#เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ♡24th: เรื่องดีๆในวันจันทร์ของผม(จบ) (29/10/18)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ♡24th: เรื่องดีๆในวันจันทร์ของผม(จบ) (29/10/18)  (อ่าน 90247 ครั้ง)

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
แทนใจคนเอ๋อ2018

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เห็นชื่อเรื่องแล้วโดนใจ เหมือนกับนัทสึเลย เกลียดวันจันทร์มากๆ เรียกแกร็บแท็ก มันก็ไม่ไป  ไปเลทจนโดนมอง โอ๊ย ยิ่งอ่านยิ่งโดน  อ่านรวดเดียว 6 ตอนเลยค่า   แทนใจน่ารักจัง

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ยังคงเป็นแทนใจผู้ไม่เคยตามอะไรทัน 5555
มีอ้อนพี่เมฆแกบ่อยนะคะ พี่เขาเลยได้โอกาสหยอก หยอดไปอีก หุหุ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แทนใจคนเอ๋อ เมื่อไรจะเลิกอ๊องเนี่ย ฮาาา

ออฟไลน์ Cardiac

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
แทนใจ น่ารัก

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
อ่านเพลินเลย ยาวสะใจมากๆ  น้องนี่อ๊องมากๆๆๆๆๆ สมแล้วที่ซุกซนว่า 5555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
น้องแทนใจอ๊องจิง อ่อยจิงด้วย น่าร๊ากกกกกก 555555
พี่เมธก้อขยันหยอด ขยันทำคะแนนนะคะเนี่ย!!

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น้องยังคงไม่รู้เรื่องใดๆ ฮือลูกกกก

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
ยาวเกิน อัพกระทู้เดิมไม่ได้ค่ะ ฮือ ;__;

-------

6th Monday (2)

“ทำไมเข้ามาช้า?”


คุณเพื่อนขาสั้นถามทันทีที่ผมหย่อนก้นลงข้างมัน ความจริงอยากลองนั่งข้างคนอื่นบ้าง แต่เห็นใจคนอื่นถ้าจะต้องมานั่งข้างยอดชายนายซุกซนครับ เผื่อความดีนี้จะทำให้คุณกฤติเห็น แล้วงดประชุมวันจันทร์ครับ หรืออย่างน้อย ช่วยซัพพอร์ตเจลใส่ผมหน่อยก็ดี ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่
เจลสำหรับทุกวันจันทร์ก็พอครับ แกร๊บไบค์ทำหน้าม้าผมนี่เปิดข้างหน้าทะลุถึงหัวใจแล้วครับ เปิดอยู่กรุงเทพฯ เหม่งเห็นไกลไปถึงเชียงใหม่แล้วครับ


“เราคุยกับคุณเมฆอยู่ไง ซุกซนนั่นแหละหนีออกมาก่อน”

“กูเหม็น”

“...” ผมจะเตือนตัวเอง ว่าต้องบอกคุณเมฆเรื่องเหยียบขี้หมาจริงๆ

“เหม็นขิง”

“ซุกซนจมูกดีเหมือนไม่ใช่คนเลยนะเนี่ย”


เพื่อนทำหน้าเหมือนไม่รู้จะหัวเราะ ร้องไห้ โกรธหรือว่าควรจะลาออกจากงานไปตามหาดราก้อนบอลดี แต่ช่างมันครับ ซุกซนใจทรามจะทำอะไรก็ไม่มีสาระอยู่แล้ว ผมไม่ถือ มันเป็นบ้า ผมรู้ครับ ว่าเราไม่ควรถือสาคนบ้า ไม่ควรว่าซุกซน


“Hello. Good afternoon everyone.Thank you all for coming and joining us here. I’m very pleased to …”


เสียงของพิธีกรต่างชาติพูดดึงความสนใจของทั้งผมและซุกซน ผมพยายามนั่งตัวตรงเมื่อรู้สึกว่าการประชุมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เท่าที่ฟังหลักๆก็ไม่มีอะไรมากครับ แนะนำถึงนวัตกรรมใหม่ของบริษัท การเปิดสาขาในประเทศต่างๆ ความก้าวหน้าในการหาลูกค้ารายใหม่ การช่วยเหลือลูกค้าเวลามีปัญหา และพวกปัญหาที่เกิดขึ้น นั่นนู่นนี่ที่ผมไม่สนใจ เนี่ยแหละครับ พนักงานดีเด่น


 ผมถอนหายใจแล้วเลื้อยไปบนเก้าอี้ เบื่อมาก ซุกซนที่นั่งอยู่ข้างๆนั่งทำหน้าตั้งใจผมก็ไม่อยากกวน เมื่อไม่รู้จะทำอะไรผมก็เลยกินครับ กินเสบียงเดียวที่มีในตอนนี้ คุกกี้รสกาแฟฟรีที่คุณโปรเจคฯแกให้มานั่งแหละครับ ผมแกะคุกกี้กินเงียบๆ ค่อยๆงับเพราะกลัวจะเสียงดังรบกวนคนอื่น


เฮ้ย อร่อยว่ะ! มันเป็นคุกกี้ธรรมดาเลยครับแบรนด์ที่เคยเห็นในห้าง แต่พอได้ฟรีแล้วโคตรอร่อยเลยครับ สวรรค์ที่แท้ เพราะไม่งั้นผมคงไหลลงไปกองบนพื้นแล้ว นี่รอคุกกี้หมดห่อก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไหล


“คุกกี้?” มาแล้วครับคนใส่ใจเรื่องชาวบ้าน 2018 ซุกซนที่นั่งอยู่ข้างผมชะเง้อหน้ามาใส่ใจเต็มที่ ออกไปนะ อย่ามาแย่ง! “มึงได้จากไหนมาวะ? ตอนออกจากห้องไม่เห็นเอามาด้วย หรือเขาแจกหน้างานเหรอ?”

“นอกจากซุกซนใส่ใจเรื่องคนอื่นเก่งแล้ว ยังเห็นแก่กินด้วยนะเนี่ย”

“กวนตีนนะมึงอะ แย่งแดกแม่ง!”

“ซุกซน!”



ผมรีบหันหนีเอาตัวบัง เมื่อซุกซนใจทรามพยายามเอามือมาแย่งคุกกี้ของผม ไม่ให้ อันนี้ไม่ให้นะ! อย่ามายุ่ง!

 
“เป็นไรวะ? ปกติไม่ใช่คนขี้หวงนี่มึงง่ะ”

“ไม่รู้อะ แต่อันนี้เราหวง เราไม่ให้อะ”

“อะไรของมึงวะ? เอามาแดก!”

“ก็ไปกินอันอื่นสิ อันนี้เราหวง”

“เอามาแดก!!!”

“ไม่ให้!!!!”


ผมหันหลังให้คนที่ทำเหมือนได้คุกกี้ผมแล้วจะได้เงินเดือนขึ้น ปากก็แง้วๆว่ามันไปด้วย พยายามเตือนสติเพื่อนว่าการขโมยของกินเพื่อนมันไม่ดี โดยเฉพาะคุกกี้อันนี้ มันไม่ดีมากๆ!!

 

“หวงเหรอ มึงหวงเหรอ เอามาให้กูแดก!”

“ซุกซน อย่าใจทราม”

“เอามาแดกก่อน เดี๋ยวกูใจดีเลยทันที”

“อย่ามายุ่งนะ อันนี้ไม่ได้”

“หวงจังนะ ใครให้มาป้ะเนี่ย?”

“ไม่บอก!”



โชคดีที่ต่อจากนั้นมีเสียงปรบมือดังมาก ใครสักคนที่หน้าตาเอเชียที่ผมเคยเห็นหน้าในเว็บไซต์บริษัทเดินลงเวทีไป แล้วให้ใครอีกคนหน้าตาฝรั่งหน่อยที่อยู่บนหน้าเว็บบริษัทเหมือนกันเดินขึ้นเวทีต่อ ความสนใจของทั้งผมและซุกซน มันผละออกจากเป้าหมาย แล้วไปนั่งสนใจสปีกเกอร์คนใหม่ที่เพิ่งขึ้นเวทีมาแทน ผมเลยใช้โอกาสนี้กินคุกกี้คุณเมฆให้หมด จะได้ไม่ต้องโดนแย่ง



ไม่ได้ยัดทั้งหมดทีเดียวนะ แค่ใช้สกิลกินเร็วมากๆเท่านั้น เป็นสกิลที่มีมาตั้งแต่สมัยเรียนครับ เพื่อนทั้งกลุ่มมีหมด ตอนที่แอบก้มไปกินขนมใต้โต๊ะในเวลาเสี้ยววินาที ตอนที่ครูหันหลังเขียนกระดาน ซึ่งผมทำมาตั้งแต่ประถมครับ ตอนเด็กเลยโดนเพื่อนล้อว่าเอาของกินเก็บตรงถุงแก้มตลอดเวลา เครียดมากครับ มันไม่หล่ออะ



ซึ่งตรงจุดนี้ผมอิจฉาน้องกายมากที่น้องแก้มยุบตอนโต มีแต่ผมเนี่ยที่แก้มย้วย! พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน! ทำไมผมไม่ได้ส่วนสูงมาแทนแก้ม ยื่นเรื่องขอเอาแก้มไปแลกส่วนสูงได้ที่ไหน


พอคุกกี้หมด ชีวิตก็ไม่เหลือเรื่องน่าสนใจอีกต่อไป


เบื่อจัง เบื่อมาก เบื่อจริงๆนะ


หลังจากสปีกเกอร์คนสุดท้ายพูดจบ ความเบื่อของผมก็ผ่านไปสักที การประชุมราบรื่นยาวเลยไปยังตอนทำ workshop ที่ผมไม่ค่อยจะมีสติสมาธิเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็มาประชุม wrap up นิดหน่อย  ซึ่งผมไม่รู้เรื่องแล้ว หลุดไปนานแล้ว ผมเลยนั่งวัดสายตาตัวเองครับ ทดลองปิดตาข้างซ้ายแล้วมอง เสร็จแล้วก็ทดลองปิดตาขวา สรุปสิ่งที่ผมได้จากเวิร์คช็อปวันนี้คือตาสองข้างผมมองเห็นไม่เหมือนกันครับ ตาขวามันจะพร่าหน่อยๆ แต่ตาซ้ายชัดแจ๋วเลย


“มึงว่า คนเราเกิดมาทำไมวะ?”


อยู่ดีๆในระหว่างที่เขากำลังพูดกัน คนใจทรามมันก็ถามขึ้นมา ตายังจ้องจอโปรเจคเตอร์ เมื่อสามารถรู้สึกได้ว่าผมไม่เข้าใจ เพื่อนร่วมงานของผมก็ใจดีพูดต่ออีกนิดหน่อย ทั้งที่ผมไม่ได้อยากจะรับรู้อะไรด้วยเลย 

 

“ถ้าเราจะต้องเกิดมานั่งเสียเวลาชีวิตเป็นชั่วโมงฟังในสิ่งที่มึงไม่แม้่แต่จะเข้าใจด้วยซ้ำว่าหัวข้อมันคืออะไร ลืมเนื้อหาข้างในไปเลย กูหลุดนานมากแล้ว เหมือนนั่งฟังบรรยายอยู่ในน้ำ … แล้วกูก็คิดขึ้นมาได้ว่า เราควรเอาเวลาไปตามหาคำตอบของชีวิต”

 

“...”

“ตอนกูปีหนึ่ง กูแอดฯเข้าไปเรียนบัญชี แต่พอเรียนไปกูรู้ว่ามันไม่ใช่ แต่พี่รหัสกูสวยสัด เป็นดาวคณะ กูเลยไม่ซิ่ว”

“...”

ผมต้องรับรู้เรื่องนี้จริงๆเหรอ? พี่รหัสผมเป็นใครก็ไม่รู้อะ เคยได้ยินชื่อแล้วก็หายไปในกองเปเปอร์ ซึ่งผมเข้าใจ ผมก็ปล่อยเขาไปตามทาง เพราะแค่นี้พี่แทนรักก็เลี้ยงผมไม่รู้จะเลี้ยงยังไงแล้วครับ


“จนตอนนี้จบมา กูถึงได้มานั่งคิดว่า คนเราถ้าเกิดมาไม่ได้ไปตามหาความฝัน แล้วเราจะเกิดมาทำไมวะ?”

“... เราขออะไรที่มันไม่ค่อย complex ได้มั้ย? แบบอะไรที่ทุกคนเขาก็พูดกันน่ะ”

“แต่กูแมสกว่านี้ไม่ได้แล้วมึง”

“ก็เรื่องของซุกซน”

“กูว่า” มันยังไม่จบ “กูจะลองไปตามหาความหมายของชีวิต”

 


ครับ เพื่อนผมบ้าไปแล้ว

 

“ตามหาที่ไหนอะ? Google จะมีมั้ย ลองเสิร์ชดูหรือยัง?”

“แทนใจ มึงอย่าเพิ่งกวนตีน กูจริงจัง”

“...” ก็แล้วแต่เลยครับ โบราณว่าไว้คนบ้าอย่าห้าม

“กูจะไปตามหาความหมายของชีวิต... ในวงเหล้าคืนนี้กับพวกเฮียเมฆ”

 

นี่ผมเสียเวลาชีวิตหลายวินาทีเพื่อฟังอะไรแบบนี้เหรอ?

รายการคืนความแฮปปี้ให้ประเทศหนึ่งยังดูมีสาระกว่านี้… อันนี้ชมนะ ชมจริงๆ

 

ผมพยายามเมินมันแล้วไปวัดสายตาตัวเองต่อ ในขณะที่ซุกซนใจทรามเริ่มตามหาความหมายของชีวิตในเฟสบุ๊ค

 


โอ๊ะ



แรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมเอามือถือขึ้นมาดู มันเป็นห้องประชุมใหญ่คล้ายกับการอบรมสัมนามากกว่ามี้ตติ้ง แต่อย่าถามผมว่าทำไมเขาไม่เรียกสัมนาไปเลย ผมละสายตาจากคุณกฤติบนเวที (หัวหน้าผมเอง หล่อสุดแล้ว เชื่อเถอะ) คิ้วขมวดหันไปมองคนใจทรามที่หันมายักคิ้วให้อย่างกวนประสาท

 

ซุกซน ใจทราม ได้แท็กคุณในโพสต์



“นั่งข้างกัน จะแท็กทำไม?”


ผมบ่นใส่ซุกซนที่ไม่ได้สนใจอะไรเบาๆ ก่อนจะกดเข้าไปดู เห็นเมนต์ที่อ่านแล้วงง อะไร ไม่เข้าใจ เลยเลื่อนขึ้นไปอ่านโพสต์ก่อนละกัน อ๋อ คุณโปรเจคฯนี่เอง
 

นี่พวกพีเอม* (PM = Project Manager หรือโปรเจคฯที่ผมเรียกปกติ ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเรียกกันแบบนี้ตอนที่มีชาวต่างชาติอยู่ด้วย นี่ตำแหน่งหรือฉายาดารารายการดาวกระจาย เยอะเหลือเกิน) เขาว่างกันขนาดมานั่งเล่นเฟสบุ๊คตลอดเวลาเลยเหรอ? แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่าสเตตัสของเขาครับ



‘Mek Sitthikorn — feeling accomplished’ 
-- 45 minutes ago

 
กระต่ายกินแล้วนะครับ ;)

 
Liked by ซุกซน ใจทราม, and 687 others    54 comments     29 Shares


ลงพร้อมด้วยรูปคุกกี้ที่เขาเอาให้ผมเมื่อเช้า ท่าทางจะถ่ายก่อนที่เขาจะเอามาให้ เพราะพื้นหลังของรูปเหมือนห้องพักในโรงแรม รูปมันไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย แต่ทำให้ผมตกใจจนสะดุ้ง ผมขยี้ตาก่อนจะดูรูปพร้อมอ่านแค็ปชั่นอีกครั้ง อะไรเนี่ย?!



Pingpong kidteungtertookwan : กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ มึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่เมฆเขาให้กระต่ายกินคุกกี้ว่ะ มึง โคตรอบอุ่นเลย ผัวกู @Vorawan T.

   Vorawan T.: อีดอก เลิกมโน เขาอ่อนโยนกับกระต่าย ไม่ใช่มึง

   Pingpong kidteungtertookwan : มึงจะก๊อปวางแบบนี้ทุกสเตตัสที่กูหวีดพี่เขาไม่ได้

MewMew’ Mew: มีอีกมั้ยคะ หนูอยากกินบ้างอ่าาาาา

Beauty Kadkeng: หยั่กกินบ้างจุงเรอคร่าาาาา

Bubu Bewithyouforever : เลี้ยงกระต่ายด้วยกาแฟนะค่ะเพื่อนกู

   Mek Sitthikorn : ถ้าใช้ ค่ะ ยาก กูแนะนำให้ใช้ ครับ

   Bubu Bewithyouforever : กูรู้ว่ามึงไม่ชอบ กูเลยกวนตีนเล่น

   Mek Sitthikorn : เหี้ยจริงๆ มึงถึงไม่มีแฟนไง

   Bubu Bewithyouforever : แล้วมึงล่ะ ได้กระต่ายหรือยัง เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ

   Ball Natthakrit : ไอ้สัด จัดว่าเจ็บ “เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ” @Mek Sitthikorn

   ปีโป้ ปะปะปีปีโป้ : ไอ้สัด จัดว่าเจ็บ “เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ” @Mek Sitthikorn

   Alexander T. : ไอ้สัด จัดว่าเจ็บ “เขารู้หรือยังเนี่ยว่ามึงชอบ” @Mek Sitthikorn

   Mek Sitthikorn : พวกเหี้ย กูจะบล็อกแม่งให้หมด สัดดดดดดดดดด

Wanjai Walaiporn : เมฆเลี้ยงกระต่ายด้วยเหรอ? โห เราไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย

   Mek Sitthikorn : เราชอบนะ น่ารักดี ^^


 
นอกจากนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นคอมเมนต์อวยคุยเมฆว่าอบอุ่นดั่งใช้ดาวนี่อาบน้ำทุกวัน ซึ่งผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมเลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์ที่ซุกซนแท็กผมอีกครั้ง
 


ซุกซน ใจทราม : กระต่ายพี่แม่งโคตรขี้หวง ผมจะขอกินชิ้นเดียวขู่แง้วๆใส่หูแถมยังกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้แย่งด้วยนะ ไม่รู้ว่าเพราะคุกกี้หรือเพราะคนให้… เล่นกินคนเดียวหมด จนแก้มย้วยจะแตก เฮ้อ อ๊องไม่พอนะ ตะกละเอ้ย @Tanjai Kraikiratikulchai




เดี๋ยวนะ?

 
ไอ้สเตตัส ‘พรุ่งนี้เอาอะไรให้กระต่ายกินดีนะ ;D ของคุณเมฆที่อัพถึงกระต่ายเมื่อเช้า ที่ผมเข้าไปแซ็ว นั่นแน่ นี่ไม่ได้หมายถึงกระต่ายจริงๆเหรอ

 
ความจริงแล้วสเตตัสนั้น ...หมายถึงผมเหรอ?



เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมซุกซนถึงเรียกผมว่าอ่องอ๊องแอ๊ โอ๊ย อายอะ อาย อายมาก อายกว่าตอนที่ไปเติมบัตรบีทีเอสแล้วบอกว่าขอซาลาเปาหมูแดงเพราะกำลังอยากกินมากๆเลยเผลอพูดไปแบบนั้นอีก เมื่อเช้าโป๊ะหมดเลยอะ แล้วผมจะมองหน้าคุณเมฆยังไงเนี่ย โหย โป๊ะมาก อายมาก นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย?!



“เป็นไรมึง ทำไมทำหน้าเหมือนเห็นผี”

“ซุกซน… เรา….”

“อะไรมึง เวลาของกูเป็นเงินเป็นทอง”



คนที่พูดไปหาวไปทำหน้าเมื่อยไปตอบผมกลับมา ถ้าเป็นปกติผมคงจะพูดอะไรกลับไปให้เหมาะสมกับความซุกซนนั้น แต่ครั้งนี้ผมทำได้แค่เงียบ เพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดในหัวอยู่ เรียบเรียงคำถามยังไงดีอะ ยากกว่าการสอบวิชาเรียนรวมของปีหนึ่งให้ผ่านอีก

 

“เรามีอะไรจะถามอะ คือเราสงสัยเรื่อง--”

 
“เรื่องที่พี่เมฆเขาจีบมึงอะเหรอ”
 

“...”

 

อ้าว นั่นคือเขาจีบผมเหรอ?



พอมานั่งนึกดูมันก็แปลกนิดหน่อย ที่คนที่เจอกันแค่ในร้านกาแฟวันจันทร์จะมาซื้อโจ๊กหม้อดินให้ผม ซื้อคุกกี้ให้ผมทำไม ยิ่งคิดยิ่งแปลก ไหนจะเรื่องการติดกาแฟแล้วติดกาแฟอีกที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้จ่ายคืนสักที คิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆแหะ เออ มันแปลกจริงด้วยอะ ไม่รู้ว่าแปลกอะไร แค่เพื่อนที่ทำงานไม่น่าเป็นแบบนี้นีนา

 

“ซุกซน เขาจีบเราจริงๆเหรอ?”

“คิดว่าไงล่ะ?”

“...”



ไม่ตอบละกัน ไม่รู้แล้วๆ ไม่รู้ คิดไม่ออก สมอง Error404 ไปแล้ว ตายแล้ว ไม่ต้องช่วยนะ ขอพักหายใจแป๊ปหนึ่ง ไม่ไหว ใครมียาดมบ้าง ขออันนึง ไม่ได้จะใช้นะ จะเอามาหมุนเล่น เอามาตั้งเฉยๆแล้วผมหมุนตัวเองก็ได้ ไม่รู้อะ ฮือ ไม่รู้อะไรแล้ว

 

“ไม่ต้องตอบกูก็ได้ แต่มึงควรเอามือออกจากแก้มย้วยๆของมึงก่อน มันดูเหมือนหมูมากกว่ากระต่ายเข้าไปทุกวัน”


ผมผละมือออกจากหน้าอย่างทันที อ้าว เฮ้ย นี่เอามือจับหน้าตอนไหนเนี่ย ไม่รู้แล้ว สมองไม่ทำงานแล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันบอกว่าผมเป็นตัวอะไรนะ?
 

แต่ช่างมัน เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าคุณเมฆ

 



“ซุกซน…”

 

“ไม่ต้องตอบกู รู้ว่าสำหรับมึง อะไรที่ไม่ใช่ 2+2=4 นะ มึงเปิดโหมดอ๊องทันที”


อันนี้คือไม่ได้ช่วย แต่กำลังด่าผมแล้ว ถูกมั้ย? 

 

“แล้วถ้าเฮียเมฆเขาจีบมึงล่ะ…” 

 

“...”

 

“มึงจะรังเกียจมั้ย?”


 


นั่นสิ …

 

ผมลองนั่งไตร่ตรองสิ่งที่เกิดขึ้นมาเดือนกว่าระหว่างผมกับคุณโปรเจคฯ (ผมยังไม่ลืมนะว่าเรากำลังประชุมกันอยู่ แต่ท่าทางจะใกล้จบแล้วแหละ ไม่ใช่ประชุมนะ ชีวิตผมเนี่ยแหละ) ถามว่าคิดกับเขาแบบไหน แน่นอนว่าตอบไม่ได้ ผมไม่รู้จริงๆว่ามันจะใช้นิยามว่าอะไร ผมไม่เคยรู้ ไม่รู้จริงๆ ผมไม่เคยมีคนที่ชอบ แฟน คนคุย หรืออะไรเลย


ชีวิตผมมีแค่ครอบครัว แล้วก็เพื่อนเท่านั้น ไม่เคยมีความสัมพันธ์รูปแบบอื่นที่นอกเหนือจากกรอบพวกนี้เลยสักนิด ผมควรจะทำยังไง? ผมควรจะคิดอะไร? ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ความรู้สึกมันคืออะไร แต่ถ้าถามว่ารังเกียจมั้ย…



“แทนใจ…” 



เอ๊ะ?



ผมกระพริบตา เมื่อกี้ตกในภวังค์ของตัวเองนานเกิน เพิ่งรู้ว่าคนอื่นเขาเริ่มลุกเดินออกไปทางประตูกันหมด เมื่อหันไปข้างๆที่ควรจะมีซุกซนก็กลายเป็นความว่างเปล่า คิดเรื่องเมื่อกี้ยังไม่ออกเลย เพื่อนก็ทิ้งอีก การเป็นแทนใจมันยากครับ เพื่อน… ไม่ได้หากันง่ายๆป่าววะ? อย่างตอนนี้ ไม่รู้ว่าเพื่อนหายไปไหนแล้ว จะหายังไงเนี่ย ท่าทางจะหายากแน่นอน เพื่อนยิ่งเตี้ยๆอยู่

 

“แทนใจๆ ได้ยินผมมั้ยเนี่ย?”

 

เมื่อหันหลังไปผมสะดุ้งสุดตัว เมื่อคนที่อยู่ในห้วงความคิดมาปรากฏตัวเป็นๆนั่งส่งยิ้มประหลาดแบบที่เขาชอบทำมาให้จากข้างหลัง แย่แล้ว แย่จริงๆแล้ว ผมยังคิดคำตอบของคำถามนั้นไม่ออกเลย ทำไมโลกส่งตัวกระตุ้นมาตอนนี้เนี่ย! ช่วยด้วย



“อ่า…”


ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี!

 

“ว่าแต่... คุกกี้อร่อยมั้ยครับ?”
 

มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ตอบคำถามคุณเมฆ ผมก้มหน้าที่เริ่มร้อนถึงใบหูจนต้องเอามือมาจับแล้วถูๆให้มันหายร้อน โอ๊ย ขอพรีออร์เดอร์ เอลซ่า สักคนจากดิสนีย์ได้มั้ย หน้ามันร้อนหูมันร้อนไปหมดเลย! ขออะไรมาดับร้อนที!

 

“แล้วถ้าเฮียเมฆเขาจีบมึงล่ะ…มึงจะรังเกียจมั้ย?”



คำถามของซุกซนดังขึ้นในหัวอีกครั้ง ผมค่อยๆเหลือบตาขึ้นมองหน้าคุณเมฆ ที่กำลังมองหน้าผมอยู่อย่างตั้งใจเหมือนผมเป็นละครที่สนุกมากๆ ไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะจีบ จะแกล้ง จะอยากเลี้ยงกาแฟหรือขุนผมด้วยของกิน หรืออะไร แต่ถ้าถามว่ารังเกียจไหม …

 
คำตอบคือ ‘ไม่’ เลยสักนิด

 
 

 

------- 100% -------

 

มาแล้ว มาช้าแต่มาแล้วนะคะ ฮือออออ

อ๊องเริ่มจะถูกกระเทาะเปลือกแล้วนะคะ

ต่อไปจะเป็นยังไง (และมาตอนไหน) ให้ซุกซนทำนายนะคะ  อิ___อิ


สามารถคอมเมนต์ที่นี่ หรือสกรีมได้ที่ #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ในทวิตเตอร์ เหมือนเดิมนะคะ หรือยังไงทักเรามาได้ที่ @banybapho นะคะ ขอบคุณมากค่า XD
[/b]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2018 07:16:33 โดย babybaphomet »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

แทนใจพัฒนาแล้ว  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2018 22:10:46 โดย Billie »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
อยากจะอุ้มแแทนใจหนีคุณเมฆ แล้วเอากลับไปเลี้ยงดููเสื่อเป็นอย่างดี ทำไมถึงได้เป็นคนที่มีส่วนประกอบจากความน่ารักมากกว่า80% แบบนี้เนี่ยยยย แทนใจ!

ออฟไลน์ dradareal

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โง้ยยยย ฟหกกดดเสว
เป็นเรื่องที่เราขออนุญาตใช้คำว่า ค่ดน่ารักกกกก <3
ฮืออออ

แทนใจน่ารักแบบน่ารักมากๆๆๆ
อยากอุ้มน้องแทนใจไปเลี้ยงดูที่บ้าน แล้วฟัดแก้มให้หนำใจแทนคุณเมฆจริงๆ
ตอนนี้น้องแทนใจก็รู้ความในใจของคุณเมฆแล้ว ยังไงต่อดีๆ
ติดตามค่ะๆ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ในที่สุดแทนใจก็รู้ตัวแล้ววววว

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กระต่ายรู้ตัวแล้ว 5555555

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮื้อออออออ น่ารักมากเลยค่ะ
แทนใจรู้ตัวซะทีนะลูกกกกกก

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
7th Monday #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์
 
 
 
   ไม่รังเกียจ ไม่ได้แปลว่าจะไม่ตกใจ
 
   เมื่อสักครู่ที่คุณเมฆเดินมาแงะผมออกจากภวังค์ และพามาส่งห้อง สารภาพว่าจิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยครับ เหมือนตอนทำงานเย็นวันศุกร์ที่เอาแต่มองนาฬิกาว่าเมื่อไหร่จะ 6 โมง ในหัวมีแต่แผนนอนดูหนังวันเสาร์ ไม่รู้เรื่องแล้วว่าลูกค้าโทรมาทำไม หรือเมื่อกี้ตอบอะไรลูกค้าไปบ้าง
 
   “แทนใจ”
 
   อย่ามาเรียกนะ!
 

   “แทนใจ เป็นอะไรครับ เงียบเชียวนะเรา”
 

   ผมหันหน้าหนีคนข้างๆที่พยายามจะยื่นหน้ามาทางผมเพื่ออะไรก็ไม่รู้แหละ ตอนนี้พวกเรากำลังเดินกลับจากห้องประชุมครับ ซึ่งคุณเมฆบอกผมว่าซุกซนมันหนีกลับไปตั้งนานแล้ว แถมยังฝากให้คุณเมฆหิ้วผมกลับไปห้องด้วยอีก ฝากเหมือนผมเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำแยกน้ำชามละสี่สิบห้าเลย นี่เพื่อนไง เพื่อนเอง
 

   “เปล่าครับ” ข้ออ้างโคตรไม่เนียน ไม่รู้เว้ย ไม่ได้ต้องการความเนียน ต้องการเอาตัวรอด

   “งั้นเปลี่ยนคำถามละกัน”
 
   ผมเหลือบตาไปมองเขานิดหน่อย พอเห็นว่าเขาไม่ได้มองผมก็ค่อยๆหันหน้าไปทั้งหน้า
 

   “คุกกี้อร่อยมั้ยครับ?”

   “ไม่รู้อะ ปุ่มรับรสไม่ทำงาน”

   “ขนาดไม่รู้รสยังกินหมดถุงคนเดียวเลยนะครับเนี่ย”

   “ก็ผมหิว”
 
   ตอบแค่นั้นแล้วทำเป็นไม่ได้ยินเสียงหัวเราะคุณโปรเจคฯที่ดังอยู่ข้างๆเหมือนกับมีความสุขอะไรในชีวิตมากมายไม่รู้ ไม่เคยเจอป้ากๆคิมๆ ASAP ใส่ละสิ ชีวิตถึงมีความสุขขนาดนี้!!!!
 
   “อร่อยพูดแบบนี้นะ”

   “บอกว่าแค่หิวไงคุณ!

   “โหย ทำไมต้องเกรี้ยวกราดด้วยเนี่ย”
 
   เถียงกันมาสักพักจนถึงหน้าลิฟท์ คนส่วนใหญ่เขาไปนอนพักบนห้องกันหมดแล้วแหละครับ เพราะเดี๋ยวอีกสักพักจะต้องไปทานข้าวเย็นกันข้างนอก อันนี้ผมได้ยินว่าเขาเหมาร้านอาหารเอาไว้ให้ครับ แหล่งข่าวก็ไม่ได้ลึกลับอะไรครับ ชมพูทวีปทีมเอง
 
   “เมฆ ว่าไงเรา”

   “พี่ภูมิ สวัสดีครับ”
 
   ในตอนที่เรากำลังรอลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 6 ที่พวกเราพักอยู่นั้น ผู้ชายท่าทางภูมิฐานก็มายืนข้างๆคุณเมฆ ที่ยกมือไหว้อีกคน ผมพยายามมองหน้าเขานะแต่คุณเมฆเอาตัวบังผมไว้ บังทำไม! แล้วตัวเองก็สูงแถมไหล่ใหญ่อย่างกะหมี แบบนี้ไม่ใช่ Cute boy แล้ว น่าจะ Cute Bear มากกว่า
 

   “ได้ข่าวว่าย้ายเข้ามาออฟฟิศหรือไง”
   “ครับ”
 

   ผมยกมือไหว้เมื่อเห็นเขาเลิกคิ้วมองมา เขาเลิกคิ้วแต่ก็ยอมรับไหว้ (ดูยังไงก็แก่กว่าครับ ถ้าเป็นพี่คุณเมฆไม่ว่ายังงไงก็ต้องอายุมากกว่าผม คือคุณเมฆเขาแก่กว่าผมน่ะ ถึงแม้จะทำตัวไม่น่าเคารพก็ตาม) รอไม่นานลิฟท์ก็มา พวกเราสามคนก้าวเข้าลิฟท์ครับ คุณเมฆกดชั้น 6 ให้พวกผม ส่วนคุณภูมิฐานที่มาด้วยกันกดชั้น 4 ครับ
 

   “อยู่ไซต์งานไม่ดีเหรอ?”
   “ผมแค่เบื่อๆ อยากมานั่งออฟฟิศบ้างน่ะพี่”
   “เบื่อหรือแอบซุกแฟนไว้กันแน่ พวกเข้าออฟฟิศส่วนใหญ่เข้ากันเพราะแต่งงานมีเมียกันทั้งนั้น”
 

   ผมเลิกสนใจคู่สนทนาเมื่อเห็นว่าวิวข้างนอกน่าสนใจกว่าผู้ชายสองคนที่คุยเรื่องที่ผมไม่เกี่ยวข้อง ลิฟท์ที่นี่มันเป็นลิฟท์แก้วครับ ผมสามารถมองเห็นทุกชั้นเลย แถมที่นีระเบียงเขาจะมีต้นไม้ปลูกไว้ครับ ทุกห้องทุกชั้นเลย พออยู่บนลิฟท์ที่เห็นหมดทุกอย่างนี่รู้สึกดีมาก โปร่งมาก เขียวมาก เหมือนได้รีเฟร็ชเลยครับ
 
   เดี๋ยวกลับไปจะมอบรางวัลขวัญใจผมให้ใครก็ตามที่เลือกโรงแรมนี้ เลือกได้ถูกใจผมมาก มาเอารางวัลไปเลย ผมยกเพื่อนร่วมงานให้คนนึง รางวัลใหญ่แต่สั้นนิดหน่อย ชื่อนายซุกซนครับ เอาไปเลย
 
   “ผมจะมีแฟนได้ยังไงครับพี่”

   คุณเมฆพูดพร้อมหัวเราะแห้งๆ เหมือนกับเรื่องนี้ไม่ได้ตลกขนาดนั้น  อีกฝ่ายก็คงคิดแบบเดียวกับผม บทสนทนาเลยเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่นแทน เช่นเรื่องงาน
 
   “ว่าแต่เหมือนผมได้ยินว่าเขาประสบอุบัติเหตุใช่มั้ย? หาคนใหม่หรือยัง?” 
   “กลับมาทำงานแล้วนะ วันนี้ก็มา”
   “โห พักฟื้นไปหลายเดือนขนาดนี้ตามงานทันเหรอพี่”
   “ก็ได้อยู่ เขาเก่งน่ะ”
 
   คุณภูมิๆอะไรสักอย่างพูดแค่นั้น ก่อนจะตบบ่าคุณเมฆอีกครั้งแล้วเดินออกไปเมื่อลิฟท์จอดที่ชั้น 4 ทิ้งผมเอาไว้กับผู้ชายติดกาแฟอีกครั้ง ผมมองมือมองเท้ามองซ้ายไม่มองขวาเพราะคุณเมฆยืนอยู่ แหงะ ขอคุณภูมิๆเมื่อกี้เข้ามาใหม่ไม่ได้เหรอ  มันอึดอัดแปลกๆอะ ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงดี
 

   “เหนียวตัวเหรอคุณ ขยับไปขยับมา”
   “เปล่าสักหน่อย”
   “หรือว่าอยากกินกาแฟ?”
 
   ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าอีกคนขยับเข้ามาใกล้อีกนิดหน่อย เข้ามาทำไม ยังตั้งตัวไม่ทัน ไม่ได้รังเกียจนะ แค่แบบ มันแปลกๆอะ มันร้อนไปหมดเลย ทำตัวไม่ถูก เขยิบออกไปหน่อยได้มั้ยอะ ขอร้องละนะ เอาสินบนมั้ย? ยกซุกซนให้ก็ได้ หรือจะเอาชมพูทวีปทีมดี?
 
   “ไม่ๆ”

   ผมสั่นหัวปฏิเสธ คุณเมฆเงียบเลยอะ ผมเม้มปาก ทำไมลิฟท์มันช้าขนาดนี้เนี่ย! ผมหันซ้าย (ไม่หันขวานะ เพราะคุณเมฆยังอยู่ข้างขวาผมอะ) หันหน้า หันหลัง อึดอัดอะ ปกติเวลาเป็นแบบนี้ต้องมีเสียงโทรศัพท์ดังไม่ใช่เหรอ หรือไม่ก็สัตว์ประหลาดจากต่างดาวสักตัวเข้ามายึดโลกก็ได้ ไม่รู้คิวเลย
 
   “...”

   เงียบอะ เงียบทำไม รอผมพูดเหรอ? เป็นคนอายุมากกว่าต้องพูดก่อนสิ หรือเอาไงอะ ให้ก่อนเหรอ? ผมพูดก่อนก็ได้ เพราะผมใจดีมากๆ
 
   “ก็… ใครเขากินกาแฟกันตอนนี้เล่าคุณนี่ มันจะเย็นแล้วนะ เดี๋ยวก็นอนไม่หลับกันพอดี”
 
   “คิดมากเรื่องในเฟสบุ๊ค?”
 

   ตึ้ง!
 

   เป็นโชคดีของผมที่ลิฟท์มาถึงชั้น 6 สักที หลังจากเดินทางไปรอบโลกมารอบหนึ่งได้มั้ง ลิฟท์นี่ก็ช้าเหลือเกิน วันหลังผมจะเดินขึ้นมาข้างบนเอง ยิ่งถ้ามีคุณเมฆอยู่ใกล้ๆผมยิ่งจะเดินขึ้นเองเลย คอยดู!
 
   “เขินแล้วหนีเหรอคุณ”
 
   “ไม่ได้เขิน แล้วก็ไม่ได้หนีด้วย!”

   ผมหันหน้าไปหาคุณเมฆที่อยู่ทางด้านขวาทันที ขมวดคิ้วใส่ให้อีกฝ่ายเกรงกลัว! อย่ามาแหยมกับแทนใจนะบอกเลย! นี่ใคร! ผมมีน้องต้องเลี้ยงนะ ผมไม่หนีหรอก ไม่เขินด้วย!
 
   “งั้นแสดงว่าคุณคิดเรื่องในเฟสบุ๊คสินะ”
 
   “อะไรของคุณ! คิดอะไรกัน เฟสบุ๊คอะไร ไม่ได้คิดมากเลยคุณ”
 
   ทำไงดี ทำไงดี ผมหันซ้ายหันขวา เฮ้ย! หน้าคุณเมฆอีกแล้ว ยิ้มทำไมอีกกกกกก พอแล้ว ยิ้มแล้วตีนกาจะคลืบคลานขึ้นหน้าเร็วมากเลยนะ มันจะกระโดดขึ้นหน้าเลย รู้ตัวอีกทีเป็นป็นปู่ชิวแล้วนะ ไม่รู้หรือไง! หรืออยากเป็นดัมเบิลดอร์ตั้งแต่ผมยังไม่ขาว!
 
   ห้ามยิ้ม! บอกว่าห้ามยิ้มไง! หยุด!! ฟังกันบ้าง ที่นี่ประเทศที่มีประชาธิปไตยนะ! ฟังเสียงผมบ้าง!
 
   “คุณใจเย็นๆ คุณจะเดี๋ยวสะดุ้งเดี๋ยวกระโดดแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่ใช่หมาป่า ไม่จับกระต่ายกินหรอก”
 
   “แต่ผมไม่ใช่กระต่าย!”
 
   ทีเขาว่าพวกเก่งวิทย์เก่งเลขจะไม่เก่งภาษานี่เรื่องจริงแน่นอน  คุณเมฆที่หน้าเฟสบุ๊คเขียนว่าจบวิศวกรรมศาสตร์ ต้องไม่เก่งภาษาไทยชัวร์ บอกว่านี่แทนใจ ไม่ใช่กระต่าย สงสัยตกภาษาไทยตั้งแต่ยังไม่ขึ้นอนุบาลสามแน่นอน
 
   “ครับๆ ไม่ใช่กระต่ายก็ได้ ไม่เป็นไร แล้วแต่แทนใจเลยครับ”
 
   คุณเมฆยกมือขึ้นมาข้างหน้าสองข้างเป็นปางห้ามมหาสมุทธ ผมยักคิ้วใส่ ต้องแบบนี้ ผมนี่เกรดสี่ภาษาไทยมาตลอดนะบอกเลย แถมยังเคยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันด้วยนะ! แต่ตกรอบแรก … เออ พูดทำไมเนี่ย
 
   “ใช่ เพราะงั้นไม่คิดอะไรเลยสักนิด!”
 
   “เรื่องกาแฟหรือคุกกี้?”
 
   “ทุกเรื่องเลย ไม่คิดอะไรเลยนะ ไม่คิดอะไรเลยจริงๆด้วย!”
 
   “ครับๆ ผมเข้าใจแล้ว”
 
   คุณเมฆเดินมาส่งผมที่หน้าห้อง คือจะบอกว่าเดินมาส่งก็ไม่ถูกขนาดนั้นเพราะห้องผมเป็นทางผ่านที่จะไปห้องเขาอยู่แล้ว ผมกดกริ่งหน้าประตู ได้ยินเสียงตุ๊บตั๊บแล้วการอุทาน ‘เหี้ย ก็ว่าทำไมห้องโล่งๆ’ ดังมาจากข้างใน เห็นมั้ยครับ ว่าถ้าจะคบเพื่อนก็ไม่ควรเลือกที่มันจะเทเราเอาไว้แล้วหนีกลับห้องนะครับ ผมบอกเลย
 
   ก่อนที่เขาจะยอมกลับห้องไป เขาลูบหัวผมพร้อมพูดเบาๆ
 
 
   “แต่… ผมอยากให้คุณคิดนะ”
 
 
 
 
------- Monday In Love -------

 


   สมองตายครับ ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว


   ในขณะที่วิญญาณผมได้หลุดออกจากร่างไปตั้งแต่เมื่อกี้ ซุกซนก็เปิดประตูมาพอดี (เนี่ย! ไม่รู้คิวอีกคนแล้ว ต้องเปิดมาขวางตอนที่คุณเมฆกำลังพูดสิ ไม่ใช่ตอนที่สติผมไปแล้ว) หลังจากนั้นผมก็รีบมุดเข้าห้องเลยครับ แล้วอาบน้ำ เผื่อจะดึงสติกลับมาได้บ้าง
 

   ในขณะที่กำลังเป่าผมอยู่ผมก็คิดนั่นนี่ไปด้วย คือความจริงแล้วตอนแรกผมก็ไม่เป่าผมหรอกครับ แต่น้องกายบอกว่าผมควรจะเป่านะ เพราะผมเป็นหวัดง่าย น้องกายเป็นห่วง ด้วยความตื้นตันนั้นผมเลยเป่ามาตั้งแต่มัธยมจนตอนนี้ก็ยังเป่าอยู่
 

   ฮือ พูดแล้วก็คิดถึงน้องกาย โทรหาดีกว่า รอสายไม่นานน้องกายก็รับ นี่แหละนะน้องชายของผม ไม่ค่อยปล่อยให้ผมรอนานหรอก เด็กดีใช่มั้ยล่ะ น้องชายผมเองครับ เลี้ยงมากับมือ
 

   “น้องกายยยยยยยย”
 
   “พี่แทนใจ เป็นไงมั่ง หนีผมไปเที่ยวสนุกมั้ย?”

 
   ถึงแม้คำพูดจะทำให้ผมรู้สึกผิดนิดหน่อยที่เบี้ยวนัดน้องมาเอาท์ติ้ง แต่น้ำเสียงที่ไม่ได้ถือสาเอาความอะไรแล้วทำให้ผมยิ้มออกมา นี่แหละน้องชายผม พวกเราแทบไม่เคยโกรธกันนานเลยครับ เพราะสุดท้ายไม่ผมก็น้องใครสักคนต้องง้อก่อนอยู่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็ผมนะ พี่ที่ดีไม่ควรโกรธน้องนานนี่ครับ
 

   “อากาศดีมากเลยนะน้องกาย พี่อยากให้น้องกายมาเที่ยวจังเลย พี่ไม่น้องกายแล้วพี่เหงา คิดถึงจังเลย อยากเจอหน้า”
 

   เสียงหัวเราะของน้องกายดังมาตามสาย น้องขำอะไรผมเนี่ย ไม่รู้แหละผมเหงา ความจริงวันเสาร์แบบนี้ผมควรจะได้อยู่ห้องกับน้อง ใช้เวลาดูหนังด้วยกัน นี่บริษัทกำลังแทรกแซงเวลาครอบครัวอันอบอุ่นอยู่นะ ผมฟ้องกรมแรงงานได้ไหม หรือฟ้องศาลไคฟงก็ได้

 
   “ผม… ก็คิดถึงพี่ครับ”
 
   “ใช่มะๆ เราสองคนนี่ใจตรงกันมากเลย เนอะๆ”
 

   ผมกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง เพราะผมเริ่มใกล้จะแห้งแล้วเลยไม่ต้องแคร์ว่าจะไม่สบายเท่าไหร่ และเพราะซุกซนใจทรามนั่งเล่นโทรศัพท์คุยกับใครก็ไม่รู้ แต่ท่าทางจะคุยอยู่เพราะมีการพิมพ์ไปขำไป แบบนี้คงไม่ใช่ตามงานกับลูกค้าแน่นอน มั่นใจครับ
 

   “ตอนนี้น้องกายอยู่ไหน? วีดีโอคอลกันมั้ยครับ? พี่คิดถึงน้องกาย”
 
   “ผมทำรายงานอยู่บ้านเพื่อนครับ ตอนนี้คงไม่สะดวก”
 
   “โหย…”
 
   “อย่าหงอยสิครับ อยู่ตรงนั้นผมง้อพี่ไม่ได้นะ”
 

   เพราะสนิทกันน้องคงรู้ว่าตอนนี้ผมทำหูลู่หางตกอยู่ เสียใจครับ ไม่ได้เห็นหน้าน้อง ผมกับน้องกายเราสนิทกันมากจริงๆนะครับ ผมนึกตอนที่ไม่มีน้องกายไม่ออกเลยครับ ผมต้องร้องไห้กลายเป็นขี้เถ้าแน่นอนถ้าใครมาจับผมแยกกับน้องผมเนี่ย ผมเลี้ยงมาผมรักของผมนะ
 

   โอเค ไม่ได้เลี้ยงก็ได้ พ่อกับพี่รักเลี้ยงน้อง ส่วนผมอยู่บ้านแม่ แต่ผมก็รักน้องนะ!

 
   ผมนอนกลิ้งคุยกับน้องไปเรื่อยๆครับ ตอนแรกก็กลัวจะกวนเพราะน้องบอกว่าน้องทำงานอยู่ แต่พอถามย้ำกลับไปน้องบอกว่าไม่เป็นไรคุยได้ แต่ไม่อยากวีดีโอคอลแค่นั้นเอง ผมก็โอเค ถ้าน้องคุยได้ผมก็คุยได้ครับ จนผมกลิ้งไปเห็นกาแฟซองที่โรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ ทั้งที่ไม่มีอะไรเลย เป็นแค่กาแฟใส่น้ำร้อน แต่ผมกลับนึกถึงคนที่คอยเลี้ยงกาแฟมาหลายแก้วไม่ได้
 

   ขนาดล่าสุดไม่ได้เลี้ยงกาแฟเป็นแก้ว ก็ยังสรรหาขนมรสกาแฟมาให้อีกนะ
 
   คิดแล้วมันก็รู้สึกร้อนๆอีกแล้วอะ

 
   “พี่แทนใจครับ พี่ครับ!"
 
   “ห๊ะ! อ๋อ ว่าไงนะเมื่อกี้ พี่เหม่อไปหน่อย”
 
   “ผมจะถามว่า--”
 
   “แทนใจ แดกข้าว!!!!!”
 

   ยังไม่ทันที่จะได้คุยเพิ่ม ซุกซนใจทรามที่ชีวิตไม่น่าจะเป็นคนดีได้อีกแล้วก็แทรกเสียงตัวเองเข้ามาในสายโทรศัพท์ดังมากจนน้องกายหลุดอุทาน ผมเองก็เหมือนกัน เจอแล้วครับตัวทำลายเวลาครอบครัวที่แท้จริง ซุกซน! นายนี่เอง!!!
 

   “ขอคุยกับน้องแป๊ปนึงได้มั้ยล่ะ?”
 
   “แป๊ปห่าอะไร ดูเวลาสิ๊ นี่มันทุ่มแล้ว เขาเรียกรวมทุ่มครึ่ง” 
 
   “เราไม่ไปก็ได้นะ เดี๋ยวเราสั่ง Room Service มาทานเองก็ได้!”
 

   ผมจะคุยกับน้องกาย น้องชายผมเลยนะ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมหรอก ผมเลี้ยงมากับมือ … โอเค พ่อแม่พี่แทนรักก็น้องด้วยก็ได้ ผมให้เครดิตครับ 
 
   “มึงจะไม่กินใช่มั้ย บุฟเฟ่ต์น่ะ บุฟเฟ่ต์!!!!”
 
   ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าจะพาไปเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ อะไรก็ได้นะ แต่นายแทนใจซื้อได้ด้วยบุฟเฟ่ต์ครับ เป็นมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว ผมชอบการเดินงงในดงของกินมากที่สุดแล้ว ฮือ บุฟเฟ่ต์จ๋า เดี๋ยวพี่แทนใจไปหานะ รอแป๊ป พี่กำลังจะไปแล้ว ขอวางโทรศัพท์ก่อน
 
   “น้องกายครับ” ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ ที่ได้ยินเสียงหัวเราะตามสายกลับมา “พี่ต้องไปทานข้าวแล้ว เดี๋ยวกลับมาแล้วพี่โทรหาอีกทีนะ ตั้งใจทำงานนะ พี่คิดถึงมากเลย”
 
   “คิดถึงพี่เหมือนกัน ไปทานข้าวเถอะครับ เดี๋ยวอีกแป๊ปผมก็จะกลับห้องแล้ว”
 
   “กลับดีๆนะ แล้วคุยกันครับ”
 
   ผมวางโทรศัพท์แล้วกวาดของบนโต๊ะลงกระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ลวก ก่อนจะเดินตามซุกซนที่บ่นเป็นหมีขาสั้นไม่ได้กินเยลลี่ตรงเวลา ซึ่งผมไม่สนใจมัน เพราะคนที่รออยู่หน้าห้องดึงความสนใจทั้งหมดของผมไปเรียบร้อยแล้ว ผมอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าใครมายืนเก๊กอยู่หน้าห้อง
 
 
   “ไงเรา”
 
 
   ไอ้คุณเมฆ คุณอีกแล้วเหรอ โผล่มาบ่อยไปมั้ยเนี่ย ไม่ได้รังเกียจแต่ใช่ว่าจะทำใจได้ทันทีนะเว้ย?!!!
 
 
 
------- 50% -------

มาลง 50% เลยค่ะ เพราะว่าพรุ่งนี้วันจันทร์ 5555555 (ในเลข 5 มีแต่น้ำตาล้วนๆ) ยุ่งแน่นอน ไม่ได้แตะเรื่องนี้แน่นอนค่ะ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรรอเราอยู่ ฮืออออออออออออออ
 
ในส่นของเนื้อเรื่อง เวลาแทนใจนางบ่นอะไรไม่ต้องเชื่อมากนะคะ เรื่องราวถูกถ่ายทอดออกมาในมุมมองของแทนใจ มีฟิลเตอร์น้องแทนใจติดเอาไว้ในทุกอย่าง 5555  ก่อนจะเชื่อน้องแทนใจกรุณาใช้จักรยาน และสมุทรปราการนะคะ เพราะงั้นถ้าเป็นมุมของคุณเมฆหรือคนอื่นเรื่องอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้ค่ะ ;D
 
ป.ล. สามารถคอมเมนทต์ที่นี่ หรือสกรีมได้ที่ #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ในทวิตเตอร์ เหมือนเดิมนะคะ หรือยังไงทักเรามาได้ที่ @banybapho นะคะ ขอบคุณมากค่า XD
 
ป.ล.ล. ถ้าเห็นคำผิด หรือภาษาอังกฤษผิดตรงไหน บอกเราได้ทุกช่องทางนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2018 07:14:44 โดย babybaphomet »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

เครื่องน้อง error
ปล กระต่ายตัวนี้ซื้อได้ด้วยบัฟเฟ่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2018 21:32:24 โดย Billie »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
โอ้ยน้องงงง อ๊องมาตั้งนาน เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วรูกกกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ชอบความแทนใจ บ่นบ้าในใจคนเดียวได้ตลกมาก 5555

ออฟไลน์ StarPasO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แทนใจไม่อ๊องแล้ว ตื้นตัน :hao5:

คนเขียนครับ คุกกี้ ไม่มีไม้โทนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เป็นน้องก้อนที่แท้ทรู น่ารักจังเลยเจ้าแทนใจ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
แทนคือกระต่ายตื่นตูมที่แท้จิง
แล้วระแวงได้น่าเอ็นดูมากๆๆๆๆ 55555555555

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
7th Monday (2)


“เฮียเมฆมาพอดีเลย ฝากแทนใจมันไว้กับเฮียหน่อย เดี๋ยวผมไปคุยกับย่ารหัสแป๊ป”
 

ซุกซนคนใจทรามตบไหล่ผมปั่กๆ หันไปพูดกับอีกคนดิบดี มันหันมามองหน้าผมเล็กน้อย แล้วพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้แสดงความเห็นใดๆ
 
“ถ้าดูแลมันลำบาก เอาเชือกผูกไว้ก็ได้นะพี่ หรือไม่ก็ยัดใส่กระเป๋าหิ้วไปก็ได้ แต่อาจจะหนักหน่อย แก้มย้อยขนาดนี้”
“นี่เราเป็นคนไง ถ้าขาเราสั้นเท่าหมากระเป๋าแบบซุกซนก็อาจจะพอพับเก็บได้อยู่นะ”
“กวนตีนนะมึงอะ”
 
ซุกซนยืดแก้มผมอีกรอบ เจ็บ! ไว้วันหลังผมจะทำสแตนดี้มาตั้งแล้วให้มันดึงแก้มเล่น มีอะไรก็ถามสแตนดี้ผมเอา อยากเล่นแก้มก็เล่นกับสแตนดี้เอา ไม่รู้ไม่ตอบไม่คุยด้วย!
 
“ซุกซน แทนใจเจ็บแล้วนั่น”
 
คุณเมฆพูดทีเล่นทีจริง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แววตาดูวาววับแปลกๆ เมื่อเพื่อนผมเห็นแบบนั้นก็รีบปล่อยเลย อะไรเนี่ย ทำไมไม่กลัวผมบ้างวะ พูดปากเปียกปากแฉะว่าเจ็บไม่เคยสนใจ นี่แทนใจไง นี่เพื่อนเอง เพื่อนที่ไม่ได้หากันง่ายๆอะ
 
“นั่นแหละพี่ ฝากดูมันหน่อย ผมไปล่ะ”
 
ซุกซนพูดครั้งสุดท้าย ก่อนจะดันไหล่ผมให้อีกคนที่ยืนหล่ออยู่หน้าห้อง (ไม่อยากจะยอมรับ แต่คุณเมฆเหมือนพ่อแม่ตั้งใจปั้นจริงๆนะ หล่อในเสื้อฮาวายย้วยๆ ทำได้ไง?) เพื่อนผมทำตัวขาสั้นแต่ฉันวิ่งเร็วหายไปไหนแล้วไม่รู้ เหลือผมกับคุณโปรเจคฯที่ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกแปลกๆอะ

คนโคตรหล่อโคตรเก่งแบบนี้อะนะ จะมาชอบผม?
 
ไม่ม้างงงงง เขาอาจจะอยากเล่นด้วยไรงี้ ผมเข้าใจนะ ผมอาจจะหน้าแป้นๆ ดูยืดได้คล้ายดินน้ำมัน เวลาขึ้นรถไฟฟ้านี่อย่างเป็นที่ชื่นชอบของเด็กครับ กี่คนต่อกี่คนดูชอบผมหมด แต่คุณเมฆเขาก็โตแล้วนี่ หรือเมื่อก่อนตอนเด็กๆไม่มีใครซื้อเรือดำน้ำให้เล่นกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งเล่นกับผมหรือเปล่า … เดี๋ยว ผมเริ่มงงแล้ว เริ่มไม่เข้าใจตัวเอง
 
อะไรเนี่ย ทะเลาะกับคนอื่นไม่พอต้องมาทะเลาะกับตัวเองอีกเหรอ ทำไมชีวิตมันต้องยากขนาดนี้ด้วย
 
“เปลี่ยนชุดเหรอคุณ?”
“ผมอาบน้ำใหม่อะครับ ชุดที่ใส่มาตอนเช้ามันเค็มแล้วอะ”
 
ผมพูดพลางย่นจมูกเมื่อนึกถึงเสื้อเค็ม มันไม่ได้เค็มขนาดนั้นแต่มันเหม็นๆอะ ไม่หอม ซึ่งผมก็เหนอะหนะตัวเองด้วย แล้วก็มีเรื่องที่ต้องคิด พองฟูเต็มหัวเหมือนลูกบอลในบ้านบอลเด็กน้อยด้วย เลยอาบน้ำสระผมให้หัวโล่งๆ ตัวเย็นๆ ดีกว่า
 
“ตัวคุณมีแต่เกลือใช่มั้ย หรือคุณเป็นน้ำปลา?”
 เขาพูดยิ้มๆ นี่ก็ยิ้มจังเลย เมืองไทยสมายคลับมากมั้ง
“เหงื่อก็พอครับคุณเมฆ”
“จริงเหรอครับ?..”

เขาทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ แถมเสียงก็ดูเหมือนจะกังขากับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดไป (เรื่องใหญ่มากครับสุขอนามัยของแทนใจวันนี้) ในขณะที่ผมจะเปิดปากเถียงแง้งๆกับเขาเหมือนกับทุกที คุณเมฆก็ทำในสิ่งที่ผมยังไม่ได้คิดแผนตั้งรับเลยสักนิด

เฮ้ย!!!!!!!!
 
 เขาโน้มหน้าลงมาใกล้คอผม ใกล้จนผมสะดุ้ง ใกล้จนผมรู้สึกถึงไอร้อนเล็กน้อยจากตัวของเขา เขา-ลง-มา-ใกล้-มาก-เกิน-ไป!! ลงมาทำไม! นี่คอแทนใจไม่ใช่คอหมูย่าง!
 
“เฮ้ยคุณ!”
 
สติ สมาธิ ทั้งหลายที่อุตส่าห์รวบรวมมาได้ตอนที่อาบน้ำ กลับกระจายอีกครั้ง เหมือนลูกบอลนับล้านในบ้านบอลเลย กระจายแบบดาวกระจายเลย นี่มันอะไรกัน ผมรู้สึกหูร้อนอีกแล้ว โลกมันร้อน หรือเราจะตายแล้ว ไม่ตายสิ บ้าเอ้ย
 
“จริงด้วย กลิ่นน้ำหอมฟุ้งเลย” 
 
ในขณะที่ผมกำลังพะงาบๆ สมองไม่ประมวลผลอยู่นั้น ไอ้คุณเมฆก็ถอยหน้ากลับไป พร้อมกับทำหน้าเหมือนเพิ่งดมขนมปังอบจากเตาใหม่ๆ ทำไมทำหน้าฟินขนาดนั้น ถ้ามันหอมขนาดนั้นก็มาขอชื่อน้ำหอมกันดีๆ ผมแบ่งให้ก็ได้ เอาไปเลยก็ได้ อย่าทำแบบนี้นะ หัวใจจะวาย คนไทยด้วยกัน
 
“กะ...ก็ไม่ได้โกหกไง”
 
ผมหันหน้าหนีเขาออกมา หน้ารู้สึกร้อนๆ โอ้ย อะไรเนี่ย ไม่เอาดิ ไม่เอาแบบนี้ อาบน้ำมาแล้ว ไม่เอาไม่ร้อนแล้ว ตอนนี้ลูกบอลในหัวผมประมาณล้านลูกได้ เด้งไปเด้งมา คำพูดอะไรตีกันมั่วไปหมดแล้ว ผมไม่แน่ใจในอะไรทั้งนั้นนอกจากเรื่องที่ว่าผมเจอต้นตอที่ทำให้ประเทศไทยร้อนขึ้นแล้ว
 
ไอ้คุณเมฆ ที่โลกร้อนขนาดนี้ก็เพราะคุณนั่นแหละ!
 
เริ่มร้อนจากผมก่อนเลย ร้อนหน้า ร้อนหูด้วย ร้อนไปหมดเลยเนี่ย ยิ่งพอนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ก็เหมือนร่างกายร้อนจนทำตัวไม่ถูกเลยอะ แบบมือมันอยู่ๆก็ขยับไปเอง จะเอามือไปวางไว้ตรงไหนก็เทอะทะไปหมด อาการแบบนี้หายไปแล้วนะ เพิ่งกลับมาเมื่อกี้เลย ตอนที่เจอคุณโปรเจคฯเนี่ย 
 
“อ้าว พี่เมฆ อยู่ชั้นนี้เหมือนกันเหรอคะเนี่ย”
 
หมิวผู้ช่วยเลขาแผนกผมกับผู้หญิงอีกคนที่น่าจะเป็นเพื่อนกันแต่อยู่คนละแผนกเพราะผมไม่มีความคุ้นหน้าใดๆ เดินมาทางนี้พอดี ผมเลยได้โอกาสผละออกไปลิฟท์ แล้วทิ้งคุณเมฆเอาไว้ตรงนั้น
 
ไม่ได้รังเกียจจริงๆนะ แค่มันยังทำตัวไม่ถูกอะ เดี๋ยวจะคุยด้วยนะสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน
 
ผมไหลตามฝูงชนไปเรื่อยๆครับ เห็นใครหน้าคุ้นๆก็เดินตามเขาไปหมด มันต้องมีสักคนสองคนแหละที่เป็นคนในบริษัทแล้วจะต้องเดินไปจุดนัดพบเหมือนกัน (ผมถือคติ ‘การเดินตามคนข้างหน้า จะพาเราไปถึงจุดหมาย’ ไม่ว่าเขาจะไปไหน เขาก็ไปที่เดียวกับเรานั่นแหละ) ผมแอบเห็นคุณเชนแผนกผมเดินนำหน้าคุยกับใครไม่รู้อยู่ไม่ไกล เห็นไหมหลักการ เดินตามคนข้างหน้าไป ใช้ได้เสมอครับ
 
 ส่วนซุกซนเพื่อนผมนั้น ได้หายไปจากห่วงโซ่อาหารแล้วครับ ซุกซนมันเพื่อนเยอะ รู้จักไปทั่วแหละครับ ไม่น่าเป็นห่วงหรอก แต่มันควรจะห่วงผมบ้างไหมนะ
 
“พี่แอบไปได้ยินพวกแอดมินคุยกันว่าเดี๋ยวจะไปกินกันที่ร้านดังแถวๆนี้ เห็นว่าอาหารอร่อยมากกกกกกกก นักร้องก็ดีมากกกกกกก บรยากาศเลิศมากกกกกกกกกกกกกกกกกก สิบเต็มร้อยเลย อร่อยไปแดกงี้”
“โหย ดีมากจริงๆ พี่เคยกินแล้วเหรอ?”
“ยังอะ แต่ฟังเขาพูดมา”
“แล้วก็เล่นใหญ่เหมือนกินมาตั้งแต่เกิด”
 
ผมโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงคุณฝนอินเดีย กับคุณนุ่นบังกลาเทศ คุยกันอยู่ข้างหลัง ถ้ามีชมพูทวีปอยู่แบบนี้ก็ค่อนข้างวางใจครับ เหมือนเราเดินเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน แวะดูอะไรทางซ้ายนิดหน่อยหันหลับมาถูกทิ้งเอาไว้แล้ว ใกล้จะหลงเกือบร้องไห้ละ แต่ในที่สุดก็ได้ยินเสียงเพื่อนตัวเองโหวกเหวกภาษาไทยอยู่ไม่ไกล ประมาณนั้นครับ
 
“ว่าแต่ ที่บอกว่าคุณ P มาร์เก็ตติ้งที่เป็นเกย์นี่จริงมั้ยแก?”
 
นอกจากชมพูทวีปทีมในแผนกผม ผู้หญิงสองคนข้างหน้าที่มาจากชั้น 28 แผนกอะไรไม่รู้ก็กำลังเม้าท์กันอย่างสนุกสนานเลยครับ บางทีก็เริ่มตีกันแล้ว ระหว่างเสียงพูดเรื่องร้านอาหารข้างหลัง กับข้อมูลของคนในบริษัทข้างหน้าเนี่ย
 
“พูดเบาๆสิ เดี๋ยวเขาก็รู้กันหมดหรอกแก”
 
 ถึงพี่จะพูดแบบนั้นแต่ระดับสียงไม่ได้กลัวคนอื่นได้ยินเลยครับ อันนี้จากใจ ตอนนี้เปลี่ยนท่าไปกระซิบอีกคนแล้วครับ กระซิบเบาๆแบบที่ผมที่อยู่ข้างหลังก็ได้ยินชัดทุกคำ
 
“เขาว่าคุณ P เลี้ยงเด็กเอาไว้ ในบริษัทนี่แหละ แต่เอาจริง เงินเดือนเป็นแสนๆขนาดนั้นจะเลี้ยงกี่คนก็ได้ใช่มั้ยล่ะ?”
 
ไปรู้เงินเดือนเขาด้วย? ไม่ธรรมดา เอาออสการ์สาขาการใส่ใจข่าวสารชาวออฟฟิศยอดเยี่ยมไปเลยครับ แต่สาขาใจป๋าดีเด่นนี่ผมขอเก็บไว้ให้คุณเมฆนะ เลี้ยงอะไรผมบ้างแล้วก็ไม่รู้เนี่ย กาแฟที่ติดๆเขาไว้ยังไม่ได้จ่ายคืนเลยสักแก้ว อีกนิดจะไปออกรายการคนปลดหนี้แล้ว
 
บทสนทนาเรื่องคนอื่นจบไปเมื่อผู้หญิงต่างแผนกสองคนข้างหน้าผมเดินขึ้นรถทัวร์ข้างหน้าไปครับ ซึ่งมันเต็มตรงผมพอดี ข่าวเลยขาดตอน ใส่ใจได้ไม่สุด ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถคันที่สองแทน (แต่ถึงจะใส่ใจได้ทั้งหมดผมก็ไม่รู้อยู่ดีครับว่าเขาพูดถึงใคร เศร้าไม่เศร้า)
 
“ที่นั่งเต็มแล้วค่ะ เราไปคันหลังนะ”
 
พี่ผู้หญิงผมสั้นที่ผมคุ้นๆว่าเคยเห็นในบริษัทส่งยิ้มใจดีมาให้ พี่เขาเป็นคนจัดรถครับ น่าจะอยู่แอดมิน ตำแหน่งที่คอยประสานงานแล้วก็ซัพพอร์ตคนในบริษัท (เป็นงานที่เหนื่อยนะครับ ผมเห็นพี่คนนี้เดินขึ้นเดินลงวิ่งไปวิ่งมาประจำ ซึ่งผมก็ทำได้แค่ให้กำลังใจ เพราะตัวเองก็กำลังตีกับลูกค้าอยู่) ผมยิ้มรับแล้วเดินต่อไปรถสีสว่างอีกคันหนึ่งแทน
 
พอไม่มีซุกซนแล้วมันก็เหงาหน่อยๆแหะ 
 
ที่มันบอกว่า จะไปอยู่กับย่ารหัส คือมันไปจริงๆนะครับ คนที่เอาซุกซนเข้ามาทำงานที่นี่คือย่ารหัสมันสมัยเรียนมหาลัยนั่นแหละ ชื่อพี่กิ๊กก๊อกแก๊กกุ๊กกั๊กกิ๊งก๊องอะไรสักอย่าง อยู่แผนกบัญชีครับ ผมเคยได้ยินมันเล่าให้ฟังตอนเจอกันครั้งแรกๆ แบบที่คนปกติเขาจะไม่ถามเรื่องส่วนตัวกันน่ะครับ สำหรับยอดชายนายซุกซน ไม่ต้องรอให้ผมถาม มันก็พร้อมจะเล่าทุกอย่างออกมาก่อนเลย โดยที่ไม่ถามความเห็นผมสักนิดว่าอยากรับรู้ด้วยมั้ย
 
“ทิ้งเพื่อนเหรอคุณ”
“คุณเมฆ?”
 
ผมสะดุ้งเมื่อกำลังเหม่อๆแล้วก็มีคนมานั่งแปะอยู่ด้านข้าง นี่คุณอีกแล้วเหรอ? ได้ค่าตัวเท่าไหร่ทำไมแอร์ไทม์เยอะขนาดนี้! อุตส่าห์หลบออกมาทำใจแล้วนะ ทำไมตามมาวอแวด้วยเรื่อยเลย ผู้ชายคนนี้ไม่มีคนรู้จักคนอื่นแล้วหรือไงกัน
 
“เมื่อกี้ผมหันไปคุยแว๊บเดียว พอหันกลับมาคุณหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ”
“ก็ผมเห็นคุณคุยอยู่ เลยเดินออกมาก่อน”
“รีบกระโดดหนีทำไม ไม่รอกันบ้างเลย ผมคุยแป๊ปเดียวเอง”
“ผมเดิน!” นี่คนไม่ใช่จิงโจ้นะ! ผมหันไปถลึงตาใส่เขา เกรงกลัวกันบ้างสิเว้ย!
“ไม่ได้กระโดด!”
“ครับๆ เดินก็เดิน ไม่กระโดดก็ได้เนอะ”
 
คุณเมฆยกมือสองข้างเป็นปางห้ามทัพ เหมือนสัญลักษณ์ว่ายอมแล้วจ้า เมื่อเห็นผมไม่เถียงอะไรเพิ่ม เขาเลยพูดต่อ
 
“งั้นเพื่อเป็นการไถ่โทษ—“
“คุณห้ามพูดว่าจะเลี้ยงกาแฟนะ!!!”
 
ผมรีบดักเขาก่อนที่เขาจะพูดสิ่งที่ผมคิด ผมชี้หน้าทำหน้าตาน่ากลัวไปด้วยเพื่อแสดงความจริงจังในคำพูดตัวเอง ไม่เอากาแฟแล้วนะ แค่นี้ผมก็ติดหนี้เขาหลายแก้วจนไม่รู้จะติดอย่างไร ผมชอบกาแฟนะ แต่นี่มันมากไปแล้ว กินจนน้ำตาจะไหลเป็นเมล็ดกาแฟแล้ว
 
“ผมจะบอกว่า ขอเลี้ยงเหล้าคุณต่างหาก ลืมแล้วเหรอที่คุยกันเมื่อบ่ายอะ ที่ผมบอกว่าจะไปเคาะห้องเรียกน่ะ”
 
แหงะ
 
ผมค่อยๆลดมือที่เมื่อกี้ชี้หน้าเขาเอาไว้ มาเกาแก้มแทน ก็ไม่รู้ว่าจะเอามือไว้ตรงไหนง่ะ ทุกอย่างมันดูเกาะแกะเกะกะไปหมดเลย ดีแล้วที่มีแค่สองมือ เพราะถ้าผมมีสิบมือแบบทศกัณฐ์ ตอนนี้คงใช้ชีวิตยากมากอะเพราะทุกมือต้องพันกันเป็นเปียหมดแน่นอน
 
“เรื่องแบบนี้ใครเขาขอกันครับ”
 
“แล้วเรื่องแบบไหนที่ต้องขอกันล่ะ?”
 

“ก็… เอ่อ …เรื่องแบบพวกยืมเงิน เฮ้ย! แต่ผมไม่มีให้คุณยืมนะถ้าเยอะอะ ถ้าไม่กี่บาทพอได้ แต่มากๆนี่ไม่ได้แล้วนะ ผมจะเก็บไว้ซื้อของให้น้องกาย ผมมีน้องมีนุ้งต้องเลี้ยงนะ ห้ามยืม!”
 
ผมพูดดักคอไว้ก่อน ไม่ได้หรอกครับเรื่องเงินๆทองๆ นี่ผมโดนน้องกายระวังภัยในกระเป๋าตังให้ตลอด พี่รักอีกคน นั่นไม่ยอมเลยนะครับถ้าเห็นผมเสียเพื่อนเพราะเรื่องแบบนี้น่ะ
 
สมัยมัธยมผมเคยโดนเพื่อนสนิทขอยืมเงินทีละเล็กละน้อยแล้วแล้วเนียนไม่คืน พอผมไปถามก็กลายเป็นเหมือนความผิดผมที่ไปทวง เลยเถียงกันเล็กน้อย สุดท้ายจบที่ผมเสียเพื่อนไปคนนึงแลกกับเงินไม่กี่พัน  หลังจากนั้นมาทั้งพี่รักทั้งน้องกายไม่ยอมให้ใครยืมเงินผมเลย เพราะผมหงอยเป็นกระต่ายโดนงดข้าวอยู่เป็นเดือนเลยครับ
 
“ไม่ยืมหรอกคุณ ผมรวยนะ” ยักคิ้วที่ดูกวนประสาทแถมมาให้อีกทีด้วย ฮึ่ย “เลี้ยงกระต่ายได้สบายมาก”
 
“กระต่ายคุณตัวแค่นั้นจะกินเยอะแยะแค่ไหนกัน”
 
ผมพูดถึงติ้กต่อก จำได้นะครับติ้กต่อกที่คุณเมฆเอามาตั้งเป็นหน้าจอน่ะ สัตว์เลี้ยงเขาไง กระต่ายขาวตัวป้อมๆขนปุยๆ
 
“ก็จริงของคุณนะ กระต่ายที่ผมอยากเลี้ยงทานไม่เยอะหรอก แค่ค่ากาแฟน่ะชิวๆ”
 
ผมเม้มปากหันหน้าหนีสายตาที่เหมือนจะสื่อความหมายอะไรบางอย่าง ไม่ต้องพูดถึงรอยยิ้มแปลกๆที่ผมเห็นประจำแต่ไม่เคยชินสักทีที่ส่งมานั่นอีก จุดนี้ไม่ว่าจะอ๊องเลเวลไหนก็ต้องรู้แล้วแหละครับ ว่าไอ้  ‘กระต่าย’ ที่กินกาแฟน่ะ ไม่ใช่ติ้กต่อกขนปุยแน่ๆ
 
ฮือ มือไม้เกะกะเกาะแกะอีกแล้วอะ แถมความคิดยุ่งเหยิงเหมือนไหมพรมที่ถูกแมวเอามาเล่นเลย มันคิดอะไรไม่ออก ร้อนไปหมด เทอะทะไปหมด ผมนั่งแข็งมากๆเลย เพราะไม่รู้ว่าตัวเองควรตอบอะไรไม่ให้เข้าตัว ยากอะ ยากมากๆเลย ไม่ตอบมันเลยละกัน
 
ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี
 
ถ้าเป็นปกติผมอาจจะไม่เกร็งขนาดนี้ แต่ไอ้ที่คุณเมฆเขาพูดเมื่อกี้ยังทำให้เกิดรู้สึกแปลกๆอยู่เล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะงั้นต่อให้รถจะออกมาสักพักผมเลยยังไม่กล้าหันไปทางนั้นอยู่ดี ตามองหน้าต่างอย่างเดียวเลยครับตอนนี้ โอโห สะพาน! นั่นป่าไม้! ก้อนหินก็มี! ทุกอย่างน่าสนใจหมดครับ เพราะผมไม่กล้าสนใจคนข้างๆ ผมไปมากกว่านี้

กลัวว่าถ้าหันไปแล้วเจอเขากำลังมองมา ด้วยสายตาแบบนั้น และก้วยรอยยิ้มแบบนั้น...
 
ไม่คิดๆ หันไปดูก้อนเมฆดีกว่า เฮ้ยยยย ไม่เอาอะ นี่ก็เมฆนั่นก็เมฆ ทำไมเมฆเต็มไปหมด ไม่เอาๆ เอาอย่างอื่น!
 
ในขณะที่ผมกำลังสติแตก เงาในกระจกที่สะท้อนว่าฝั่งนั้นเองก็เหมือนจะวุ่นวายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมือถือ ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง นี๊ดเดียวเท่านั้นแหละ ผมนี่ไม่กล้าหยิบมือถือตัวเองเลยครับ กลัวโดนแท็กอะไรแปลกๆในเฟสบุ๊คอีก

สรุปตลอดทางเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันไปมากกว่านั้นครับ นิ่งเงียบกันมา จนกระทั่งถึงร้านอาหาร ที่เป็นอาหารบรรยากาศดี มีดนตรีสด พร้อมแอลกอฮอล์ไม่อั้น โต๊ะของผมมีสี่คนครับ คุณเมฆ ผม ซุกซน และคุณกุ๊กกิ๊ก ย่ารหัสซุกซนที่นั่งตรงข้ามเพื่อนผม และคุณเมฆที่นั่งตรงข้ามผมพอดี

------- Monday in Love -------

ต่อด้านล่างนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2018 11:49:50 โดย babybaphomet »

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
ต่อนะคะ

—————————

“รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ?”

บริกรเดินเข้ามารับออร์เดอร์เครื่องดื่ม เพราะซุกซนแทบจะลุกขึ้นเต้นบนโต๊ะเพื่อสั่งเบียร์ ไม่รู้โดนตัวไหนมาครับ ดีดมากจริงๆเพื่อนผม

“เบียร์สดหนึ่งทาวเวอร์ พอมั้ย? ไม่น่าพอ น้องพี่ขอ​… “
 
ในขณะที่เขากำลังสั่งเครื่องดื่มกัน ผมเททุกคนแล้วพุ่งเข้าไปหาอาหารแล้วครับ ผมชอบการเห็นของกินเยอะๆ วางเรียงกันครับ ฮือ บุฟเฟ่ต์ของพี่แทนใจ อันนั้นผมก็จะกิน อันนี้ผมก็จะเอา โอ๊ย ถ้าน้องกายมาด้วยนะ ผมจะตักซุปกับสลัดใส่ข้าวโพดเยอะๆ ให้น้องชายผม น้องผมชอบกินข้าวโพดครับ ซึ่งไม่รู้อร่อยยังไงเพราะผมไม่ชอบเลย
 
ในขณะที่ผมกำลังต่อสู้กับตัวเองว่าจะกินสปาเก็ตตี้หรือซูชิก่อนดี หรือจะไปตักซุปกินเล่น เอ๊ะ แต่พวกของทอดก็ดูน่าสนใจ

“แทนใจ?”

 เสียงเรียกด้านหลังก็ทำให้ผมหันไปสนใจเขาแทนอาหารไม่ยาก ผู้ชายท่าทางสุภาพสะอาดสะอ้าน พร้อมใบหน้าที่ดูเป็นคนฉลาด คนที่ยืนยิ้มให้ผมตรงนั้นทำให้ผมอดยิ้มกว้างตามไม่ได้
 
“พี่ปกป้อง!”
 
โดยไม่ทันรู้ตัวผมพุ่งไปกอดพี่เขาทันที โดยที่เขาเซนิดหน่อย (ผมไม่ได้อ้วนนะ แต่พี่เขาผอมมากๆเลย) แต่พี่ปกป้องของผมก็ยังทรงตัวรับผมเอาไว้ได้ แข็งแกร่งมากจริงๆครับพี่ผม ล้มหมีได้ด้วยมือเปล่าแน่นอน
 
ผมรู้จักกับพี่ปกป้องมานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยเพราะเป็นรุ่นพี่ที่เจอตอนเข้ากิจกรรมคณะ พี่เขาเก่งมากๆ ผมชอบพี่ปกป้องมากเลยครับ คนอะไรไม่รู้เก่งเหมือนไม่ใช่คนอะ เก่งทั้งกิจกรรม ทั้งเรื่องเรียน ผมจำได้ว่าเขาได้โล่ห์เรียนดีกิจกรรมเด่นด้วย แถมยังได้เกียรตินิยมเหรียญทองอีก เก่งกว่าพี่ปกป้อง ก็พี่ปกป้องชุบแป้งทอดแล้วแหละครับ
 
แล้วพี่เขาก็สนิทกับพี่แทนรักด้วย (ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันได้อย่างไรเหมือนกัน แต่บังเอิญมากๆเลย) เราเลยคุยกันบ่อยๆ ผมเข้ามาสมัครงานที่นี่ได้เพราะพี่ปกป้องนี่แหละครับแนะนำให้มาครับ แต่พี่แกเข้ามาเองนะ ด้วยเกรดและผลงานตัวเอง เก่งใช่มั้ยล่ะ พี่ผมเองครับ พี่โผ้มมมมมมมมมม
 
“ไม่เจอพี่นานเลยอะ พี่ป้องเป็นไงมั่ง?”
“ก็อย่างที่เห็นเนี่ยแหละ ฮ่าๆ”
“โหย ไม่ใช่ดิ ที่พี่เข้าโรงพยาบาลง่ะ”
 
พี่ปกป้องเขาประสบอุบัติเหตุครับ แอดมิทโรงพยาบาลเลยแหละ ผมเป็นห่วงมาก พี่เขาเพิ่งกลับมาทำงานไม่นานเอง
 
“ก็โอเคแล้วล่ะ ว่าแต่พี่รักเป็นไงมั่ง?”
“พี่รักสบายดีมากเลยพี่ ตอนนี้ฟิตหุ่นจนมีกล้ามหน้าท้องแล้วนะ!”
 
ผมยืนคุยอยู่นานมากกกกกกกกกก คุยจนคอแห้ง เลยเดินกวาดอาหารตามพี่ป้องต้อยๆ มานั่งที่โต๊ะของพี่เขา ซึ่งว่างพอดีเพราะคนส่วนใหญ่ย้ายไปนั่งคุยกันอีกโต๊ะ ดีแล้วไม่อย่างนั้นผมคงต้องเกร็งมากแน่ๆ โต๊ะนี้คงมีแต่คนตำแหน่งสูงส่งทั้งนั้น เอาตามตรงผมกลัวครับ พวกคนใหญ่คนโตมักจะมีรัศมีน่าเกรงขามบางอย่างแผ่ออกมา แบบที่คนอย่างผมเทียบไม่ติดเลย ซึ่งพอเจอผมก็จะทำตัวลีบๆเป็นหมูแผ่นเนียนๆไปกับเขาเท่านั้น 
 
 
พวกเราคุยเรื่องดินฟ้าอากาศกันไปเรื่อย และก็จะคุยฟุ้งอยู่แบบนั้นถ้าไม่ใช่ว่ามีแรงสะกิดหัวไหล่ไม่เบานัก ผมหันไปทั้งที่ยังยิ้มค้าง รอยยิ้มกว้างค่อยๆเปลี่ยนเป็นยิ้มแห้งๆปนความไม่เข้าใจเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร คุณเมฆครับ ไอ้คุณโปรเจคฯติดกาแฟที่วันนี้คิดกินเบียร์ ยืนส่งยิ้มเย็นอยู่ข้างหลังผม
 
 
เอ๊ะ …
 
เพิ่งนึกได้ว่าผมเทเพื่อนทั้งโต๊ะเอาไว้ แล้วหอบของกินหนีมาอยู่กับพี่ปกป้องนี่หว่า ผมคงจะรู้สึกผิดน้อยกว่านี้ถ้าคุณเมฆเขาไม่ได้ทำหน้าขรึมเหมือนกับอาจารย์ที่ปรึกษาธีสิทที่มองลอดแว่นฟังผมอธิบายหัวข้อแบบแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว
 
“เมื่อกี้ลุกไปตักอาหารไม่ใช่เหรอครับ?”
 
ผมหน้าหดเหลือสองนิ้ว (ที่เป็นพื้นที่ของแก้มไปแล้วนิ้วครึ่ง) รอยยิ้มบนหน้าคุณเมฆเขาดูใจดีนะ แต่น้ำเสียงคุณเมฆมื่อครู่ไม่ได้มีแววขี้เล่นเลยสักนิด แถมสายตาที่มองไปทางพี่ป้องก็คมกริบ คมเหมือนกระดาษเอสี่ที่ปกติก็บางๆดูกากๆธรรมดา แต่อยู่มาวันหนึ่งมันดันบาดนิ้วแล้วเลือดออกน่ะ
 
“ทำไมถึงมาอยู่กับ… คุณปกป้อง”  คุณเมฆเว้นช่วงเล็กน้อย แล้วมองไปทางพี่ปกป้อง โดยมีผมที่ก้มหน้าชิดแก้วไวน์หนีสายตาเขาอยู่ อย่ามองมาทางนี้สิ ไม่รู้ไม่เกี่ยว มองทางอื่น!
 
“…” ถือคติไม่ตอบคำถามหมีครับ เงียบไว้เดี๋ยวก็ชนะเอง
 
“ผมตักแซลม่อนเบิร์นมาให้คุณด้วย อยู่ที่โต๊ะน่ะ”​
 
เมื่อไม่มีใครตอบอะไร คุณเมฆจึงพูดต่อ โดยที่ผมยอมเอาสายตาขึ้นมาจากแก้วไวน์นิดนึง ไม่รู้ว่าเพราะผมเริ่มมึนไวน์ที่นั่งดื่มกับพี่ปกป้องหรือเปล่า แต่ผมว่าวันนี้คุณเมฆนี่โคตรหล่อเลย ขนาดหน้าตึงยังหล่อ เป็นความสามารถพิเศษหรือเปล่า หล่อได้ทุกเวลาเนี่ย เอาไปใส่เรซูเม่ได้เลยนะผมว่า
 
“ขอบคุณครับ ...แต่ผมอิ่มแล้วครับ” 
 
รอยยิ้มคุณเมฆหดลงเล็กน้อย แหงะ ผมรู้สึกผิดเลยอะ แต่บุฟเฟ่ตปกติก็ต่างคนต่างตักป่าว หรืออันนี้มันไม่ปกติ หรือเขาอาจจะอยากขยับร่างฃกายด้วยการเดินตักแซลม่อนก็ได้นะ แบบแค่ขยับเท่ากับออกกำลังกายงี้ ผมสรุปกับตัวเอง แล้วจึงพูดต่อ

“ผมทานกับพี่ปกป้องแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับคุณเมฆ คุณทานแทนผมได้เลย ยกให้ๆ อร่อยมากเลยนะ อย่างสด ผมทานแล้วการันตีโดยผมเลย”  ​
 
“พี่ป้อง?”​

คุณเมฆดูไม่สนใจการโฆษณาแซลม่อนของผมเท่าไหร่ แต่กลับมาถามเรื่องพี่ป้องซ้ำ ซึ่งผมแอบเสียใจเล็กๆที่แซลม่อนไม่ได้รับความสนใจ ปกติหมีชอบกินปลาไม่ใช่เหรอ หรือหมีพันธ์เมฆไม่กินป่า ล่าเนื้อเสือดาวเป็นอาหารงี้ น่ากลัวมากๆ
 
“อือ พี่ป้องไง ทำไมเหรอครับคุณเมฆ?”
 
ผมหันซ้ายหันขวามองระหว่างคุณเมฆกับพี่ป้อง อ่าว พูดอะไรผิดอีกอะ หน้าหล่อที่เคร่งขรึมเมื่อครู่ ได้กลายเป็นหน้าหล่อที่ดูดุดันกว่าเดิมไปแล้ว โอ๊ย ทำไมอะ ไม่เข้าใจมาก น่ากลัวมากด้วยเช่นกัน ไม่เอาอะ ไม่สู้แล้ว ผมลุกไปนั่งเก้าอี้ข้างพี่ปกป้องเพื่อหลบหมีขี้โมโห คือคุณเมฆเขายังยิ้มนะ แต่เป็นรอยยิ้มที่มองจากดวงจันทร์ก็รู้ว่าอารมณ์เสียอะ โคตรน่ากลัว เหมือนนักฆ่าหน้ายิ้มประมาณนั้น 
 
ฮือ พี่ปกป้อง ช่วยผมด้วย หมีนี่จะฆ่าผมแล้ว ไม่รู้ใครขโมยของเล่นไป หมีตกมัน ช่วยด้วย ช่วยผม ผมมีน้องกายต้องเลี้ยงนะ ผมตายตอนนี้ไม่ได้
 
“แทนใจ​​ ...”
 
ผมโผล่หัวออกมาจากไหล่พี่ป้องนิดหน่อย เมื่อรุ่นพี่ที่รู้จักมานานเรียกเสียงเบาๆ แต่ด้วยความยังไม่กล้าโผล่ออกไปเยอะเลยซ่อนแก้มส่วนใหญ่ไว้หลังพี่ป้อง โผล่ออกมาแค่ลูกตาพอครับในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ ถึงจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร แต่รังสีอาฆาตคุณเมฆนี่คือของจริง
 
ซุกซนช่วยด้วย เราจะโดนฆ่าแล้วนะ โดนฆ่าด้วยหมีหน้ายิ้มน่ะ
 
“เราทานเสร็จแล้วใช่มั้ย? พี่อิ่มแล้วล่ะ”​
 
“อือ เสร็จแล้วๆ พี่ป้องอิ่มเหรอ กินไปนิดเดียวเองนะ อิ่มจริงๆเหรอครับ ผมไปตักให้อีกมั้ย?” ​ผมยอมออกจากที่ซ่อน มามองหน้ารุ่นพี่ดีๆ พี่เขากินน้อยมากจริงๆนะ เหมือนเป็นคนกินน้อยอยู่แล้ว ตัวเลยผอมแบบบางกว่ากระดาษไขที่ใช้รองปาท่องโก๋อีก “
 
“พี่ป้องเป็นอะไร ทำไมหน้าซีด? พี่กินน้อยไปหรือเปล่า?”​
 
“ไม่ๆ พี่อิ่มแล้วจริงๆ พี่แค่คิดว่า …”  พี่ป้องเหลือบมองทางผมนิดหน่อย แล้วยิ้มแหยๆ “พี่จะไปเดินเล่นสักหน่อย เดินย่อยน่ะ พอดีพี่แน่นมากเลยเนี่ย อย่างอิ่มเลย”
 
“ผมไปด้วย!” ผมเองก็ควรขยับบ้าง เผื่อจะหุ่นดีๆแบบคุณเมฆงี้ อย่างเท่
 “ไม่ต้อง !!!!!!! —  พี่หมายถึง เอ่อ เดี่ยวพี่จะไปหาหัวหน้านิดหน่อยด้วยน่ะ เมื่อกี้เขาส่งเมลมา พี่ว่าจะไปถามรายละเอียดเพิ่ม”
“เอ๊ะ แต่ผมไม่ได้ยินเสียงอีเมลเด้ง —“
“คือพี่ตั้งสั่นไว้ๆ เราอยู่นี่กับคุณโปรเจคฯเถอะ”
“ผมได้คุยกับพี่นิดเดียวเองง่ะ ผมคิดถึงพี่มากนะ” ​
 
ผมทำหน้าหมาหงอยใส่เขา หน้าแบบที่น้องกายจะหายโกรธทันทีเมื่อเห็น แต่เหมือนจะใช้กับคนนอกครอบครัวไม่ได้ผล เพราะพี่ปกป้องยังคงมีรอยยิ้มแหยๆไว้บนใบหน้า ไม่ได้มีทีท่าจะตามใจผมเลยสักนิด
   
“พี่ก็คิดถึง —-  เอ่อ พี่ต้องไปแล้ว ไว้เจอกันนะ”​
 
 
แล้วพี่ป้องก็วิ่งหนีไปเหมือนกับเจอผีเลย ผมมองตามหลังพี่ที่สนิทด้วยสภาพหางลู่หูตก ในร้านมีคนโน้นคนนี้นั่งคุยนั่งกินกันอยู่เยอะเลยครับ บางโต๊ะก็เต้นด้วย เอ๊ะ นั่นคุณกฤตินี่ ผมสบตากับคุณกฤติที่เหมือนกับจะหัวเราะอยู่ เขาส่งยิ้มมาให้ผม ซึ่งผมยกมือไหว้ไป ไม่อยากจะบอกเลยว่าตอนที่คุณกฤติพรีเซนท์นั้น ผมไม่ได้ฟังเลยครับ แหะๆ อย่าบอกหัวหน้าผมนะ
 
“ไหนครับ”

 งานเข้าแล้ว ...

 เลือดที่หน้าผมลาป่วยกะทันหัน เมื่อเสียงเย็นๆของคนที่ผมทำเนียนลืมว่าเขายืนเป็นตัวประกอบอยู่ตรงนี้ กำลังอยู่ในโหมดเกรี้ยวกราด
 
 
ทั้งๆที่เขายิ้มดูเหมือนจะใจดีแล้วพูดประโยคธรรมดา ทำไมผมถึงได้รู้สึกเหมือนชะตาจะขาดเลยล่ะ
 
 
“แซลม่อนอร่อยมั้ยครับ... แทนใจ?”


 
———- 100% ———-

 
 
 เป็นอะไรที่ลากเลือดมากค่ะ แต่งไปคุยกับเพื่อนไปค่ะ ว่าพรรคนี้เราค่อนข้างจะเหนื่อยนิดหน่อย พรรคดีมั้ย พรรคไม่ได้เพราะงานรออยู่ ​​​ล้องไห้ได้มั้ย ​ ;A;
 
 ถ้าอัพช้า โทษหัวหน้าเราเลยนะคะ เต็มที่ 55555555 
 
ในส่วนของพาร์ทคุณเมฆ มีนะคะ แต่ขอเวลาอีกสักพัก สัญญาจะมานะ ใจเย็นก่อนนะคะ 5555

ป.ล. สามารถคอมเมนทต์ที่นี่ หรือสกรีมได้ที่ #เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์ ในทวิตเตอร์ เหมือนเดิมนะคะ หรือยังไงทักเรามาได้ที่ @banybapho นะคะ ขอบคุณมากค่า XD
 
ป.ล.ล. ถ้าเห็นคำผิด หรือภาษาอังกฤษผิดตรงไหน บอกเราได้ทุกช่องทางนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2018 11:49:25 โดย babybaphomet »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กระต่ายท้าทายอำนาจของคุณเมฆเข้าแล้ว!!!!

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แย่แล้วเจ้ากระต่าย ดูเหมือนจะทำให้คุณหมาป่าโกรธเข้าให้แล้วล่ะ

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มุกเสี่ยงตายทั้งนั้น 555555
ปล.แทนใจคนอ๊องงงงง

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด