ตอนพิเศษ เช็งเม้งหรรษา! (ครึ่งแรก)
(นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนทีอยู่ม.2 สองแฝดอยู่ป.6 ค่ะ)
“แม่ ปีนี้ไปเช็งเม้งวันที่เท่าไหร่” ผมถามขณะนอนกระดิกเท้าดูทีวีอยู่ในห้องพ่อแม่ที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจ
“26 มีนา ทีว่างมั้ยล่ะ” พ่อตอบแทน
“ขอดูก่อนอ่ะพ่อ แล้วมีใครไปบ้าง”
“ก็มีบ้านเรากับบ้านนู้น แค่นี้แหละ … ไปรถตู้บ้านอาแอ๋ม” พ่อบอก
“ขี้เกียจไปอ่ะพ่อ แดดก็ร้อน นั่งรถก็นาน ไปตั้งสระบุรี” ผมหยิบรีโมตขึ้นมาเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ
“ที พูดอย่างนี้ได้ไง บรรพบุรุษท่านเสียใจหมด” แม่เอ็ดผมอย่างไม่จริงจังนัก ท่านรู้ดีว่าผมไม่ชอบการนั่งรถ มันอึดอัด น่าเบื่อเหมือนโดนขัง
“ขอโทษคร้าบบบ” ผมตบปากตัวเองสามที แล้วยกมือไหว้ขอโทษบรรพบุรุษ
“ทีปิดเทอมอยู่ไม่ใช่หรอลูก หรือว่าวันนั้นมีนัดกับเพื่อน ถ้าไม่ติดอะไรก็น่าจะไปกับแม่นะ ปีนึงไหว้ครั้งเดียวเอง”
“อาแอ๋มเอาเจ้าแฝดไปด้วย วุ่นวายตายชัก ผมขี้เกียจดูน้องอ่ะแม่” ผมบ่น ก็มันจริงนี่ ปีไหนที่สองคนนั้นไปด้วยนะป่วนตลอด ชอบมือบอนไปแกะนู่นจับนี่ ปากก็เสียไปด่าหลุมนู้นหลุมนี้ เขาไม่เอาตายก็บุญแล้ว พี่เฟิร์สก็ไม่ช่วยดู แถมพออาแอ๋มเห็นว่าผมไปด้วย ก็ชอบบอกให้ผมช่วยดูน้องไม่ให้ไปซนทุกทีเลย คนนึงก็อยากจะไปทางโน้น อีกคนก็อยากจะไปดูทางนี้ ให้ตายสิ ฉีกตัวกูไปคนละครึ่งเลยเอามั้ย! = [] =^^^
“เอ้า เค้าก็อยู่ของเค้า เราก็อยู่ของเราไปสิ”
“=_=” เฮ้อ แม่ไม่มาเป็นผมแม่คงไม่รู้หรอก ป่วยการจะอธิบาย
“ทามไปมั้ยลูก” พ่อถามทามที่นั่งอ่านการ์ตูนอยู่บนเก้าอี้นุ่มนิ่มหน้าตาคล้ายจานดาวเทียม
“ไปอยู่แล้ว อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรจะทำอ่ะพ่อ…พี่ทีไปด้วยกันเถอะ นะๆ ๆ ”
ผมแบะปากเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่
“ไปก็ได้ ไงก็ไม่ติดอะไรอยู่แล้ว”
ปังๆ ๆ ๆ !
“พี่ที ตื่นๆ ๆ ๆ ” เสียงยัยทามดังแหลมมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงตบประตูปลุกให้ตื่น
ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !!!
ผมลุกไปเปิดประตูอย่างงัวเงีย ก่อนจะกลับมานอนต่อ ถ้าไม่ลุกทามมันก็จะเคาะอยู่นั่นแหละครับ
“พี่ทีแม่บอกให้ไปอาบน้ำ อาแอ๋มกับอาสินธุ์มารอแล้ว”
ผมหยิบหมอนขึ้นมาปิดหู โอ๊ยยย ไม่อยากตื่นเลย เมื่อคืนดันนอนดึกเพราะอ่านนิยายสืบสวนเพลินไปหน่อย
“ตื่นๆ ๆ ๆ ๆ ๆ!!!!!” ทามกระชากผ้าห่มออกจากตัวผมแต่ผมยื้อไว้สุดแรง
“โอ๊ย!! ไม่เอา ไม่ไปแล้ว ไปบอกแม่ไป ง่วง! จะนอน!” เวลาที่นอนไม่พอจะเป็นเวลาเดียวที่ผมควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ซึ่งใครๆ ในบ้านต่างก็รู้ดี
แรงยื้อยุดผ้าห่มหยุดลง ผมซุกหน้าลงกับหมอนฟูนุ่มอีกครั้ง ผ่อนลมหายใจแล้วหลับต่อ
“พี่ทีตื่นได้แล้ววววว” ทำไมเสียงทามมันเปลี่ยนไปวะ
“ตื่นเถิดชาวไทยอย่ามัวหลับใหลลุ่มหลงงงง ชาติจะลืมรำวง ก็เพราะเราทั้งหลายยยย” เรืองดำรงเว้ย! ไม่ใช่ลืมรำวง-*-
“นำโมมมม ไต่ซือ ไต่ปุ่ย กิ่วโค่ว กิวหลั่ง กวงไต่ เล้งก่ำ ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” ไอ้บ้า! กูยังไม่ตาย กูหลับแล้วตื่นเฟ้ย!
“อาทีเอ๊ยยย พระอาทิตย์จาส่องดากเลี้ยวนา ตื่นได้เลี้ยว อั๊วหิวไส้จาขาดเลี้ยว ไม่มาไหว้อั๊วซักที” ใครสักคนดัดเสียงแหลมๆ พูดล้อเลียนสำเนียงจีนปนไทยที่อาม่าผมชอบพูดตอนยังมีชีวิตอยู่
“อาตี๋ อั๊วอยากกินฮ่อยจ๊อเลี้ยวววว เมื่อไหร่ลื้อจามาไหว้”
“เฮ้ย! ล้อเลียนบรรพบุรุษมันสนุกมากมั้ยฮะ ไอ้ฝาแฝด!” ในที่สุดผมก็ทนต่อเสียงเจี๊ยวจ๊าวกวนประสาทไม่ไหว ต้องลืมตาตื่นในที่สุด ตรงหน้าผมปรากฏเด็กหนุ่มตัวสูงโย่งสองคนใส่เจลซะผมตั้ง สวมเสื้อยืดสีแดงที่อกซ้ายปักรูปมังกรทองขดตัวเป็นเลขแปด สวมกางเกงสามส่วนสีดำยืนทำหน้าใสยิ้มกวนตีนอยู่ข้างเตียงผม
“หนี่ห่าวเช็งเม้ง ^ (+++) ^”
ผมมองหน้าพวกมันอย่างมึนๆ ฉีกยิ้มบางๆ ทักทายอย่างรักษามารยาท เหลือบมองนาฬิกาที่บอกว่าตอนนี้หกโมงเช้าแล้วก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ลากผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
“ไม่ไป ไจ้เจี้ยน”
“ป้าสาคร้าบ!! พี่ทีบอกว่าไม่ไปแล้วววว!” สองคนนั้นตะโกนขึ้นไปยังชั้นสามที่แม่ผมแต่งตัวอยู่ ไม่นานแม่ก็ลงมาปลุกผมด้วยการไล่ปิดพัดลมในห้องจากนั้นก็เดินเข้ามาดึงขาผมลากลงจากเตียงด้วยแรงมหาศาลจนผมตกใจรีบตะกายเกาะหัวเตียงเอาไว้แทบไม่ทันตอนที่ร่างกายท่อนล่างกำลังจะลงไปอยู่บนพื้น เมื่อเห็นว่าผมยอมเด้งตัวลุกแม่ถึงยอมรามือ โอ๊ย ตกใจหมด บอกกี่ครั้งแล้วเนี่ยว่าอย่าปลุกแบบนี้ หัวใจจะวาย!
“ท่องแม่สิบสองย้อนกลับซิ”
ผมยันตัวขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ขยี้หัวอย่างมึนๆ
“สิบสอง หนึ่ง สิบสองงงง”
“เอ๊ะ บวชมาตั้งสองครั้งแล้วยังไม่มีสติอีก! แม่บอกว่าย้อนกลับไงที”
“สิบสอง สิบสอง เป็น ร้อยสี่สิบสี่”
“สิบสอง สิบเอ็ด เป็น …โอ๊ย! เป็นไรวะ …” พอต้องใช้สมองผมก็เริ่มจะสร่างจากอาการง่วงขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะครับ=_=
“132” หนึ่งในฝาแฝดช่วยผม
“เออ ใช่ๆ ร้อยสามสอง ขอบใจๆ ” แล้วผมก็ท่องต่อจนจบแบบมึนๆ ในที่สุดผมก็ตาสว่างหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แม่ยัดผ้าขนหนูใส่มือผมแล้วไล่ไปอาบน้ำให้เสร็จภายในห้านาที ก่อนที่แม่จะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกชุดให้ผม เจ้าแฝดลงไปนอนกลิ้งบนเตียงผมยังกับเตียงตัวเอง มือก็เอื้อมหยิบนู่นหยิบนี่บนหัวเตียงมาดูอย่างหนุกหนาน =_=
“เฮ้ย! อย่ารื้อดิแฝด”
“น้องดูนิดดูหน่อยจะหวงอะไรนักหนา ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะที!” ขณะที่แม่หันมาว่าผม ไอ้แฝดที่ถือที่ทับกระดาษลายมัมมี่ กับ ไม้บรรทัดเขาวงกตของผมอยู่ก็หันมายิ้มให้แล้วแอบแลบลิ้นใส่น้อยๆ
“แม่เข้าข้างน้องมันไมอ่ะ! แม่ดูน้องดิ มันแลบลิ้นล้อเลียนทีด้วย” ผมฟ้องแม่ยิกๆ ทันทีที่แม่หันไปมองสองคนนั้นก็ทำหน้าใสซื่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประมาณว่าเก๊าไม่ได้ทำไรเลยนะ พี่ใส่ร้ายเก๊าทำไมอ๊า ไรเง๊ -*-
“แม่คอยดูน้องไว้ด้วย อย่าปล่อยให้มันรื้อโต๊ะทีนะแม่”
“จะไปอาบได้หรือยัง?” แม่หันมามองผมพลางจิ๊ปากอย่างรำคาญ
“ครับๆ ๆ ไปแล้วครับ”
“ตั้งแต่มาเจอเธอเท่านั้น ช่างสุขใจเหลือเกิน ขอร้องให้เธออย่าเมิน ช่วยรักษาใจ” พ่อผม
“พี่จ๋า ถ้าพูดจริงน้องก็คงรับได้ ถ้าไม่ได้มาหลอกกกก น้องก็เต็มใจจะรักกันกกก” แม่ผม
…
หลอง ปัน (ตึ๊งตึ๊งตึ๊ง) หลอง เหล่า (ตึ๊งตึ๊งตึ๊ง) หม่าน เหล โถ้ว โถ้ว ก๊อง โสย เหว่ง ปั๊ด เหย้า” นี่เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ส่งประกวดโดยอาเขย และ อาแอ๋ม
……..
“หากคนอย่างช้านนนน ตายยยย จากกก ปายยยย เทอออ เศร้าใจรึเปล่า” จากพี่เฟิร์สผู้ซึ่งกำลังอกหัก=_=’ ’
…………..
“ซา รัง งา มี ชิน ซา รัง นอล วอน ฮา จา นา นา นี รอ เค นอล โม ดึน กอล ดา อิล นึน แด โด โช อา นอ มา นึล ซา รัง แฮ คา จี มา นัน ชอง มัล พา โบ กา ทา ซอ คือ ฮึน ฮัน ซา รัง มวอน จี โมล รา ซอ ” อันนี้ฟังไม่ออก รู้แต่ว่าเป็นเพลงเกาหลี ติ่งนรกส่งประกวด
…………
“บอกกับฉันสักนิดได้ไหมว่าเธอก็คิดอยู่หน่อยๆ ว่าเธอก็แอบชอบฉันไม่ใช่น้อย ให้ใจฉันได้ชื่นฉ่ำ เมื่อเฝ้าคอย เฝ้าคอยให้เธอหันมา (มองฉันซะที) ” นี่ยัยทาม
ไมโครโฟนถูกส่งมาถึงมือผมเป็นคนสุดท้าย
“ไม่อ่ะครับ ทีไม่ชอบร้องเพลง” ว่าแล้วก็ส่งไมค์กลับไปให้หัวคิวอย่างพ่อกับแม่อีกครั้ง
“พี่ทีร้องเพลงห่วยหรอ ปีที่แล้วก็ไม่ร้อง ปีที่แล้วๆ ๆ ก็ไม่ร้อง”
“สงสัยเสียงเป็ด ก้าบๆ ๆ ”
“เดี๋ยวเถอะ! ภูผา ฟ้าคราม ขอโทษพี่เค้าเดียวนี้เลย! ปากไม่ดีจริงๆ เชียว” อาแอ๋มดุเจ้าแฝดเสียงเขียว
“ขอโต้ดก๊าบบบบ // ขอโต้ดก๊าบบบบ” ขอโทษได้ไม่จริงใจเล้ย=_=
“โด่ ทามจะบอกให้ พี่ทีร้องเพลงเพราะกว่าพี่แฝดอีก” ยัยน้องสาวตัวดีรีบปกป้องศักดิ์ศรีแห่งเสียงเพลงให้ผมทันที
“ไม่เชื่ออออออ” ไอ้แฝดทำหน้ากวนประสาทใส่ทาม ทามเลยหันไปกดเลือกเพลงแล้วยัดไมค์ใส่มือผมอย่างไม่ยอมให้ปฏิเสธอีก
ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างหน่ายๆ แต่เอาเถอะ ร้องสักเพลงแล้วกันจะได้จบๆ
“…. If I had to live my life without you near me , The days would all be empty , The nights would seem so long……. ...”
https://www.youtube.com/watch?v=uREzF8ZTCTI“…” พอผมร้องจบ ทุกคนก็เงียบสนิท ก่อนที่อาสินธุ์พ่อของเจ้าแฝดจะปรบมือให้ผมยกใหญ่
“อาไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าทีจะร้องเพลงเพราะขนาดนี้ แหมซ่อนคมนะเรา!”
“เพราะอ่ะ! เพราะจริงๆ ด้วย พี่ที ร้องอีกเพลงได้ป่ะ” เจ้าแฝดรบเร้า ชะโงกหัวจากเบาะหลังมาหาผมด้านหน้า
“ไม่เอาแล้ว พอๆ ๆ ” ผมส่งไมค์คืนทามก่อนจะหันหน้าเข้ากระจก หลับตาลงเป็นการตัดบท
และแล้วเราก็มาถึงสุสาน ณ จังหวัดสระบุรี ที่เเดดร้อนบรรลัย
“พี่ทีๆ ”
“ฮะ?”
“ภูต้องอธิษฐานเป็นภาษาอะไรอ่ะ ภูกลัวว่าถ้าอธิษฐานเป็นภาษาไทยแล้วเจ้าจะฟังไม่ออก แต่ภูพูดภาษาจีนไม่เป็นอ่ะ”
“เอางี้…” สองคนนั้นชะโงกหน้าเข้ามาใกล้อย่างตั้งใจฟัง
“ภูกับครามก็ขอเป็นภาษาอังกฤษละกัน มันเป็นภาษาสากล เทพเจ้าน่าจะฟังออก”
“– [] --” << หน้าฝาแฝด
ชอบถามอะไรแปลกๆ ผมไม่ได้เป็นเทพ จะไปรู้มั้ยล่ะนั่น!
หลังจากไหว้เทพเจ้าต่างๆ ที่ปกปักคุ้มครองสุสานแห่งนี้เสร็จแล้ว เราก็ขับรถตรงไปยังฮวงซุ้ยบรรพบุรุษของพวกเรากัน
ภูผากับฟ้าครามรับหน้าที่ปีนขึ้นไปบนเนินหญ้าเพื่อประดับประดาฮวงซุ้ยของอากงอาม่าด้วยดอกดาวเรืองและกระดาษสายรุ้ง ผมกับทามนั่งพับกระดาษเงินกระดาษทอง พี่เฟิร์ส ตั้งเสาสำหรับจุดประทัด ส่วนพวกพ่อแม่ช่วยกันเตรียมอาหารไหว้
ผมนั่งพับกระดาษเงินกระดาษทองพลางเหลือบมองเจ้าฝาแฝดไปด้วย เออ ต้องยอมรับแฮะว่าพวกนี้ตกแต่งฮวงซุ้ยเก่งจริงๆ มันเอาดอกดาวเรืองวางล้อมป้ายหลุมศพ เอากระดาษสายรุ้งประดับเป็นรูปดาวกระจาย ปิดท้ายด้วยการโปรยกระดาษแก้วสีๆ ชิ้นเล็กชิ้นน้อย จนว๊อบแว๊บไปหมด ก่อนที่สองคนนั้นจะปีนกลับลงมาดื่มน้ำแล้วนั่งพักข้างๆ ผมกับทาม
“พี่ทีๆ ” โอ๊ย! ทำไมขยันเรียกกูจัง-*- ไม่ไปเรียกพี่ชายแท้ๆ มึงที่ยืนอยู่ตรงโน้นล่ะฟระ
“หือ มีไร?”
“เราเผารถกระดาษ แล้วอากงอาม่าจะได้ขับจริงหรอ”
“ไม่รู้สิ” ผมก็สงสัยเหมือนกัน ตอนเด็กๆ ผมเคยถามแม่ว่าทำไมเราต้องเผาเงินกระดาษ เสื้อผ้า รองเท้า บ้าน มือถือ ไอแพด ไอโฟนกระดาษด้วย อากงอาม่าจะได้ใช้จริงเหรอ แล้วอากงอาม่าจะใช้เป็นหรือเปล่า แม่ก็คงไม่รู้เลยบอกผมแค่ว่ามันเป็นธรรมเนียมเขาเผากันมาหลายต่อหลายรุ่น เรามีหน้าที่สืบต่อก็เผาไปเถอะ=_=’ ’
“แล้วในนรกจะมีปั๊มให้อากงอาม่าเติมน้ำมันหรอ ทำไมไม่เผาปั๊มน้ำมันส่งไปด้วยล่ะ” บางทีผมน่าจะเผาไอ้คนช่างถามให้ไปอยู่กับอากงอาม่านะ จะได้รู้ว่ารถกระดาษไม่เติมน้ำมันแล่นได้ยังไง
“ปากเสีย ตบปากเลยนะคราม อากงอาม่าอยู่บนสวรรค์ ไม่ใช่นรก!” ผมว่าอย่างไม่พอใจ แต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วแปลกใจแทนที่จะสำนึกผิด
“รู้ได้ไงว่านี่คราม?”
“เดา” ผมตัดบทอย่างรำคาญก่อนจะกลับไปสนใจการพับกระดาษเงินกระดาษทองเป็นรูปเงินตำลึงอีกครั้ง
“ทาม ไปเอาดอกไม้หลังรถมาให้แม่หน่อยซิลูก” ทามลุกออกไปหยิบดอกไม้ให้แม่ จึงเหลือแค่ผมกับเจ้าแฝดที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“พี่ทีๆ ”
“อะไรอีกล่ะ” ผมชักจะรำคาญพวกมันมากขึ้นทุกทีๆ ไหนแม่บอกว่าถ้าผมไม่ชอบก็ให้ต่างคนต่างอยู่ไง ไหงมันมาทำตัวติดกับผมเป็นตังเมแบบนี้ล่ะฟะ!
“อากงอาม่าไลน์มาแหละ!” ภูผาชูสมาร์ทโฟนในมือขึ้น
จะมามุกไหนของมันอีกฟระ-_- อ่ะ ฟังซะหน่อยก็ได้
“เออ แล้วอากงอาม่าว่าไงบ้างล่ะ” ผมรับมุก
“อากงอาม่าบอกว่าไม่ต้องเผาไอโฟน 5s มาให้แล้วนะ”
“ทำไมล่ะ?”
“กงม่าบอกว่า สตีฟ จ๊อบส์ อีมาเปิดตัวไอโฟน 8s บนสวรรค์เลี้ยวววว”
พอฟังภูผาเล่าจบผมก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นอย่างทนไม่ไหว โอ๊ย! มุกพวกมันนี่สุดยอดเลยว่ะ! เราสามคนหัวเราะท้องคัดท้องแข็งลงไปกลิ้งกันอยู่บนเสื่อจนโดนดุว่าให้สำรวม ก่อนจะโดนไล่ให้ไปช่วยพี่เฟิร์สเผากระดาษเงินกระดาษทอง
“โห คราม มึงดูแบ๊งค์นี่ดิ ใบเดียวมีค่าตั้ง 1,000,000,000,000 บาท เลยว่ะ”
“แล้วเผาตั้งหลายปึก คิดดูอากงอาม่าจะรวยขนาดไหนเนอะ ของปีที่แล้วยังใช้ไม่หมดเลยมั้ง” พี่เฟิร์สเสริมขณะที่โยนบรรดาแบงก์ต่างๆ ลงไปในกองไฟ
“ถ้าตายแล้วรวยขนาดนี้ ภูขอตายตอนนี้เลยได้ไหมอ่ะ ฮ่าๆ ๆ ”
“บนสวรรค์คงเงินเฟ้อน่าดู” ผมพึมพำกับตัวเองอย่างขำๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------
ขอยืมมุกตลกเช็งเม้งจาก
http://dekwad.exteen.com/20090315/entry และ
เพจ เฮ้ย คมมากขอยืมไปปอกมะม่วงหน่อย
https://www.facebook.com/peeling.the.mango/posts/574766782598959ร่วมหวีดร้องกับเราได้ที่ #เกียร์คู่(@candleguard)
เหงาจรุงงง มาคุยกันเยอะๆนะ เดะเข้าไปอ่าน อิอิ