-05-
อย่างที่เคยบอกไปแล้วจะกลับมาใช้บริการพี่คุณติวเตอร์อีกบ่อย ๆ และสกายไม่เคยโกหก พี่คุณนี่เทพมาเกิดชัด ๆ โอ้โหคนอะไรเก่งฉิบหาย เก่งโคตรพ่อโคตรแม่ อธิบายอะไรก็เข้าใจทุกอย่างอยากจะกราบพี่คุณวันละสามเวลาหลังอาหาร ใจดีก็ที่หนึ่งแต่ติดจะดุไปนิดเวลาเขาไม่ค่อยกินข้าว
วันนี้ก็เช่นกัน
“ไม่ได้ทานอาหารเช้าอีกแล้วใช่ไหมครับ”
เสียงดุเอ่ยขึ้นทันทีที่สกายก้นแตะเบาะรถ สกายยิ้มแห้งเกาหัวแกรก
“ตื่นสายครับพี่”
“แสดงว่าหลังจากวางโทรศัพท์พี่ไปฟ้านอนต่อใช่ไหม”
“แหะ ๆ”
“เดี๋ยวจะโดนตี แซนวิชอยู่ข้างหลังครับเอามาทานรองท้องก่อน”
สกายยิ้มตาหยีขยับตัวหันไปด้านหลังหยิบเอากล่องแซนวิชกับนมของเขาและน้ำส้มของพี่คุณมาวางไว้บนตัก ถ้าจะถามว่าทำไมตอนนี้เขาถึงได้มานั่งเจ๋ออยู่ในรถของพี่คุณล่ะก็ต้องบอกว่าคงเป็นเรื่องเมื่อสองวันก่อนที่จู่ ๆ พี่คุณก็โทรมาบอกว่าจะมาเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาลัยสามเดือน ตอนแรกก็งงว่าบอกเขาทำไมวะแต่พอพี่คุณบอกวิชาที่สอนปุ๊บ...อ้อ....ตัวหินเลยเพราะฉะนั้นไม่ควรหืออือกับพี่คุณอย่างยิ่ง
และควรจะประจบสอพลอพี่มันให้มากที่สุด ฮิฮิ
“พี่คุณกินยัง”
เมื่อคนพี่ส่ายหัวสกายที่แสนใจดีก็ยื่นแซนวิชชิ้นใหม่เอี่ยมจ่อปากคนขับรถ ตรัยคุณเลิกคิ้วเหลือบมองแซนวิชตรงหน้าแล้วหันสายตาไปที่น้อง สกายยิ้มแล้วพยักหน้าพร้อมกับจ่อแซนวิชชิดปากจนตรัยคุณต้องอ้าปากงับเท่านั้นยังไม่พอเซอร์วิสของคุณเท่าฟ้าเขาช่างล้นเหลือจัดการเปิดขวดน้ำส้มเสียบหลอดยื่นให้พี่คุณเสร็จสรรพ
“วันนี้เรียนเสร็จกี่โมงครับ”
“สี่โมงครับ”
“ฟ้าจะกลับบ้านพร้อมพี่ไหม”
“ไม่กลับพี่ วันนี้ผมกลับบ้านที่อยู่กับเพื่อน”
ตรัยคุณพยักหน้าเข้าใจไม่ถามอะไรต่อทำหน้าที่ขับรถต่อไปโดยมีนิสิตแพทย์เท่าฟ้าบริการป้อนข้าวป้อนน้ำให้อย่างดี ราว ๆ ยี่สิบนาทีถัดมารถคันสวยของตรัยคุณก็จอดลงหน้าตึกคณะ
“ขอบคุณมากครับพี่คุณแล้วเจอกันพี่”
“ครับตั้งใจเรียนนะฟ้า”
สกายยกมือไหว้พี่ชายพยักหน้ารับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะกระชับสายสะพายแล้วเปิดประตูเดินลงจากรถไป ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาภายในตึกคณะเห็นเพื่อนทั้งสองนั่งอยู่ไม่ไกล
“หวัดดีพวกชนชั้นล่าง”
สกายเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเต๊ะท่าหล่อเอ่ยทักเพื่อนทั้งสองที่ทำหน้าเหม็นเบื่ออยู่ที่โต๊ะ เห็นเพื่อนทำหน้าทำตาแบบนั้นคนจอมกวนก็หัวเราะชอบใจ ยีหัวแวนเล่นแล้วนั่งลงข้าง ๆ
“หน้าตาแบบนี้แดกข้าวมาอีกแล้วสิ”
แวนเอ่ยถามน้ำเสียงจิกกัดเล็กน้อย สกายยักไหล่แล้วพยักหน้า เนมโคลงหัวไม่ใส่ใจแล้วก้มลงกดเกมเล่นต่อผิดกับแวนที่หรี่ตามองสกาย
“กูว่าชักแปลก ๆ แล้วนะ”
“แปลกอะไร” สกายเลิกคิ้วถาม
“เขาคิดอะไรกับมึงหรือเปล่าทำไมต้องดูแลดีขนาดนั้น”
“คิดมากอะไรวะ ปกติของพี่คุณเขาแล้วเว่ย มึงอย่ามาบ้าพี่คุณกับกูเนี่ยนะ แค่คิดก็ขนลุกตายชัก”
สกายทำท่าสลัดขน ลูบแขนตัวเองขนลุกขนพองแถมยังชูแขนให้เพื่อนดูด้วยว่าขนตัวเองลุกจริง ๆ แวนถอนหายใจแล้วยิ้มบางเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ของสกาย
สกายก็ยังเป็นสกายอยู่วันยังค่ำคิดอะไรอยากได้อะไรก็พูดออกมาโดยไม่อ้อมค้อมอย่างนี้เสมอ มันทำให้แวนรู้สึกโล่งใจก็อย่างนี้แหละเพราะถ้าสกายพูดว่ามีอะไรคือไม่มีอะไรจริง ๆ
เหมือนกับเรื่องของเขาที่อีกฝ่ายขีดเส้นไว้ให้อย่างชัดเจนว่าเป็นได้แค่ไหนและแวนเองก็เต็มใจที่จะอยู่ในเฟรนโซนตราบใดที่สกายยังไม่มีท่าทีว่าจะชอบผู้ชายคนไหน
“แวน...แวนเว้ย!!”
คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัว เจ้าตัวกระพริบตาดันแว่นขึ้นแล้วหันไปมองสกายที่ยื่นหน้าเข้ามามองจนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากเจ้าตัว
“เป็นอะไรหรือเปล่ามึง กูเรียกตั้งหลายทีแล้ว”
“ปะ...เปล่า ๆ กูคิดอะเพลิน ๆ ไปหน่อยมึงว่าอะไรนะ”
“กูถามว่ามึงจะเอาอะไรไหมกูจะไปซื้อขนม”
"ไม่เอา ๆ มึงไปเถอะ"
สกายยักไหล่แล้วเดินออกมาซื้อขนมคนเดียวในหัวคิดไปถึงสิ่งที่เพื่อนบอกแต่จนแล้วจนรอดสกายก็ไม่สามารถคิดว่าการกระทำของพี่คุณนั้นมันดูมากเกินพี่ดูแลน้อง เอาเถอะในเมื่อสกายยังไม่ได้อึดอัดอะไรกับการกระทำของพี่คุณเขาก็จะไม่หาเหตุผลก็แล้วกัน วันนั้นเรียนเสร็จเขาก็รอกลับบ้านพร้อมกับยูที่มานั่งรอใต้โถงคณะ
"รอนานป่ะ"
"แปบนึง กลับเลยไหม"
ยูส่งยิ้มใจดีเผื่อแผ่มาให้เพื่อนทั้งสองคนของสกาย แวนกับเนมโบกมือลาสกายหันมาพยักหน้าให้เพื่อนออกเดิน คนตัวสูงเดินสะโหลสะเหลตามหลังเพื่อนมาจนถึงรถเปิดประตูเข้าไปนั่งได้ก็เร่งแอร์จนสุด
"ร้อนอะไรขนาดนั้น มึงเพิ่งลงมาจากตึกเรียนไม่ถึงห้านาทีนะกาย"
"ก็กูร้อนอ่ะ เหนื่อยด้วย ง่วงด้วย ต้องการขนม"
ยูเหลือบตามองเพื่อนขี้บ่นแล้วหัวเราะขำ เขาออกรถเบาแอร์ลงมาหนึ่งระดับช่วงเย็นวันศุกร์แบบนี้กว่าจะขับรถถึงบ้านน่าจะกินเวลาเป็นชั่วโมง
"แวะซื้อก่อนไหมกูว่ารถน่าจะติดอีกนาน"
"แวะ"
สั้น ๆ ง่าย ๆ ตามสไตล์คนคูลอย่างเท่าฟ้านั่งเลือกเพลงไปสักครู่รถคันสวยของยูก็ขับมาถึงร้านเบเกอร์รี่หน้ามหาวิทยาลัยสกายวิ่งลงไปซื้อแปบเดียวก็กลับมาพร้อมกับขนมต่างชนิดถุงใหญ่ ยูส่ายหน้าอ่อนใจเป็นอย่างนี้ทุกทีถ้าปล่อยให้มันลงไปคนเดียวได้มาเต็มไม้เต็มมือทุกครั้ง
"แบ่งคนอื่นด้วยนะ"
"รู้แล้วน่า"
สกายหน้ามุ่ยกอดถุงขนมไว้ตรงอกและเริ่มแกะกินทีละอย่าง
"กินป่ะมึงอันนี้อร่อยไส้มะพร้าวไม่หวานมาก"
สกายเอ่ยถามพร้อมบอกสรรพคุณเสร็จสรรพเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ค่อยชอบของหวานเสียเท่าไหร่ ยูเหลือบตามามองและพยักหน้า สกายยื่นขนมปังไส้มะพร้าวไปจ่อปากให้เพื่อนงับ เนี่ยเห็นป่ะกับคนอื่นเขาก็ทำแบบนี้ไม่น่าเก็บเอาคำไอ้แวนมาคิดให้รกสมองเลยให้ตายเถอะ
"เออมึงเมื่อวานแวะไปหาข่าวคนที่ตามซันมา ที่ชื่ออินอ่ะ"
"ว่าไงมั่ง"
"มันยังเข้าใจผิดว่าเป็นมึงอยู่เลยมั้งทำอะไรระวังตัวหน่อยล่ะดูเหมือนมันจะเล่นแรงอยู่ว่ะ"
สกายเอ่ยเตือนเมื่อสองสามวันก่อนพี่ฉายโทรมาบอกเรื่องคนที่ชื่ออิน สกายกับนาฟตามไปที่ผับโชคดีที่หมอนั่นไปผับของพี่สาวเขา สกายเลยไปขอเท็นบาร์เท็นเดอร์ที่สนิทกันให้มันช่วยอัดเสียงแอบฟังโดยตัวเองมุดอยู่ใต้เคาท์เตอร์ แล้วก็โดนพี่คุณจับได้บ่นแล้วบ่นอีก บ่นจนหูวิ๊งไปเลย
"อืมกูจะระวังตัว มึงกับนาฟก็อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามล่ะ"
"นาฟมันอยากกินแหละ"
สกายฟ้องเพื่อน ยูหัวเราะส่ายหัวระอา
"พูดตอนทะเลาะกับพี่แน็กอีกล่ะสิ"
สกายยักไหล่ ก็จริงอย่างที่ยูว่า ทะเลาะกับแฟนทีไรชอบพูดจาประชดประชันพี่เขาไปเรื่อยแต่เขาก็เห็นว่าอีกวันก็ดีกันเหมือนเดิม ความรักนี่เข้าใจยากเสียจริง ๆ
"แจมเคยทำอะไรแบบนาฟป่ะ"
"หมายถึงประชดอะไรแบบนี้หรือ"
"อือ" ยูยิ้มแล้วส่ายหน้า
"ไม่เคยหรอก แจมเขาดีอยู่อย่างคือถ้าเขาไม่พอใจอะไรเขาก็จะพูดออกมาตรง ๆ เลย ทำให้กูได้รู้ว่ากูทำอะไรผิดหรือเขาทำอะไรผิดไปแล้วเราก็จะคุยกันดี ๆ แต่ถ้าแจมโมโหมาก ๆ กูก็จะนั่งเงียบ ๆ อยู่กับเขารอจนกว่าเขาจะเย็นลงแล้วเราค่อยพูดกันใหม่"
สกายยิ้มมองเพื่อนด้วยสีหน้าชื่นชม ยูเป็นผู้ชายที่สกายสามารถยืดอกบอกได้เลยว่าถ้าผู้หญิงคนไหนได้ไปเป็นแฟนจะต้องเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดเพราะเพื่อนเขาแทบจะไม่มีข้อเสียเลยก็ว่าได้ เป็นเพื่อนที่ดี เป็นลูกที่ดีแถมยังเป็นแฟนที่โคตรดีอีกต่างหาก แต่เสียใจด้วยนะครับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ชายยูเพื่อนรักของสกายคนนี้มีเจ้าของแล้ว
"ลองให้แจมนิสัยอย่างนาฟดิ กูว่ามึงต้องหนีไปบวชเป็นพี่แน็กแน่" ยูขำพรืด
"ก็ไม่น่าจะขนาดนั้นนะ"
"น้อยไปสิ ทำอย่างกับไม่รู้จักเพื่อนตัวเอง"
สกายทำท่าสลัดขนแล้วแกะขนมชิ้นใหม่มากิน กว่าจะถึงบ้านหนังท้องตึงหน้าตาก็หย่อนคนคูลหลับคอพับคออ่อนไปตั้งแต่กินขนมชิ้นที่สามหมด รถคันสวยของยูถอยจอดที่โรงรถเรียบร้อยชายหนุ่มก็หันมาสะกิดเพื่อนสนิท
"กายถึงแล้ว"
"อือ...มึงแม่งขับนุ่มชิบเป๋งหลับสบายเหี้ย ๆ"
แถมท้ายด้วยการยกนิ้วโป้งให้เพื่อนเดินผิวปากล้วงกระเป๋าไปหารักกับยม รักกับยมที่ว่าคือหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้กับโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่สกายกับเปาขอเพื่อนซื้อมาเลี้ยง
"มึงให้ข้าวมันไปยัง"
สกายเดินเข้ามาถามเปาที่ถูกหมาสองตัวรุมทึ้งอยู่ พอได้ยินเสียงเจ้าของอีกคนก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่สกายแทน รักกระโดดโถมตัวเข้าหาสกายจนเจ้าตัวหงายหลังนอนแผ่บนพื้นหญ้า
"ให้ไปแล้ว วันนี้แม่งคึกอะไรก็ไม่รู้เอะอะกระโจนใส่อยู่นั่น"
เปาหยัดตัวขึ้นมานั่งพลางปัดเนื้อตัวแล้วโยนลูกบอลออกไปให้รักกับยมวิ่งไปเก็บ สกายยิ้มตาหยีมองหมาสองตัววิ่งแข่งกันอยู่ สกายชอบสัตว์ชอบมากที่สุดก็สุนัขนี่แหละ ไม่มีสัตว์ที่ไม่ชอบเลยกระทั่งงูหรือพวกสัตว์เลื้อยคลานน่ากลัว ๆ สกายก็ชอบ ตอนแรกสกายเสนอขอเลี้ยงงูเหลือมแต่โครงการถูกยุบทันทีหลังที่เอ่ยปากเพราะเพื่อนทุกคนไม่เห็นด้วย ถัดมาขอเลี้ยงเหยี่ยวแบบพวกชีคแถบตะวันออกกลางก็ถูกห้ามอีกเพราะว่าเลี้ยงดูยากจนสุดท้ายต้องมาจบที่สุนัขนี่แหละทุกคนถึงยอมรับ
เพื่อน ๆ ไม่ค่อยคูลเลยไม่เข้าใจความต้องการของสกาย เขาแค่ไม่อยากเลี้ยงสัตว์ที่เหมือนคนอื่น ดูสิหมานะคนเลี้ยงกันแทบทุกบ้านต้องเลี้ยงงูนี่เท่จะตาย แต่ไม่เป็นไรค่อยไปขอพ่อเลี้ยงไว้ที่บ้านใหญ่ก็ได้
"มึง ๆ อยากเลี้ยงธิเบตันอ่ะ"
สกายสะกิดแขนเปาแล้วยื่นมือถือให้เพื่อนดูสุนัขพันธุ์ธิเบตันตัวใหญ่มหึมาคล้ายหมี เปากลอกตาถอนหายใจยาว
"มันน่ารักดีนะกายแต่มึงคิดว่าสาว ๆ จะอนุมัติไหม"
พอเปาพูดจบสกายก็ยู่หน้าขัดใจ ถ้าเอาไปพูดต้องโดนเบรคอีกแหง ๆ เพราะว่าสุนัขพันธุ์นี้ราคาค่อนข้างแพงแถมต้องอยู่ในที่เย็นตลอดเวลา บลาบลาบลา โอเคไม่เลี้ยงก็ได้โถ่
"แล้วเป็นไงบ้างเรื่องเรียน"
"ก็เรื่อย ๆ ว่ะ"
"งานที่ผับล่ะ"
"กูว่าจะรับให้น้อยลงแล้ว" เปาพยักหน้าเห็นด้วย
"อืมดีแล้ว กูล่ะกลัวร่างกายมึงไม่ไหวจริง ๆ"
"มึงพูดเหมือนพี่คุณเลย"
"พี่คุณ? ใครวะ"
"อ่อวันนั้นมึงไม่ได้ไป พี่คุณเป็นเพื่อนพี่ดรีมไง"
"เดี๋ยว ๆ กูว่าคุ้น ๆ แล้ว ที่ตอนเด็ก ๆ มึงติดเขามากใช่ป่ะ" สกายเบิกตากว้างชี้หน้าเพื่อน
"ใช่ ๆ มึงความจำดีว่ะ" เปาหัวเราะขึ้นจมูก
"แหมไอ้กายมึงตอนนั้นนะที่พี่เขาไปร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายขนาดตอนนั้นกูไม่ได้อยู่ไทยมึงยังโทรมาร้องไห้กับกูถึงชิงเต่าเลยไอ้สัด"
สกายหัวเราะชอบใจจำได้อยู่ลาง ๆ เหมือนกันว่าตอนนั้นเที่ยวโทรหาเพื่อนสนิททุกคนร้องห่มร้องไห้ฟ้องเพื่อนหนักหน่อยก็บีสท์กับไทน์ที่แม่โทรเรียกให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขาที่บ้าน
"แล้วพี่แกกลับมาแล้วหรือวะ"
"อือกลับมาได้สักพักแล้ว ตอนนี้มาเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะกูด้วย"
“หึหึหึ” สกายหรี่ตามองเพื่อนที่หัวเราะได้อย่างไม่น่าไว้ใจที่สุด
“อะไรของมึงวะ”
“
เขากลับมาทวงสัญญาจากมึงหรือเปล่า” สกายหน้าเหวออ้าปากพะงาบ ชี้หน้าเพื่อน
“มะ...มึงจำได้?” เปาหัวเราะเสียงดัง
“จำได้สิวะใครจะสมองปลาทองแบบมึง ไอ้ห่าตอนนั้นโคตรฮาจะว่าไปกูก็ลืมไปเลยนะเนี่ยต้องไปขยายหน่อยละ” สกายกลอกตาเซ็ง
“ไม่ต้องแล้วไอ้ห่าไอ้เชนไปโพนทะนาสามบ้านแปดบ้านแล้วมั้งวันนั้นที่ไปเล่นผับพี่ดรีมอ่ะ เจ๊แกเผากูซะเกรียมเลย” เปาหัวเราะชอบใจ
“แต่มึงแม่งความจำดีจริง ๆ ว่ะเปา” คนถูกชมยักคิ้วยืดอกภูมิใจ
“แน่นอนเว้ยเรื่องที่ไอ้เชนดำน้ำแล้วถูกคนเมากระชากหัวขึ้นมาที่เขาคิดว่ามันตายอ่ะกูก็จำได้ ไอ้ห่าเอ๊ยคนบ้าอะไรจะดำน้ำได้เหมือนศพเกยตื้นได้ขนาดนั้น”
พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาสกายก็หัวเราะผสมโรงไปกับเพื่อนด้วย เขาพยักหน้ารัวเพื่อเป็นการบอกว่าเรื่องนี้เขาก็จำได้ ตราบาปในชีวิตเชนมันเลยล่ะมีอย่างที่ไหนเอาหน้ากากดำน้ำใส่แล้ววิ่งลงชายหาดปล่อยตัวลอยตามกระแสคลื่นแบบไร้เรี่ยวแรง สกายว่าถึงจะเป็นคนปกติไม่เมาเห็นแบบนั้นก็นึกว่าศพเถอะ
“นินทากูนะ ๆ ไอ้พวกเลว”
พูดถึงเชนเชนก็มาทันที คนหน้ากวนเดินหัวเราะมาทิ้งตัวนั่งอีกข้างของสกายแล้วก็ตามธรรมเนียม รักกับยมกระโจนเลียหน้าจนพอใจเชนมันถึงงัดตัวเองขึ้นมาจากพื้นหญ้าได้
“มึงเลี้ยงไอ้สองตัวนี้ดีไปไหมเนี่ย กูว่ามันอ้วนไปแล้วนะ”
“อย่าว่าลูกกู ลูกกูออกจะสมบูรณ์มีอันจะกิน”
“ใช่ ๆ” สกายช่วยเสริมเปา
“แล้วทำไมอยู่ ๆ นินทากู”
“อ่อ กูคุยกันเรื่องพี่คุณ” เชนเลิกคิ้วแปลกใจ
“มึงก็รู้จักพี่คุณหรือ” เปาพยักหน้า
“ตอนนั้นพวกกูยังไม่รู้จักมึงไง กายมันติดพี่คุณมากคนที่รู้เรื่องนี้มีแค่กู บีสท์ ไทน์แล้วก็แพรว มึงเอ๊ยตอนนั้นนะที่พี่คุณเขาย้ายไปเมืองนอกไอ้กายอย่างกับผู้หญิงถูกผัวทิ้ง” สกายเขย่าแขนเพื่อนเบา ๆ
“มึงก็เกินไปเปา กูก็ไม่ขนาดนั้น” เปาส่งเสียงจิ๊จ๊ะมองดุ
“อย่าขัดกู กูใส่อารมณ์เพื่ออรรถรสในการเล่า” สกายยิ้มแหยส่วนเชนหัวเราะชอบใจฟังเปาเล่าต่อ
“ไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลยเว้ย ขังตัวเองอยู่ในห้องโทรมาร้องไห้กับกูที่อยู่ชิงเต่า แพรวก็โดนหนักสุดก็ไอ้บีสท์ไอ้ไทน์เลย แม่มันโทรมาตามให้ไปอยู่เป็นเพื่อนไอ้นี่ที่บ้าน” เชนมองสกายตาโตก่อนจะปรบมือแปะ ๆ
“ดราม่าควีนชัด ๆ”
“จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบเลยล่ะเพื่อนมึงน่ะ”
“โว้ยยยยย ไอ้พวกบ้ากูไม่คุยกับพวกมึงแล้ว”
สกายลุกหนีได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา หงุดหงิด ๆ ความหงุดหงิดนี้เผื่อแผ่ไปถึงตัวต้นเรื่องอย่างพี่คุณด้วย! ไม่รู้เขาจะพาล!!!
tbc
talk. โถ่น้องฟ้าลูกแม่ ไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยยยย เอ๊หรือว่าพี่คุณเข้าไม่ได้มีเจตนาจริงๆ นะ