หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นวันนั้น ทั้งวินทั้งสิงห์ทั้งเสือ ต่างก็พากันมาผลัดกันเฝ้าผมแทบทุกวัน ราวกับกลัวว่าไป่เต๋าจะส่งนักฆ่ามาลักพาตัวผมไปอีกครั้ง ส่วนแรบบิทนั้นติดผมเสียยิ่งกว่ากระไรดี พอถึงเวลากลับบ้านก็ไม่ยอมกลับครับ บอกว่าอยากจะอยู่เล่นกับผม
“แรบบิทไม่กลับ แรบบิทจะอยู่กับพี่วีร์” ร่างเล็กพูดเสียงออดอ้อนน้ำตาซึมแลดูน่าสงสาร
“แรบบิทอยู่ไหนบันนี่ก็จะอยู่ด้วย” นี่ก็อีกคนที่ไม่อยากจะแยกจากแฝดตัวเอง “พี่วีร์ใจดี ชอบเล่านิทานให้ฟัง บันนี่ชอบค่ะ อยากฟังอีกๆ”
เป็นเพราะผมว่างไม่รู้จะทำอะไรดี จึงเล่านิทานให้บันนี่กับแรบบิทฟังน่ะครับ แต่กระต่ายไม่ยอมให้ฝาแฝดอยู่กับผมครับ เพราะต้องไปโรงเรียน เด็กแฝดก็เลยต้องยอมกลับบ้านไปแต่โดยดี
“เธอนี่นะ เสน่ห์แรงแม้กระทั่งเด็กๆ” เสือพูดแซวหลังจากที่มานั่งเฝ้าผมคู่กับสิงห์ที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา “บอกตามตรง ฉันชักหึงซะแล้วสิ”
พรูด!ผมแทบพ่นน้ำดื่มออกมาเมื่อได้ยินคำนั้น
“คนที่หึงแม้กระทั่งเด็กเขาเรียกว่าผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต” สิงห์พูดกัดคืนบ้าง ในขณะที่ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำที่เพิ่งพุ่งออกจากปากไป ส่วนคนถูกกัดก็มองหน้าสิงห์ด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดกลับไปว่า
“เหรอครับ แต่ผมว่ายังดีกว่าคนแถวนี้ที่มีดีแต่เห่าเป็นเพียงอย่างเดียว”
โอ้แรง!สรุปว่าวันนั้นทั้งวันผมต้องทนฟังสองคนนั้นกัดกันครับ จนวันถัดมาหมออนุญาตให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้ ผมก็เลยบอกวินว่าจะกลับไปเรียนหนังสือในวันพรุ่งนี้ แต่วินค้านเสียงแข็งว่าไม่ให้ผมไปเรียนหนังสือเพราะยังอันตรายอยู่ แต่ผมก็ค้านกลับไปว่าที่โรงเรียนมีคนอยู่เยอะ ไป่เต๋าไม่กล้าเข้ามาลักพาตัวผมต่อหน้าคนเป็นร้อยได้หรอกครับ
“งั้นผมจะให้สิงห์ไปคอยดูแลคุณพ่อ…”
“ไปให้นั่งกดดันพวกเพื่อนในชั้นเรียนกับอาจารย์รึไงวิน แบบนั้นฉันไม่เอาด้วยหรอก”
“แล้วจะให้ใครไปอยู่ดูแลคุณพ่อล่ะครับ” วินถามด้วยความสงสัย ซึ่งผมยิ้มตอบกลับไปว่า
“จีนน่ะ”
...............................
“นั่นใครวะไอ้วีร์ หน้าหวานชะมัด ใช่นักเรียนใหม่หรือเปล่า”
“ใหม่พ่องมึงดิไอ้เสก นี่ปลายเทอมแล้วใครจะย้ายเข้ามาเรียนหนังสือกันล่ะ”
“ก็มีมึงไงไอ้วีร์” ผมทุบหัวเกมเบาๆ “โอ๊ย แค่พูดหยอกล้อเล่นเอง ทุบมาได้”
“ว่าแต่เป็นแฟนคนใหม่ของมึงเหรอวะไอ้วีร์ ไม่พามาแนะนำให้พวกกูรู้จักบ้างล่ะ” เสกพูดพลางหันไปมองจีน ที่บัดนี้อยู่ในคราบนักเรียน จะเรียกว่าปลอมตัวแฝงเข้ามาเป็นนักเรียนเพื่อคอยคุ้มครองผมก็ว่าได้ “แต่จะว่าไปหน้าหวานเป็นบ้า นี่ขนาดเป็นผู้ชายนะเนี่ย แล้วถ้าเป็นผู้หญิงจะสวยขนาดไหน”
“หึ เขาชื่อจีน เรียนจบแล้วแต่สถานะยังว่างงาน เห็นเงียบๆแบบนั้นแต่ร้ายไม่ใช่เล่น ลองแหย่เขาดูสิแล้วจะรู้ว่าเป็นยังไง” ผมแกล้งบอกพวกมันไป ซึ่งไอ้เสกแลบลิ้นก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาจีนที่นั่งอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องเรียน
หึๆ ชักสนุกแล้วสิพอไอ้เสกเดินไปถึง จีนก็หันมามองมันก่อนจะมุ่นคิ้วมองด้วยความสงสัย
“คุณชื่อจีนใช่ไหมครับ” ไอ้เสกเอ๊ย จะสุภาพบุรุษกับเขาทำเพื่อ?
“ใช่ ถามทำไม” นี่ก็อีกคน ชอบพูดจาไม่มีหางเสียง ต่อให้เสกเป็นเด็กแต่จีนเป็นผู้ใหญ่ น่าจะทำตัวให้มันดีกว่านี้หน่อยสิ “ถ้าจะถามเรื่องไร้สาระ ก็กลับไปนั่งที่ซะ”
“ขอเบอร์โทรได้ไหมครับ”
“...”
“อีเมล์หรือไลน์ก็ได้”
“...”
“มีแฟนหรือ...” เสกชะงักเพราะจีนยกมีดสั้นขึ้นมาแคะเล็บเล่น แล้วไอ้เสกก็หันมาทางผมราวกับต้องการถามว่าให้เดินหน้าต่อไหม ซึ่งผมพยักหน้าตอบ “...งั้นคุยกันเป็นเพื่อนก็ได้ครับ หรือว่าคุณจีนเห็นผมเป็นแค่เด็กที่อายุน้อยกว่า เลยไม่อยากคุยด้วย”
จีนเงยหน้ามองเสกก่อนจะหันกลับไปแคะเล็บต่อ
“เปล่า แค่สงสัยว่านายเป็นเกย์หรือกระเทยกันแน่ ถึงได้เข้ามาถามฉัน”
“ผมไม่ได้เป็นเกย์หรือกระเทยครับคุณจีน” เสกยิ้มตอบก่อนจะพูดต่อ “ผมแค่สนใจอยากจะเป็นเพื่อนกับคุณก็เท่า...”
ปัก!มีดสั้นที่เจ้าตัวเคยใช้แคะเล็บเมื่อครู่ มาบัดนี้กลับโดนเจาะอยู่กับพื้นโต๊ะนักเรียนต่อหน้าต่อตา ส่วนไอ้เสกนะหรือครับ ยืนหน้าซีดเหงื่อแตกเป็นลิตรแล้ว
“ฉัน...ไม่...ต้อง...การ...เพื่อน”
“คะ...ครับคุณจีน งั้นผมขอตัว” เสกพูดเสียงสั่นก่อนจะเดินย้อนกลับมาหาผมกับเกม “แม่งร้ายเหมือนที่มึงว่าไว้จริงๆวะไอ้วีร์ แหย่นิดแหย่หน่อยไม่ได้ แม่งเล่นหยิบมีดสั้นขึ้นมาแทะเล็บขู่กูเลยวะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าร้ายแค่ไหน แต่พอแค่นี้เถอะ แหย่มากไปไม่ดี เดี๋ยวกูจะมองหน้าเขาไม่ติด”
“อืมๆ”
.................
พอถึงเวลาพักเที่ยง นักเรียนหญิงต่างเข้ารุมล้อมถามจีนกันเป็นยกใหญ่ ว่ามาจากที่ไหนทำงานอะไรอยู่ มีแฟนหรือยัง ชอบกินอะไรประมาณนี้ครับ ซึ่งทำเอาพวกผู้ชายในห้องต่างทำหน้าเบื่อหน่ายเพราะไม่คิดว่าจีนจะฮอต ไม่ใช่แค่ห้องผมห้องเดียวครับ กลับมีห้องอื่นรวมถึงรุ่นน้องต่างแห่แหนมาดูจีนกันเสียยกใหญ่
“แหมยิ้มหน้าระรื่นคุยกับผู้หญิงใหญ่เชียว แม่งทีกับกูหน้าบูดอย่างกับตูดลิง”
“อย่าบ่นครับคุณเสก นั่นพวกผู้หญิงแต่สำหรับคุณเป็นผู้ชาย ถ้าเขาไม่ใช่เกย์เขาก็ต้องคุยกับพวกผู้หญิงเป็นของธรรมดา” ไอ้เกมพูดสวนพลางตบไหล่เพื่อนเบาๆ “มีทางเดียวที่มึงจะคุยกับเขาได้ คือมึงต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิง แต่อย่างมึงคงเปลี่ยนไม่ได้หรอก ตัวออกใหญ่ขนาดนี้ หึๆ โอ๊ย ตบหัวกูทำไมวะไอ้เสก มันเจ็บนะเว้ย”
“เจ็บได้ก็ดี อยากพูดแซวกูดีนัก ว่าแต่มึงจะชวนเขาไปกินข้าวด้วยหรือเปล่าวะวีร์” เสกหันมาถามผม ในขณะที่ผมกำลังเก็บหนังสือเข้าใต้ลิ้นชักโต๊ะเรียนอยู่
“ก็ต้องชวนสิ มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว” ผมไม่ได้บอกเหตุผลกับพวกมันไปหรอกครับว่าจีนมาที่โรงเรียนนี้ทำไม ส่วนที่มันมาได้ก็เพราะวินได้ไปขออนุญาตกับผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว ว่าให้ผมมีคนติดตามมาด้วยหนึ่งคน ซึ่งยังดีที่พวกเสกไม่ได้ถามผมอะไรมาก แค่ถามว่าจีนเป็นลูกบุญธรรมของวินใช่ไหมก็เท่านั้นเองครับ แล้วผมก็ลุกขึ้นเดินไปหาจีนท่ามกลางวงล้อมของพวกผู้หญิง “ถอยหน่อยครับถอยหน่อย คุณจีนครับ พักเที่ยงแล้ว พวกเราไปหาอะไรทานกันเถอะครับ”
คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองผม
“ข้างนอก?”
“ไม่ใช่ครับ ที่โรงอาหาร”
“ข้างนอกไม่ได้เหรอ ฉันไม่ชินอาหารโรงเรียน”
“ไม่ได้ครับ โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนเดินออกไปทานอาหารข้างนอก” ผมตอบก่อนจะดึงแขนอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน แน่นอนว่าการทำของผมได้เรียกเสียงกรี๊ดจากพวกนักเรียนหญิงเป็นอย่างมาก “ไปเถอะครับ เดี๋ยวอาหารมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเอง”
“ก็ได้ ไปก็ไป” ร่างบางตอบก่อนจะยอมเดินตามผมไปพร้อมกับพวกไอ้เสก
........................