[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 182801 ครั้ง)

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
สงสารนู๋มีน  เห็นใจคุณเชษ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เกิดอะไรขึ้น!!!!!!

ออฟไลน์ Stiiiii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เกิดอะไรขึ้นอีกกกก  :z3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
วิบากกรรมยังไม่หมดนะน้องมีน.  :katai1:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ใกล้ถึงฉากระเบิดแล้วแน่เลย หนูมีนต้องเป็นห่วงคุณเชษฐ์มากแน่ๆ

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4
รอด้วย ใจจดใจ่อ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 48: หน้าที่ของใจ (3)

“ผมยังไม่เข้าใจว่าคุณใช้อะไรล่อพวกมันออกมา”


ธีรเชษฐ์อดถามเจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีอายุน้อยกว่าเขาเป็นสิบปีไม่ได้ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องของนิโคไลที่แม้จะกว้างขวางโอ่โถงกลับรู้สึกอึดอัดด้วยเหล่าลูกน้องร่างใหญ่ที่กระจายตัวกันหนาตามากกว่าปกติ แต่ธีรเชษฐ์ยังคงสังเกตว่าลูกน้องคนหนึ่งที่มีบาดแผลลากยาวผ่านใบหน้าเด่นสะดุดตาไม่ได้รวมอยู่ในนั้น



และเขายังสังเกตอีกด้วยว่าผ้าปูเตียงของนิโคไลตึงเรียบราวกับไม่เคยมีใครนอน คาดว่าเมื่อคืนมาเฟียหนุ่มคงจะไม่ได้กลับมาที่ห้อง



เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจของธีรเชษฐ์ ร่างสูงของชายหนุ่มเชื้อสายจีนร่างสูงในชุดคลุมผ้าลื่นสีดำสนิทลายหงส์สีทองก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง คนตรงหน้าเขาไม่มีทางอายุมากไปกว่าลูกชายคนโตของธีรเชษฐ์ ทว่าบรรยากาศรอบกายของอีกฝ่ายนั้นอันตรายเสียยิ่งกว่ามาเฟียหลายคนในห้องนี้เสียอีก



ดวงเนตรคมสีรัตติกาลตวัดมองนิโคไลด้วยแววตาสีสงวนไว้ให้กับศัตรูคู่อาฆาต ธีรเชษฐ์ขยับตัวบนโซฟาอย่างไม่มั่นใจว่าควรจะหาที่กำบังหรือไม่



”ดูเหมือนว่าคุณจะชอบสินค้าทดลองของผมมากนะครับคุณเฟิ่ง” นิโคไลกระตุกยิ้มมุมปาก และในตอนนั้นเองที่ธีรเชษฐ์สังเกตเห็นรอยรักสีกุหลาบรวมถึงรอยเล็บที่พาดยาวกลางแผ่นอกขาวกำยำ ดูท่า’สินค้า’ของนิโคไลคงแผลงฤทธิ์น่าดู “หวังว่าคุณจะไม่ได้เล่นเพลินจนพังซะก่อนนะครับ วันนี้เขามีงานทั้งวันด้วย”



“…” คนอายุน้อยกว่าเพียงแต่นั่งลงบนโซฟาที่ว่างอยู่โดยไม่โต้ตอบอะไร

“แน่นอน ถ้าอยากได้กลับไป คงรู้นะครับว่าต้องจ่ายด้วยอะไร” ชายหนุ่มผมบลอนด์กล่าวพร้อมรอยยิ้มสว่างสดใสดูไร้พิษภัย ทว่าคำพูดนั้นดูเหมือนจะไปสะกิดต่อมโทสะของชายอีกคนเข้าอย่างจัง



“เขาไม่ใช่สิ่งของ!”


“ครับ เขาไม่ใช่…” นิโคไลไหวไหล่ “แต่เขาเป็นของผม”



“อีกไม่นานหรอก” ชายแซ่เฟิ่งเอ่ยเสียงเย็น ธีรเชษฐ์ที่นั่งอยู่กลางสนามอารมณ์ได้แต่หันซ้ายแลขวาอย่างไร้ทางออก จนกระทั่งนิโคไลที่สนุกจนพอใจแล้วแนะนำอีกฝ่ายให้เขารู้จัก



“คุณเชษฐ์ครับ นี่คุณเฟิ่งหยางหมิง เป็นผู้สนับสนุนใจดีของเราในครั้งนี้”


เฟิ่งหยางหมิง…



อา…ทายาทตระกูลเศรษฐีเก่าของฮ่องกงที่ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนธุรกิจหมื่นล้านของบิดาตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ค้านหัวชนฝาเรื่องการสืบทอดธุรกิจครอบครัวคนนั้นสินะ



“เอาคนนอกมาทำไม” เฟิ่งหยางหมิงปรายตามองชายหนุ่มอายุมากกว่าตนหนึ่งรอบอย่างไม่ไว้วางใจ แม้จะได้ชอบการถูกจ้องราวกับตนเป็นมดปลวกตัวน้อย แต่ธีรเชษฐ์เลือกที่จะไม่สนใจแล้วหันกลับไปหานิโคไลต่อ



“คุณเชษฐ์เป็นสามีของคุณเกศรา” นิโคไลตอบพร้อมรอยยิ้ม “เกศรา ‘เหลียน’”


ชื่อของภรรยาที่เสียไปของธีรเชษฐ์ทำให้ชายหนุ่มชาวฮ่องกงเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไรต่อ



สิ่งที่ธีรเชษฐ์เรียนรู้จากป้าแต้ว หญิงชราที่ติดตามรับใช้เกศรามาตั้งแต่เล็กหลังจากเห็นรอยกระสุนบนร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวคือ ภรรยาของเขาไม่ใช่หญิงสาวจากตระกูลเศรษฐีเชื้อสายจีนดังที่เขาเคยเข้าใจ ภูมิหลังของเกศรานั้นซับซ้อน
ซ่อนเงื่อนเกี่ยวพันถึงความขัดแย้งภายในตระกูลมาเฟียใหญ่ในโลกมืดอย่างที่เขาคิดว่ามีอยู่จริงแค่ในนิยาย


เกศรา เหลียน เป็นลูกสาวคนเล็กของประมุขตระกูลเหลียน ซึ่งเป็นตระกูลนักฆ่าที่เป็นกองกำลังหลักของตระกูลอัลฟอนโซ่ ตระกูลมาเฟียทรงอิทธิพลมาหลายชั่วอายุคน พี่ชายของเกศราเป็นคนสนิทของหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน และเป็นบิดาแท้ๆของนิโคไล เกศรามีฐานะเป็นแฮกเกอร์มือหนึ่งของตระกูล เป็นอัจฉริยะที่วางเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของตระกูลอัลฟอนโซ่ตั้งแต่อายุเพียงสิบสองปี เกศราเฝ้าฝันที่จะเป็นอิสระจากโลกมืดแสนโสมมนี้มาโดยตลอด แต่ความฝันนั้นแม้พี่ชายของเธอที่เป็นคนโปรดของหัวหน้าตระกูลในตอนนั้นยังไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก


จนกระทั่งธีรเชษฐ์ทะเล่อทะล่าเข้ามาในชีวิตของหญิงสาว


เด็กหนุ่มในตอนนั้นเข้าใจเพียงว่าการคบกันของพวกเขามาจากความรักใคร่ชอบพอของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมเกศราที่ไม่มีท่าทีจะสนใจเขาตอนแรกถึงได้ยอมให้โอกาสเขา



และในช่วงเวลาตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาทุ่มเทชีวิตในการหาตัวฆาตกรของเกศรา เขาค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองที่แม้แต่มารดาของเขาก็ยังไม่รู้



บิดาของเขา คาซีเมียร์ เจเลซนอฟ คือผู้ทรงอิทธิพลในโลกมืดชาวรัสเซียที่เลือกจะทิ้วมารดาของเขาไปเพื่อปกป้องธีรเชษฐ์จากอันตราย ด้วยสถานะของธีรเชษฐ์ แม้ว่าการสืบทอดอำนาจจะไม่ใช่ตามสายเลือดอย่างฝั่งของตระกูลอัลฟอนโซ่ แต่เขายังคงถือว่าเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้นำตระกูลเจเลซนอฟคนปัจจุบันที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลอัลฟอนโซ่มาโดตลอด การแต่งงานกับธีรเชษฐ์สำหรับเกศราเปรียบเสมือนทางออกเพียงหนึ่งเดียวที่การันตีอิสรภาพของหญิงสาว



ต่อให้อัลฟอนโซ่อำนาจคับฟ้าก็ไม่กล้าทำร้ายลูกชายคนเดียวของตระกูลเจเลซนอฟ



‘เขา…เคยรักผมบ้างมั้ย?’ ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจของภรรยาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในความสัมพันธ์ ธีรเชษฐ์ยังคงหวาดกลัวที่จะได้ยินคำตอบจากป้าแต้ว ผู้ติดตามของภรรยา



‘ป้าว่า…คุณเกศรักคุณ เท่าที่คนที่ไม่รู้จักความรักอย่างเธอจะทำได้แล้วล่ะค่ะ’


แน่นอน คนเลวๆอย่างเขาไม่มีสิทธิ์โกรธเคืองผู้หญิงที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา ธีรเชษฐ์ติดค้างทุกสิ่งทุกอย่างกับเกศรา และในวันนี้ เขาจะได้แก้แค้นกลุ่มคนที่สั่งฆ่าภรรยาของเขาอย่างเลือกเย็นเสียที







มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความว่างเปล่าข้างกาย


แต่ถึงอย่างนั้น ดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงก็ยังพอที่จะทำให้รอยยิ้มหวานกลับตืนสู่ดวงหน้าใสได้
มีนาอั้มช่อดอกไม้มากอดไว้แนบอก หยิบการ์ดแข็งพับครึ่งที่เสียบไว้ในช่อออกมาเปิดอ่าน กลิ่นหอมอ่อนๆและลวดลายสีทองบนตัวการ์ดบ่งบอกว่าคงมีราคาพอตัว กลับเทียบไม่ได้กับลายมือหวัดๆของชายผู้เป็นเจ้าของช่อดอกไม้นี้


‘ขอโทษที่ไม่ได้ตื่นมาพร้อมเธอ’

แค่นี้ก็ต้องซื้อดอกไม้มาขอโทษเลยเหรอ?


มีนาส่ายหน้ายิ้มๆ วางช่อดอกไม้กลับไปอย่างระมัดระวังแล้วลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงไปทานอาหารเช้าด้านล่าง น่าเสียดายที่ธัชนันท์และครอบครัวกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่อย่างนั้นมีนาคงจะมีคนรู้จักอยู่เป็นเพื่อนระหว่างรอให้คนรักกลับมาจากการคุยงานยามเช้า



มาคิดๆดูอีกทีอาจจะดีแล้วก็ได้ที่ธัชนนท์กลับไปแล้วแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมีนาคงโดนสายตาหยอกล้อของทั้งรุ่นพี่และเพื่อนสนิทของคนรักทำให้อายม้วนจนไม่เป็นอันทำอะไร



เด็กหนุ่มตักอาหารจากบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอย่างละนิดแล้วนั่งลงที่โต๊ะว่าง ภาวนาไม่ให้ตัวเองต้องเผชิญหน้ากับคุณมธุวันหรือคุณเมฆาเพียงลำพังในตอนนี้



ถึงจะไม่ได้ไม่ชอบ แต่มีนายังคงอึดอัดอยู่บ้างเวลาที่ต้องอยู่กับเลขาของคนรักและชายหนุ่มที่มีศักดิ์เป็น ‘ลูกเลี้ยง’ของเขา


พูดถึงลูกเลี้ยง...



ในห้องแชทที่มีเขา ทินกร และพายุมีจุดแดงแสดงจำนวนข้อความที่มีนาไม่ได้อ่านหลายสิบข้อความ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
ประหลาดอะไร ทินกรกับพายุมักจะทะเลาะกันด้วยเรื่องสัพเพเหระต่างๆเป็นกิจวัตร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่สิ่งที่มีนาจะเข้าไปร่วมวงด้วย เพียงแค่ไล่อ่านข้อความเงียบๆเผื่อว่าเพื่อนทั้งสองจะต้องการคนสงบศึก



I am the Storm: กูว่ากระโปรงสีชมพูสวยกว่า


My Sunshine: สีขาว เชื่อกูดิ


หือ?


ร่างเล็กถึงกับต้องไถย้อนขึ้นไปอ่านข้อความข้างบนเมื่อเห็นข้อความประหลาดที่เพื่อนทั้งสองส่งหากัน ได้ความคร่าวๆว่าพายุอยากซื้อเสื้อผ้าเป็นของขวัญให้เจนวิทย์ ถึงขั้นแอบวัดสัดส่วนของคนรักที่อ่อนเพลียจนหลับสนิทเอาไว้ แน่นอนว่ามีนาไม่คิดจะถามว่าที่เจนวิทย์สลบไปนั้นมีสาเหตุมาจากใคร



ส่วนที่เพื่อนร่างสูงถึกและบึกบึนของเขาต้องการจะซื้อชุดกระโปรงลูกไม้สีหวานให้กับคนรัก ก็เพราะหลังจากคบกันมา เจนวิทย์เริ่มเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวให้ดูเป็นผู้ชายมากขึ้น ยิ่งในตอนนี้ที่มาค้างห้องของพายุแทบทุกวันยิ่งสังเกตว่านกจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว คนรักที่ชื่นชอบเครื่องสำอางเป็นชีวิตจิตใจกลับไม่คิดแต่งแต้มใบหน้าของตนมากนัก และนั่นทำให้พายุอยากจะซื้อชุดกระโปรงน่ารักๆสักตัวเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขารักทุกอย่างที่เจนวิทย์เป็น


มีนาอมยิ้มกับความตรงไปตรงมาในความรู้สึกของพายุ แทบจะได้ยินน้ำเสียงจริงจังของอีกฝ่ายผ่านทางข้อความ


มีนา: เราว่าพายุซื้อตัวไหนไปให้ เจนก็ชอบทั้งนั้นแหละ


I am the Storm: เออ มึงก็พูดได้ดิวะ ผัวมึงซื้ออะไรให้มึงกล้าบอกไม่ชอบเหรอ? แต่กูอยากเลือกชุดที่เขาจะชอบจริงๆ ไม่ใช่ชุดที่เขาต้องฝืนใส่เพราะก็ซื้อให้


มีนา: งั้นเอาสีขาว


I am the Storm: มึงก็งี้ตลอดอ่ะ เข้าข้างลูก


My Sunshine: เอ้า ก็คุณมี้กูนิ


‘คุณมี้’ หน้าร้อนเห่อด้วยความเขินอาย ยังคงทำใจให้ชินกับความกระตือรือร้นของทินกรที่มีต่อตำแหน่งของเขาไม่ได้


มีนา: เราว่ามันดูใส่สบายดี คล้ายๆกับชุดที่เจนเคยใส่ เขาน่าจะชอบนะ


My Sunshine: มึงเชื่อกูดิ สมัยเด็กๆกูเห็นพี่อุ่นใส่ชุดแบบนี้ตลอดอ่ะ สวยจะตาย


I am the Storm: แม่ง ทีงี้ไมกูไม่มีเพื่อนผู้หญิงวะ


มีนายิ้มขำ ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองเถียงกันไปมาว่าชุดกระโปรงทั้งสองสีนั้นตัวไหนน่ารักกว่ากัน ดูเหมือนว่าสรุปแล้วพายุจะเลือกไม่ได้ ซื้อไปทั้งสองตัว


เด็กหนุ่มกำลังจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงเมื่อทินกรโทรวีดีโอเข้ามาหา มีนาเอียงคออย่างประหลาดใจ ก่อนจะลุกไปพื้นที่สงบนอกห้องอาหารแล้วกดรับสาย


“มีอะไรรึเปล่าซัน?”


“อ๋า! พ่อโป๊อยู่รึเปล่าอ่ะ เราไม่อยากเห็น” คนที่เป็นฝ่ายโทรวีดีโอมาหาเขากลับยกมือปิดตาตัวเองไว้แน่น มีนาส่ายหน้ายิ้มๆ
อย่างขบขัน นึกสนุกอยากแกล้งลูกเลี้ยงของตนขึ้นมา


“อื้อ โป๊อยู่ นอนอยู่ข้างๆเรานี่แหละ คุณเชษฐ์ครับ ลูกจะคุยด้วย...”


“ว้ากกก ไม่เอาๆๆๆ ไม่เอ๊า!!”


“คิก…เราล้อเล่น คุณเชษฐ์ไปทำงานแต่เช้าแล้ว โทรมามีอะไรรึเปล่า” ร่างเล็กถามเสียงกลั้วหัวเราะ เขาไม่ได้มีโอกาสเป็น
คนกลั่นแกล้งใครเท่าไหร่นัก นานๆทีได้ลองแหย่อีกฝ่ายเล่นบ้างก็สนุกดีเหมือนกัน


“มีนนนน อยากเห็นทะเลอ่ะ เราอยากไปทะเล! ทำไมพ่อต้องเอาพี่เมฆไปแล้วให้เราทำงานแทนก็ไม่รู้” ทินกรงอแง เห็นได้ชัดว่าคนรักของเพื่อนที่อยู่ปลายสายคงมีภารกิจติดพัน คนขี้เหงาจึงเริ่มออกก่อกวนเพื่อนๆในกลุ่มแทน


“ทะเลที่นี่สวยมากเลย ไว้ว่างๆซันมาเที่ยวสิ” มีนากดกล้องหลังให้อีกฝ่ายได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลผ่านกระจกใส



“อื้อ ไว้เราลากไอ้ยุไปกัน” ร่างสูงเห็นดีเห็นงามกับความคิดของแม่เลี้ยง “มีนไม่ออกไปเดินชายหาดเหรอ วิวสวยดีออก”



“อยากเห็นใกล้ๆก็บอกมา” มีนาเอ่ยอย่างรู้ทัน


หลังจากเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับธีรเชษฐ์ออกมาสู่ที่แจ้งแล้ว ร่างเล็กอดรู้สึกไม่ได้ว่ากำแพงบางอย่างที่เขาเคยสร้างไว้เพื่อป้องกันทินกรโดยไม่รู้ตัวพังทลายลง ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยเกร็งๆอยู่บ้างตอนนี้สามารถพูดคุยหยอกล้อเล่นหัวกันได้อย่างไม่ขัดเขิน



ร่างเล็กเดินทอดน่องไปตามชายหาดในมือถือโทรศัพท์พูดคุยกับเพื่อนสนิทที่ปลายสาย ชี้ชวนให้ทินกรดูทิวทัศน์ดูเปลือกหอยไปตามประสา  จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากฝั่งของทินกร ดูจากเจ้าของห้องที่หันขวับไปทางประตูด้วยแววตา
เป็นประกาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา


“มีน เรา...”


“อื้อ บาย” ร่างเล็กโบกมือให้กับกล้อง ก่อนจะกดตัดสายแล้วเก็บมันลงในกระเป๋ากางเกง



ดวงตากลมโตมองทอดไปยังผืนน้ำสีมรกตซึ่งถูกย้อมดวยแสงอาทิตย์สีส้มนวลตาในยามเช้าตรู่ ชีวิตนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาอยู่ในจุดจุดนี้ จุดที่หัวจรดเท้าอยู่ในเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง เดินทอดน่องไปตามชายหาดส่วนตัวของโรงแรม ในขณะที่คนรักที่ทำทุกอย่างเพื่อให้มีนาและครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ภาระหนี้สินและค่ารักษาพยาบาลที่เป็นเหมือนห่วงผูกคอจนเขาหายใจไม่ออกถูกธีรเชษฐ์กระชากทิ้งอย่างไม่ใยดี


และสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมากที่สุด คือการได้หัวใจของคนที่อยู่สูงเสียจนเขาไม่กล้าอาจเอื้อมมาไว้ในอ้อมอก ได้เป็นที่รักของคนที่ยอมรับหัวใจไร้ราคาของเขาไว้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเช่นกัน


คิดถึงคุณเชษฐ์จัง...


เพราะใจเหม่อลอยไปถึงคนที่ป่านนี้คงนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในห้องประชุม มีนาถึงได้ชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง เคราะห์ยังดีที่คนที่ถูกเขาชนคว้ามีนาเอาไว้ได้เสียก่อนที่ร่างเล็กจะหงายหลังล้มลงไปในน้ำทะเล



“อ๊ะ! ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวัง”  มีนารีบกล่าวขอโทษขอโพยอีกฝ่าย “ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม...ไว้....”


“ยินดีครับ”



ทันทีที่ดวงตากลมโตช้อนมองคนที่ช่วยเขาไว้ สิ่งเดียวที่เด็กหนุ่มสามารถทำได้คือยืนนิ่งบื้อใบ้เบิกตากว้างจ้องอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น



ชายหนุ่มตรงหน้าของเขานั้นดูราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายจีนที่มีตัวเอกเป็นเทพเซียนแสนสง่างามเพียบพร้อมด้วยรูปโฉมแลกิริยามารยาท ดวงเนตรเรียวงามสีม่วงแปลกตาสะท้อนแสงอาทิตย์เปล่งประกายราวอัญมณีแห่งห้วงสมุทร เส้นผมดำขลับยาวถึงกลางหลังถูกมัดรวบครึ่งศีรษะเพื่อไม่ให้ระเกะระกะดวงหน้างดงามหมดจด คนตรงหน้าของเขาไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่อาจบรรยายได้มากไปกว่าคำว่า 'สมบูรณ์แบบ’



“ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ได้มองทางเหมือนกัน”



เสียงนุ่มหวานชวนเคลิบเคลิ้มทำให้มีนาพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ ชายหนุ่มตรงหน้าของเขาดูเหมือนภาพหลอนบางอย่างมากว่าคนจริงๆเสียด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ว่าจะเด็กชมวิวทะเลยามเช้าต่อเพียงลำพัง แต่ด้วยเหตุผลกลใดมิอาจทราบ ชายหนุ่มหน้าตาสะสวยคนนั้นกลับหาวิธีของติดสอยห้อยตามมีนามาโดยที่เด็กหนุ่มไม่รู้ปฏิเสธอย่างไร



“มาพักผ่อนคนเดียวเหรอครับ?” เจ้าของเครื่องหน้างดงามดุจเทพสวรรค์ชวนคุยด้วยรอยยิ้มจริงใจ ถึงกระนั้นสัญชาตญาณบางอย่างกลับบอกให้มีนาระแวดระวังคนตรงหน้าเอาไว้



“มากับแฟนครับ” เด็กหนุ่มรีบตอบ เตือนให้อีกฝ่ายรู้ว่ายังมีคนรอเขาอยู่ที่ห้อง ร่างสูงโปร่งหัวเราะ เดาออกได้อย่างไม่ยาก
เย็นว่าคนตัวเล็กกำลังหวาดกลัวตนอยู่


“ผมเห็นแล้วล่ะครับ คุณเป็นแฟนของพี่เชษฐ์สินะครับ”


และแล้วความหวาดระแวงของมีนาก็ได้รับการยืนยัน คนตรงหน้าคงเป็นหนึ่งในคู่ควงเก่าของธีรเชษฐ์ เด็กหนุ่มก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจ เรียกเสียงหัวเราะกังวาลใสจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี



“ผมนี่เสียมารยาทจัง ผมชื่อวรินทร์ เป็นคนรู้จักของพี่เชษฐ์ คุณ...”



“มีนาครับ” ร่างเล็กแนะนำตัวตามมารยาท รู้อยู่เต็มอกว่าคนหน้าตาแบบนี้ไม่มีทางเป็นแค่คนรู้จักของธีรเชษฐ์อย่างที่กล่าวอ้าง



“ไม่ต้องระแวงผมขนาดนั้นก็ได้ครับคุณมีนา เรื่องของผมกับพี่เชษฐ์มันจบไปนานแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ “ผมดีใจนะครับที่เขาได้เจอคนที่เขาอยากจะใช้ชีวิตด้วยจริงๆซักที”



“…” มีนาไม่รู้ว่าควรมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไรกับประโยคดังกล่าว แม้น้ำเสียงของคนตรงหน้าจะฟังดูจริงใจอยู่ก็ตาม


ยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นกับตาว่าคนที่ธีรเชษฐ์เคยเลือกเป็นคู่นอนก่อนที่จะมาพบกับตนดูราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายจีนโบราณเช่นนี้ยิ่งทำให้มีนารู้สึกบิดมวนในช่องท้อง อดก้มหน้ามองสภาพที่เหมือนเด็กขาดสารอาหารของตัวเองแล้วเกิดข้อเปรียบเทียบขึ้นมาในใจไม่ได้


“อา…ขอโทษนะครับ ผมคงทำให้คุณลำบากใจสินะ” คนที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพย มีนาส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา แม้ว่าในใจจะไม่ได้รู้สึกดีนักก็ตาม


“ไม่เป็นไรครับ คุณ...คุณวรินทร์มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ?”



“เปล่าหรอกครับ ผมก็แค่อยากเห็น ว่าคนที่ได้หัวใจพี่เชษฐ์ไปจะเป็นคนแบบไหนกัน” วรินทร์สารภาพตามตรง เอียงคอมองร่างเล็กด้วยสายตาสำรวจที่ทำให้มีนารู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย “ยินดีด้วยนะครับ”



“เอ่อ...ขอบคุณ...ครับ?” มีนายังคงไม่เข้าใจคนประหลาดตรงหน้าเท่าใดนัก


“พายุกำลังจะเข้าแล้ว ผมว่าคุณรีบกลับเข้าไปในโรงแรมจะดีกว่านะครับ” ร่างโปร่งเตือน “ผมต้องไปแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณมีนา”



การจากไปของวรินทร์รวดเร็วและแปลกประหลาดไม่ต่างจากขามา มีนากระพริบตาปริบๆมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายไปอย่างงุนงง ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้าสีส้มนวลตาในยามเช้า



พายุอะไรของเขา?


 

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5





เมื่อธีรเชษฐ์กลับมาถึงห้อง มีนาที่นั่งเหม่ออยู่ที่ริมหน้าต่างหันกลับมาส่งยิ้มให้เขา ในมือกอดช่อดอกกุหลาบขนาดยักษ์ไว้แนบอก ดวงตากลมโตเป็นประกายเพียงแค่เห็นร่างสูงเปิดประตูเข้ามา



เดิมที ธีรเชษฐ์คิดว่าหลังจากแก้แค้นให้เกศราสำเร็จแล้ว ต่อให้ต้องตายเขาก็มีหน้าไปพบภรรยาในโลกหลังความตายอย่างไม่เหลือห่วงอะไรติดค้าง ทว่าในตอนนี้ ‘ห่วง’ ตรงหน้ากลับทำให้เขาลังเลใจขึ้นมา ก่อนจะสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว



เขาจะมาว่อกแว่กตอนนี้ไม่ได้



“คุณเชษฐ์ตื่นเช้าจังครับ” ร่างเล็กโผเข้าหาอ้อมกอดอุ่นอย่างเคยชิน ซุกหน้าเข้ากับแผงอกแกร่งของคนรัก “หรือว่าผมตื่นสายขึ้นกันแน่”



“ไม่มีเรื่องอะไรให้รีบตื่นนี่” ธีรเชษฐ์เชยคางมนขึ้นประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มที่เผยออ้ารอเล็กน้อยอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
เป็นที่สุด ตักตวงความหวานด้วยกลัวจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เชยชม



เขาไม่ได้อยากพามีนามาที่นี่ แต่นิโคไลแนะนำว่าการอยู่ในที่ที่มีลูกน้องและพรรคพวกของเขาอยู่จะปลอดภัยกว่าการทิ้งมีนาไว้คนเดียว อีกทั้งยังแสดงให้คนพวกนั้นคิดว่าเขาไม่ได้ระแวดระวัง ล่อเสือออกจากถ้ำได้โดยง่าย



แต่ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจการกำชับของนิโคไลที่บอกให้พามธุวันมาด้วยอยู่ดี



“กินข้าวรึยัง?”


“เรียบร้อยแล้วครับ แต่ถ้าคุณเชษฐ์จะทานอีกรอบ ผมไปด้วยได้นะครับ” มีนาเสนอตัว ขยับซุกเข้าหาความอบอุ่นอีกครั้งอย่างออดอ้อนเอาใจจนร่างสูงเลิกคิ้วอย่างนึกประหลาดใจ



“เป็นอะไร ทำไมวันนี้ถึงได้อ้อนจัง หืม?”


“แล้วผมอ้อนไม่ได้เหรอครับ?” คำถามที่เคยเปี่ยมได้ด้วยความประหม่าลังเลใจ บัดนี้มีเพียงน้ำเสียงใสซื่อติดจะแง่งอนเล็กน้อยพอให้หัวใจคนมองได้สั่นไหว



“พูดเหมือนเธอไม่รู้เลยนะ มีนา...” ร่างสูงประทับจุมพิตลงบนเปลือกตาของเด็กหนุ่มทีละข้างอย่างอ่อนโยน “ถ้าเป็นเธอ จะทำอะไรกับฉันก็ได้ทั้งนั้น”



“เมื่อเช้าผมออกไปเดินเล่นริมหาด เจอแฟนเก่าของคุณเชษฐ์...”



สิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวขึ้นทำให้คนที่พรมจูบไปตามดวงหน้าเกลี้ยงเกลาชะงักค้าง ผละออกมาเล็กน้อยเพื่อดูปฏิกิริยาของคนรัก ไม่มั่นใจว่าคำว่า ‘ฉันไม่มีแฟน มีแค่คู่นอน’ หรือ ‘แฟนที่ว่านีี่คนไหนล่ะ’ จะทำให้สถานการณ์แย่ลงเพียงใด จึงตัดสินใจ
หุบปากเงียบเอาไว้



“คุณวรินทร์...คุณเชษฐ์จำได้มั้ยครับ”


“…เธออยากให้ฉันจำได้มั้ยล่ะ”


แน่นอนว่าเขาจำวรินทร์ได้ เขาเชื่อว่าใครที่ได้รู้จักวรินทร์ไม่มีทางลืมเลือนเจ้าของใบหน้าที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่งดงามที่สุดในโลกได้



แต่ต่อให้มีสักกี่วรินทร์บนโลกใบนี้ ธีรเชษฐ์ก็ยังคงไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจไปจากเด็กหนุ่มร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้า


“ผมรู้ว่าคุณเชษฐ์จำได้...” คนที่ยังซุกหน้ากับอกของเขาพึมพำ “จากคนแบบนั้นมาเป็นผม...ดีแล้วจริงๆเหรอครับ”


“แล้วจากคนเป็นล้านๆคนบนโลก เธอเลือกที่จะติดแหง็กอยู่กับตาแก่อย่างฉัน คิดดีแล้วจริงๆเหรอ หืม?” ร่างสูงย้อนถามพร้อมรอยยิ้ม โน้มลงไปหาเด็กน้อยของตนที่เงยหน้าขึ้นสบตา จมูกโด่งปัดไล้ผ่านปลายจมูกรั้นเบาๆอย่างรักใคร่จนคนตัวเล็กย่นคอหนีอย่างเขินอาย “หึงฉันเหรอ?”


“ก็…ก็ต้องหึงไม่ใช่เหรอครับ” นอกจากจะไม่ปฏิเสธแล้ว คนตัวเล็กที่ครอบครองทุกลมหายใจเข้าออกของเขายังกล้าช้อนตามองธีรเชษฐ์อย่างตัดพ้อด้วยดวงตากลมโตสีหวานนั้น “คุณวรินทร์เขาดูดีกว่าผมทุกอย่าง...อื้อ...”


ไม่ทันจะได้พูดจบก็โดนขโมยจูบไปเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันอีกแล้ว มีนานึกอยากจะร้องประท้วง แต่ลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดกลับทำให้ดวงตากลมโตปรือปรอยอย่างเคลิบเคลิ้มไปเสียก่อน แขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบรอบคอของคนรัก ลืมไปชื่อขณะว่ากำลังอยู่ระหว่างการตัดพ้ออีกฝ่ายอยู่



จนกระทั่งคนขี้แกล้งที่ยังคงขบเม้มคลอเคลียกลีบปากนุ่มหยุ่นถามย้ำขึ้นมาอีกครั้ง


“ตกลงหึงฉันจริงๆเหรอ”


“อื้อ...” มีนางึมงำ ก่อนที่ริมฝีปากนิ่มจะถูกครอบครองอีกครั้ง


“ไม่เอาอื้อ ตอบดีๆสิ” ธีรเชษฐ์แสร้งดุ แม้ว่าดวงเนตรสีควันบุหรี่จะเต็มไปด้วยความขบขัน “ว่าไง...หึงเหรอครับคนดี”


“ครับ...ผมหึงคุณเชษฐ์...อ๊ะ!” มีนาตอบตามประสาเด็กว่าง่าย ก่อนจะได้รับรางวัลเป็นท่อนแขนแข็งแรงที่ช้อนร่างของเขาให้ลอยหวือขึ้นจากพื้น


“คนหึงเขาหึงกันเรียบร้อยขนาดนี้เลยเหรอ” ร่างสูงวางเด็กหนุ่มในอ้อมแขนลงบนเตียงกว้าง มีนารีบยกมือขึ้นดันแผงอกแกร่งของคนที่โน้มลงมาทาบทับ “ไม่ดื้อสิ ให้ฉันงื้อเธอดีๆก่อน”



“คุณเชษฐ์ครับ งานจะเริ่มแล้วนะครับ”


“อีกตั้งหลายชั่วโมง...” มือใหญ่รวบเอามือที่ดันตัวเองไว้พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอกินมื้อเช้าก่อน”



“คุณเชษฐ์ ไม่เอานะครับ ถ้าทำจริงๆผมต้องเดินไม่ได้แน่ๆ” มีนาโอดครวญเสียงอ่อย ไม่ได้คิดว่าคนใจร้ายจะยอมฟังคำขอของตน แต่เมื่อเห็นธีรเชษฐ์ชะงักไปจริงๆก็อดแปลกใจไม่ได้ “คุณเชษฐ์ครับ?”



“ไม่ทำให้เจ็บหรอก สัญญา”


ริมฝีปากร้อนไล่จุมพิตลงมาตามแผ่นอกราบเรียบ ถึงหน้าท้องแบนราบภายใต้เนื้อผ้า ก่อนจะงับเบาๆที่ซิปกางเกงของคนตัวเล็กแล้วรูดมันลงอย่างชำนิชำนาญ


“คะ…คุณเชษฐ์ อ๊ะ...”



มือเรียวขยุ้มเส้นผมดำขลับของคนรักเพื่อระบายความรู้สึกที่ถูกริมฝีปากอุ่นปรนเปรอ สะโพกกลมลอยขึ้นจากเตียงอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ขาเรียวสั่นระริกขยับอ้าออกจากกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนรัก ก่อนจะร้องออกมาเบาๆเมื่อนิ้วเรียวยาวดุนดันช่องทางสีหวานที่ยังคงบอบช้ำจากการถูกใช้งานตลอดทั้งคืน หมุนคว้านไปมาอย่างคุ้นเคย โจมตีความอ่อนไหวภายในและได้รับเสียงครวญครางแว่วหวานเป็นการตอบแทน



“นะ..ไหนว่าจะไม่...อ๊ะ...ฮะ...คะ..คุณเชษฐ์ อ๊ะ!!”


“บอกว่าไม่ทำให้เจ็บ...” ชายหนุ่มผละออกจากความร้อนผ่าวน่ารักที่ตอบบรับสัมผัสของเขาอย่างไร้เดียงสาเช่นทุกครั้งเพื่อตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำให้เสร็จนี่...”



“มะ…ไม่เอา...คุณเชษฐ์...ชุดจะเลอะ...อ๊ะ...อะ..!!”


ร่างโปร่งบางทิ้งกายลงบนเตียงนุ่มอย่างไร้เรี่ยวแรง เรียวขาขาวยังคงถูกคั่นไว้ด้วยร่างหนาที่ไล้เลียทำความสะอาดทุกหยาดหยดไม่ให้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าดังที่คนรักตัวน้อยเป็นกังวล มีนานอนหอบหายใจอย่างหมดเรี่ยวแรง หลังจากที่ถูกกระตุ้นเน้นย้ไมาตลอดทั้งคืนร่างกายของเขาในตอนนี้ไวต่อสัมผัสจนน่าหวาดกลัว เพียงแค่เรียวลิ้นร้อนและก้านนิ้วเรียวยาวก็มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มอ่อนระทวย ทว่าหลังจากปรนเปรอร่างเล็กจนอิ่มเอม ร่างสูงกลับไม่คิดจะตักตวงความสุขให้กับตัวเองอย่างที่มีนาคิด



“ไม่ทำ...เหรอครับ?”


“ถ้าทำเธอคงเดินไม่ไหวเอาจริงๆ” ร่างสูงตอบเสียงกลั้วหัวเราะ จัดเสื้อผ้าของคนรักให้เข้าที่เข้าทาง “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”



“แต่ว่า...” คิ้วเรียวยังคงขมวดมุ่นอย่างรู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายสบายตัวอยู่คนเดียว


“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่เธอมีความสุข ฉันก็พอใจแล้ว” ธีรเชษฐ์ยิ้ม รอยยิ้มที่เคยหาได้ยากนับวันยิ่งจะแจกให้มีนาอย่างพร่ำเพรื่อเสียจนคนได้รับใจเหลวเป็นน้ำ



“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้...คุณเชษฐ์ต้องให้ผมดูแลนะครับ” เด็กดีตัวน้อยกล่าวอย่างเอาแต่ใจ ในหัวคิดเพียงว่าค่ำคืนนี้จะดูแลคนรักเป็นการตอบแทน จึงไม่ได้สังเกตสีหน้าที่หม่นลงเพียงชั่ววูบของร่างสูง



“อืม เอาสิ ถึงยังไงเราก็ยังมีเวลาอีกนาน” ทั้งที่กล่าวเช่นนั้น ธีรเชษฐ์กลับรู้ดีว่าทุกคำเป็นเพียงคำโป้ปดของคนที่ไม่รู้ว่าจะ
ได้เจอกับคนตรงหน้าอีกเมื่อไหร่


สัญญา...ว่านี่จะเป็นการโกหกครั้งสุดท้าย


“มีน…”


“รักนะครับ” มีนาที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรชิงเอ่ยขึ้นก่อนพร้อมรอยยิ้มสว่างไสวที่ทำเอาคนมองตาพร่าไปชั่วขณะ
รอยยิ้มบริสุทธิ์จริงใจของคนที่ค้นพบความสุขในชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง


“รักเหมือนกัน”


ริมฝีปากได้รูปช่วงชิงลมหายใจไปจากริมฝีปากรูปกระจับที่ตอบรับกับรุกเร้าอย่างอ่อนหวานอีกครา ตักตวงทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่ามันคือจูบสุดท้ายระหว่างพวกเขา



และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ


---

กลับมาล้าววววว โฮกกกกกก
ก็ยังคงอัพห่างอยู่สำหรับเรื่องนี้นะคะ แต่ใกล้จบมากแล้วเน้อ ขอบคุณทุกคนมากๆสำหรับความรักและความเข้าใจค่ะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ยินดีต้อนรับกลับมานะคะ.  :katai2-1:

พายุลูกใหญ่ที่กำลังจะมา ถึงขนาดพังโรงแรมได้เลยสินะ  :mew2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มันก็แค่ "พายุ" จิ๊บ ๆ    :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
โถๆๆ อดใจหลังเรื่องจบก่อนนะลุง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะเกิดอะไรขึ้น!?

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไม่เอา  ไม่ให้ตายน๊าาาา

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
่ม่ายยยยยยยยยยยยขอแค่จบแฮปปี้พอน้าาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ Hoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew6: :mew6: อดห่วงไม่ได้
 o13 o13 แต่ขอบคุณ คุณหมูน้อย ที่กลับมาอัพเรื่องนี้ต่อ


เย้....  ถ้าจบเรื่องนี้แล้ว เรื่องไหนต่อ ไหมคะ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
พายุกำลังจะมา :mew6:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะทำอะไรกันนนนน  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
แงแง กำลังเข้าใจกัน กำลังหวานกัน ต้องมาเจอเรื่องร้ายแรงอีกแล้ว
มีนน่ารักมากเลยค่ะ น่าเอ็นดูมาก ซื่อตรงและจริงใจ
มีนต้องเข้มแข็งนะ ถ้าต้องเจอเรื่องแย่ๆ ในอนาคต

เชษฐ์ได้รักใครจริงจัง อยากมีชีวิตเพื่ออีกคน แต่ก็ต้องสะสางเรื่องในอดีต

เมฆหมอกก็มีโมเมนท์หวานๆ ให้ได้ส่องนะ

ตลกซันกับพายุ แต่ก็ช่วยฮีลจิตใจมีนได้เยอะนะ




ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
บทที่ 49 รอยยิ้มที่จางหาย



เป็นอีกครั้งที่มีนาและธีรเชษฐ์มาถึงงานก่อนเลขาคนเก่งและรองประธานที่เป็นเจ้าของโปรเจ็กต์ ดูท่าเจ้าลูกชายที่น่ารักของเขาจะยุ่งวุ่นวายกับมธุวันจนไม่เป็นอันทำการทำงานทีเดียว



ด้วยสเกลงานแฟชั่นโชว์ในคราวนี้เรียกได้ว่าเป็นระดับนานาชาติที่สื่อมวลชนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ จึงทำให้ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นชาวต่างชาติไม่ว่าจะฝั่งเอเชียหรือตะวันตก ถึงอย่างนั้นธีรเชษฐ์ยังคงใช้เวลาไม่นานในการตามหานิโคไลที่ยืนอยู่ท่ามกลางบอร์ดี้การ์ดร่างยักษ์ตีสีหน้าขึงขังมากหน้าหลายตา แม้ว่ารังสีอาฆาตที่แผ่ออกมาจากเฟิ่งหยางหมิงที่กอดอกนิ่งฟังมาเฟียหนุ่มชาวอิตาลีสนทนาอย่างอกรสออกชาตินั้นจะทำให้คนที่ผ่านไปมารู้สึกกดดันมากกว่าก็ตาม
มือใหญ่วางลงบนแผ่นหลังเหนือสะโพกมนนำทางมีนาผ่านทะเลผู้คนไปยังที่หน้าหน้างานในจังหวะเดียวกับที่มธุวันและเมฆามาถึง



“มาพอดีเลยครับคุณหมอก คุณเมฆ” ชายหนุ่มชาวอิตาลีหันกลับมาเห็นพวกเขา “นี่คุณเฟิ่งหยางหมิง เพื่อนของผมครับ”



“คนรู้จัก” เฟิ่งหยางหมิงกัดฟันกรอด ธีรเชษฐ์ชักเริ่มนึกสงสัยแล้วว่าของตอบแทนที่ทำให้มาเฟียหนุ่มชาวฮ่องกงยอมร่วมมือกับนิโคไลที่ตนดูจะเกลียดแสนเกลียดนั้นเป็นนางฟ้าจากสวรรค์ชั้นไหน



ที่นั่งของพวกเขาอยู่บริเวณหน้าสุดติดขอบเวที ชนิดที่เรียกได้ว่าหากยืดแขนยืดขาผิดท่านายแบบนางแบบบนเวทีอาจจะถูกขัดขาตกลงมาก็เป็นได้



เฟิ่งหยางหมิงนั่งลงที่แถวเดียวกับพวกเขา ไม่ห่างจากนิโคไลไปมากนัก ดวงตาคมสีรัตติกาลจับจ้องไปที่เวทีโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบข้างแม้แต่น้อย



หญิงสาวที่ธีรเชษฐ์จำได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของมธุวันนั่งลงข้างเลขาของเขาด้วยสีหน้ารีบร้อน แต่คนที่ธีรเชษฐ์สนใจมากกว่า คือคู่หมั้นของหญิงสาวที่นิโคไลแนะนำให้เขารู้จักในแฟ้มประวัติอาชญากรรมเล่มหนา



โรเบิร์ต กาวิโน่ หัวหน้าตระกูลกาวิโน่คนปัจจุบัน และลูกชายแท้ๆของคนที่สั่งฆ่าภรรยาของเขาอย่างเลือดเย็น
หากเลือกได้ ธีรเชษฐ์อยากจะฝังกระสุนลงในหัวของขายคนนั้นด้วยตัวเอง แต่น้าเสียดายที่ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายดายขนาดนั้น



‘คุณไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่าคน…เชื่อผมสิครับ’ นั่นคือเหตุผลที่นิโคไลให้กับเขา ‘คุณเกศคงไม่ให้อภัยตัวเอง ถ้าหากเธอรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้พ่อของลูกๆเธอกลายเป็นฆาตรกร’


ทางเลือกที่เหลืออยู่จึงมีเพียงการปล่อยให้ ‘มืออาชีพ’ จัดการถอนรากถอนโคนโค่นล้างตระกูลกาวิโน่ให้หมดไปจากพื้นผิว
โลก



ที่หางตา ธีรเชษฐ์เหลือบมองมธุวันที่โน้มไปกระซิบบางอย่างข้างหูลูกชายคนโตของเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล ส่วนเมฆานั้นเพียงแต่ส่ายหน้าทั้งที่คิ้วเข้มยังคงขมวดมุ่น นึกเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กทั้งสองแม้ว่านิโคไลจะรับรองความปลอดภัยและอธิบายแผนให้เขาอย่างละเอียดซ้ำไปซ้ำมาอย่างอดทนก็ตาม



มือใหญ่กอบกุมมือเรียวเล็กของคนอีกครที่ตนเป็นห่วงไม่ต่างกัน มีนาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างประหลาดใจ แต่ก็บีบมือของร่างสูงตอบกลับราวกับจะปลอบประโลมคนที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรไป


เสียงทำนองเพลงแว่วหวานคล้ายบทบรรเลงในโบสถ์เริ่มขึ้นพร้อมกับนางแบบคนแรกในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ฟูฟ่องที่ดูค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดเจ้าสาวในฝันของเด็กหญิงตัวน้อย แม้ว่านางแบบคนสวยรูปร่างผอมเพรียวสูงยาวเข่าดีจะเป็นที่น่าจับตามองเพียงใด ธีรเชษฐ์ยังคงรู้สึกว่าหากคนข้างกายยอมใส่ชุดเจ้าสาวแขนตุ๊กตาแสนอ่อนหวานนั้นคงน่ามองกว่าเป็นไหนๆ



งานเดินแบบดำเนินไปโดยที่เหล่าหญิงสาวดีกรีนางแบบระดับโลกและนายแบบรูปร่างเพรียวลมหลายคนที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวทุกรูปแบบที่มนุษย์จะจินตนาการได้ผลัดกันสับขาออกมาตามเวทีด้วยความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตน
แน่นอน คนที่สร้างรายได้จากรูปร่างหน้าตาเป็นหลักย่อมเรียกได้ว่าเป็นความเจริญหูเจริญตาในระดับหนึ่ง หลายคนในนั้นธีรเชษฐ์จำได้ด้วยความรู้สึกผิดลึกๆว่าเป็นส่วนหนึ่งของอดีตแสนดำมืดก่อนที่มีนาจะก้าวเข้ามาในชีวิต ทำเอาชายหนุ่มต้องแกล้งทำของตกอยู่หลายครั้งหลายคราเพื่อหลบหน้าบรรดาคู่นอนเก่าที่ส่วนมากจบกันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก เดือดร้อนถึงมีนาต้องช่วยก้มลงหาเหรียญที่ไม่มีอยู่จริงบนพื้นเป็นเพื่อนเขาแทบทุกครั้ง


เป็นอีกครั้งที่ธีรเชษฐ์ค้นพบว่าเขามีความสุขกับการก้มมองพื้นกับเด็กหนุ่มร่างเล็กที่กวาดสายตามองหาเศษเงินช่วยเขา มากกว่าการผลาญเงินไปกับเหล่าเนื้อนมไข่ที่มีแต่เรียกร้องจากเขาอย่างไม่รู้จักพอ



ร่างสูงอยากจะหัวเราะกับโชคชะตาที่เล่นตลกให้เขาได้พบกับคนที่อยากใช้ชีวิตที่เหลือด้วยหลังจากที่เขาตัดสินใจสังเวยชีวิตเพื่อล้างแค้นให้กับแสงสว่างที่ดับสูญ



“ครางหลังผมพกกระเป๋าใส่เหรียญให้ดีกว่า คุณเชษฐ์จะได้ต้องทำตก…อื้อ…”


มีนาเบิกตากว้างเมื่อคนที่ควรจะตั้งหน้าตั้งตาหาเศษเหรียญที่หล่นหายประกบปิดคำพูดของเขากลางประโยค แม้จะก้มอยู่กับพื้น และความสนใจของผู้คนทั้งหลายยังคงจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์บนเวที และการฉกฉวยสัมผัสเมื่อครู่นั้นเบาบางเสียจนแทบจะเรียกไม่ได้ว่าจูบ การกระทำของคนรักยังคงอุกอาจเกินกว่าเด็กน้อยขี้อายจะรับไหว ธีรเชษฐ์หัวเราะในลำคอเมื่อถูกมือเล็กๆนั้นผลักออกเต็มแรง แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้เขาขยับได้แม้แต่มิลเดียวก็ตาม



“ไม่เป็นไรหรอกน่า…ตื่นเต้นดีออก”


ตื่นเต้น…ตื่นเต้นจนหัวใจจะวายแล้ว ฮือ



เด็กหนุ่มรีบยืดตัวนั่งตรงอย่างมีพิรุธจนถึงที่สุด ดวงตากลมโตจดจ้องกับเวทีโดยปฏิเสธที่จะหันกลับไปมองคนขี้แกล้ง ดวงหน้าขาวร้อนเห่อแดงซ่านไปจนถึงลำคอ



แม้จะยังไม่หายงอนคนขี้แกล้ง แต่มีนายังคงปล่อยให้มือปลาหมึกเลื้อยมาโอบเอวของเขาไว้โดยไม่คิดอิดออด



ข้อเสียของเด็กดีก็เป็นอย่างนี้นั่นแหละ



แสงไฟรอบเวทีหรี่ลงพร้อมกับควันที่พวยพุ่งออกมาจากพื้น เปลี่ยนเวทีให้เป็นม่านหมอกแห่งความฝันเพื่อต้อนรับร่างสูง
โปร่งในชุดกี่เพ้าผ้าเนียนลื่นสีม่วงสดเฉดเดียวกับดวงตา วรินทร์ย่างเยื้องกรีดกรายออกมาจากหลังเวทีด้วยรอยยิ้มจางจากริมฝีปากเรียวสวยเคลือบด้วยลิปสติกสีม่วงเข้มฉ่ำวาวที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกลิ่นอายยั่วเย้าอันเป็นเอกลักษณ์ของนายแบบหนุ่ม เล่นเอาหนุ่มๆที่มองใจหวิวกันเป็นแถว รองเท้าส้นเข็มสีเข้มเคาะตามจังหวะการก้าวสับขายิ่งทำให้เรียวขายาวที่โผล่บนรอยแยกจากกระโปรงผ่าข้างซึ่งสูงเสียจนแทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการยิ่งดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก
ในฐานะคู่นอนเก่า ธีรเชษฐ์ต้องยอมรับว่านอกจากรูปร่างหน้าตาที่ฟ้าประทานมาแล้ว วรินทร์ยังรู้จักบริหารเสน่ห์ของตนได้เป็นอย่างดี เพียงชายตามองก็สามารถทำให้ผู้คนที่น้ำลายหกตามเป็นทางสยบแทบเท้าโดยไม่จ้องพยามยาม
แต่คนคนนี้สำหรับธีรเชษฐ์แล้วกลับรู้สึกว่าน่ากลัวเสียยิ่งกว่าเหล่านกหวีดเสียงแหลมที่ตามตอแยเขาจนเลขาหน้าห้องแทบจะเข้ามาแหกอกเขาด้วยตัวเองไม่เย้นแต่ละวันพวกนั้น ทุกการกระทำของวรินทร์นั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ราวกับว่าชีวิตประจำวันของนายแบบหนุ่มเป็นเพียงละครหนึ่งฉากที่มีบทเขียนไว้อย่างชัดเจน กระทั่งท่วงท่าการกระพริบตายังสมบูรณ์แบบราวกับฝึกฝนมาเป็นพันครั้งเพื่อการนี้



สัญชาตญาณของธีรเชษฐ์บ่งบอกว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างผิดปกติ ประจวบเหมาะกับที่มีนาเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาในชีวิตของเขา ตีรวนชีวิตที่เขาเคยควบคุมได้จนยุ่งเหยิงวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้เขาเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กับวรินทร์ไป ดีหน่อยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตามตอแยเขาเเหมือนกับอดีตหลายๆคนที่ผ่านมา



ท่ามกลางกระแสความหลงใหลในเรือนกายเย้ายวน ธีรเชษฐ์สังเกตว่าเฟิ่งหยางหมิงนั่งกอดอกมองนายแบบหนุ่มราวกับนึกอยากจะกระชากอีกฝ่ายลงมาจากเวทีแล้วควักลูกตาทุกคนที่กล้าใช้มันโลมเลียผิวกายนวลเนียนจนเกิดราคี
ราวกับรับรู้ถึงสายตาแผดเผาของอีกฝ่าย วรินทร์ขยับหมุนตัวฟูลบอดี้เทิร์นหนึ่งรอบอย่างงดงามตรงหน้าของมาเฟียหนุ่มหน้าหยกพร้อมกับขยิบตาให้ก่อนจะเดินต่อไป เรียกสายตาของทุกคนให้มองตามจังหวะการขยับของก้อนเนื้อกลมกลึงในชุดแนบเนื้อผ้าเบาบางสมเป็นชุดส่งตัวเข้าหออย่างแท้จริง ธีรเชษฐ์โน้มไปหามีนาที่นั่งตาแปซมองการเดินแบบของวรินทร์ตั้งแต่ต้นจนจบ ซุกหน้าลงกับซอกคอขาวพร้อมประทับริมฝีปากลงบนแอ่งชีพจรที่เต้นตุบๆชวนให้สร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของ



“อะ…อะไรครับคุณเชษฐ์?” มีนาที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกครั้งพยายามดันหน้าคนรักออกไปอย่างเบามือที่สุด แต่ขนาดออกแรงทั้งตัวหินผาก้อนนี้ยังไม่ยอมขยับ นับประสาอะไรกับมือเล็กที่ยันหน้าเขาอยู่ในตอนนี้



“ไม่อยากมอง กลัวเธอไม่สบายใจ”




“มะ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็มอง คนอย่างคุณวรินทร์ เป็นใครก็ต้องมองทั้งนั้น” มีนาตอบอย่างไม่ถือสา แม้ว่าหัวใจดวงน้อยจะพองโตจากความเอาใจใส่เล็กๆนั้น



“ชอบแบบนั้นเหรอ?” กลับกลายเป็นคนฟังที่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีที่ได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มขยับยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่ชอบครับ”



“แล้วชอบแบบไหน” คำถามที่เห็นได้ชัดว่าจงใจเฟ้นหาคำชมจากปากเขาทำให้มีนาอดลอบยิ้มอย่างเขินอายไม่ได้ ทั้งที่อายุมากกว่าเขาตั้งมาก บางสิ่งบางอย่างที่ธีรเชษฐ์ทำกลับทำให้มีนาอดรู้สึกไม่ได้ว่าน่าเอ็นดู เหมือนเด็กตัวน้อยๆที่ติดอยู่ในร่างของนักธุรกิจหนุ่มมากประสบการณ์อย่างไรอย่างนั้น




แม้อยากจะกลั่นแกล้งคนพ่ออย่างที่ทำกับคนลูกไม่เมื่อเช้าแค่ไหน แต่ประกายคาดหวังในแววตาของธีรเชษฐ์ทำให้เด็กหนุ่มทำไม่ลง


“ก็…แบบคนแถวนี้ครับ”



“คนแถวนี้นี่ใคร มีตั้งเยอะแยะ” เด็กโข่งร่างยักษ์ยังคงไม่ยอมแพ้ มีนาเอียงคอ ก่อนจะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ



“ก็…แบบคุณเมฆาล่ะมั้งครับ”


ชื่อของลูกชายคนโตที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากของคนรักทำให้ธีรเชษฐ์นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่สิ่งที่มีนาเอ่ยถัดมาเรียกรอยยิ้มที่หาดูได้ยากจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี



“เสียดายที่คุณเมฆาเด็กไปหน่อย...ถ้าแบบที่ผมชอบคงต้องแก่กว่านี้ซักสิบเจ็ดปีนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มหวานให้คนรัก การที่ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนความรู้สึกของตัวเองจากโลกภายนอกเปลี่ยนให้เด็กน้อยที่มักหวาดระแวงคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลากลายเป็นเด็กหนุ่มที่โน้มเข้ามาประทับริมฝีปากลงบนสันกรามของคนรักในที่สาธารณะได้



“หึ เดี๋ยวนี้ปากหวานขึ้นนะ” แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนที่หันกลับมาให้ริมฝีปากนุ่มหยุ่นกดลงบนริมฝีปากของตัวเองแทนได้ ธีรเชษฐ์ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจกับคำตอบของคนรัก แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่ยังคงมีรสลิปกลอสสีใสฉ่ำวาวรสโปรดของตนหลงเหลืออยู่อย่างเชื่องช้า แม้นึกอยากจะสอดลิ้นเข้าไปทวงหาความหวานจากร่างเล็กแต่ยังพอจะรุ้กาละเทศะอยู่บ้าง สายตาหิวกระหายอย่างไม่ปิดบังเรียกให้คนมองร้อนเห่อไปทั้งร่าง มีนาหันกลับไปสนใจงานที่กำลังจะเริ่มการแสดงชุดที่สองในอีกไม่ช้าเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย ทว่าคนข้างที่ขยับเข้ามาคลอเคลียชิดใกล้ประกาศเจตนารมย์ชัดจากการกระทำว่าไม่คิดรามือโดยง่าย



“ตอนนี้ที่หน้าโรงแรมมีรถรออยู่ ไปรอฉันที่นี่” กระดาษแข็งแผ่นหนึ่งถูกสอดเข้ามาในกระเป๋ากางเกง เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบสั่งสลับดูดเม้มติ่งหูเย็นจนคนถูกรังแกต้องยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินอาย “เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย...”



“แต่…ห้องเราก็มีนี่ครับ” มีนาไม่เข้าใจ เหตุใดจึงต้องยุ่งยากนัดพบกับคนที่นั่งข้างกัน ธีรเชษฐ์ถอนหายใจข้างหูของเขา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราวกับกำลังสั่งสอนวิชาเรียนให้ศิษย์น้อยด้อยวิชา



“เชื่อฉันสิเด็กดี อาบน้ำแต่งตัวหอมๆเป็นเด็กดีรอฉันอยู่ที่นั่น ปิดโทรศัพท์ ตัดขาดจากโลกภายนอก ให้โลกนี้มีแค่เราสองคนทั้งวัน...ทั้งคืน... โรแมนติกดีออก ว่ามั้ย?”



“แต่ว่า...”



“เด็กดี...” ธีรเชษฐ์กดจูบเน้นย้ำลงบนขมับของเด็กหนุ่มอย่างรักใคร่ “เชื่อใจฉันนะ”



แล้วเด็กน้อยว่าง่ายอย่างมีนา จะกล้าปฏิเสธคำขอนั้นได้อย่างไร



ร่างเล็กแอบออกมาในช่วงพักก่อนที่การแสดงชุดใหม่จะเริ่ม ที่หน้าโรงแรมมีรถรถยนต์สำดำคันหนึ่งจอดอยู่จริง ซึ่งคนขับเป็นชายชาวต่างชาติที่โบกมือให้มีนาทันทีที่เห็น แม้รูปร่างสูงใหญ่นั้นจะข่มขวัญคนตัวเล็กจนผงะก้าวถอยหลัง แต่เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวว่าพูดไทยได้และเป็นคนของนิโคไลที่ร่วมมือกับธีรเชษฐ์สำหรับเซอร์ไพรสในครั้งนี้ มีนาจึงทำได้เพียงก้าวเข้าไปในรถมุ่งหน้าไปยังรีสอร์ทที่อยู่ไกลจากที่นี่ไปเกือบชั่วโมงด้วยสีหน้าเคลือบแคลงใจ
ทำไมคนรักของเขาถึงได้ชอบทำะไรพิเรนทร์ๆแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ




----------(ต่อ)---------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5


เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้องจากผู้ชมจำนวนหลายร้อยคน แสงแฟลชจากกล้องนับสิบนับร้อยฉายวาบไปยังเหล่านางแบบนายแบบและดีไซเนอร์ชื่อดังบนเวทีที่ถือดอกไม้ช่อใหญ่โค้งรับคำชม ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าชายฉกรรจ์หลายสัญชาติที่อยู่ในกลุ่มผู้ชมนั้นดูมากหน้าหลายตาขึ้นกว่าก่อนหน้า ธีรเชษฐ์เหลือบมองนิโคไลที่กระตุกยิ้มมุมปากให้เขา ไฮไลท์ของงานที่แท้จริงกำลังจะเริ่มนับจากนี้ต่างหาก


ตู้ม!!



เสียงกรีดร้องของผู้คนแตกตื่นจากเสียงระเบิดดังระงมปะปนไปกับเสียงฝีเท้าของผู้คนที่กรูกันหนีตายออกไปจากตัวอาคาร ธีรเชษฐ์เบี่ยงออกมาจากทิศทางที่ฝูงชนกำลังหลั่งไหลออกไป ปืนพกกึ่งอัตโนมัติในมือเตรียมพร้อมปิดฉากละครองค์นี้ของชีวิตเสียที ชายหนุ่มสังเกตเห็นเมฆาและมธุวันที่ออกไปนอกตัวอาคารทันก่อนระเบิดลูกที่สองที่ถูกติดตั้งไว้ในครัวของโรงแรมจะระเบิดขึ้นมา



ในแผนการณ์ล่อเสือออกจากถ้ำเช่นนี้ หากยิ่งเคลื่อนย้ายคนใกล้ตัวออกไปในที่ปลอดภัยมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้น แม้จะไม่รู้เหตุผล แต่นิโคไลกำชับอย่างหนักแน่นว่ามธุวันไม่อยู่ในตัวเลือก และธีรเชษฐ์มั่นใจว่าลูกชายของตัวเองไม่มีปัญหาในการหาทางหนีทีไล่ในสถานการณ์คับขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนร้ายพวกนี้ตั้งใจแค่จะกำจัดคนไม่เกี่ยวข้องออกไปอยู่แล้ว จึงเหลือเพียงมีนาที่เขาไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงให้เกิดเรื่องกับร่างเล็กได้ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม



“เห็นคุณถือปืนแบบนี้แล้วนึกถึงคุณพ่อคุณเหมือนกันนะครับ” นิโคไลชวนคุยพร้อมรอยยิ้มสบายๆ อาวุธสงครามในมือเตรียมพร้อมปลิดชีพศัตรูได้ทุกเมื่อ



“ไม่รู้สิครับ ผมไม่ค่อยสนิทกับพ่อเท่าไหร่”


ธีรเชษฐ์สอดส่ายสายตาหาความผิดปกติในฝุ่นควัน  ลูกน้องจำนวนเพียงหยิบมือของนิโคไลที่ร่างสูงจดจำได้ดีจากการติดต่อกับมาเฟียหนุ่มตลอดเวลาที่ผ่านมายิงสวนฝ่าม่านฝุ่นควันไปยังเงาร่างของชายฉกรรจ์อาวุธครบมือหลายสิบชีวิต ธีรเชษฐ์หาที่กำบังให้กับตัวเอง เช่นเดียวกับมาเฟียหนุ่มที่ยังคงมีท่าทีเหมือนตัวเองอยู่ในงานปาร์ตี้น้ำชาอย่างไรอย่างนั้น



“พ่อของคุณช่วยเหลือผมมาตลอดตั้งแต่ช่วงที่ผมเริ่มรับช่วงต่อกิจการใหม่ๆ เรียกได้ว่าเป็นพ่ออีคนของผมเลยล่ะ” นิโคไลยังคงชวนคุย แม้ว่าจำนวนร่างที่ล้มลงไปจากปลายกระบอกปืนของชายหนุ่มจะมีมากพอๆกับคนที่ไม่ได้พูดอะไรอย่างเฟิ่งหยางหมิงที่อยู่ข้างๆพวกเขา


อา...ถึงว่าทำไมถึงได้รู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ



“พาคนมาแค่นี้ นี่แกอยากกลับไปอยู่กับพ่อมากขนาดนั้นเลยรึไง อัลฟอนโซ่” เสียงตะโกนของคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความโหลาหล ธีรเชษฐ์พยายามหรี่ตามองผ่านควันพอจะจับเค้าได้ลางๆว่าเป็นคนที่มีลูกน้องอีกหลายคนคุ้มกันหน้าหลังแน่นหนา



“ฉันว่าก่อนที่แกจะทำปากดี ลองแหกตาดูก่อนดีมั้ยว่าศพบนพื้นเป็นลูกน้องใคร” นิโคไลไหวไหล่ เก็บชายที่คุ้มกันทางซ้ายของคนคนนั้นอย่างไม่รีบร้อน ธีรเชษฐ์ที่เห็นคนล้มลงไปต่อหน้าต่อตายังคงรู้สึกผะอืดพะอมอยู่มาก ดูท่าพ่อของเขาจะคิดถูกแล้วที่ไม่ให้เขาเดินในเส้นทางนี้



ข้างกายของเขา เฟิ่งหยางหมิงหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


“นิโคไล แก!!”



ปัง!



ตัวประกอบที่ธีรเชษฐ์คิดว่าเป็นบอสเฉพาะกิจในวันนี้ร่วงลงไปกองกับพื้นก่อนจะได้ขยับปากไปมากกว่านั้น นิโคไลหาวหวอด ก่อนจะเริ่มจัดการกับผึ้งแตกรังทั้งหลายทีละคนสองคนเพื่อแบ่งเบาภาระงานให้ลูกน้องตามประสาบอสที่ดี ดูเหมือนว่าพวกกาวิโน่จะติดกับนิโคไลเข้าอย่างจัง เพราะจำนวนคนที่กรูกันมารุมล้อมพวกเขามากพอที่จะตีได้ว่ายกกันมาทั้งแก๊ง
ล่อเสือออกจากถ้ำ? ล่อง่ายขนาดนี้เห็นทีจะไม่ใช่เสือเสียล่ะมั้ง?



“อย่าเพิ่งได้ใจไปครับ บอสของพวกมันจริงๆจนถึงตอนนี้ยังไม่โผล่หัวออกมาด้วยซ้ำ” นิโคไลกล่าวราวกับอ่านความคิดของธีรเชษฐ์ออก “แต่ก็นะ เจ้าเด็กใหม่นั่นยังไม่ค่อยได้รับความเชื่อจจากคนในตระกูลเท่าไหร่ ที่กรูกันมาขนาดนี้คงจะเพราะใครๆก็อยากอวดอ้างว่าตัวเองได้เป็นคนกำจัดยักษ์ใหญ่อย่างอัลฟอนโซ่ด้วยตัวเองมากกว่า”
ต่อให้สมองดีแค่ไหนถ้าร่างกายไม่ยอมทำตามก็เปล่าประโยชน์ ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า ปัญหานี้ต่อให้อยู่ในวงการไหนก็ต้องเจอสินะ



ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อเห็นร่างที่ล้มลงทับกันเป็นผักปลาของเหล่าลูกสมุนของตระกูลกาวิโน่ เงยหน้ามองจุดที่เขาคิดว่าวิถีกระสุนน่าจะมาจากตรงนั้น



“สไนเปอร์?”



“ผมไม่ชอบทำอะไรยืดเยื้อน่ะครับ” คนที่ปิดปากหัวโจกฝ่ายศัตรูโดยไม่คิดจะรอให้ตัวร้ายพูดบทสูตรสำเร็จของตัวโกงระดับล่างของตนให้เสร็จให้เหตุผล ไม่ลืมจัดการกับคนที่หันกระบอกปืนมาทางพวกเขา“หลังจากนี้ผมมีธุระต่อพอดี ให้ตายสิ คน
กำลังคุยกัน พวกกาวิโน่นี่ไร้มารยาทชะมัด”



“….” นี่มันฆ่าล้างบางตระกูลหรือนัดคุยงานลูกค้าที่ร้านกาแฟ


ธีรเชษฐ์ชักจะเริ่มคิดแล้วว่าในโลกของนิโคไล สองสิ่งนี้ไม่มีความแตกต่างกัน



ร่างสูงหันปลายกระบอกปืนไปยังความเคลื่อนไหวข้างกายทันทีตามสัญชาตญาณ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าคนที่โผล่มาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง คือบิดาแท้ๆที่ตนบากหน้าไปขอความช่วยเหลือหลังจากขาดการติดต่อกันไปหลายปี



ธีรเชษฐ์บอกตัวเองไม่ให้คาดหวัง แต่เมื่อได้เห็นชายชาวรัสเซียผมแซมสีดอกเลาร่างสูงใหญ่ที่เปลี่ยนตลับกระสุนอยู่ข้างกาย ความปลอดภัยที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานกลับแผ่ซ่านไปทั่วร่างของของชายหนุ่มอย่างไร้สาเหตุ



“ช้านะตาแก่...” ถึงอย่างนั้นคนปากแข็งยังคงเลือกที่จะค่อนแคะผู้เป็นบิดากลบเกลื่อนความรู้สึก ดวงตาสีควันบุหรี่เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าข้างกายของคาร์ซิเมียร์นั้นมีใครติดสอยห้อยตามมาด้วย “เมฆ?”



“พ่อครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เมฆาถามด้วยสีหน้าสับสน การปรากฏตัวของลูกชายคนโตที่เขาเห็นว่าวิ่งออกไปจากตัวอาคารแล้วเรียกความหวาดกลัวให้เกาะกุมจิตใจของผู้เป็นบิดา เขาไม่คิดว่าเมฆาจะย้อนกลับมาข้างในอีก



“ไว้ค่อยปรึกษาปัญหาครอบครัวกันทีหลังดีมั้ยครับทุกคน” นิโคไลหันมาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ คาซีเมียร์ขมวดคิ้ว ถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคุณปู่ที่พาหลานตัวน้อยออกไปซื้อขนมโดยที่พ่อแม่เด็กไม่ได้ยินยอม แต่ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิด



“ถ้าจะแก้แค้นตระกูลที่สั่งฆ่าเมียแก ทำไมลูกแกจะตามมาแก้แค้นให้แม่มันไม่ได้?”



ดวงตาที่เบิกกว้างของเมฆาเมื่อได้ยินความจริงนั้นทำให้ธีรเชษฐ์ตวัดสายตามองผู้เป็นบิดาอย่างขุ่นเคือง เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะบอกความจริงกับลูกชายทั้งสาม ไม่เคยคิดอยากให้ร่างไร้ลมหายใจฝังรอยกระสุนปืนของผู้เป็นภรรยากลายเป็นบาดแผลลึกในใจของเด็กทั้งสามเช่นที่เขาต้องแบกรับมาตลอดหลายปี และถึงแม้ว่าจะมีความจำเป็นใดที่ทำให้เขาต้องเปิดเผยความ
จริงนั้น นี่คงเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่เลวร้ายที่สุดที่เมฆาจะได้รับรู้เหตุการตายของมารดา



ถึงอย่างนั้น นอกจากแววตาสับสนของลูกชายแล้ว เมฆากลับไม่ได้ดูประหลาดใจกับความจริงที่น่าตกใจนี้มากเท่าที่ควร
คำอธิบายหรือคำปลอบโยนที่ธีรเชษฐ์พยายามสรรหาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงระเบิดอีกลูก เรียกความสนใจของทุกคนให้กลับมาสู่สนามรบขนาดย่อมรอบกาย ธีรเชษฐ์สังเกตเห็นว่านอกจากลูกน้องของนิโคไลในตอนต้น ชายแปลกหน้าที่เพิ่มจำนวนขึ้นจนในตอนนี้มีมากกว่าพวกกาวิโน่ทั้งฝูงตามมาสบทบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบ ทำให้ธีรเชษฐ์นึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง



“Left wing’s cleared! (ปีกซ้ายปลอดภัยแล้วครับ)”



เสียงตะโกนของใครบางคนทำให้นิโคไลยิ้มออก แม้ว่าพวกเขาจะยังอยู่ในระหว่างการดวลปืน แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นเหลือจำนวนน้อยเสียจนแทบไม่น่าจะเป็นปัญหา ธีรเชษฐ์เองก็เริ่มปล่อยให้คนอื่นๆจัดการเก็บกวาดฝ่ายตรงข้ามที่เหลือเพียงหยิบมือ ก้มมองฝ่ามือที่สั่นเทาของตัวเองก่อนจะถอนหายใจ



เขาก็ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อโลกแบบนี้จริงๆนั่นแหละ


“Right wing’s cleared! (ปีกขวาปลอดภัยแล้วครับ)”



นิโคไลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระสุนนัดสุดท้ายทะลุเข้ากลางหน้าผากของตระกูลกาวิโน่คนเดียวในที่นี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนลูกน้องคนหนึ่งของนิโคไลจะประกาศเสียงก้องดังไปทั่วโถงอาคารที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง



“All clear! (ปลอดภัยหมดครับ!)”



ก้อนความรู้สึกที่แบกไว้ในอกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้สลายหายไปหลังจากบรรลุจุดมุ่งหมายอย่างที่เขาเคยคาดหวัง กลับกัน สิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์รู้สึกเมื่อมองไปรอบๆซากปรักหักพังและร่างไร้ลมหายใจที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้นมีเพียงความว่างเปล่า ราวกับว่าตัวเองกำลังดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับเรื่องราวเหล่านี้ หนี้แค้นที่ได้รับการสะสางให้ความรู้สึกเหมือนธุระที่รับฝากฝังมาจากคนอื่นเสียมากกว่า



ราวกับว่าในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขาได้เปิดฉากละครบทใหม่กับใครอีกคน ที่ทำให้บาดแผลนั้นตกสะเก็ดกลายเป็นแผลเป็นที่ด้านชามาได้ระยะหนึ่งแล้ว



แค่คิดถึงคนที่ว่าซึ่งกำลังรอเขาอยู่ในรีสอร์ทริมหาดที่อีกฟากของตัวเมือง ธีรเชษฐ์ก็รู้สึกถึงรอยยิ้มที่ยกขึ้นเองอย่างไร้แรงต้านทานที่มุมปาก



ซื้ออะไรกลับไปให้ดีนะ…



“Boss! Look out!!(บอสครับ ระวัง!)”


ปัง!


ธีรเชษฐ์หันกลับไปทางต้นเสียง เตรียมลั่นไกใส่ความเคลื่อนไหวใดๆก็ตามที่เกิดขึ้น



แต่ภาพที่ร่างสูงเห็นเห็นคือร่างของมือปืนที่ยังมีสติอยู่ซึ่งหวังจะลอบยิงนิโคไลทีเผลอทรุดลงไปบนพื้น เผยให้เห็นนายแบบหนุ่มในชุดเจ้าสาว ที่ถือปืนพกกระบอกเล็กซึ่งมีควันกรุ่นจากปากกระบอกปืนอยู่ด้านหลัง



ปัง!ปัง!ปัง!


วรินทร์ฝังกระสุนลงในร่างของมือปืนที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ดวงตาสีม่วงสดเย็นเยียบและว่างเปล่า ราวกับว่ามันเป็นเพียงกิจวัตรประจำวันหนึ่งในชีวิตของตน



นิโคไลขยับยิ้มมุมปากแล้วกางแขนออกกว้าง วรินทร์โผเข้าไปในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างรู้งาน ที่ด้านหลังของนายแบบหนุ่ม เฟิ่งหยางหมิงกัดฟันกรอดมองดูคนทั้งคู่ด้วยแววตาที่สามารถปลิดชีพคนที่ถูกมองได้ในพริบตาเดียว
เขาควรจะแปลกใจที่อดีตคู่ควงของตนแลดูสนิทสนมกับนิโคไลเสียจนแทบจะสิงร่างมาเฟียหนุ่มในตอนนี้ แต่ธีรเชษฐ์ค้นพบว่าเขาไม่ประหลาดใจสักนิดหากคนรอบคอบอย่างนิโคไลจะส่งสายสืบมาเพื่อจับตาดูเขาไว้


ฉับ!


ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างอย่างตกใจ ในมือของนิโคไลมีมีดพกขนาดเล็กซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นผมเนียนละเอียดสีดำสนิทที่เคยยาวระสะโพกถูกตัดลงไปกระจายกับพื้น มาเฟียหนุ่มชาวอิตาลียิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วยาวเชยคางมนให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเงยขึ้นมองเขา



“ไปเถอะริน...”


“นิค…” ดวงตาสีม่วงสดไหวระริก ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าหมายความว่าอย่างไร



“เงาน่ะ..ต้องเป็นของอัลฟอนโซ่ทั้งตัวและหัวใจ” นิโคไลเลิกคิ้วมองเลยไปยังชายหนุ่มชาวเอเชียที่ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ด้านหลังของวรินทร์ “เงาที่เลี้ยงไม่เชื่องอย่างรินน่ะ ฉันไม่ต้องการหรอกนะ”



แม้คำพูดของชายหนุ่มจะดูไร้เยื่อใย แต่แววตาของนิโคไลนั้นฉายแววอ่อนโยนอย่างที่วรินทร์แทบไม่เคยเห็นมันมองมาที่เขามาก่อน นิโคไลดึงให้เงาของตัวเองที่ยังคงนิ่งอึ้งจากความตกใจให้เริ่มเดินไปหาเฟิ่งหยางหมิงที่ยืนกอดอยู่ ดูคล้ายพ่อเจ้าสาวที่กำลังจะส่งตัวลูกให้เจ้าบ่าวในพิธีแต่งงานอย่างน่าประหลาด



“ของตอบแทนเล็กน้อยจากผม หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งนะครับ คุณเฟิ่ง”



“อย่าเจอกันอีกจะดีกว่าครับ” เจ้าของชื่อดึงร่างของวรินทร์ที่แม้จะเป็นคนตัวสูงแต่ก็ยังเซเข้าไปซบกับอกกว้างของชายหนุ่มราวกับเด็กสาวตัวน้อยมากอดไว้แนบออก ท่าทีแสดงความเป็นเจ้าของแทบจะในวินาทีแรกที่ได้สัมผัสร่างของวรินทร์ทำให้นิโคไลยิ้มขำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร



“回去! (กลับ!)”



เพียงแค่นั้นชายเกือบครึ่งหนึ่งในห้องก็เดินตามชายหนุ่มชาวฮ่องกงไปอย่างว่าง่าย ส่วนนิโคไลก็หันไปหากลุ่มลูกน้องที่กำลังจัดการเก็บกวาดหลักฐานของการต่อสู้เมื่อครู่อย่างขยันขันแข็ง ชี้ไปที่ศพของชายคนหนึ่งบนพื้นแล้วพูดอะไรสักอย่างเป็นภาษาอิตาลี ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนกลับเปลวเพลิงที่แผดเผาลามเลียทุกสิ่งรอบกายพวกเขา



“ผมว่าเราออกไปจากที่นี่กันเถอะครับ”



เมฆาหันไปบอกบิดาและปู่ของตัวเองด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ธีรเชษฐ์พยักหน้า นึกเป็นห่วงลูกชายที่มีสีหน้าซีดเซียวจนคล้ายจะเป็นลมล้มพับไปในตอนนี้



“Team A down. Cannot locate Star at the moment. (ทีมAถูกโจมตี ตอนนี้ไม่สามารถระบุตำแหน่งของดวงดาวได้ครับ)”



สีหน้าของนิโคไลที่กระหยิ่มยิ้มย่องมาโดยตลอดถอดสีซีดเผือดไม่ต่างจากเมฆา ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ขอคำขยายความของรหัสลับนั้น เงาของชิ้นส่วนปูนขนาดยักษ์ที่ร่วงหล่นลวมาจากเพดานในจุดที่เมฆาซึ่งกุมศีรษะด้วยสีหน้าเจ็บปวด ร่างกายโซเซไปมาอย่างไม่รับรู้สภาพรอบกายทำให้ธีรเชษฐ์พุ่งตัวเข้าไปหาลูกชายคนโตโดยไม่ต้องคิด



“เมฆ!!”



ร่างของเมฆาถูกผลักจนเซล้มลงไปกองกับพื้น แต่ยังไม่ทันที่จะได้โล่งใจ แรงกระแทกหนักๆของชิ้นส่วนปูนขนาดใหญ่ที่ทับลงมากลางหลังก็ทำให้ธีรเชษฐ์ล้มลงไปกับพื้น



เขาไม่รู้สึกเจ็บ


ไม่สิ คงต้องบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ช่วงเอวลงไปมากกว่า



ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือเมฆาที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น แม้จะนึกเป็นห่วงลูกชาย แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงปลอดภัยดี



ดีแล้วล่ะ…



ธีรเชษฐ์คิด เปลือกตาที่หนักอึ้งปรือปรอยลงอย่างอ่อนล้า



อย่างน้อยก่อนตาย เขาก็ได้ทำหน้าที่ของพ่อกับคนอื่นเขาบ้างเสียที



เขาได้แต่กระซิบคำขอโทษไปตามสายลมแผ่ว หวังให้มันถูกส่งไปถึงร่างเล็กที่ยังรอคอยเขาพร้อมรอยยิ้มหวานประดับดวงหน้าใส



ขอโทษนะมีน…



ขอโทษนะ ที่ทำให้รอยยิ้มของเธอหายไปอีกแล้ว…


-------------

 :L1: :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยคุณเชษฐ์ต้องไม่เป็นอะไรร ไม่เป็นอัมพาตใช่มั้ย
สงสารหนูมีน อุตส่าห์ยิ้มได้แล้วเชียว แงงงงงงงงงงงงงง  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องมีนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกแล้วลูก.   :m15:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สงสารมีนทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้นะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
คุณเชษฐ์อย่าตายนะ สงสารน้องมีน :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คนแก่ของช้านนนน :sad4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อย่าตายนะลุง เมียเด็กรอลุงอยู่นะ อดทนไว้เด้อ  :angry2:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
น้องมีนอาบน้ำรอที่ห้องแล้วนะ คุณเชษฐ์ต้องรีบตื่นแล้วแหละ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด