01
"โอเค สวย"
สิ้นเสียงร่างผอมบางที่มีเพียงอันเดอร์แวร์ตัวเดียวอยู่บนร่างกายก็คว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่วางอยู่บนเตียงมาคลุมตัว ก่อนเดินไปหาตากล้องประจำตัวที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิท เพื่อตรวจสอบว่างานของวันนี้สวยจริงอย่างที่เพื่อนว่าหรือเปล่า
"เดี๋ยวกูแต่งรูปเสร็จจะส่งให้มึงเลือกอีกที" เอฟบอก เขาเปิดรูปที่เพิ่งถ่ายให้เพ้นท์ดู แต่ละรูปสวยและน่าดึงดูด ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนเคย
"มึงว่ากูผอมไปมั้ยวะ"
"ไม่นะ หุ่นแบบนี้กำลังดี ไม่ผอมไป ดูนุ่มนิ่มน่าสัมผัส"
"มึงน่ากลัวขึ้นทุกวันเลยนะเอฟ"
"อย่างมึงนี่กูเห็นบ่อยจนเบื่อแล้ว รอถอดหมดเมื่อไรคงตื่นตาตื่นใจกว่านี้"
"ไอ้เอฟ"
"ก็ล้อเล่นมั้ยเล่า ไปใส่เสื้อผ้าไปเดี๋ยวกูออกไปส่ง"
เพ้นท์มองค้อนใส่เพื่อนสนิทตัวเองหนึ่งที ก่อนเดินหลบไปหยิบชุดนักศึกษาที่ถอดกองอยู่มุมห้องมาใส่ลวกๆ เสร็จแล้วก็สะพายกระเป๋าเดินตามเอฟออกจากห้อง
ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่หอของเอฟ มันคือสถานที่ทำงานแบบส่วนตัวที่มีจุดเริ่มต้นจากการแกล้งเล่นกันสนุกๆ จนเลยเถิดกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาได้รับค่าตอบแทนเป็นเม็ดเงินที่พอให้เป็นค่าขนมได้หลายเดือน เพราะถ้าหากวันนั้นเอฟไม่แอบถ่ายรูปเพ้นท์ตอนหลับแล้วไปเปิดแอคเคาต์ทวิตเตอร์เพื่อลงรูปเรื่องก็คงไม่เกิด และเรื่องมันจะไม่บานปลายขนาดนี้ถ้ารูปที่ลงเป็นรูปคนหลับธรรมดา ไม่ใช่รูปที่เปลือยท่อนบนเผยรูปร่างกับผิวขาวน่ามองของเพื่อนสนิทตัวเอง
"เออมึง คุณวิชัยบอกว่าจัดส่งโฟโต้บุ๊คหมดแล้วนะ ถ้าพวกเราสนใจเขาจะทำเล่มสองต่อ"
"กว่าได้เล่มหนึ่งถ่ายเล่นกันเกือบปีเลยนะ ถ้าจะทำเล่มสองคงอีกนานกว่ารูปจะเยอะพอให้ออกเล่มได้"
จากการถ่ายรูปเพื่อนตอนโป๊แบบเล่นๆ สะสมนานวันเข้า มีคนชื่นชมเยอะขึ้น คนสนใจอยากเก็บภาพเหล่านั้นไว้ก็เยอะตาม จนกระทั่งมีผู้ใหญ่ใจดีเข้ามายื่นข้อเสนอจะจัดทำโฟโต้บุ๊คซึ่งพวกเขาก็ตอบตกลงเมื่อเห็นว่าข้อเสนอน่าสนใจ และทุกอย่างก็ออกมาเรียบร้อยดี แถมได้เงินค่าขนมอีกหลายบาท
"ไม่มึง คุณวิชัยบอกว่าถ้าสนใจจะมีทีมงานให้ ถ่ายเป็นจริงจังเลย"
"แบบนั้นก็ไม่ได้ดิวะ"
"ว่าแล้วมึงต้องพูดแบบนี้"
"ถ้ามีคนเข้ามาต้องก็รู้หมดดิว่ากูเป็นใคร"
"ก็นะ" เอฟไหวไหล่ ทุกรูปที่เขาถ่ายนั้นไม่เห็นหน้าเพื่อนสนิทสักรูป เขาถ่ายให้เห็นแค่หุ่น รูปแรกที่ลงเพื่อแกล้งก็เห็นแค่ช่วงเอวเลยไม่ได้ทะเลาะกันจนบานปลาย คุยกันไปง้อกันมากลับกลายเป็นเรื่องสนุกกันเสียอย่างนั้น
"กูไม่เอานะถ้ามีทีมงาน"
"เพราะงี้ไงกูเลยปฏิเสธคุณวิชัยไปแล้ว"
"ถ้ามึงถ่ายคนเดียวอ่ะโอเค กูไม่อยากแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่น"
"เออ ก็นั่นแหละ คุณวิชัยเลยเสนอว่างั้นให้พวกเราเร่งงานหน่อย ถ่ายเก็บไว้เยอะๆ เขาอยากออกเล่มสองภายในปีนี้ถ้าเราโอเค แล้วก็อีกอย่าง..." เอฟเว้นจังหวะแล้วกดยิ้ม ทำเอาคนฟังชักเริ่มระแวง
"อะไรวะ ขอดีๆ"
"คุณวิชัยอยากได้ธีมคู่รัก เขาอยากได้นายแบบอีกคนมาถ่ายคู่กับมึง"
"ก็บ้าแล้ว"
"ว่าแล้วมึงต้องพูดแบบนี้" เอฟพูดประโยคนี้เป็นรอบที่สอง
"ถ่ายแค่กูคนเดียวก็พอ ถ้าเขาไม่โอเคก็ปฏิเสธไปเถอะ"
"กูปฏิเสธแล้ว แต่เขาบอกให้ลองคิดดู ให้หานายแบบเองก็ได้ เพราะมันจะเจาะตลาดได้ดีกว้างกว่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิง เขาว่ามางั้น มึงก็ลองเอาไปคิดดูแล้วกัน ถ้ามีใครที่มึงคิดว่าจะถ่ายคู่ด้วยได้กูว่ามันก็ดีนะ เงินมารออยู่ตรงหน้าแล้วนะมึง"
เพ้นท์ถอนหายใจเบาๆ พูดมาแบบนี้เพื่อนเขาเห็นด้วยกับคุณวิชัยไปเกินครึ่งแล้วแน่ๆ ความจริงเขาเองก็คิดว่าน่าสนใจ แต่เพราะบอกกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่มีทางให้คนอื่นรู้เรื่องงานนี้เด็ดขาด ต่อให้นายแบบอีกคนเป็นคนที่ไม่รู้จักก็ตาม อีกอย่างเขาจะถอดเสื้อถ่ายธีมคู่รักกับคนไม่รู้จักได้งั้นเหรอ บอกเลยว่ายาก เพราะงานนี้พวกเขาทำกันเล่นๆ ตั้งแต่ต้น เขาไม่ใช่มืออาชีพ และไม่คิดจะเป็นมืออาชีพในด้านนี้ด้วย
"มึง กูพอจะคิดออกแล้วว่านายแบบอีกคนเอาใครดี" จู่ๆ เอฟก็โพล่งขึ้นมา
"ใคร"
"เมทมึงไง"
"เลิกคิดไปได้เลย"
"ไม่ลองชวนดูก่อนวะ เผื่อมันเอาด้วย หุ่นไอ้ทัพแม่งโคตรดีอ่ะ"
"ถ้าเอาไอ้ทัพก็เอามึงดีกว่า แต่มึงไม่ควรอ้วนลงพุงแบบนี้เลย"
"ไอ้สัด ด่ากู แค่อ้วนลงพุงมันฟิตได้เว้ย แต่ถ้ากูไปเป็นนายแบบใครจะเป็นตากล้องให้มึง"
"เพราะงั้นถ่ายกูคนเดียวพอไง จบ"
"แล้วแต่มึงแล้วกัน" สุดท้ายเอฟก็ยอมแพ้เพราะขี้เกียจเถียง
พวกเขาเดินมาถึงหน้าปากซอยพอดี ที่เดินออกมาส่งเพราะเอฟตั้งใจจะออกมาหาอะไรกินอยู่แล้ว ส่วนหอเพ้นท์เดินไปอีกป้ายรถเมล์เดียวก็ถึง มันคงไม่เสียเวลามากถ้าเอฟจะชวนเพื่อนกินข้าวด้วยกันก่อนกลับ
"กูว่าจะกินตามสั่งร้านป้าเหลียง ไปกินด้วยกันมั้ย"
"ไม่อ่ะ กูต้องไปกินพร้อมไอ้ทัพ มันรออยู่ แต่เดี๋ยวไปซื้อที่ร้านป้าเหลียงกับมึงนั่นแหละ"
"เค" ว่าแล้วเอฟก็วาดแขนกอดคอเพื่อนให้เดินไปด้วยกัน ก่อนจะโดนเพ้นท์ผลักออกอย่างไม่ใยดี
เอฟหัวเราะครื้น ยังไม่ลดละความพยายามเข้าไปเกาะกะให้เพ้นท์ทำหน้าเหวี่ยงใส่ และยังย้ำอีกครั้งถึงเรื่องที่เพิ่งคุยกันไปเมื่อครู่นี้
"ยังไงมึงลองคิดดูอีกทีนะ ถ้าชวนไอ้ทัพได้จะดีมาก"
เพ้นท์เหล่ตามองโดยไม่ตอบ เพราะไม่ว่าเอฟจะบอกให้เขาคิดดูอีกกี่ครั้งคำตอบก็ยังเหมือนเดิม
อย่างรูมเมทเขาน่ะ ไม่มีทางเอามาร่วมงานด้วยเด็ดขาด
ทันทีที่เปิดประตูกลิ่นบุหรี่ก็ลอยมาเตะจมูกจนต้องยู่หน้าด้วยความไม่ชอบ เพ้นท์ขมวดคิ้วเดินเข้าไปในห้อง วางของกินทั้งหลายแหล่ที่ซื้อไว้บนชั้นวางข้างหน้าต่างก่อนบ่นคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงอย่างอดไม่ได้
"บอกแล้วไงอย่าสูบบุหรี่ในห้อง"
"กลิ่นมันยังอยู่อีกเหรอ"
"วันหลังไปสูบที่ระเบียง" คนขี้บ่นพูดโดยไม่หันกลับไปมอง ยังคงตั้งใจกับการเทกับข้าวใส่จานเพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องโดนอีกฝ่ายทำหน้ากวนประสาทใส่
"แค่นี้บ่น"
"ไม่อยากให้บ่นก็อย่าทำ"
"กูชอบตอนมึงบ่นนะ"
"แต่กูไม่ชอบ"
"แน่ใจ" เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหูจนเพ้นท์สะดุ้งหันทั้งตัวมาหาด้วยความตกใจ ทั้งที่รู้ว่าโดนแกล้งแต่ก็ยังตกหลุมพรางง่ายๆ ตลอด
เพ้นท์ถูกขังไว้ด้วยสองแขนที่ดูแข็งแรงกว่าเขาซึ่งเท้าอยู่กับชั้นวางของ เขาไม่คิดที่จะหนีหรือดิ้นรนเพราะทำไปก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งเล่นตามเกมไปอีกคนจะยิ่งได้ใจเสียเปล่าๆ
"มึงตกใจง่ายว่ะ"
"รู้ก็ยังจะแกล้ง"
"แต่โคตรไร้อารมณ์"
"งั้นมึงควรหยุดทำแบบนี้"
"ไม่หยุด" ไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เพ้นท์จ้องตากลับโดยไม่หลบหน้าทั้งที่ใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาพยายามข่มใจไว้ พยายามทำตัวให้ไร้ความรู้สึกที่สุด แม้รู้ว่าอีกคนกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ก็ตาม
"ทัพ"
"ครับ"
อีกเสี้ยวของระยะห่างริมฝีปากของเขาทั้งสองจะสัมผัสกัน เพ้นท์หยุดการกระทำบ้าๆ ของรูมเมทตัวเองไว้โดยการเรียกชื่อก่อนผลักอกเบาๆ ทัพก็ยอมถอยออกเพื่อนเว้นระยะห่าง แต่ยังไม่ยอมปล่อยให้คนที่ขังอยู่เป็นอิสระง่ายๆ
"จะแดกมั้ยข้าว"
"แดก แต่อยากแดกมึงก่อน"
"กวนตีน ไปห่างๆ เลยไป" คำไล่ง่ายๆ กับสีหน้าและน้ำเสียงไร้อารมณ์มักใช้ได้ผลเสมอ ทัพยอมคลายกรงขังออก แต่ไม่วายทำให้เพ้นท์รู้สึกหงุดหงิดใจทุกที เมื่อปลายจมูกโฉบเข้ามาสัมผัสแก้มเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
"โทษฐานที่บ่นกู"
"มึงนี่นะ" อยากจะด่ามากกว่านี้แต่นึกคำไม่ทัน
ทัพยิ้มกว้างก่อนเดินอารมณ์ดีกลับไปนั่งบนเตียง ปล่อยให้คนโดนขโมยหอมแก้มหงุดหงิดกับตัวเองคนเดียว จะมีสักครั้งไหมที่เพ้นท์จะปกป้องตัวเองทัน
คำตอบคือ ไม่มีสักครั้งเลย
เอฟส่งรูปที่ถ่ายเมื่อสองวันก่อนมาให้หลังจากแต่งภาพเสร็จเรียบร้อย โชคดีที่ตอนนี้เพ้นท์อยู่ห้องคนเดียวเพราะทัพยังไม่กลับเลยมีเวลาได้นั่งเลือกรูปแบบสบายๆ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะรูมเมทจอมกวนประสาทจะมาเห็น
ภาพเซ็ตนี้พวกเขาถ่ายในคอนเซ็ปต์ตื่นนอน แต่เหมือนจะออกแนวอยากนอนไม่นอนได้มากกว่า มีเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงในแบบบ๊อกเซอร์บรีฟเป็นเครื่องแต่งกาย ถ่ายไปถ่ายมาจนสุดท้ายเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว และกลายเป็นรูปสุดยั่วสวาทเซ็ตนี้
ความจริงแล้วเพ้นท์ไม่ค่อยชอบดูงานตัวเองนัก ดูไปก็ร้องถามในใจไปว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใครถึงได้กล้าแก้ผ้าถ่ายรูปแบบนี้ เคยถึงขั้นเสนอให้เอฟเลือกรูปเองโดยไม่ต้องส่งมาให้ดูแต่โดนคัดค้าน เขาเลยต้องมานั่งหน้าร้อนวูบวาบอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก เปิดรูปตัวเองดูทีละรูปและช่วยกันเลือกว่าจะลงรูปไหนให้ผู้ติดตามหลักแสนดูดี
เพ้นท์นั่งเท้าคางเลื่อนดูไปทีละภาพช้าๆ ดูแรกๆ ก็อาจจะเขิน แต่พอดูไปเรื่อยๆ ริมฝีปากกลับแต้มรอยยิ้มมีความสุข เขารู้แล้วว่าทำไมคนถึงชอบดูรูปพวกนี้ คำตอบคือเพราะมันสวย สวยมากๆ อย่างกับภาพวาด คนอะไรขาวก็ขาว หุ่นก็ดี น่าดึงดูดไปอีกแบบแม้ไม่มีกล้ามเนื้อเท่ๆ ผิวดูนุ่มนิ่มน่าฟัด แม้ไม่อยากจะชมก็ต้องชม หรือบางทีที่เขาเขินอาจจะเป็นเพราะความดูดีของคนในรูปก็เป็นได้
FFFFF : เลือกได้ยัง
ไลน์จากเอฟเด้งขึ้นมาหลังจากส่งรูปมาให้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แล้วรูปเกือบร้อยต้องเลือกให้เหลือแค่ไม่กี่รูป ไม่รู้จะรีบเร่งกันไปไหน
Paint : กูยังดูไม่ครบเลย
FFFFF : ช้าว่ะ
Paint : สัด รูปเกือบร้อย ถ้ารอไม่ได้มึงก็เลือกเองไป
FFFFF : แค่นี้ด่า กูนึกว่าไอ้ทัพอยู่มึงกลัวเลยไม่ได้เปิดดู
Paint : มันออกไปข้างนอก
FFFFF : เออดิ ถ้าเลือกเสร็จคืนนี้เดี๋ยวกูโพสต์เลย
Paint : เค
เอฟไม่ได้ทักมากวนต่อเพราะรู้ว่าเพ้นท์ใช้เวลาเลือกรูปค่อนข้างนาน อย่างต่ำก็หนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
การเลือกรูปของเพ้นท์คือดูรอบแรกแล้วเลือกรูปที่ถูกใจแวบแรกเอาไว้ จากนั้นค่อยมาคัดรอบสองอีกทีแล้วส่งให้เอฟเป็นคนตัดสินใจว่าจะเอารูปไหนลง ส่วนรูปที่เหลือก็เก็บเอาไว้สำหรับอนาคตเผื่อได้ทำหนังสือรวมภาพ หากำไรคืนเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งคงมีเล่มสองแน่ๆ เพราะยอดขายเล่มแรกถือว่าดีในระดับหนึ่ง
หลังจากใช้เวลาอยู่นานเพ้นท์ก็ได้รูปที่ถูกใจส่งกลับไปให้เอฟ เป็นอันเสร็จภารกิจของวันนี้โดยไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย และต้องขอบคุณรูมเมทจอมกวนประสาทที่วันนี้กลับดึกเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางเลือกรูปเสร็จภายในคืนนี้แน่นอน
การสังสรรค์คืออีกหนึ่งกิจวัตรของทัพที่ภายในหนึ่งสัปดาห์ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งวันที่ได้ออกเที่ยว คำว่าเที่ยวในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเข้าผับ เสพอบายมุข แล้วหิ้วใครสักคนกลับไปนอนด้วย ทัพกับกลุ่มเพื่อนเพียงแค่ไปที่ร้านโปรด นั่งฟังเพลง กินเหล้า ดูบอล เสพบรรยากาศสบายๆ หนักหน่อยก็แค่เมาหัวทิ่มกลับหอไม่ไหวเท่านั้นเอง
"มึงดู ไอทีมันถ่ายรูปส่งให้แฟนอีกละ" จิว เพื่อนผู้ที่หน้าตาออกไปทางญี่ปุ่นทั้งที่ไม่มีเชื้อชาติอื่นปะปนในสายเลือด สะกิดให้ทัพดูเพื่อนผู้รักเดียวใจเดียวที่กำลังถ่ายรูปตัวเองส่งไปให้แฟนดู
"ก็ปกติของมันมั้ยวะ"
"กูหมั่นไส้"
"ก็รีบๆ หาเมีย"
"หาง่ายเหมือนขยะที่คนทิ้งตามข้างทางก็ดีดิ"
"สัด เปรียบเทียบซะ ถ้ามึงจะหาคงไม่ยากหรอกมั้ง" ทัพว่า เพื่อนเขาคนนี้หน้าตาใช่ว่าจะแย่ ฐานะก็ดี นิสัยก็พอไหว ติดตรงที่ว่ามันปากเสียและขี้เบื่อไปหน่อย วันนี้บอกอยากมีแฟน เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็บอกว่าไม่อยากมี
"นินทาอะไรกู" คนที่เพิ่งส่งรูปเซลฟี่ให้แฟนเสร็จถามสวนขึ้นมากลางวง จิวที่ออกตัวว่าอิจฉาจึงเป็นฝ่ายตอบกลับไป
"นินทาคนหวานแหววกับแฟน"
"อิจฉาก็บอก"
"เออ อิจฉา แต่ให้มีแฟนแบบมึงกูก็ไม่เอาอ่ะ"
"ไอ้จิว พูดให้มันดีๆ นะมึง" ไอทีถือว่าด่าเขาด่าได้ แต่อย่าลามไปด่าแฟน ใครพูดจาไม่มีเหตุผลใส่ที่รักเขาพร้อมที่จะมีเรื่องด้วยเสมอ โดยเฉพาะไอ้เพื่อนปากเสีย
"ก็แฟนมึงโคตรเก็บตัว ไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบพบผู้คน ไม่ชอบถ่ายรูป กูว่า..."
"จิว มึงพอ หยุดพูดก่อนจะโดนเตะปาก" ฟังแต่ละอย่างที่เพื่อนพูดแล้วทัพต้องรีบห้าม ก่อนไอทีจะมีน้ำโหแล้วนึกอยากหยิบขวดเบียร์ฟาดหัวเพื่อนให้หายปากเสีย
"ก็แซวเล่นๆ มั้ย"
"ถามไอทีด้วยว่ามันเล่นกับมึงมั้ย"
"กูไม่เล่น" ไอทีช่วยตอบให้โดยที่จิวไม่ต้องถาม
"จ้าๆ ไม่เล่นก็ไม่เล่น ว่าแต่มึงไอ้ทัพ กูเห็นมึงถือหนังสือสีดำๆ ว่าจะถามก็ลืมตลอด หนังสืออะไรวะ"
"เสือกตลอด" ทัพว่าสวนกลับไป แล้วก็นึกถึงหนังสือที่จิวมันถามที่ยังอยู่ในกระเป๋า อุตส่าห์แอบแล้วแท้ๆ ยังมีคนตาดีเห็นเข้าอีก
"เขาเรียกใส่ใจเพื่อนฝูง แล้วสรุปมันหนังสืออะไรวะ กูต้องไปซื้อมั้ย เผื่ออาจารย์สั่งให้ซื้อแล้วกูไม่รู้"
"ไม่ต้องซื้อแล้วก็ไม่ต้องเสือกอีกครับเพื่อน หนังสือกูอยากซื้อมาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับการเรียนการสอนทั้งสิ้น"
"น่าสงสัย มึงว่ามั้ยที" จิวพยายามหาพวก แต่พอหันไปมองไอที เพื่อนคนนี้กลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลยสักนิด ก้มหน้าดูมือถือที่หลักๆ เห็นมีอยู่สองแอพฯ ที่ชอบใช้
"ไม่ไลน์ก็ไอจี" ทัพว่า
"รักเมียหลงเมียจริงๆ"
"มึงไม่มีก็อย่าไปแซะมัน"
"แต่เมียแม่งน่าหลงจริง"
"อันนี้ไม่เถียง"
"กูได้ยินนะ" ไอทีเงยหน้าขึ้นมา รีบกดล็อกหน้าจอแล้ววางคว่ำลง
"ทำเป็นซ่อน กูติดตามอยู่ เห็นหมดนั่นแหละ"
คนมีแฟนไม่เถียงอะไรต่อ หยิบแก้วของตัวเองขึ้นดื่มแล้วหันไปสบตากับทัพที่ยิ้มให้พอดี
ไอทีเป็นอีกคนที่ชอบถ่ายรูป ถ้าไม่ถ่ายตัวเองก็ถ่ายแฟน แถมยังมีอินสตาแกรมเอาไว้ลงรูปแฟนตัวเอง รวมภาพถ่ายโทนสว่างรับพระอาทิตย์ยามเช้าช่วงเวลาตื่นนอน เป็นภาพถ่ายที่ชวนให้คิดลึกว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นบนเตียงสีขาวที่ดูสะอาดสะอ้าน กับภาพซูมส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะที่เปลือยเปล่าหรือไม่ก็ปิดนิดปิดหน่อยให้พอตื่นเต้น คนทั่วไปอาจจะคิดว่าเป็นการเซ็ตฉาก แต่สำหรับเพื่อนสนิทอย่างทัพกับจิวนั้นรู้ดีว่าเรื่องราวที่สื่อออกมาจากภาพถ่ายนั้นเกิดขึ้นจริง
TBC
เรื่องใหม่มาแล้ววววว เป็นพล็อตที่อยู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในหัวแล้วก็อยากเขียนมากๆ
ตอนแรกตั้งใจให้เป็นเรื่องสั่นค่ะ แต่เขียนไปเขียนมามันดันไม่สั้น เลยทำให้มันเป็นเรื่องยาวไปซะเลย
เรื่องนี้จะเรทที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลยค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เจอกันตอนหน้าค่า