คนอ่านใจร้าย เล่นโพสเรียกกันอย่างนี้... ไม่มาต่อได้ไงเนี่ยะ... เวงกำ ของไอ้ดิน
ตอนที่ 2 มันเป็นการทำงาน...นับตั้งแต่วันที่รู้จักกันวันแรก ไอ้ชลกับไอ้แอ๊ด ก็เป็นเพื่อนในร้านที่ผมสนิทด้วยมากที่สุด แต่เอาจริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรหรอกครับ เพราะจริงๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้ไปทุกวัน ที่ประจำๆ ก็เป็นคืนวันศุกร์ วันเสาร์... ส่วนวันธรรมดา ก็แล้วแต่...
ที่ร้านเจ๊ปิ๊ก เจ๊รัตน์ จะมีนักดนตรีมาเล่นอีเล็คโทน ตั้งแต่ สามทุ่มครึ่ง ถึงประมาณ เที่ยงคืนครึ่ง (คนเก่าๆ รู้แล้วสิ ว่าที่ไหน) โดยมีลูกค้า หรือไม่ก็เด็กในร้านที่เสียงดีๆ ขึ้นไปร้องคนละสองสามเพลง บางที เจ๊ปิ๊ก กับเจ๊รัตน์ ก็ขึ้นไปร้องบ้าง...
นักดนตรีเข้ามาตอนสามทุ่มครึ่ง... มีเด็กในร้านสองสามคนขึ้นไปร้องเพลง... หนึ่งในนั้นคือ...ไอ้ชล..
ไอ้ชล ร้องเพลงเพราะมาก... โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่ง เสียงหวานซึ้ง... ออดอ้อนอีกต่างหาก (ลืมบอกไป ไอ้ชลมันเคยเข้ารอบประกวดอะไร ของ เจเอสแอล ไม่รู้ครับ สมัยนู้น ที่ยุ้ย ญาติเยอะ เข้าประกวดแล้วได้รางวัลอ่ะครับ...)
ผมนั่งฟังมันร้องเพลงเพลิน ยิ้มให้มันตอนมันหันมาสบตาด้วย ดูลูกกะตาไอ้ชลเวลามันร้องเพลงรัก ส่อเจ้าชู้พราวระยิบระยับ ลูกค้าหลายคนชอบมันก็อย่างเนี่ยะแหละครับ...
มันร้องอยู่สองสามเพลง ก่อนจะเชิญพี่รัตน์ขึ้นไปร้องบ้าง ตัวมันเองก็ลงมานั่งข้างผม...
“มึงร้องเพลงเก่งว่ะ ชล”
มันยิ้มให้ผม ตาเป็นประกายพราวอย่างที่มันทำตอนร้องเพลงบนเวที “มึงชอบเหรอ”
“ฮื่อ เพราะดี” ผมบอก ไม่ได้คิดอะไร
“มึงไม่ขึ้นไปร้องบ้างล่ะ ดิน” มันถามผม
ผมส่ายหน้า “ม่ายอ่ะ... ไม่เคย... ร้องเล่นๆ ฟังคนเดียวได้ ไม่เคยร้องให้คนอื่นฟัง”
“เดี๋ยววันหลังมึงร้องให้กูฟังบ้างสิ...”
พี่รัตน์ร้องอยู่สองสามเพลง... ตอนเพลงที่สามเพิ่งเริ่ม ก็เห็นมีลูกค้าคนนึงเดินเข้ามาในร้าน รูปร่างกลมป้อม ผิวค่อนข้างคล้ำ ผมเห็นเด็กในร้านหลายๆ คนรวมทั้งไอ้ชลยกมือไหว้ พร้อมกับได้ยินมันเรียกลูกค้าคนนั้นว่า “พี่นักรบ”
“พี่นักรบ” ชื่อดูดุไปงั้นเอง แต่ท่าทางกระตุ้งกระติ้งมีจริตเล็กน้อย ลูบเด็กคนโน้น ไล้เด็กคนนี้ หากกำไรไปเรื่อย แต่ดูเหมือนพวกเด็กๆ ก็จะไม่ถือสาอะไร ตอนแกเดินผ่านผม เห็นแกตวัดสายตามองแวบนึง แต่ผมก็ยังไม่สนใจอะไร จนแกไปนั่งที่โซฟาตัวนึง สั่งน้ำส้มมาทาน ท่ากรีดนิ้วถือแก้ว ผมเห็นแล้วแทบจะหัวเราะออกมาดังๆ ก็แกเล่นกรีดนิ้วซะขนาดนั้น....
พี่รัตน์ร้องเพลงจบ ก็ลงมาคุยกับพี่นักรบที่โซฟา ผมเห็นมีกระซิบกระซาบ พร้อมกับพี่นักรบ ชะม้ายตามองมาที่ผมสองสามครั้ง เห็นพี่รัตน์จับกระบอกใส่บิล ทำด้วยไม้ขนาดใหญ่กว่าแกนในกระดาษทิชชูเล็กน้อย วางลงหน้าพี่นักรบ กระแทกกระทั้นนิดหน่อย... “งานเข้าละมั๊ง กู” ผมรำพึงในใจ
ครู่ใหญ่ก็เห็นพี่นักรบเดินหายเข้าไปทางหลังร้าน... แต่พี่รัตน์เดินเข้ามาหาผม..
“ดิน เดี๋ยวขึ้นไปข้างบน กับแขกคนเมื่อกี้นะ... ห้องเบอร์สาม ผ้าเช็ดตัวอยู่ในนั้นแล้ว”
“พี่นักรบ”
“ย่ะ... ทหารหญิง... แต่เค้าไม่รบกับเราหรอกน่ะ... หมั่นไส้... ปืนใหญ่ออกจะมีอยู่กับตัว” พี่รัตน์ค้อนเล็กน้อย “อย่ามาทำหน้าทะเล้น ไปได้แล้ว”
ผมเดินไปด้านหลังเคาน์เตอร์ขึ้นบันไดไปข้างบน...
(ตอนนี้ข้ามไปดีกว่านะครับ ไม่อยากเล่าซ้ำ กับภาคแรก ตอน “ชักธงรบ” ครับ...)
หลังจากเสร็จกิจข้างบนกับพี่นักรบแล้ว เราก็ลงมานั่งที่ชุดโซฟาข้างล่าง พี่นักรบสั่งเครื่องดื่มให้ผมแก้วนึง นั่งดูทั้งลูกค้า และก็เด็กๆ ขึ้นไปร้องเพลงกัน
ผมบอกพี่นักรบว่า ยังเรียนอยู่ พรุ่งนี้ ก็มีเรียน ตอน เก้าโมงครึ่ง เห็นแกดูนาฬิกา เกือบห้าทุ่มแล้ว แกเลยสั่งเช็คบิล แล้วลากผมออกไปด้วย
พอออกไปถึงที่ถนน แกก็จัดการเรียกรถแท็กซี่ ให้ไปส่งผมที่หอ ก่อนจะเอาแบ๊งค์ห้าร้อยใส่กระเป๋าเสื้อของผม
“กลับไปพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้ไปเรียนหนังสือนะ... ไอ้เด็กคนนี้” พี่นักรบบอก ก่อนจะปิดประตูรถแท็กซี่....
.......................................
วันต่อมา... ผมมาถึงร้านตามปรกติ... ไอ้ชลมันเข้ามาถามก่อนเลย
“เมื่อคืน พี่นักรบพามึงไปไหนต่ออ่ะ ดิน...”
“เปล่า... แกเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งกูที่หอ เท่านั้นเอง”
มันพยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อ แต่สายตามันมองผมแปลกๆ แฮะ...
.......................................
ลูกค้าคนที่เดินเข้ามา ท่าทางจะเป็นลูกค้าประจำอีกเหมือนกัน รูปร่างเล็กๆ ดัดผมหยิกฟู เห็นไอ้ชลมันยกมือไหว้ เรียกว่า พี่ติ๋ม...
พี่น้อย (กัปตัน) เข้าไปนั่งคุยด้วย ครู่เดียว ก็กวักมือเรียกไอ้ชลไปนั่งด้วย... เห็นมันคุยอะไรกับพี่ติ๋มไม่รู้ หัวเราะเฮฮา... สักพักมันก็หันมาเรียกผม...
“ดิน... มานี่สิ...” ผมเดินเข้าไป “พี่ติ๋ม เค้าอยากรู้จักมึง”
ผมยกมือไหว้ “สวัสดีครับ พี่”
พี่ติ๋มรับไหว้ สั่งดริ๊งค์ให้ผม... คุยกันอยู่ครู่นึง ก็เรียกเก็บตังค์ โดยเอาผมกับไอ้ชลออกไปด้วย...
ตอนพี่ติ๋มเรียก แท็กซี่ ผมหันไปถามไอ้ชล... “พี่ติ๋มเอาเราออกมาทำไมวะ ทีละสองคนน่ะ”
ไอ้ชลมันยิ้มๆ “เออน่า... รับรอง... สนุก”
ไม่นาน แท็กซี่ก็พาเรามาถึงที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ค่อนข้างกว้างขวาง มีส่วนที่เป็นเตียงขนาดใหญ่ และ โซฟานั่งแยกส่วนชัดเจน
พี่ติ๋มเข้าไปอาบน้ำก่อน หลังจากสั่งอาหารมาทานกัน เสร็จแล้ว ก็ตามด้วยไอ้ชล...
“ดิน... เดี๋ยวพี่จะให้เราเอาชลให้พี่ดูนะ กล้าหรือเปล่า” พี่ติ๋มบอกขณะมือปลดกระดุมเสื้อผมลง พร้อมกับสอดลงไปลูบหน้าอกผมเล่น
ผมสะดุ้ง “เอางั้นเลยเหรอพี่... แล้วชลมันจะยอมเหรอ”
“เหอะน่ะ...” พี่ติ๋มค้อนควัก “นั่นมันเรื่องของเค้า...”
“ก็ได้ครับ ถ้าชลมันยอม...” คิดได้ไงฟะอ๊อฟเด็กมาเอากันให้ดู... แต่ก็ช่างเหอะ... นึกว่าเป็นงานก็แล้วกัน... พี่ปิ๊กเคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน ว่ามีลูกค้าพาเด็กในร้านไปสองคน ให้ทำกันให้ดู... ไม่นึกว่าผมจะเจอกับตัวเองเร็วขนาดนี้... แถมเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในร้านด้วยสิ...
ผมไม่กล้ามองหน้าไอ้ชล ตอนเดินสวนมันเข้าไปอาบน้ำ... “ถ้ามันรู้มันจะเป็นยังไงวะเนี่ยะ... ไอ้ชลมันก็ดูเป็นผู้ชายๆ แล้วมันจะยอมเหรอวะ...” ผมคิด ขณะอาบน้ำ แต่ก็ “ช่างแม่ง เอาก็เอาวะ”
อาบน้ำเสร็จ เดินออกมา เห็นไอ้ชลมันนั่งพิงหัวเตียง มีพี่ติ๋มหมอบอยู่ตรงหว่างขามัน ทำหัวขึ้นลงเป็นจังหวะ... พี่ติ๋มทำสัญญาณให้มานั่งข้างๆ ไอ้ชล เอามือข้างนึงมาจับที่ลูกชายผมรูดขึ้นลง เบาๆ
“อูย.ย.ย ใหญ่จัง... ฝังมุกด้วย... ดูสิ...ชล” พี่ติ๋มละปากจาก “K” ของไอ้ชล พึมพำ บอกมัน
“ใหญ่กว่าผมอย่างกะพ่อกะลูก เลย” ไอ้ชลบอก เสียงสั่นพอกัน... ผมหันไปดูของมัน ก็พอดีสมตัวขนาดมาตรฐาน หัวบานสีชมพู...น่ารักมากกว่าน่ากลัวอย่างผม...อุ อุ
“น่าอมไหม... อมดูสิ...ชล” พี่ติ๋มบอก
ตอนแรกผมนึกว่าไอ้ชลมันจะไม่กล้า แต่เห็นแววตาที่มันเหลือบมามองผมมีแววประหลาด... ก่อนจะก้มลงไป
ผมแขม่วเอวสยิว เมื่อไอ้ชลเอาลิ้นแตะๆ ที่ส่วนปลายของ “K” ผมก่อนจะอ้าปากอมลงไปมิดส่วนหัว...
“อูยซซซซ ชล...” ผมถึงกับคราง เมื่อเจอลีลาการ “อมK” ของไอ้ชลที่บอกได้เลยว่า “ขั้นเทพ” มันอ้าปากอม “K” ของผมเข้าไปจนลึกก่อนจะเม้มริมฝีปากรูดขึ้นลง เป็นจังหวะ ช้าๆ... “ K” ผมที่ว่าใหญ่ขนาด “ซองบุหรี่แตก” แถมฝังมุกอีกหกเม็ด ไม่สะดุดฟันมันเลยสักนิด บางที มันก็เอาลิ้นมาค่อยๆ เลียไปตามเส้นเลือดที่ปูดโปนตามลำ ของผม พอเจอเม็ดมุก มันก็เอาลิ้นเลียไปมา เล่นเอาผมบิดตัวหวิดตาเหลือก
“มึง... สุดยอด...ชล... ซี๊ด...”
มันเหลือบตามองผมนิดนึง ก่อนจะ “อมK” ผมต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ...
ลีลาการ “อมK” ของไอ้ชลต้องบอกว่าเหลือร้าย... จนผมจวนเจียนจะไปแหล่ไม่ไปแหล่ พอดีมีระฆังช่วยซะก่อน...
“ชล... ขอพี่มั่งสิ... เราเอาพี่นะ...” เสียงพี่ติ๋ม ที่ละปากจาก “K”ไอ้ชล หันมาทาง “K” ผม ก่อนจะบอกความจำนงค์
......................................
ระฆังช่วยพอดี... เฮ้อ.. รอดไป
แล้วเจอกันวันหลังนะคร๊าบ...คนดี นานหน่อย อย่าว่ากันน๊า...
ดิน