คุณแม่รับจ้าง [MPREG] (อ่านภาค2 ในลิงค์ หน้า20)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] (อ่านภาค2 ในลิงค์ หน้า20)  (อ่าน 168916 ครั้ง)

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ซูกัสเยี่ยมมาก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จัดการเลยซูกัส!!

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-8-

   แง แง....

   เสียงเด็กร้องทำให้ผมค่อนข้างตกใจทำอะไรไม่ถูก ซูกัสเลิกสนใจผมแล้วรีบวิ่งกลับไปหาเด็กน้อยในอ้อมกอดพี่กุ้งแล้วยื่นมือรับเด็กมาอุ้มไว้แทน

   “เอ่เอ๊... ไม่เอานะไม่ร้องนะครับ...ชิฟฟ่อน...” เขาไกวเด็กในอ้อมแขนเบาๆ พร้อมส่งเสียงกล่อม

   “ฉี่หรือเปล่า เดี๋ยวไปเอาผ้าอ้อมมาก่อนนะ” หมอเดินมาสมทบแล้วออกความเห็นก่อนจะผละออกไปโดยไว

   ไม่นานหมอก็กลับมาพร้อมตะกร้าเต็มไปด้วยผ้าอ้อม แป้ง กระติกใส่ขวดนม หลังจากซูกัสเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกแล้ว เสียงร้องไห้ก็ยังไม่หยุด เด็กขี้แยก็ถูกขวดนมยัดใส่ปากเสียงงอแงจึงเงียบไป เขาตั้งอกตังใจดูดนมอย่างเอร็ดอร่อย คุณหมอลูบหัวลูกชายเบาๆ อย่างเอ็นดูโดยมีพี่กุ้งลอบมองอยู่ใกล้ๆ ซูกัสกล่อมเด็กอยู่พักใหญ่กว่าชิฟฟ่อนจะหลับลงได้ในที่สุด ผมมองสองคุณพ่อช่วยกันเลี้ยงลูกดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูดี แม้จะค่อนข้างวุ่นวายไปหน่อยก็เถอะ

   สี่ทุ่มกว่า คุณอิฐขับรถมาที่บ้านด้วยหน้าตาแตกตื่นเมื่อเห็นทั้งหมอและซูกัสโผล่มาโดยมิได้นัดหมาย เขาคงไม่นึกไม่ฝันว่าแผนที่ตัวเองวางไว้ดิบดีจะสร้างความวุ่นวายในภายหลังอย่างนี้

   “ดึกป่านนี้แล้ว หมอกับซูกัสมาทำอะไรที่นี่เหรอ?” คำถามโง่ๆ ของลุงแกทำให้แอบกลอกตา ไม่รู้จะเครียดหรือจะขำดี!

   “กัสมาเยี่ยมแม็กม่าน่ะ เพราะตั้งแต่ผลเลือดออกมาว่าท้องก็ยังไม่ได้เจอกันเลย กัสเพิ่งกลับจากบ้านแม่พอดีไหนๆ ผ่านทางเลยแวะมาดูซะหน่อย” ซูกัสตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ซึ่งถ้าหากไม่รู้จักกันมานานอาจจะจับไม่ได้ก็ได้ว่าเสียงนั้นติดไม่พอใจอยู่บางส่วน

   “อ๋อ... เหรอครับ” คุณอิฐรับคำหน้าเจื่อนเนียนเดินมายืนข้างๆ ผม

   “คุณอิฐนี่ขยันจังนะครับ ป่านนี้แล้วเพิ่งจะกลับ”

   “ช่วงนี้ที่บริษัทค่อนข้างยุ่งน่ะ มีอะไรต้องเคลียร์เยอะเลย”

   “งั้นเหรอครับ แต่ถึงจะยุ่งยังไง มันก็ต้องแบ่งเวลาให้เป็นนะครับ งานน่ะจะมาสำคัญมากกว่าครอบครัวไม่ได้หรอก” ซูกัสตำหนิอย่างโจ่งแจ้ง

   “เอ่อ..นั่นสินะ” คุณอิฐรับคำหน้าเสีย พอแกหันไปขอความช่วยเหลือจากหมอ อีกฝ่ายก็เบือนหน้าหนี ก็คงต้องอย่างงั้นแหละครับ ดูก็รู้ว่าหมอน่ะกลัวเมียขนาดไหน คงไม่กล้าอ้าปากงัดข้อกับซูกัสเพื่อช่วยคุณอิฐหรอก!

   เอ.. แต่จะว่าไป คุณอิฐยังอยู่ในชุดทำงานคือเสื้อเชิ้ตและใส่สูทเต็มยศขนาดนี้คงเพิ่งกลับจากที่ทำงานจริงๆ นะเนี่ย

   ผมล่ะสงสารลุงแกจริงๆ นะครับ เล่นโดนเด็กถอนหงอกขนาดนี้น่ะ! นอกจากเหนื่อยเรื่องงานแล้วยังต้องมาโดนซูกัสเล่นงานเอาอีกคงปวดหัวใช่เล่น ผมคงต้องออกโรงช่วยแกซะหน่อยแล้วล่ะ!

   ไวเท่าความคิด...ผมรีบหันไปหาคุณอิฐทำทีเป็นช่วยถอดเสื้อนอกออกให้เพื่อขัดบรรยากาศมาคุที่ซูกัสกำลังหาเรื่องขย้ำเหยื่ออย่างไร้ความปรานีนั่น แล้วอีกฝ่ายก็ยอมถอดเสื้อออกด้วยสายตาที่ค่อนข้างประหลาดใจในที

   “พี่กุ้ง...” ผมเรียกแล้วส่งเสื้อนอกคุณอิฐให้เธอไปเก็บทันที แล้วหันไปรินน้ำเย็นแล้วยื่นส่งให้ พยายามคิดว่าตัวเองเป็นดาราเจ้าบทบาทที่จะต้องเล่นละครบทนี้ให้สมจริงที่สุด

   “ขอบใจ” เขาบอกเมื่อรับแก้วน้ำใส่มือแล้วจิบทันทีตามมารยาท

   “กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าซะก่อนดีกว่านะครับ” ผมบอกเขาอย่างนุ่มนวลเอาใจ แต่เขาเบิกตากว้างขึ้นทันที ไม่รับมุก!

   “อ้าวแม็ก... เดี๋ยวสิ เรามีเรื่องจะคุยกับคุณอิฐนะ” ซูกัสทักท้วงรีบหันไปฝากลูกไว้ที่หมอ แต่ผมไม่ใส่ใจดึงมือคุณอิฐไปที่บันได

   “คุยอะไรกันป่านนี้ ดึกแล้ว คุณอิฐเค้าทำงานมาเหนื่อยๆ ควรจะพักผ่อน หมอก็เหมือนกัน ไหนจะลูกอีก ไม่รู้จะพากันมาลำบากทำไม” ผมหันไปบ่นซูกัสยาวยืดจนเขาเบ้หน้างอน แล้วหันไปทำเสียงอ่อนเสียงหวานใส่คุณอิฐที่ยืนค้างอยู่บนขั้นบันได

   “ไปอาบน้ำเถอะครับ เสร็จแล้วค่อยลงมา คุณคงยังไม่ได้ทานมื้อเย็นมาใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมเข้าไปดูในครัวให้นะว่ามีอะไรเหลือหรือเปล่า”

   “ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก” เขารีบห้ามทันทีด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

   “จะตั้งโต๊ะรอนะครับ” ผมสรุปพร้อมรอยยิ้มหวานทั้งรุนหลังบังคับให้เขาให้เดินขึ้นบ้านไปจนได้

   “แม็ก!!” ซูกัสตะโกนจนผมแสบแก้วหูเมื่อหันมาหา ผมถอนใจทำหน้ารำคาญตามปกติ

   “กลับไปเหอะ ไว้ค่อยคุยวันหลังก็ได้” ผมไล่ซูกัสทันทีด้วยเสียงเย็นชา ซูกัสเหมือนไม่พอใจเบะหน้าเคียดขมึงตึงแต่ผมทำเป็นไม่สน

   “กลับเถอะซูกัส ก็จริงของแม็กเค้า ไหนๆ อิฐก็กลับมาแล้ว ให้เค้าดูแลกันเองเถอะ เราอย่าไปยุ่งเลย” หมอได้พูดเอาตอนนี้ เดินมาดึงแขนซูกัสที่มีท่าทีกระฟัดกระเฟียดที่ไม่ได้ดั่งใจ

   แง...แง้... และแล้ว ดุจเสียงสวรรค์เมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาแผดเสียงขึ้นเสียก่อน

   “กลับกันเถอะกัส ลูกจะได้นอนซะที” คราวนี้ซูกัสชะงักไป

   “กลับก็ได้..” เขาบอกอย่างไม่เต็มใจนัก พร้อมหันมามองด้วยสายตาคาดโทษ

   หลังจากผมเดินออกไปส่งหมอกับซูกัสที่รถก็เดินกลับมาในบ้าน คุณอิฐยืนเกาะราวบันไดด้วยสายตาหวาดระแวง ดูแล้วน่าขันพิลึก!

   “กลับกันไปแล้วครับ” ผมบอกให้เขาสบายใจ

   “ขอบใจนะที่ช่วย ไม่งั้นคงโดนถล่มเละ”

   “มันเป็นหน้าที่ของผมนี่ครับ จ้างผมมาแพงขนาดนั้น ผมไม่ทำงานเสียหรอก” ผมตอบเรียบๆ ยืนยันคุณภาพตัวเองอย่างแข็งขัน

   “อืม... งั้นฉันจะกลับแล้วนะ”

   “อย่าเพิ่งสิครับ อยู่ทานข้าวก่อนก็ได้ ผมให้พี่กุ้งไปอุ่นกับข้าวให้แล้ว รองท้องซะหน่อยดีกว่าคุณคงยังไม่ได้กินอะไรมาจริงๆ ใช่ไหม?”

   “ไม่ต้องหรอก ไม่รบกวนดีกว่า”

   “ไม่รบกวนหรอกครับ ทานเถอะ กินข้าวบ้านผมมื้อเดียว ผมไม่คิดค่าจ้างเพิ่มหรอกน่า” ผมบอกเขายิ้มๆ ทำให้อีกฝ่ายชะงักไป นิ่งคิดเป็นครู่กว่าจะพยักหน้าตกลง

   โธ่ลุง.... แค่ทานข้าวแค่นี้ คิดอะไรให้มันเยอะแยะไปได้!



   ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ดี คุณอิฐก็พาผมไปตรวจครรภ์ที่คลินิกคุณหมอ คราวนี้ผมไม่สามารถช่วยคุณอิฐเหมือนอย่างคราวที่แล้วได้อีก

   “คุณอิฐไม่ควรจะปล่อยให้แม็กอยู่บ้านกับพี่กุ้งสองคนหรอกนะครับ เพราะว่าพี่กุ้งขับรถไม่เป็น ถ้ามีอะไรฉุกเฉินขึ้นมาจะลำบาก บ้านก็อยู่ซะท้ายหมู่บ้าน จะออกมาเรียกแท็กซี่บางทีก็ไม่รู้จะได้ไหม” คราวนี้เหตุผลของซูกัสค่อนข้างหนักเสียจนคนฟังนิ่งอั้น

   “หมอเห็นด้วยนะ” แม้แต่หมอว่านยังเห็นดีเห็นงามไปด้วย

   “ถ้าไม่ให้อยู่บ้านแล้วจะให้ไปอยู่ไหน” คุณอิฐถามกลับมาเหมือนนึกอะไรไม่ออกแล้ว

   “ก็ให้แม็กไปอยู่บ้านคุณอิฐสิครับ จะได้มีคนดูแล”

   “ฮะ!!” คราวนี้ผมกับคุณอิฐร้องออกมาเกือบจะพร้อมๆ กัน

   “ไม่เอาอ่ะ แม่คุณอิฐเค้าคงไม่ชอบเราแหงๆ” ผมรีบคัดค้านออกมาทันทีตามความรู้สึกจริง

   “ถึงขนาดมีลูกด้วยกัน ไม่ชอบก็ต้องชอบ ถึงไม่รักสะใภ้แต่จะเกลียดหลานไปด้วยได้ยังไง” ซูกัสออกความเห็นสีหน้าจริงจัง

   ผมหันไปมองหน้าคุณอิฐเหมือนจะปรึกษา ฝ่ายนั้นก็ค่อนข้างลำบากใจ

   “ถ้าไปอยู่บ้านคุณอิฐไม่ได้ จะมาอยู่กัสแทนก็ได้นะ” ข้อเสนอใหม่นั้นทำให้ทุกคนต่างมองคนพูดเป็นสายตาเดียว

   “ไม่ต้องห่วงนะ กัสจะดูแลแม็กให้เป็นอย่างดีเลย ถ้าคลอดเมื่อไรก็จะรับเลี้ยงเป็นลูกไปจนโตเลยด้วย คุณอิฐไม่ต้องมาขอคืนนะ” ซูกัสเอ่ยกระชด

   “อ้าว... จะทำงั้นได้ซูกัส นั่นลูกพี่นะ” คุณอิฐรีบท้วง

   “ลูกคุณอิฐ แต่ตอนนี้อยู่ในท้องเพื่อนผมนี่ครับ ถ้าคิดจะเป็นพ่อแล้วให้มาแค่น้ำเชื้อน่ะใครๆ ก็ทำได้ หมอที่ทั้งผสมเทียมให้แถมดูแลตลอดรวมทำคลอดเหนื่อยกว่าเป็นพันเท่า คงเป็นยิ่งกว่าพ่อแม่เค้าเสียอีก หรือจะเถียงล่ะ?” 

   “จริง! หมอเห็นด้วยนะ ถ้าคิดอยากจะมีลูก แล้วปล่อยเค้าตามมีตามเกิด หมอว่ามันก็ไม่ถูกต้อง อย่างน้อย... ก็ควรดูแลเขาให้ถึงที่สุด ทั้งแม่ทั้งลูกนะ”

   โอ๊ย... คุณอิฐน่าสงสารมากครับ! คราวนี้โดนทั้งซูกัสทั้งหมอรวมหัวกันเล่นงานไม่ได้ผุดได้เกิดแล้ว

   “ก็ได้!! เอางั้นก็ได้” ในที่สุด คุณอิฐก็หาทางเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมจำนนในที่สุด... ส่วนผมก็ร้อนๆ หนาวๆ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะต้องย้ายสาขาไปทำงานที่อื่น จะเป็นยังไงถ้าผมเข้ากับหัวหน้างานคนใหม่ไม่ได้ล่ะฮึ!!



 
   ภายหลังจากซูกัสบงการคุณอิฐได้สมใจอยาก ซูกัสก็ชวนผมกลับไปด้วยกัน เขากำลังจะไปบ้าน เพื่อเอานมแม่แช่แข็งที่รับบริจาคมาไปเพิ่มเติม และสลับเด็กอีกคนกลับมาเลี้ยงเอง

   “กัส... ไม่น่าทำอย่างงี้เลยอ่ะ ถ้าแม่คุณอิฐเค้ารังเกียจเรา คงอึดอัดน่าดู” ผมบ่นอย่างกังวลจริงจัง ขณะที่อุ้มชิฟฟ่อนในอ้อมแขนในระหว่างที่ซูกัสขับรถ 

   “เกลียดให้ตายก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ลองมีหลานเค้าอยู่ทั้งคน คุณอิฐเค้าไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ ถ้ามีแฟนเป็นผู้ชายแล้วมีหลานให้ได้มีเหรอจะกล้าเกลียดลงคอ ผู้ใหญ่เค้าชอบเด็กว่านอนสอนง่าย เข้าไปแล้วก็เอาอกเอาใจท่านซะหน่อย ขี้คร้านจะหลงรักเรา แต่ถ้าเข้าไปแล้วโดนใครรังแกขึ้นมาก็มาบอก กัสจะช่วยแม็ก”

   “จะช่วยยังไง”

   “พาลูกหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด!”

   “ฮะ!!”

   “ถ้าคุณอิฐเค้ารักเราก็ให้เค้าตามมา แต่ถ้าไม่ก็อย่าไปแคร์ แค่หลานคนเดียวน่ะ กัสจะเลี้ยงให้จนโตเลย” ซูกัสบอกผมด้วยน้ำเสียงขึงขังจริงจัง ที่ฟังแล้วรู้ว่าไม่ได้พูดเล่นเลย

   ผมเดาออกทันทีเลยว่า ถ้าความลับเรื่องที่ผมกับคุณอิฐไม่ได้เป็นคนรักกันแตกขึ้นมาเมื่อไร ซูกัสคงอาละวาดใส่คุณอิฐแน่ และหลังจากเทศนาผมไปหลายกัณฑ์ที่โกหก เขาคงจับผมไปขังไว้ที่ไหนสักแห่งแล้วรอจนเด็กคลอด จากนั้นก็ให้ผมเลี้ยงเด็กคนนั้นไปตามลำพังโดยไม่มีวันให้พบหน้าคุณอิฐตลอดชีวิตแน่!

   “สบายใจได้เลยนะแม็ก ถึงยังไงกัสไม่ทิ้งแม็กหรอก” เขาให้คำสัญญาที่ให้ผมใจชื้น ผมรู้มานานแล้วล่ะว่าถึงซูกัสจะเป็นเพื่อนที่น่ารำคาญในบางเรื่อง แต่เขาก็พึ่งพาได้มากที่สุด

   ถ้าตัดความน่าอิจฉาทั้งหมดทั้งมวลทิ้งไป ผมก็โชคดีที่สุดในโลกแล้วล่ะที่มีเพื่อนอย่างเขา...

   “ขอบใจนะกัส”  ขอบคุณจริงๆ

   
+++++++++

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาแล้ว มาแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:

ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับผม :hao3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คุณอิฐโดนซะเละเลย...

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
เค้ารางความยุ่งเหยิง

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตามค่ะ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-9-

   -อิฐ-

   ผมถอนใจครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้เมื่อพาแม็กม่ามาที่บ้านตัวเอง และเมื่อผมเดินเข้ามาก็เห็นคุณแม่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ในห้องรับแขก คงเพราะคนรับใช้วิ่งแร่เข้ามาบอกว่าผมพา “ผู้ชาย” เข้าบ้าน ท่านปรายตามายังเราสองคนอย่างไม่พอใจ เพราะสายตารังเกียจเดียดฉันอย่างนี้ บีทจึงเกลียดที่นี่และไม่ยอมย่างเหยียบมาหลายปีดีดัก และตัวผมเองก็คิดว่าการกันเขาและแม่ออกจากกันคงเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

   แต่ลงท้าย ผมกลับต้องพาคนอื่นมางั้นเหรอ? แม็กม่าไม่ใช่คนรักของผมด้วยซ้ำ ถึงแม้ในท้องของเขาจะมีลูกของผมอยู่ก็เถอะ! ผมเริ่มรู้สึกหนักใจที่เรื่องราวมันบานปลายได้ถึงขนาดนี้

   “นี่แกกล้าดียังไง ถึงเอาเมียผู้ชายของแกเข้าบ้านฮึ!! ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้อนรับ!!” คุณแม่โวยวาย หายใจแรงดั่งคนโกรธจัด ผมหน้าเสียถอนใจเฮือก

   “แม่ครับ...ใจเย็นๆก่อนครับ คือว่า...” ผมกำลังนึกคำพูดดีๆ ที่จะใช้อธิบายให้ท่านฟัง ระหว่างนั้นคนข้างกายก็เดินนำไปเสียก่อนทำให้ผมหยุดพูดแล้วหันไปสนใจเขาแทน แม็กม่าชิงนั่งลงที่พื้นหินอ่อนแล้วหมอบกราบลงไปในนาทีถัดมา

   ผมค่อนข้างตกใจที่เขาทำเช่นนั้นทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย ผมยังจำตอนที่พาบีทมาที่นี่ครั้งแรก(และครั้งเดียวได้)ว่าเขาค่อนข้างโกรธคุณแม่ แค่ไหว้ท่านลวกๆ แล้วรีบขอตัวกลับ... ส่วนคุณแม่ก็มีสีหน้าตกใจเช่นกันแต่ก็ยังพยายามรักษาฟอร์มด้วยการเบือนหน้าหนีภาพนั้นไป

   “คุณป้าครับ โปรดอย่าต่อว่าคุณอิฐเลยนะครับ ความจริงแล้ว... เขาคงไม่ได้ชอบพออะไรผมนักหรอก เพียงแต่ตอนนี้ ผมกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ และมันคงไม่ดีถ้าหากจะปล่อยผมทิ้งๆ ขว้างๆ ตามลำพัง จึงพาผมมาพึ่งใบบุญคุณป้าเท่านั้น ถ้าหากคลอดลูกคนนี้อย่างแข็งแรงปลอดภัยเมื่อไร ผมก็จะไปทันที” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเจียมเนื้อเจียมตัวเต็มที่ซึ่งทำให้ผมอดทึ่งไม่ได้ จะว่าไปแล้วเรื่องที่เขาพูดนั้นล้วนเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหกเลยสักอย่าง เพียงแต่ไม่ได้ขยายความโดยละเอียดเท่านั้นเอง

   “อะไรนะ!!” คุณแม่ถามพร้อมคิ้วที่ขมวดมุ่น เงยหน้าขึ้นมองผมที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม “ท้งท้องอะไรกัน... เมียแกมันเสียสติไปแล้วหรือไง ถึงคิดว่าตัวเองจะท้องได้!! เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ?” คุณแม่ประชดประชันต่อไปอีก

   “ครับ ผู้ชาย แต่บังเอิญท้องได้” ผมเป็นคนตอบแล้วเดินเข้าไปหาท่านยื่นใบรับรองแพทย์จากคลินิกให้ “นี่ผลตรวจครับ ถ้าแม่ไม่เชื่อจะโทรถามหมอว่านก็ได้นะครับ หมอเองนั่นแหละที่แนะนำว่าคนท้องไม่ควรจะอยู่บ้านคนเดียว ผมถึงต้องพาแม็กมาขออยู่ที่นี่” คุณแม่มีท่าทีสับสนไม่รู้จะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี และเมื่อได้ฟังคำท้าทายนั่นท่านก็ไม่รอช้ารีบเรียกคนรับใช้มาทันที

   “ฟอง... ไหนมานี่ซิ โทรหาหมอว่านเดี๋ยวนี้เลย ฉันอยากรู้นักว่านี่มันเรื่องแหกตาอะไรกัน” คุณแม่บอกแล้วหยิบมือถือให้คนรับใช้ และรีบรับกลับมาทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย

   “หมอว่านเหรอลูก เมื่อกี้เจ้าอิฐพาเมียมันมา แล้วมาโกหกว่าเมียมันท้องได้!! ซ้ำยังท้าให้แม่โทรหาหมออีก........................ อะไรนะหมอ นี่หมอก็พลอยเป็นไปกับเขาอีกคนหรือไง? .......................... โอ๊ย... ฉันจะเป็นลม”

    หลังจากนั้นคุณแม่ก็เอามือกุมขมับเอนตัวเหมือนคนหน้ามืด

   “คุณแม่!!” ผมรีบเดินเข้าไปประคอง พร้อมสั่งคนรับใช้ให้ไปเอายาดมมาให้ กว่าจะหาทางแก้ไขให้คุณแม่อาการดีขึ้นก็พักใหญ่

   แต่แม่ก็ยังไม่ยอมเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ สั่งทิ้งท้ายไว้ว่าพรุ่งนี้จะพาแม็กม่าไปตรวจอัลตร้าซาวด์เพื่อความมั่นใจว่าไม่โดนหลอกแน่ๆ ผมรับปากรับคำไป  หลังจากนั้นคุณแม่จึงยอมอนุญาตให้แม็กม่าพักอยู่ที่นี่ได้ชั่วคราว

   
   ผมสั่งคนรับใช้ให้นำกระเป๋าของแม็กม่าขึ้นไปเก็บไว้ที่ห้องของผม รอจนประตูห้องนอนปิดลงแล้วจึงเอ่ยขึ้น

   “เอ่อ... คืนนี้คงต้องอยู่ห้องนี้ไปก่อน ถ้าจะย้ายห้องหรือยังไง พรุ่งนี้ค่อยว่ากันนะ”

   “ถ้าแยกห้องกัน แม่คุณจะไม่สงสัยเหรอครับ”

   นั่นสินะ ผมคิดแล้วทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย

   “ผมเสียใจนะครับถ้าทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว แต่ผมจะพยายามทำเหมือนไม่มีตัวตนให้มากที่สุดก็แล้วกันนะครับ...”

   “เธอจะทำอย่างงั้นได้ไง เธอไม่ใช่ผีซะหน่อย” ผมตอบเขาแล้วส่ายหน้าอย่างขบขัน หันไปปลอบ “วางใจเถอะ เธออยู่ที่นี่ได้ตามสบายเลย ปกติแล้วฉันก็ไม่ค่อยกลับบ้านหรอก” เพราะบางครั้งเลิกงานดึกและบ้านอยู่ไกล ไปค้างห้องบีทง่ายกว่ากันเยอะ

   “อ้อ นั่นสินะครับ ผมก็ลืมไป” อีกฝ่ายอุทานออกมาทันทีพร้อมคำพูดที่เหมือนรู้ทัน คำพูดที่เปรยขึ้นลอยๆ พร้อมยิ้มที่มุมปากทำให้คิ้วของผมขมวด

   “ยิ้มอะไร?”

   “เปล่าครับ” เขาปฏิเสธทันทีทั้งที่หน้ายังยิ้มอยู่ ผมขัดใจเล็กน้อยแต่ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดจึงพูดต่อ

   “เธอคงต้องอยู่คนเดียวไปก่อนนะ ถ้าคุณแม่ท่านอ่อนลงกว่านี้ เดี๋ยวจะให้กุ้งตามมาดูแลทีหลัง”

   “ที่จริงไม่ต้องก็ได้นะครับ คุณแม่คุณคงไม่ใช้ให้ผมทำงานหนักอะไรนักหรอก”

   “ก็เผื่อว่าเข้ากับใครไม่ได้ ก็ยังมีเพื่อนไง...”

   “ขอบคุณนะครับ ผมยังไงก็ได้” เขาตอบแล้วเดินไปนั่งลงที่เตียง

   “ถึงแม้ว่าการที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่จะนอกเหนือจากที่เราเคยคุยกันไว้ แต่ถึงยังไงฉันก็อยากให้เธอทำดีกับแม่ของฉันนะ ท่านอาจจะดุหรือปากร้ายไปบ้างแต่ความจริงท่านเป็นคนใจดีมาก”

   “ครับ ผมทราบ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่มีสิทธิ์เลิกจ้างผมแล้วก็ตาม แต่แม่ของคุณก็เหมือนเจ้านายอีกคนของผมนั่นแหละ จะให้ก้าวร้าวใส่ได้ยังไงล่ะ” คำตอบนั้นฟังสะดุดหูขึ้นมาทีเดียว แต่คงเพราะเขาคิดอย่างนี้ เขาถึงแสดงออกกับคุณแม่อย่างนอบน้อม ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี!

   “ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างงั้นนะ งั้นเธอจัดของตามสบายนะ ฉันจะกลับไปที่บริษัทอีกรอบ เดี๋ยวจะกลับมาให้ทันมื้อเย็นก็แล้วกัน” 

   “ครับ...”

   
   หลังจากนั้นผมก็ออกมาทำงานตามปกติ โดยพยายามมองนาฬิกาบ่อยๆ เพราะอยากจะกลับไปให้ทันมื้อเย็นตอนทุ่มนึงตามที่สัญญาไว้ หากแต่แผนการกลับล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อบีทโผล่มาเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ยังไม่หกโมงเย็น

   “กลับมาแล้วเหรอ?” ผมเอ่ยขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งนั่นเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์

   บีททำงานเป็นไกด์ทัวร์ให้บริษัท เขาต้องบินไปต่างประเทศตลอด บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่เขาไม่อยากท้องหรือมีลูกเพราะเขาคงต้องออกจากงานทั้งๆ ที่เขาชอบมันมาก และรอบนี้ก็หายไปเป็นสัปดาห์ ไม่นึกเลยว่าจะกลับมาเอาวันนี้

   “กลัวอิฐจะคิดถึงไงก็เลยรีบกลับมา” เขาตอบแล้วเดินยิ้มเข้ามากอดคอผมไว้

   “น่าจะโทรมาบอกกันก่อน” ผมบอกเขา แม้จะดีใจที่เจอหน้าแต่ก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้

   “ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ” เขาตอบยิ้มๆ ส่งมือขาวยื่นไปปิดแฟ้มงานที่ผมเปิดค้างไว้ปิดลงอย่างนุ่มนวล

   “พอเถอะ หมดเวลาทำงานแล้ว... กินข้าวกันดีกว่า” เขาชักชวนเชิงสั่ง

   “เอ่อ... วันนี้อิฐบอกแม่ไว้แล้วว่ากลับไปกินข้าวบ้านน่ะ” ผมบอกด้วยเสียงแสดงความเกรงใจ

   “หือ... เนื่องในโอกาสอะไร วันสำคัญอะไรเหรอ?”

   “เปล่า... แค่สัญญาไว้”

   “งั้นก็โทรไปแคนเซิลสิ นี่บีทอยู่ไม่กี่วันนะ เดี๋ยวก็ต้องไปอีกแล้ว”

   เขาทำเสียงอ้อน ส่วนผมทำหน้าลำบากใจ

   “จะไม่ไปจริงใช่ไหม? งั้นก็ช่างเถอะ ถึงอิฐไม่ไป บีทก็มีคิวสองคิวสามอยากไปด้วยอยู่ดี ไม่ต้องห่วง” เขายืดตัวตรงแล้วขยับตัวออกห่างทันที สีหน้าแสดงว่าไม่พอใจ

   “โธ่บีท... อย่างอนสิ”

   “ไม่ได้งอนนะ พูดจริง...” ผมถอนใจหนึ่งเฮือก...

   “โอเคครับ เดี๋ยวอิฐโทรบอกที่บ้านก่อนแล้วกันนะ แล้วจะตามไป” ผมตกลงอย่างเสียไม่ได้ ยื่นมือไปแตะแขนเขาเป็นเชิงง้อ ฝ่ายนั้นจึงคลายสีหน้าบึ้งตึงลง

   “ได้... งั้นบีทเดินไปรอหน้าลิฟท์นะ” เขาบอกแล้วก้มลงมาหอมแก้มผมก่อนจะเดินไปที่ประตู

   ผมจึงหยิบมือถือมาต่อสายหาแม็กม่าทันที

   “เอ่อ... ฝากบอกคุณแม่ให้ทีว่าวันนี้ฉันคงไม่ได้กลับไปทานข้าวเย็นนะ”

   “ฮะ!! คุณจะให้ผมกินข้าวกับแม่คุณตามลำพังเหรอ?”

   “ก็คงต้องอย่างงั้น”

   “คุณอิฐ... คุณก็รู้ว่าแม่คุณเค้าไม่ชอบขี้หน้าผม”

   “ขอโทษ… แต่ฉันติดธุระจริงๆ นะ เอาน่า ยังไงจะรีบกลับก็แล้วกัน”

   “ครับ...” อีกฝ่ายรับคำไม่เต็มเสียงนัก ผมชิงตัดสายไป



   ลงท้ายแล้ว ผมไม่ได้กลับบ้าน เนื่องด้วยหลังจากดินเนอร์แล้วบีทก็ชวนผมไปค้างด้วย และผมปฏิเสธไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง สุดท้ายแล้วได้ออกจากคอนโดหรูของบีทในตอนเช้าตรู่

   “อิฐ... ยังเช้าอยู่เลย คุณจะรีบไปไหนน่ะ?” เขาทักถามทั้งที่ตัวเขายังหมกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาบนเตียงกว้าง

   “กลับบ้านน่ะ” ผมตอบขณะแต่งตัวรีบๆ

   “ใจเย็นๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลย คุณน่ะสามสิบกว่าแล้วนะ หายไปคืนเดียว แม่คุณคงไม่แจ้งความว่าคนหายหรอก” เขาบอกแล้วหัวเราะ

   “พอดีแม่เค้าจะให้พาไปส่งทำธุระน่ะ”

   “พูดยังกับว่าที่บ้านไม่มีคนขับรถอย่างงั้นแหละ” บีทเอ่ยอย่างรู้ทัน

   “แม่ผมเค้าคงอยากอ้อนลูกชายบ้างล่ะมั้ง กลัวจะรักคนอื่นมากกว่า” ผมตอบอย่างประจบประแจงโน้มตัวลงหอมแก้มเขาฟอดหนึ่ง

   “อาจจะเป็นอย่างงั้นก็ได้”

   

   “นี่แกรักเมียแกจริงหรือเปล่าเนี่ย พามาอยู่บ้านแท้ๆ แต่ตัวกลับไม่กลับบ้าน” เสียงแม่ค่อนขอดทันทีที่เจอหน้า ทั้งแม่และแม็กม่าแต่งตัวเรียบร้อยพร้อมจะออกจากบ้านแล้วเมื่อผมไปถึง

   “ผมติดงานน่ะครับแม่...” ผมโกหกคำโตแล้วเดินไปยืนข้างแม็กม่า

   “เอาเถอะ ไปอาบน้ำได้แล้ว รอแกอยู่คนเดียว”

   “ไปเลยก็ได้ครับ... ผมอาบมาแล้ว”

   “ที่บริษัทมีห้องอาบน้ำด้วยเหรอเนี่ย ฉันเพิ่งจะรู้...”  ผมชะงักไปเพราะลืมตัว แม่มองกลับด้วยสายตาตำหนิ คงเพราะจับ
โกหกผมได้

   “งั้นก็ไปเลย.. เสียเวลามานานแล้ว” แม่พูดด้วยเสียงรำคาญแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปก่อน ส่วนผมหันไปยังร่างแม็กม่าที่ยืนฟังเพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าหากแม่จับโกหกผมได้ แม็กม่าที่เคยทำงานที่บริษัทผมมาก่อนก็ต้องจับได้เช่นกัน...

   “ฉันขอโทษนะที่ทิ้งเธอไว้ลำพัง” ผมกระซิบบอกอย่างรู้สึกผิด แม้เขาจะไม่ใช่คนรักจริงๆ ของผม แต่การที่ปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับแม่เพียงคนเดียวคงทำให้ลำบากใจไม่น้อยทีเดียว

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมก็ชิน” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชา ก่อนจะเมินหน้าแล้วเดินตามแม่ผมออกไป

   แปลกนะทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้ต่อว่าอะไรเลยสักคำ แต่ทำไมรู้สึกผิดชะมัดเลย...

   
++++++++++

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้ออ.  สงสารแมกม่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดีแล้วล่ะแมกม่า ถ้าจะให้ดีกว่านี้ก็อย่าหวั่นไหวเชียวนะไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต ไม่งั้นนายเจ็บแน่
เตือนตัวเองบ่อย ๆ ว่าเป็นคุณแม่รับจ้างน่ะ จะได้ไม่ลืมตัว

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เริ่มต้มมาม่า แมกม่าสู้ๆ :mew1:

ออฟไลน์ zafiarest

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
พระเอกอย่างนี้เป็นพระเอกได้ยังไง

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
ง่ะ สงสารแม็กม่าอะ ให้แม็กม่าเป็นคนโปรดคุณแม่ไปเลยนะ แล้วให้ตัดอิฐออกจากกองมรดกไปเลยนะ

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
....คุณแม่เปลี่ยนลูเป็นแม็กม่าเถอะครับ

เกรียดลุงอิฐ แต่เกรียดบีทยิ่งกว่า

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ขอให้นางเจอคนที่ดีเข้าสักวัน ไม่ก้อสร้างตราบาปให้อีกคนไปเลย

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารแม็กจัง แต่ก็อย่างว่าแหละ คนมันไม่ได้รักกัน จะให้อิฐมาใส่ใจดูแลตั้งแต่แรกก็แปลกไปหน่อย  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-10-

   -อิฐ-
   
   หลังจากเห็นภาพอัลตราซาวด์ชัดๆ กับตาตัวเองว่ามีทารกอยู่ในครรภ์ของแม็กม่าแล้วแม่ก็หมดคำโต้เถียง ความเงียบนั้นทำให้ผมเดาอารมณ์แม่ไม่ถูก แต่ขณะที่ขับรถแล้วลอบมองกระจกส่องหลังเห็นท่านถือภาพอัลตร้าซาวด์แล้วคอยก้มดูอยู่บ่อยๆ ทำให้พอจะคิดในแง่ดีว่าท่านคงดีใจที่มีหลานเอามากๆ เลยล่ะ แต่พยายามเก็บอาการไว้

   ผมขับรถพาเราทั้งหมดกลับมาที่บ้าน คุณแม่แยกตัวเดินหนีไปทันทีโดยไม่พูดอะไร ผมจึงเป็นฝ่ายเริ่มถามเสียเอง

   “เอ่อ แม่ครับ คงยอมให้แม็กพักอยู่ที่นี่แล้วใช่ไหมครับ?” ท่านชะงักเท้าแล้วหันมาหาผมที่หน้าประตูบ้าน

   “ถ้าไม่ยอม... ฉันคงตะเพิดไปนานแล้วล่ะ” แม่ตอบแบบยังวางฟอร์มไม่เลิก แต่นั่นทำให้ผมยิ้มออก

   “แสดงว่า ถ้าผมมีลูกได้โดยไม่ต้องแต่งงานกับผู้หญิง แม่ก็จะยอมรับสะใภ้ที่เป็นผู้ชายได้ใช่ไหมครับ” ผมถามอย่างคาดหวัง ถ้าหากแม็กม่ามีลูกให้ผมได้แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องทายาท ถึงจะคบกับบีท แม่ก็คงไม่ว่าแล้วสินะ

   “แม่น่ะยอมรับหลาน แต่กับคนอื่น...” คุณแม่ทิ้งช่วงแล้วปรายตามองไปยังแม็กม่าที่เดินออกมายืนเยื้องจากผมไป “ยังไม่แน่ใจ”

   “อ้าว... ไหงงั้นล่ะครับ”

   “เพราะว่าหลานน่ะเป็นลูกแก เป็นเลือดเนื้อเชื้อของบ้านเรา แม่จะใจดำตัดเขาได้ยังไง แต่กับคนอื่นถ้าคลอดลูกออกมาแล้วก็คือคนอื่น ไม่ใช่ว่ามีลูกแล้วจะดีเลิศขึ้นมาได้ ดีชั่ว...ก็อยู่ที่ตัวทำแล้วล่ะ” ผมถอนใจเศร้าๆ กับคำตอบของแม่

   “เอ่อ...งั้น ผมจะจ้างคนมาดูแลแม็กนะครับ”

   “จ้างมาทำไม เมียแกเป็นเจ้าเป็นนายหรือยังไง ถึงต้องหานางสนองพระโอษฐ์มาคอยรับใช้” ถ้อยคำจิกกัดของแม่ทำเอาผมแทบพูดไม่ออก...

   “มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”

   “ไม่ใช่ก็ไม่ต้องหา คนที่นี่ก็เยอะแยะ ไม่ปล่อยให้เมียแกอดข้าวหรอก ยกเว้นแต่เขาจะประท้วงไม่มากินเอง” แม่ถอนใจรำคาญแล้วชิงเดินหนีไป

   ผมถอนใจอีกเฮือกแล้วหันมาหาแม็กม่าที่มีสีหน้ากังวลไม่แพ้กัน

   “เอ่อ.. ฉันก็ยังยืนยันนะว่าแม่เป็นพวกปากร้ายแต่ใจดี ถ้าเธอทำตัวดีๆ เดี๋ยวแม่ก็คงใจอ่อนเองแหละ”

   “แล้วถ้าไม่ล่ะครับ?” คำถามมีแววเศร้าทั้งหน้าตาและน้ำเสียง

   “เธอจะต้องเครียดทำไม ทนอีกไม่กี่เดือน เธอก็ได้ออกจากที่นี่แล้ว” ผมเอ่ยปลอบไปโดยไม่คิดอะไร แต่ทำให้คนฟังชะงัก เม้มปาก ตามมาด้วยรอยยิ้มแปร่งๆ

   “นั่นสิครับ ผมก็ลืมไป ว่าพอคลอดลูกแล้วผมก็กลายเป็นคนอื่น” เขาเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กลับมานิ่งเรียบเฉยชาดุจเดิม ดั่งว่าคำพูดที่ทำให้ผมจุกนี่ไม่สามารถทำร้ายอะไรเขาได้เลย

   ผมยืนนิ่ง พยายามทบทวนตัวเอง คำพูดที่พูดออกไปโดยไม่ทันได้คิดมันแรงเกินไปหรือเปล่า? ถึงยังไงเราก็ยังต้องอยู่ร่วมชายคา ร่วมห้องกันไปอีกนาน อย่างน้อยผมควรจะแสดงความเสียใจสักนิด

   คิดได้ดังนั้น... ผมจึงเดินตามเขาขึ้นไปที่ห้อง มันคงเป็นที่เดียวที่เขาจะไปได้ในตอนนี้ และก็จริง ผมพบเขานอนคว่ำหน้าอยู่กับเตียง

   “แม็ก...” เสียงเรียกของผมทำให้เขาลุกขึ้นนั่ง ยกมือขึ้นเช็ดหน้ายุกยิกแต่ไม่ยอมหันมา จนผมต้องเป็นฝ่ายเดินอ้อมเตียงไปอีกด้านแทน  และก็เห็นสิ่งที่เขาพยายามซ่อนเอาไว้จนได้ มันคือรอยน้ำตาที่เขาพยายามเช็ดออกแต่ยังไม่หมด

   “มีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ?” คำถามที่ส่งกลับมาช่างไม่เข้ากับสถานการณ์เลยสักนิด แต่ทำไมก็ไม่รู้ผมถึงรู้สึกว่าในคำถามนั้น...มันหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ

   “เธอร้องไห้เหรอ?”

   “เปล่า... เอ้อ...ครับ” เขาปฏิเสธและตอบรับในวินาทีถัดมาคงเพราะถึงจะปฏิเสธว่าไม่ ก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก ลองหลักฐานคาตาซะขนาดนี้แล้ว!

   “ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

   “ขอโทษทำไมเหรอครับ คุณไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อยนี่ ที่คุณพูดมันก็ถูก”

   “อย่าประชดกันหน่อยเลยน่า...”

   “ผมไม่ได้ประชดหรอกครับ ผมพูดจริงๆ คนเราหนีความจริงไม่ได้หรอกครับ” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   “ถ้าเธอไม่โกรธ แล้วเธอร้องไห้ทำไม?”

   “ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าผมอยากร้องหรอกครับ คงเป็นเพราะร่างกายของผมมันเปลี่ยนไปต่างหาก คนท้องก็มักจะอารมณ์อ่อนไหวเป็นเรื่องปกติน่ะครับ ยิ่งวันนี้หมอฉีดฮอร์โมนอะไรให้ก็ไม่รู้ สงสัยจะไปกระตุ้นต่อมน้ำตาให้แตกง่ายกว่าปกติด้วยล่ะมั้ง คุณ... ไม่ต้องใส่ใจก็ได้”

   “งั้นเหรอ? ถ้าเธอโอเคฉันก็ดีใจนะ” ผมบอกสั้นๆ แล้วเดินเลี่ยงออกมา ทั้งที่ไม่เชื่อเลยสักนิด

   แต่ผมไม่ถนัดเรื่องปลอบคนนี่นา คงจะดีกว่าที่แกล้งโง่แล้วเชื่อว่าเขาพูดความจริง รอไปสักพักเขาก็คงอารมณ์ดีขึ้นเอง หรือไม่ก็อาจจะง้อทีหลัง

   เอ๊ะ! ทำไมต้องง้อล่ะ ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?

   ผมถอนใจอย่างสับสนเมื่อนึกถึงความจริงข้อนั้น

   แต่แล้วก็สะบัดไล่เรื่องพวกนั้นออกไปแล้วกลับไปที่บริษัทเพื่อสะสางงานที่ทำทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานอีก ในใจก็กังวลถึงเรื่องยุ่งยากที่จะตามมา ทั้งเรื่องแม่ ทั้งเรื่องบีท แล้วก็เรื่อง...

   บ้าจริง!! ตัวเองมานั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาไหลพรากซะขนาดนั้น แล้วมีหน้ามาบอกว่า “ ไม่ต้องใส่ใจ” งั้นเหรอ?

   หึ! จะไม่ใส่ใจ... ได้ยังไงล่ะ?

   “บอสคะ คุณบีทขอพบค่ะ” และแล้วเรื่องที่คิดไว้ก็หายไปเพราะประโยคนี้

   “ให้เข้ามาเลย”

   จะว่าไปแล้ว ผมควรจะบอกบีทได้ตั้งนานแล้ว เรื่องอุ้มบุญที่ว่านี่ แต่ที่ยังยืดเยื้อมาจนป่านนี้ก็เพราะเขาไม่ค่อยอยู่ การคบกับบีทดีตรงที่เขาเป็นคนอิสระ ไม่ค่อยจู้จี้วุ่นวาย ต้องการเวลาน้อย เขาเรียกร้องก็แค่เวลาที่เขากลับมาจากทำงานซึ่งกว่าจะเจอกันก็เป็นอาทิตย์ บางทีหายไปเป็นเดือน และเพราะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมีน้อย ผมจึงอยากใช้มันให้คุ้มค่าด้วยการ กิน เที่ยว ทำเรื่องที่มีความสุข มากกว่าจะผลาญมันไปกับการพูดเรื่องเครียดหรือทะเลาะกัน ผมถึงไม่ “กล้า” บอกเรื่องแม็กม่ากับลูกของผมให้บีทฟังสักที แต่ตอนนี้มันอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้

   ผมเงยหน้าขึ้นมองไปยังโซฟาชนิดปรับเป็นที่นอนได้ที่มุมห้อง ซึ่งบางครั้งผมใช้เป็นที่นอนบ้างเหมือนกัน ตอนนี้บีทนั่งอ่านนิตยสารเงียบๆ ระหว่างรอให้ผมทำงานเสร็จ แล้วเราจะได้ออกไปทานมื้อเย็นกันเช่นเคย

   “อิฐ...” จู่ๆ เขาก็เรียกโดยไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ

   “หือ...” ผมตอบรับทันทีและอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้น

   “เมื่อไรจะมีแพกเกจทัวร์ไปทตโทริอีก อยากไปอ่ะ”

   “แล้วตอนนี้ไม่มีเหรอ?”

   “ถ้ามีจะถามเหรอ?” ตอบกลับมาแล้วหัวเราะ

   “แล้วที่ทตโทริมันอะไรล่ะ ถึงอยากไป”

   “พิพิธภัณฑ์โคนัน”

   “ฮะ! แล้วจะมีคนอยากไปเหรอ?”

   “ไม่ลองก็ไม่รู้นะ คนไทยชอบโคนันก็มีเยอะไม่ใช่เหรอ ที่จริงที่อื่นที่น่าเที่ยวก็มีอีกหลายที่ อย่างทะเลทรายแห่งเดียวในญี่ปุ่น สวนดอกไม้ ถนนเกะเกะโนะคิทาโร่ แล้วก็มีอนเซนด้วย”

   “ก็ดูน่าสนนะ เอาไว้จะลองเสนอให้แล้วกัน”

   “ขอบใจ ยังไงถ้าผ่าน ก็ไปด้วยกันสิ” ความจริงแล้วบีทชวนผมไปเที่ยวบ่อยมาก แต่ทั้งๆ ที่ทำเกี่ยวกับบริษัททัวร์แท้ๆ แต่กลับไม่ค่อยไปเที่ยวไหนไกลๆ เพราะห่วงงาน

   “ถ้าว่างก็อยากไปนะ”

   “ถ้าอยากไปจริงๆ ทำไมจะไม่ว่าง แค่สี่ห้าวันเอง” น้ำเสียงออกอ้อนทำให้ผมไม่อยากปฏิเสธเลย ทั้งๆที่ใจก้คิดว่าคงยากที่จะได้ไป...

   “ครับ... เอาไว้ถึงตอนนั้นก่อนแล้วกันค่อยว่ากันอีกทีนะ”

   เขาพยักหน้าแบบไม่เต็มใจนักแล้วก้มลงอ่านนิตยสารในมือต่อ   

   “บีท...” ผมกลั้นใจเรียกเขา ผมอยากบอกรเองสำคัญที่ปกปิดไว้มานาน

   “หือ...”

   “ยังจำเรื่องที่อิฐเคยถามเรื่องมีลูกได้หรือเปล่า?”

   เขาฟังนิ่งๆ อยู่เชื่ออึดใจก่อนจะช้อนตาขึ้นมองหน้า

   “บีทอ่ะจำได้... อิฐต่างหากที่จำไม่ได้... บีทเคยบอกแล้วนี่ว่าห้ามพูดไร้สาระแบบนั้นอีก”

   “แต่อิฐไม่ได้จะให้บีทตั้งท้องให้ซะหน่อยนะ”

   “แล้วจะให้ใครท้อง?”

   “ก็คนอื่น...”

   “ไม่เอา” ตอบกลับทันทีโดยไม่ได้คิด

   “ทำไมอ่ะ?”

   “ไม่เห็นต้องถามเลยว่าทำไม ก็บีทไม่อยากให้อิฐรักคนอื่นมากกว่า”

   “คนอื่นที่ไหน นั่นลูกของเรานะ”

   “ลูกของอิฐคนเดียวไม่ใช่ลูกของบีทด้วยนี่!! ไม่รู้แหละ ยังไงบีทก็ไม่ยอม” เขายืนกรานเสียงแข็ง แล้วปิดหนังสือในมือแล้ววางลงข้างตัวก่อนจะลุกขึ้น ใบหน้าไม่บอกอารมณ์

   “อ้าว...แล้วจะไปไหน?”

   “กลับแล้ว ขี้เกียจคุย” 

   ผมถอนใจเฮือก ไม่ได้หนักใจว่าอีกฝ่ายจะโกรธนาน แต่รู้สึกเซ็งที่นี่เป็นอีกครั้งที่คุยเรื่องเดิมค้างๆ คาๆ ไว้ไม่จบสักที ลงท้ายแล้วผมก็ไม่กล้าบอกบีท แล้วมันจะเป็นยังไงนะถ้าสักวันบีทรู้เรื่องนี้ขึ้นมาเองโดยที่ผมไม่ได้บอก เขาจะยอมยกโทษและหายโกรธง่ายๆ ได้หรือเปล่า



   
   เพราะบีทงอนแล้วขอตัวกลับไปก่อนและผมไม่มีอารมณ์ทำงานต่อ วันนี้จึงกลับบ้านเร็ว จะว่าไปแล้วก็ดีเหมือนกันที่จะได้กลับไปทันมื้อเย็นหลังจากที่ผิดนัดไปแล้วเมื่อวาน

   “คุณแม็กล่ะ?” ผมถามคนรับใช้เมื่อเดินเข้าตัวบ้าน

   “อยู่ในห้องนั่งเล่นกับคุณผู้หญิงค่ะ”

   “ฮะ!”ผมค่อนข้างแปลกใจในคำตอบนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยื่นถุงผลไม้ที่ซื้อจากหน้าบริษัทให้คนรับใช้

   “เอาไปใส่จานแล้วเอามาให้ฉันที่ห้องนั่งเล่นก็แล้วกัน” ผมสั่ง ก่อนจะพาตัวเองเดินไปที่ห้องนั่งเล่น

   เสียงทีวีดังลั่นออกมาแต่ไกล ทันทีที่ผมเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงแม่ทักทายทันที

   “ตายจริง สงสัยคืนนี้ฝนจะตก ตาอิฐกลับบ้านแต่หัววัน”

   “โธ่แม่...” ผมทำเสียงอ่อนพลางปรายตามองแม็กม่าที่นั่งพื้นอยู่จนสุดมุมห้อง

   “หรือว่าไม่จริง ปกติไม่เคยเห็นหัว บ้างานเหมือนพ่อ คิดว่าตายที่ทำงานแล้วมันเท่นักรึไง?” แม่ประชด สีหน้าคล้ายไม่พอใจ
   ผมรู้ว่าแม่คงยังคิดถึงคุณพ่ออยู่ ท่านขยันขันแข็งจนถึงขั้นบ้างาน งานยุ่งตลอด และเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจล้มเหลวที่บริษัทตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว หลังจากนั้นโรคบ้างานจึงสืบต่อมาถึงผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ว่ายังไงผมจะต้องสืบทอดบริษัทที่คุณพ่อสร้างขึ้นต่อไป ไม่ยอมปล่อยให้ตกเป็นของคนอื่นเด็ดขาด...

   “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมยังหนุ่มยังแน่น ไม่เป็นโรคประจำตัวอะไรด้วย อยู่ได้อีกนานครับ”

   “อ๋อ...เหรอยะ!!” แม่ส่งเสียงประชดอีก แล้วปรายตาไปที่แม็กม่า “แล้วคนนั้นน่ะมัวทำอะไรอยู่ล่ะ? ผัวกลับบ้านหัดไปดูไปแลมั่ง ระวังเหอะ ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้  ห่างมากไปเดี๋ยวผู้ชายเค้าจะนอกใจไปมีเมียน้อย!”

   คำเตือนปนตำหนินั่นทำให้ผมอายจนหน้าม้าน ส่วนแม็กม่ารีบเด้งตัวขึ้นจากพื้นเดินมาหาผมโดยเร็ว ด้วยความสูงที่ห่างกันเกือบยี่สิบเซนต์ทำให้ผมต้องก้มมองเขา พยายามควานหาแววตาท่าทีของความขุ่นข้องหมองใจตั้งแต่เมื่อกลางวันว่ายังหลงเหลืออยู่ไหม แต่ดูเหมือนว่ามันจะหายไปหมดแล้ว

   “ถอดเสื้อสิคุณ” เขากระซิบเสียงเบา เมื่อผมยืนนิ่งมองหน้าเขาอยู่เป็นครู่

   “ฮะ?” ผมส่งเสียงสูงอย่างมึนงง

   “เสื้อนอกอ่ะ” เขากระซิบบอกอีกครั้ง

   “อ๋อ...” ผมรับคำ แล้วรีบถอดเสื้อแล้วยื่นให้อีกฝ่ายไปถือไว้ ไม่วายถามเสียงเบาอย่างข้องใจ “แล้วทำไมถึงได้มานั่งดูทีวีด้วยกันได้น่ะ คุณแม่เรียกมาเหรอ?”

   “เปล่า... ผมมาเอง”

   “อ้าว ทำไมล่ะ?” ผมถามอย่างแปลกใจ เพราะคุณแม่เป็นคนดุแถมยังปากร้ายขนาดนั้น จะมีสักกี่คนกันที่กล้ามาเผชิญหน้าด้วยถ้าไม่จำเป็น

   “ก็ผมเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรนี่นา ก็เลยแอบมานั่งดูทีวี” คำตอบนั้นเป็นเหตุผลที่เบามากทีเดียวกับการพาตัวเองมาเสี่ยงแบบนี้...

   “แล้วท่านว่าอะไรหรือเปล่าล่ะ?”

   “หึ ท่านไม่ได้ชวนก็จริง แต่ก็ไม่ได้ไล่นะ”

   แบบนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือเปล่านะ ว่าคุณแม่เหมือนจะเริ่มยอมรับแม็กม่าขึ้นมานิดนึงแล้ว

   ผมเผลอยิ้มอย่างดีใจเมื่อคิดได้อย่างนั้น ก่อนจะสะดุ้งเพราะประโยคต่อมา

   “จะจู๋จี๋กันก็ออกไปไกลๆ ไป เกะกะลูกตา!” คำไล่นั่นทำให้ผมกับแม็กม่ารีบระเห็จออกมาโดยพลัน

   เอาเถอะ! บางทีเรื่องที่คิดไว้นั่นอาจจะยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่อาจจะเป็นไปได้ในเร็ววันนี้ก็เป็นได้!!!


                                                   TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณแม่รับจ้าง [MPREG] ตอนที่ [-10-] [25/04/59]
« ตอบ #79 เมื่อ: 25-04-2016 18:05:59 »





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ่านบทนี้แล้วรู้สึกว่าแม็กม่ากับคุณแม่ของอิฐน่ารักดี

ออฟไลน์ janny_j

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แมกม่าน่ารัก น่าจะทำให้คุณแม่ใจอ่อนได้ ไม่เห็นความดราม่าของคุณแม่ แต่น่าจะดราม่าบีท มากกว่า ดูท่ายังไงคุณแม่ยอมรับแมกม่าแน่ๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เบาๆค่าขุ่นแม่
บีทนี่ยังไงหนอ ถ้ารู้ความจริงล่ะ หึหึ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านตอนนี้แล้วสงสารแม็ก  โคตรเคว้งคว้างอ่ะ อยู่ๆก็ต้องมาอยู่บ้านคนอื่น ไม่รู้จักใครทั้งนั้น
ลอยไปลอยมา ทำอะไรก็ไม่ได้ สถานะจืดจาง

เกลียดอิฐว่ะ

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
รู้สึกว่าแมกม่าเวลาอยู่กับแม่น่ารักอะ คุณแม่ไม่มีลูกชายอีกคนหรอคะ จะได้ให้แมกม่าคู่กับคนนั้นที่ไม่ใช่อิฐ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สงสารแมกม่า คุณแม่น่ารักเอ็นดูน้องแมกเยอะๆนะ
.
.
.ไม่ชอบบีชเลย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
สงสารนางจัง เห้อ!!

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด