วุ่นนัก...รักรุ่นพี่ UP UP UP!!! ตอนที่ 65 จุดเริ่มต้น 28-03-2553
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: วุ่นนัก...รักรุ่นพี่ UP UP UP!!! ตอนที่ 65 จุดเริ่มต้น 28-03-2553  (อ่าน 344326 ครั้ง)

XTeND

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 49 GO GO บางกอก

...ผมกลับถึงบ้านก็เริ่มเก็บข้าวของ สัมภาระไปกรุงเทพทันที ทุกครั้งที่เก็บของก็ได้แต่คิดว่า ตัดสินใจดีแล้วเหรอ หรือไม่ก็ ทำไมต้องไปเร็วขนาดนี้ด้วย คอนโดฯตัวเองก็มี สาเหตุที่ผมต้องไปเร็วเพราะต้องไปเปิดห้อง เพื่อนผมจะมาอาศัยอยู่พักหนึ่ง เพื่อหาหอก่อน แล้วเพื่อนแต่ละคนก็แสนดีครับ อีเอ๋ฝึกงานที่ปิ่นเกล้า อีแอนฝึกงานที่บางนา ผมฝึกงานแถวๆ พหลโยธิน (ทำเสร็จเดินเซ็นทรัล ลาดฯ ต่อเลย สบาย) คนอื่นๆอีก แยกย้ายไปตามเรื่องตามราว มีเสาร์ - อาทิตย์ที่เราจะรวมตัวที่หอคนใดคนหนึ่ง พอผมเก็บสัมภาระเสร็จผมไปรอที่ท่ารถทันทีโดยมีแม่ผมไปส่ง

“เตรียมของครบแล้วใช่ไหมโอ๊ต” แม่ของผมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ครับ”

“ทำไมต้องรีบไปด้วยนะ”

“เพื่อนจะไปหาหอก่อนนะแม่”

“แล้วแซนว่าไงบ้าง”

“...” ผมนั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง “ไม่ว่าไงหรอกแม่”

“แม่รู้นะว่าแกสองคนเป็นอะไรกัน ถึงแม้นผ่านมานาน แม่ก็ยังคงทำใจไม่ได้ แต่กับแซนแม่ว่า แซนเป็นคนดีนะ แม่ถือว่าแซนเป็นลูกแม่อีกคน ลูกไม่คิดจะพูดจะบอกกล่าวอะไรสักคำเลยหรือ”

“ก็แซนไปสอนนะแม่ ไม่ได้เจอหรอก”

“ก็โทรบอกก็ได้นิลูก”

“อือ...ครับ”

...รถมาจอดเทียบท่า ผมขนสัมภาระทั้งหมดลงก่อนโหลดขึ้นสู่รถทัวร์ ผมกับเพื่อนจองรถคันเดียวกัน แต่ผมขึ้นในเมือง เพื่อนมันขึ้นหน้ามหาวิทยาลัย ดังนั้นที่นั่งบริเวณผมเลยว่าง รถค่อยๆเคลื่อนออกจาท่าช้าๆ ผมรู้สึกใจหายอย่างไรไม่ทราบ ทั้งๆที่ไปกรุงเทพก็ออกจะบ่อย แต่รอบนี้มันแปลก 3 เดือนที่กรุงเทพ มันนานที่สุดกว่าทุกครั้ง อะไรรอผมอยู่เอาว่ะ โอ๊ต...สู้โว้ย

...รถออกเดินทางได้ไม่ถึง 30 นาทีก็มาถึงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยครับ บรรดาเพื่อนผมก็ทยอยกันขึ้นมา เหมือนรอบนี้เอกผมจองรถแปลกๆ เพราะเพื่อนคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มผมก็มาด้วย เท่าที่ทราบเอกผมแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งขึ้นเชียงใหม่ กลุ่มหนึ่งลงกรุงเทพ และกลุ่มสุดท้ายฝึกที่บ้านซึ่งเป็นคนส่วนน้อย

“อีเอ๋ มึงไปนั่งข้างหลังกูทำไม มึงจองที่ข้างกู”

“อ๋อ มีคนขอว่ะ กูเลยให้ ปล่อยไปได้กำไรด้วยนะโว้ย”

“อีหน้าเลือด”

“มึงชาย – หญิง นั่งคู่กันไม่ดี แต่กูลืมไปมึงก็ผู้หญิง”

“อีห่านิ”

“ขอโทษนะครับ จะนั่งช่วยเขยิบหน่อย” ใครว่ะแทรกระหว่างตูทะเลาะกับเพื่อน ผมหันไปมอง

“...” อึ้ง

“...”

“...” อึ้ง

“...”

“แซน”

“ก็ใช่ดิพี่ เขยิบไปจะนั่ง” ไม่พูดเปล่าเบียดตัวเขามาด้วย สรุปมันนั่งตักผมครับ แล้วเอามือผมกอดเอวมันเหมือนเป็นสายเข็มขัดนิรภัย “อ่าวพี่เอ๋ที่ตรงนี้ว่างอ่ะพี่ พี่กลับมานั่งเถอะ”

“ไม่เป็นไรว่ะ พี่ขอดูตรงนี้ดีกว่า”

“ทำอะไรเกรงใจชาวบ้านบ้าง” เพื่อนผมเริ่มแซว เอาแล้วไงกลุ่มผมมามันต้องดัง งานนี้ไม่ต้องหันไปมองครับ ทุกคนมองมาทีผมแน่

“เห้ยลุก หนัก” ผมเริ่มโวยวาย

“อ่าวมีคนด้วย” มันลุกครับแล้วนั่งลงข้างๆ ก่อนยิ้มแฉ่ง

“มาได้ไง”

“เพื่อนพี่บอก”

“สอบเสร็จแล้วไง”

“เสร็จตั้งหลายวันแล้ว”

“แล้วไอ้ไบท์อ่ะ”

“เดียวพี่โอแฟนพี่เอ๋เอาไปให้ตอนขนของย้ายเข้าหอพี่เอ๋”

“แล้วเรื่องเรียนอ่ะ”

“ผมลงเรียนภาษาจีน ไปคุยกับอาจารย์แล้ว อาจารย์ไม่ซีเรียส มันไหนสอบพูด กับสอบข้อเขียนค่อยมาก็ได้ จะว่าไปอาจารย์แกให้ผมผ่านแล้ว”

“เห้ยได้ไง”

“ก็ผมคุยกับอาจารย์ภาษาจีน ผมลูกคนจีนนะ อ่านเขียนสบาย จะมีจีนแต้จิ๋วของม้า ผมพูดไม่ได้ ผมได้จีนกลาง”

“แล้วลงทำไม”

“ก็บอกว่าเอาเกรด ไม่จำเลย ... ลืมไปแก่แล้ว”

“กวนตรีน”

“อ่ะนะ หุหุ ถือว่าเป็นคำชม”

“แล้วนี้กลับบ้านไง”

“เปล่า”

“แล้วไปไหน ไปนอนกับพี่”

“บ้า ที่เต็มแล้ว”

“คุยกับพี่ๆแล้ว เขาบอกไม่เป็นไร ให้ผมกับพี่อยู่ในห้องกัน 2 คน ส่วนห้องรับแขกพวกพี่เขานอนกันได้” มันยิ้มก่อนเอามือควักอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครมันแอบมาเล่นทามาก๊อตของผมด้วยอ่ะ คืนนี้อยากทำเหมือนที่ทามาก๊อตมันทำป่ะ อิอิ”

“พอเลย”

...สรุปตลอดการเดินทางผมมีหมาจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์ตามไปด้วย และท่าทางจะอยู่กับผมนาน บนรถทัวร์ไม่ต้องพูดถึงครับ พวกผมครบแก๊ง บวกทัพเสริมงานนี้ใครอยากนอนไม่ได้นาน เพราะดังกันทั้งคัน เห้อ...น่าสงสาร

...พอถึงกรุงเทพพวกผมก็ไปต่อแท๊กซี่กัน ผมนะก็แต่กระเป๋าเสื้อผ้า กับเป้ 1 ใบ พวกผู้หญิงนะของเยอะ ซวยไป (สาเหตุที่นั่งแท็กซี่เพราะสัมภาระเจ้าหล่อน) แต่คนที่สบายสุด ไอ้แสบครับมันมาตัวเปล่า มันบอกไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านก็ได้ ใส่เสื้อผ้าผมก็ได้ ส่วนชั้นในไปซื้อใหม่ก็ได้ (แต่ต้องไม่ซื้อกับมัน 2 ต่อ 2 มันบอกช่วยกันเลือก กวนทีน)

...นั่งรถกันเกือบชั่วโมงก็ถึงคอนโดครับ ไม่ไกลหรอก แต่รถติดเซ็ง พอทุกคนเอาสัมภาระวางกันก็บ่นหิวนู้นหิวนี้งานตามประสา

“เห้ยไหนๆ มาถึงกรุงเทพ แถมโปรเจคผ่านแล้ว มันต้องฉลองสิ อย่าลืมดิธรรมเนียมกลุ่มเรา” เพื่อนแอนเสนอ รายนี้ปาร์ตี้เกิลครับ หรือลำยอง แต่ก็จริงพวกผมตั้งธรรมเนียมนี้ขึ้นมากันเอง พอสอบเสร็จเราจะกินเลี้ยงกันไม่ที่ใดก็ที่หนึ่ง ส่วนมากจะเป็นผับมากกว่าร้านอาหาร

“เออ ที่ไหน แต่ไม่ดึกนะเหนื่อย หาที่กินก็พอ” เอ๋แทรก

“เอาดิ”

“ไปเซ็นทรัลจบ” ผมบอก

...จากคอนโดไปเซ็นทรัลใช้เวลาไม่นานครับนั่งรถไฟฟ้าไปกัน แต่จะนานตรงที่จะเข้าร้านไหนนี้แหละ สรุปงานนี้ออกจากเซ็นทรัลไปกินโออิชิ เอ็กซ์เพลสครับ ตอบทุกโจทย์หลังจากที่กินกันร่วมชั่วโมงก็เดินย่อยก่อนกลับ ก็แยกย้ายกันใครอยากดูอะไรก็ดู แล้วค่อยนัดเจอทีหลัง ผมไปกับแซน 2 คน อย่างที่แซนพูดไม่ผิดครับ ผมกับมันต้องลงมาเลือกชั้นในกันตรงซุปเปอร์ ผมก็ให้แซนเลือกๆไป มันมีการเอามาทาบให้ผมดูอีกไม่ได้แคร์สายตาประชาชีเลยให้ตายเถอะ กว่าจะได้ก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ใช้เวลากับการกวนประสาผมเสียมากกว่า พออกมาเดินข้างนอกก็หาซื้อบ๊อกเซอร์อีก บอกว่าไม่ได้ใส่บ๊อกเซอร์มา ถ้าไม่ซื้อจะใส่กางเกงในตัวเดียวนอน งานนี้เลยต้องหาบ๊อกเซอร์ไว้เยอะกันไว้ก่อน พวกผมช๊อปปิ้งกันจนห้างจะปิด งานนี้แซนได้ของคนเดียว ส่วนผมไม่ได้ดูอะไรเลย แม้นแต่อัพเดธการ์ตูนก็ยังไม่ได้ทำ

...พวกผมกลับมาถึงคอนโดกันก็ราว 5 ทุ่ม งานนี้พอถึงห้องสภาพก็เยี่ยงศพ เพื่อนผมมันนอนกันบริเวณที่รับแขก มันให้ผมนอนกับแซนในห้อง 2 คน

...ผมตื่นขึ้นมาในตอนสาย เรียกว่าเที่ยงดีกว่า รู้สึกช่วงนี้นอนตื่นสายมากมาย พวกเพื่อนๆ ผมมันทิ้งโน้ตไว้มัน ไปหอกันตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนแซนกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้า ส่วนผมว่างไหนๆว่าง ไปเดินสยามดีกว่า เมื่อหาที่ไปได้ก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกเดินทางไปชิวๆ สบายๆ แวะกินข้าวหน้าคอนโดก่อน พอไปถึงก็เดินเล่นตามประสา ผมก็เดินคิดอะไรไปเรื่อยๆ คิดถึงตอนมาเรียนพิเศษที่นี่ พาลให้คิดถึงคนคนหนึ่ง สรุปไปดูการ์ตูนดีกว่า ได้การ์ตูนมา 2 เล่ม ตามสันดานงานนี้หาที่นั่งอ่านฆ่าเวลาครับ ผมตรงดิ่งไปพารากอนทันที

กริ๊ง... กริ๊ง... กริ๊ง... ไอ้แสบโทรมา

“อยู่ไหน”

“สยาม”

“อือ เดียวเจอกัน จุ๊ฟๆ”

...สั้นดี ผมไปนั่งตรงที่นั่งด้านในพารากอน เอาของว่างข้างๆ แกะการ์ตูนแล้วเริ่มอ่าน บรรยากาศรอบข้างมีคนมากมายเดินกันควักไขว่ บ้างก็ถ่ายรูปด้านหน้าผมที่เป็นน้ำพุกับต้นไม้ ส่วนผมจมดิ่งอยู่กับการ์ตูนต่อไป

“ขอโทษครับ” มีเสียงดังขึ้น

“...” ไม่ใช่ผมมั้ง

“ขอโทษครับ ขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ” เสียงดังข้างผมนิ ผมชัวร์ๆ ผมเงยหน้าขึ้นมอง คนเบื้อหน้าผม ใบหน้าเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสัน ปากบางสีชมพู ผิวขาว ดวงตากลมโต

“ข้าว...” ผมพูดออกไป ชายหนุ่มตรงข้ามก็ดูตกใจไม่น้อย ก่อนยิ้มให้ผมอย่างคุ้นเคย เขาไม่เปลี่ยนไปเลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอนที่ 49

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
สวสัยว่า ข้าวนี่ต้องเป้นกิ๊กเก่า แน่ๆเลย 

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ข้าวไหนอ่า ??


โฟลคเต่าสู้ ๆ :) :)

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อ้าววววววววว
พี่โอ๊ตเจอกิ๊กเก่าหรออออออออ????

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
โฮกกกกกกกก พี่ข้าวต้องเป็นกิ๊กเก่าแน่เลย  :serius2:
แล้วมาเจอกันตอนที่จะนัดกับเซนเนี่ยนะ  :เฮ้อ:

gboy

  • บุคคลทั่วไป
กิ๊กเก่าป๊ะหน้ากิ๊กใหม่
555
มันแน่

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
โฟล์คเต่าสู้ๆนะจ๊ะ
บวก 1 แต้มเป็นกำลังใจให้จ้า

แซนมาด้วยขนาดนี้ ทุ่มเทสุดๆ โอ๊ตยังครึ่งๆกลางๆอยู่อีกนะ
แล้วข้าวนี่คือคนที่โอ๊ตนึกถึงใช่มั้ยเนี่ย อดีตหละสิ
งานจะเข้าใครรึป่าวนะคราวนี้


XTeND

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 50 เวลา กับ อดีต

เลขที่ 1 เด็กชายวรวิทย์   ธนรักษ์      พ่อชื่อ สุเมธ   แม่ชื่อ ฉันทนา
เลขที่ 2 เด็กชายจักรกฤษ์   ชาตินิยม   พ่อชื่อ วรวุทธ   แม่ชื่อ คณิตธา

สุดท้าย
เลขที่ 43 เด็กหญิงวาสนา   สุขสวัสดิ์   พ่อชื่อ ชินวุทธ   แม่ชม สมจิต

...เด็กน้อยวัย 12 กำลังไล่รายชื่อเพื่อนและชื่อพ่อแม่ตามลำดับเลขที่ โดยหวังว่าเขาจะจำเพื่อนได้ทุกคน เขานอนอยู่บนเตียงอันนุ่มสบาย แต่ภายในจิตใจมีแต่คำถาม และความคับแค้นใจจนเออล้นเป็นน้ำไหลรินจากตา พรุ่งนี้จะเป็นการเปิดเทอมวันแรกของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีถ้าเขาได้เรียนโรงเรียนเดิม เขาภาวะนาให้เป็นเช่นนั้น เพียงเป็นแม้นในฝันคืนนี้ก็ยอม

“โอ๊ต... โอ๊ต... ตื่นได้แล้วลูก” แม่ของเด็กน้อยปลุกเขาเหมือนทุกครั้ง แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือโรงเรียนใหม่ “อ่าวเร็วๆเขา แม่ต้องไปตลาดเช้า” แม่เร่ง

...หลังจากเสร็จกิจเด็กชายขึ้นรถแล้วมองเหม่อออกไปภายนอกรถ ผ่านโรงเรียนเก่า ผ่านครู-อาจารย์ที่เคยสอน สายตาของเด็กน้อยละห้อย รถแล่นผ่านไปจนถึงหน้าโรงเรียนใหม่

“อ่าวโอ๊ตลงไปได้แล้ว ตั้งใจเรียนนะลูก” เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย ยืนมองโรงเรียนใหม่

...โรงเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด โรงเรียนที่มีชื่อเสียงมา 100 กว่าปี แต่สำหรับเด็กน้อยนี้คือโรงเรียนสวะ เพราะเขามั่วขอสอบ ทั้งที่ถ้าเขาทำดีดีก็ได้อยู่แล้ว แต่เขาไม่ต้องการเรียนโรงเรียน ถึงจะมั่วก็ยังติดมาตรฐานโรงเรียนอยู่ที่ไหน เขาเดินเข้าโรงเรียนอย่างหัวเสีย เข้านั่งลงที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกเรียน ไม่มีใครรู้จักกันแต่เด็กเข้ากันง่าย มีลูกบอลเพียงลูกเดียวก็เป็นเพื่อนกันได้

“นายเรานั่งด้วยคนดิ”

“...” เขาไม่ตอบได้แต่มองหน้า

“หวัดดีเราชื่อโอ๊ตนายล่ะชื่ออะไร” เด็กใหม่ทักทายก่อนนั่งลงบนม้าหินอ่อนฝั่งตรงข้าม

“โอ๊ต”

“ชื่อเดียวกันเหรอ ชื่อโหลว่ะ นายมาจากโรงเรียนอะไร”

“เซนต์...”

“โห้ โรงเรียนคุณหนู” เด็กตรงข้ามยิ่งแฉ่งจนหน้ารำคาญใจ “เรามาจาก อนุบาล”

“อือ”

“เหมือนนายจะเซ็งๆนะ งั้นเราไม่กวนแหละ” ว่าแล้วเด็กใหม่เอาเซาว์เบาท์ออกมาฟังเพลง

“เห้ยนาย ม.1 เอาเซาว์เบาท์มาโรงเรียนได้เหรอ”

“นี้โรงเรียนรัฐนะครับ สบายอยู่แล้ว ระวังหายอย่างเดียวเป็นพอ” เด็กคนนั้นมองหน้า “หรือตอนนายอยู่โรงเรียนเก่านายไม่เคยเอาไป”

“...” เขาเคย แล้วก็เอาไปทุกวันด้วย เด็กวัยนี้เพลงเป็นเหมือนน้ำมัน เพลงอะไรก็ว่าเพราะ

“ฟังป่ะ” โอ๊ตยืนหูฟังให้ เขารับแล้วไปนั่งฟังใกล้ๆ เขานั่งฟังอยู่พักใหญ่ พอที่จะคลายอารมณ์ขุ่นเคือง

“เห้ยโอ๊ต” ทั้งคู่หันตามเสียงเรียก

“อ่าวว่าไง” เจ้าของหูฟังตอบรับ

“มึงอยู่ห้องไหน”

“ห้อง 3 ว่ะ”

“อ่าวห้องเดียวกัน เพื่อนใหม่เหรอว่ะ”

“เออ”

“เราเก่ง นายชื่ออะไร”

“โอ๊ต” เขาตอบเรียบๆ

“อ่าวชื่อเดียวกันเลยนี่หว่า”

“อืม งั้นมึงเรียกกูว่า ข้าว นายก็ด้วยโอ๊ต ต่อจากนี้กูชื่อข้าวจำไว้” เจ้าของเซาว์เบาท์ท่าทางร่าเริง และชื่นชอบชื่อนี้มาก

“เออ ข้าว – โอ๊ต” ไม่สับสนดี แต่มันคู่กันนะโว้ย

“ชื่อกูนะข้าวโอ๊ตอยู่แล้ว”

“โอ๊ตก็มาจากข้าวโอ๊ตทั้งนั้นแหละไอ้บ้า”

“เออน่า...”

...เพียงไม่ถึงนาทีเขาก็มีเพื่อนแล้ว เขาคิดในใจเพียงว่า เคยคิดจะถามเขาสักคำไหมว่า เขาอยากเป็นเพื่อนหรือเปล่า ไม่นานนักเสียงอ๊อดตั้งแถวก็ดังขึ้น

“เห้ยโอ๊ต อยู่ห้องอะไร”

“8” เก่งสะกิดข้าว

“ทำไมว่ะ” ข้าวถาม

“ห้อง 8 ห้องเด็กมีปัญหาว่ะ” เก่งบอก “ไปเหอะสายแล้ว”

“โอ๊ต อย่างไงเรากับนายก็เพื่อนกันนะ แล้วเจอกัน”

...อย่างที่เก่งพูดห้องนี้เป็นห้องเด็กมีปัญหา มีแต่พวกสวะเต็มไปหมด ตั้งแต่พวกไม่ส่งงานอาจารย์ คุยกันในห้อง เล่นกันในห้อง เอาเสื้ออกนอกกางเกง โดดเรียน ซ้ำชั้น ไปจนถึง ดูดบุหรี่ (เห็นว่ามีติดยาด้วย) รวมอยู่ที่ห้องนี้ ทั้งๆที่ 1 ระดับชั้นมี 14 ห้อง ห้องนี้เป็นเดนจริงๆไม่ว่าจากปากอาจารย์ หรือ ใครๆ นับวันโอ๊ตยิ่งรู้สึกคิดถึงสังคมเก่าๆ เพื่อนที่ดี เพื่อนที่ทำงานร่วมกัน ตั้งใจเรียน สภาพต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่เดียวที่เขาสามารถเก็บเกี่ยวความรู้ได้ คือ ที่เรียนพิเศษ เขาได้พบเก่งกับข้าวอีกครั้ง โอ๊ตเริ่มสนิทกับทั้งคู่มากขึ้น ใช้เวลากับทั้งคู่มากขึ้น ทั้งคู่ยินดีและไม่รังเกลียดเขาเลยแต่นิด จนเทอม 2 โอ๊ตเริ่มมีเพื่อนที่ห้องมากขึ้น มีกลุ่มของเขาที่ตั้งใจจะเปลี่ยนห้องสวะ ห้องแห่งกลิ่นโคลน สาบควาย ให้เป็นเพชร โอ๊ต จึงเริ่มห่าง ข้าวกับเก่งมากขึ้น แต่ทั้ง 3 ยังคนเรียนพิเศษที่เดียวกัน

...เวลาผ่านไปจากเดือน เป็นปี จาก ปี ก็ครบ 3 ปี ทั้ง 3 คนสนิทกันมากขึ้นแต่ถึงแบบนั้น ม.ปลาย ต่างคนก็ต่างเดินตามทางของตน เก่ง ไปเรียนที่กรุงเทพ ส่วนข้าวกับโอ๊ตต่อโรงเรียนเดิม จาก ม.ต้น ที่เป็นโรงเรียนชายล้วนสู่ ม.ปลาย ที่กลายเป็นโรงเรียนสห จากเด็กกลายเป็นวัยรุ่น ข้าวกลายเป็นหนุ่มที่เนื้อหอม ติดหนึ่งในสามหนุ่มหล่อในโรงเรียน มีสาวๆทั้งในและนอกโรงเรียนคอยตามกรี๊ด แต่แล้วข้าวก็หักอกผู้หญิงหลายๆคน ด้วยการคบกับเมย์ สาวสวยประจำโรงเรียนสตรีล้วน

“โอ๊ต... เห้ยโอ๊ต” ข้าวเรียกโอ๊ตหลังจากที่เรียนเสร็จ เตรียมตัวกลับบ้าน

“มีอะไรข้าว”

“วันนี้นายว่างเปล่า”

“ว่าง วันนี้มาเรียบร้อยนะมึง มึง – กู เหมือนเดิมก็ได้”

“...โอ๊ต ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ”

“ไปไหน”

“ไปสวน เราเซ็งๆ ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย”

“เออได้ แต่กูมีเรียนตอน 5 โมงนะ”

“เออได้”

...โอ๊ตขี่รถข้าวมายังสวน สวนในที่นี้คือสวนสาธารณ ภายในสวนจะมีบ่อน้ำพูขนาดใหญ่ มีถนนซีเมนท์กว้างประมาณ 2 เมตร สำหรับวิ่งออกกำลังกาย ข้าวกับโอ๊ตทิ้งตัวลงที่สนามหญ้าใต้ร่มไม้ ลมพัดโชยอ่อน อากาศเย็นสบายสนามหญ้าสีเขียว และธารน้ำที่ไหลริน พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ฟ้าสีน้ำเงินครามตัด แสงอาทิตย์สีส้ม จนฟ้ากลายเป็นสีชมพู – ม่วง ตรงลอยต่อระแสงอาทิตย์กับท้องฟ้า บรรยากาศหน้านอนสุดๆ ไม่ก็โรแมนติกสุดๆ ถ้ามีคนมาบอกรรักกันที่นี่ คงไม่ยากเลยที่จะไม่สำเร็จ

“เป็นอะไรว่ะ” โอ๊ตถามขึ้น

“เราเลิกกับเมย์แล้ว”

“เห้ย คบมาเกือบเทอมนี้นะ”

“อืม เรารู้สึกว่าเราเหมือมีเขาไว้เป็นตัวแทนคนอื่น”

“เห้ย คิดมาก มึงไม่เคยมีแฟน ใครจะแทนเมย์”

“โอ๊ตไม่เข้าใจ เวลาเราไปไหนกับเมย์ เรารู้สึกว่าจะดีกว่าถ้าเราได้อยู่กับอีกคน”

“อ่าวไอ้นี่เล่นชู้”

“เห้ยไม่ใช่”

“สาวที่ไหนว่ะ”

“...”

“เห้ย อย่าบอกนะว่ามึงชอบไอ้เก่ง มันไปเรียนกรุงเทพเป็นปีแล้ว พึ่งรู้ตัวเหรอ”

“ไอ้บ้า ผู้ชายรักกับผ้ชาย โอ๊ตรับได้เหรอ”

“ไม่รู้ดิ กูไม่เคยมีความรัก”

“...”

“มึงบอกกูได้ยัง ว่าคนนั้นใคร”

“...”

“เห้อ... ตามใจมึงหากว่าใช่ มึงก็คบคนนั้นเถอะ แต่คิดดีๆนะ”

“อืม...” เราสองคนนั่งเงียบมองไปยังเบื้องหน้า ใต้ร่มไม้ ฟ้าสีคราม ปล่อยใจ โดยไม่คิดอะไร “โอ๊ต”

“หืมห์”

“...”

“ไอ้เชี่ยนี้เรียกกู เรียกกูแล้วไม่พูด” มันหันมามองหน้าผม ใบหน้าเรียวได้รูป ผิวขาวของมันกระทบกับอาทิตย์ยามเย็นดูเป็นประกาย จมูกที่โด่งได้รูป คิวหนาดำเรียวยาว ตากลมโต นัยน์ตามันต้องการสื่ออะไรบางอย่าง เต็มไปด้วยคำถาม คิ้วมันแถบขมวดเป็นปม เล่นทำให้โอ๊ตใจสั่น ข้าวค่อยยื่นหน้าช้าๆ จนริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน มันไม่เหมือนเกมลูกอมสัมพันธ์ที่เล่นกันตอนเข้าค่าย มันไม่ใช่เพียงริมฝีปากชนกัน มันเหมือนถูกดูดลมหายใจ แล้วถูกเติมเต็มด้วยลมหายใจของข้าวเช่นกัน

“เราไม่ได้เรียกนาย แต่คนที่เราคิดถึงตลอดเวลาคือนาย คนที่เรามีเรื่องอะไรแล้วอยากคุย อยากแชร์ความรู้สึกด้วยคือโอ๊ต ไม่ใช่เมย์” คำพูดของข้าวทำให้โอ๊ตได้สติ

“เออ กูต้องไปเรียนแล้ว” โอ๊ตรีบคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วรีบกลับบ้านทันที เย็นนั้นเขาไม่ได้ไปเรียนพิเศษแต่อย่างใด เขาขังตัวเองอยู่ในห้อง เขาจะทำอย่างไรต่อไป เขาควรทำอย่างไร นานาคำถามที่อัดอยู่ในสมอง

กรี๊ง... กรี๊ง... กรี๊ง... โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น ข้าว โทรหาเขา เขาทำใจอยู่พักหนึ่ง

“ฮะโหล”

“ฮะโหล นึกจะไม่รับสายเราสะแล้ว โอ๊ต...อย่าพึ่งพูดอะไร เราขอโทษที่ทำให้โอ๊ตเครียด เรามานายที่เรียนพิเศษ เขาบอกวันนี้โอ๊ตไม่มา เราขอโทษอย่าโกรธเราเลย”

“ข้าว เราขอโทษ เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้”

“มันก็ไม่แปลกหรอกโอ๊ต เพราะนายเป็นผู้ชายคนแรกที่เราบอกรัก และ...”

“เออนะ”

“...”

“...”

“...”

“จะพูดไหม ถ้าไม่เราจะว่างแล้ว”

“เดี๋ยว เราอยากรู้คำตอบ มันอาจจะเร็วไป แต่เราก็อยากรู้ว่าอย่างน้อยนายเกลียดเราไหม”

“เราไม่เกลียด แต่อย่างที่เราเคยบอกว่าเราไม่เคยมีแฟน เราไม่รู้จะทำอย่างไร”

“งั้นต่อไปนี้เราจะค่อยดูแลนาย จนถึงวันที่นายตัดสินใจ พรุ่งนี้เราไปรับนะ”

“อืม”

“ออ เราย้ายคอสเรียนพิเศษไปเรียนนอบเดียวกับนายหมดแล้วนะ”

“เห้ย”

“นะเราขอ เดี๋ยวเราไปทานข้าวก่อนนะหิว โอ๊ตกินข้าวยัง”

“ยัง”

“เดียวเราไปรับนะ”

...หลังจากวันนั้นข้าว - โอ๊ตสนิทกันมากขึ้น ความรู้สึกดีดีที่ทั้งคู่มีให้กันมันมีมากขึ้นเช่นกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ โดยเขารับรู้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันเท่านั้น สำหรับโอ๊ต ข้าวคือคนที่พิเศษที่สุด เพื่อนที่สนิทของทั้งคู่เท่านั้นที่รู้กันว่าทั้งคู่เป็นอะไรกัน ทั้งคู่มีโอกาสลงคอสเรียนพิเศษที่กรุงเทพ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากขึ้น ทั้งคู่สร้างความฝันด้วยกันคือการเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งด้วยกัน หรืออย่างน้อย อยู่ที่กรุงเทพด้วยกัน

...พอกลับมาทั้งคู่มุ่งมั่นกับการเรียนมากขึ้น ข้าวมาค้างคืนที่บ้านโอ๊ตเพื่อมาติวหนังสือกัน ทั้งคู่ค่อยเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอเพื่อความฝันที่คาดหวังไว้ และแล้วการสอบเอนท์ทรานและการเลือกคณะก็ผ่านพ้นไป ข้าวกับโอ๊ตเลือกมหาวิทยาเดียวกันทั้ง 4 อันดับ แต่คนละคณะตามแต่ความสามารถของใคร ทั้งคู่ได้ใช่ชีวิตของวัยรุ่นอีกครั้ง ทั้งคู่ไปสวนเสเฮฮากับกลุ่มเพื่อนตามประสาก่อนกลับมารับข่าวจากทางศูนย์

กรี๊ง...กรี๊ง...กรี๊ง...

“ว่าไงข้าว”

“ผลเอนท์ออกแล้ว เราไปดูบ้านโอ๊ตได้ไหม”

“ได้มาดิ”

...ไม่นานนักข้าวก็มาที่บ้าน

“โอ๊ตติดที่ไหน” ข้าวถาม

“กำลังโหลด ข้าวอ่ะ”

“รอดูของโอ๊ตก่อน”

“มาแล้ว มาแล้ว”

“ติดที่ไหน”

“ติด ม.XX ที่บ้านอ่ะ ข้าวมาดูดิ ว่าติดที่ไหน”

“ไม่ต้องหรอกโอ๊ต” ข้าวเดินออกจากบ้านตรงไปที่สวนหน้าบ้าน ที่เรานั่งเป็นประจำ

“ทำไมข้าวเอนท์ไม่ติดเหรอ” เขาถามขึ้นหลังเดินมาถึงศาลา

“เปล่า เราติดที่ TT (กรุงเทพ)”

“ทำฝันของเราสำเร็จสินะ”

“โอ๊ต”

“ครับ”

“เราเลิกกันเถอะ”

“ทำไม”

“เราคิดแล้วทั้งคืน”

“ทำไม”

“มันไกลกันนะ”

“เราไปหากันก็ได้นิ”

“โอ๊ต มันไม่ง่ายขนาดนั้นนะ 4 ปี ที่เราต้องแยกกันอยู่นะ”

“แล้วคิดว่า 4 ปีนายจะไม่ติดต่อเราเลยเหรอ”

“ติดต่อแต่ห่างกันขนาดนั้นเราทำใจไม่ได้”

“ข้าว”

“เราขอโทษ เรากลัวใจตัวเอง เรากลัวนายมีคนอื่น เราเลยคิดว่าเราเลิกกันน่าจะดีกว่า มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะพอเราไกลกัน ห่างกัน การลืมกันมันจะเกิดขึ้นเสมอ เวลาทำให้เราพบกัน เรากลัวว่าวันหนึ่งมันจะพาเราจากกัน อย่างน้อยวันนี้มันก็แยกเรากับนายให้ห่างกัน อย่างน้อย 4 ปีนะ 4 ปีที่เราต้องรอกันและกัน ไม่เจอหน้ากัน ไว้ให้เรามีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้ง ตอนนั้นเราจะขอนายแต่งงาน เรายอมโดนตัดพ่อตัดลูก เรายอมไม่เอามรดก ถ้าเป็นแบบนั้นนายจะรอเราไหม”

“รอ”

“สัญญานะ อีก 4 ปี”

...4 ปี ที่นิสิตปี 1 ว่ามันนานแสนนาน 4 ปี ที่สำหรับผมตอนนี้มันแสนสั้น สัญญาที่เคยมีให้กัน อย่างน้อยสิ่งที่ข้าวพูดมันก็ถูก ตรงที่ว่าเมื่อเราเริ่มห่าง เราก็จะลืมกันไปเองสัญญานั้นผมไม่เคยลืม แต่การติดต่อกันเราห่างกันจนมันเป็นการเลิกกันโดยปริยาย

...ตอนนี้เวลาก็เล่นตลก เพราะเวลาพาเขากลับมาอีกครั้ง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอนที่ 50

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ชอบนิสัยโอ๊ตเลย รับไมได้ :beat:
แคร์คนอื่นๆ น้อยซํกนิด บางครั้งก้อไม่เป็นไร
แต่กับคนข้างๆ คนพิเศษ
เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เรอะ
ขนาดแม่เตือนนะ
เฮ้อ! คนเก่า...
สงสารแซนด์

gboy

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Y2Y

  • บุคคลทั่วไป


ปมใหม่ที่ต้องค่อยๆแก้มาอีกแล้ว

งานนี้ท่าจะยากสำหรับไอ้แสบซะแล้ว  เพราะเท่าที่ดูข้าวก็เป็นคนดี น่ารัก แถม หล่อด้วย


ออฟไลน์ tagloveX-Mark

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-6
โอ้ว งานเข้า

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อออออออออ
เอาแล้วไงเนี่ย
รักแรกหรือว่ารักใหม่
จะเอาอะไรกันดี

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

แหม่  กว่าจะได้เข้ามาอ่านได้
 o7

สิ้นปีงี้ล่ะ งานเยอะ

อะไรนี่ มีความหลังกะเค้าด้วย ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อีตอนมัธยม ทำไมไม่มีแบบนี้นะ?? (พูดยั่งกะคนแต่งมันมี  :laugh: )

สองตอนล่าสุด ให้โลห์ คนเขียนไปเลย โลห์รางวัลอะไรไม่อาจบอกนามได้ หึหึหึ

ขอบคุณและจะติดตามครับ
ปล.กลับบ้าน สิ้นปีเน้อ

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
 :เฮ้อ: แล้วน้องแซนของเราจะเป็นงัยเนี้ยยยยยยยยยยย

morrian

  • บุคคลทั่วไป
 o22 โอ๊ต ไปรับปากว่าจะรอข้าวหรอเนี่ยยย

แต่บางครั้งเวลาก็ทำให้คนเราเปลี่ยนกันได้

เหมือนกัน แต่ถ้าข้าวไม่เปลี่ยน และมาตาม

สัญญาที่เคยให้ไว้ มาสู่ขอแต่งงานงั้นหรอเนี่ย??

แล้วน้องแซนจะทำยังไงอะ

รอลุ้นต่อไปนะคับ  :z3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :angry2:โอ๊ตตตตตตตตตตตตต  สงสารเซนต์ :monkeysad: o13

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
สงสารแซนที่สุด
สงสารข้าวรองลงมา
โอ๊ตเอ๊ย สัญญากับข้าวไว้ไม่ใช่เหรอว่าจะ "รอ"

บวกอีก 1 แต้มจ้า ขอบคุณนะ

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :z3:
พี่โอ๊ตใจร้าย

XTeND

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 51 จิตใจ... ร้อยคำนึง

“ไง...โอ๊ตสบายดีไหม” รอยยิ้มของคนที่ผมไม่เคยลืม มันยังคงเหมือนเดิม ข้าวเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน จะเปลี่ยนก็เพียงทรงผมเท่านั้น ทำทักทายทำให้ผมตื่นจากภวังค์

“อืม... สบายดี” ผมตอบไม่รู้จะพูดอะไรดี

“เรานั่งด้วยนะ” ข้าวนั่งลงข้างๆ ผม เขาก็เว้นระยะไว้ห่างพอควร ข้าวไม่ใช่คนมือไวใจเร็ว ให้เกรียติผมทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“...”

“โอ๊ตมาเที่ยวเหรอ”

“เปล่าเรามาฝึกงาน”

“อืม...” บทสนทนาถูกตัดไป ที่เหลือคือเสียงเงียบที่เราสองคนสร้างขึ้น ทามกลางคนที่เดินไปมา บัดนี้ผมทำได้เพียงนั่งมองพื้น เวลาผ่านไปนาน ผมเชื่อว่าข้าวเองก็รู้สึกผิดกับเรื่องในอดีต

“ปี 4 แล้วสินะ”

“ใช่...”

“เรายังไม่ลืมสัญญาหรอกนะ” ข้าวพูดขึ้น ผมรู้อยู่แก่ใจว่าข้าวต้องการสื่ออะไร

...ผมรู้สึกกระอักกระอวนใจแปลกๆ ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้ ไม่ชอบคำถามแบบนี้ ผมชอบอะไรที่ท้ายทาย แต่ไม่ชอบอะไรที่ต้องตัดสินใจ ผมควรหาทางออกอย่างไรดี และแล้วประโยคหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวผม

“สงบใจลง... แล้วค้นหาในใจของเจ้า ว่าใคร... คือผู้ที่เจ้านึกถึงอย่างแท้จริง”

...ผลค่อยหลับตาลงถอนหายใจช้าๆ สงบจิตใจตนเอง...

...ข้าวนั่งนิ่ง เขาคงรู้ว่าผมทำอะไร หลังจากที่ผมเงียบไปพักใหญ่ๆ ผมยิ้มให้เขา

“ข้าว... เราดีใจนะที่ข้าวยังจำสัญญาระหว่างเราได้ เราเองก็จำได้” เขายิ้มตอบ “แต่เราคงทำตามสัญญานั้นไม่ได้แล้ว เพราะเราเองมีคนที่ในใจแล้ว” ผมคิดว่ารอยยิ้มของข้าวจะจางหายไป แต่ไม่ใช่เขายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน

“ดีแล้วล่ะ...” เขาตอบก่อนมองไปเบื้องหน้า

“ขอบใจนะ”

“อืม... บางทีเราอาจอยู่ในโลกจินตนาการมากเกินไปก็ได้” เขาพูดเสียงเบา

“ว่าไงนะ”

“เปล่าๆ เออจำเก่งได้ไหม”

“จำได้ดิ”

“เออมันเรียนที่เดียวกับเราแหละ”

“ก็มันลงทุนย้ายจังหวัดมาเลยนิ ความฝันอันสูงสุดเลย”

“อืม รู้ไหมมันเป็นพรีเซนเตอร์นะ”

“โอ้ย เราจำหน้ามันไม่ได้แล้ว คงเปลี่ยนไปเยอะ”

“อืมก็เยอะแหละ มันผอมลงมาก” ช่วง ม.ต้น เก่งค่อนข้างท้วมนะครับ

“เห้ย อยากเจอว่ะ”

“ยังใช้เบอร์เดิมใช่ไหม”

“ใช่”

“เดี๋ยวเราติดต่อไปแล้วกันว่ามันว่างเมื่อไร มันก็บ่นถึงนายอยู่”

“อืม”

“เราไปก่อนนะ เพื่อนมันตามแล้ว” ผมพึ่งสังเกตเขาส่งความกันผ่านโทรศัพท์มือถือ (ไม่แน่ใจ Twitter หรือ BB) ใช้เทคโนโลยีคุ้มมาก แล้วข้าวก็จากไป การพบเพื่อนเก่า มันทำให้เรารู้สึกดี แต่ก็รู้สึกถึงช่องว่างของมัน ที่มันจะเริ่มห่างทุกวินาที ผมเริ่มคิดถึงกลุ่มเพื่อนของผม ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร ผมมองหลังของข้าวที่เดินหายไปกลับฝูงชนจนลับตาไป

“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เออวันนี้มีคนมาขอนั่งกับกูเยอะจริง เห็นกูเป็นเจ้าของห้างหรือไง ผมหันไปมอง ไอ้แสบครับ มันยืนยักคิ้วให้ผม มันมาพร้อมเป้ 1 ใบที่ดูไม่มีอะไรเลย

“กวนตรีน” ผมทัก

“อะไร พูดกับคนที่อยู่ในใจแบบนี้เหรอ”

“เห้ยรู้ได้ไง... เอ้ยได้ยินได้ไง” ความหมายเดียวกันนี้หว่า

“ก็พอดีมาทันอ่ะ มาตั้งแต่ทักทายแรกๆเลย”

“ได้ยินหมดว่างั้น”

“ใช่...”

“แทนที่จะเข้ามาช่วย”

“ก็อยากรู้ว่าจะตอบว่าไง”

“แล้วถ้าพี่ตอบตกลงกับเขาไปล่ะ”

“ผมก็จะไป...”

“...”

“ไปเอาปืนที่บ้านมาให้พี่”

“เราจะได้มีกันและกัน”

“อ่ะถูก...” --*-- ผมลุกเดินหนีเลย ท่าทางจะคุยไม่รู้เรื่อง

“ไปไหนหล่ะครับที่รัก” มันเดินตามผมมา “ล้อเล่นน่า... ผมอยากลองใจพี่ดูว่าพี่จะว่าไง”

“ก็บอกแล้วการกระทำสำคัญกว่าคำพูด”

“แล้วการหนีมาฝึกงานกรุงเทพ นี้มันอย่างไงครับ”

“เออ... ไอ้นั้นมัน ก็นะ”

“งั้นก็ทำ... แล้วกัน”

“เห้ยอะไร”

“กินข้าว”

“นะ”

...ผมกับไอ้แสบเลือกอยู่นานครับ สรุปกินแฮมเบอร์เกอร์ ผมเลือกเองและ ไอ้แสบเรื่องมากไอ้นู้นไม่เอา ไอ้นี้ไม่กิน กินแฮมเบอร์เกอร์แล้วกัน น่าจะประหยัด แต่ผมคิดผิดถนัด คนอะไรกินแฮมเบอร์เกอร์คนเดียว 3 อัน เฟรนฟราย 2 กล่องใหญ่ กระเพาะมันอยู่ไหน หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นเรื่อยๆ จนไปถึงเวิร์ดเทรน ไปสักการะท้าวพระพรหมตามธรรมเนียม

...หลังจากนั้นก็กินสเต็กสามย่าน (ยังกินได้อีก) ก่อนกลับ จะว่าไปแชนมันตะแง๋วตะแง๋วอยากกินข้าวหมูกรอบอนุสาว์รีย์ชัยฯต่อ แต่ผมไม่เอา แค่สเต็กก็ไม่หมดแหละ พอถึงห้องเพื่อนๆผม มันกลับมาหมดแล้ว มีบางคนได้หอแล้ว บางคนยังไม่ได้ ผมสองคนกลับมาค่อนข้างดึกแถมเหนื่อยมากๆ เลยขอตัวเข้านอนก่อน คำถามผมก็เฉยออกในเป้ของไอ้แสบมีแค่บ๊อกเซอร์ 2-3 ตัว อะไรของมันเนี้ย

“แซน ในกระเป๋าอะไรเนี้ย”

“บ๊อกเซอร์ ไม่ชินเหรอใส่นอนทุกคืน”

“เออ แล้วเสื้อผ้าแกล่ะ”

“ใส่ของพี่กับซื้อใหม่”

“แล้วชุดนอนล่ะ”

“ก็บ๊อกเซอร์ไง ไม่ชินอีกเหรอ”

“...” ...มันก็จริง

...ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผมอยู่ผมใช้อยู่ห้องชีวิตกับแซนเสียเป็นส่วนใหญ่ จะออกจากห้องก็เมื่อทานข้าวกลางวันกับข้าวเย็นเท่านั้น เพราะหลังจากที่เที่ยวตะล่อนทัวร์มันก็ไม่ที่ไปแล้ว ผมรู้สึกเบื่อกับการเดินห้าง หรือดูหนัง เลยนั่งๆ นอนๆ ไปหาโมเดวมาต่อตามประสา ส่วนแซนกินกับนอน นอนกับกิน ช่วงนี้เพื่อนๆ ผมเริ่มย้ายออกแล้ว คนสุดท้ายคือแอนกับเอ๋ เพื่อนซี่ผม แน่นอนวันที่เอ๋ย้ายของพี่โอมาพร้อมกับเจ้าไบท์ งานนี้เลยมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นอีก 1 อย่างคือดูแลมัน

...พอถึงวันเสาร์ผมกับแซนเตรียมตัวไปหาคุณพ่อ – คุณแม่แซน ผมแวะซื้อของไปไหว้ท่านพอไปถึงก็ได้รับการต้อนรับสู่เป็นอย่างดี ช่วงบ่ายๆ ป๋าออกไปคลุมคนงานข้างนอก เอิร์ธไปเรียนพิเศษ เลยเหลือแค่อาม้ากับลูกจ้า 2-3 คน สรุปผมที่ข้างบ้านแซน 1 คืนตามคำขอของม้า

“อาโอ๊ตอา…” ม้าเรียกผม ขณะผมช่วยม้าล้างจานหลังทานข้าวเสร็จ

“ครับม้า”

“ลื้อกับอาแซนเป็นอย่างไงบ้าง”

“เออ...ก็เรื่อยๆ นะครับ”

“อาป๋าลื้อรู้เรื่องละอย่าง”

“ยังไม่รู้แล้วครับ”

“วันก่อนอั๋วขอโทษนะที่โทรเข้าบ้านลื้อ”

“ไม่เป็นไรครับม้า”

“เห้อ... ลื้อน่าจะเป็นลูกผู้หญิงน่า... อั้วจะไม่หนักใจเลย” ไซโครเริ่มแล้วครับ

“อาเอิร์ธกวนลื้อไหม”

“ไม่ครับ เริ่มห่างๆแล้ว” เอ๋...มันดีหรือไม่ดีเนี้ย

“แล้วอาแซนล่า” เออ...คนนี้แหละม้าที่ติดผมแจ

“ก็เรื่อยๆ อะครับ” ผมโกหก ผมพอเข้าใจผู้ใหญ่ไม่ว่าฝ่ายแซน (ไม่เข้าแน่ใจว่าคุณพ่อแซนรู้เรื่องผมกับไหม) หรือฝ่ายผม (ที่มีแม่เพียงคนเดียวที่รู้) ว่าเขารู้สึกอย่างไร

“อาจักรอียังไม่รู้เรื่องอาแซน อีหวังอยากอุ้มหลานจากอาแซน เพราะอียังคิดว่าอาเอิร์ธ จีบลื้อผ่านอาแซน” คำตอบที่ไม่ต้องถาม...

...สรุปคุณพ่อแซน กับ พ่อผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ มีแต่คุณแม่ที่ทราบ เข้าใจ แต่ไม่เห็นด้วย --*-- เห้อ ชีวิต

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอนที่ 51

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1


จริ้มก่อน......และค่อยอ่าน

 :z13: :z13:

gboy

  • บุคคลทั่วไป

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่าจะยุ่งกว่านี้ซะอีกเรื่องข้าว 

แต่ว่าก็ใช่จะไม่มีอุปสรรค ยังเหลือด่านอรหันต์คือ พ่อ แม่ของทั้งสองอีก

สู้ๆ

tmbbutnt

  • บุคคลทั่วไป
"เราคงทำตามสัญญานั้นไม่ได้แล้ว เพราะเราเองมีคนที่ในใจแล้ว"

อ่านตรงนี้เแล้วอยู่ๆน้ำตาก็จะไหลพิกล

เหอๆ

^_____^

morrian

  • บุคคลทั่วไป
มาในแนวทางที่ดีแล้วล่ะคับ

สู้ๆ คับผม :L2:

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :กอด1:
โอ๊ต-แซน
หนทางยังอีกยาวไกล

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เด๋วเราไปดามใจข้าวให้  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด