คิดถึงจัง.... คิดถึงผมบ้างหรือเปล่าคร้บ คนดี
..........................................................................
ตอนที่ 9 กูเพื่อนมึงนะ ชล (1)ผมนั่งรถมาถึงที่ร้าน เกือบสองทุ่ม... หวัดดีพี่ปิ๊ก กับพี่รัตน์เสร็จ ก็จะออกไปกินข้าว เหลียวหน้ามา ก็เห็นไอ้ชลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว... ผมพยักหน้าให้มันนิดนึง มันก็เดินตามผมออกมาเป็นปกติ
“เมื่อคืน มึงไปเที่ยวหรือเปล่า” ไอ้ชลมันถามผมเป็นคำแรก เมื่อออกจากประตูร้านมาแล้ว
“ไป... ทำไมเหรอ”
“อ้าว... แล้วมึงกลับกี่โมง ทำไมไม่มานอนห้องกู... กูรอมึงอยู่ มึงไม่ได้กลับพร้อมพวกไอ้แอ๊ดเหรอ”
“เปล่า... กูแยกออกมาก่อน...” ผมบอกมัน แต่ไม่ได้เล่าเรื่องน้องแจงให้มันฟัง เพราะ คิดว่าไม่จำเป็น
เราเดินไปที่ร้านอาหาร... พวกไอ้แอ๊ดกับเด็กที่ไปด้วยเมื่อคืน นั่งกินอยู่ก่อนแล้ว...
“เฮ้ย... ดิน... เป็นไงวะ...น้องนั่น กูเห็นกอดมึงแน่นเลย ตอนมึงพาออกไปน่ะ” ไอ้แอ๊ดตะโกนถามอย่างคะนองปาก
ผมยิ้มๆ ไม่ตอบ เพราะไม่รู้จะเอามาเล่าทำไม... มันก็รู้ๆ กันอยู่ ผู้หญิงเมากับผู้ชาย นั่งรถออกไปด้วยกันอย่างนั้น อะไรจะเหลือล่ะครับ
“อะไรวะ... ดิน... ที่ไอ้แอ๊ดมันพูด” ไอ้ชลมันหันมามองหน้าผม แต่ผมไม่ทันจะพูดอะไร ไอ้แอ๊ดมันก็เล่าให้เพื่อนๆ ที่มากินข้าวกับมันฟัง เสียงดังลั่นออกมาก่อนโดยผมไม่ต้องอธิบายอะไร
“แม่ง เมื่อคืน... ไอ้ดินมันสีหญิงติดว่ะ น่ารักด้วยนะว๊อย... แม่ง...ตอนเดินออกไปกอดไอ้ดินแน่นเลย... กูว่าป่านนี้ไม่รู้จะจำซอยเข้าบ้านได้หรือยัง เมื่อคืนเจอไอ้ดินเข้าไป มีหวัง...”
มันทำท่า เอานิ้วปาดคอตัวเอง ก่อนจะหันไปหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่ผมยิ้มเฉยๆ ไม่ต่อความยาวสาวความยืด เพราะ พูดไปก็เข้าเนื้อผมเอง... แต่คนที่นั่งตรงหน้าผมสิ... ไอ้ชล... มันกลับหน้าซีด...สลับแดงก่ำ...เงียบลงอย่างน่าแปลกใจ
ปรกติเวลานั่งกินข้าวด้วยกัน... เราจะรอเข้าไปที่ร้านพร้อมกัน แต่วันนี้ไอ้ชลมันเพิ่งกินไปนิดเดียวยังไม่ถึงครึ่งจานด้วยซ้ำ จู่ๆ มันก็ลุกขึ้น เอาเงินวางไว้ที่โต๊ะ...
“กูไปที่ร้านก่อนนะ” มันบอกพร้อมกับเดินกลับไปที่ร้านคนเดียว
ผมมองตามมันไปอย่างงงๆ ...มันเป็นอะไรไปวะ เมื่อกี้เดินมาด้วยกัน ก็ยังดีๆ อยู่นี่หว่า...
นั่งกินข้าวต่อจนอิ่ม ผมก็เดินกลับไปที่ร้านพร้อมกับพวกไอ้แอ๊ด... ไปถึงก็เห็นไอ้ชลมันนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าร้าน กับพวกเพื่อนๆ... เฮ้ย... ปกติ ไอ้ชลมันไม่สูบบุหรี่นี่หว่า...
พอผมเดินเข้าไปรวมกลุ่ม... มันก็ปาบุหรี่ลงกับพื้น แล้วเอารองเท้าขยี้ ก่อนจะเดินเข้าร้านไป ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ
“ไอ้ชลมันเป็นอะไรวะ...” ไอ้แอ๊ดที่เดินมาด้วยกัน ถามผมซึ่งก็ได้แต่ส่ายหน้า...ไม่รู้เหมือนกันโว้ย...
เดินเข้าไปในร้าน เห็นไอ้ชลมันนั่งอยู่ที่สตูลหน้า เคาน์เตอร์คุยอยู่กับเจ๊รัตน์ และพี่ป้อม บาร์เทนเดอร์ ผมเลยเดินเข้าไปยืนข้างหลัง ยกมือไหว้พี่ป้อม ที่สนิทกับผมเหมือนผมเป็นน้องชายแก ก่อนจะเอามือพาดไหล่มันตามความเคยชิน
“ไง... ไอ้เสือ... ได้ข่าวว่าเมื่อคืนพาหญิงไปฟันมาเรอะ” พี่ป้อมตั้งคำถามพอเห็นหน้า
“นิดหน่อยพี่... น้องเค้าสมยอม” ผมตอบพี่ป้อมยิ้มๆ แต่ไอ้ชลหันมามองผมตาขวาง ไม่พูดอะไร
“แล้วไง ป่านนี้ไม่ตาลอยไปแล้วเหรอ โดนเข้าไปขนาดนั้น” พี่ป้อมบ่นพึมพำ... “น้องกูนี่น๊า... เสน่ห์แรงเหลือเกิน” พลางถอนหายใจ แต่เจ๊รัตน์หันมาแหวใส่
“มันน่าภูมิใจตรงไหนยะ...”
ผมกับพี่ป้อมได้แต่ยิ้มๆ มองหน้ากันไปมา ด้วยความเข้าใจตามประสาลูกผู้ชายเหมือนๆ กัน ขณะที่เจ๊รัตน์ทำตาค้อนประหลับประเหลือก
ส่วนไอ้ชลไม่พูดอะไร ลุกจากสตูลตัวที่นั่งอยู่ ยกแขนผมออกจากใหล่มัน หมุนตัวเดินออกไปเฉยๆ...
ผมคุยกับพี่ป้อมพี่รัตน์อยู่อีกครู่นึง ก็เดินออกมา เห็นไอ้ชลนั่งอยู่ที่เก้าอี้สตูติดฝาผนัง มีที่ว่างอยู่อีกตัว ผมเลยเดินไปนั่งข้างๆ มัน... กำลังจะอ้าปากถามว่า มันเป็นอะไร มันก็ลุกเดินออกไปเลย .... แมร่ง... เป็นอะไรวะ...
ผมนั่งมองตามหลังไอ้ชลที่มันเดินออกไปอย่างไม่เข้าใจ... มรึงเป็นอะไรของมรึง... ผมคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าผมไปทำอะไรให้มันโกรธ... ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืนที่ผมไปเที่ยวกับพวกไอ้แอ๊ดและมันไม่ได้ไปเที่ยวพร้อมผม... ก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกรธ เพราะมันไปกับลูกค้านี่หว่า...
หรือจะเป็นเรื่องน้องแจง... เฮ้ย... แล้วมันมาเกี่ยวอะไรด้วยอ่ะ... ไม่ม๊าง... คงเรื่องอื่น... ผมคิดแค่นั้น แล้วก็ไม่ได้สนใจที่จะเดินตามมันไปอีก... ให้มันอยู่ของมันไปพักนึงก่อน... เด๋วมันหายแล้วก็คงดีเองแหละ...ช่างแมร่ง...
สามทุ่มกว่า... ลูกค้าเริ่มเข้าร้าน...
ผมก็เป็นคนแรกๆ อีกเหมือนกันที่โดนเรียกไปนั่งกับลูกค้า แต่ลูกค้าของผมวันนี้ เป็นลูกค้าประจำ... เคยอ๊อฟไอ้ชลไปหลายครั้งเหมือนกัน... แต่ไม่เคยเอาผมไปด้วย... วันนี้นึกยังไงไม่รู้... สงสัยอยากลองของแปลก... หุ หุ
ผมกับลูกค้านั่งดื่มเหล้าคุยกันไป เรื่อยๆ ไม่รีบไม่ร้อน เพราะพี่ภพแกชอบแบบนั้น คือนั่งกินเหล้าไปเรื่อยๆ จนเที่ยงคืนกว่า ค่อยพาเด็กกลับไปที่บ้าน
มีคนขึ้นไปร้องเพลง สองสามคน แล้วก็มีคนเรียกให้ไอ้ชลขึ้นไปร้อง... ปรกติจะมีแต่ลูกค้าเท่านั้นที่ร้องเพลงผู้หญิงเช่นพวกเพลงของพุ่มพวง อะไรประมาณนี้ ส่วนเด็กในร้านก็จะร้องเพลงผู้ชายๆ รวมทั้งไอ้ชลด้วย... แต่วันนี้มันมาแปลก พอจบเพลงแรก มันก็หันไปซุบซิบอะไรกับพี่หน่องนักดนตรี ครู่นึงพี่หน่องก็พยักหน้า... แล้วก็ขึ้นเพลง...
“โห่ฮิ้วโห่ ฟังเสียงคนโห่ไกลๆ จากเครื่องไฟของคนบ้านใต้ แต่งกัน เจ้าสาวคือเพื่อนเราหนอ เจ้าบ่าวรูปหล่อนั้นเคยเป็นแฟนฉัน....”ครับ มันร้องเพลง “นอนฟังเครื่องไฟ” ของพุ่มพวง ด้วย แต่เสียงมันทุ้มๆ เลยดูไม่น่าเกลียดเท่าไรนัก ผมหันไปมองพี่ภพ แกนั่งหัวเราะหึๆ... สายตาประหลาด
“ชลมันร้องเพลงล้อเรารึเปล่าวะ ดิน...”
ผมส่ายหน้า ยิ้มๆ “ไม่มั๊งครับ...”
“.... เขาจูบกันแน่แล้ว... เขาหอมกันแน่แล้ว...”
มันร้องของมันไปจนจบ แล้วก็เดินลงจากเวทีผ่านโต๊ะที่ผมนั่งอยู่กับพี่ภพออกประตูร้านไปอย่างเฉยเมย ไม่หันมามองด้วยซ้ำไป... ‘มึงเป็นอะไรว๊า...ชล’ ผมมองตามหลังมันออกไปอย่างเป็นห่วง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี...
และผมก็ไม่เห็นไอ้ชลมันเดินเข้ามาอีกเลย ซึ่งปรกติมันก็จะนั่งอยู่ที่สตูลติดฝาผนังด้านนึง หรือไม่ก็ไปนั่งคุยกับพี่รัตน์แถวเคาเตอร์...
จนพี่ภพเรียกเก็บเงิน แล้วพาผมออกไปด้วย ตอนเปิดประตูเดินออกไป ผมมองไปทั่วหน้าร้าน ก็เห็นไอ้ชลแว๊บๆ หลบอยู่ข้างมุมตึก ที่เป็นซอยทะลุออกไปอีกทาง... พอมันเห็นผม ก็หลบวูบ... อะไรวะ....
ถึงผมจะบอกกับตัวเองว่า “ช่างมัน” เพราะผมก็ยังมองไม่เห็นอยู่ดีว่า ผมไปทำอะไรให้มันโกรธ... แต่กริยาอาการที่มันแสดงออกมา... มันโกรธผมจริงๆ โกรธคนเดียวด้วย เพราะที่มันยืนคุยอยู่ตรงนั้น ก็มีไอ้แอ๊ด กับเพื่อนที่ออกไปด้วยกันเมื่อคืนด้วย...ซึ่ง มันก็คุยกันดีนี่นา... แล้วกรูไปทำอะไรให้มึงวะ ชล.....
แต่ผมก็ต้องทิ้งความไม่เข้าใจไว้ที่ร้านแค่นั้น เพราะเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็คือ พี่ภพ... ที่ผมจะต้องทำให้แกมีความสุขในคืนนี้... ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมนัก... เพราะ ด้วยความที่แกค่อนข้างเมาด้วย... เจอผมเอา “กระดอฝังมุก” อัดเข้าบั้นท้ายไปทีเดียว พี่ภพก็ร้องอู้... พอผมขยับเอวกระเด้าแกก็ครางออกมาแล้ว ไม่กี่ที พี่ภพก็ซี๊ดปากด้วยความเสียว น้ำแตกโดยที่ไม่ต้องชักว่าวเลย... แล้วแกก็นอนกอดผมหลับไป หลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย เสร็จเรียบร้อย...
.....................................................
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมสอบเสร็จแล้ว แต่น้องษากำลังเตรียมตัวจะสอบเอ็นทรานส์ ทำให้ไม่มีเวลามาหาผมนัก เลยทำให้ผมเข้ามาทำงานได้เกือบทุกวัน...
วันรุ่งขึ้น ผมเดินเข้าร้านมาตอนเกือบสองทุ่มแล้ว หวัดดีพี่รัตน์ กับพี่ปิ๊ก แล้วผมก็จะหันไปหาไอ้ชลด้วยความเคยชิน แต่วันนี้มันไม่นั่งอยู่ที่เดิม... มันไปไหนวะ...
“ไอ้ชลยังไม่มาเหรอครับ พี่รัตน์”
“มาแล้วนี่... เมื่อกี้นี้ยังนั่งอยู่ตรงนั้นนะ ก่อนเราเข้ามาไม่นาน...” พี่รัตน์ชี้ที่เก้าอี้ตัวเดิม
“มันออกไปกินข้าวแล้วมั๊ง ดิน...” พี่ป้อมบอก “เมื่อกี้เห็นไอ้แอ๊ดเข้าไปชวนนะ”
ผมพยักหน้าขอบคุณพี่ป้อม แล้วก็เลยเดินออกมาคนเดียว... ไปที่ร้านเจ้าประจำ ก็เห็นไอ้ตัวดี... นั่งกินข้าวคุยเล่นกับไอ้แอ๊ด กับเพื่อนคนอื่นๆ อยู่อย่างไม่มีทีท่าอะไรทั้งสิ้น
แต่พอผมเดินเข้าไป มันกลับเงียบ... นั่งกินข้าวจนหมดจาน แล้วลุกออกไปก่อนเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด....
“อะไรวะ” ไอ้แอ๊ดเองยังเกาหัวด้วยความงง... “มันเป็นอะไรไปอีกล่ะ... พอมึงเดินเข้ามา มันก็เงียบ แล้วก็เดินออกไปเลย...เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่นะ”
ผมส่ายหน้า.. “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน... แม่งเป็นตั้งแต่เมื่อคืน.... กระทั่งตอนนี้ กูก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม มันไม่พูดกะกู หรือมันโกรธกูเรื่องอะไร...” ผมบอกไอ้แอ๊ดตามตรง
..........................................................................
งงไหมครับ มันโกรธผมเรื่องอะไรเนี่ยะ....
เฮ้อ....
ใครช่วยบอกผมที ว่ามันทำไมไม่พูดกะผมอ่ะ... แล้วจะทำไงล่ะครับ
เพื่อนๆว่า ง้อมันดีป่ะ...
ดิน
(โพสเมื่อ 6 มิถุนายน 2552 คร๊าบ...)