LengZab
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
50%
เล้งให้ย้งยี้ขึ้นไปอาบน้ำก่อนส่วนตัวเองกลับไปที่อู่อีกครั้งเพื่อไปเอารายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ เมื่อกลับถึงบ้านเล้งเห็นแปะหลิวกำลังนั่งกินข้าวกับเป็ดเอ็มเคที่ซื้อมาให้อยู่ในครัว
“อ้าวป๊า เพิ่งกินข้าวเหรอ”
“เออ”ป๊าตอบรับในขณะที่กลืนข้าวลงคอไปด้วย แปะหลิวมองหน้าลูกชายพลางพยักหน้าให้มานั่งด้วยกัน
“มีไรอ่ะป๊า?”
“กับอาย้งเอายังไง”แปะหลิวถามคำถามที่คาใจมานาน เขารู้มาตลอดว่าย้งยี้นั้นชอบลูกชายของเขา แต่ที่ผ่านมาเล้งไม่เคยแสดงออกว่ารู้สึกยังไงกับย้งยี้ ยกเว้นช่วงหลายวันมานี้ที่แปะหลิวเห็นลูกชายเสียอาการกับย้งยี้อยู่บ่อยๆ
มันมากขึ้นทุกวัน...
“แล้วป๊าคิดว่าย้งมันยังไงล่ะ?”เล้งไม่ตอบคำถามในทันที เขาเลือกที่จะตั้งคำถามเพื่อดูท่าที เล้งไม่กล้าพูดออกไปตรงๆเพราะถึงแม้แปะหลิวจะเอ็นดูย้งยี้ก็จริงแต่เขาไม่รู้ว่าป๊าจะรักและเอ็นดูย้งยี้จนถึงขั้นทำใจเปิดกว้างยอมรับความรักระหว่างเขากับย้งได้
“อีเป็นเด็กดี”
“ป๊าไม่รังเกียจเหรอที่มันเป็นตุ๊ด?”
“จะรังเกียจทำไม เป็นตุ๊ดเป็นกะเทยก็คนเหมือนกัน อาย้งอีเป็นเด็กน่ารัก”
“แล้วถ้าผมกับมันคบกันป๊าจะว่าอะไรมั้ย?”เล้งถามเหมือนโยนหินถามทาง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายของแปะหลิวอยู่แล้ว
“ป๊าจะไปว่าอะไรได้ อีกหน่อยลื้อก็ต้องมีชีวิตของตัวเองคนที่อยู่กับลื้อทั้งชีวิตคือคนที่ลื้อเลือก ถึงมันจะเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกแต่ป๊าจะพยายามค่อยๆเข้าใจพวกลื้อทีละนิด”แปะหลิวตอบพลางคีบเป็ดเข้าปากอีกชิ้น เขาไม่แปลกใจหรอกถ้าวันหนึ่งลูกชายคนเล็กจะใจอ่อนให้กับย้งยี้ น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคน ย้งยี้ถ้าตัดเรื่องเพศเดียวกันไปได้ภายใต้ท่าทางกระแดะๆของมันแล้วย้งยี้ก็มีคุณสมบัติครบแบบที่ผู้ชายต้องการ หน้าตาดี ครอบครัวดี ฐานะดี นิสัยดีแถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือน ตั้งแต่เล็กจนโตมามันไม่ได้ใส่ใจแค่เล้งคนเดียวมันยังเผื่อแผ่ความรักความปรารถนาดีมาถึงเขาด้วย
อย่าว่าแต่เล้งที่ติดรสมืออีย้งแปะหลิวเองก็ติดรสมือมันเหมือนกัน
เขาเองก็ไม่ใช่คนสมัยใหม่อะไรแค่พยายามทำความเข้าใจกับโลกของเด็กรุ่นใหม่
อีกอย่างถ้าการที่มีย้งยี้ในชีวิตเล้งแล้วทำให้ลูกชายมีความสุข เขาที่เป็นพ่อก็ไม่รู้ว่าจะกีดกันความสุขนั้นของลูกทำไม ชีวิตคนเราไม่ยาวนานเพราะฉะนั้นถ้าอะไรคือความสุขการได้อยู่กับสิ่งๆนั้นนานๆน่าจะมีค่าและมีความหมายสำหรับลูกที่สุดไม่ใช่เหรอ
“แบบนี้แปลว่าถ้าผมจะคบกับย้งป๊าก็ไม่ว่าใช่มั้ย?”
“คบกันก็ให้เกียรติกันดีๆ ลูกเขามีพ่อมีแม่ทำอะไรอย่าข้ามหัวผู้ใหญ่ อย่าพาลูกเขาไปทำความเสื่อมเสีย อีกอย่างอาย้งเพิ่งจะ 17 ยังไม่เต็ม 18 น้องยังเด็กเกินไป ดูแลน้องให้ดีๆอาย้งอีเป็นเด็กซื่อๆสู้ใครไม่ได้หรอกต่างกับลื้อ ลื้อโตกว่า แข็งแรงกว่าก็ต้องปกป้องอี ดูแลอีให้ดีได้เท่าที่ม้ากับเฮียอีดูแล คบกันไม่ใช่แค่รักกันสองคนแล้วก็จบ ลื้อยังมีพ่อแม่พี่น้องคนรอบข้างที่ต้องให้เกียรติเขา เข้าใจมั้ย”แปะหลิวสอนลูกชายยาวที่สุดเท่าที่เคยสอนมา เขาไม่อยากให้เล้งทำเหมือนย้งยี้เป็นของเล่น ยังไงเสียแปะหลิวกับพ่อของย้งยี้ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม พรรณีเองก็เป็นคนดี บ้านนี้ดีด้วยกันทั้งบ้าน เพราะฉะนั้นคนดีๆก็ไม่ควรต้องมาเสียใจหรือถูกเอามาเป็นของเล่นพอเบื่อแล้วก็ทิ้งขว้าง
“ครับป๊า”
“ถ้าจะจริงจังก็ไปทำให้มันชัดเจน ไปพูดกับแม่เขา ขอเขาคบกันดีๆ”แปะหลิววางตะเกียบลงบนปากชาม ยกน้ำขึ้นดื่มเป็นอันเสร็จมือเย็นที่เรียบง่าย เล้งลุกขึ้นเก็บเป็ดที่เหลือแช่ตู้เย็นแล้วเอาชามข้าวของผู้เป็นพ่อไปล้าง
“แล้วอย่างนี้ ป๊าไม่อายชาวบ้านเหรอที่ผมคบกับผู้ชายด้วยกัน”
"ช่างหัวชาวบ้านแม่งสิ เขามาหาเงินให้มึงใช้มั้ยล่ะ?”เล้งถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับคำตอบของป๊า
“อีกอย่างคนแถวนี้เขาก็รับรู้กันหมดแล้วว่ามึงเป็นว่าที่ผัวย้งยี้มัน ถ้าเป็นจริงคงไม่แปลก หรือมึงจะเป็นเมีย?”
“ฟ้าผ่าตายสิป๊า ปั๊ดโธ่”เล้งร้องโวยทันทีที่แปะหลิวเปลี่ยนโพให้มันกระทันหัน สองพ่อลูกหัวเราะออกมาทันทีที่พูดจบ
หลังจากอยู่คุยกับป๊าอีกพักเล้งก็ขึ้นไปเอาของแล้วกลับมาที่ร้าน อีตัวดีกำลังนอนคว่ำหน้าทำการบ้านอยู่บนเตียง ที่หูสองข้างเสียบหูฟังอยู่เรียวขาขาวใต้ชุดนอนลูกไม้สีโอลด์โรสขยับไปมาแปลว่ามันกำลังฟังเพลงอยู่เล้งมองเรือนร่างบอบบางราวเด็กผู้หญิงของมันแล้วมันเขี้ยวอยากจับมาฟัดแรงๆไหล่ขาวของมันนั่นก็น่าจูบ ขาขาวๆของมันก็น่าหยิก ตูดงอนๆนั่นก็น่าตี
ทำไมถึงได้น่ารังแกไปทุกสัดส่วนเลยวะ
ชะโงกหน้าดูก็เห็นว่าการบ้านที่มันทำเป็นวิชาเลข อีย้งแก้โจทย์อย่างคล่องแคล่วเล้งเลยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ ย้งยี้ช้อนตาขึ้นมองพลางส่งยิ้มให้มันถอดหูฟังออกเพื่อให้ความสนใจกับเล้งอย่างเต็มที่
“กลับมานานยังพี่เล้ง”
“เพิ่งมา”
“ไปนานจังคุยกับแปะหลิวมาเหรอ”
“อือ”เล้งตอบเบาๆในลำคอ ย้งยี้ทำเสียงอ่อแล้วกลับไปสนใจการบ้านต่อจนเล้งต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่มันไม่เซ้าซี้ถามว่าคุยเรื่องอะไรกันทำไมนาน
“ไม่อยากรู้เหรอว่าคุยเรื่องอะไร?”
“ย้งจะไปอยากรู้ทำไมล่ะก็พี่เล้งคุยกับแปะหลิวมันเป็นเรื่องภายในบ้าน ย้งไม่ละลาบละล้วงหรอก”มันใช้ปากกาแดงขีดเส้นใต้ปิดบันทัดเป็นอันเสร็จการบ้านที่นอนทำมาร่วมชั่วโมง ย้งยี้เก็บการบ้านที่วางเรียงเข้ากระเป๋าแล้วลุกเอากระเป๋ามาวางบนโต๊ะ เล้งดึงข้อมือมันเบาๆให้อีตัวดีมานั่งลงบนตัก
ไหนว่าห้ามมานั่งตักอีกไง ย้งยี้แอบค่อนขอดเล้งในใจในขณะที่เล้งเมื่อนังตัวนิ่มมาอยู่บนตักก็อดไม่ได้ที่จะคว้ามือมันมาเขี่ยเล่นแถมจุ๊บเบาๆลงบนต้นแขนเปลือยของมัน กลิ่นหอมอ่อนๆของครีมทาผิวที่ย้งยี้ทาซึมซ่านเข้าจมูกจนเล้งอยากจะฟัดซ้ำๆให้เนื้อของมันช้ำคาจมูกแต่มันก็ต้องยับยั้งชั่งใจของตัวเองไว้ เล้งจ้องตาอีตัวดีคลึงปลายนิ้วกับมือนุ่มของมันเล่น
“กูคุยเรื่องของเรา”
“หืม??”อีตัวดีมีคำถามผ่านทางสีหน้าและแววตาทันที
“ป๊าเค้าถามกูว่าระหว่างมึงกับกูคือจะอะไรกันยังไง”เล้งเริ่มเล่าบทสนทนาที่คุยกับผุ้เป็นพ่อให้อีตัวดีฟัง ใบหน้าขาวของย้งยี้แดงเรื่อขึ้นยามฟังคำตอบที่แปะหลิวพูดกับเล้ง ใจดวงน้อยฟูฟ่องราวกับได้รับรางวัลหนูน้อยฟันสวยเมื่อตอนอนุบาลสอง มันทั้งดีใจทั้งตื้นตันที่แปะหลิวยอมรับในตัวมัน ยอมรับในความรักที่มันมีต่อเล้งมาตลอดเกือบสิบปี มันส่งยิ้มหวานให้กับเล้งจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกดต้นคอมันลงมารับจูบ
ไม่ได้ตะกละตะกรามหากแต่ค่อยๆละเลียดชิมความหอมหวานที่มี โพรงปากของย้งยี้หอมกรุ่นไปด้วยรสนม
“ปากมึงหอม”ถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง มองกลีบปากที่ฉ่ำวาวไปด้วยน้ำลายของเขา เล้งคลึงมันเบาๆก่อนจะสอดปลายนิ้วข้าไปในโพรงปากของย้งยี้ อีตัวดีส่งสายตาถามอย่างแปลกใจเล้งใช้ปลายนิ้วของตัวเองเล่นกับลิ้นของย้งยี้ชักเข้าออกช้าๆอย่างเป็นจังหวะในหัวจินตนาการภาพบาปจนสติแทบจะเตลิด มันชักปลายนิ้วออกสายใยเส้นใจยืดติดสะโพกเล็กบดเบียดกับต้นขาจนทำให้อารมณ์ภายในของเล้งปั่นป่วน มันดึงอีตัวดีให้ลุกขึ้นอย่างแผ่วเบา ถอนหายใจอย่างตัดใจ
ป๊าสอนมาแล้วว่าทำอะไรอย่าข้ามหัวผู้ใหญ่ นั่นแปลว่าคนเป็นพ่อเอ่ยเตือนกลายๆว่าอย่าล่วงเกินย้งยี้
“ไปนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”
“งั้นเดี๋ยวพี่เล้งอาบน้ำเลยมั้ย ย้งหยิบผ้าเช็ดตัวให้”มันเอ่ยถามเขาด้วยดวงตาใสๆ ในหัวของเล้งมีแต่คำว่าอยากรังแกอยากย่ำยีให้ร้องแงๆแล้วค่อยจูบปลอบแต่เขาก็ต้องตัดใจ
“อือ อาบเลย”พอเขาตอบรับมันก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ในนั้นมีเสื้อผ้าของเล้งอยู่หลายชุด ย้งยี้เลือกเสื้อยืดตัวบางกับกางเกงนอนขายาวที่เล้งชอบใส่มาให้ เสื้อผ้าหอมฟุ้งเพราะย้งยี้ซักรีดให้อย่างดี เล้งรับผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าแล้วจึงได้เข้าไปอาบน้ำและจัดการกับอารมณ์ที่คั่งค้างของตัวเอง เมื่อออกมาอีตัวดีก็ห่มผ้าหลับไปเรียบร้อยแล้ว
ช่างเป็นเด็กที่หลับง่ายหลับดายจริงๆ เล้งขยับตัวขึ้นไปนอนเคียงคู่ ดึงอีตัวดีมานอนกอดกดจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผากเนียนเบาๆอย่างแสนรัก
“รีบๆโตซักที กูจะทนความยั่วเยของมึงไม่ไหวแล้วอีย้ง”
เขาท่องคำว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานในใจทุกค่ำเช้า
รอบรรลุนิติภาวะก่อนเถอะมึ้ง พ่อจะจับแดกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าไม่เหลือกซากให้ใครได้ชิมต่อเลย
เช้านี้เล้งไปส่งย้งยี้ที่โรงเรียนตามปกติ มันพาน้องแวะกินโจ้กที่ตลาดเพราะตื่นสาย ใบหน้าของย้งยี้มีรอยช้ำชัดกว่าเมมื่อวาน เล้งโมโหหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย อีตัวดีเอาแต่ปลอบเขาว่ามันไม่เป็นอะไร
“พี่เล้ง มันไม่เป็นไรจริงๆ ย้งไม่ได้เจ็บแล้ว”มันจับมือเล้งเขย่าไปมาเมื่อเล้งทำท่าฮึดฮัดไม่หาย เล้งถอนหายใจแล้วพยักหน้าส่งๆ
“เออ ไม่โกรธแล้วก็ได้ ไป มึงเข้าไปได้แล้ว เดี๋ยวเย็นมารับ”ย้งยี้ทำตามอย่างว่าง่ายมันโบกมือบ๊ายบายให้เล้งแล้วจึงเข้าไปหาอันดามันกับโจ้ที่กวักมือเรียกอยู่ด้านใน เล้งใช้เวลาทั้งวันในการเรียน มันเมินใส่แก้มบุ๋มราวกับหล่อนไม่มีตัวตน เล้งเล่าเหตุการณ์เมื่อเย็นวานให้เจงกับอินฟังอย่างคร่าวๆทำให้สองเพื่อนซี้มองแก้มบุ๋มกับส้มด้วยสายตารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
แก้มบุ๋มมองท่าทางเย็นชาของเล้งแล้วให้นึกโมโห
หล่อนอยากเอาชนะแต่เมื่อวานเล้งเอารองเท้าเขวี้ยงใส่หัวหล่อน หล่อนอายจนแทบแทรกผ่านดินหนี มาวันนี้ยังมองหล่อนเหมือนกองขี้ทำหน้าทำตารังเกียจบางครั้งก็ทำตาขวางใส่อย่างกับหมาบ้ายิ่งทำให้คิดมากจนหล่อนอยากจะวิ่งไปกรี๊ดใส่หน้า
แก้มบุ๋มเก็บความไม่พอใจไว้ข้างใน หล่อนทำอะไรไม่ได้
“บุ๋ม กูก็ขอโทษมึงแล้วไง เมื่อวานไอ้เล้งน่ากลัวมากกูก็ต้องเอาตัวรอดก่อนสิวะ”เจงกับอินที่กำลังจะไปเข้าห้องน้ำถึงขั้นชะงักเท้าโดยพร้อมเพียงกันแล้วหลบเข้ากำแพงแอบฟังอาจารย์ฝึกสอนที่แอบมาคุยกันที่สวนด้านหลังตึกสองคน
“แทนที่มึงจะช่วยกูมึงกับอีแพรวกลับทิ้งกูเอาตัวรอด”
“อีบุ๋ม กูถามจริงๆนะไอ้เล้งมาตาขวางเหมือนหมาบ้าขนาดนั้นถ้ามึงเป็นกูมึงไม่กลัวเหรอ ใครก็รักชีวิตตัวเองป่าววะเกิดแม่งบ้าคลั่งกระโจนมากระทืบกูกับอีแพรวขึ้นมากูสองคนไม่ตายเหรอ”
“กูเจ็บใจ ตั้งแต่เกิดมากูยังไม่เคยอายขนาดนี้มาก่อนเลย แพ้ตุ๊ดไม่พอยังโดนผัวมันเอารองเท้าตีหัวอีก”
“วันพระไม่ได้มีหนเดียวซักหน่อย ไว้ไปดักตบมันใหม่ก็ได้ ตอนนี้มึงก็ใจเย็นก่อน ฝึกงานใกล้จบแล้วอย่าเพิ่งไปมีปัญหาเลย”
“คอยดูนะถ้ากูได้ตบอีกทีกูสัญญาว่าจะเอาคัทเตอร์กรีดให้หน้าแหกเลย”แก้มบุ๋มพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือ เจงกับอินมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้กัน เจงกดปิดการอัดเสียงแล้วเดินนำอินกลับไปหาเล้งที่ห้อง จัดการเปิดเสียงที่อัดมาให้เล้งฟัง ชายหนุ่มกำหมัดแน่น
บอกได้เลยว่าถ้าแก้มบุ๋มอยู่ตรงหน้าเขาอาจจะลุกขึ้นต่อยหล่อนได้อย่างไม่ลังเล
คุณากรคว้าโทรศัพท์ของเจงมาไว้ในมือ
“กูยืมโทรศัพท์มึงก่อนนะ เดี๋ยวคืน”มันไม่พูดพร่ำทำเพลง เล้งเดินตรงดิ่งไปห้องของอาจารย์ฝ่ายปกครองทันที
ในเมื่อแก้มบุ๋มไม่หยุด เขานี่แหละจะหยุดหล่อนเอง สอนตัวเองให้เป็นมนุษย์ดีๆไม่ได้ก็อย่าไปสอนลูกหลานคนอื่นเลย ความดีน่าจะไม่ซึมซาบหรอก
ในเมื่อสอนตัวเองยังไม่ได้ก็อย่าหวังจะได้ไปสอนลูกใครอีกเลย
..........................................
มาแล้ววววววววววววว กลับมาแล้ววววววววว คิดถึงอีตัวดีแทบขาดใจแต่คนเขียนไปขายของมา ช่วงนี้จะพิมพ์ได้ก็วันหยุดอ่ะค่ะ เหนื่อยเปิดเวิร์ดแล้วหลับมา 3 วันแล้ว ฮื่อออออออออออ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่รีวิวนิยายวายให้ในทวิตเตอร์นะคะ มีคนมารักพี่เล้งกับอีตัวดีเพิ่มหลายคนเลย
แก้มบุ๋มเกียมตัวกู๊ดบายเสตรทได้เลยยยย