ตอน 21 แทนโปรด
“ไปไหนมา” เสียงของคุณนายแม่ถาม ก่อนที่จะมองผมด้วยแววตาที่เจือไปด้วยความโกรธ
“ไปหาเพื่อนมาครับ”
“เหอะ ถ้าเป็นเพื่อนจริงๆคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นหรอกมั้งคุณลูกชาย” ผมว่าวันนี้คุณนายดูแปลกๆนะครับ ปกติเคยสนใจที่ไหนแต่วันนี้นอกจากจะมองผมตาขวางแล้วยังประชดอีก
“เพื่อนจริงๆครับ ไอ้ไม้ไงแม่ พอดีมันยังไม่กลับหอผมเห็นว่าดึกแล้วเลยเป็นห่วง”
“แทนไท แม่ไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้นะ จะทำอะไรคิดถึงใจน้องบ้าง” ผมได้แต่เลิกคิ้วด้วยความงง แม่กำลังพูดถึงเรื่อง
อะไรครับใครรู้ช่วยบอกผมที
“แม่ แม่พูดเรื่องอะไรเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว”
“เชอะ ฉันไม่คุยกับแกแล้ว เสียเวลา!” แล้วแม่ก็เดินขึ้นห้องไป ปล่อยผมไว้กับความงงมากมายมหาศาล ครับ ผมไม่เข้าใจ
คุณนายแกจริงๆ ให้ตายเถอะ
“ไอ้โปรด นอนยังวะ” ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะถามส่วนเกินที่มักจะมาสิงห้องบ่อยๆ แต่คราวนี้กลับว่างเปล่า ผมแปลกใจนิดหน่อยเพราะปกติไอ้โปรดจะไม่หนีไปดื้อๆถ้ามันจะนอนบ้านผม แต่ก็ดีวันนี้ผมจะได้นอนคนเดียวซะที ผมอาบน้ำออกมานั่งเล่นเกมเหมือนทุกวัน แต่ทำไมวันนี้รู้สึกแปลกๆ มันเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง นี่มึงเป็นอะไรไปวะไอ้แทน ผมได้แต่สถบในใจอย่างหัวเสีย ก่อนจะเหลือบเห็นน้องเน่าของไอ้เด็กข้างบ้านนอนอยู่บนเตียง
“ไหนบอกไม่มีแล้วนอนไม่หลับไงวะ เหอะ ที่นี้ล่ะทิ้งเชียว” ผมบ่นก่อนจะตัดสินใจทิ้งตังลงบนที่นอน พลางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงก่อน
หลังจากที่วางสายจากเจ้าของร้านของเพื่อนสนิทแล้วใจผมก็เกิดกังวลขึ้นมาบ้างเพราะปกติไอ้ไม้ไม่ใช่คนที่จะไปไหนมาไหนโดยที่ไม่บอกใคร แถมยังไม่ยอมรับโทรศัพท์ด้วยนี่แปลกมาก
“พี่แทนจะไปไหน” เสียงของไอ้เด็กข้างบ้านถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมเตรียมจะออกไปข้างนอก
“ไม่ต้องมากวนน่า ไม่ใช่เรื่องของเด็ก มึงไปนอนโน่นไป”
“ใช่สิ โปรดมันก็แค่เด็กข้างบ้าน จะไปสำคัญเท่าเพื่อนรักของพี่อย่างพี่ไม้ได้ยังไง!” ไอ้โปรดขึ้นเสียง
“อย่าดึงไม้มาเกี่ยว ถ้ามึงจะงี่เง่าก็กลับไปนอนบ้านเลยไป” ผมเริ่มเสียงดังบ้างเพราะตอนนี้ทั้งร้อนใจเรื่องไอ้ไม้แถมไอ้น้องข้าง
บ้านนี่ยังมากวนโมโหอีก
“พี่แทนไล่โปรดเหรอ”
“เออ!!” ผมบอกแค่นั้นก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมๆกับ นินจาลูกรัก ผมตามหาไอ้ไม้อยู่นานมาก ทั้งที่โรงเรียน ที่สวนสาธารณะที่มันไปชอบไปหรือแม้แต่ถิ่นของคู่อริอย่างช่างกลs แต่ก็ไม่มีวี่แววของมันเลยสักที ทำให้ผมยิ่งหัวเสีย แม้ว่าผมจะพยายามตัดใจ แต่ผมก็เป็นห่วงมันมาก กังวลไปสารพัดว่ามันจะมีอันตรายหรือเปล่า ถึงรู้ว่าไอ้ไม้ไม่ใช่คนอ่อนแออะไร เรื่องต่อยตีมันก็สูสีกับผม แต่เพราะเป็นมันผมถึงได้ห่วงขนาดนี้
ผมตัดสินใจโทรหามันหลังจากที่พยายามตามหาอยู่นาน ก็ได้คำตอบว่ามันอยู่บ้านเพื่อนแม้จะแปลกใจเพราะไอ้ไม้ที่แทบไม่พูดเรื่องอดีตของตัวเองเลยจะมีเพื่อนสมัยมอต้นมาหา แต่แค่รู้ว่ามันปลอดภัยก็ดีแล้ว
“นี่กลับไปจริงๆเหรอเนี่ย” ผมพูดกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เพิ่งจำได้ว่าตัวเองไล่มันกลับบ้านแต่ปกติมันเคยฟังซะที่ไหนล่ะ เห็นเกาะผมเป็นลูกลิงขนาดนั้นไล่ยังไงก็ไม่ไป แต่บทจะไปมันก็ไปง่ายๆซะอย่างนั้น
“คุณนายครับ วันนี้มีอะไรกินบ้างเอ่ย” ผมถามคุณนายแม่ที่กำลังทานข้าวเช้าอยู่ แต่กลับได้เพียงค้อนวงโต นี่ผมทำอะไรให้คุณนายไม่พอใจกันครับ
“แม่เป็นอะไรครับ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”
“ไม่มีอะไร จะกินก็รีบกินแล้วก็รีบไปเรียนได้แล้ว!”
มาเต็มอารมณ์ล้วนๆ คุณนายของผมเป็นอะไรใครรู้ช่วยสงเคราะห์ผมทีเถอะครับ
“แม่ทำไมวันนี้ ตั้งโต๊ะแค่สามที่ล่ะครับ” ผมเลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจเพราะปกติแล้ว บ้านผมต้องมีลูกรักแม่มานั่งกินข้าวด้วยแทบทุกวันยกเว้นวันหยุดเพราะมันจะตื่นสาย แต่วันนี้ยังไม่เห็นเลยแหะ
“หึ ทำกับน้องขนาดนั้นน้องคงมาหรอก”
“แม่ถามจริงๆนะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม่โกรธเรื่องอะไรครับ”
“เมื่อคืนทำเรื่องอะไรไว้ล่ะ”
ผมงงหนักกว่าเดิม พลางส่ายหน้าอย่างจำใจเพราะผมไม่รู้จริงๆ
“เมื่อคืนแกไล่น้องกลับบ้านใช่ไหม? ”
“เอ่อ..” ผมอึกอักเพราะจริงๆก็ไล่ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ
“มันน่าตีจริงๆลูกคนนี้ น้องยังเด็ก แกยังไปตะคอกจนน้องร้องไห้วิ่งกลับบ้านแบบนี้จะไม่ให้แม่โกรธได้ยังไง ฉันเลี้ยงของฉันมาตีสักแปะฉันยังไม่เคย” ครับสรุปว่าใครเป็นลูกแม่กันเนี่ย
“โถ่ แม่ ก็แค่ทะเลาะกันนิดหน่อย เองแล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย ก็ตอนนั้นคนมันโมโห”
“ไม่รู้ล่ะ แม่ไม่สนว่าแกจะใช้วิธีไหน แต่แกต้องให้น้องยกโทษให้แกให้ได้เข้าใจไหม แทนไท” คุณนายสั่งเสียงเข้ม
“ครับๆ” ผมรับคำแบบ แม้ในใจจะค้านอยู่มากก็ตามว่าผมไม่ผิด
ผมจอดรถหน้าบ้านไอ้โปรดก่อนจะมองหาไอ้เด็กข้างบ้านตัวแสบไปด้วย สักพักคุณน้าแม่มันกลับเดินออกมาบอกว่ามันให้เพื่อนมารับไปแล้ว เพื่อน ใคร? หรือเป็นไอ้เด็กแว่นนั่น? ผมสูดหายใจเข้าเพื่อนระงับความไม่พอใจที่แล่นริ้วอยู่ในอก ทำไมผมต้องไม่
พอใจ ก็แค่เพื่อนมารับไปโรงเรียน
“เว้ย! ไอ้แทนมึงเป็นอะไรวะ” ผมสบถก่อนจะกระชากเกียร์ออกรถทันที และต้องถามตัวเองอีกครั้งว่าผมมาที่โรงเรียนไอ้โปรดทำไม
“เหอะ สงสัยจะเป็นเพราะชิน” ผมบอกกับตัวเองเบาๆก่อนจะขับรถมุ่งตรงไปที่โรงเรียนตัวเอง แม้ว่าวันนี้ผมจะรู้สึกว่าไอ้ไม้มันดูซึมๆแต่ตัวผมเองกลับไม่มีกระจิตกระใจจะทักหรือถามมันมากนัก จิตใจส่วนใหญ่ของผมดูเหมือนจะไปอยู่ที่ไอ้เด็กข้างบ้านตัวเล็กนั่นซะหมด
“แทนมึงเป็นอะไรหรือเปล่า กูเห็นมึงอารมณ์เสียมาตั้งแต่เช้า” ไอ้เพื่อนที่มันคงทนสงสัยต่อไปไม่ได้เอ่ยถาม
“เปล่า กูมีเรื่องนิดหน่อยไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”
“กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมา 3 ปีนะเว้ยไม่ใช่ 3 วันคนอย่างมึงน่ะไม่ใช่คนใส่ใจเรื่องเล็กน้อยหรอก ถ้าเรื่องไหนทำให้มึงอารมร์เสียได้
ขนาดนี้กูว่ามันใหญ่พอสมควรนะ จริงไหม”
“นี่มึงกำลังด่ากูอยู่ปะวะ ทำไมกูเหมือนถูกด่ายังไงไม่รู้”
“ใครจะไปกล้าด่า พี่แทน รองหัวหน้าเทคนิค m ล่ะครับ แหม กระผมก็พูดไปตามที่เห็นล่ะครับ”
“กวนตีนแล้วมึง” ผมด่าพลางตบหน้าผากมันไม่แรงนัก
“แทน มึงทะเลาะกับน้องโปรดหรือเปล่า”
“มึงรู้ได้ยังไง?” ผมเลิกคิ้วถาม เพราะเท่าที่จำได้ผมไม่เคยบอกมันสักคำว่าผมทะเลาะกับไอ้โปรด
“กูเดา” แหม มันควรไปสมัครเกมโชว์ หรือไม่ก็เปิดตำหนักใบ้หวยนะครับ ถ้าจะเดาแม่นขนาดนี้
“กูจะบอกอะไรมึงสักอย่างนะไอ้แทนเพื่อนรัก รัก ชอบ ผูกพัน มันใกล้กันมาก มากจนบางครั้งเราก็แยกไม่ออกว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร มึงลองถามใจตัวเองดีๆอีกทีนะ ว่า สรุปแล้ว คนที่มึงรู้สึกรัก จริงๆนะเป็นใคร” มันบอกก่อนจะเดินแยกไปเข้าเรียนทิ้งให้ผมขมวดคิ้วกับความสงสัยต่อไป
ตกเย็นผมกลับต้องมานั่งแปลกใจตัวเองอีกครั้งที่จนแล้วจนรอดก็มาอยู่ที่หน้าโรงเรียนมัธยมที่แสนคุ้นเคยนี่อีกครั้ง ให้ตายเถอะ นายแทนไท กำลังเป็นอะไร!! ผมหัวเสียอยู่พักใหญ่ก่อนที่ไอ้เด็กข้างบ้านตัวแสบจะเดินยิ้มร่าออกมาพร้อมกับไอ้เด็กแว่น
“โปรดกลับบ้านได้แล้ว” ผมเดินเข้าไปหาเด็กมัธยมสองคนด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เผลอๆคงมีคนเกือบจะกดโทรแจ้งตำรวจด้วยซ้ำว่ามีเด็กช่างกลมาหาเรื่อง
“ไม่กลับ!! โปรดจะให้ธันวาไปส่ง” ไอ้โปรดว่า พลางกอดอกฉับ
“เฮ้ย ไอ้แว่น คราวก่อนกูเตือนมึงว่าไง จำไม่เหรอ ว่าอย่ามายุ่งกับน้องกูอีก ” ผมหันไปเล่นงานไอ้เด็กแว่นบ้างมันที่กลัวจนตัวสั่น
อยู่แล้วยิ่งสั่นหนักเข้าไปอีก
“พี่แทนจะทำอะไรเพื่อนโปรด!!”
“เหอะ” ผมแค่นเสียงในลำคอก่อนจะลากไอ้ตัวแสบขึ้นรถทันที
“เงียบ เงียบตลอดโกรธกูเรื่องอะไรก็พูดมาสิ ทำไงต้องเงียบด้วย!!” ผมเริ่มเสียงดังเมื่อเห็นว่าไอ้ตัวแสบเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา
“แล้วพี่แทนจะสนใจทำไม โปรดก็แค่เด็กข้างบ้าน ต่างคนต่างอยู่สิ โปรดก็ไม่ไปวุ่นวายกับพี่แล้ว พี่จะเอาอะไรอีก!!” ร่างเล็ก
ตะโกนลั่น ก่อนที่ตากลมโตนั้นจะเต็มไปด้วยน้ำตา ผมถอนหายใจก่อนจะจอดรถ ข้างทางขืนขับไปทะเลาะกันไปอาจจะไม่ถึงบ้านทั้งคู่
“โปรด อย่าร้อง”
“พี่แทนสนใจด้วยเหรอ”
“อ้าว ไอ้นี่มึงเป็นน้องกูนะ กูจะไม่สนมึงได้ยังไง”
“อืมได้ โปรดไม่โกรธพี่แทนแล้ว กลับบ้านได้หรือยัง หิวข้าว” มันบอกพลางเช็ดน้ำตาออก แม้วว่าผมจะแปลกใจที่มันหายโกรธง่ายเหลือเกิน แต่ก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วตรงกลับบ้าน
นายแทนไท กำลังจะเป็นบ้า ….
เพราะดูเหมือนว่าตลอดอาทิตย์นี้ทั้งเพื่อนสนิทและไอ้เด็กข้างบ้านจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยทั้งคู่ แต่ไอ้ไม้ดีหน่อยที่มันยังรับโทรศัพท์ตอบไลน์บ้าง แต่อีกคนสิอยู่บ้านใกล้กันแท้ๆแต่กลับไม่เห็นแม่แต่เงา นี่ผมจะเข้านายคุณนายไม่ติดแล้วนะครับ แต่มันแปลกกว่านั้นที่ผมกระวนกระวายจนไม่เป็นอันทำอะไร รอบๆตัวมันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ตอนที่มันอยู่ก็รำคาญมันจะตายชักแต่พอมันไม่อยู่ขึ้นมาจริงๆ กลับรู้สึก คิดถึง อย่างบอกไม่ถูก
“กูจะบอกอะไรมึงสักอย่างนะไอ้แทนเพื่อนรัก รัก ชอบ ผูกพัน มันใกล้กันมาก มากจนบางครั้งเราก็แยกไม่ออกว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร มึงลองถามใจตัวเองดีๆอีกทีนะ ว่า สรุปแล้ว คนที่มึงรู้สึกรัก จริงๆนะเป็นใคร”
คำพูดของเพื่อนรักดังซ้ำไปซ้ำมาในหัว มันทำให้ผมเริ่มทบทวนอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ตัวผมอาจมองข้ามมันไป…
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,TBC,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
ช่วงนี้นางขยัน ถ้า ขยีนแบบนี้ คาดวว่า ไม่เกินสิ้นปี น่าจะจบ เอิ๊กๆๆๆ