“เป็นอะไรไป มาเยี่ยมแม่ข้าวแล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” ผมหันไปยิ้มตอบกับเฟยจิ้ง หลังจากสิงห์ขับรถมาส่งผมที่คฤหาสน์ตระกูลมังกรแล้ว บอกผมว่าถ้าจะกลับเมื่อไหร่ให้โทรไปบอก แต่ผมบอกสิงห์ไปว่ากลับเองได้ ซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้ว่าอะไรก็ขับรถออกไปทันที “ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆครับ แค่เครียดเรื่องเอนท์ฯนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
ผมพูดโกหกเพราะเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าสงสัยไม่เลิก
“แน่นะ”
“แน่สิครับ” ผมยืนกรานตอบเสียงแข็ง ก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่แม่ข้าวเริ่มมีปฏิกิริยาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะคุณเฟยจิ้ง”
“ก็หลังจากที่เธอเข้าโรงพยาบาลน่ะ ว่าแต่ถามทำไมหรือ” เฟยจิ้งเอียงคอถามผมด้วยความสงสัย
“อ้อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่ถามดูเฉยๆ” ผมยิ้มตอบก่อนจะหันไปบีบนวดให้แม่ข้าวต่อ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะอยู่ที่นี่ดูแลแม่ข้าว และอยากจะหนีหน้าสิงห์ไปซักพัก
“ฉันชอบเธอวีร์ มาเป็นแฟนกับฉันเถอะ รับรองว่าดีกว่าไปคบกับพยัคฆ์เป็นร้อยเท่าพันเท่า”
ถ้าผมไม่ได้มีความทรงจำของชาติก่อน อาจจะพิจารณาสิงห์เหมือนกับเสือที่บอกว่าชอบผมด้วย แต่นี่ผมมีความจำครั้งชาติก่อนครบสมบูรณ์ เป็นปู่ของสิงห์ เป็นวีรวัฒน์ในร่างกมลวีร์ ฉะนั้นจะเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะตอบรับสิงห์เป็นแฟน แล้วอีกอย่างผมไม่ได้ชอบสิงห์ เห็นสิงห์เป็นเพียงแค่หลานชายคนหนึ่งของตัวเองเท่านั้น
“ทำหน้าเครียดแบบนั้น สิงห์มาขอเธอเป็นแฟนหรือยังไง”
!!!!!!
“แค่กๆ คุณเฟยจิ้ง คุณ แค่กๆ” ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
“หรือว่าเธอไปฟีทเจอริ่งกับสิงห์กับเสือมาแล้วก็เลยเครียด”
!!!!!!
“คุณเฟยจิ้ง!”
“อ้าวไม่ใช่เหรอ” อีกฝ่ายพูดพลางทำหน้าเหรอหรา “หรือเธอเครียดเพราะเพิ่งจะฟีทเจอริ่งเป็นครั้งแรก คงเจ็บมากสินะ ใหม่ๆก็แบบนี้แหละยังไม่ชิน ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินไปเอง ว่าแต่เธอสนใจลองดูกับฉันบ้างไหมล่ะ ฮะๆ ล้อเล่นน่าล้อเล่น ไม่ต้องซีเรียส”
จะซีเรียสก็เพราะคำพูดของคุณนั่นแหละเฟยจิ้ง!ผมอยู่เฝ้าแม่ข้าวจนถึงเย็นก็ถึงเวลากลับบ้าน ซึ่งผมกะว่าจะเดินไปบอกลาเฟยจิ้งที่ห้องทำงาน กลับชะงักเมื่อเห็นร่างบาง ใบหน้าเรียวขาวอมชมพู ผมสั้นสีดำทรงบ็อบเทอยู่ในชุดทำงานออฟฟิตแลดูกะทัดรัดกำลังเดินสวนมาทางผมพอดี ส่วนอีกฝ่ายเมื่อเห็นผมหยุดเดินก็พลันหยุดเดินตาม ก่อนจะหันมามองผมด้วยความสงสัย
“เธอเป็นอะไรกับที่นี่งั้นหรือ เพราะฉันรู้สึกไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนเลยนะหนุ่มน้อย”
“อ๋อ สวัสดีครับ ผมชื่อ…”
“วีร์ กมลวีร์ แต่ถ้าเป็นชื่อเก่าที่ปู่ตั้งให้ ชื่อเฟยหลง ทายาทมังกรที่หายสาบสูญไปพร้อมกับน้องสาวของฉันที่ชื่อข้าวน่ะ” เสียงเฟยจิ้งพูดแทรกก่อนจะเดินมาจับไหล่ผมเบาๆ “วีร์ นี่คุณราตรี เป็นผู้นำของตระกูลหงส์รุ่นที่สี่ ทักทายเขาซะสิ”
ผมได้ยินดังนั้นก็หันไปยิ้มทักทายพร้อมกับยกมือไหว้คนที่อายุมากกว่าตัวเอง
“สวัสดีครับคุณราตรี ผมวีร์ ยินดีได้รู้จักครับ” อีกฝ่ายยกมือรับพร้อมกับยิ้มตอบ
“เช่นกันนะจ้ะพ่อหนุ่มวีร์”
“เดี๋ยวฉันกับราตรีจะไปคุยกันที่ห้องรับแขก เธอจะไปคุยกับพวกเราด้วยไหมล่ะวีร์” เฟยจิ้งหันมาถามผม ซึ่งผมรีบส่ายหน้าให้ทันที
“ไม่ล่ะครับคุณเฟยจิ้ง ผมจะรีบกลับบ้านเพราะมันเย็นมากแล้วน่ะ”
“อ้อ งั้นฉันจะให้คนขับรถไปส่งที่บ้านให้แล้วกัน”
“ไม่ต้องครับคุณเฟยจิ้ง แค่นี้ผมก็รบกวนคุณมากพอแล้ว”
“รบกงรบกวนอะไรกัน บ้านตัวเองแท้ๆ” เฟยจิ้งพูดพลางถอนหายใจ “แต่ฉันคงปล่อยให้เธอกลับบ้านไปเองคนเดียวไม่ได้นะวีร์ เพราะมันอันตราย อย่าลืมสิว่าไป่เต๋ายังต้องการตัวเธออยู่น่ะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ ผมต้องรบกวนคุณแล้ว”
“อืม งั้นตามฉันมา จะได้ไปบอกให้มือขวาของฉันขับรถไปส่งให้”
“ครับ” ผมตอบก่อนจะหันหน้าไปก้มหัวลากับราตรี “ลาล่ะครับคุณราตรี ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่”
“จ้ะพ่อหนุ่ม แล้วเจอกันใหม่” พอลาเสร็จผมก็เดินตามเฟยจิ้งไป
.........................
ปล.ภาพข้างล่างเป็นภาพจำลองของราตรี
[attachment deleted by admin]