เพิ่งสังเกตว่าคราวที่แล้วตัวเองลืมเปลี่ยนหัวตอน เอิ๊ก = ="
live in hong kong 3
"ที่นี่คือที่พักของพวกคุณในคืนนี้นะคะ วันพรุ่งนี้ดิฉันจะพาคุณเดินทางสู่ฮ่องกงเพื่อไปดูงาน ในช่วงนี้ก็สามารถเที่ยวเล่นได้ตามสบายเลย
นะคะ หากมีอะไรก็สามารถโทรศัพท์เรียกดิฉันได้ค่ะ"
เจ้าหน้าที่สาวคนนั้นพูดเมื่อนำผมมายังโรงแรมที่พักเป็นที่เรียบร้อย นั่นคือโรงแรม Taipa ในมาเก๊านั่นเอง
"โทรศัพท์งั้นหรอครับ แต่พวกผมไม่มี"
"เรื่องเครื่องมือสี่อสารดิฉันได้ฝากไว้กับคุณพาวินเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ"
ผมหันไปมองไอพา ซึ่งในมือมีมือถืออยู่ มันแกว่งมือถือเล่นอย่างสบายอารมณ์ กวนส้นเป็นที่สุด
"ไม่บอกกุก่อนวะ"
"มึงไม่ได้ถาม"
"ถ้าอย่างงั้น ดิฉันคงต้องขอตัวนะคะ"
"ครับผมสวัสดีครับ" ไอพาชิงตอบ เธอจึงโค้งหัวให้แล้วเดินออกไปจากห้องพัก
"งั้นวันนี้เราก็ว่างอะดิ?"
"อือ ไปเที่ยวกันปะ?"
"มึงจะไปไหนอ่ะ"
"ก้อเรื่อยๆ ไปหาข้าวกินกันก่อนละกัน"
"กูไม่รู้ทางนะบอกไว้ก่อน"
"เออเดี๋ยวกูนำเองน่ะ กูเคยมาอยู่"
"เออใช่สิไอ้คนรวย" ผมกัดมัน มันยิ้มกวนส้นให้อีกครั้ง
"รวยไม่รวยก้อมาเที่ยวได้ละกัน"
เวรรรรร=*=
แล้วไอพากะผมก็ออกมาจากโรงแรมกัน เมืองมาเก๊าตอนกลางคืนนิเงียบมาก
อากาศดีกว่าที่กรุงเทพเยอะ ลมเย็นๆพัดตลอดเวลา มีสวนสาธารณะเล็กตามที่ต่างๆด้วย
"เดินดูวิวอย่าลืมดูทางด้วยน่ะ" ไอพาแขวะผมที่มองโน่นนี่อย่างตื่นตาตื่นใจ
"เออ รู้แล้ว ว่าแต่จะไปไหนเนี่ย"
"ไปกินข้าว ที่ฟูดสตรีท"
"..."ผมทำหน้างงใส่มัน มันก็หันมามองผมยิ้มๆ
แล้วมันก็พาผมไปที่ถนนสายหนึ่ง เป็นถนนสายเล็กๆบรรยากาศดูอบอุ่นดี มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด คนก็ค่อนข้างคึกคักกว่าที่อื่นๆ นี่
ละมั้งที่ๆมันพูดถึง เราก็เดินตามทางกันไปเรื่อยๆ จนไปหยุดที่ร้านหนึ่ง ผมอ่านชื่อร้านไม่ออก(แหงดิก็ภาษาจีน) แต่ดูแล้วอาหารก็น่ากินดี
ไอพาเดินเข้าไปพร้อมลากผมให้ตามไปด้วย เจ้าของร้านก็ให้เราเข้าไปนั่ง แล้วก็มีพนักงาน "โยน" เมนูมาให้
"..."ผมมองอย่างอึ้งๆตรงข้ามกับไอพาที่ดูมันไม่แปลกใจเท่าไหร่ ก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมาอ่าน
"อยากกินอะไร" มันถามผม
"ถ้ากูบอกอยากกินหมูน้ำตกมันจะมีให้กูมั้ย?" ผมถามกวนๆ มันหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่
"ถ้ามึงอยากกิน "น้ำตก" รอให้กลับโรงแรมก่อนมั้ยล่ะ? เดี๋ยวกูจัดให้" มันพูด
ผมไม่ค่อยเข้าใจมุขมันเท่าไหร่ แต่ดูจากนิสัยหื่นๆของมันก็คงไม่วายเป็นไอ้อะไรซักอย่างทำนองนั้น ผมเลยส่ายหน้าพรืดเลยทีเดียว มันก็
หัวเราะ แล้วยื่นเมนูอีกอันให้
"อันนี้มันเป็นรูปอ่ะ ลองดูละกันแล้วบอกกู"
ผมก็ดูไปเรื่อยๆ มีของหน้ากินหลายอย่างเลยทีเดียว มีปลานึ่ง ข้าวราดเนื้อกับไข่(ที่หน้าตาเหมือนน้ำราดหน้า) บะหมี่เส้นเล็ก ข้าวผัด เยอะ
แยะไปหมด
"กูอยากกินอันนี้" ผมว่าแล้วชี้ไปที่รูปข้าวหน้าราดหน้า(ผมเรียกงี้ ก็มันเหมือนจริงๆ) ทะเล
"อืมๆ" มันพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจเรียกพนักงานมาสั่ง พอสั่งเรียบร้อยแล้ว(ผมพบว่าพนักงานที่นี่พูดอังกฤษไม่ค่อยเป็น) เขาก็เดินหาย
ไป สักพักกลับมาพร้อมอุปกรณ์การกินได้แก่ จาน ตะเกียบ ช้อน แก้วชา และกาน้ำชา ก่อนจะวางทุกสิ่งอย่างลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง
กระแทกกระทั้น
ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย เหมือนไม่เต็มใจจะให้เากินอย่างงั้นแหละ
"ไอพา"
"หืม?"
"ทำไมคนที่นี่แม่งรุนแรงจังวะ"
"ยังไง?"
"ก้อ วางของที อะไรที แม่งทำเหมือนไม่ค่อยพอใจลูกค้าเลยว่ะ"
มันก็ยิ้มให้ผมแบบเอ็นดูปนขำ
"มึงจะขำกูบ่อยไปแล้วน่ะ" ผมบ่นอุบ
"ที่นี่เขาก็เป็นงี้แหละมึง อย่าไปคิดมาก ตอนแรกๆกูก็ไม่ชอบ หลังๆมากะม๊าบ่อยๆเลยชินว่ะ"
"มึงมาเที่ยวกะม้าหรอวะ"
"ไอห่า แม่กูอย่าเล่น"
ผมหัวเราะคิกคัก เลยโดนมันบีบจมูกเข้าให้
"ไอ้เวร บีบทำไม หายใจไม่ออก" ผมด่ามัน
"ไม่ดีเหรอ จะได้มีดั้ง"
= =*
แต่ผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรต่อ เพราะว่าพนักงานกำลังภายในคนนั้นก็มาพร้อมอาหารที่สั่งไปก่อนจะแจกให้อย่างหนังกำลังภายใน รุนแรง
มาก ขั้นกระฉอกเลยทีเดียว = ="
"ปะ กินกันได้ละ ไอหมาน่อย"
"..."ผมแง่งใส่มันไป ก่อนจะลงมือกินข้าว
โห ไม่เคยนึกมาก่อน ว่าเอาราดหน้ามาราดข้าวแล้วมันจะอร่อยได้
"แปลกจริงๆ" ผมพึมพำ
"อร่อยอะดิ"
"กินของมึงหน่อยดิ"
"เอาดิ"
มันว่าแล้วดันจานบะหมี่แห้งมันมาให้ ผมก็กินดู
"เส้นมันแข็งจังวะ"
"สไตล์จีนๆ"
"เหอๆ ของกูอร่อยกว่าว่ะ" ผมว่าแล้วก็กินข้าวหน้าราดหน้าต่อ
เส็ดละก้อเก็บตังกัน ผมกะมันช่วยกันออกคนครึ่ง(ทุนมันให้พอกเกตมันนี่ด้วยอนะ)
จริงๆมันก็จะออกให้ผมอีกนั่นแหละ แต่ผมรู้สึกไม่ดี เลยขอมันช่วยออกครึ่งนึง
"อย่ามาบ่นว่าเงินหมดทีหลังนะ" มันว่า
"เออ แน่นอน"
แล้วพวกผมก็ออกมาเดินถนนกันต่อ โดยที่เดินเล่นไปเรื่อยพลางถ่ายรูปไปด้วย
"เอากล้องมา เดี๋ยวกูถ่ายมึงให้" ไอพาพูด
ผมยื่นกล้องให้มัน มันก็ถ่ายรูปผมให้ เดินไปเรื่อย ถ่ายไปด้วย
เหมือนเป็นนายแบบเลยวุ้ย
แล้วเราก็เดินไปถึงที่ๆมีคนเยอะขึ้น มีวิหารอะไรแปลกๆด้วย สวยดี
"ไอพา มาถ่ายรูปด้วยกัน" ผมว่า แล้วก็เดินไปขอให้คนแถวนั้นถ่ายให้
แล้วผมก็ถ่ายlandscape แถวๆนั้นต่ออีกนิดหน่อย
"ถ่ายรูปเส็ดยัง"
"อือ"
"ไปกันต่อเหอะ ใกล้ถึงที่ๆจะไปละ"
"มึงจะพากูไปไหนหรอ?"
"ไป venetian กัน"
"หะ?"
"คาสิโนเวนิสน่ะ เป็นที่เที่ยวอย่างนึง"
"มาวันแรกจะเข้าคาสิโนเลยหรอมึง" ผมพูดแล้วมองหน้ามันแหยงๆ
"บ้า มันก็มีอย่างอื่นให้เที่ยวน่ะ เหมือนได้ไปเมืองเวนิสเชียวนะจะบอกให้" มันโม้
ผมก็ตามมันไป แม้จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
"ไอ้พา อีกนานมั้ยว่ะกว่ามันจะถึงเนี่ย" หลังจากเดินขาลากมานาน ผมก็ถามไอพาที่ดูท่าที่ไม่เหนื่อยเลย
"จะถึงแล้ว ข้างหน้าเนี่ยเอง มึงเห็นปะ" มันว่าแล้วชี้ให้ดู
ข้างหน้าเป็นอาคารทรงสูงสีทองตั้งตระหง่าน ไฟที่เปิดทั่วอาคารทำให้มันเหมือนกับแท่งทองคำขนาดยักษ์ยังไงอย่างงั้น ผมมองแล้วก็รู้สึก
ตื่นเต้นกับความอลังการ
"แม่งแท่งทองยักษ์..."
"เดี๋ยวเข้าไปแล้วมึงจะยิ่งอึ้ง"
แล้วก็เป็นตามที่มันบอกไว้ พอเข้าไปข้างใน มันเหมือนกับราชวังยุโรปในหนังยังไงอย่างงั้น แล้วพอเดินไปเรื่อยๆ ก็เจอกับคาสิโนขนาด
ใหญ่ในชั้นที่หนึ่ง แล้วเดินไปอีกก็เจอโรงหนัง(หรือโรงละคร) ขนาดยักษ์ แต่ละอย่างในนี้นิอย่างบิ๊กทั้งนั้นเลย
เมื่อเดินมาถึงโถงกลางของชั้นที่หนึ่ง ก็เจอบันไดขนาดใหญ่สุดอลังการ(เคยเห็นหนังอังกฤษโบราณเวลาเขาเข้าไปในปราสาทของพวกพระ
ราชามะ ประมาณนั้น)
"ต้องเดินขึ้นหรอวะ แม่งโคดยาว" ผมครางง
"เออ ค่อยๆเดินน่ะ เดี๋ยวก็ถึงเอง"
ผมก็จำยอมต้องเดินขาลากไปจนถึงชั้นบน
"ไปเมืองเวนิสกัน"ไอพาพูด
เออแม่ง มึงพากูมานี่ทำกูช๊อคไปหลายรอบแล้ว นี่ยังมีอะไรมากกว่านี้อีกเรอะ
คำตอบมาถึงเมื่อผมมาถึงสถานที่ๆไอพาเรียกว่า "เมืองเวนิส"
ทั้งๆที่ตอนนี้ก็เป็นเวลาราวสามทุ่มครึ่ง ซึ่งก็มืดแล้ว ไหงในนี้มันเป็นบรรยากาศแบบกลางวันวะ?
เหมือนเขายกเมืองทั้งเมืองมาตั้งไว้ในนี้จริงๆ นี่ถ้าไม่ใช่ว่าผมผ่านไอบรรยากาศราชวังนั่นมาก่อน ผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่านี่ผมกำลังอยู่ในตึก
ไม่ใช่เมือง ถึงขนาดมีทางน้ำลอดอุโมงค์เลียนแบบเมืองแห่งน้ำเวนิสจริงๆเลยนะเนี่ย เหอๆ
หลังจากเดินเที่ยวอยู่นาน(ไม่ได้ซื้ออะไรซักกะอย่าง ของที่กทมอย่างแพงเป็นหลักพันผมก็ไม่ซื้อแล้ว นี่มาเจอหลักหมื่นหลักแสน...) ก็ได้
เวลากลับไปยังที่พักของตัวเองซักที ซึ่งกว่าผมกะไอพาจะหาทางออกมาได้ก็เล่นเอาเกือบเป็นชั่วโมง(กว้างพระเจ้าสร้างแม่ง) ถึงโรงแรมก็
ราวตีหนึ่งพอดี
"กูเหนื่อยยยยยยย" ผมโวยเมื่อมาถึงห้องพลางล้มลงบนเตียงนอน
"เออนะ เพิ่งเคยเดินนานขนาดนี้ครั้งแรกดิเนี่ย" ไอพาพูดขณะที่กำลังถอดเสื้อกันหนาวแขวนไว้กับตู้
"อือเดะ กู-ไม่เคยทรมาณสังขารตัวเองมากขนาดนี้มาก่อน" ผมบ่นเสียงอู้อี้
"ยังไงก็ช่างมึงไปอาบน้ำก่อนป่ะ แล้วนอนเลย พรุ่งนี้เข้าฮ่องกงอีก"
"อือๆ แล้วมึงอ่ะ" ผมหันไปหาไอพาที่นั่งบนเก้าอี้แล้วเปิดทีวี
"ก็รอดิวะถามง่าวๆ หรือมึงอยากให้กูอาบด้วย"
"ไม่ๆๆๆๆๆ กูจะรีบอาบ" ผมว่าพลางส่ายหน้าพรืดเมื่อเห็นไอพาแสยะยิ้มให้ เล่นเอาไอพาหัวเราะดังลั่นเลยทีเดียว
ห้องน้ำที่นี่ก็อลังการเหลือเกิน ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาก็มีแต่อะไรอลังการเต็มไปหมดเลยแฮะ... นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องรีบไปแต่เช้า ผมกะว่าจะแอบ
เดินไปเที่ยวคาสิโนนะเนี่ย อิอิ
แล้วคืนนั้นเราก็พักผ่อนเต็มที่ เพื่อเตรียมเดินทางเข้าสู่ฮ่องกงในวันต่อไป
to be continue
ยังเจ็บปากไม่หายเลย ยังไม่หายบวมด้วย ฮือ ทรมาณมากมาย
ทำไมคนเราต้องผ่าฟันคุดด้วยฟระเนี่ย
ไอพา: มึงเสือกไม่ยอมผ่าตอนม.ปลายเอง
เออน่ะ ก้อกลัวเจ็บนิ
ไปละค้าบแล้วเจอกันจ้า