตาพราวระยับใส่ใหญ่จนมันทำท่าเขินๆ เบี่ยงตัวหนีผม
“อื้อ..อีกแล้วนะมึง” ผมยิ้มแต่ไม่พูดกลับหอมแก้มมันอีกสองทีซ้ายขวา จนใหญ่โวยหน้าแดง “เฮ้ย..บอกแล้วยังทำอีก” มือผมยังรั้งเอวมันไว้ ผมเอาหน้าแนบแก้มมันก่อนที่จะจับประคองหน้าใหญ่ให้มองหน้าผมชัดๆ

“ ก็กูฟังผิดนึกว่ามึงขออีกที กูเลยจัดให้อีกสองครั้งไง แถมให้เป็นพิเศษ คนกันเอง หึหึ” ใหญ่เงียบไปเหมือนยังครุ่นคิดอะไรอยู่ ผมเอนตัวพิงหัวเตียงแล้วรวบตัวมันไว้ในอ้อมแขน
“ใหญ่ อย่าสงสัยอีกเลย พ่อเค้ารักมึงนะเค้าถึงยอมให้เรารักกัน  ต่อจากนี้เราก็ต้องพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าเรารักกันจริงๆ จะดูแลกัน จะไม่ทอดทิ้งกันตลอดไป” ใหญ่ลูบแขนผมเล่นแล้วหันมามองหน้าผม
“ทำไมดูมึงไม่ตื่นเต้น ไม่ประหลาดใจเหมือนกูเลยล่ะ ทำอย่างกับรู้แล้วยังงั้น” ผมทำตาโตแล้วส่ายหน้า
“รู้ที่ไหน กูรู้แค่ว่าเรารักกัน สวรรค์ก็คงมีตา ท่านคงเห็นใจเรา อุปสรรคของเราแค่ความห่างไกลก็พอแล้ว ไม่ต้องมาเพิ่มออพชั่นเรื่องพ่อแม่กีดกันให้มันยากลำบากขึ้นไปอีก หึหึ” ใหญ่หัวเราะแล้วทุบแขนผมเบาๆ
“มึงก็พูดเป็นเล่นไปเรื่อย หึหึ”  

ใหญ่ยังคงลูบแขนผมจนผมขนลุก ผมขยับตัวประคองใหญ่ให้นอนลงบนเตียง ใหญ่ทำท่าจะลุกขึ้นจนผมต้องกดตัวเอาไว้ ใหญ่โวยขึ้นมาว่า “อื้อ กูไม่นอน สายแล้ว เดี๋ยวก็ต้องลงไปเปิดร้าน…อึก...อื้อ...”
 ผมไม่รู้ว่าใหญ่จะพูดอะไรต่อเพราะผมหยุดเสียงของมันด้วยรอยจูบของผม เป็นสัมผัสที่ผมสามารถทำได้เต็มที่ฉลองให้กับการเริ่มต้นความรักที่เปิดเผยของเรา
“ร้านช่างมัน ตอนนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่า นี่มันไม่ใช่ความฝัน ตัวกูอยู่กับมึงที่นี่ ตรงนี้ ข้างหน้ามึง ต่อสายตาของมึง ให้มึงรับรู้ ...รู้สึก...”ใหญ่เอามือปิดปากผม

“ไม่ต้องพูดแล้ว กูรู้แล้ว ” ผมอมยิ้มแล้วเริ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อใหญ่ ใหญ่ยกตัวขึ้นมาจูบปากผม ใช้มือรั้งคอผมลง ขณะที่ผมกำลังลูบไล้ร่างกายใหญ่ภายใต้เสื้อนั้น
ก๊อกๆๆ “คุณพ่อขาตื่นรึยังค้า หนูจะไปโรงเรียนสายแล้วค่า” ผมผละตัวออกมองหน้าใหญ่ทันที มันทำตาปริบๆเหมือนยังงงๆ
“คุณพ้อ...ทำไมตื่นสาย ฮือๆๆ..หนูสายแล้ว”
คราวนี้ใหญ่คงรู้แล้วครับว่าตัวจริงเสียงจริงของน้องออม ใหญ่ผลักผมอย่างแรงจนหงายหลังแล้วรีบลุกขึ้น มือเป็นพัลวันถอดเสื้อผ้าลูบหน้าลูบผมให้เรียบร้อยปากก็พูดไปด้วย
“ตื่นแล้วคร๊าบบ...หนูลงไปรอคุณพ่อข้างล่างนะ เดี๋ยวคุณพ่อตามลงไปนะครับคนดี ไม่ร้องนะ” ใหญ่พูดไปเหมือนหอบเหนื่อยแล้วหันมามองผม หน้ามันยังแดงระเรื่ออยู่เลย ผมนอนเท้าแขนมองมันเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างมีความสุข จนมันส่งสายตาดุๆมา

“มองอะไร หันไปทางอื่น” ผมหัวเราะแกล้งเอามือปิดตาไว้ แล้วแหวกนิ้วดู
“คุณพ่อขา...ทำไมช้าจัง” เสียงน้องออมยังเคาะเรียกใหญ่ไม่หยุด ใหญ่เลยยิ่งรีบจนผมขำ ผมลุกจากเตียงมาช่วยมันแต่งตัวจับปกเสื้อที่กระดกขึ้นให้ลงมา ใหญ่แต่งตัวเสร็จทำท่าจะออกจากห้องไป แต่ผมดึงมือรั้งมันไว้ มันเลิกคิ้วถามผม “อะไรเหรอ เดี๋ยวกูกลับมานะ แป๊ปเดียว”
ผมเดินเข้าไปใกล้มันแล้วกดปากลงอีกครั้งที่ริมฝีปากสีแดงยั่วใจของใหญ่ ผมประคองใบหน้ามันไม่ให้หนีไปไหน เนิ่นนานก่อนจะผละออกอย่างเสียดาย บอกใหญ่ด้วยรอยยิ้มไปว่า
“ มัดจำไว้ก่อน รอมึงกลับมา”

ใหญ่ทำหน้างอใส่ผมแต่ริมฝีปากกลับมีรอยยิ้ม “ไอ้บ้า” แล้วหันหลังรีบออกไปทันที
ผมยังได้ยินเสียงบ่นของน้องออมแว่วๆ “ทำไมคุณพ่อตื่นสาย แล้วทำไมคุณพ่อแต่งตัวช้าด้วย แล้วทำไมคุณพ่อปากบวมๆ ...แล้ว...” น้องออมคงมีคำถามที่ตอบยากมาได้อีกจนใหญ่ต้องรีบห้าม
“พอแล้วลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ...”

ผมออกมาแอบยืนส่งใหญ่ที่หัวบันได ยังเห็นมันเหลียวขึ้นมามองผมสบตากันแล้วหน้าแดงหันกลับไป ผมเข้าห้องเข้าไปนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวเป็นนานเหมือนคนบ้า  ผมถึงรู้ว่าความสุขที่มันมาพร้อมๆกับความรักเหมือนสารพิเศษที่ทำให้คนเรายิ้มได้ไม่หยุด ผมเดินเล่นไปรอบๆห้องรอใหญ่ จนไปหยุดอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ จดหมายฉบับล่าสุดที่ผมส่งมาให้ใหญ่เปิดกางอยู่บนโต๊ะ
 ผมอ่านจดหมายอีกครั้งยิ้มกับตัวเองแล้วหยิบกระดาษเขียนจดหมายของใหญ่ขึ้นมาจรดปากกา

ใหญ่เพื่อนรัก
มึงอย่าเพิ่งแปลกใจไปว่ากูเพี้ยนหรือเปล่า เพราะเราอยู่ใกล้กันแค่นี้ กูนึกอุตริอะไรมาเขียนจดหมายหามึง จดหมายฉบับนี้คงเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่กูจะส่งให้ใหญ่เพื่อนรัก ต่อไปกูคงจะไม่เขียนให้เพื่อนรักอย่างมึงแล้ว
ไม่ใช่เพราะกูรู้สึกว่ามันเชย ไม่ใช่เพราะกูคิดว่ามันช้า และไม่ใช่เพราะกูไม่ชอบ กูชอบเขียนจดหมายก็เพราะมึงเป็นคนเริ่มเขียนมาหากู กูไม่รู้ว่าความรักของเราที่มีวันนี้ได้เพราะจดหมายพวกนี้หรือเปล่า แต่กูคิดว่าเพราะข้อความที่เราเขียนหากันมันเป็นเหมือนสายใยที่เชื่อมความรู้สึกของเราไว้ด้วยกัน ถ้าหากเราไม่มีสายใยเหล่านี้ เรื่องของเราก็คงจบลงเพียงความห่างไกลและตัดขาดกันไปแล้ว

มึงอย่าแปลกใจว่าถ้ากูคิดว่าการเขียนจดหมายมันดีขนาดนั้น ทำไมกูถึงบอกว่าจะเลิกเขียน ที่กูบอกว่านี่คงเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่กูจะส่งให้เพื่อนรักอย่างมึง

 เพราะต่อจากนี้ไป ถ้าจะมีจดหมายอีกกี่ฉบับก็ตาม คงจะเป็นจดหมายจากกู ‘ฝัน’ คนที่รักมึง ให้ ‘ใหญ่’ คนที่กูรักมากกว่า  มึงอ่านแล้วอย่ายิ้มให้กูเห็นนะ เพราะถ้ากูเห็นกูคงห้ามใจไม่ให้รักมึงเพิ่มขึ้นไม่ไหว แต่ถ้ามึงบอกว่ากูน้ำเน่า กูก็ขอบอกเลยว่า กูก็น้ำเน่ากับมึงคนเดียวเท่านั้น เพราะงั้นถ้ามึงไม่ยอมฟังคำพูดน้ำเน่าจากกูแล้ว กูไปพูดกับคนอื่นมึงจะมาเสียใจไม่ได้นะ

จดหมายฉบับนี้อาจไม่ใช่สัญญารักที่เอาไปจดทะเบียนที่เขตเหมือนทะเบียนสมรส  และไม่เหมือนสัญญาทั่วไปที่ต้องแปะอากรแสตมป์ตามวิธีการทำสัญญาทั่วไป แต่มันก็เหมือนเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจของกู ว่าต่อนี้ไป กูจะขอรักมึงไปแบบนี้ แบบนี้ และแบบนี้  จะขอเป็นคนที่ขอดูแลมึงและคนที่มึงรักไปตลอดชีวิต....


ผมเขียนไปแล้วก็อดเขินไม่ได้จนต้องบ่นกับตัวเอง “เขียนไปได้นะกู เดี๋ยวใหญ่มาเห็นบอกเน่าได้อีก” ผมกำลังจะขยุ้มจดหมายทิ้ง แต่กลับมีเสียงห้ามผมไว้แล้วดึงจดหมายไปจากมือผม
“เอ๊ย...มึงจะทำอะไร” ผมเหลียวไปดูถึงเห็นว่าใหญ่มันมายืนอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ใหญ่ยืนยิ้มกว้างในมือมีจดหมายของผมอยู่
“กูไม่เขียนแล้ว เดี๋ยวมึงว่าเน่าอีก”ใหญ่ดึงจดหมายหนีจากมือผมที่จะคว้าเอาคืน มันหันมาดุผมอีกว่า
“ได้ไง จดหมายกู เขียนให้จบนะ ห้ามทิ้งด้วย”
“จดหมายมึงได้ไง ก็กูเป็นคนเขียนเห็นๆอยู่” ใหญ่ชี้ให้ผมดูที่หัวจดหมายอีกครั้ง
“นี่ไง ใหญ่เพื่อนรัก มึงเขียนให้กูชัดเลย แล้วจะว่าไม่ใช่ของกูได้ไง”
ผมกับมันเลยได้แต่ยิ้ม “ไม่อยากเขียนแล้วล่ะ เขียนไม่ออก”ใหญ่ย่นจมูกใส่ผม ส่งคืนจดหมายมาให้

 “เขียนไม่ออกอะไรกัน เขียนมาตั้งยาว เขียนให้จบด้วยแล้วห้ามลบห้ามแก้  เดี๋ยวกูจะมาอ่าน เขียนไม่จบ กูไล่กลับกรุงเทพฯเลย ไม่ให้อยู่บ้านกูด้วย”
“หูยยย..คนใจร้าย นี่กูไม่ใช่ลูกมึงนะ คุณพ่อใหญ่ขา…คุณ...” ผมพูดแหย่มันยังไม่จบ ใหญ่เอากำปั้นมาชกแขนผมแรงๆ
“เดี๋ยวปั๊ดไล่กลับเดี๋ยวนี้เลย ”
“โอ๋ๆๆ กลัวแล้วครับคุณใหญ่ ผมเขียนต่อเดี๋ยวนี้ครับ คุณลงไปเลยครับ คุณมายืนยั่วผมแบบนี้ผมเขียนไม่ออก เดี๋ยวจับปล้ำซะเลย หึหึ” คราวนี้ใหญ่มันไม่ชกมือเดียวครับมันกระหน่ำกำปั้นลงบนหลังผมจนผมน่วมไปทั้งตัว “ไอ้ฝันนนน...อย่าอยู่เลย...”

ทุบจนหนำใจแล้วก็ออกไปจากห้องก่อนออกยังหันมาสั่งผมอีกว่า “เดี๋ยวกูจะขึ้นมาดู เขียนให้เสร็จนะ” ผมได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัวกับผู้ใหญ่ที่เหมือนเด็กคนนี้ ผมต้องกลับเอาจดหมายมาดูอีกครั้ง แล้วเขียนต่อสั้นๆว่า

“ต่อนี้ไป กูจะขอรักมึงไปแบบนี้ แบบนี้ และแบบนี้  จะขอเป็นคนที่ขอดูแลมึงและทุกคนที่มึงรักไปตลอดชีวิต....
กูจะขอลาออกจากเพื่อนรักมาเป็นคนรักของมึงตลอดไป...ใหญ่ที่รักของกู

ฝันคนของมึง

ปล. จดหมายฉบับนี้จะทำลายตัวเอง เมื่อท่านอ่านจบ ขอให้จำไว้ในหัวใจด้วย ”
**************************
ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดค่ะ :pig4:


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2010 22:23:10 โดย คิคิคุคุ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ๕0๕0 จดหมายจากเพื่อนรัก ๕0๕0 (13/02/10)
« ตอบ #549 เมื่อ: 13-02-2010 22:21:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






OhJa

  • บุคคลทั่วไป
สุข สดชื่น สมหวัง จนได้
ชอบเรื่องนี้จังเลย  o13

b_hihi

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว คิคิคิ ใกล้จบแล้วแน่ๆเลย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Happy Ending แล้วใช่มั้ยคะ หรือว่ายังมีต่อเอ่ย
เป็นของขวัญวันแห่งความรักเลยนะคะนี่
ขอบคุณมากๆค่ะ ทั้งคนแต่งและคนโพสต์
สุขสันต์วันแห่งความรักด้วยค่ะ  :L1:


ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ดีใจไปกับฝันและใหญ่ด้วย

ที่เอาชนะอุปสรรคได้  :L2:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อันนี้คงยังไม่ใช่ตอนจบใช่มั้ยคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
จบแบบแฮปปี้ยิ้มหวานไปตามๆ กัน
ขอบคุณสำหรับนิยายหวานๆ ค่ะ  
แล้วจะติดตามรออ่านผลงานเรื่องต่อๆ ไปค่ะ

ขอตอนพิเศษ ๆ  อีกได้ม้ายยคะ   :z1:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดในที่สุดคุณพ่อก็เข้าใจในความรักของเจ้าฝันกับนุ้งใหญ่
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด มีเขียนจม.ลาความเป็นเพื่อนรักกันด้วย
ฮิ้ววววคุณแม่ขายกขันหมากมาได้เลยคะ พร้อมแล้ว ข้าวสารเป็นข้าวสุกนานแล้วคะ
น่ารักจริงๆ หวานเสมอต้นเสมอปลาย
+1 คะ

morrian

  • บุคคลทั่วไป
"ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด"

แสดงว่า ตอนนี้เป็นตอนจบแล้วใช่มั้ยค้าบบ

happy ending ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้นะคับ

ยังไงก็รอตอนพิเศษด้วยนะคับ

เอ หรือว่าเรื่องยังไม่จบ ?? ^^

happy chinese & valentine's day นะค้าบ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
โล่งอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนกับนิยายเรื่องนี้ อ่านจบแล้วยิ้มออกเลย

ขอบคุณค่ะ  :o8:

ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ชื่นใจจังครับ  :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ๕0๕0 จดหมายจากเพื่อนรัก ๕0๕0 (13/02/10)
« ตอบ #559 เมื่อ: 14-02-2010 13:38:53 »





zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:
ชื่นใจจริงๆด้วยค่ะ

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
น้ำตาซึมเลย...ดีใจกับทั้งคู่ แต่อุปสรรคมันยังหมดเพียงแค่นี้ใช่บ่? (ยังไม่อยากให้จบ)

Ploy-Tawan

  • บุคคลทั่วไป
ต่อจากนี้ จดหมายจากเพื่อนรักจะหายไป
ฉบับต่อไปคงเป็น จดหมายรัก หรือ จดหมายเหตุ...ความรัก แทน :o8:

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จบบริบูรณ์แล้วหรือยัง แต่แค่อ่านมาถึงตอนนี้ก็ทำให้ยิ้มได้อย่างมากมาย
ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เชื่อว่าใหญ่และฝันคงเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้ ในเมื่อวันนี้ "เรามีเราและเรารักกัน" เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ให้ก้าวต่อไป

ขอบคุณค่ะสำหรับของขวัญวันวาเลนไทน์ที่น่ารัก อ่านเรื่องนี้กี่ครั้งก็ยังอบอุ่นหัวใจเหมือนเดิม  :impress3:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ในที่สุดก็สำเร็จ  :mc4:

ว้าใกล้จบแล้ว หรือเนี่ย เสียดาย (อย่าลืมคู่หนุ่ย เกี๊ยง ด้วยนะคะ)

เป็นอีกเรื่องที่ฉีก ไปจากเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่านมา 

การดำเนินเรื่องที่สมจริงมาก ตัวละครก็น้อย 

และดำเนินเรื่องได้น่ารักมาก ๆ ผ่านตัวละคร ฝัน ใหญ่   o13

อ่านแล้วอบอุ่นจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้ o13


สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
Re: จดหมายจากเพื่อนรัก (15/02/10)
«ตอบ #564 เมื่อ15-02-2010 23:16:59 »

ที่จริงจบแล้วนะคะ แต่มีคนยังสงสัยว่าไม่จบ เลยเอามาให้อ่านต่ออีกนิดส์ :jul3:
*************************
“โหล ฝันทำอะไรอยู่วะ มากินข้าวกันหน่อยสิ” เสียงไอ้หนุ่ยที่โทรหาผมฟังแล้วรู้เลยว่ามันกังวลผิดปกติ แต่ก่อนมันไม่เคยมีช่วงเวลาแห่งความเครียดให้ผมเห็นเลยสักครั้ง ทำเอาผมต้องตั้งใจฟังมันพูดหน่อย
“กูกำลังยุ่ง เก็บข้าวของอยู่”ช่วงนี้ผมกำลังจะย้ายบ้านครับ ทั้งผมและแม่เลยวุ่นกันทั้งวัน ทั้งๆที่ผมลาออกจากงานแล้ว มีเวลาว่างทั้งวันแต่ก็ยังเก็บของซะเหนื่อย
“มึงจะเก็บไปทำไมเดี๋ยวพี่สาวมึงก็มาอยู่แล้ว ใจคอมึงจะเอาข้าวของไปหมดเลยรึไงวะ” มันชอบรู้ดีไปหมดซะอย่างนี้ไอ้หนุ่ยเพื่อนผม

“ก็ของจำเป็นของกู กูก็ต้องเอาไปด้วยสิ แล้วของไหนกูไม่ใช้ก็ถือโอกาสเก็บทิ้งมั่ง ขายมั่ง บริจาคมั่ง กูเพิ่งรู้ว่ากูบ้าซื้อของมารกบ้านจริงๆว่ะ”
พี่ฝ้ายยอมย้ายมาอยู่เฝ้าบ้านให้แทนผมกับแม่ ที่ตกลงใจจะย้ายนิวาสฐานไปอยู่เชียงใหม่กันครับ ก็หลายปีนะครับกว่าผมจะเกลี้ยกล่อมแม่ได้ แต่ก็อาจเป็นเพราะแม่แก่ขึ้น อาการป่วยก็ทรงๆ ผมอยากให้แม่อยู่ที่อากาศดีกว่าอยู่ในเมือง ผมกับใหญ่ใช้เวลาหาที่ปลูกบ้านอยู่นานทีเดียว เพราะอยากได้บ้านที่มีบริเวณให้แม่ได้ปลูกต้นไม้  มีบรรยากาศที่ไม่ใช่เมืองจนเกินไป แต่ก็ไม่เปลี่ยวจนไม่ปลอดภัย

จะว่าน้องออมมีส่วนทำให้แม่อยากไปอยู่เชียงใหม่ก็เป็นได้ครับ เพราะสองปีแล้วพี่ฝ้ายก็ยังไม่มีทีท่าจะมีหลานมาให้แม่ แม่เลยรักหลานสำเร็จรูปที่ใหญ่มันยกให้แม่เป็นคุณย่า หรืออาจจะเป็นเพราะที่บ้านใหญ่มีแต่ผู้ชายน้องออมที่เป็นเด็กผู้หญิงก็อาจจะต้องการความอบอุ่นของเพศแม่ด้วย น้องออมเลยติดคุณย่าเสียยิ่งกว่าใคร ทุกครั้งที่น้องออม มากรุงเทพฯกับใหญ่ หรือผมขึ้นไปหาใหญ่แล้วพาแม่ไปด้วย สองคนย่าหลานจะมีเรื่องคุยกันไม่รู้จบ น้องออมก็โตขึ้นพอที่จะรู้เรื่องอะไรมากแล้ว แกเข้าใจอะไรง่ายกว่าที่พวกเราคิด สมกับเป็นเด็กสมัยใหม่จริงๆ อาจจะมีคำถามแปลกๆมาบ้างเช่น
“แล้วอย่างนี้หนูจะมีน้องได้มั้ย”
“ใครจะเป็นคุณพ่อ แล้วใครจะเป็นคุณแม่ของหนู”

ทุกคำถามล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกสมองประลองปัญญาว่าผมกับใหญ่จะตอบยังไง คำพูดของเราอาจจะเป็นสิ่งที่น้องออมจำไปพูดให้กับคนอื่น ดังนั้นเราจึงต้องคิดให้ดีก่อนพูดอะไรก็ตามกับหลาน แต่บางคำถามผมก็ไม่มีคำตอบจริงๆครับ

“อ้าว...ไปไหนแล้วกูยังคุยอยู่กับมึงนะทำไมเงียบๆไป”
“อยู่ๆ คิดอะไรเพลินไปหน่อย แหะๆ มึงมีอะไรก็ว่ามา” ผมลืมเรื่องที่มันชวนผมไปกินข้าวเสียสนิท
“กูชวนมึงมากินข้าวกับกู แค่เนี้ย ถือว่ากูเลี้ยงส่งมึงก็ได้”
“ถามจริงมึงมีปัญหาอะไรรึเปล่า” ปกติมันชวนผมไปกินเหล้า น้อยครั้งมากที่มันจะใช้คำว่ากินข้าวกับผม จนบางครั้งผมนึกว่ามันเป็นมนุษย์ที่ดำรงชีพด้วยเหล้าเสียอีก
“มี ถึงอยากคุยไง เจอกันที่ร้านต้นน้ำนะ ที่กูเคยเล่าให้มึงฟังว่าเงียบๆ บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มึงจำได้รึเปล่า”
“อืม จำได้ ที่มึงบอกว่าชอบพาหญิงมาหลอกที่นี่ใช่มะ หึหึ”
“เจี้ยแล้วมึง กูบอกพามาจีบ ไม่ได้พามาหลอก มึงอย่ามาหาบาปให้กู”
“เออๆ จีบก็จีบ แล้วเจอกัน หกโมงแล้วกันนะ” วางสายไปแล้วผมก็ใจหายเหมือนกัน ที่ต้องจากเพื่อนอย่างมันไป อีกนานกว่าเราจะได้เจอกันอีก ผมคงคิดถึงมันน่าดู อีกหน่อยเวลามีเรื่องอยากปรึกษามัน ผมก็ต้องใช้วิธีโทรศัพท์หามันอย่างเดียว วิธีเขียนจดหมายผมสงวนไว้ทำกับใหญ่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ร้านอาหารต้นน้ำที่เรานัดกัน เงียบสงบร่มรื่นอย่างที่หนุ่ยมันบอกครับ เหมาะแก่การซ่อนตัวของคู่รักจริงๆ ร้านจัดเป็นซุ้มๆโต๊ะใครโต๊ะมัน ปลูกดอกไม้เป็นหลังคาห้อยระย้าสีม่วงเป็นพวงสวยจนนั่งแล้วไม่อยากลุกไปไหน แต่ลำบากแค่ว่าเวลาจะเรียกขออะไรทีต้องใช้วิธีกดกริ่งเรียก ไอ้หนุ่ยไปถึงก่อนผมมันนั่งดื่มน้ำอัดลมรอผมอยู่ แค่นี้ก็แปลกมากแล้วครับ
“เฮ้ย มึงหนุ่ยจริงรึเปล่าวะ กูไม่ห้ามมึงหรอก ดื่มได้ กูจะได้ดื่มด้วยหึหึ” ผมตบไหล่ทักทายมันเบาๆ มันยักคิ้วให้
“ช่วงนี้กูไม่ดื่มเว้ย ต้องรักษาสติกันหน่อย” มันพูดแปลกๆอีกแล้วครับ ซึ่งผมไม่เข้าใจ
“ทำไม สติมึงป่วยหนักเหรอ ถึงต้องรักษากัน” ผมหัวเราะ มันก็หัวเราะ แต่หัวเราะแหะๆ
“สติกูมาๆหายๆ จิตหลุดๆตลอด ไม่รู้เป็นยังไง” มันถอนหายใจแล้วก็เอาเมนูมาดูอาหาร ผมเลยเอาเมนูมาพลิกๆดูบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะสั่งอะไรดี
“มึงสั่งอะไรไปรึยังล่ะ สั่งอะไรยำๆมาให้กูหน่อย อยากแดกเหล้าเลี้ยงส่งมึงหน่อยว่ะ” ไอ้หนุ่ยหัวเราะอีกครั้ง

“บ้าแล้วไอ้ฝัน มึงนะที่จะไปไม่ใช่กู แหมๆ พอจะไปหาแฟน ดีใจจนพูดมั่วเลยนะมึง”
“ใครว่า พอจะไปจากมึงกูดีใจจนพูดมั่วต่างหากล่ะ ฮ่าๆ” ไอ้หนุ่ยหน้ามุ่ยแล้วบ่นกับตัวเอง แต่ให้คนอื่นได้ยินด้วย
“มึงอย่าพูดเลย กูยิ่งกลุ้มๆอยู่ อีกหน่อยเวลากูอยากระบายจะคุยกับใครวะ มึงเล่นชิ่งไปมีความสุขซะไกล”
“นี่ มึงเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า กูไม่ใช่ส้วมให้มึงมาระบายนะเว้ย พูดดีๆหน่อยเพื่อน” ไอ้หนุ่ยมันยิ้มแล้วสั่งอาหารไป ไม่สนใจที่ผมโวย แต่มันก็ไม่ลืมสั่งยำสามกรอบมาให้ผม แล้วสั่งเบียร์มาดื่ม
“เบียร์เบาไปว่ะ ไม่เอาเหล้าเหรอ กูเลี้ยงนะ” หนุ่ยที่ไม่มีเหล้าในเส้นเลือดมันไม่สนุกครับ
“ไม่เอาว่ะ วันนี้อยากคุยดีๆ ไม่อยากคุยเมาๆ” ไอ้หนุ่ยขมวดคิ้วเครียดขึ้นมาได้อีก
“ตกลงมึงอยากคุยอะไรกันแน่ อย่าบอกนะว่าเกิดมาหลงรักกูเข้า พอกูจะไปเลยเสียดาย อกหัก หึหึ”

“ไอ้บ้า ถ้ารักมึง กูคงรักจนเลิกไปนานแล้ว หล่อก็ไม่หล่อ ปากก็แบบนี้ รับไม่ไหว” มันทำหน้าเหยียดหยามประณามผม แต่ผมกลับขำ
“รับไม่ไหวเลยเหรอ รู้ได้ไงว่ารับไม่ไหว เคยรับเหรอ” แค่นึกภาพตามผมก็ขำ แต่ไอ้หนุ่ยคงไม่เข้าใจ มันย่นหัวคิ้วแล้วถาม “รับอะไรวะ อธิบายหน่อยดิ๊”
“ไม่รู้ได้ยังไงวะเชยจริงๆ   ก็ผู้ชายที่เค้ามีอะไรกันจะมีฝ่ายรับฝ่ายรุกไง ต้องให้กูพูดทำไมวะนี่ มึงไปถามลุงกูเอาแล้วกัน”
“ลุงมึงรู้เหรอ ทำไมกูต้องไปถามลุงมึงด้วย” ผมหัวเราะ ผมไม่น่าไปเริ่มเรื่องเลย คราวนี้ไอ้หนุ่ยเลยงงหนักเข้าไปอีก
“ลุงกู ไม่ใช่ลุงมึง ลุงกูเกิ้ลไง เอ๊ไอ้นี่ต้องให้บอกให้ชัดหมดทุกอย่างเลยนะ”
ไอ้หนุ่ยนิ่งไปพักใหญ่เลยครับกว่ามันจะเข้าใจที่ผมพูด แล้วมันก็หัวเราะออกมาดังลั่น “โธ่เอ๊ย ไอ้ฝันมึงจะมุกก็ไม่บอกกู กูจะได้ฮา เจี้ยเอ๊ย ทำให้กูต้องปวดสมองอีกแล้ว เจอไอ้เกี๊ยงเข้าไปคนกูก็จะบ้าตายอยู่แล้ว มาเจอลูกพี่มันอีก เฮ้อ”

“ทำไมทนไอ้เกี๊ยงไม่ไหวแล้วเหรอ กูเตือนมึงมาตั้งแต่แรกแล้ว เป็นไงล่ะ ด่ามันทั้งวันล่ะสิ หึหึ แต่มันทำงานดีนะเว้ย นิสัยก็ใช้ได้ยกเว้นปากมันนี่แหละ หมอหมายังรักษาไม่ไหวเลย” นึกถึงน้องผมคนนี้แล้วก็อารมณ์ดีครับ อยู่กับมันก็สดใสดี ทำให้เราคึกคักได้ตลอด ถึงแม้จะไม่ได้เจอมันบ่อยแต่ผมก็รู้ว่าน้องเกี๊ยงยังติดต่องานกับไอ้หนุ่ยอยู่ เผลอๆมันจะเจอกันบ่อยกว่าผมเสียอีก
“ไอ้เรื่องงานกูยอมรับว่างานมันใช้ได้เลยล่ะ เรื่องปากหมากูก็พอไหว แต่เรื่อง...เรื่อง...เฮ้อ”ไอ้หนุ่ยถอนหายใจแรงๆออกมา แล้วก็ดื่มเบียร์ต่อ หยุดพูดไปเสียเฉยๆทำเอาผมค้าง
“เรื่องเฮ้อ อะไรวะ กูจะรู้เรื่องมั้ยมึง พูดภาษาคนหน่อยภาษาหมาแบบไอ้เกี๊ยงอย่าไปใช้ กูไม่เข้าใจ”
“กูถามมึงหน่อยสิ เกี๊ยงมันเป็นน้องสายรหัสมึงใช่มั้ย”

ผมพยักหน้า “ใช่มันเป็นน้องรหัสกูเอง สายตรงเลย” ไอ้หนุ่ยส่ายหน้าเหมือนไม่เชื่อที่ผมบอกมัน
“ทำไม เกี่ยวอะไรด้วย” นี่ขนาดยังไม่เมานะครับยังคุยกันไม่รู้เรื่องสักที ถ้าดื่มเหล้าไปมีหวังไม่ต้องรู้กันจนยันสว่างแน่ๆ
“ไม่ยักรู้ว่ามันมีถ่ายทอดกันทางสายรหัสด้วย”ไอ้หนุ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนเงยหน้ามามองผมแล้วบอกผมขึงขังว่า “มึงมันคุณยายวรนาถรึเปล่าวะ ถ่ายทอดเชื้อสายชายรักชายมาให้มัน มันเป็นทายาทมึงนี่เอง”   
ฟังมันพูดแล้วผมอยากจะขำนะครับ ทำไมผมจะจำไม่ได้ว่าคุณยายวรนาถอะไรนั่นมันมาจากละครที่สินจัยเล่นเป็นผีที่ถ่ายทอดเชื้อกันทางตะขาบ มีทายาทผีต่อไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังขำไม่ได้เพราะไม่เข้าใจว่าผมไปถ่ายทอดอะไรให้ใครกันแน่

“อย่ามาพูดจาบ้าๆ ดูละครมากไปรึมึง ไหนว่าไม่ดูไงดูแต่หนังเอวี แล้วมึงพูดอะไร กูไปมีทายาทอะไรที่ไหน”
“ก็น้องมึงไอ้เกี๊ยง มันมาจีบกูน่ะสิ มันบ้าไปแล้ว นึกว่ากูเป็นเพื่อนมึงแล้วจะชอบผู้ชายเหมือนมึง” พูดอย่างมีอารมณ์แล้วไอ้หนุ่ยก็ดื่มเบียร์ไปอีกอึกใหญ่ ทำเอาผมงงที่มันบอกว่าวันนี้มันจะรักษาสติ  แต่ผมฟังที่มันพูดไม่ทันหรือว่าผมฟังผิดไป ผมยังไม่ทันพูดอะไรมันก็พูดต่อ
“มันมาชอบกูได้ไงวะ กูแมนขนาดนี้ มันคิดยังไงแน่”

“มึงว่าอะไรนะ ไอ้เกี๊ยงชอบมึง กูฟังผิดรึเปล่า”ผมแทบสร่างเมา ไอ้หนุ่ยส่ายหน้า
“มึงฟังไม่ผิด มันจีบกูมาเป็นปีแล้วแต่กูไม่ได้เล่าให้มึงฟัง เห็นมึงมัวแต่วิ่งไปวิ่งมากรุงเทพเชียงใหม่ กูก็เหนื่อยแทนแล้ว ไม่อยากเอาเรื่องบ้าๆไปให้มึงปวดกบาล”
ผมยิ่งตาเหลือกกว่าเดิม นี่ผมพลาดข่าวอะไรแบบนี้ไปได้เป็นปีๆเลยเหรอ “เป็นปีๆมึงไม่มา
บอก แล้วตอนนี้มึงมาเล่าให้กูฟังทำไม เพื่ออะไรวะ” คราวนี้ไอ้หนุ่ยทำหน้าประหลาดยิ้มแหยๆให้ผม
“แต่ก่อนกูขำๆ มันจะพูดยังไง จะว่ายังไงกูก็นึกว่ามันพูดเล่น แต่ตอนนี้...”ไอ้หนุ่ยไม่พูดต่อ
“ตอนนี้ยังไง...”ผมแทบรอมันพูดต่อไม่ไหว ต่อมสอดรู้สอดเห็นถูกกระตุ้นมาโดยอัตโนมัติ

“ตอนนี้กูว่ามันเอาจริง มันรุกกูหนัก แล้วที่สำคัญ...” มันหยุดอีกครับ ทำอย่างกับจะให้ผมเติมคำในช่องว่างที่มันพูดคาๆค้างๆ แต่ผมจะไปรู้ได้ยังไง ในเมื่อผมเองก็ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้เลย
“แล้วที่สำคัญ...” ผมทวนคำพูดของไอ้หนุ่ยแล้วอ้าปากรอมันพูดต่อ ไอ้หนุ่ยเงยหน้าขึ้นมองผม
“ที่สำคัญ...กู...กู...เริ่มหวั่นไหว” ไอ้หนุ่ยกลืนน้ำลายเมื่อพูดจบ แต่ผมแทบพ่นเบียร์ในปากออกมา ฮ่าๆ  มันเหนือความคาดหมายครับ ไอ้หนุ่ยหวั่นไหวกับน้องเกี๊ยง มันแน่ไม่เบาครับน้องผม ผมภูมิใจในความเป็นมันจริงๆ
ผมสำลักเบียร์ต้องไออยู่พักใหญ่ จนไอ้หนุ่ยมันต้องมาลูบหลังให้
“เป็นไรมากมั้ย ทำไมสำลักได้วะ”
“กะ...กูตกใจนะสิ...มึงอะนะหวั่นไหวกับน้องกู” ไอ้หนุ่ยหน้างอใส่ผม
“มึงยอมรับแล้วสิว่ามันเป็นน้องมึง มิน่าแสบเหมือนมึงเลย”ไอ้หนุ่ยบ่นๆแต่ผมก็ดูออกว่ามันบ่นไปอย่างนั้นเอง

“มันทำยังไงมึงถึงหวั่นไหว ปกติมึงหวั่นไหวกับผู้ชายยากมากนี่หว่า ขนาดกูเร้าใจมึงขนาดนี้มึงยังผ่านเลย หึหึ”
ไอ้หนุ่ยหลับตาเหมือนใช้ความคิด แต่พอลืมตาขึ้นมันกลับส่ายหัว “กูไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้พอมันมาอยู่ใกล้ๆ กูก็ละสายตาไปจากมันไม่ได้ พอมันอยู่ไกล กูก็คิดถึงว่ามันทำอะไรอยู่ โอ๊ยยย....ปวดหัวโว้ยยย นี่กูเป็นอะไรกันแน่”
ผมหัวเราะที่มันคลั่งขนาดนี้อยากตอบว่า ‘มึงก็เป็นแบบกูไงไอ้โง่หนุ่ยเอ๊ย’ แต่ผมก็ไม่กล้าพูดแบบนั้น

“ใจเย็นๆมึง อย่าเพิ่งบ้าตอนนี้ให้กูไปเชียงใหม่ก่อน แล้วมึงจะคลั่งแค่ไหนก็ตามสบาย กูยังสงสัยอยู่ดี ไอ้เกี๊ยงมันขี้เล่นนะเว้ย มึงไม่นึกเหรอว่ามันแกล้งหลอกมึงเล่นๆขำๆ” ไอ้หนุ่ยส่ายหน้าอีก หน้านิ่วคิ้วขมวด
“มันจะเล่นอะไรเป็นปี แล้วไม่เฉลยสักทีวะ นี่มันไม่ใช่รายการล้อกันเล่นแบบในทีวีที่เค้าแอบถ่ายหรอกนะเว้ย นี่มันชีวิตจริงๆ มาล้อเล่นแบบนี้กูกระทืบตาย” ไอ้หนุ่ยดูเริ่มมีอารมณ์ครับ
“ตกลงมึงโกรธมันเหรอ ที่มึงหน้าดำหน้าแดงอยู่นี่”

“เปล่า กูโกรธตัวเองมากกว่าที่ไปบ้าตามมัน” ผมฟังแล้วก็หนักใจแทนมัน ตอนมันเลิกกับแฟนเก่คราวก่อนมันยังไม่แสดงออกมากขนาดนี้ ตอนนั้นยังดูชิวๆได้เลย
“มึงถามมันรึเปล่าว่ามันเป็นเกย์เหรอ นี่กูยังไม่รู้เลยนะว่ามันชอบผู้ชายด้วย” ผมสนิทกับมันนะครับ รู้จักมันตั้งแต่มันปีหนึ่ง รวมจำนวนปีที่คบกันมาก็ห้าหกปีแล้ว ผมยังไม่เคยเห็นมันไปชอบผู้ชายที่ไหนเลย 
“กูถามมันตั้งแต่แรกๆเลยที่มันมาบอกว่าชอบกู กูถามมันแบบกวนๆ มันก็ตอบกูมากวนๆ”
“มันกวนมาว่าไงล่ะ” ไม่กวนก็ไม่ใช่น้องสายผมแล้ว

“มันบอกว่าแต่ก่อนมันไม่ใช่  แต่ตอนนี้มันใช่ มันบอกว่ามันคงเป็นไบ ก็อีตอนมาเจอกูนี่ล่ะ เฮ้อ...กูควรภูมิใจมั้ยวะฝัน” ไอ้หนุ่ยมันถอนหายใจอย่างแรง ซ้ำหลายๆที จนผมกลัวลมหายใจจะหมดจากตัวมันไปก่อน
“มึงจะถอนหายใจไปทำไมมากมายวะ กูเริ่มเครียดแทนมึงแล้วนะนี่” ไอ้หนุ่ยมองผมตาละห้อย
“ก็กูคิดไม่ตก จะชอบมันกูก็ไม่อยากเป็นเกย์ จะไม่ชอบกูก็...เฮ้อ...กูไม่รู้เว้ย” ไอ้หนุ่ยมันเอามือเกาหัวทั้งสองข้างจนผมยุ่งไปหมดอย่างกับคนบ้าเลยครับ ผมมองแล้วก็ขำ สงสารก็สงสาร แต่ก็จนปัญญาจริงๆครับ
“เออ มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้มั้ย ไอ้บ้าหนุ่ย”
*************************
ให้พอหายคิดถึงพี่หนุ่ยค่ะ :laugh:
 

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
Re: จดหมายจากเพื่อนรัก (15/02/10)
«ตอบ #565 เมื่อ15-02-2010 23:31:25 »

^
^
+ 1  :z2:

-----------

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด พี่หนุ่ย X น้องเกี๊ยง 

ในที่สุดก็มีวันนี้  :mc4:

น้องเกี๊ยงจีบเฮียหนุ่ยเองเลยเหรอเนี่ย แอร๊ยยยยยย เปรี้ยวมากกกกกก 5555

พี่หนุ่ยขา รับ ๆ เป็นแฟนน้องไปเถอะเครียดมาก แก่่ไวนาาาาาาา

ดูก็รู้ว่ามีใจให้น้องมันแล้ว  อย่ากลัวอยู่เลย เป็นเกย์ไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิดยอมรับใจตัวเองซะ  แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขอยู่ตรงหน้า  เลิกเครียด ๆ  :haun4: :oo1: 

มัวแต่ยังคิดไม่ตก น้องมันถอดไปก่อนนะเฟ้ยยยยยย    :z2:

ฝันก็จะย้ายที่อยู่แล้ว หุหุ  แฮปปี้เป็นที่สุด  ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันซักที

รอตอนต่อไปจ้า  มาไว ๆ นะ 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2010 13:07:02 โดย Ak@tsuKII »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: จดหมายจากเพื่อนรัก (15/02/10)
«ตอบ #566 เมื่อ15-02-2010 23:40:49 »

 :o8: เจ้าเกี๊ยงจีบแบบปากหมาแต่เอาจริงชิมิ
ทำผู้เฒ่า เอ้ยผู้ใหญ่เข้าหวั่นไหวแล้วนี่มารับผิดชอบกันนะเว้ย
อิพี่หนุ่ยมันแค่กัวแล้วก็ไม่กล้ายอมรับเท่าันั้นและ กัวแค่สิ่งที่สังคมมันกำหนดกรอบไว้
ไอ่ที่เรียกๆนี่คือเกย์.....เหอะๆ แล้วงี้ถ้าไม่อยากเป็นก็ไม่รับ แต่ใจมันหวั่นไหวอ่ะนะ
ทึ้งหัวจนเกรียนก็คิดมะตกของพี่หนุ่มเอ้ย แค่ถามตัวเองลึกๆก็พอว่าถ้ายอมรับรึป่าวแค่นั้น

+1 คะอย่าค้างจิคนกำลังมันส์ :z3:

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
Re: จดหมายจากเพื่อนรัก (15/02/10)
«ตอบ #567 เมื่อ15-02-2010 23:46:10 »

ฮิ๊ววววววว...... :-[


ในที่สุด ในมี่สุด ก็สำเร็จนะพี่ฝันกับพี่ใหญ่

เเต่จบเเบบนี้ มีค้างนะครับพี่หนุ่ยกะเกี๊ยงเนี่ย  :o8:


ปล. + 1 ให้กับตอนต่อไปเเบบ "ไม่ค้าง"  :haun4:

morrian

  • บุคคลทั่วไป
Re: จดหมายจากเพื่อนรัก (15/02/10)
«ตอบ #568 เมื่อ15-02-2010 23:55:43 »

 o22 เชียร์ขึ้นด้วยจริงๆคู่นี้

โฮะๆๆ พี่หนุ่ยกะน้องเกี้ยง

ว่าแต่ว่า หน้าตาน้องเกี้ยงเป็นไงนะ ลืมไปแล้วอ่า :confuse:

หนุ่ยเอ๋ย  งานนี้เสร็จน้องเกี้ยงแน่ๆ  :laugh:

รออ่านตอนต่อๆไปนะค้าบบ

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
Re: จดหมายจากเพื่อนรัก (15/02/10)
«ตอบ #569 เมื่อ15-02-2010 23:59:25 »

น่านนน ให้มันได้งี้เซ่  :laugh:
ในที่สุด หนุ่ยxเกี๊ยง

+1ซะกะหน่อย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด