**||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Last Song [บทส่งท้าย] (13/06/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Last Song [บทส่งท้าย] (13/06/61)  (อ่าน 171880 ครั้ง)

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #300 เมื่อ10-02-2018 19:38:58 »

หวานขนาดนี้ แปล​ว่า​อนาคต​ข้างหน้า​จะขมปี้หรือเปล่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #301 เมื่อ10-02-2018 20:02:30 »

ดีใจอ่ะน้องดิมเริ่มเปิดใจแล้วทั้งกับคุณปราณแล้วก็เพื่อนตัวเอง ต่อไปคงแก้ปมพี่ดาสินะ อันนี้ก็อยากรู้ ปมเยอะดี ชอบๆๆ บางทีก็คิดแบบเดียวกับเดลนะเรื่องคุณปราณ เอาจริงๆ ถ้าไม่ใช่คนเขียนคนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอ่านเรื่องนี้ดีหรือเปล่า ด้วยความที่อายุต่างกันมากกก และพระเอกก็แก่มากกกก 55555 //ลุงอย่ายิงเรานะ อิอิ แต่พออ่านแล้วมันอบอุ่นและก็ดีใจที่ได้อ่านนะ เพราะ ตัวละครไม่ได้สมบูณณ์แบบนั่นทำให้ตัวละครเติมเต็มกันและกัน เป็นกำลังใจให้นะคะ

คิดเหมือน
ดิม เปิดเผยกับลุง กับเดลมากขึ้นและ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #302 เมื่อ10-02-2018 20:22:49 »

เปิดใจกับลุงแล้วเลยได้ลองเปิดใจกับเพือนบ้าง
ดิมดูมีชีวิตชีวาขึ้นนะ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #303 เมื่อ10-02-2018 21:00:22 »

เราว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ดิมค่อยๆเปิดใจก็เป็นเพราะอยู่กับลุงนี่แหละ ทีนี้ก็ต้องรอดูว่าอะไรรออยู่ที่ภูเก็ตแต่ใจลึกๆอยากเห็นลุงโหดสักครั้งนะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #304 เมื่อ10-02-2018 22:21:52 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #305 เมื่อ11-02-2018 00:34:13 »

มาช้ายังดีกว่าไม่มาเน้ออ รอได้ ~

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #306 เมื่อ11-02-2018 01:11:49 »

ผ่านช่วงวิกฤตไปให้ได้นะดิม

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #307 เมื่อ12-02-2018 20:12:27 »

ปกติไม่อ่าน m preg เลยค่ะ แต่มีคนรีวิวในทวิตเตอร์เลยมาอ่าน
แบบมาชอบมากกกกก มันไม่ใช่พลอตที่แบบจำเจ
แบบ ยังไงดีล่ะ เราหลงรักความ ลุง ของคุณปราณอะ
ลุงที่แซ่บอะ แบบ อายุไม่สำคัญเลยย  :ling1:
โอ้ยยยย แซ่บทั้งดิม ทั้งลุง แบบอยากอ่านต่อเรื่อยๆเลยค่ะ  :katai2-1:
เรื่องของพี่ดาเองก็น่ากังวลมาก กลัวจิตใจดิม
ดิมดูเหมือนเข้มแข็ง แต่จริงๆก็อ่อนแอนะ สร้างเกราะแข็งๆมาป้องกันตัวเฉยๆ
แต่ลุงนี่แหละ แข็งจริง คนมีอายุก็งี้ ชอบมากๆเลยค่ะ  :mew4:
จะติดตามเรื่องนี้ทุกวันนะคะ

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #308 เมื่อ12-02-2018 22:56:42 »

รอปมของพี่สาวดิมคลายออก......

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #309 เมื่อ18-02-2018 20:36:03 »

ชอบบบบอ่านกี่ตอนยิ้มทุกตอนอ่ะ
ทำหนังสือก็จะเปย์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
« ตอบ #309 เมื่อ: 18-02-2018 20:36:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #310 เมื่อ19-02-2018 01:20:43 »

ดิ่มดิ๊มเปิดใจกับทุกคนแล้ว
ดิ่มดิ๊มเลิกปิดกั้นตัวเองแล้ว
ดิ่มดิ๊มเริ่มมองความสำคัญของคนใกล้ตัวบ้างแล้ว
ไม่ได้มองเห็นความสำคัญแค่พี่สาวตนเองอีก

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #311 เมื่อ06-03-2018 16:21:26 »

รอ รอต่อไป
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Minzero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Eighteenth Song (10/02/61)
«ตอบ #312 เมื่อ06-03-2018 17:35:42 »

ตามลุงมาจากอีกเว็บค่ะ อ่านกี่ทีก็เขินลุงมาก มันเป็นความละมุนในแบบที่หวานๆ 60 ยังแจ๋วชิมิคะคุณลุง :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ Marymo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-2
    • Fanpage: ปิงปองโต้คลื่น
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #313 เมื่อ11-03-2018 18:29:31 »

Nineteenth Song








เขาชอบแสงอาทิตย์


แสงอาทิตย์เป็นแสงสีขาวที่ร้อนระอุเสียจนน่ารำคาญ  ทุกครั้งที่มันสัมผัสโดนผิว หยาดเหงื่อเหนอะหนะก็จะไหลออกมาจากรู้ขุมขน เขาไม่ชอบคุณสมบัติแทบทั้งหมดของแสงแดด ยกเว้นอยู่ข้อเดียว...


แสงแดดทำให้เรามองเห็นสีสัน


...ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น...


แค่ลองจินตนาการถึงจักรวาลที่ปราศจากดวงอาทิตย์แล้ว...


น่าเบื่อ โลกที่เป็นสีดำสนิทจะต้องน่าเบื่อมากแน่ๆ


ภาพก้อนเมฆน้อยใหญ่ที่ลอยอยู่ไม่ไกลด้านนอกหน้าต่างจับสายตาเขาไว้ได้อยู่หมัด ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสถูกแต่งแต้มด้วยก้อนเมฆสีขาวสะอาดตา


ท้องฟ้าสีฟ้าสดเจือด้วยเมฆสีขาวเป็นปุยๆ


...เหมือนวันนั้นไม่มีผิด...


ภาพความทรงจำบางที่อย่างแล่นกลับเข้ามาในสมองพร้อมๆ กับเพลงที่ดังขึ้นในหูทำให้แววตาที่เรียบนิ่งมาตลอดหนึ่งชั่วโมงสั่นไหวไปวูบหนึ่ง แม้ดวงตากลมจะจับจ้องไปยังภาพท้องฟ้าตรงหน้าด้วยท่าทางนิ่งสงบไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ แต่สมองกลับมีภาพเหตุการณ์มากมายผุดขึ้นมาเต็มไปหมด


ภาพของวันวานที่แสนคิดถึง...


เขาจำมันได้ดี จำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ในวันนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าสวยหวานที่ละม้ายคล้ายใบหน้าของเขาส่องประกายท้าแสงแดดร้อนที่กระทบลงบนหยาดน้ำค้างบนยอดหญ้า เพลงโปรดของพวกเขาดังลอดออกมาจากหูฟังสีขาวอันเก่าที่เหลืองเสียจนดูแทบไม่ออกว่ามันเคยเป็นสีขาวมาก่อน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีใครคิดจะซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนแทน ตราบใดที่มันยังใช้ได้ พวกเขาจะใช้มันต่อไป


หูฟังสองข้างถูกแบ่งให้คนสองคน เสียงเพลงแผ่วๆ ที่ดังในรูหูเพียงข้างเดียวไม่ใช่อุปสรรคในการร้อง หากหัวใจจดจำเนื้อเพลงได้ ความดังเบาของเพลงในหูก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ พวกเขาร้องเพลงประสานเสียงกันท่ามกลางทุ่งหญ้าโล่งกว้าง ทางทิศใต้ไม่ไกลจากที่นี่คือทะเลที่ไม่มีชายหาด ส่วนทางทิศเหนือที่พวกเขาเดินจากมาคือกระท่อมไม้หลังใหญ่ที่ครอบครัวเช่าไว้เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับฤดูร้อน


สายลม แสงแดด ทะเล และทุ่งหญ้ากว้าง เขาบอกไม่ได้เลยว่าเขารักสิ่งไหนมากกว่ากัน


ตัวเขาในตอนนั้นเป็นแค่เด็กอายุสิบขวบที่ติดพี่สาวยิ่งกว่าใคร จำได้ว่าพ่อกับแม่ไม่ใช่พวกที่เอาใจใส่ลูกสักเท่าไหร่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ในวันนี้ก็เหมือนกัน หลังจากมาถึงบ้านพัก ทั้งพ่อและแม่ก็ง่วนอยู่กับการจัดปาร์ตี้ ปล่อยให้เขากับพี่สาวอยู่ด้วยกันในห้องใหญ่ๆ โล่งๆ ที่แสนน่าเบื่อ สุดท้ายพี่ก็เลยแอบลากเขาออกมายังทุ่งหญ้ากว้างที่อยู่ด้านหลังบ้าน


ขาสองข้างของคนสองคนทิ้งน้ำหนักเหยียบยอดหญ้าเป็นจังหวะเดียวกัน เสียงเพลงที่ถูกร้องประสานดังลั่นทุ่งหญ้าจนฝูงแกะที่อยู่ไกลออกมาต้องเงยหน้ามามอง


‘We wrote a prelude to our own fairy tale (พวกเราเขียนส่วนนำให้กับเทพนิยายของพวกเราเอง)’


เสียงใสๆ ที่ดังแข่งกับเสียงคลื่นที่กระทบหน้าผาหินนั้น เขาจำมันได้ขึ้นใจ


‘And bought a parachute at a church rummage sale (และซื้อร่มชูชีพอันหนึ่งมาจากงานขายของกระจุกกระจิกที่โบสถ์)’


เสียงร้องผิดคีย์ของเขาที่พยายามจะร้องตามเสียงหวานใสนั้นนึกถึงเมื่อไหร่ก็อดยิ้มไม่ได้ทุกที


‘So let's spend the afternoon in a cold hot air balloon (เพราะงั้นมาใช้เวลายามบ่ายบนบอลลูนหนาวๆ นี่กันเถอะ)’


เสียงประสานของพวกเขาดังก้องทุ่งหญ้ากว้างด้วยฝีมือของสายลมอุ่นที่พัดผ่าน


‘I can't wait to kiss the ground wherever we touch back down (ฉันอยากจูบพื้นดินบริเวณที่บอลลูนเราร่อนลงจะแย่อยู่แล้ว)’


พวกเขาวิ่ง พวกเขากระโดดท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี พี่สาวของเขาอยู่ในชุดกระโปรงสีขาวสะอาด ส่วนตัวเขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีฟ้าสดกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล พวกเขาจับมือกัน ร้องเพลงด้วยกัน วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยหอบ


‘สัญญาก่อนว่าห้ามบอกพ่อกับแม่นะว่าแอบหนีออกมา’


นิ้วก้อยป้อมๆ ของพี่สาวยื่นมาตรงหน้าเขา ตัวเขาในตอนนั้นพยักหน้าหงึกหงักแล้วรีบเอานิ้วไปเกี่ยวไว้ราวกับกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้ความลับจะรั่วไหล


‘สัญญาครับ’


‘เก่งมากเจ้าหนู’


แล้วพี่ก็ลูบหัวเขาเบาๆ จากนั้นพวกเขาก็จูงมือกันกลับบ้าน กลับไปกินข้าวเย็นตามปกติโดยไม่มีใครรู้เรื่องที่พวกเขาหายไปตลอดทั้งบ่ายเลยสักคน


บอกแล้วว่าไม่มีใครใส่ใจพวกเขานักหรอก แต่นั่นก็ถือว่าเป็นข้อดี เพราะมันทำให้วันหยุดฤดูร้อนปีนั้นเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต


การแอบกระโดดออกทางหน้าต่างและกลับเข้าทางหน้าต่างเป็นเรื่องสนุกไม่แพ้การวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าและแช่เท้าในทะเลสาบกว้าง พี่สาวที่มีรอยยิ้มสดใสราวกับพระอาทิตย์ เสียงประสานผิดคีย์ที่ร้องเพลงโปรดไปด้วยกัน ทุ่งหญ้ากว้างที่โอบล้อมด้วยแสงแดดอุ่นๆ


คิดถึง เขาคิดถึงสิ่งเหล่านั้นมากเหลือเกิน


‘ขณะนี้สายการบิน xxx ของเรากำลังจะพาทุกท่านลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ขอให้ท่านผู้โดยสาร....’


ขอให้ความคิดของเขาลอยไปถึงอีกคนทีเถอะ


ขอให้ความคิดถึงนี้นำพาเขากลับไปหาดวงอาทิตย์ของเขาสักที


พี่ครับ ผมอยากเจอพี่เหลือเกิน














ท้องฟ้าที่สดใสไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนเสมอไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับเขา...


หลังจากแยกกับเด็กหนุ่มเมื่อตอนกลางวัน ร่างสูงใหญ่ก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการรอ...รอจนท้องฟ้าด้านนอกถูกรัตติกาลกลืนกินจนกลายเป็นสีดำสนิทจึงได้ออกเดินทาง


การเดินทางตอนกลางคืนนั้นมีข้อดี หนึ่งคือผู้คนทั่วไปจะไม่แตกตื่นเกินไปกับขบวนรถมากมายที่ขับมาพร้อมกัน สองคือถ้ามีศัตรูอยากทำร้ายเขาขึ้นมา มันจะได้ทำงานยากขึ้นอีกหน่อย


จากประสบการณ์คนจับปืนมาหลายสิบปีขอรับรองว่าการยิงปืนในความมืดไม่ใช่เรื่องสนุกนักหรอก และการคิดจะทำร้ายเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเหมือนกัน


แล้วแววตามาดร้ายก็พาดทับดวงตาคู่คมกล้า


รถยนต์ยุโรปสีดำขลับที่ถูกสั่งทำเป็นพิเศษเพื่อปกป้องผู้โดยสารกำลังแล่นไปตามถนนสายหลักสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ห้องโดยสารเงียบสงัดเป็นปกติ


ทั้งที่ทุกอย่างดูปกติแท้ๆ ไม่รู้ทำไมผู้โดยสารอย่างเขาถึงกระวนกระวายนัก หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กันนะ...


เขารู้ดีว่ากำลังถูกท้าทายโดยใครสักคนที่ยังระบุตัวไม่ได้ และนั่นทำให้เขาหงุดหงิดเหลือใจ ที่แย่ที่สุดคือในความหงุดหงิดนั้นมีความกังวลเจืออยู่ด้วย


เขากำลังกลัวว่ามันจะลากเอาคนสำคัญของเขาเข้ามาเกี่ยว


เขากลัวว่ามันจะยุ่งกับดิม


ไม่ได้ จะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด


“คุณปราณครับ วันนี้ไม่ทราบว่าจะรับอะไรเป็นอาหารว่างดีครับ”


คำถามประหลาดที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาทำเอาเขาที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดต้องหันขวับไปมอง


น่าแปลกที่คนถามไม่ได้มีท่าทีอะไรเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองหน้าเขา ไม่รู้ว่ามัน....


เดี๋ยวนะ...


นัยน์ตาคมเหลือบไปมองกระจกมองหลังแล้วเขาก็เห็นบางอย่าง...


ในนั้น...ในกระจกมองหลังบานเล็ก เขาเห็นดวงตาของคนขับที่จ้องตอบกลับมา


คนๆ นี้มองรอเขาอยู่ก่อนแล้ว


ไม่ผิดแน่ นี่คือการส่งสัญญาณ


“ไม่รู้สิ ไม่ค่อยอยากกินอะไรหนักท้อง นายว่าฉันควรกินอะไรดีล่ะ”


“ผมว่ากินอะไรเบาๆ ก็ดีนะครับ อะไรเย็นๆ อย่างพวกน้ำแช่เย็นสดชื่น น่าจะเหมาะนะครับ”


เย็น...


นัยน์ตาคมจ้องมองลึกเข้าไปยังช่องปรับอากาศบริเวณเหนือแผงวิทยุด้านหน้ารถ


ในนั้น...ในช่องแอร์ที่ควรจะโล่งว่างกลับปรากฏแสงวาบๆ สีแดงขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ


แล้วแววตาเรียบนิ่งเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นนัยน์ตาของสัตว์ร้าย


...ในกลุ่มของเขามีหนอนบ่อนไส้...


“ไม่ล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบอะไรเย็นๆ เท่าไหร่ เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”


น้ำเสียงเรียบที่ตอบกลับนิ่งราวกับมันเป็นบทสนทนาที่หมายความอย่างนั้นจริงๆ เรียกรอยยิ้มจากคนขับรถได้กว้างกว่าทุกวัน คนสูงวัยไม่ได้ยิ้มตอบ ดวงตาคมจับจ้องเข้าไปในช่องแอร์ในขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังลูบไล้ไปบนตัวเรือนนาฬิกาข้อมูลอย่างดีบนข้อมือข้างขวาของตัวเอง


นิ้วโป้งของเขาเลื่อนไปด้านล่างของตัวเรือนอย่างเป็นธรรมชาติอาศัยความมืดมิดยามค่ำคืนช่วยซ่อนก็ขยับของนิ้วมือ ทันทีที่ฟันเฟืองลับใต้เรือนนาฬิกาสั่งทำพิเศษถูกขยับ แสงสีแดงในช่องปรับอากาศก็ดับลง


ดับสนิทราวกับไม่เคยมีมาก่อน


“เรียบร้อยไหมครับ”


ชายหนุ่มผู้ควบคุมพวงมาลัยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความตื่นตระหนก หากแววตามาดมั่นที่เขาเห็นผ่านกระจกมองหลังนั้นไม่ธรรมดาทีเดียว


เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่หัวเสีย...


“อืม”


เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย


“อยากพูดอะไรไหมก้องภพ”


“ขอโทษครับ”


ไม่ทันขาดคำอนุญาต คำขอโทษก็ดังขึ้นมาแทบจะทันที เขาเองก็พอจะรู้อยู่ว่าอีกฝ่ายรู้สึกผิดไม่น้อยที่ปล่อยให้เขาโดนจับตามองโดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋วมาเกือบหนึ่งชั่วโมงโดยไม่คิดเอะใจอะไรเลย


ถือเป็นความผิดพลาดที่ค่อนข้างร้ายแรงทีเดียว


“ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นอุปกรณ์บันทึกเสียง บันทึกภาพหรือบันทึกทั้งภาพและเสียง แต่ผมรู้ตัวช้าเกินไปจริงๆ ได้โปรด ลงโทษผมเถอะครับ”


ฝ่ามือหนาที่กำพวงมาลัยรถแน่นเสียจนเส้นเลือดปูนโปนขึ้นมาตรงหลังมือทำให้ชายสูงวัยยกยิ้มช้าๆ


ดี เขาต้องการคนซื่อสัตย์


“พร้อมเอาชีวิตไปทิ้งเพื่อฉันไหม”


“พร้อมครับ”


ไม่มีความลังเลในคำตอบ น้ำเสียงนั้นมั่นคง ความเร็วที่ตอบกลับมาก็น่าพึงพอใจ


ดี เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดกับเรื่องที่จะส่งให้อีกคนไปทำมากนัก


แต่เอาไว้ก่อน...พักเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน


“นายคิดว่าใครเป็นคนเอากล้องมาติดตั้งในรถ”


ไม่มีคำตอบจากคนถูกถาม ภายในห้องโดยสารมีเพียงเสียงนิ้วเคาะพวงมาลัยรถยนต์เป็นจังหวะต่อเนื่องธรรมดาที่ฟังดูเผินๆ แล้วเหมือนคนเคาะกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์อะไรบางอย่าง


แต่ถ้าหากตั้งใจฟังจะรับรู้ถึงรูปแบบบางอย่างของเสียงเคาะที่แปลกประหลาด...


-ตึกตึก ตึกตึกตึกตึก ตึกตึกตึก ตึกตึก-


“สี่คืออะไร”


เขาเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ความคิดอ่านของอีกคน คำถามที่เอ่ยออกไปทำให้คนกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดชะงักเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นนิ้วมือของอีกฝ่ายกลับไม่ได้หยุดตาม


“คนที่เข้าถึงรถได้ครับ”


เขายกยิ้ม ยอมรับว่าพึงพอใจในมันสมองของเลขาคนนี้ไม่น้อย


“ว่ามาสิ”


อีกฝ่ายหยุดเคาะทันทีที่ได้รับคำอนุญาตให้พรั่งพรูสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวออกมา


“รถคันนี้เป็นคันที่จอดอยู่ที่บ้านใหญ่ เพราะฉะนั้นคนที่ทำแบบนี้ได้ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ที่บ้านใหญ่ ไม่ก็เข้าออกบ้านใหญ่และใช้เวลากับโรงรถได้นานๆ เท่าที่ผมนึกออกตอนนี้ก็มีตัวผมเอง คุณ ตาเอี่ยม แล้วก็ป้าติ่ง ถ้าให้ผมพูด...”


“ผิดแล้วก้องภพ”


คำเอ่ยขัดของเขาทำให้อีกฝ่ายชะงักคำพูดค้างอยู่กลางอากาศ นัยน์ตาคมหันมาสบตากับเขาผ่านกระจกมองหลังด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้อยู่หลายวินาทีกว่าจะเปลี่ยนเป็นแววตาเหมือนคนกระจ่างชัดในข้อมูล


ลมหายใจหนักๆ ถูกระบายออกมาจากโพรงจมูกได้รูป


“รถคันนี้ถูกเอาไปจอดไว้ที่บริษัทอยู่สัปดาห์นึงสินะครับ”


“ใช่ สักเดือนที่แล้วได้”


ตอนนั้นเป็นช่วงซ่อมบำรุงรถประจำปี ด้วยกลัวจะลำบากในการขนย้ายจากบ้านใหญ่ที่อยู่ชานเมืองก็เลยถือโอกาสเอามาจอดทิ้งไว้ที่บริษัท หลังจากส่งซ่อมเสร็จ รถคันนี้ก็ถูกเก็บไว้ในโรงรถอยู่ร่วมสองสัปดาห์โดยไม่เคยถูกใช้งานระหว่างนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว


ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่


จะว่าโชคร้ายที่จับมือใครดมไม่ได้ก็ถูก จะว่าโชคดีที่คนใกล้ตัวยังไว้ใจได้ก็ถูกอีกอยู่ดี


ให้ตายสิ วุ่นวายจริงๆ ...


“ป่านนี้ไอ้คนทำมันคงรู้แล้วมั้งว่าเราจับได้”


“อาจจะรู้หรืออาจจะไม่รู้ก็ได้ครับ”


เขาเงียบเป็นสัญญาณให้อีกคนพูดต่อ


“ถ้ากล้องนี้ถูกซ่อนมาตลอดสองสัปดาห์โดยไม่มีความเคลื่อนไหวเลย ยังไงพวกมันก็คงละเลยการเช็คสัญญาณไปบ้างอยู่แล้ว ให้มาตามดูกล้องที่มีแต่ความมืดตลอดเวลา ผมคิดว่านั่นไม่ใช่วิสัยของมนุษย์ธรรมดาสักเท่าไหร่”


ก็ถูก แต่อย่างไรเสียเขาก็ยังไม่อยากตัดความเป็นไปได้ที่ว่าพวกมันอาจจะรู้ตัวแล้วออกไปอยู่ดี ยังไงเสีย เตรียมแผนรับมือไว้สำหรับสถานการณ์หลายๆ รูปแบบก็น่าจะดีกว่า


“แล้ว...จะเอาไงต่อดีครับคุณปราณ ผมว่าจุดหมายปลายทางของเราไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยแล้วแน่ๆ”


เขาหัวเราะในลำคอ


แผ่วเบา แต่ชวนให้อึดอัด


“ก็ไปให้มันรู้ไปเลยเป็นไง ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ลูกหมานั่นมันจะมาไม้ไหน และที่สำคัญ...”


นิ้วแกร่งเลื่อนมือไปบริเวณฟันเฟืองลับใต้เรือนนาฬิกาอีกครั้ง


“คนทรยศต้องโดนกำจัด”


แล้วไฟสีแดงในช่องแอร์ก็สว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง...












***********************************************************************




กลับมาแล้วค่า ขอโทษมากๆ เลยที่หายไป 1 เดือนเต็มๆ กว่าจะเคลียร์ต้นฉบับเรื่องแรกเสร็จก็มาติดสอบ สรุปคือยาวเลย กลายเป็นหายไป 1 เดือนเต็มๆ ไม่รู้ว่าทุกคนจะลืมน้องดิมกับคุณปราณไปรึยัง ถ้าลืมแล้วก็กลับมาอ่านใหม่ได้นะคะ เรารออยู่ตรงนี้เสมอเลย //กวักมือ 555555



หลังจากนี้จะกลับมาอัพหลงลุงต่อแล้วนะคะ เรื่องนี้เดินทางมาใกล้จบแล้วค่ะ ดีใจจริงๆ ที่แต่งมาจนเกือบจบได้  :laugh: :laugh:



 :pig4:   ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ยังตามอ่านมาตลอดเลย   :pig4:




ปล.เพลงที่อยู่ในตอนคือเพลง Hot Air Balloon ของ Owl City นะคะ ตามไปฟังกันได้นะคะ เพลงโปรดเราเลย XD



***********************************************************************





พูดคุยกันได้ที่ #ปราณดิม หรือ #หลงลุง ใน twitter นะคะ








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2018 18:36:31 โดย Marymo »

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #314 เมื่อ11-03-2018 20:15:02 »

จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #315 เมื่อ11-03-2018 20:31:47 »

ตามลุ้นด้วยใจระทึก

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #316 เมื่อ11-03-2018 20:33:26 »

อะไรคือจะจบแล้วล่ะคะ....  :hao5:

ออฟไลน์ チイ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #317 เมื่อ14-03-2018 03:13:46 »

ทีแรกนึกว่าเป็นแนวลุงหื่นจ้องจะกินเด็กซะอีกทีไหนได้ปมเยอะแยะซับซ้อนเต็มไปหมดเลยคนเขียนผูกเรื่องให้เราสับสนหลงทางได้เก่งเกินไปแล้วยังไงก็จะรอติดตามนะคะก็หลงลุงไปแล้วนิ่ถอนตัวไม่อ่านต่อก็ไม่ทันแล้ว:)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #318 เมื่อ14-03-2018 06:32:36 »

มันส์   ลุ้นนนนนนน   :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
«ตอบ #319 เมื่อ14-03-2018 10:30:41 »

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Nineteenth Song (11/03/61)
« ตอบ #319 เมื่อ: 14-03-2018 10:30:41 »





ออฟไลน์ Marymo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-2
    • Fanpage: ปิงปองโต้คลื่น
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #320 เมื่อ25-03-2018 21:15:01 »

Twentieth Song









เขาไม่ชอบอากาศร้อน ไม่เคยชอบ แต่น่าแปลกที่เขาชอบพระอาทิตย์และแสงแดดอบอุ่น


คงเพราะมันทำให้โลกที่แสดงมืดมนของเขาสว่างขึ้นมาสักหน่อยล่ะมั้ง...


“สุดยอด รีสอร์ทนี่เจ๋งเป็นบ้า คุณปราณนี่ก็ตาถึงเอาเรื่องนะ”


เสียงทุ้มต่ำของเพื่อนร่วมทางดังขึ้นทันทีที่เข้ามาอยู่ตามลำพังในห้องพักส่วนตัว ร่างโปร่งที่สูงกว่าเขาเล็กน้อยปลดแจ็คเก็ตหนังสีดำออกจากตัวแล้วพาดไว้ตรงพนักโซฟาก่อนจะหันมายักคิ้วให้เขาเป็นการล้อเลียนอย่างทุกที


“รำคาญ”


คำตอบสั้นๆ พร้อมกับท่าทางก้มหน้าลงเล่นมือถือโดยไม่สนใจเพื่อนร่วมห้องทำให้อีกฝ่ายงึมงำคำขอโทษขึ้นมาเบาๆ โชคดีที่คนปากมากหัวไวพอที่จะรู้ว่าอะไรควรพูดหรืออะไรไม่ควรพูด สถานการณ์เลยดำเนินไปอย่างปกติสุขได้อีกหน่อย แต่ก็นะ ถึงอยากจะด่าอีกคนมากแค่ไหนแต่ในใจมันก็อดเห็นด้วยไม่ได้จริงๆ ว่า...


สามีของเขาน่ะตาถึงจริงๆ


“แล้วนี่ใจคอมึงจะไม่โทรบอกคุณปราณหน่อยรึไงว่าถึงแล้ว”


“เสือก”


“อ้าว มึงนี่ เดี๋ยวกุโบก”


เขาเบ้ปากใส่อีกคนจนหวิดจะโดนตบหัวเข้าจริงๆ โชคดีที่กลับลำทัน


“ไลน์ไปบอกแล้ว”


“เออ ก็แค่นั้นแหละ”


แล้วบทสนทนาสั้นๆ ของพวกเขาก็จบลงด้วยการที่อีกคนเดินตรงดิ่งไปยังโซนตู้เย็นแล้วเริ่มค้นนู่นนี่จนได้ยินเสียงกุกกักไม่ขาดสาย


“โห ตู้เย็นแม่งเหล้าเยอะมาก ประทับใจ”


ไอ้คนขี้เหล้าเอ๊ย...


เด็กหนุ่มเลือกจะไม่สนใจคนน่ารำคาญแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คสิ่งที่ต้องทำ เขามาที่นี่เพราะมีเหตุให้มา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วรีบกลับ


บอกตามตรงว่าจู่ๆ เขาก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีชอบกล ไม่สิ ไม่ใช่เพิ่งจะรู้สึก จริงๆ เขารู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนแยกกับตาลุงนั่นที่สนามบินแล้ว พอเห็นอีกคนหายลับไปจากสายตา หัวใจมันก็กระวนกระวายแปลกๆ


...สงสัยจะเสพติดลุงมากไปหน่อยล่ะมั้ง...


“แล้ว...”


คำขึ้นต้นที่มาแบบไม่จบประโยคทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ต้องหันไปมอง


นัยน์ตาคมขลับเป็นประกายระยิบระยับเหมือนเด็กที่กำลังจะได้ออกผจญภัยคู่นั้นจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าคมเข้มของคนพูดฉาบด้วยความรื่นเริง รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าพร้อมๆ กับเสียงขวดน้ำที่ถูกเปิด


“เราจะเริ่มหาพี่ดาจากที่ไหนดีล่ะ”


แปลก...เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ


“ไม่รู้สิ มึงว่าที่ไหนดีล่ะ”


เขาถามไม่ใช่เพราะอยากรู้คำตอบ แต่ถามเพราะอยากกำจัดความรู้สึกแปลกๆ ในใจออกไปให้พ้นๆ


ไม่มีใครอยากสงสัยเพื่อนของตัวเอง โดยเฉพาะเขา...คนที่เพิ่งเปิดใจยอมรับความสัมพันธ์มาได้หมาดๆ ถ้าหากต้องโดนหักหลังจากคนที่ไว้ใจ...


...เขาคงแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี...


“เอาเข้าจริงกูก็อยากพูดคำพูดประเภท ‘ไหนลองเอาหลักฐานมาวิเคราะห์แล้วไล่หาตามแต่ละสถานที่กันดีไหม’ อยู่หรอกนะ”
เดลพูดอย่างนั้นแล้วก็หัวเราะ


ทั้งที่มันเป็นเสียงหัวเราะปกติของเจ้าตัวแท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่ดีเลย


ไม่ดีเลย...


“แหม อย่าทำหน้าเครียดอย่างนั้นสิ”


ไม่ไหว เขาหยุดขมวดคิ้วไม่ได้เลย


“ไหนๆ ก็มาภูเก็ตทั้งที ไปเยี่ยมทีนหน่อยไหม ได้ข่าวว่าอยู่ภูเก็ตนิ”


“อยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ”


ในที่สุดก็เป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวกับความใจเย็นของคู่สนทนา ไม่สิ นั่นไม่ใช่ความใจเย็น ไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่นิดเดียว
มันก็แค่ความร้ายกาจเท่านั้น...


คนๆ นี้ชอบจะตายที่ได้เห็นคนจะเป็นจะตายอยู่ในกำมือตัวเอง เป็นพวกขี้แกล้งมาแต่ไหนแต่ไร ความใจเย็นที่เห็น ที่แท้ก็แค่ความใจร้ายที่ถูกซ่อนไว้เท่านั้น


“ไม่เอาน้า อย่าใจร้อนสิ”


ดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้มร้ายประดับบนใบหน้า


“เดล กูไม่ตลก”


แต่ถ้ายอมเดินตามแผนอีกคนไปง่ายๆ ก็คงไม่ใช่ตัวเขาแล้ว


ไม่ยอม...ไม่ยอมลงให้ใครทั้งนั้น อย่ายอมแพ้ใคร จงอยู่เหนือทุกคน นั่นคือสิ่งที่ถูกพร่ำสอนมา


แต่เดลไม่ใช่คู่แข่งธรรมดา คนตรงหน้าเขานี้ไม่ได้ต่างจากเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นแง่ของความหัวดื้อหรือร้ายกาจ คนๆ นี้มีครบทุกอย่าง


เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ...


“ไม่ตลกสักหน่อย กูก็แค่ชวนมึงไปผ่อนคลาย”


รอยยิ้มนั้นน่ากลัว ดูยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดี


“ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันก่อนดีกว่า พอเยี่ยมเสร็จ ค่อยว่ากันต่อ”


“เดล กูต้องรีบไปหาพี่ดา ขอให้เจอพี่ก่อนแล้วไปหาทีนมันก็ยังไม่สาย...”


“ก็ถูกแล้วไง”


“ฮะ?”


“ก็กูกำลังจะพามึงไปหาพี่ดานี่ไง”


นัยน์ตาคู่นั้นวาบวับกว่าครั้งไหนที่เคยเห็น


“ไปหาทีนกันเถอะ”


ในอกกลับรู้สึกบีบรัดจนหายไม่ออกอย่างน่าประหลาด


ไม่มีอะไรหรอก เขารู้ว่ามันจะไม่มีอะไร


จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น















เขากำลังสงสัยว่าไอ้คนขับรถน่ารำคาญนี่มันฮัมเพลงเพราะมันอารมณ์ดีหรือเพราะมันตั้งใจจะยั่วโมโหเขากันแน่


นัยน์ตากลมเหลือบมองคนอารมณ์ดีเล็กน้อยก่อนจะเบนกลับไปมองวิวสองข้างทางเหมือนอย่างเคย เสียงดนตรีที่ดังในรถเป็นดนตรีแนวเมทัลที่คนคุมพวงมาลัยชื่นชอบเป็นพิเศษ


เพื่อนเขาชอบแต่เขาไม่ชอบ ยิ่งเห็นว่าเขาไม่ชอบมันก็ยิ่งเร่งเสียง


ไอ้เวรเอ๊ย


ลมหายใจหนักๆ ถูกพ่นออกมาจากจมูกอย่างหัวเสีย เด็กหนุ่มเลือกจะไม่สนใจคนช่างแกล้งแล้วตั้งสมาธิสนใจอยู่กับทิวทัศน์ข้างทางเพื่อลบความหงุดหงิดที่มีต่ออีกคนออกไป อย่างไรเสียตอนนี้พวกเขาก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว


ใช่ เรือลำเดียวกันแล้ว...


หลังจากบทสนทนาที่ชวนให้สงสัยในห้องพัก เดลก็คะยั้นคะยอให้เขาไปเยี่ยมทีนให้ได้ แม้ในใจจะปฏิเสธเป็นรอบที่ล้านแล้วว่าทีนไม่มีทางทรยศเขา แต่ส่วนเล็กๆ ในใจมันก็อดระแวงขึ้นมาไม่ได้ สุดท้ายเรื่องราวก็เลยจบลงที่เพื่อนร่วมทางของเขาจัดการโทรศัพท์เช่ารถก่อนจะลากออกมาข้างนอกอย่างที่เห็น


รถยนต์คันเล็กพาพวกเขามาสู่บริเวณย่านเมืองเก่า ตึกที่ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน-โปรตุเกสทอดตัวเรียงรายกันอยู่สองฝากถนน บรรยากาศในย่านเมืองเก่าให้ความรู้สึกแตกต่างจากถนนเส้นเมื่อครู่ลิบลับ จากตึกสูงดูทันสมัยกลับกลายเป็นบ้านเรือนแบบโบราณที่เคยเห็นเมื่อสมัยที่พ่อกับแม่พาเขาไปมะละกาด้วยบ่อยๆ


ตอนเด็กๆ จำได้ว่าตระกูลของเขาทำธุรกิจกับทางมาเลเซียค่อนข้างมาก ทุกๆ พักร้อนของครอบครัวจึงมักจะมีจุดหมายปลายทางเป็นประเทศมาเลเซียเสมอ เหตุผลที่ว่าไปพักผ่อนก็ส่วนนึง แต่เหตุผลใหญ่เป็นเรื่องของธุรกิจมากกว่า เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ค่อยมีใครสนใจว่าเขากับพี่จะทำอะไรมากนัก ทุกคนเอาแต่ดื่มกินและพูดคุย เรื่องไร้สาระบ้าง ธุรกิจบ้างปะปนกันไป มันเป็นกลยุทธ์การทำธุรกิจที่ตระกูลเขาใช้มานานแสนนาน


เพราะความไม่สนใจนั้นเองที่ทำให้ช่วงเวลาพักร้อนของเขาเป็นช่วงเวลาที่แสนสุข นอกจากจะวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าและฟังเสียงเกลียวคลื่นที่สาดกระทบฝั่งแล้ว การได้ท่องเที่ยวไปในเมืองก็เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่พวกเขาชื่นชอบ มะละกาในวันนั้นมีบรรยากาศที่คล้ายกับย่านเมืองเก่าที่เขาเห็นในตอนนี้ไม่มีผิด


ความคิดของเขาชะงักลงเล็กน้อย


มะละกาเหรอ...


เด็กหนุ่มกวาดตามองทิวทัศน์สองข้างทางก่อนจะยกยิ้มขึ้นช้าๆ


พี่เขาก็ช่างเลือกเหมือนกัน...


สถานที่แห่งนี้...ที่ภูเก็ตนี้เป็นเมืองของชาวเปอรานากันเหมือนอย่างในมะละกา บ้านเรือน บรรยากาศ ทุกอย่างล้วนคล้ายคลึงกับสถานที่แห่งความทรงจำในวัยเด็ก ในตอนนั้นเรากุมมือกัน อยู่ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเกินจะบรรยาย เขาจดจำมะละกาไว้ในฐานะ ‘ความสุขฤดูร้อน’ และมั่นใจว่าพี่สาวของเขาก็ไม่ต่างกัน


เขามั่นใจว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้พี่เลือกที่จะมาอยู่ที่นี่


เพราะภูเก็ตคือสถานที่ที่คล้ายกับ ‘ความสุขฤดูร้อน’ ของพวกเขา


ดี...ดีใจจริงๆ ...


“มึง กูหิว หาอะไรกินก่อนได้ไหม”


ประโยคคำถามที่มาพร้อมกับการหยุดรถหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งพร้อมกับถอยเข้าจอดเสร็จสรรพทำให้เด็กหนุ่มเผลอถอนหายใจอย่างระอา


“ถอยขนาดนี้จะถามทำไม”


คนใส่เสื้อกล้ามสีดำตัวเดียวขยับไหล่เบาๆ


“ก็เป็นมารยาท”


“เอ้อ พ่อคนมารยาทงาม”


“บอกเลยว่าสมัยเรียนนี่ได้รางวัลเด็กน้อยมารยาทดี”


“ตลกเถอะ นั่นมันรางวัลทีนไหมล่ะ”


“เออ มึงนี่ก็จำแม่นดีเนอะ”


แล้วพวกเขาก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน


เพื่อนเขานี่มัน...


“เอ้า ลงๆ หิวจะแย่แล้ว”


เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะเสียงดังให้มันได้ยิน แต่เหมือนไอ้คนฟังมันจะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ เจ้าตัวกดล็อกรถอย่างชำนาญแล้วเดินนำลิ่วๆ เข้าไปในร้านโดยไม่คิดจะสนใจเขาเลยสักนิด


ไอ้เวร...ไอ้เพื่อนเวร ถ้าเป็นลุงป่านนี้อีกฝ่ายคงรอให้เขาลงจากรถให้เรียบร้อยแล้วก็เดินอ้อมมาหาจากนั้นก็...


...บ้าจริง เผลอคิดถึงจนได้...


“ดิม มึงยืนระลึกถึงบรรพบุรุษอยู่เหรอ”


ถ้อยคำกึ่งกวนกึ่งถามทำให้เขารู้สึกรำคาญเพื่อนของตัวเองมากขึ้นเป็นทวีคูณ ปกติก็อยู่กับมันนานๆ ไม่ได้เพราะรำคาญนิสัยมันอยู่แล้ว พอต้องมาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบนี้เลยรู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองมันเต้นตุ้บๆ เห็นทีว่าถ้ากลับไปแล้วตัวเขาเกรี้ยวกราดมากขึ้นก็น่าจะมีผลพวงมาจากมันนี่ล่ะ


“เออ ยืนระลึกถึงหน้าอากงมึงน่ะ”


“หู้ย บอกกงว่าขอสามตัวเด็ดๆ”


“เดล คนอย่างมึงนี่มัน...”


“อ้าวดิม!”


เสียงทักทายที่ดังขึ้นก่อนที่เขาจะได้เริ่มด่าคนตรงหน้าทำให้ต้องหันไปมองอย่างช่วยไม่ได้


หันกลับไปโดยลืมไปสนิทว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน...


“วิทย์...”


มาได้ยังไง คนๆ นี้ตามมาได้ยังไง


“ดิมมากับเดลเหรอ”


คำถามนั้นเป็นธรรมชาติจนน่าเหลือเชื่อ เป็นธรรมชาติชนิดที่ว่าถ้าเขากับวิทย์ไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อนที่กรุงเทพ เขาก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ


“ถามประหลาดจังนะครับคุณวิทย์ ถ้าดิมไม่มากับเพื่อน จะให้เขามากับใครล่ะครับ”


เขาสัมผัสได้...น้ำเสียงของเดลเปลี่ยนไป ขนาดไม่ใช่คนที่อีกฝ่ายพูดด้วย เขายังรู้สึกสะท้านไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจ


ไม่ธรรมดา เพื่อนของเขาไม่ธรรมดาเลย


“แหม ผมก็ถามไปแบบนั้นเองล่ะครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกะ...”


“แล้วคุณวิทย์มาที่นี่ทำไมเหรอครับ”


ถ้อยคำนั้นเรียบง่าย ใบหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มสุภาพผิดจากปกติ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเพื่อนของเขากำลังแผ่รังสีบางอย่างออกมา


น่ากลัว...เขารู้สึกว่าเดลนั้นน่ากลัว


“ผมก็มาเที่ยวพักผ่อนไงครับ มาภูเก็ตทั้งที ก็ต้องมาพักผ่อนใช่ไหมครับ”


พอพูดจบ คนๆ นั้นก็หัวเราะ หัวเราะด้วยน้ำเสียงจอมปลอมที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา


“นั่นสินะครับ แหม ผมนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ ไปได้”


เดลก็หัวเราะ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ต่างจากทุกที


“ไอ้ผมก็นึกว่าที่เห็นคุณวิทย์นั่งติดกับคุณเอกชาติบนเครื่องบินนั่นจะเป็นเพราะมาทำธุระเรื่องธุรกิจกันซะอีก ลืมคิดไปเลยว่าพวกคุณก็เป็นเพื่อนเก่ากัน จะมาเที่ยวด้วยกัน ก็ไม่เห็นแปลก”


เดลโกหก


เพื่อนของเขาไม่ได้ลุกออกจากที่นั่งเลยสักครั้งตลอดระยะเวลาการบิน ไม่มีทางที่เดลจะเห็นอยู่แล้ว ที่สำคัญคือในชั้นเฟิร์สคลาสก็เห็นกันหมดว่าใครเป็นใคร ถ้ามันเห็น เขาก็ต้องเห็น


แล้วทำไมเพื่อนของเขาต้องโกหก นั่นต่างหากที่น่าสงสัย


เด็กหนุ่มจ้องใบหน้าของคนที่หน้าซีดเผือด ดวงตาของคนๆ นั้นหลุกหลิกไปมาอย่างมีพิรุธ แต่ก็ไม่วายพยายามฉีกยิ้มแปร่งๆ ส่งมาให้


“พูดอะไรกันครับ ผมมาคนเดียว อีกอย่างผมก็ไม่ได้เจอเอกชาติเลยตั้งแต่เรียนจบมัธยมมา จะมาอยู่ด้วยกันได้ไงล่ะครับ”


“โธ่ งั้นก็เป็นผมเองแล้วล่ะครับที่มองผิดไป คงจะสายตาฝ้าฟางเข้าแล้วจริงๆ”


คนข้างๆ เขาหัวเราะราวกับกำลังเย้ยหยันคนตรงหน้า


“คุณวิทย์ไม่ได้เจอคุณเอกชาติมาตั้งนานแล้ว แต่บังเอิญดีนะครับ คุณกับเขาใช้นาฬิการุ่นเดียวกันเป๊ะ”


ไม่ว่าเปล่า เดลยังชี้นิ้วไปยังนาฬิกาที่อยู่ตรงข้อมืออีกฝ่าย


เขามองตามนิ้วมือของเพื่อนพลางวิเคราะห์นาฬิกาเรือนนั้นอยู่เงียบๆ นาฬิกาเรือนนี้ ตัวเรือนทำจากเซรามิกสีน้ำเงินล้วน ขอบหน้าปัดนาฬิกาก็เป็นสีน้ำเงิน ในขณะที่ตัวสายนาฬิกานั้นเป็นสีดำ ประเมินด้วยสายตาจากระยะตรงนี้เป็นวัสดุประเภทผ้า แต่จะเป็นผ้าแบบไหนนั้นก็ไม่อาจบอกได้จนกว่าจะได้จับ


แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขาจำได้...เขาจำได้ว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิการุ่นเดียวกับที่เขาเห็นเอกชาติใส่ที่งานเลี้ยงเปิดตัวคอนโดของคุณธงชัยเป๊ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นมันอยู่บนข้อมือของวิทย์ด้วย


แต่เดี๋ยวนะ...จำได้ว่าครั้งที่แล้วที่เจอกันแฟนเก่าเขาไม่ได้ใส่นาฬิกาเรือนนี้ แล้วถ้าเขาจำไม่ผิด นาฬิกาเรือนนี้มัน...


“นาฬิกาของ Blancpain(บลองแปง) รุ่น Ocean Commitment Limited Edition ถ้าผมจำไม่ผิด อันนี้เป็นรุ่นที่สองใช่ไหมครับ เพราะรุ่นแรกเหมือนตัวเรือนจะเป็นเซรามิกสีเทา เปิดตัวปี อืม..รุ่นนี้น่าจะ 2016 ส่วนรุ่นแรกน่าจะปลายปี 2014 ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ”


เดลหัวเราะ...หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันกว่าครั้งไหนๆ


“รุ่นนี้ผลิตแค่สองร้อยห้าสิบเรือน ราคาหกแสนกว่าบาท ไม่ถูกไป ไม่แพงไป ราคากำลังดี น่าเสียดายที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นนาฬิกาดำน้ำ ไอ้ผมก็เลยไม่ค่อยถูกใจดีไซน์เท่าไหร่ก็เลยไม่ได้ซื้อ แต่ก็ถูกใจคนที่ชอบดำน้ำอย่างเอกชาติเขาน่ะครับ จำได้ว่ารายนั้นรักรุ่นนี้มากจนใส่ติดตัวไว้ตลอด เขาชอบอวดใครไปทั่วว่าเป็นนาฬิกาเรือนเก่ง ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคุณวิทย์จะใจตรงกับเขาขนาดนี้ อีกอย่าง...”


เพื่อนของเขาเว้นวรรคจังหวะพูดอย่างจงใจ


“ไม่ยักจะรู้เลยว่าคนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างคุณวิทย์จะหันมาชอบดำน้ำแล้ว น่าดีใจจริงๆ นะครับที่คุณก้าวผ่านกำแพงของตัวเองมาได้”


แล้วคู่สนทนาของพวกเขาก็หน้าซีดเผือดราวกับจะเป็นลมไปเดี๋ยวนั้น


ในที่สุดข้อสรุปที่เขาเฝ้าคิดมาตลอดเรื่องเอกชาติและวิทย์ก็ได้รับการยืนยัน


สองคนนั้นร่วมมือกัน ณ จุดๆ นึง แต่ตอนนี้ คงไม่เป็นอย่างนั้น


นัยน์ตากลมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่กำลังเป็นประเด็นเพียงอึดใจก่อนจะมองหน้าผู้สวมใส่


ถ้านั่นคือนาฬิกาเรือนเก่งของเอกชาติ เป็นตายร้ายดีอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมยกมันให้วิทย์ง่ายๆ แน่ แต่ที่ยกให้แบบนี้คงมีแค่สองกรณี หนึ่งคือสิ้นเนื้อประดาตัวจนไร้ทางเลือก สองก็คือ...


“สำหรับ Limited Edition แล้วจะต้องมีหมายเลขสลักไว้ที่ตัวเรือนทุกเรือนว่าเป็นเรือนที่เท่าไหร่ จะเสียมารยาทไหมครับถ้าผมจะขอถามว่า เรือนของคุณวิทย์เป็นหมายเลขอะไร”


ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองรึเปล่า แต่หลังจากสิ้นสุดคำถาม ร่างทั้งร่างของวิทย์ก็สั่นเทิ้มอย่างหนักหากก็กลับเป็นเหมือนเดิมได้ในชั่วพริบตา


นัยน์ตาคู่นั้นเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง จากแววตาที่เป็นมิตรฉาบด้วยรอยยิ้มจอมปลอม ตอนนี้มันกลับกลายเป็นสายตาของปีศาจร้ายโดยสมบูรณ์


“ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ มันนานมากแล้ว ผมเองก็จำไม่ได้ อยากจะแกะให้ดูก็ดันไม่มีเวลาเพราะต้องรีบไปธุระต่อ ขอตัวก่อนนะครับ”


น้ำเสียงนั้นเรียบนิ่งผิดปกติจากเมื่อครู่ราวกับคนละคน ท่าทางลุกลี้ลุกลนเมื่อครู่หายไปโดยสิ้นเชิงราวกับไม่เคยเกิดขึ้น


แปลก...แปลกจริงๆ


แต่ถึงจะสงสัย พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้คน ๆ นี้จากไปพร้อมกับบรรยากาศรอบตัวที่ดูแปลกตา


สังหรณ์ใจไม่ดีเลยจริงๆ


“มึงคิดเหมือนกูไหมดิม”


คำถามดังขึ้นทันทีที่ร่างของคู่สนทนาหายลับไป


“แล้วมึงคิดว่าไงล่ะ”


เขาได้ยินเสียงหัวเราะในคอ


“ไม่มีใครที่ซื้อนาฬิกา Limited Edition ราคาครึ่งล้านแล้วจำหมายเลขของตัวเองไม่ได้หรอก”


“อาจจะมีก็ได้ ใครจะรู้”


“ไม่เอาน่าดิม”


รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเด็กหนุ่มก่อนจะหันไปสบตากับเพื่อนตัวสูงที่ฉีกยิ้มรออยู่ก่อนแล้ว


“มึงพูดอย่างกับไม่รู้จักวิทย์อย่างนั้นล่ะ คนเนี้ยบๆ แบบนั้น ไม่มีทางลืม...”


“ถ้าเป็นของตัวเองน่ะนะ”


แล้วพวกเขาก็หัวเราะออกมาพร้อมกันด้วยเสียงที่แปลกแปร่งพิกล


เอกชาติ อดีตเพื่อนในวัยเด็ก ป่านนี้คง...


นัยน์ตากลมเบนออกไปมองท้องฟ้าสีครามด้านนอกก่อนจะหันกลับมาตามเสียงเรียกของเพื่อนร่วมทางที่เดินนำเข้าไปในร้านก่อนแล้ว


ไม่ไหว เขารับมือกับวิทย์ไม่ได้ ยังไงก็ต้องรีบหาพี่ดาให้เจอแล้วก็รีบกลับ จากนั้นค่อยปรึกษาลุงอีกทีว่าจะเอายังไงต่อ


ลุง...


ฝ่ามือเรียวทาบลงบนท้องเบาๆ ก่อนจะเดินตามเพื่อนเข้าไปด้านใน


ประจำเดือนเขาขาดมาห้าวันแล้ว ยังไงก็ต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนไปตรวจ จากนั้น...


ลมหายใจพรั่งพรูออกมาอย่างเชื่องช้า


ต้องรีบทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ไม่อย่างนั้น เด็กคนนี้จะไม่ปลอดภัย


“ดิม ดิมใช่ไหม”


ก่อนจะเดินไปถึงโต๊ะที่เพื่อนของเขาจับจองอยู่ก็พลันมีใครบางคนเรียกเขาเอาไว้ก่อน


ทำไมวันนี้ถึงมีคนขยันเรียกชื่อเขากันนักนะ


เด็กหนุ่มสูดหายใจเก็บสีหน้าเหนื่อยล้าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ก่อนจะหันไปตามทิศทางที่ได้ยินเสียง


แล้วสิ่งที่เขาพยายามทำทั้งหมดก็พังครืนลงมาไม่เป็นท่าเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนแรก


ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้สีเขียวสดรับกับกางเกงขาสั้นสีอ่อนกำลังฉีกยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่สดใสราวกับพระอาทิตย์ในฤดูร้อน


“ทีน...”


คนตรงหน้าของเขาคือคนที่พวกเขากำลังจะไปหา


เหลือเชื่อ นี่มัน...บังเอิญเกินไปแล้ว


“ดิมจริงๆ ด้วย มาได้ไงเนี่ย”


“โอ้โห บังเอิญจังเลยทีน เราก็มากับดิมด้วยนะ”


ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบ เสียงร่าเริงเกินปกติของเดลก็ดังขึ้นพร้อมกับเรียวแขนแกร่งที่วาดมาคล้องคอเขาเอาไว้แน่น


“เฮ้ยเดล เป็นไงบ้าง ไม่เจอนานมาก แล้วนี่มาเที่ยวกันเหรอ โห คิดถึงอะ มาๆ นั่งก่อน”


ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงโปร่งนั้นยังกุลีกุจอหันไปสั่งพนักงานในร้านให้จัดโต๊ะให้พวกเขายกใหญ่


“เฮ้ย ไม่เป็นไรทีน เดี๋ยวเราไปนั่งโต๊ะอื่นกันก็ได้ เกรงใจร้านเขาเปล่าๆ”


คนถูกปรามหันมาส่งยิ้มกว้างราวกับพระอาทิตย์ในฤดูร้อน


“ร้านเขาที่ไหน ร้านเราเอง เพิ่งเปิดได้หลังจากกลับจากรุงเทพที่เจอกับดิมไง ตอนนั้นเจอก็ลืมบอกไปสนิทเลย”


ทีนหัวเราะ หัวเราะด้วยน้ำเสียงสดใสอย่างทุกทีก่อนจะหันไปสั่งงานต่อ ทิ้งเขากับเดลเอาไว้ด้านหลัง


แล้วจู่ๆ เสียงกระซิบของเพื่อนร่วมทางที่แสนร้ายกาจก็ดังขึ้นข้างหู


“เซอร์ไพรส์”


เพียงเท่านั้น เขาก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง


ไอ้เดล ไอ้เพื่อนเวร...








**********************************************************************************


[เกร็ดความรู้]



Bathyscaphe Flyback Chronograph Blancpain Ocean Commitment II


Blancpain ได้เปิดตัว Bathyscaphe Flyback Chronograph Blancpain Ocean Commitment II ซึ่งเป็นนาฬิกา Limited Edition รุ่นที่สองของโครงการ Blancpain Ocean Commitment เป็นนาฬิกาจับเวลาแบบ Flyback Chronograph ที่มาพร้อมกับตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินล้วน ที่เป็นสิ่งสะท้อนให้รำลึกถึงท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ผลิตเพียง 250 เรือนเท่านั้น

ที่มา: LWQP Watch Blog/



**********************************************************************************






พูดคุยกันได้ที่ #ปราณดิม หรือ #หลงลุง ใน twitter นะคะ











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2018 18:56:39 โดย Marymo »

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #321 เมื่อ25-03-2018 22:27:34 »

อ่านไปก็ขมวดคิ้วไป จริงจัง

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #322 เมื่อ25-03-2018 22:42:14 »

ขออีกตอน ยังงงๆ ขอความกระจ่างหน่อยค่ะ ไรท์  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #323 เมื่อ25-03-2018 22:50:12 »

อะไรกันนี่  :katai1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #324 เมื่อ25-03-2018 23:53:28 »

งงจังออเจ้า ความกระจ่างอยู่ที่ใด :katai1:
 :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #325 เมื่อ25-03-2018 23:55:06 »

ลึกลับ ซับซ้อน ได้ทุกตอน  :z3: :z3: :z3:

วิทย์ ?????

ทีน ?????

เดล ก็  :really2: :really2: :really2:
แต่ที่แน่ๆ ดิม คิดถึงลุงตลอดเลย   :ling1:
ลุง ดิม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #326 เมื่อ26-03-2018 00:05:31 »

อยากรู้เลยค่ะ  :hao5: เกี่ยวข้องกันยังไง

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #327 เมื่อ26-03-2018 01:09:07 »

ทุกคนดูน่าสงสัยไปหมด ชอบมากเลยค่ะที่โลเคชั่นเป็นภูเก็ตบ้านเรา ยิ่งอินเข้าไปอีก ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #328 เมื่อ26-03-2018 01:23:06 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Twentieth Song (25/03/61)
«ตอบ #329 เมื่อ26-03-2018 02:03:33 »

ดิ่มดิ๊มว่าที่คุณแม่
กรี้ดดดดดดดดดดด
ซับซ้อนอีกล้าวววววว

อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
ดิ่มดิ๊มคนน่าสงสาร
โอ๋ๆ นะคะ
กำลจะเป็นคุณแม่แล้วด้วย
ฮอร์โมนพุ่งพล่านแน่ๆ เบย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด