มังกรพิโรธแล้ว พายุจะพัดผ่าน สายฝนจะตกกระหน่ำจนกว่าฟ้าดินจะถล่มทลาย มนุษย์จะต้องเซ่นไหว้เทพเจ้าแห่งสายฝนนั้นด้วยการบูชามนุษย์และของมีค่าลงสู่แม่น้ำดั่งที่ในคัมภีร์โบราณกล่าวไว้
“เจ้าคงไม่ได้ต้องการของเซ่นไหว้หรอใช่ไหมมังกร”ท่านผู้เฒ่าเมียวกะขยับยิ้มมองขึ้นไปยังฟากฟ้า
มังกรนิลกำลังทอดสายตามองลงมาอย่างโกรธเกรี้ยว
“เจ้าขโมยเจ้าสาวของข้าไป!!”เสียคำรามของมังกรทำเอาพื้นปฐพีสั่นไหว แต่เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายยังคงเชิดหน้าไว้ด้วย
ความหยิ่งทะนงในสายเลือด ไม่ได้เกรงกลัวเทพเจ้าตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
ริวยังคงกระวนกระวายกวาดตามองหายูแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่ว่าจะเบิกตาทิพย์หรือมองไปรอบด้วยนัยน์ตามังกรแล้วก็ตาม
ไม่มี ไม่มีเลยสักที่เดียว
“คืนตัวยูมา”
“ไปซะ”
เสียงใสกังวานดังกึ่งก้องไปทั่วน่านฟ้า พลังที่น่าหลงใหลและน่าสะพรึงกลัวไปพร้อมๆกันจูๆก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เหล่าผู้เฒ่า
พร้อมใจกันหลีกทางโค้งคำนับคนผู้นั้นกับคำเรียกขาลที่แสดงถึงความเคารพสูงสุด
“เคารพผู้นำตระกูล”
“ฮึ !” ริวขึ้นเสียงอย่างดูถูก มนุษย์หน้าไหนๆก็เหมือนกันทั้งหมด
“อย่าได้คิดว่าจะกำแหงในอณาเขตของผู้อื่นได้เจ้ามังกร”
ริวไม่ได้พูดตอบเพียงแค่สะบัดหางเบาๆเท่านั้น
บึ้มมมม!!
อัสนีฟาดเปรี้ยงลงบนอาคารก่อสร้างหลังหนึ่งจนระเบิดเป็นจุล เหล่าผู้คนมองเปลวไฟด้วยสายตาหวาดผวาจากก้นบึ้งของจิตใจ
“วันนี้เราจะจับมังกร”
ท่านผู้นำตระกูลตวัดมือไปในอากาศตอบโต้กลับบ้าง แส้ที่มองไม่เห็นตวัดฟาดลงบนลำตัวที่เต็มไปด้วยเกล็ดแข็งดังเพี้ยะเปิด
ฉากการต่อสู้แบบเต็มตัว
“ไดจิ”ท่านผู้เฒ่าเมียวกะที่ยืนมองเหตุการณ์ยูกระซิบเรียกผู้เป็นศิษย์เบาๆ
“ไปเอาตัวมันมา”
“ครับ”
ทางฝั่งของยู
แผนดินไหวงั้นหรือ... ยูคิดในใจ ในห้องขังที่เงียบสงบไม่มีแม้กระทั่งเสียงยุงสักตัวแบบนี้แม้แต่เสียงหยดน้ำก็น่าสนใจ แต่อยากรู้ไปก็เท่านั้นในเมื่อเขากระดิกไปไหนไม่ได้เลยไม่แต่ขนสักเส้น
ราวกับว่าเชือกที่มันเขาเอาไว้นั้นกำลังสูบพลังของเอาออกไปอย่างช้าๆ
ตึก...ตึก
เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังก้าวเข้ามาใกล้
“อึก..”
อ่า... แม้แต่เสียงพูดก็ไม่สามารถเปล่งมันออกมาได้
ปึก !!
ร่างบางของยูถูกไดจิกระชากออกมาจากพันธนาการสี่ทิศ แขนและขาทั้งสองข้างเป็นอิสระแต่มันช่างไร้เรียวแรงทำได้แค่ค่อยๆทรุดลงไปนั่งกับพื้นเย็นเฉียบนั่นช้าๆ
บุคคลปริศนานั้นยังคงไม่เปิดปากพูดใดๆกับผม ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจับจ้องอยู่สัมผัสได้ถึงความหวาดระแวงและความ
ลังเลคงจะเป็นไดจิศิษย์รักของผู้เฒ่าเมียวกะ ยูคิดในใจ
ไดจิหรี่ตามมองพลังของอีกฝ่ายที่มากกว่าที่ตนคิดเอาไว้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของโจเนะสึ เขาใช้เวลาสะกดจิตใจไม่ให้
คล้อยตามอีกฝ่ายได้อย่างลำบากเอาการ เมื่อตั้งสติได้แล้วจึงได้หิ้วตัวอีกฝ่ายขึ้นมาบังคับให้เดินไปข้างหน้า
“อือ...”ผมครางในลำคอเมื่อถูกบังคับให้เดินไปไหนก็ไม่รู้ ไม่มีทิศทาง เพียงแค่เดินไปก็เท่านั้นโดยที่ไดจิเว้นระยะห่างกับผมไว้
มากพอสมควรมีหลายครั้งที่ผมสะดุดลงไปคลุกกันพื้นแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้แสดงความมีน้ำใจปล่อยให้ผมล้มลุกคลุกคลานไปทาง
ด้านหน้าก็เท่านั้น
เจ็บชะมัด... เมื่อกี้สงสัยเดินชนเสาแน่ๆ
ครืนนน!
“อืออ”ผมร้องอย่างตกใจเมื่อโดนสายลมที่รุนพัดพัดปะทะกับลำตัว ทำเอาแทบกลิ้งลงไปกับพื้นอีกรอบ ท้องฟ้าร้องครืดคราด
เหมือนพายุใหญ่กำลังจะเข้า ทั้งๆที่ในคุกเมื่อกี้ก็ดูสงบเงียบดีราวกับอยู่คนละโลก
“ยู !!!”ริวแทบจะจำได้ทันทีว่าใครทันทีที่ยูปรากฏตัว
“หึหึ เรียกไปเถอะเจ้าเด็กนั่นไม่มีวันได้ยินเจ้าหรอก”
“อืออๆๆ”ยูร้องเสียงหลงเมื่อโดนคนของตระกูลจับกดลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“หยุดนะ พวกเจ้าทำอะไรกับเขา!”ริวทำท่าร้อนลนขึ้นมาบ้างแล้ว ผู้นำตระกูลมองไปยังเจ้ามังกรอย่างพึงพอใจ
“ผนึกทวารทั้งหกพร้อม ผนึกพลังแห่งสายเลือดยังไงละ เอาละข้าจะใจกว้างมากพอปลดผนึกทวารทั้งหกออกซะ”
“ครับ”พวกเขารับคำสั่งจากผู้นำตระกูลเหมือนเป็นแค่หุ่นกระบอกตนหนึ่งไร้ซึ่งชีวิตตนหนึ่ง
ยูถูกดึงทึ้งเจ็บปวดราวกับถูกฉีกเนื้อทั้งเป็น ผนึกแต่ละแห่งสร้างความเจ็บปวดแก่ร่างกายไม่น้อย แต่เมื่อลืมตาขึ้นสิ่งแรกที่เขาให้
คือมังกรตัวโตสีดำสนิดบนฟากฟ้าแล้วก็รู้สึกอุ่นใจวาบขึ้นมากลางอก
“ริว...”ไม่ได้พูดหลายวันทำเอาเสียงแหบแห้งไปไม่ใช่น้อย
ท่านหัวหน้าตระกูลที่ถูกยูมองข้างไปออกอาการหงุดหงิดใจฉายแววออกมาทางสายตา ก่อนจะแสยะยิ้มร้ายเรียกร้องความสนใจ
“หึหึ เอาละยูมองดีๆสิว่าฉันเป็นใคร”
ผมหันไปมองตามเสียง... ทุกคนล้วนแต่คุกเข่าโค้งคำนับแสดงความเคารพเขาอย่างนอบน้อม แต่สาบานได้เลยว่าผมไม่เคยรู้จัก
เขามาก่อนเหมือนว่าจะเคยเห็นในรูปคือท่านผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน
“คุณเป็น...ท่านผู้นำตระกูล ฮารุกะ ไคโต”
“ถูกต้อง...แต่นั้นไม่ใช่คำตอบที่ฉันอยากได้ลองมองฉันดีๆสิยู”น้ำเสียงหยอกเย้าของผู้นำตระกูลทำให้ยูต้องมองอีกฝ่ายดีๆอีกครั้ง เมื่อลองมองผู้คนที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดแล้วยูไม่อยากจะให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเลย กลิ่นหอมที่แตะจมูกจนฉุนพลังที่รับรู้ได้แม้
จะอยู่ห่างกันราววาเศษก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน
“คุณ...เป็นโจเนะสึ”ยูพูดออกมาอย่างยากลำบาก
เสียงหัวเราะกรีดผ่านสายลมของไคโตทำให้ยูสะดุ้งเฮือก ริวที่มองจากฟากฟ้าเริ่มระสำระส่ายอย่างที่ไม่เคยเป็น
“มุนษย์พวกนี้คงถูกเจ้าควบคุมไว้นานแล้วินะ”ริวถามขึ้น
“ถูกต้อง ฉลาดจริงๆ”
!!!
“ละ ...แล้วคุณต้องการอะไรจากผม โอ๊ย !!”
ไคโตเข้าประชิดยูที่ตัวสั่นเทิ้มก่อนจะกระชากผมของยูจนหน้าแหงน ยูร้องอออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ไคโตยังไม่หยุดแค่นี้
ความเจ็บปวดที่แท้จริงกำลังเริ่มขึ้นเมื่อไคโตเงื้อมมือสูง ยูหลับตาเพื่อรอรับความเจ็บปวดจากการโดนมือนั้นเสียบทะลุแต่จนแล้ว
จนเล่าก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้นจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“ยูกิ!!”
จิ้งจอกเก้าหางยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของเขา มือเรียวที่เต็มไปด้วยกรงเล็บแหลมเกาะกุมข้อมือของไคโตแน่นไม่ยอมปล่อย
จนเส้นเลือดปูดโปน
“ไปซะ !!”หนึ่งในหางสีขาวปัดผมออกไปให้พ้นจากวงต่อสู้
ตัวของผมลอยระลิ่วออกไปเป็นเส้นโค้งอย่างสวยงาม คาดว่าตอนตกลงถึงพื้นคงไม่สวยแน่ๆจึงได้แต่หลับตาปี๋เก็บคองอเข่า
เตรียมรับการกระแทก
ฟุบ!
ร่างกายเหมือนกับหยุดค้างในอากาศเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นดวงตาสีทองที่กำลังจับจ้องมาอย่างเป็นห่วง “ริว..”
“อืม”
อีกฝ่ายดึงผมเข้าไปกอดแน่จนกระดูกแทบจะร้างไปทั้งตัว หัวทุยคลอเคล้าซุกกับอกของผมอย่างคิดถึงปานจะขาดใจเหมือนลูก
หมาตัวน้อย ผมยกมือลูบผ่านเส้นผมนุ่มลื่นนั้นก่อนจะดันริวออกเพ่อบอกกล่าว “พอแล้ว ๆ ไปช่วยยูกิก่อน”
“ไม่เอา”ริวทำท่าดื้อดึงอยากจะอยู่กับยูมากว่าอย่างเอาแต่ใจ
เพี๊ยะ !!!
ใบหน้าคมสะบัดไปตามแรงตบอย่างไม่ทันตั้งตัว ทั้งยังค่อยๆหันกลับมามองผู้ที่เป็นเจ้านายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ยู
ที่โกรธจัดมากถึงมาที่สุดไม่ต้องการการออดอ้อนหรือคลอเคลียจากใครหน้าไหนทั้งนั้น
“นายไม่สิทธิ์ พูดว่าไม่กันฉันด้วยรึไง”น้ำเสียงเย็นชาจนริวถอยผงะออกไป แขนขาพลันอ่อนแรงอย่างที่เคยเป็นมาก่อน
“ฉันของสั่งให้นายไปช่วยยูกิเดี๋ยวนี้”
ในหัวใจยังบอกไม่ แต่ร่างกายกลับทรยศหันกลับไปพุ่งกระโจนเข้าร่วมวงต่อสู้ทันทีโดยไม่อาจขัดขืนได้เลยแม่แต่น้อย
ยูหันกลับไปมองเหล่าสมาชิกตระกูลฮารุกะที่ตรียมพร้อมมกระโจนเข้าใส่เขาเต็มที่ เขาเชื่อในพลังของสายเลือดตัวเองแบบที่ไม่
เคยเชื่อมาก่อนในชีวิต ก่อนจะลงมือหยิบมีดปอกผลไม้ที่พกติดตัวมาตลอดกรีดลงบนข้อมือตัวเอง ทั้งทีที่หยดเลือดหยดลงสู้พื้น
ดินอำนาจของไคโตก็เข้าปะทะกับอำนาจของเขาทันที
“หึหึ เด็กน้อย พลังของเธอไม่มีทางชนะพลังของฉันได้หรอก”ดูเหมือนว่าไคโตจะรับมือหนึ่งจิ้งจอกและหนึ่งมังกรได้สบายๆจนมี
เวลาสำรวจย่างอื่นไปด้วย
“แกมันบ้าไปแล้ว !”
เหล่าคนในตระกูลเริ่มสับสนขึ้นมาแล้วพวกเขาไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ควรจะเป็นเจ้านายของเขา ท้องฟ้าที่มืดครึ้มตอนนี้กลายเป็นสี
แดงฉานราวกับหยดเลือดบนข้อมือของยู ยิ่งมีเลือดมากเท่าไหร่ท้องฟ้า สภาพอากาศก็ดูเหมือนจะเกิดความวิปริตปั่นป่วน เวที
ประลองนี้กลายเป็นของผมและไคโตไปโดยปริยายเมื่อพลังในสายเลือดพุ่งพล่านจนอะไรก็หยุดไม่อยู่
เรี่ยวแรงของยูกิกับริวเริ่มหมดลงไปทุกทีจนยูเริ่มกระสับกรส่ายอย่างเป็นกังวง สองมือกำแน่นจนเล็บแทบจะจิกลงไปในฝ่ามือ อีก
วิธ๊ที่จะทำให้ริวกับยูกิแข็งแกร่งขึ้นได้มากพอที่จะสู้กับไคโตแน่นอนแต่มันจะเป็นการประการให้สามโลกได้รู้ว่าโจเนะสึปรากฎกาย
ขึ้นบนโลกมนุษย์แล้ว
โครมม !!
ในขณะที่ยูกำลังต่อสู่กับตัวเองในความคิดริวก็พลาดท่าให้กับพวกปรมาจารย์ที่แอบสร้างค่ายกลเพื่อจับริวไว้อย่างแนบเนียน ริว
โกรธจัดสะบัดหัวสะบัดหางไปทั่วแต่ค่ายกลนั้นก็แข็งแกร่งเกินไปจนไม่สามรถดิ้นออกไปจนหลุดได้ยูกิก็เช่นกันโกรธจนห่างทั้ง
เก้าสะบัดโบกไปมา
“วันนี้ช่างโชคดี นอกจากจะจับจิ้งจอกเก้าหางได้แล้ว ยังจับมังกรได้อีก”ไคโตพูดยิ้ม
“ขี้โกง !”ยูยืนชี้หน้าด่าไคโตที่แอบล่นหมาหมู่อย่างโกรธจัด
“เจ้าโง่เองต่างหาก”
สิ้นคำร่างของไคโตก็หายวับไป รู้ตัวอีกทีก็ปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของยูแล้ว ยูก้าวถอยหลังผงะยังไม่ถึงก้าวก็โดนคว้าเอวเอา
ไว้ ใบหน้างดงามแต่สวยแตเปลือกของไคโตก้มลงมาประชิดซะจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันน่ารังเกียจ
“จะทำอะไรน่ะ”ยูปัดมือที่โอบเอวนั้นทิ้งแทบจะในทันที
“เจ้ารู้ไหมว่าความลับอีกข้อของโจเนะสึเช่นเรายังมีอีกข้อ”
“อะ...อะไร”
“เราสามารถตั้งท้องได้ไม่ว่าจะเป็นหญิง ....หรือชายก็ตาม”
ยูสะอึกถอยก้าวไปข้างหลังหลายๆก้าวทันทีที่ได้ยินแบบนั้นแต่ไคโตกลับยิ้มบางเดินตามมาติดๆ ไม่ดีแล้วแบบนี้สถานการณ์แย่
จนไม่รู้จะแย่ยังไง
“ไม่ต้องกลัวเมื่อกี้ฉันแค่จะถอดเสื้อเธอเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอเลย”
ยูพลันขนลุกเกรียวกับเรื่องที่ได้ยินสายตาพลันเหลือบไปมองมือข้างนั้นที่ตนคิดว่าหากไม่ได้อยู่กิช่วยไว้คงเสียบทะลุร่างของตน
เป็นแน่ แต่ตอนนี้เจ้าคนบ้าตรงหน้ากลับมาบอกเขาหน้าตาเฉยว่าจะเปลื้องผ้าเขา ! นี่มันน่ากลัวกว่าโดนทำร้ายร่างกายอีก ไคโต
มันวิปริตไปแล้ว
“ริว.... ริว” ยูถอยไปเรียกริวไป เมื่อไคโตสาวเท้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้ว และเขาเองก็ถอยจนไม่มีที่จะให้ถอยได้อีกต่อไป
ริวมองยูที่ถูกไล่ต้อนด้วยความร้อนใจ ไม่ว่าเขาจะลองทำลายค่ายกลนี้ด้วยวิธีไหนมันก็ไม่สะเทือนเลยสักนิดแต่ยูกลับเรียกหาเขา
ไม่หยุดหย่อน เขาร้อนใจ ร้อนใจนจะบ้าอยู่แล้ว !
“เจ้าแก้อาคมนี่ได้ไหม”ริวหันไปถามจิ้งจอกเก้าหางที่เหมือนกำลังพยายามทำอะไรบางอย่าง
“ข้ากำลังพยายามอยู่ เจ้าก็อยู่นิ่งไปก่อนเถอะ อย่ารบกวนข้า”
ถึงจะพูดแบบนนั้นแต่ยูกำลังแย่จริงๆแล้ว...
“เรามาตกลงกันดีๆดีกว่า”ไคโตยิ้ม ยูมองเขาอย่างหวาดระแวงพลางคิดว่าเรื่องดีๆที่ว่าคงจะไม่ดีสำหรับตัวเขาเองเป็นแน่
“ว่ามา”
“ถ้าเธอยอมฉันซะดีๆ เจ้ามังกรกับเจ้าจิ้งจอกนั่นฉันจะปล่อยมันไป”
“ฉันไม่เชื่อแกหรอ แกมันโรคจิตไปแล้ว”
ไคโตจับยูที่หมดทางถอยเอาไว้ได้อย่างง่ายดายแม้ว่ายูพยายามต้องสู้ขัดขืนเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล สองมือของร่างบางถูกจับมัน
ไพร่หลังก่อนจะถูกลากมายังหน้าค่ายกลที่พวกเข้าถูกจับขังเอาไว้
“ฆ่านังจิ้งจอกนั่นซะ”
ไคโตออกคำสั่งอย่างเลือดเย็นยูทำได้เพียงแค่ยืนตกตะลึงอยู่กับที่ ทันใดนั้นร่างของยูกิก็เริ่มมีเปลวไฟลุกท่วมเปลวไฟแห่งการ
ชำระล้าง ยูกิกรีดร้องเสียงหลงทรุดลงไปกับพื้นโดยที่ใครก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แม้แต่กระทั่งริวเขาถูกสะกดให้ไม่สามารถขยับ
ได้ได้แต่มองยูกิดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด
ยูไม่สามารถยืนได้มั่นอีกต่อไปร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้นอย่างเจ็บปวดที่หัวใจ เขามันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ ปีศาจในพันธสัญญาได้
รับความเจ็บปวดขนาดนั้นตัวเขาเองกลับทำอะไรไม่ได้เลยไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เขาทนมองต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ฉัน....ยอมแล้ว”ยูก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสู้หน้ายูกิและริวอีกต่อไป
“ฉันยอมแล้วได้โปรดหยุดเถอะ”เสียงพูดอันสั่นเครือที่แทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ แต่ไคโตก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน
“เป็นการเลือกที่ฉลาดมากเด็กน้อย จงเบิกตาดูให้ดี”ไคโตแสยะยิ้มร้ายกาจ
เขาลงมือถอดเสื้อผ้าของยูออกทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า ทีละชิ้น ทีละชิ้น จนไม่เหลืออะไรปกปิดร่างกายอีกต่อไปต่อหน้ายูกิและริว
ร่างกายสีขาวโพลนประจักรแก่ทุกสายตาที่จ้องมองมาความบริสุทธิ์อ่อนเยาว์อยู่ตรงหน้านี้แล้ว ไคโตลูบไล้แผ่นหลังเนียนอย่าง
หลงใหล ยูหลับตาเบือนหน้าหนีริวและยูกิที่มองมาทางตนด้วยใบหน้าซีดเผือด
“อย่ามอง ริว...อย่างมอง ยูกิ”ยูพูดเสียงเครือ
“จงมอง จงรับรู้ จงเจ็บปวดกับสิ่งที่ฉันทำซะเถอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ไคโตดันร่างของยูติดกับค่ายกลที่เป็นดั่งกระจกบางๆกั้นดัง ‘ตึง !’ ก่อนจะจับต้นขาขาวโพลนนั้นให้แยกออกกว้าง ยูหลับตากลั้น
ใจรอรับชะตากรรมด้วยหยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า บางสิ่งแปลกปลอมกำลังรุกรานร่างกายของเขาอย่างช้าๆ
“ขอให้คุณรักษาสัญญาด้วย...”
“แน่นอน ฉันพูดคำไหนคำนั้น”
“ไม่ !!!!”ริวร้องคำรามอย่างเจ็บปวด
@@@@@
เป็นตอนที่แต่งยากจริงๆ จริงๆแล้วนักเขียนเป็นสาย S //ผิด