ชั่งใจ ครั้งที่ 6: ออโรร่าแกรนด์โอเพนนิ่ง[1]
จากการหัดขับมอเตอร์ไซค์แบบไม่ได้ตั้งใจครั้งแรก และการฟินกับเป้าน้องธารที่แปะแหมะลงมาตรงบั้นท้ายผมพอดี ถามว่าคืนนั้นเป็นยังไง...
ยังจะถามอีก! เทกระจาดไม่เป็นท่าน่ะสิ ไม่อยากจะพูดว่าผมโดนไอ้เด็กเวรนั่นบ่นเรื่องทำมันรถคว่ำ แถมทำกระจกมองข้างรถมันหักไม่เลิก ดีนะที่ทั้งผมทั้งมันไม่เป็นอะไร ไม่งั้นล่ะก็ มันคงจะไม่บ่นผมอย่างเดียวแน่
ส่วนผมล่ะตอบโต้มันมั้ย... พูดได้อยู่ประโยคเดียว ‘พี่เหนือขอโทษครับๆ’ นี่ถ้ากราบมันเป็นเบญจางคประดิษฐ์ได้ คงจะก้มลงไปกราบแล้ว!
หึย...ทีมึงแกล้งรถกูทุกวัน กูยังไม่พูด ทำกระจกมองข้างรถมึงหักหน่อยเดียว บ่นอย่างกับกูทำพังทั้งคัน ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน!
อันที่จริงไม่ควรจะถามหา มันไม่มีตั้งแต่ที่ผมรู้จักกับไอ้เด็กบ้านี่แล้ว ยิ่งพอมาวันใหม่ ความอยุติธรรมก็ยิ่งตอกย้ำผมมากขึ้น เห็นชัดเจนเลยก็ตอนที่เจอหน้าไอ้ธารที่วิทยาลัย แล้วมันเดินมาบอกว่า...
“เย็นนี้เอาสุกี้แห้งหมูนะ’จารย์ ไปซื้อร้านหัวมุมตรงร้านน้ำปั่น ร้านอื่นไม่เอา ไม่อร่อย”
ป้ามึง! กูเป็นอาจารย์นะ เปลี่ยนสถานะจากอาจารย์ไปเป็นเบ๊มึงตั้งแต่เมื่อไหร่!
แล้วซื้อมั้ย? ...ซื้อ
ออกจากวิทยาลัยได้ปุ๊บ ก็รีบบึ่งไปซื้อให้มันเลย ตอนเดินกลับหอนี่ก็มองถุงสุกี้แห้งในมือแล้วถามตัวเองในใจอย่างงุนงง
นะ...นี่กูทำอะไรอยู่!
ยีผมตัวเองแรงๆ จะไปยอมมันทำไมหนักหนาวะ!
จะว่ามันหล่อ น่ารัก แลดูกรุบกรอบก็ไม่เพียงพอที่จะเป็นเหตุผลเท่าไหร่ถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำกับผมแล้ว เอาจริงๆ นะ ถ้ามันเป็นเด็กนิสัยน่าเอ็นดูสักหน่อย ผมคงจะจับตัวเองมัดโบว์แล้วถวายให้มันเลย แต่นี่...โอ้โห นิสัยนรกมาก พูดจาแต่ละทีก็สำรอกคำดีๆ ออกมาทั้งนั้น หาความเคารพในตัวคนอาวุโสกว่าไม่เจอ แล้วยังมีหน้ามาใช้ให้ทำโน่นทำนี่ให้มันอีก
เอาเถอะ ผมผิดเองแหละที่ไปเริ่มส่งข้าวส่งน้ำให้มันอย่างนั้น ทนๆ ไปแล้วกัน อีกเดือนกว่าๆ ก็ฝึกเสร็จละ
ผมเอาของกินที่มันสั่งไปแขวนหน้าห้องมัน เคาะประตูเรียกอย่างเคย ร้องบอกมันด้วย เดี๋ยวมันไม่ได้ยิน หิวท้องกิ่วแล้วมาโวยวายหน้าห้องผมอีก
“พี่เหนือเอาสุกี้มาส่งแล้วนะครับน้องธาร”
“เออ แขวนไว้นั่นแหละ เดี๋ยวออกไปเอา”
แม่ง พี่เหนือเดลิเวอร์รี ค่าอาหารที่สั่งก็ไม่ได้ ค่าบริการส่งก็ไม่มี ทิปไม่ต้องพูดถึง แค่จะโผล่หน้าออกมาขอบคุณสักคำก็ยังไม่มีเหมือนกัน
ผมยืนมองประตูห้องธารอยู่ครู่หนึ่ง พ่นลมหายใจออกมาเต็มแรงแล้วกลับเข้าไปในห้องตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ก็ทิ้งตัวนอนอย่างเหนื่อยล้า
วันนี้การเรียนการสอนเด็กช่างในแผนกช่างไฟปีสามก็ยังเป็นไปด้วยความหนักหน่วงเช่นเคย ช่วงนี้ได้ไปสอนแทนอาจารย์คนอื่นที่แผนกอื่นและชั้นปีอื่นด้วย บอกเลยว่านรกยิ่งกว่าแผนกของธารซะอีก พวกนั้นก็พอกัน เอะอะก็ด่าพ่อล่อแม่ ท้าต่อยกันข้ามหัวอาจารย์หน้าตาเฉย
เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรมกับไอ้พวกนี้ไปซะทีนะ...
คิดไปคิดมาก็ผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงเคาะประตูห้องรัวจนสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นมานั่งได้ก็เหลือบไปมองนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์ เห็นตัวเลขบอกเวลาห้าทุ่ม ผมก็ย่นคิ้ว
ปังๆๆๆ!
เคาะรัวแบบนี้นี่ ต้องเป็นไอ้เด็กธารใจแน่ๆ เป็นคนอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากมันเนี่ย
ผมทิ้งขาลงจากเตียง รอให้ความงัวเงียหลุดออกไปจากร่างกายครู่หนึ่ง แต่ดูเหมือนคนที่รออยู่หลังประตูจะรอไม่ได้ เห็นผมไม่มาเปิดซะที ก็เคาะรัวยิ่งกว่าเดิมจนผมต้องส่งเสียงดังกลับไป
“รู้แล้วโว้ย! ...ครับ” เกือบเปลี่ยนหางเสียงไม่ทัน
ตามมาด้วยเสียงของธารที่ดังแว่วมาให้ได้ยิน
“เปิดเร็วๆ ยุงเยอะ!”
อยากจะปล่อยให้แม่งโดนกัดจนเป็นไข้เลือดออกตายไปเลย!
“ครับๆ ไปแล้วๆ” แต่สุดท้ายผมก็พูดแค่เนี้ย! โอ๊ย เกลียดตัวเอง!
“เร็วๆ!” มันเร่งมาอีกแล้ว
ผมบุ้ยปากขมุบขมิบใส่มันหลังประตูเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วเปิดออก ทว่าพอประตูเปิดปุ๊บ และเห็นเต็มสองตาว่าธารที่ยืนอยู่ข้างนอกสวมกางเกงขาสั้นผ้าร่มตัวเดียวที่สั้นอย่างกับกางเกงบ็อกเซอร์ และช่วงบนเปลือยโชว์กล้ามหน้าท้องกับผิวขาวผ่อง บนไหล่มีผ้าเช็ดตัวสีน้ำตาลเข้มพาดอยู่ ผมก็เบิกตาโตแล้วปิดประตูดังปัง กลับมาตั้งสติทันใด
มะ...เมื่อกี้ของจริงหรือภาพลวงตาวะ หัวนมชมพูกระแทกตามาก
หากแต่พอเปิดประตูออกไปมองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และยังเห็นเด็กนั่นยืนเปลือยอกตามเดิม ผมก็เริ่มมั่นใจขึ้นมาว่าคนตรงหน้าคือของจริง ชมพูจริง และไม่ใช่ภาพลวงตา
“ถ้าปิดประตูใส่หน้าอีก จะต่อยให้หน้าแหกเลย’จารย์” เด็กนั่นว่าเสียงแข็งอย่างรำคาญตามมาทันที ตอกย้ำให้ผมมั่นใจขึ้นไปอีก
คำพูดคำจาอย่างนี้ ตัวจริงเสียงจริงแน่นอน อยากพิสูจน์ด้วยการจับหัวนมจัง คนอะไร หัวนมชมพู้ชมพู
บอกเลยว่าละสายตาจากตรงนั้นไม่ได้เลย มองจนเกือบจะลืมมองหน้า นี่ถ้าไม่เกรงใจ จะมองต่ำลงไปด้วย หูย...กระเป๋าหน้าตุ๊งตุง
ดะ...เดี๋ยวนะไอ้เหนือ เก็บความหื่นกามลงไปก่อน ประเด็นก็คือ ไอ้เด็กนี่มันโผล่มายืนเกือบจะแก้ผ้าอยู่ที่หน้าห้องผมทำไมต่างหาก
“มีอะไรเหรอครับน้องธารถึงได้มาเคาะห้องพี่เหนือดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”
หืม เก็บอารมณ์หื่นกามชั่ววูบเมื่อครู่ได้ดีมาก ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกและสุภาพสุดๆ
แต่เก็บได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ธารก็ทำให้ผมแทบจะวิ่งพุ่งไปฉุดมันเข้ามาในห้องภายในเสี้ยววินาที
“น้ำที่ห้องไม่ไหล จะมาขออาบน้ำที่ห้องหน่อย”
โอ้! งั้นจะรออะไรล่ะครับน้องธาร เข้ามาเลย! เข้ามาเดี๋ยวนี้!
เอ๊ะ ไม่สิ สติๆ ต้องถามมันก่อนว่าห้องน้ำเป็นอะไร น้ำถึงไม่ไหล
“ห้องน้ำน้องธารเป็น...”
“ถอย”
ถามยังไม่ทันจะจบประโยคเลย มันก็เดินเข้ามาในห้องผมหน้าตาเฉยแล้ว
เหวอกินคืออะไร ดูหน้าผมได้ในตอนนี้ ได้สติอีกทีก็ตอนมันทักขึ้นเนี่ยแหละ
“แล้วจะเปิดประตูค้างไว้ทำไม เดี๋ยวยุงก็เข้าหรอก”
“คะ...ครับๆ”
เอ... นี่ห้องกูหรือห้องมันวะ?
แต่อย่าไปเสียเวลาถามมันเลย แค่มันเดินเข้ามาในห้องผมได้ มันก็ตรงไปหน้าห้องน้ำ ปากก็ถามไปเรื่อยทั้งที่ผมซึ่งเป็นเจ้าของห้องยังยืนอยู่บริเวณประตู
“ในห้องน้ำมีสบู่กับแชมพูครบใช่มั้ย ถ้าไม่มีจะได้กลับไปเอา”
“มี...มีครับ น้องธารใช้ตามสบายเลยนะ” แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะไปยอมมันทำซากอะไรอีก
แต่ครู่เดียวก็ต้องเข้าใจว่ายอมมันทำไมทันทีที่จู่ๆ มันก็ทำผ้าเช็ดตัวที่พาดบ่าอยู่ตกพื้น แล้วก้มลงไปเก็บ กางเกงขาสั้นที่สั้นอยู่แล้วก็ยิ่งถลกสูงขึ้นไปอีก ตอนนี้ไม่ใช่แค่ขาวทั้งตัวละ ตะ...ต้นขาก็ข๊าวขาว
ยะ...ยอมเลย ยอมตั้งแต่หน้าประตู
มือไม้อ่อนระทวย ความกระชุ่มกระชวยของชายแก่ประเดประดังเข้ามา น้ำลงน้ำลายนี่ไม่ต้องถาม ท่วมห้องจนเขื่อนก็เอาไม่อยู่แล้ว
“ขอรบกวนสักสิบนาที จะรีบอาบ” ธารหันมามองผมกะทันหัน ทำเอาผมรีบเก็บสีหน้าหื่นกามแทบไม่ทัน
“ตะ...ตามสบายเลยครับ มะ...ไม่ต้องรีบนะ”
ธารแค่พยักหน้าให้ แล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำ
ส่วนผม... บอกเลยว่าเวลาสิบนาทีที่มันใช้อาบน้ำแล้วผมต้องนั่งรอมันอยู่ข้างนอกโดยที่ในหัวมีแต่หัวนมชมพูกับต้นขาเด็กหนุ่มแวบไปแวบมาในหัว ทำเอาผมนั่งไม่ติดกับที่ เดินวนไปวนมาในห้องอย่างกับหนูติดจั่น
คือปกติก็เคยยมีคู่นอนเป็นคนอายุน้อยกว่านะ แต่ไม่เคยรู้สึกกระชุ่มกระชวย ตื่นเต้นกระสับกระส่ายเท่านี้ ทั้งที่กับธารใจ มันเข้ามาห้องผมก็ไม่ได้มีจุดประสงค์เรื่องอย่างว่าสักหน่อย แค่มาขอยืมห้องน้ำใช้ แต่บอกเลยว่า... ถ้าได้ก็ดี
สิบนาทีแห่งความทรมานสิ้นสุดลงเมื่อธารออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับหยาดน้ำพร่างพรายบนร่างกายเป็นแห่งๆ ผมหยุดยืนนิ่งหลังจากจัดเตียง จัดโน่นจัดนี่ในห้องสงบสติอารมณ์ หันไปมองเมื่ออีกฝ่ายทักมา
“ขอบคุณ”
แค่นั้น... แต่ถือเป็นคำขอบคุณแรกที่ได้ยินจากปากของธารใจ
“ไม่เป็นไรครับ” ผมก็ยิ้มหวานตอบให้
แล้วไงรู้มั้ย...ไอ้เด็กธารไม่โต้ตอบอะไรมาสักนิด เดินผ่านหน้าผมแล้วออกจากห้องไปเฉย ทิ้งให้ผมมองตามอย่างงงๆ
อะ...อ้าว แค่เนี้ย!? แล้วเผื่อได้เผื่อโดนของกูล่ะ?
ความจริงไม่ควรหวัง แต่หวังไปไกลเรียบร้อย
แม่งเอ๊ย แล้วเมื่อกี้กูจะจัดเตียงทำหอกอะไร!
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีที่ธารออกไป ซุกหน้าลงกับหมอนแล้วส่งเสียงร้องโวยวายอย่างขัดใจระคนละอายใจที่คิดกับเด็กบ้านั่นเกินกว่าอาจารย์กับนักศึกษา ถึงจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบก็เถอะ แต่ก็นะ ตั้งแต่มาฝึกงานก็อดอยากปากแห้งมาเป็นอาทิตย์แล้วนี่หว่า ภาพใบหน้าคู่ขาเก่าๆ ที่พอจะจำหน้าค่าตาได้นี่ลอยมาเป็นฉากๆ เลย
ทว่าขัดใจได้ครู่เดียว ผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นจากหมอนเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีก พอไปเปิดก็เห็นเป็นธารที่อยู่ในสภาพเดิม ใบหน้าก็ทมึงถึงเหมือนเดิม แต่รอบนี้ดูจะบอกบุญไม่รับกว่าเดิมสักร้อยเท่า ก่อนที่ริมฝีปากคู่สวยจะขยับขึ้นโดยที่ผมไม่ต้องถาม
“เข้าห้องไม่ได้”
“หือ?” ผมเลิกคิ้วใส่ ก่อนที่ธารจะอธิบายออกมาอีก
“เมื่อกี้ตอนออกจากห้องมาอาบน้ำ ล็อคห้องไปแล้วลืมเอากุญแจออกมา”
ด่าว่าโง่ได้มั้ย อยากด่าเหลือเกิน มึงบอกกู แล้วกูจะไปช่วยมึงแงะประตูห้องได้หรือไง ประตูมันเป็นแบบเปิดเข้า ถ้าไม่มีกุญแจสำรองก็ต้องงัดลูกบิดออกอย่างเดียวเว้ย!
แน่นอนว่าห้องผมไม่มีเครื่องมือสำหรับงัดลูกบิดแน่ ผมเลยเสนอทางเลือกอื่นให้มันไป
“แล้วคนดูแลหอ...”
“ถ้าจะให้ไปขอกุญแจสำรองจากคนดูแลหอ ไม่มี หอนี่เลิกจ้างคนดูแลมาพักนึงแล้ว มีแต่เจ้าของที่เข้ามาดูเป็นพักๆ” ตอบออกมาทั้งที่ผมยังถามไม่ทันจะจบอีกด้วย
จริงๆ ก็ไม่น่าถามแหละ มันกินเหล้าดังข้ามห้องขนาดนี้ ก็ไม่น่าถามถึงคนดูแลหอแล้ว
“งั้นจะขอมาปีนข้ามระเบียงที่ห้องพี่เหนือใช่มั้ย งั้นเข้ามาสิ” พอผมพูดอย่างนั้น ธารก็ชักสีหน้าใส่เลย
“ปีนอย่างนั้น ถ้าตกไปตายขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ เป็นอาจารย์ซะเปล่า โง่จริง”
แล้วที่มึงออกมาขออาบน้ำห้องคนอื่น แต่ล็อคประตูแล้วดันไม่เอากุญแจออกมานี่ไม่เรียกว่าโง่กว่าเหรอวะ!
กำมือแน่นมาก มุมปากที่ยกยิ้มนี่กระตุกยิกๆ เลย
“แล้วน้องธารจะให้พี่เหนือทำไงครับ”
“ช่วยไม่ได้ ขอนอนค้างด้วยคืนนึงแล้วกัน” ธารว่าอย่างเบื่อหน่าย
แต่เดี๋ยวนะ... ไอ้คำว่า ‘ช่วยไม่ได้’ นี่ ต้องเป็นกูที่พูดเว้ย ไม่ใช่มึงพูด!
ไม่ทันจะได้ตอบรับหรืออะไร ธารก็เข้ามาในห้องเหมือนเดิมอีกครั้ง ก่อนถือวิสาสะไปทรุดตัวนั่งยังปลายเตียงในสภาพที่ผมมองแล้วก็...แง่ม เมื่อกี้ที่หงุดหงิดก็ช่างมันเถอะนะ เผื่อได้เผื่อโดนของเหนือกลับมาอีกแล้ว
ลั้นลาขึ้นมาทันที ขณะที่สายตาก็มองไปยังธารซึ่งคว้าโทรศัพท์ผมบนหัวเตียงขึ้นมา
“ขอรหัสปลดล็อคหน่อยสิ’จารย์ จะโทรบอกไอ้ไม้ให้มันเอาชุดนักศึกษามาให้ยืม”
ผมบอกรหัสไป ธารก็โทรหาน้องมายด์ไปตามที่บอกกับผมในตอนแรก พอวางสาย มันก็ทำหน้าเหนื่อยใจพร้อมกับวางมือลงบนเตียง เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย เผยให้เห็นร่างกายกำยำของเด็กหนุ่มวัยรุ่นเต็มสองตา
ขะ...ขบเผาะ
น้ำลายจะไหลขึ้นมาอีกระลอก ทำไมหุ่นเด็กวัยสิบปลายๆ นี่มันน่าฟัดอย่างนี้นะ ถ้าเจอแบบนี้ในผับ บอกเลยว่าจะให้รุกหรือรับ ผมนี่ยอมหมด
“ห้อง’จารย์มีไรกินมั้ย” จู่ๆ มันก็พูดทำลายความหื่นของผมขึ้นมา ปลายคางพยักไปยังตู้เย็นที่อยู่เยื้องหน้าห้องน้ำ ผมเลยได้สติในตอนนี้
“มะ...มีเยอะแยะเลย น้องธารไปดูเอาเลยครับ”
พูดแค่นั้น ธารก็ลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็น พอเห็นขนมนมเนยที่ผมซื้อมายัดทิ้งไว้ ความสนใจของเด็กนั่นก็ถูกเบนไปทันที ก่อนมันจะก้มตัวลงเลือกขนม ขณะที่ขากางเกงสั้นๆ นั่นก็เลิกขึ้นให้เห็นต้นขาอ่อนอีกครั้ง คราวนี้เกือบจะเห็นแก้มก้นอีกต่างหาก
นะ...หน้ามืด วิงเวียน คล้ายจะเป็นลมเพราะหอบหื่น
มองแล้วก็ต้องรีบหาโต๊ะยึดตัวเองไว้ไม่ให้ล้ม แต่สายตานี่มองขาอ่อนเด็กไม่หยุดเลย
หูย... ถ้าได้ถ้าโดนขึ้นมา จะเลียตั้งแต่ลูกบิดประตูห้องเข้าไปเลย
อะ...เอ๊ะ ไอ้เหนือ มึงเป็นอาจารย์นะ ถึงจะเป็นอาจารย์ฝึกงานก็เถอะ แต่คิดแบบนี้กับลูกศิษย์ตัวเองมันผิดศีลธรรมนะเว้ย แถมไอ้เด็กนี่ก็ชอบแกล้งมึงด้วย อย่าไปพิศวาสมันสิวะ!
สติสัมปชัญญะฝั่งดีทำงานกะทันหัน ผมเลยรีบละสายตาจากขาขาวโบ๊ะไปทางอื่น ใจก็เพิ่งกสินภาวนาไปด้วย
ใจร่มๆ ไอ้เหนือ สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เห็นล่ำๆ น่าฟัดแบบนี้ ตายไปก็กระดูกผุพังไปตามกาลเวลานะเว้ย ปลง...ปลงเดี๋ยวนี้...
ใดใดในโลกล้วน ...อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง ...เที่ยงแท้
ท่องไว้ๆ...
อุตส่าห์สะกดจิตตัวเองให้เข้าทางธรรมแล้วแท้ๆ แต่เสียงของธารก็แว่วเข้ามาในหูให้ผมได้หันไปมองอีก
“มีแต่ของหวานๆ วะ”
จังหวะนี้แหละที่มันนั่งลงยอง กางเกงสั้นๆ ของมันนอกจากก้มแล้วเห็นขาอ่อนแล้ว พอนั่งปุ๊บ ขอบกางเกงก็เกิดเปลี้ยขึ้นมากะทันหันอีกต่างหาก ไหลลงมาเกาะต่ำกว่าบั้นท้ายเล็กน้อย จากขาที่ว่าขาวแล้ว มาเจอขาวๆ เนียนๆ ทางด้านหลังนี่ ผมถึงกับเบิกตาโตค้าง ไอ้ที่ปลงเมื่อกี้หายวับไปกับตา ก่อนที่บั้นท้ายขาวๆ นั่นจะหายกลับเข้าไปในกางเกงอีกครั้งเมื่อธารดึงขอบกางเกงขึ้น
ส่วนผม... ตบะแตกไปแล้ว
นะ...น้องธารทำใดใดล้วน ...น่ารักจัง
เห็นแล้วพี่เหนือฟินปังๆ ...ง่อว์ น้ำลายไหล
อยากให้หลุดตูดมากกว่านี้อีกครั้ง ...แต่กลัว โดนถีบ
แค่นี้ก็หื่นตาค้าง หืดหาดๆ ...บอกเลย เหนือ-จะ-ไม่-ทน
ไม่ทนก็ต้องทน แต่ใจอยากจะจับมันกดลงบนเตียงให้รู้แล้วรู้รอดเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่ามันผิดศีลธรรมกับกลัวโดนมันกระทืบก็คงทำไปแล้ว มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่ธารคว้ากระป๋องน้ำอัดลมหันมาทางผม
“นี่กินได้มั้ย”
“ดะ...ได้”
“แล้วเนี่ย” ถือถุงขนมกรอบแกรบประกอบ
“ดะ...ได้ครับ อยากได้อะไร พี่เหนือเปย์ให้หมดเลย”
กิเลสเข้าครอบงำโดยสมบูรณ์ พูดอะไรออกไปนี่ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ เปย์เด็กแลกความฟินนี่วิถีเกย์แก่ชัดๆ
ธารก็ทำหน้างงๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร คว้าถุงขนมกับน้ำมานั่งกินบนเตียงเงียบๆ ส่วนผมก็นั่งมองมันจากโต๊ะที่อยู่ปลายเตียงเงียบๆ เหมือนกัน แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อมันโพล่งขึ้นมา
“มองไรอยู่ได้’จารย์ อยากกินก็กิน” ว่าแล้วก็เอามือปัดๆ ถุงขนมที่วางอยู่ข้างตัวมาทางผมเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าให้ผมไปกิน
ผมส่ายหน้า ยิ้มแห้งๆ ให้ มันเลยพูดขึ้นมาอีก
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นว่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อคืนให้ ยืมกินก่อน”
เปลี่ยนจากซื้อขนมคืนมาเป็นเอาตัวเข้าแลกได้มั้ย... อยากจะพูดอย่างนี้จริงๆ แต่กลั๊วกลัวโดนมันเหยียบหน้า ผมเลยเปลี่ยนเรื่องแทน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ น้องธารอยากกินอะไรก็กินเลยนะ ถือซะว่าเป็นห้องตัวเอง” ประโยคนี้พูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรอกุศลเลยนะ สาบานได้
ธารไม่ได้สนใจ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง
“แล้ว’จารย์จะให้ผมนอนไหน ที่นอนปิกนิกมีมั้ย”
อูย... เป็นครั้งแรกที่ธารเรียกแทนตัวเองว่า ‘ผม’ กับผมด้วยแหละ ไม่เคยได้ยิน รู้สึกตื่นเต้น