แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]  (อ่าน 369865 ครั้ง)

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
 ดีเเล้วภัทรที่เลิกกับธรไม่งั้นไม่เจอคุณเชษฐ์หรอกเนอะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คุณรินจะบอกว่าตอนนี้ "...เป็นตอนที่เหมือนจะไม่มีอะไร ค่อนข้างเรียบๆ เรื่อยๆ..."
ไม่ใช่นะคะ คุณเชษฐ์กับภัทรน่ะ ออกจะหวานและอบอุ่นนะคะ
ส่วนนายธรน่ะ ไม่อยากพูดถึงให้เสียอารมณ์

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ตามอ่านมาค่ะราวสามตอนเอ้ะหรือสี่ 55555
สงสารภัทรโดนทำร้ายจิตใจจากคนรักเก่าแล้วยังต้องมาเห็นคนที่รักโดนทำร้ายอีก
กว่าจะรุ้สึกตัวตามลุ้นแทบแย่
ภัทรไม่ปากแข็งละเนอะ คุณเชษฐ์ได้ที่ก็กรุ้มกริ่มใหญ่เลย

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ขอบคุณนะคุณริน ที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นอีกนิด
+1

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เรื่องก้ค่อยๆเปืดเผยออกมา ภัทรโชคดีมากที่หลุกจากแฟนเก่าโรคจิตมาได้ เหอะๆ

ELMI ELMA

  • บุคคลทั่วไป
ชอบคุณเชษฐ์มากเลยอดทนสุดๆ อดทนรอฟังคำว่ารักจากภัทรที่ออกมาจากความรู้สึกของภัทรจริงๆ ถึงภัทรจะปากหนัก คิดเล็กคิดน้อย แต่ยังไงกลับสิ่งที่คุณเชษฐ์ทำ  เขาก็ทำเพื่อที่จะให้ภัทรรักเขา แล้วก็รักได้จริงๆ :กอด1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ josephine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เฮ้อ ตามอ่านรวดเดียวจนจบ  รักคนแต่งเพราะ
แต่งละประโยค มันช่างมีความหมาย สื่อให้เข้าใจ
พัฒนาการทางการคิดของคุณเชษฐ์และภัทร  เป็นนักเขียน
เขียนนิยายช่างยากยิ่งจริง จริ้ง   ไม่ส่งสัยเลยว่าทำไมแต่ละ
ตอนถึงต้องรอเป็นเดือน ๆ  (เอะ งง)  ขอบคุณค่ะ คุณ​ BB

ออฟไลน์ akichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เพิ่งได้อ่าน สนุกจังคะ ^ ^
แต่บางทีอดหงุดหงิดกับนิสัยภัทรที่อ่อนไหวไปหน่อย
แล้วพอยิ่งได้อ่านตอนล่าสุด
เจอคนแบบ "คุณเขม" ผู้หญิงที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
เราก็อดที่ถูกใจผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้เลยคะ

ออฟไลน์ j_world

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-4
ชอบอ้ะ ตัวละครมีมิติมาก ถ้าเราเป็น เขม และภัทร..เราจะตัดสินใจยังไง
เขม เป็นผู้หญิงที่ตัดสินใจเด็ดขาดมาก..ไม่น่าได้ไอ่ธรเป็นแฟนเลย
ชอบค่ะ  ที่ภัทรบอกรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขม ที่แย่งธรไป  ไม่งั้นภัทรก็คงไม่ได้เจอคุณเชษฐ์

ยกนิ้วให้คนเขียน.ยอดเยี่ยมค่ะ o13

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
เพิ่งได้มาอ่านค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกกกกก

หลงรักภัทร คุณเชษฏ์ >__<

น่ารักในแบบผู้ใหญ่มากๆค่ะ

หลงรักเรื่องนี้เลย :L1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เฮ้ เฮ้ เฮ้  มานั่งรอ นอนรอ เรื่องนี้อะ  :z13:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก ตอนที่ 22

อาการของเชษฐ์ดีขึ้นเป็นลำดับหลังได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งจากแพทย์และคนใกล้ตัว ในเวลาหนึ่งสัปดาห์ แพทย์เจ้าของไข้ก็อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ แต่ยังกำชับห้ามไม่ให้ทำงานหนักและยังต้องมาโรงพยาบาลตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจเช็คอาการ

คนที่ดีใจที่สุดที่คนเจ็บได้ออกจากโรงพยาบาล นอกจากภัทรแล้วก็ไม่พ้นคุณชาญกับคุณเพียงมาศ รวมทั้งคนอื่นๆ ที่รับรู้เหตุการณ์และต่างหมุนเวียนกันมาเยี่ยม แต่เพราะคุณปรีชาแนะนำให้ปิดเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้เพื่อชื่อเสียงของทุกฝ่าย ทำให้คนที่รู้สาเหตุที่แท้จริงที่คุณผู้จัดการโปรเจ็กต์ต้องนอนโรงพยาบาลมีเพียงหยิบมือเท่านั้น

ในช่วงบ่ายของวันสุดท้ายที่อยู่โรงพยาบาล หลังจากทานมื้อเที่ยงแล้วเชษฐ์ก็ไปเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเจ้าตัวเดินกลับออกมาอีกครั้งในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์ ภัทรที่กำลังเก็บข้าวของลงกระเป๋าก็ยิ้มพร้อมกับความรู้สึกเบาโล่งในใจ

ในที่สุดก็ไม่ต้องเห็นคุณเชษฐ์ในชุดคนป่วยเสียที...

ร่างสูงใหญ่ม้วนแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้นถึงข้อศอกโดยปล่อยชายเสื้อไว้นอกกางเกง บนสันกรามและปลายคางมีแถบไรเคราเป็นปื้นสีเขียวจาง ส่วนแว่นก็ได้ให้คนขับรถที่บริษัทเอาแว่นสำรองที่เจ้าตัวเก็บไว้ที่ห้องประจำตำแหน่งมาส่งให้ตั้งแต่วันก่อน ดังนั้นหากไม่นับเรื่องผมที่ถูกโกนออกไปจนหมดตอนผ่าตัด โดยรวมแล้วเชษฐ์ก็ดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลมาเป็นสัปดาห์สักนิด

"ได้กลับบ้านสักทีนะครับคุณเชษฐ์"

ภัทรเอ่ยขณะหยิบข้าวของใส่กระเป๋า เชษฐ์จึงยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คนที่กำลังยืนเก็บของอยู่ที่มุมห้อง จากนั้นก็ยกปลายนิ้วขึ้นเกลี่ยผมสีดำสนิทที่เริ่มยาวลงมาระต้นคอด้านหลังให้

"ขอโทษนะ เลยทำให้เธอต้องลำบากมาคอยเฝ้า"

"ไม่หรอกครับ ถ้าผมไม่ได้มาเฝ้าเองสิ จะไม่สบายใจมากกว่านี้"

ภัทรเอ่ยก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองแผลบนศีรษะของเชษฐ์ ผมที่ถูกโกนออกไปตั้งแต่ตอนผ่าตัดเอาเลือดคั่งออกทำให้เห็นรอยแผลที่ด้านหลังหูค่อนข้างชัดเจน ถึงแม้หมอจะเคยบอกไว้ว่าเมื่อผมยาวขึ้นเมื่อไหร่ก็จะปิดรอยแผลเป็นได้หมดก็ตาม แต่เขาก็คงไม่มีวันลืมได้แน่ว่าที่อีกฝ่ายได้แผลนี้มาก็เพราะช่วยปกป้องเขา

"ดูแล้วแปลกๆ สินะ เขินหรือเปล่าที่มีแฟนหัวโล้น?"

เชษฐ์สังเกตเห็นแววตาของภัทร จึงช้อนมือข้างหนึ่งมากุมแล้วแกล้งถามเพื่อดูปฏิกิริยา และก็ได้ผลเมื่อคนถูกถามทำตาโต

"คุณเชษฐ์! ผมไม่ได้ชอบคุณเชษฐ์ที่หน้าตานะครับ!”

หน้าตาเหลอหลาของคนพูดทำให้ร่างสูงใหญ่หัวเราะออกมาได้ อ้อมแขนแกร่งรั้งร่างที่ผอมเพราะนอนและพักผ่อนน้อยตั้งแต่เขาเข้าโรงพยาบาลเข้ามาในอ้อมอก กลิ่นกายอ่อนๆ ที่รวยรินเข้าจมูกจุดรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนจะก้มลงสูดกลิ่นนั้นให้เต็มรัก

ใช่ว่ามีแต่คนเจ็บที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเสียเมื่อไหร่ ในเมื่อคนที่คอยเฝ้าคนเจ็บเองก็สมควรได้รับการเอาใจใส่ไม่น้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ค่อยชอบเรียกร้องความสนใจให้ตัวเองคนนี้

"ฉันรู้ ฉันแค่แหย่เธอเล่นเท่านั้นแหละ"

ริมฝีปากของคนพูดขยับไปมาอยู่แถวต้นคอด้านข้าง ลมหายใจอุ่นที่กระทบผิวทำให้ภัทรขนลุก แต่ความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นจากสัมผัสนั้นหาใช่ความรังเกียจ ตรงกันข้าม...มันทำให้จั๊กจี้ในแบบที่...ปลุกเร้าความวาบหวิวเสียมากกว่า

ภัทรรู้สึกถึงไอร้อนที่วูบวาบขึ้นบนผิวหน้า แต่ก็ทำได้เพียงบังคับร่างกายให้อยู่นิ่งในอ้อมแขนที่โอบรัด เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่านับตั้งแต่เชษฐ์กลับมาและตนได้คอยดูแลอยู่เคียงข้างทุกวัน ไออุ่นและสัมผัสอันอ่อนโยนก็ทำให้เขาเสพติดสิ่งเหล่านี้จากอีกฝ่ายมากขึ้นทุกที

ถ้าหากอาการดีขึ้นแล้วแบบนี้...คุณเชษฐ์จะยังต้องไปประจำที่เวียดนามอยู่หรือเปล่านะ...

จู่ๆ หัวใจของภัทรก็ถูกความกังวลอันไร้รูปร่างแผ่เข้ากดทับ ยิ่งตอนนี้ได้ประจักษ์แล้วว่าครอบครัวของคุณเชษฐ์กับคุณปรีชาสนิทสนมกันมากเพียงใด เขาก็ยิ่งตระหนักว่าโอกาสที่คุณเชษฐ์จะได้รับการสนับสนุนให้ไปดูแลสำนักงานใหม่ก็คงมีแนวโน้มสูงตามไปด้วยอย่างไร้ข้อกังขา

ถึงแม้ระยะห่างระหว่างสองประเทศจะไม่ได้ใช้เวลาเดินทางมาก แต่เมื่อคิดไปว่าทั้งสองจะได้พบกันเพียงนานๆ ทีเหมือนตอนนี้และเพียงครั้งละไม่กี่วัน เขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจหดเล็กราวได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่พอเสียแล้ว

นี่เขากลายเป็นคนอ่อนแอและโหยหาความอบอุ่นมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...

“ภัทร มีอะไรหรือเปล่า?”

ความเงียบของคนในอ้อมแขนดูจะส่งสัญญาณถึงร่างสูงที่กำลังแนบชิด ความห่วงใยที่ถ่ายทอดออกมาช่วยบรรเทาความหนาวเหน็บในใจของภัทรขณะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนถามได้บ้าง

ถ้าหากอยากรู้คำตอบของเรื่องนี้...เขามีสิทธิ์ที่จะถามใช่ไหมนะ...

“คุณเชษฐ์ครับ....”

"เก็บข้าวเก็บของกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? บวรณ์มารอรับอยู่ข้างล่างแน่ะ"

ภัทรถูกขัดจังหวะเมื่อคุณชาญผลักประตูเข้ามาในห้อง ผู้สูงวัยชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นลูกชายยืนกอดกับ ‘คนรัก’ อยู่ ฝ่ายเชษฐ์ไม่ได้แสดงอาการตกใจหรือมีท่าทีจะปล่อยมือแม้ว่าจะเห็นสีหน้าของบิดาอย่างชัดเจน กลับเป็นภัทรเสียอีกที่กระดากจนต้องถอยออกจากอ้อมแขนอุ่นแล้วไปยืนจัดกระเป๋าต่อ

“พร้อมแล้วครับ แล้วคุณปรีชาไม่ได้มาด้วยเหรอครับ?” เชษฐ์ถามพลางหยิบหมวกปีกแคบทรงไอวี่มาสวมเพื่อบังรอยแผล บิดาจึงส่ายหน้า

“เปล่า เห็นว่างานยุ่งเลยให้ยืมคนขับรถส่วนตัวมาเฉยๆ มีของอะไรจะให้พ่อช่วยถือมั้ย?”

ในเมื่อลูกชายไม่แสดงท่าทีเก้อเขิน คนเป็นพ่อก็ได้แต่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับภาพเมื่อครู่ เชษฐ์เหลือบไปเห็นภัทรซึ่งจัดของเสร็จแล้วและกำลังถือทั้งกระเป๋าของเขาและของตัวเองไว้เต็มสองมือ จึงหยิบกระเป๋าของตนซึ่งใบเล็กกว่าส่งให้ผู้เป็นพ่อ และรับกระเป๋าของภัทรมาถือให้

“รบกวนด้วยนะครับพ่อ”

แววตาอ่อนโยนที่เชษฐ์ส่งให้คนข้างกายซึ่งบ่งบอกถึงความรู้สึกที่มีให้ ทำให้ผู้สูงวัยได้แต่ถอนหายใจ และนึกไปถึงวันแรกที่เดินทางไกลมาจากต่างประเทศกับภรรยาเพื่อเยี่ยมลูกชายคนเล็ก ภาพที่ผู้สูงวัยทั้งสองได้เห็นหลังเปิดประตูห้องเข้ามาวันนั้นก็คือคนเจ็บซึ่งกำลังนอนกอดชายหนุ่มแปลกหน้าอยู่บนเตียง เมื่อลูกชายรู้สึกตัวตื่นมาเห็นพวกเขา  ก็ไม่ได้แสดงท่าทีลนลานหรือตกอกตกใจ เพียงแต่ส่งสัญญาณว่าให้คุยกันเบาๆ เพื่อไม่ให้รบกวนคนหลับ และเมื่อถูกมองด้วยแววตาสอบถามว่าคนข้างกายเป็นใคร ก็ได้คำตอบมาอย่างไม่ลังเลว่าเป็น ‘คนรักของผม’

ตอนนั้นเขากับภรรยาได้แต่สบตากัน ครั้นจะละลาบละล้วงต่อก็เกรงใจพี่สาวกับหลานสาวของภัทรซึ่งมาถึงก่อนและนั่งอยู่ในห้องด้วย โชคดีที่แพนอ่านสถานการณ์ออก จึงได้จูงมายูมิออกไปนอกห้องเพื่อให้พ่อแม่ลูกได้คุยกันตามลำพังอย่างที่ต้องการ

“ที่บอกพ่อกับแม่เมื่อกี้ แน่ใจแล้วเหรอเชษฐ์ว่าจริงจังกับเด็กคนนี้?”

ตอนนั้นภรรยาของเขาเป็นคนถาม แม้จะด้วยท่าทางที่ปลงและยอมรับไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะรู้ดีว่าลูกชายไม่ใช่คนโลเลหรือชอบล้อเล่นในเรื่องสำคัญ

คนเจ็บไม่ได้ตอบรับในทันที เพียงแต่ปรายตาลงมองคนที่นอนตะแคงหลับสนิทอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันกลับมาสบตาพวกเขาอย่างแน่วแน่

“ผมไม่เคยบอกอะไรพ่อกับแม่ถ้าหากไม่มั่นใจหรอกครับ”

เมื่อได้คำตอบเด็ดเดี่ยวเช่นนั้น คุณชาญกับคุณเพียงมาศก็ได้แต่ต้องยอมรับการตัดสินใจของลูกชาย เพราะรู้ดีว่าหากเจ้าตัวออกปากมาแล้ว ใครก็เปลี่ยนความคิดไม่ได้ และก็เพราะรู้จักนิสัยลูกชายดีอีกนั่นแหละ คุณชาญจึงมั่นใจว่าเชษฐ์คงไม่ได้เล่าบทสนทนาของพวกเขาในบ่ายวันนั้นให้ภัทรฟังแน่

“ไม่เป็นไร ข้าวของส่วนใหญ่ของแกส่งกลับบ้านไปแล้วนี่นา”  

คุณชาญเอ่ยพลางเปิดประตูห้องผู้ป่วยออกกว้าง คุณเพียงมาศที่ยืนรออยู่ยิ้มให้ทั้งสามก่อนจะเข้ามาคล้องแขนลูกชายขณะเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกันโดยมีภัทรรั้งท้าย

“ไม่เจ็บตรงไหนแล้วใช่ไหมเชษฐ์?”

“ไม่มีแล้วครับแม่ สบายดีทุกอย่าง”

นอกจากแผลบนศีรษะแล้ว ร่างกายส่วนอื่นของคนพูดไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แม้แต่นิดเดียว คุณเพียงมาศกวาดสายตาขึ้นลงแล้วก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “งั้นก็ดีแล้วจ้ะ พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะได้บินกลับได้แบบหมดห่วง หลังจากนั้นก็คงต้องฝากภัทรดูแลตาเชษฐ์ต่อให้ด้วยนะลูก”

ท้ายประโยคผู้สูงวัยหันมาเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน ภัทรจึงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

"เอ๋? พรุ่งนี้จะบินกลับแล้วเหรอครับ?"

"นั่นสิ พ่อไม่เห็นบอกผมเลยว่าพรุ่งนี้จะกลับกันแล้ว"

เชษฐ์เองก็แปลกใจไม่แพ้กัน คุณชาญที่เดินนำอยู่จึงหันมาอธิบาย

"พอดีตาชินโทรมาบอกว่าร้านที่จะเปิดสาขาเพิ่มมีปัญหานิดหน่อยอยากให้ไปช่วยกันดู แต่ก็ฝากบอกมานะว่าเสียดายที่ปลีกตัวมาเยี่ยมน้องชายไม่ได้เหมือนกัน"

"ไว้วันหลังผมจะพาภัทรไปเยี่ยมที่โน่นก็แล้วกันครับ"

เชษฐ์เอ่ยพลางเหลียวกลับมายิ้มให้ภัทร ภัทรจึงยิ้มอ่อนๆ ตอบ

ทั้งสี่เดินไปถึงรถมินิแวนที่จอดรออยู่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล บวรณ์ซึ่งเป็นคนขับรถประจำตัวของคุณปรีชาและถูกส่งตัวมาช่วยดูแลความสะดวกในวันนี้คุ้นหน้าเชษฐ์และภัทรดีเพราะต้องขับรถไปรับส่งเจ้านายที่บริษัทบ่อยๆ หลังจากเก็บกระเป๋าไว้ท้ายรถแล้วชายวัยกลางคนก็ขับรถพาทุกคนไปยังบ้านของเชษฐ์อย่างคล่องแคล่ว

การจราจรที่ค่อนข้างโล่งในยามบ่ายทำให้ถึงที่หมายในเวลาไม่นาน เมื่อได้ยินเสียงแตรรถที่หน้ารั้ว ป้าแย้มซึ่งรอในบ้านอยู่แล้วก็กระวีกระวาดมาเลื่อนเปิดประตูให้ พอเห็นเชษฐ์ลงจากรถก็รีบโผเข้าไปหาทันที

"โถพ่อคุณ เป็นอะไรมากไหมคะ ป้าตกใจหมดเลยวันที่คุณภัทรโทรมาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น"

เชษฐ์ยิ้มให้ผู้สูงวัยที่ช่วยดูแลงานในบ้านมาหลายปีก่อนจะบีบมือแรงๆ เพื่อให้รู้ว่าตนสบายดี "ไม่เป็นอะไรแล้วครับป้าแย้ม ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง เลยต้องให้ช่วยมาเฝ้าบ้านเสียหลายวันเลย"

“อู้ย แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เห็นคุณเชษฐ์กลับมาได้ก็ดีใจแล้ว นี่ดีนะว่าคุณภัทรคอยโทรมาบอกป้าว่าคุณเชษฐ์เป็นยังไงบ้าง ไม่งั้นถ้าป้าไปเยี่ยมเองตั้งแต่แรกคงได้เป็นลมเป็นแล้งไปแน่ๆ”

ป้าแย้มเอ่ยอย่างดีใจขณะเดินนำกลับเข้าไปในบ้าน ฝ่ายเชษฐ์เพียงแต่ยิ้มขณะปรายตามองคนที่ถูกเอ่ยถึง

ภัทรคงจะทำไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทีละเล็กละน้อย เจ้าตัวเริ่มกล้าจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขามากขึ้น ซึ่งเชษฐ์มั่นใจว่าคุณชาญและคุณเพียงมาศก็คงรับรู้ได้เช่นกัน แม้ว่าจะเพิ่งได้ทำความคุ้นเคยกับภัทรเพียงไม่กี่วันก็ตาม

“ป้าจัดห้องคุณเชษฐ์ไว้ให้พร้อมแล้วล่ะค่ะ คุณภัทรก็จะค้างที่นี่ด้วยใช่ไหมคะ?”

ป้าแย้มหันมาถามหลังจากทุกคนเข้ามานั่งพักผ่อนในบ้านแล้ว ภัทรจึงนึกขึ้นได้ว่าตนไม่ได้กลับไปที่คอนโดเลยตั้งแต่ก่อนวันที่เชษฐ์จะบินกลับมาจากเวียดนามเสียอีกเพราะแพนไม่ยอมให้อยู่คนเดียว ทำให้เริ่มกังวลและคิดว่าควรต้องกลับไปดูห้องสักครั้ง

“เอ่อ...ผมคงไม่...”

“ค้างครับป้าแย้ม นอนห้องผมเหมือนทุกทีนั่นแหละ ไม่ต้องลำบากจัดห้องเพิ่มนะครับ”

เจ้าของบ้านชิงเอ่ยตัดหน้าก่อนที่ภัทรจะพูดจบ ภัทรจึงรู้สึกว่าหน้าเห่อร้อนขึ้นเมื่อเห็นคุณชาญกับคุณเพียงมาศลอบแลกเปลี่ยนสายตากัน เพราะคำพูดของลูกชายของพวกท่านมันช่างชี้นำให้สรุปว่าเขามาค้างที่นี่เป็นประจำก็ไม่ปาน

คุณเชษฐ์นี่จริงๆ เลย พูดแบบนี้ออกมาไม่กลัวจะทำให้เขาโดนหมั่นไส้บ้างหรือยังไง

ดูเหมือนผู้สูงวัยที่สุดจะสังเกตเห็นอาการกระอักกระอ่วนของภัทรได้ ยิ่งเหลือบไปเห็นประกายเจ้าเล่ห์ในแววตาของลูกชายที่กำลังยิ้มชอบใจก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นแผนมัดมือชกของเจ้าตัว จึงได้แต่กระแอมแล้วหันไปหาภรรยาเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย

“ไหนๆ บ่ายนี้ก็ว่าง คุณอยากออกไปซื้อของอะไรหรือเปล่า? วันนี้คุณปรีชาให้ยืมตัวบวรณ์ทั้งวันอยู่แล้ว จะได้ออกไปกันเลย”

คุณเพียงมาศทำท่านึก “ก็ดีเหมือนกันค่ะ มาศอยากซื้อของไปฝากตาชินสักหน่อย แกอุตส่าห์ยอมอยู่คุมร้านคนเดียวให้ทั้งที”

“ถ้างั้นผมไปด้วย” เชษฐ์เอ่ยพลางลุกขึ้นและหยิบหมวกที่ถอดวางไว้ขึ้นสวมอีกครั้ง คุณเพียงมาศจึงแย้งด้วยความเป็นห่วง

“ออกไปเดินท่อมๆ ตอนนี้จะดีเหรอลูก เชษฐ์เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาใหม่ๆ เองนะ?”

ร่างสูงใหญ่ส่ายหน้า “ผมนั่งๆ นอนๆ ในโรงพยาบาลมาพอแล้วครับ อีกอย่างปีนึงพ่อกับแม่จะมาเยี่ยมสักที ผมไปเดินเป็นเพื่อนซื้อของด้วยดีกว่า ภัทรจะไปด้วยกันใช่มั้ย?”

ท้ายประโยคเชษฐ์หันไปถามคนที่นั่งข้างตัว ซึ่งแน่นอนว่าภัทรไม่มีโอกาสปฏิเสธ หลังจากฝากป้าแย้มช่วยเก็บกระเป๋าแล้วทั้งสึ่จึงออกจากบ้านเข้าไปในเมืองอีกครั้ง โดยมีคนขับรถส่วนตัวของคุณปรีชาเป็นโชเฟอร์ให้เช่นเดิม

ตลอดเวลายามบ่ายที่ได้เดินเลือกซื้อของด้วยกัน  ภัทรไม่แน่ใจว่านี่เป็นความตั้งใจขอคุณผู้จัดการหรือไม่ที่ไม่ยอมให้เขากลับบ้านและบังคับกลายๆ ให้ต้องตามติดออกมาด้วย เพราะทางหนึ่งนอกจากจะทำให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาด้วยกันชดเชยช่วงที่เชษฐ์ต้องห่างไปเวียดนามแล้ว เขายังพบว่านี่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทำให้เขาได้สร้างความคุ้นเคยกับพ่อและแม่ของอีกฝ่ายมากขึ้นจากตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วย

ตกเย็นทั้งสี่ทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในเมือง เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นเพื่อนเก่าของคุณชาญที่ไม่ได้พบกันหลายปีจึงมานั่งถามไถ่สารทุกข์สุกดิบจนเย็นย่ำ ดังนั้นกว่ามื้อนั้นจะเสร็จสิ้นและทุกคนได้กลับบ้านก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว

หลังจากบวรณ์มาส่งพวกเขาแล้วก็ขับรถตรงกลับไปบ้านคุณปรีชาทันที ฝ่ายเชษฐ์เมื่อมาถึงบ้านแล้วก็ขอบคุณป้าแย้มที่ยังอยู่เฝ้าบ้านให้ พร้อมกับออกปากให้พรุ่งนี้พักผ่อนเต็มที่โดยไม่ต้องมาทำงานได้หนึ่งวัน

“ถ้างั้นผมกับภัทรขึ้นห้องก่อนนะครับ”

เชษฐ์หันมาเอ่ยกับคุณชาญและคุณเพียงมาศก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ภัทรซึ่งกำลังจะก้าวตามทันเหลือบไปเห็นสายตาของผู้สูงวัยที่มองตามหลังลูกชายอย่างครุ่นคิด ลางสังหรณ์บางอย่างผุดขึ้นมารบกวนจิตใจกับแววตานั้น แต่ก็พยายามเตือนตัวเองว่าคงไม่มีอะไรและรีบก้าวตามเชษฐ์ขึ้นไปชั้นบน

เมื่อได้พ้นจากสายตาของคุณชาญกับคุณเพียงมาศ เชษฐ์ก็งับประตูห้องปิดก่อนจะรั้งตัวภัทรเข้าไปกอดแล้วระบายลมหายใจยาว

 


ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
“...คุณเชษฐ์?”

ภัทรเอ่ยเรียกเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่กอดเขาไว้โดยไม่พูดอะไร ครู่ใหญ่กว่าเจ้าของอ้อมแขนจะถอยออกมองหน้าเขาโดยไม่ปล่อยมือ

"ขอโทษนะที่วันนี้พาไปโน่นไปนี่ด้วยทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?"

เชษฐ์ถามพลางยกมือหนึ่งขึ้นลูบแก้มเขาอย่างอ่อนโยน ภัทรสบตากับอีกฝ่ายแล้วก็ยิ้มพลางส่ายหน้า มือข้างหนึ่งยกขึ้นทาบมือใหญ่ที่แนบแก้มตนไว้แล้วบีบเบาๆ

"ไม่เหนื่อยหรอกครับ แค่นี้เอง"

ถ้าเทียบกับช่วงเวลาที่ต้องอ้างว้างเหงาหงอยเพียงลำพังเพราะคุณเชษฐ์ไม่อยู่ด้วย ให้เขาเหนื่อยแบบนี้บ่อยๆ ภัทรก็เต็มใจ

แววตาของภัทรที่สะท้อนถึงความในใจตรึงสายตาของคนที่เห็นเอาไว้ เชษฐ์ใช้ปลายนิ้วโป้งลูบผิวแก้มเนียนเบาๆ ก่อนจะค่อยไล่ปลายนิ้วนั้นลงไปหยุดบนกลีบปากของคนในอ้อมแขน แววตาเร่าร้อนที่ราวมีกองเพลิงเล็กๆ ปะทุอยู่หลังแววตาที่จดจ้องมาทำให้ลมหายใจของภัทรสะดุด

"...อื้ม"

ริมฝีปากที่เผยอน้อยๆ อยู่แล้วถูกทาบทับก่อนจะทันได้เปล่งเสียง ร่างเพรียวถูกอ้อมแขนใหญ่รั้งเอวและต้นคอเข้าหามากขึ้นเพื่อมอบความลึกล้ำของจุมพิตได้ถนัด ภัทรตอบตัวเองไม่ได้ว่าเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาตลอดช่วงเวลาหลายวัน หรือเพราะความอ่อนโยนที่ถูกส่งผ่านมาทางริมฝีปากและอ้อมแขนแข็งแรง แต่เขาก็ปล่อยตัวและใจให้อีกฝ่ายรั้งเข้าหาโดยไม่ขัดขืน

"ฮ้า..."

เสียงครางแผ่วหลุดลอดจากริมฝีปากได้รูปเมื่อสัมผัสอันอุกอาจทว่าก็ปลอบประโลมนั้นผละจากอย่างเชื่องช้า ภัทรหายใจหอบขณะใช้สองมือกำแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่นราวกับนั่นคือหลักยึดให้สองขาที่เบาหวิวเหมือนไม่ติดพื้นยังคงยืนอยู่ได้ ลำคอของเขาตีบตันมากขึ้นกว่าเก่าเมื่อเงยหน้าและได้พบกับเพลิงปรารถนาที่ลุกโชนในดวงตาคมเข้ม

"...ไปอาบน้ำกันเถอะ"

เสียงแหบต่ำเอ่ยกระซิบก่อนที่คนพูดจะบดริมฝีปากลงมาบนริมฝีปากเขาอย่างเร็วๆ อีกครั้งหนึ่ง ในหัวของภัทรหมุนคว้างจนแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเองตอนที่ตอบว่า "ครับ" ออกไปอย่างเบาหวิว สิ่งเดียวที่รู้ในตอนนี้ก็คือหากคุณเชษฐ์ต้องการทำอะไร เขาก็คงไม่มีแรงหรือความคิดที่จะปฏิเสธต่อให้รู้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งออกจากโรงพยาบาลก็ตาม

ร่างสูงใหญ่จูงมือภัทรออกจากห้องนอนและเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็บิดล็อกแน่นหนาก่อนจะหันกลับมาหาเขา แววตาร้อนแรงที่จ้องมองมาอย่างไม่ปิดบังความต้องการราวกับจุดไฟอังให้ผิวหน้าของภัทรร้อนวูบวาบไปหมด

"อ๊ะ..."

ภัทรสะดุ้งเมื่อเชษฐ์เดินเข้ามาใกล้และเริ่มปลดกระดุมเสื้อให้เขา แม้จะเตรียมใจแล้วและรู้ตัวว่าต้องการสิ่งนี้ด้วยซ้ำ กระนั้นเมื่อกำลังเผชิญกับสถานการณ์นั้นจริงๆ ภัทรก็ยังไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ตระหนกได้ ซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็จะดูออกเช่นกัน

"ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าหากอยากให้หยุดเมื่อไหร่ก็บอก"

เชษฐ์เอ่ยพลางก้มลงหอมแก้มเขาก่อนจะไล่ริมฝีปากผะแผ่วดุจปีกผีเสื้อไปบนซอกคอและแผ่นอก หลังจากแกะกระดุมเสื้อให้จนครบทุกเม็ด ฝ่ามือใหญ่ก็ค่อยถอดเสื้อเชิ้ตออกจากร่างผอมเพรียวอย่างใจเย็น จากนั้นก็ก้มลงดูดเม้มผิวอ่อนตรงซอกคอพร้อมกับใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดอกสีชมพูเข้มจนภัทรห่อไหล่เข้าหากันเพราะความวาบหวาม

อากาศเย็นๆ ในห้องน้ำกระทบร่างอันเปลือยเปล่าของภัทรเมื่อเชษฐ์รูดซิปกางเกงให้แล้วดึงรั้งลงทั้งตัวนอกและตัวใน ใบหน้าชวนมองแดงก่ำเมื่อถูกแววตาคมกริบมองสำรวจไปทั่วทุกส่วนอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เชษฐ์ไม่ยอมให้เขาก้มหน้าหลบสายตาและใช้ปลายนิ้วเชยคางเรียวขึ้นให้สบตากับตัวเอง

"ถอดเสื้อผ้าให้ฉันบ้างสิ"

ภัทรตัวสั่นเมื่อร่างสูงใหญ่ก้มลงกระซิบประโยคคำสั่งนั้นข้างหู ลมหายใจอันผ่าวร้อนที่รินรดลงมาราวจะเพิ่มอุณหภูมิบนใบหน้าของเขาให้สูงยิ่งขึ้น และเมื่อมือมือของเขาถูกดึงให้วางทาบลงบนแผ่นอกกว้าง ภัทรก็ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้อีกฝ่ายตามที่โดนขอ

เมื่อจัดการถอดเสื้อเชิ้ตตัวบนออกเรียบร้อย ภัทรก็กลืนน้ำลายก่อนจะปลุกปลอบใจตัวเองและก้มลงจัดการกางเกงยีนส์บนสะโพกแกร่ง ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสองเผยร่างเปลือยเปล่าต่อหน้ากันและกัน ทว่าครั้งนั้นที่ไปทะเลกับตอนนี้ บริบทที่แวดล้อมช่างต่างกันจนไม่อาจนำมาเปรียบเทียบได้ สิ่งเดียวที่ภัทรแน่ใจว่ายังคงเหมือนเดิมก็คงมีเพียงหัวใจที่กระหน่ำเต้นอย่างรุนแรงจนเขาทั้งตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นไปพร้อมกันเท่านั้น 

เชษฐ์ยิ้มเมื่อในที่สุดภัทรก็ถอดเสื้อผ้าให้เขาจนหมดสมใจ ความต้องการที่ถูกปลุกให้ตื่นตัวมากขึ้นทุกทีเริ่มแสดงออกให้เห็นได้เด่นชัดที่ด้านล่างจนภัทรหน้าแดงก่ำและแทบวางมือไม้ไม่ถูก ท่าทีเขินอายทว่าก็เชิญชวนนั้นช่างเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ยั่วยวนเป็นธรรมชาติอย่างที่เจ้าตัวก็คงไม่ได้ตั้งใจแม้แต่น้อย

เพราะถ้าหากรู้ตัวว่าการแสดงออกของตนส่งผลให้คนที่เห็นคิดอยากลงมือทำอะไรบ้าง...ภัทรคงไม่กล้าเปิดเผยตัวเองให้เขาในวินาทีนี้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นในยามนี้แน่

"อาบน้ำกันเถอะ"

เชษฐ์จูงมือภัทรเข้าในส่วนของห้องอาบน้ำซึ่งจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วนในห้องน้ำอีกที ร่างสูงใหญ่ดึงประตูกระจกใสปิดก่อนจะหันไปเปิดน้ำอุ่นให้ไหลลงจากฝักบัว หลังจากปรับระดับน้ำจนได้ที่ก็หันมารั้งร่างภัทรให้เข้าไปอยู่ใต้สายน้ำด้วยกัน

ร่างเพรียวครางเสียงต่ำในคอเมื่อละอองน้ำอุ่นหลั่งลงกระทบผิว เชษฐ์หยิบขวดสบู่มาเทลงบนฝ่ามือแล้วก็ช่วยไล้ฟองครีมไปบนผิวกายของเขาจนทั่ว สัมผัสที่ปัดป่ายไปทั่วร่างอย่างทะนุถนอม ทว่าก็อ้อยอิ่งและจงใจทิ้งไออุ่นจากฝ่ามือไว้บนทุกตารางนิ้วทำให้ภัทรสั่นอย่างห้ามไม่ได้

"หนาวเหรอ? ตัวสั่นเชียว"

เสียงทุ้มที่ก้มลงมากระซิบข้างหูทำให้ภัทรรู้ตัวว่าเมื่อครู่เผลอหลับตา นัยน์ตาเรียวจึงปรือขึ้นมองรอยยิ้มที่ชวนให้หลงใหลบนใบหน้าที่อยู่ใกล้เพียงคืบแล้วก็เม้มปาก

คุณเชษฐ์ถามแบบนี้แกล้งกันนี่นา...

"ใช่ครับ เพราะคุณเชษฐ์นั่นแหละ"

เชษฐ์มองใบหน้าแดงๆ กับน้ำเสียงตัดพ้อของคนพูดแล้วก็แกล้งเลิกคิ้ว แต่ยังคงไม่หยุดมือที่ลูบไล้ไปมาบนผิวกายของคนตรงหน้า ร่างของภัทรกระตุกเมื่อฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งเลื่อนลงวางบนแผ่นหลังและดึงเขาเข้าหาจนปะทะกับแผงอกแกร่ง และแน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เพียงร่างกายท่อนบนที่แนบชิด เพราะส่วนล่างที่ผ่าวร้อนของร่างสูงใหญ่ก็บดเบียดกับหน้าขาของเขาเช่นกัน

"ถ้าเธอหนาวแล้วจะเป็นเพราะฉันได้ยังไงล่ะ?"

ลมหายใจอุ่นเป่ารดบนปลายจมูกเมื่อคนพูดก้มลงหา และราวกับการยั่วเย้าด้วยวาจาจะไม่เพียงพอ เพราะฝ่ามือใหญ่ข้างที่ไม่ได้รั้งเอวผอมไว้ได้เลื่อนลงวางบนหนั่นเนื้อด้านหลังของภัทรและบีบด้วยแรงพอที่จะทำให้เขาต้องจิกนิ้วลงบนต้นแขนแกร่งทั้งสองข้าง

"ก็คุณเชษฐ์...อ๊ะ"

คำท้วงติงทั้งหลายถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปากอุ่นที่ทาบลงมาปิดเสียงของเขาไว้ ปลายลิ้นของภัทรถูกเกี่ยวกระหวัดให้ต้องตอบสนองในรูปแบบที่เขาไม่อาจต่อต้าน ภายใต้การชักนำอันเร่งร้อนและปลุกเร้า ภัทรได้แต่เลื่อนมือขึ้นโอบคออีกฝ่ายเป็นหลักยึดขณะที่มือใหญ่ทั้งสองข้างบีบเคล้นสะโพกตึงแน่นอย่างไม่รามือ

ในสติที่เริ่มพร่าเลือนด้วยถูกม่านหมอกแห่งความปรารถนาครอบงำ ภัทรยังรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากสายน้ำที่ยังคงหลั่งลงบนผิวกายของทั้งคู่ กระนั้นความหิวกระหายของคนตรงหน้าที่กำลังตักตวงความหวานหอมจากตัวเขากลับแจ่มชัดราวแสงไฟในห้องที่มืดสนิท ความอบอุ่นของผิวกายที่เสียดสี ถ่ายเทประจุความร้อนให้แก่กันและกันฉุดให้ภัทรดำดิ่งลงสู่ห้วงของดำฤษณาที่ลึกสุดหยั่งมากขึ้นทุกที

"อ๊ะ!"

ภัทรสำลักลมหายใจเมื่อจู่ๆ ฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งก็เลื่อนจากสะโพกเขามาทาบบนความร้อนรุ่มด้านหน้า แรงสัมผัสที่ผลักดันทำให้เขาตระหนักว่าตอนนี้ร่างกายของตนก็กำลังตื่นตัวไม่แพ้อีกฝ่ายเลย

"ภัทร..."

เสียงกระซิบอันแหบทุ้มเรียกให้เจ้าของชื่อปรือตาขึ้นมองใบหน้าคมคาย แววตาที่จ้องมองมาในตอนนี้ราวกับสามารถแผดเผาภัทรแล้วกลืนกินเขาเข้าไปได้ทั้งตัว มือใหญ่ข้างหนึ่งจับมือเรียวให้เลื่อนลงไปสัมผัสความแกร่งร้อนของร่างสูงใหญ่ที่ปานจะลวกมือได้ และทันทีที่ฝ่ามือของเขาโอบกระชับความแข็งแกร่งนั้นเอาไว้ เชษฐ์ก็คำรามต่ำก่อนจะนำการเคลื่อนไหวของเขาผ่านการกระทำแทนคำพูด

"อือ อะ อ๊ะ"

เสียงครางเครือของภัทรหลุดอย่างไม่เป็นจังหวะผ่านริมฝีปากที่เผยอหอบ แผ่นอกที่กระเพื่อมถี่เพราะดึงอากาศเข้าไปหมุนเวียนไม่ทันเบียดชิดแทบเป็นเนื้อเดียวกับแผงอกตึงแน่นของร่างสูงใหญ่ ร่างผอมค่อยๆ ถูกดันจนแผ่นหลังไปแนบกับผนังกระจกโดยที่มือของทั้งสองยังคงพัลวันอยู่กับการปรนเปรอความปรารถนาให้กันและกัน ภัทรสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ถึงปลายนิ้วแข็งแรงที่กำลังลูบไล้บนร่องระหว่างเนินเนื้อด้านหลังอย่างมุ่งมาดที่จะแทรกเข้าไปหาความอบอุ่นภายใน

"คุณเชษฐ์..."

ภัทรเอ่ยเสียงหวิวเหมือนคนที่ถูกสูบเรี่ยวแรงไปจากตัว แต่นอกจากนั้นก็ไม่ได้แสดงอาการขัดขืนเพราะตระหนักดีว่าเมื่อมาถึงจุดนี้ก็ไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว เชษฐ์ก้มลงแนบริมฝีปากบนขมับของเขาก่อนจะกระซิบเสียงเบาอย่างปลอบโยน

"ไม่ต้องกลัวนะ"

ภัทรรวบรวมเรี่ยวแรงพยักหน้าตอบ  และทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้เมื่อนิ้วมือด้านหลังกดย้ำบนปากทางคับแคบและเขี่ยไปมาอย่างช้าๆ โดยไม่ล่วงล้ำเพื่อสร้างความคุ้นเคย ทว่าเมื่อมือของเขาเริ่มผ่อนแรงขยับลงเพราะความรู้สึกที่ด้านหลังเริ่มมีอิทธิพลต่อประสาทสัมผัสมากกว่าด้านหน้า เชษฐ์ก็ก้มลงเม้มปลายจมูกของภัทรและดึงมือเขาให้กอบกุมความร้อนรุ่มของทั้งสองไว้คู่กัน จากนั้นก็วางมือทับลงมาและควบคุมจังหวะการรูดรั้งของมือนั้นโดยที่มืออีกข้างยังคงวนไล้รอบช่องทางเล็กไม่หยุด

ภัทรรู้สึกเหมือนคนกำลังจมน้ำทั้งที่สายน้ำหลั่งไหลมาจากด้านบน แต่ไออุ่นที่โอบล้อมไปทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดรวมความรู้สึกซึ่งถูกปลุกเร้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในหัวเริ่มเบลอจนคิดอะไรไม่ออก และเมื่อรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของปลายนิ้วที่ชำแรกเข้ามาในช่องทางซึ่งแทบลืมเลือนการถูกสัมผัสไปแล้ว ร่างเพรียวก็ร้องครางและกระตุกอย่างแรงขณะปลดปล่อยความต้องการที่เขม็งเกลียวอย่างบ้าคลั่งในท้องน้อยออกมากลางฝ่ามือของทั้งคู่

"ภัทร?"

"ขอโทษครับ คุณเชษฐ์"

ภัทรเอ่ยพลางหอบหายใจหนักหน่วงราวเพิ่งเสร็จสิ้นจากการออกกำลังกายมาหลายชั่วโมง การที่ร่างกายแสดงออกว่าอิ่มเอมจากการถูกกระตุ้นเร้าทางด้านหลังเพียงเล็กน้อยทำให้เขาอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ทว่าเชษฐ์กลับยิ้มด้วยความเอ็นดูและก้มลงขบกลีบปากล่างของเขาเบาๆ

"ขอโทษทำไม น่ารักดีออก"

ยิ่งได้ยินคำชมกับเห็นรอยยิ้มของคนพูด ภัทรก็ยิ่งกระดากมากขึ้นเพราะว่าอีกฝ่ายไม่ยอมถอนนิ้วออกจากช่องทางที่ยังบีบรัดแน่นหลังการปลดปล่อย ราวกับต้องการจะใช้ปลายนิ้วนั้นซึมซับรสสัมผัสจากภายในของเขาให้นานที่สุด

"อื้อ..."

ภัทรไม่แน่ใจว่าตอนนี้ผิวหน้าของตนสุกเพราะเลือดสูบฉีดไปรวมกันหมดหรือยัง แข้งขาสองข้างอ่อนเปลี้ยจนราวจะยืนไม่อยู่หากไม่ใช่เพราะมีกระจกด้านหลังรองรับไว้ แต่แล้วอารมณ์หวิวหวามที่อ้อยอิ่งก็พลันสะดุดเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น

"เชษฐ์...นี่พ่อนะ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วลงไปคุยกับพ่อแป๊บนึง"

ร่างสูงใหญ่ที่ยืนเบียดภัทรอยู่ส่งเสียงคำรามต่ำในคอ ขณะที่ภัทรตัวแข็งทื่อด้วยไม่รู้ว่าเมื่อครู่พวกเขาได้ส่งเสียงที่อาจเล็ดลอดไปถึงหูผู้สูงวัยที่ยืนอยู่หน้าประตูหรือไม่ และคำถามที่น่าตระหนกยิ่งกว่าคือเจ้าตัวยืนอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว

"เชษฐ์? ได้ยินพ่อมั้ย?"

"...ได้ยินครับ ขอเวลาอีกเดี๋ยวแล้วผมจะลงไป"

เกิดความเงียบครู่หนึ่งก่อนที่ภัทรจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป ร่างของเขาถูกรวบกอดแนบแผงอกกว้างที่ร้อนผ่าวกว่าปกติ ส่วนความรุ่มร้อนที่ยังคงดุนดันหน้าขาเขาอยู่ก็หาได้ลดความก้าวร้าวลงกว่าเมื่อครู่ แต่ทว่า...

"ภัทร เดี๋ยวกลับห้องไปก่อนก็แล้วกันนะ"

"เอ๊ะ? อ๊ะ"

ร่างของภัทรกระตุกอีกครั้งเมื่อปลายนิ้วแข็งแรงที่ซุกแนบอยู่ในร่างได้ถอนออกไป จากนั้นมือใหญ่ทั้งสองก็จับยึดสะโพกเขาไว้แล้วดันออกให้ถอยห่างจากตัวเอง

"ฉันคงต้องใช้เวลาจัดการตัวเองอีกหน่อยแล้วลงไปคุยกับพ่อ ถ้าหากนานก็ไม่ต้องรอนะ นอนไปก่อนได้เลย"

น้ำเสียงของคนพูดต่ำพร่าและแทบจะไม่ดังออกมานอกคอ ทว่าความเครียดเขม็งบนกล้ามเนื้อทั่วร่างก็ทำให้ภัทรรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้ากำลังต่อสู้กับความต้องการจะสานต่อสิ่งที่ทั้งคู่เพิ่งเริ่มไปอย่างสุดความสามารถ

"....แล้วคุณเชษฐ์ล่ะครับ?"

แม้ว่าจะถูกเปิดทางให้ได้ไปพักผ่อนก่อน แต่ภัทรก็ยังรู้สึกว่าหากตนทิ้งอีกฝ่ายไว้แบบนี้ก็เท่ากับเห็นแก่ตัวที่บรรลุความสุขสมอยู่ฝ่ายเดียว และความคิดนั้นคงสะท้อนออกมาทางสีหน้า เพราะเชษฐ์ใช้มือหนึ่งลูบผมที่ชุ่มน้ำของเขาขึ้นจากหน้าผากแล้วแนบริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา

"ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องแค่นี้เอง"

 


ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
 ร่างสูงใหญ่หันไปบิดก๊อกฝักบัวเพื่อปิดน้ำ แต่แล้วเมื่อจะผลักประตูกระจกเพื่อให้ภัทรได้ออกไปก่อน คิ้วดกหนาก็เลิกขึ้นด้วยความแปลกใจเพราะภัทรกลับดึงประตูกระจกให้ปิดเข้ามาเช่นเดิม

"ภัทร?"

แววตางุนงงที่เหลือบลงมองทำให้ภัทรหน้าแดงเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ตัดสินใจทำตามที่ตั้งใจเพราะไม่อยากให้ตนคอยแต่เอาเปรียบความอ่อนโยนอยู่ฝ่ายเดียว

"ผมจะ...ช่วยทำให้คุณเชษฐ์ก่อนครับ"

ร่างสูงเพรียวเลี่ยงสายตาค้นหาของคนตัวใหญ่กว่าขณะทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าบนพื้นกระเบื้อง มือทั้งสองข้างเลื่อนลงตามผิวกายแน่นตึงจนมาหยุดบนสะโพกสอบแกร่ง เขาสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อปลุกปลอบใจตนเองขณะมองความแกร่งร้อนที่กำลังชูชันอยู่ห่างจากใบหน้าเพียงไม่ถึงคืบ

นี่เป็น...ความรู้สึกที่คุณเชษฐ์มีให้เรา...

ภัทรคิดพลางใช้อุ้งมือรวบลำกายร้อนผ่าวตรงหน้าแล้วขยับศีรษะเข้าหา ลมหายใจของเขาติดขัดเล็กน้อยขณะแลบลิ้นออกเลียริมฝีปากอันแห้งผากเพื่อรวบรวมความกล้า นัยน์ตาเรียวเหลือบขึ้นมองใบหน้าของคนเบื้องบนอย่างไม่ตั้งใจ ทว่าประกายลึกล้ำที่ทอดมองมาอย่างแน่วนิ่งก็ทำให้ภัทรรู้ว่ามีแต่ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น

ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งสอดเข้าประคองท้ายทอยของภัทรเอาไว้เมื่อเขาจุมพิตส่วนปลายของแท่งเนื้อที่ร้อนรุ่มจนราวกับจะลวกปาก ปลายลิ้นอุ่นนุ่มแลบออกไล้เลียขณะที่ริมฝีปากได้รูปเผยอขึ้นดูดดุนความแข็งแกร่งที่ผลุบเคลื่อนเข้าออกในปากอย่างตั้งอกตั้งใจ บางครั้งเมื่อเชษฐ์รู้สึกว่าภัทรกำลังเร่งรีบเกินกว่าที่ควร ร่างสูงใหญ่ก็จะคอยช่วยชะลอจังหวะลงทั้งโดยการรั้งศีรษะของภัทรเอาไว้ และทั้งโดยการพยายามควบคุมร่างกายไม่ให้หลงระเริงกับการปรนปรอของเขาจนสร้างความลำบากให้

ถึงแม้จะอึดอัดไม่สบายเนื้อตัวจากสิ่งที่กำลังทำ ทว่าเสียงคำรามในคออย่างพอใจ รวมทั้งสีหน้าและแววตาของเชษฐ์ที่บ่งบอกว่ายินดีกับสิ่งที่ได้รับก็ช่วยลบล้างความไม่สบายเหล่านั้นให้ปลาสนาการไปสิ้น และยิ่งกล้ามเนื้อเป็นลอนบนหน้าท้องและต้นขาแกร่งใต้ฝ่ามือขมวดแน่นมากขึ้นเท่าไหร่ ภัทรก็รู้ว่าเขากำลังจะพาอีกฝ่ายถึงสุดทางแห่งความปรารถนาได้ในอีกไม่ช้าแล้ว

"อืม....."

เสียงครางยาวในคอของเชษฐ์มาพร้อมกับการปะทุของความเร่าร้อนที่ภัทรเป็นคนช่วยสุมเพลิงให้พัดโหม ร่างเพรียวกลืนกินทุกหยาดหยดที่อีกฝ่ายกลั่นออกมาอย่างไม่รังเกียจแม้จะไอเพราะสำลักจนน้ำตาซึม กระนั้นภัทรก็ยังฝืนใช้โพรงปากเคล้าคลึงส่วนไวสัมผัสให้เชษฐ์จนกระทั่งมันอ่อนตัวและคืนสู่สภาพเดิมบนปลายลิ้นของเขา

"ภัทร เธอนี่..."

เชษฐ์พยายามข่มลมหายใจที่หอบรัวขณะใช้สองแขนโอบรั้งร่างของภัทรให้ยืนขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้เห็นริมฝีปากที่บวมช้ำและแววตาอ่อนเชื่อมด้วยมีน้ำตาคลอซึ่งช้อนขึ้นมอง เขาก็ระงับใจไม่อยู่และดึงผมบนท้ายทอยของภัทรให้แหงนหน้าขึ้นก่อนจะบดริมฝีปากลงหาอย่างไร้ซึ่งการควบคุมตัวเอง

ถึงแม้ภัทรจะกลืนหยาดรักของเชษฐ์ไปหมดแล้ว กระนั้นรสชาติของมันก็ยังคงอวลอยู่ในช่องปากจนอีกฝ่ายรับรู้ได้ ทว่าดูเหมือนคนที่กำลังบดริมฝีปากจูบเขาและเรียกร้องการสนองตอบอย่างบ้าคลั่งจะไม่ตั้งแง่รังเกียจแม้แต่น้อย การชักนำของเชษฐ์มีแต่ทำให้ภัทรต้องส่งปลายลิ้นเข้าพัวพันและยอมรับรสสวาทอันอุกอาจที่ราวจะลบทุกสามัญสำนึกในหัวของเขาจนสิ้น

จูบนั้นช่างยาวนานและเร่าร้อนจนภัทรนึกว่าตนจะขาดอากาศหายใจ เชษฐ์กอดร่างเพรียวของเขาไว้อย่างแนบแน่นก่อนจะถอนริมฝีปากออกในที่สุดด้วยความเสียดาย

"บ้าเอ๊ย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะฉันต้องลงไปคุยกับพ่อล่ะก็..."

อีกฝ่ายสบถงึมงำอยู่กับผิวที่ยังไวต่อสัมผัสบนซอกคอของภัทร ร่างของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความรู้สึกตอนนี้ก็หาได้แตกต่างจากคนพูด ทว่าทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าขืนยื้อเวลาที่ได้สนิทแนบกายกันเช่นนี้ต่อไป ผู้สูงวัยจะต้องเอะใจและคงไม่พอใจภายหลังที่เชษฐ์ไม่ลงไปคุยด้วยตามที่รับปากไว้แน่ๆ

"คุณเชษฐ์ ไปแต่งตัวแล้วลงไปคุยกับคุณพ่อก่อนเถอะครับ ไม่อย่างนั้นท่านจะโกรธเอา"

ภัทรเองก็ตอบเสียงงึมงำไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะพร้อมยิ่งกว่าพร้อมที่จะให้เชษฐ์สานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ลึกซึ้งไปอีกขั้น แต่ก็รู้ดีว่ายามนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสักเท่าไหร่

ร่างสูงใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังของภัทรไปมาอย่างปลอบโยน ขณะเดียวกันก็ราวกับจะทำไปเพื่อเรียกสติของตนกลับมาและข่มความปรารถนาในใจให้สงบลงไปพร้อมกัน ครู่หนึ่งจึงก้มลงจูบขมับภัทรเบาๆ อีกครั้งก่อนจะปล่อยมืออย่างตัดใจ

"ฉันสัญญาว่าคราวหน้ามันจะไม่จบแค่ตรงนี้ เตรียมใจเอาไว้ด้วยนะ"

เชษฐ์เอ่ยขณะใช้นิ้วโป้งนวดคลึงริมฝีปากที่ยังบวมเล็กน้อยของภัทรอย่างอ้อยอิ่ง ในแววตาราวกำลังระลึกถึงภาพใบหน้าเนียนตอนที่อาสาปรนนิบัติเขาให้บรรลุถึงปลายทางของความต้องการเมื่อครู่ และนั่นทำให้ภัทรต้องรีบดันอีกฝ่ายออกจากห้องเพราะเกรงว่าคราวนี้ความตั้งใจของทั้งคู่จะพังทลายลงจริงๆ

"ตอนนี้ไปคุยกับคุณพ่อก่อนเถอะครับ"

เชษฐ์หัวเราะกับท่าทางเขินอายของภัทรก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาพันเอว โดยก่อนจะเดินออกไปก็ยังไม่ลืมกดล็อคประตูห้องน้ำแล้วค่อยงับปิดให้ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเจ้าของบ้านเดินกลับเข้าไปในห้องนอนซึ่งอยู่ข้างๆ กันเรียบร้อย เขาถึงค่อยทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องด้วยท่าทางราวกับสองขากลายเป็นเยลลี่ที่รับน้ำหนักตัวไม่ไหว

รสรักที่เชษฐ์ทิ้งไว้ยังคงกรุ่นอวลบางเบาบนปลายลิ้น สัมผัสอันแข็งขืนและร้อนเร่าเหมือนเหล็กเผาไฟก็ราวกับยังตกค้างอยู่ในช่องปาก ภัทรมองที่ว่างในห้องน้ำตรงที่ร่างสูงใหญ่เพิ่งยืนอยู่ แล้วก็ไพล่นึกย้อนไปถึงสิ่งที่ทั้งสองทำให้กันและกันเมื่อไม่กี่อึดใจก่อน เมื่อหวนระลึกถึงคำพูดที่อีกฝ่ายทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกไป เขาก็ได้แต่ยกปลายนิ้วขึ้นลูบริมฝีปากของตัวเองด้วยความเผลอไผล บัดนี้ไอร้อนได้ซ่านขึ้นมารวมตัวกันบนหน้าอีกครั้งจนราวจะแผดเผาหยดน้ำที่ยังเกาะพราวให้เหือดแห้งได้

โอย นี่เขากล้าทำอะไรอย่างนั้นกับ...ของคุณเชษฐ์ไปได้ยังไง แล้วนี่ถ้าหากคุณชาญมาได้ยินเสียงของพวกเขาก่อนที่จะมาเคาะประตูเรียก แล้วรู้ว่าเขากับลูกชายของตัวเองทำอะไรกันในห้องน้ำ เขายังจะกล้าเข้าหน้าฝ่ายนั้นไหวหรือนี่...

นั่นเป็นคำถามที่ภัทรไม่กล้าคิดถึงคำตอบ สิ่งเดียวที่เขารู้และมั่นใจในยามที่ความสุขเอิบอาบไปทั่วร่างเช่นเวลานี้ มีเพียงความจริงที่ว่าต่อให้เลือกย้อนเวลากลับไปเมื่อครู่ได้ เขาก็คงไม่ลังเลที่จะเสนอตัวทำแบบเดิมเพื่อมอบความสุขให้ผู้ชายที่เขารักที่สุดในนาทีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย


++---TBC---++


A/N: ยิ่งเรื่องนี้ใกล้จบก็ยิ่งรู้สึกว่าเขียนยากขึ้นทุกที แถมเพราะเป็นเรื่องที่หากนับถึงปัจจุบันก็เรียกได้ว่าใช้เวลาเขียนลบสถิติเรื่องอื่นๆ ของเราไปหมดแล้ว ช่วงที่หายไปเขียนเรื่องอื่นบ้างแล้วกลับมาหาเรื่องนี้อีกทีก็ต้องใช้เวลาจูนนานมาก คงเพราะส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้อารมณ์ละเอียดอ่อนสูงกว่าเรื่องอื่นที่เขียน (โดยเฉพาะในส่วนของน้องภัทร) บทจะเขียนออกทีเลยหลั่งไหลพรวดๆ บทจะ writer's block ก็บล็อกกันจริงๆ จังๆ แต่ตอนนี้เนื้อเรื่องได้ขมวดเข้าสู่โค้งสุดท้ายของท้ายสุดจริงๆ แล้วล่ะค่ะ ก็ขอขอบคุณทุกคนทั้งที่อดทนติดตามกันมาตั้งแต่โพสต์ตอนแรก และเพิ่งได้มาอ่านรวดเดียวยาวจนถึงตอนล่าสุดด้วย ขอสัญญาว่าจะตอบแทนความเชื่อมั่นของนักอ่านทุกคนด้วยการพาคุณเชษฐ์และภัทรไปสู่ตอนจบอันสวยงามให้คุ้มกับที่ติดตามกันมานะคะ

ใครอ่านแล้ว มาเม้นต์ให้ชื่นใจกับตอนนี้กันหน่อยน้า
:D

 


ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
OMG  :jul1:
ขออย่าให้มีปัญหาเรื่องพ่อแม่เลย  :call: สงสารน้องภัทร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2013 18:20:46 โดย tuckky »

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
มีแววมาม่า เหอะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แอร๊ยยยยย :z1:

คิดถึง...ฟินสุดๆ  ความสัมพันธ์คืบหน้ายิ่งกว่าเดิมไปเยอะมาก :o8:

ว่าแต่ห้องน้ำทำไมมันไม่อยู่ในห้องนอนเลยฟ่ะ o7
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2013 18:38:06 โดย yeyong »

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
เขินอาย>//<

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
อีกนิดเดียวหนูภัทรก็โดนเผด็จศึกแล้ว ชริ ๆ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
อ่านไปลุ้นไป
+1

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
คุณพ่อแค่จะเรียกไปคุยให้เป็นทางการรึเปล่าน้อออออออ

ออฟไลน์ yakusa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
อย่ามาดราม่าาาาา
ตอนแรกก็ดูรับได้ไม่ใช่หรอฮือ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
โฮววววว
เกือบไปแล้วเชียว คุณเชษฐ์คงเซ็งมาก
แต่คุณพ่อกับคุณแม่ มีอะไรหรือเปล่า
จะสั่งห้ามอะไรมั้ยอ่ะ
ดูเหมือจะยอมรับ แต่ก็กังขาในใจ
ฮือออออ ไม่อยากให้ ภัทรทรมานเลยอ่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทั้งภัทร ทั้งคุณเชษฐ์ และคนแต่งงงงง

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
พ่ออ่ะ!!!!

ออฟไลน์ capool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
โดยส่วนตัวเราแล้วเราไม่สงสารเขมนะ ผู้หญิงอย่างที่แย่งผู้ชายโดยใช้เงินไม่ใช่ผู้หญิงดีนะไม่มีเกียรติไม่มีคุณค่าด้วยซ้ำ ได้ผู้ชายห่วยๆไปมันก็สมควรแล้วนิ อิอิ... แต่คุณเชษฐ์อ่ะน่ารักมากเลยเป็นคนดีมากๆสมควรแล้วที่จะได้คนจิตใจดีอย่างภัทรนายเอกของเรา ฮุฮุ...  :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด