บทที่ 12: นมจืดกับแว่นตานำทาง
“เซเว่นสวัสดีค่า” เสียงของพนักงานกะเช้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาทักทายลูกค้าของร้าน
ร่างเล็กที่มาทุกวันเดินตรงดิ่งเข้าไปที่โซนตู้แช่ผลิตภัณฑ์นมอย่างรวดเร็ว คว้านมกล่องยี่ห้อประจำของตัวเองมาถือไว้ แต่สายตาหลังกรอบแว่นอันโตก็ยังคงกวาดมองไปทั่วตู้แช่
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หยิบอะไรติดมือมานอกจากนมจืดยี่ห้อที่ชอบ เดินเอามาจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานยิ้มให้ลูกค้าตัวเล็ก
“วันนี้มีแครกเกอร์รสใหม่ด้วยนะคะ รับไหมคะ?”
คนตัวเล็กมองห่อขนมปังกรอบสีเหลืองที่มีรูปชีสยืดๆอยู่ เลยคิดว่าจะซื้อเก็บเอาไว้กินเป็นของว่างได้เลยตัดสินใจซื้อมาด้วยสองห่อ
เดินดูดนมฝืดๆออกมาจากเซเว่นเพื่อเข้าเรียนตามปกติ แต่เดินไปได้ครึ่งทางก็เหมือนเจอทางตันเพราะว่าขณะที่นมจืดกำลังก้มหน้าก้มตาดูดนมตาที่มองต่ำๆบนถนนก็เห็นรองเท้าคอนเวิร์สคู่ใหญ่ยาวเป็นเรือใบสีเหลืองอมน้ำตาล
นมจืดมั่นใจว่ามันอาจจะเป็นสีขาวมาก่อนแต่ว่าเจ้าของอาจจะไม่ได้ใช้ไฮเตอร์ขัดรองเท้าก็เป็นได้ อืม...ใช่ๆ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน
“เดินก้มหน้าไม่ดูทาง ตกถนนตายห่าไปทำไงวะไอ้เด๋อเอ๊ยยยย” เสียงทุ้มคุ้นหูจนคนตัวเล็กต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง
ตู้วหู้ว เราว่าแล้ว…
พระเอกนี่เอง...มิน่า...รองเท้าถึงได้สีเดียวกับเสื้อเลยอะ...เพราะพระเอกเคยบอกว่าที่บ้านไม่ใช้ไฮเตอร์แล้วเจ้าตัวก็บอกว่าไม่รู้จักไฮเตอร์อีกอะ
ตอนนั้นนมจืดไม่เชื่อมากๆว่าจะมีคนไม่รู้จักไฮเตอร์ซักผ้าขาวแต่ว่าตอนนี้เขารู้แล้วล่ะว่า…
...พระเอกไม่รู้จักไฮเตอร์จริงด้วย…
นมจืดยิ้มตาหยีแก้มพอง มองร่างสูงใหญ่หนวดเคราครึ้มเขียวเหมือนไม่ได้โกนมาหลายวัน จากที่คิดว่าพระเอกคงลืมโกนแต่พอเจอแบบนี้บ่อยๆเลยเดาว่ามันคงเป็นสไตล์ของเจ้าตัวเขาล่ะมั้ง
เหมือนพวกพี่แอ๊ดคาราบาวเจ้าของเพลงบางระจันอะไรแบบนี้ไง นมจืดเคยได้ยินพวกปราบกับพ่ายพูดถึงแต่ว่าไม่เคยฟังหรอกนะ
จริงๆพระเอกอาจจะมีพี่แอ๊ดเป็นแรงบันดาลใจมั้ง
“พระเอกนี่มีพี่แอ๊ดเป็นแรงบันดาลใจจริงๆเนอะ” พูดไปก็ยิ้มไป แต่คนมองนี่สิ หัวคิ้วแทบจะชนกันอยู่แล้ว
“พูดไรของมึงเนี่ย” เดี๋ยวพี่แอ๊ด เดี๋ยวแรงบันดาลใจ
อย่าบอกนะว่ามันเข้าใจแรงบันดาลใจของคนเดินดินแบบเขาแล้ว???
“อื้อๆ ก็เห็นชอบไว้หนวดเครา เราเลยเดาว่าพระเอกต้องมีพี่แอ๊ดคาราบาวเป็นไอดอลแน่เลย” ดีนะ มีนักร้องหรือดาราเป็นไอดอล
โอ้โห!
โอ้ แม่ง ฉิบ (หาย)!!
มันเอาสมองส่วนไหนมาไตร่ตรองและกรั่นกรองความคิดวะ หาาาาา แม่งไม่ได้ตกตะกอนความคิดมาเลยสักนิดเดียว
“โว๊ะ...พูดจาติงต๊องอีกแล้วนะมึงน่ะ” แม่งไอ้มินเนี่ยน ทำกูแดกแฟ้บแต่เช้าเลยวุ้ย “กูไม่ได้ชอบพี่แอ๊ดเว้ยยยยย”
“อ้าว...แล้วชอบใครอะ” มันใช่เวลามาถามไหมว่ากูติ่งนักร้องคนไหนไอ้เตี้ยยยยย
“บางกอกสี่สิบแปดมั้งไอ้ห่า” เอ้า เสือกตอบมันไปทำไมวะกู
คิ้วเล็กๆขมวดเหมือนไม่รู้จัก กูเดาว่ามันไม่รู้จักจริงๆด้วย
“ใครอ่ะ?” บางกอกสี่สิบแปด?
นั่นไง แม่งสมองมันแดกแฟ้บมาจริงๆด้วยเว้ย
ช่วงนี้กำลังมาแรงมากกับบางกอกสี่สิบแปด เห็นไอ้สมชาติแม่งเปิดทั้งวน เปิดวนไปจ่ะ วนจนพวกกูจะเสี่ยงดวงเสี่ยงทายไปด้วยกัน
...แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ!!...
แถมมันบอกจะไปงานจับมือกัปตันเฌอ กูกำลังงงอยู่ว่าคล้ายๆกัปตันอเมริกาหรือเปล่าวะ?
“มึงไม่รู้จักเหรอวะ? เขาร้องกันทั่วบ้านทั่วเมือง”
“เพลงไรง่ะ”
“คุกกี้เสี่ยงดวงไงเว้ยยยย มึงนี่มันหลังเขาจริงๆ” ส่ายหน้าระอาใจให้
นมจืดทำหน้าครุ่นคิด เขาคิดว่าพระเอกอาจจะมีการเข้าใจผิดนิดหน่อย
“พระเอกหมายถึง BNK 48 หรือเปล่าอะ?”
คราวนี้คนที่ขมวดคิ้วกลับเป็นร่างสูงใหญ่แทน
“อะไรวะไอ้ บีๆ เคๆ โฟร์ตี้เอ็กไรของมึง?”
“อ้าวก็ BNK 48 ที่ร้องเพลงคุกกี้เสี่ยงทายไง fortune cookie อะ”
มันเหมือนฟอร์จูนแถวรัชดาหรือเปล่าวะ?
“อะไรวะ ไม่รู้จักเว้ยยยย กูรู้จักแต่บางกอกสี่สิบแปดที่ร้องคุกกี้เสี่ยงดวง วงที่มึงรู้จักนี่ก็อปกันมาเปล่าวะ”
นมจืดทำหน้างงงวย
...สรุปนี่วง BNK 48 กับบางกอกสี่สิบแปดคือคนละวงเหรอ?...
นมจืดงงมากถึงมากที่สุดจริงๆ
หลังจากยืนคุยกันเรื่องวงบางกอกสี่สิบแปดกับ BNK 48 อยู่พักหนึ่งจนนมกล่องนั่นหมดนั่นแหละพระเอกถึงได้เดินแยกเขี้ยวไปเข้าเซเว่นขณะที่นมจืดยิ้มตาหยีโบกมือลาพระเอกเพื่อไปเข้าคลาสเรียน
พอวิ่งเตาะแตะไปคณะตัวเองก็เจอเพื่อนสนิทสองคนยืนหน้ายักษ์อยู่หน้าตึก
“ทำไมมาช้า?”
ป้อมปราบเดินอาดๆเข้ามา นมจืดเลยต้องถอยหลบไปด้านหลัง
“ฮื้อ ปราบไม่ดุสิ” จะหลบไปอยู่หลังศัตรูพ่ายแต่เหมือนเพื่อนอีกคนก็จะไม่ให้ความร่วมมือเช่นกันเพราะหน้าศัตรูพ่ายก็ดุเป็นยักษ์ไม่แพ้กัน “พ่าย~”
“ไปซื้อแค่นมกล่องเดียวแต่ไปนานเหมือนไปรีดจากฟาร์มเลยนะมึง”
นมจืดรู้สึกเหมือนผู้ปกครองดุจนร่างลดลงเหลือสองนิ้ว หน้าขาวถูกปิดด้วยแว่นตากรอบใหญ่ทำหน้าตาน่าสงสาร
“ก…ก็เจอพระเอกพอดี…”
นั่นไง! เอาอีกแล้ว! ตามเป็นผีเปรตเชียวนะมึง
“ทำไมเจอมันประจำเลยวะ?!” องครักษ์พิทักษ์นมจืดคาดว่าไอ้ตัวโกงหน้าผู้ร้ายอย่างมันจะต้องแอบสะกดรอยตามเพื่อนเขาหรือเปล่า
แม่ง!
“บังเอิญน่ะบังเอิญ” นมจืดรีบจิ้มแขนเพื่อนสนิท “ทำไมต้องโมโหล่ะ พระเอกเป็นคนดีออก”
คนดีบ้านกับผีน่ะสิไอ้เตี้ยเอ๊ยยยยย ป้อมปราบอยากกรีดร้องให้ก้องโลก ศัตรูพ่ายได้แต่ลูบหน้าด้วยความเหนื่อยใจ
“เฮ้อ…ไปเถอะมึง ขึ้นเรียน” ศัตรูพ่ายไกล่เกลี่ย เนื่องจากใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว
พอเห็นเพื่อนร่างสูงของเพื่อนทั้งสองเดินขึ้นตึกเรียนนมจืดเลยรีบเอากล่องนมไปทิ้งที่ถังขยะแล้ววิ่งตามเพื่อน ระหว่างทางเลยส่งเสียงเจื้อยแจ้วถามไปด้วย
“นี่ๆ ปราบพ่าย รู้จักBNK 48 มั้ย?” คนถูกถามทั้งสองคนพยักหน้า ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนคลับแต่ด้วยกระแสที่วนเวียนอยู่โซเชี่ยลเน็กเวิร์กก็ทำให้พวกเขาเห็นและรับรู้ข้อมูลของวงไอดอลที่กำลังมาแรงได้ในขณะนี้ “แล้วรู้จักบางกอกสี่สิบแปดมั้ยอะ?”
คิ้วของคนฟังขมวดมุ่น “อะไรวะ?” บางกอกสี่สิบแปด? “มันก็วงเดียวกันไม่ใช่หรือไงวะ?” ก็ BNK ย่อมาจาก Bangkokนี่
นมจืดทำปากขมุบขมิบ “ก็พระเอกอ่ะบอกว่า BNK 48 ก็อปวงบางกอกสี่สิบแปดมาอะ เราก็ไม่ค่อยรู้พวกนี้เท่าไรเลยไม่แน่ใจอะ” ทำหน้าจริงจังจนเพื่อนยังอดสงสารไม่ได้
แม่งเอยยยยย!
ไอ้นมมันไปเข้าใจอีท่าไหนมาวะเนี่ย! มันต้องตีลังกาเอาสมองโหม่งพื้นทำความเข้าใจแน่เลยว่ะ
ป้อมปราบกับศัตรูพ่ายมองหน้ากันอย่างนัดหมายมาก่อนแล้วถอนใจเฮือกใหญ่โดยมิได้นัดหมายล่วงหน้า
ไม่รู้ว่าไอ้เตี้ยนมมันมึนหรือว่าไอ้โจรนั่นมันโง่กันแน่ อันนี้ไม่ใช่ศีลเสมอกันนะ
...เขาเรียกโง่เสมอกัน…
++++++++++++++++++++++++++ 50% ++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่า
วันนี้เอาน้องนมตอนใหม่มาลงให้นะคะ
อ่านตอนนี้แล้วชอบยังไงคอมเม้นมาคุยกันได้นะคะ หรือจะหวีดได้ที่ #รักรสนมจืด ในทวิตเตอร์เลยค่า
วันนี้เราไปงานเจนวาย มีใครไปบ้างมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ แอบได้ยินมีคนมาตามหารักตามสั่งด้วย ดีใจจจจ อิๆๆ
ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่า