One More Night : บังเอิญรัก โดยตั้งใจ l ตอนที่ 53 หน้า 6 [10-11-61](ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: One More Night : บังเอิญรัก โดยตั้งใจ l ตอนที่ 53 หน้า 6 [10-11-61](ตอนจบ)  (อ่าน 74768 ครั้ง)

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ปมหลายอย่างเริ่มไขออกมา พันกันอีรุงตุงนังไปหมด  :katai1:


พอจะเดาทางของเรื่องนี้ถูกมั้ยครับ อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

โอ๊ย...ตรู

ทำไมไม่ไปซื้อหวยฟระ

เดาถูกหมดเลยว่า นาง"แพศ"ยา เนี่ยเอาหมดทุกคนทั้งพี่ทั้งน้อง 

แต่ดันนึกไม่ถึงว่านางจะเอาพ่อด้วย  แถมยังเป็นตัวการทำให้บัมพ์ตายอีก

เลวได้โล่จริง ๆ


เก่งมากเลยครับที่เดาทางได้ อิอิ
อีกไม่นานก็จะจบแล้วนะครับ อย่าลืมติดตามต่อไปน้าาาาาา

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
นี่นางติดใจนายไบร์ท..เหรอออออออ
บร๊ะเจ้า น้ำยาของน้องคนเล็กสุด

แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ดวงซวยที่สุด
งานเข้าเลยนายไบร์ท จะเคลียร์กับพี่คิงสุดที่รักได้หรือเปล่า

ทำไงดีล่ะทีนี้ พ่อสุดหล่อกาดอเด็ด
หุหุ


อย่าว่านายไบรต์เลยนะครับ คนหล่อก็แบบนี้แหละจ้า อิอิ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :really2: สุดยอด นางเหมาเกือบหมดบ้านเลย

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Chapter 50: อโหสิกรรม

เฟียซยืนอยู่หน้าบ้านเลขที่ 77/44 ด้วยความลังเล ไม่แน่ใจว่าควรจะกดกริ่งเข้าไปหรือไม่ แฟนหนุ่มพนักหน้าให้กำลังใจอย่างช้าๆแทนคำพูดที่ว่าเข้าไปเถอะ

“ครับ” เจ้าของบ้านตะโกนหลังจากได้ยินเสียงกริ่งก่อนจะเดินออกมา

“เฟียซ มาได้ยังไงดึกดื่นป่านนี้ อ้าวคุณนั่นเอง”

“ขอเฟียซเข้าไปข้างในได้มั้ยคะ”

อีกฝ่ายอึกอัก แต่ก็ต้องยอมจำนนเมื่อเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของหญิงสาว

บ้านหลังเก่าของเธอถูกต่อเติมและปรับเปลี่ยนไปมากเสียจนแทบจำไม่ได้ เฟียซถือวิสาสะนั่งโซฟาติดกับหมอหนุ่ม

เจ้าของบ้านนั่งลงอย่างอ่อนแรง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่ไร้ความสุข

“ป๋า บอกเฟียซมาเถอะ ว่าเมื่อสามสิบปีก่อนเกิดอะไรขึ้น” หญิงสาวถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“ฟะ เฟียซถามเรื่องตอนนั้นทำไมเหรอ”

“ป๋าคะ เฟียซสามสิบแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กสามขวบ เรื่องที่เฟียซไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อไฟน่ะ เฟียซรู้มานานแล้ว”

หนุ่มใหญ่หน้าซีดเผือดราวกับว่ากำลังถูกบีบคอจนหายใจไม่ทั่วท้อง

“แล้วทำไมเฟียซต้องมาถามป๋าด้วยล่ะ”

“เฟียซป่วย” หญิงสาวกระแอมไอ “ไม่รู้ว่าหลังจากได้รับการถ่ายขกระดูกแล้วจะรอดไหม ถ้าเฟียซจะต้องตาย ก็อยากจะรู้ความจริงทุกอย่างก่อน”

หมอหนุ่มบีบมือเธอแน่นเมื่อได้ยินคำว่าตาย

“แล้วป๋าจะไปรู้เรื่องนั้นได้อย่างไร ตั้งสามสิบปีมาแล้วนะ”

“เฟียซไม่รู้ว่าป๋ารู้หรือเปล่า หนูแค่รู้ว่าเราสองคนเกี่ยวข้องกันแน่ๆ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง”

“ก็เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันไง”

“ใช่ค่ะ แต่กับฟาง น้องสาวแท้ๆก็ยังมีไขกระดูกที่ไม่เข้ากับเฟียซ”

“เฟียซหมายความว่ายังไง”

“แล้ว คนที่บริจาคไขสันหลังให้เฟียซได้ คือน้าภัทรน้องชายของป๋า ป๋าไม่คิดว่ามันจะบังเอิญไปหน่อยเหรอคะที่น้องชายของป๋าจะให้เฟียซได้”

“เฟียซกำลังคิดอะไร”

“น้าภัทรเป็นพ่อแท้ๆของเฟียซใช่มั้ย” เฟียซตัดสินใจยิงคำถามที่อัดอันมานาน

“บ้าน่า เจ้าภัทรเพิ่ง 39 เองนะ สามสิบปีก่อนก็เพิ่ง 9 ขวบเอง เป็นไปไม่ได้หรอก”

“แล้วทำไมน้าภัทรถึง...” เธอฉุกคิดได้ หักลบกลบกันแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่น้าภัทรจะเป็นพ่อของเธอ

“บังเอิญ” ภูมิวางแขนเอกเขนกบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า

“ป๋า” ผู้เรียกมองด้วยสีหน้าอ้อนวอน ใบหน้าสละสวยนั้นเต็มไปด้วยคำถาม “บอกความจริงหนูได้ไหม”

ภูมิส่ายหน้า ความเจ็บปวดเกาะกินใจเขาไม่น้อยไปกว่าอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ทุกอย่างมันผ่านมาสามสิบปีแล้ว สิ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นความลับกำลังถูกกระเทาะ

“ตาของเฟียซ เป็นคนเจ้าชู้มาก หนูรู้ใช่มั้ย”

หญิงสาวพยักหน้า

“เหตุผลที่น้าภัทรมีไขกระดูกที่เข้ากับเฟียซได้ อาจจะเป็นเพราะพวกเราคือสายเลือดกันจริงๆก็ได้”

“หนู...ไม่เข้าใจ”

“ความจริงคือ ป๋า น้าภัทรกับแม่ของหนูคือพี่น้องกัน”

หญิงสาวตกใจกับคำตอบที่ได้ฟังอย่างปิดไม่มิด “มะ หมายความว่ายังไงคะ”

“คุณตาของเฟียซไม่ได้มีแค่คุณยายคนเดียว ป๋ากับเจ้าภัทรก็เป็นผลผลิตหนึ่งจากความเจ้าชู้ของคุณตา”

“มันเลยทำให้เลือดของคุณภัทรกับเฟียซเข้ากันได้” หมอหนุ่มตั้งข้อสังเกต “มันเข้าเค้านะครับคุณเฟียซ”

หญิงสาวนิ่ง ในใจปั่นป่วนไปด้วยความสับสน ตั้งแต่เล็กจนโต แม่ไม่เคยพาเธอกับน้องไปเยี่ยมคุณตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าคงเป็นเพราะแม่ทำใจไม่ได้ที่คุณตามีลูกคนอื่นอีก จนคุณยายต้องตรอมใจแม้กระทั่งบั้นปลายของชีวิต

“ขอหนูพบน้าภัทรหน่อยได้มั้ยคะ”

“ภัทรกินยาเพิ่งจะเข้านอน...”

“นะคะ” เธอไม่สนคำว่ามารยาท เพียงแค่อยากจะขอบคุณน้าของตนเท่านั้น

ทั้งสามเดินไปที่ห้องชั้นสอง เสียงโวยวายที่ดังก่อนหน้านี้เงียบสนิท ไฟในห้องสว่างจ้า มีเพียงร่างหนึ่งนอนคุดคู้อยู่บนเตียงแคบราวกับเด็กน้อย

“คนนี้คือ...”

“เจ้าภัทร น้องชายผมเองครับ” ไม่มีอะไรที่น่าตกใจไปกว่านี้อีกแล้ว นรินทร์พบว่าผู้ชายที่ทักตนเป็นน้องชายฝาแฝดกำลังนอนอยู่เบื้องหน้า ความทรงจำในคืนนั้นเด่นชัด เมื่อเขาเดินออกมาจากบ้านของแฟนสาว ผู้ชายคนนี้ทักเขาว่าเป็นบั๊มพ์ด้วยอาการและน้ำเสียงที่ปวดร้าว

“พี่หมอถามเหมือนรู้จักน้าภัทรเลยนะคะ” เฟียซตั้งข้อสังเกต

“ไม่เชิงครับ แต่...” นรินทร์ครุ่นคิดว่าจะบอกเล่าเรื่องราวดีหรือไม่

“เจ้าภัทรคือแฟนของบั๊มพ์ น้องชายฝาแฝดของคุณหมอน่ะเฟียซ”

“คะ”

“คุณรู้”

“ใช่ครับ ผมรู้มาตลอด” หนุ่มใหญ่ยอมรับ “หลังจากที่บั๊มพ์เสีย เจ้าภัทรก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถึงแม้จะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง แต่จิตใจบอบช้ำมาก”

“น้าภัทรเป็นอะไรคะ”

“เป็นโรคซึมเศร้า เข้าขั้นไบโพล่า” ภูมิตอบอย่างเสียใจ “รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายขาด ความเจ็บปวดจากครั้งนั้นทำให้เจ้านี่สติหลุด เลื่อนลอย บางครั้งก็พูดคนเดียว บางครั้งก็ร่าเริงจนผิดปกติ และหลายๆครั้งก็พยายามฆ่าตัวตาย”

“แต่มันก็ตั้งสิบปีมาแล้วนะ” นรินทร์มองร่างนั้นอย่างกระอักกระอ่วน ความโมโหที่เคยมีเลือนหายไปจนหมดสิ้น เขาเคยสาปแช่งแฟนของน้องชายฝาแฝดตัวเองอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งอยากจะทำร้ายให้ตายตกตามกัน แต่เมื่อเห็นสภาพที่เปราะบาง เขากลับเวทนาจนพูดอะไรไม่ออก

“ใช่ครับ แต่สำหรับภัทร มันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เค้าจะเดินไปตรงเนินที่รถชนนั้นบ่อยๆ ราวกับว่ารอว่าน้องชายคุณจะมาหา เค้าจมอยู่แต่กับความทุกข์ ปฏิเสธการรักษาที่ต่อเนื่อง หลุดอยู่ในวังวนความเศร้าของตัวเองจนฉุดไม่อยู่”

“ผม” หมอหนุ่มไม่รู้จะเอ่ยคำใดออกมา

“อื้อ” ร่างบนเตียงเปล่งเสียง ก่อนที่จะลืมตาด้วยความงัวเงีย

“บั๊มพ์” ภัทรพยายามลุก แต่ฤทธิ์ยาที่กดประสาททำให้ไม่อาจทำได้ดังใจคิด

“หนูพาคุณหมอกลับไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวป๋าดูเจ้าภัทรก่อน”

วินาทีนั้นเอง ที่นรินทร์อโหสิกรรมให้คนชื่อ ภัทร ทุกอย่าง สภาพที่ไม่ต่างจากซากศพของแฟนน้องชายฝาแฝดของตนทำให้ทิฐิและความเกลียดชังมลายไปเสียสิ้น คนที่ตายไปแล้วทำให้นคนเป็นเจ็บปวดได้มากถึงเพียงนี้ หมอหนุ่มมองโปสเตอร์แผ่นหนึ่งที่แปะไว้ที่ห้อง รูปของพระเอกหนุ่มหล่อยิ้มร่าอย่างร่าเริง สดใสและมีอนาคต แต่ร่างที่นอนอยู่เบื้องหน้ากลับเปราะปรางและไม่เหลือเค้าเดิมอีกต่อไป ความเจ็บปวดของภัทรมากมายเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดมากนัก มากเสียจนนึกเกลียดตัวเองที่เคยสาปแช่งผู้ชายคนนี้มาโดยตลอด

“ขอผมลองอะไรสักอย่างได้ไหมครับ”

“คุณหมอจะทำอะไรครับ”

“นะครับ ขอผมลองทำอะไรสักอย่าง” นรินทร์มองร่างผอมนั้น ก่อนฉีกยิ้มและเดินไปนั่งข้างตัวคนที่นอนอยู่

“ว่าไงภัทร เราเอง” ทั้งเฟียซและภูมิต่างตกใจกับการกระทำของชายคนนี้

“ฮือ บั๊มพ์ ฮือ” ภัทรร้องไห้อย่างน่าสังเวช น้ำตาไหลรินอย่างสุดกลั้น มีแต่ความเจ็บปวดปะปนออกมา

“ไม่ร้องนะภัทร เราอยู่ตรงนี้แล้ว”

“ฮืออออ” คนป่วยยังคงส่งเสียง

“ถ้านายไม่หยุดร้อง เราจะไปแล้วนะ”

เสียงร้องไห้ชะงัก “อย่าไปนะ”

“บอกมาก่อนสิว่านายจะไม่ร้อง”

“อื้อ ไม่ร้อง”

“เรามาวันนี้ เราจะมาบอกลา”

“บอกลา” เสียงนั้นพึมพำงึมงำราวกับกำลังฝืนตัวเองอย่างหนัก

“ใช่แล้วภัทร เราจะมาบอกลานาย”

“อย่า ขอโทษ ไม่ไป” ภัทรพูดไม่เป็นประโยค ยากำลังออกฤทธิ์อย่างหนัก

“เราไม่โกรธนายนะ นายเองก็ต้องเข้มแข็ง และอยู่ให้ได้แม้ไม่มีเรานะ”

น้ำตาของภัทรหลั่งริน ลมหายใจเริ่มแผ่วเบา “รัก”

“เราก็รักนายนะภัทร แต่เราอยู่กับนายไม่ได้แล้ว นายต้องอยู่เพื่อเรา นายจะต้องกลับมาเป็นภัทรคนเดิมเพื่อเรา สัญญาได้ไหม”

“อื้อ” น้ำตายังคงไม่หยุดไหล ก่อนที่ภัทรจะจมอยู่ในห้วงนิทรา

ภูมิน้ำตาเอ่อ ภาพเมื่อกี้ทำให้เขารู้สึกสงสารน้องชายของตัวเองที่ต้องทนทุกข์มากว่าสิบปี

หญิงสาวปาดน้ำตาก่อนเข้าไปจับมือของแฟนหนุ่ม

“ขอบคุณนะคะ” เฟียซพูด มองใบหน้านิ่งอย่างตื้นตัน

“ผมหวังว่าบั๊มพ์เค้าคงอยากทำแบบนี้เหมือนกัน” นรินทร์กุมมือหญิงสาว รู้สึกถึงกระแสลมอุ่นไหลผ่านร่างก่อนที่จะหายไป
พี่ขอโทษนะบั๊มพ์ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่พี่ไม่เคยเข้าใจนายเลย... นรินทร์หวังว่าน้องชายของเขาจะรับรู้



โปรดติดตามตอนต่อไป...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2018 07:16:05 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

น่าสงสารภัทรมากเลยอ่ะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ความรักมีอำนาจรุนแรงมหาศาลจริงๆ
จะเป็นยังไงนะ ถ้าโลกใบนี้ไม่มีความรัก

ยังจะหมุนได้เป็นปกติอยู่หรือเปล่า
เอิ่มมมมมมมม

ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ปมเยอะไปหมด ได้แต่สงสารภัทรที่จมกับความทุกข์มาตลอด  :mew4:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


Chapter 51: Another night (ใกล้จบแล้ว + แถมรูป Update นายไบรต์ท้ายตอน)

ผมนั่งนิ่งที่โซฟามากว่าครึ่งชั่วโมงโดยมีเค้านั่งเงียบๆอยู่ข้างๆ สมองผมตีกันปนเปไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะเล่าเรื่องที่บ้านดีไหม หรือควรจะถามเรื่องที่เพิ่งได้ยินเมื่อกี้ หรือว่าไม่ควรจะถามอะไรเลย

“พี่ง่วงมั้ย ไปอาบน้ำกันเถอะ” ผมลุกขึ้นอย่างว่าง่าย เค้าถอดเสื้อผ้าผมออกอย่างง่ายดาย น้ำอุ่นจากฝัวบัวไหลรดตัว มือใหญ่ขยี้ศีรษะผมก่อนลงแชมพูนวดวนไปมาอย่างเบามือ ความเครียดเริ่มจางหาย

“ก้มหัวลงหน่อยครับ ผมจะล้างฟองให้” ผมก้มหัวตามที่บอก ก้มมองหัวแม่เท้ายาวของเค้าและอะไรบางอย่างที่ห้อยหัวแกว่งไกว อยู่ๆมือผมก็อยู่ไม่สุขคว้าหมับเข้าให้ ทั้งหมดมันเริ่มจากอะไรไม่รู้ ความเมา ความขาดสติ หรือเป็นเพราะเค้าคนนี้กันแน่

ผมกำมือรูดกับเจ้าสิ่งนั้นของเค้าในจังหวะที่เจ้าตัวกำลังสระผมให้ผมอยู่ มันเริ่มขยายตัวตามแรงสัมผัสจนกระทั่งผงาดขึ้นเต็มมือ

“ซี้ด พี่คิงผมเสียว”

“เสียวแล้วไง” ผมยั่วยวน เค้ายังคงใช้ฝักบัวรดตามตัวผมก่อนลงสบู่ เราสบตากัน แววตาหวานเยิ้มส่งผ่านมาอย่างยั่วยวน ผมยิ้มยั่ว มือกำรูดเจ้าสิ่งนั้นเป็นจังหวะช้าๆ

“อา” เค้าพยายามอย่างหนักที่จะอาบน้ำให้ เมื่อถูสบู่ทั่วด้านบนแล้ว เขาจับผมพลิกตัวอย่างกระทันหัน แขนผมพิงกำแพงห้องน้ำ เค้าเบียดตัวเข้ามา ใช้เข่าใหญ่แยกขาผมกว้างขึ้น มือที่เต็มไปด้วยสบู่ว่ายวนที่บั้นท้ายก่อนที่นิ้วจะผลุบหายเข้าไปด้านใน

“แกล้งผมเหรอ”

“อ๊ะ ไบรต์ไม่เอา ตรงนั้นมัน...อ๊า” ผมครางอย่างลืมตัว คนข้างหลังผมกำลังยิ้มแน่นอนผมมั่นใจ เค้าเลื่อนมือมาจับเอวผมให้บั้นท้ายเผยอโด่ง ขาสองข้างถูกแยกด้วยขาแกร่ง ผมรับรู้ถึงหัวบานใหญ่ที่ค่อยๆดุนดันเข้ามาช้าๆ

“อ๊ะเบาๆ พี่เจ็บ” ผมกัดริมฝีปาก ความเจ็บแล่นพล่านจนแทบเป็นลม ถึงแม้จะมีอะไรกันมาหลายครั้ง แต่ผมก็ยังไม่ชินกับขนาดที่ใหญ่โตของมัน

“อย่าเกร็งครับ พี่กำลังเกร็ง ให้ผมเข้าไปข้างในนะคนดี” เค้าปลอบพลางเกยคางมาที่ไหล่ ผมหันไปสบตาก่อนที่ประกบริมฝีปากควานดูดความหอมหวานภายในอย่างช้าๆ เราจูบกันอย่างดูดดื่ม มันลึกซึ้งกว่าทุกครั้ง มันอบอุ่นกว่าที่เคย ราวกับว่าเป็นการส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่เรามีให้แก่กัน บั้นท้ายของผมดูดกลืนตอปิโดยักษ์นั้นอย่างช้าๆ เค้าเคลื่อนตัวเบาหวิวจนดันเข้าไปสุดลำ

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา” ผมครางกระเส่า เมื่อหัวบานใหญ่ชนกับบางอย่างภายในจนผมเสียวซ่าน มันรู้สึกราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ผมแทบจะทรงตัวไม่ไหว ความกระสันต์จากสัมผัส แรงโยกเข้าออกผับผับดึงทะยานจิตใจผมให้ลอยละลิ่ว ก่อนที่จะถูกฉุดกลับมายังจุดเริ่มต้น เป็นแบบนี้วนซ้ำไปซ้ำมา

ทุกสัดส่วนของเค้า ทุกอณูของผมสัมผัสเสียดสีผ่านแรงกระแทกหนักหน่วงจนผมแทบคลั่ง ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสมวิ่งพล่านฉุดผมให้ลอยละล่องไปมาในอากาศ สองมือใหญ่กระชับบั้นท้ายส่งผ่านแรงดันดุดันดังปึงปังปึกปักจนแทบสำลักความเสียวซ่าน ท่อนลำขนาดใหญ่บิดวนล้วงลึกในรูแคบราวกับสำแดงแสนยานุภาพ สองแขนผมดันผนังใบหน้าร่นแนบติดเพราะแรงส่งที่รุนแรง เสียงครางของเค้ากระตุ้นความต้องการเพิ่มขึ้นอีกจนไม่อาจะหักห้ามใจได้ สองขาของผมแยกกว้างอย่างจงใจเพื่อรองรับความสุขที่กำลังถ่ายทอดมาเติมเต็ม

ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง เค้ากระซิบข้างหูผมอย่างแผ่วเบา “ผมรักพี่นะครับ เป็นแฟนกับผมนะ”

ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้นตอบไปว่าอย่างไร หรือบางทีอาจจะไม่ได้ตอบอะไรเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะรับรู้ถึงความอบอุ่บที่ไหลหลากเข้ามาภายในตัว...

----------------------------------------------------------------------------------------

“พรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษแม่พี่คิง” เค้าพูดหลังจากที่ผมเล่าทุกอย่างให้ฟัง เรานอนกอดกันบนเตียงอุ่น หลังจากที่ใช้เวลาอาบน้ำร่วมสองชั่วโมง เวลานี้ก็ดึกมากแล้ว

“ไม่ต้องหรอก รอให้แม่พี่อารมณ์เย็นกว่านี้ก่อน”

“ไม่ได้ครับ พี่ก็รู้ว่าแม่น่ะโอเคกับผมอยู่นะ ถ้าไม่รีบไปก็เหมือนผมขี้ขลาดไม่จริงใจกับลูกชายแก”

ผมนี่หน้าแดงเลยครับ

“แล้วเรื่องเมื่อเย็นนี้...” เค้าทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่จะตอบมันออกมาอย่างเรียบง่าย

“ผู้หญิงคนนั้นชื่อนิชา เป็นภรรยาเก่าพี่เบสต์” ผมค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“พี่เบสต์กับพี่นิชาคบกันมาตั้งแต่สมัยมอปลาย ไม่นานก็แต่งงานกันแต่พากันไปเรียนหมอ”

“แต่มันดันมีเรื่องขึ้นมา พี่นิชาถูกจับได้ว่าแอบไปมีอะไรกับคนไข้ จริงๆเรื่องมันคงไม่แดงหรอก ถ้าไม่ติดว่าคนไข้คนนั้นเป็นดาราดังในช่วงนั้น พวกทีวีหนังสือพิมพ์โหมข่าวจนพี่นิชาถูกให้ออกจากมหาลัยในปีสุดท้าย”

“อา...แล้วพี่เบสต์ล่ะ”

“พี่เบสต์ไม่เชื่อ ก็เลยพาพี่นิชาไปต่างประเทศ”

“แล้วที่เราบอกว่าผู้หญิงคนนั้น...”

“ผู้หญิงคนนั้นคือคนเลวพี่ เค้าปั่นหัวเราสามคนไว้หมด ดาราที่เค้าไปมีอะไรด้วย คือแฟนพี่บั๊มพ์ ไม่พอเค้ายังแอบมาปล้ำผมตอนเมาอีก”

“เค้าจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร”

“ไม่รู้ครับ” เค้าตอบแทบจะทันที ราวกับว่าถามตัวเองเรื่องนี้มานานแล้ว

“แล้วทำไมพี่เบสต์กับผู้หญิงคนนั้นถึงหย่ากันล่ะ”

“เพราะผมนี่แหละ ไปบอกพี่เบสต์ว่าพี่นิชามีอะไรกับพ่อของพวกเราด้วย”

ผมได้แต่อึ้ง ราวกับกำลังฟังเรื่องบ้าบอผิดศีลธรรมอย่างร้ายกาจ

“แล้วตอนนี้เค้ากลับมาหาเราทำไมล่ะ”

“เค้าคงอยากได้ทุกอย่างกลับมาไงครับ แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว พ่อผมมีความสุขดีอยู่ที่ต่างประเทศ พี่เบสต์มีพี่เฟียซ และผมก็มีพี่แล้ว” เค้าพูดจบก็ขยิบตามาให้

“หึ ใครบอก พี่ไปตกลงอะไรตอนไหน”

“ก็ตอนที่เรากำลังมีอะไรกันในห้องน้ำ แล้วผมขอพี่เป็นแฟน พี่ก็ตอบลงมาแล้ว”

ผมหน้าแดงฉ่า “ตลก พี่ไปตกลงตอนไหน”

“ตอนที่พี่บอกว่า อ๊า...ตกลง... อ๊า”

ผมชกไปที่หน้าอกเค้าอย่างแรง ความเขินขนาดนี้มันหมายความว่าอะไรกันเนี่ย

----------------------------------------------------------------------------------------


ตอนนี้มาสั้นๆนะครับ เพราะเริ่มคลี่คลายไปหมดแล้ว

แต่มีแถม คือคาแรกเตอร์ของนายไบรต์ คือใคร? อยากรู้กันไหม....



วันนี้มีเฉลยครับ คาแรกเตอร์ของไบรต์ ได้มาจากนายแบบจีนคนหนึ่งครับ

ซึ่งตอนที่กำลังแต่งนิยายเรื่องนี้ รูปของเค้ากำลังดังทางอินเตอร์เน็ตเลย

ด้วยหน้าตา ความล่ำ กล้ามแน่นนี่เอง ทำให้ผมปิ๊งอย่างมาก จับมาเป็นพระเอกของเรื่องซะเลย

เขาชื่อ เฮนรี่ ครับ หาทาง FB ไม่เจอ เจอแต่ IG: @henryhenry1234















อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจของผมด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/Begintillanend/







แถมรูป Sexy ของ Henry ที่นี่ครับ












โปรดติดตามตอนต่อไป....
(ตอนนี้เหลือแค่ 2 ตอนเอง คือตอนที่ 52 และ 53 จะจบบริบูรณ์ครับ)

ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทุกอย่างกำลังคลี่คลายปมต่างๆกำลังถูกไข

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

รอลุ้นคุณลูกเขยไปขอขมาคุณแม่ยาย ว่าคุณแม่ยายจะยกโทษให้หรือเปล่า  หุหุ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เด็กคนนี้ตามรักพี่คนนี้ มานานมากจริงๆ
มุ่งมั่น ไม่ยอมถอดใจ

ยอมใจ

นายไบร์ตมันน่านัก
อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


Chapter 52: One More night



 ผมนอนไม่หลับ ภายในหัวมีเรื่องราวหลายอย่างตีวนไปมา เมื่อได้ฟังหลายๆสิ่งจากปากของเค้าและความฝันแปลกๆของตัวเองก็พอจะเรียบเรียงสิ่งที่ผมทำหายไปในช่วงอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อนได้

 ถ้าผมคิดไม่ผิด นิชายุแยงพี่บั๊มพ์กับแฟนให้ทะเลาะกัน จนเป็นสาเหตุให้พี่บั๊มพ์ขับรถและมาจะชนผมกับเฟียซที่กำลังฝึกขี่จักรยานกันอยู่ ในจังหวะที่เฟียซจะไปซื้อไอศกรีม ผมปล่อยมือจากรถจักรยานให้ไหลไปตามทางลาดลงซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถพี่บั๊มพ์ผ่านมา พ่อของเฟียซที่อยู่ในเหตุการณ์วิ่งไปบังร่างลูกสาวจนตัวเองโดนชนและเสียชีวิต

“พี่คิดอะไรอยู่เหรอ”

“คิดถึงเรืองเมื่อสิบปีก่อน”

“เรื่องรถชน”

“อืม” ผมตอบสั้นๆ เค้าดึงผมเข้าไปในอ้อมกอด “พี่ยังจำเรื่องราวได้ไม่หมด ขอพี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“ครับ”

“ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก เราถามพี่ว่าพี่จำผมไม่ได้เหรอ มันหมายความว่ายังไง ที่ญี่ปุ่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกันใช่ไหม”

เค้าพลิกตัว กระชับอ้อมกอดอุ่น ความอบอุ่นจากกล้ามเนื้อเสียดสีกันใต้ผ้าห่ม

“พี่จำไม่ได้จริงๆใช่ไหม”

“อื้อ พี่พยายามคิดแต่ก็คิดไม่ออก” ผมยอมรับ “เล่าให้พี่ฟังได้ไหม” ผมขอร้อง ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงไม่อยากรู้เรื่องนี้เท่าไร

“ครับ” เค้ากระแอมไอ “ผมจะเล่าให้ฟัง”

“ผมเจอกับพี่ครั้งแรก เมื่อสิบปีก่อน วันนั้นพี่บั๊มพ์ไม่ได้ไปคนเดียว แต่พาผมไปด้วยเพราะรู้ว่าอย่างน้อยแฟนพี่เค้าก็เอ็นดูผมไม่น้อยเหมือนกัน”

“ตอนที่รถชน พี่บั๊มพ์เอาตัวมาขวางผมไว้ แล้วไม่นานพี่” เค้าพูดแค่นี้ก่อนหยุดปรับอารมณ์ “พี่คิงก็เข้ามาช่วยดึงผมออกนอกรถ”

ผมนึกถึงในฝัน ที่มีคนบอกว่าให้ช่วยใครสักคนออกนอกรถ...

“ตอนนั้นผมไม่เป็นอะไรเลย แต่ถูกพาไปโรงพยาบาล พ่อกับแม่ก็อยู่ไกล พี่เบสต์ก็อยู่ไกล มีแต่ผม เด็กอายุ 12 ขวบที่ไม่รู้จะทำยังไงนั่งนิ่งรอใครสักคน”

“แล้วพี่ก็เข้ามานั่งข้างๆ พี่ไม่พูดอะไรสักคำ พี่กอดคอผม ผมได้แต่ร้องไห้ พี่ก็กอดผม ปลอบผม” น้ำเสียงของเค้าเริ่มสั่นเครือ

“นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแปลกๆ ผมรู้ว่านอกจากพี่บั๊มพ์แล้ว พี่นี่แหละที่ผมจะรัก”

“เว่อไป”

“ไม่หรอกครับ ผมทำจริงๆ หลังจากวันนั้น ผมก็สืบดูว่าพี่เป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน”

“โรคจิตรึเปล่าเนี่ย

“เหวอ ไม่ใช่” เค้าปฏิเสธทันควัน “ผมรู้แค่ว่าผมรักพี่ ไม่ว่าผมจะมีแฟนมากี่คนก็ตาม ผมก็ลืมพี่ไม่ได้เลย”

กลายเป็นผมที่ใบหน้าร้อนผ่าว

“ผมแค่รอให้ตัวเองโตขึ้น รอจังหวะและโอกาส”

“จนนายมาเจอพี่เมาโดยบังเอิญในคืนนั้น”

“พี่คิดว่ามันบังเอิญเหรอครับ”

“หืม” ผมลากเสียงด้วยความสงสัย

“ทั้งที่ญี่ปุ่น ทั้งที่ผับวันนั้น พี่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆเหรอครับ”

“หมายความว่า...” ผมเริ่มเข้าใจทั้งหมด

“ใช่ครับ ผมอยู่ในชีวิตพี่อย่างเงียบๆมานานแล้ว เฝ้าดูพี่มีความสุขกับพี่เฟียซ มีความสุขในแต่ละวัน ฟังดูเหมือนผมเป็นคนโรคจิตเนอะที่คอยแอบมอง แตผมก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ที่ผมทำไป เพราะผมซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองมาตลอดสิบปีที่ผ่านมา”

“นาย...”

“พี่จะโกรธผมก็ได้นะครับ แต่ขอร้องว่าอย่าเกลียดผม ผมยอมแลกทุกอย่างในชีวิตเพียงแค่ได้อยู่กับพี่แบบนี้อีกคืนนึง”

ผมหันไปสบตาเค้า ลมหายใจอุ่นรดกัน แววตานั้นดูจริงใจจนผมใจอ่อน “อยากอยู่กับพี่แค่คืนเดียวเองเหรอ”

เค้าไม่ตอบ แต่ขัยบใบหน้ามาชิดให้ริมฝีปากของเราประกบกันแผ่วเบา



--------------------------------------------------------------------------------



ชายหนุ่มจิบกาแฟหอมกรุ่นที่ได้รับมาจากแฟนสาว เขาพินิจใบหน้าสวยที่กำลังครุ่นคิดอย่างปิดไม่มิดนั้นอย่างกังวลใจ อาการของเฟียซยังไม่หนักหนา แต่ก็ประมาทไม่ได้ ถึงแม้การรักษาจะเป็นไปด้วยดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่กลับมาเป็นอีก

“เรื่องที่คุณขอให้ผมสืบ เรียบร้อยแล้วนะครับ” เฟียซดันตัวเองลุก เตียงคนไข้ไม่ได้นุ่มน่านอนเหมือนที่บ้านเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องทนอยู่ เพราะหลังจากถ่ายไขกระดูกแล้วยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ หลังจากออกมาจากห้องปลอดเชื้อเธอก็มาพักฟื้น หมอเบสต์ยืนยันให้เธออยู่โรงพยาบาลไปเรื่อยๆ จนเวลานี้ผ่านไปสามเดือนเต็ม อาการของเธอไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่ก็ต้องอยู่ในสายตาของหมออย่างใกล้ชิด

“มีอะไรรึเปล่าคะ” หญิงสาวถาม เมื่อใบหน้าของแฟนหนุ่มเต็มไปด้วยความตึงเครียด

“ผมไม่อยากให้คุณรับรู้เรื่องนี้” ชายหนุ่มพูดความจริงด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มันหนักหนาเกินไป”

“แต่มันคือความจริงใช่มั้ยคะ” เฟียซพูด “คนเราควรอยู่ด้วยความจริงไม่ใช่เหรอคะ”

“ถ้าความจริงมันจะต้องทำให้คุณเจ็บปวดล่ะ”

“เฟียซยอมค่ะพี่เบสต์” สายตาของชายหนุ่มดูกังวล

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนใกล้ตัวเฟียซด้วยใช่มั้ยคะ”

“ใช่ครับ” หญิงสาวกลืนน้ำลาย ความกังวลแผ่ซ่าน

“พี่ว่า...”

“เฟียซตัดสินใจแล้ว พี่อย่าปกปิดเรื่องนี้กับเฟียซอีกเลยค่ะ”

หมอหนุ่มสบตาหญิงสาวอย่างอ้อนวอน แต่แววตาที่เด็ดเดี่ยวสะท้อนกลับมาจนเขาต้องยอมแพ้ แฟ้มเอกสารถูกส่งผ่านไปปที่มือขาวบางนั้น เฟียซเปิดมันช้าๆ เขาเห็นอาการสั่นเทานั้นอย่างชัดเจน เมื่ออ่านจบ น้ำตาของหญิงสาวก็ไหลรินจนไม่เหลือเค้ารางของความสวย



--------------------------------------------------------------------------------



“เรื่องที่เราขอพี่” ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “ยังยืนยันคำเดิมไหม?”

“เรื่องอะไรครับ” เค้าถามกวนๆ รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องอะไร

“เออ ช่างมันเถอะ”

“โธ่พี่คิงอะ จะเล่นด้วยกับผมหน่อยก็ไม่ได้”

“ไม่ ไร้สาระ”

“หึ” เค้าทำน้เสียงฟึดฟัด ก่อนที่จะจับผมนั่งทั้งๆที่ตัวยังเปลือยเปล่า เค้าเองก็เผยเรือนร่างที่น่าดึงดูดนั้นก่อนที่จะไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียง

“ทำอะไรน่ะ” ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่น

“พี่คิง” สายตาเค้าหนักแน่นมั่นคง ไม่หลงเหลือความขี้เล่นอีกแล้ว “เป็นแฟนผมนะครับ”

เอาล่ะสิ จะทำไงดีล่ะทีนี้ หนีก็ไม่ได้ เสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่ ผู้ชายร่างสูงใหญ่ยังกับยักษ์มาคุกเข่าขอผมเป็นแฟนอยู่นี้ ถึงแม้ว่าช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้ผมย้ายมาอยู่คอนโดเค้าแล้วก็ตามที แต่หลังจากวันนั้นเค้าก็ไม่ถามผมอีกเลยเรื่องนี้ มีแต่ผมนี่แหละที่นับวันจะยิ่งถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น

“พี่...เอ่อ”

“นะครับ” สายตานั้นอ่อนโยนและเว้าวอน น้ำเสียงแหบแห้งเป็นเอกลักษณ์ของเค้าดังก้องในหัว

ผมไม่ตอบ มาถึงขนาดนี้แล้วคงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วล่ะ “ขึ้นมานั่งตรงนี้” ผมบอกก่อนที่เค้าจะมานั่งข้างๆกัน

“ครับ” ผมรู้สึกชาไปหมดเมื่อสายตานั้นมองมา เราทั้งคู่สบตากันเนิ่นนาน ก่อนที่ผมจะทำลายความเงียบด้วยการโน้นใบหน้าไปสัมผัสริมฝีปากเย็บเฉียบของเค้าด้วยริมฝีปากของตัวเอง

“ถ้านอกใจพี่เมื่อไหร่ พี่เอาตายนะ” ผมพูดหลังจากถอนริมฝีปากออกมา

“ไม่มีวันนั้นแน่นอน ผมรับรองได้” เจ้าตัวตอบอย่างมั่นใจ ผมใจอ่อนยวบ เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาเค้ารักผมมาตลอด ถึงแม้มันจะเป็นความรักแบบป๊อปปี้เลิฟก็ตาม แต่ความมั่นคงของเค้าทำให้กำแพงทุกอย่างที่มีพังทะลายเสียสิ้น จากชายแท้คนหนึ่งที่ถูกเกย์ข่มขืนและกักขังราวกับเป็นนางเอกละครเรื่องจำเลยรัก จนมาถึงวันนี้

“ตกลงครับ” ผมส่งเสียงแผ่วเบา เค้าฉีกยิ้มเต็มใบหน้าก่อนที่จะพรมจูบผมไปทั่ว

“ผมรักพี่นะครับพี่คิง ไม่ว่ายังไงผมก็จะยืนยันคำนี้”

“อื้อรู้แล้ว”

“แล้วพี่ล่ะ...” ผมไม่ยอมให้เค้าถามจนจบ สำหรับผมมันยังน่าจั๊กกระจี้ที่จะบอกรักผู้ชายสักคน ผมยังใหม่ในวงการนี้ ยังอ่อนหัดเสียนัก เพื่อกลบเกลื่อน ผมต้องยอมดึงตัวเค้ามาจูบและคลุกวงในอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผมล่ะไม่ชอบแบบนี้เอาจริงจี๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

--------------------------------------------------------------------------------




มาต่อแล้วนะครับ.... ตอนหน้าก็จะจบแล้วสำหรับเรื่องนี้

โปรดติดตามตอนต่อไป....

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao4: มีให้ลุ้นตลอดอ่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปมต่าง ๆ กระจ่าง  ยกเว้นชาติกำเนิดของเฟียซ 

หวังว่าคงได้ทราบในตอนจบนาจา

ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อีกตอนเดียวจบแต่ทำไมปมยังเหมือนเยอะ แต่ก็ดีใจกับนายไบรต์ด้วยที่ได้บอกความในใจแก่พี่คิง

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
​ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา...นิยายเรื่องนี้ก็เช่นกัน ตอนนี้ได้ดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว

หวังว่าแฟนๆจะชื่นชอบ และติดตามกันต่อไปนะครับ



ขอบคุณครับ

จากต้นจนอวสาน



ปล.อย่าลืมไปกดไลค์เพจเค้าด้วยนะ

--------------------------------------------------------------------------

Chapter 53: สามปีผ่านไป

                คืนหนึ่งของปี พ.ศ. 2559

“ไบรต์ เสร็จยางงงงงงงงงงงงง” ผมลากเสียงถามแฟนหนุ่มที่กำลังแต่งตัวอยู่ (แหม่ ผ่านมาจะสามปีละผมยังไม่ชินปากเลยครับ)

“เสร็จแล้ว” เค้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านที่เราซื้อร่วมกันเมื่อปีที่แล้ว เป็นบ้านหลังเดิมที่พี่ภูมิเคยอยู่ หลังจากที่พี่ภัทรไม่ต่อต้านเรื่องการกินยาและเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องก็ทำให้สามารถรับงานบันเทิงได้บ้างประปราย การกลับมาของพี่ภัทรเป็นที่น่าสนใจของสื่อและประชาชนทั่วไป เรื่องราวของพี่ภัทรจึงขายได้ และเรตติ้งของเจ้าตัวก็กลับมาดีอีกครั้งในวัยสี่สิบสอง...พี่ภูมิเลยตัดสินใจขายบ้านหลังนี้และซื้อหลังใหม่แถวพัฒนาการ ซึ่งเป็นคนละฝั่งกับหมู่บ้านของเรา แกคงอยากจะพาพี่ภัทรไปเริ่มต้นใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่เพื่อเอื้อต่อการรักษาอาการกระมัง ทีแรกเฟียซจะซื้อบ้านหลังนี้ แต่ผมชิงซื้อมาเสียก่อน

“แล้วบ้านที่แกสร้างไว้จะเอายังไงล่ะคิง” เฟียซถามผมถึงเรือนหอที่ผมปลูกไว้สำหรับงานแต่งงานของเรา

“เรายกให้แก” ผมตอบสั้นๆง่ายๆ

“แต่”

“ไม่ต้องแต่ ถือว่าเป็นคำขอโทษจากเราในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องลูก” เฟียซไม่ตอบ ได้แต่เหม่อลอยมองไปสุดลูกตา

“พี่คิง พี่คิง” เสียงแหบแห้งนั้นปลุกผมจากภวังค์ ผมจับจ้องไปที่หนุ่มหล่อวัยยี่สิบห้าปีรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำ ที่ทาบเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็กทรงเข้ารูปรัดทึ้งขับให้หุ่นของเค้าดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คนบ้าอะไรจะหล่อได้ขนาดนี้วะ

“ครับ” ผมตอบด้วยใบหน้าร้อนผ่าว “ไปกันเถอะ” เราออกเดินทางจากบ้านไปที่โรงแรมชื่อดังแถวชิดลมเพื่อร่วมพิธีมงคลสมรส...

“ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านพบกับคู่บ่าวสาวของค่ำคืนนี้ได้เลยครับ...” ผมมองเฟียซในชุดเจ้าสาวกำลังเดินออกมาอย่างช้าๆ เธอสวยราวกับนางฟ้า กลับดอกไม้โปรยตามพรมแดงพาเธอไปหาเจ้าบ่าวที่หน้าตาหล่อเหลาไม่ผิดจากแฟนหนุ่มของผมที่นั่งข้างๆ รายนั้นถ่ายรูปไม่ยั้ง ผมรู้สึกใจเต้นรัวด้วยความดีใจที่เห็นอดีตคนรักในค่ำคืนนี้

“นั่นลูกพี่เบสต์กับผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย” ผมถาม

“ใช่” ผมมองลูกพี่เบสต์ด้วยความรู้สึกสงสาร นิชาเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผมเชื่อว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่ก็ไม่อาจจะบอกได้ว่าเป็นฝีมือใคร เมื่อผู้ต้องสงสัยต่างก็อยู่รอบๆตัวผมทั้งหมด โดยเฉพาะไอ้แฟนหนุ่มตัวดีที่มีท่าทีดีใจจนปิดไม่มิดเมื่อได้ยินข่าวนี้

เฟียซก้าวช้าๆกระโปรงบานยาวจรดพื้นทำให้เดินลำบาก ยังดีที่ป๋ามาทำหน้าที่แทนพ่อของเธอโดยการควงแขนพาเดินไปที่หน้าเวที เฟียซยิ้มมองหน้าเจ้าบ่าว มองผู้เป็นแม่ที่กำลังยิ้มอย่างปิติอยู่ที่โต๊ะวีไอพีพร้อมครอบครัวพี่หมอ

“พี่ขอโทษนะเฟียซ พี่ไม่น่า...” หมอหนุ่มมองแฟนสาวอย่างปวดร้าว เธอเปราะบางราวกับแก้วคริสตัลที่พร้อมจะแตกสลายได้ตลอดเวลา

“ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกค่ะ เฟียซเองต่างหากที่ขอให้พี่ทำ” หญิงสาวเม้มปาก มองผลตรวจเลือดในมืออย่างสั่นเทิ้ม เลือดของแม่กับเธอบอกว่าเป็นแม่ลูกกัน เลือดของเธอกับฟางก็เป็นพี่น้องที่ใกล้เคียงกัน...

“เพราะเรื่องนี้สินะ แม่ถึงไม่เคยพาเฟียซไปหาตากับยายเลย” หญิงสาวกำหมัดแน่น เรื่องราวที่นักสืบพิมพ์มาให้อ่านกรีดลึกไปถึงก้นบึ้งของความเจ็บปวด หญิงสาวคนหนึ่งถูกพ่อแท้ๆของตัวเองข่มขืนจนต้องหนีหน้าออกห่างจากครอบครัวยังเป็นที่เล่าขานในหมู่คนแก่ในละแวกใกล้เคียง และผู้หญิงคนนั้นชื่อเพ็ญแข...

เหตุการณ์นั้นเองทำให้พ่อของเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พ่อรับไม่ได้อย่างที่สุดในเรื่องนี้ ... เปล่า พ่อไม่ได้โกรธแม่ แต่พ่อโกรธตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องแม่ได้ ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่พ่อควรจะทำ แรงขับเคลื่อนนี้เองทำให้พ่อแอบช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกเป็นเยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศอย่างเงียบๆ แต่ครั้งที่พ่อโดนจับเพราะว่ามีใครสักคนสร้างเรื่องว่าพ่อเป็นคนบ้ากาม ข่มขืนเด็กสาวรุ่นลูก

แต่พ่อเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา...เพื่อจะปกป้องผู้หญิงคนอื่นที่พ่อเคยช่วยเหลือไว้ แต่หลังจากที่พ่อได้รับกรประกันตัวทุกอย่างก็ต้องยุติลง นั่นเองเป็นสาเหตุให้พ่อกับพ่อของคิงทะเลาะกัน...

ส่วนแม่...แม่รักพ่อตลอดมา และจะรักพ่อตลอดไป

“แม่คะ หนูขอบคุณแม่ที่เป็นทุกอย่างให้หนู หนูรักแม่นะคะ....” เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อเจ้าสาวพูดจบ ก่อนที่บนเวทีจะมีความซาบซึ้งอีกครั้งกับการแสดงของเจ้าบ่าว

“พี่ภัทรไม่รู้เลยใช่มั้ยว่าพี่บั๊มพ์กับพี่เบสต์เป็นฝาแฝดกัน” เค้าเป็นฝ่ายชวนคุยเพื่อลดอาการกระอักกระอ่วน แน่นอนล่ะว่าคนที่เคยสนิทกันเมื่อสิบปีก่อนมาเจอกันในวันที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม คงจะทำใจยากพอสมควรที่จะมองหน้ากันและกัน

“ครับ ไม่รู้เลย สองคนนี้ไม่ได้เรียนด้วยกัน เบสต์เรียนเตรียม บั๊มพ์เด็กสวน เบสต์เรียนหมอ บั๊มพ์ไปเปิดร้านอาหารที่เชียงใหม่ ในกลุ่มเพื่อนเลยไม่มีใครรู้เลยว่าบั๊มพ์มีพี่ชายฝาแฝด” พี่ภัทรที่ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นตอบอย่างไหลลื่น ยาที่หมอให้มากดทับความเจ็บปวดของเขาให้หลงเหลือแต่ความว่างเปล่าในใจ ถึงแม้มันจะยังไม่หาย แต่ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากนัก

“พี่รู้แล้วใช่มั้ยครับเรื่องพี่นิชา” เค้ายังถามต่อ ผมมองจะห้ามแต่ก็ไม่ทัน

ภัทรกำหมัดแน่น ผู้หญิงคนนั้นก่อเรื่องทุกอย่าง ทั้งแอบย่องมาที่ห้องคนไข้ตอนที่เขาป่วยจนกลายเป็นข่าวดัง เรื่องที่ยุแยงบั๊มพ์ว่าเขาแอบนอกใจเดินกับผู้ชายคนอื่น เพราะคนๆนั้นคือพี่ชายร่วมสายเลือดของตน รวมไปถึงการตัดสายเบรครถจนบั๊มพ์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เมื่อเขาอาการดีขึ้น เรียบเรียงทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นผู้หญิงคนนั้นยังคงตามรังควาญชีวิตพวกเขาไม่จบสิ้น ภัทรยิ้มหลังจากที่ตอบคำถาม ฉายแววอาฆาตอย่างปิดไม่มิดสบสายตาที่ชายที่นั่งฟังอยู่เงียบๆด้วยความรู้สึกขอบคุณ

“ใช่ครับ พี่รู้แล้ว” ภัทรตอบ ก่อนจะขอตัวลุกออกมาข้างนอกโดยมีภูมิตามหลังมา

“อย่าไปถือสาไบรต์มันเลยนะภัทร”

“ผมไม่โกรธน้องเค้าหรอก ผมเอ็นดูมันยังกับเป็นน้องแท้ๆ” ภัทรตอบพี่ชาย

“แล้วนายจะทำยังไงต่อ”

“รักษาตัวไงครับ”

“แต่...”

“พี่ไม่ต้องห่วงครับ ไม่มีหลักฐานอะไรสาวถึงตัวผมได้หรอก”

ภูมิมองแผ่นหลังของน้องชายด้วยความขมขื่น ถึงแม้ภายนอกภัทรเหมือนจะดีขึ้น แต่ความโศกเศร้าที่เคยมีเหือดหายไปและแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังอย่างที่สุด

“นายสบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม” ผู้เป็นพี่ถามด้วยความอาทร

“ผมไม่รู้” ภัทรตอบด้วยน้ำเสียงหมองหม่น “แต่ที่ผมรู้คือผมไม่ได้ใจดีแบบคนในครอบครัวนั้น” ภูมิเข้าใจได้ทันทีว่าน้องชายตนหมายถึงครอบครัวของเจ้าบ่าวของงานคืนนี้ “ทุกคนเลือกที่จะเงียบ เพราะไม่มีหลักฐาน มีแต่ความเชื่อที่คิดว่าเป็นไปได้ เมื่อไม่มีทั้งพยานและหลักฐาน คนอื่นเลยไม่มีใครกล้าทำอะไรกับคนเลวคนนั้น”

ภูมิไม่ตอบอะไร เขารู้ดีว่าบาดแผลในใจของน้องชายนั้นเรื้อรังจนไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ ถึงแม้มันอาจจะมีปาฏิหาริย์ในสักวันหนึ่งก็ตาม แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้จนไม่อาจกลับสวยงามได้ดังเก่า

“กลับบ้านเถอะ ได้เวลากินยาแล้ว” สิ้นเสียงพี่ชาย ภัทรเดินไปข้างหน้าอย่างมาดมั่น ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาจะหายดีในวันไหน เพราะความเจ็บปวดที่มีในใจมันลุกลามไปกัดกินทั่วสรรพางกายเสียแล้ว

--------------------------------------------------------------------------

“คืนนี้ไปเที่ยวต่อมั้ยครับ” เค้ายิ้มหน้าทะเล้นหลังจากที่คู่บ่าวสาวทะยอยถ่ายรูปกับแขกเหรื่อในงานทีละโต๊ะ เนื่องจากพี่เบสต์ยังลางานไม่ได้(เพราะเป็นหมอ) คืนนี้จึงไม่มีอ๊าฟเตอร์ปาร์ตี้ ผองเพื่อนของเราที่มาร่วมงานต่างก็ชักชวนกันไปต่อที่อื่น

“ไปที่ไหนอะ ดูสภาพพี่ด้วยนะ แก่ขนาดนี้แล้ว” ผมตอบ พลางปัดเศษกระดาษสีทองที่ถูกโปรยตอนเจ้าสาวเงินเข้างานออกจากแผ่นหลังของเค้า

“แก่ที่ไหนกัน พี่ยังดูดีในสายตาผมเสมอแหละ”

“อย่ามาอ้อน” ผมกระทุ้งสีข้างเค้าอย่างหมั่นไส้ “จะไปไหนว่ามา”

เค้าไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มและขับรถพาผมไป....

เสียงดนตรีดังกระหึ่มโหมความคึกคักดังแทรกขึ้นมาทันทีที่เปิดประตูรถ พนักงานรับกุญแจก่อนที่จะขับออกไปหาที่จอดให้ พวกเราเดินตรงไปตามทาง

“นี่นายวางแผนไว้หมดแล้วเหรอ”

“แผนอะไรครับ” เค้ายิ้มเจ้าเล่ห์

“ก็แผนที่จะพาพี่มาที่นี่” ผมมองทางเข้าอย่างขยาด จะไม่ให้รู้สึกแบบนั้นได้อย่างไรล่ะ ถ้ามันไม่ใช่สถานที่เดิมที่ทำให้ผมได้เจอเค้าเมื่อสามปีก่อน

“เปล๊า” นั่น มีเสียงสูง ผมมองใบหน้าหล่อนั้นอย่างเอือมระอา สาวๆต่างจับจ้องมาที่พวกเราสองคนด้วยท่าทียั่วยวน เค้ากระชับผมเข้าไปในอ้อมกอดแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนจนผมตกใจ

“ไอ้บ้าปล่อย นี่มันหน้าผับนะ”

“ไม่ปล่อย ผมจะไม่ยอมให้ใครมาอ่อยเมียผมเด็ดขาด”

ผมถอนหายใจอย่างปลงตก การอยู่กับเค้าทำให้ผมเริ่มชาชินกับการแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของผมเสียแล้ว

“ปะ เข้าไปข้างในนั้นกัน”

“ปล่อยก่อนสิ”

“ไม่ได้ ถ้าพี่เมาแล้วมาเจอใครที่ไหนหิ้วไป ผมจะทำยังไง”

ผมทำหน้าดุมองเค้าทำหน้าตากวนบาทาอย่างไม่แยแสว่าผมกำลังโมโหอยู่ แถมยังส่งใบหน้าเปื้อนยิ้มมาอีก

“จะมีใครลากพี่ไปได้ล่ะ มีแต่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ”

“นั่นแหละดีแล้ว” เราเดินเข้าไปข้างใน เสียงดนตรีดังขึ้นเรื่อยๆ “ต้องขอบคุณที่นี่นะ ถ้าพี่ไม่เมาวันนั้นผมคงไม่ได้พี่วันนี้”

“นี่ ได้อะไร พูดให้ดีๆนะ” ผมแหวไปงั้น เพราะรู้ว่ายังไงเค้าก็ไม่สะทกสะท้าน

ผู้หญิงในร้านมองพวกเราตาเป็นมัน ถึงผมจะแก่ แต่ดีกรีความหล่อของผมก็ไม่เป็นรองใครนะ พวกเราเดินมาที่โต๊ะ เพื่อนๆมารออยู่แล้ว ตอนที่กำลังยกแก้วนั้นเองมีผู้หญิงคนหนึ่งส่งสายตามาที่ผมและกำลังเดินเข้ามา

ก่อนที่เธอจะทำอะไรได้ เค้าก็ดึงตัวผมไปและจูบกลางร้านจนเพื่อนๆเรากรี๊ดลั่น

“ไอ้บ้า ทำไรเนี่ย” ผมตะลึงทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าเค้าจะบ้าระห่ำถึงประกบปากผมกลางผับแบบนี้

“ก็จูบไงครับ”

“ละ แล้วจะมาจูบทำไมกลางร้าน”

“แสดงความเป็นเจ้าของ”

ผมล่ะปวดหัว!!!

“ครั้งแรกที่เราเจอกัน พี่จูบผมเพราะเมา แต่ผมจูบพี่นี่ตอนที่พี่ยังมีสติ จะได้รู้ไว้ว่าพี่มีเจ้าของแล้ว คนอื่นไม่มีสิทธิ์”   

ผมฟังเสียงแหบที่พูดดังราวกับตะโกน โดยมีจุดมุ่งหมายให้ “คนอื่น” ที่จะเข้ามาเกาะแกะผมถอยห่างไป

“ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย” ผมกระซิบข้างหูที่ระดับที่คิดว่าเค้าพอจะได้ยิน

แล้วจู่ๆเสียงดนตรีก็ตัดในจังหวะที่ดีเจกำลังจะพูดอวยพรวันเกิดให้กับลูกค้าโต๊ะอื่น และมันไปในจังหวะเดียวกับที่ผมพูดออกไปว่า “พี่รักไบรต์คนเดียวเท่านั้นแหละครับไม่มองใครหรอก”

ผมว่าเสียงที่คิดว่ากระซิบนั้นดังลั่นร้าน ถ้าคิดว่าพูดเกินไปอย่างน้อยผู้หญิงคนที่คิดจะอ่อยผมก็มองตาค้างแล้วล่ะ

ดีเจ๊เอ๊ย จะมาปิดเพลงทำไมตอนนี้วะ

ไอ้คิงจะบ้าตาย!

--------------------------------------------------------------------------



อวสาน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปมดราม่า  คลายออกตอนจบ

ทำไมเรื่องราวมีแต่ความรันทด

พ่อข่มขืนลูก  ส่งผลให้หลาน เอ๊ะหรือลูกของตา เอ๊ะ...เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด

ผู้หญิงคนหนึ่ง  ร่านมาก  คิดจะรวบหัวรวบหางผู้ชายทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคู่สมรสตัวเอง  จนทำให้คนรักของใครคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต   ไม่มีใครกล้าทำอะไรนาง  แต่สุดท้ายนางก็ถูกคนรักของคนที่เสียชีวิตไปจัดการเก็บซะ

เป็นเรื่องที่มีเงี่ยนงำตั้งแต่ต้นจบจบ

แทงคิ้ว

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4:  :pig4: :pig4:เนื่อเรื่องสนุกดีค่ะ ตอนจบอาจดูว่ากระชับไปหน่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

ปมดราม่า  คลายออกตอนจบ

ทำไมเรื่องราวมีแต่ความรันทด

พ่อข่มขืนลูก  ส่งผลให้หลาน เอ๊ะหรือลูกของตา เอ๊ะ...เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด

ผู้หญิงคนหนึ่ง  ร่านมาก  คิดจะรวบหัวรวบหางผู้ชายทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคู่สมรสตัวเอง  จนทำให้คนรักของใครคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต   ไม่มีใครกล้าทำอะไรนาง  แต่สุดท้ายนางก็ถูกคนรักของคนที่เสียชีวิตไปจัดการเก็บซะ

เป็นเรื่องที่มีเงี่ยนงำตั้งแต่ต้นจบจบ

แทงคิ้ว


ขอบคุณที่ติดตามอ่านตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้นะครับ
อย่าลืมติดตามเรื่องอื่นๆของผมด้วยนะครับ อิอิ

ปล. เงี่ยนนำ หรือ เงื่อนงำ นะ อ่านแล้วงงๆ 555

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สนุกมาเลยครับ,,,

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
สนุกมาเลยครับ,,,


ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ ขอฝากผลงานเรื่องอื่นๆของไรต์ด้วยนะครับผม
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:กอด1: สนุกมากค่ะ


ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะครับ ดีใจมากเลย
อย่าลืมติดตามผลงานเรื่องอื่นๆของไรต์ด้วยนะครับ ^_^

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
มาจาก only you

สงสารพี่บั๊มกับพี่ภัทร

เรื่องโน้นยังหวานกันอยู่เลย


ออฟไลน์ cutelady

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ AmPnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เพิ่งเคยได้อ่าน. ขอบคุณมากนะคะ

ออฟไลน์ minicabbage

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปมเยอะมาก แต่สนุก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด