เครียดและเหนื่อยมาก แต่อยากเขึยนอ่าาาาา
มาแอบโพสน์ทะเลในตอนของเป้กับปิงปองซะงั้น งุงิ
อ่านให้สนุกนะคะ
ง่วง ไปนอนดีก่า
......พิเศษ ตอนทะเล (1)....
.
.
.หลังผ่านการสอบที่แสนสาหัส..วาเลนไทน์ที่เร่าร้อน ที่ขาดไม่ได้คือการแก้แค้นที่แสนเผ็ดร้อนของผม
(ไม่แน่ใจว่าแก้แค้นมัน....หรือถูกมันแก้แค้นกันแน่) ผมรู้แต่ว่า... อาทิตย์นั้นฟ้าเปลี่ยนสี...เป็นสีเหลือง
ร่างกายเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่ม....เพราะไม่มีชุดจะใส่ ไอ้เป้ แม่งมันไม่ยอมจะลงไปเอาชุดที่สักเสร็จแล้วในตอนเช้าให้
มันบอกผมว่า... เป็นประโยคที่ดังก้องโสตประสาทผมซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในตอนนี้
“ที่รัก.....มึงเป็นคนเอาไปซัก มึงก็ต้องเป็นคนไปเอาเองสิครับ” มันหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปมหาลัย
อย่างอารมณ์ดี ใช่ครับมันไปเอาแค่ชุดมันชุดเดียวและส่งชุดเก่าที่ใส่เมื่อวานนี้ซักด้วย
ทิ้งไว้แต่.................ความอาลัยอาวรณ์ นึกเสียใจที่บังอาจไปแกล้งมันแบบนั้น ตอนนี้เหลือแต่....ผมสินะ
ที่ปั้นหน้าเครียด..เครียดดดดดด
..เครียด
..เครียดโว้ยยยยยยยยยยยยย ย้ากสสสสสสสสสส์ อยากโดดเตะคนโว้ย !! (มันไม่อยู่…เก่งทันทีเลยอ่ะกุ)
แล้วผมจะไปเอาได้ไง ...ในเมื่อชุดนอนชุดสุดท้ายมันก็ฉีกซะย่อยยับไปแล้ว แถวตัวผมมีแต่รอยเป็นจ้ำ ๆ ดีที่มันยังปราณี
ละเว้นคอและอกไว้ (แต่ยังมีรอยเดิมอยู่จางๆ) ขืนเดินถอดเสื้อลงไป พี่เค้าคงคิดว่าผมคงไปถูกรุมโทรมที่ไหนสักแห่ง
“ติ๊งต่อง ๆ” แล้วเสียงกอดออดหน้าประตูก็ดังขึ้น ผมแอบส่องดู ไม่ใช่ไอ้เป้แต่เป็นพี่ออยร้านซักรีดที่ว่าหอบตะกร้าผ้ามาส่ง
“ชิบหาย....ทำไงดีว่ะ” ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจ แม่ง...แผนไอ้เป้ชัวร์ ผมวิ่งกลับไปที่ห้องนอนหยิบผ้าห่มคลุมทั้งตัว ยันหัวเลยครับ
ค่อย ๆ แง้มประตูนิดหน่อย .......โผล่หัวไปแค่นิดเดียว ก็ได้ยินเสียงกรี๊ด เบาๆ แต่น่ารัก
“ต๊าย...นึกว่าผีผ้าห่ม”
“โทษครับพี่...ช้าไปหน่อยอ่ะครับ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ...ว่าแต่ น้องปิงปองเป็นไรคะ ห่มผ้าคลุมทั้งตัวเลย ไม่สบายรึเปล่าคะเนี่ย”
“พอดีผมไม่ค่อยสบายอ่ะครับพี่ออย หนาวมาก และง่วงด้วย” ผมตอบ เห็นแต่พี่ออยยืนบิดตัวไปมาส่งยิ้มหวานมาให้
“แหม...พูดอย่างงี้อยากได้คนกอดรึเปล่าจ๊ะ”
“หึหึ ....พี่ออยจะใจดีให้ผมกอดเหรอครับ ดีใจจังครับ แต่เอ้...ผมต้องขออนุญาติพี่ตี้ก่อนเปล่าเนี่ย”
ผมแซวกลับ พี่ออยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ยื่นมือมาหยิบแก้มผมเบา ๆ
“โอ๊ย..พอเลยๆ บอกตาหนวดนั่นพี่ก้อตายพอดีสิจ๊ะ ไม่รู้จะหึงอะไรนักหนา ยังกะมีเมียเป็นนางสาวไทย
อ่ะ...นี่จ๊ะตระกล้าผ้า พักผ่อนเยอะๆ นะ เป้เค้าฝากพี่ไว้อยากได้อะไรก็บอกหล่ะ อ้อนี่กับข้าวที่น้องเป้สั่งไว้ให้จ๊ะ
งั้นพี่ลงไปก่อนนะ อย่าลืมหล่ะมีไรรีบโทรลงไปเลยนะจ๊ะ สุดหล่อ” พี่ออยว่า ก่อนจะเอาตระกล้ายื่นมาให้ผม
“ขอบคุณมากครับพี่ออยสุดสวย” ผมขอบคุณอย่างจริงใจ พี่ออยน่ารักเสมอครับไม่ว่ามีอะไรก็ขอร้องให้พี่เค้าช่วยเหลือ
ได้ตลอด เมื่อก่อนที่ผมมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ ก็ได้พี่ออยนี่แหล่ะครับคอยแนะนำ อะไร ๆ ตั้งหลายอย่าง
.....พอพี่ออยคล้อยหลังไป ผมรีบลากตระกร้า+ไอ้กับข้าว เข้าห้องราวกับมันเป็นสมบัติ1500 ล้านที่มีใครมาทำหล่นไว้
สิ่งแรกที่ทำคือหยิบเสื้อผ้ามาใส่ แล้วเอาผ้าทั้งหมดแขวนในตู้เสื้อผ้า ยืนกอดตู้เสื้อผ้าด้วยความรัก
เป็นครั้งแรกที่ผมอยากหากุญแจมาล็อดตู้เสื้อผ้าเพราะกลัวมันจะหายไป ....อีก จากนั้นก็กลับไปกินโจ๊ก ก่อนจะผลอยหลับไป
เสียดายเวลาที่ตัวเองลาหยุด หรือว่าจริงๆ แล้วกรรมมันสนองครับเพราะผมโกหกอาจารย์ว่าป่วย เลยได้ป่วยของจริง หึหึ
.
.
“ที่รัก...ที่รัก ตื่นครับตื่น” เสียงแว่ว ๆ ที่เข้ามาในโสตประสาทผม เหมือนกับฝันไป รอยจูบที่ตราตรึงใจค่อยดึงผมตื่นจากนิทรา
“หืมมมม ...เป้” ผมกระพริบตาช้า ๆ ไอ้เป้จูบเบาๆที่เปลือกตาผม
“อืม..กุเอง ตื่นได้แล้วครับเย็นมากแล้ว เป็นไงดีขึ้นยัง”
“ฮึ...เพราะใครหล่ะ” ผมแกล้งทำหน้างอนใส่ไอ้หล่อ มันยิ้มขำ ๆ ส่งมาให้ผม
“ครับๆ เพราะเป้เอง แล้วใครหล่ะเริ่มก่อน ต้นคิดเองนะเราอ่ะ” ไอ้เป้ต่อว่าอย่างเอ็นดู พร้อมเอื้อมมือมาบีบจมูกผมเบาๆ
ผมแลบลิ้นตอบ ไอ้หล่อโน้มหน้ามาแตะจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากผมอีกที
“น่ากินจริงๆ ” มันยิ้มกริ่มส่งมาให้ผม สีหน้าแววตามันบอกว่ามันพร้อมแล้วที่จะทำการละลายผม
“ห่า...พอเลยมึง กุไม่ไหวแล้ว” ผมผลักหน้าไอ้หล่อที่ทำหน้าเจ้าชู้ส่งมาให้ มันยิ้มชอบใจ ก่อนจะดึงมือผมลุกขึ้น
“ป่ะกินข้าวกัน กุซื้อกับข้าวมาแล้ว ของชอบมึงทั้งนั้นเลยที่รัก” ไอ้เป้บอก ผมค่อยลุกขึ้นตามแรงลาก
เดินตามไอ้หล่อที่จูงมือผมอย่างเอาใจ หลังจากเมื่อคืนที่มันเอาแต่ใจตัวเองมามากแล้ว ...ไม่ใช่แค่หกอย่างที่ขอ
แบบว่า....แบบว่า คูณสองอ่ะครับ ผมไม่รู้ว่ามันเอาแรงที่ไหนไปเรียนไปสอบวิชาเลือก รู้แต่ว่าตัวเองเหมือนถูกดูดพลัง
ไปจนหมด เลยต้องนอนสลบไสลอยู่อย่างนี้ ส่วนมันเหมือนไม่มีส่วนไหนสึกหรอ ยังยิ้มหน้าหล่อส่งมาให้ผม
จนผมเผลอหยุดมอง ทุกอากับกิริยาของคนตรงหน้า มันยิ้ม มันหัวเราะ กินข้าว พูดคุยกับผม สีหน้าท่าทางที่มีความสุขแบบนั้น
อยากเก็บไว้ ...เก็บไว้เป็นของผมคนเดียว ผมเอื้อมไปจับมืออุ่นๆ ของคนตรงหน้า ยิ้มตอบกลับไปให้ ไอ้หล่อมองมาที่ผม
ผมดึงมือนั่นมาแนบแก้มตัวเองอย่างหลงไหล ผมจูบเบา ๆ ที่มือไอ้หล่อ แล้วหันไปจ้องมองมันอย่างเดิม ใบหน้าคมเข้ม
มีสีแดงจางๆ ประดับบนใบหน้า ส่งยิ้มเขิน ๆ กลับมาให้ ภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นไอ้หล่อเขินอาย ผมได้แต่อมยิ้มมองดู
สายตามันที่กำลังบอกว่ารักผมหนักหนาแววตาที่ซื่อสัตย์ และจริงใจ ผมแนบมือเข้ากับแก้มตัวเองอีกครั้ง
“อุ่น” ผมเอ่ยเบา ๆ ส่งสายตาที่กำลังบอกว่า รักมันเหมือนกันกลับไปให้ มันยิ้มให้ผม ก่อนจะลุกมานั่งข้างๆ
“อุ่นก็กอดสิครับ อย่าจูบแค่มือสิ ตัวก็อยากอุ่นบ้าง” ไอ้หล่อกระซิบตอบ ขณะที่ดึงผมไปนั่งบนตัก
“ก็มึงอยู่ไกลอ่ะ กอดไม่ถึง” ผมอ้อน ไม่รู้ทำไมถึงอยากอ้อนมันนักอยากให้มันรักแค่ผม มองแค่ผม ยืนอยู่ข้างๆ ผม
เอาใจแค่ผมคนเดียวเท่านั้น
“ไกลแค่ไหน....กุก็กลับมาหามึงได้ เพราะไม่ว่าตอนไหน ที่ไหน เวลาไหน ในใจกุก็มีแค่มึงคนเดียว” ไอ้หล่อตอบเสียงหวาน
ผมได้แต่ผมยิ้ม ซุกหน้าเข้ากับอกคนหล่อกลัวว่า เรื่องทั้งหมดนี้มันจะเป็นแค่ฝันพอผมตื่นมาทั้งหมดก็เป็นแค่ผมคิดไปเอง
“จริงนะ ...อย่าทิ้งกุอีกนะเป้” ผมว่า น้ำตารื้น ภาพความทรงจำเก่า ๆ ย้อนมากอีกครั้ง
“กุสัญญาจะไม่มีทางทิ้งมึงไปไหนอีก....จะไม่รักใครอีก ไม่มีทางที่กุจะทิ้งมึง ยกเว้นเสียแต่กุจะตา...อืมมมม”
ผมปิดปากไอ้เป้ด้วยปากบาง ๆ ของผม ไม่อยากได้ยินอีกแล้ว....การจากลา
“พอแล้ว ...อย่าพูดอย่างงี้กุไม่ชอบ เชื่อแล้วเป้กุเชื่อแล้ว” ผมระร่ำระรักบอกคนตรงหน้า ไม่อยากฟังคำนั้น
แค่นี้ก็พอใจแล้ว เรายิ้มให้กัน ไอ้เป้ดึงผมไปกอดแน่นๆ
“หนาว” ไอ้หล่อบอก ลูบหัวผมเบาๆ ปลอบใจ
“ขอโทษนะครับ เพราะกุโง่เองที่คิดอะไรง่ายๆ เกินไป อย่าร้องนะคนดี เห็นมึงเจ็บกุก็เจ็บเหมือนกัน”
เรากอดกันอยู่อย่างนั้นไม่รู้นานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้เป้ค่อย ๆวางผมลงบนเตียงนุ่ม ๆ อย่างเบามือ
แล้วก็เหมือนกับมันเดินออกไปเพื่อไปเคลียร์โต๊ะกับข้าวมื้อเย็นของเราก่อนจะจัดการตัวเองในห้องน้ำ
สุดท้ายค่อย ๆ แทรกตัวเข้ามาในผ้าห่ม แล้วดึงผมไปกอด มันประทับจูบที่หน้าผากพร้อมกับเสียงพึมพำ
“ขอโทษ” ผมอยากจะบอกว่าไม่ได้โกรธมันแล้ว ก็แค่ .....กลัว...เท่านั้นเอง
.
.
.
เย็นวันศุกร์ พวกเราทั้งสี่กุมารก็นัดเจอกันที่คลับที่เคยมากันประจำ วันนี้เจ้าของร้านไม่ว่างทักเพราะลูกค้าเยอะ
“อาทิตย์หน้าหยุด 5 วัน หน้าไปทะเลกัน” ไอ้คุณหนูเอ่ยชวน พวกผมทุกคนหันไปมองหน้า
“ที่ไหนอ่ะ” ไอ้หล่อถาม
“เกาะช้าง”
“ทำไมต้องเกาะช้าง?” ผมถามขึ้นเผื่อมันจะมีเหตุผลพิสดานอะไรอีก
“เออ ทำไมอ่ะ” ไอ้เอกถามต่อ เชี่ยได้ข่าวว่าพวกมึงตัวติดกันแทบตลอดเวลา ไม่เคยคุยกันมาก่อนไงว่ะ
“กุอยากดำน้ำ”
“อือ” พวกผมตอบ และพยักหน้าพร้อม ๆ กัน อมยิ้ม....เป็นครั้งแรกที่มึงมีเหตุผล ที่ดูเป็นเหตุเป็นผล
“ยิ้มเชี่ยไร จะไปมั้ย ชิส์” ไอ้คุณหนูว่างอน ๆ สะบัดหน้าหนีไปแล้ว
“ไปดิ โหยไรวะขี้งอน” ไอ้เป้ว่าผลักหัวไอ้คุณหนูเบา ๆ ดูหน้ามันอมยิ้มนิด ๆ แต่ยังเก๊กท่างอนอยู่
“เออ ไม่ไปได้ไงว่ะ พี่นัยสุดหล่อกุชวนทั้งที” ผมตอบไอ้นัย แอบแขวะมันนิดหน่อย ดูยิ้มมันจะกว้างขึ้นมาอีกนิด
“มึงไปกุก็ไปอยู่แล้ว” ไอ้เอกว่า หันไปมองหน้าไอ้นัยยิ้ม ๆ ไอ้คุณหนูยิ้มซะกว้าง ชนิดไม่เหลือตาสองข้างให้เห็น
หน้าบานเป็นจานเชิง ระริกระรี้ลืมช่วงเวลาเมื่อกี้ไปสนิท และแล้วช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง เมื่อเหล้ามาวางที่โต๊ะ
ได้เวลากระดกเหล้ากันแล้วครับ ผมกับไอ้นัยเมากันปลิ้นเลยทีเดียว ส่วนไอ้เอกกะไอ้เป้มันไม่กล้าดื่มหนัก
เพราะต้องเป็นสารถีขับรถให้พวกผมนั่งกลับ
“กุปวดฉี่” ไอ้คุณหนูเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวกุพาไป” ไอ้เอกอาสาเพราะเล็งเห็นไอ้คุณหนูที่หน้าแดงเถือกแล้ว (มึงน่าจะเดินไม่เกินสาวก้าวนะกุว่า)
“เห้ย...กุม่ายเมาขนาดน้านนน เดี๊ยะ..กุปายเองด้ายยยยยยย ” มันบอกก็จะพาร่างกายเดินตุปัดตุเป
ไปทางห้องน้ำ ส่วนผมนอนพงาบๆ อยู่บนโต๊ะนี่แหล่ะครับ
“เป้....กุร้อนนนนอ่า ” ผมโวยวาย พยายามจะถอดเสื้อแต่ถอดไม่ได้ ไอ้เป้อมยิ้มส่ายหน้าขำ ก่อนนะก้มมากระซิบ
“หึหึ ที่รัก ถ้ามึงอยากให้เพื่อนเห็นรอยจูบตามตัวก็ไม่เป็นไรนะ กุจะได้เปิดตัวซะที” ไอ้หล่อว่า
“เชี่ย” ผมด่าตอบทันที ทำเอาผมหน้าแดงแปร๊ดดดดด แทบสร่างเมาเกือบลืมไปแล้วว่าคืนก่อน กุโดนลุมโทรมมา
ด้วยไอ้ตัวเห้ที่นั่งยิ้มหน้าหล่ออยู่ข้าง ๆ ผมเนี่ยแหล่ะครับ ผมทิ้งตัวลงพาดบนโต๊ะเหล้าตามเดิม
ก่อนจะกระชับเสื้อที่พยายามถลกเมื่อกี้ให้มิดชิดทั่วทั้งตัว แล้วตามด้วยประโยคที่ทำให้ไอ้เอกต้องหันมามองด้วยความงุนงงง
“หนาว กุหนาว” ผมพูดเสียงสั่น พายามให้สมบทบาท ไอ้เอกที่ทำหน้างงไม่ได้ถามอะไร ได้แต่ชะเง้อไปทางห้องน้ำ
มองหาไอ้คุณหนู
“เชี่ยเอกก ถ้ามรึงงงจะมองขนาดน้านก็ไปลากแม่งมาดิวะ” ผมด่า เพราะลำคาญท่าทางของมัน ห่วงเชี่ยไรนักหนา
“เออ ...งั้นกุไปดูมันก่อนนะเดี๋ยวมา” ไอ้เอกตอบ (สัด บ้าจี้ตามกุอีก)
สักพักไอ้เอกก็ลากไอ้นัยผ่าฝูงคนที่ดิ้นกระแด่ว ๆ เหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวก ตรงฟลอร์กลางผับ
“เป็นไรมึง หน้ามุ่ยเชียว” ไอ้เป้ถามขึ้นหลังเห็นสีหน้าไอ้เอกที่แดงกล่ำด้วยแรงโมโห ทำท่าจะแดกไอ้คุณหนูซะแล้ว
“ก็มันนะสิ กุก็เป็นห่วงกลัวจะเป็นลมตายห่าอยู่หน้าห้องน้ำ ที่ไหนได้แม่งเสือกแดกสาวอยู่หน้าห้องน้ำซะงั้น”
ไอ้เอกว่าอย่างหัวเสีย
“กุไม่ได้แดกกก เค้าจะแดกกุเองอ่า ชิส์!!” ไอ้คุณหนูขี้เมาเถียงขึ้น
“แล้วมึงก็จะเอา” ไอ้เอกขึ้นเสียงไม่พอใจ ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะโมโหอะไร ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อยมันก็เป็นงี้ตลอดนี่หว่า
“เอ๊า เชี่ยนี่.... ความผิดกูงายย?” ไอ้นัยเถียงข้างๆ คู ๆ แถ ๆ ไปพอให้ชนะไอ้เอก
“ชุดแดงอีกตามเคย...ชื่อไรหล่ะน้องเค้าอ่ะ” ไอ้เป้ถามขึ้น ไอ้เอกพยักหน้าตอบ แล้วหันไปมองไอ้นัยรอคำตอบ
“แตงโม” ไอ้นัยตอบ เหมือนสติสตางค์ไม่ค่อยเหลือเท่าไหร่แล้ว พวกผมขำกันคิกคัก รวมถึงไอ้นัยด้วยที่ยิ้มกริ่มหน้าแดง
เหลือแต่ไอ้เอกที่ปั้นหน้ายักษ์ แทบจะแดกหัวไอ้นัยได้อยู่แล้ว วันนี้คุณชายมันเป็นอะไรดูหงุดหงิดเป็นพิเศษ
แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะถ้าเป็นเรื่องไอ้นัยแล้วมันก็หงุดหงิดได้ตลอดแหล่ะ ผมได้แต่ส่ายหน้าละอา
ก้มลงหมอบหัวบนโต๊ะ เพราะรู้สึกว่าโลกแม่งหมุนครับ (เดี๋ยวกุอวกกกก) ยังครับยัง แค่ใกล้แต่ไม่ได้จะอวกหรอกครับ
และสถานการที่ตึงเครียดก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้นเมื่อน้องแตงโม ได้หอบแตงโมสองลูกเบ้อเลิ้ม...
มาหยุดตรงหน้า แทบจะกระแทกหน้าไอ้คุณหนูแล้ว โอ้ยหัวใจจะวายครับ ... หืมม อึ๋มจริงๆ
ผมที่วางหัวอยู่บนโต๊ะไม่สามารถมองเห็นหน้าน้องแตงโมได้แม้จะพยายามแหงนมองแล้ว เนื่องจากน้องยืนใกล้ผมเกินไป
ทำให้สายตาผมกมิอาจข้ามพ้นแตงโมลูกโตที่วางดักอยู่ตรงหน้า จนต้องเผลอกลืนน้ำลาย เอือกใหญ่
แม่เจ้า!! …… ผมกลับไปเป็นเหมือนเดิมทันมั้ยครับ
“แหม...มาแอบอยู่ตรงนี้เอง โมนั่งคนด้วยนะคะ” น้องโมกล่าว ไม่ได้รอคำอนุญาตใดๆ ทั้งนั้นแหล่ะครับเธอก็วางสะโพก
ดินระเบิดบนตักไอ้นัยเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะหอมแก้มไอ้คุณหนูโชว์พวกผมซ้ายทีขวาที
แต่ผมแอบเห็นแววยิ้มเยาะส่งไปทางไอ้เอก เหมือนๆ ศึกชิงนายยังไงไม่รู้ น้องเค้าคงจะโกรธที่ไอ้เอกไปแยก
ตอนที่กำลังเข้าได้เข้าเข็มกันอยู่
.... และแล้ว
....และแล้ว สายตาผมก็โผล่พ้น..โคลนตม อ๊ะไม่ใช่. .โผล่พ้นโนตม... เอ๊ยไม่ใช่.....
โผล่พ้นแตงโม จนเหลือบไปเห็นใบหน้า น่ารักๆ ของอีกฝ่าย ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ ขนาดนี้
เรียกได้ว่าสเป็คไอ้นัยพอดีเลยครับพี่น้อง ผมได้แต่มอง ...แอบแทะโลมนิดๆ ก็น้องเค้าน่าแทะอ่ะครับ
แต่ไม่มีปัญญาทำไรหรอกได้แต่นอนมองหมดแรงอยู่อย่างนั้น แล้วก็เหลือบไปเห็นไอ้ยักษ์วัดแจ้ง
ที่จ้องมาที่น้องแตงโมจนแทบตาถลน เชี่ยเอกครับ... เล่นทำเอาผมอึ้งไม่เห็นมันจะเคยโกรธขนาดนี้
ก่อนที่มันจะตวัดหางตาส่งไปให้ไอ้นัย ... แล้วหันหลังให้อย่างไม่ใยดี ผมเห็นไอ้นัยหน้าเริ่มซีด
พยายามแกะมือน้องแตงโม ไม่รู้ว่าน้องเค้าเป็นแตงโมพันธุ์ปลาหมึกรึเปล่า เห็นมือน้องเค้าเริ่มสอด ไซร้
ไปทั่วตัวไอ้นัย เรียบร้อยแล้ว
“แตงโม เอ่อ....เดี๋ยว เดี๋ยวครับ ปล่อยก่อนนะครับ พอดีพี่ต้องกลับแล้ว” ไอ้นัยพูดเสียงร้อนรน
เหมือนมันสร่างเมานิดๆ
“งั้นโมกลับกับพี่ได้มั้ยคะ นะ นะคะพี่นัยขา ให้โมกลับด้วยนะคะ” น้องโมอ้อนเสียงหวาน ทำคนฟังแทบละลาย
เพราะมือที่ล้วงไปถึงไหนๆ ของคนสวย ไอ้นัยสะดุ้งโหยงเผลอผลักน้องเค้าเบาๆ
“อย่าครับ...พี่ต้องกลับจริง ๆ แล้วคงให้โมกลับด้วยไม่ได้หรอกครับ พี่อยู่กับเพื่อนเกรงใจมันน่ะ”
น้องแตงโมที่เสียหลักเพราะแรงผลักเมื่อครู่หันมามองตาขวาง ไอ้ที่สวยๆ เมื่อกี้กลายเป็นแม่เสือเลยอ่ะครับ
(ปิงปองกลัวง่ะ)
“เล่นตัวอยู่ได้ ไม่ให้ไปก็ไม่ง้อหรอกค่ะ โมมีเพื่อนเยอะแยะ ไม่เห็นจะแคร์สักนิด ” น้องโมว่า
พร้อมสะบัดก้นหนี ไอ้คุณหนูไป
“ป่ะเอก....กลับกันยัง..” ไอ้นัยเอื้อมมือไปจับแขนไอ้เอก มันสะบัดแขนเบาๆ ก่อนจะหันมามองไอ้นัย
ด้วยสายตาไม่พอใจ-......... แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น นอกจากหันมาบอกลาพวกผม
“กุกลับก่อนนะ.” มันว่า ก่อนจะเดินลิ่ว ๆ ปล่อยให้ไอ้คุณหนูวิ่งตามอย่างทุลักทุเล
น่าสังเวชมากครับ คนเมาวิ่งตามคนไม่เมา หึหึ จะทันมั้ยเนี่ย
“ไงเมาแล้วเหรอครับ...หือ?? เมื่อกี้ถ้าน้องเค้ามานั่งตักมึงกุไม่ยอมหรอก” ไอ้เป้ว่ายิ้มๆ
ผมส่ายหน้าไปมา คิดขำความคิดมัน มากับพวกนี้แจ้งดับจริงๆ ครับ
(แสรดดดดดดดด พวกมึงยืนหล่อข่มกุขนาดนี้ น้องเค้าคงเลือกกุหรอก ฟายยยยยยยยยยยย).
“กุเห็นนะที่รัก ว่ามึงเล่นมองน้องเค้าซะตาเยิ้ม อย่าให้กุรู้กุไม่ได้ใจดีอย่างที่มึงคิด หึหึ”
ไอ้เป้กระซิบส่งท้าย ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะเย็นๆมาหลอกหลอน กล่อมประสาทผม
(ได้เป้ .....ถ้ากุนอกใจ จะไม่ให้มึงรู้เด็ดขาด อิอิ ล้อเล่นคร๊าบบบบบบบบ).
.”ป่ะกลับกัน” ไอ้เป้ว่า แล้วบรรจงลาก ครับ+.....ลากนี่แหล่ะถูกแล้ว ลากกกกกกกกแบบไม่มีเยื่อใยใดๆ ทั้งนั้น
มันทำเหมือนจูงควายวิ่ง ผมที่เมาอยู่แล้วจะให้เดินปกติอย่างคนอื่นคงไม่ไหว เชี่ยนี่เล่นลากผมเดิน
ซะตัวปลิว ไถลตัวผ่านคนมากมายในผลับออกมาได้อย่างหวุดหวิด ..หวิดโดนกระทืบเพราะไปเหยียบตีนชาวบ้าน
(แสรดดดดดดด ถ้ามึงจะลากกุเยี่ยงกุเป็นควายเช่นนี้ ปล่อยกุเดินเองได้ม้ายยยยย กุกลับเองก็ได้สาดดดดด )
.
.
.
ขึ้นรถได้ ...ไอ้เชี่ยเป้ก็ออกตัวแร๊ง...แรงมากๆ ครับ มันเล่นเหยียบคันเร่งซะมิด (ฮือ ๆ เป้ยังไม่อยากตายง่ะ)
“เป้”
“หืม”
“มึงรีบไปไหนเหรอ”
“กลับคอนโดไง ...กุอยากกลับคอนโด”
“มึงจอดข้างหน้าหน่อยดิ”
“จอดไมอ่ะ”
“กุไม่รีบเดี๋ยวกุกลับแท็กซี่เอง ถ้ามึงรีบแล้วขับ 170 ขนาดนี้จอดเลย จอดดดดดด่วน”
“เออ ๆ กุลดความเร็วก็ได้คร๊าบบ อย่าลงนะครับ” มันหันมาส่งยิ้มหวานให้ผม
“แม่ง... กุยังไม่มีเมีย มีลูกเลย ยังไม่อยากตายได้ยินมั้ยวะ ห่านี่”
“มึงไม่มีเมีย ...แต่มึงมีผัวแล้วว่ะ อย่าลืมซะหล่ะ แล้วเรื่องลูกถ้ามึงท้องได้ก็จะทำให้ครบโหลเลยดีมั้ยครับ”
“สัด... กุไม่มีมดลูก มีแต่มดแดง มดดำ มดตะนอย ต่อยหนั๊กหนากกกกก่ะ มึงเอามั้ย”
“หึหึ คร๊าบบบบ ที่รักเก่งให้ตลอดนะครับ” แล้วเราก็กลับมาถึงคอนโดโดยสวัสดิภาพ
มาทายสิครับว่าไอ้เป้มันลดความเร็วลงเท่าไหร่...... ?? ทายสิ ...ทายสิครับ
160 ม่ายช่าย
150 ม่ายช่าย
140 ม่ายช่าย
120 ม่ายช่าย เฉลยแล้วนะครับ...
เฉลย.... หึหึ 168 กม/ชม.
“เชี่ยยยยยยยยยยยย มึงลดแบบนี้ไม่ต้องลดก็ได้ม้างงงงงง” ผมตะโกนแข่งกับเสียงลมเพราะเปิดกระจก
“หึหึ กุก็ลดแล้วอ่ะ ไม่รู้หล่ะกุไม่จอด สัญญาเป็นสัญญาสิครับ เดี๋ยวก็ถึงแล้วใจเย็น”
(กุเกลียดทางด่วนโว้ยยยยยยยยยยยยย) ผมนั่งเงียบ ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับมันอีก ชิส์...นอนดีกว่า
.
.
“อืมมมมมมม อืออ” ผมคางเสียงแผ่ว รุ้สึกเหมือนมีใครกำลังลุกล้ำตัวผม ผมค่อยลืมตาขึ้มามอง
ที่นี่ห้องผม และไอ้นี่ก็แฟนผม........ มาถึงห้องไอ้หล่อก็จัดการลอกคาบผมทั้งตัว ริมฝีปากร้อนระอุประกบ
มาที่ปากผมอย่างดูดดื่ม
“อืมมมมมม อย่าเป้ ... อ่ะ” ผมประท้วง พยายามปัดมือปลาหมึกออกให้พ้นตัว
“มึงผิดเอง..ที่เซ็กซี่ตอนเมา ปากแดง แก้มแดง ตัวแดงทั้งตัวเลย ปิงปองคร๊าบบบบบ อ่าสสสส์”
ไอ้หล่อหันกระบอกปืนด้ามใหญ่กดลงไปในช่องหวานของผม เล่นเอาเสียวสะท้าน
ฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่พลุกพล่านปลุกความต้องการเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอถูกบังคับนิดๆ ซาดิสหน่อยๆ
ทำผมครางหวาน แทบต้านทานความต้องการไม่ไหว กระบอกปืนใหญ่ (ออกแนวไปรบนะเนี่ย)
กระแทกช่องหวานผมแรงขึ้นๆ เสียงเนื้อกระทบกัน สลับกับเสียงครางที่ต่างฝ่ายต่างบรรจงขับกล่อมอารมณ์กันและกัน
ให้พุ่งพล่านขึ้นไปอีก น้ำมันกับเปลวไฟ ......... อยู่ใกล้กันแล้วจะเหลืออะไรหล่ะครับ
.
.
“อ่า อ๊ะ... อย่าเป้....อย่าหยุด อืมมมมมมมมม” ร่างกายผมบิดเกร็งกระตุก ก่อนจะปล่อยน้ำข่าวขุ่นแซงหน้าไอ้เป้ไปก่อน
“อ่าส์ ปิงปองครับ ซีสสสสสส์” ไอ้เป้ร้องครางด้วยความเสียวที่ช่องหวานของผมบีบรัดจนมันขยับไม่ไหว
“แฮก....แฮกกกกก” ไอ้เป้กระแทกรัว จนผมหายใจไม่ทัน ได้แต่แอ่นสะโพกรับสัมผัสหวานซาบซ่า
“จะ...จูบหน่อย” ไอ้เป้ดึงผมไปจูบขณะที่ด้านหลังก็ยังซอยหนัก ๆ มันละจูบก่อนจะแทกแรงๆ สองสามครั้ง
เกร็งกระตุก ก่อนจะพ่นลาวาเดือดใส่ช่องหวานของผม มันยังสอดคาไว้อย่างนั้น ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ
ดึงผมไปกอดแน่น ........................
แต่เพียงไม่นาน ...ด้ามปืนใหญ่ก็กลับมาทำหน้าที่ของมันอย่างชำนาญการ 0ด้านล่างเริ่มซอยเนิบ ๆ อีกครั้ง ....
....และอีกครั้ง
....และอีกครั้ง ฟี้~ จนผมเผลอหลับไป
.
.
.