Photo(21)
ผ่านมาสองอาทิตย์หลังจากเกิดเรื่อง กระแสข่าวเรื่องอดีตนายแบบคนดังของ FxxanPxx ก็เริ่มซาลง ทางเพจทยอยปล่อยภาพนายแบบชุดใหม่ทั้งห้าคน ความสนใจจึงถูกดึงไปหาพวกเขาแทน ยืนยันความจริงที่ว่ากาลเวลาช่วยทำให้คนลืมเลือน แต่เพ้นท์ก็ไม่คิดว่าเรื่องของเขาจะหายไปเร็วแบบนี้
วันที่ท้องฟ้าสดใส เขาได้เห็นมันเร็วกว่าที่จินตนาการไว้หลายเท่า สภาพจิตใจเลยดีขึ้นเร็วตามไปด้วย
"เสร็จยังมึง กูพร้อมนานแล้วเนี่ย" คุณตากล้องจำเป็นนั่งกอดอกปั้นหน้าบึ้งอยู่บนเตียง วันนี้เอฟรับงานถ่ายรูปให้เพ้นท์ที่ทัพเป็นคนผู้จ้างวานด้วยข้าวเย็นหนึ่งมื้อ สถานที่คือห้องของเพื่อนรัก แต่ตัวนายแบบที่หอบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำไม่ยอมออกมาเสียที
"แป๊บนึง!"
"แป๊บรอบที่สามแล้วเนี่ย"
"อย่าเร่งสิวะ"
"กูบอกว่าจะช่วยใส่ก็ไม่ยอม"
"หุบปากไปเลยไอ้ทัพ!"
คนโดนว่าหัวเราะคิกคักกับคุณตากล้อง กลายเป็นชอบใจที่โดนด่า อารมณ์ดีผิดกับสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายรอ เพราะคนที่กำลังจะอารมณ์เสียคือคนที่อยู่ในห้องน้ำต่างหาก
ทัพลุกไปเคาะประตูห้องน้ำ แค่เปลี่ยนชุดที่เขาหาให้มันไม่ควรนานขนาดนี้ เหตุผลที่พอคิดออกว่าทำไม่เพ้นท์ไม่ยอมออกมาเลยเหลืออยู่ข้อเดียว คืออาย
"จะเคาะทำไมวะ"
"ออกมาได้แล้ว"
"ก็บอกว่าแป๊บนึง"
"อายอะไรวะ"
"ก็ดูชุดมึงดิ ไม่ใส่ยังรู้สึกดีกว่า"
"งั้นไม่ต้องใส่ก็ได้ แก้ผ้าออกมาเลย"
"โว้ย! ไอ้สัดทัพ!"
โดนด่าอีกทัพก็หัวเราะอีกรอบ นานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ที่เขาไม่โดนเพ้นท์ด่าแรงๆ แบบนี้
"มันชุดผู้หญิงอ่ะมึง ใส่แล้วโคตรไม่โอเค"
"ไหน ไม่โอเคยังไงออกมาดูก่อน กูอุตส่าห์หาในเว็บเป็นวันๆ เลยนะ ใส่แล้วก็ยอมถ่ายเถอะครับ" ทัพพยายามกล่อม ที่เขาเลือกซื้อชุดนี้มาเพราะคิดว่าเพ้นท์ใส่แล้วต้องออกมาดูดี ไม่ได้เผื่อใจมาว่าจะทำให้คนใส่เขินจนไม่กล้าออกมาโชว์ตัว ทั้งที่ชุดมันเซฟกว่าตอนถ่ายเล่นกับเอฟตั้งเยอะ
ก็แค่ชุดกระต่ายน้อย สายเดียวสีชมพูมีขนมิ้งนุ่มๆ รอบอกกับชายกระโปรง เครื่องประดับครบชุดทั้งโชคเกอร์ ที่รัดข้อมือ ที่คาดผมหูกระต่าย กับจีสตริงสีชมพูเข้าชุดอีกหนึ่งตัว แต่คิดว่าอย่างสุดท้ายเพ้นท์ไม่น่าจะใส่ได้
"มึงใส่อะไรก็สวยอ่ะเพ้นท์ เชื่อกู"
"เชื่อมึงบรรลัยทุกทีอ่ะทัพ"
ขำก็ขำ สงสารก็สงสาร ไม่ว่าด่าอะไรทัพก็ไม่สะเทือนยืนยิ้มเป็นคนบ้าอยู่หน้าประตู
"ไหนบอกจะตามใจกูไง"
"ถ้ารู้ว่ามึงจะแกล้งแบบนี้กูไม่รับปากหรอก"
"กูไม่ได้แกล้ง อยากเห็นจริงๆ"
"ไม่เอา" ยื่นคำขาดแบบเด็ดขาดว่ายังไงก็ไม่มีทางใส่ ชุดเดรสรัดติ้วสีชมพูหวานแหววขนาดนี้ ขอไม่ใส่อะไรเลยยังดีซะกว่า
"งั้นเอางี้ มึงใส่แต่พร็อพออกมาก็ได้ ไม่ต้องใส่เดรส"
เสนอออกไปคนในห้องน้ำก็เงียบกริบ เพ้นท์ไม่ได้กลัวที่ต้องถอด แต่กำลังหมั่นไส้ทัพที่เหมือนจะรู้ความคิดเขาไปเสียทุกอย่าง ขนาดประชดในใจยังรู้
ชุดเดรสสีชมพูดถูกถอดออกพาดกับราวไว้อย่างรวดเร็ว เหลือเพียงบ๊อกเซอร์สีขาวตัวจิ๋วกับพร็อพครบชุด เพ้นท์ยืนมองตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะ ถึงจะไม่ได้ใส่ชุดเดรสยังไงกระต่ายตัวนี้ก็ยังน่ารักได้อยู่ดีนั่นแหละ
เงียบไปชั่วอึดใจสุดท้ายประตูห้องน้ำก็เปิดออก เพ้นท์ยืนปั้นหน้านิ่งตรงหน้าทัพ ให้เจ้าของชุดสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าว่าพอใจหรือไม่
"แบบนี้ก็ได้ เซ็กซี่กว่าเยอะ" ทัพบอกแล้วยิ้มกว้าง แม้จะเสียดายที่ไม่ได้เห็นเพ้นท์ใส่ชุดที่ตั้งใจซื้อมาให้ แต่พร็อพก็ยังทำให้กระต่ายตัวนี้ดูน่ากินอยู่ดี น่ากินมากจนเสือร้ายต้องข่มความหิวกระหายเอาไว้เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน
หลังจากชื่นชมจนพอใจ ทัพก็จูงแขนกระต่ายน้อยมานั่งบนเตียงที่ใช้เป็นฉาก มีตุ๊กตาแครอทเป็นพร็อพเสริม เพิ่มความน่ารักน่ากินขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
นายแบบพร้อมงานก็เริ่ม การถ่ายแบบเฉพาะกิจครั้งนี้เป็นไปตามสัญญาที่เพ้นท์เคยให้กับทัพไว้ ทั้งคอนเซ็ปต์และจองคิวตากล้องทัพเป็นคนจัดการเองทั้งหมด การถ่ายภาพครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากทุกทีเพราะเป็นการถ่ายแบบเห็นหน้าตามคำขอของผู้จ้างวาน ไม่จำเป็นต้องปิดบังเมื่อเจ้าของรูปตั้งใจเก็บไว้ดูคนเดียวไม่เผื่อแผ่ใคร
"ตื่นเต้นว่ะ ไม่ได้ถ่ายมึงนาน" เอฟบอกหลังจากถ่ายไปได้สักพัก การมองเพื่อนสนิทผ่านเลนส์ที่คอยปรับเปลี่ยนท่าโพสต์ตามคำบอกของเขายังทำให้ตื่นเต้นได้ทุกครั้ง ฝีมือในการยั่วยวนผ่านท่วงท่าของร่างกายไม่ได้ลดน้อยลงเลยแม้จะไม่ได้ถ่ายรูปแนวนี้นาน กลับกันยังดูชำนาญขึ้นเสียด้วยซ้ำ คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากประสบการณ์การใช้ร่างกายมากขึ้น
"กูก็ตื่นเต้นนะ ไม่ได้แก้ผ้าให้มึงดูนาน"
"ก็ช่วงนี้มึงแก้ให้แต่ไอ้ทัพดูไง"
"รู้ดี"
"แต่กูไม่ได้ดูอย่างเดียวนะ"
"รู้แล้วเว้ย ไม่ต้องมาขิงใส่"
อยู่ด้วยกันสามคนทีไรต้องมีเรื่องใต้สะดือเข้ามาเอี่ยวด้วยทุกที คุยกันทะลึ่งตึงตังจนเพ้นท์เบื่อจะห้าม พักหลังเลยเชิดหน้ายอมรับแม้จะเขินๆ อยู่บ้าง ภูมิใจในตัวเขานักก็อวดไปเถอะ
"อยากถ่ายคู่มั้ย" เอฟถามหลังจากได้รูปเดี่ยวมาเยอะพอสมควร เห็นทัพที่เจอฤทธิ์กระต่ายน้อยเข้าไปกำลังยืนข่มอารมณ์เลยอยากหาเรื่องช่วย บางทีได้ถ่ายด้วยกัน สัมผัสกันนิดๆ หน่อยๆ น่าจะรู้สึกดีขึ้น
"เอาดิ" เพ้นท์พยักหน้ารับแบบไม่ต้องคิด ได้ตากล้องฝีมือดีมาถ่ายให้ทั้งที เขากับทัพยังไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเลยสักครั้ง ไม่นับโฟโต้บุ๊ค
"แล้วกูต้องใส่ชุดยังไงอ่ะ" ถามพลางก้มลงมองชุดตัวเอง ถ้าให้ใส่แบบนี้เข้าไปถ่ายคู่น้องกระต่ายบอกเลยว่าไม่เข้ากันสุดๆ
"เอาแบบดีๆ อ่ะทัพ หยิบเสื้อยืดมาให้กูด้วย"
"แค่เสื้อใช่มั้ย"
"อืม"
ทัพเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหาเสื้อที่คิดว่าเข้าคู่กันที่สุด จะไปว่าแล้วเขากับเพ้นท์แทบไม่มีไอเทมที่เป็นแบบคู่กันเลย ของขวัญเนื่องในโอกาสพิเศษก็ยังไม่เคยให้ ตอนเป็นเพื่อนกันเป็นยังไงทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ความหวานอาจจะเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่เขาว่าคบกันแบบนี้มันสบายใจดี
พร็อพกระต่ายน้อยถูกถอดออก เพ้นท์สวมเสื้อแขนยาวสีชมพูอ่อนแบบโอเวอร์ไซซ์ที่ยาวปิดก้นพอดี ส่วนทัพเปลี่ยนจากเสื้อยืดธรรมดาเป็นเสื้อแขนยาวสีเทาแบบเดียวกัน ชวนกันโพสต์ท่าตามมุมต่างๆ ของห้องที่วันนี้กลายเป็นสตูจำเป็น หยอกเย้าเล่นกันแบบไม่เกรงใจตากล้องคนโสด จนบางทีเผลอเบ้ปากเพราะความหวานมันมากจนทะลุเลนส์
"จะดูดปากกันอีกนานมั้ย เกรงใจกูหน่อย ไม่ได้ถ่ายโฟโต้บุ๊คเล่มสามนะเว้ย" เอฟถึงกับต้องร้องถาม เพราะหลังจากทัพมันดึงเพื่อนเขาขึ้นเตียงก็โถมตัวเข้าใส่บดขยี้ปากกันไม่เลิก ทีแรกก็คิดว่าเพ้นท์มันจะห้าม ที่ไหนได้ดันยกมือคล้องคอรั้งทัพให้ลงไปหาเสียอย่างนั้น
กดชัตเตอร์ได้อีกไม่กี่ครั้งเอฟก็ยกมือยอมแพ้ เก็บกล้องใส่กระเป๋าปิดจ็อบเองโดยไม่ต้องรอคนจ้างสั่ง ทัพมันคงอดกลั้นมาพักใหญ่พอได้จูบแถมยังไม่โดนห้ามเลยถอนตัวไม่ขึ้น เป็นแบบนี้เขาคงต้องถอยก่อนจะได้ดูฉากที่อยากดูแต่ก็ไม่สมควรดู
"กูไปก่อนนะ เจอกันห้าครึ่งแล้วกัน เดี๋ยวกูมารอใต้หอ"
"มึงหยิบคีย์การ์ดไปเลยนะ ค่อยคืน"
"เออ" ตอบรับทัพที่อุตส่าห์ผงกหัวขึ้นมาบอกเอฟก็คว้าคีย์การ์ดที่วางบนโต๊ะข้างหน้าต่างเดินตรงไปที่ประตู ก่อนเดินออกไปยังอดไม่ได้แอบหันมามองคู่รักบนเตียงที่เริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้า แม้เขาจะเคยเห็นฉากแบบนี้ของสองคนนั้นมาแล้ว แต่อารมณ์ตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันเยอะ ก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนจะไม่เสพสุขกันเพลินจนลืมเวลานัด
ร้านเดิม บรรยากาศเดิมๆ ต่างกันที่วันนี้สมาชิกเยอะกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เมื่อลองเอ่ยปากชวนกันเป็นทอดๆ แล้วทุกคนตกลงมากันหมด เลยกลายเป็นการสังสรรค์ที่เพื่อนของเพื่อนได้มาพบเจอกันเป็นครั้งแรก
ไอทีกับมิ้มที่มาถึงร้านเป็นคู่แรกจับจองโต๊ะด้านในระหว่างรอคนที่เหลือตามมาสมทบ คนรักสันโดษอย่างมิ้มออกอาการตื่นเต้นไม่น้อยหลังจากรู้ว่าทัพเองก็มีแฟนเป็นผู้ชาย เลยชวนไอทีคุยเรื่องนี้เพื่อเก็บข้อมูลไว้ก่อนตัวจริงจะมาถึง
"แฟนทัพกับเพื่อนชื่ออะไรนะ"
"เพ้นท์กับเอฟ"
ชื่อที่ไอทีบอกชวนให้มิ้มนึกถึงใครคนหนึ่ง เจ้าของรอยยิ้มหวานๆ ที่ยังจำติดตา คนใจดีที่ซื้อเสื้อให้เขาใหม่ตอนนั้นก็ชื่อเพ้นท์เหมือนกัน พอพูดถึงแล้วก็ยิ่งคิดถึง
"รุ่นเดียวกับเราทั้งคู่เลยใช่มั้ย"
"ใช่ครับ ทัพกับเพ้นท์เป็นเมทกัน จริงๆ เพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือน"
"ทำไมดูโรแมนติก" สิ่งที่ไอทีเล่าให้ฟังทำเอามิ้มจินตนาการไปไกล เริ่มจากการเป็นเพื่อนจบด้วยการเป็นแฟน เป็นความสัมพันธ์ชวนให้รู้สึกดีตามไปด้วย
"ทีก็โรแมนติกนะ"
"ที่สุดเลยแหละคนนี้"
มองตากันแล้วยิ้มหวานให้ ไอทีขยับหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเกือบชนกัน ไม่ได้ลืมว่าตอนนี้อยู่ในที่สาธารณะแต่เพราะเลือกที่จะไม่ใส่ใจมันเลยไม่ได้หักห้ามใจ ถึงอย่างนั้นผู้พิทักษ์ความดีงามที่เพิ่งแต่งตั้งตัวเองวันนี้ก็เข้ามาขัดไว้อยู่ดี
"สวัสดีไอที สวัสดีครับมิ้ม" คำทักทายที่มีความกวนแฝงอยู่ช่วยผลักไอทีกับมิ้มให้ออกห่างจากกัน ทัพยิ้มกว้างตอนเดินนำมานั่งที่โต๊ะ กำลังจะเริ่มแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันคนข้างตัวก็ร้องขึ้นมา
"มิ้ม" เพ้นท์เผลอยกมือชี้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ความลังเลในทีแรกหายไปเมื่อได้เห็นหน้าชัดๆ แล้วก็ใช่คนน่ารักของเขาจริงๆ
"อย่าบอกนะว่าเพ้นท์เป็นแฟนทัพอ่ะ" ฝ่ายมิ้มก็ตกใจไม่แพ้กัน ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะยิ้มอย่างยินดีกับความโลกกลมนี้
"แฟนมันนี่แหละ ที่จริงก็คิดอยู่นะว่าแฟนไอทีจะใช่มิ้มคนนั้นหรือเปล่า แล้วก็ใช่จริงๆ"
"บังเอิญเนอะ"
"หรือบางทีอาจจะเป็นพรหมลิขิต"
"เดี๋ยวๆ" ทัพรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นว่าชักจะคุยกันเลยเถิด ตามที่ตกลงกันไว้เขากับไอทีต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วแสดงท่าทีตกใจออกมา แต่เพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกลับดูนิ่งเสียเหลือเกิน
"กูกับมิ้มรู้จักกันแล้วนะ ไม่ต้องแนะนำ ข้ามไปไอ้เอฟเลย" เพ้นท์บอก ยังยิ้มแย้มอยู่กับมิ้ม ลืมคนรอบข้างไปชั่วขณะ
"ยังไม่ได้บอกเลยว่ารู้จักกันได้ไง" เป็นไอทีที่ขัดขึ้นมา เห็นนิ่งๆ จนทัพคิดว่าเพื่อนจะไม่เล่นตามแผนเสียแล้ว
"คนที่ซื้อเสื้อใหม่ให้เราไง"
"นั่นแหละ คนที่กูซื้อเสื้อให้"
มิ้มตอบไอที ส่วนเพ้นท์ก็ตอบทัพ
คุณแฟนทั้งสองพยักหน้ารับเข้าใจโดยดีไม่ได้ถามไถ่อะไรเพิ่ม ข้ามไปแนะนำเอฟแล้วปล่อยให้เพ้นท์ชวนมิ้มคุยต่อ จากบรรยากาศรอบตัวมองดูก็พอรู้ว่าสองคนนี้ถูกชะตากันพอสมควร จนอยากจะย้ายที่ให้ไปนั่งข้างกัน
จิวเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงพร้อมกับถุงพลาสติกก๊อบแก๊บที่ช่างขัดกับการแต่งตัว คนอารมณ์ดีเดินยิ้มกว้างนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ วางถุงไว้บนโต๊ะทักทายทุกคนเสียงดังตามด้วยการแนะนำตัวเอง
"ผมจิวนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน ไม่ต้องแนะนำตัวกลับนะครับเพื่อนกูรู้จักหมดแล้ว"
"หิ้วอะไรมาวะ" ไอทีไม่ได้สนใจคารมของเพื่อนนัก เขาถามสวนขึ้นมาเพราะติดใจตั้งแต่เห็นเอฟหิ้วมันเดินเข้าร้าน เจ้าของถุงเลยชูมันขึ้นให้ดู
"ไอ้นี่อ่ะนะ"
"เออ"
"โฟโต้บุ๊คของเอฟแอนพีไง"
แค่ได้ยินชื่อสามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็สะดุ้งไปตามๆ กัน เพ้นท์เกือบสำลักน้ำ รีบวางแก้วมองตามสิ่งที่จิวหยิบออกมาจากถุงโชว์ให้ดูพร้อมอธิบายถึงที่มา
"ตอนกรอกที่อยู่กูดันก๊อปผิดเอาที่อยู่หอไอ้โจ้ใส่ไป วันนี้กูเพิ่งแวะไปเอา แล้วดูแม่งใส่ถุงให้ ไม่สมราคาหกร้อยที่จ่ายเลย แล้วมึงได้ยังทัพ" พูดจบก็โยนคำถามให้เพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์
"ได้แล้ว"
"เพ้นท์รู้ยังว่าไอ้ทัพมันแอบดูรูปโป๊" แล้วเอฟก็ถามเพ้นท์บ้าง
"รู้ๆ"
"ดูด้วยกันเลยเถอะ"
"เบื่อมึงว่ะ" จิวว่าอย่างอดไม่ได้ จะแซวเพ้นท์ต่อก็เกรงใจเพราะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แม้หลังจากที่เขาเข้าไปช่วยแก้ข่าวให้จะได้รับคำขอบคุณอย่างสุดซึ้ง แถมยังได้กินข้าวฟรีอีกหนึ่งมื้อ แต่เพ้นท์ดูไม่เหมาะที่จะลงมาสุงสิงกับพวกเขา คนคนนี้เหมาะจะเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์แบบมิ้มมากกว่า
เพราะเก็บอาการได้ดี แซวเล่นคุยกันเป็นปกติสามคนที่เกี่ยวข้องกับโฟโต้บุ๊คเลยไม่ทำใครสงสัย กำลังจะปิดประเด็นชวนคุยกันเรื่องอื่นอยู่ๆ คนที่นั่งจ้องอยู่นานอย่างมิ้มก็พูดขึ้นมา
"จิว เราขอดูหน่อยได้มั้ย"
"ได้ๆ"
โฟโต้บุ๊คที่จิวกำลังจะเก็บใส่ถุงถูกส่งต่อให้มิ้ม สามคนฝั่งตรงข้ามพยายามทำเป็นไม่สนใจแต่ตาเหล่มองเป็นระยะ ทัพนั้นไม่กังวลเท่าไร ผิดกับเพ้นท์และเอฟที่ภาวนาให้ทีกับมิ้มไม่พูดอะไรแปลกๆ ออกมาระหว่างเปิดผ่านไปทีละหน้า อย่างเช่นการทักขึ้นมาว่า 'นายแบบคนนี้คล้ายเพ้นท์จังเลย' อะไรทำนองนั้น
"สวย" คำแรกที่มิ้มพูดออกมาหลังได้ดูงานของ FxxanPxx แบบเต็มๆ ยอมรับในใจด้วยว่าลักษณะภาพใกล้เคียงกับที่ทีชอบถ่ายเขา แต่งานในเล่มนี้ให้ความรู้สึกจริงจังและเป็นศิลปะมากกว่า
"เห็นแล้วอยากทำเล่มขายบ้างเลย" ไอทีแสดงว่าความเห็นบ้างจนมิ้มหันขวับมามอง
"ไม่เอา"
"ไม่เอาก็ไม่เอาครับ แค่คิดเฉยๆ เอง"
ไอทีกับมิ้มคุยกันเหมือนกระซิบอยู่สองคน ฝั่งรอฟังก็ได้แต่เงี่ยหูรอ กระทั่งเปิดถึงหน้าสุดท้าย โฟโต้บุ๊คถูกส่งกลับคืนพร้อมรอยยิ้มน่ารักๆ ที่มองเท่าไรก็ไม่เบื่อ
"สวยใช่มั้ย" จิวถาม
"สวยๆ"
"จิวเคยคิดนะว่าถ้ามิ้มได้ถ่ายกับน้องนุ่มนิ่มต้องดีแน่ๆ"
"น้องนุ่มนิ่มเหรอ"
"หมายถึงนายแบบตัวเล็กๆ ในเล่มน่ะ"
มิ้มพยักหน้ารับแล้วยิ้มหวานไม่ตอบอะไร แต่หารู้ไม่ว่าความเห็นนี้มันช่วยจุดประกายความคิดให้ใครบางคน ส่วนคนที่ถูกตั้งชื่อให้ว่าน้องนุ่มนิ่มนั้นเขินหน้าแดงไปแล้วเรียบร้อย
โฟโต้บุ๊คถูกเก็บใส่ถุงตามเดิมประเด็นสนทนาใหม่ก็ถูกเปิดขึ้นมา แม้จะเจอกันไม่บ่อยหรือเป็นครั้งแรกสำหรับบางคน แต่บรรยากาศรอบตัวแต่ละคนไม่ได้ชวนให้อึดอัดนัก จิวเป็นคนสร้างเสียงหัวเราะ ต่อปากต่อคำเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับเอฟ เพ้นท์กับมิ้มเองก็ชวนกันคุยไม่หยุดจนไอทีต้องยอมสลับที่ให้ได้นั่งข้างกัน ส่วนคุณแฟนทั้งสองนั้นแค่ได้มองคนรักยิ้มแย้มมีความสุขก็เป็นสุขใจ
"มึงว่าถ้าลองชวนมาถ่ายรูปด้วยกันมิ้มกับเพ้นท์จะยอมมั้ย" ดื่มจนเริ่มเมาได้ที ความคิดในหัวเราะเริ่มฟุ้งซ่านไอทีก็พูดขึ้นมา หันสบตากับทัพที่น่าจะรู้ความหมายที่เขาสื่อ รูปที่เขาอยากถ่าย
"กูบอกไม่ได้ว่ะ ต้องลองดู"
"เดี๋ยวกูลองถามมิ้ม"
"แต่กูไม่ถามเพ้นท์ให้นะ"
"ทำไมวะ"
"ถ้ามิ้มตกลงแล้วให้มาชวนเพ้นท์เองน่าจะง่ายกว่า" บอกแล้วพยักพเยิดให้ดูคนที่น่าจะกำลังแลกช่องทางติดต่อกัน จากนี้เพ้นท์คงได้เพื่อนคุยเพิ่มมาอีกคน
ไอทีเห็นด้วยกับความคิดนี้ ถ้ามิ้มยอมถ่ายแล้วให้ชวนเพ้นท์เองน่าจะเข้าท่ากว่า เขาไม่รู้ว่าเพ้นท์จะยินดีไหม หรือมิ้มจะกล้าบอกหรือเปล่า แต่ถ้าวันนั้นมันเกิดขึ้นจริงแล้วล่ะก็
ถ้าเพ้นท์กับมิ้มได้ถ่ายรูปคู่กัน วันนั้นคงมีแต่ความน่ารักอบอวนเต็มไปหมด
แค่ได้คิดก็มีความสุขแล้ว
Photo(end)
จบแล้วววววววววววว แอบใจหายเหมือนกัน
เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกของเราเลยที่มีคนเข้ามาอ่านเยอะขนาดนี้ เกินความคาดหมายมากๆ
ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงตามที่เราคิดไว้ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันจนมาถึงตอนจบนะคะ ดีใจมากๆ เลย
เรื่องนี้ออกกับเอเวอร์ค่ะ เราไม่แน่ใจว่าจะทันงานหนังสือหรือเปล่า ถ้าไม่ทันก็น่าจะออกภายในปีนี้
สำหรับตอนพิเศษมีทั้งหมดห้าตอน ใครอยากอ่านพาร์ทอดีตของทั้งสองคู่มีแน่นอนค่ะ
ใครอยากเห็นแมวน้อยสองคนถ่ายคู่กันก็กำตังค์รอไว้เลย
สุดท้ายนี้ ถ้าความชอบของเราเหมือนกันหวังว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกนะคะ
ขอบคุณมากค่า