-16-
-แม็กม่า-
และแล้วผมก็ไม่ได้จากไปในทันที เพราะความชุลมุนวุ่นวายดังกล่าว
คุณอิฐอุ้มคุณท่านขึ้นไปนอนที่ห้อง ร้องหายาดมยาหม่องให้วุ่น ส่วนหมอว่านก็รีบกลับไปเอาเครื่องมือแพทย์ในรถมาตรวจให้ แต่ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้เป็นอะไรมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกลังเลว่าควรจะไปดีไหมอยู่ดี
“ขอแม่คุยกับแม็กตามลำพังได้ไหม” ท่านเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกตัวขึ้นพักเป็นการไล่คนในห้องที่ยืนออกันออกไป
ผมรู้สึกหวั่นใจจึงรีบหันไปหาซูกัส แต่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากส่งสายตาเหมือนให้กำลังใจก่อนจะเดินตามคุณอิฐ คุณหมอและแม่ฟองออกจากห้องไป ทิ้งผมเอาไว้กับท่านตามลำพัง
“ถ้าฉันขอร้องไม่ให้เธอไป เธอจะยอมฟังฉันไหม?” ว่าแล้วว่าท่านต้องพูดเรื่องนี้
“ให้ผมไปเถอะครับ ผมคิดว่าผมคงอยู่กับคุณอิฐต่อไปไม่ไหวแล้ว” ผมหันไปด้วยน้ำเสียงอ่อนอย่างร้องขอความเห็นใจ
“ถ้าเธอเกลียดขี้หน้ามันขนาดนั้น ฉันจะไล่มันไปเองดีไหม?”
“ถ้าผมต้องอยู่ที่นี่คนเดียวโดยที่คุณอิฐจะไม่กลับมา ผมคงรู้สึกแย่กว่าเก่านะครับ”
“เออก็จริง เรื่องอะไรจะยอมให้มันไปเสวยสุขกันสองคนใช่ไหม?” น้ำเสียงมีแววขุ่นเคืองจนผมเผลอยิ้ม
ในสถานะที่สลับกันโดยสิ้นเชิง ผมเป็นคนที่มาทีหลังแท้ๆ แต่ทั้งซูกัสและแม่คุณอิฐต่างพากันเข้าข้าง คนที่รู้ความจริงทุกอย่างบางทีก็อดละอายใจไม่ได้เหมือนกันนะครับ
“ถ้าผมได้ไปจากที่นี่ อีกไม่นานผมก็คงทำใจได้ครับ”
“ถ้าฉันยอมให้เธอไปจริงๆ แล้วเธอจะกลับมาอีกไหม?”
“กลับสิครับ... ถ้าหลานคลอดเมื่อไร คุณย่าต้องได้อุ้มแน่” ผมยิ้มตอบ
“แต่ฉัน.... แต่แม่ไม่แค่อยากอุ้มเท่านั้นนะ... แม่อยากเลี้ยงเขาด้วย” ถ้าท่านไม่เปลี่ยนสรรพนามกะหันทันขนาดนี้บางทีผมคงไม่ทันได้สังเกตหรอก แต่ไม่ว่ามันจะเป็นความรู้สึกจริงหรือเล่ห์มารยาที่จะกล่อมไม่ให้ผมไป ผมก็ดีใจมากอยู่ดีที่ท่านยอมอ้อนผมขนาดนี้
“ผมเข้าใจครับ แต่สำหรับผมในตอนนี้ รู้สึกได้ว่าคุณอิฐไม่มีความสามารถมากพอจะดูแลให้ความอบอุ่นลูกหรอกครับ จริงอยู่ผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนักหนา แต่ก็พอมีเงินเก็บที่คุณอิฐเค้าเคย...ให้ไว้อยู่บ้าง คงไม่ทำให้ลูกลำบากอะไรนัก คุณท่านอย่าห่วงเลยนะครับ ไว้ผมจะพาหลานมาเยี่ยมบ่อยๆ”
“แต่แม่ชอบเรานะแม็ก อาจจะน้อยกว่าหมอหน่อย แต่คงดีกว่าตาบ่งตาบีทอะไรนั่น”
“หมอ... หมอว่านเหรอครับ?” ผมขมวดคิ้วอย่างข้องใจ
“ใช่หมอว่านนั่นแหละ” ท่านตอบรับง่ายๆ ทำให้ผมลองนึกตาม แล้วก็ตกใจว่าถ้าเอาหมอ ผมและคุณบีทมาเทียบกันก็แปลว่า ท่านคงอยากได้หมอเป็นสะใภ้น่ะสิ!!
“ผมนึกว่าท่านเกลียดเกย์ทุกคนเลยซะอีก”
“เปล่า... ไม่ได้ถึงกับเกลียดแค่ยังทำใจไม่ได้ จนกระทั่งตาอิฐพาหมอมานั่นแหละ หล่อ เรียบร้อย นิสัยดี การงานก็ดีไปหมด จนแม่คิดเอาไว้ว่าถ้าแนะนำว่าเป็นคนรักแม่คงไม่กล้าว่าอะไร” คิดตามแล้วก็จริงของท่านนะครับ นี่ถ้าหมอไม่ได้คบอยู่กับซูกัสแต่มาคบกับคุณอิฐแทนก็คงเป็นคู่ที่เหมาะสมพอใช้เลย
“แต่ที่ไหนได้... มันดันไปควงเอาใครมาก็ไม่รู้มาแนะนำ ผิดจากที่คาดไว้เยอะเลย แถมสำออย พูดนิดพูดหน่อยทำเป็นรับไม่ได้หนีกลับบ้าน ยกมือไหว้ปลกๆ อย่างกับลิงไหว้เจ้า จากนั้นมันก็หายหัวไปเลย แล้วยังอวดดี จองหอง ไม่เห็นหัวแม่ผัว ตัวไม่มาไม่เท่าไร พลอยขโมยลูกชายคนอื่นเขาไปด้วย”
ผมกระพริบตาปริบๆ ฟังท่านร่ายยาว กำลังคิดอยู่ว่าท่านคงผิดหวังที่ไม่ได้หมอว่านเป็นสะใภ้เลยไปพาลเอาที่คุณบีทหรือเปล่า แล้วปากก็ท่านก็... ขนาดนี้ ถ้าไม่อดไม่ทน ไม่ด้าน (อย่างผม) ก็คงทนไม่ได้หรอก
จะว่าไปแล้วถ้าแม่คุณอิฐเอาหมอเป็นมาตรฐานลูกสะใภ้จริง ท่านคงหาได้แบบนั้นยาก ต่อให้คุณบีทก็เถอะ นับประสาอะไรกับผม แต่เห็นจะมีดีอยู่อย่างเดียวตรงที่ท้องได้นี่แหละเลยชนะใครต่อใครซะหมด บางทีก็ไม่รู้ว่ามันน่าดีใจหรือน่าสมเพชดีนะครับ!
“อ้อ... ไม่อยากให้เราเข้าใจผิด แม่ไม่ได้ชอบเราแค่ว่ามีหลานให้ได้เท่านั้นหรอกนะ”
“เอ๊ะ!” ผมเลยหน้าขึ้นอย่างตกใจที่ท่านพูดขึ้นเหมือนกับได้ยินเสียงในใจผม ท่านยิ้มแล้วพูดต่อ
“แม่รู้สึกได้ ว่าเราจะเป็นแม่ที่ดี”
ผมไม่เข้าใจความหมายนั้นเลย แต่ก็ไม่ได้โต้เถียงหรือสอบถามอะไรมากกว่านั้น เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร
ต่อให้คนทั้งโลกจะชอบผม เข้าข้างผมมันก็เท่านั้น...
ถ้าคุณอิฐเขาไม่คิดอะไรด้วย
เปลี่ยนให้คนทั้งโลกมาเกลียดผม แล้วให้เขารักผมซะยังจะดีกว่าอีก...
ปุ! ท่านวางมือไว้บนศีรษะผม ผมเงยหน้าขึ้นมองท่านที่ส่งสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา
“จะไปก็ได้... แต่รู้ไว้ว่าแม่ไม่ยอมให้เราไปนานหรอก อดทนหน่อยนะ อีกไม่นาน ตาอิฐจะต้องไปง้อขอคืนดี แล้วจะพาทั้งเมียและลูกของเขากลับมาแน่ๆ” ผมยิ้มตอบ และเห็นด้วยกับท่าน...
เขาจะต้องตามไปเอาลูกของเขาคืนแน่อยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้ไปคนเดียว
แต่เรื่องที่ผมจะได้กลับมาที่นี่อีกน่ะ คงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ!
++++++++++
บ้านคุณอิฐกับซูกัสนี่ต่างกันสิ้นเชิงเลยจริงๆ ถึงจะหรูหราน่าอยู่ไม่ต่างกันนัก แต่อัตราความวุ่นวายนี่ไกลกันลิบลิ่ว อาจจะเป็นเพราะบ้านนู้นมีแต่คนแก่ ส่วนบ้านนี้มีเด็กทารกอยู่ตั้งสองคนจึงได้ยินเสียงร้องไห้ลั่นระงมสลับกับเสียงหัวเราะสดใสเป็นระยะๆ
ผมมาอยู่บ้านซูกัสได้สองสามวันแล้ว คงเป็นเพราะเขาเป็นห่วงผมมากเลยโกรธแทนจนพาลใส่หมอไปด้วย ตั้งแต่ที่เรากลับมา ซูกัสจึงอยู่ด้วยตลอดไม่ได้กลับไปอยู่บ้านหมอเลย แต่ก็ยังดีหน่อยที่หมอไม่โดนแบนห้ามเข้าบ้าน ไม่เหมือนรายคุณอิฐที่โดนแบนอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว
น่าสงสารลุงแกนะครับ อุตส่าห์ขับรถมาหาแต่ก็โดนไล่อย่างกับหมูกับหมากลับไปทุกวัน
แต่ถึงผมจะสงสาร ผมก็ไม่ออกไปเจอเขาอยู่ดีแหละ ไม่ได้ทำไปเพราะแก้แค้นหรอกนะครับ แต่ผมแค่กลัวใจตัวเอง ก็แหม... ผมอุตส่าห์กันตัวเองออกมาแล้วแท้ๆ จะให้เดินกลับไปปีนต้นงิ้วอีกหรือไงล่ะ!
ดังนั้น... ถึงคุณอิฐจะมาหา แต่ผมก็ไม่ได้เจอเขาเลยเกือบอาทิตย์จนกระทั่งมีนัดไปตรวจครรภ์ที่คลินิกนั่นแหละ ถึงได้เจอ ผมค่อนข้างเหนื่อยใจเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา มันดูแหยๆ เหมือนรอยยิ้มขอโทษขอโพย เห็นแล้วมันน่ารำคาญจริง! จนต้องรีบเดินหนีเข้าไปในห้องตรวจ
ผมหน้าง้ำขณะตรวจร่างกาย และฉีดฮอร์โมน แต่ยังพูดคุยกับหมอว่านตามปกติจนทุกอย่างเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างข้องใจ
“หมอบอกคุณอิฐเหรอครับว่าผมมีนัดตรวจวันนี้” ผมมุ่ยหน้าเป็นเชิงไม่พอใจ
“ไม่ได้บอก แค่ตอบว่าใช่เฉยๆ” ผมขมวดคิ้วกับคำตอบนั่น อีกฝ่ายยิ้มแล้วขยายความต่อ “ถึงอิฐมันจะเป็นนายจ้างที่ใช้ไม่ได้ หรือผู้ชายโง่ๆ ที่ไม่เข้าใจจิตใจของเธอ แต่ก็ไม่เลอะเลือนขนาดจำไม่ได้หรอกว่าเธอต้องมาคลินิกวันนี้” นั่นก็อาจจะจริง เพราะผมมักจะมาตรวจช่วงเดียวกันทุกเดือน บางทีคุณอิฐก็แค่จำได้...
“ถ้างั้นคราวหน้า หมอก็เลื่อนวันให้หน่อยนะครับ” ผมบอกเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะรู้สึกได้ว่าหมอประชดผมอยู่ ผมรู้สึกว่าหมอเข้าข้างเพื่อนเขาแบบอ้อมๆ
“ได้ ถ้าเธอต้องการ” หมอยิ้มตอบ ก้มลงขีดฆ่าเปลี่ยนวันนัดใหม่ให้เดี๋ยวนั้นเลย ไม่มีคำถาม ไม่โต้แย้งจนน่าแปลกใจ
“ขอบคุณครับหมอ งั้นผมกลับแล้วนะครับ” ผมบอกยกมือไหว้ ก่อนจะหมุนตัวออกห้องไป
แต่ทันทีที่ออกจากห้องตรวจก็ต้องถอนใจเซ็งๆ เมื่อพบว่าคุณอิฐนั่งรอที่เก้าอี้สีฟ้ามีพนักหน้าห้องพอดี เขาเงยหน้าขึ้นส่งรอยยิ้มมีชัยใส่ผม ผมถอนใจเบื่อหน่าย ขยับตัวเดินหนีโดยที่ไม่เอ่ยปากทักทายสักคำ
“แม็ก เดี๋ยวก่อนสิ” เขาร้องเรียก และรั้งผมไว้ด้วยการฉวยข้อมือผมอีกต่างหาก ผมช้อนตาขึ้นจิกเบาๆ
ตื๊อเก่งใช่เล่นเลยนะลุง!
“มีอะไรครับ ผมต้องรีบไป เดี๋ยวลุงเขาจะรอ” วันนี้ซูกัสไม่ได้มาด้วยครับ เขาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน แต่ส่งคนขับรถมาส่งแทน
“ฉันอยากคุยกับเธอ” เขาอ้อน ทำสายตาน่าสงสาร
“มีอะไรครับ? พูดได้เลย แต่ถ้าจะตามผมกลับไปล่ะก็เสียเวลาเปล่า”
“ทำไมล่ะแม็ก... บ้านฉันมันทำให้เธออึดอัดขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงแม่ฉันจะดุนะ แต่ท่านก็ชอบเธอมากนะรู้ไหม ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่เสียอกเสียใจถึงขั้นเป็นลมเป็นแล้งหรอก”
“ไม่เกี่ยวกับท่านหรอกครับ” ผมหันไปตอบอย่างจริงจัง
“งั้นก็เพราะฉันเหรอ?” ผมจ้องหน้าเขาทำหน้าเบื่อหน่าย... ไม่น่าถามเลยลุง!
“ฉันผิดตรงไหนล่ะ หรือเพราะฉันพูดจาไม่เข้าหูเธออีก ฉันขอโทษก็ได้ แต่เธออย่าทำแบบนี้เลยนะ”
“แบบไหนเหรอครับ?”
“แบบที่เธอทำอยู่ตอนนี้ไง หลบหน้า พยายามจะหนีจากฉัน พรอมกันนั้นเธอกำลังเอาลูกของคนอื่นไปด้วย”
“เขาเป็นลูกของผมครับ ไม่ใช่ลูกของคนอื่น” ผมเถียงหน้านิ่ง
“ฉันไม่เข้าใจเธอเลยแม็ก เธอทำแบบนี้ทำไม เธอคิดว่าถ้าเธอได้ลูกฉันไปแล้วเธอจะได้เงินมากขึ้นเหรอไง แค่ที่ฉันให้เธอไปคงน้อยไปสินะ เธอเลยคิดว่าจะเอาเค้ามาต่อรองอีกตอนหลังใช่ไหมฮะ?” ในคำถามมีแววเคืองโกรธ ปนปวดกลัว
“คุณกำลังเข้าใจผมผิดนะ” ผมรีบแก้ตัว ผมไม่อยากโดนเขาเข้าใจว่าผมเอาลูกเขามาเรียกร้องอะไรเลย
“ไม่งั้นแล้วจะให้เข้าใจยังไง ถ้าเธอไม่ได้ต้องการเงินแล้วเธอจะเอาเขาไปทำไม”
“ผมก็แค่สงสารเค้า ผมไม่อยากให้เขาอยู่ในครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น”
“ครอบครัวฉันมันไม่อบอุ่นตรงไหนล่ะ? รู้ได้ยังไงว่าอยู่กับเธอแล้วจะดีกว่า และถึงยังไงเขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฉัน ไม่ใช่สิทธิ์ของเธอที่จะตัดสินใจแทนว่าเขาควรอยู่กับใครสักหน่อย” เขาพยายามอธิบายเหตุผลเสียงเครียด มันน่าโกรธอยู่หน่อยๆ ที่เขาบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ แต่มันน่าโมโหมากกว่าที่สิ่งที่เขาว่ามาก็จริงทั้งนั้น อันที่จริงผมไม่มีสิทธิ์จะไปพรากพ่อพรากลูกเขาหรอก
“ครับ...ก็คงจริงอย่างที่คุณว่า” ผมตอบรับเรียบๆ
“ถ้าเธอเข้าใจก็ดีแล้ว งั้นเธอกลับบ้านไปกับฉันเถอะนะ ฉันอยากดูแลเธอ ดูแลลูก ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้ฉันจะไม่พูดไม่ดี ไม่ทำร้ายจิตใจเธออีก นะแม็ก... กลับไปกับฉันนะ” ผมก้มมองมือใหญ่ที่บีบมือผมไว้สลับกับแววตาวอนขอ
ผมรู้สึกดีนะ เวลาที่เห็นเขาพูดจาดีๆ แบบนี้ น้ำเสียงและแววตาออดอ้อนพาลพาให้ใจอ่อนได้ไม่ยาก
เชื่อผมเถอะ ถ้าหากเราเป็นคนรักกัน และเขายอมขอโทษผมแบบนี้ทุกครั้งที่ทำผิดล่ะก็ ผมคงไม่มีทางโกรธคุณอิฐได้นานเกินวันนึงหรอก แต่ถึงตอนนี้ผมจะไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดเขาเลย ผมก็ตอบรับคำขอของเขาไม่ได้อยู่ดี เพราะมันยังมีเหตุผลที่ใหญ่กว่านั้นอยู่ด้วย
“ขอโทษนะครับคุณอิฐ ผมคงกลับไปกับคุณไม่ได้หรอก” ผมตอบกลับมีน้ำเสียงเสียใจ ส่วนเขาก็ทำหน้าผิดหวัง “ทำไมล่ะ”
ผมไม่แน่ใจว่า ถ้าผมบอกไปว่า “ผมชอบคุณแล้ว ก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้ๆ” จะเป็นสิ่งที่ดี อาจจะทำให้เขาเข้าใจผิดไปว่าผมคิดว่าแค่ท้องยังไม่รวยพอ จับคนพ่อน่าจะรวยมากกว่าไปอีก
ถ้างั้นก็อย่าบอกเลย... เก็บไว้ในใจน่าจะดีกว่า ผมจึงไม่ได้ตอบ เพียงแต่ทำหน้าลำบากใจเท่านั้น
ในระหว่างความเงียบเกาะกินเราสองคน จู่ๆ เขาก็ขยับตัวดึงข้อมือผมให้ก้าวตามไปทางประตูหลังของคลินิก
“เดี๋ยวคุณอิฐ คุณจะพาผมไปไหน!!” ผมโวยวายแต่เขาไม่ตอบ ผลักประตูหลังของคลินิกแล้วดันร่างผมออกไป จับจูงให้เดินไปตามทางแคบๆ จนกระทั่งมาถึงรถของเขา
เขาปลดล็อกแล้วเปิดประตูรถก่อนจะยัดผมเข้าด้านใน ซ้ำคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย
“นี่คุณจะลักพาตัวผมหรือไง?” ผมถามติดตลก
“อือ” คำตอบรับง่ายดายจนผมต้องย่นคิ้ว แล้วประตูรถก็ปิดลง...
โธ่ลุง! เห็นผมเป็นนางเอกจำเลยรักหรือไง!!
++++++++++