[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 184005 ครั้ง)

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
คุณเชษฐ์จะอาการสาหัสมากถึงขั้นอัมพาธไหมน้า น้องมีนน้ำตาแตกแน่เลย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ห้ามตายเด็ดขาด!!!!!

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
บทที่ 50 ไม่มีค่าพอ


‘เชษฐ์…’


‘เชษฐ์คะ…’


“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”



ธีรเชษฐ์ลืมตาตื่นขึ้นมาในความว่างเปล่า




นอกจากความว่างเปล่าที่ไร้จุดสิ้นสุดแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เขารู้จักที่นั่งไขว่ห้างถักไหมพรมอยู่ข้างๆเตียงของเขา ดวงหน้างดงามหวานละมุนเปล่งปลั่งและเอิบอิ่มอย่างที่ธีรเชษฐ์ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ลูกชายคนเล็กลืมตาดูโลก เกศราอยุ่ในชุดเดรสลายลูกไม้สีม่วงอ่อนที่เขาคุ้นตาว่าเคยเห็นหญิงสาวสวมใส่ในบ้านอยู่หลายครั้ง เสียงติ๊กๆของเข็มถักไหมพรมที่กระทบกันเป็นจังหวะสะท้อนในความมืดมิดไม่มีจุดสิ้นสุด



“คุณเกศ?” ลำคอของเขาแห้งผาก นึกอยากเอื้อมมือไปแตะข้างแก้มของภรรยาผู้ล่วงลับ แต่แขนทั้งสองข้างกลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา



“คะเชษฐ์?” เจ้าของชื่อขานตอบทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากไหมพรมที่ถักอยู่ ธีรเชษฐ์พินิจมองเสี้ยวหน้าของหญิงผู้เคยเป็นดั่งเจ้าของหัวใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น



“ผมฝันอยู่สินะ”



“อะไรกัน...” เกศรายิ้มขำ เงยหน้าขึ้นถามสามีของตนด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “ไม่คิดว่าตัวเองจะตายแล้วมาเจอเกศบ้างเหรอคะ?”



อา…เขาเกือบลืมไปแล้วว่าภรรยาของเขาอารมณ์ขันร้ายเพียงใด



ธีรเชษฐ์นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่มีทาง” ชายหนุ่มตอบอย่างมั่นใจ “ถ้าผมตายไปแล้ว คงไม่ได้ขึ้นสวรรค์มาเจอคุณหรอก”



“มั่นใจจังนะคะว่าคนอย่างเกศจะได้ขึ้นสวรรค์” เกศราอมยิ้ม “ไม่ใช่ว่าน้องนิคเล่าทุกอย่างให้คุณฟังหมดแล้วหรอกเหรอคะ?”




การได้ยินหญิงสาวเรียกเจ้าพ่อมาเฟียที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาว่าน้องนิคทำให้ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี



“เล่า แล้วผมก็ไม่คิดว่าจากที่เล่ามา จะมีใครใจร้ายพอให้คุณไปที่ไหนนอกจากที่นั่นด้วย”



“ปากหวานไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคะเชษฐ์” เกศราเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ



“แล้วคุณ…” แม้จะบอกว่าตนกำลังฝัน ชายหนุ่มยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามความเป็นไปของคนเคยรัก “เกศ คุณสบายดีมั้ย?”



“เกศสบายดีค่ะ” หญิงสาวหันไปหาความว่างเปล่าด้านหลังของตัวเอง ท่ามกลางความประหลาดใจของธีรเชษฐ์ ดวงไฟสีขาวก่อประกายในความมืด ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชูทสูทสีน้ำตาลอ่อนคนหนึ่งที่ยืนส่งยิ้มให้กับพวกเขาทั้งคู่อยู่ห่างๆ ดวงเนตรสีม่วงล้อแสงไฟทอประกายอ่อนโยนแม้มองจากตรงนี้ เส้นผมยาวสีน้ำตาลถูกรวบเป็นหางม้าด้วยริบบิ้นสีแดงเส้นใหญ่



แม้จะเคยเห็นหน้าค่าตาเพียงไม่กี่ครั้งจากรูปถ่าย แต่ธีรเชษฐ์ยังคงจดจำได้ว่าคนคนนั้นคือพี่ชายของเกศรา เงาของผู้นำตระกูลอัลฟอนโซ่คนก่อน



กรรณวัชร เหลียน


“เกศมีความสุขดี เชษฐ์กับลูกทำใจให้สบายได้แล้วนะคะ” เกศราหันกลับมาหาสามีที่ยังคงมองมาที่ตนราวกับกลัวว่าหญิงสาวจะสลายหายไปกับอากาศได้ทุกเมื่อ “เกศน่ะ ดูคุณกับลูกๆอยู่ตลอดนะคะ เกศดีใจนะที่เห็นคุณกับลูกๆมีความสุข…”
แม้ว่าอายุจะมากขึ้นแค่ไหน แววตาหยอกล้อของหญิงสาวอายุมากกว่ายังคงเรียกริ้วสีชาดบนแก้มสากได้เป็นอย่างดี ธีรเชษฐ์ยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างเงอะงะขัดเขิน วางมือวางไม้ไม่ถูก



“คือ…ผม…เอ่อ…”



“คิก เด็กโง่…” มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะของสามีอย่างอ่อนโยน ธีรเชษฐ์เข้าหาสัมผัสที่คุ้นเคยอย่างโหยหา ขอบตาของร่างสูงร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ “ถ้าเด็กคนนั้นทำให้คนที่เกศรักยิ้มได้ทุกวันแบบนี้ คิดว่าเกศจะว่าอะไรคุณคะ”



“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ใบหน้าคมคายซุกเข้ากับมือของภรรยา ออดอ้อนเป็นเด็กน้อยขัดกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง



“ค่ะ น้องเชษฐ์ไม่เด็กแล้วเนอะ” เกศราหยิกแก้มสากเบาๆอย่างมันเขี้ยว เรียกเสียงร้องโอดโอยจากคนถูกแกล้งได้เป็นอย่างดี “แต่เชษฐ์รู้มั้ย… เวลาที่คุณอยู่กับเด็กคนนั้น เกศเหมือนได้เห็นคุณสมัยที่ยังไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตของเกศกับลูกๆ สมัยที่คุณกับวีก่อเรื่องวุ่นวายให้น้องครามปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เหมือนคุณกำลังใช้ชีวิตที่คุณไม่เคยมีโอกาสได้ใช้อีกครั้ง”



“บางครั้งผมก็รู้สึกผิดนะ…” ธีรเชษฐ์สารภาพด้วยสีหน้าสลดลง “เด็กคนนั้นยังมีโลกทั้งใบให้สำรวจ มีคนมากมายที่จะมีโอกาสได้พบ แต่เขาเลือกผม ทั้งที่ผมไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเขาเข้าใจว่าความรักคืออะไร”



“แล้ว…เด็กแก่แดดในชุดเครื่องแบบนักเรียนที่ขอเกศแต่งงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบนี่ คิดว่าตัวเองเข้าใจความรักแล้วจริงๆเหรอคะ?”



คนถูกย้อนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสะอึก



หากจะให้ตอบตามตรง…เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาในตอนนี้เข้าใจความรักถ่องแท้แล้วแน่หรือ



“เสียใจมั้ยคะ ที่แต่งงานกับเกศ?”


“ไม่!” ร่างสูงปฏิเสธอย่างหนักแน่นในทันทีที่ได้ยินคำถาม “คุณกับลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม ผมไม่มีวันเสียใจที่ได้แต่งงานกับคุณ ต่อให้ผมรู้ก่อนหน้านั้นว่าตัวเองเป็นแค่ใบเบิกทางให้คุณออกมาจากตระกูลบ้าๆนั่น ผมก็ไม่มีวันเลือกที่จะหันหลังให้คุณ”



ผู้หญิงคนนี้คือแสงสว่างในชีวิตของเขา ไม่มีสิ่งใดจะเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนั้นได้



“เกศขอโทษนะคะที่ปิดบังคุณมาตลอด…” เกศราถอนหายใจ ดวงเนตรเรียวสีอัลมอนด์ที่มีเพียงลูกชายคนกลางที่ได้รับสืบทอดหม่นลงเล็กน้อย “เกศรักคุณนะคะเชษฐ์ ถึงมันจะดูไม่เหมือนอย่างนั้น แต่ในชีวิตนี้คนที่เกศรักนอกจากพี่กรรณกับลูกก็คือคุณ คุณไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่คุณมีค่าพอที่จะถูกรัก อย่าสงสัยในตัวเองอีก เข้าใจมั้ยคะ”



“ผมเกลียดตัวเอง…” สิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิด ในที่สุดก็ได้เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่าสั่นเครือ “ผมเกลียดตัวเองที่ไม่อยากให้คุณเจ็บเพราะรักผม แต่ยังอยากให้คุณรัก…”



“เด็กน้อย…” อ้อมแขนเรียวรั้งร่างสูงใหญ่นั้นเข้ามาในอ้อมกอด โยกไปมาเบาๆราวมารดาที่กำลังขับกล่อมลูกน้อยให้หลับใหล “อะไรที่ผ่านไปแล้ว อย่าเก็บมันมาใส่ใจเลยนะคะ”



“ผมคิดถึงคุณ” ธีรเชษฐ์ซุกเข้าหาอ้อมกอดคุ้นเคยในอดีต กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้เมืองหนาวหวนให้เขานึกถึงความทรงจำของครอบครัวพร้อมหน้า “ลูกๆคิดถึงคุณ”



“เกศรู้…” หญิงสาวยิ้มอ่อนโยน “แต่น้องซันดูจะเข้ากับคุณแม่คนใหม่ได้ดีนะคะ”



“ไม่มีใครแทนคุณได้”



ต่อให้เขารักมีนาเพียงใด ธีรเชษฐ์ก็ยังรู้ดีว่ายังมีเสี้ยวหนึ่งในหัวใจของเขาที่ยังคงเก็บความรักครั้งแรกของตนไว้ เช่นเดียวกับลูกๆของเขาที่จะไม่มีใครมาแตทนที่มารดาบังเกิดเกล้า



“กับน้องอุ่น…เชษฐ์ให้เวลาเขาหน่อยนะคะ” คนเป็นแม่ยังคงไม่คลายกังวลเรื่องของบุตรชาย “เขาจะกลับมาในวันที่เขาพร้อม เด็กที่ชื่อแทนไทยคนนั้นดูแลอุ่นดีมาก คุณกับเมฆอย่าแกล้งเขามากนัก”



“ไม่สัญญาได้มั้ย” คนฟังทำหน้ามุ่ย หัวอกคนเป็นพ่อแค่คิดว่าเจ้าเด็กหัวทองนั่นกล้ามายุ่มย่ามกับลูกน้อยของเขาก็อยากจะตามไปแหกอกถึงที่ เกศราหัวเราะเบาๆ



“น้องซันกับคุณภัทรก็เข้ากันได้ดี…” ว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “จะเหลือก็แต่พี่เมฆนี่ล่ะน้า ชอบไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วย เหมือนพ่อเขาไม่มีผิด”



“ถึงหมอกเขาจะเข้าถึงยากไปบ้าง แต่ผมว่าเด็กคนนั้นก็เป็นเด็กดีนะ” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว อดปกป้องเลขาคนเก่งของตนที่เมฆาคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อทุกวันไม่ได้



“อา…นั่นสินะคะ” คนฟังอมยิ้ม แววตาระยิบระยับนั้นทำให้ธีรเชษฐ์อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองพลาดอะไรไป “เชษฐ์ เกศรบกวนคุณได้มั้ยคะ”



“ได้สิครับ อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ธีรเชษฐ์พยักหน้าแข็งขัน ไม่ว่าอะไรที่อีกฝ่ายต้องการ เขาจะหามาให้อย่างสุดความสามารถ




“เกศมีชุดจีนพิธีการชุดนึงที่เคยฝากไว้กับป้าแต้ว เป็นชุดพิธีการของเงาในวันที่เข้ารับตำแหน่งตอนอายุสิบหก” เกศราอธิบาย “มันเป็นชุดของพี่ชายของเกศ เกศอยากให้เชษฐ์เอามันให้เมฆ”



“เมฆ? เมฆจะเอาไปทำอะไร?” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างงุนงง



“ซักวันลูกจะรู้เองค่ะว่าจะทำอะไรกับมัน” เกศราผละจากคนในอ้อมกอดแล้วลุกขึ้น เป็นสัญญาณว่าบทสนทนาของพวกเขากำลังจะจบลงในไม่ช้า หญิงส่วหันไปหาผู้เป็นพี่ชายที่ยังคงยืนรออยู่ที่เดิม “เกศต้องไปแล้วล่ะค่ะ”



“เกศ…”



“เกศว่าคุณก็ได้เวลากลับไปหาคนที่รออยู่แล้วเหมือนกันนะคะ” เกศรากล่าวยิ้มๆ “ดูแลตัวเองดีๆนะคะเชษฐ์”



“แล้วคุณ…จะไปอยู่กับพี่ชายเหรอ?” ธีรเชษฐ์อดถามไม่ได้ เขาไม่ค่อยมั่นใจว่าโลกหลังความตายนั้นมีการจัดการบริหารอย่างไร เกศราส่ายหน้า



“พี่กรรณเขา…ยังมีเรื่องที่ต้องสะสาง พี่เขาคงล่วงหน้าไปก่อนน่ะค่ะ”



สะสาง?ล่วงหน้า?


“ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุข แล้วเจอกันใหม่นะคะ เชษฐ์”



นิ้วเรียวแตะลงที่กลางหน้าผากของสามีที่ยังคงสับสนกับคำตอบนั้น ก่อนที่ความมืดมิดจะกลืนกินชายหนุ่มเข้าไปทั้งตัว









ติ๊ด…ติ๊ด…



เปลือกตาที่หนักอึ้งปรือปรอยอย่างยากลำบาก สภาพแวดล้อมรอบกายที่พร่าเลือนทำให้ธีรเชษฐ์ไม่รับรู้ถึงสิ่งใดนอกจากความอึดอัดจากท่อพลาสติกที่สอดเข้ามาในทางเดินหายใจเพื่อช่วยส่งอากาศเข้าไปในปอดของเขาอย่างขันแข็ง
เขาไม่รู้สึกอะไรจากสะโพกลงไป ร่างทั้งร่างหนักอึ้งจนไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวร่างกายได้ ถึงอย่างนั้น โสตประสาทที่ยังแจ่มชัดจับเสียงที่แสนคุ้นเคยของคนรักที่กำลังคุยกับแพทย์เจ้าของไข้ข้างเตียงได้เป็นอย่างดี



“…เขาจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมครับคุณหมอ”



“ในคนอายุเท่านี้เป้าหมายของการรักษาคือการฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ หลังการผ่าตัดจะมีเรื่องของกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องเข้ามามีบทบาท อาจจะเป็นหลักเดือนหรือหลักปีจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หมอยังให้คำตอบไม่ได้ว่าคนไข้จะกลับมาเหมือนเดิมทั้งหมดมั้ย เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งสภาพร่างกายและความร่วมมือของคนไข้เอง ยังไม่อันตรายถึงชีวิต ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว ใส่สายระบายเลือดที่ออกในเยื่อหุ้มปอด ส่วนเรื่องกระดูกซี่โครงกับแขนที่หัก…”



ความอ่อนล้าดึงหนังตาของธีรเชษฐ์ให้ปิดกลับลงไปอีกครั้ง แต่ใจความสำคัญนั้นเขายังคงได้รับมันอย่างถี่ถ้วน



อยากเอื้อมมือคว้าร่างเล็กๆนั้นเข้ามาในอ้อมกอด คิดถึงจนแทบขาดใจทว่าร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่ง



และจากที่ฟัง ร่างกายของเขาจะยังคงเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง



เขารู้สึกถึงมือเล็กๆที่สอดกุมประสานกับมือที่วางนิ่งของตน



“การทำกายภาพบำบัดและดูแลคนไข้ หลังจากออกจากโรงพยาบาลต้องใช้ความร่วมมือจากญาติพอสมควรนะครับ คนไข้มีผู้ดูแลหลักที่อยู่ดูแลเขาทุกวันมั้ยครับ?”



“ผม…ผมเองครับ” เสียงเล็กฟังดูอ่อนล้าคล้ายไม่ได้พักผ่อนมานาน ”ผมคุยกับคณะเรื่องหยุดเรียนแล้ว…”



หัวใจของคนฟังบีบตัวแน่นอย่างปวดร้าวกับสิ่งที่ออกมาจากปากของคนรัก



เอาอีกแล้ว…



เขาทำให้คนที่เขารักต้องลำบากเพราะเขาอีกแล้ว




สติสัมปชัญญะเริ่มล่องลอยด้วยฤทธิ์ของยาแก้ปวดหลายขนานในกระแสเลือด สิ่งสุดท้ายที่ธีรเชษฐ์รับรู้คือหยาดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมาบนหลังมือของตน



ขอโทษนะมีน…



ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องร้องไห้อีกแล้ว…







ท่อช่วยหายใจถูกถอดออกไปหลังจากนั้น ธีรเชษฐ์นิ่วหน้ากับความแสบระบมในลำคอ เมื่อเขาตื่นมาก็ไม่พบร่างเล็กของคนรักเสียแล้ว แต่จากคำบอกเล่าของพยาบาล มีนาออกไปจัดการเรื่องเอกสารและแจ้งข่าวอาการของเขาให้กับคนที่รอฟัง ร่างสูงถอนหายใจ ก้มมองสภาพที่ไม่ต่างจากมัมมี่รอสายฟ้าฟาดชุบชีวิตของตนอย่างอดสู แขนขวาถูกผ่าตัดใส่เหล็กดามไว้จากภายใน ส่วนร่างกายท่อนร่างยังคงให้ความรู้สึกชาหนึบราวกับไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย



ประตูห้องถูกเปิดออก ทีแรก ธีรเชษฐ์คิดว่าคนที่กลับเข้ามาจะเป็นมีนา แต่ร่างที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำทำให้ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ



“พ่อ…พ่อครับ”



ก่อนที่คำเรียกที่ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้งจะหลุดออกมาจากปากของธารธารา



“ธะ…ธาร…” เสียงทุ้มยังคงแหบพร่าโรยแรง ประกอบกับหน้ากากออกซิเจนที่ครอบไว้ทำให้เสียงของเขาอู้อี้จนฟังไม่ได้ความ เด็กหนุ่มทรุดลงข้างเตียงของเขา ดวงหน้าที่ถอดแบบมารดามามากกว่าแดงก่ำจากแรงสะอื้นก่อนหน้า



“อยากตายมากนักเหรอครับ”



“ธาร…”



“ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งพี่เมฆ ทำไมทุกคนที่ผมรักถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ทุกครั้ง ผมทำอะไรผิดเหรอ ทำไมทุกคนถึงอยากไปจากผม…”



หน่วยตาใสรื้นด้วยน้ำตาอีกครั้ง แม้อยากจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มใสแต่ทำไม่ได้ ดูเหมือนว่าธีรเชษฐ์จะมีความสามารถในการทำให้คนที่ตัวเองรักร้องไห้เสียเหลือเกิน



“ขอ…โทษ…” ผู้เป็นพ่อพยายามแค่นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก ธารธารายกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ตีสีหน้าหงุดหงิดกลบเกลื่อนความอับอายที่ร้องไห้ต่อหน้าคนตรงหน้าเป็นครั้งที่สอง



“ไม่ตายก็ดีแล้ว” ลูกชายคนรองของเขาแสร้งกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ แม้แววตายังฉายชัดว่าเป็นกังวล ธีรเชษฐ์ขยับยิ้มอย่างอ่อนเพลีย “แล้วเด็กนั่นไปไหน ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องเลยทิ้งคุณไปแล้วหรอกนะ”



คนป่วยขยับศีรษะให้ธาราราโน้มเข้ามาใกล้ แม้ลำคอยังแห้งผากแต่เรื่องที่เขาจำเป็นจะต้องขอให้ธารธาราทำให้นั้นไม่
สามารถรอนานกว่านี้ได้



‘ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุข...’



ขอโทษนะครับเกศ...



ไม่ทันไร ผมก็ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณซะแล้ว




กาแฟที่ซื้อมาแทนอาหารเช้าแทบจะร่วงหล่นลงไปบนพื้นเมื่อมีนาได้ยินจากปากของคุณพยาบาลว่าคนรักฟื้นคืนสติโดยสมบูรณ์แล้ว เด็กหนุ่มที่อดหลับอดนอนตั้งแต่ลูกน้องของคุณนิโคไลพาเขามาส่งที่หน้าห้องผ่าตัดรู้สึกราวกับความอ่อนเพลีย
ที่สะสมมาทั้งวันปลิดปลิวหายไปทันทีที่ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มที่เหือดหายไปตั้งแต่ได้ยินข่าวอุบัติเหตุของคนรักกลับคืนมาสู่ใบหน้าอิดโรย



หลังจากที่หนีออกมาจากงานแฟชั่นโชว์ตามคำสั่งของคนรัก ชายหนุ่มชาวต่างชาติพาเขามาส่งที่รีสอร์ทขนาดกลางแห่งหนึ่งที่อีกฟากของตัวเมือง ทันทีที่ก้าวลงมาจากรถ กลิ่นดอกมะลิที่ลอยมาตามสายลมและเสียงน้ำตกรินเอื่อยให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด สุดสายตามีเพียงต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี ไม่คิดว่าใกล้ชายทะเลจะมีสถานที่ที่เหมือนกับบ้านสวนเช่นนี้อยู่



“คุณมีนา เชิญทางนี้ค่ะ” หญิงสาวในชุดผ้าไหมไทยที่ยืนรอรับเขาอยู่ด้านหน้าก้าวนำมีนามาจนถึงบ้านพักสีข้าวหน้าตาน่ารักหลังหนึ่งติดธารน้ำตก ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเตียงไม้ฉลุลายสีขาวหลังโปร่ง เฟอร์นิเจอร์ด้านในทำให้นึกถึงเรือนไทยประยุกต์ที่มีนาเคยเห็นผ่านๆในตัวอย่างบ้านที่ทินกรมักนำมาปรึกษาพวกเขาเรื่องการออกแบบให้ภรัณยูในอนาคต เด็กหนุ่มต้อองยอมรับว่ารีสอร์ทบรรยากาศร่มรื่นนี้ถูกจริตเขากว่าโรงแรมห้าดาวที่เพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์เป็นเจ้าของอยู่มาก มีนายกน้ำใบเตยหอมที่รินไว้รับรองแขกขึ้นดื่มอึกใหญ่ แม้อยากจะโทรคนรักเพื่อสอบถามว่าอีกฝ่ายจะมาถึงตอนไหน แต่เมื่อธีรเชษฐ์เป็นฝ่ายขอให้เขารออยู่ที่นี่ มีนาจึงไม่อยากรบกวน



บนเตียงมีเสื้อผ้าชุดหนึ่งพับวางไว้พร้อมดอกกุหลาบสีขาวหนึ่งดอกที่วางทับไว้ด้านบน เด็กหนุ่มจึงเลือกที่จะคว้าเสื้อผ้าชุดนั้นแล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำที่มีอ่างไม้ขนาดใหญ่รองน้ำอุ่นลอยดอกไม้เตรียมพร้อมไว้ให้แช่กาย นอกจากนั้นยังมีถังแช่น้ำสมุนไพรและแก้วแชมเปญเรียวเล็กวางเคียงคู่อย่างรู้ใจคนไม่ดื่มของมึนเมา



‘อาบน้ำแต่งตัวหอมๆเป็นเด็กดีรอฉันอยู่ที่นั่น ปิดโทรศัพท์ ตัดขาดจากโลกภายนอก ให้โลกนี้มีแค่เราสองคนทั้งวัน...ทั้งคืน...’



ดวงหน้าน่ารักขึ้นสีเรื่อเพียงแค่นึกถึงคำพูดของคนรัก ปล่อยอาภรณ์ตัวบางให้ร่วงหล่นลงบนพื้นกระเบื้องสีขาว รู้สึกว่าตนกลายเป็นเด็กน้อยแสนซุกซนดังที่ธีรเชษฐ์ชอบกล่าวหาเมื่อเขาปล่อยให้เสื้อผ้าของตัวเองกระจัดกระจายอยู่บนพื้น



ทว่าหลังจากแช่น้ำอุ่นจนกล้ามเนื้อที่เขาไม่รู้ว่าปวดเมื่อยผ่อนคลายไปทั้งตัว จนนอนเกลือกกลิ้งรอคนที่สัญญาว่าจะตามมาหาบนเตียงอยู่นานสองนาน ธีรเชษฐ์ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมาถึง จนในที่สุดมีนาที่ทนไม่ไหวจึงหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเพื่อเปิดหาอะไรดูฆ่าเวลา ทว่าทันทีที่หน้าจอสี่เหลี่ยมถูกเปิด สิ่งแรกที่เขาเห็นคือภาพของโรงแรมที่ตนจากมาโขมงคลุ้งด้วยควันไฟและเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ มีนารู้สึกว่าหัวใจของตนหยุดเต้นเมื่อเห็นผู้คนที่ิวิ่งหนีตายออกมาจากโรงแรมที่คล้ายจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ



"...มาต่อกันที่เหตุระเบิดที่โรงแรมธาราสาขาxxxกันนะคะ ขณะนี้เจ้าหน้าควบควมเพลิงไว้ได้แล้ว ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากการก่อการร้ายหรืออุบัติเหตุ ทางด้านผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่มีรายงานตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้จุดที่ระเบิดเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับงานแฟชั่นโชว์ ทำให้มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก...”



มือที่สั่นเทาควานหาโทรศัพท์ของตัวเองแล้วรีบกดโทรหาคนรัก ทว่าปลายสายกลับไม่มีสัญญาณตอบรับ มือเรียวเล็กชื้นเหงื่อเมื่อเขาพยายามติดต่ออีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังไม่สามารถละสายตาจากภาพเหตุการณ์สะเทือนขวัญตรงหน้าได้
เมื่อเห็นว่าความพยายามของตนไร้ผล เด็กหนุ่มรีบพุ่งตัวออกไปจากห้องเพื่อกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ทว่าร่างสูงใหญ่ของชาายหนุ่มชาวต่างชาติที่เขาคิดว่ากลับไปแล้วหลังจากมาส่งเขากลับก้าวมาขวางทางมีนาไว้ด้วยสีหน้าจริงจัง



“คุณมีนา...”



“ผมต้องรีบกลับไปที่โรงแรม คุณเชษฐ์...คุณเชษฐ์...” มีนาละล่ำละลัก ดวงเนตรกลมโตร้อนผ่าว ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลืนด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา



เขาต้องไปหาคุณเชษฐ์



“คุณเชษฐ์ไม่ได้อยู่ที่โรงแรมแล้วครับ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กล่าว ดวงตาของอีกฝ่ายอ่อนลงอย่างเห็นอกเห็นใจ “ทำใจดีๆไว้นะครับ”



“คุณเชษฐ์อยู่ไหนครับ?! พาผมไปหาคุณเชษฐ์ที ขอร้องล่ะ คุณเชษฐ์...คุณเชษฐ์อยู่ที่ไหน....”



เขารู้สึกเหมือนคนเสียสติ ขยุ้มเสื้อของคนตัวสูงกว่าเป็นเท่าตัวเขย่าอย่างบ้าคลั่ง ความหวาดกลัวเกาะกุมจิตใจ ทั้งต้องการคำตอบและหวาดกลัวที่จะได้ยินมันในเวลาเดียวกัน



“อยู่ในห้องผ่าตัดครับ คุณนิโคไลสั่งให้ผมพาคุณไปที่โรงพยาบาล”



มือที่เขย่าร่างสูงใหญ่ของบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตายพลันหมดเรี่ยวแรงเอาเสียดื้อๆ
หลังจากได้ยินคำพูดจากปากของอีกฝ่าย ในที่สุดมีนาก็ได้เข้าใจ....


ว่าคำว่าโลกทั้งใบแตกสลายนั้นความจริงแล้วมันรู้สึกอย่างไร





==========(ต่อ)==============

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5



มีนาวิ่งกลับมาที่หน้าห้องพักของธีรเชษฐ์เร็วที่สุดเท่าที่ขาเล็กๆของเขาจะนำพา หลังจากได้ยินจากปากของคุณหมอว่าอาการของอีกฝ่ายพ้นขีดอันตรายแล้ว มีนาแทบจะทรุดลงไปกราบไหว้ขอบคุณทั้งทีมแพทย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่พรากธีรเชษฐ์ไปจากเขา การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังของธีรเชษฐ์นั้นแม้ไม่สามารถการันตีว่าจะอีกฝ่ายจะสามารถกลับมาเดินเหินได้เต็มร้อยในเวลานี้ แต่มีนากลับไม่นึกใส่ใจ เขาไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำตอนที่โทรไปสอบถามเรื่องระเบียบการพักการเรียนในปีการศึกษานี้เพื่อดูแลคนเจ็บ เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยสิ่งใด



ขอแค่ได้คุณเชษฐ์กลับมา เขาไม่สน เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น



หัวใจของมีนาเต้นระรัวอย่างลิงโลดเมื่อเห็นหมายเลขประตูห้องใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทว่าประตูที่เปิดออกเองจากข้างในและร่างที่ก้าวออกมาทำให้ฝีเท้าของมีนาหยุดอยู่กับที่อย่างตื่นตระหนก



“อะไรกัน? ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ?” ธารธาราเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “หรือคิดว่าถ้าเขานอนป่วยอยู่แบบนี้จะปอกลอกเขาได้ง่ายกว่ากันแน่?”



“คุณ…คุณธาร?” ธารธารามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?



“ใช่ ผมเอง ลูกชายแท้ๆที่มีสิทธิ์เข้าเยี่ยม ไม่ใช่คนที่แอบอ้างตัวเป็นญาติให้หมอยอมบอกคุณว่าพ่อผมจะตายเมื่อไหร่” ในยามที่ไม่มีคนอยู่รอบข้างธารธาราไม่คิดแม้แต่จะเสแสร้งปั้นแต่รอยยิ้มหรือคำพูดสวยหรู ดวงหน้าสวยหวานเกินชายย่นจมูกราวกับได้กลิ่นขยะเหม็นเน่า “บอกตามตรง ผมประทับใจมากนะที่คุณหลอกคนอย่างพ่อจนหลงหัวปักหัวปำได้ขนาดนี้”



“มะ…ไม่ใช่นะครับคุณธาร ผมไม่ได้...”



“แต่ก็นะ ละครปาหี่ของคุณมันก็มาได้ถึงเท่านี้นั่นแหละนะ” ธารธาราไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ รอยยิ้มมุมปากที่ใครว่ากันว่าบริสุทธิ์สดใสชำระล้างจิตใจของนางฟ้าแห่งคณะแพทย์ในยามนี้กลับทำให้มีนารู้สึกบิดมวนในช่องท้อง  “หลังจากที่แม่เสีย
ผมออกจากบ้าน พี่เมฆกับซันไปเมืองนอก ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกเหงาจนต้องคว้าหา...” ดวงเนตรเรียวสีอัลมอนด์ไล่มองมีนาตั้งแต่หัวจรดเท้า “สัวต์เลี้ยงมาไว้เป็นเพื่อนเล่น แต่ในเมื่อตอนนี้ครอบครัวของเขากลับมาแล้ว ผมไม่คิดว่าคุณมีความจำเป็นอีกแล้วล่ะ มีนา”


“คุณธาร ผมขอร้อง ให้ผมเข้าไปหาคุณเชษฐ์เถอนะครับ” มีนาอ้อนวอน วาจาดูถูกเหยียดหยามที่อีกฝ่ายกล่าวมานั้นเทียบไม่
ได้เลยกับความรู้สึกร้อนรนใจของมีนาในตอนนี้



เขาอยากเห็นว่าธีรเชษฐ์ฟื้นแล้วจริงๆด้วยตาของตัวเอง



“โชคดีนะ ที่เขาตาสว่างง่ายกว่าที่ผมคิด” ธารธารายื่นซองเอกสารปึกหนึ่งให้กับมีนาที่มองมันอย่างระแวงระวัง “นี่เป็นตั๋วเครื่องบินขากลับ เงินค่ารักษาพยาบาลแม่ของคุณทั้งหมดกับเงินอีกสิบล้าน แล้วก็ห้องคอนโที่พ่อพาคุณไปกกไว้ เขายกให้คุณทั้งหมด”



“ผม…ไม่เข้าใจ”



ธารธารากลอกตาอย่างเหนื่อยใจกับท่าทีสับสนของร่างเล็ก



“จดหมายเลิกจ้าง แบบนี้เข้าใจง่ายกว่ามั้ย”



“คุณธาร ผมขอคุยกับคุณเชษฐ์เถอนะครับ...” ไม่มีทางที่ธีรเชษฐ์จะทำเรื่องแบบนั้นกับเขา มีนารู้



“มีอะไรต้องคุยอีก นี่คุณฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือยังไงกัน” ร่างโปร่งเลิกคิ้ว เมื่อเห็นว่ามีนาไม่มีทีท่าจะรับซองไปจากมือของเขา คนอายุมากกว่าจึงโยนมันลงบนพื้นแทบเท้าของร่างเล็กอย่างไม่ใส่ใจ “อ้อ เขาฝากมาบอกด้วยว่า ‘จะไปไหนก็ไป’ น่ะนะ”


“ขอผมเจอคุณเชษฐ์เถอะครับ ผมไหว้ล่ะ ขอผมได้เห็นเขาสักนิดก็ยังดี นะครับคุณธาร”



มีนาทรุดกายลงบนพื้น พนมมือก้มกราบแทบเท้าของผู้ที่ขวางกั้นตนกับประตูห้องไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ในตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการได้เห็นหน้าคนรัก ต่อให้ต้องร้องไห้กอดเข่าอ้อนวอนให้ธารธารายอมให้เขาเข้าไป มีนาก็จะทำมันอย่างไม่ลังเล
สีหน้าหยิ่มยิ่มย่อของลูกชายคนรองแห่งบ้านทรัพย์ดำรงผงะไปเล็กน้อยอย่างไม่คาดคิดก่อนจะเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ปั้นสีหน้าเรียบเฉยติดไม่สบอารมณ์แล้วเปิดประตูห้องออกเพื่อตัดรำคาญ



“ถ้าพูดยากนักก็ลองถามเขาเอาเองแล้วกัน”



มีนาเงยหน้าขึ้นจากพื้น ภาพของร่างสูงที่เคยนอนนิ่งบนเตียงบัดนี้นั่งพิงพนักเตียงมองมาที่เขาด้วยแววตาที่มีนาไม่เข้าใจ
ก้อนเนื้อในอกพองโตอย่างมีความสุขที่ได้เห็นอีกฝ่ายฟื้นคืนสติครบถ้วนอย่างที่ว่า ก่อนจะบีบตัวแน่นจนแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีอย่างไม่คิดจะสนทนา



“ถ้าให้เขาเลือกระหว่างสายเลือดกับ ‘คนนอก’ อย่างคุณ คงคิดไม่ยากนะว่าพ่อเลือกที่จะอยู่กับใครในเวลาแบบนี้” ธารธาราทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ “อ้อ แล้วก็อย่ากลับมาอีกล่ะ ถ้าไม่อยากโดนโยนออกไป ผมแจ้งชื่อคุณเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว”
ประตูห้องพักผู้ป่วยปิดลงพร้อมหยาดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมาบนพื้นทางเดิน มีนาปาดน้ำลวกๆแล้วรวบรวมเอกสารที่กีะจัดกระจายบนพื้นขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก...



…ก่อนจะสะดุดกับเศษกระดาษพับครึ่งเล็กๆแผ่นนึงที่ร่วงหล่นลงมา








“ชอบจังเลยนะครับ ให้ผมเป็นตัวร้ายเนี่ย”




ธารธารากล่าวขึ้นเมื่อประตูห้องพักปิดลง แม้จะรู้สึกผิดอยู่เต็มอกที่ต้องยืมมือลูกชายทำเรื่องสกปรก แต่ธีรเชษฐ์รู้ว่าลำพังตัวเองคงไม่มีทางบอกเลิกมีนาได้ลง และเด็กดื้อรั้นของเขาคงไม่ยอมไปจากข้างกายในเวลาเช่นนี้ แค่ที่ได้เห็นได้ฟังเมื่อครู่ก็บีบเค้นจิตใจมากพออยู่แล้ว



“เหมาะ...กับเธอดี...” ร่างสูงกล่าวเสียงกระท่อนกระแท่น



“ก็ต้องเหมาะสิครับ” ร่างโปร่งระบายยิิ้มน้อยๆคล้ายรับว่าเมื่อครู่เป็นคำชมจากบิดา “ก็ผมเป็นลูกชายคุณนี่”


“ขอบใจ...”


“ยินดีเสมอครับ” ลูกชายคนรองนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของเขา “ผมชักจะคิดแล้วสิ ว่าเรื่องที่ชอบผลักไสสิ่งดีๆไปจากชีวิตเนี่ยมันถ่ายทอดทางพันธุกรรมในตระกูลเรารึเปล่า”


“….” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่ได้ยินคำว่า ‘สิ่งดีๆ’    หลุดออกมาจากปากของธารธาราเมื่อพูดถึงมีนา



“แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ” นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าของผู้เป็นบิดาอย่างเบามือ “ของบางอย่าง เราไม่มีวันรู้คุณค่าขงมันถ้าไม่เสียมันไป จริงมั้ยครับ?”



จริงอยู่ที่ในหลายๆครั้งมันเป็นเช่นนั้นสำหรับธีรเชษฐ์


แต่เรื่องของมีนา ต่อไปไม่ต้องเสียอีกฝ่ายไป เขาก็รู้อยู่เต็มอก ว่าเด็กคนนั้นมีค่ากับเขามากแค่ไหน



‘คุณมีค่าพอที่จะถูกรัก....’



ไม่หรอกครับเกศ....




ผมน่ะ ไม่คู่ควรกับการถูกเด็กคนนั้นรักสักนิด

----------

จะจบแล้วฮืออออออ
เป็นนิยายที่เข็นมาตลอดสามปี จิร้องไห้ ใกล้แล้ววววว ลูกๆของหมูน้อยใกล้จะมีความสุขแล้ว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ลุ้งงงงงใจร้ายจัง ทำร้ายจิตใจตัวเองไม่พอ ทำร้ายใจเด็กน้อยเข้าไปอีก.  :katai1:

แต่ก็ดีใจกับลุงนะ ที่ลูกคนรองธารธารากลับมาหาพ่อแล้ว

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เบื่อบทพระเอกคนดีชอบคิดแทนตลอดกลัวคนรักลำบากกลัวทำลายอนาคตเค้า ตัดสินเอง คิดเองเก่ง แต่ดันไม่ถามคนที่ตัวเองรักว่าเค้าต้องการอะไร :mew5:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คิดเองเออเก่ง
แล้วทำไมถึงไม่คิดซักนิดบ้างว่ามีนาต้องมาเจออะไรแบบนี้ซ้ำอีกรอบเหรอ
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อะไรกัน รังแกน้องมีนอีกแล้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
บีบคั้นหัวในมาก

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ถ้าไม่อยากให้มีนาหยุดเรียน ก็แค่จ้างคนดูแลก็ได้นี่
ไม่เห็นต้องไล่มีนาไปอย่างนี้เลย แล้วคิดว่ามีนาจะรับทุกอย่างที่ให้ไปเหรอ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ม่ายยยยยยยยยยสงสารหนูมีนง่าาาา ทำไมตาลุงทำแบบนี้ห้ะะะะะะะะะะะะะะะ  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อะไร ๆ ก็มาลงกับหนูมีนทุกทีซิน่า สู้ ๆ หนูมีนคนเก่ง  :3125:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บ้าบอมากค่ะ ไม่อยากให้น้องลำบาก แต่ความเสียใจที่เกิด
ไม่ช่วยให้หายลำบากได้เหมือนกันนะคะ ธีรเชษฐ์

มีนเสียใจที่คนรักเจ็บตัว อยากดูแล อยู่เคียงข้าง
แต่ตอนนี้กลับถูกไล่ จะให้น้องดีใจได้ยังไง

แต่ว่าๆๆๆๆ มีจดหมายสอดไส้ อยากรู้ว่า ข้างในว่ายังไงบ้างนะ

ธารมาไวมากเลยค่ะ ดูเข้าใจกันมาบ้าง

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ดราม่าท้างงงงงงงเรื่อง
อิคุณเชษฐ์ก็คือคิดเองเออเองเก่ง สั่งเก่ง เจ้ากี้เจ้าการ ถามเด็กมันก่อนนะ ปัดโธ่ว้อยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ลุง ทำไมอยู่ดีๆก็อยากจะเป็นคนดีและคิดเองเก่งจริงๆ หนูมีนร้องไห้แล้ว กระดาษแผ่นนั้นธารต้องเขียนบอกอะไรแน่เลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดราม่าหนักมาก!

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
คุณเชษฐ์ใจร้ายมาก อยากดึงมีนามาโอ๋ ฮรืออ อ่านแล้วน้ำตาไหลลล 555 อยากจับคุณเชษฐ์มาตี !!

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
บทที่ 51 สัญญาฉบับสุดท้าย



“มึงนี่นะ ไม่เห็นต้องลำบากมาเองเลย กูให้เมฆมารับก็ได้”


ธีรเชษฐ์กล่าวกับเพื่อนสนิทที่บินมารับเขากลับจากโรงพยาบาลมาที่คฤหาสน์ทรัพย์ดำรงครั้งแรกในรอบสามเดือนที่ผ่านมา
แม้ว่าหลังจากที่อาการของเขาคงที่แล้วแพทย์จะแนะนำให้ร่างสูงกลับมารักษาต่อใกล้บ้านของตน แต่ชายหนุ่มที่ไม่ต้องการสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยในตอนนั้นตัดสินใจที่จะเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเดิม


“ลูกมึงตัวติดแฟนเป็นตังเม คิดว่าเขาจะอยากมารับมึงรึไง” คเชนทร์กลอกตาอย่างเหนื่อยใจ “คนอื่นเขาก็มีภาระของเขา มีกูเนี่ยที่มีมึงเป็นภาระจนถึงทุกวันนี้”



“โธ่ ขาดกูไปซักคนมึงจะดูแลใคร” คนเจ็บแสร้งถูไถหน้ากับมือของเพื่อนสนิทที่ชักออกด้วยสีหน้ารังเกียจอย่างไม่ปิดบัง



“คนไข้กูเต็มวอร์ด“



ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่คนที่บินไปกลับทุกสุดสัปดาห์เพื่อดูแลธีรเชษฐ์ที่ทำกายภาพบำบัดยังคงไม่คิดที่จะปล่อยเพื่อนสนิทให้อยู่คนเดียวในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่กว่าสภาพร่างกายอยู่มากเช่นนี้



“แล้ว…เขาเป็นยังไงบ้าง…”



และนี่คือคำถามที่คเชนทร์ได้ยินทุกครั้งที่เห็นหน้าเพื่อนสนิทของตน ถึงแม้อาจารย์แพทย์และนักศึกษาปีหนึ่งของคณะจะไม่ได้พบเจอกันบ่อยนัก คเชนทร์ยังคงถือเป็นหน้าที่ของตัวเองที่จะมองหาข่าวสารของคนรักตัวเล็กของธีรเชษฐ์มาเล่าให้เพื่อนสนิทฟังทุกครั้งที่สามารถทำได้



เพราะดูเหมือนนั่นจะเป็นสิ่งเดียวที่สร้างรอยยิ้มให้กับธีรเชษฐ์ได้ในตอนนี้



หลังจากที่ธีรเชษฐ์ตัดความสัมพันธ์กับคนรัก ลูกชายคนเล็กที่ไม่ค่อยบันดาลโทสะกับใครง่ายๆถึงกับหอบผ้าหอบผ่อนพาแฟนหนีไปอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัยชั่วคราว ไม่ยอมติดต่อกลับมานอกจากเรื่องงานในบริษัท คเชนทร์จึงเป็นความหวังเดียวของธีรเชษฐ์ที่จะได้รับรู้เรื่องราวของมีนา



“ก็…ดูมีความสุขขึ้นนะ” แม้ว่าในระยะหลังมานี้ เขาจะไม่อยากเล่าเรื่องของมีนาให้อีกฝ่ายฟังมากนักก็ตาม



“ยังคุยกับคนเดิมอยู่เหรอ”



คเชนทร์พยักหน้าอย่างลังเล ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาเป็นมีนาไปไหนมาไหนกับนักศึกษาที่ดูเหมือนจะเรียนอยู่ปีสูงกว่าที่เขาไม่รู้จักอยู่เสมอ ส่วนใหญ่ทั้งสองใช้เวลาอยู่ในห้องสมุด แต่มีบางครั้งที่คเชนทร์เห็นมีนากับเด็กคนนั้นอยู่ในร้านกาแฟของโรงพยาบาลที่เขามักจะไปซื้อเป็นประจำ สีหน้าของลูกศิษย์ของเขาดูร่าเริงสดใสอย่างที่คเชนทร์ไม่ได้เห็นมานาน
ส่วนธีรเชษฐ์นั้น หลังจากที่ตัดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของตนออกไป ชายหนุ่มใช้ชีวิตเหมือนกับตัวเองเป็นหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกนึกคิด สิ่งเดียวที่ทำให้ร่างสูงฮึดสู้เพื่อกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้มากที่สุดคือความหวาดกลัวที่จะเป็นภาระให้กับบุตรชายทั้งสาม แขนขวาในตอนนี้กลับมาใช้งานได้บ้างแล้วแม้ว่าเรื่องการเดินนั้นจะยังคงยากลำบากอยู่มากก็ตาม แต่โดยรวมแล้วการกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมคว้า




ถึงอย่างนั้น บาดแผลภายในใจที่ตนเป็นผู้กรีดเปิดกับมือกลับไม่มีทีท่าว่าจะหายไปเองในเร็ววัน กลับกัน ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ ธีรเชษฐ์ยิ่งรู้สึกว่าอากาศที่หายใจราวกับเข็มนับร้อยพันแท่งที่แทงลึกทุกขั้วอณูปอด




คิดถึง…คิดถึงจนแค่หายใจก็เจ็บไปหมด



“…ดีแล้วล่ะ” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ “ถ้าเขาเจอคนที่ทำให้เขามีความสุขได้ กูก็ดีใจ”




“มึงนี่นะ” คเชนทร์ขยี้ผมเพื่อนสนิทอย่างหมั่นไส้ “เรื่องโง่ๆนี่ขยันทำนัก”



“แล้วมึงอ่ะ” มือข้างที่ยังใช้การได้ยกขึ้นจัดทรงผมของตนให้เข้าที่เข้าทาง “ไม่คิดจะให้โอกาสคุณนิโคไลอธิบายบ้างเหรอ?”




หลังจากวันที่คเชนทร์ไล่ตะเพิดมาเฟียหนุ่มที่ธีรเชษฐ์เพิ่งรู้ว่าคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อเพื่อนสนิทของตนอยู่ตลอดออกไปจากชีวิต นิโคไลก็ไม่เคยย่างเท้ากลับมาที่นี่อีก ส่วนทางด้านคะชนทร์นั้น แม้หลังรู้ความจริงจากปากธีรเชษฐ์ว่าเรื่องทั้งหมด



ไม่ได้เกิดจากฝีมือของนิโคไล อีกฝ่ายยังคงไม่เคยคิดที่จะลดกำแพงรอบกายของตัวเองลง



“มีอะไรจะต้องอธิบาย” คเชนทร์กล่าวเสียงเรียบ “เขามีโลกของเขา กูมีโลกของกู เรื่องระหว่างเขากับกูจะเรียกว่าคนรู้จักยังไม่ได้ด้วยซ้ำ“




แม้จะนึกสงสารมาเฟียหนุ่มอายุน้อยกว่า แต่ธีรเชษฐ์ยังคงอดรู้สึกโล่งใจเล็กๆไม่ได้ที่อย่างน้อยเพื่อนสนิทก็ไม่ต้องเข้าไปพัวพันกับคนอันตรายแบบนั้น



“งั้นมึงก็คงต้องอยู่แบกภาระอย่างกูอยู่นี้นั่นแหละ” คนเจ็บเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ตบแต่งย้ายทะเบียนบ้าน
มาอยู่กับกูเลยมั้ยล่ะ ยังไงลูกกูก็เห็นมึงเป็นแม่คนที่สองอยู่แล้ว…โอ๊ย!”



“ตื่นรึยัง อีกซักป้าบมั้ย” มะเหงกในมือเตรียมพร้อมประเคนให้ทุกเมื่อ ธีรเชษฐ์ลูบศีรษะป้อยๆด้วยสีหน้าเหมือนลูกสุนัขโดนเตะที่มีแต่จะออดอ้อนบาทาของคนมองให้สั่นระริก



“ใจร้าย…แบบนี้ไงมึงถึงไม่มีผัว…”



“ถามกูหน่อยว่ากูอยากมีมั้ย”



“ถ้ายังติดใจของนอกกูมีเพื่อนแนะนำเยอะแยะ…” เสียงพูดคุยหยอกล้อของคนทั้งสองเงียบหายไปเมื่อมาถึงประตูบ้านบ้านยักษ์ที่มีร่างร่างหนึ่งยืนรออยู่พร้อมรอยยิ้มกว้าง ธีรเชษฐ์นิ่งค้าง จ้องมองมีนาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นราวกับว่าสถานที่แห่งนี้คือบ้านของตนด้วยสีหน้าตื่นตะลึง



เห็นได้ชัดว่าในสามเดือนที่ผ่านมา มีนาดูแลใส่ใจตัวเองมากแค่ไหน เด็กหนุ่มไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่มาตั้งแต่ต้น แต่มีนาในตอนนี้กลับดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล หากจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ คงต้องบอกว่าเด็กหนุ่มเหมือนคนที่กำลังมีความรัก
ซึ่งความรักที่ว่านั้นไม่ได้เป็นของเขา



ใครก็ตามที่บอกว่าการได้เห็นคนที่รักมัความสุขทำให้เรามีความสุข คนที่ปล่อยความรักของตัวเองให้หลุดมือไปนั้นบอกได้เพียงว่าโกหกทั้งเพ



มันเจ็บ เจ็บจนไม่อยากมีตัวตนอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ



“มีน…ทำไม…”




“กลับมาแล้วเหรอครับคุณเชษฐ์” เจ้าของชื่อทักทายเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น รีบปรี่มาหาคนเจ็บและคเชนทร์ที่นิ่งค้างไปอย่างสับสนแล้วหยิบเอาสัมภาระบางส่วนมาถือไว้เอง “เดินทางมาเหนื่อยๆ เข้าไปพักข้างในก่อนนะครับ ป้าแต้วทำกับข้าวรอเต็มโต๊ะตั้งแต่เช้าเลย เดี๋ยวผมจัดสำรับยกขึ้นไปให้ที่ห้อง…”



“เดี๋ยวมีน คุยกันก่อน” มือใหญ่คว้าข้อมือบางไว้ก่อนที่มีนาจะได้หมุนตัวกลับไป สัมผัสเพียงน้อยนิดจากร่างที่คนึงหานั้นส่งกระแสบางอย่างแล่นปราดไปทั่วร่างของชายหนุ่มที่ในตอนนี้แทบไม่เหลือสภาพของประธานบริษัทหนุ่มที่น่าเกรงขาม ดวงเนตรคมเว้าวอน




“ครับ?” ทว่ามีนาเพียงแต่หันมายิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร ราวกับว่าครั้งสุดท้ายที่พบกัน ร่างเล็กไม่ได้ถูกผลักไสไล่ส่งอย่างเลือดเย็น




“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่…”




“ก็…คุณเชษฐ์บอกเองนี่ครับ ว่าจะไปไหนก็ไป” มีนาตอบด้วยน้ำเสียงใสซื่อ “ก็ผมอยากอยู่กับคุณเชษฐ์ ผมเลยมาที่นี่ไงครับ”



“…”



ธีรเชษฐ์เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า ‘จนด้วยคำพูด’ อย่างถ่องแท้ในวันนี้ ร่างสูงรู้สึกเหมือนก้อนหนักที่ถ่วงอยู่ในอกก่อนหน้าถูกยกออกไปบางส่วนจนสามารถกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ที่ด้านหลังของเขา คเชนทร์ที่มักจะวางตัวเป็นผู้ใหญ่สุขุมเยือกเย็นอยู่เสมอหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “เจ้าธาร…พูดอะไรกับเธอใช่มั้ย?”



มีนาเพียงแต่ยิ้ม ตอบคำถามด้วยความเงียบนั้นได้เป็นอย่างดี



มือเรียวหยิบเศษกระดาษที่พับครึ่งอย่างลวกๆขึ้นมาเปิด ดวงตาที่พร่าเลือนชั่วขณะทำให้มีนาอ่านข้อความที่ถูกเขียนด้วยลายมือบรรจงกึ่งหวัดของลูกชายคนกลางของบ้านไม่ออกในทีแรก ทว่าหลังจากที่เนื้อหาใจความในกระดาษแผ่นเล็กนั้นถูกจารึกเข้าสู่สมอง ร่างเล็กที่ก่อนหน้านี้ดึงดันจะกลับเข้าไปในห้องพักคนไข้จึงได้ลุกขึ้นจากพื้น กอดเอกสารปึกใหญ่ไว้ในอ้อมกอดแล้วยอมเดินจากไปแต่โดยดี แม้ดวงตากลมโตยังคงแดงก่ำรอยยิ้มหวานล้ำกลับแรากฎบนดวงหน้าหวาน



‘คนหัวดื้ออย่างผู้ชายคนนั้น ต่อให้คุณดึงดันจะอยู่ข้างเขาตอนนี้ เขาก็ไม่ฟังหรอกนะครับ  ทางนี้พวกผมจะดูแลให้เอง หลังจากเขาดีขึ้นจนกลับบ้านได้ ถ้าคุณยังอยากได้เขากลับไป ผมจะไม่ห้าม
ปล. ขอบคุณนะครับ ที่ยอมอยู่ข้างๆเขา’








“เซอร์ไพร์ส!!!”



ปุ้ง!!



ทันทีที่เขาถูกเข็นเข้ามาในบ้าน เสียงร้องตะโกนของคนทั้งหลายที่แอบซ่อนอยู่ข้างในก็ดังขึ้นเป็นเสียงเดียวกันพร้อมกลับพลุกระดาษหลายอันที่ถูกดึงจนเศษกระดาษหลากสีกระจายไปทั่วบ้าน



ทั้งลูกชายทั้งสามและคนรักของพวกเขา ทั้งวีรภัทรที่วันนี้ไม่ได้พ่วงเอาคนรักอายุน้อยกว่ามาด้วย และเหล่าคนรับใช้ทั้งหลายที่รอการกลับมาจากนายใหญ่ของบ้านอย่างใจจดใจจ่อมาตลอดสามเดือน



ธีรเชษฐ์รู้สึกถึงวงแขนเรียวเล็กที่โอบรอบคอของเขา ก่อนที่ริมฝีปากนิ่มจะประทับลงมาข้างแก้มสากซูบตอบ เสียงดังจุ๊บเบาๆที่ข้างหูนั้นละลายหัวใจของคนในรถเข็นจนเหลวเป็นน้ำ กลิ่นน้ำอบหอมละมุนที่คิดถึงลอยแตะจมูก



“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ”




“พ่อครับๆ มีของโปรดพ่อเยอะแยะเลย” แน่นอนว่าคนแรกที่วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหาเขาเหมือนลูกสุนัขตัวโตคือเจ้าลูกชายคนเล็กที่ธีรเชษฐ์เข้าใจว่าตนทำให้อีกฝ่ายโกรธจนไม่อย่ากพบหน้าไปแล้ว ดูท่าว่าเจ้าลูกชายคนรองเขาจะดึงคนเข้ามาในแผนการมากกว่าที่เขาคิด



“หยุดเลยไอ้ตัวแสบ” ธีรเชษฐ์แจกมะเหงกเจ้าเด็กยักษ์ที่มากอดมาเอาหน้าถูไถให้เขาขนพองสยองเกล้า บ้านทรัพย์ดำรงไม่ใช่บ้านที่สกินชิพเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คนปากแข็งยังคงยกยิ้มอย่างเอ็นดูให้เจ้าลูกคนเล็ก “ร่วมมือกับเจ้าธารแกล้งพ่อแบบนี้ หักค่าขนมดีมั้ย”




“โธ่ ก็พ่อทำมี้ร้องไห้ก่อนนี่ครับ” ทินกรรีบแก้ตัว “ผมก็ต้องเข้าข้างมี้สิ”



“ไม่ใช่ว่าเขาเอาซันไปเก็บกันเพราะกลัวปากโป้งหรอกเหรอครับ หืม?” คเชนทร์ลูบศีรษะหลานชายอย่างเอ็นดู เจ้าเด็กที่ไม่เคยเก็บความลับได้ในชีวิตทำหน้ามุ่ยอมลมจนแก้มพอง



“อาครามใจร้าย”



“ใจร้ายจนผัวทิ้งแล้วมึงอ่ะ โอ๊ย!” มะเหงกอีกลูกจากคนเป็นหมอแลนดิ้งลงบนศีรษะของคนเจ็บอย่างสวยงาม




“เลิกเล่นกันได้แล้ว พ่อกลับมาเหนื่อยๆรีบกินรีบแยกย้าย” พี่ชายคนโตของบ้านดุ ทินกรที่ยังกลัวพี่ชายเป็นนิสัยรีบพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่ายแล้วรับช่วงต่อจากคเชนทร์เข็นรถเข็นของบิดาไปที่โต๊ะอาหาร



ข้างกายของบุตรชายคนโตแห่งตระกูลทรัพย์ดำรงคือเลขาหนุ่มร่างโปร่งที่ในตอนนี้อยู่ในชุดลำลอง มธุวันพยักหน้าให้ธีรเชษฐ์ ก่อนจะหันกลับไปสนใจการจัดจานอาหารตรงหน้าของตน



“เมฆช่วยครับ”




ส่วนเจ้าลูกชายของเขาก็ตามเมียต้อยๆเป็นหมาน้อยตามเจ้าของไม่ต่างจากน้องชายคนเล็กของตัวเองมากนัก



“คุณเชษฐ์ ผมเข้าไปช่วยในครัวก่อนนะครับ”



“ฉันไปด้วย!”



ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าได้พันธุกรรมมาจากใคร



พูดถึงเรื่องของเมฆาและมธุวัน ธีรเชษฐ์ยังคงไม่อยากเชื่อว่าเลขาของเขาจะเป็นน้องชายต่างมารดาของนิโคไล และที่น่า
เหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้น คือคำสารภาพของลูกชายคนโตที่ว่าพวกเขาเคยคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และนิสัยของมธุวันในวันวานนั้นอ่อนหวานละมุนใจไม่ต่างจากเด็กน้อยตาใสข้างกายของเขา ธีรเชษฐ์เหลือบมองเสี้ยวหน้าของเลขาคนเก่งที่แม้จะยังคงสาละวนอยู่กับอีเมลล์งานในมือถือแต่ไม่ลืมตักอาหารบนโต๊ะใส่จานให้เมฆา ดช่นเดียวกับลูกชายของเขาที่ตักอาหารบริการคนรักอย่างขยันขันแข็ง




“คุณเชษฐ์ อันนี้อร่อยนะครับ” มีนาตักซุปเยื่อไผ่ร้อนๆมาเป่าแล้วนำมาจ่อที่ริมฝีปากของเขา ร่างสูงอ้าปากรับอย่างว่าง่าย ไม่อะไรจะเข้าปากก็เห็นดีเห็นงามกับคนที่บอกว่าอร่อยไปเสียหมด ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มชอบใจของคนรัก ธีรเชษฐ์ยิ่งไม่นึกอยากขัดใจอะไรให้รอยยิ้มนั้นจางหายไป



ทั้งที่งานเลี้ยงฉลองต้อนรับกลับบ้านควรจะมีธีรเชษฐ์เป็นตัวเอกของงาน แต่เมื่อความสนใจของตัวเอกของงานมีไว้ให้สำหรับเด็กหนุ่มร่างเล็กข้างกายเพียงผู้เดียว บรรดาแขกเหรื่อในงานจึงตัดสินใจจับกลุ่มพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อยและปล่อยให้นกรักทั้งสองได้ใช้เวลาด้วยกันตามลำพัง



มีนาเข็นรถเข็นของคนรักออกมาที่สวนหน้าบ้าน แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานพอสมควรแล้ว เหลือเพียงแสงจันทร์และแสงจากเสาไฟที่กระจายตัวอยู่ตามมุมสวนเป็นตัวนำทางพวกเขาไปยังศาลารับลม เด็กหนุ่มนั่งลงบนม้านั่งข้างรถเข็นของคนรัก เอื้อมคว้ามือใหญ่ข้างที่ใช้การได้ดีมาบีบนวด



“…ขอโทษนะ”



คำขอโทษไม่อาจหักล้างกับทุกสิ่งที่เขาทำกับคนตรงหน้า แต่ธีรเชษฐ์ยังคงอยากให้มีนาได้ยินคำขอโทษจากปากของเขา
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา วิธีเดียวที่ธีรเชษฐ์รู้จักในการปกป้องคนที่รัก คือการผลักไสคนคนนั้นให้ออกไปคนเลวๆอย่างเขา หากไม่มีเขาอยู่สักคน ก็จะไม่มีใครมาทำแใฟ้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด



ตรรกะโง่ๆของคนงี่เง่าอย่างเขา ธีรเชษฐ์รู้ตัวเองดี



“เรื่องอะไรเหรอครับ?” มีนาถามทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากมือของร่างสูง



 ธีรเชษฐ์นึกขัดใจร่างกายในตอนนี้ของตนที่ไม่อาจดึงอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอดได้ถนัด เขาอยากกอดมีนาไว้แนบอก ฟังเสียงหัวใจดวงน้อยที่เต้นสอดประสานกับจังหวะของใจของเขา การกระทำที่เคยเป็นเรื่องง่ายดายจนแทบไม่ต้องคิดในตอนนี้กลับยากเย็นเสียจนนึกรำคาญใจ



“ทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทำให้เธอเสียใจ ฉันขอโทษ…”



เด็กหนุ่มขยับยิ้ม ยกมือใหญ่ขึ้นแนบกับใบหน้าของตน ถูไถคลอเคลียแก้มนิ่มกับมือของเขาอย่างสุขใจ ท่าทีที่ทำให้คนเคลื่อนไหวไม่สะดวกต้องสงบจิตข่มใจเสียยกใหญ่



“ถ้าผมบอกว่าผมไม่เคยโกรธ…คุณเชษฐ์จะเชื่อมั้ยครับ?”



ร่างสูงพยักหน้าอย่างอ่อนใจ แน่นอนว่าเขาต้องเชื่อ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเคยเห็นมีนาตอนโกรธจัดจริงๆด้วยซ้ำตั้งแต่รู้จักอีกฝ่ายมา



“ผมไม่โกรธ…แต่ผมเสียใจ” มีนาพามือใหญ่ลากลงมาจากดวงหน้าเรียว ผ่านลำคอระหงส์มาหยุดอยู่ที่แผ่นอกแบนราบของเจ้าตัว มือหยาบรับรู้ได้ถึงก้อนเนื้อในอกที่เต้นตุบปะทะฝ่ามือของเขาจังหวะสม่ำเสมอ “ทุกครั้งที่คุณเชษฐ์ทำให้ผมเสียใจ มันเจ็บตรงนี้”



“…”



“แต่ว่านะครับ เวลาที่คุณเชษฐ์ใจดีกับผม เวลาที่คุณเชษฐ์บอกรักผม ตรงนี้มันกลับอุ่นวาบข้างในอย่างที่ผมไม่เคยรู้สึก…” รอยยิ้มอ่อนโยนฉายชัดในดวงตาของมีนา “และผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่มีอิทธิพลกับหัวใจของผมมากกว่าคุณเชษฐ์แล้วครับ”



“รักนะ…” จากนี้และตลอดไป สิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์อยากให้คนตรงหน้ารู้สึก คือความอุ่นวาบในอกจากคำบอกรักของเขาอย่างที่อีกฝ่ายได้กล่าวเมื่อครู่ “รักเธอ…รักที่สุด”



“ผมก็รักคุณเชษฐ์ครับ…รักมาก…” มีนายกมือของร่างสูงขึ้นจรดริมฝีปากนิ่มอย่างรักใคร่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนรักด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมรู้ตัวดี ว่าด้วยนิสัยของผมต่อให้เกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมจะยังรักคุณอยู่ตรงนี้ ถึงมันจะทำให้ผมเจ็บแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันจะไปจากคุณด้วยตัวเอง”



“มีน…”



“แต่ตอนนี้ ผมมีเพื่อน…มีคนที่รอจะพาผมไปจากคุณในวันที่คุณทำร้ายผม ต่อให้ผมไม่ได้คิดอยากจะไปเลยก็ตาม…” มีนากล่าวด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ ราวกับว่าความคิดที่ตนจะถูกพรากไปจากคนตรงหน้าสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างเล็กพอๆกับที่เขารู้สึก “ผมไม่อยากไปจากคุณ… เพราะฉะนั้น อย่าทำให้ผมเสียใจอีก เข้าใจมั้ยครับ”



“ถ้าฉันยังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอก็จะอยู่งั้นเหรอ?”



ร่างสูงก้มมองสังขารของตัวเอง มีนาทรุดกายลงตรงหน้าของเขา ศีรษะกลมเอนซบลงบนตักแข็งอย่างออดอ้อน สีหน้าเปี่ยมสุขของคนรักบีบหัวใจของธีรเชษฐ์จนแทบหายใจไม่ออก



“อยู่สิครับ จะเป็นแบบไหน ขอให้เป็นคุณเชษฐ์ก็พอแล้วสำหรับผม”



“ถ้าเกิดฉันไม่หาย เธอจะต้องดูแลคนพิการคนนึงไปตลอดชีวิตนะมีนา เธอเข้าใจมั้ยว่ามันลำบากแค่ไหน” ธีรเชษฐ์นึกอยากจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเสียตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยกลัวว่าสิ่งที่พรั่งพรูออกมาจากปากจะทำให้มีนาเปลี่ยนใจ เด็กหนุ่มเกยคางกับตักของเขา ช้อนตาขึ้นมองคนรักอายุมากกว่าด้วยแววตาขบขัน



“คุณเชษฐ์ลืมแล้วเหรอครับว่าผมดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงกับยายที่แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาตั้งแต่เด็ก เรื่องแบบนี้ ผมชินแล้วครับ” มีนาขยับยิ้มจาง “ขอแค่คนที่ผมรักอยู่กับผม จะลำบากแค่ไหน ผมก็มีความสุขครับ”



“ถ้าฉันทำ...อะไรๆไม่ได้อีกตลอดชีวิต เธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจเหรอ”



“อะไรๆ...” คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงหน้าขาวจะแดงวาบขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่ิิอ “ถะ...ถามอะไรแบบนั้นครับ?!”



“ฉันจริงจังนะ”



ความสัมพันธ์ทางร่างกายแม้ไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิตคู่ ธีรเชษฐ์รู้ดีกว่าใครว่าเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุด เขาอยากให้มีนาเข้าใจว่าถึงแม้ความเป็นไปได้จะเล็กน้อยเพียงใด เขายังคงมีสิทธิ์ที่จะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกตลอดชีวิต



มือเรียวเล็กที่ยังคงไม่ปล่อยบีบมือของเขาเบาๆแต่หนักแน่น เช่นเดียวกับคำตอบที่มีนามีให้กับเขา



“ไม่เปลี่ยนครับ” เด็กหนุ่มมีสีหน้าเก้อเขิน “ผมไม่รู้ว่าคุณเชษฐ์เคยสังเกตมั้ย แต่จริงๆแล้ว...ผมไม่ได้รู้สึก...แบบนั้นบ่อยๆหรอกนะครับ”



“….”




“ผมน่ะ...นอกจากกับคุณเชษฐ์ ผมไม่เคย...มีความต้องการมาก่อนด้วยซ้ำ” มีนาอธิบายด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ “ต่อให้คุณเชษฐ์ไม่ดีขึ้นไปตลอดชีวิต ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่ผมอยากให้แตะต้องอย่างที่คุณเชษฐ์ทำแล้วล่ะครับ”



“….” ให้ตายเถอะ อย่าว่าแต่ดีขึ้นเลย เขาอยากจะหายๆมันตอนนี้เลยด้วยซ้ำ!



“อีกอย่าง...” เด็กหนุ่มถอนหายใจ “ต่อให้ไม่ดีขึ้น ผมก็ไม่คิดว่าคนอย่างคุณเชษฐ์จะปล่อยให้ผมอยู่อย่างสงบทุกคืนหรอกครับ”



“ได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว ฉันชักจะไม่อยากหายดีซะแล้วสิ จะได้หาเรื่องแกล้งเธอได้ทุกคืน” ร่างสูงเอื้อมมือหมายดึงคนตรงหน้าเข้ามาในอ้อมกอดอย่างลืมตัว ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มีนาที่เห็นดังนั้นจึงเป็นฝ่ายลุกขึ้นเพื่อสวมกอดคนรักไว้แน่นด้วยตัวเอง เสียงหวานกระซิบแผ่วข้างหู



“แต่ถ้าคุณเชษฐ์หายดี...จะแกล้งผมทุกคืน ผมก็ยอมครับ”



“สัญญา?”



มีนาพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ



“ถ้าฉันหายดีได้ในหนึ่งปีนี้ตามที่หมอบอก เธอจะให้รางวัลอะไรฉัน?” ร่างสูงถามเจือรอยยิ้มจาง




“มีแค่ตัวกับหัวใจ แต่คุณเชษฐ์ก็ได้ไปหมดแล้ว...” ดวงหน้าน่ารักซุกลงกับไหล่หนาแก้เขิน “ให้ของเดิมอีกรอบได้มั้ยครับ”




“เอาสิ ถ้าเป็นเธอ จะให้กี่รอบฉันก็รับทั้งนั้น” จมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มใสอย่างรักใคร่ ไรหนวดบางครูดตามผิวเนียนใส เรียกเสียงหัวเราะคิกจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี



“สัญญาขาดทุนแบบนี้ คุณเชษฐ์เป็นนักธุรกิจจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย”




“นักธุรกิจสิ” เสียงทุ้มข้างหูของมีนาหัวเราะต่ำในลำคอ ก่อนจะกดจูบลงบนขมับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข “สุดท้าย...ฉันก็ได้สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่เหรอ?”




มีนาหัวเราะออกมาในที่สุด วงแขนบอบบางกระชับโอบรอบคอของคนรักแน่นขึ้น ธีรเชษฐ์รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ซึมผ่านเนื้อผ้าบนไหล่ของตน และถึงแม้ธีรเชษฐ์จะยังคงไม่สามารถเลิกทำให้อีกฝ่ายเสียน้ำตาได้ เขายังคงมั่นใจว่าน้ำตาของมีนาใน
ตอนนี้คือหยาดน้ำตาแห่งความสุข เช่นเดียวกับที่เอ่อล้นขอบตาของเขาในตอนนี้



ขอแค่มีเด็กคนนี้อยู่เคียงข้าง  นับจากนี้จนลมหายใจสุดท้าย ไม่ว่าสิ่งที่ต้องแลกมานั้นคืออะไร ธีรเชษฐ์ก็รู้สึกว่าดีลที่ได้มานั้นมันคุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม

--------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มีความสุขสักทีนะน้องมีน

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มีความสุขมากๆนะ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้องมีนนนนนน น้องอดทนมาก น่ารักมากเลย คุณเชษฐ์โชคดีจริงๆ
ขออีกน้าาา ยังไม่จบใช่มั้ยคะะะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะจบแล้วใช่ไหม?

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ธารธารา  มีความสุขได้ซักทีนะน้องมีน   :katai2-1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
นู๋มีนคนดี น่ารัก จนหมั่นไส้คุณเชษฐ์ที่ได้ของแรร์ ไปจริงๆ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องมีนของแม่ มีความสุขสักทีนะลูกก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โดนลูกซ้อนแผนจนได้555

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ยอมรับเถอะคุณเชษฐ์ ว่าหลงเด็ก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด