5th Monday #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์
เรารักวันจันทร์ เพราะวันจันทร์มีกาแฟฟรี
“ทำไมคุณชอบชวนผมลงมาทานกาแฟวันจันทร์ทุกที”
“เพราะผมเข้าออฟฟิศแค่วันจันทร์วันเดียวไง”
คุณเมฆตอบสบายๆ เรานั่งกันอยู่ที่ร้านกาแฟร้านเดิม โดยมีลาเต้เย็นของผม และคาปูชิโนของเขาเป็นพยานในการโดดงานในเวลาที่คนอื่นหัวหมุนกันเหมือนอย่างเคย ซึ่งถามว่าผมแคร์มั้ย? ก็แคร์นิดนึงนะ แต่ว่าเมื่อกี้ตอนผมจะลงมาผมเดินเข้าไปคุยงานกับคุณกฤติในห้อง เขาฝากซื้ออเมริกาโน่แก้วนึงด้วย (ความจริงตอนแรกพอผมบอกว่าจะลงมากับคุณเมฆเขาบอกว่าจะลงมาด้วย แต่คุณโน๊ตเดินเข้ามาเคาะประตูหน้าเครียดพอดี คุณกฤติก็เลยจำเป็นต้องคุยงานก่อน)
อันที่จริง คุณเมฆเขาโทรมาหาผมที่โต๊ะตั้งแต่เช้าๆแล้วแหละครับ แต่วันนี้ด้วยความที่ผมมาสาย หน้าม้าเปิดโล่งมาทำงานเหมือนเดิม แล้ววันจันทร์งานเข้าแบบเข้ามาเหมือนกับว่าชีวิตของคุณลูกค้าผู้น่ารักไม่มีอะไรนอกเหนือจากการตามของจากผม ถึงแม้จะพยายามเร่งแค่ไหนก็กินเวลาเสียเยอะอยู่ดี เพราะงั้นวันนี้ตอนแรกผมเลยบอกเขาไปว่าไม่สะดวก พ่อคุณก็เหมือนเข้าใจ เข้าใจอยู่ไม่กี่ชั่วโมง
พอตอนบ่ายก็มาหิ้วผมลงข้างล่างอยู่ดี
“แล้ววันอื่นคุณอยู่ไหนอะ บ้านเหรอครับ หรือลาออกแล้ววันจันทร์สมัครเข้ามาทำงานใหม่?”
“กวนนะคุณเนี่ย”
“เขาเรียกขี้สงสัย ตกลงคุณอยู่ไหนกัน”
“ผมอยู่หน้าไซต์งาน”
ผมพยักหน้าเข้าใจ เอาตามตรงผมไม่เคยออกไซต์เหมือนคนอื่นๆเลยครับ คุณกฤติมีไปบ้างแต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่อย่างพวกผมกับซุกซนไม่ต้องไป ก็ไม่จำเป็นไหม พวกมีความรู้ก็ออกไป งานผมถ้าไปเจอลูกค้ายังพอจะเข้าใจได้มากกว่า ซึ่งนั่นก็หน้าที่เซลล์อีก สรุปคือเซลล์โคฯเราไม่ต้องออกไปไหนครับ ถ้าจะออกคงออกจากงานอะ วุ่นวายเหลือเกิน
แต่ตอนนี้ออกจากงานไม่ได้ครับ หนี้คือแรงผลักดัน
“เดี๋ยววันศุกร์นี้ก็ต้องเข้าออฟฟิศอีกรอบแล้วแหละ”
คุณเมฆยังคงพูดเรื่อยๆ เขาควรให้สัญญาณอะไรบ้าง ผมที่กำลังไถหน้าเฟสบุ๊คกดไลค์สเตเตัสคนอื่นเล่นไปเรื่อยอย่างที่คนโดดงานเขาทำกัน เลยไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่ เพิ่งจะรู้ตัวว่ามันคงเป็นอะไรสำคัญก็ตอนที่บทสนทนามันจบลงตรงนั้น โดยไม่มีอะไรต่อมานั่นแหละครับ
“อะไรนะครับ?”
“วันศุกร์ไงคุณ เราต้องไป Outing กันนะ”
เหมือนท่องอยู่ในโลกแห่งความฝันแล้วโดนกระชากออกมา ขนาดอู้มานั่งกินกาแฟ outing บ้านี่ยังตามมาหลอกจนได้ ความรู้สึกตอนที่ผมโดนน้องกายบ่น แล้วผมต้องมาคอยตามง้อ แว๊บกลับมาทันที จนตอนนี้ยังชาไม่หายเลยเนี่ย น้องยังตัดพ้อผมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันผ่านสติกเกอร์ไลน์ที่ใช้ตังพี่ชายน้องซื้อนั่นแหละ พี่ที่หล่อๆหน่อยอะครับ ที่ชื่อแทนใจน่ะ มีพี่อย่างผมนี่ดีมาก
“คุณดูไม่ตื่นเต้นเลยนะ”
คุณเมฆดูเหมือนไม่รู้ว่าต้องทำหน้าอย่างไร จะขำแต่ก็สงสารประมาณนั้น เมื่อมองสภาพผมที่ยับยู่ยี่เป็นผ้าที่เพิ่งออกจากเครื่องหลังซักทันทีโดยไม่คลี่ออก ตอนที่ใส่ลงเครื่องแบบยัดๆด้วย! ผมถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งแล้วค่อยไถลตัวลงโต๊ะ
“ความจริง ผมไม่อยากไปเท่าไหร่“
“ทำไมล่ะ?”
เขาถามพร้อมเลิกคิ้ว เออ หล่ออะ ยอมรับครับ แค่เลิกคิ้วก็หล่อได้ เข้าใจอยู่ที่หมิวผู้ช่วยเลขาจะชอบเดินมาคุยกับคุณเมฆตอนที่คุณเมฆลงมาหาผม ซึ่งลงมาทุกวันจันทร์ นอกจากนั้นในวันอังคารถึงศุกร์ผมแทบจะไม่เห็นปลายผมหมิวเลยครับ มีแต่ชมพูทวีปที่รายล้อมผมกับซุกซนเท่านั้น
“ก็แบบ!... ”
นานๆทีจะมีคนให้พูดด้วยนอกจากซุกซน ผมก็ต้องจัดซักหน่อยครับ ฟ้องเลยครับ แบบนี้ต้องฟ้อง!
“แผนกผมมีประชุมต่อที่นู่นอีกอะ ไหนจะต้องมานั่งสรุปของตัวเองไปพรีเซนท์อีก ผมมีนัดกับน้องแล้วด้วย นี่ก็ต้องเลื่อนออกไปอะ น้องงอนผมใหญ่เลย กว่าผมจะง้อได้ตั้งนาน ผมอยากอยู่กับน้อง อยากนอน อยากดูหนัง ไม่อยากไปปปปปปป”
พูดพร้อมกับไถหน้าลงบนแขนอีกที ฮืออออ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นน้องกายตอนสามขวบที่ติดผมอย่างกับตังเมแล้วน้องต้องเข้าโรงเรียนเลยแฮะ แต่ก็คนมันไม่อยากไปอะ ไม่อยากไป ไม่อยากไป ไม่อยากไป
ไม่อยากไป!
“หัวหน้าคุณรู้มั้ยเนี่ย?”
เฮ้ย!! ผมตัวชาวาบ ตาเบิกกว้างทันที ที่ได้ยินประโยคนั้นออกมาจากคุณเมฆด้วยเสียงนิ่งๆ แย่ละ!!! เขาดูรู้จักกันด้วยนี่หว่า!!!
“คุณเมฆ ไม่เอานะครับ อย่าบอกคุณกฤตินะครับ”
ผมเงยหน้ามองเขาตาโต อีกคนทำหน้าขรึมจนผมใจแป้ว ลืมไปเลยอะ คุณเมฆยังไงเขาก็เข้าทำงานมาก่อนผมอยู่แล้ว (เพราะพวกสาวๆในแผนกดูรู้จักเขาหมด) เขาต้องรู้จักคุณกฤติดีกว่าผมชัวร์ ถ้าเขาเอาไปบอกคุณกฤติผมคงต้องโดนดุแน่เลย
“...”
ผมคงทำหน้าแย่มากๆ เพราะคุณเมฆหันหน้าหนีไปอีกทางเลยอะ เห้ยย ไม่ได้นะคุณเมฆ แกล้งผมเรื่องอะไรก็ได้นะ ดึงแก้มก็ได้ ดีดเหม่งก็ไม่โกรธ แต่ห้ามไปฟ้องหัวหน้าผมเด็ดขาดเลยนะ ผมยอมไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวหัวผมขาด
“คุณเมฆครับ คุณเมฆที่ทั้งหล่อทั้งใจดี เท่ที่หนึ่งเลย หล่อกว่าทุกคนในบริษัทเลย คนอะไรทำไมถึงได้เพอร์เฟ็คระดับนี้ โหย อย่าบอกคุณกฤติเลยนะครับ”
ผมคว้ามืออีกคนเอาไว้ โอ้ย จับแรงไปอะโดนนาฬิกาเลย เจ็บ! ยืมใครมา เอาไปคืนเพื่อนเลยนะ!
“...”
เงียบ สงสัยเตรียมปิดตลาดอยู่
ผมเขย่ามือคู่นั้นต่อ ใช้เสียงที่พี่รักเรียกว่าเสียงแทนใจไม่ยอมโต เสียงที่ผมเอาไว้ใช้อ้อนแม่ตอนที่ผมอยากกินขนมเค้กหลังกินข้าวเกินหนึ่งชิ้น (แม่ผมไม่ชอบให้ผมทานหวานมากครับ เพราะไม่ดีกับร่างกาย แม่ผมสายสุขภาพครับ ในขณะที่ผมเป็นสายทำลายสุขภาพ)
“นะครับนะ คุณเมฆไม่ทำแบบนั้นหรอกนะครับ คุณเมฆคนหล่อที่สุดในออฟฟิศไม่ใจร้ายกับผมนะครับ”
“...”
เหลือบตามามองแว๊บนึงแล้วหันหนีอีกแล้วอะ สงสัยผมต้องแย่แน่นอน … เอ๊ะ หรือนี่เป็นโอกาสดีที่คุณกฤติจะได้ไม่ชอบผม แล้วเตะโด่งผมไปแผนกอื่น จะไม่ต้องเจอคิมๆป้ากๆอีกต่อไป ลาก่อน ASAP ทุกอีเมล ลาก่อนสมาคมแม่บ้านด้านหลังที่ใส่ใจทุกเรื่องในบริษัท ผมจะไปแตะขอบฟ้า
เออ ความจริงก็เข้าท่าแฮะ
ในขณะที่กำลังคิดถึงแผนการหนีลูกค้าเพลินๆ หน้าผากผมก็โดนเคาะดังเป๊าะ!
“โอ๊ย!”
ผมรีบเอามือลูบหน้าผากใต้ผมหน้าม้าทันที อย่าบวมนะ เดี๋ยวหัวโนทะลุหน้าม้า นี่กว่าจะเอาหน้าม้าลงได้ใช้ความพยามยามมากเลยนะเฮ่ย! ถ้าน้องแทนกายจำหน้าผมไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไง! หน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ!
“หึๆ”
“คุณเมฆ!” ผมบึนปากใส่คนที่ยังทำหน้าตาอารมณ์ดี นั่นไง มียิ้มอีก สนุกอะไรเนี่ย เจ็บนะรู้ไหม!
“ผมแค่เรียกสติคุณเองนะ คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะ ใจเย็นนะแทนใจนะ”
ผมตวัดตามองเขาอย่างเข้มมาก ขีดเส้นใต้เลยว่าเข้มมากๆ นี่คือการเรียกสติอะไร มันคือการทำร้ายร่างกาย! ผมจะฟ้อง … ใครอะ ใครสักคน!! ใครก็ได้!!! ถ้าไม่มีใครทำอะไรได้ผมจะเอารถไปปิดหน้าบ้านคุณเมฆ คอยดู!
“ก็เรียกดีๆสิครับ”
“กลัวคุณไม่หัน”
“นี่แรงเอ็นจิเนียร์เป็นแบบนี้หมดเหรอครับ? แบบคุณนี่ เวลาไปหน้าไซต์งานคงไม่ต้องใช้กล่องเครื่องมือแล้วมั้งผมว่า คุณเอานิ้วก้อยสะกิดทีเดียวเดี๋ยวน็อตมันก็หลุดออกมาเองแหละครับ แรงฆ่าหมีตายด้วยมือเปล่าขนาดนี้”
ผมลูบหัวตัวเองป้อยๆ อูยยย มือหนักชะมัด ยังเจ็บอยู่เลยอะ โหย แดงแน่ๆ
“เฮ้ยคุณ เวอร์ไปหน่อยมั้งนั่น” คนที่โดนว่ามีแรงมากกว่าคนดูไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิด กลับหัวเราะอีก “ฆ่าหมีอะไม่แน่ แต่ฆ่ากระต่ายนี่น่าจะได้ อีกอย่าง มันไม่ได้แรงขนาดนั้นสักหน่อย”
“ลองมาโดนเองมั้ยครับ?”
“ผมให้คุณเคาะคืนก็ได้”
“เฮ้ย!”
ผมผงะถอยทันทีเมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาจนใกล้ คือหล่อนะ หน้านี่เนียนเหมือนสิวไม่กล้าขึ้นมาก่อน แต่ทำไมคนเราต้องการเห็นคนที่หล่อในระยะประชิดด้วยล่ะ เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็หันหน้าออกไปอีกทาง
“ไม่ครับ ผมไม่นิยมความรุนแรงแบบคุณ”
กอดอกแล้วมองคุณเมฆแรงๆ ผมว่าคุณนั่นแหละ! นั่นไง ยิ้มอะไร ไม่ยิ้ม ห้ามยิ้ม แทนใจจริงจัง! เมื่อเห็นผมหน้าบูดอีกฝ่ายดูยิ่งอารมณ์ดีเข้าไปใหญ่ คุณเมฆไม่หล่อแล้ว หล่อน้อยที่สุดในบริษัทเลยด้วย เอาสิ!!!
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วครับ” เมื่อหัวเราะจนพอใจเขาก็ยกมือเป็นปางห้ามญาติ แล้วพูดต่อ
“ปกติผมเบื่อนะการออกเอาท์ติ้งน่ะ ไม่สิ ไม่เชิงเบื่อแต่ไม่ได้รู้สึกอะไร คิดซะว่าไปเที่ยวแบบทำงาน”
คุณเมฆยังคงพูดยิ้มๆ ผมชอบฟังเวลาเขาพูดนะ เสียงเขาจะดูทุ้มนุ่ม ฟังแล้วสบายดี เหมือนกำลังเป็นเด็กอนุบาลที่ฟังครูเล่านิทานเรื่องลูกหมีสามตัว ความจริงแล้วพี่ผมเกือบได้ชื่อน้องลูกหมีแล้วครับ เพราะคุณแม่ชอบชื่อลูกหมีมากๆ และชอบนิทานเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่ดีที่พอเกิดมารู้สึกเหมือนพี่เป็นสายใยแทนรักของทั้งคู่เลยเปลี่ยนให้ชื่อแทนรักครับ ไม่อย่างนั้นพวกผมคงเป็น ลูกหมี ลูกกวาง ลูกเสือดำ สามพี่น้องอะไรแบบนี้ แล้วน้องผมก็จะโดนล่า น่ากลัวมากครับ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว เป็นแทนรัก แทนใจ แทนกายแบบทุกวันนี้ดีกว่าเยอะมากๆ
“แต่ปีนี้ดู... “
ผู้ชายที่เหมือนจะเล่านิทานอยู่ดีๆก็มองผม ตาเขาดูเป็นประกาย ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนกระต่ายโง่ที่กำลังจะโดนหมีป่าขยำแล้วไม่รู้จะทำยังไงเลยแกล้งตาย … เดี๋ยว เมื่อกี้ผมเพิ่งยอมรับว่าตัวเองโง่เหรอ?
“น่าสนุก”
บอกทีสิว่าเรื่องสนุกของคุณไม่เกี่ยวอะไรกับผมน่ะ!
-------- 30% ------
ผมเพิ่งรู้ว่าผมไม่ได้เบื่อแค่วันจันทร์ ความจริงผมเบื่อทุกวันที่ต้องมาออฟฟิศต่างหาก
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ผมควรจะได้ไปหาน้องแทนกายเพื่อขนของจากบ้านพ่อมาที่คอนโดน้องให้หมด (ของที่น้องใช้อยู่ส่วนใหญ่พ่อซื้อให้น้องใหม่ แต่มันจะมีพวกเสื้อผ้าข้าวของส่วนตัวของน้องบางส่วนที่ยังอยู่ที่บ้าน) แต่ผมกลับต้องมาอยู่บนรถบัสของบริษัทเนี่ย!
เอาท์ติ้งของบริษัทไงครับ
การประชุมนอกสถานที่คุณหัวหน้าของผมห้ามขาดไงครับ
นอกจากการต้องมาบริษัทจะทำให้ผมเซ็งแล้ว คนที่นั่งข้างๆ ผมอย่างซุกซนก็ไม่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเลยสักนิด
ซุกซนที่หรี่ตามองผมแล้วถอนหายใจส่ายหัว แล้วก็มองใหม่เหมือนรู้ตอนจบหนังแล้วอยากสปอยล์แต่สปอยล์ไม่ได้เพราะโดนสาปไว้ว่าใครสปอยล์บ้านบึ้ม เลยทำได้แค่นั่งยิ้มแต่เพียงลำพัง หัวเราะแต่เพียงลำพัง แต่ที่ไม่ลำพังแต่น่ารำคาญกว่าการรถติดอยู่ลำลูกกา คือมันคอยมองหน้าผมเหมือนรอให้ผมคายอะไรบางอย่างออกมานี่แหละ
“ซุกซนง่วงก็นอนนะ อย่าเป็นภาระเราเลย”
“มึง ช่วงนี้มีความลับกับกูป่าววะ?”
“สำหรับซุกซนทุกเรื่องในชีวิตเราเป็นความลับหมดเลย— โอ๊ย เอ็บบบบบบบบ อ่อยยยยยย” (โอ๊ย เจ็บบบบบบ ปล่อยยยยย)
ผมโวยวายตบตีซุกซนที่เอามือมาดึงแก้มอีกแล้ว ทำไมช่วงนี้คนชอบวุ่นวายกับแก้มกับเหม่งผมจัง เออ เนี่ยพวกนิยมความรุนแรงเกิดมาถึงได้ขาสั้นแรงหมี ต้องแบบน้องแทนกายของผมนี่ น่ารักกกก น้องชายผมเอง เรียนเก่งมากเลยครับ เป็นเด็กดีมากครับ นี่แหละน้องผม น้องผมที่ดีกว่าซุกซนมากๆ อยากให้ซุกซนไปเรียนงานกับน้องผมบ้าง เผื่อจะเป็นคนดีกับโลกใบนี้ขึ้นมาสักนิด
“อิ๊อั๋ยอั่ยอี!!!!” (“นิสัยไม่ดี”)
“กวนนะ กวนตีนนะเดี๋ยวนี้”
“อ่อยยยยยยยยย” (‘ปล่อยยยยยยยย’)
ซุกซนคงทนแรงทุบตีของผมไม่ไหวเลยยอมปล่อยมือ ไอ้นี่ก็มือหนัก วันๆ ไม่ได้เจอแฟนหงุดหงิดหัวหน้าหุ้นตกรถติดโลกร้อนช้อนกลางล้างจานตลาดปิดคิดถึงเสือดำ อะไรก็มาลงที่ผมหมด ดูดิ ควรมีมั้ยอะเพื่อนแบบนี้
“เอ็บ” (‘เจ็บ’)
หน้าแดงแน่ๆเลยอะ ยังเจ็บอยู่เลย นี่นิ้วหรือคีมกันแน่
“ไม่ต้องมาทำหน้าตูด ตอบกูมาว่ามึงเป็นอะไรกับไอ้พี่เมฆ”
“เป็นไรอะ? เพื่อนร่วมงานที่อยู่กันคนละชั้นไง คำถามนี้ถามไปนานแล้วนะ ทำไมไม่ได้ฟังเวลาคนอื่นพูดเลย ซุกซนนี่ใช้ไม่ได้เลย”
“อย่ากวนตีน”
ซุกซนคนโหดยกมือขึ้นมาทำท่าจะบีบแก้ม ผมเลยรีบเอามือจับหน้าตัวเองไว้ป้องกันไว้ดีกว่ามาเจ็บตัวทีหลัง ผมควรจะได้นอนไม่ใช่มานั่งให้มันซักไซ้แบบนี้หรือเปล่าเนี่ย
“ทำไมอยู่ๆเขาถึงสนิทกับมึงจัง”
“ไม่รู้อะ อยู่ดีๆก็มาชวนกินกาแฟ นี่ยังติดเลี้ยงเขาอยู่หลายแก้วเลยเนี่ย ไม่ได้จ่ายคืนสักที เจอกันทีไรก็เลี้ยงแล้วนับทบตลอด ว่าจะไม่จ่ายคืนแล้วเนี่ย เยอะเกินไปเราไม่นับ”
พูดถึงกาแฟ ผมนึกขึ้นได้ว่าผมติดกาแฟเขาอยู่หลายแก้วเลยเนี่ย ไม่รู้ถ้าวันทวงหนี้มาถึงผมจะต้องเอาเงินครึ่งเดือนมาเลี้ยงกาแฟคืน หรือไม่ก็อาจจะต้องซื้อร้านกาแฟคืนไปเลย สร้างงานสร้างอาชีพกันไป ถ้ารัฐบาลไม่เดี๋ยวแทนใจทำเอง
“ตลอด? แสดงว่าเจอกันบ่อย?”
“ก็ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น เจอกันไม่กี่ครั้งเอง”
“อูหู ดิสกว่าที่คีย์”
“ซุกซน พ็อยต์ของอันนี้คืออะไรอะ? ผวนทำไม? งง มันทำให้ดูเหมือนคนสิ้นคิดอะ”
“มึงกวนตีนอีกแล้ว แดกเข้าไป!!”
ผมส่ายหน้าปฏิเสธเยลลี่ซองที่อีกคนยื่นมาให้ ซึ่งซุกซนใจทรามก็ยัดเข้าปากผมเลยแบบไม่ดูตาม้าตาเรือใดๆ ทั้งนั้น ซึ่งผมทำได้แค่อู้อี้ๆเพราะสู้แรงมันไม่ได้ นี่ขนาดไม่ได้อยู่ที่ทำงานก็ยังจะกินเยลลี่หมีอยู่ได้ พอเห็นแบบนี้แล้วก็อดนึกไปถึงอีกคนที่มีความหมีเหมือนกันไม่ได้ ถ้าซุกซนเป็นหมากระเป๋าติดเยลลี่หมีขี้หงุดหงิด อีกคนก็หมีกรีซลีย์ติดกาแฟน่ะนะ
“นี่มึงไม่รู้หรือมึงอ๊องเนี่ย?”
“อะไร อ๊องอะไรอีก?”
“อ๊องเก่งนะเดี๋ยวนี้ ตกลงมีอะไรมีอะไรที่ยังไม่บอกอีก”
“ซุกซนจะใส่ใจเรื่องของเราทำไมนักหนาเนี่ย เราไม่รู้เรื่อง บอกแล้วไง”
“เหรอๆๆๆ”
บทสนทนาจบลงตรงที่ซุกซนเพื่อนรักรอวันเลิกคบทำเสียงเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่แต่เยลลี่ในมือคงสำคัญกว่าการต่อความที่ไม่ได้มีสาระใดใดเพิ่ม ผมก็นั่งเล่นมือถือของตัวเองไป ได้ยินเสียงวี๊ดว๊ายของพวกสาวๆ ที่จับกลุ่มเม้าขึ้นมาเป็นครั้งคราว เท่าที่จับได้คร่าวๆคือการรับบทของดาราผู้หญิงคนหนึ่งในละครย้อนยุค แล้วก็เรื่องผู้ชายที่เหมือนจะเป็นเกย์ในแผนกเรา แต่ผมไม่รู้ว่าใคร ความจริงผู้ชายในแผนกเราก็ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ผมขี้เกียจใส่ใจ มันไม่ไใช่เรื่องของผมสักหน่อย
ผมสลับมาไถหน้าโซเชียลที่ทุกคนเล่นกันอย่างเฟสบุ๊ค ตัวเฟสบุ๊คผมอะไม่ค่อยโพสอะไรเท่าไหร่ ได้แต่กดไลค์ไปเรื่อย ซึ่งแบบนี้สนุกดีครับได้เห็นชีวิตและการโวยวายของหลายๆคน รวมถึงได้อัพเดทเรื่องของเพื่อนตั้งแต่ประถมยันมหาลัยที่ไม่ค่อยได้เจอกันแล้วผ่านสเตตัสด้วย
โล้งเล้ง แม่ขายของเจ๊งเลยต้องมาสอนพิเศษ -- 1 hour ago
ใกล้เปิดคอร์สใหม่แล้วนะครับ ภาษาอังกฤษกับครูพี่โล้งเล้ง เพียงชั่วโมงละ 300.- เท่านั้น!!! พิเศษ!!! สำหรับน้องๆ ที่สมัครเข้ามาตอนนี้ พี่ลดให้เลย เหลือเพียงชั่วโมงละ 250.- เท่านั้น!!! ส่วนน้องๆที่เป็นนักเรียนใหม่ เพียงชวนเพื่อนมาเรียนด้วยกันในแคมเปญ ‘ติดมหาลัยไป F ด้วยกันทั้งฉันและเธอ’ สมัครคอร์สวันนี้ฟรีแม็คฟิช!!! Inbox เข้ามาเลยครับ!!
Liked by You, ซุกซน ใจทราม, and 178 others 4 comments
พ่อชื่อองแม่ชื่ออุ๋ม แต่ทำไมกูชื่อกึกก้อง : หยั่กเรียนจังเรยคร่าาาาาาา
โล้งเล้ง แม่ขายของเจ๊งเลยต้องมาสอนพิเศษ : เสือก!!! กลับเซคมึงไป รอด F สมศักดิ์หรือยังมึงอะ
พ่อชื่อองแม่ชื่ออุ๋ม แต่ทำไมกูชื่อกึกก้อง : กูลงใหม่เทอมนี้ คิดว่าน่าจะเรียน D ขึ้น
Tanjai Kraikiratikulchai : สู้ๆน้า
โล้งเล้ง แม่ขายของเจ๊งเลยต้องมาสอนพิเศษ อันนี้เฟสบุ๊ครุ่นน้องผมเองครับ น้องเคยมาค่ายที่ผมจัดแล้วตอนนี้ก็ติดมหาลัยเดียวกัน ชื่อโล้งเล้ง ไม่รู้แม่มันขายของเจ๊งจริงหรือเปล่า แต่สอนพิเศษเนี่ยเรื่องจริง เคยเห็นน้องมันโฟสรูปตอนสอนกับพวกเด็กนักเรียนของมันอยู่ ผมก็ทำได้แค่ ‘สู้ๆน้า’ เท่านั้น ยังเอาตัวเองจากลูกค้าไม่รอดเลยครับ
ซุกซน ใจทราม shared BNK48’ post -- 2 hours ago
ทำไมเอาสาวๆมาขายอาหารญี่ปุ่น อุตส่าห์ลั่นไว้ว่าจะไม่กินซูชิเพราะเบื่อลูกค้าญี่ปุ่น ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สงสัยต้องไปกินราเม็ง แต่ลดความอ้วนอยู่ พุงเยอะกว่าแก้มแทนใจแล้วแม่งเอ้ย แทนหส่เยนห่เยนห่ยเ่หยนเ่หยน่เยนห่ยเ
89 Likes 27 comments
Tanjai Kraikiratikulchai : แก้มเราเกี่ยวอะไรกับพุงซุกซน เราเห็นนะ -_-
เนี่ย! ซุกซนก็ใจทรามสมชื่อจริงๆ เห็นแบบนี้ผมก็ต้องปกป้องแก้มตัวเองนะ ฮึ่มๆ
เรื่องของคนที่ดูหนังวันพฤหัส -- 2 hours ago
รีวิว Shape of Water ****ไม่สปอยล์ครับ จะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้แล้วแต่****
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวหนังที่โดนทั้งด่าทั้งชมเยอะกว่าโรงที่ฉายในประเทศ Shape of Water นั่นเอง หนังคนกับปลาอย่างที่หลายๆคนเห็นในโปสเตอร์นั่นแหละ บอกก่อนเลยว่าสำหรับตัวผมชอบหนังของผู้กำกับคนนี้อยู่แล้ว Guillermo del Toro เรื่องนี้ก็ยังคง…
671 Likes 27 comments 129 Shares
เพจ เรื่องของคนที่ดูหนังในวันพฤหัส เป็นเพจรีวิวหนังที่ผมกดไลค์ไว้ครับ แต่เขามาอัพตามอารมณ์มากๆ อยากรีวิวเรื่องไหนก็รีวิว บางทีมาบอกว่าดูเรื่องนี้มาแต่ขี้เกียจรีวิวก็เคย หรือมาแค่รูปตั๋วหนังพร้อมข้อความสั้นๆว่า ‘เหี้ย’ ก็เคยผ่านตาผมอยู่ แต่ผมเข้าใจว่าโลกมันร้อนครับ คนเราก็เป็นแบบนี้แหละ
ที่ผมชอบเพราะเขาไม่ดราม่า คือไม่สนใจดราม่าน่ะครับ เหมือนเปิดมารีวิวหนังก็รีวิวไปเรื่อยๆ ยกเว้นว่าช่วงนึงที่เพจร้างๆ ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆก็เงียบหายไปนานเลย แต่ช่วงนี้กลับมาแล้วครับ ดีนะ ผมชอบอ่านที่เขาเขียน บางครั้งมันก็ออกจะห้วน แต่มันตรงกับความรู้สึกของผมหลังจากดูเสมอ อย่างเรื่องที่เขาเขียนแค่ ‘เปลืองเงิน’ ผมไปดูพร้อมน้องกายก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
Mek Sitthikorn -- 6 hours ago -- feeling exciting
พรุ่งนี้เอาอะไรให้กระต่ายกินดีนะ
1.3K Likes 501 comments 27 Shares
Pingpong kidteungtertookwan : พี่เมฆเลี้ยงกระต่ายด้วย มึงมาดูพ่อของลูกกู โคตรอ่อนโยน @Vorawan T
Vorawan T.: อีดอก เลิกมโน เขาอ่อนโยนกับกระต่าย ไม่ใช่มึง
Pingpong kidteungtertookwan : กูก็แบ๊วๆได้อยู่นะ
Vorawan T.: กระต่ายตัวเท่านิ้วโป้งเท้ามึงเอง ใจเย็นๆนะเพื่อนนะ
ซุกซน ใจทราม : กระต่ายนี่ใช่ตัวที่ซื่อๆหรือเปล่าอะะะะะ ให้กาแฟเสี่ยงทายกัน
Mek Sitthikorn : ชงเก่ง ลาออกไปเปิดร้านกาแฟเถอะ
ซุกซน ใจทราม : อันนี้ชมหรือด่า ไม่ค่อยแน่ใจ
Krit Jarujarunwan : เหรอครับ?
Mek Sitthikorn : อิจฉาเก่งนะครับ
Krit Jarujarunwan : ครับ คุณเองก็แซะเก่งเหมือนที่นกเก่งหรือเปล่าครับ
MewMew’ Mew: พี่เมฆเลี้ยงกระต่ายด้วยเหรอคะ เหมือนหมิวหมิวเลยค่าาาาา
Bubu Bewithyouforever : นั่นแน่
Ball Natthakrit : นั่นแน่
ปีโป้ ปะปะปีปีโป้ : นั่นแน่
Alexander T. : นั่นแน่
Mek Sitthikorn : พวกมึงนั่นแน่เหี้ยอะไรกันครับเพื่อนๆ 5555555
โอโห ผมเพิ่งรู้ว่าคุณเมฆดังขนาดที่ว่าสเตตัสอะไรก็ไม่รู้ มีคนไลค์เยอะกว่าเพจรีวิวหนังที่ผมชอบอีก ไม่แฟร์เลยอะ เพจ เรื่องของคนที่ดูหนังในวันพฤหัส ของผมนี่เขาเขียนตั้งนาน มีการคิดอะไรเยอะแยะกว่าจะออกมาเป็นสเตตัสหนึ่ง แล้วคุณเมฆนี่อะไรเนี่ย ทำไมคนไลค์เยอะจังเลย ไม่เข้าใจพวกคนดังๆจริงๆ
คนแซวคุณเมฆเยอะมากเลย ผมไปแซวด้วยละกัน เห็นแล้วตลกดี มีทะเลาะกับคุณกฤติด้วย ครึกครื้นจัง ผมควรไปเม้นบ้างดีกว่า
Tanjai Kraikiratikulchai : นั่นแน่ XD
Mek Sitthikorn : …
Tanjai Kraikiratikulchai : โกรธผมหรือเปล่า ผมเล่นไม่ดูเอง TT”
Mek Sitthikorn : ใครจะโกรธคุณลงครับ 5555 ว่าแต่วันนี้กินข้าวเช้าหรือยังเนี่ย?
Tanjai Kraikiratikulchai : ยังไม่ได้ทานเลยครับเมื่อเช้าผมสาย คิดถึงโจ๊กหม้อดินจังเลย ฮือ
Mek Sitthikorn : โถ่คุณ ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวกลับมาผมซื้อให้ทานนะ
“อ่อยเก่ง”
ซุกซนพูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ผมละจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่กำลังคุยกับคุณเมฆมามองหน้าเพื่อนที่หน้าทิ่มกับมือถือเหมือนกัน ผมยักไหล่เมื่อไม่มีคำอธิบายอะไรจากซุกซนใจทรามมากกว่านั้น มันอาจจะดูคลิปอะไรสักอย่างแล้วละเมอพูเขึ้นมาเองก็ได้ อย่างงี้แหละครับ เมื่อเรามีเพื่อนสติไม่ค่อยเต็มเต่ง เราต้องใจกว้างเข้าไว้
เมื่อเล่นมือถือไปสักพักผมเริ่มเคลิ้มละ กะจะนอนพักสายตาสักหน่อยแต่คนข้างๆดันเอาศอกมาถองเฉย
“แทน มึงอย่าพึ่งหลับ กลับมาอ่อยเขาต่อก่อน เฟสบุ๊คแตกไปแล้วเนี่ย!”
“งืม”
ผมหันไปทำตาปรือใส่มัน วุ่นวายอะไรง่ะคนจะนอน เฟสบุ๊คจะเป็นยังไงก็ปล่อยมันไป ผมง่วงเกินจะใส่ใจเรื่องชีวิตของคนอื่นแล้ว ความจริงผมเป็นคนที่ขึ้นรถแล้วหลับครับ แบบขี้ง่วงน่ะ นั่งไปสักพักก็จะเคลิ้มแล้วหลับปุ๋ยไปเลยในเวลาไม่นาน เพราะเป็นแบบนี้ผมเลยไม่เอารถมาขับไปทำงานครับ แล้วก็ไม่เอารถขับไปไหนเลยด้วยครับ คุณแม่กับน้องกายไม่อยากให้ขับ ผมก็เลยไม่ขับ ถึงแม้คุณพ่อกับพี่แทนรักจะอยากให้ผมลองขับดูบ้างก็ตาม แต่ฝั่งแม่กับน้องกลัวอุบัติเหตุ ผมยังไงก็ได้ ตามใจทุกคนครับ
“มึงว่าถ้าเขา—“
“ม่ายยย” เริ่มยานละครับ สติเริ่มไม่มี เอาไว้ค่อยคุยได้มั้ย ใครจะทำอะไรผมไม่สนใจแล้วแหละตอนนี้ ง่วงง
“เดี๋ยวมึงกูยังพูดไม่จบ ลุกก่อน ล้างหน้าล้างตา ลุกเว้ยลุก!!”
ซุกซนเคาะหัวผมเบาๆ มีดึงแก้มด้วย ซึ่งผมไม่สนใจ มากๆเข้าผมก็ขมวดคิ้วขู่ด้วยความน่ากลัวมากๆ แล้วก็หลับใส่มันไปเลยละกัน เราใช้วิธีประท้วงแบบอหิงสา ได้ยินเสียงถอนหายใจงึมงำโง่ๆอ๊องๆ ไอ้คนไม่รู้เรื่อง สงสารพี่เมฆ อะไรของมันไม่รู้ ตอนนี้ผมไม่สนแล้วครับ ง่วงมากจริงๆ หนังตาหนักกว่าน้ำหนักตัวอีก
ช่างเถอะ ตื่นแล้วค่อยฉลาดก็ได้มั้ง
------- 60% -------
ไม่ถึงที่หมายสักที ตอนแรกว่าจะไม่อัพแล้ว แต่พรุ่งนี้เราไม่อยู่ คงอัพไม่ได้ ฮือ เอาอันนี้ไปก่อนละกันนะคะ #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์
เพราะว่าเราเบลอว่ารักแถบ แบบว่าแต่งเสร็จอัพเลย เพราะงั้นถ้าเจอคำผิดหรือสะกดตกอะไรสามารถบอกได้เลยนะคะ ได้ทุกทางยกเว้นบอกผ่านหัวหน้า อันนี้น่าจะโดนฆ่าทิ้ง(?) เอาไว้เราพอหาช่องว่างได้บ้างเราจะมาตรวจเช็คอีกครั้ง ขอบคุณมากๆสำหรับคนที่สะกิดเรามานะคะ
ปล. เราขอบคุณทุกคอมเมนต์ แล้วก็แท็ก #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ในทวิตเตอร์มากๆนะคะ สามารถคุยกับเราได้ที่ @babybapho นะคะ ถ้าเราไม่ตอบ สามารถหาศพได้จากใต้โต๊ะหัวหน้าค่ะ น่าจะเสียชีวิตไป ไม่ก็โดนจับแล้วเรียบร้อย 55555
ขอบคุณที่ชอบน้องแทนใจกันนะคะ XD
ต่อจากนี้คือการ outing แล้วนะคะ อิ___อิ
#เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์