ตอนพิเศษ: คืนข้ามปีกับพระเอกรูปหล่อพ่อรวยฟรวยใหญ่ไข่ตุง
...จิงกะเบล จิงกะเบล จิงกะเบลลา…
...ซานต้าคลอส อิส คัมมิ่ง ทู ทาวน์…
“เฮ้ย...มันหมดคริสต์มาสแล้วเว้ย ลุงซานต้าขี่กวางนอนไปแล้วมึง ไม่มาหงมาหาแล้ว”
...สวัสดีปีใหม่แล้ว ผองไทย…
...สวัสดีวันปีใหม่ ใครรักใครก็ให้แต่งงานกัน…
“โอ๊ยยยยย ไอ้เชี่ยยยยยยสมชาติ เปิดเพลงห่าไรของมึง” เสียงโหยหวนดังก้องทั่วโถงตึกของคณะ ความเงียบสงัดจาก
รอบข้างทำให้เสียงนั้นดังก้องไปใหญ่
ลมเย็นๆพัดเอื่อยกับความมืดมิดเพิ่มความวังเวงให้กับสถานที่ คณะเพื่อนบ้านที่ถัดไปลิบๆก็มืดมิด ถนนใหนมหาลัยก็มีเพียงเสียงจากหลอดไฟให้ความสว่าง บรรยากาศเงียบงันจนขนลุก
ขนลุกแน่เว้ยไอ้เหี้ยยยยยเพราะแม่งหนาวเชี่ยไง กรุงเทพฯที่ไม่เคยหนาวเกินสามวันยังเกิดวิปริตส่งท้ายปีโดยการมีลงเย็นๆพัดให้ขนแขนแสตนด์อัพกับเขาบ้าง
ในคืนข้ามปีของมนุษย์หลายคนนี่มีอะไรที่น่าร้องไห้บ้าง?
ไม่มีคนไปเคาน์ดาวน์ด้วย?
เพื่อนทิ้งไปหาผัวหาเมีย?
รถติดยาวตั้งแต่ดอยอ่างขางถึงเบตง?
คนยั้วเยี้ยเต็มสถานีขนส่ง?
ร้านอาหารปิด? แต่ยังดีที่เซเว่นยังเปิดนะ
โอ๊ย...ที่พูดมายังรับได้เพราะมันเป็นปกติของประเทศไทยที่แม้แต่ Thailand 4.0 ก็แก้ไม่ได้ ความจริงอาจจะรอให้ถึง 10.0 อาจจะแก้ก็ได้มั้ง
ที่ผ่านๆมาแม่งเล็กๆเท่าเศษเล็บเลยถ้าต้องมาเจอกับ…
...ปั่นงานข้ามปีประหนึ่งเทียบเท่าอัจฉริยะข้ามโลก…
ชีวิตไม่มีอะไรบัดซบไปกว่าอาจารย์สั่งงานให้ส่งหลังปีใหม่ คือพวกกูต้องมานั่งปั่นงานในขณะที่อาจารย์ไปเที่ยวม่อนแจ่ม
เสรดดดดด...เอาวันหยุดพวกกูคืนมา
“กูจะไปเซเว่น” หนึ่งในเหล่าบรรดาซอมบี้ผุดลุกขึ้น เท่านั้นแหละที่เหลือแทบสะดุ้งขึ้นจากหลุมขึ้นมา
“กูฝากซื้อบุหรี่สองซอง”
“เพิ่มเป็นห้าเลยมึง”
“เอ็มร้อยโหลนึง”
“ไส้กรอกบิกไบท์สาม”
“ข้าวผัดสอง”
“แหนมตุ้มจิ๋วสองห่อ”
“โอ๊ย...ไอ้พวกเชี่ย มาช่วยกูถือด้วยไอ้ห่า แล้วไหนล่ะเงิน”
“มึงออกไปก่อน” ตอบกันอย่างพร้อมเพรียง และแน่นอนว่าคืนชาติหน้า
“แล้วมึงเอาอะไรไอ้พระ?” สมชาติหันมาถามเพื่อน
ร่างสูงอัดบุหรี่เข้าปอดเฮือกใหญ่พ่นควันขาวขุ่นออกมา นัยน์ตายังคงจ้องที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คไม่กระพริบ
“นม...” เสียงทุ้มแหบต่ำพึมพำ
“ห้ะ???” มันผีเข้าหรือไงวะ ถึงสั่งนม ปกติไม่แตะของพวกนี้มีแต่สุราเมรัยและเอ็มร้อย
“นมจืด...”
สมชาติขมวดคิ้ว สงสัยมันอาจจะคิดถึงเด็กมากเกินไปถึงได้สติสตังไม่อยู่กับร่องกับรอย เป็นเอามากเหมือนกันเว้ยเฮ้ยยยยย
ขณะที่กำลังปั่นงานอย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็มีร่างเล็กผิวซีดที่แทบเรืองแสงได้เดินย่องๆเข้ามาใต้ตึก หน้าเล็กๆถูกบดบังด้วยแว่นทรงโบราณอันโตจนแทบมิด นัยน์ตากลมโตของเจ้าตัวเบิกกว้างเหมือนกำลังตื่นตกใจเล็กน้อย
เหล่าซอมบี้ทั้งหลายหันไปจ้องจนคนเรืองแสงสะดุ้งโหยง แล้วยิ้มแหะๆ แก้มนุ่มนิ่มขึ้นสีเรื่อเพราะความเขิน เจ้าตัวขยับเสื้อฮู้ดตัวโคร่งของตัวเองแก้เขิน แน่นอนว่าใครๆก็มองออกว่าเสื้อฮู้ดนั่นไม่ใช่ของเจ้าตัวแน่นอนเพราะมันคนละไซส์กันเลย คาดว่าคงเป็นของใครอีกคนมากกว่า
คราวนี้คนที่นั่งอัดบุหรี่ปุ๋ยๆถึงฤกษ์ละสายตามามองรอบๆตัวเสียทีเพราะเสียงแซ็ว
“น้องนมจืดมาแล้วหรือจ๊ะ” สาวถึกแห่งคณะนี้เป็นคนเริ่มต้นก่อน
“หวัดดี” นมจืดยิ้มแหย ผงกหัวหงึกหงักให้เขาไปทั่ว ถึงจะมาคณะเพื่อนบ้านหลายครั้งแล้วแต่มันก็ยังไม่ชินเพราะทุกคนเหมือนจ้องจะตะปบเขาอยู่ตลอด
อีกอย่างนะ...ที่นี่ไม่มีใครเรียกเขาว่าพี่เลยสักคนทั้งที่เขาอายุมากกว่านะ นมจืดไม่เข้าใจจริงๆ
“เตี้ย...” เสียงระโหยของร่างสูงหน้าตาโทรมเป็นผีดิบทำให้คนถูกเรียกทำหน้าตาโต
“พระเอก...งานไปถึงไหนแล้ว” น่าสงสารมากเลย ทำไมอาจารย์ต้องสั่งงานให้ส่งหลังปีใหม่ ปีใหม่ควรเป็นเทศกาลแห่งความสุขสิ
“ใกล้เสร็จแล้ว” เจ้าตัวขยี้บุหรี่ที่เหลือแต่ก้นๆกับกระป๋องกาแฟ พลางยื่นนมกล่องรสจืดของชอบเจ้าตัวไปให้
สมชาติที่นั่งอยู่แถวนั้นถึงกับร้องอ้อในใจ มันซื้อมาให้เด็กน้อยของมันนี่เองนึกว่าซื้อมาแดกเอง
“ขอบคุณนะ” คนตัวเล็กยิ้มตาหยี พระเอกเหมือนได้พลังกลับมาเล็กน้อย มือเล็กๆส่งถุงพลาสติกใบโตให้อีกฝ่าย
เปิดออกมาเป็นข้าวหน้าเป็ดสามสี่กล่องกับขนมนมเนยอีกเยอะแยะ
“เราไม่รู้ว่าคนเยอะขนาดนี้เลยซื้อมาไม่เยอะ” ตอนที่พระเอกบอกว่าคงอยู่โยงคณะเพื่อปั่นงานให้เสร็จในวันสุดท้ายของปี นมจืด
เลยตัดสินใจมาหาที่คณะแทน ความจริงปีนี้เขาก็ไม่ได้ไปไหนด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็อยากพักผ่อนอยู่บ้านมากกว่าเพราะไม่อยากไปเบียดเสียดกับคนในช่วงเทศกาล นมจืดเลยได้อยู่โยงเฝ้ากรุงเทพฯด้วยอีกคน
แต่พระเอกนี่สิตอนแรกเห็นบอกว่าจะกลับบ้านที่สุพรรณบุรีกับพระรอง สุดท้ายก็ไม่ได้กลับให้พระรองกลับไปคนเดียว แผนที่วางไว้เสียหมดเลย
“แดกสิเตี้ย” มือใหญ่ยื่นข้าวหน้าเป็ดหอมฉุยๆที่ยังอุ่นๆอยู่มาให้ร่างเล็ก
“เรากินมาแล้ว พระเอกกินเถอะ แบ่งเพื่อนๆด้วย” นมจืดยื่นหนึ่งกล่องไปให้สมชาติ อีกกล่องให้โอ๋ พวกมันเอาไปแบ่งกันกินกับ
เพื่อนคนอื่นๆคนละคำสองคำ
“น้องนมน้อยช่วยชีวิต” สมชาติครวญครางอย่างสำนึกบุญคุณ
“เราโตกว่าสมชาติน้า”
“น้องนมของพี่สมชาติ”
“ไอ้สัสสมชาติ ใครเป็นของมึง” เสียงตวาดดังข่ม
อุ๊ย...สมชาติลืมไปว่าพ่อมันนั่งหน้าเหี้ย...ม...อยู่ด้วยนี่หว่า
ส่วนพระเอกยังคงเป็นพระเอกอยู่วันยันค่ำ กูแดกคนเดียวทั้งกล่อง จ้วงเข้าปากให้รับรู้ถึงรสชาติของหนังเป็ดกรอบๆเนื้อนุ่มราดน้ำจิ้มหอมกรุ่นกับข้าวสวยหอมมะลิหอมนุ่ม ความอยากอาหารพุ่งพรวดขึ้นมาทันตาเห็น
เขาถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่ช่วงเย็น จ้วงข้าวเข้าปากตัวเองสลับกับตักเป็ดกับข้าวคำเล็กๆส่งเข้าปากคนตัวเล็ก
“ฮื้อ...พระเอก เรากินไม่ไหวแล้ว” ใบหน้าขาวหันหนีช้อนที่ยื่นมาตรงหน้า
“เดี๋ยวนี้ดื้อเหรอวะ...เดี๋ยวตบให้เตี้ยเลย” ตาคมดุบังคับให้ไอ้นมมันเปิดปาก ยัดช้อนเข้าปากแม่งเลย
“อื้อออออ” ปากเล็กที่เต็มไปด้วยเป็ดจนพูดไม่ได้ “ไม่เอาแล้ว” นมจืดขยับก้นหนีไปสองช่วง คว้ากล่องนมจืดมาเจาะดูดล้างปาก
ร่างสูงเลยยอมให้เพราะเห็นว่ามันกินนมแล้ว กลัวมันท้องแตกตายไปก่อน
เดี๋ยวกูแย่เลย...ไม่รู้จะไปหาโง่ๆเซ่อๆเด๋อๆเป็นมินเนี่ยนแดกแฟ๊บแบบนี้ที่ไหนอีก
...รุ่นนี้แม่งลิมิตเต็ดอดิชั่น...
...ผลิตมาเพื่อกูคนเดียว…
เวลาผ่านพ้นจนเกือบเที่ยงคืน จากตอนแรกที่ยังมีเสียงจ้อกแจ้กจนตอนนี้เหมือนเหล่าซอมบี้กลับลงหลุมไปเรียบร้อยแล้ว เหลือผู้รอดชีวิตอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นเป็นร่างสูงใหญ่ใบหน้าเขียวครึ้มเพราะไม่ได้โกนหนวดมาหลายวันแล้ว แถมผมเผ้าก็เริ่มมันแผล่บเล็กน้อย ไม่รู้ว่าไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้ว
กลิ่นเริ่มตุๆยิ่งผสมกับกลิ่นบุหรี่ที่ติดตัวแล้วนมจืดต้องย่นจมูก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอากาศเย็นๆแบบนี้ความอบอุ่นจากร่างกายของพระเอกทำให้รู้สึกดีสุดๆ
พระเอกมองร่างเล็กที่นั่งเบียดจนแทบสิงเขาอยู่รอมร่อ เห็นมันนั่งหาวหวอดๆตาปรือปรอย หัวเล็กๆพิงกับต้นแขนคอพับคออ่อนเลย
นี่มันเลยเวลานอนของเด็กอนามัยมาสักพักแล้ว มองนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาว่าอีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะเป็นวันใหม่
รวมถึง...เป็นวันแรกของปีใหม่ด้วย
จับใบหน้าเล็กขึ้นมามอง ตากลมๆปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง เสียงเล็กๆร้องอืออา
“อือ...ง่วงแล้ว...”
เออ...กูรู้แล้ว…
“เด็กอนามัยจริงนะมึง” เหน็บมันแต่ก็กดหัวเล็กๆให้ลงมาหนุนตักตัวเอง จับขาเล็กให้ยื่นยาวไปกับเก้าอี้ม้านั่ง
นมจืดพอได้ที่นอนสบายตัวขึ้นก็ขดตัว ซุกหน้าเข้ากับหน้าท้องแกร่งอุ่นสบาย เสื้อฮู้ดตัวนิ่มของพระเอกก็อุ่นสบายจนจะหลับจริงๆแล้ว
นัยน์ตาคมเห็นอีกฝ่ายนอนสบายตัวขึ้นก็หันกลับมาสนใจงานตัวเอง เหลืออีกไม่มากก็จะเสร็จแล้ว เขาตั้งใจจะทำให้เสร็จวันนี้เพราะว่าพรุ่งนี้จะได้มีเวลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด ถึงจะกลับช้าไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่ได้กลับ
กะว่าจะไปขอพ่อแม่ไอ้เตี้ย พามันไปหาพ่อแม่เขาที่สุพรรณฯเหมือนกัน ไอ้เตี้ยมันชอบมาก ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ เลยว่าจะพามันไปเยี่ยมพ่อแม่รับปีใหม่
...อีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มเคาน์ดาวน์แล้วนะคะ…
เสียงดีเจจากคลื่นวิทยุดังมาจากเครื่องของใครสักคนที่เปิดค้างไว้ แต่ดูลาดเลาแล้วคงไม่มีใครมาสนใจเรื่องนับถอยหลังแล้วมั้ง เพราะมันหมายความว่่างานกุจะเหลือแค่สองวันแล้วต้องส่งแล้วนั่นเอง
มือใหญ่พิมพ์ต้อกแต้กดังไปพร้อมๆกับเสียงวิทยุ
10
9
8
…
3
2
1
…
...สวัสดีปีใหม่…
ริมฝีปากได้รูปก้มลงหอมขมับขาวของคนนอนหนุนตักอยู่ เสียงทุ้มพูดเบาๆที่ใบหูเล็ก
“ต้องติดอยู่กับมึงไปอีกปีเหรอเนี่ยไอ้เตี้ย”
++++++++++++++++++++++++++++ END ++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่า
วันนี้วันสุดท้ายของปีแล้ว เลยเอาน้องนมมาฝากทุกคน
วันนี้เป็นตอนพิเศษของน้องนมกับนังพระ แค่ละคนก็คงมีแพลนไปเคาน์ดาวน์ที่ไหนต่างกันเนอะ นี่ก็เป็นการเคาน์ดาวน์อย่างหนึ่งของทั้งสองคนค่ะ ฮ่าๆ
อาจจะไม่ได้หวือหวาหรือว่าฟินเหมือนคนนอื่น
แต่นังพระนางก็พอใจแล้วค่ะ อิๆๆๆๆๆ เรารู้ เราสัมผัสได้ว่านางดีใจที่น้องนมมาหานาง กรากกกกก
น้องนมเขาก็เรียบง่ายค่ะ แต่น้องแค่จะง่วงๆเพราะดึกเกิน ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณที่อยู่กันมตลอดทั้งปี และอยู่ด้วยไปอีกนานๆนะคะ
ขอให้มีความสุขกับช่วงเทศกาลและมีความสุขกับปีใหม่นะคะ ไปเที่ยวไหนมามาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ