มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 722004 ครั้ง)

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
อ่านตอนนี้แล้วมีความคิดเรื่องไอ้ลอยเปลี่ยนไปเลย
รู้สึกว่ามันน่าสงสารยังไงก็ไม่รู้ :เฮ้อ:
อาจารย์คนึงต้องการอะไรกันแน่อะ
เรื่องจินดาเคยอยู่กับอาจารย์คนึง อาจารย์รักอยู่ฝ่ายเดียวหรือเปล่านะ

ปล.คิดถึงมากค่ะ ในที่สุดก็มาต่อ :o12: :L2:

ออฟไลน์ Nae_Nae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รักกกกกกกกกก รักเรื่องนี้ มากกกกก  ทุกคนเป็นตัวละครตัวกลมอ่ะ มีทุกมุม ปลื้มปริ่มมม
 
ปล.เรื่องไอ้ลอยกับจินดาก็อยากอ่าน  แต่อีกใจก็แบบ ฮือออออ ต้องเจ็บซ้ำระกำทรวงเป็นแน่แท้ 
ปล2. รออนะคะๆ รักคนเขียน <3

ออฟไลน์ suphasit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
อร๊ายยยย
คนที่เอากันเต็มโอ่งน่ะ ตอนนี้คงเป็น น้องจ้อย กะพี่สิงห์ แน่ๆๆ
ปล จินดา กะนายลอย ???

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
 :pig4: :pig4: :pig4: ชอบชอบให้อีก3ปีเลย มาเรื่อยๆนะ รอเรื่องใหม่ด้วยค่ะ นายลอยกวนดีชอบ :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
อ้าว แล้วอย่างงี้กับอาจารย์คนึงคืออะไรอะะ
ถ้าจินดาได้กับไอ้ลอย งงแหละ

ยังไงเค้าก็รู้สึกว่าลอยน่ากลัว เหมือนมีอะไรในใจ
แถมเป็นโจรตัวจริงมากกว่าพี่สิงห์ของจ้อยเยอะเลย
หรือว่าจินดายังไม่ตาย คอยมองดูเล็กกับอาจารย์คนึง? (เค้าคิดมา เค้ายอมรับ)

รอเฉลยคะ

แต่ขออย่าให้ไอ้ลอยข่มเหงเล็กเลยนะ
แค่นี้ก็น่าสงสารเกินไปแล้ววว

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
กรีดร้องรัวๆๆๆๆๆๆ ดีใจจุงเบยยยยยยยย สนุกเหมือนเดิมเลยค่ะ ขอแอบถามนิดนึงเรื่องนี้ไม่ได้จบเศร้าใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
โอ๊ยยยย ทำไมน้อยแท้!!
จินดากับลอยนี่ยังไง จินดาควบสองเลยเหรอ หลอกครูคนึงด้วยหรือเปล่าเนี่ย
คิดถึงหนูจ้อยด้วย ครึ่งหลังเอาหนูจ้อยมาให้แม่ยกหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ แค่ความทรงจำ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :a5:  :a5:

ลอยกะจินดา เอ๊ะ คู่นี้ยังไง รออ่านๆ ต้องดราม่าแน่ๆ

อาจาย์กะหนูเล็กดีกันไวๆนะ จะได้ทันพ่อสิงห์กะน้องจ้อย  :laugh:  :laugh:

ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
ทำไมจินดาถึงตายง่าาา

เพราะคนึง? เพราะลอย?

หนูคิดมาก มากๆ T T



เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะ ^-^  :กอด1:

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Meowww

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบพี่สิงห์ น้องจ้อย  :ling1: :z2: :hao6:

แต่ติดใจเรื่องหนึ่ง ตอนช่วงที่ไอ้ลอยจับน้องจ้อยไป แล้วพูดประมาณว่าทำให้น้องจ้อยถึงสวรรค์แล้ว ไอ้พี่สิงห์มาช้าไปอะไรประมาณนี้ ติดใจว่าตกลงน้องจ้อยยังไม่เสร็จไอ้ลอยใช่ไหมอ่ะ  :o12: :mew5: :katai1:
รบกวนคนใจดีช่วยตอบข้อข้องใจให้ด้วยค้า เพราะชอบน้องจ้อยมาก อยากให้ได้กับพี่สิงห์คนเดียวอ่ะ  :hao5: :oo1: :z3:

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
ยายจะได้ยินไหมเนี่ย ที่ลอยพูดขนาดนี้ สงสารคุณชาย

ออฟไลน์ --รมยกร--

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-3
เคยอ่านเรื่องนี้ อีกเวปนึง
กลับมาอ่านตั้งแต่ต้นอีกครั้ง
ยังคงตราตรึงใจทุกครั้งที่ได้อ่าน

คู่รอง บทจ้อยจะใจอ่อนก็อ่อนซะพลิกฝ่ามือ ทอดสะพานหลายทอด ได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู 
คู่หลัก อาจารย์ของหนูเล็กก็ใจดำเกินทน ทำร้ายคนรักด้วยคำพูดช้ำแล้ว ช้ำเล่า ไม่รู้ทนเห็นคนที่เรารักนอนร้องไห้ทุกวันได้ยังไง
แถมยังทำตัวประหนึ่งหมาหวงก้าง อ้างว่ากลัวคนอื่นทำร้าย
แต่การโดนทำร้ายจากคนที่เรารัก มันสาหัสมากกว่าหลายเท่านัก
ขัดใจกับอาจารย์คนึงที่สุด :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

รัก นัก เขียน รักคุณดอกไม้ รักนิยายดีๆเรื่องนี้ และสุดท้ายรักมหาหงส์


ออฟไลน์ @@@

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เบื่อ อาจารย์คนึง
เหอะ คุณชายต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ เพราะตัวเองแท้ๆ  :katai1:

พี่สิงห์ กะ น้องน้อย หลังผ่านมรสุมมาแล้ว มุ้งมิ้งมาก   :hao6:



ออฟไลน์ WARA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ช็อคเรื่องจินดาเหมือนกัน คงต้องกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่แรก ไอ้ลอยด้วยเหมือนคนละความรู้สึกกับที่ผ่านๆมา คือสงสารจินดามาก และเกลียดไอ้ลอยเข้าไส้ ถ้าไอ้ลอยเคยรักกะจินดาก็ไม่น่าทำกับจ้อยแรงมากแบบที่ผ่านๆมาเลยนะคะ ปรับอารมณ์ไม่ทันจริงๆง่า :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
^
^
อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากสิ่งที่เห็นนะคะ ความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้
ไม่ได้การ ต้องรีบเขียนตอนต่อไปเสียแล้วซี รีบเขียนรีบเฉลย
คนอ่านสับสนกันหมดแล้ว
 :hao7:

ออฟไลน์ lalitalx

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-3
แอบรู้สึกคุณเล็กกับลอยแอบเคมีเข้ากันเล็กๆ ?  :z6:  โดนอาจารย์กระทืบ 555555555
คุณชายน่ารักมากค่า

ออฟไลน์ feelinlove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รู้สึกผิดหวังในตัวจินดา จินดาเป็นตัวละครที่แม้ตายตั้งแต่เริ่มเรื่องแต่เราชอบมาก
ไม่น่าทำแบบนั้นเลย นึกมาตลอดว่าเป็นคนดี น่าสงสาร เฮ้ออออ ผิดหวังอ่ะ
สงสารอาจารย์คณึงด้วยที่คนที่ตัวเองรักไม่ได้เป็นนางฟ้าอย่างที่เทิดทูน
เสียดายจินดา

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ติดตามต่อรอลุ้นมากมายค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาต่อ

ออฟไลน์ หมีจำศีล

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-1
เข้ามาอ่านครั้งแรก รวดเดียวตั้งแต่บ่ายสองถึงตีหนึ่ง อื้อหือออออ รู้สึกโชคดีมากเลยค่ะที่ได้พบเจอ และรู้สึกดีขึ้นเพิ่มอีกเป็นสองเท่าเมื่อเห็นการอัพนิยายหลายๆตอนก่อนหน้า อ่านไป เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวยิ้มเหมือนคนบ้า พี่ท่านเอ๊ย! อ่านแล้วจิกเค้นอารมณ์ในอกจริงๆ นี่เป็นติ่งนิยมแนว SM นะคะ คู่คณึง-คุณเล็ก อ่านตอนแรกๆนึกว่าจะมาแนวจำเลยรัก ต้องทรมานเพื่อชดใช้ชีวิตอะไรแบบนี้ ปรากฎว่าคู่พี่สิงห์แอนด์น้องจ้อยปาดหน้าเค้กคนอ่านมาเลยค่ะ ฮ่าๆ ขอชูป้ายไฟโบกสะบัดเป็นแฟนคลับของคุณดอกไม้รัวๆเลยค่ะ เป็นหนึ่งในนิยายไม่กี่เรื่องที่เราเคยอ่านมา แล้วรู้สึกว่ามันเหมือนเอามุมมองชีวิตจริงในแต่ล่ะด้านสร้างขึ้นมาเป็นตัวละคร มันทำให้เราอินจัดจนแทบไม่เป็นอันทำอะไรเลย ไหนจะบทบรรยายซีนอารมณ์ของแต่ล่ะคน ไหนจะบทบรรยายถึงสถานที่รอบๆที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนย้อนไปอยู่ในช่วงเวลาสมัยนั้นจริงๆ ไหนจะถ้อยภาษาไทยที่สวยละมุนละไม จับใจด้วยกลอนเชิงเถียบแล่เรียงเกริ่นนำต้นฉากแต่ล่ะบท เอื้ออออออออ ตั้งแต่เริ่มอ่านนิยายวายตั้งแต่อายุสิบสองจนถึงสิบเก้า นี่เป็นโลกใบใหม่ที่ทำให้เราประทับใจมากๆเลยค่ะ เราเป็นคนชอบอ่านนิยายวายเพราะชอบเสพฉากรุนแรงและช่วงที่มีอะไรกัน แต่นิยายของคุณดอกไม้เหมือนอ่านวรรณกรรมย้อนยุคสักเล่ม แล้วภาษาสวยจนแบบ... #อ๊ากกกกกก มันหักเหจุดมุ่งหมายการอ่านของเราให้เป็นอีกแบบนึงไปเลย นี่รู้สึกเหมือนกำลังเสพบทประพันธ์ร้อยแก้วง่ะ ดีงามมาก

#เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ♡♡♡

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
เอ้าาาาาสรุปจินดาอย่างไงเนี่ย
รำคาญลอยว่ะ ไปไกลๆๆๆเกะกะ

ออฟไลน์ vanila

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รู้สีกว่าสั้นจิงค่ะ ฮ่าาาาาาา แต่ไม่เป็นไรเราจะตั้งใจครึ่งหลังแทน ฮี่ๆๆๆ
อาจารย์คนึงจะมัวพิรี้พิไรไม่ได้แล้วนะไอ้ลอยนี่มาเต็มแล้วนะ
เกือบเห็นใจไอ้ลอยตอนที่รำพึงรำพันถึงจินดา
มาเปลี่ยนใจก็ตอนที่มาเกี๊ยวพาราสีหนูเล็กนี่แหละ
คะแนนติดลบไปอีกไอ้ลอย ว่าแต่ถ้าจินดาเคยรักกะนายลอย
แล้วอาจารย์คนึงนี่อะไรยังงัยกับจินดา  อยากอ่านดอกฟ้าในมือโจรแล้ว >w<
เอาจริงๆไม่อยากให้จินดาตายเลยตั้งแต่ต้นเรื่ืองแล้ว ไม่อยากให้มีใครตายในเรื่องเลย
ยิ่งพอมารู้ว่าจินดามีคู่แบบนี้นี่ยิ่งแบบสงสารจินดาาาาา ฮือออออออออ

ออฟไลน์ Koduck

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอครับ คิดถึง :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๓๒

วานลมจูบ

(ครึ่งหลังจ้ะ :L2:)


“ฉันกับอาจารย์ไม่ได้มีอะไรกัน!” เลอมานโพล่งออกไปด้วยความเหลืออด  ความกระดากกระเดื่องระงมเข้าจับใจจนสั่นสะท้าน
ดวงตาคมดุจเหยี่ยวคู่นั้นหรี่มองราวจะจ้องให้ปรุถึงเนื้อใน  มุมปากยกยิ้มหยัน

“ถุ้ย! ไอ้พวกผู้ดี!” มันถ่มน้ำลายลงพื้น กักขฬะเยี่ยงสถุลไพร่ ว่าหยาบคายไม่อายปาก “เอากันจนน้ำเต็มโอ่งแล้วยังบอกว่าไม่มีอะไรกัน!”

“กะ..แก..แกพูดอะไร” หม่อมราชวงศ์หนุ่มลุกขึ้นยืนพรวด หัวใจนั้นเล่า อย่าให้พูดถึงเลย มันเต้นระงมเป็นรัวกลอง “อย่ามาใส่ความ อาจารย์ไม่ใช่คนแบบนั้น”

“ชาวบ้านเขาสงสัยกันว่าคุณชายมาอยู่บ้านยายช้อยทำไม  แถมมีคนเห็นอาจารย์ไปมาหาสู่ทุกเช้าทุกเย็น  เขาคงไม่คิดว่ามาหายายช้อยหรอกมั้ง”

“เขามาดูฉันตามหน้าที่!” ใบหน้าอ่อนเยาว์แดงจัด ปากคอสั่นสะท้าน “ที..ทีแกยังมาเลย!”

“เอ้า! ไอ้ลอยชอบคุณชาย ไม่มาหาคุณชายจะให้ไปหาควายที่ไหน” มันลอยหน้ายิ้มยวน “ผมมันก็แบบนี้ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่เหมือนคนบางคนหรอก” มือกักขฬะยื่นมา เกลี่ยไล้พวงแก้มขาว “ดูซิ.. คงถูกเขาทำช้ำใจมาสินะ ถึงได้หอบผ้าหนีมานี่”

เลอมานปัดมือมันทิ้ง  หอบหายใจสั่นสะท้านด้วยความโกรธ เกลียด ขยะแขยง

และมีความหวั่นกลัวซุกซ่อน..

“ไม่ต้องกลัวผมไปบอกใครหรอก ผมไม่ใช่คนปากโป้ง” มันพูดราวอ่านใจกันออก  และก่อนที่คำพูดและสายตาซอกซอนจะทำให้เลอมานอึดอัดไปมากกว่านั้น  ยายช้อยก็เดินมาจากท้ายกระท่อมพร้อมลูกมะเกลือ  สองคนต่างวัยเสวนากันเรื่องดอกเบี้ย  ดอกเบี้ยที่มาทวงทีไร  ยายก็ไม่เคยมีจ่ายสักหน  คนทวงก็ไม่ว่ากระไร  ได้แต่ทิ้งท้ายเหมือนทุกวันว่า.. วันหลังจะมาใหม่.. แล้วพายเรือจากไปเงียบๆ

ทิ้งเลอมานไว้กับความว้าวุ่น หวั่นวิตก ผู้ชายคนนี้ทำไมมองเขากับอาจารย์ทะลุปรุโปร่ง  และสายตาที่คาดเดาไม่ได้คู่นั้นไม่อาจบอกได้เลยว่ามันคิดจะทำอะไร

เขาไม่ห่วงตัวเองหรอก  ไม่เคยสนใจสายตาคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไร  ใครจะมองจะว่าอย่างไรก็ช่าง  แต่ตอนนี้  เลอมานอดร้อนรนใจไม่ได้  เพราะมีคนหนึ่งที่เขาต้องห่วง  ห่วงเสียยิ่งกว่าตัวเอง..

อาจารย์คนึง..

********************************

ย่ำค่ำพระอาทิตย์ตกดิน เสียงกลองวัดดังตูมๆ เป็นจังหวะย่ำส่งพระสุริยาดังมาจากวัด เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเวลาจุดตะเกียง  กระท่อมน้อยริมคลองเงียบสงบ ควันลอยอ้อยอิ่งมาจากข้าวเดือดที่ผุดพล่านอยู่ในหม้อดินบนเตา

ระยะนี้กุลีทั้งโรงสีกำลังประสบปัญหาน้ำกัดเท้าเป็นแผลกันถ้วนทั่ว เพราะเถ้าแก่ฮงบัญชาให้แบกขี้เถ้าแกลบลุยน้ำทุกวี่วัน เว้นเสียแต่ไอ้สิงห์คนเดียวที่รอดพ้น มือตีนยังอยู่ดี ไม่มีส่วนไหนเป็นแผลเปื่อยให้ลำบากซื้อหยูกยามารักษา

เพราะใครเล่า?

มือเล็กโขลกลูกมะเกลือที่เอามาจากยายในครกบดยา เค้นได้น้ำยางสีดำสนิท ก่อนหันมาคว้าข้อตีนเทอะทะของพี่ลากเข้าหาตัว
พี่หดเท้าหนี ละอาย กระดากกระเดื่อง เท้าเป็นของต่ำใครก็รู้

“อย่าเลยจ้อย” เสียงทุ้มอ้อมแอ้ม “หนนี้พี่ทำเองเถอะ”

“ไหนๆ มือจ้อยก็เปื้อนแล้ว อย่าเรื่องมาก” จ้อยเอ็ดเสียงเขียว ตรงข้ามกันเหลือเกินกับมือบอบบางที่ชโลมยางมะเกลือลงฝ่าเท้าหยาบกร้านอย่างไม่คิดรังเกียจ ละเอียดอ่อน ใส่ใจ กระทั่งซอกนิ้วยังทาให้ถ้วนทั่ว

ลูกมะเกลือนอกจากใช้ย้อมแหและอวนแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยแก้น้ำกัดเท้าได้ชะงัดนัก จ้อยสรรหามาทาให้เขาตั้งแต่ยังไม่เป็นแผลเพื่อป้องกัน  ผลคือไอ้สิงห์รอดจากภัยน้ำกัดเท้าเพียงคนเดียวในโรงสี แต่เท้าจะดำเป็นปื้นนานเลยล่ะกว่าจะหาย

สิงห์หัวเราะในคอ  มองจ้อยด้วยดวงตาเป็นประกาย  ชื่นชมและหวงแหนประหนึ่งได้ครอบครองสิ่งสูงค่าสักชิ้น

นักเรียนครูล้างมือล้างไม้ก่อนกลับมานั่งที่เดิม  เห็นวงหน้าคมสันสะท้อนแสงตะเกียงนวลมองมาตาฉ่ำ  ยิ้มหวานจัดเหมือนจาวตาลเชื่อม  ร่างกำยำเขยิบเข้าหา รั้งจ้อยขึ้นมานั่งบนตัก กอดรัดแทบจมหายลงไปกับอ้อมอกสมบูรณ์ด้วยมัดกล้ามคร้ามเกรียม ฝังจมูกลงสองแก้มและซอกคอ  หอมเอาๆ ดั่งไม่กลัวจะช้ำ

จ้อยหัวเราะคิก เอียงหน้าหนีเพราะจั๊กจี้  รุนเขาไว้แล้วกระซิบปรามพอเป็นพิธี พี่ทำงานหนักทั้งวันจนกล้ามเนื้อที่กำยำอยู่แล้วยิ่งบึกบึนแข็งโป๊ก กอดจ้อยแต่ละทีน่ากลัวว่ากระดูกจะหัก พี่จะลนจ้อยแทบละลายด้วยความร้อนจากอ้อมแขนนั้น.. ก่อนจะร่วมเนื้อในกันดังเช่นทุกค่ำคืนที่ผ่านมา

เดี๋ยวนี้เนื้อตัวพี่หอมสะอาด ไม่ได้เหม็นกลิ่นสาบเหงื่อดังแต่ก่อนแล้วนะ  ฝีมือจ้อยนี่แหละ  ตอนอาบน้ำก็เอากาบมะพร้าวชุบน้ำมันก๊าดถูๆ ให้ตรงหลังคอ  พี่แหกปากเหมือนควายถูกเชือด  ผลคือขี้ไคลหลุดออกมาเป็นก้อนแทบเอาไปปั้นควายได้ 
ส่วนหน้าตารกเรื้อเป็นโจรป่า  จ้อยก็ยืมปัตตาเลี่ยนของโรงเรียนมาไถให้เสียเกลี้ยงเกลา  ไม่ทำให้ได้หรือ  วันก่อนไปโรงเรียน  สง่ามันทักว่าจ้อยเอาแปรงที่ไหนขัดหน้ามา  เป็นริ้วแดงเถือกไปทั้งหน้าและซอกคอ เล่นเอาจ้อยหน้าแดงซ่าน เอาน้ำเย็นล้างหน้าตั้งนานกว่าจะหาย 

มือเล็กจับปลายคางสากพลิกซ้ายขวา  หล่อขนาดนี้  บอกใครว่าเป็นกุลี ใครเขาจะเชื่อน้อ

พิศได้ไม่นานก็อดสะท้อนใจไม่ได้  พี่สิงห์ของจ้อยจะทำงานแบกหามแบบนี้ไปถึงเมื่อไรกัน

“เมื่อไรจะกลับบ้าน” จ้อยลูบแก้มสากระคายของพี่แผ่วเบา “อยู่แบบนี้ไม่ลำบากหรือ”

“พี่ไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ” เขารัดจ้อยแน่นเข้าอีก แน่นจนได้ยินเสียงหัวใจอีกดวงเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน “ขอแค่มีจ้อยก็พอ”

จ้อยได้แต่ถอนใจ  หนีเข้ามุ้ง ที่หลับที่นอนที่ผิดกับเครื่องนอนชั้นดีในเรือนกำนันเยอะ เสื่อกกแข็งกระด้าง หมอนใบเก่าและมุ้งสีหม่น  พี่ตามมานอนข้างกัน  รั้งจ้อยไปกอดแนบอก  เกลี่ยปลายผมจ้อยทัดหู สายตาที่มองมาฉ่ำหวานเป็นประกายในแสงตะเกียงนวล 

“วันก่อนป้าทรัพย์ถามถึงพี่ด้วย ไม่เป็นห่วงแม่หรือ”

ดูเหมือนคำพูดจ้อยจะไล่อารมณ์ละมุนไปสิ้น แค่เอ่ยถึง ‘แม่’ พี่ก็ดูไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที “ยังไงพี่ก็ต้องหาเงินใช้หนี้ให้หมดก่อน” 

“ไม่ต้องแล้ว” นักเรียนครูทอดถอนใจ “แม่พี่ยกให้จ้อยแล้ว เหลือแค่ดอกเบี้ยที่ค้างไว้นิดหน่อยเอง”

“ไม่ได้” เขาเสียงแข็ง  คลายอ้อมกอดออกเพื่อนอนหงายก่ายหน้าผาก “แม่พี่อาจยอมแต่พี่ไม่ยอม ใครเขาจะว่าจ้อยกับยายได้ที่มาเอาเงินแม่พี่ไปเปล่าๆ”

“มันมีนะ..” จ้อยกระซิบ เขยิบเข้าไปเกยคางบนแผงอกแกร่ง คลายมือบนหน้าผากพี่ออก “เงินที่ยกให้กันแล้วไม่ต้องคืนน่ะ”

“ไม่มีหรอก”

“มีจริงๆนะ..” เสียงจ้อยเบายิ่งกว่าเบา  ไม่กล้ามองหน้าพี่ด้วยซ้ำ ได้แต่ก้มหน้างุด พูดอุบอิบ “สินสอดไง” 

“ห๊ะ?!” พี่เด้งตัวลุกขึ้นทันควัน โอยๆ.. น่าอายน้อยอยู่หรือ เลือดฉีดขึ้นหน้าจนร้อนผ่าว จ้อยรีบดึงผ้าผวยผืนเก่าขึ้นคลุมโปงมิดหัวเป็นดักแด้ “เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”

มือแข็งแรงเขย่าเนื้อตัว  พยายามดึงผ้าผวยออก จ้อยยิ่งเขินหัวหูแดงก่ำ รู้สึกเหมือนตัวจะสุกเป็นกุ้ง เมื่อกี้.. อะไรดลใจให้พูดออกไปแบบนั้น

“สินสอดนี่คืออะไรน้อ” เขาถามหน้าตาย เสียงทุ้มทอดต่ำลึกๆ ในคอ  โน้มหน้าลงมาใกล้แค่ปลายจมูกแตะกัน “พี่มันโง่ ความรู้น้อย สอนพี่หน่อยสิครู”

แก้มขาวจัดมีสีเลือดเปล่งปลั่งขึ้น  มือใหญ่เอื้อมมาเชยคางจ้อยพร้อมรั้งกายเข้าหา ริมฝีปากอุ่นๆ พรมจูบหนักหน่วง หัวใจที่ซ่อนอยู่ใต้อกกำยำยินดีปรีดานัก แล้วรสอ่อนหวานบนปลายลิ้นเล็กก็ทำให้ลืมสิ้นว่าเขาได้จูบน้องซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างหิวกระหาย และนึกอยากกลืนกินทั้งหมดที่มีอยู่ในกายน่าเสน่หา

จ้อยพริ้มตาลง ปล่อยเพียงหัวใจไหวละล่องไปกับรสจูบหวานล้ำตราตรึง ดึงหัวใจดวงน้อยรัญจวนวาบหวิวสั่น และโดยได้ยางอาย จ้อยร่ำร้องถึงอย่างอื่นอีกนอกจากแค่จูบ

ธรรมชาตินั้นร้ายกาจนัก มันสั่งสอนเข้าให้โดยไม่จำเป็นต้องร่ำเรียนมาจากไหน ลมจะพัด ดอกไม้จะบาน ลูกมะพร้าวนั้นใครเอาน้ำเข้าไปใส่ไว้เล่า ถึงเวลามันก็มีน้ำหอมหวานชื่นใจเต็มลูกขึ้นมาเอง

เช่นในตอนนี้  เพียงร่างกายทั้งสองกอดกระหวัดเป็นเนื้อเดียวก็เหมือนแล่นตูมลงไปในห้วยธารที่กระแสน้ำพัดผ่านรุนแรงเหลือล้ำ จ้อยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นห้วงธารเชี่ยวกราก มีพี่สิงห์โผลงผุดแหวกว่ายในสายน้ำเริงใจ ไม่ต้องมีใครสอนใครทั้งนั้น หัวใจนี่แหละนำทาง

จนกระทั่งตะวันจะโผล่พ้นขอบฟ้า เสียงดุเหว่าแว่วมาจากยอดไม้สุดไกล อากาศก็หนาวปานนี้ แต่ร่างเปลือยเปล่าที่กอดก่ายกันในมุ้งหม่นนั้นอบอุ่นนัก จ้อยซบอิงอยู่ในอ้อมแขนพี่ นอนคิดตรองไม่ตก

จะอยู่กันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือ?

ถ้าพี่ไม่ยอมกลับบ้าน อย่างน้อย..จ้อยก็อยากให้พี่เรียนหนังสือ จ้อยนี่แหละจะสอนให้เอง เคยพูดเรื่องนี้กันหลายหนแต่พี่ก็เอาแต่บอกปัดทุกคราวไป ร่ำแต่บอกว่าแค่นี้พี่อยู่ได้.. เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้..

จ้อยไม่ได้รังเกียจ  แต่จ้อยแค่เป็นห่วงอนาคตพี่

เห็นทีต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว

********************************
   
เช้านี้เหมือนทุกวัน เช้าตรู่เริ่มงาน กุลีสิบกว่าคนของโรงสีเถ้าแก่ฮงกรูกันมาเข้าแถวยาวหน้าโกดัง พี่สิงห์ของจ้อยชิงตำแหน่งหัวแถวได้เหมือนทุกวัน หัวแถวสำคัญ เพราะจะได้บัตรประจำตัวหมายเลขหนึ่ง เริ่มแบกกระสอบเป็นคนแรก เท่ากับว่าโอกาสที่จะได้จำนวนเที่ยวมากกว่าใครก็มีมากขึ้นไปด้วย

ปกติจ้อยไม่ค่อยมานั่งเฝ้าพี่สิงห์ทำงานแบบนี้ แต่ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันหยุด เลยสบจังหวะมานั่งให้กำลังใจ เฝ้าปิ่นโตรอพี่อยู่บนแคร่ใต้ร่มก้ามปูใหญ่ไม่ห่างกัน

อาชีพจับกังเป็นอาชีพที่เหนื่อยนัก ทำงานหนักจนเหงื่อตกร้อยหวาย ต้องแบกของหนัก ๑๐๐ กิโลขึ้นหลังเดินไปเดินมาวันละไม่รู้กี่เที่ยว เถ้าแก่ฮงก็สุดโหด ไม่มีรถเข็นให้ กุลีทุกคนต้องเดินจากโกดังถึงระวางเรือเป็นระยะทางประมาณ ๕๐ เมตรได้ แลกค่าแรงเที่ยวละ ๒๐ สตางค์

ที่ต้นทางหน้าโกดัง ชายคนหนึ่งมีหน้าที่เอาตะกาวเกี่ยวกระสอบข้าวลงวางบนหลังสิงห์ให้ เมื่อสิงห์แบกกระสอบผ่านโต๊ะเสมียน ซึ่งคืออาหมวยลูกสาวเถ้าแก่ฮงนั่นแหละ เสมียนจะส่งไม้ติ้วให้หนึ่งอัน ไม้ติ้วรูปร่างคล้ายตะเกียบแต่ปลายด้านหนึ่งแบนเหมือนไม้แคะขนมถ้วย และบนปลายที่แบนนั้นจะเขียนหมายเลขประจำตัวกุลีเอาไว้ เมื่อไปถึงปลายทางที่เรือ สิงห์จะคืนไม้ติ้วให้กับเถ้าแก่ฮงที่ยืนดักอยู่หน้าปากระวางเรือโป๊ะเหล็กขนาดห้าร้อยตัน

วนเวียนอยู่อย่างนี้จะกว่าจะหมดวัน พี่สิงห์ไม่รู้หรอกว่า เจ้าหนุ่มน้อยที่นั่งเฝ้าปิ่นโตอยู่นั้นจับตามองพี่อยู่ทุกฝีก้าว

ไม่คลาดสายตา..

(มีต่อจ่ะ :hao7:)

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
จวบจนอาทิตย์อัสดง ได้เวลาเลิกงานกันเสียที กุลีแต่ละคนที่ตรากตรำอาบเหงื่อต่างน้ำกันมาทั้งวันยืนเข้าแถวเรียงรายหน้าโต๊ะทำงานเถ้าแก่ฮงในออฟฟิศเปิดพัดลมเย็นฉ่ำ

การจ่ายค่าจ้างนั้นไม่ได้คิดเป็นรายวัน แต่จะจ่ายตามจำนวนที่แต่ละคนแบกได้ ลูกชายกำนันในสภาพเหงื่อโซมเต็มตัว ผิวที่คล้ำลงเพราะตากแดดจัดทั้งวันจนเป็นสีน้ำตาลเข้มยื่นบัตรหมายเลขหนึ่งให้เถ้าแก่ที่กำลังดีดลูกคิดง่วน

ปกติจ้อยไม่เคยยุ่งกับรายได้ของพี่เลย ยกเว้นวันนี้.. หนุ่มน้อยเข้ามาดูการจ่ายค่าจ้างกับเขาด้วยอีกคน

ชายจีนวัยกลางคนร่างอ้วนนับไม้ติ้วหมายเลขหนึ่งที่สิงห์ยื่นให้หน้าระวางเรือ ก่อนขานเสียงดัง “๘๒ อัน!”

จ้อยขมวดคิ้วครุ่นคิด..

มืออูมอันประดับด้วยแหวนหยกเม็ดโตดีดลูกคิดป๊อกแป๊ก “ไอ้สิงห์ นี่ค่าแรงของลื้อวันนี้”

ธนบัตรยับย่นและสตางค์เหรียญถูกยื่นมาให้ นักเลงตกยากรับมาโดยไม่นับสักนิด ไม่ลืมพนมมือไหว้ขอบคุณ สิงห์เดินมาหาน้อง ยิ้มฟันขาวตัดกับผิวเกรียมไหม้ หลังไหล่ล่ำสันยังเกลื่อนร่องรอยตรากตรำ จูงมือเล็กหมายจะกลับกระท่อมไปพักผ่อนเสียที
แต่จ้อยรั้งพี่เอาไว้ หัวคิ้วยังมุ่นไม่คลายยามแบมือขอเงินจากพี่ไปนับ เล่นเอาสิงห์ยืนบื้อ ร้อยวันพันปีจ้อยไม่เคยอยากรู้เรื่องเงินทองของเขา

มือขาวนับเงินไปมาหน้าตาเคร่งเครียด นับแล้วนับอีกจนแน่ใจ!

“หมายเลขสอง ไอ้ทิดปลั่ง วันนี้ลื้อได้..”

“เดี๋ยวก่อนเถ้าแก่!” เสียงเล็กขัดจังหวะ ทุกคนชะงักกึก มองนักเรียนครูหนุ่มน้อยที่เดินเข้ามากลางวงเป็นตาเดียว ใบหน้าอ่อนใส หากดวงตาแน่วแน่ สิงห์มองน้องอย่างตะลึงไป เพราะสีหน้าจ้อยผิดไปจากที่เคยเป็น

“ผมมาขอลูกสาวเถ้าแก่นับไม้ติ้วเบอร์หนึ่งเมื่อเช้า” จ้อยว่าเสียงเรียบ “มีทั้งหมด ๑๐๐ แท่ง”
มือเล็กคว้ากระบอกไม้ติ้ว “ถ้าวันนี้พี่สิงห์แบกข้าวสารได้ ๘๒ รอบอย่างเถ้าแก่ว่า ไม้ติ้วเบอร์หนึ่งในนี้ต้องเหลือเท่าไรครับ” ไอ้พี่สิงห์พยายามนับเงอะงะ นับนิ้วทั้งสิบไปมา แทบจะงัดนิ้วตีนมานับด้วยรอมร่อ จนจ้อยถอนใจพรืดอย่างอ่อนใจ “๑๘ แท่ง”

นักเรียนครูเทไม้ติ้วออกมานับต่อหน้าทุกคน “แต่นี่นับยังไงก็ได้ ๑๑ แท่ง” ดวงตาวาวใสหันไปคาดคั้นเจ้าของโรงสี “มันหายไปไหน ๗ แท่งครับเถ้าแก่”

ทุกคนมองเถ้าแก่เป็นตาเดียว

“ส่วนมัดนี้ เป็นไม้ติ้วที่พี่สิงห์ส่งให้เถ้าแก่ที่ระวางเรือ เถ้าแก่บอกว่า ๘๒ แท่ง” จ้อยชูมัดที่วางอยู่บนโต๊ะ “รวมกับไม้ติ้วที่เหลือบนโต๊ะเสมียน ๑๑ แท่ง ถึงไม่เท่ากับร้อยแท่งละครับ เถ้าแก่ตอบผมหน่อย ไม้ติ้วหายไปไหน ๗ แท่ง”

“อ่า..” ชายจีนร่างอ้วนอึกอัก เหงื่อตกหัวล้านมันแผล่บ

“ผมนั่งดูพี่สิงห์ทำงานทั้งวัน ผมนับรอบที่พี่เขาแบกกระสอบได้ ๘๙ รอบนะครับ” สิ้นสุดคำเฉลย ไอ้สิงห์ตบโต๊ะเถ้าแก่ดังเปรี้ยง!

“ไอ้ฮง!” เสียงห้าวดังกัมปนาท เล่นเอาคนฉ้อฉลสะดุ้งโหยง

“ยังไม่หมดนะ” จ้อยถอนใจ “เถ้าแก่บอกพี่สิงห์แบกได้ ๘๒ รอบ รอบละ ๒๐ สตางค์ ค่าแรงต้องเป็นเท่าไร”

อีกครั้งที่สิงห์นับเงอะงะ “๑,๖๔๐สตางค์ หรือ ๑๖ บาท ๔๐ สตางค์” หากจ้อยคำนวณรวดเร็วราวกับในหัวบรรจุลูกคิด “แต่ทำไมผมนับได้ ๑๖ บาท ๒๐ สตางค์ล่ะ อีก ๒๐ สตางค์หายไปไหน”

“นี่มันหมายความว่า..” นักเลงหนุ่มเริ่มพอเห็นเค้าลาง

“เขาโกงพี่สองต่อ” จ้อยปิดประตูตีแมว “โกงไม้ติ้วไม่พอ ยังโกงค่าแรงอีก ถ้ายอมรับเงินจำนวนนี้รู้ไหมว่าวันนี้เท่ากับพี่แบกข้าวสารฟรีกี่รอบ”

เกิดความเงียบงันน่าอึดอัดขึ้นในออฟฟิศ แทบได้ยินเสียงหัวใจเถ้าแก่ฮงเต้นรัวไม่เป็นส่ำ เคล้ากับเสียงไฟพิโรธโหมในหัวใจไอ้สิงห์ดังเปรี๊ยะๆ รอเวลาระเบิดอย่างอดทน

“๘ รอบ!” จ้อยเฉลยอย่างสุดกลั้น เท่านั้นก็ระเบิดลงตูม! 

“ไอ้ฮงเดี้ย!” ร่างกำยำโผนเข้าชกปากเถ้าแก่ฮงจนหงายหลังร่วงจากเก้าอี้ คนงานแตกฮือเป็นฝูงผึ้ง วุ่นวายโกลาหล

“ไอ้สิงห์!” เถ้าแก่ตะเกียกตะกายขึ้นยืน มือกุมปากที่แตกเลือดอาบ “ทำไมลื้อทำกะอั๊วะอย่างนี้!”

“ยังน้อยไปน่ะซีไอ้หมูตอน!” สิงห์ร้องออกมาอย่างโกรธเคือง ชี้หน้าอาฆาต “เอ็งไปถามกุลีทั้งโรงสีดูซิว่าคนจัญไรพรรค์นี้มันน่ายิงทิ้งเสียมากกว่าชกไหม นี่ข้าคิดว่าเอ็งเคยมีบุญคุณรับข้าไว้ ไม่งั้นพ่อจะยิงเสียให้ไส้ออกมาลากดิน”

“อย่ายิง! อย่ายิงอั๊วะ!” เถ้าแก่โดดเหย็งไปหลบหลังโต๊ะ

“บอกมาว่าเอ็งโกงคนอื่นเขากี่หนแล้ว!”

“หนเดียว หนเดียวจริงๆ ให้ตายโหงตายห่า ให้เจ้าลากคอ..” แกพนมมือไหว้ปะหลกๆ

“ไม่ต้องสาบาน! เอ็งเอาเงินคืนมาให้ข้า อยู่กะเอ็งไม่ได้เสียแล้ว กินน้ำเห็นปลิง”

เถ้าแก่ฮงรีบดึงลิ้นชัก นับเงินส่งให้งกเงิ่น

“ที่โรงสีคุณนายพูนทรัพย์ให้ค่าแรงกระสอบละสลึง มากกว่าที่นี่ตั้ง ๕ สตางค์” จ้อยประกาศ คนงานที่เหลือฮือฮา บ้างหันไปปรึกษากัน “ถึงแกจะตระหนี่ แต่อย่างน้อยก็ไม่เคยคดโกงใคร”

กับไอ้สิงห์แกยังโกงได้ แล้วกับคนงานคนอื่นเล่าจะเหลืออะไร ไม่พูดพร่ำทำเพลง ฝูงกุลีลุกฮือกรูกันเข้ามาหมายจะรุมสะกรัมคนคด จ้อยรีบห้ามไว้ทันใด บอกให้แจ้งตำรวจดีกว่า พยานวัตถุพยานบุคคลก็มีพร้อมหมด จำเลยดิ้นไม่หลุดแน่

ได้ยินคำว่าตำรวจ นายฮงก็กลัวหัวหด “อย่าๆๆ อั๊วะยอมเลี้ยวๆ อย่าแจ้งปอลิก!”

เถ้าแก่ฮงสิ้นสภาพ  แกพนมมือเหนือหัวอ้อนวอนปะหลกๆ ไอ้ห้ามไม่ให้แจ้งความน่ะห้ามได้ แต่ห้ามไม่ให้คนงานแห่กันลาออกทั้งกระบิเห็นทีคงห้ามไม่ไหวละ รับเงินงวดสุดท้ายแล้ว ทุกคนพร้อมใจตบเท้ากันลาออก หน้าที่ขาวอยู่แล้วของเถ้าแก่ยิ่งซีดเป็นไก่ต้ม นึกถึงหายนะของโรงสีที่ไม่มีกุลีแบกข้าวสารได้ลางๆ

สุดท้ายนายฮงถึงกับขอร้องให้สิงห์อยู่ทำงานต่อ มีสิทธิพิเศษให้มากมายสารพัด กระท่อมริมคลองก็จะให้อยู่ฟรี แถมค่าแรงก็จะเพิ่มให้เป็นสองเท่าด้วยเอ้า!

สิงห์ไม่อยากกลับบ้านอยู่แล้ว เจอข้อเสนอดีๆ แบบนี้จึงปลงใจยอมทำงานต่อให้ แต่มีข้อแม้ว่าเถ้าแก่ฮงต้องห้ามโกงค่าแรงคนงานอีกเด็ดขาด ไม่ใช่เพียงกับเขา แต่หมายรวมถึงกุลีทุกคน

จบสิ้นกระบวนความ สิงห์หันมองน้อง.. มอง ‘ครู’.. มอง ‘พ่อพิมพ์ของชาติ’ เจ้าตัวดียืนรอเขาอยู่หน้าประตู แสงตะวันอร่ามเรืองฉาบเสี้ยวหน้าอ่อนเยาว์ราวทองทา ริมฝีปากเรื่อคลี่ยิ้มให้ ดวงตาเป็นประกายเฉิดฉาน

มีการยักคิ้วให้หนึ่งทีด้วย!

ร้ายนักเจ้าตัวแสบ

นักเลงหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ สายตาที่มองจ้อย  ชื่นชมและเชิดชูดั่งมองเพชรน้ำงามที่ผ่านการเจียระไนจนเป็นประกายล้อแสง  เพชรไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ยังเป็นเพชร  จะจมดินเปื้อนโคลนอย่างไร จะเคยถูกแม่เขาโขกสับ จะเคยถูกเขาเหยียบย่ำเพียงไหน ก็ไม่อาจลดทอนคุณค่า

เป็นยอดเมียแก้วที่ควรค่าแก่การภาคภูมิใจอย่างแท้จริง

   สิงห์ก้มมองตัวเอง  แล้วเขา.. สารรูปแบบนี้ สภาพทุเรศแบบนี้ คู่ควรกับน้องแล้วหรือ?

“ความรู้น้อยก็ถูกคนอื่นเขารังแกแบบนี้” จ้อยเปรยขึ้นบนแคร่หน้ากระท่อม  สองคนเอนหลังมองดูฟ้าประดับดาวด้วยกัน ใต้ผ้าห่มผืนเดียว “อาจไม่ใช่รังแกด้วยกำลัง แต่เขาก็รังแกพี่ด้วยสมอง”

กองไฟที่ก่อไว้เพิ่มความอบอุ่นลุกโชน “ทีนี้จะเรียนหนังสือกับจ้อยได้หรือยัง” จ้อยหันหน้ามาถาม ดวงตาสุกใสสว่างกว่าดาวดวงใด  สาดแสงกระจ่างใจอันเคยมืดบอด

ไอ้สิงห์มีคำตอบแล้ว

ความรู้คู่เปรียบด้วย     กำลัง กายเฮย
สุจริตคือเกราะบัง     ศาสตร์พ้อง
ปัญญาประดุจดัง       อาวุธ!


********************************

ชีวิตนี้เห็นทีเลอมานจะหนีผู้ชายสองคนนี้ไม่พ้น

หนึ่งคืออาจารย์คนึง

สองคือไอ้ลอย!

ทั้งสองต่างมีผลกระทบต่อจิตใจทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ใกล้คนไหนก็พาลให้อึดอัดใจไปเสียหมด อาจารย์ก็ทำให้ถวิลหาไม่รู้คลาย ที่อยากตัดก็ตัดไม่ขาดเสียที ส่วนไอ้ลอยก็น่ารำคาญไม่มีใครเทียบ

และที่หนักที่สุดคือยามที่ทั้งสองอยู่พร้อมหน้ากัน

อาจารย์คนึงก็ยังคงเป็นอาจารย์คนึง เคร่งขรึม เย็นชา ไม่พูดไม่จากระไร แต่สายตาคู่นั้นคอยสอดส่องเขาแทบไม่คลาด ส่วนไอ้ลอย.. ตรงข้ามกันทุกอย่าง เจ้าหมอนี่ปากว่ามือถึงเป็นที่สุด สายตาซอกแซกคอยแต่จะจ้องจับผิดเขากับอาจารย์ทุกฝีก้าว และที่สำคัญ อาชีพอันธพาลเห็นทีจะว่างงานจัด  มันจึงมีเวลามาตอแยเขาบ่อยกว่าอาจารย์

เช่นวันนั้น.. ยายช้อยกำลังสอนหม่อมราชวงศ์หนุ่มยาเรือแต่เช้าตรู่ แกสอนเรื่องราวเกี่ยวกับเรืออยู่สองกรณี อย่างแรกเกี่ยวกับหลักการจราจรทางน้ำ “หลีกรถหลีกรา หลีกซ้าย หลีกเรือหลีกพาย หลีกขวา” ชาวบ้านใช้เรือเป็นหลักใหญ่ พายเรือในลำคลองต้องหลีกกับเรือที่พายสวนมา ถ้าไม่แอบชิดขวาไว้ไม่ถูกเขาชน ก็ไม่พ้นพายเรือชนเขาตลอดทาง

อย่างที่สอง คือการยาเรือ “ยาเรือยาแพ ยาข้างนอก ยาขันยาจอก ยาข้างใน”

การยาเรือไม่ให้รั่ว ต้องยาชันตามแนวเรือด้านนอก จึงจะปิดแนวเรือได้แน่นสนิท แรงดันของน้ำนอกลำเรือไม่สามารถซึมทะลุเข้ามาในเรือได้ เรือยายช้อยทั้งหมดเป็นฝีมือต่อเรือของสามีผู้ล่วงลับซึ่งบากไม้ตามแนวนอกเรือเป็นร่องเพื่อการยาชัน ในขณะที่แนวเรือข้างใน ไม้จะแนบชิดสนิทกัน

เลอมานใช้แปรงปาดชันเหนียวข้นยาตามแนวเรือเพลินๆ ได้ไม่นาน

“เจ้านกน้อยน่ารักร้องทักว่า ไปไหนมาหนูเล็กเด็กชายหญิง..” มันมาแล้ว ขับขานบทกลอนกวนประสาทขึ้นท่ามาหน้าตาเฉย เลอมานไม่ชอบเลย คำว่า ‘หนูเล็ก’ มันจงใจหมายถึงเขาแน่แท้

คำนี้เขาสงวนไว้ให้อาจารย์เรียกคนเดียว!

ร่างใหญ่โตนั่งลงเคียงข้าง เลอมานเหลือบตามองก็เห็นลูกตาวาววับจ้องเอาจ้องเอา ไม่เคยเห็นคนหรือ!?

“..ทั้งรูปร่างหน้าตาน่ารักจริง ข้ายิ่งดูก็ยิ่งจำเริญตา” มือหยาบถือวิสาสะลูบแก้มเขา คุณชายสะดุ้งเหมือนถูกของร้อน ปัดมือมันออกอย่างรังเกียจ ลุกพรวดพราดเดินหนีไปเตรียมอาบน้ำอาบท่าไปโรงเรียน ปล่อยให้มันอาสายาเรือลำนั้นแทนเขาไป

น่ารำคาญสุดจะทน ใครเขาขอให้มา!

แสงเงินแสงทองจับขอบฟ้าไม่ทันไร ร่างสูงใหญ่ในชุดข้าราชการสีกากีก็พายเรือมาเทียบท่าอีกคน มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าหม้อใบใหญ่ใส่น้ำตั้งเตาจนเดือด เทผสมกับน้ำเย็นเฉียบจนขึ้นไอในตุ่มท้ายกระท่อม

...ให้เขาอาบ...

ทีตอนนี้ละทำเป็นห่วง อาจารย์ไม่รู้หรือว่าท่าทีเย็นชาที่อาจารย์มีต่อเขาก่อนหน้านี้ บาดลึกราวมีดน้ำแข็ง เชือดหัวใจเขาแทบขาดจากขั้ว  เจ็บปวดรุนแรง ทรมานเสียยิ่งกว่าอาบน้ำเย็นในฤดูหนาวเสียอีก

หรือไม่.. อาจารย์คงแค่ทำตามหน้าที่ ถึงจะตัดขาดจากสถานภาพ ‘คนรัก’ แต่ยังเหลือสถานภาพ ‘ผู้ดูแล’ เป็นบ่วงค้ำคอ พอถึงเวลาจึงมาเทียวรับเทียวส่งไม่ขาดเช่นนี้

อาจารย์มาเพราะอ้างรับส่งตามหน้าที่ เช่นนั้นเขาจะหัดพายเรือ ส่วนไอ้ลอย.. มันอ้างมาทวงหนี้ เช่นนั้นเขาจะใช้หนี้แทนจ้อยเสียให้หมดสิ้น!

ถ้าเขาพายเรือไปโรงเรียนเองได้ อาจารย์คงไม่หาข้ออ้างมาวอแววุ่นวายกับชีวิตอีก

   ตกเย็น.. เลอมานไปที่เรือไม้ลำเล็กที่เพิ่งช่วยยายช้อยยาเมื่อเช้า ปลดเชือกล่ามเรือ ปีนขึ้นยืนบนเรือและใช้ไม้ถ่ออย่างที่เคยเห็น เรือหมุนเป็นวง บางครั้งไม้ถ่อติดจมในโคลน แต่สุดท้ายเขาก็พาเรือออกจากฝั่งได้  ออกไปไกลเรื่อยๆ ไกลจนไม้ถ่อไม่ถึงพื้น เลอมานเก็บไม้ถ่อแล้วใช้พายแทน เรือเริ่มหมุนเป็นวงอีก บางทีก็ไปซ้าย บางทีก็ไปขวา ไม่อาจควบคุมทิศทางได้ เขาเริ่มรู้สึกกลัว เรือแล่นไกลจากบ้านยายช้อยมากขึ้นทุกที

   ตอนยายช้อยพายเรือนั้นดูง่ายดาย  ครั้นพอเขาลองทำด้วยตัวเองกลับยากเย็นเข็ญใจ  หน้าหนาวเช่นนี้  ความมืดโรยตัวลงอย่างรวดเร็ว อากาศเย็นยะเยือก  หม่อมราชวงศ์หนุ่มตะโกนเรียกยาย  ขณะเดียวกันก็พยายามใช้ไม้พายจ้วงให้เรือเคลื่อนเข้าฝั่ง  แต่เรือกลับหมุนเป็นวงและห่างออกไปทุกทีๆ  เลอมานเพิ่งสังเกตว่าบัดนี้น้ำในเรือเพิ่มถึงระดับแข้งแล้ว ไม่มีอะไรจะตักน้ำออกจากเรือได้นอกจากใช้มือวิดทีละนิด

น่าแปลก! เรือลำนี้ยาแล้วนี่ ทำไมยังมีรูรั่ว!

   “ยายครับ! ช่วยด้วย!” หนุ่มน้อยตะโกนด้วยความหวาดหวั่น สองมือล้าจากการพายเรือเป็นวงและวิดน้ำจนแทบยกไม่ขึ้น
   น้ำซึมเข้าในเรือมากขึ้นทุกทีๆ เหลือเพียงคืบกว่าก็ถึงกราบเรือ หนุ่มน้อยรู้สึกถึงอันตราย ณ ขีดสุดของความกลัว เขาตะโกนเรียกคนที่เกลียดแสนเกลียด เกลียดเสียจนต้องหนีมาตกระกำลำบากอยู่ที่นี่  เหตุใดจึงเรียกเขาก็ไม่อาจรู้หัวใจตน

   “อาจารย์! ช่วยเล็กด้วย!”

   ที่ท่าน้ำปรากฏร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่าน  จากตรงนี้ เลอมานมองหน้าใครคนนั้นไม่ถนัด บวกกับม่านน้ำตาที่เอ่อขึ้นกลบตา เขามองไม่ออกว่านั่นคืออาจารย์.. หรือไอ้ลอย

   “อาจารย์!” คุณชายตะโกนสุดเสียง “ช่วยเล็กด้วย!”

   ‘ใครคนนั้น’ โจนลงน้ำตูม แหวกว่ายฝ่ากระแสน้ำเข้ามาหา เลอมานเริ่มใจชื้น หากพอเข้ามาใกล้ เริ่มเห็นชัดถนัดตา.. ไม่ใช่อาจารย์..

   ไอ้ลอย!

   “นะ..นายลอย ช่วยฉันด้วย” คุณชายวิงวอน ปัดความเดียดฉันท์และศักดิ์ศรีทิ้งลงกระแสน้ำอย่างสิ้นท่า ในแสงสุดท้ายยามอัสดง เขาเห็นใบหน้าชุ่มน้ำนั้นยิ้มพราย

   มือใหญ่ยึดกราบด้านหนึ่ง ออกแรงกระชากจนเรือโคลง คนบนเรือใจหล่นวูบ เมื่อกี้เรือเกือบคว่ำ อีกนิดเดียวเขาก็ตกน้ำแล้ว

   “นายลอย! ไม่เล่นนะ!”

   มันหาได้ฟังไม่ ดวงตาดำสนิทมองมาอย่างหมายมาด ออกแรงโยกเรืออีกหนจนโคลงเคลงไปทั้งลำ น้ำทะลักเข้าทางกราบเรือ ยิ่งเขากรีดร้องเหมือนมันยิ่งสบอารมณ์  โยกโคลงเรือเหมือนเล่นตุ๊กตา

   กว่าจะรู้ว่ามันเอาจริง!  มือใหญ่คู่นั้นก็กดกราบเรือลงสุดกำลัง  เรือที่เพียบน้ำอยู่แล้วพลิกคว่ำง่ายดายเหมือนพลิกกะลามะพร้าว  เลอมานหล่นตูมลงน้ำเสียงดังสนั่น! 

   เขาพยายามตะเกียกตะกาย  แขนขาล้าแรงตีน้ำตูมตาม จู่ๆ ก็ปวดแปลบกะทันหัน น้ำเย็นจัดทำให้เส้นเลือดหดตัวจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ทัน ตะคริวจับทันที!

   เลอมานรวบรวมกำลังทะลึ่งตัวขึ้นสูดอากาศเหนือน้ำ กลับถูกมือแข็งแรงกดศีรษะลงไปใต้น้ำอีก

   เด็กหนุ่มสำลัก ในหูที่อื้ออึงไปด้วยเสียงคลื่นน้ำและเสียงแขนขาตัวเองตะเกียกตะกายครืนโครม เขาได้ยินเสียงแหบห้าวอำมหิตกระซิบเลือดเย็น

“ไงไอ้ผู้ดี เข้าใจความรู้สึกคนจะจมน้ำตายหรือยัง”


โปรดติดตามตอนต่อไป
___________________________________________________________________________
*วานลมจูบ, สง่า อารัมภีร คำร้อง, ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ขับร้อง

มาแล้วค่า หนนี้เค้ามาเร็วมั้ยๆ ไม่ถึงเดือนเลยเค้าอัพแล้วนะ เย้ๆ ถ้าเป็นไปได้เค้าจะพยายามอัพให้ถี่กว่านี้นะคะ ไม่แน่..ต่อไปอาจได้อาทิตย์ละตอนก็ได้ คิๆๆๆ

ครึ่งตอนแรกมีคนฮือฮาเรื่องจินดากันเยอะเลย หนักไปทางสับสนและพลิกล็อคกันน่าดูถล่มทลายนะคะ(ว้าย..เพลงฟ้องอายุ) ดอกไม้ขอยกที่ชี้แจงในเพจ 'จิฮิโร่และดอกไม้' มาแปะไว้ตรงนี้อีกทีละกันเน้อ เผื่อมีใครยังไม่เห็น

**ขออนุญาตชี้แจงกรณี "ลอยxจินดา" ค่ะ**

ใจจริงแล้วดอกไม้ไม่นิยมการอธิบายเนื้อหาในนิยายด้วยวิธีนี้นะคะ ส่วนตัวคิดว่านิยายที่ดีควรเขียนให้คนอ่านเข้าใจด้วยตัวนิยายเอง แต่เนื่องจากคนเขียนรู้ตัวว่าเป็นคนเขียนช้า+ไม่ค่อยมีเวลาเขียน กว่าปมนี้จะคลาย เกรงว่าจะคนอ่านค้างคาใจกันนานค่ะ เลยต้องออกมาแถลงข่าวคู่นี้นี่แล

- เพราะมีเสียงเรียกร้องจากคนอ่านให้เขียนเรื่องที่ไอ้ลอยเป็นพระเอก
- ดอกไม้เลยจะเขียน "ดอกฟ้าในมือโจร" ให้มันเป็นพระเอกสมใจ
- แต่คาแรกเตอร์ไอ้ลอยในมหาหงส์ เลวบริสุทธิ์จริงๆ เลือดเย็น ไร้หัวใจ แล้วถ้ามันเป็นพระเอก มันจะรักใครสักคนได้รึ? ่
- ไหนๆ ในมหาหงส์ ก็จงใจเขียนให้คนอ่านรู้สึกถึง "อะไรบางอย่าง" ระหว่างลอยและจินดาอยู่แล้ว
- จินดาจึงถูกยกมาพูดถึง ต่อเติมนิดหน่อย เพื่อเสริมให้ตัวละครไอ้ลอย มีมิติ มีหัวใจ เจ็บได้ รักเป็นค่ะ
- จินดารักครูคนึงนี่ แล้วทำไมได้กะไอ้ลอย งง? หรือนางควบสอง? อันนี้ไม่บอก แต่อยากให้ตามอ่านนะคะ ทุกอย่างจะเฉลยในดอกฟ้าในมือโจร
- แต่จะค่อยๆ คลายปมนี้ทีละนิดในมหาหงส์
- ทุกการกระทำของทุกตัวละคร มีเหตุผลค่ะ และทุกคำที่ดอกไม้เขียน ก็มีที่มาที่ไป และเชื่อมโยงกันเช่นกัน แต่เพราะเขียนช้าไง กว่าจะเฉลย คนอ่านลืมพอดี T^T
- จินดาไม่ใช่ "ดอกฟ้า" ดังนั้นนายเอก "ดอกฟ้าในมือโจร" ไม่ใช่จินดาค่ะ
- ดอกฟ้าในมือโจรเป็นเหตุการณ์หลังมหาหงส์ประมาณ ๕-๖ ปีค่ะ
- มีเสียงเรียกร้องให้เขียนคู่กัน อัพให้อ่านคู่กัน แต่ไม่สามารถค่ะ เนื้อเรื่องในดอกฟ้าฯ มันสปอยมหาหงส์อ่ะจ้าา

เจอกันใหม่ตอนหน้าเน้อ รักคนอ่านค่า

ดอกไม้
๖ เม.ย. ๒๕๕๘

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จิ้มมมม  :z13:  :hao6:

โอ้ยยยส นี่นายลอยมาแก้แค้นเลอมานหรออออ  :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2015 04:04:26 โดย Moose »

ออฟไลน์ feelinlove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นายลอยนี่เข้าใจยากจัง เดาใจไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ มันชั่วจนไม่น่าเป็นพระเอกได้เลยนะ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
โชคดีของสิงห์ที่มีน้องจ้อย  :กอด1:

สงสารแต่หนูเล็ก  :o12:

ครูคนึงกับไอ้ลอยมันน่าหมั่นไส้  :z6:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เย้มาแล้ววววว     :กอด1:

ชอบเลอมานมากค่ะ น่ารักมากกก  :hao7:

ออฟไลน์ zizits

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
เค้ารอรวมเล่ม อยากได้มั่กกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด