LengZab
จงอางหวงไข่ 100%
ความสัมพันธ์ระหว่างเล้งกับย้งก็ยังคงดำเนินไปอย่างราบเรียบจากวันเป็นเดือน แต่เป็นความราบเรียบที่แสนพิเศษ ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเด็กทั้งสองคนยังคงเป็นเหมือนเช่นทุกวัน เหมือนตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา
เคยไปอ่อยพี่เล้งยังไงก็ยังคงหมั่นไปอ่อยอย่างนั้นเพราะย้งถือคติอ่อยวันละนิดจิตแจ่มใส จิตของมันนะ ไม่ใช่จิตของพี่เล้ง เพราะไปอ่อยทีไรก็โดนด่ากลับมาทุกที
ส่วนเล้งเองเคยด่าย้งยังไง ก็ยังคงด่าอยู่ไม่เคยเปลี่ยน
หากแต่พออยู่กันลำพังทั้งฝ่ามือและริมฝีปากก็ไม่เคยแยกจากกัน
จับมือกันแน่นขึ้นทุกวัน
จูบกันบ่อยขึ้นทุกวัน
แต่ก็แค่นั้น หลังจากได้รับไฟเขียวจากพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายเล้งก็ยิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น
เขาให้เกียรติย้งยี้มากขึ้นไม่เคยประพฤติจาบจ้วงให้ต้องเสื่อมเสีย
เคยดูแลยังไงก็ยังดูแลอยู่อย่างนั้น ขอกำลังใจในการเรียนและการทำงานด้วยจูบหวานๆพอให้ชื่นในหัวใจ แม้บ่อยครั้งอารมณ์จะพาเตลิดเปิดเปิงแต่เล้งก็หยุดมันไว้ได้ทุกครั้ง
เล้งได้แต่ภาวนาในใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันให้มันโตเร็วๆ โตเร็วกว่านี้หน่อย บ่อยครั้งที่เนื้อตัวนุ่มนิ่มทำเอาเขาสติหลุดไป มันยากเหลือเกินที่จะไม่ให้คิดชั่วยามร่างนุ่มบดเบียดออดอ้อนขอให้พาไปนู่นไปนี่ ทั้งนุ่มทั้งหอม
อีย้งมันไม่เคยรู้หรอกว่าอยู่กับมันเขาต้องอดทนอดกลั้นมากแค่ไหน ยิ่งนานวันความต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นผู้หญิงของมันยิ่งเข้มข้นความคิดเรื่องศัลยกรรมเริ่มเข้ามาในหัวของมันมากขึ้นทุกที
“พี่เล้ง พี่เล้งว่าย้งไปทำจมูกเพิ่มดีมั้ย?”อีตัวขาวที่นั่งไถโทรศัพท์มาพักใหญ่ๆเอ่ยถาม เล้งที่กำลังคุยไลน์กับเฮียเล่ยเจ๊ลี่อยู่บนเตียงถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง มันพิมพ์อะไรลงไปอีกเล็กน้อยก็โยนโทรศัพท์ทิ้ง
“จะทำไปทำไม จมูกมึงก็สวยอยู่แล้ว”
“ย้งว่าทรงมันยังไม่สวย ย้งอยากให้มันเป็นรูปหยดน้ำมากกว่านี้”มันว่าพลางใช้ปลายนิ้วลูบตามสันจมูก
“อย่างมึงถ้าจะทำคงต้องเย็บปีกจมูก”เล้งว่าอย่างไม่สนใจว่าอีตัวดีจะทำหน้าคว่ำใส่เขา
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง หาว่าย้งจมูกบานเหรอ”
“กูได้พูดที่ไหนมึงพูดเองนะ”เล้งกวนตีนกลับยิ่งทำให้อีตัวดีอมลมจนแก้มพอง
ถามว่างอนแล้วพี่เล้งง้อมั้ย...ก็ไม่ พอคิดได้เช่นนั้นมันก็ก้มหน้าก้มตาคุยกับอันอันอีกรอบ เล้งก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดอ่านอีกหน คิ้วเข้มขมวดแล้วคลายหลายครั้งพิมพ์รัวยิกเข้าไปในไลน์ครอบครัว ไม่นานอีตัวดีมันก็หันกลับมาอีกแล้ว
“พี่เล้ง”
“ไร?”เล้งตอบรับตายังอ่านไลน์พี่ๆอยู่ไม่ได้หันมามองอีตัวดี
“ย้งไปทำนมดีมั้ย?”มันถามพร้อมกับดันนมน้อยๆของตัวเองไปมา หน้าตาท่าทางไม่พอใจกับนมที่ตัวเองมีซักเท่าไหร่?
“ทำๆไม?”เล้งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็มันเล็ก ใส่เสื้อผ้าไม่สวย”
“ไม่ต้องทำหรอก มึงใส่อะไรก็สวยทั้งนั้นแหละ”เล้งตอบโดยไม่ได้มองหน้าอีย้ง
ใครจะไปทนมองหน้ามันตอนนี้ได้ล่ะ อ้าปากค้างทำตาโต น่าฟัดชิบหาย แต่อีย้งเหมือนจะไม่ให้เขาได้พักหัวใจนาน มันเดินมาหยุดที่ปลายเตียงแล้วค่อยๆคลานคร่อมตัวเขายื่นหน้ามาถามอย่างเอาแต่ใจ
“ที่พูดเมื่อกี๊อ่ะ พูดจริงหรือเปล่า?”แก้มฟูๆ ปากแดงๆงุ้ยๆนั่นห่างแค่คืบ ตากลมๆเหมือนลูกกวางคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้
ไม่ระวังตัวเอาเสียเลย
“เป็นสาวเป็นนาง ริอาจมาคร่อมผู้ชาย นังแรด”เล้งประคองเอวเล็กไว้จ้องหน้าอีตัวดีด้วยสีหน้ายิ้มๆ สายตาของมันหลุบมองต่ำลงไปจากหน้าของย้งยี้ เพราะใส่เสื้อยืดคอกว้าง ยามที่ย้งยี้ก้มคอเสื้อก็ต่ำห้อยลงจนเห็นเนินอกตุ่ยๆที่มีจุกสีชมพูอมสมซ่อนแอบอยู่ในนั้น
“ใครบอกว่านมมึงแบน? เนี่ย มีเนื้อมีหนัง จับก็นุ่มมือดี”เล้งไม่พูดเปล่า เขาล้วงมือเข้าไปในชายเสื้อของย้งกอบกุมเนินเนื้อเนินเล็กนั้นแล้วออกแรงบีบเบาๆแต่ความรู้สึกที่แล่นผ่านผิวกายและสัมผัสจาบจ้วงนั่นกลับทำให้ย้งยี้กระเด้งตัวขึ้นยืดกายสูงกัดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเอง เป็นภาพที่ทำให้เล้งแทบอยากจะจับมันขยำขยี้ให้หนำใจยิ่งตอนนี้ท่านั่งของมันช่างหมิ่นเหม่กับการเสียศีลธรรมที่ตั้งไว้ยามเด้งตัวสะโพกก็บดเบียดกับหน้าท้องของเขา ดวงตากลมฉ่ำหวานชวนมองจ้องเขาอย่างคาดโทษ
“พี่เล้งแกล้งย้ง”มันฟาดฝ่ามือลงบนแผงอกแน่นๆของเล้ง แก้มมันแดงแปร๊ดจนน่าฝังจมูกลงไปแรงๆฟัดให้ช้ำแล้วร้องไห้กลับบ้านไป
“ก็มึงมันยั่ว”เล้งบีบเอวย้งเบาๆอย่างมันเขี้ยว อีตัวดีบึนปากใส่ส่งค้อนตาเขียวใส่เขา
น่ากลัวชิบหาย
น่ากลัวว่าจะอดใจไม่ไหวจับมันฟัดจนจมเตียงนี่แหละ
“ย้งเปล่ายั่ว”
“ไม่ยั่วแล้วคลานมาคร่อมกูทำไม?”
“ก็ย้งอยากฟังคำตอบของพี่เล้งชัดๆ”มันว่าพลางยู่ปาก
มันก็อยากมีนมใหญ่ๆเวลาใส่เสื้อสายเดี่ยวหรือชุดผู้หญิงจะได้โชว์เนินอกแบบคนอื่นเขามั่ง ทุกวันนี้ย้งได้แต่แปะซิลิโคน
“จะมีนมใหญ่ไปทำไม เป็นมึงตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“ก็ย้งอยากสวย”
“แต่กูกลัวมึงเจ็บ มันอันตรายไม่เห็นข่าวเหรอกี่คนแล้วที่ไปทำศัลยกรรมแล้วนมเน่าอ่ะ เล็กๆแบบนี้ก็ดีแล้วใหญ่ไปไม่สวยหรอก”เล้งเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าปรกตาของย้งยี้แล้วทัดหูให้มันอย่างอ่อนโยน ดวงตาเหมือนนักล่าเมื่อครู่จางหายไป ราวกับควันไฟที่ถูกลมพัดมาแล้วก็จางหายในเวลาอันรวดเร็วเหลือเพียงสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูน้องน้อยบนหน้าท้อง
“ตอนนี้ยังไม่ให้ทำหรอกนะ แต่ถ้าโตไปยังอยากสวยอยู่ก็จะพาไปเอง”เล้งบอกกับมันด้วยเสียงนุ่มๆ ดวงตาที่มองมาที่ย้งยี้ช่างมั่นคงและชัดเจนไม่มีแววล้อเล่นหรือพูดไปส่งเดช
“สัญญา?”มันยื่นนิ้วก้อยไปกระดิกยุกยิกตรงหน้าเล้ง เล้งยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกันพร้อมแปะโป้งเพื่อผนึกคำมั่นสัญญาที่มีให้กับย้ง
“สัญญา”
หลังจากปิดอู่ในตอนเย็นเล้งก็พาย้งยี้กลับมาส่งที่บ้าน ย้งยี้เลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นใครบางคนนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวในบ้าน ด้านหน้ามีรถยนต์คันสวยจอดอยู่ ย้งยี้ไม่รู้ว่าเป็นรถใคร แต่คนที่นั่งเต๊ะท่าหล่ออยู่นั่นน่ะจำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อีตัวดีลงจากท้ายรถของเล้งแล้วแหกปากดังลั่นจนคนด้านในหันมามอง
“เฮียยี่!!!!”มันวิ่งปรู้ดเข้าไปหาพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือนด้วยความคิดถึง จิวยี่ทำหน้าเหม็นเบื่อแต่ก็อ้าแขนรับร่างบอบบางของน้องไว้ในอ้อมกอดทันทีที่อีตัวดีมันพุ่งเข้าใส่
“เฮียยี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่โทรบอกย้งคิดถึงเฮียยี่ที่สุดเลย”
“เซอร์ไพร์ทไงอีโง่ แล้วนี่มันยังไงไปขลุกบ้านผัวทั้งวันบ้านช่องกลับมาซะมืดค่ำ แรดเหรอเรา”จิวยี่เขกหัวน้องไปเบาๆก่อนจะพยักหน้าทักทายเล้ง
“ไงมึง เอาน้องกูมาส่งซะมืดเลยนะ”
“ไม่ใช่ความผิดกู น้องมึงหลับเพิ่งตื่น”เล้งโบ้ยความผิดไปให้อีตัวดีที่หลังจากนอนกลิ้งเล่นได้ซักพักก็หลับไปเสียดื้อๆ เล้งจึงปล่อยให้มันนอนแล้วตัวเองลงมาซ่อมรถต่อ เพิ่งได้ปลุกให้มันตื่นแล้วพามาส่งบ้านก็เย็นจวนมืดแล้ว
“แล้วนี่มึงปิดเทอมแล้วเหรอ?”
“เออ สอบตัวสุดท้ายก็มาเลย”
“แล้วเฮียยี่มายังไงอ่ะ ทำไมไม่โทรมาบอกจะได้ไปรับ”
“ขับรถมาเอง”มันพูดพร้อมบุ้ยปากไปที่รถยนต์คันหรูหน้าบ้าน ย้งหันไปมองรถแล้วหันกลับมามองจิวยี่อย่างแปลกใจ
“รถใครอ่ะ?”ยังไม่ทันที่จิวยี่จะตอบคำถามของย้งยี้ หม่าม้าก็ยกอาหารออกมาจากในครัว จะไม่สะดุดตาเลยซักนิดถ้าไม่มีหญิงสาวหน้าตาสวยหวานคนหนึ่งถือถาดอาหารตามออกมาด้วยอีกคน
เกิดคำถามส่งผ่านออกมาจากสายตาของย้งยี้ ใบหน้าหวานงอง้ำลงอย่างไม่เป็นมิตร
“อ้าวย้งกลับมาแล้วเหรอลูก ดีเลยหม่าม้าว่าจะให้จิวยี่ไปรับที่บ้านเล้งพอดี”พรรณีวางจานอาหารที่มีแต่ของดีๆแพงๆลงบนโต๊ะ
“เล้งอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะลูก”หล่อนร้องบอกว่าที่ลูกเขยเหมือนเช่นทุกครั้งที่เล้งมาบ้าน
“ยี่ นี่น้องย้งใช่ป่าว? เหมือนกันยังกับแฝดจริงๆด้วย”หญิงสาวแปลกหน้าเอ่ยถามจิวยี่ด้วยสีหน้าระบายรอยยิ้มสดใส เล้งเห็นอีตัวดีทำปากคว่ำคิ้วขมวดเหมือนยามที่มันไม่ชอบใจอะไรซักอย่าง
“ใช่ นี่น้องยี่เอง ย้งนี่พี่ออนนะเป็นแฟนเฮียเอง”ย้งยี้มองหน้าพี่ชายสลับกับผู้หญิงที่ชื่อพี่ออน ในใจของมันรู้สึกหวิวๆ
“สวัสดีค่ะน้องย้ง พี่ชื่อพี่ออนนะคะ”หญิงสาวเอ่ยทักทายย้งยี้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไพเราะเผื่อแผ่มาที่เล้งด้วยอีกคน
“สวัสดีค่ะ เล้งเพื่อนสนิทยี่ใช่มั้ยคะ ยี่พูดถึงให้ฟังบ่อยมากๆเลยค่ะได้เจอตัวจริงซักที”
“สวัสดีครับ”เล้งตอบรับคำทักทายอย่างมีมารยาท ย้งยี้ลุกพรึ่บขึ้นทันทีหันไปพูดกับพรรณีโดยไม่มองณอรเลยซักนิด
“หม่าม้า ย้งไม่กินข้าวนะ”
“ย้ง ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ”จิวยี่เอ่ยดุน้องเล็กที่นอกจากไม่ทักทายแฟนของเขาแล้วยังจะไม่ยอมกินข้าวด้วย
“มาคุยกันหน่อย”มันคว้ามือน้องแล้วดึงขึ้นห้องโดยที่เล้งก็เดินตามขึ้นมาติดๆ จิวยี่ไม่ได้เอ่ยปากห้ามเพราะเขาคิดว่าถ้าเกิดย้งยี้แผลงฤทธิ์ดื้อขึ้นมาก็ยังมีเล้งที่ปราบนังตัวดีได้
“ทำไมทำตัวไม่น่ารัก”จิวยี่เอ่ยถามน้องด้วยน้ำเสียงเรียบตึง ย้งยี้หันหน้าหนีไปอีกทาง
ไม่อยากคุยกับเฮียยี่แล้ว มันทำเสียง หึ ในลำคอ แสดงอาการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด
“เฮียไม่อยู่ด้วยแค่ปีสองปีย้งยี้ดื้อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่น่ารักเลยนะ”มันเอ่ยว่าน้องน้อยที่ทำท่าน่าจับตีให้ตูดแดงแบบตอนเด็กๆ
“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารักสิ ตัวมีแฟนทำไมไม่บอก”มันหันหลังให้จิวยี่ นั่นยิ่งทำให้พี่ชายหงุดหงิด
“อย่ามาหันหลังให้เฮียนะ ทำแบบนี้เฮียไม่ชอบ ที่ยังไม่บอกก็เพราะอยากพามาให้เจอตัวเลยยังไง ออนเค้านิสัยดีนะ ทำไมไม่ลองคุยกับเขาก่อน ทำแบบนี้ใส่เขาจะรู้สึกยังไง”
“ยี่ มึงใจเย็นสิวะ”เล้งจับไหล่จิวยี่ไว้ไม่ให้ดุย้งยี้มากไปกว่านี้ อีตัวดีหันมาหาเล้ง สีหน้าของมันไม่ดีเลย
เล้งรู้ดีว่าย้งยี้หวงจิวยี่ มันหวงพี่ชายอย่างกับอะไรดี สมัยที่ยังเรียนอยู่ที่นี่ย้งยี้คือไม้กันหมาตัวฉกาจที่คอยไล่พวกผู้หญิงที่มาติดพันจิวยี่
จิวยี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ มันมองน้องเล็กที่หลบหลังเล้งอย่างพยายามใจเย็นที่สุด
“รู้มั้ย ตอนที่เฮียรถล้มก็ได้ออนคอยช่วยดูแล ถ้าไม่ได้เขาเฮียก็คงจะแย่”จิวยี่เริ่มใช้น้ำเสียงที่อ่อนลงโดยที่เล้งจับอีตัวดีให้กลับมายืนด้านหน้า มันจับไหล่เล็กไว้อย่างปลอบใจ
“ตอนนั้นแขนเฮียก็เจ็บ รายงานต้องทำอีกบานเบอะถ้าไม่ได้ออนคอยช่วยเฮียคงแย่ ออนไปคอยเฝ้าผลัดเปลี่ยนกับหม่าม้าตลอดสองอาทิตย์ ถ้าไม่ได้ออนหม่าม้าก็คงต้องปิดร้านยาว ตอนเฮียลำบากเฮียก็มีแค่เค้าที่คอยดูแล แบบนี้ย้งยี้ว่าเฮียควรรักเขามั้ย?”
“แต่เฮียไม่บอกหนู ทำไมไม่บอกว่าจะมีแฟน ไหนสัญญาว่าจะไม่มีแฟนไง ไหนสัญญาว่าจะรักย้งที่สุด”มันเถียงอย่างเอาแต่ใจ ดวงตากลมวาววับด้วยหยาดน้ำตาแต่มันก็พยายามฮึบไว้
หวง...
มันก็มีพี่ชายอยู่แค่คนเดียว มันก็เหลือจิวยี่เป็นที่พึ่งเป็นเสาหลัก เคยมีกันแค่สองคนพี่น้องต่อให้จิวยี่จะชอบด่ามันแต่อย่างน้อยจิวยี่ก็รักมันที่สุด
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว...
ความรักที่มันเคยได้รับเต็มๆกลับถูกแบ่งไปอย่างหน้าไม่อาย
ย้งยี้เป็นเด็กโลภ อยากได้ความรักนั้นไว้คนเดียวไม่แบ่งใคร
ไม่ว่าจะเป็นความรักจากหม่าม้า ความรักจากพี่เล้ง และรวมถึงความรักของจิวยี่
“ย้ง...”เล้งที่จับไหล่มันอยู่ดันให้มันหันหน้ามาหาตน มือหนาเชยคางที่อีตัวดีมันกดจนแทบจะจมอกตัวเองให้แหงนขึ้นสบตากับมัน
“ตอนนี้เป็นแฟนเฮียแล้วมึงรักไอ้ยี่น้อยลงกว่าเดิมมั้ย?”อีตัวดีส่ายหน้าพรืด
“ป่าวซักหน่อย ย้งจะไปรักเฮียยี่น้อยลงได้ยังไง"
“แล้วเป็นแฟนเฮียมีความสุขมั้ย?”คราวนี้อีตัวดีพยักหน้ารับ
“มีสิ ย้งมีความสุข มีความสุขมากๆ”
“แล้วถ้าไอ้ยี่บังคับให้เราเลิกกันล่ะ”คราวนี้อีตัวดีถึงกับผวากอดเล้งไว้อย่างหวงแหนบ่อน้ำตาแตกทันที
“ไม่เลิกนะ ห้ามเลิก”
“จิวยี่มันมีแฟนมันก็ไม่ได้รักมึงน้อยลงไปซักหน่อย แถมที่เราคบกันได้ส่วนหนึ่งก็เพราะมันช่วยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตอนนี้มันมีคนให้รักให้รู้สึกดี มีคนที่มาทำให้มันมีความสุขได้มึงถึงไม่ดีใจล่ะ มึงบ่นอยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอว่าเป็นห่วงไอ้ยี่ว่าอยู่ทางนู้จะมีคนคอยดูแลยามป่วยไข้มั้ย มันก็มีแล้วไง แทนที่จะทำปั้นปึงใส่เค้าทำไมไม่ผูกมิตรกันไว้จะได้ช่วยฝากฝังให้เขาช่วยดูแลพี่มึง อีกอย่างมันคบกับคนนี้แปลว่ามันจะเลิกมั่วเลิกเที่ยวแบบที่มึงไม่ชอบไม่ดีหรอกเหรอ มึงโตแล้วนะย้ง มีเหตุผลได้แล้ว ลงไปข้างล่างไปขอโทษเค้าที่ทำกริยาไม่ดีใส่แล้วคุยกับเขาดีๆโอเคมั้ย?”เล้งดันตัวย้งออกห่างใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำหูน้ำตาของอีตัวดีให้อย่างเอ็นดู ย้งยี้สูดน้ำมูกหันไปหาพี่ชายที่ยืนกอดอกดูเล้งพูดกับน้องตัวเองอยู่อย่างเงียบๆ
“รักใครมากกว่ากัน?”มันเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ จิวยี่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ย้งกับพี่คนนั้นรักใครมากกว่ากัน ถ้าต้องเลือกจะเลือกใคร?”คราวนี้จิวยี่เข้าใจประโยคคำถามนั้น มันเดินมาหยุดข้างหน้าน้องก่อนจะวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่มของน้องเบาๆ
“เลือกมึง”น้ำเสียงหนักแน่นเอ่ยตอบน้องโดยไม่ลังเล
“เลือกมึงร้อยเปอร์เซ็นต์”
ไม่จำเป็นต้องเลือกเลย ถ้ามีเหตุให้ต้องเลือกเขายอมทิ้งผู้หญิงทั้งโลกเพื่อเลือกน้องอยู่แล้ว
และเหมือนคำตอบนั้นจะเป็นที่พึงพอใจของคนถามอยู่ไม่น้อย รอยยิ้มเล็กๆจึงถูกจุดที่มุมปาก
ใครๆทั่วทั้งตลาดสายหยุดต่างก็รู้ดีว่าย้งยี้น่ะหวงพี่ชายยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ จิวยี่ก็เพิ่งเห็นอิทธิฤทธิ์เต็มๆเป็นบุญตาก็วันนี้แหละ
......................................
อยากเปลี่ยนชื่อเป็นณอร อยากเป็นเมียเฮียยี่
#พี่เล้งแซ่บมาก
ขอบคุณทุกความห่วงใยนะคะ ตอนนี้หลังก็ยังเดี้ยงเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือตะคริวที่ขากับท้องสลับกันเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยค่ะได้ร้องไห้ทุกวัน 55555
คนเขียนป่วยเป็น S.L.E ค่ะ แล้วลงไต ก็จะสามวันดีสี่วันไข้ หน้าร้อนนี่ก็จะวัดใจจะอยู่หรือจะตายทุกปีค่ะ ชินแล้ว