ชีวิตฮาๆ ของนายสุร (อ่านว่า สุ-ระ) ตอน 18 นักปราชญ์2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตฮาๆ ของนายสุร (อ่านว่า สุ-ระ) ตอน 18 นักปราชญ์2  (อ่าน 11402 ครั้ง)

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พอสุรกับธาดาคุยเปิดอกกัน ก็ดูว่าความสัมพันธ์อาจจะดีขึ้น แต่จะพัฒนาต่อไปได้หรือเปล่าก็ต้องรอดู ส่วนปราชญ์ก็ยังได้เปรียบกว่าคนอื่นอยู่ เพราะอยู่กับสุร แต่ไม่แน่ใจว่านางจะเป็นรุกหรือรับ สมัยนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ส่วนคุณโต้งตอนนี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม

ส่วนนักเขียน ดีต่อใจมากกก มาอัปทุกวัน เราปริ่มใจมากกกกกก  :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเป็นใครกันหนอ

ออฟไลน์ antivirus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
ตอน 6

ประตูของสุร



“สีแดงสู้ๆ สีแดงสู้ตาย น้องสุรกรี๊ดดดดดด” เสียงเชียร์ข้างสนาม ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่กีฬาสีอินสตูเม้นท์ หลังซุ่มซ้อมกันมาได้เกือบสองวันก็งานมันยุ่งนี้ครับ ได้ซ้อมบ้างก็ดีแค่ไหนแล้ว อีกอย่างผมไม่ชอบอยู่กับลูกบอลนานด้วย

“ไม่ว่าวันนี้เราแพ้หรือชนะ ขอให้เราทำให้ดีที่สุดครับ” แมนกัปตันทีมกำลังปลุกใจพวกเราสีแดงอยู่ ผมนะเหรอหาวครับ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนเกือบเช้า ทำไมนะเหรอ ไว้ค่อยเล่าเถอะ ตอนนี้นกหวีดดังแล้ว พ่อแก้วแม่แก้วขอให้ลูกอยู่รอดปลอดภัย สาาาธุ...



“สีแดงลงสนามแล้ว ไหนขอเสียงชาวออฟฟิศโหน้ยยยย” พี่โอ๋เอ๋พิธีกรสาวประเภทสองกำลังแหกปากผ่านโทรโข่ง มีเสียงหอนดังแสบแก้วหูเป็นพักๆ ตามมาด้วยเสียงสาวน้อยสาวใหญ่กรี๊ดนักบอลที่ตนเชียร์ ฟังจากเสียงตอนแรกเหมือนผมจะฮอตใช่ไหม



แต่สู้คุณโต้งกับพี่ธาดาไม่ได้เลย สองคนนั้นเปรียบเหมือนหนุ่มในฝันของสาวทั้งออฟฟิศ คนหนึ่งหล่อเข้ม อีกคนขาวตี๋ตาโต เหมือนดาราเกาหลีอะไรแบบนั้น ส่วนฝั่งสีดำพวกโกดัง ไอ่ไฟมันก็ดังพอตัว หล่อแบบคุณหนูผู้ดี แค่นี้สาวก็มองข้ามความสถุนถ่อยไปหมดแล้ว



“โกลสีแดงน้องสุร ถ้าร้อนถอดเสื้อได้นะฮ้า” เสียงยุ ถอดเสื้อๆ ๆ ๆ ดังเข้ามา สักพักไอ่แมนยกมือขอเวลานอก บอลยังกระดอนไม่ทั่วสนามมึงขอเวลานอกทำไม

“กลัวไม่ได้ขอเหรอมึง” ผมกระทุ้งศอกถามมัน

“เพราะมึงอ่ะ” เกี่ยวอะไรกับกูวะ

“ทุกคนครับ.....” ไอ่แมนมันเหล่มองคุณโต้งนิดหน่อยแล้วพูดต่อ

“ทีมเราห้ามถอดเสื้อนะครับ”

“โห่....อะไรของมึงน้องแมน” นั่นดิ อะไรของมึงเนี่ย

“ครับ..มะ..มีเท่านี้ครับ” สมาชิกส่วนใหญ่ก็ส่ายหัว ทำหน้าระอากับกัปตัน บางคนเช่นพี่วัฒน์ไอทีบ่นว่าจะโชว์ซิกแพคซะหน่อย แต่มีแค่สองคนคุณโต้งและพี่ธาดากลับยิ้ม ส่วนผมรีบๆ หมดเวลาเถอะ ไม่ถอดเสื้อถอดกางเกงอะไรทั้งนั้น กูกำลังถอดใจ

“ระวังบอลด้วยนะ ฝั่งนั้นมันแรงเยอะ” พี่ธาดาศูนย์หน้า แต่เดินมาบอกผมที่โกลก่อนแข่ง แล้วก็เดินกลับไปอีก

“หลบบอลดีๆ” คุณโต้งบอกผมแต่ตาจ้องพี่ตี๋ เหมือนไม่ใช่ทีมเดียวกัน พี่ออยการเงินว่าทุกปีคุณโต้งไม่เคยลงมาเล่นกับพนักงาน ผมว่าเขาก็ไม่ได้ถือตัวนะ



เอ้า..ต้องบอกว่ารับลูกให้ได้นะไม่ใช่เหรอ ระหว่างนั้นหันมาไอ่ไฟยืนจังก้าหน้าผมแล้ว



“น้องไฟลากบอลมาจ่อหน้าประตูน้องสุร จะตีไข่น้องสุรแตกหรือไม่ น้องสุรเบี่ยงตัวหลบลูกบอล หนึ่งศูนย์ค๊าาา” ใครก็ได้เอาพี่โอ๋เอ๋ไปเก็บที พากย์ซะผมเป็นไส้ศึกเลย เหมือนปล่อยบอลเข้าประตูตัวเอง ซึ่งความจริงก็แค่ ..ผมกลัวลูกบอล



“ไอ่สุรมึงเป็นโกลต้องรับลูก เราไม่ได้เล่นบอลหลบมึงเก็ทนะ” ไอ่แมนหัวร้อนพ่นไฟใส่ผมชุดใหญ่ หันไปเจอคุณโต้งยิ้มให้ ผมก็เลยยิ้มแบบครึ่งเดียวตอบเขาไป



หันมาอีกที “ปรี๊ดดดดดดด” เสียงนกหวีดเริ่มเกมอีกครั้ง ใจผมเต้นรัวยิ่งกว่ากลองข้างสนาม เหงื่อซึมทั้งที่ยังไม่ได้วิ่ง เสียงรอบข้างอื้ออึง มันเหมือนวันนั้นไม่มีผิด ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว

“น้องโอ๊ดส่งบอลให้น้องจี ลากผ่านกองกลางแต่หลบน้องแมนไม่พ้น กองหลังโกดังพุ่งมาแล้วครับ และน้องไฟสกัดจนน้องแมนเสียหลักแต่ยังทรงตัวได้ บอลอยู่กับน้องไฟอีกครั้งและกำลังมุ่งสู่ประตูของน้องสุร คราวนี้โกลที่หน้าตาดีที่สุดในอินสตูเม้นท์จะรักษาประตูตัวเองไว้ได้ไหม และ และ และ...”



“ตุบ!!!!” เต็มๆ ครับ บอลอัดเต็มจมูกผม รู้สึกมึนชาไปทั้งหน้า วินาทีต่อมาเจ็บจึกเหมือนน้ำมูกไหลย้อยต้องรีบเช็ด จำได้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นหวัดนะ เห้ยย เลือด!!!



พรึ่บบบ!!!



“น้องเป็นลม”

“คุณโต้งผมอุ้มเอง”

ได้ยินแค่นั้น ภาพตรงหน้าก็พร่าเบลอและทุกอย่างก็มืดดับไป





อะไรเย็นๆ ทับหน้าผมอยู่ ลืมตาขึ้นมาไม่ใช่ไอ่แมน แต่..

“คุณโต้ง!!” ผมนอนตักคุณโต้งที่กำลังใช้ถุงสีฟ้าเย็นๆ ประคบให้เลือดหยุดไหล ตอนแรกนึกว่าน้ำแข็งแต่ไม่ใช่ สวัสดิการพนักงานบริษัทผมไม่ใช่ไก่กานะครับ

“ขะ แข่งเสร็จแล้วเหรอครับ” ผมไม่รู้จะถามอะไร แต่ลึกๆ ดีใจที่บอลจบแล้ว ผมเป็นลมเพราะกลัวเลือด อดคิดไม่ได้ว่า ไม่เหมาะจะมีแฟนจริงๆ กลับบอลกลัวเลือด ดีแล้วที่ปั่นทิ้งไปมีคนใหม่

“ทำหน้าเศร้าเลย ไม่ต้องคิดมากหรอก แค่แข่งสนุกๆ ไหนผมดูจมูกหน่อย ตกใจหมดอยู่ดีๆ ก็สลบ แมนบอกคุณกลัวเลือด ไม่งั้นผมเรียกรถพยาบาลแล้ว” คุณโต้งพูดไปก็ก้มมองจมูกผมจากทุกองศาที่เขาจะสามารถทำได้ เป็นเจ้านายที่รักลูกน้องจริงๆ อยู่กับพี่เทพมานานเหมือนผมขาดความอบอุ่น

“ดีขึ้นครับ ตอนเด็กผมเคยโดนบอลอัดหน้า เลย...ไม่ค่อยสนิทกับมันเท่าไหร่ ขอโทษที่ทำให้คุณโต้งพลอยหมดสนุกไปด้วยนะครับ”

“มิน่า คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” แปลกๆ เขาลูบหัวผมเหมือนพ่อปลอบลูก หรือไม่แปลกเขาอาจเอ็นดูผมแบบนั้น เพราะอายุเราห่างกันเกือบรอบครึ่ง



“น้องสุร” คุณโต้งชักมือกลับทันทีที่พี่ตี๋โผล่มา ตอนนี้เราสามคนอยู่ในห้อง เหมือนห้องเปลี่ยนชุดนักกีฬา เสียงกลองดังแว่วไกลๆ

“พี่ธาดา ไอ่แมนล่ะ” มันต้องงอนที่ผมเล่นไม่ได้เรื่องแน่ๆ แล้วผมก็นึกได้ พวกโกดังบอกจะจัดการมัน เพื่อนเทวดาของผมป่านนี้มันเป็นไงบ้างเนี่ย

“เห้ยยยย” หมับ!! รีบลุกยืนหน้ามึดเกือบล้ม ดีที่คุณโต้งรับไว้ทัน แล้วทำไมคุณโต้งมีสี่มือ เชี่ยยยยยยยยยยย ผมถูกคุณโต้งกับพี่ธาดากอดแบบแซนวิส อา...คำมันไม่ทำให้คุณคิดลึกใช่ไหม ก็ผมนึกคำอื่นอธิบายแทนไม่ออกจริงๆ

“คุณโต้งปล่อยเถอะครับ ผมดูน้องผมเอง” นี่ผมมีพี่ชายชื่อธาดาตั้งแต่เมื่อไหร่

“คุณนั่นแหละปล่อย นี่คนของผม ผมดูแลได้” จะแย่งกันประคองกูทำไมครับ ระ..หรือว่า...คุณโต้งก็คิดกับผมเหมือนที่ธาดา ฉิบหายอึ้งสัดๆ รัดแน่ๆ รัดเข็มขัดแน่นๆ กลัวเสียประตู แต่ผมใส่ชุดบอลไม่มีเข็มขัด มัดเชือกแบบเงื่อนตายไปเลยดีไหม



“ผม..โอเคแล้วครับ ขอบคุณครับ” ผมไม่ยอมเป็นไส้ในแซนวิสหรอกนะ เนียนออกมาได้ในที่สุด หันไปหันมาจนเจอกระเป๋า ล้วงหามือถือไลน์หาผู้ช่วยเทวดาด่วนๆ



Sura: สัดมึงอยู่ไหน

man: มึงฟื้นแล้ว? (ยังมั้งนี่วิญญาณกูพิมพ์อยู่)

Sura: มาช่วยกูเดี๋ยวนี้ ที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

man: ใครจะปล้ำมึง



“หิวไหม” รีบซุกมือถือเข้ากระเป๋าเป้ เงยหน้ามองคนถามเสียงอ่อนโยน ใช่อ่อนโยนจนผมขนลุกซู่ไปหมดแล้ว

“คุณโต้งจะเลี้ยงเหรอครับ ผมไปด้วยนะ” ขนลุกคูณสองตอนเห็นสายตาของสองคนนั้นมองกัน ผมไม่อยากจะเปรียบนะแต่มันเหมือนจริงๆ ผมเป็นกระดูกแล้วพวกเขาเป็นหมาสองตัวขู่กันทางสายตาเพื่อแย่งผมไปแทะ



“ไอ่สุร” เพื่อนเทวดาของกู รักมึงมาก ก้าวขาหาแมนทันที

“ผมไปกินกับมันก็ได้ครับ ไม่..ไม่รบกวนคุณโต้งกับพี่ธาดาดีกว่า” แมนมันมองผมด้วยสายตาสู่รู้

“ไปกันหมดนี่แหละ ผมก็ยังไม่ได้กิน หิวเหมือนกัน” เจ้านายว่าอย่างนั้น ใครในนี้จะกล้าขัด พี่ธาดามองคุณโต้งเหมือนจะกัดกัน เอ่อ..ผมไม่ได้ลามปามผู้ใหญ่นะ ก็มันเห็นภาพชัดที่สุดผมก็เลยเอามาเปรียบ



ที่โต๊ะใกล้สนาม ตอนนี้มีแข่งปิงปอง บางส่วนก็เชียร์ บางคนก็นั่งยึดโต๊ะกินข้าว ขนม และน้ำอัดลม โนเหล้าเบียร์ครับ เพราะสนามเช่าเขาจะปรับยี่สิบเท่าของค่าเช่า ถ้าเอาของมึนเมาเข้ามา

“น้องสุรนั่งๆ พี่ไปตักมาให้ เอาอะไร”

“ผมเอาน้ำให้ คุณเอาอะไรสุร”

“กูว่ามันแปลกๆ” ไอ่แมนกระซิบ กูรู้ก่อนมึงอี๊ก

“ผมไปตักเองได้ครับ ขอบคุณครับ” แล้วก็ลากแขนเพื่อนไปที่โซนของกิน เลือกตักผัดเส้นใหญ่

“น้องสุรเป็นไงบ้าง คราบเลือดยังอยู่เลย เจ็บไหม” เจ็บสิครับถามได้ ลองเองไหมล่ะ

“ดีขึ้นแล้วครับ ขอบคุณครับ”



แล้วก็มีพี่น้องชาวอินสตูเม้นท์อีกหลายคนเวียนมาถาม ดูจมูกผมแล้วทำหน้าเหมือนผมต้องศัลยกรรมใหม่ที่เกาหลี

“มึงเล่นได้ห่วยบรม” ขอบคุณที่ชม

“กู..กลัวบอล เคยโดนอัดหน้า จมูกหัก” เรื่องจริงผ่านจอ เพื่อนมันอึ้งไป ก่อนจะตอบกลับเสียงเบา

“แล้วมึงมาเล่นให้กูทำไม”

“กลัวมึงหาใครไม่ได้ไง”

“” ไอ่สุร”

“เอออ ไม่ต้องมาทำตาซึ้ง” น้ำตาคลอเชียว

“เปล่ามึงเหยียบตีนกู สัดรองเท้าสตั๊ดเลยนะมึง อู๊ยย บอกกลัวบอลแต่มีรองเท้าเล่นบอลจัดเต็มกว่ากูอีก”

“อ่ะ โทษๆ รองเท้ากูยืมเมตมา” ผมยืมอมรมา ยืมเองอนุญาตเอง





หลังจากนั้นผมกับแมนก็ซัดเรียบ หิวมากตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร ระหว่างกินคุณโต้งกับพี่ธาดาก็จะตีกันอีกรอบ



“ลูกชิ้นหมูอร่อยนะ คุณชอบนี่” คุณโต้งว่าแล้วก็หย่อนลูกชิ้นหมูนายฮั่งเพ้งให้ผมสองสามลูก

“ลูกชิ้นเนื้อกินเข้าไปเลย ชอบไม่ใช่เหรอเรา” พี่ธาดาไม่น้อยหน้าคีบลูกชิ้นเนื้อไม่ทราบยี่ห้อใส่ชามผมบ้าง



“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ” ผมหันไปหาไอ่แมน ขอความช่วยเหลือ แต่เห็นมันเอาแต่จ้องไปทางพวกโกดังด้วยสายตาเคียดแค้น ใช้เข่ากระทบขามันถึงรู้ตัว หันมาทำหน้าเอ๋อใส่กูอีก แม่งพึ่งพาไม่ได้

“ต่ายสวยจังเลยนะครับวันนี้” ผมแซวต่ายที่เดินผ่าน วันนี้เธอสวยจริงเกงยีนต์รัดรูปเสื้อแดงขับผิว ผมดัดลอน ขนตาน่าจะติดเพิ่มปรกติไม่เห็นยาวขนาดนี้

“สุรปากหวาน” เธอตอบผมแต่สายตาตัดพ้อพี่ชิปปิ้งอย่างไม่ปิดบัง แมนคงจะมีเรื่องถามผมเพิ่มแน่ๆ

“นึกได้ว่ามีธุระ ผมขอกลับก่อนนะครับคุณโต้ง” อ่ะ..พี่ธาดาลุกพรวดเดินไปแล้ว ต่ายวิ่งตามไปติดๆ คุณโต้งมองตามสองคนนั้นแล้วยิ้ม เป็นรอยยิ้มเหมือนผู้ร้ายในหนังไม่มีผิด เริ่มน่ากลัวแล้วนะผมว่า

“อิ่มแล้วกลับเลยไหม ผมไปส่ง” คุณโต้งคนเดิมแต่เปลี่ยนสีหน้าราวกับคนละคน

“ผมมีนัดกับไอ่แมน จะไปส่งมันดูมือถือใหม่นะครับ” ภาวนาในใจไอ่แมนอย่าโง่ อย่าโง่ อย่าซื่อตอนนี้ขอร้อง

“คะ ครับ” เฮ้อออ

“ดูก็ดูครับ” ไอ่แมนนนนนนน

“อ้อ..งั้นผมขอตัวนะ” เจ้านายลุกไปแล้ว



เฮ้ออออออออออออ



“อะไรจะขนาดนั้นมึง” แมนหันมาถามผม แต่ขอโทษมึงถอนเฮือกใหญ่กว่ากูอีก

“หรือมึงไม่อึดอัด” มันไม่ตอบแต่ทำหน้าอยากรู้ขั้นสุด

“มึงกับสองคนนั้นอะไรยังไง เขารุมมึงเหรอ”

“รุมผ่อง มึงพูดดีๆ นะ”

“หมายถึงรุมจีบไง กูมองจากโกลอีกฝั่งยังเห็นเลย พี่ธาดากับคุณโต้งมองมึงมากกว่ามองบอลอีก แล้วก็นะคุณโต้งเดินมาสั่งกูให้ขอเวลานอก บอกว่าห้ามทุกคนถอดเสื้อ หลังจากที่มีเสียงยุให้มึงถอดอ่ะ ธรรมดาไหมทีนี้” เรื่องบ้าบอที่สุด เท่าที่ผมเคยเครียดมาเลย

“กูก็สับสนอยู่”

“สับสนที่เขารุม ‘จีบ’ หรือสับสนทางเพศ” มึงพูดไม่เข้าหูกูนะ

“กูก็พูดไปตามที่เห็น อย่ามองกูแบบนั้นดิ”

“คุณโต้งอาจเห็นกูเป็นลูกน้องเขาก็ได้ แล้วกูก็บาดเจ็บเขาก็ต้องดูแล ส่วนพี่ธาดาเขาก็ห่วงกูแบบน้องชายอ่ะ” มันเบ้ปากใส่

“มึงมันเดียงสา เขาจีบมึงก็คิดว่าเขาเอ็นดู เขาอยากดูเอ็นมึงจำเอาไว้ แล้วมึงดูกู โดนไอ่ฟายสกัดขาเขียว คุณโต้งไม่แลหางตามามองสักนิด ส่วนพี่ธาดาเอาแต่เรียกมึง เคยได้ยินเขาเรียกกูว่าน้องแมนไหม ไม่เค้ยไม่เคย”

จนมุม..ต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง

“สรุปเราแพ้ใช่มะ” พูดถึงแพ้ไอ่แมนหน้าจ๋อยเลย

“กูขอโทษนะ” เพราะผมรักษาประตูไม่ได้

“ช่างเถอะ เออมึงเรื่องต่ายกับพี่ธา..” ผมยกมืออุดปากของมันให้มืดหน่อย สว่างเกินไปแล้ว

“แต่เขาจีบมึง” ไอ่เชี่ยนี้

“แล้วมึงจะเสียงดังทำไม ไปกลับๆ” งานกีฬาไม่บังคับครับ ใครจะอยู่ก็ขอบใจ ใครจะไปก็ไม่แคร์ ผมกับแมนก็ว่าจะกลับแล้ว อยู่ไปก็อายเขาเปล่าๆ

ระหว่างเดินออกไปป้ายรถเมล์ ดีแค่ไหนที่ผมกับเพื่อนไม่ได้นินทาใคร

“น้องสุร” พี่มาพร้อมกะบะคู่ใจ ขับตามพวกผมตอนไหนอ่ะไม่เห็นรู้ตัว นึกว่าเสร็จน้องต่ายไปแล้วนะเนี่ย

“พี่ธาดาเดินมาสองคนแต่ไหงเรียกแต่มัน ผมชื่อแมนครับเรียกผมบ้างผมเหงา” มันกวนตีนเขา ผมดูออก

“หึหึ ขึ้นมาๆ” แต่พี่ตี๋ดูอารมณ์ดีเหมือนยังไม่รู้ตัว

แล้วเราสองเทวดาก็ขึ้นไปเป็นผู้โดยสารให้พี่เขาขับไปส่ง ห้างใกล้ๆ นี่แหละครับ ผมจะแวะซื้อยา ส่วนไอ่แมนอยากกินไอติม เดี๋ยวกินมาขนาดนั้นมึงยังกินได้อีกเหรอ

“พี่ธาดาส่งพวกผมป้ายหน้าห้างก็ได้ครับ” พี่เขาเหมือนไม่ได้ยิน เลี้ยวรถเข้าห้างหน้าตาเฉย

“พี่!!”

“ไปด้วยไม่ได้เหรอ พี่ก็อยากกินไอติม” เขาจอดรถแล้วหันมาบอก ตอนพูดว่าไอติมพี่มองต่ำที่ตักผม แมนช่วยกูด้วย



เดินสามคนเข้าห้าง แต่ทำไมรู้สึกเหมือนเดินสองคน ไอ่แมน อ้าวไอ่เพื่อนเลวเทกูเหรอ ไลน์หามันว่าอยู่ไหน เดินๆ อยู่แม่งหายหัว มันบอกว่าท้องเสียเดินไปก่อนเลย

“ไปนั่งรอแมนที่ร้านไอติมไหม” พี่เขาชวน ก็ดีครับยืนรอก็เบื่อ ไม่มีอะไรจะคุยด้วย

ระหว่างที่ผมกับพี่ตี๋นั่งเลือกเมนูอยู่นั้น



“สุ!!” พี่ปราชญ์ พี่เขาคงไม่รู้หรอกว่าเป็นพระมาโปรดผมแค่ไหน

“ปราชญ์ มาไงนั่งๆ” ผมขยับเชื้อเชิญ ส่วนพี่ธาดามองตาขวางใส่

หึหึ ผมมีแผนครับ

“นี่พี่ที่ทำงานสุ แล้วก็นี่เมตผมครับ” ผมตั้งใจให้พี่ตี๋เข้าผิดครับ จะได้เลิกคิดอกุศลกับผมสักที แต่....



“หน้าคุ้นๆ นะ” อ่ะ..คือร่ะ

“ปราชญ์สัดแพด รุ่นห้าสามป่ะ”

“มึงธาดาบีเอโธ่กูก็ว่าคุ้นๆ” รู้จักกัน จบแยก อยากแดกยากันยุง

“พี่สองคนรู้จักกันเหรอ” คิดอะไรไม่ออกถามอะไรโง่ๆ ไปก่อนแล้วกัน

“สนิทกันตอนประกวนเดือน แล้วนี่น้องสุรเป็น” ดีใจที่พี่ธาดาเข้าใจแบบนั้น แต่พี่สองคนรู้จักกันแล้ว มันจะได้ผลอีกไหมเล่า

“ตามที่เห็น” ผมตาโตมองพี่ปราชญ์ พี่ธาดาทำหน้าอึ้งๆ หรือว่าพี่เขาจะเชื่อ ยังไงก็ตามผมจะเงียบไม่ปฏิเสธอะไรทั้งนั้น



“สุจมูกแดงมากเลย แล้วนั่นคราบเลือดเหรอ ไหนดูหน่อย” มือเย็นของเขาจับแก้มผมให้หันไปหาตัวเอง สายตาเป็นห่วงที่ส่งมาจ้องที่แผลผม ไม่รู้สิหัวใจผมเต้นแรง เขายังจ้อง จ้อง และจ้อง จะหลบก็จะไม่สมจริง เดี๋ยวพี่ธาดารู้ ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เอาไงดี จ้องก็จ้องวะ

เหมือนดวงดาวลอยเคว้งไปในอากาศ หลุดวงโคจรของตัวเองไปชั่วขณะ ตาพี่ปราชญ์สีดำสนิท ดำชนิดที่ผมไม่เคยเห็นตาใครจะดำเท่านี้มาก่อน รู้สึกเสื้อบอลขยับตามอัตราการเต้นของหัวใจ ผมถูกสายตาของเขาตรึงไว้ไม่ให้หนีไปมองที่อื่น

“น้องสุรโดนบอลอัดหน้า” เสียงพี่ธาดา ทำให้ดวงตาสีดำคู่นั้นปล่อยผมให้เป็นอิสระ

“เจ็บไหม เดี๋ยวปราชญ์พาซื้อยาใส่นะ” จากน้ำเสียงและท่าทีนั้น พี่ธาดาคงเชื่อสนิทใจว่าเราเป็นอะไรกัน ว่าแต่ที่ผมรู้สึกมันคืออะไร กับปั่นยังไม่เคยเป็นเลย ปั่นตาสีอะไรกูยังนึกไม่ออกเลยครับ

“ไม่ ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ”

พนักงานมารับเมนูพอดี ผมโดนพี่หมอ (หมา) สั่งว่าให้กินแค่ถ้วยเล็ก ของหวานจะทำให้ปวดแผลเขาว่า ผมก็เชื่อฟังนะ ไม่ใช่อะไรตอนนี้ในหัวเบลอไปหมด ส่วนพี่ธาดาเหมือนพร็อบไปแล้ว พูดอะไรไม่รู้ผมฟังแต่ไม่เข้าหัวเลย ปล่อยพวกคุยกันไป

ไลน์หาไอ่แมน เพิ่งนึกได้ว่าเพื่อนท้องเสีย ตกส้วมไปรึยังมึง มันตอบมาว่าเพลียขอกลับก่อน ไอ่นี่เทกู ดีนะเจอพี่ปราชญ์

“ปราชญ์เย็นนี้กินผัดหนังปลาอีกนะ” เผลออ้อนเขาไปไม่รู้ตัว มันเป็นไปเองตอนอยู่กับเขาผมคงชิน

“ปลาดอลลี่เหรอได้ๆ”

“กูว่ามีธุระว่ะ ขอตัวก่อนดีกว่า” พี่ตี๋ตีหน้าเศร้าเดินจากพวกเราไปแล้ว ผมทั้งโล่งใจและรู้สึกผิด ถ้าเขาคิดอะไรกับผมจริง ผมก็ใจร้ายพอสมควร แต่คนไม่คิดอะไร ดียังไงก็ไม่ใช่รึเปล่า

“เขาจีบอ่ะดิ” อ่ะพี่รู้

“แต่สุไม่ชอบ” ผมถลึงตาคาบช้อนไอติมค้าง

“ปราชญ์รู้น่า แค่อยากให้เขาเลิกยุ่ง แต่สุ..ขออะไรอย่างดิ” นาทีนี้ได้ทุกอย่างครับพี่

“ได้หมดครับขอมา”

“อย่าเล่นบอลอีกได้ป่ะ”

“ก็ไม่ได้อยากเล่นหรอก มันจำเป็น ว่าแต่ทำไมขอเรื่องนี้ ห่วงหรา” ผมกะจะพูดเล่นๆ



“สุไม่รู้หรอก ว่า..ประตูของสุ มันน่ายิงแค่ไหน”







;ทุกคนจะรุมยิงประตูของสุรไม่ได้นะ ตอนนี้ออกมาครบทุกคน แต่พี่ปราชญ์ยังเป็นแมนออฟเดอะแมตช์

By Symbol A
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2019 16:23:52 โดย antivirus »

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สุรหวั่นไหวกับปราชญ์สุดดด ยังไม่อยากเชียร์ใครมากเกินไป ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาตินะสุร เพราะยังไงแต่ละคนนี่ก็โปรไฟล์ดีๆทั้งนั้น อิอิอิอิอิ

นักเขียนสู้ๆนะ สนุกมากจ้า  :katai4: o13

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
คิดมาก 4p ไปเลย

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สรุปปราญช์จะมาวินหรือนี่ อ่านแล้วหายเครียดดีค่ะเรื่องนี้ น้องสุรความคิดฮาๆตลอด อ่านไปหัวเราะน้องไป ที่จริงถ้าไม่มีหนุ่มๆมารุมจีบ สุรก็ดูจะเป็นหนุ่มฮอตประจำบริษัทคนนึงเลย

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ถ้าไม่รู้จะตัดใครออก
ก็ 4p ไปเลยจ้าาาาาาาาาา

 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขำความคิดของสุก็นะหนุ่มฮอตใครๆก็อยากยิงประตูสุร

ออฟไลน์ antivirus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
ตอน 7

เพลงของสุร



พี่หนุ่มมันนี่โค้ชเคยสอนไว้ว่า รายได้เหมือนไข่ไก่อย่าเก็บไข่ทั้งหมดไว้ที่เดียว ถ้ามันแตกจะไม่เหลืออะไรเลย เราจะกลายเป็นบุคคลถังแตกโดยสมบูรณ์

ผมเป็นเทวดาที่ต้องอาศัยปัจจัยสี่ในการดำรงชีพ ดังนั้นเมื่อรายได้จากเงินเดือนประจำ ดูจะไม่มั่นคง ก็ปาเข้าไปจะค่อนเดือนแล้ว ผมยังหาหลักฐานอะไรมาแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ ไม่ต้องถามป้าหมอดูใต้สะพานลอย ก็พอจะรู้ตัวว่า สถานะคนตกงาน และอาจพ่วงด้วยประวัติทุจริต ผมอาจไม่มีที่ยืนในงานประจำอีกแล้ว

“ดูไรมึง” เพื่อนเทวดา วันนี้มาทักผมแต่เช้า ไม่บ่อยที่คนอย่างมันจะมาก่อนเวลาเข้างาน

“แมนอาทิตย์นี้มึงว่างไหมวะ” ผมกำลังมองหาลู่ทางหาไข่เพิ่ม อนาคตตกงานจะได้ไม่อดตาย

“โรงเกลือมึงจะไปเหรอ” มันชะโงกหน้ามาดูหน้าจอมือถือผม

“กูจะไปหาของมาขายที่ตลาดนัดหลังราม” และเพื่อป้องกันความเสี่ยง ผมต้องหาผู้ร่วมลงทุน ขาดทุนจะได้มีคนช่วยหารความเสียหาย

“ไอเดียดีนี่หว่า กูว่าเทรนออกกำลังกายยังแรงนะ แต่คนขายพวกรองเท้าชุดกีฬาเยอะแล้ว” มันเก๊กทำท่าเป็นกูรู

“ถึงต้องไปดูก่อนไง ว่ามีอะไรที่เราจะรับมาต่อยอดทำกำไรได้บ้าง” ตอนนี้สองตาที่เบิกกว้างของผมมีแต่เงิน เงิน และเงิน คิดไกลไปถึงว่าเป็นพ่อค้าขายของตลาดนัดเต็มตัวแล้ว ไฟแรงชนิดที่ว่าน้ำทั้งโลกก็มาดับฝันของฉันไม่ได้

“น้องสุรคุณโต้งเรียก” เก็บความฝันไว้ก่อน ตอนนี้ต้องตื่นไปเผชิญกับความจริง แมนมันพยักหน้าให้ ไม่ต้องโบกมือบ้ายบายเพราะยังไงเที่ยงก็หัวชนกันอีกรอบอยู่ดี



เดินขึ้นห้องทำงานใหม่ที่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว เจอคุณโต้งที่โซนชงกาแฟ คุณโต้งเป็นเจ้านายตัวอย่างครับ ผมเคยชงกาแฟให้เขาแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นเขาชงเผื่อผมตลอดเลย อิจฉาผมอ่ะเด้

“ผมช่วยครับ” หมายถึงช่วยยกน่ะ

“แก้วนี้ของคุณ” เขาชี้แก้วที่สีเข้มน้อยกว่า เจ้านายจำได้ว่าของผมกาแฟหนึ่ง น้ำตาลครึ่งช้อน ไมโลสอง ครีมเทียมไม่เอา เล่าไปน้ำตาจะไหลครับ อยากกอดคุณโต้งไว้นานๆ เขาเป็นเจ้านายที่ใจดีที่สุดในโลก ถ้าเทียบกับพี่เทพ

“ขอบคุณครับ คุณโต้งชงกาแฟอร๊อยอร่อย” คุณโต้งทำหน้านิ่งสักพักก็ยิ้มออกมา เดินตามเจ้านายเข้าห้องทำงาน ก่อนจะเริ่มท้อแท้อีกครั้ง อีกสี่วันจะสิ้นเดือนแล้วเหรอวะ

“สุรว่างไหม” ครับว่างครับอาจจะว่างตลอดไปเลย ถ้าคุณไล่ผมออก

“ถ้าไม่มีอะไรด่วน มานั่งคุยกับผมหน่อย” ผมรับคำ ก่อนลุกก็หันไปมองกาแฟที่คุณโต้งชงให้ นี่มันเป็นกาแฟสั่งลางั้นเหรอ เฮ้อออ



“นั่งสิ”

เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามคุณโต้งมีผมจับจองเต็มพื้นที่ ทนสบตาเจ้านายไม่ได้ ต้องก้มหน้ามองแฟ้มสีน้ำเงินบนโต๊ะแทน

“ทำไมคุณดูเครียดๆ” จะไม่ให้ผมเครียดหน่อยเหรอครับ คุณจะไล่ผมออกนะ

“ผม..ยังหาหลักฐานที่ว่า ไม่ได้เลยครับ” หมดปัญญา เคยดูซีรี่ย์แนวเฉือนคม ลบเหลี่ยมแต่ไม่ช่วยอะไรเลย

“อ๋อ..เรื่องนั้นเอง” ครับเรื่องนั่นแหละ ชีวิตผมจะมีอะไรเครียดกว่าจะโดนไล่ออกล่ะ ก็เรื่องพี่ธาดากับคุณโต้งรุมจีบผมไม่มีอะไรแล้วนี่นา



อา..ไหนใครตกข่าว มายืนตรงนี้ผมจะอัปเดตให้ฟังสั้นๆ หนึ่งพี่ธาดาพาแฟนสาวมาที่บริษัทวันก่อน อันนี้แมนมันเล่า สองคุณโต้งมีคู่หมั้นแล้ว พี่โอ๋เอ๋บอกว่า รู้แล้วเหยียบไว้เลย คุณก็อย่าไปเล่าต่อนะ เดี๋ยวผมซวย!!



“คุณโต้งจะไล่ผมออก สิ้นเดือนนี้เลยไหมครับ” ผมจะได้วางแผน เปลี่ยนแนวไปเป็นพ่อค้าอย่างที่ตั้งใจไว้

“ไล่ออก” สองคำนั้นไม่ควรตามมาด้วยเสียงหัวเราะนะครับ

“ครับ..ก็ผมหาอะไรมายืนยันความบริสุทธิ์ไม่ได้”

“ความบริสุทธิ์ของคุณ...ผมก็อยากได้นะ แต่....” จะเว้นให้ผมลุ้นทำไมเนี่ย เหมือนพี่ปราชญ์อีกแระ แล้วพี่เขาเกี่ยวอะไรด้วย

“ถ้าไม่มีหลักฐาน ผมก็มีวิธีพิสูจน์ของผม” อ้าว..แล้วทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แรกล่ะครับ ไอ่วิธีของคุณเนี่ย

“ยังไงครับ ผมพร้อม” คนไม่ผิดจะให้ไปลุยไฟก็ไม่กลัวหรอก

“อาทิตย์นี้ไปกับผม” ไม่ว่างผมจะไปโรงเกลือ

“ไม่ว่างเหรอ”

“ว่างครับ” ถ้ามันจะจบปัญหานี้ผมก็ต้องว่าง

“สุร ผมเชื่อนะ ว่าคุณบริสุทธิ์ และก็ยังยืนยันว่า...อยากได้ความบริสุทธิ์ของคุณ”

“ขอบคุณครับ” ขอบคุณที่เชื่อผม แต่..ประโยคหลังมันทะแม่งๆ เนอะ



กลับมานั่งที่โต๊ะแล้วแต่ความงงยังตามไม่เลิก บางครั้งที่ผมเงยหน้าขึ้นมองอะไรเพลินๆ แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับสายตาเจ้านายเข้า รีบเปลี่ยนโฟกัสทันที เมื่อไหร่จะพักเที่ยง....



วันนี้วันศุกร์ รออีกแค่วันเดียวผมก็จะไม่ต้องเครียดเรื่องทุจริตแล้ว รู้สึกแทบจะทนรอไม่ไหว เรื่องโรงเกลือแมนว่าค่อยไปก็ได้ เขายังไม่ย้ายหนีหรอก



เย็นวันนั้นให้ทายว่าผมเจอใครที่ป้ายรถเมล์ พี่ตี๋ชิปปิ้งครับ ดูท่าทางเขาเหนื่อยๆ แต่พอเห็นผมก็ยิ้มรอทันที

“รถพี่เสีย วันนี้กลับด้วยนะ” อ้ออย่างนี้เอง

“ครับพี่อยู่ไหน ผมจะช่วยดูสายให้”

“สายเดียวกับเราแหละ”

“งั้นก็ดีเลยครับ” เขาคงอยากได้เพื่อนร่วมทาง ขับรถส่วนตัวจนชินก็อย่างนี้แหละ

“พี่กลับพร้อมผมได้ทุกวันเลยนะครับ จนกว่ารถพี่จะซ่อมเสร็จ”

“จีบติดโน่นพี่จะเลิก”

“อะไรนะครับ” เสียงรถรามันดัง ผมได้ยินไม่ถนัด

“อ๋อ..พี่ว่า รอมันสตาร์ติดก่อนค่อยว่ากัน” ใครเคยส่งรถซ่อมบ้าง นานไหมครับ ผมก็ไม่รู้ไม่เคยมีรถส่วนตัว อาศัยรถสองประตูยี่สิบหน้าต่างตลอด ปัญหาคือเวลารอมันไม่มา เวลามันมา เราดันไม่ได้รอแค่นั้นแหละ



“รอแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ” ผมพยักหน้าตอบ “ครับ”

“เหนื่อยแย่เลย ยืนนานเมื่อยอีก” โธ่พี่ตี๋ แลดูพี่เขาเป็นคุณหนูตกยาก อะไรแบบนั้น

“ชินแล้วครับ พี่ไหวไหมอีกเดี๋ยวมันก็มา” ผมกะเอา เพราะรอแบบนี้มาปีกว่ารู้เวลาแล้ว

“นั่น ใช่ไหม” พี่ชี้ไม้ชี้มือให้ผม ใช่ที่ไหนล่ะ

“ไม่ใช่ครับ สายที่เราจะขึ้นมันมีแถบสีขาวข้างหน้า พี่ดูคันนี้มันมีแถบสีฟ้า” พี่ธาดาตั้งใจดูตามที่ผมสอน ดูไว้นะพี่ เผื่อมารอคนเดียวจะได้ไม่หลง

“แล้วคันนั้น ใช่ไหม” เพราะพี่ตัวสูงมองเห็นรถได้ก่อนคนอื่น ผมมองตามเออถูกจริงด้วย

“เก่งนะเนี่ย” คนโดนชมยักคิ้วข้างเดียวให้ หน้าตาดีทำอะไรก็ดูดี อยากเห็นแฟนพี่เขาแล้วสิ สู้ต่ายได้ไหมนะ

รถเมล์ชะลอเพื่อรับผู้โดยสาร เพราะบริษัทผมเลิกงานเร็วกว่าชาวบ้าน ก็ไม่ต้องไปเบียดมาก แต่ข้อเสียคือแดดยังจ้าอยู่เลย นั่งผิดฝั่งกว่าจะถึงห้องอาจจะเกรียมได้

“พี่นั่งฝั่งนี้” ผมดึงเสื้อพี่ตี๋เมื่อเขาทำท่าจะไปนั่งอีกฝั่ง งงใส่ผมแต่ก็ยอมมานั่งไม่ได้เถียงอะไร ฝั่งที่ถูกต้องตอนขึ้นจะร้อน คนจะไม่ค่อยมานั่งกัน

พี่ธาดาเดินเข้าไปนั่งติดหน้าต่าง “ฝั่งนี้ร้อนนะ” บ่นทันที ไม่รู้อะไรเงียบไปเลยน่า

“เดี๋ยวเลี้ยวหน้า แดดก็ไปฝั่งนั้นแล้วครับ” เขาพยักหน้าเข้าใจ นั่งไปสักพักก็เริ่มเห็นว่าพี่ตัวใหญ่บังแดดให้ผมหมด แต่วิวข้างทางผมมีแต่หน้าพี่ตี๋

ก๊อบแก๊บๆ ป้ากระเป๋าเดินมาเขย่ากระป๋องเหล็กที่ใส่เศษเหรียญ แบบว่ามึงจ่ายตังค์มาให้ไว

“น้องสุรเราลงไหน” พี่เขาคงไม่เคยขึ้นรถเมล์จริงๆ ผมยื่นแบงค์สีเขียวให้ป้าบอกว่าสองคนครับ ได้ตังค์ทอนแล้วก็สอนพี่ตี๋

“รถเมล์ไม่ต้องบอกหรอกครับว่าลงไหน เพราะเก้าบาทตลอดสาย พี่จะขึ้นแล้วลงเลยก็เก้าบาท แต่ถ้าพี่ขึ้น รถแอร์ค่อยบอกว่าลงไหนราคาจะไม่เท่ากัน”

“..........” เขาทำหน้าเข้าใจ ยื่นแบงค์ร้อยให้ผม



“เก้าบาทเองครับไม่เป็นไร”

“ไม่ได้ เอางี๊พรุ่งนี้พี่ออก”

“ไม่มีปัญหาครับ แต่พี่หาแบงค์ยี่สิบมาดีกว่านะ แบงค์ใหญ่เขาจะด่าเอา” ผมกระซิบเขายิ้มให้ คุณหนูจริงๆ เลยพี่ชิปปิ้ง



“เดี๋ยวไม่ร้อนแล้ว น้องสุรค่อยมานั่งข้างในนะ” แทคแคร์เหมือนผมเป็นสาวน้อย แต่พี่มีแฟนแล้ว ที่ผ่านมาผมคงมโนไปเอง

“พี่อย่าไปทำแบบนี้กับสาวที่ไหนนะ” สงสารแฟนพี่

“แบบไหน”

“แบบ..เอาอกเอาใจเขาไง”

“หมายความว่า?” ผมแม่งไม่น่าจุดประเด็นเลย จะอธิบายต่อยังไงล่ะทีนี้

“ก็..พี่ชอบทำใจดี ผมก็เลยเตือนว่า อย่าไปใจดีกับสาวคนอื่น เขาจะหลงเอา” หน้าตาก็ดี ดูแลดี ใครจะไม่ชอบ

“หื้มมม” ลากเสียงสูงหันมาจ้องผมไปด้วย

“ยังไงดีล่ะ....พี่เคยได้ยินเพลงนี้ไหม อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหม” ยิ่งอธิบายทำไมเหมือนผมหลงเขาเลยวะ

“น้องสุรจะบอกว่า พี่ให้ความหวังน้องเหรอ” สัด..อยากกระโดดหน้าต่างรถเมล์

“คิดซะว่าผมไม่ได้พูดเถอะพี่” จะบอกว่า พี่มีแฟนแล้ว จะไปให้ความหวังสาวมันไม่ดี ถึงไม่รู้ตัวก็เถอะ แต่เดี๋ยวเขาก็ต้องถามต่อ รู้เรื่องแฟนพี่ได้ไง ไอ่แมนก็ซวยอีก ขายเพื่อนไม่ใช่นิสัยผม ดังนั้นผมจะยอมเป็นผู้ไม่น่าไว้ใจให้พี่เขาเอง

“น้องสุรแต่...”

“อ่ะ นั่นไงครับ เลี้ยวเสร็จฝั่งเราจะแดดร่มลมตกทันที” เปลี่ยนเรื่องไปดื้อๆ พี่ก็หันไปมองนอกหน้าต่าง ปิดประเด็นนายธาดาผู้ขายความหวังไปแบบเนียนๆ

รถเลี้ยวมาได้สักพักแล้ว ผมเสียบหูฟัง แบ่งให้พี่เขาไปคนละข้าง ดีกว่าชวนกันคุย ผมพูดไม่เก่ง หรือเขาไม่เข้าใจก็ไม่อาจรู้ได้ คุยกันแต่ละเรื่อง ผมไปต่อไม่ถูกตลอดเลย อย่างเช่น



“ก่อนหน้าที่พี่จะมาทำงานนี้ ทำอะไรมาก่อนเหรอครับ”

“ขายของ”

“จริงดิ ขายอะไร”

“พวกของเล่นโมเดล ขายตั้งแต่สมัยเรียน นำเข้าเอง เช่าตู้ที่สะพานเหล็ก เมื่อก่อนมันยังบูมมากแต่ตอนนี้ กลายเป็นแค่ตำนานไปแล้ว”

“สะพานเหล็ก ที่เขารื้อป่ะพี่”

“อือ”

“เก่งว่ะ” เป็นชิปปิ้งตั้งแต่สมัยเรียนสุดยอดมาก

“พี่ชอบขายของ”

“ผมก็ว่าจะขาย” มันหลุดปาก

“ขายอะไร ที่ไหน พี่ลงหุ้นด้วยดิ” ลงหุ้น ฟังดูเหมือนผมจะมีคนร่วมหารความเสี่ยงเพิ่มอีกคน

“ยังไม่รู้เลยครับ ว่าจะไปหาของที่โรงเกลือ แล้วก็ค่อยคิด ก็ว่าจะขายกับไอ่แมนที่ตลาดหลังราม”

“งั้นก็ต้องเป็นของวัยรุ่นๆ น่าสนใจนะ ไปอาทิตย์นี้เลยไหมเอารถพี่ไป” พี่ใจดีแต่พี่ลืมไปรึเปล่าว่า

“แต่รถพี่ส่งซ่อม” เขาเงียบไป คงเพิ่งจะนึกได้เหมือนกัน

“ยะ..ยืมเพื่อนไปก็ได้” พี่ตี๋มีวิญญาณพ่อค้าสูงจริงๆ

“แต่อาทิตย์นี้ผมไม่ว่าง งั้นอาทิตย์หน้ารถพี่จะซ่อมเสร็จทันไหมครับ”

“ทันๆ” พี่ตอบทันทีไม่มีลังเล



“เอี๊ยดดดดดดดดด!!!!!!!!!”

อยู่ๆ รถก็เบรกผู้โดยสารหัวทิ่มหัวตำกันหลายคน ส่วนผมพี่ธาดาจับล็อคไว้ในอ้อมแขนเชดดดดดดดดดดดดดดด

รู้สึกตัวเล็กตัวน้อย ต้องคอยหลบภัยในวงแขนใหญ่ของเขา ผมมีพี่ชาย พี่ชายผมรักผมมาก พ่อกับแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านพี่ชายผมนี่แหละหอบหิ้วผมไปด้วยทุกที่ เพิ่งจะห่างกันตอนผมเรียนจบและทำงาน ส่วนพี่ก็แต่งงานมีลูกไปแล้ว

คือทั้งหมดทั้งมวลแค่จะบอกว่า พี่ชายผมก็เคยกอดผม แต่ทำไมมันรู้สึกไม่เหมือนตอนนี้เลย กลิ่นเหงื่อจากเสื้อทำงานผสมกลิ่นโคโลญจน์ของพี่ตี๋ อกแน่นที่ผมแนบชิด แขนใหญ่ที่ผมจะดันตัวออกก็ต้องใช้แรงเยอะสักหน่อย มัน...แปลก

“ขอบคุณครับ” แปลว่าปล่อยกูได้แล้ว

“แม่งขับรถยังไง ผู้โดยสารจะหน้าทิ่มกันหมดแล้ว” ผมรีบขยิกตาให้เขาเงียบ ถ้าป้ากระเป๋าได้ยินแล้วด่าสวนแบบNonstop ผมจะถือว่าเราไม่รู้จักกันทันที

“มาคนเดียวต้องระวังรู้ไหม”

“ครับ ผมนั่งมาเป็นปีแล้ว พี่เพิ่งจะมาห่วงเหรอ”

“ก็เมื่อก่อนพี่ไม่รู้ เลยไม่ได้ห่วง”

“เอ้อ..พี่เพลงนี้ๆ เพราะมากผมชอบ” พูดไปยังไม่ทันฟังเลยว่าเพลงอะไร



‘เธอจะมีใจหรือเปล่า เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร เธอจะมีใจหรือเปล่า มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ แต่ไม่อยากถาม กลัวว่าเธอเปลี่ยนไป’



เพลงมันเหมือน ผมสารภาพความในใจไหมอ่ะ โอ๊ยย ไม่กล้าหันไปมองเขาแล้วล่ะ ปล่อยเป็นอยากรู้แต่ไม่อยากถามต่อไปนั่นแหละ ผมจะเงียบผมสัญญา ยิ่งพูดมากยิ่งเรื่องเยอะ

นั่งให้ลมตีหน้าไปสักพัก เพลงดังในหูก็เปลี่ยนไปตามรสนิยมของผม ส่วนใหญ่เพลงรัก อกหัก เศร้า เหงา จำได้ไหมผมยังอยู่ในช่วง คนโดนทิ้ง เพลงมันก็จะไม่สมหวังเท่าไหร่ นั่งไปสักพัก รู้สึกว่าไหล่มันหนักๆ หันไป อ้าวพี่ตี๋ซบไหล่ผมหลับไปแล้ว

ตัวอย่างใหญ่ซบมาได้ไหล่กูจะทรุดไหมครับพี่ ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าที่ใกล้จนชิด จมูกเขาโด่งเหมือนไปศัลยกรรมมาเลยอ่ะ ทรงสวยคิ้วก็เข้ม หน้าเนียนเหมือนพวกขายครีมในเน็ต พี่ธาดาเป็นผู้ชายที่ผิวดีมากคนหนึ่งเลย

แต่..เดี๋ยวๆ มือพี่มือ วางขาผมเต็มๆ ทิ้งทั้งตัวมาที่ผมเลยถึงจะถูก คนหลับไม่รู้ตัว คนหลับไม่ตั้งใจ ผมก็ท่องไว้แค่นี้ อยากปลุกแต่ไม่กล้า ที่ผ่านมาเขาก็มีน้ำใจกับผม จะด้วยหวังผลอะไรนั่นก็อีกเรื่อง แต่รวมๆ ก็พี่ชายที่ดีกับผมคนหนึ่ง แค่ไหล่แค่ขา ให้เขาซบให้เขาวางไปเถอะนะสุร นี่คือว่าที่หุ้นส่วนคนสำคัญของมึงนะโว้ย



‘ถ้ามีใครสักคนมองมา เขาคงนึกว่าเราเป็นคนรักกัน ด้วยวิธีที่เธอทำที่ให้ความสำคัญ จนฉันบางทีก็ยังเผลอ’



บนรถเมล์สายเดิมที่ผมนั่งกลับห้องทุกวัน มีบางอย่างเปลี่ยนไป พี่เบิร์ดมีเส้นเสียงที่บาดอารมณ์กว่าทุกครั้งที่ผมฟังเพลงนี้ ไม่ใช่ว่าผมหวั่นไหวนะ แต่ก็อธิบายไม่ได้ ว่าตอนนี้รู้สึกยังไง

ตัวพี่ธาดาหนักก็จริงแต่ผมกลับรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย มันแปลก ผมรู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีก็ไม่รู้สึกแบบนี้ รถคงเบรกแรงไป ผมเลยไม่อยู่กับร่องกับรอย ความผิดพี่โซเฟอร์คนเดียวเลย

ตอนนี้สุรไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว นี่กูเป็นอะไร ใจเต้นทำไม ตัวแข็งทื่อทำไม ที่สำคัญไม่อยากจะบอกเลยว่า...

ผมอยากยิ้ม..แม่งยิ้มทำไมบ้ารึเปล่า

“เพลงนี้เหรอที่ว่าพี่เป็น” ผมถอดหูฟังออก ก้มหัวลงถามว่าพี่ตี๋พูดอะไร เขาตื่นแล้ว แต่ไม่ยอมยกหัวขึ้น มือก็วางขาผมอยู่อย่างนั้น

“พี่ว่าอะไรนะ”

“ที่เราว่าพี่ไง ว่าอย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหม” เอ่อมาเป็นเพลงเลย

“อ้อ..ใช่ครับ” กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน พี่ไม่ควรทำแบบนี้

“แล้วถ้า..” เขายกตัวออกจากผมแล้ว แต่สายตาจ้องผมแปลกๆ

“ถ้าอะไรพี่”

“ถ้าพี่ทำแบบนี้แค่น้องคนเดียวล่ะ”

เงียบเหมือนเดิมก็ดีแล้ววววววว ผมแกล้งยกมือถือมากด

“พี่ว่าอะไรนะ เพลงมันดังผมไม่ได้ยิน” เขาเอื้อมมาหยิบหูฟังที่ผมถอดพาดไหล่ ชูให้ดูว่า มึงไม่ได้ฟังเพลง ตาย..กูตาย เอาตัวรอดยังไงดี

“ไม่ต้องตอบหรอก มันไม่ได้เป็นประโยคคำถาม” เขาจะบอกว่าเป็นประโยคบอกเล่างั้นสิ พี่แม่งคารมดีเหมือนหน้าตาจริงๆ

“แล้วก็ไม่ใช่ประโยคบอกเล่าด้วย” อ้าวแล้วเป็นไรอ่ะ

“...............” ผมไม่ถามต่อ กลัวรับมือไม่ถูก



ตอนที่ผมจะลงรถ เขาจับแขนผมรั้งไปชิด กระซิบข้างหูเสียงชัดถ้อยชัดคำ

“มันเป็นประโยค.....บอกรัก”



เสียงประตูรถปิด เท้าผมเหยียบยืนบนฟุตบาท มือข้างหนึ่งจับสายกระเป๋าที่พาดบ่า รถเมล์คันเดิมกับพี่ธาดาลับตาไปแล้ว แต่ผมยังไม่ก้าวไปไหน เสียงรอบข้างดังผ่านไปมา แต่ประโยคที่ดังที่สุดกลับเป็น



‘มันเป็นประโยค.....บอกรัก’

















มาแรงแซงทางโค้งเกินไปแล้วพี่ตี๋ตาโต

คนอ่านเชียร์ให้ 4P คงไม่ไหว เพราะหัวใจมีดวงเดียวต้องเลือกใครไปสักคน สุรบอกเหรอ เปล่าคนเขียนนี่แหละบอก ความจริงคือ แต่งแนวหลายพีไม่เป็น ออกตัวเลยว่า เรายังอ่อนด้อยอยู่ แหะๆ



ปล. ถ้าช่วงไหนคนเขียนหายไปคือปั่นฟ่านฟงอยู่ค่ะ เรื่องนั้นลงทุกสามวัน



By Symbol A








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2019 15:22:02 โดย antivirus »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอยยยยยยยยยย พี่ตี๋ สุรใจบางหมดแล้ว คนอ่านก็เช่นกัน ตอนนี้หลายจิตหลายใจมาก ไม่รู้จะเชียร์ใครดี เดี๋ยวอาทิตย์นี้สุรมีนัดกับคุณโต้งอีก ไม่รู้คุณโต้งจะสามารถทำให้สุรใจบางได้อีกคนหรือเปล่า
เลือกไม่ถูกเลยจ้ะ

 :pig4: :L1: :3123:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อด 4P เลย ร่องห้าย #ผิดประเด็น

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ไม่เอา4pใจดวงเดียวก็ควรมีแฟนคนเดียวซิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ่านไป......ฮาไป   เดี๋ยวๆ ก๊ากกกก   :laugh:
มีคนเชียร์ 4P ด้วย  :pighaun:
ลงเรือ  ไฟ แมน และ  :o8:
อยากเผือกแล้ว ยังไงๆ ทำไมโกดัง บัญชี ไฟท์ กันได้  :z3:
สุร หวั่นไหวกับปราชญ์ .........  :-[
แต่ก็หวั่นไหวกับคุณธาดา เหมือนกัน อะจ๊ากกกกก  :ling1:
คุณธาดา ลงทุนมากกกกกกกก
แบบอยากกินไอติมสุรมากเลย   :z10:
ขำ.....ตอนที่แมนว่าใครๆก็อยากทำประตูมึง (ยกเว้นไฟหรือเปล่า ที่อยากทำประตูแมน) แอร๊ยยยยยย  :z1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแก้ที่ผิดนะ
นี่กูเป็นอะไร ใจเต้นทำไม ตัวแข็งถื่อทำไม ------ ทื่อ

ออฟไลน์ antivirus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
อ่านไป......ฮาไป   เดี๋ยวๆ ก๊ากกกก   :laugh:
มีคนเชียร์ 4P ด้วย  :pighaun:
ลงเรือ  ไฟ แมน และ  :o8:
อยากเผือกแล้ว ยังไงๆ ทำไมโกดัง บัญชี ไฟท์ กันได้  :z3:
สุร หวั่นไหวกับปราชญ์ .........  :-[
แต่ก็หวั่นไหวกับคุณธาดา เหมือนกัน อะจ๊ากกกกก  :ling1:
คุณธาดา ลงทุนมากกกกกกกก
แบบอยากกินไอติมสุรมากเลย   :z10:
ขำ.....ตอนที่แมนว่าใครๆก็อยากทำประตูมึง (ยกเว้นไฟหรือเปล่า ที่อยากทำประตูแมน) แอร๊ยยยยยย  :z1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแก้ที่ผิดนะ
นี่กูเป็นอะไร ใจเต้นทำไม ตัวแข็งถื่อทำไม ------ ทื่อ


ขอบคุณสำหรับคำผิดมากๆค่ะ แก้ไขให้แล้วนะคะ  เรือไฟแมน รอที่ท่าเดี๋ยวกัปตันจะพายไปรับเอง :mew1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รู้สึกสุรจะเริ่มอ่อนไหวกับผู้ชายมากขึ้นละนะ ตัวเลือกเยอะ เลือกไม่ถูกจริงๆ เดาไม่ออกเลยว่าใครจะพิชิตใจสุรได้

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ antivirus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2

ตอน 8

สุรถวายตัว



‘คนเราควรมีแนวทางการสร้างความสุข แบบพาสซีฟอินคัม ในชีวิตจะมีหนึ่งเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข ไม่ต้องคำนึงเรื่องผลประโยชน์ เป็นขุมพลังงานด้านบวกให้เราแบบไม่จำกัด เรื่องง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้เงินมากมาย และไม่ต้องพึ่งใคร’



ความสุขแบบพาสซีฟอินคัม ใครจะไปสนใจกันล่ะ ไม่ว่าใครก็ต้องมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนมาเกี่ยวทั้งนั้น หว่านพืชก็ย่อมหวังผล ว่าแล้วก็ปิดหนังสือคำพูดสวยหรูวางบนโต๊ะ



“ชอบอ่านแนวนี้เหมือนกันเหรอ” พี่ปราชญ์คงเห็นผมหยิบหนังสือเขามาอ่าน

“ชอบปกสวยดี”

“ชอบก็เอาไปอ่านได้นะ ปราชญ์อ่านจบหลายรอบแล้ว” สมกับชื่อปราชญ์ ผมเห็นเขามีหนังสือเยอะกว่าเสื้อผ้าอีก

“วันนี้ทำกับข้าวเยอะจัง” ลืมเรื่องหนังสืออะไรไปหมด เมื่อเห็นสามเมนูบนโต๊ะ ปลานิลทอดน้ำปลา ยำตีนไก่ แล้วก็อะไรไม่รู้จัก

“ฉลองไง ได้งานแล้วนะ” เขาบอกยิ้มๆ

“จริงดิ ดีใจด้วยที่โรงบาลสัตว์นะเหรอ” เห็นอมรมันว่าเมื่อก่อนพี่ปราชญ์ก็เคยเปิดคลินิกเองแถวบ้าน แต่อย่างว่าต่างจังหวัดคงไม่ค่อยมีคนพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอเยอะ



“อื้ม กินเยอะๆ นะ ไม่รู้ไปทำงานแล้ว จะว่างมาทำให้สุกินอีกไหม” ผมนิ่วหน้าเมื่อข่าวดีมีข่าวร้ายซ่อนอยู่

“สุต้องอดตายแน่เลย ตอนนี้กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าปราชญ์ทำแล้วอ่ะ” เรื่องจริงล้วนๆ ครับ เรียกว่าอะไร มันชินรสมือละมั้ง



“ปากหวานตลอด จ้างดิ จะเป็นพ่อครัวส่วนตัวให้ตลอดชีวิตเลย” พูดไปพี่เชฟก็แกะเนื้อปลาวางจานผม พร้อมตัดน้ำยำราดให้ด้วย

“เอาอะไรมาจ้าง เงินเดือนเหมือนเงินทอน”

“ไม่ได้อยากได้เงิน”

“แอ้วอ่ะเอาอะยัย” (แล้วจะเอาอะไร) แม่งอร่อยลืมตาย น้ำยำแซ่บได้กลิ่นมะนาวสด ผมว่าเลิกคุยเถอะพี่ กินอย่างเดียวก็พอ

“ตัวและหัวใจ” ไม่สำลักไม่อึ้งทึ่งเสียวอะไรทั้งนั้น เรียกว่าชิน นอกจากพี่ปราชญ์จะทำอาหารอร่อย ก็เรื่องมุกน้ำเน่านี่แหละ ขยันพูดให้ฟังทู๊กวัน บางทีก็รับมุกเขาถ้าอารมณ์ดี

“ยกให้เลยครับ ฝากตัวฝากท้องกับหมอปราชญ์เลย”

“ฮึ...” เขาย่นจมูกใส่ แล้วยิ้มหน้าบาน ผมก็ไม่สนใจอะไรมากนัก ตอนนี้ขอใช้สมาธิที่อาหารอย่างเดียว



กระทั่งเรากินกันเสร็จ เอ่อหมายถึงกินข้าวนะครับ ช่วยกันเก็บจานหม้ออะไรไปล้าง แล้วก็มานั่งขาชิดกันที่โซฟาหน้าทีวี พี่ปราชญ์พาผมติดซีรี่ย์เรื่องเกี่ยวกับโลกคู่ขนานเรื่องหนึ่ง ยิ่งดูยิ่งอยากดูต่อ สุดท้ายตาเป็นแพนด้า

“ถ้าเจอเราอีกคนที่กำลังจะโต ปราชญ์จะบอกอะไรเขา” ไม่ได้ตอบเขาเพราะมัวแต่ดู

“อีเด็กนี่เป็นหลาน กูจะตบให้คว่ำ” ผมไม่อินเท่าไหร่พูดเลย

“โหด นั่นเด็กนะ สุไม่รักเด็กเหรอ” พี่หันมาถาม

“ผมหน้าเหมือนนางสาวไทยรึไงครับ” เราคุยกันแต่ตาเราจ้องจอทั้งคู่

“แปลว่าไม่อยากมีลูก”

“ลูกอะไรละ แม่ของลูกยังหาไม่ได้เลย” ปั่นที่วางตัวให้รับตำแหน่งนั้น ก็เทกันไปแล้ว

“แล้วสุว่าคนเราต้องมีครอบครัวมีลูกไหม” หันไปมองคนถามเล็กน้อย เห็นแก่ว่าวันนี้ทำยำอร่อยมาก ผมจะไม่รำคาญก็แล้วกัน

“ก็..ถ้ามันหาไม่ได้ คงต้องอยู่แบบนี้ไปจนตายนั่นแหละ” ไม่ซีเรียสครับ ผมมีหลานลูกพี่ชาย แฝดสามกำลังน่ารัก ตายไปก็ว่าจะยกทุกอย่างให้พวกมัน

“หาผู้หญิงไม่ได้ ไม่ลองผู้ชายบ้างล่ะ” วกมามุกนี้อีกแล้ว

“ทำไมจะถวายตัวให้สุเหรอ” ขยับไหล่ไปชนกับไหล่เขาทีเล่นทีจริง

“กดเป็น? อย่างสุถวายตัวให้ปราชญ์จะดีกว่านะ”

“ทุกวันนี้สุก็ไปไหนไม่รอดแล้ว” ผมกลับมาหาพี่เขาทุกวัน ไปไหนไม่ได้หรอก

“ให้มันจริง” พี่ปราชญ์ดันหัวผมหนุนตักเขา เรื่องนอนตักเขาดูซีรี่ย์ใช่ว่าไม่เคย เพราะเขาทำให้ผมติด นี่เรื่องที่สองแล้ว อดหลับอดนอน ง่วงแต่อยากดูต่อ ดูไปดูมาตาสว่าง

“พรุ่งนี้วันอาทิตย์ดูเต็มที่” เขาก้มหน้ามองผม แขนสองข้างวางพนักพิง ไม่ได้มาจับตัวผมหรอก เหมือนผมนอนตักพี่ชายอยู่กับพี่ปราชญ์ผมคิดถึงพี่ชายทุกที



“ความจริงพรุ่งนี้ต้องไปกับเจ้านาย แต่ดูได้”

“อ้าว งั้นให้ดูจบตอนนี้ แล้วไปนอนเถอะ นัดเจ้านายไปช้ามันไม่ดี” เหมือนพี่ชายผมไม่มีผิด ละจากจอทีวีไปจ้องหน้าเจ้าของตัก พี่ปราชญ์รู้ตัวก้มลงสบตาผม ตาสีดำของเขาสะท้อนเงาจากทีวีเป็นประกายวูบวาบเพราะเราปิดไฟ ให้อารมณ์เหมือนดูหนังในโรง

ผมแค่อยากมองหน้าเขา ไม่มีอะไรพิเศษ ใจไม่เต้นตึกตักอะไร



“เป็นไร” เขาถามขณะที่จ้องผมตาไม่กะพริบ

“ปราชญ์ไม่มีแฟนเหรอ” เขาหน้าตาดีนะ ทำอาหารก็อร่อย ผู้หญิงคนไหนได้เป็นผัวถูกหวยอ่ะ

“ตอนนี้ยัง สนใจเป็นไหมล่ะ” เสียตรงชอบหยอดนี่แหละ ขนาดผมผู้ชายนะ ผู้หญิงจะโดนขนาดไหน

“ไม่ดีกว่า..เกรงใจ” ผมหันไปสนใจพระเอกนางเอกต่อ



คืนนั้นกว่าจะได้นอน ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งครึ่ง ผมหลับคาโซฟา ส่วนพี่ปราชญ์นอนพื้นหน้าทีวี ชีวิตชายโสดสองคนก็จะประมาณนี้ ทำอะไรที่มีความสุขก็ทำให้มันหมดวันไป



แต่ก่อนที่ผมจะหลับจริงๆ กลับคิดถึงความสุขแบบพาสซีฟอินคัม ที่เป็นของผมเอง





วันอาทิตย์ ที่ผมต้องเข้าไปให้คุณโต้งตัดสิน ว่าผมจะพ้นผิดหรือจะพ้นจากบริษัท พอถึงเวลาจริงก็ไม่คิดมาก อะไรจะเกิดก็เกิดเถอะขี้เกียจคิดแล้ว เครียดมานานเกินไป เป็นมะเร็งตายก็คงไม่คุ้มอยู่ดี



คุณลูกชายเจ้าของบริษัทมารับผมที่ป้ายรถเมล์หน้าห้าง ขึ้นไปนั่งข้างคนขับแบบไม่เกร็งเท่าไหร่ รถเขาผมขึ้นบ่อยจนไม่ตื่นเต้นแล้ว คุณโต้งก็สบายๆ อย่างที่บอกจะโดนไล่ออกก็พร้อมครับ

“หิวข้าวไหม”

“ผมอิ่มแล้วครับ” พี่ปราชญ์ลุกมาทำข้าวไข่ดาวให้ตั้งแต่เช้า

“คุณโต้งหิวก็แวะได้นะครับ”

“ไม่เป็นไรไว้ค่อยกินมื้อเที่ยงด้วยกัน”



แล้วแต่นายครับ ผมนั่งมองวิวข้างทางที่ไม่คุ้นเคย ถ้ากูเป็นผู้หญิงสวยๆ คงมีใจเต้นกลัวเขาหลอกไปโทรมเหมือนกันนะ ยิ่งไกลข้างทางก็ดูร้างๆ ชอบกล



“สุร”

“ครับ”

“ชอบงานจัดซื้อเหรอ” นี่เป็นประโยคเกริ่นก่อนใจความสำคัญอะไรรึเปล่า

“ความจริงผมทำงานอะไรก็ได้ ที่ได้ใช้ภาษาครับ”

“สนใจย้ายมาทำเลขาให้ผมไหม”



ผมเรียกช่วงนี้ว่า ‘เผาหลอก’ กดดันให้อยู่ไม่ไหวจนลาออกไปเอง ถึงตอนนั้นก็เรียกว่า ‘เผาจริง’ เพราะเขาก็ไม่มีหลักฐานมาเอาผิดผม ไล่ออกก็ต้องจ่ายค่าชดเชย



ผมยึดตำแหน่งเจ้านายที่ใจดีที่สุดในโลกคืนแล้วครับ คุณไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้แล้วคุณโต้ง

“ผมไม่ถนัดงานเลขาหรอกครับ ชงกาแฟคุณโต้งยังไม่โอเคเลย” เขาขำใส่ แต่ผมหน้าตึง ร้อนใจเหมือนโดนไฟจี้

“ไม่เป็นก็ไม่เป็น ไม่บังคับซะหน่อย” เสียงเจ้านายอ่อนลง ผมถึงรู้ตัวว่าเผลอแสดงอารมณ์ไปหมด รู้สึกตัวเองไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เลย ทำงานแล้วต้องรู้จักระงับอารมณ์โดยเฉพาะความโกรธต้องซ่อนมันไว้ให้มิด



ปรับสีหน้าปรับอารมณ์สักพักก็เป็นสุรคนเดิม เพิ่มเติมคือกูง่วง เมื่อไหร่จะถึงครับคุณโต้ง ผมไม่อยากนอน กลัวน้ำลายยืดใส่รถเขา



“ชวนคุยหน่อยสิ ผมง่วง” อย่าตกใจครับ สุรมิบังอาจพูดประโยคนั้นหรอก โน่นคนขับต่างหาก คุณโต้งอยากได้เพื่อนคุย ผมก็เช่นกันแต่ปัญหาคือจะชวนเขาคุยเรื่องอะไรดี

เอาเรื่องนี้แล้วกัน “เราจะไปไหนกันเหรอครับ”

“บ้านเพื่อนผม” นายตอบไม่คิดอะไรมาก

“คนที่ผมเคยเจอที่ห้างเหรอครับ”

“ไม่ๆ คนนี้เพื่อนสมัยเรียนมัธยม แล้วก็เป็นหัวหน้าคนใหม่ของคุณด้วย” ตาสว่างเลย มาทำงานแทนพี่เทพ ผมจะได้ย้ายไปแผนกตัวเองแล้ว แต่เดี๋ยวนะ

“แล้ว..เราจะไปหาเอ่อ..” ไปหาเขาทำไม คุณช่วยเล่าให้กูฟังได้ไหมอยากรู้นะเว้ย

“ผมกะจะให้คุณแปลกใจ แต่สุรทำหน้าเครียด ผมก็ไม่สบายใจ เล่าเลยก็ได้” เขาหยุดหายใจ

“...............” โอ๊ยย เล่าสักที



“คือเพื่อนผมมันช่วยสืบเรื่องสุเทพสักพักแล้ว ตอนนี้ได้หลักฐานมัดตัวชัดเจน จากนอฟเทคด้วย เขาทำคนเดียวคุณไม่เกี่ยว”

“.............” ดีใจไหม ก็ดีใจครับ แต่เชี่ยยยยยยยย แล้วทำไมมึงไม่บอกกูครับคุณโต้ง



“ไม่ยิ้มหน่อยเหรอ หรือว่าอึ้งอยู่” เจ้านายเอียงคอมองผมนิดหน่อย เอื้อมมือมาตบไหล่ผมด้วย ผมยิ้มออกมา แต่ไม่ได้ยิ้มกับเขาหรอก ยิ้มกับตัวเองมากกว่า โล่งใจปนเสียดาย โครงการพ่อค้าตลาดนัดเต็มตัว ก็คงเป็นได้แค่งานเสริมไปก่อน



ก้มหน้าเลื่อนหน้าจอดูข้อความจากใครบางคน มันสั่นใกระเป๋ากางเกงมาสักพักแล้ว



Man: ครบสามสิบสองอยู่ไหมมึง

Man: สัดไม่ตอบกู กูเป็นห่วง

Man: คุณโต้งพามึงไปไหน

Man: ไอ่สุร!!

Sura: กูพ้นคดีแล้ว โล่งใจฉิบ



“สุร” ผมรีบเก็บมือถือซุกที่เดิมขานรับเขา “ครับ”

“ถึงไม่มีหลักฐานผมก็เชื่อว่าคุณไม่ได้ทำ” ครับนาย อยากจะอัดเทปวันนั้นมาเปิดให้ฟังเหลือเกิน

‘แผนกคุณมีสองคน มันยากที่ผมจะเชื่อว่า มีคนทำผิดโดยที่อีกคนไม่รู้เห็นหรือเป็นใจ’



ในหัวผมมีแต่ประโยคนั้น จำได้กระทั่งน้ำเสียงคนพูด แต่ความเป็นจริงผมทำได้แค่ “ขอบคุณครับ”



คุยกับเจ้านายเรื่องดินฟ้าอากาศ นินทาซัพพลายหลายเจ้า จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าสวนมะม่วงแถวๆ ราชบุรี บ้านหัวหน้าคนใหม่ดูมีอันจะกิน ยิ่งเป็นเพื่อนเจ้าของบริษัท เป็นประเด็นให้คนในบริษัทวิจารณ์ยิ่งกว่าเจาะข่าวเด็ดแน่ๆ



ขับเข้ามาเกือบห้าร้อยเมตร ก็เข้าสู่ตัวบ้านที่นี่กว้างมาก น่าจะระดับร้อยไร่ ผมพูดตามความรู้สึกนะ

บ้านรูปทรงทันสมัย กึ่งปูนเปลือยและไม้ผสมกระจก ดูจากบ้าน เจ้าของไม่น่าอยากมาทำงานกับผมเลยอ่ะ พี่เทพก็รวยเพราะทุจริตบริษัทมาหลายปี แต่ยังไม่ได้หนึ่งในสิบของหัวหน้าคนใหม่เลย รถจอดสนิท ผมลงจากรถเดินตามคุณโต้งไป



“ไก่โต้งเพื่อนรัก” เพิ่งรู้ว่าโต้งย่อมาจากไก่โต้ง ว่าที่หัวหน้าเสียงมาก่อนตัวอีก เอะ!! เสียงคุ้นๆ รูปร่างก็คุ้น กระทั่งเขาเดินมาใกล้เรา แล้วถอดหมวกชาวสวนออก



ปราชญ์!!

นี่มันอะไรกัน ผมฝันไปป่ะเนี่ย ปราชญ์มองผม ทำหน้าเหมือนรู้จักผม หรือนี่ผมกำลังเข้าสู่โลกคู่ขนานจริงๆ

“สุรนี่เจ้านายใหม่ของคุณ พี่ราชครู” คุณโต้งดึงสติให้ผมกลับมา

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้

เขาเหมือนพี่ปราชญ์ราวกับคนเดียวกัน แต่พอผมเพ่งมองดีๆ รอยยิ้มกวนแบบนี้ ไม่ใช่พี่ปราชญ์ นี่มัน...



“สวัสดีครับ น้องคนนั้นนี่ หายเศร้าแล้วเหรอเรา”

“อ้าว รู้จักกันเหรอไอ่ราช”

“เคยเจอกันโดยบังเอิญ”



พี่ราช!!! โจรก๋วยเตี๋ยว ใช่ครับผมจำไม่ผิดแน่ ท่าทางมึนๆ น้ำเสียงห้วนๆ แววตาที่คาดเดาไม่ออกว่าคิดอะไร



“พี่ราชมีฝาแฝดไหมครับ” เขาพยักหน้า ไม่ตื่นเต้นตกใจอะไรเลยสักนิด

“รู้จักมันเหรอ”

“ครับ พี่เขาเป็นรูมเมตผม” ดวงตาสีดำของเขาเกือบเหมือนพี่ปราชญ์ แต่มีบางอย่างที่ผมว่าไม่เหมือน ตาของพี่คนนี้เหมือนหลุมที่ลึกกว่ากว้างกว่า

“น้องเองเหรอเพื่อนอมร”

“ครับ” ผมรีบเบนสายตาออกกลัวเขารู้ว่าเผลอจ้องตาเขาอยู่

“นักปราชญ์เป็นพี่ชายฝาแฝดของพี่เอง”



นักปราชญ์กับราชครู พ่อแม่เข้าใจตั้งชื่อพวกพี่เนอะ โคตรเท่ ดูผมดิโดนล้อตั้งแต่เด็กว่าชื่อสุรา



“มิน่าตอนเจอกันพี่ปราชญ์จำผมไม่ได้” คุณโต้งมองผมสองคนสลับกัน ราวกับกำลังจังหวะพูดบ้าง แต่ยังไม่เจอจังหวะนั้น

“เดี๋ยวนะพูดถึงคืนนั้น ทิ้งพี่ไว้คนเดียวได้ไง เป็นห่วงมากรู้ไหม ไปหาทั่วสะพานพระรามต่างๆ เลย”

“สะพานพระรามต่างๆ ไปไมอ่ะพี่”

“เอ้าร้องไห้ขนาดนั้น นึกว่าคิดสั้นอ่ะดิ”

“หา!! ” ไม่บอกเขาหรอก ว่าผมหนีเขานั่นแหละ



“สรุปว่ามึงรู้จัก เพราะเคยเจอกันตอนเขาร้องไห้ สุรคุณเป็นอะไร” คุณโต้งช่วยข้ามคำถามนี้ไปได้ไหมครับ

“เออ..เรื่องมันไม่มีอะไรแล้วครับ”

“ไอ่ไก่มึงจะถามให้น้องคิดมากอีกไมวะ”

“ได้ข่าวว่ามึงก็ถามก่อนกูอีกนะไอ่ราช”

“อ่ะ..ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบห้ามทัพ คุยกันสักพักพี่ราชก็เอาเรื่องพี่เทพพร้อมหลักฐานต่างๆ ให้เราดู พร้อมสรุปความคืบหน้า

“แม่งหนีไปลาวตั้งแต่ต้นเดือน บ้านก็ขายไปแล้ว ป่านนี้ไปไหนแล้วไม่รู้”

สรุปคือพี่เทพหายไปอย่างไร้ร่องรอย และผมก็บริสุทธิ์ชีวิตกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ถ้าเราไม่ไปกันต่อที่....





ปั่นยันหว่าง



ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ผม พี่ราชครู และคุณโต้ง กำลังนั่งสุมหัวกันที่ร้านเหล้าปั่น ชื่อร้านปั่นยันหว่าง ใครคิดชื่อครับครีเอทดีจัง เพลงที่เปิดก็สตริงทั่วไป บรรยากาศดีทีเดียว

“นอนกับไอ่ปราชญ์นานยัง” พี่ราชถามขึ้นมา คุณโต้งหันมารอฟังอย่างสนใจ

“เพิ่งจะย้ายมานอนกับผมได้ครึ่งเดือนครับ แรกๆ พี่ปราชญ์นอนโซฟา”

“พรวดดด แค่กๆ” พี่ราชลูบหลังคุณโต้ง แต่สีหน้าเฉยๆ แต่คุณโต้งหน้าตาตื่นมาก ผมพูดอะไรผิด

“สรุปว่า..ได้..อื้ม ชนดีกว่า ชนๆ” ได้อะไรของพี่ พูดก็ไม่จบ



ชั่วโมงต่อมาคุณโต้งเอาแต่พึมพำว่าหมาคาบไปแดก พี่ราชคอยปลอบว่าไม่เป็นไรค่อยหาใหม่ ผมมองทั่วร้านมีแต่สาวแก่ หน้าขาวคอดำ คงไม่ใช่สาวในร้านนี้หรอกมั้งที่เป็นต้นเหตุ



“พี่ทำสวนมะม่วงดีไหมครับ” คุณโต้งเอาแต่ยกแก้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมก็เลยหาเรื่องผูกมิตรกับเจ้านายใหม่

“อ๋อ ให้เขาเช่าพี่ไม่ได้ปลูกเองหรอก แล้วเรากับไอ่ปราชญ์โอเคไหม”

“ดีครับ พี่ปราชญ์ใจดี ทำอาหารอร่อย เก่งด้วยไปสมัครงานที่เดียวได้เลย แล้วก็...”

“พอๆ คุยอะไรกันวะ ปวดหัว” ผมเห็นพี่ราชกระซิบอะไรคุณโต้ง แล้วก็หันมาบอกผม

“ไม่ต้องตกใจ ไอ่นี่มันคออ่อน เมาแล้วชอบทำตัวดราม่าอย่าใส่ใจ”

“ครับ” เมาแล้วชอบดราม่าเหมือนปั่นเลย กินเหล้าปั่น ก็อดคิดถึงน้ำปั่นไม่ได้ คิดไปคิดมาผมก็ดราม่าไปด้วยอีกคน

“พี่ราช”

“หือ ว่าไงครับน้องสุร”

“พี่เรียกผมว่าสุก็ได้ พี่ปราชญ์ก็เรียกแบบนั้น”

“จะดีเหรอ”

“ทำไมไม่ดีอ่ะ”

“เออ..ก็ได้ ต้นเดือนคงได้ทำงานด้วยกัน มีอะไรก็แนะนำพี่ด้วยนะ”

“ผมนะจะมีอะไรไปแนะนำพี่”

“อย่ามาๆ ไก่มันชมบ่อยว่าเราทำงานเก่ง ว่าแต่จะถามไรพี่ป่ะ”

“อ่า ขอบคุณครับ ผมจะถามเรื่องพี่ปราชญ์ คือ..เขามีแฟนยังพี่” พี่ราชครูมองหน้าผมงงๆ

“อ้าวไหนว่านอนกับมัน ไม่ใช่แฟนมันเหรอ” ไม่ใช่ล่ะ ผมส่ายหัวดิกๆ

“ผมหมายถึงนอนเตียงเดียวกันเฉยๆ ผู้ชายกับผู้ชายนะพี่”

“สรุปน้องไม่ใช่เกย์”

“ผมผู้ชายทั้งแท่ง ชอบผู้หญิง แม้ว่าจะเพิ่งโดนทิ้งมาก็ตาม” เอิ่มจะไปบอกเขาทำไมวะกู

ผมว่าผมเริ่มมึนแล้วนะ



พี่ราชยกมือลูบหน้าตัวเอง มองคุณโต้งแล้วส่ายหัว คิดว่าพี่เขาก็คงจะเมาแล้วเหมือนกันดูจากสายตาที่เยิ้มของเขา



“กลับกันเถอะ คืนนี้นอนที่บ้านพี่ก็แล้วกันเนอะ ไอ่ไก้คงขับรถไม่ไหว”

“ครับ”



แล้วเราสามคนก็ออกจากปั่นยันหว่าง กลับมาที่สวนมะม่วง



“น้องนอนชั้นสองห้องซ้ายสุดนะ เดี๋ยวพี่พาไอ่นี่ไปห้องมันก่อน”



พี่เจ้าของบ้านพยุงเพื่อนไปแล้ว ผมอยากช่วยแต่ตอนนี้ แรงจะเดินขึ้นบันไดยังต้องนั่งรอเลย รอให้ส่างค่อยขึ้นตอนนี้ขอนั่งสักพัก ตอนแรกว่ามึน แต่ตอนลุกออกมานี่เมาชัดๆ สมเป็นสูตรเหล้าปั่นที่ดื่มง่ายเมาง่าวเหมือนที่พี่ราชบอกไว้



ได้สติกลับมานิดหน่อยผมก็แทบจะคลานขึ้นห้อง ชั้นสองขวาหรือซ้ายนะสุรลืม ขวามั้งเดินโซเซไปทางขวาเจอห้องสุดท้ายก็ เดินไปเข้าห้องน้ำ ร้อนมากถอดต้องถอด อาบน้ำนิดหน่อย ผมเป็นคนรักความสะอาด ไม่อาบน้ำนอนไม่หลับ



เสื้อผ้าไม่ต้องใส่กองไว้ข้างเตียง นอนคนเดียวผมไม่ชอบใส่อะไร ยิ่งเมาด้วยมันยิ่งร้อน



“น้องสุ!! ”



“ครายย” ผมฝืนตาถาม แต่มันมืดหรือเมาก็ไม่รู้ หัวหนักตาหนักไปหมด ในหัวอื้ออึง รู้สึกตกใจนิดหน่อยแต่เสียงผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงก็โอเค

เหมือนถูกจับขาลูบขึ้นมาที่ส่วนสิบแปดบวก เสียวใครทำให้ผมเสียววะ พี่ราชหรือคุณโต้ง ถึงจะเมาและเกือบจะไม่ได้สติ แต่ผมรู้ดีกำลังจะถูกใครสักคนลวนลาม

“ถามว่าคราย” ส่งเสียงอ้อแอ้ถามออกไป

“พี่ราชครูครับ” เสียงแนะนำตัวดังในหูทำเอาผมขนลุกซู่ไปหมด เมาและอยากปลดปล่อยคือสิ่งที่คิดตอนนี้ แต่พี่แม่งผู้ชายนะ นี่ผมมีอารมณ์กับผู้ชาย ผมเป็นเกย์เหรอ

“ไม่เคยละสิ พี่สัญญาจะไม่ทิ้งรอย”



หลังจากนั้น..



ไม่ๆ ผมไม่ได้หลับวูบเหมือนตอนเห็นเลือด ยังรู้สึกทุกสัมผัสที่ได้รับจากอีกคน หนังบางข้างบอกข้าวหลามที่ขยับรั้งเบาและเร็วขึ้นจนหลุดคราง กลิ่นคาวกับกลิ่นผู้ชายดิบเถื่อนทำให้ผมรู้สึกแปลก เป็นเซ็กส์รูปแบบแปลกใหม่ที่ผมไม่เคยลอง



ทำไมผมไม่รังเกียจสักนิด กลับรู้สึกดี อย่างน้อยน่าจะตกใจบ้างนะ ผมง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดเลย มันเสียวจนคิดอะไรไม่ออก เพราะน้ำจะออก อย่างอื่นก็ไม่มีความหมาย รู้สึกอยากมากกว่าตอนทำกับปั่นซะอีก

“พี่ขอลิ้นหน่อย” คำพูดตรงๆ กับเนื้อแน่นๆ ที่บดบี้กัน พี่ราชกำลังใช้ลิ้นเขาต้อนลิ้นผมไปจัดการ กลิ่นเหล้าปั่นปนออกมากับลมหายใจ ความหวานมาจากน้ำเชื่อมที่ผสมในเหล้าหรือจากลิ้นของเขาผมยังพิสูจน์ไม่ได้



มือเขาสอดประคองหัวผมให้ยกขึ้นรับจูบเขาได้ถนัด เสียงลมหายใจดังสะท้อนกันและกันในความมืด ผมเริ่มไม่มีแรงจะจูบตอบ ทำได้แค่บิดตัวไปมาด้วยแรงที่มีน้อยนิดเพื่อระบายอารมณ์



เขาเลื่อนลงจูบเบาๆ ที่ต้นคอ ลากลิ้นไปที่ไหปลาร้า และมาจบที่เนินนม สีอะไรไม่บอกได้ไหมมันอายน่ะ ขณะที่ผมเสียวแว๊บที่น้องมะลิ ต้นขาแน่นไร้ไขมันของเขาก็เบียดน้องชายผมจนขยายขึ้นเรื่อยๆ พี่ใช้ทุกส่วนเปิดเกมรุกจนผมที่เป็นชายแท้โคตรเคลิ้ม จะเคลิ้มเพราะเมาก็ส่วนหนึ่ง แต่ผมว่าพี่ราชแม่งร้ายกาจ



“พี่ราช ยะ...อย่าครับ”



















ตัดจบ หลบขวด อร๊ายยย น้องสุรจะเสียประตูกับโจรก๋วยเตี๋ยวแบบนี้จริงดิ พี่มาทีหลังแต่ได้ทุกอย่างเลยเหรอพี่ราชครู ปล. จะไม่มีใครโผล่มาอีกแล้วใช่ไหม ขอคิดก่อนนะคะ

ปล. เจอคำผิดแจ้งคนเขียน จะเป็นพระคุณมากค่ะ ไหว้ย่อ





#ชีวิตเทวดามันจะฮาได้ไง

By Symbol A

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ snoopyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ้าวสุร คนแรกก็ราชครูเลยนะ :hao3: พี่ปราชญ์อ้อยจั้งนานยังไม่ได้เลย


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อะจ๊ากกกกก ......... อ่านไปว่า สุรถวายบัว   :z3: :z3: :z3:
ที่แท้ถวายตัว ....ยังเข้าใจว่ากับปราชญ์  :เฮ้อ: :really2: :serius2:
กลายเป็นแฝดของปราชญ์ ชื่อราชครู  :a5:
แถมเป็นนักวิ่งที่เคยลากสุรที่อกหักร้องไห้ ไปกินก๋วยเตี๋ยวซะด้วย   o22
เอิ่ม....พ่อแม่(ไรท์ น่ะแหละ)เข้าใจตั้งชื่อแฝดจริงๆ  :katai2-1:

เอ่อ.....กลุ่มโต้งนี่มีความชอบเดียวกันเจงๆ   :mew1:
โต้ง เอ๊ย....ฟูมฟักสุรมา ก็นานไม่น้อย
เข้าใจว่าสุร นอนกับปราชญ์ไปแล้ว ใจน้อยชิงเมาก่อนเลยอดเลย  :hao5:
ให้ปราชญ์ มาแรงแซงหน้าไปและ
แต่ก็แซงแบบค้างๆคา......เอิ่มมม..... ขอปาขวดด้วยคน  :angry2: :serius2:
สนุกมากกกกกกกก  :katai2-1:   :z3: :z3: :z3:
ไม่ 4P ก็ 3P ก็ได้.....ไม่เกี่ยงนะ ยอมมมมม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ zhai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 222
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
สุร ต้องแปลว่า เทวดาเนื้อหอม
ช่างเป็นที่ต้องตาของหนุ่มๆ เหลือเกิ๊นนน
ถ้าให้จิ้นหน้าตาของสุร
น่าจะน่ารัก ขาวๆ ความสูงมาตรฐานชายไทย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
สรุปราชครูพระเอกรึมาแรงแซงหน้าคาบเป็นกินกลางตลอดตัวซะก่อนที่เหลือก็แห้วสมหวังไปกินก่อนซะ :hao3: :katai5:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เรื่องนี้มีแต่คนคิดจะเคลมน้องเทวดาสุร  555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชีวิตบันเทิงมากสุร ฮ็อตเหลือเกินลูกเอ้ย แล้วพี่ราชครูเจอแค่สองครั้งจะลัดคิวกินสุรเลยมันก็เร็วไปปปปป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
อ้าวคุณโต้ง อยู่ดีไม่ว่าดีเอาเนื้อมาถวายเขาถึงที่
อิคุณราชก็เคลมเร็วไม่เกรงใจพี่ชายผู้แสนดีเล้ยย ขุนให้อ้วนอยู่ตั้งนาน คาบไปเฉยเลย คุณปราชญ์ยังไม่ได้แม้กระทั่งจุ๊บสักทีเลยนะโว้ยย แต่น้องสุก็จัดพี่เขาเข้าบราเธอร์โซนไปแล้วนะสิ
อิน้องสุก็ดึงดูดแก๊งนี้เหลือเกิน
รสนิยมเดียวกันเลยคบกันได้สินะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด