พ่ายรักเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
“มึง”
เสียงทุ้มเอ่ยเสียงไม่เบานัก ร่างที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีส่วนไหนโผล่ออกมาเลยนอกจากเท้าของเจ้าตัวนั้นแหละ มือก็ทำหน้าที่สะกิดปลายเท้าที่โผล่พ้นผ้านวมนุ่มผืนใหญ่
“มึงต้องเข้ามหาลัยไม่ใช่หรือไง” เมื่อวานไอ้คนที่นอนอยู่มันบอกว่าถ้าเขาตื่นแล้วให้อย่าลืมปลุกมันด้วย แต่พอตอนนี้มาปลุกมันเสือกทำหูทวนลมไม่ได้ยินซะอย่างงั้น
“อืม...” ดูมัน...ยังไม่ยอมตื่นอีก
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เลยตัดสินใจผละออกไปอาบน้ำก่อน ให้อีกฝ่ายนอนหลับต่อไปอีกนิด
สิ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาภายในห้องน้ำคือดวงตาสีเข้ม นัยน์ตาเฉี่ยวคม ใบหน้าหล่อคมแต่ว่าบางมุมก็ดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก รวมถึงรูปร่างหนึ่งร้อยเจ็ดสิบปลายๆทำให้เขาก็มีคนคุยไม่ขาดเหมือนกัน
จากนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ของรั้วมหาวิทยาลัย ‘ศัตรูพ่าย’ กลายมาเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใจกลางเมืองใหญ่แห่งนี้ ศัตรูพ่ายย้ายออกจากหอแถวมหาวิทยาลัยมาอยู่ที่คอนโดซึ่งห่างจากที่ทำงานเขาไม่กี่สถานีเพื่อความสะดวก
ความจริงแล้วเขาบ้านเขาก็ไม่ได้ไกลจากศูนย์กลางย่านธุรกิจเท่าไรแต่ว่าการออกมาอยู่คอนโดก็สะดวกดีเหมือนกัน นี่ถ้านับดูแล้วเขาก็เริ่มทำงานมาได้เกือบหนึ่งปีแล้ว ชีวิตนอกจากไปทำงาน คลุกคลีอยู่ในออฟฟิส เลิกงานไปกินข้าวสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานบ้าง ชีวิตเขาก็แทบไม่มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นเลยสักนิด
จะบอกว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรมาหรอก แต่มันมีความน่ารำคาญชิ้นโตที่ยังคงติดอยู่เหมือนกัน
ศัตรูพ่ายอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำด้านล่างใส่เป็นกางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางอยู่ มาหยุดที่หน้าเตียงหลังใหญ่ที่เดิมเพิ่มเติมก็คือไอ้คนนอนที่ยังคงนอนแอ้งแม้งอยู่เหมือนเดิม
นี่คือความน่ารำคาญในชีวิตชิ้นเบ้อเริ่ม
จากตอนแรกที่ใช้มือสะกิดตอนนี้ใช้ตีนเขี่ยแม่งเลย
“เฮ้ย...เมือไหร่มึงจะตื่นวะ” ต้องให้เกรี้ยวกราดตลอด อยู่กับแม่งแล้วเหมือนผีบ้าเข้าสิง
“อืม...”
“มึงกวนตีนกูเหรอวะไอ้รอง!” ศัตรูพ่ายอยากจะกระชากตัวอีกฝ่ายขึ้นมาตบซ้ายตบขวาเสยให้หน้าหงายเลย
“เปล่าครับ...” เสียงทุ้มแหบต่ำคงเพราะเพิ่งตื่นนอน
ทั้งที่พูดจามีหางเสียงแต่ว่าศัตรูพ่ายรู้ดีว่ามันกำลังกวนตีนเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเขี่ยมันแรงขึ้น
“งั้นก็ตื่นสักที”
“จูบหน่อย...”
พร่องเมิงเซ่ะ!!
ศัตรูพ่ายแยกเขี้ยวใส่คนบนเตียง จนสุดท้ายเขาต้องกระชากผ้านวมผืนใหญ่ออกจากตัวของอีกฝ่ายเผยให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นอนหันข้างขดตัวอยู่ เจ้าตัวอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ต่างกับศัตรูพ่ายเท่าไหร่ซึ่งก็คือมีแค่กางเกงบ็อกเซอร์ติดตัว ด้านบนเปลือยโชว์แผงอกกำยำ ถ้าเป็นคนอื่นเห็นคงกรี๊ดน้ำลายหก แต่ไม่ใช่กับเขาแน่นอนเพราะ…
เห็นมันทุกวันจนเบื่อฉิบหาย…
ใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มยับย่นเพราะเพิ่งตื่นนอน ทรงผมชี้โด่เด่ไปมา ตาคมหรี่มองร่างสูงโปร่งที่ยืนแยกเขี้ยว
“ตื่นแล้วอย่าลีลา” ศัตรูพ่ายโบกมือไล่คนบนเตียงให้ลุกขึ้น เขาจะได้พับผ้าจัดเตียงใหม่
แต่ว่าฝ่ามือใหญ่ก็กระตุกคนที่ยืนอยู่จนอีกฝ่ายเสียหลักล้มลงมาทาบทับอยู่บนร่างกายหนาบนเตียง
“เฮ้ย!” เสียงโวยวายดังก้องในหูพระรองจนรู้สึกมึนไปพักหนึ่ง “ไอ้เชี่ย!!”
ศัตรูพ่ายถลึงตาใส่อีกฝ่าย ขณะนี้ใบหน้าของพวกเขาทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันเสียจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน ใบหน้าขาวใสขึ้นสีเรื่อจางๆเมื่อสบกับนัยน์ตาพราวระยับคู่นั้น
“ปล่อย!”
“ไม่!!”
เนี่ย...ดูมัน!
กวนตีนได้กวนตีนดี วันไหนไม่ได้กวนตีนให้โดนด่าแล้วสงสัยนอนไม่หลับ
พระรองลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเรียบเนียนลามลงไปถึงช่วงเอวสอบที่เหมาะพอดิบพอดีกับมือเขา ค่อยๆไต่ผ่านเนื้อผ้าไปจนถึงช่วงสะโพกวนเวียนอยู่แถวก้นกบ
ร่างสูงโปร่งเกร็งตัว ถลึงตามองอีกฝ่ายที่ยิ้มหน้าเป็น ศัตรูพ่ายรู้สึกขนลุกชันไปทั่วร่างกาย รับรู้ถึงนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายที่ยังคงวนเวียนไปมาอยู่แถวรอยแยกตรงสะโพกของตัวเองแล้วต้องรีบเอามือไปตะปบมันออกมา เล็บสั้นๆจิกลงบนเนื้อให้แสบๆคันเป็นเชิงลงโทษ
“เจ็บครับ...” ไอ้ตอแหล แค่นี้ทำมาเป็นสำออย
“สมควร” มันไม่ได้ทำหน้าสำนึกสักนิด “เอามือออกไปจากก้นกู”
แต่มีหรือคนอย่างนายพระรองจะเชื่อฟังง่ายๆ เขายิ่งมันเขี้ยวโดยการบีบขยำเนื้อหนั่นแน่นจนเจ้าของตาเหลือก แหกปากโวยวายลั่น
พอได้แกล้งสมใจแล้วชายหนุ่มก็ยอมลุกขึ้นแต่ก่อนจะไปอาบน้ำเขาโดนฝ่ามือฟาดหนักๆเข้าที่หน้าท้องจนขึ้นรอยมือแดงเป็นปื้นเป็นของฝากไปด้วย
‘พระรอง’ นักศึกษาชั้นปีที่สี่แห่งคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังเดินออกมาด้วยชุดแบบเดียวกันกับศัตรูพ่ายในตอนแรก แต่ว่าตอนนี้ร่างสูงโปร่งใส่เสื้อผ้าชุดทำงานเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มยิ้มบางๆเมื่อเห็นเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดตาแขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าพร้อมกับกางเกงแสล็คสีดำสนิท
ถึงจะปากร้าย ชอบโวยวายเขาแต่ว่าการกระทำช่างไม่ตรงกับปากเอาเสียเลย
เป็นคนใจร้ายที่น่ารักจริงๆ
พระรองจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เดินมาหาคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์เช็กนั่นดูนี่ไปเรื่อยอยู่ที่โต๊ะอาหารตัวเล็กสำหรับสองคน ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามพลางพับแขนเสื้อขึ้นมาตรงถึงข้อศอก นัยน์ตาคมกริบมองคนตัวขาวที่กำลังหน้านิ่วจ้องจอแล้วก็เอ่ยปากถาม
“หิวไหม? กินอะไรด้วยกันก่อนไปทำงานเปล่า?” นานๆทีพวกเขาสองคนถึงได้ออกพร้อมกันตอนเช้าเพราะว่าส่วนใหญ่อีกฝ่ายต้องออกเร็วเพราะไปทำงานตามปกติ ในขณะที่เขามีเรียนช่วงบ่ายบ้างหรือไม่มีเรียนบ้างทำให้ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าตามอีกฝ่าย
“โจ๊ก...” คนตอบไม่ยอมมองหน้า แต่เรียกรอยยิ้มจากพระรองได้เป็นอย่างดี
ถ้าเจ้าตัวพูดแบบนี้เป็นนัยที่บอกว่า...อยากกินโจ๊กร้านเจ้าประจำและเขาต้องพาไปกินด้วย!
คนฟอร์มจัด…
ร่างสูงสองร่างเดินตีคู่กันออกมาจากประตูคอนโด ศัตรูพ่ายรับหมวกกันน็อคสีเทาซึ่งเป็นใบประจำของเจ้าตัวมาสวม ส่วนร่างสูงใหญ่วาดขาคร่อมมอเตอร์ไซด์สีเหลืองอ๋อยคันตะมุตะมิที่ดูแล้วไม่เหมาะกับผู้ชายตัวใหญ่สองคนเลยสักนิด
พอคนซ้อนท้ายนั่งคร่อมรถเรียบร้อยเจ้าตัวก็ขยับกระเป๋าสีดำมากอดเอาไว้ คนขับถึงค่อยๆบิดคันเร่งออกตัว
รถมอเตอร์ไซด์สีเหลืองเด่นสะดุดตาลัดเลาะมาตามซอกซอยเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรบนถนนใหญ่ของกรุงเทพฯจนมาถึงหน้าร้านแผงลอยริมถนน ศัตรูพ่ายลงจากรถเดินเข้าไปสั่งก่อนแล้วให้อีกฝ่ายไปหาที่จอดรถ
โจ๊กร้อนๆสองชามมาเสิร์ฟพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่เดินมานั่งพอดิบพอดี ในมือใหญ่มาพร้อมกับปาท่องโก๋ถุงใหญ่จากร้านที่อยู่ถัดไปไม่กี่ร้าน
ศัตรูพ่ายเลิกคิ้วมองร่างสูงใหญ่ฝั่งตรงข้ามที่ฉีกปาท่องโก๋สองตัวใส่ชามโจ๊กคนๆจนแป้งทอดจมน้ำข้าวข้นๆเรียบร้อยถึงดันชามนั้นมาให้เขา แล้วพระรองดึงชมโจ๊กของตัวเองมา มือหนึ่งถือปาท่องโก๋เอาไว้กินสลับกับโจ๊ก เขาชอบกินตอนมันยังกรอบๆ ไม่เหมือนกับอีกคนที่ชอบเอาแป้งแช่โจ๊กจนเหี่ยวแล้วค่อยกิน
“ไม่ได้กินร้านนี้นานมาก” ศัตรูพ่ายยังคงชอบรสชาติโจ๊กหอมๆของร้านแผงลอย
“ที่ผมพาคุณมากินตั้งแต่ครั้งแรกเลย” ร้านโจ๊กเป็นร้านประจำของพระรองตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง
“เออ...” นึกถึงความทรงจำเก่าๆเมื่อสองสามปีก่อน.
.
.
.
...ร้านโจ๊กแผงลอยริมถนน...
กับ
...ผู้ชายสองคนที่แทบเรียกได้ว่าคนแปลกหน้า…
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่า
ขออภัยที่หายไปนานเลยนะคะ วันนี้อาโปเอาตอนพิเศ๊ษพิเศษมาลงให้อ่านกันค่า
เป็นคู่ที่ออกมานิดเดียวแต่กระแสไม่แพ้นังพระกับน้องนมเลย เราดีใจมากที่มีคนลงเรือคู่นี้ ฮ่าๆ
ขอบคุณที่สนุบสนุนกันมาโดยตลอดนะคะ
ปล. ท่านใดไปงานเจนวายวันที่ 9/9 นี้ ไปเจอกันได้นะคะ เราสิงอยู่เรื่อยๆค่า
ปล.สอง. หยอดปุกหมูรอรับน้องนมไปกอดที่บ้านได้นะคะ ช่วงงานหนังสือตุลาคมนี้เจอกันค่า
ขอบคุณมากค่า