วุ่นนัก...รักรุ่นพี่ UP UP UP!!! ตอนที่ 65 จุดเริ่มต้น 28-03-2553
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: วุ่นนัก...รักรุ่นพี่ UP UP UP!!! ตอนที่ 65 จุดเริ่มต้น 28-03-2553  (อ่าน 345261 ครั้ง)

morrian

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีปีใหม่ 2553 ด้วยเช่นกันนะค้าบโฟร์คเต่า

มีความสุขมากๆนะคับ

Gu_Ton_Za

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ตงานเข้าแล้วอ่ะ

แซนงอลแล้วอ่ะ


namtaan

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ

เพิ่งได้มาอ่านย้อนหลัง
จะว่าไปแล้วพฤติกรรมที่ผ่านๆมาของโอ๊ตนั่นหละ
ที่สั่นคลอนความไ้ว้วางใจ ความเชื่อใจของแซน
สงสารแซนมากกว่าอ้ะ

บวก 1 แต้มจ้า ขอบคุณนะ

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
รอโฟล์คเต่าค้าบ

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เด็กมันงอลแล้วแหน่ะ

-  -"
ง้อบ้างอะไรบ้างนะพี่โอ๊ต

55555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
 :L2:

รายงานสู้ ๆ นะค๊า

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่เทอจะมา??
 :call: :call: :call:

XTeND

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 54 BLOODY VALENTINe

...ตอนนี้แซนกลับไปเรียนได้เกือบ 2 สัปหาด์แล้ว ส่วนผมยอมรับครับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแซนเริ่มสั่นครอนอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแซนทำตัวเหมือนเรียกร้องความสนใจ และหึงหวง จนผมรู้สึกว่ามันมากเกินไป ปรกติเวลาฝึกงานพี่ที่ผมไปฝึกงานด้วยไม่ค่อยจอแจกับผมสักเท่าไร ท่าทางจะหวาดๆเรื่องที่ผมเป็นหลานผู้หลักผู้ใหญ่ขององค์กร นานๆทีจะมีคนมากล้าคุยด้วยที บางคนก็โชคร้ายมาทักตอนแซนโทรมาพอดี เลยมีสักนู้นสักนี้ไม่เว้นแม้นแต่ตอนพี่เขามาขอให้ช่วยทำงาน จนสุดท้ายพี่เขาต้องทำเอง นี้ยังไม่ร่วมเพื่อนที่ฝึกงานด้วยทุกคนโดนเหมือนกันหมด

...บ่ายแก่ๆ ที่ผมนั่งดูงานที่พี่เขาให้ดูแล้วสรุปส่งสุดสัปดาห์นี้ ผมนั่งดูมันเหมือนมันเป็นหนังสือเท๊คเล่มใหญ่ เห็นที่ไรง่วงทุกที ต้องกล้ำกลืนฝีนใจอ่านไป แล้วรีบสรุปๆให้มันจบ

“อ่าวว่าไงน้องโอ๊ต”

“อ่าว สวัสดีครับคุณลุง” ผมลุกขึ้นยกมือไหว้

“อ่าวๆ ไม่เป็นไร ลุงแค่มาทักทาย เห็นฝึกงานจะ 2 สัปดาห์แล้ว ยังไม่มีโอกาสทักเลย”

“ครับสบายดีครับ”

“คุณพ่อเป็นไงบ้างหล่ะ”

“สบายดีครับ”

“อืมดีแล้ว... เอาหล่ะทำงานเถอะ”

“ครับ” ผมยืนรอให้คุณลุงเดินผ่านไปก่อนที่จะนั่งลง

“เออ อย่างไงเวลาทำงานอย่าใช้โทรศัพท์ให้มากนักนะ” ท่านได้จากไปได้ 2-3 ก้าว แล้วหันกลับมากำชับผม

“ครับ ครับ” ผมทราบดีว่าตอนนี้หน้าของผมถอดสีอย่างเห็นได้ชัด จะทำอย่างไงได้หล่ะครับ ผู้ใหญ่ที่ท่านฝากฝังมาพูดแบบนี้ จะให้ดีใจหรือ งานนี้อีโอ๊ตซึมเลย หลังจากที่ทำงาน (ความจริงนั่งน้ำตาตกใน) ไปพักใหญ่ๆ

“เห้ยโอ๊ต” เอ็มทักขึ้น

“หืมห์”

“ได้เวลาเลิกงานแล้ว นั่งเหม่ออยู่ได้” เอ็ม น้ำ ก้อย และโอ๊ต มาบืนรอผมตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบได้

“โทษที่ นั่งคิดอะไรเผลินๆนะ”

“วันนี้ไปไหนดี” ก้อยถามขึ้น

“ไปเดินเที่ยวเซ็นทรัลก่อน แล้วค่อยว่า” เอ็มตอบ ส่วนผมได้แต่เดินอย่างไรจุดหมาย พวกผมเดินลงมาออกจากตึก

ปี้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!! เสียแตร่รถดังขึ้น มีใครคนหนึ่งฉุดผมขึ้น ข้าวครับ ผมยังงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

“น้องเดินดูถนนบ้างสิ”

“ขอโทษครับ” ผมรู้ตัวอีกทีผมอยู่บริเวณถนนใหญ่แล้ว

“เป็นอะไร ดูโอ๊ตใจลอยนะ” น้ำทัก

“เปล่า” ผมปด

...ตลอดทางผมเดินโดยไม่ได้พูดอะไรกับใคร และมีข้าวคอยยืนคุมอยู่ข้างๆ คอยจับ คอยดึง แขนผมเวลาข้ามถนน จนผมรู้สึกเหมือนคนตาบอด จนสุดท้ายเพื่อนๆ ที่ฝึกงานลากผมเขาแม๊กโดนอล

“เป็นอะไร” ข้าวถามขึ้น

“เปล่านิ”

“อย่าโกหก” น้ำแทรกขึ้น

“ใช่ๆ โอ๊ตไม่เคยเป็นแบบนี้นะ” ก้อยเสริม

“มีอะไรโอ๊ต” เอ็มถามซ้ำ ...เอาไฟฉายส่องหน้าเลยไหม จะได้บิวท์อารมณ์

“...”

“ไม่อยากพูดเหรอโอ๊ต” ข้าวพูดขึ้น ผมได้แต่ผยักหน้าเบาๆ ผมได้ยินเสียงทุกคนถอนหายใจ “แต่เรารู้เรื่อง เราได้ยินพี่เขาพูดกันเมื่อเย็น”

“จริงดิ มีอะไรว่ะข้าว” เอ็มพูดขึ้น

“ถ้าเจ้าตัวไม่อยากพูดเราอย่าเซ้าซี้ดีกว่า รอเขาพูดเองจะดีกว่า”

“อ่ะนะ” เอ็มตัดพ้อ   ผมได้แต่มองไปที่ข้าว ข้าวนั่งกอดอกมองมาที่ผม นัยตาที่มองผมนั้นเหมือนคนไร้ความรู้สึก

“ข้าวเล่าเถอะ เราไม่อยากพูด เรารับได้แค่ไม่อยากพูดถึง”

“แน่ใจ”

“อืม” ผมนั่งก้มหน้า

“โอ๊ตโดนลุงตำหนิเรื่องการคุยโทรศัพท์ขณะทำงาน” ข้าวพูดเสียงเรียบ

“แค่เนี้ย” เอ็มแทรก

“โอ๊ตเราทำผิดแล้ว มันไม่ผิดไปตลอดหรอกนะ” ก้อยพูด

“ใช่คิดมากว่ะ” น้ำเสริม

“ลุงเรามาพูดด้วยตนเองเราเลยรู้สึกแย่ว่ะ”

“แล้วคุยกับใครว่ะ” ข้าวถามขึ้น ผมมองหน้าข้าวก่อนก้มหน้า เหมือนข้าวรู้คำตอบ เขาถอนหายใจแล้วเบนหน้าหนี

“เอาน่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้เอาใหม่ อีกอย่างลุงก็แค่เตื่อน ต่อไปก็บอกคนที่โทรมาว่าไม่สะดวกจริงๆ เวลาทำงาน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องอีก” เอ็มพูดขึ้น

“เพื่อนๆ เขาเป็นห่วงที่แกเป็นแบบนี้” ข้าวเสริม

“ขอบใจ เราไม่มั่นใจแล้วอ่ะ พรุ่งนี้คงหาย”

“งั้นวันนี้เที่ยวให้เต็มที่เลย”

“วันนี้เราขอตัวดีกว่า เรารู้สึกเหนื่อย” ผมบอกเพื่อนๆ

“งั้น อาทิตย์นี้ บ่าย 2 ไปเที่ยวกัน”

“ทำไมต้องวันอาทิตย์ว่ะเอ็ม” ข้าวถามขึ้น

“วันตรุษจีน ไปขอแต๊ะเอียก่อน”

“ไอ้ห่านี้ เมิงโตขนาดนี้แล้วยังขออีกเหรอ”

“อิจฉากูอ่ะดิ”

...ผมนั่งดูพวกเพื่อนเขาเล่นกัน ผมเริ่มคิดถึงเดอะแก๊งค์ของผม รู้สึกว่าเราห่างกับกลุ่มเพื่อนเรื่อยๆ ส่วนมากคุยทางเอ็ม ไม่ก็โทรคุยกัน ทั้งๆที่ฝึกงานที่เดียวกันแท้ๆ เห้อ

...ผมขอตัวกลับมาห้อง ถึงเสร็จก็โทรรายงานแซนหน่อยว่าถึงแล้ว เดียวโดนว่าอีก ...สรุปไม่รับสายครับ สงสัยเล่นบอล ผมเลยนอนเกือกกลิ้งอยู่บนที่นอน พรุ่งนี้วันเสาร์จะนอนให้สมอุราเลย แต่วันนี้ขอนอนเล่นไปเรื่อยๆก่อน ผมนอนดูผนังห้องผมเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ งานสีขาวออกครีม เป็นสีส้ม แล้วก็สีม่วง ก็ที่จะมืดสนิท ผมนอนอยู่ในความมืดใจหนึ่งก็คิดอะไรไปเรื่อย ใจหนึ่งก็รอโทรศัพท์แซน เวลาว่างคุยไม่โทรมาคุย เวลาทำงานโทรมาเอาจริงเอาจังเห้อ ผมรู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว สรุปเมื่อคืนผมนอนตอนไหนยังไม่รู้ตัว วันเสาร์ผมจัดการจัดห้อง เอาเสื้อผ้าไปซักตามประสา กว่าจะเสร็จงานก็เย็น วันนี้ไร้วี่แววของโทรศัพท์ เออแปลกดี ผมโทรไปก็ไม่รับ จนผมโทรไปอีกที่หลังจากออกไปทานข้าวเย็น

“ฮะโหลว” แซนรับสาย

“อือ...กินข้าวยัง” ผมทักไปตามปรกติ

“ทานแล้ว”

“โทรไปไม่เห็นยิงกลับอ่ะ”

“ลืม”

“...”

“...”

“...เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า”

“แน่ใจ”

“แน่”

“ตรุษจีนมากรุงเทพป่ะ”

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ”

“ม้าไม่ว่า”

“ไม่”

“...”

“มีอะไรอีกไหม”

“ไม่มีอ่ะ”

ตุ๊ด...ตุ๊ด...ตุ๊ด... แซนตัดสายผมทิ้ง นี้มันอะไรกัน ผมเข้าใจแซนจริงๆ ดีพรุ่งนี้จะเที่ยวให้ลืมไปเลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“เห้ย อยู่ไหนว่ะ” เอ็มโทรถามผม

“เออ กำลังออกจากคอนโด”

“จะออกตั้งแต่ครึ่งขั่วโมงที่แล้วแล้วมั้ง”

“เออน่า”

...เมื่อวานผมนั่งคิดมากเรื่องแซนทั้งคืน วันนี้เลยตื่อนสาย ไม่สิ เขานัดบ่าย 2 ผมตื่น บ่าย 2.15 ก็เอ็มนี้แหละโทรตามผม ตอนนี้พวกเอ็มรออยู่ที่เยาวราชเรียบร้อยแล้ว ผมถามเส้นทางที่ไปใกล้ที่สุด สรุปกว่าจะถึงก็เกือบ 4 โมงครับ รถติดซะสะใจเลย ตลอดทางเดินมีของกินมากมายเลย ละลานตา ผมกินตั้งแต่เจ้าแรกถึงเจ้าสุดท้าย 555+

“ไปต่อไหนอ่ะ” น้ำถามขึ้น

“ท่าทางมีคนกินต่อไม่ไหวนะค่ะ” ก้อยกัดเราเหรอ

“ไปสามย่านไหม” เอ็มเสนอความคิด

“ไป” น้ำ ก้อย และข้าว ตอบรับ

“เดียวดิ ไหง๋ไม่บอกไปกินสเต็กสามย่านอ่ะ เราก็อยากกินนะ” ผมท้วง

“อ่าวช่วยไม่ได้เองนิ” เอ็มตอบ เอ็มใจร้าย

...หลังจากที่เดินทางไปสามย่าน ไปนั่งดูพวกเพื่อนใจร้ายนั่งกินสเต็ก อยากกินก็อยาก แต่ถ้ากินอีกผมอ้วกแน่ๆ กว่าพวกนั้นจะกินเสร็จปาไปจะสองทุ่ม มั่วละเมียดละมัย พูดง่ายๆยั่วผมนั้นแหละครับเซ็งๆ หลังจากนั้นเราก็ไปเดินย่อยกันต่อที่สยามผมสังเกตุที่วันนี้เขาเดินกันเป็นคู่ๆ ผมแอบเซ็งแฟนไม่มา ชิชิ ไม่มาแถมงี่เง่าใส่อีก

“วันนี้เขาเดินกันแปลกๆเนอะ” ผมทักขึ้น

“แปลกอย่างไง เขาใช้ก้นเดินรึ” เอ็มถามขึ้น ตั้งแต่สนิทนี้กวนบาทามากนะเอ็ม

“เปล่าเขาเดินเป็นคู่ๆโว้ย”

“ก็วันนี้วันวาเลนท์ไทน์นิ”

“อ่าวไหง๋ว่าวันตรุษจีนไง”

“ปีนี้มันวันเดียวกันโว้ย”

“อ่าวเหรอ”

“เออถึงว่าวันนี้ข้าวติดโอ๊ตไม่ห่างเลยนะ” น้ำแซว

“บ้าดิ” แล้วพวกผมก็เดินเที่ยวไปเรื่อยๆครับ จนมีคนเริ่มอยากกินไอศกรีมนั้นแหละ ไม่ใช่ใครก้อยครับ ที่เป็นอ้อน แถมอ้อนเอ็มด้วย แบบนี้มีหรือเอ็มจะไม่ยอม (เอ็มชอบก้อยครับ ใครเห็นก็รู้ ท่าทางก้อยก็รู้ แต่เอ็มไม่กล้าพูด) งานนี้ผมกินได้ เพราะอาหารเริ่มย่อยแล้ว

...พอไปถึงก็ไปนั่งโต๊ะติดกระจกเลย พวกผมก็เริ่มทยอยสั่ง ก่อนที่ เอ็ม ก้อย และน้ำ ขอตัวเข้าห้องน้ำ ก่อนทิ้งผมกับข้าวอยู่กัน 2 คน ยิ่งข้าวนั่งตรงข้ามผมด้วย ผมรู้ว่าข้าวยังไม่ตัดใจจากผมจากการกระทำหลายๆอย่าง แต่สำหรับผมเป็นเพื่อนแบบนี้ดีแล้ว แต่บรรยากาศวันนี้นะสิ สยามที่ประดับประดาด้วยโคมไฟรูปหัวใจหลากสี แหละหลอดไฟเล็กที่ส่องประกายเหมื่อนดาวยามค่ำคืน ไหนจะในร้านที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ และรูปหัวใจ บรรยากาศน่าบอกรักจริงๆ ข้าวนั่งก้มหน้าเหมือนจะพูดอะไร ส่วนผมก็นั่งก้มหน้า เพราะไม่อยากให้สิ่งที่คิดมันเกิดขึ้น

“เห้ย...นาย” เสียงดังขึ้นฝั่งข้าวครับ คนรู้จักมั้ง

ครืด... ผั๊วะ!!!

...ผมหันไปมองแซนยืนอยู่ตรงนั้น หายใจแรงมากครับ สายตาแซนจ้องมาที่ผม สายตาของความก้าวร้าวผสมกับความเจ็บปวด น้ำตาที่เริ่มเอ่อ ส่วนข้าวล้มลงไปกองอยู่กับพื้น กำลังเช็ดเลือดที่ไหลออกจากปาก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอนที่ 54

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

...ไม่แต่งนานฝีมือตกแน่เลย ขอโทษด้วยครับ สอบแล้ว งานยังไม่เสร็จ ส่งพรุ่งนี้ด้วย แม่เจ้า...

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
:z13: :z13: :z13:
อ่านพุ่งนี้นะคับคุณโฟล์คเต่า
ง่วงมากกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เอ่ออออ เราว่า ต้องเคลียร์นะแบบนี้
หมายถึงแบบ พี่โอ๊ตก้อต้องเคลียร์ตัวเองอ่ะ
แซนมันก้อทั้งรักทั้งหวงนี่เนอะ ๆ

ยังไงก็เปนกำลังใจให้นะค๊า  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ไม่รู้เด่ะ งานนี้เข้าข้งแซนหว่ะ เราว่าโอ๊ตทำอะไรไม่นึกถึงความรู้สึกแซนหลายครั้งแ้ล้วอ่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 o18โอ๊ตงานเข้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  สงสารแซนนนนอะ  โฟกเต่าสู้ๆๆๆๆๆๆๆงานเยอะเหมือนกานนนนนนน o13

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
งานเข้า แต่เข้าใครไม่รู้

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ขอยืนอยู่ฝ่ายแซนแล้วกันนะ
เพราะโอ๊ตทำตัีวแบบนี้มาตลอดไม่ให้น้องมันหึง หวง ได้ไง
ยิ่งอยู่ห่างกันแบบนี้อีกด้วย
งานนี้โอ๊ตโกรธแซนอีกสิ จะเคืองตัวเองบ้างมั้ยนะ
เชียร์แซน เข้าข้างแซนอ้ะ

บวก 1 แต้มให้นะ รอตอนหน้าจ้า


DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
มีงานเข้า่สิคะ

อย่างนี้มันต้องเคลียร์

ต้องซักฟอกกันให้ขาวไปข้างหนึ่ง

morrian

  • บุคคลทั่วไป
 :a5: วาเลนไทน์เลือด เลยหรอเนี่ยย!!!!!!!!

ก็คนมันไกลกัน สามารถทำให้เราจินตนาการไปต่างๆนาๆได้

แซนรักมาก ถึงหึงมาก แบบนี้ ต้องใช้คำว่า รักกันก็ต้องเชื่อใจกัน

เอาเป็นว่า ได้เลือดแล้วก็ต้องคุยกันซะนะ เหอๆๆๆ

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
ฝีมืออ่ะไม่ตกหรอกครับ
แต่งานนี้งานเข้า
งานเข้ากันหมด
โอ๊ตก็ด้วย ข้าวนี่ซวยสุดๆ
เฮ้อออออออออ
แซนด์เอ้ยยยยยยย

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
โถ ข้าว น่าสงสารมาก ที่โดนเข้าใจผิด 

เคลียร์กักนเร็วนะ

XTeND

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 55 บทลงโทษ

...ภายในร้านไอศกรีมเงียบสนิท ทุกคนต่างจับจ้องมาที่โต๊ะผม หลายคนอึ้งกับเหตุการที่เกิดขึ้น หลายคนหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพนักงานเสิร์ฟที่หนีไปอยู่บริเวณเคาวเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แซนหันควับไปยังข้าวที่ยังนั่งกองอยู่กับพื้น ก่อนพุ้งกำปั้นเข้าหาข้าว

“เห้ย!!!” เสียหนึ่งดังขึ้น แซนถึงกับหยุดชะงัก มีเสียงโครมครามตามมา พวกเอ็มกลับมาแล้ว

“นี้มันอะไรเนี้ย” น้ำถามขึ้นพลางผยุงข้าวขึ้นมา โดยมีก้อยค่อยช่วย
 
“มีอะไรครับน้อง!!!” เอ็มตะคอกใส่แซน เหมือนครูฝึก รด. หลังจากที่ดูข้าวเสร็จ เอ็มไม่รอช้าพุ้งเข้าหาแซน แซนกำกำปั้นรอสวนกลับ

“หยุด!!!” ผมมาวิ่งกันระหว่างทั้งสอง “มันเกิดเรื่องเข้าใจผิดนะ”

“เข้าใจผิดถึงขนาดมาต่อยกันโดยไม่ถามอะไรสักคำนงั้นเหรอ”

“ประมาณนั้น เราขอโทษแทนน้องเขาแล้วกัน”

“มันเป็นใครว่ะโอ๊ต ทำไมต้องปกป้องมันด้วย มันทำเพื่อนเรานะโว้ย เพื่อนนายด้วย”

“...นั้นแฟนโอ๊ต” ข้าวพูดเสียงเรียบ น้ำกับก้อยหันไปมองที่แซนพร้อมกัน น้ำกับก้อยไม่ทราบว่าผมเป็นอะไร ส่วนเอ็มอึ้งไปพักหนึ่ง

“เราขอโทษ” ผมคำนับ ขอโทษอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอกเป็นเราก็คงเข้าใจผิด” ข้าวพูด หลังจากที่ลุกขึ้นยืนเรียบร้อยแล้ว ผมหันไปมองที่แซน แซนท่าทางเลิกลักเหมือนทำอะไรไม่ถูก

“เราขอโทษที่ทำให้งานกร่อย เราขอตัวก่อนนะ” ผมบอกทุกคนอีกครั้ง เอ็มท่าทางงง ก่อนเออ ออ ตาม ผมหันหลังเดินออกไป แซนเดินตามผมอย่างว่าง่าย เหมือนสุนักที่ทำอะไรผิดสักอย่างแล้วโดนเจ้านายเอ็ดเอา

...ผมตรงดิ่งกลับหอ ตลอดทางผมไม่พูดอะไรกับแซนสักคำ ด้วยเพราะผมเองเป็นคนอารมณ์ร้อนถ้าพูดตอนนี้ระเบิดแน่ ผมพยายามสะกดอารมณ์ตนเอง แซนเองก็รู้หมือนกัน ตลอดทางแซนแค่เงียบ และเดินตามผม

...พอถึงห้องผมเหวี่ยงประตูเข้าไป ยอมรับว่ายังโกรธอยู่ ผมโยนทุกอย่างลงบนเตียงก่อนเดินไปหาน้ำมาดื่มดับอารมณ์ แซนเดินเข้ามาปิดประตู และนั่งก้มหน้าบนเก้าโซฟารับแขก ผมถือแก้วน้ำมาวางบนโต๊ะ แล้วนั่งตรงข้ามกับแซน ผมกับแซนนั่งจ้องแก้วน้ำนั้นเหมือนหวังให้มันเคลื่อนที่หรือลอยได้ ผมไม่รู้จะเริ่มอย่างไงดี ส่วนแซนรอรับผลกรรม

“มาตั้งแต่เมื่อไร” ผมถามขึ้นหลังจากเพ็งกระแสจิตให้แก้วน้ำนั้นลอยได้ แต่ก็ไม่เป็นผล

“วันศุกร์ครับ”

“...” ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ สมองตันชั่วคราว

“ผมเห็นพี่ไม่รับสายผม ผมเลยตัดสินใจลงมาหาพี่ที่นี้”

“แล้วรู้ไหมทำไมพี่ไม่รับสาย”

“ผมคิดว่าพี่... มีคนอื่น”

“เหอะ...ที่ไม่รับสายนะ เพราะพี่โดนผู้ใหญ่เขาตำหนิ พี่พยายามจะบอกแซนหลายครั้งแล้วนะ ว่าพี่ทำงาน พี่ฝึกงาน พี่ไม่ได้ว่าง พี่ไม่ใช่โอเปอเรเตอร์ที่จะรับโทรศัพท์ได้ 24 ชั่วโมง ทำไมไม่เชื่อใจพี่บ้าง”

“ก็...”

“ตอนประชุมพี่ว่าพี่บอกไปรอบนึงแล้วนะ พี่นึกว่าจะเข้าใจมากขึ้น แต่ดูเหมือน เปล่าเลย มันกับแย่ลงกว่าเดิมอีก” ผมพูดรัวที่เดียวก่อนหยุดหายใจ มองไปที่อื่นให้ใจเย็นลง (เตรียมระเบิดรอบ 2)

“ผมรู้ดี แต่มันก็อดไม่ได้ พอรู้สึกว่าห่างกัน แล้วยังไม่ค่อยได้คุยกันอีก ผมก็กลัว กลัวว่าพี่จะมีคนอื่น ผมกลัว” แซนก้มหน้าตอบผม

“แล้วเป็นไง?”

“วันศุกร์ผมมาทันพี่เลิกงาน ผมเห็นพี่กลับกะเพื่อนๆ ผมก็สบายใจตอนแรกก็ไม่คิดอะไรแล้ว”

“แล้ววันเสาร์โทรไปทำไมไม่รับ” ผมยิงคำถามไปเลย

“วันเสาร์ผมมารอใต้คอนโดฯ ผมลืมเอามือถือมาด้วย ผมมารอดูเห็นพี่ทำงานบ้านทั้งวัน พอตกเย็นก็ช่วยม้าเตรียมของไหว้ วันนี้เช้าผมก็ต้องช่วยงานกว่าจะเสร็จก็บ่ายแก่ๆ กะจะมาเซอรืไพรพี่ เห็นลุงยามบอกว่าพี่ออกไปแล้ว ผมเลยไปเดินเล่นสยาม เห็นแว๊บๆ พี่กับเขาเดินมา 2 คน ไม่รู้ว่าข้างหน้านั้นเป็นเพื่อน หลังจากนั้นผมก็เดินตามหาทั่วสยามแต่ก็ไม่เจอ เดินไปทุกร้าน คนเห็นพี่กับเขาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 มองจนมั่นใจว่ามากัน 2 คนแน่เลย...”

“เลยต่อยเขา”

“ครับ” แซนยังคงก้มหน้าตอบผม

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อีกฝ่าย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

...ผมได้แต่โทษตนเองที่ทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบ ถ้าผมใจเย็นกว่านี้ เรื่องคงจบด้วยดีกว่านี้แน่ ผมรู้สึกผิดเมื่อได้ร็ความจริงหลายอย่าง มันไม่แปลกที่พี่โอ๊ตจะโกรธ จะเคืองผม ถ้าเป็นผมผมคงระเบิดไปนานแล้วแน่ ผมพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ความโกรธ ความโมโหตนเองกับความเสียใจในสิ่งที่ทำ มันไหลรินออกจากนัยตาทั้งสอง แต่ก็ทำไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือพยายามเก็บเสียงให้เงียบที่สุด เผื่อที่จะไม่ให้พี่โอ๊ตคิดว่าผมเอาน้ำตามาขอความเห็นใจ

...ครืด...

...พี่โอ๊ตลุกขึ้น เสียงก้าวเท้าเดินมาที่ผม พี่เขาคงโกรธและเกลียดผมมาก หากจะบันดานโทษะจะเตะจะต่อย ผมก็เชิญ เพราะผมยอมรับว่าผิดจริง และมันคงเจ็บไม่เท่าที่เจ็บใจตนเองกับความผิดครั้งนี้

...พี่โอ๊ตยื่นอยู่ข้างหน้าผม ผมได้แต่รับการลงโทษ

...ฟุ๊บ...

...พี่โอ๊ตกอดผม ไออุ่นจากร่างกาย อ้อมกอดของพี่โอ๊ต มันทำให้ผมมีความสุขมาก แต่นั้นก็ทำให้ผมเจ็บมากเช่นกัน เจ็บใจที่ทำอะไรโดยไม่คิด ผมเก็บอารมณ์ไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมร้องไห้ออกมาอย่างไร้ซึ่งยางอาย น้ำตาลูกผู้ชาย คำนี้ไม่มีความหมายกับผมแล้ว ฝ่ามือของพี่โอ๊ตลูปหัวผมช้าๆ

“ไม่เป็นไรนะ...ไม่เป็นไร พี่เข้าใจแล้ว”

“...” ผมไม่รู้จะตอบอะไร  ผมทรุดตัวลงไปนั่งคุกเขากอดพี่โอ๊ต

“ต่อไปฟังพี่บ้างเข้าใจไหม”

“ครับ ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมขอโทษ”

“ไม่เป็นไร” พี่โอ๊ตพยายามผละออกจากอ้อมกอด แต่ผมไม่ยอม ผมกอดพี่โอ๊ตแน่ ไม่อยากให้พี่เขาเห็นน้ำตา

...พี่โอ๊ตกอดผมและลูปหัวผมอยู่อย่างนั้นอยู่พักใหญ่ๆ โดยไม่พูดอะไร ผมค่อยๆเย็นลงช้าจึงเริ่มคลายกอด พี่เขาผละออก ผมเห็นรอยยิ้มพี่เขา รอยยิ้มที่มีแต่ความอบอุ่น ผมก้มหน้าใจหนึ่งความรู้สู้ผิดมันกลับมาอีกครั้ง อีกใจอายกับคราบน้ำตา มือของพี่โอ๊ตจับที่หน้าของผมแล้วดึงขึ้นช้าๆ ก่อนที่นิ้วของพี่โอ๊ตจะเช็ดคราบน้ำตานั้น พี่เขายังยิ้มให้ผม

“ผมขอโทษ”

“อืม...พี่ก็ขอโทษเราเหมือนกัน พี่รู้ว่าเราห่างกัน แต่ไม่ได้คิดว่าจะทำให้ความรู้สึกแซนห่างไปด้วย พี่เคยบอกว่าพี่ให้ความสำคัญของการกระทำมากกว่าคำพูด แต่ถ้าแซนรู้สึกห่างแบบนี้ แสดงว่าพฤติกรรมพี่ก็ยังไม่ดีพอ”

“เปล่าเลยครับ เปล่าเลย”

“เปล่าเลยอะไร ไม่งั้นเราจะมาหาพี่เหรอ จริงไหม”

“ครับ แต่ผมเองก็เอาแต่ใจมากเกินไป คิดแบบเด็กๆ ผมขอโทษ”

“อืม...มันคงเรียกว่า ‘ช่องว่างระหว่างวัย’ มั่งแบบนี้ ก็ยอมรับแหละว่าฝึกงานแล้วมันก็คิดแบบผู้ใหญ่มากขึ้น 555 พูดแล้วรู้สึกว่าตนเองแก่แหะ... ออ อีกอย่างไม่ต้องขอโทษแล้ว คนที่เราควรขอโทษนะ ปากแตกอยู่นะ”

“ครับ”

“เอาหล่ะไปล้างหน้า อาบน้ำได้แล้ว แล้วคืนนี้นอนไหน”

“นอนที่นี้ครับ”

“แล้วเสื้อผ้าหล่ะ”

“ของพี่ไง”

“แล้วกินข้าวหรือยัง”

“ยัง”

“งั้นพี่ลงไปซื้อบะหมี่ให้นะ”

“ครับ”

...หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็นั่งทานบะหมี่แล้วก็นอนคุยเรื่องต่างที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ไม่เจอหน้ากัน จนเผลอหลับไปตอนไหนไม่อาจทราบได้

…จิ๊บ...จิบ...

...ผมตื่นขึ้นเพราะเสียงนก และแดดที่ส่องเข้ามา ได้เวลาไปฝึกงานแล้ว ไม่อยากไปเลย ไอ้แสบยังนอนคุดคู้กอดแขนผมอยู่บนเตียงกับบ๊อกเซอร์ตัวเดียว ผมดันตัวลุกขึ้นเผื่อจะไปอาบน้ำ

“ไปไหนอ่ะ” เสียงดังขึ้นจากคนที่งัวเงียที่ยังคงนอนอยู่

“เช้าแล้ว จะต้องไปฝึกงานแล้ว” เสียงงัวเงียไม่ต่างกัน

“เอาอะไรมาวัดว่าเช้าแล้ว”

“แดดส่องจ้าสะขนาดนี้ ไม่เช้าเหรอ”

“ไม่ใช่แสงจากพระอาทิตย์หรอก เป็นเพียงแสงจากดวงดาวที่โคจรผ่านมาเท่านั้นแสร้งเป็นแสงจากตะวัน เดียวมันก็ผ่านไป” คนที่นอนอยู่ไม่พูดเปล่า เอาขามาพาดด้วย แล้วใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว ไม่ใส่กางเกงใน...กูยังไม่ชินนะโว้ย ยังมีความสึก

“ไปจำประโยคเมื่อกี้มาจากไหน”

“ในหนัง”

“รู้...ว่าแต่ดูหนังแนวนี้ด้วยเหรอ” มาจากเรื่องโรมิโอ กับ จูเลียต ปี 1996 บทมันประมาณนี้

“ดูเพราะพี่อ่ะ”

“เพราะพี่?”

“ก็เอาไว้ใช้กับพี่ไง”

“แล้วได้ใช้ไหม”

“ไม่อ่ะ เพิ่งได้ใช้”

“พี่ต้องไปฝึกงานแล้ว”

“ไม่เอาอ่ะ”

“อะไร ไม่เอาอะไร”

“ต้องให้ค่าผ่านทางก่อน” ไอ้แสบไม่พูดเปล่าทำปากจู๋ ผมก้มตัวลงไปจูบทีหนึ่ง มันก็คลายกอดโดยดีครับ แต่ผมชักติดใจแหะ ขออีกทีแล้วกัน ริมฝีนุ่มของแซนเปิดออกช้าๆ ลิ้นค่อยๆออกมาสำรวจภายในปากของผม มือของแซนลูปไล้บริเวณต้นคอ  ผมค่อยๆถอนจูบออก แต่มือของแซนล๊อคเอาไว้ มืออีกข้างกอดรัดตัวผมไว้ ดันให้ลำตัวแนบชิดกัน “พอได้แล้วต้องไปทำงานแล้ว”

“โห่...กำลังได้อารมณ์เลย”

“เดียวเถอะ” ผมผละออกแซนปล่อยผมแต่โดยดี ผมลุกขึ้นมาเตรียมตัวอาบน้ำ เห็นแซนนั่งอยู่ “อว่า ไม่นอนต่ออ่ะ”

“ตื่นแล้ว”

“อ่ะนะ”

“อาบน้ำด้วยดิ”

“บ้าดิ”

“อายเหรอ”

“แน่นอน”

“อายอะไร” แซนโดนมาพร้อมกับถอดเสื้อผม ผมรั้งมันไว้บริเวณหน้าอก “อาบด้วยกันนะ ผมขอ”

“ไม่เอาโว้ย อย่าเล่นบ้าๆ”

“ไม่ได้เล่นสักหน่อย จะได้เร็วๆไง”

“จะช้ากว่าเดิมไม่ว่า”

“นะครับ” แซนไม่พูดเปล่า เอาปากมาประกบปากผมทันที งานนี้มีหรือผมจะไม่อ่อนระทวย รู้อีกทีเสื้อผมหลุดไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องยอม ระหว่างอาบน้ำก็ยอมรับแหละครับว่าอายอยู่ดี หุ่นไม่ดีนี้น่า คนที่อาบด้วยทั้งขาวทั้งเนียน แถมมีกล้ามได้รูป หน้าท้องแบนราบ มีซิกแพ๊คอ่อนๆ เห็นแล้วใจสั่น เอ้ย อิจฉา พออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัว แซนจะไปส่งผมที่ฝึกงานแล้วกลับบ้านไปหาม้าก่อนกลับเข้าคอนโดฯ ผม

...พอไปถึงที่ฝึกงาน ข้าว เอ็ม ก้อย และ น้ำ รอผมอยู่แล้ว เอ็มกับน้ำชักสีหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นแซน ส่วนแซนนะเหรอ เดินยิ้มร่าจนถึงประตูขึ้นตึกเลย

“มาทำไม” เอ็มหาเรื่องก่อนเลยครับ เล่นเอาร้อยยิ้มของแซนหายไปทันตา กลายเป็นสีหน้านิ่งเฉยแทน (มันดูกวนตรีนมากกว่า)

“ผมจะมาแล้วพี่จะทำไม ไม่ใช่เรื่องของพี่สักหน่อย” โอ้ มาคุ... “ผมมีเรื่องกับอีกคนไม่ใช่พี่” แล้วแซนก็เดินผ่านเอ็มกับน้ำไป ผมจะคว้าไว้ก็คว้าไม่ทัน แซนเดินดิ่งไปยังข้าว เอ็มรีบเดินตามเพราะกลัวว่าจะไปต่อยข้าวอีก “ขอโทษครับ!!!” แซนตะโกนพร้อมกับคำนับ ข้าวเองก็ผงะเล็กน้อย แต่เอ็มถึงกับสะดุด

“อืมไม่เป็นไรครับ”

“ขอโทษด้วยครับกับความรู้เท่าไม่ถึงการของผมที่ทำให้พี่ต้องเดือดร้อน”

“ครับ พี่ต้องทำงานแล้ว” ข้าวพูดขึ้นทุกคนเลยเดินขึ้นตึก

“เดียวขากลับมารับนะ” แซนบอกผม พร้อมส่งยิ้มให้

“อือ” ผมตอบ ก่อนเดินเข้าตึกไป พวกเอ็มรออยู่หน้าลิฟท์

“แฟนมึงกวนตรีนดีนะ” เอ็มทักผมก่อนขึ้นลิฟท์ไปทำงาน


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบตอนที่ 55


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 o18เข้าใจกานดีแล้ว ดีใจอะ แซนแอบน่ารักอะชอบบบบบบบบบบบบบ o13

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
แซนทำไปเพราะเข้าใจผิด เพราะรัก
ยังไงก็ยังเข้าข้างแซน เหอๆๆๆๆๆ
แต่เหมือนโอ๊ตก็รู้ตัวนี่นา ว่าการแสดงออกของตัวเองทำให้แซนไม่ไว้ใจ
ต้องปรับปรุงตัวแล้วมั้ง และก็ต้องทำความเข้าใจกันให้มากกว่านี้

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ


Gu_Ton_Za

  • บุคคลทั่วไป
แซนน่ารักจิงๆเลย อิอิ

 :z2:  :z2:  :z2:

morrian

  • บุคคลทั่วไป
น้องแซน โมโหหึง สุดยอดจริงๆ

แต่ทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะรัก อะนะคับ

เข้าใจกันแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะคับ ^^

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่น๊า  :L1:

ออฟไลน์ หอยทาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โอ๊ต ดูเป็นผู้ใหญ่จางงง
แซน เหมือนเด็กๆเยย เอิ้กๆ
น่ารักทุกคนนนนน กร๊ากกก
พักนี้ตูเพ้อๆ ขอบคุณท่านโฟล์คเต่าขอรับ = w =

kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
เข้าข้างแซนเต็มค่ะ

ก็พี่โอ๊ตทำให้น้องแซนหึงเอง

เพราะฉะนั้งงานนี้น้องแซนไม่ผิดค่ะ

แต่ดีใจที่สองคนนี้เขาเคลียร์กันได้แล้ว

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ไมมันเข้าใจกันง่ายอย่างนี้   เขาต่อยเพื่อนเราโดนไม่ถามสักคำ แล้ว ข้าวหล่ะ ซวยฟรีงั้นเหรอ
ตอนนี้ชักจะขออยูข้าง ข้าวเต็มตัว

ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
การพูดคุยทำความเข้าใจกันคือสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตคู่ :L1:
เป็นกำลังใจให้อยู่ครับ

ออฟไลน์ ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰

  • นู๋ รัก BoYs' lOvE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ครั้งแรกที่เข้ามาอ่าน...เรื่องนี้...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะเจ้าค่ะ

อ่านดั้ย  3  น่าเอง......แย่จัง....เพาะงั้นสู้ๆ...จะรีบตามหั้ยทัน....

ปล.  เรื่องราวน่ารักดี....วู้ๆ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

เพิ่งมาอ่าน  :call:

เอ่อ... ตรงท้ายๆ นี่ มันบทของโอ๊ต หรือแซนกันแน่??
ยังไม่ทันเห็นว่าเปลี่ยนจากมุมของแซนเป็นโอ๊ตเลยนะ?? หรือเราตาไม่ดี???

ชั่งเถอะ

ขอบคุณและจะติดตามครับ
ปล. อยากมีแฟนจังเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด